เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย wanwi, 11 ตุลาคม 2016.

  1. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,605
    ค่าพลัง:
    +21,836
    ท่านวันวิ ของผมองค์นี้ก็สวยพอสมควรครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_0025.jpeg
      IMG_0025.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      296.7 KB
      เปิดดู:
      41
    • IMG_0022.jpeg
      IMG_0022.jpeg
      ขนาดไฟล์:
      346.3 KB
      เปิดดู:
      44
  2. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,605
    ค่าพลัง:
    +21,836
    ผมให้น้องชายเอาสมเด็จหลายองค์ไปให้เซียนดู เขาบอกแท้แต่ของหลวงวิจารณ์ เขาไม่นิยมเล่นกันครับ..ฮาๆๆ
     
  3. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    ใช่ครับน้องภาส เด็กบอกผมตอนกำลังเขียน ก็จึงขยักเรื่องไว้หน่อย มาเขียนต่อให้จบวันนี้ จะได้เข้ากับชื่อเรื่ยง ทันสมัยซะไม่มี

    อย่างไรก็ต้องขอบคุณที่ทักเข้ามา วันนี้ "วันครู" หลังจากผ่าน "วันเด็ก" มาไม่กี่วัน ทั้งเด็กกับครูเป็นเรื่องเชื่อมโยงกัน

    ผู้ที่ย้งมีคุณครูให้รำลึกถึงพระคุณที่ท่านเคยพร่ำสอน ก็ถือว่ายังมีโชคดี ได้ไหว้ สักการะตอบแทนพระคุณท่านกลับคืน แม้จะเล็กๆน้อยๆในสายตาของคนบางคนที่จิตใจต่ำช้า ก็ปล่อยสัมภเวสีพวกนี้ไป มันเติบโตมีวุฒิภาวะเพียงพอเมื่อไหร่ ก็จะรู้ซึ้งถึงคำว่า "ครู"

    อีกสักพัก พบก้บ "พรุ่งนี้หวยออก" ขอให้ผู้อ่าน รวย รวย มึโชคดี โชคลาภทุกท่าน!!!
     
  4. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    เช้านี้บุญใส่บาตรอัดเต็มที่ด้วยพลังเทอร์โบ ร่วมอนุโมทนากันให้สะใจ สบอารมณ์คนชอบทำบุญและไม่พลาดพลังอนุโมทนา
     
  5. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    น้องโต้ดเพิ่งมีจังหวะเข้ามาทัก หลังปีใหม่ล่วงมาครึ่งเดือนพอดี แต่ก็เขียนมายาว แถมเรื่องไอ้กระโถนสำรากธรรมมาด้วย ซึ่งล้วนเป็นเรื่องจริงที่ตั้งข้อสังเกตมา

    แต่ก็อย่าเป็นห่วง เพราะ "ของปลอมทำเหมือน" มันก็คือของปลอม ไม่ช้าหน้ากากมันก็ถูกกระชากออกมา เผลอๆคุกตารางมาเยือนเพราะอหังการก้าวร้าว ทำยังกับว่าเหาะเหินเดินอากาศเหนือมนุษย์เหนือผู้คน

    อย่างเช่นอ้างพระพุทธเจ้าเป็นแบ็ค หรือการอวดยะโสโอหังว่า พูดจาหยาบคายคนทนฟังไม่ได้... ไอ้คุณมึงคนฟังเป็นผู้ดีมาจาก "วัง" ไหน???

    แต่ละ "ตรรกะ" ที่มันบังอาจยกมาเทียบเคียงเข้าข้างตนเอง ล้วนแล้วแต่สถุนไร้สกุลรุนชาติทั้งสิ้น เป็นการยกตนข่มท่าน อย่างไม่มี "กาละเทศะ" ปราศจาก "วุฒิภาวะ" ของความเป็นมนุษย์ที่อยู่ในสังคม

    มันแยกแยะเรื่อง "เบื้อง
    ต่ำ-เบื้องสูง" ยังไม่เป็น คนเช่นนี้เห็นชัดเลยว่า ในหัวสมองของมันอุดมด้วยความคิดเส็งเคร็ง ในหัวจิตหัวใจไร้ซึ่งคุณธรรมหรือพระธรรม...

    เรื่องธรรมะมันแค่ติดอยู่กับปลายลิ้นที่พ่นน้ำลายเน่าไปวันๆเท่านั้น!!!

    คนมีธรรมะจริง จะไม่บังอาจเทียบเคียง "ตู่พระพุทธองค์" ขนาดนั้นเป็นอันขาด การกล่าวตู่ระดับนั้น เป็นเช่นการตีตนเสมอเทียมเท่าพระพุทธองค์

    หรือการแดกดันว่า คนฟังรับคำหยาบไม่ได้ เป็นผู้ดีมาจากวังไหน ก็เช่นกัน!!!

    เป็นการยกตนส่อเสียดที่ไร้วุฒิภาวะ เป็นไอ้สถุนต่ำช้า เป็นสัญลักษณ์ของพวกกราบหินทะลทราย ที่ชอบเปรียบเทียบแดกดันคนถือศาสนาอื่นแบบนี้ ไปหาอ่านดูตรรกะของพวกนี้เถอะ ส่วนใหญ่เมื่อจนแต้ม จนมุมเถียงไม่ออกด้วยเหตุผล ก็จะใช้ตรรกะแถกแถแบบปัญญาอ่อน หน้าด้านๆ ไม่อายฟ้า อายดิน คล้ายคลึงกัน

    แล้วที่มันชอบคุยโวว่ามีคนฟังคนติดตามเป็นล้าน!

    ขอบอกว่ามากกว่าครึ่งเป็น "ขบวนการจัดตั้ง" ของพวกมัน ซึ่งเห็นว่าไอ้กระโถนตัวนี้ เริ่ม "จุดติด" ทำให้คนพุทธส่วนหนึ่งหลงผิด เห็น "กงจักรเป็นดอกบัว" สำเร็จ ก็จัดตั้งแห่กันเข้ามากดติดตาม แห่คอมเม้นท์คนที่เห็นต่างเห็นตรงข้าม ขย่มด่าว่าคนอื่นโดยอาศัยพวกมากลากไป

    ซึ่งคนฟังคนติดตามที่แท้จริง มาดูยอดวิวกระทู้นี้ก็ได้ 8 ปีที่ผ่านมา ยอดวิวใกล้ 17 ล้านเข้าไปแล้ว ถ้าจะคุยโม้กัน ใน "พลังจิต" นี้ก็ไม่แพ้ใครโดยเฉพาะไอ้กระโถนสถุน

    ท่านผู้อ่านบางคน จะเห็นว่า ผมใช้คำพูดค่อนข้างรุนแรงเมื่อเอ่ยถึงไอ้สถุนกระโถน...!!!

    ที่เป็นดังนี้เพราะ มันอยู่ในจำพวก "บัวใต้น้ำ" มันกักขฬะ หยาบคาย หน้าด้านยิ่งกว่าคอนกรีต ดังนั้นการเอ่ยถึงมัน จึงต้องใช้ภาษาในระนาบเดียวกับมัน

    พูดง่ายๆ ต้องลดตัวลงไปมี "ศีลเสมอมัน" จึงจะทำให้มันเจ็บปวด ถ้าได้เข้ามาเห็น ได้อ่าน

    ลำพังมัวใช้วาจาหน่อมแน้ม คุณ เธอ น้อง พี่ คุณผู้ดีแปดสาแหรก ไม่ทันกิน และไม่ทันใจ มีแต่จะทำให้มันขำขันฟันหัก น้ำลายท่วมกระโถนปลี้ๆเปล่าๆ

    เมื่อไหร่ มันปรับศีลขึ้นมาเป็นผู้เป็นคน ก็ค่อยใช้มธุรสวาจาสอนสั่งไปตามลำดับขั้น

    รบกับผีปิศาจสัมภเวสี ต้องใช้วิธี "ตาต่อตา ฟันต่อฟัน" ครับ ไอ้พวกนี้มันชอบใช้นัก ไม่เชื่อไปดู 3 จังหวัดภาคใต้ พูดดีกับมันรู้เรื่องที่ไหน...?

    อิสราเอลเขารู้ดี เขาจึงไม่เคยพูดดีด้วย แต่ใช้วิธี "เกลือจิ้มเกลือ-โหดตัดโหด" ตลอด...!

    ขอบคุณน้องโต้ด ผมล่อกลับเสียยาว คงพอมีสาระให้อ่าน แล้วอย่ากังวลเรื่องเด็กรุ่นหลังจะหลงผิดหลงเพ้อไปกับไอ้กระโถน

    วัยรุ่นยุคใหม่เปลี่ยนใจง่ายครับ เห็นลายไอ้กระโถนเต็มตัวเมื่อไหร่...มันก็คือ "พลุ" ที่ยิงขึ้นฟ้า อีกแผล็บก็ผล็อยร่วง สิ้นแสง
    หมดรัศมี ไร้ราคา!!!
     
  6. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    วัดเกษไชโย จากคนทางไกล ลัดข้ามขอบฟ้ามาโชว์ ดูทั้งเนื้อและพิมพ์ในเลี่ยมเก่า ก็เห็นว่าเข้าท่าดีทีเดียว เนื้อตระกูล "โซนกระดูก" เสียด้วย ความคมชัดของเส้นสายก็คม ลึกใช้ได้เลย ด้านหลังก็ดูดีมีสกุลครับ

    ใครจะว่ายังไงก็ช่าง พระอย่างนี้ต้องเก็บไว้ใช้บูชา หากเลี่ยมเปิดหน้าเปิดหลังแขวนใช้ถูกไอเหงื่อไอตัวพักเดียว เนื้อจะหนึกแกร่งมาก แต่จะต่างกับวัดระฆังที่ หนึกนุ่ม

    มีเสน่ห์คนละแบบ แล้วแต่จะรักชอบแบบไหน ขอบคุณคนทางไกลที่อุตสาหะ ทั้งพิมพ์และส่งรูปแบ่งปันกันชม
     
  7. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    เรื่องพระสมเดช...เอ้ย สมเด็จ เป็นหนึ่งใน "ปัญหาโลกแตก"ของคนเล่นพระ รักที่จะเล่นพระสมเด็จจึงต้องทำใจหนักแน่น และต้องอดทน รวมถึงมึ "ลูกบ้า" อย่างแรง

    แต่สมัยนี้ วิทยาศาสตร์กับเครื่องมือ เข้ามามีบทบาทตรวจสอบมากในวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะกับ "พระสมเด็จ" เป็นหลักใหญ่ ตามมาด้วยพระยอดนิยมอื่นๆ

    ทำให้พระสมเด็จเชิงวิทย์ฯ เกิดขึ้นมาหลายสำนัก ก็เป็นเรื่องดีสำหรับผู้เคารพนับถือท่านสมเด็จพระพุฒาจารย์โต พรหมรังสี และมักจะผิดหวัง เพราะเอาพระให้พวก "เสึ้ยน" ดูทีไร ร้อยทั้งร้อยได้คำตอบ...

    "ผิดเนื้อ-ผิดพิมพ์"!

    -- ปัจจุบันมี...มีคำถามว่า ผิดเนื้อตรงไหน?...อธิบายสิ!
    --ผิดพิมพ์อย่างไร? เอ็งเฉลยมาที!

    คำถามอย่างมีเหตุผลทำให้เสี้ยนต้องเบี่ยงประเด็นตอบอย่างที่คนทางไกลเล่ามา

    แต่ขอโทษทีตามประวัติของจริง..."หลวงวิจารณ์ฯ" เป็นหนึ่งในผู้แกะบล็อคแม่พิมพ์ถวายท่านสมเด็จฯ เรียกว่าบล็อควัง บล็อคปรับปรุง ง่ายๆคือแม่พิมพ์ที่พัฒนาแล้วสไตล์ช่างหลวง ช่างสิบหมู่ !!!

    ดังนั้นการบอกว่าพิมพ์หลวงวิจารณ์ฯไม่เล่นกัน เอ็งจะไปเล่นบล็อคนิทานนิยาย "บล็อค-ยายขำ" หรือ "บล็อคท่าพระจันทร์-ยุคแรก" รึไอ้พวกเสี้ยน?!?

    ยิ่งพระสมเด็จที่เล่นกันวันนี้ ลองรวบรวมของเซียนที่เคยซื้อ-ขาย และเอามาทำตำราทำหนังสือ จะเห็นว่า วัดระฆัง ไม่เกิน 2,000 องค์

    วัดบางขุนพรหม ไม่เกิน 2,500 องค์ตามตำราที่อ้างว่าบันทึกไว้เมื่อตอนเปิดกรุ เหลือพระดีแค่นั้น (เรื่องนี้ ไว้ค่อยเขียนสาธยาย สนุกเหมือนกัน)

    แต่ความจริงล่ะ...?!?

    ไม่มีทางที่ท่านสมเด็จโตจะสร้างพระสมเด็จหลักพัน ท่านต้องสร้างเท่า "พระธรรมขันธ์" คือ 84,000 องค์ ตามบันทึกที่เชื่อถือได้ว่า มี "แม่พิมพ์สมเด็จ " มากกว่า 160 พิมพ์...!?!

    ไม่ใช่ 4-5 พิมพ์ที่เอามาเล่นกันเพื่อทำราคาให้พระแพง บีบพระให้เหลือน้อย เล่นที่เสี้ยนกำหนด เล่นที่มันทำปีละ ไม่เกิน 3-5 องค์ ทยอยปล่อยออกมาในตลาดให้นักซื้อหน้าโง่

    ยิ่งในวาระต่างๆของวัง ของเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน สมเด็จโตฯก็สร้างถวายอีก บางทีเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน ก็ขอให้สร้างอีก ตามประเพณีคนไทย วันดี ฤกษ์ดีมีงาน...ต้องสร้างพระแจก สร้างเป็นวาระเพื่อจะได้ระลึกถึงวันมงคลนั้นด้วย โดยพระเถระผู้ใหญ่ในเวลานั้น !!!

    ดังประวัติบันทึกชัดเจนว่า พระสมเด็จวัดระฆังสร้างครั้งแรกเมื่อ " เจ้าชายเขมร" ที่ทางสยาม-กรุงรัตนโกสินทร์ชุบเลี้ยงไว้ ได้ฤกษ์กลับไปครองราชสมบัติทางเขมร ท่านก็ขอร้องสมเด็จโตฯสร้างพระสมเด็จให้เป็นที่ระลึกถึงพระคุณอาจารย์

    ***ตัวอย่างจำแนก แยกแยะประวัติศาสตร์ของจริงของแท้นี้ ทำให้เรารู้แน่ชัดว่า พระสมเด็จวัดระฆัง รวมๆแล้วต้องมีจำนวน "หลักแสนองค์" แน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง และมีเป็น "ร้อยพิมพ์" ตามบันทึกแน่นอน***

    เสี้ยนหรือเซียนจะล่นแค่ 4-5 พิมพ์ก็ปล่อยพวกมัน...เอ้ยพวกเขาเล่นกันไป โกหกพกลมกันไป แต่งนิยายที่ล้วนเกิดไม่ทัน มีแต่จินตนาการ มโนทิพย์เล่าต่อกันมา ไม่ต้องมีเอกสารหลักฐานอ้างอิง ก็ปล่อยว่ากันไป

    ส่วนคนมีพระสมเด็จ หากดูแล้วเนื้อใช่ ความเก่าถึง พิสูจน์ทราบได้ทางหลักวิทยาศาสตร์ดูบ้างก็ยิ่งดี

    เก็บไว้ใช้ เก็บไว้บูชาเถิดครับ เสี้ยนรุ่นเก่า ไดโนเสาร์ล้มหายตายจากหรือหนีหน้าไปเพราะขายของแพง ของเก๊ ถูกลูกค้าคืนของ

    อีกไม่นานพระสมเด็จที่มีเหตุมีผลในการเล่นหา ก็จะท่วมเมือง และเป็นของที่จับต้องได้เหมือนดังเจตนารมย์ของท่านสมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี รังสรรค์ไว้

    ท่านต้องการสร้างให้ผู้คนนำไปคุ้มครองตัวทั่วถึง ไม่ใช่ให้เสี้ยนเอาไปปลิ้นปล้อนหากินลวงโลก กันอยู่ไม่กี่คน!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 มกราคม 2025 at 14:21
  8. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    เลขจัดส่งวันนี้

    --ED 0334 1741 2 TH ราษฏร์บูรณะ
     
  9. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    เรื่องเล่าจากเรื่องจริง
    ~~~~~~~~~~~~~

    ■ พรุ่งนี้หวยออก ■
    ==============

    (จบ)..

    จักรยานน้อยลับตาไปแล้ว ผมกลับเข้าบ้าน แม่บ้านเดินออกมาถาม ซื้อสลากกินแบ่งอะไรตั้งนาน?

    ผมก็เล่าไปตามความจริง บริสุทธิ์ใจ ไม่มีอะไรต้องปิดบัง เธอไม่ว่ากระไร แต่ก็ตั้งข้อสังเกต

    "เล่าซะอยากเห็นหน้าแม่หนู พ่อไม่เคยชมใครแบบนี้"

    ถ้าเป็นอายุรุ่นๆ ผมคงโดนลมเพชรหึงเล่นงาน แต่เราอายุเลยหลักไมล์ที่หกกันมาแล้ว เรื่องหึงหวงบ้าบอคอแตก มีวัยวุฒิ แยกแยะกันเป็น

    วันรุ่งขึ้นเป็นวันทำงาน ผมกลับจากบริษัทหลัง 4 โมงเย็น คุณแม่บ้านร้องทัก ประโยคแรก

    "เป็นไง หวยคนสวยถูกบ้างมั้ย"?

    ผมดันลืม รีบควานหาสลากแล้วเปิดมือถือเช็ครางวัลที่เพิ่งออกหมาดๆ

    ลอตเตอรี่ที่เหมาส่งๆ ถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัว 2 ใบ ถูกเลขท้าย 2 ตัวอีก 2 ใบ

    แม่หนูคนสวยนำโชค คิดเป็นเงินก็หมื่นกว่าบาท บอกกับแม่บ้านว่า ตัดเป็นเงินรางวัลตามรับปากกับเธอ ช่วยงานแต่งสัก 2,000 เท่ากับรางวัลเลขท้าย2 ตัวหนึ่งใบ คุณแม่บ้านก็จำพวก ว่าไงว่าตามกัน แต่ยื่นมือคว้าสลากหมับ

    "เอามา แม่ไปขึ้นเงินเอง พ่อควักสองพันจ่ายเด็กตามคำพูดนะ"

    น่านไง คุณแม่บ้านสมองไว ไม่มีคำว่าเข้าเนื้อขาดทุน เป็นอย่างนี้ทุกบ้านหรือเปล่าหนอ???

    เรื่องแม่หนูคนสวยขายสลาก กับเรื่องโชคลาภก็ลอยลมผ่านพ้นไป วงจรชีวิตผมไม่มีอะไรผิดแผก มีแต่เมื่อใกล้วันสลากออกรางวัล ก็นึกขึ้นได้บ้างไม่ได้บ้างถึงแม่หนูตัวนำโชค

    บ่ายวันหยุด ผมนั่งๆนอนๆ เสียง กรุ๊งกริ๊ง...แว่วลอยลมฟังชัดมาแต่ไกล ผมรีบเปิดประตูเล็กออกไปเรียก ในกระเป๋ามีเงินรางวัลเตรียมให้เธอ

    คนขายไม่ใช่เธอซะนี่เป็นชายวัยกลางคน ที่เคยซื้อสลากกันมาบ้าง จอดจักรยานพรืดแล้วร้อง...พรุ่งนี้หวยออกครับ!

    ผมอุดหนุนพอเป็นพิธีไม่ให้น่าเกลียด 2 ใบ คันปากยิบๆอยากถามถึงแม่หนูคนสวย แต่ก็ยั้งเอาไว้ ประสาผู้ใหญ่อาบน้ำร้อนน้ำเย็น ผ่านมาหลายสิบฝน รู้อะไรควรไม่ควร

    หนึ่งเดือนผ่านไป สลากกินแบ่งออกรางวัลกินเรียบอีก 2 งวด ไม่มีวี่แววแม่หนูคนสวย ผมก็ลืมเธอไปตามเวลา เพราะแค่เจอกันหนเดียว ไม่มีความผูกพันทางใจมากมาย

    วันหยุดบ่ายแก่มาก ดวงตะวันเหนือขอบฟ้าขมุกขมอมของเมืองกรุง ดวงโตแดงก่ำไกลลิบอยู่ทางตะวันตกของบ้าน ผมรดน้ำต้นไม้หน้าบ้าน

    กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง...

    เอ๊ะ...เสียงลอตเตอรี่มาขายอะไรจวนค่ำมืด ผมเปิดประตูเล็กออกไป

    "อ้าว...หนูนี่เอง หายไปเป็นเดือน รอเดี๋ยวนะ"

    ผมจำได้แม่น ประหนึ่งว่าประพิมประพายรูปร่างเธอสลักลงในสมองแห่งความทรงจำทั้งที่เคยเจอหนเดียว อาจเป็นเรื่องของการถูกชะตา

    รีบเข้าบ้านไปหยิบกระเป๋าเงิน วันนี้แม่บ้านไปธุระกับเด็กๆ กลับค่ำ ผมอยู่ลำพัง

    "เอ้า รางวัล สลากของหนูถูกตั้ง 4 ใบแนะ"...ผมพูดอย่างยินดี ยื่นเ
    งินสองพันบาทให้เธอ

    เธอรับแล้วส่งคืนผม บอกเสียงแผ่วเบา..

    "ไม่เป็นไรค่ะ เป็นโชคของคุณลุง"

    น้ำเสียงเธอแปลก มันแปร่งแหบพร่าเหมือนคนเป็นหวัด และเยือกเย็น ไม่ใช่เสียงระฆังเงินอย่างครั้งแรก แต่ผมไม่ได้คิดอะไร ความดีใจที่ได้พบเธอทำให้ผมมองข้ามรายละเอียดเล็กๆน้อยๆในตอนนั้น

    ผมคะยั้นคะยอให้เธอรับเพราะเป็นความตั้งใจจริงๆ แต่เธอก็ไม่เอาท่าเดียว ส่ายหน้าโดยไม่พูดไม่จา ไม่ยื่นมือมารับ ไอ้ครั้นจะถือวิสาสะจับมือเธอยัดเงินใส่ ก็ทำไม่ได้ เธอเป็นผู้หญิงมันน่าเกลียด

    "งั้น อุดหนุนลอตเตอรี่ ไหนดูสิ มาเหมาให้หมด เหลือมากมั้ย"

    ผมก็พูดตามนิสัยตัวเองที่ไม่อยากผิดคำพูด ผิดคำสัญญา

    "พรุ่งนี้หวยออก"...!

    เธอว่าแล้ว เปิดแผงที่พับไว้ผัวะออกมา...อ้าว มีลอตเตอรี่เหลืออยู่เพียงคู่เดียว 2 ใบเท่านั้น!!!

    "โธ่ หนู"...ผมร้องอย่างไม่รู้จะพูดอะไรดี แต่ยังอดพูดกลั้วหัวเราะ...

    "อุตส่าห์เหลือรางวัลที่ 1 ให้ผมหรือนี่ เอาละถ้าถูกเราแบ่งคนละครึ่งไปเลย คนละ 6 ล้าน"

    ผมก็ว่าไปเรื่อยกะให้เธอหัวเราะ แต่เธอไม่รับมุข บอกกลับเสียงเย็นยะเยือกจริงจัง...

    "รางวัลที่1 ไม่มี เหลือแต่รางวัลนี้"!

    ผมหยิบสลากคู่นั้นขึ้นมา จำได้แม่นว่า เลขท้าย 485

    "โอเค อุดหนุนหนูให้หมดเหมือนเดิม นี่หนึ่งพันไม่ต้องทอนนะ"

    คราวนี้เธอยื่นมือรับไม่เกี่ยงงอน แล้วบอกลาผม

    "หนูจะกลับบ้าน อาจไม่เจอกันอีก"

    ผมจะว่าอะไรได้ นอกจากอำนวยพรให้เธอกลับบ้านเดินทางโชคดี เธอถีบจักรยานกลับอย่างเงียบกริบ แสงตะวันอันอ่อนล้าแดดผีตากผ้าอ้อมลำแสงสุดท้าย ส่องจับด้านหลังเธอเป็นเงาเรื่อราง

    ภาพสวยงาม บนความอ้างว้าง ว้าเหว่เหมือนฉากที่ผู้กำกับหนังจินตนาการ แล้วเธอก็ลับหายไปพร้อมกับที่สนธยาโรยความมืดลงสู่พื้นปฐพี

    สลากคู่นั้นถูกรางวัลเลขท้าย 3 ตัวในวันรุ่งขึ้น ทำให้ผมยิ่งมั่นใจว่า แม่หนูคนสวยเป็นตัวนำโชค เป็นเทพีแห่งโชคของผม

    ทุกวันใกล้จังหวะรัฐบาลออกตัวเลข ผมจะหาเหตุตั้งหน้าตั้งตารอเธอ จะแบ่งรางวัลให้หรือ "เหมาลอตเตอรี่" ที่เธอขายเหลือ

    ผ่านไปอีก 2 งวด หนึ่งเดือน ไร้วี่แวว ไม่เคยเห็นเธอแม้เงา กระทั่งวันหนึ่งอดรนทนไม่ไหว เมื่อคนขายผู้ชายที่เคยเล่าให้ผมฟังว่ามาจากจังหวัดเดียวกับแม่หนูคนสวย

    ผมเลียบเคียงถามไถ่ ไม่ให้น่าเกลียด...

    "เออ มีแม่หนูขายลอตเตอรี่มาจากบ้านเดียวกับน้องอยู่คน หมู่นี้ไม่รู้หายไปไหน ไม่เคยมาขายอีกเลย ประสบอุบัติเหตุหรือเปล่า"?

    ผมแสร้งพูดเรื่อยเปื่อย แต่คนขายผู้ชายขมวดคิ้วทวนความจำ..

    "เด็กผู้หญิงสวยๆใช่ไหมครับ"?

    ใช่เลย...ผมรีบพยักหน้ารับอย่างยินดีถามถูกตัว

    "เธอเสียแล้วครับ เป็นโควิดตอนกลับบ้านเมื่อ 2 เดือนก่อน ไปเยี่ยมแม่ เตรียมตัวแต่งงาน เธอชื่อ "ขวัญตา" ครับ"

    ผมตะลึงเหมือนโดนค้อนปอนด์ทุบเข้าหัว ร้องดัง "โอ๊ะ" แต่พอนึกได้รีบหุบปาก ตั้งสติถาม

    "เสียเมื่อไหร่นะ ว่าอีกทีสิ"

    "สองเดือนแล้วครับ" คนขายยืนยัน

    ผมนับวันเวลาในใจเร็วจี๋ อายุมากแต่สมองไม่เสื่อม 2 เดือนก็หมายถึง เธอเสียไปก่อนมาขายลอตเตอรี่ 2 ใบสุดท้ายให้ผม

    ไล่เรียงจนมั่นใจ ผมก็อุดหนุนลอตเตอรี่หลายใบเป็นสินน้ำใจ แล้วเดินใจลอยนั่งจุมปุ๊กอยู่กับโต๊ะในห้องทำงานที่บ้าน

    เรื่องมันลี้ลับเหนือคาดคิด เหนือโลกแห่งความเป็นจริง เกินกว่าจะเล่าให้ใครฟัง...!

    เธอ...ขวัญตา เสียชีวิตไปแล้ว ยังอุตส่าห์แวะมาลาผมด้วยลอตเตอรี่ 2 ใบสุดท้าย เราอาจเคยมีบุญสัมพันธ์กัน และเธออาจทราบว่า ผมรักษาสัญญาที่จะมอบรางวัลให้ จึงมาบอกไม่ให้ผมกังวลใจ

    อะไรก็ช่างเถอะ เธอมีพลังลึกลับมาทั้งตัวเป็นๆ ถีบจักรยาน มีลอตเตอรี่ถูกรางวัลมาให้

    ทุกอย่างเป็นเรื่องจริง รวมทั้งความตายของเธอก็จริง!!!

    ผมความรู้น้อยด้านนี้เสียจน ไม่ทราบจะบรรยายหรือเล่าด้วยเหตุผลอย่างไรเพิ่มเติม ได้แต่รีบทำบุญอุทิศให้เธออีกหลายครั้ง

    เมื่อวิญญาณเธอมีพลัง มีอำนาจขนาดกลับมาเยี่ยมผมได้ บุญที่ทำก็อาจช่วยหนุนส่งเธอมีตบะบารมียิ่งขึ้นเป็นนางฟ้า เทพธิดาเทวี มีความสุขบนสรวงสวรรค์

    พรุ่งนี้หวยออก...คุณๆมีเลขทีเด็ดแล้วหรือยัง???

    =======อวสาน=======
     
  10. daychar

    daychar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    748
    ค่าพลัง:
    +12,684
    ความลี้ลับในห้วงมหรรณพนี้เป็นสิ่งที่รู้ได้เฉพาะตน สัมผัสได้เมื่อใจอยู่ในสภาวะที่เหมาะสม ครบถ้วน เต็มบริบูรณ์
    ถักสร้อยไว้(แขวนเดี่ยว) 2 เส้น เส้นที่ 2 กำลังจะเสร็จ หากเสร็จแล้วจะส่งให้พี่วันมอบให้กับสมาชิก ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ครับ
    ...ฝันเกี่ยวกับพระสงฆ์ 2 ครั้ง น่าจะมี 8 ครับ
     
  11. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    เข้ามาก่อนมื้อเที่ยง ตอบขอบคุณน้องเดฯที่ถักสร้อยแขวนเดี่ยวมาให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับสมาชิก 2 ท่าน ของส่งมาถึงค่อยแจก แจก โดยไม่ต้องมีกติกา

    เป็นสร้อยที่เหมาะผู้แพ้โลหะหรือมึอายุสักหน่อย ไม่ต้องถึงวัยสว.ก็ใช้ได้ดีมาก รออีกสักพัก

    ลำดับต่อไป "ปลดจากสร้อย" ไม่มอบบูชา มอบแต่ความรู้ความบีนเทิงในการอ่านให้สมกับวันศุกร์-สุขี มีโชคตลอดวัน ส่วนฝันของน้องเดฯจะแม่นยำหรือไม่ 4 โมงเย็นรู้กัน

    วันนี้หวยออก ซื้อตอนนี้ยังพอทันฉิวเฉียดละจ้าาาา...!
     
  12. chaivat chinkidjakar

    chaivat chinkidjakar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 พฤศจิกายน 2008
    โพสต์:
    1,605
    ค่าพลัง:
    +21,836
    ผมเล่น 385 ครับ;):):p
     
  13. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    "ปลดจากสร้อย-แบ่งกันชม"
    ~~~~~~~~~~~~~~~

    ■ ยอดขุนพล"ศรีเทพ" ■
    ===============
    20250117_104927.jpg 20250117_105105.jpg 20250117_105138.jpg

    *** 'ศรีทวา.....ราวดี'
    เทพอิทธี.......ศักดิ์ศรีผล
    มนต์เมลือง...เมืองเริ่มต้น
    ปฐมชุมชน..คนไทยแท้

    --อารยธรรม..จำหลักเจิม
    --ศาสนเสริม..เพิ่มพลังแผ่
    --เก่าแก่กาล..สืบสานแซ่
    --ภาคภูมิแท้..แด่..'ศรีเทพ'!

    (((ขอบคุณภาพ+เรื่องราวบางส่วนจาก"ไทยรัฐ" และเพจท่องเที่ยว)))
    ~~~~~~~~~~~~~~~

    คนไทยไม่ได้มาจากไหน คนไทยอยู่ที่นี่...แผ่นดินสุวรรณภูมิยาวนานดีดักนักหนา ที่อพยพมาเพิ่มมาเติมมาเสริมก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของการเคลื่อนย้ายชุมชน ตามวิถีของมนุษย์ ซึ่งปัจจุบันนี้ก็เห็นกันทุกมุมโลก เมื่อเกิดสงคราม ทุกขภิบัติภัย โรคระบาด ภัยธรรมชาติฯลฯ

    เมืองโบราณศรีเทพ เป็นหลักฐานเก่าแก่ว่า แผ่นดินสุวรรณภูมิ ยุคทราวดีเริ่มต้นที่นี่ อาจขัดแย้งกับข้อมูลดั้งเดิมที่ว่า อยู่แถบ "นครปฐม" โดนเฉพาะการแผ่เข้ามาของ"ศาสนาพุทธ" ซึ่งแทนที่ศาสนาพราหมณ์

    จากหลักฐานการค้นคว้าก็ยืนยันว่า "เมืองโบราณศรีเทพ" มีความถึงยุคกว่า "นครปฐม" จริงๆ!

    จะอย่างไรก็ตาม ล้วนเป็น "แผ่นดินไทย" ที่เราควรภูมิใจและรักหวงแหนในยุคปัจจุบัน

    "ศรีเทพ" ได้รับการขึ้นทะบียนเป็นเมืองมรดกโลกจาก"ยูเนสโก" ล่าสุดของเมืองไทย เป็นแหล่งโบราณคดีประวัติศาสตร์ยิ่งใหญ่ ตั้งแต่พุทธศตวรรษที่ 8-18 เกือบ 2,000 ปีมาแล้ว

    เมืองโบราณแห่งนี้ เป็นตัวแทนวัฒนธรรมทวารวดีจากหลักฐานที่ค้นพบชัดเจน ว่าเป็นการตั้งถิ่นฐานที่อยู่อาศัยของคนตั้งแต่ก่อนประวัติศาสตร์ พัฒนาตนเองติดต่อกับสังคมภายนอก รับวัฒนธรรมทางศาสนาจากอินเดีย ในราวพุทธศตวรรษที่ 7-11 เซเว่นอีเลฟเว่น

    คนโบราณยุคนั้น เรียนรู้การขุดน้ำทำคันดิน ทำคูเมือง กำแพงเมืองพัฒนาต่อเนื่อง พบความปฏิสัมพันธ์ระหว่างวัฒนธรรมทวารวดีกับวัฒนธรรมอินเดีย รับศาสนาพุทธแบบเถรวาท มหายานร่วมกับศาสนาพราหมณ์

    "ศรีเทพ" ยิ่งใหญ่เจริญรุ่งเรืองถึง 800 ปีเศษ ก่อนที่วัฒนธรรมสุโขทัย กับ อยุธยา จะเติบโตขึ้นมาแทนที่ในบริเวณลุ่มน้ำป่าสัก และพัฒนาการต่อเนื่องมาตราบปัจจุบัน

    พบรูปเคารพเป็นหลักฐานยิ่งใหญ่ พระพุทธรูป พระนารายณ์ และศาสนสถาน ที่คงความครบถ้วนสมบูรณ์มากมาย

    มีโบราณสถานถ้ำเขาถมอรัตน์(อ่านว่า ทะ-มอ แปลว่าหิน) โบราณสถานเขาคลังนอกที่สมบูรณ์เพียบพร้อมไปด้วย ผนังถ้ำสลักภาพประติมากรรมนูนต่ำรูปพระพุทธรูปและพระโพธิสัตว์ 7 องค์ จัดอยู่ในหมวดทราวดีราวพุทธศตวรรษที่ 13-14 และอื่นแทบนับไม่ถ้วน ฯลฯ

    19 กันยายน 2566 เมืองโบราณศรีเทพ ได้รับการประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรมในการประชุมที่กรุงริยาด ซาอุดิอาระเบีย!!!

    ขอให้ข้อมูลพอคร่าวๆ ท่านผู้อ่านเพียงเขียน "ศรีเทพ เมืองมรดกโลก" กดใส่ "อากู๋" ความยิ่งใหญ่เหลือคณานับของ "ศรีเทพ" ก็จักเรียงรายพรืดขึ้นมาให้อ่านและรับรู้หูตาลาย แต่เป็นตาลายที่ภาคภูมิใจของมรดกไทย มรดกโลกที่บรรพชนได้รังสรรค์ไว้เป็นหน้าเป็นตาเป็นชื่อเสียง สมบัติของแผ่นดิน!

    หรือจะเดินทางไปเยี่ยมชม เมืองโบราณศรีเทพก็ไม่ไกลนัก เพียงแค่ อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่ควรมีเวลาเที่ยวดูทั้งวัน เพราะสถานที่สำคัญหลายแห่งและกว้างใหญ่มากสมกับเป็น "อาณาจักร" มิใช่ ชุมชนระดับเทศบาลหรืออบต.หน่อมแน้ม

    เมืองโบราณผูกพันกับศาสนสถานทั้งพุทธและพราหมณ์ ย่อมมี "กรุพระเครื่อง" สืบทอดพระศาสนาร่วมด้วย ศรีเทพก็ค้นพบกรุพระเก่าพระโบราณนอกเหนือจากพระพุทธรูป เทวรูปองค์ใหญ่ไม่น้อย

    ขอนำ "ยอดขุนพลศรีเทพ" ให้ชมเพลินตา จะแตกกรุมาปีพ.ศ.ใด ก็อย่ารู้เลย...

    ดู "ภาพเล่าเรื่อง" จากการปลดจากสร้อยที่แขวนเดี่ยวมาในวันนี้
    20250117_103357.jpg
    ยอดขุนพลศิลปทราวดี แกะสลักหรือพิมพ์ด้วยหินแลง(ศิลาแลง) อย่างงดงามอร่ามเรือง

    คนโบราณเมื่อได้ก็นำท่านปิดทอง และเลี่ยมเก่าอายุไม่ต่ำกว่า 40 ปี เสี้ยนพระที่มีชื่อเสียงบางคนในสมัยนี้ ยังไม่เกิดด้วยซ้ำ

    รวมทั้ง "ไอ้กระโถน" ที่อวดรู้พ่นน้ำลายเน่าหากินกับธรรมะพระพุทธองค์ ด้อยค่าวัฒนธรรมคนโบราณสารพัด หารู้ไม่ว่า มันนั้นแค่ทียบกับ "เศษธุลี" แห่งองค์ความรู้บนแผ่นดินนี้ ยังเทียบไม่ได้เลย!!!

    แล้วก็ดูศิลปองค์ท่านให้ดี จะเห็นความเหมือนในความต่าง...

    นี่คือ...องค์ราชันย์เมืองใต้ จตุคามรามเทพ ชัดๆ!!!

    ใครลอกใครระหว่าง อาณาจักรศรีเทพ กับ อาณาจักรตามพรลิงค์-นครศรีธรรมราช ซึ่งห่างไกลกันสุดกู่แทบจะเรียกได้ว่า "ขอบฟ้าเขาเขียว" มาพ้องเหมือนกันได้อย่างไร???

    มอบหน้าที่ให้นักโบราณคดีระดับบรมครูวินิจฉัยละกัน
    เรามันนักโบราณงูๆปลาๆ รู้มากปวดหัว ชมภาพชมความน่าทึ่งกันต่อ
    20250117_103410.jpg

    เบื้องหลังองค์ท่านที่ปิดทองโบราณเหมือนด้านหน้า จะเห็นกายภาพเค้าโครงว่า ถอดแบบเหมือนใบเสมา ทำให้รู้ชัดว่า องค์พระด้านหน้านั้นเป็น "พระโพธิสัตว์ของพุทธ" ไม่ใช่องค์เทพของพราหมณ์

    มีเม็ดคล้าย "เหล็กไหล" เม็ดไม่เล็กบรรจุอยู่ด้านบนขวามือเรา อาจเป็น "อุลกมณี" หรือ "สะเก็ดดาว" ที่คนโบราณฝังลงไป พบบ่อยในพระเครื่องวัตถุโบราณ

    ขนาดของท่านดูว่าค่อนข้างเขื่อง แต่องค์จริงน้ำหนักเบา ไม่หนักคอ เพราะอายุไม่ต่ำกว่า 800 ปี มวลน้ำ น้ำหนักของมวลสสารด้านในระเหิดระเหยไปหมดสิ้นนานแล้ว
    20250117_103305.jpg 20250117_103431.jpg
    เลี่ยมโบราณของแทร่
    มีเจาะรูระบายอากาศ
    แกะเลี่ยมพระไม่ระเบิด
    ชมด้านข้างผ่านเลี่ยม

    นี่แหละครับ "ยอดขุนพลศรีเทพ" องค์แทนอารยธรรมโบราณที่สุดแสนหาชมยาก นอกจากนักสะสมรุ่นเก่าหรือมรดกตกทอดจริงๆ

    เช่นเคยอาราธนาบารมีองค์พระโพธิสัตว์ผู้ทรงความเมตตายิ่งใหญ่ ประสิทธิ์ประสาทพร แด่สมาชิกและผู้อ่านทุกท่าน จง ประสบโชคลาภ โชคดีในวันนี้ทั่วถ้วนหน้าครับ!!!
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 มกราคม 2025 at 12:29
  14. wanwi

    wanwi ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2016
    โพสต์:
    42,286
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +1,080,923
    ดีครับ จะเป็นเลขอะไร ก็ขอให้โดน ขอให้ได้ สำหรับสมาชิกของเราทุกท่าน
     

แชร์หน้านี้

Loading...