เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

หลวงตาส่งภาพมาให้แล้วนะคะพิธีสวดตามที่หลวงตาได้บอกบุญ มุขอสอนเสร็จจะมาส่งภาพให้เพื่อน ๆ ดูกันนะคะ วันนี้มุสอนเสร็จตอนค่ำ หมายเหตุ คนมักถามว่าไม่หยุดเหรอ สอนสมทบ นักศึกษาจะทำงานในวันธรรมดา ดังนั้นวันหยุดก็ยังมีการเรียนการสอน ภายในเดือนครึ่งเด็กต้องสอบปลายภาค มุผู้สอน กรอกตามองบน เอาล่ะช่วยเด็ก วันนี้มุขออนุญาตล่องหนเตรียมสอนก่อนนะคะ

 

ช่วงก่อนเที่ยงดูข่าวโทรทัศน์ กรมอุตุฯออกมาแจ้งเตือนเรื่องความร้อนสูงสุด และให้ระวัง "พายุฤดูร้อน" ก็นำมาแจ้งเพื่อนๆสมาชิกอีกที

ดีที่ยังมีเรื่อง-ภาพงานบุญกับหลวงตาที่ด็อกเตอร์ จะนำมา บอกเล่าให้ชมคลายร้อน บุญอันเป็นความร่มรื่นเย็นใจ รอ ด็อกเตอร์สอนเด็กๆเสร็จก็คงได้ชมกันยามเย็น หรือจะเป็นเมื่อไหร่ก็ตามแต่เจ้าตัวสะดวก พวกเราอนุโมทนาล่วงหน้ากับร่วมบุญไปแล้ว

จากนี้ก็มาคลายร้อนกับ "นักขุดกรุฯ" ที่ยิ่งมา ยิ่งบีบคั้นกันต่อ รอจิ้มชั่วช้างอาบน้ำครับ( ใช้เวลามากกว่าช้างกระดิกหูเยอะ-ฮ่า)

 

ชะตากรรม
"นักขุดกรุฯ"
มือสมัครเล่น
=========
(บทอวสาน)

ข่าวลือ ข่าวซุบซิบดำเนินต่อไปอีกเป็นเดือน ในที่สุดก็มีคนรับหน้าที่แทนทางวัดเข้าแจ้งความ เรื่องพระเจดีย์โบราณโดนบุกรุกขุดขโมยทรัพย์สมบัติ

ตำรวจเข้าตรวจสอบร่องรอยการขุด และร่วมกับทางวัดขุดเอาไหโบราณที่ยังตกค้างอยู่เกือบสิบไหขึ้นมาเป็นหลักฐาน

ผู้ต้องหามีอยู่ในใจกับในมือเจ้าหน้าที่อยู่แล้ว!!!

เมื่อได้จังหวะดีพร้อมหมายค้นเจ้าหน้าที่ก็นำกำลังค้นบ้านหลงแบบจู่โจมไม่มีข่าว มีกลิ่นล่วงหน้า

ไม่น่าเชื่อว่าในห้องนอนหลงที่บ้าน เขาเผลอวาง "ของกลาง" เอาไว้สิบกว่าองค์

ที่สวนเจ้าหน้าที่บุกตะลุยค้นกระท่อม ยังอุตส่าห์ได้เศษไหลูกหลังๆที่หลงเปิดเองและเก็บกวาดหลักฐานไม่หมด

หลักฐานเพียบเพียงพอขนาดนั้น หลงก็ถูกแจ้งข้อหาขโมยทรัพย์สินของแผ่นดินและของวัด บุกรุกสถานที่โบราณสถานในยามวิกาล ทำลายโบราณสถาน ฯ

(((ลืมเล่าอีกนิดว่า เจดีย์องค์นี้กรมศิลป์ฯมาสำรวจขึ้นทะเบียนเป็นโบราณสถานไว้นานแล้ว แต่ทำไมไม่ยอมขุดค้นไปหรือบูรณะก็จนด้วยเกล้า อาจไม่มีคนพอหรือมีงบในช่วงนั้น)))

หลงจนมุมด้วยหลักฐานทั้งปวง แต่ประกันตัวขอสู้คดีในศาลชั้นต้นไว้ก่อน ความจริงแล้วบ้านหลงค่อนข้างมีฐานะ พ่อ-แม่มีชื่อเสียงไม่ใช่ชาวบ้านขี้ไก่ ไก่กา แต่หลงก็ประสาคนซุกซน มีวิญญาณนักผจญภัย นักเสี่ยงภัย ซึ่งคนจำพวกเดียวกับหลงก็มีอยู่ทั่วไปทุกแห่งหนในโลกนี้

หลงไม่ยอมซัดทอดใครแม้แต่คนเดียว เขายืนกระต่ายขาเดียวไม่รู้ไม่เห็นในตอนต้น ครั้นรับสารภาพในชั้นศาลเวลาต่อมาอีกหลายเดือนเพื่อลดหย่อนผ่อนโทษ

เขาก็ยังเป็นชายใจเพชร บอกว่าลงมือทำคนเดียว รับผิดคนเดียว!!!

ผมคอยติดตามข่าวคราวเพื่อนด้วยความเป็นห่วง กระทั่งหลงถูกตัดสินลงโทษจำคุก 5 ปี

ใครจะห้ามยังไงก็ช่าง ผมแวะเวียนไปเยี่ยมหลงเสมอ บ่อยเท่าที่จะทำได้ พ่อแม่หลงใช้บารมีให้หลงโดนโทษจำอยู่คุกใกล้บ้าน ไม่ยากต่อการเยี่ยมเยียน

หลงเป็นนักโทษประพฤติดีประสาคนมีเงิน ไม่เกิน 3 ปี ก็ได้รับอภัยโทษตามกฏเกณฑ์และเป็นอิสรภาพ

ผมไปรับหลงวันพ้นโทษ พาเข้าตัวจังหวัดไปขัดสีฉวีวรรณ เลี้ยงเพื่อนเต็มคราบ เล่าให้หลงฟังว่าเอาไหไปทิ้งไว้ที่ไหน

บริเวณนั้นผมขับรถเฉียดผ่านสำรวจเวลากลางวันอีกหลายหน และพบว่ามันไม่เปลี่ยวอ้างว้างจริงอย่างที่เห็นตอนกลางคืน ริมบึงอีกฟากห่างไปราว 100เมตรเศษ มีอาคารบ้านเรือนผู้คนเป็นทิวแถวไม่ต่ำกว่าสิบหลัง กลางคืนเปิดไฟมีแสงไฟส่องมาถึงฝั่งนี้

อัศจรรย์แท้ที่คืนนั้น เหมือนกับทุกบ้านพร้อมใจกันปิดไฟทุกหลัง ทำให้ผมคิดว่าเป็นบริเวณเปลี่ยวร้าง ลองเป็นแบบนี้ ไม่ง่ายนักที่จะมาทำการงมไหในตอนกลางคืน ต้องใช้ไฟช่วยส่องทำงาน ย่อมเป็นจุดสะดุดตาสร้างความสนใจให้คนเห็นแน่

ผมละทิ้งโครงการงมไหมหาสมบัติไว้ก่อน รอเวลาอีกสัก 2-3 ปี มันย่อมมีโอกาสเปิดเข้าจนได้

แต่อย่างว่าเหมือนหนังสือจีนกำลังภายในชอบเขียน...

"คนลิขิตไม่สู้ฟ้าลิขิต"!!!

หลงพ้นโทษสักปีกว่าเกือบสองปี เขาพลันเสียชีวิตด้วยโรคหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน!

ผมรู้ข่าวด้วยความตระหนกบวกเศร้าใจแทบล้มทั้งยืน โธ่เอ๋ยเพื่อนรัก ชะตากรรมใดหนอ หรือเป็น "บาปมหันต์" ที่พวกเราบังอาจขุดกรุคนโบราณที่ฝังสมบัติอาจมีคำสาปแช่งและแรงอาถรรพ์แฝงเร้น

พวกเรากระทำอย่าง "มือสมัครเล่น" ไม่เคยขออนุญาตเจ้าที่เจ้าทาง ละเว้นการบวงสรวง ทำเสร็จก็ไม่เคยทำกุศลผลบุญขอขมาลาโทษ ส่งบุญอุทิศให้ดวงวิญญาณบรรพบุรุษผู้สร้างบ้านแปงเมือง สร้างพระเจดีย์ สร้างกรุ

พลังงานอาถรรพ์เหล่านั้นอาจวนเวียนรอจังหวะเหมาะสมเพื่อลงโทษเราอย่างสาสม ไม่ทางโลกก็ทางใดทางหนึ่ง

หลงในฐานะหัวเรือรับกรรมสาหัส ทั้งติดคุกและตาย!

ผมผู้สมรู้ร่วมคิดยังอยู่รอด แต่ก็ใช่ว่าจะปลอดภัยสบายใจเมื่อคิดถึงทุกเรื่องราวที่ได้กระทำกับหลง ผมกับพ่อจึงพยายามทำบุญอุทิศกุศลให้เจ้ากรรมนายเวรและบรรพชนทุกครั้งที่ได้เงินมาจากน้ำพักน้ำแรงบริสุทธิ์ ต้องรีบเจียดส่วนหนึ่งทำสังฆทาน ทำบุญกฐิน ผ้าป่า ฯลฯ ไม่เคยปฏิเสธ

สิ่งที่มองไม่เห็นใช่ว่าจะไม่มี และสิ่งที่มองไม่เห็น มักสร้างปาฎิหาริย์ให้เราพิศวงงงงวยอัศจรรย์ใจไม่รู้วาย

ผมบอกกับพ่อว่า ถ้ามีโอกาสจะงมไหขึ้นมา หากขายของในนั้นได้จะเอาทำบุญเรื่อยๆ พ่อก็เห็นดีด้วย เพียงเตือนให้ระวังอย่าผลีผลาม และต้องทำคนเดียว ห้ามมีเพื่อนร่วมงาน

"อะไรที่เป็นความลับ รู้เกินหนึ่งคน มันก็จะไม่ลับอีกต่อไป"...พ่อย้ำเตือน

เรื่องราวของหลงเลือนหายไปสิบกว่าปี ไม่มีความทรงจำของคนรุ่นเก่าเหลือสักกี่คน ถึงเหลือก็คงขี้เกียจดจำ โลกหมุนไปไม่หยุดนิ่ง เกิดเรื่องราวใหม่ๆให้ผู้คนรับรู้และแก้ไขตลอดเวลา

ตัวอย่างง่ายๆ สมัยหลงกับผมทำงานใหญ่นี้ ไม่มีมือถือ ติดต่อกันทีต้องใช้โทรศัพท์บ้าน ติดบ้างไม่ติดบ้าง ปัจจุบันสะดวกสบายทุกอย่าง

ผมจึงตระเตรียมแผน "กู้ไห"อยู่ในใจ!

วันหนึ่งก็ขับรถผ่าน "หมาย" ที่ขับผ่านนับหนไม่ถ้วนในรอบสิบกว่าปี...

คุณพระช่วย...บริเวณริมบึง รถดั้มพ์ รถแม็คโคร จอดเรียงราย 4-5 คัน รถถมดินกำลังปล่อยดินจากกระบะ รถแม็คโคร จ้วงดินถมลงไปตั้งแต่ขอบริมบึงไล่ไปกลางบึง...!

จุดยุทธศาสตร์ ที่บรรจุ "สิบไห-มหาสมบัติ" นอนนิ่งอยู่เบื้องล่างโดนถมเกลี้ยงฉาดเป็นแห่งแรก!!!

ผมเหงื่อแตกพลั่กทั้งที่อากาศไม่ร้อนมาก รีบกระโจนลงจากรถถามคนงานที่กำลังทำงานโกยดินถมบึง...

"ทำอะไรกันครับพี่ โครงการณ์อะไร"?

"อ๋อ...เห็นว่าทำหมู่บ้านจัดสรร นี่เป็นถนนทางเข้าหมู่บ้าน"

คำตอบจากคนงานรับจ้างที่พอรู้เรื่องงูๆปลาๆก็ประมาณนั้น ผมเดินปาดเหงื่อหมดเรี่ยวแรงมาที่รถ นั่งหายเพลียกายใจสักพัก ก็ขับรถด้วยความรู้สึกโหวงเหวงกลับตัวจังหวัด เล่าให้พ่อซึ่งเกษียณแล้วรับรู้...

"ดีแล้ว...ของไม่ใช่ของเรา ทำบุญกันมาแค่นี้ สมบัติแผ่นดิน คืนกลับแก่แผ่นดิน ก็ถูกต้อง"!!!

พ่อผมเคยพูดเมื่อผมเล่าว่า เอาไหไปหย่อนน้ำคนเดียว 10 ไห ช่วยหลงอีกครั้ง วันวานที่ผ่านสิบกว่าปี

พ่อผู้แสนดีบอกง่ายๆ ตรงข้ามกับที่ผมคิดว่าอาจโดนพ่อดุด่า...

"ทำดีแล้ว เราเป็นคนอย่าแย่กว่าหมา หมายังมีพวก เราเป็นคนแท้ๆก็ต้องมีเพื่อน ช่วยเพื่อนไม่เป็นไร"

"หมามีพวกแบบไหนป๋า"?...ผมอดถามท่านไม่ได้

"อ่า...ไม่เห็นหมาหมู่หรือ เวลามันช่วยกันรุม นั่นนะพวกแท้ๆ พวกกันชัดๆ นกต้องมีขน คนต้องมีพวกถึงจะอยู่รอด"!!!

สุดท้าย...หากเรื่องนี้มีกุศลคุณงามความดีและบังเกิดอุทาหรณ์สอนใจบ้าง ผมก็ขออุทิศแด่ดวงวิญญาณหลงเพื่อนรัก จงเดินทางไปสู่สุขคติ ทุกคนย่อมมีวันกระทำดีและ กระทำผิดพลาด ไม่มีใครเกิดมาดีพร้อมหรือเลวที่สุด

ทุกคนย่อมมีกรรมเป็นแดนเกิด มีกรรมเป็นของตนเอง มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ กรรมดี ชั่วที่เราทำ ตัวเราจักเป็นผู้รับผลกรรมนั้น!!!

 

หลวงพ่อทวด วัดม่วง ปี05
พระบูชา 5 นิ้วที่หาชมยาก
~~~~~~~~~~~~~~~

ใกล้สงกรานต์ก็เลือกสรร พระดีที่หายากในกรุมาให้สมาชิกชมเป็นศิริมงคลเยอะหน่อย รวมทั้งเรื่องราวดีๆที่ไม่ต้องไปหาอ่านจากที่ไหนในปฐพี

เพราะคนเขียนหนังสือดีๆ นับวันจะหายาก มีแต่คนหนีไปทำคลิปทางยูทูป ติ๊กต็อก เฟสบุ๊ค ฯลฯ เล่นไซด์ไลน์...เอ้ย ออนไลน์ทางภาพประกอบเสียงกันเสียหมด

อักษรดีมีคุณค่า เรื่องเด็ดๆคุ้มค่าสายตาและการอ่านจึงไม่มีให้เสพ มีแต่อักษรที่ไร้สาระของพวกขายพระกับนิทานบันเทิงหลอกเด็กเรื่องอภินิหารชวนง่วงนอน ส่งเสริมการขาย!

หลวงพ่อทวด วัดม่วง บางแค สร้างปี 2505 ควบกล้ำมาถึงปี 06 ส่วนใหญ่จึงยกให้เป็นพระรุ่นปี 06 ซึ่งจะเป็นปีไหนก็ถูกต้องทั้งสิ้น

และส่วนใหญ่(อีกที) มักจะเห็นกันเฉพาะพระเนื้อว่านที่เป็นพระเครื่อง สำหรับพระบูชามีจำนวนน้อยไม่ค่อยได้ยลโฉมกันบ่อยนัก


พระบูชาเนื้อปูนผสมว่าน หน้าตัก 5 นิ้ว ทาทองบรอนซ์แบบเดียวกับวัดประสาทฯปี 06 รูปแบบการสร้างคล้ายกัน และวาระการสร้างก็ใกล้กันมาก เป็นห้วงเวลาที่พระอาจารย์ทิม ขึ้นเมืองกรุงเพื่อบูรณะวัดประสาทฯ ทางด้าน หลวงพ่อยิ้ม อาภาธโร ซึ่งเคยเดินทางไปศึกษาธรรมะกับพระอาจารย์ทิมทางใต้ จึงขออนุญาตพระครูปัญญาวรคุณ ท่านเจ้าอาวาสวัดม่วงสร้างพระชุดหลวงพ่อทวดขึ้นมา

จุดประสงค์หลักคือ...
--สร้างพระบูชาองค์ใหญ่ประดิษฐานวัดม่วง
--สมทบทุนสร้างศาลาการเปรียญให้แล้วเสร็จ
--สร้างสะพานจากวัดถึงศาลเจ้าแม่ทับทิม
--สมทบทุนบำรุงการศึกษานักเรียนธนบุรี
--ช่วยเหลือผู้ประสบวาตภัย(แหลมตะลุมพุก)

อาราธนายอดพระเกจิคณาจารย์จากทั่วทุกภาคร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืนคือ 18-19-20 ธันวาคม 2505

--พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้
--หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
--หลวงปู่นาค วัดระฆัง
--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
--หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
--หลวงพ่อเขียน วัดถ้ำขุนเณร
--หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
--หลวงพ่อทองอยู่ วัดใหม่หนองฯ
--หลวงพ่อนอ วัดท่าเรือ
--หลวงปู่เต็ม วัดนิมมานรดี
--หลวงพ่อสำเนียง วัดเวฬุวัน
=======ฯลฯ=======

การกดพิมพ์พระเครื่องใช้พระ-เณรในวัด โดยท่านพระอาจารย์ทิมกดพิมพ์เป็นปฐมฤกษ์ หากเป็นสมัยนี้ก็เรียกอวยยศอย่างหรูว่า...องค์นำฤกษ์!

จากนั้นก็กดพิมพ์จนครบ 84,000องค์ แบ่งแยกได้ถึง 21 พิมพ์ ศึกษากันไม่หวาดไหว เป็นอีกหนึ่งวัดที่สร้างเฉพาะ "หลวงพ่อทวด" ได้เฉียบขาด

"พระบูชา" ก็มีหลายแบบ ที่นำมาให้ชมนี้เป็นหนึ่งในแบบที่อาจพบเห็นน้อย เผื่อบ้านสมาชิกท่านใดมีเป็นของมรดกตกทอดก็ให้ทราบว่าเป็นของดีที่ควรรักษายาวไป...!

ด้านหลังกับความเก่ากาล เกิน 60 ปี หนึ่งในหลวงพ่อทวดยุคต้นที่สุด ซึ่งได้รับเมตตาจากพระอาจารย์ทิม มอบเนื้อว่านวัดช้างไห้ ดินกากยายักษ์ ว่าน108 มงคล เช่นเดียวกับเนื้อปี 2497 ถึงไม่เหมือนทีเดียวแต่ก็ใกล้เคียงกันมาก ทั้งยังมีน้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์จาก หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม เป็นเชื้อประสานและมวลสารจากคณาจารย์แนวหน้ายุคนั้นอีกมากท่าน

แลด้านข้างที่สวย
สมบูรณ์ครบครัน
ไม่มีส่วนใดสึกหรอ

ใต้ฐานอัดปูนขาวมีพระบรรจุ
ด้านใน บางองค์อัดเนื้อว่านมี
ยันต์เขียนไว้ ดูอักษรที่ฐานชัดๆ

อัญเชิญบารมีพระโพธิสัตว์ องค์นิรันตรายตลอดกาลที่ยอมรับกันทั้งแผ่นดิน ปกปักรักษาคุ้มครองผองสมาชิกและผู้อ่านทุกท่าน สงกรานต์นี้หากต้องเดินทางไกลเพื่อกลับภูมิลำเนา ก็ขอให้ไปมาสะดวกปลอดโปร่งโล่งทุกทาง ปลอดภัยทุกทิศ มีโชคมีชัยดังใจคิดและมาดหมาย

อันตรายทั้งปวงผ่านพ้นไป "นิรันตราย" ตลอดเทอญ!

 

หลวงตาท่านส่งภาพและคลิปวิดีโอ ท่านไม่ได้ถ่ายภาพนะคะ มุอยากให้คุณลุงและสมาชิกนักขุดกรุ ได้เห็นบรรยากาศความร่วมมือและการสวด หลวงตาท่านใช้คำว่าท่านเป็นแม่งาน ทำให้ท่านไม่สามารถถ่ายภาพ หรือ ส่งภาพได้ทันที พลางฝากข้อความเสียงสั้น ๆ ท่านต้องเดินดูแลงาน และพระคุณเจ้าที่มาร่วมซึ่งเป็นคณะสงฆ์ฝ่ายปกครอง แม้ว่าหลวงตาท่านไม่ใช่พระเถระชั้นผู้ใหญ่ แต่ท่านกล่าวว่า ทำตามหน้าที่ในสิ่งที่เกื้อกูลเท่าที่ทำได้ตามที่หลวงตาได้นำพาคณะสงฆ์ อุบาสก อุบาสิกา ไม่ว่างานบุญหรืองานปฏิบัติธรรม หลวงตาท่านกล่าวว่าท่านทำทุกสิ่งทุกอย่างตรงนี้เพื่อให้คำว่าอุบาสก อุบาสิกา ผู้ที่จะช่วยพระพุทธศาสนาอยู่ในจารีตประเพณีอันดีงาม ขออนุโมทนาสาธุกับกัลยาณมิตรทุกท่าน ขอเจริญพรเด้อ

ข้อความด้านบนมุถอดจากข้อความเสียงของหลวงตาแล้วอยากให้คุณลุงและสมาชิกกระทู้ได้เห็นก่อนนอนและร่วมอนุโมทนาก่อนนอนนะคะ มุอาจไม่ได้ลงทั้งหมด ขออนุญาตลงเฉพาะรูป สองรูปนะคะ จริงๆ คุณลุงได้เห็นคลิป แต่คนใช้มือถือไม่เป็น เอียงวิดีโอตอนพระสวดไปมา มุเลยไม่ได้นำคลิปลง มุเองก็พึ่งเคยเห็นธงริ้วยาวที่ชาวบ้านช่วยแห่ ก็ขอให้ทุกคนยกมืออนุโมทนาสาธุร่วมกันนะคะ

และหากเห็นมุหายไป ขอตอบสั้นๆ ค่ะ ว่ามุแบ่งวันว่างไปสอนหนังสือถวายพระค่ะ

 

มาแล้วภาพบุญงานสวดภาณยักษ์ที่พวกเรากระทำร่วมกับสะพานบุญด็อกเตอร์มุ เป็นภาพ+เรื่องที่ทำให้ค่ำคืนร้อนอ้าว ชุ่มเย็นพร้อมทั้งนอนหลับฝันดีกับเรื่องราวดีๆที่สะพานบุญอุตส่าห์จิ้มยาวเล่า ทั้งที่เจ้าตัวก็งานเยอะแยะ

อนุโมทนาท่านด็อกเตอร์ ขอบคุณที่สละเวลาให้กระทู้ ฝันดีราตรีสวัสดิ์ บุญส่งเสริมให้ก้าวหน้าโชติช่วงในงาน เป็นอธิการบดีเร็ววันครับ

 

ขอรับมาดูแลต่อนะครับพี่วัน

 

.
เป็นผู้ใหญ่นี่ มีความคิด
เรียกว่า เป็นผู้มีประโยชน์
เพราะทำอะไรๆ ได้มากกว่าเด็กๆ
แต่บางที ผู้ใหญ่กลับใช้ความมีประโยชน์
ไปในทางไม่ก่อให้เกิดความดี มีประโยชน์
ผู้ใหญ่นี่ สำคัญ
นี่ผู้ใหญ่ สร้างปัญหาก็มีมาก
ไปโทษเด็กไม่โทษตัวเอง ไม่โทษผู้ใหญ่คือ ไปโทษเด็ก
นี่ผู้ใหญ่สร้างแหล่งอบายมุขต่างๆ
นี่ไปโทษเด็กว่า ไปแหล่งอบายมุข
นี่ ผู้ใหญ่มันสร้าง
สร้าง ความชั่ว ความเลว ความหม่นหมอง
สร้างทางตกต่ำ เลวทราม ให้เด็กๆ
นี่ไม่โทษใคร ต้องโทษผู้ใหญ่
สร้างเวรกรรม กันเต็มบ้านเต็มเมือง
นี่ผู้ใหญ่สร้างทั้งนั้น สร้างความไม่เจริญในใจ
นี่เรียกว่า ปลูกฝังความต่ำ ในจิตในใจ
สร้างความไม่เจริญ สร้างหนทางมืดบอด
สร้าง อบายต่างๆ
นี่ผู้ใหญ่ต้องพึงสังวร ต้องไม่ทำสิ่งต่ำทราม
ให้เกิดกับ เด็กๆ
นี่ ต้องดัดสันดาน ผู้ใหญ่ก่อน
ดังนี้เป็นต้น

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันจันทร์ แรม ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ ปีเถาะ
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สวัสดีครับอาจารย์วันวิ พี่น้องทุกท่านครับ
อนุโมทนาบุญกับอาจารย์ และพี่น้องทุกท่านครับ
ขอให้รวยสุข รวยเงินทอง คิดสิ่งใดให้สำเร็จสมปรารถนา เฮงๆ รวยๆ ทุกท่าน สาธุ

 

เหรียญเงิน 1 บาทล้ำค่า เป็นเงินตราที่เกินราคาการผลิตมากนัก อายุสร้างข้ามศตวรรษไปไหนๆ ถ้าเป็นเหรียญวัตถุมงคลก็เก่าที่สุดในประเทศ มีเหรียญพระสงฆ์เหรียญแรก หลวงพ่อจิตร ฉันโน (พระพุทธวิริยากร) วัดสัตนารถปริวัตร ราชบุรี สร้างในพ.ศ. 2458 ห่างจากเหรียญบาทนี้ตั้ง 10 ปี

เป็นของสะสมที่ล้ำค่า และถามเรื่องพุทธคุณก็ขอบอกว่า ผ่านการอธิษฐานจิตจากพระอาจารย์ที่ผมเคารพนับถือเรียบร้อย ผมเอาเหรียญไม่มีร.ศ.ให้ท่านจาร แต่เหรียญนี้ไม่จาร

โมทนาน้องเต้ยจัดส่งวันนี้ ก่อนติดวันหยุดยาวสงกรานต์ปลายอาทิตย์

 

วันพระคับคั่งด้วยพุทธศาสนิกใส่บาตรริมทางไม่ต้องเสียเวลาไปถึงวัด ท่านมาโปรดสัตว์ถึงที่ ความดีที่กระทำทุกวันมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง รวมทั้งการร่วมอนุโมทนาก็เป็นกำไรที่แทบไม่ต้องลงทุน แต่ควรตั้งจิตอธิษฐานสิ่งดีงามยามที่ยกมือ "สาธุ"

 

พรก่อนสงกรานต์ เสมือนน้ำใจแทนน้ำรดวันปีใหม่ มาจากสุพรรณฯไม่ห่างหาย ขอจงเป็นพรล้ำค่าพาดับร้อน มีแต่ความสุขกายสบายใจแด่น้องน้อตเช่นกัน ขอบคุณมากครับ

 

หลวงปู่มอบสุดยอดคำสอน
ก่อนสงกรานต์เป็นศิริมงคล...

*** รำไม่ดี......โทษปี่กลอง
แถมโยนกลอง..จ้องเฉไฉ
ใหญ่ยอดแย่.....แถร่ำไป
ผลักผิดใส่.......ไร้ศีลธรรม
--เปรียบแม่ปู..เดินดูเป๋
--ทำท่าเท่.......ซวดเซขำ
--รียำตำบอน..สอนเด็กซ้ำ
--อย่าหาทำ....จำไว้โยม!

 

เลขจัดส่งวันนี้

--ED 3695 8484 3TH ปากเกร็ด
--ED 3695 8485 7 TH พร้าว

 

พระบูชา "หลวงพ่อทวด"
วัดประสาทฯเนื้อว่าน-05
===============

ลงพระบูชา "หลวงพ่อทวด-วัดม่วง"ไปแล้ว จะไม่ลง "วัดประสาทบุญญาวาส" ท่าน้ำสามเสน ต้นตำรับ "หลวงพ่อทวดเมืองกรุง" วัดแรกก็กระไร

เคยนำลงที่นี่หลายปีก่อน แต่ไม่ละเอียดเพราะถ่ายรูปเองไม่เป็นช่วงนั้น ขอฉายซ้ำแต่เพิ่มความละเมียดของข้อมูลให้เต็มคาราเบล

ปี 2502 พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้ รับนิมิตจาก "หลวงพ่อทวด" ให้ขึ้นมาบูรณะวัดประสาทฯที่โดนไฟไหม้วายวอดตั้งแต่ปี 2498 พระอาจารย์ทิมได้พบกับพระครูสมุห์อำพล ปรึกษาจัดเตรียมการสร้าง "หลวงพ่อทวด เมืองกรุง" ครั้งแรกตั้งแต่ปี 02 เป็นต้นมา

ท่านได้นำมวลสาร "ว่าน-2497-ดินกากยายักษ์-ว่านมงคลอีก108 และสูตรการผสมเนื้อหลวงพ่อทวดมอบให้ทั้งสิ้น นี่ยังไม่รวมเนื้อผงบางขุนพรหมที่ท่านพระครูสมุห์อำพลได้รับจากการเปิดกรุปี 2500 จากเจ้าอาวาสบางขุนพรหมยุคนั้นซึ่งสนิทกัน

ตัดตอนย่อความนิดนึงว่า เตรียมการอยู่ 2-3 ปี ในที่สุดการสร้างก็สำเร็จ และมีเรื่องที่ควรสอดแทรกป็นองค์ความรู้หรือ "เกร็ด" สักเล็กน้อยว่าระหว่างนั้น ชื่อเสียง "หลวงพ่อทวด" เริ่มโด่งดังมาก จากงานวัดช้างไห้ปี 2505 ที่ผู้คนเข้าแถวบูชาพระกันแน่นวัดไม่ทีที่ยืน เป็นข่าวใหญ่โตทางหนังสือพิมพ์รายวัน!

วัดในเมืองกรุงหลายแห่งได้ขอพระอาจารย์ทิมจัดสร้างมากมาย อย่างเช่น ท่านเจ้าคุณสงัด วัดโพธิ์ท่าเตียน ขอสร้างในปี 05-06,วัดม่วง บางแค ขอสร้างปี 05-06,วัดเอี่ยมวรนุช ที่พระอาจารย์ทิมปักหลักพำนักก็ได้รุ่น"พินัยกรรมปี05" อันลือลั่น ซึ่งสร้างจากวัดช้างไห้ แต่ที่วัดเอี่ยมฯได้สร้างจริงคือปี 06-07

จะเห็นเลยว่า บารมีพระอาจารย์ทิมทะลุฟ้า ทะลักปฐพีในช่วงนั้น ใครก็ฮิตสร้าง "หลวงพ่อทวด" ไม่นับวัดต่างจังหวัดทั้งทางใต้ ภาคกลาง และภาคเหนือ

กลับมาที่วัดประสาทบุญญวาส หลังจากทุกอย่างสำเร็จ ก็เป็นพิธีพุทธาภิเษกมโหฬารที่สุด นับเนื่องจาก "พุทธศตวรรษ 2500" เป็นต้นมา

พิธีมหาพุทธา กระทำกัน 3 วัน 3 คืนเต็ม 14-15-16 พฤศจิกายน 2505

หันไปดู "วัดม่วง บางแค" จะเห็นว่าพุทธาภิเษก 3 วัน 3 คืนเหมือนกัน แต่เป็น 18-19-20 ธันวาคม 2505 หลังวัด"ประสาทฯ เดือนเศษ จึงไม่ต้องประหลาดใจว่าทำไมทีมงานเสก "วัดม่วง" จึงดูเข้มแข็งน้องๆวัดประสาทฯ ก็เพราะเชื้อเชิญและนิมนต์เอาในงานวัดประสาทฯนั่นเอง

สำหรับคณาจารย์ทั่วไทยที่รับเชิญและเต็มใจมาฟื้นวัดประสาทฯจากซากปรักหักพัง ส่วนใหญ่นักสะสมทุกท่านทราบกันดี ขอร่ายไว้พอประมาณ...

--พระอาจารย์ทิม วัดช้างไห้
--หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก
--พ่อท่านคล้าย วัดสวนขัน
--หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
--เจ้าคุณผล วัดหนัง
--หลวงปู่นาค วัดระฆัง
--หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
--หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
--หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
--หลวงพ่อเต๋ คงทอง
--หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราฯ
--หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่
--หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว
--หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
--หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์
--หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง
--หลวงพ่อสุด วัดกาหลง
--หลวงปู่ธูป วัดแคนางเลิ้ง
--หลวงปู่เส่ง วัดกัลยาฯ
--หลวงปู่ดำ วัดตุยง
--หลวงพ่อกี๋ วัดหูช้าง
--หลวงพ่อแทน วัดธรรมเสน
--หลวงพ่อนอ วัดท่าเรือ
--หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติ
--หลวงพ่อหน่าย วัดบ้านแจ้ง
--หลวงพ่อเนื่อง วัดจุฬามณี
=======ฯลฯ=======

เขียนจากความทรงจำ 25-26 รายนาม ของจริงมีมากกว่า 200 รูป หมุนเวียนกันเข้านั่งปรกปลุกเสกเพราะสถานที่ไม่พอ คิดเอาแล้วกันว่า งานนั้นอึกทึกไปทั้งเมืองกรุงในยุคที่ยังไม่เจริญมากมายนักขนาดไหน?

ชม "หลวงพ่อทวด ขนาดบูชา 5 นิ้วทาทองบรอนซ์ เป็นต้นแบบให้วัดอื่นทำตาม ด้วย "ภาพเล่าเรื่อง" สบายตา สบายใจ หลับฝันดีมีมงคล

เนื้อปูนผสมว่านและแก่ว่านมาก เพราะสร้างครั้งแรก พระอาจารย์ทิมมอบเนื้อว่านวัดช้างไห้ ให้เป็นกระสอบ ดินกากยายักษ์หลายกระสอบ

เรียกว่า ใส่ของดีอย่างไม่อั้น สมัยนั้นไม่มีการประหยัด เพราะพระไม่ได้แพงมาก วัตถุดิบยังหาง่าย ส่วนใหญ่เหล่าปรมาจารย์ยุคนั้น หาได้ไม่ยาก แค่เอ่ยปากลูกศิษย์ก็ขนมาให้เป็นกระสอบ เป็นลัง!!!

ไม่เหมือนยุคหลังๆ ขนาดหาซื้อมวลสารมาผสมให้ราคาแพงๆ ยังหาของดีมีคุณค่าตามสเป็คยากแสนยาก แต่ละวัดทุกภาคทั่วประเทศล้วนสร้างพระขายหาเงินบำรุงวัด สร้างโบสถ์ สร้างศาลา ฯลฯ มวลสารดีๆตามธรรมชาติแทบจะต้องควานหาในมหาสมุทร!!!

อย่าง "หลวงพ่อทวด" องค์นี้ หากนำท่านละลายทำเป็นมวลสารสร้างพระ น่าจะได้เนื้อว่านชั้นเลิศเป็นร้อยองค์ ไม่เชื่อก็ชมตรงรอยกระเทาะที่จมูกท่าน นั่นละเนื้อสีเทาของปูนผสมว่านชัดแจ๋ว...

สีดำที่ทาองค์ท่านคือเนื้อรัก แต่ทาแบบฉาบไว้ไม่หนามาก จากนั้นก็ไล่ลงทองบรอนซ์ตามตำแหน่งที่เห็น

ด้านหลังกับความเก่าเกิน 60 ปี รอยถลอกของรักที่ฐาน
กับที่ศีรษะของท่าน เห็นเนื้อว่านผสมปูนเป็นสีเทาทุกจุด สีของเนื้อว่านวัดช้างไห้ กับสีของหลวงพ่อทวด วัดประสาทฯที่นำไปทำพระเครื่ององค์เล็ก เนื้อหาเดียวกัน!

ทองบรอนซ์ไม่มีริ้วรอยถลอกเพราะบูชารักษาดี สีสันเก่าไปตามเวลา

ด้านข้างค่อนข้างสมบูรณ์
มีกระเทาะนิดที่ใบหูข้างขวา
ซ้ายมือเรา ไม่สังเกตไม่เห็น
เป็นธรรมดาพระเนื้อว่านเก่า
หาไร้ที่ติเต็มร้อยยาก เว้นนำ
ท่านไปเสริมสวย ซึ่งสมัยนี้มี
ช่างซ่อมฝีมือดี ริ้วรอยแค่นี้
มือซ่อมชั้นดี เห็นแล้วยิ้มหวาน
ขอให้จ่ายงามๆละกัน


ใต้ฐานรักลอกมากหน่อย
เพราะยกขึ้นยกลงบ่อย
เนื้อสีเทาอร่อยเหาะทั่ว
องค์ท่านหนักเอาการ!
"พระบูชาสมเด็จหลวงพ่อทวดเหยียบน้ำทะเลจืด" อักษรยาวคาดด้านหน้า พระบูชาชุดนี้ สร้างไว้ไม่กี่องค์ ท่านพระครูสมุห์อำพล แจกเฉพาะผู้มีอุปการะคุณงานครั้งนั้น ซึ่งเพื่อนรักรุ่นพี่ "เสี่ยซังฮี้" เป็นโยมอุปัฏฐากวัดนี้ทั้งครอบครัวยาวนาน ทำบุญไปครึ่งหมื่นรับแจกมา 2 องค์ เงินจำนวนนั้นก็น่าจะมากกว่าครึ่งแสนปัจจุบัน

ปี 2505 ทองคำราคาบาทละ200เท่านั้น ลองดูทองบาทละ 40,000 ทุกวันนี้สิ จะรู้ว่าค่าเงินเก่าก่อนมหาศาลบานตะไทขนาดไหน?

เช่นเคย ส่งองค์นิรันตรายที่แทบไม่มีให้เห็นกันเลยในท้องตลาด เพราะสร้างจำเพาะ มอบจำเพาะคนจริงๆในยุคโบราณ ก็ต้องขออาราธนาบารมีท่าน แผ่ไพศาลสู่บรรดาสมาชิก และผู้ผ่านมาอ่าน ผ่านมาพบเห็น...

จงได้รับแต่ความสุข ร่มเย็น ชีวิตนิรันตรายปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ แคล้วคลาดปลอดภัยทุกที่ทุกสถาน พบพานแต่สิ่งที่ดี มีโชคลาภ ประสบแต่ความสมหวังนิรันดร์กาล!

 

วันที่ ๙ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันอังคาร ขึ้น ๑ ค่ำ เดือน ๕ ปีมะโรง
ใส่บาตรในเช้าวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

หนีร้อนตอนกลางวันเข้ากระทู้กลางคืน ร่วมอนุโมทนาบุญตั้งแต่ยามเช้า จะได้นอนหลับสบาย

อากาศร้อนพายุฝนฟ้าคะนองดูข่าว ที่สุรินทร์ฟ้าผ่าควายกลางทุ่งตายทีเดียว 6 ตัว...เฮ้อ ทำไมใจร้ายต้องไปลงกับน้องควายที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ คนชั่วคนรกโลกมากมาย บางคนชอบสาบานก็มี เทพซูสไม่จัดการซะ!

 

"หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ"
เหรียญ"มหาเศรษฐี"ขวัญถุง27
===============

ก่อนปีใหม่ไทย ต้อนรับให้มีความสุขเย็นใจ เป็นศิริมงคลกับ "มหาเศรษฐี" ที่บรรจงสร้างเสกโดย หลวงพ่อพรหม ติสสเทโว สุดยอดเกจิเมืองกรุงเก่า สมฉายา...กรุงศรีอยุธยาไม่สิ้นคนดี" ของแท้

หลวงปู่สี วัดสะแก ยังยกย่องบ่อยในยามทรงสังขารด้วยกันว่า...

"เรื่องเหนียวเมืองอยุธยา ยุคนี้ต้องยกให้หลวงพ่อพรหม"

อย่าว่าแต่หลวงปู่สี กระทั่ง หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก/ หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี ก็เคยชมเชยหลวงพ่อพรหมให้ศิษย์ฟัง

แต่ หลวงพ่อพรหม ใช่จะเป็นเบอร์ 1 ด้านเหนียวหนึบ ผมเคยไปกราบท่านกับเพื่อน เรื่องไล่คุณไสยของดำ เสนียดจัญไร อาจมต่ำช้า ท่านก็ "เบอร์1" เหมือนกัน ทำกันให้เห็นๆเดี๋ยวนั้น กลางวันแสกๆไม่ปิดบังอำพราง

การสร้างพระกริ่ง-พระชัยวัฒน์ "ติสสเทโว" ซึ่งเป็นกริ่งลือชื่อของท่านในปี 2527 ก็พิสูจน์ว่า หลวงพ่อพรหม มีความครบเครื่องสรรพวิชารอบด้าน "พึ่งได้" ทุกเรื่อง!

ท่านนำเนื้อชนวนที่สร้างพระกริ่งมาผสมกับทองแดง แล้วรีดเป็นเหรียญ "ขวัญถุง-มหาเศรษฐี" ทำแจกในชุดนี้ด้วย และเป็นเหรียญ "มหาเศรษฐี" ที่ใครก็อยากมี สร้างน้อย สวยงาม เสกยอดเยี่ยม

เรื่อง "เหนียว" ไม่ต้องพูด หลวงพ่อพรหมข้ามไปบรรจุความคล่องตัวด้านเงินทอง ค้าขายราบรื่น มั่งมีศรีสุข ให้เหล่าศิษย์และผู้ครอบครองบูชา

เชิญอาราธนาไปหาเงินตรา โชคลาภ โชคดี ต้อนรับความเป็น "มหาเศรษฐี" ปีใหม่ไทย...

=======900=======

ทองแดงผิวไฟผสมจากเนื้อชนวนพระกริ่ง-พระชัยฯ"ติสสเทโว" เททองที่วัดขนอนเหนือ "หลวงพ่อพรหม" กำกับทุกขั้นตอนให้เป็นรุ่น "ดีที่สุด" รุ่นหนึ่งในชีวิตท่าน

เคยมีศิษย์ถามท่านต่อหน้าคนเยอะๆว่า..."ถ้าหลวงพ่อละไปแล้ว จะกลับมาอีกไหม"...ท่านตอบสั้นๆไม่โอ่อวด เพราะตามปกติหลวงพ่อพรหมเป็นพระที่เรียบง่าย พบง่าย ไม่ถือตัว วิชาท่านร้อนแรง แต่คนเข้าใกล้จะเย็นด้วยเมตตาสูง

"ไม่กลับมาแล้ว"...!

ท่านละสังขาร 27 มกราคม ปี 2534 สิริอายุ 78 ปี

เหรียญไม่ผ่านการใช้ สวยงามมาก ตอกโค้ต "พ" หน้าอกซ้ายของท่าน

รายละเอียดชัดเจนว่าสร้างในวาระอะไร? เมื่อไหร่? และเป้าของเหรียญคือสิ่งใด...สำหรับผู้บูชา

แน่นอน..."มหาเศรษฐี" ตามนามมงคลนั้น!!!

ขนาดเหรียญ 50 สตางค์
ให้พกเป็น"ขวัญถุง"ไม่หนัก
ไม่เกะกะกระเป๋าแต่ "หนักเงิน"!

 

"หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค"
"มหาลาภ"ลพ.บัวเผื่อนปี35
===============

"พึ่งพรหม-พบพรหม" กันแล้วในค่ำคืนนี้ จากอยุธยากรุงเก่าตีรถต่อไปอีกหน่อยทางสายเอเชียพบกับหนึ่งเทพพรหม "หลวงพ่อพรหม ถาวโร" วัดช่องแค นครสวรรค์

เหรียญ "มหาลาภ-ปี 2535" แน่นอนว่าไม่ทันท่านซึ่งมรณภาพ 30 มกราคม ปี 2518 (มรณภาพเดือนเดียวกับ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ สมนามเดียวกัน)

ผู้สร้างเหรียญนี้คือ หลวงพ่อบัวเปื่อน วัดหลังเขา นครสวรรค์ ศิษย์ของท่าน ก็ถือได้ว่าเป็นศิษย์เทิดพระคุณครู ด้านหนึ่งเป็นหลวงพ่อพรหมนั่งเต็มองค์อีกด้านเป็นหลวงพ่อบัวเผื่อนครึ่งองค์ ไม่เทียบ ไม่เท่า ไม่วัดรอยเท้า ให้ เกียรติครูผู้สูงส่ง

หลวงพ่อบัวเผื่อนก็มีวิชาใช่ย่อยสมเป็นศิษย์หลวงพ่อพรหม ของท่านมีประสบการณ์เด็ดๆทั้งเหนียว มหาอุด แคล้วคลาด คนพื้นที่รู้กันดี

"คืนแห่งพรหม" มอบเหรียญพรหมมหาลาภ เป็นขวัญถุงขวัญใจแทนเหรียญที่ทันหลวงพ่อพรหมจริงๆ ซึ่งไม่ต้องไปหาให้เสียเวลา ทั้งแพงมาก เก๊มาก เวียนกบาลเปล่าๆยุคประหยัด บูชาศิษย์มีครู ก็เหมือนมีครูอยู่ติดตัวดุจกัน!

=======300=======

เนื้ออัลปาก้าผิวหิ้ง ไม่ผ่านการใช้ อายุสร้างเกิน 30 ปี ภาพ "หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค" ภาพเดียวบนเหรียญ ก็คุ้มเกินคุ้ม พิธีพุทธาภิเษกได้ยกเหรียญไปทำที่ศาลาวางสรีระของหลวงพ่อพรหม ให้ท่านรับรู้ด้วยพิธีถูกต้อง

หลวงพ่อบัวเผื่อน ผู้สร้าง และเป็นผู้สืบทอดสรรพวิชาหลวงพ่อพรหม นอกจากนี้ท่านยังเป็นศิษย์ หลวงพ่อโอด วัดจันเสน ร่ำเรียนวิชาสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ อีกด้วย

มหาลาภขนาดเท่าเหรียญ
"ลพ.พรหม" ปี16 ด้านหน้า
ถอดรูปแบบเหรียญครูไว้
ครบถ้วน ถึงบอกว่านำบูชา
ทดแทนกันได้ไม่ผิดครู!