เรื่องเด่น เรื่องเล่า "นักขุดกรุ"มือขลัง ขมังเวทย์ที่สุดในแผ่นดิน

เหรียญ"พระแก้วมรกต 3ฤดู"
ลงยากะหลั่ยทอง-วัดโพธิ์ฯ
พิธียิ่งใหญ่ในรอบ 200 ปี!!!
===============

พิธีที่บังเกิดขึ้นก่อน "พระแก้วมรกต"ฉลองกรุง 200 ปี ก็คือ การมหาพิธีพระแก้วมรกตของวัดพระเชตุพน (วัดโพธิ์)ท่าเตียน ในปี 2524 ก่อนหน้าฉลองกรุงเพียงหนึ่งปี!

งานช้างตัดหน้างานอภิมหายักษ์ ดังนั้นท่านจึงคุยว่า เป็นมหาพิธีพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ในรอบ 200 ปี

ซึ่งอย่าลืมว่า รอบ 200 ปีนี้ มิใช่ของกรุงเทพมหานครอมรฟ้า แต่เป็นของ "วัดโพธิ์ ท่าเตียน" ซึ่งเป็นวัดประจำพระองค์ของ"พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก" ปฐมบรมวงศ์จักรี ผู้ให้กำเนิดกรุงรัตนโกสินทร์

แต่ก่อนพระองค์ท่านจะตัดริบบิ้นส์ทำคลอดกรุงรัตนโกสินทร์เป็นเมืองหลวงสยามประเทศอย่างเป็นทางการ พระองค์ทรงสร้าง-ซ่อม-อุปถัมภ์ "วัดพระเชตุพน" ยกขึ้นเป็นวัดหลวงประจำรัชกาลก่อนล่วงหน้า 1 ปี

วัดโพธิ์ ท่าเตียน จึงถือเป็นปูชนียสถานยิ่งใหญ่ เป็น'พี่ใหญ่'ของเมืองหลวง สมแล้วที่ "ยักษ์วัดโพธิ์" เท่ ยิ่งใหญ่ เกรียงไกร กว่ายักษ์วัดไหนๆ

เหรียญพระแก้วมรกต 3 ฤดูวัดโพธิ์ คัดลอกรายละเอียดจากหน้ากล่องง่ายๆดังนี้...

***พิธีมหาพุทธาภิเษกครั้งยิ่งใหญ่ ในรอบ 200 ปี
--ณ วัดพระเชตุพน ท่าเตียน กรุงเทพ
--29 ธันวาคม 24 เวลา 13.19 น.
** สมเด็จพระสังฆราชเสด็จจุดเทียนไชย ปลุกเสกถึง 31 ธ.ค. 24 โดยเกจิอาจารย์ชื่อดัง 72 จังหวัด **

น่าจะเป็นพระกล่องที่มีรายละเอียดหน้ากล่องมากที่สุด ให้นักสะสมบูชาไม่สับสน เหลือก็แต่รายนามคณาจารย์ทั้ง 72 จังหวัดเท่านั้น ที่คงเขียนไม่หวาดไหวแต่ก็เชื่อว่า ทุกท่านที่โด่งดังคับฟ้าคับจังหวัด คับเมืองตนเอง ต้องอยู่ในงานนี้หมด!!!

ท่านสมเด็จพระสังฆราชเวลานั้น ก็คือ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงชินวราลงกรณ (วาสน์ วาสโน) วัดราชบพิธฯ ทำให้ทราบว่าในขณะนั้นประเทศไทยมีแค่ 72 จังหวัด

ได้รายละเอียดแล้ว ก็ได้เวลาชมความงาม สไตล์ "ภาพเล่าเรื่อง" ไม่เปลืองค่าสะสมบูชาและการร่วมบุญ ทรี อิน วัน เหรียญแสนงามโสภา สร้างอย่างคลาสสิค กล่องเดิม...

=======900=======

เปิดฝากล่องถ่ายภาพ เหรียญ 3 ฤดู 3 แบบ ลงยาสามสี กะหลั่ยทองห่อหุ้มเคลือบด้วยกระจก และจับขอบทองอีกที เป็นการลงทุนผลิตที่ล้ำค่า หลายขั้นตอน เสียเวลามากในยุคสมัยเมื่อ 43 ปีที่แล้ว

โปรดชมการออกแบบรูปเหรียญแต่ละฤดู แล้วลองไปดูเหรียญเนื้อโลหะ "วัดพระแก้ว 3 ฤดู"ฉลองกรุงปี 2525 จะเห็นชัดเลยว่า เหรียญฉลองวัดโพธิ์ 200 ปี เป็น "ต้นแบบ" ให้กับเหรียญ 200 ปี กรุงเทพฯ

จากซ้าย...
-- ฤดูฝน-หยดน้ำ-ลงยาแดง
--ฤดูหนาว-กลม-ลงยาสีเขียว
--ฤดูร้อน-รูปไข่-ลงยาเขียวเข้ม

ด้านหลังจักเป็นท่านใดมิได้ นอกจาก ปฐมบรมกษัตริย์จักรีวงศ์ "สมเด็จพระพุทธยอดฟ้ามหาราช" ในพระอิริยาบท "นั่งเมือง-ครองบัลลังก์" ที่คุ้นตาทั้งสามเหรียญ

พระองค์ท่านทรงเป็นทั้งยอดนักรบและนักปกครอง ทรงนำอาณาจักรผ่านพ้นวิกฤติล่อแหลมมากมาย แม้กระทั่งวิกฤติในครอบครัวที่พี่กับน้องต้องหมองหมางใจกัน เพราะการยุแยงตะแคงรั่วของคนรอบข้างกับบริวาร แต่สุดท้ายก็ได้พิสูจน์แล้วว่า พระปรีชาสามารถของพระองค์ท่านเป็น "สุดยอด" ส่งผลกรุงรัตนโกสินทร์และประเทศไทยยืนนานตราบวันนี้

การบูชาพระองค์ท่านยังถือเสมือน เป็น "ยอดบารมี" สามารถฟันฝ่าวิกฤติได้เฉียบขาด ยืนหยัดมั่นคง ยั่งยืน เอาชนะได้ในทุกสถานการณ์ ลองอาราธนาบารมีด้านนี้ไปใช้บูชาดู รับรองไม่ผิดหวัง!!!

ขอบข้างกะหลั่ยทอง
การผลิตที่มีคุณภาพสูง
ชมเป็นตัวอย่าง1เหรียญ
เหรียญอื่นก็แบบเดียวกัน

ขนาดของความงามเรียงรายกระจาย แต่ละเหรียญงามคนละแบบ หากแยกบูชาก็จะเกิด "รักพี่เสียดายน้อง" ต้องครอบครองให้ครบชุด

กล่องเดิมสุดคลาสสิค บรรยายรายละเอียดหน้ากล่องไม่ต้องเสียเวลาค้นคว้า!

 

รับยอดเรียบร้อยครับพี่วัน ด้วยความขอบพระคุณยิ่งกับทุกรายนามที่ได้มอบความเมตตาให้กับบ้านสวนรักปะทิว

ข้าวสารถูกนำส่งสู่บ้านสวนรักปะทิวเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เมื่อวานก่อนเที่ยงครับ
พร้อมด้วยเงินค่าโครงไก่จำนวน ๒,๐๐๐ บาทจากพี่วันและค่าอาหารแมว ๘๐๐ บาทจากคุณ sepultura

 

วันที่ ๒๒ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันพฤหัสบดี ขึ้น ๑๓ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะ
ใส่บาตรในวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

สะพานบุญแจ้งข่าว ข้าวสารถึงปากท้องคณะสี่ขามะหมา แมวเหมียวเกือบ 200 ชีวิต ณบ้านสวนรัก ปะทิว ชุมพร น้ำใจที่เป็นน้ำเย็นชะโลมดับร้อนผ่อนกระหายแด่เพื่อนร่วมโลก

ร่วมโมทนากันอีกสักรอบมีแต่ดีกับได้

 

บุญยามเช้าก็รอให้ร่วมอนุโมทนา เป็นวันศุกร์ที่สุขสันต์สำหรับทุกท่าน พรุ่งนี้พักผ่อนกันอย่างมีความสุข

 

สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ
เหรียญกฐินวัดศีลขันธ์ฯ-ปี 21
===============

4-5 ปีก่อนขับรถขึ้นทางด่วนแถวกำแพงเพชร ก็เป็นวันรถหนาตาตามปกติ โชเฟอร์เตรียมตัวเบียดเข้ากลาง แต่มีรถด้านขวาวิ่งมาคู่ขนาน ก็เลยวิ่งขนาบกันไป...

"นายครับ ดูรถข้างๆเรา น่าเป็น พระเทพฯ"

เสียงโชเฟอร์แสดงอาการตื่นเต้นสุดขีด ผมรีบมองฝ่ากระจกรถออกไป...

พระเจ้าช่วย...รถ"พระเทพฯ" จริงๆด้วย เป็นขบวนเสด็จที่มีรถติดตามอีกแค่ 2 คัน ไม่มีปิดถนน ไม่มีฉลามสองล้อนำหน้า ปราศจากกองอารักขาใดๆทั้งสิ้น ทั้งที่ท่านเป็นเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน และเห็นชัดว่า กลับจากปฏิบัติภารกิจดูแลช่วยเหลือประชาชน (ค่ำนั้นผมดูข่าวพระราชสำนัก จึงเห็นพระองค์ท่านเสด็จกลับทางนั้น)

ผมรีบยกมือวันทารถข้างๆ ถ้าเปิดกระจกรถเอื้อมมือออกไปก็แทบจะสัมผัสข้างรถได้ แล้วรีบร้องบอกลูกน้อง...

"เฮ้ย เฮ้ย ชะลอเข้าซ้ายให้ท่านไปก่อน อย่าตีคู่อย่างนี้"!!!

พาหนะท่านเลยไป สักครู่ก็ลับตา มีรถหลายคันคงเห็นอย่างเรา ช่วยชะลอให้ท่านเสด็จไปก่อน

ผมได้แต่ครุ่นคิดในความประทับใจสูงสุดว่า ...กระไรหนอ สมเด็จเจ้าฟ้าของเรา จึงกระทำตนเรียบง่ายเช่นนี้ พระองค์ท่านเสด็จทั้งที ไม่มีพิธีรีตองใดเลย

พวก "นักกินเมือง" รกประเทศ เดินทางยังเอิกเกริกยิ่งกว่าเจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน

บางคนมีฉลามบก2 ล้อนำหน้า ปิดท้ายขบวนด้วยฉลาม 4 ล้อ ผ่านด่านทางด่วนฟรี แล้วยังไล่ให้เราคนเสียเงินค่าผ่านทาง หลบทางให้มันอีก...บัดซบแท้!

โคตร...สารพัดใช้นั้น "ภาษี" ประชาชนพวกเราทั้งสิ้น!!!

เจ้าของแผ่นดิน เจ้าของประเทศเสียอีก ไม่เคยล้างผลาญเงินแผ่นดิน มีแต่ควักช่วย ควักจ่ายเพื่อผดุงความสุขของอาณาประชาราษฏร์

ไอ้พวกแย่งเปรตมาเกิดที่บังอาจกระทำการสุดเลวร้าย รบกวนขบวนเสด็จฯ ซึ่งพระองค์ท่านไม่เคยรบกวนใคร ...พวกมันสมควรอยู่ในที่มันอยากอยู่ให้นานๆ อดอาหารจนเท่งทึงไปเลยก็ดี แผ่นดินนี้จะได้สูงขึ้น

นำความประทับใจครั้งหนึ่งในชีวิตที่เจอกับตัวเองมาเล่า เพื่อให้รู้ว่า เหตุใดพระองค์ท่านจึงทรงเป็นที่รักของประชาชนทั่วแผ่นดิน เว้นพวกหนีนรกมาเกิดไม่กี่ตัว

และนำเหรียญสิริโฉมพระองค์ท่าน มาให้ร่วมบุญบูชาเป็นศิริมงคลแด่ตน สมกับภาษิตธรรม 1 ในมงคลชีวิต 38 ที่ว่า...

"ปูชา จะ ปูชะนียานัง"...จงบูชาบุคคลที่ควรบูชา เป็นมงคลชีวิตโดยแท้!

เหรียญสร้างตั้งแต่ปี 2521 อายุ 46 ปีมอบร่วมบุญไม่ให้เดือดร้อน...

=======300=======

45-46 ปีแล้วสำหรับเหรียญนี้ กะหลั่ยทองยังผ่องใสสวยสด มีผิวหิ้งประปรายจากกาลเวลาผ่านเนิ่นนาน

เหรียญทอดกฐินต้นที่วัดศีลขันธาราม จ.อ่างทอง โดยท่านพระครูสนิทศีลขันธ์ หนึ่งในศิษย์ "ท่านเจ้าคุณนรรัตน์ฯ" ผู้สร้างสมเด็จสายรุ้งวัดศีลขันธ์ฯ และเป็นสหายธรรมรุ่นน้อง หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี !

ท่านสร้างเหรียญ พระเครื่องวัตถุมงคลทุกครั้ง ต้องนิมนต์ "หลวงปู่โต๊ะ" ร่วมด้วยช่วยหนุนพลังเสมอ

สำหรับเหรียญนี้ไม่มีการบันทึกประวัติว่า "หลวงปู่โต๊ะ" ร่วมในพิธีหรือไม่ แต่เมื่อดูจากการเสด็จขององค์สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ แล้ว บวกกับท่านเจ้าคุณสนิทเป็นเจ้าภาพ...

ไม่มี "หลวงปู่โต๊ะ" งานนี้สิเป็นเรื่องแปลก!
พระนามาภิไธยสวยงามพระองค์ท่าน กับรายละเอียดหลังเหรียญ เก็บไว้บูชา เป็นประวัติศาสตร์ หรือจะเป็นวัตถุมงคลชั้นยอดคุ้มตัว ก็ได้ทุกรูปแบบ

ขนาดสวยงามทั้ง 2 เหรียญ นำวางคู่กันแล้วดูดีมาก

 

คนฉลาดหา ฉลาด ใช้ คือ รู้ จักพอ
สมบัติ ของโลก ขึ้นอยู่ กับ ความ ฉลาด หรือ โง่
ของผู้แสวงหา ถ้าหาด้วยความ โง่เขลา
คือ ไม่รู้ จักพอ หาจนเกินตัว เกินความจำเป็น
หาจนสมบัติ ที่หาได้ สร้างความเดือดร้อน
ความทุกข์ ใจ ให้กับตัวเอง
อย่างนี้ เรียกว่า มีมาก จนทุกข์
คือทุกข์ ไม่รู้ จักพอ
ทุกข์ ที่ ต้อง การ ในการ เสาะหา
ทุกข์ ที่ ต้อง ใช้
ทุกข์ ที่ ต้อง รักษา
ทุกข์ ที่ ต้อง หวง ต้องห่วง
สารพัดทุกข์ ที่เกิด ขึ้น ในจิตใจ
บางคน อยากจนไม่ รู้ จักเป็น ไม่รู้ จักตาย
ประมาท เพลิดเพลิน กับ การ เสาะหา
แย่งชิง ตักตวง เพลิดเพลิน กับการใช้ ชีวิต
หาสมบัติ ของโลก มาไว้ ครอบครอง จน ท่วม หัว
หลงตัวเองว่า ฉลาด เก่ง มีเงินทอง มีความสามารถ
หา รู้ ไม่ ว่า พอแก่ เฒ่า หรือ ใกล้ตาย
ความหวง ความห่วง ก็ยังตามให้ ทุกข์
ทุกข์ไปกับ สมบัติ ของตัวเอง
เรียกว่า ตายก็ ยัง ไม่เป็น สุข
อย่างนี้ เป็นต้น ฉนั้น ขอเธอทั้งหลาย
จงอย่าประมาทเลย

(หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี)

 

วันที่ ๒๔ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๖๗ ตรงกับวันเสาร์ ขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๓ ปีเถาะ
ใส่บาตรในวันนี้
โมทนาบุญร่วมกันครับ
สุทินนัง วะตะเม ทานัง อาสะวักขะยาวะหัง
นิพพานะ ปัจจะโย โหตุ ปัจจุบันเนกาเล

 

ข้างขึ้น 15 ถือเป็นวันพระใหญ่กลายๆ สตรีทบุญ ริมฟุตบาธครึกครื้นหลาย ร่วมอนุโมทนาหลังมื้อเที่ยงวันหยุด ทั้งอิ่มท้องกับอิ่มใจ รวมความวันพระนี้ตอนเช้าใส่บาตรเอง ตอนบ่ายร่วมอนุโมทนา สุขสันต์วันเสาร์ครบเครื่อง!

 

ความทุกข์เกิดจาก"ไม่รู้พอ"
'หลวงปู่'เตือนอย่าหลงทาง...

หาเท่าไหร่....ไร้รู้พอ
กรรมเกิดก่อ..ห่อหุ้มห่วง
หวงสมบัติ.....รัดรึงทรวง
โลกล่อลวง....ปวงคนเขลา
--เกียกตะกาย..ตายยังยอม
--ทุกข์แห่ห้อม..ย้อมแผดเผา
--หยุดมัวเมา....เฉาบรรเทา
--น้อมจิตเข้า...เจ้าจง...'พอ'!

 

"หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว"
ปาฏิหาริย์โลกไม่ลืมปี 2512
=============

สงครามเวียดนามเริ่มเป็นทางการจริงๆ มีทหารสหรัฐอเมริกา กับฝ่ายพันธมิตรเช่น ทหารไทยเข้าร่วมรบตั้งแต่ปี 2507-2518 ก่อนหน้านั้นก็เป็นสงครามย่อยๆภายในประเทศระหว่างเหนือ-ใต้ และเติมความขัดแย้งในลาวกับเขมรพ่วงไปด้วย

ทุกสงครามที่ทหารไทยเข้าร่วมสมรภูมิ ต้องยก "กองทัพวัตถุมงคล" ไปร่วมด้วยช่วยกำลังใจเสมอ จนกระทั่งทหารต่างชาติตาน้ำข้าว ก็เริ่มเลื่อมใสตามไปด้วยเมื่อเห็นสรรพคุณ "ทหารผี" ยิงไม่เข้า ฆ่าไม่ตายของทหารไทยคาตาหลายหน และคนมีเมียไทยที่สมัยก่อนเรียก "เมียเช่า" ก็รับวัตถุมงคลจากภรรเมียไปคุ้มตัว

กลายเป็นทหารต่างด้าว ท้าวต่างแดน นิยมชมชอบวัตถุมงคลพระเครื่อง เครื่องรางของขลังไทย จนทางการสหรัฐให้ความสนใจเป็นเรื่องราวใหญ่โต

ประสาฝรั่ง อยากได้สิ่งใดก็ต้องทดสอบเป็นวิทยาศาสตร์ เช่น...
-- ยิงไม่ออก ก็ต้องลอง
--ยิงไม่เข้าก็ต้องสำแดงความเป็น "เสื้อเกราะ"ให้เห็น
--ยิงไม่โดนชนิดห่างแค่วาเดียวก็มาเจอกันหน่อยสิ!!!

เรื่องราวต่อไปนี้ จึงขอคัดลอกจากบันทึกของ พ.ต.อ.ชลอ อุทกภาชน์ นายตำรวจผู้เขียนหนังสือโด่งดัง "แว่นส่องจักรวาล" และเป็นผู้อยู่ในเหตุการณ์ ทดสอบด้วยมือตัวเองด้วย เขียนและจัดพิมพ์ปี 2512 ช่วงสงครามเวียดนามกำลังระอุลุกโชนยิ่งกว่าไฟไหม้ป่า...

*** จากประสบการณ์ การรบใน "สงครามเวียดนาม" หลายต่อหลายครั้งทั้งจากต่อหน้าต่อตาทหารอเมริกัน และจากคำบอกเล่าของเพื่อนทหารในสนามรบ ทำให้ทหารอเมริกันได้ประจักษ์และยอมรับในความศักดิ์สิทธิ์ของพระเครื่องและเครื่องรางทหารไทย

จนมีทหารอเมริกันบางกลุ่มได้นำพระเครื่องของไทยห้อยคอ เพื่อคุ้มครองความปลอดภัย และทุกคนต่างเกิดประสบการณ์มากมาย

ทางการสหรัฐจึงได้ตั้งหน่วยงานขึ้นเพื่อรับซื้อพระเครื่องและเครื่องรางฯ จำเพาะเจาะจงให้มีคุณสมบัติ "มหาอุตม์" เป็นเงินจำนวน 40 ล้านบาท

โดยได้ขอร้องให้คณะนายทหารติดต่อของไทย ช่วยตรวจสอบว่าเป็นของแท้ มีความศักดิ์สิทธิ์ตามที่พวกเขาต้องการหรือไม่?

การทดสอบมีขึ้นที่สนามยิงปืนของทหารเรือที่บริเวณป้อมพระจุลฯ และตัวผู้เขียนเองก็ได้ร่วมทดสอบในครั้งนี้ด้วยตัวเอง

ผลการทดลองยิงในระยะ 2 เมตร 1 เมตร และครึ่งเมตร แต่กระสุนผิดเป้าทุกนัดแสดงถึงอิทธิฤทธิ์ในด้าน "แคล้วคลาด" คือ...

1...เหรียญ หลวงปู่สีมั่น วัดห้วยลาด จ.สงขลา
2...เหรียญพระพุทธชินราชรุ่นแรก
3...แหวน และพระพุทธชินราชของหลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ***
________________________

ตัดเรื่องราวให้อ่านกันเพียงแค่นี้ เพราะเขาไม่ได้บอกว่า "ยิงกระจุย" ไปกี่ร้อยกี่พันชิ้น บอกแค่ผลทดสอบของขลังที่ "ผ่าน" ต่อหน้าต่อตาชัดเจน ของที่ "ไม่ผ่าน" ไม่เอามาบอกจะเป็นการ "ประจาน" ปลี้ๆเปล่าๆ

ทุกชิ้นที่ผ่านไม่มีข้อกังขา แต่ชิ้นที่ 3 ที่บอกว่า เป็น "พระพุทธชินราช"-หลวงพ่อขอม" นั้น ผมขอ "ฟันธง" ว่า ผู้เขียนบันทึกผิดเพราะไม่รู้จักพระเครื่องมาก หรือรู้ดีพอ?!?

พระองค์นั้นของ "หลวงพ่อขอม" ต้องเป็น "พระพุทธโคดม ปี 2508" คือกริ่งพระพุทธโคดม มองผิวเผินไม่ลึกซึ้ง คนสมัยก่อนตีพระนั่งมารวิชัยเป็นพระพุทธชินราช เสียหมด เหมือนกับตีพระนั่งสมาธิเป็น "หลวงพ่อโสธร"

พระกริ่งพุทธโคดม สร้างปี 2508 นำมาทดสอบ ปี 2512 ได้เหลือเฟือสบายมาก ส่วน "แหวน" ไม่มีอันใดที่ต้องกังขา

บันทึกล้ำค่าคู่ควรเมือง เปิดม่านโลกวัตถุมงคลอันศักดิ์สิทธิ์เป็นที่ยอมรับแม้ในหมู่ทหารหาญตาน้ำข้าวนี้ ถ้าหากกระจายออกไปในหมู่นักสะสมพระเครื่องให้มาก พระ "หลวงพ่อขอม" วัดไผ่โรงวัว ที่ผมเคยย้ำแล้วย้ำอีกว่า ...พระของท่านสุดแสนจะมีคุณค่ามหาศาล ทั้งการสืบทอดพระพุทธศาสนา และ พุทธศิลป์ +พระพุทธคุณสูงล้ำ ก็จะทะยานติดปีกมีราคาเล่นหาสะสมมากกว่าเดิมอีกหลายเท่าตัว!!!

เพียงแต่ "เสี้ยนขายพระ" กลัวว่า พระหลวงพ่อขอม สร้างไว้เยอะมาก ขืนหยิบมาเล่น อาจจะ "ติดมือ-ตายรัง' หรือเป็นการเตะเนื้อเข้าปากสุนัข...เชียร์ไปคนอื่นรวย ฯลฯ

พระเครื่อง "หลวงพ่อขอม" ของดีจริง ที่โลกไม่มีวันลืม จึงอยู่ในวังวน "รอวันโต" ปล่อยให้ "ของไร้คุณภาพ" ฉาบฉวยแต่รวยด้วยโฆษณาและการ "อวย" ของเสี้ยนน้ำเน่าที่ทุ่มทุนเชียร์กลายเป็นพระดี แต่ไม่มีประสบการณ์ ราคากระฉูดล้ำหน้าของดีทีเด็ด เพชรแท้ไปมากต่อมาก!!!

ทั้งที่บางยี่ห้อ "ให้ฟรี-มีข้อแม้ต้องขึ้นคอ-ห้ามขายต่อยังเคือง" อย่าว่าแต่จะควักเงินหมื่น เงินแสนซื้อ

เมื่อเขียนเรื่องราวน่าทึ่งเหนือโลกอันมีหลักฐานประจักษ์พยานยิ่งใหญ่เชื่อถือได้ และล้ำค่ากันแล้ว ก็หยิบ "กริ่งพระพุทธโคดม" รุ่นที่ผ่านการทดสอบ ปี 2508 มาฝากแฟนๆ ให้ร่วมบุญ

พระคุณภาพเกินล้าน สร้างมาเกือบ 60 ปี ให้บูชาหลักร้อย แต่โทษที...ใช่ว่าจะหาได้ง่ายๆ

=======900=======

กริ่ง "พระพุทธโคดม"ตัวหนังสือจม เนื้อโลหะทองผสม ที่นายตำรวจใหญ่คนทดลองยิงต่อหน้าทหารต่างชาติ ในปี 2512 ยังเข้าใจว่า เป็นพระพุทธชินราช หากไม่มี "แหวน" หลวงพ่อขอม ที่ยิงไม่ออก ยิงไม่โดนด้วยในครั้งนั้น ท่านอาจเลือนหายไปจากความทรงจำ เพราะความเข้าใจผิดของคนไม่เล่นพระ หรือเป็นพระ !

(((กระทู้ต่อไป มีแหวน "หลวงพ่อขอม" รุ่นทดลองยิง ผมถอดจากนิ้ว ให้ชม)))


ผิวหิ้ง ไม่ผ่านการใช้ เก่าด้วยกาลเวลาที่เกินครึ่งศตวรรษ ยาเคลือบบางส่วนตามซอกองค์และตัวหนังสือเหลืออยู่ประปราย

ก้นกลึงงดงาม จำให้แม่น พระกริ่งหรือรูปหล่อเนื้อโลหะ "ก้นกลึง" อายุสร้างเกิน 50 ปีแบบนี้ เจอของวัดอะไรก็ "แท้ตาเปล่า" ไม่ต้องลงกล้อง เครื่องจักรแบบก้นกลึงไม่มีผลิตนานแล้ว ส่วน "ก้นวงเดือน" เก๊ง่ายกว่า สามารถใช้ตะไบปาดแต่งให้เป็นร่องรอยวงเดือนได้ (((ตัวอย่างเช่น รูปหล่อหลวงพ่อโสธร ปี2508))) แม้จะไม่เหมือนนัก แต่คนโลภมากกับของถูก ก็ "โดน" ได้เหมือนกัน

"ก้นกลึง" ลักษณะนี้ หากไม่รู้ที่ ไม่รู้วัด ก็หยิบมาแล้วไป "หาวัด-หาหลวงพ่อ" ให้ท่านทีหลัง !

ความงามที่ยังเปล่งประกายฉายแสง เปี่ยมพุทธศิลป์+พุทธคุณ ไม่รู้ลืม...!

 

ขอนิมนต์ครับ

 

กำลังจะลุกไปหยิบ "แหวน-หลวงพ่อขอม" ถ่ายรูป น้องคัมภีร์ ก็ไม่รอช้า นิมนต์ "พระพุทธโคดม" ไปเรียบร้อย

พระแท้เปรียบเสมือนเพชรแท้ราคาเพชรรัสเซีย รีบๆเก็บสะสมไว้ อีกไม่นานก็จะเปล่งประกายตามความเป็นจริง เหมือนที่พูดกันเสมอ...ทองคำแท้อยู่ที่ไหนก็เป็นทอง เพชรแท้อยู่หนแห่งใดก็คือเพชรวันยังค่ำ!

โมทนาน้องคัมภีร์ เรื่องราว "หลวงพ่อขอม" สาธยายมานักแล้วในรอบหลายปีมานี้ พระดีที่เราควรมีติดบ้านและอยู่ในคอสักองค์ จัดส่งท่านเดินทางวันจันทร์ครับ

 

สวัสดีวันพระใหญ่ค่ะคุณอา และสมาชิกทุกท่าน
หนูพักหลังผ่าตัดอยู่บ้าน ก็ได้แต่โอนทำบุญต่างๆ ไปเบาๆตามกำลัง พักนานตั้งแต่ผ่า ยังออกไปไหนไม่ได้เลย หมอบอกห้ามขับ 2 สัปดาห์ค่ะ
ยังดีข้างบ้านมีร้านกาแฟให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเดียวในตอนนี้ค่ะ

 

น้องจิังทักวันหยุดขณะพักหลังโดนลงมีดหมอ มีแรงทักทายและออกไปดื่มกาแฟข้างบ้านได้ ก็ถือว่าการผจญภัยกับหมอคราวนี้ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

รักษาตัวตามคำสั่งหมอให้ตรงตามนั้น ก็จะสบายหายห่วง อย่าเหมือนเพื่อนผม เมื่อ 2 ปีก่อน ไปผ่าตัดแผลในปอด พอผ่าเสร็จ หมอสั่งให้พักผ่อน 2-3 อาทิตย์ แต่อีเป็นคน "ไฮเปอร์" อดลุกขึ้นมาทำงานสั่งการ สั่งงานลูกน้องแบบลืมตัว

ผลสุดท้าย...ตายสิครับจะเหลืออะไร แผลผ่าตัดยังไม่สมานดี ก้อนเลือดหลุดเป็นลิ่มเข้าไปอุดปอด เพราะเคลื่อนไหวมาก ช่วยไม่ทัน--เฮ้อ เขียนแล้วเศร้า เล่าแค่นี้พอ

ไม่ต้องคิดถึงเรื่องทำการทำงานมาก พัก 2 อาทิตย์ถือว่าไม่นานนัก เหงานัก ก็ฟัง "เรื่องเล่า-ทางเสียง" ของน้องทำจิตฯเพลินหู จะนอนอ่าน "นักขุดกรุฯ" ซ้ำอีกสักเที่ยว ก็ไม่เบื่อตาแน่นอน

แข็งแรงเร็วไว บารมีพระแม่กวนอิม+องค์ปู่ชีวกฯ ดูแลคุ้มครองครับ

 

แหวน-หลวงพ่อขอม!
===============

หนึ่งในวัตถุมงคล หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว ที่ผ่านการทดสอบ จ่อยิงโดยนายตำรวจ-ทหาร ผู้เชี่ยวชาญอาวุธ ห่างแค่ครึ่งเมตร ไม่ถึงวาด้วยซ้ำในปี 2512 ตามคำขอทางการทหารสหรัฐอเมริกา

"แหวน-หลวงพ่อขอม" วงที่ทดสอบ ไม่ใช่วงที่นำมาให้ชม แต่เป็นแหวนสร้างรุ่นปี 2505-08 ช่วงที่อยู่ในระยะนี้แหละ ที่นำไปทดสอบปี 2512

ถอดจากนิ้วให้แลเพลินๆกับความสมบุกสมบันที่ผมอาราธนาท่านผ่านศึกเหนือเสือใต้ พ่วงด้วยต่างแดนนับไม่ถ้วน...
เนื้อโลหะผสมหลายยี่ห้อ สมัยโบราณ "หลวงพ่อขอม" ท่านมิได้มีทุนรอนมากมาย โลหะหลากหลายชนิดได้มาจากการบริจาคของชาวบ้าน บ้างก็เอาข้าวสารที่ท่านพายเรือบิณฑบาตรมาได้ เอาไปแลก!

ดังนั้นแหวนเนื้ออัลปาก้าผสมเป็นเนื้อเงินแปะตั้งใช้ไปหลายสิบปี บุบบ้บบู้บี้กลายเป็นทองเหลืองไม่ใช่ ทองแดงก็ไม่เชิง เชิญทัศนาตามนั้น

แต่สิ่งหนึ่งที่พึงสังเกต...คือ "ใบหน้า-หลวงพ่อขอม" หนุ่มแน่นมาก แหวนวงนี้จึงไม่เกินปี 2508 แน่เสียยิ่งกว่าแช่แป้ง

ขนาดของวงค่อนข้างหลวม เพราะใช้มานานจากนิ้วนางขยับมาเป็นนิ้วกลางกับนิ้วชี้ ตอนนี้เริ่มหลวมอีก ถอดเก็บดีกว่าก่อนจะต้องใส่นิ้วหัวแม่มือ-ฮ่า

ด้านข้างสลักว่า ...สมเด็จพระพุทธโคดม" แต่ตัวหนังสือเลือนเหลือนิดเดียว

ด้านนี้บอกไว้ว่า ..."วัดไผ่โรงวัว" ส่วนด้านในเป็นยันต์ที่ท่านจารให้ ไม่เหลืออักษรใดๆให้เห็นแล้วครับ แต่บอกละเอียดไว้เผื่อท่านใดไปพบเจอสภาพดี จะได้ทราบว่า ควรดูตรงไหนบ้าง...???

--ใบหน้าหลวงพ่อขอมหน้าหนุ่ม
--ปั้ม "สมเด็จพระพุทธโคดม"
--ปั้ม "วัดไผ่โรงวัว"
--มีจารหรือตอกอักขระด้านในก็ได้

โชคดี มีชัย หลวงพ่อขอม อนิโช ปกป้องแคล้วคลาด ปลอดภัย ทำงานใหญ่ งานเล็ก สำเร็จสมประสงค์ทุกเมื่อ!

 

"พระพุทธโคดม 2508"
หลวงพ่อขอม วัดไผ่ฯ
===============

รายการ "ถอดจากคอ" ต่อด้วย"กริ่ง-พระพุทธโคดม 2508" หลวงพ่อขอม อนิโช รูปเหมือนปั้ม ก้นกลึง องค์งามเนื้อทองเหลืองหรือทองผสมยุคนั้น

ประวัติอัศจรรย์ที่บันทึกไว้แจ่มแจ้ง โดยผู้กระทำการทดสอบเพื่อนำวัตถุมงคลชั้นยอดของประเทศไทยมอบให้กับทหารหาญสหรัฐอเมริกาในสงครามเวียดนามเมื่อปี 2512 ถ่ายทอดไว้ข้างบนเต็มคาราเบล เชิญเหลือบอ่านด้านบนไม่ต้องลากมาให้เปลืองเนื้อที่เว็ป

พระกริ่งพุทธโคดมสุดงามพร้อมตลับ ขึ้นคอบูชาเป็นศิริมงคลชีวิตได้ทันที ราคาเดิม...

=======900=======

องค์พระพุทธโคดม เปล่งประกายงดงาม น้ำทองยังกระจายทั่วสรรพางค์ งามสรรพงามสมกับเป็นพระพุทธรูปใหญ่สุดของประเทศไทยองค์แรก แม้ปัจจุบันจะมีหลายๆองค์สร้างยิ่งใหญ่กว่า แต่ความเป็น "องค์แรก" ย่อมไม่มีใครแซงหน้าได้

นี่คือบารมีและความบากบั่นพากเพียรของ หลวงพ่อขอม อนิโช พระบ้านนอกผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ที่สุดได้อย่างน่าเหลือเชื่อ การนับถือ เคารพ บูชา "พระผู้สำเร็จ" ย่อมเป็นศิริมงคลสูงสุดของชีวิตอีกประการ!

ด้านหลังงดงามไม่แพ้ด้านหน้า

ก้นกลึง ความน่าทึ่งของเครื่องจักรโบราณ ที่ทำให้เกิดร่องรอยยากแก่การปลอมแปลง กริ่งดังดี มีสกุล

ปลดจากคอ พร้อมตลับ
เก่าอย่างดี ขึ้นคอบูชา
ได้ทันที ไม่สิ้นเปลือง!

 

รับครับ

 

ความศักดิ์สิทธิ์เหนือโลกและความงามเหลือเชื่อของกริ่งพระพุทธโคดมอายุสร้างเฉียด 60 ปี อยู่ไม่ข้ามชั่วโมง น้องแดงก็อาราธนาท่านให้อยู่เมืองกรุงต่อไป อย่าออกตจว.เสียหมด คนกรุงก็ต้องการความแคล้วคลาด ปลอดถัยสูงที่สุดในทุกวันนี้

ชีวิตคนเมืองหลวง ถ้าดูจากข่าวแต่ละวันจะรู้ว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายในการระมัดระวังตนให้ปลอดภัยจากสารพันอันตรายรอบด้าน แค่ขับรถออกไปก็มีสิทธิ์เฉี่ยวชน ปาดหน้ากัน เจอ "คนหัวร้อน" ก็มีเรื่องง่ายๆ แต่จบยาก ยังไม่นับอีกเยอะเรื่องที่ต้องเซฟตัวเองให้มาก

การมีตัวช่วยชั้นยอดทางใจเพื่อคุ้มครองกายด้วย จึงเป็นเรื่องหลีกเลี่ยงไม่พ้น เลือกคุณพระคุณเจ้าให้ถูกองค์และอาราธนาดีๆ ท่านใช่จะช่วยให้ปลอดภัยเท่านั้น ยังช่วยหนุนปลอดโปร่งในด้านทำมาหากินอีกด้วย

หลวงพ่อขอมจะตักเตือนคนชอบเล่นการพนัน (เรื่องนี้ผมเคยเล่านานแล้ว) ทั้งที่พบหน้ากันหนแรก ไม่ทราบท่านรู้ได้อย่างไร ก็ต้องบอกว่า "ญาณทัศนะ" ท่านแจ่มใส หากตั้งใจมองใครก็จะแจ่มแจ้งแทงทะลุเข้าหัวใจ เป็นอีกหนึ่งอริยเจ้าที่ผมกราบไหว้ได้สนิทใจ ไม่ต้องคิดข้องจิต แม้นิดเดียว!!!

โมทนาน้องแดง เคาะแรกของปีมังกร ก็เลยถือโอกาสคุยยาวนิด จัดส่งท่านเดินทางวันจันทร์ครับ

 

รูปหล่อโบราณอุดกริ่ง-ปี05
"หลวงพ่อขอม วัดไผ่โรงวัว"
===============

หลวงพ่อขอม อนิโช สร้างพระไว้มากเกลื่อนธรณีตามปณิธานสูงส่ง 5 ข้อก็จริง แต่เป็น...พระเนื้อดิน!!!

หากเป็น "เนื้อโลหะ" โดยเฉพาะยุคต้น ตั้งแต่ปี 2497-2500-2505-2508 ห้วงพ.ศ.เหล่านั้น สร้างน้อยทุกอย่างแค่หลักพัน บ้างก็"หลักร้อย"!

หลับตานึกภาพความขาดแคลนสิ้นไร้ของวัดบ้านนอก+พระบ้านนอกกลางทุ่ง บิณฑบาตรยังต้องพายเรือไปทางน้ำ บอกบุญชาวบ้านร้านถิ่นด้วยมานะพยายามไปตลอดทาง

ชาวบ้าน ชาวทุ่ง นั้นเล่า ส่วนใหญ่ก็ยากจน มีอันจะกินก็เพราะปลูกข้าวทำนา ทำสวน ทำไร่หาเลี้ยงชีพ พอมีกิน แต่ไม่มีเหลือ!

การจะหาเนื้อโลหะมาสร้างพระ ทำพระของ "หลวงพ่อขอม" จึงเป็นไปด้วยความยากลำบาก หรือพูดได้เต็มปากว่า...แสนสาหัส!!!

ผู้ที่สงเคราะห์นำสิ่งเหล่านี้มาบริจาคและมอบให้ ต้องเสียสละเพราะเห็นคุณงามความดี คุณวิเศษในตนของ "หลวงพ่อขอม" อย่างแท้จริง จึงเต็มใจทำบุญกับท่านอย่างไม่เสียดาย ทั้งที่ตนเองก็มีน้อย

นี่คือ...วิถีธรรม วิถีทางยิ่งใหญ่ ที่บารมีคุณความดี "หลวงพ่อขอม" แผ่กำจายครอบคลุมท้องทุุ่งสุพรรณฯ "วัดไผ่โรงวัว" สามารถเรียกศรัทธามหาศาลจากทั่วสารทิศมาร่วมทำบุญ พระเครื่องของท่านจึงเป็นวัตถุมงคลอันสุดยอดพิถีพิถัน บากบั่นฝ่าฟันตั้งแต่ เนื้อหา- การสร้าง บวกการปลุกเสก...ฯลฯ

พระทรหดกับความมานะพยายามสูงสุด วัตถุมงคลของท่านคู่ควรกับการเคารพบูชา ยิ่ง "เนื้อโลหะ -ยุคต้น" อาราธนาไปเถอะ ของมีไม่มาก ไม่เหมือนเนื้อดินที่มีหลายสิบตุ่ม สิบไห แต่บางพิมพ์ก็ใช่จะมีมากเหมือนกัน

รูปเหมือนหล่อโบราณอุดกริ่ง รุ่น 2 ปี 2505 เป็นหนึ่งในรูปหล่อที่หาไม่ง่ายแล้วทุกวันนี้ มีประกวดทุกงานตั้งแต่ 30-40 ปีที่แล้ว คัดองค์สวย ผิวเดิม ไม่ผ่านการใช้มอบร่วมบุญ...

=======2,200=======

เนื้อทองเหลืองหรือเนื้อทองผสม อายุสร้างเกิน 60 ปี ผิวแห้งสนิทหมดผิวไฟ เป็น "ผิวหิ้ง" สุดแสนคลาสสิค เข้ากับการ "หล่อโบราณ"

สร้างไว้ 2 พิมพ์คือ พิมพ์นี้เป็นพิมพ์ใหญ่ อีกแบบจะพิมพ์เล็กแต่ไม่เล็กมาก ผอมชลูดหล่อตัน มีทั้งรมดำและไม่รม
ผิวพรรณด้านหลัง ยิ่งดูง่าย ความเก่าอยู่ครบ ความขลังก็ไม่น่าจะหายไปไหน เพราะไม่ผ่านการใช้ ท่านได้แต่สดับเสียงสวดมนต์เพิ่มเติมในห้องพระอีกหลายสิบปี ยิ่งขลังทวีคูณ!

ด้านข้างอย่างหนา
เม็ดผดเม็ดเกินสวย
ศึกษาเนื้อหาโบราณ
เป็นครูไว้ดูอย่างอื่น
ได้อีกมาก!

ก้นอุดกริ่งในตัวเขย่าดังขลุก ขลุก รอยตะไบเก่า เส้นใหญ่หนา หยาบ ทุกอย่างมีคุณค่าทั้งการบูชา และการศึกษาหาความรู้

หล่อโบราณ
ที่ไม่บานบุรี
หนึ่งในของดี
ศรีสุพรรณฯ