**พระกรรมฐานสาย ลป.ชอบ ลป.คำดี ลป.หลุย และครูบาอาจารย์สายต่างๆ**//

ท่านสมาชิกที่ร่วมบุญ สามารถโอนปัจจัยได้เลยนะครับ
รับ เหรียญพระพุทธรัตนมาลา - พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ



*****************​

- ddon7650 2 +1 โอนปัจจัยแล้ว
- Cajun 5 + 1โอนปัจจัยแล้ว
- อาทิตย์03 5 + 1
- shaj 5 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- muangake 5 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- สิริพงษ์ 10 + 1
- api_suphot 2 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- songsakth 3 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- เบเบ้ 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- pcharn 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- vando1541 2 + 1
- somsakasat 5
- SIR2010 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- Pkongja 2
- sunmk 3 + 1
- น้ำหนึ่ง 3
- A-tom 5 โอนปัจจัยแล้ว
- suwan 5 โอนปัจจัยแล้ว

********************​

...หมายเหตุ. +1 = รูปหล่อขนาดบูชาพระพุทธจักรพรรดิ 1 องค์

....ขออนุโมทนาบุญกับสมาชิกทุกท่านด้วยนะครับ​

***ท่านสมาชิกสามารถติดตามการดำเนินการ จนกว่าจะแล้วเสร็จในหน้าบอร์ดนี้ได้เลยนะครับ ผู้เขียนจะทะยอยแจ้งให้ทราบทุกระยะในระหว่างการดำเนินการ

จนกว่าจะแล้วเสร็จ อธิษฐานจิต และ ถวายปัจจัยครับ แล้วจะบันทึกภาพมาให้ร่วมอนุโมทนากันอีกครั้งครับ สาธุครับ

​

 

ท่านสมาชิกที่ร่วมบุญ สามารถโอนปัจจัยได้เลยนะครับ
รับ เหรียญพระพุทธรัตนมาลา - พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ



*****************​

- ddon7650 2 +1 โอนปัจจัยแล้ว
- Cajun 5 + 1โอนปัจจัยแล้ว
- อาทิตย์03 5 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- shaj 5 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- muangake 5 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- สิริพงษ์ 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- api_suphot 2 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- songsakth 3 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- เบเบ้ 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- pcharn 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- vando1541 2 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- somsakasat 5 โอนปัจจัยแล้ว
- SIR2010 10 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- Pkongja 2 โอนปัจจัยแล้ว
- sunmk 4 + 1 โอนปัจจัยแล้ว
- น้ำหนึ่ง 3 โอนปัจจัยแล้ว
- A-tom 5 โอนปัจจัยแล้ว
- suwan 5 โอนปัจจัยแล้ว

********************​

...หมายเหตุ. +1 = รูปหล่อขนาดบูชาพระพุทธจักรพรรดิ 1 องค์

....ขออนุโมทนาบุญกับสมาชิกทุกท่านด้วยนะครับ​

***ท่านสมาชิกสามารถติดตามการดำเนินการ จนกว่าจะแล้วเสร็จในหน้าบอร์ดนี้ได้เลยนะครับ ผู้เขียนจะทะยอยแจ้งให้ทราบทุกระยะในระหว่างการดำเนินการ

จนกว่าจะแล้วเสร็จ อธิษฐานจิต และ ถวายปัจจัยครับ แล้วจะบันทึกภาพมาให้ร่วมอนุโมทนากันอีกครั้งครับ สาธุครับ

​

 

...วันนี้ครับ 19/12/2566 ทางโรงหล่อได้รับ "มหาชนวนมวลสาร" รัตนมาลา เพื่อหล่อเหรียญพระพุทธรัตนมาลา และ รูปหล่อพระเจ้าจักรพรรดิ แล้วครับ..

...วันนี้เริ่มหล่อ "รูปหล่อพระเจ้าจักรพรรดิ" ก่อนครับ ชนวนมวลสารเข้มข้น มากๆครับขนาดหล่อผสมกับแร่เงินยวง

....วันพรุ่งนี้ถึงจะหล่อเหรียญหล่อ เหรียญพระพุทธรัตนมาลา - พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ โดยใช้ "มหาชนวนรัตนมาลา" หล่อ 100% เลยครับไม่ผสมโลหะจากทางโรงหล่อเลย เพราะจำนวนสร้างน้อยชนวนมวลสารจึงพอดิบพอดีครับ

ปล.เหรียญเหรียญพระพุทธรัตนมาลา - พระพุทธศรีสรรเพชญดาญาณ เป็นงานแกะมือแบบโบราณนะครับ(Handmade) เพราะท่านอาจารย์บุญเลิศแนะนำ เพื่อคงความเป็นเอกลักษณ์ความสวยงามและเข้มขลังไว้ เพราะงานปริ้น 3d ท่านบอกว่ามันดูแข็งๆครับ เลยให้ช่างแกะมือแบบนูนต่ำ งานจึงออกมาสวยแบบโบราณๆครับ..

รูปหล่อพระจักรพรรดิรัตนมาลา
ผสมมหาชนวนรัตนมาลา + แร่เงินยวงแล้วยังออกสีแก่มวลสารครับ
(อาจจะสีกลับในภายหลังครับ)





หุ่นเทียนที่ถอดพิมพ์แล้ว รอหล่อมหาชนวนพรุ่งนี้ครับ
​

 

​

....พรุ่งนี้ 26/12/2566 เป็นวันฤกษ์ดีครับเรียกว่า "วันเป็งปุ๊ด เป็นสำเนียงทางภาคเหนือซึ่งเป็นวันขึ้น 15 ค่ำที่ตรงกับวันพุธ" โดยมีความเชื่อแต่โบราณว่า "พระอุปคุต" ท่านจะออกจากนิโรธสมาบัติขึ้นมาจากสะดือทะเล เพื่อมาบิณฑบาตโดยผู้ใดได้ใส่บาตรพระอุปคุตแล้วในเวลานี้จะมีมหาโชค มหาลาภอันใหญ่..

...ในวันนี้เองครับทางคณะจะได้นำ "เหรียญหล่อพระพุทธรัตนมาลา" และรูปหล่อขนาดบูชาพระมหาจักรพรรดิ์ กราบเข้าขอเมตตา "พระเดชพระคุณพระราชวชิรสุธี" เมตตาอธิษฐานจิตวัตถุมงคลชุดนี้ทั้งหมดครับ

....โดยต้องขอบอกท่านสมาชิกก่อนเลยครับว่า "วัตถุมงคลชุดนี้โดยเฉพาะเหรียญหล่อรัตนมาลา" ทางโรงหล่อแจ้งมาว่าหล่อยากมากๆ หล่อเสียถึงสองรอบ กะนั้นหลายองค์ก็ออกมาไม่สมบูรณ์ ทางคณะจึงได้สอบถามว่าเพราะอะไรจึงหล่อยาก ทางโรงหล่อแจ้งว่า "เพราะใช้ชนวนมวลสารหล่อ 100% เนื่องจากโลหะต่างๆมีหลากหลาย ไม่ว่าจะเงิน ทอง ทองแดง ทองเหลือ นวโลหะ และอื่นๆอีกมากมาย" ทำให้โลหะหลายอย่างจุดเดือดจุดหลอมเหลวต่างกัน เวลานำหล่อจึงติดบ้าง ไม่ติดบ้าง ดังนั้นเวลาหล่อปกติทางโรงหล่อจึงจะต้องใช้ "โลหะทองแดงดิบ หรือทองเหลืองดิบ" หล่อผสมสัก 30% เพื่อให้เป็นโลหะเชื่อมหลอมโลหะอื่นๆให้เข้ากันได้

....แต่ครั้งนี้ใช้โลหะรัตนมาลา 100% ดังนั้นจึงหล่อยากเป็นพิเศษ ช่างหล่อเลยต้องอาศัยการใช้ไฟหนักเบาต่างกันไป พระจึงออกมาได้รูปครับ(อีกอย่างพระแกะมือแบบนูนต่ำโบราณด้วย ความละเอียดจึงติดยาก)

....พระองค์ทุกองค์ทั้ง "เหรียญหล่อ" และ "รูปหล่อพระเจ้าจักรพรรดิ" จะตอกโค๊ต ส เป็นอักขระขอมทั้งหมด (อาจจะแนบคู่มือเกี่ยวกับการสร้างพระไปให้ด้วยนะครับ)

***ท่านอาจารย์บุญเลิศได้ปรารถเมื่อเห็นแบบพระแล้วท่านกล่าวว่า "ต่อไปจะหายาก ใครมีลูกมีหลานไปไหนใกล้ไกลเป็นห่วงลูกหลาน ให้เอาให้ลูกหลานใส่เด้อ เทวดาจะคุ้มครองให้ปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ อันตะรายาปิ"....

จึงเรียนแจ้งให้ท่านสมาชิกทราบดังนี้ ขออนุโมทนาครับ

​

....ปล.เนื้อสีขาวเป็นเนื้อพิเศษสร้างจำนวนเพียง 30 องค์แจกกรรมการ
โดยนอกจากจะหล่อโลหะรัตนมาลาแล้ว ยังจะหล่อผสมโลหะเพิ่งเติมพิเศษคือ "ชนวนชินบัญชร" ทั้งเหรียญสมเด็จโต วัดระฆังปี 2535 (พิธีเสาร์5) และแผ่นจารพระคาถาชินบัญชร(หลวงปู่เจ้าคุณเที่ยง อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆัง)

...ซึ่งผู้เขียน ขอทางชมรมนำมามอบให้กับ "สมาชิกทุกท่าน" ที่รวมบุญกันในครั้งนี้ท่านละ 1 องค์ฟรีๆ จากจำนวนที่ท่านจองเดิมจะเพิ่งเนื้อพิเศษให้อีกท่านละ 1 องค์เป็นพระของขวัญปีใหม่นี้นะครับ​

​

​

 

​

.......วันนี้ 29/12/2566 เวลาประมาณ 13.30 น. ทางคณะได้เดินทางเข้ากราบนมัสการ "พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด" เพื่อน้อมถวายปัจจัยจำนวน 9000 บาท และขอเมตตาท่านมอบคืน "พระพุทธรัตนมาลา" และ "รูปหล่อขนาดบูชาพระพุทธจักรพรรดิ" รับคืนเรียบร้อยแล้วครับ โดยจะนำจัดส่งให้ท่านสมาชิกทุกท่านที่ร่วมบุญต่อไปครับ

.....โดยพระชุดนี้ผ่านพิธีพุทธาภิเษกถึง 2 วาระคือ....
1.พระเดชพระคุณพระราชวชิรสุธี เมตตาอธิษฐานจิต 1 คืน
2.เข้าพิธีเจริญพระพุทธมนต์วันบูรพาจารย์ "หลวงปู่ศรีจันทร์" ในวันที่ 28/12/2566 ครูบาอาจารย์เข้าร่วมพิธีมากกว่า 80 องค์ในวาระนี้ครับ

​

*************



อะ สัง วิ สุ โล ปุ สะ พุ ภะ
คุณ"นวหรคุณ"
​

.....ปล.เหรียญหล่อพุทธรัตนมาลา(เนื้อพิเศษ) จัดสร้างเพียง 30 องค์ที่จะมอบให้ท่านสมาชิกนี้ "อาจารย์บุญเลิศ" ท่านได้กรุณาจารอักขระ "นวหรคุณ" โดยลงแบบรัตนมาลาจนครบ 9 คุณแห่งคุณพระพุทธเจ้า ลงหลังเหรียญทุกเหรียญในวันไหว้ครูบูชาพระครับ(จารมือทุกองค์ครับ) นับว่าเป็นมงคลอย่างสูงเลยทีเดียวครับ

 

พรปีใหม่2567
พระราชวชิรสุธี(สุพัฒน์ สุวฑฺฒโน)
เจ้าอาวาสวัดศรีสุทธาวาส พระอารามหลวง
โชคดีปีใหม่แจ่มใสเป็นสุขทุกข์หายคลายโศกโรคภัยหายสูญ ตลอดปี2567

​

 

สาธุ สาธุ สาธุ

 

ทางคณะชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ได้จัดส่ง
"เหรียญพระพุทธรัตนมาลา และ รูปหล่อบูชาพุทธจักรพรรดิมาลา"
ให้สมาชิกทุกท่านที่ร่วมบุญครบทุกท่านแล้วนะครับ ส่วนท่านใดอยากได้รหัสไปรษณีย์สามารถแจ้งขอรับทาง PM ได้เลยครับ​

ขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านครับ

​

 

....อุปเท่ห์แห่งคุณพระรัตนมาลา...
**************

​

...โบราณท่านว่า ผู้ใดอาราธนาพระคุณแห่งรัตนมาลานี้ แช่บูชาไว้ในขันน้ำมนต์ที่ประกอบด้วยพิธียิ่งดีนัก เอาน้ำมนต์นี้กินบ้าง ลูบหน้าบ้าง เอารดศีรษะบ้าง บำบัดโรคภัยทั้งหลาย ทั้งจะมีอายุยืนนานบังเกิดลาภยศ ตามแต่จะพึงปรารถนา อธิษฐานเอาเถิดได้สำเร็จลุล่วงความปรารถนาทุกประการแล

....อนึ่ง พระพุทธรูปที่หล่อและเข้าพิธีด้วยรัตนมาลานี้ อาราธนาเข้าบ้านเข้าเรือน เข้าห้างร้านการค้าต่างๆ ให้กล่าวคำอาราธนาว่า "พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง สะระณังคัจฉามิ สิทธิมังคะลัง สิทธิลาโภ นิรันตะรัง สัพพะสิทธิ ภะวันตุเม" ทำมาค้าขึ้นซื้อง่ายขายคล่อง เจริญงอกงามในหน้าที่การงาน สมปรารถนาทถกประการแล..

....ถ้าจะกันโจรผู้ร้ายมิให้เกิดอันตราย กันฟ้ากันไฟ ให้อาราธนากำพระไว้ในมือแล้วอธิษฐานไปที่กรวดทรายแล้วหว่านโปรยให้รอบบริเวณโดยรอบบ้านเราอธิษฐานขอบารมี "พุทธัง ธรรมมัง สังฆัง สะระณังคัจฉามิ" จงมาช่วยคุ้มครองป้องกันอันตราย ในบรรดาคนที่จะมาคิดร้ายและเหล่าอมนุษย์ที่มีทิฐิสูง ที่เข้ามาเหยียบกรวดทรายที่หว่านโปรยไว้นี้ จงบันดาลให้สิ่งไม่มีเหล่านั้นมีอันเป็นไปต่างๆนานา มิสามารถเข้ามาทำร้ายคนในบ้านเรือนนั้นมิได้แล...

....ผู้ใดอาราธนาพระพุทธรัตนมาลานี้ประจำตัวเป็นประจำ ท่านว่าจะเจริญในลาภยศมิได้ขาด ถึงแม้จะมีอุปสรรคอันตรายและบาปเคราะห์รบกวนสักเท่าไรก็ดี ก็สามารถจะฝ่าฟันไปมิได้รู้ยากรู้จนเลย เจริญในลาภยศทุกประการ คุ้มกันสรรพเสนียดจัญไร สารพัดคุณไสยนานาประการ นำติดตัวไปสารทิศใดก็ดี ข้าศึกศัตรูพ่ายแพ้ไปสิ้น มิอาจจะทำอันตรายแก่เราได้เลย...

​

 

พระพุทธนิมิตร
"พุทธานุภาพ อวิชชามองไม่เห็น"
***********

​

....เมื่อวันที่ทางคณะชมรม ได้นำวัตถุมงคลพุทธรัตนมาลาเข้ากราบขอเมตตา "หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเลย" เมตตาอธิษฐานจิตนั้น ก็ได้มีการพูดคุยสนทนากับท่านเรื่องต่างๆ จนสนทนากันไปถึงเรื่องที่หน้าสนใจเรื่องหนึ่งที่ท่านเมตตาเล่าให้ฟังครับ เกี่ยวกับ "นวหรคุณ" ซึ่งผู้เขียนขออนุญาตถ่ายทอดตามความทรงจำเท่าที่จำได้ดังนี้ครับ

​

....อาจารย์ชาญวิทย์(ที่ปรึกษาชมรม)ถามท่าน เรื่องนวหรคุณ

.....หลวงพ่อท่านเจ้าคุณว่า(หลวงพ่อมหาสุพัฒน์) : นวหรคุณ หรือ จริงควรเรียกว่า นวารหาทิคุณ จะถูกกว่า หมายถึงคุณแห่งพระพุทธเจ้าเก้าประการ ในบทอิติปิโส งัย ในสมัยที่หลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านยังดำรงธาตุขันธ์อยู่ ท่านได้ขยายความ นวารหาทิคุณ ไว้อยู่นะท่านเขียนให้กับพวกหนังสือพิมพ์ในสมัยนั้นที่เขามาขอสัมภาษณ์

....ผู้ถาม(อ.ชาญวิทย์) : เป็นอย่างไรครับ ขอความเมตตาขยายความสักหน่อย

.....หลวงพ่อ : ท่านก็เขียนทำนองว่า คนสมัยก่อนชอบเรื่องคาถาอาคมกันมาก แต่ไปเอาพวก "อวิชชา" มาเป็นที่พึ่ง พึ่งพวกผีโป่ง ผีป่าบ้าง ซึ่งสิ่งเหล่านี้มันต้องเลี้ยงผี เลี้ยงสาง มีการฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ฆ่าเป็ดไก่วัวควายเลี้ยงผี เพื่อให้ผีมาช่วยให้"อาคมเหล่านั้นมันขลัง" โดยอาศัยแรงผี จึงเป็นว่าไปเอา พวกอาคมที่ไม่ใช่พุทธมาเป็นที่พึ่งที่ระลึก

....ครูบาอาจารย์ในสมัยก่อนท่านไม่อยากให้ผู้คนทั้งหลายหลงผิดทำบาปทำกรรม เบียดเบียนสัตว์น้อยใหญ่โดยไม่ใช่เหตุ หลงเชื่อพวก "อวิชชา"แล้วชักจูงไปทำอะไรแปลกๆจนนำมาสู่ความเดือนร้อนวุ้นวายในชีวิต

.....ครูบาอาจารย์ท่านจึงรจนา คาถาขึ้นมาเพื่อมาสู้กับอวิชชาเหล่านั้น แต่เป็นคาถาไปในทางอาศัยแรงแห่งพระพุทธคุณ คุณแห่ง "วิชชา" ให้ผู้คนหันมา
ระลึกนึกถึงความเป็นพุทธ มาเชื่อฟังคำสอนจะได้ไม่ไปทำบาปทำกรรม อยู่ในศีลธรรมนำพาความร่มเย็นเป็นสุขมาแก่ชีวิต

...โบราณจารย์ ท่านจึงนำบทสวดใน "บทสรรเสริญคุณแห่งพระพุทธเจ้า" มาย่อให้เป็นบท คาถาในการบริกรรมภาวนาแทนซึ่งถือว่ามีคุณวิเศษเหนือกว่าอวิชชาทั้งปวง โดยย่อได้ความว่า อะสังวิสุโลปุสะพุภะ คือ หัวใจนวรหคุณเป็นหัวใจอิติปิโสทั้งบท กล่าวขยายความว่า

อะ คือ อะระหัง
สัง คือ สัมมาสัมพุทธโธ
วิ คือ วิชาจรณะสัมปันโน
สุ คือ สุคโต
โล คือ โลกะวิทูอะนุตะโร
ปุ คือ ปุริสะทัมมะสาระถิ
สะ คือ สัตถาเทวะมะนุสานัง
พุ คือ พุทโธ
ภะ คือ ภควา

...ซึ่งต่อมานอกจากหัวใจคาถาแล้ว ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านก็ยังสร้างรูปพระขึ้นมา เพื่อให้เป็นรูปธรรมมากขึ้น ให้ผู้คนได้เห็นภาพมากขึ้น "จึงเกิดยันต์พุทธนิมิตรขึ้นมางัยละ" เป็นคุณแห่งพระพุทธเจ้าล้วนๆเลยนะ นี้ครูบาอาจารย์สมัยก่อนท่านฉลาดในกลอุบายให้คนเข้ามานับถือพุทธ เลิกนับถือผี หันมาทำบุญให้ทานรักษาศีล ดีกว่า นี้มันเป็นอย่างนั้น

....อาจารย์ชาญวิทย์ : "ยันต์พุทธนิมิตรหรือครับ"

ผ้ายันต์พุทธนิมิตร
หลวงพ่อแฉ่ง วัดบางพัง​

.....หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ : ใช่ เคยเห็นกันไมละ (ท่านเมตตาชี้ไปที่รูปที่แขวนอยู่เป็นผ้ายันต์) นั้นงัย อาจารย์บุญเลิศสมัยที่ท่านทำงานที่วัฒนธรรมจังหวัด ท่านนำมาถวายหลวงปู่ศรีจันทร์ หลวงปู่ศรีจันทร์ท่านก็ทราบถึงยันต์นี้อยู่แล้ว ท่านบอกว่า "บทอิติปิโสภายในองค์พระนี้ ลงด้วยรัตนมาลาของสายวัดประดู่ทรงธรรม" นี้หลวงปู่ศรีจันทร์ ท่านบอกอาจารย์บุญเลิศเองเลยนะ ก่อนที่อาจารย์บุญเลิศจะบอกท่านเสียอีกอีก

.....อาจารย์ชาญวิทย์ : "แล้วยันต์นี้มีพุทธคุณแบบไหนหรือครับ คงเป็นยันต์สำคัญแน่ๆ อาจารย์บุญเลิศถึงเอามาถวาย"

สมเด็จพระญาณสังวร กราบนมัสการ หลวงปู่ศรีจันทร์​

....หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ : หลวงปู่ศรีจัทร์ท่านบอกว่า "ยันต์นี้ดีใครนำไปพกติดตัวอวิชชามองไม่เห็น"

.....อาจารย์ชาญวิทย์ : "อุทาน(โอ๋).. เป็นอย่างไรครับถึงว่าอวิชชามองไม่เห็น"

....หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ : ก็ท่านว่ายันต์นี้รจนามาเพื่อสู้กับพวกอวิชชา ก็พวกอาคมผีพวกนี้ ถ้าใครเขาเปลี่ยนมาจากนับถือผี หันมานับถือพุทธ พวกนี้เขาก็จะส่งคุณไสยวิชาต่ำมาประสงค์ร้ายคนนนั้นๆที่เปลี่ยนมานับถือพุทธงัย

....อาจารย์ชาญวิทย์ : "คือทำนองว่า ข่มขวัญให้คนกลัวแบบนี้หรือครับ ว่าใครแปรพักตร์จากนับถือผี ไปนับถือพุทธจะทำให้มีอันเป็นไป ทำให้ไม่กล้าเปลี่ยน.."

...หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ : เออ ก็ทำนองนั้นละ แต่ใครมียันต์นี้ ทางนั้นเขาส่งอวิชชาพวกคุณไสยมา ใครมียันต์พุทธนิมิตรนี้ติดตัว คุณไสยนั้นๆจะมองไม่เห็นละทีนี้ ปล่อยมาก็ไม่โดนของเข้าตัวเพราะพุทธคุณท่านบังไว้ ทีนี้เหมือนปล่อยของมาไม่มีคนรับ "ของนั้นๆก็ตีกลับผู้ส่ง" ของจึงกลับเข้าตัวผู้ทำเองงัยเป็นการสะท้อนกลับ ผู้นั้นก็จะมีอันเป็นไปในของที่ถูกตีกลับ เข้าตัวเองนั้นแหละ "สนองกรรม" แพ้ภัยตัวเอง

.....อาจารย์ชาญวิทย์ : "สาธุ สาธุ สาธุ (พร้อมยกมือไหว้)...."

.....หลวงพ่อท่านเจ้าคุณ : "...แต่อีกนัยหนึ่งก็เป็นคติธรรม ที่ว่า "อวิชชา" คือความไม่รู้ "วิชชา" คือความรู้ ถ้าเรามีความรู้คือวิชชา อวิชชาย้อมหายไปอยู่แล้วโดยธรรมชาติ

คำสอนของพระพุทธเจ้าก็คือ "วิชชา" นั้นแหละ พาให้คนพ้นจากทุกข์ "ซึ่งมีอวิชชาความไม่รู้เหตุแห่งทุกข์นั้นแลเป็นเหตุ" เพราะมีอวิชชา จึงเวียนเกิดเวียนตายหลายภพหลายชาติ เมื่อพระพุทธเจ้าท่านมาประกาศธรรมะแล้ว ปัญญาของผู้ที่ได้สดับรับฟังก็เกิดขึ้น "อวิชชาก็หายไป" ตัณหาก็ไม่มี กิเลสก็ไม่มี ความทุกข์ก็ดับลง "นั้นก็เรียกได้ว่า อวิชชามองไม่เห็นแล้ว" คือกิเลสตัณหา อุปปาทาน เครื่องพาให้เกิดทุกข์ไม่มีอีกแล้ว(เปรียบสิ่งเหล่านี้คืออวิชชา) กิเลสตัณหา อุปปาทาน มองไม่เห็นดวงจิตที่มีปัญญานี้แล้ว(เปรียบเหมือนมีวิชชาเข้ามาแทนที่ในจิต) อวิชชาทั้งหลายจึงจะเข้ามาครอบงำจิตดวงที่มีวิชชานี้ ไม่ได้อีกแล้ว

....นี้ก็เป็นคติธรรมอย่างนึ่งนะ....."

.........หมู่คณะพร้อมกันอนุโมทนา สาธุก่อนกราบลาท่าน.......

​

 

ได้รับเหรียญหล่อพระพุทธรัตนมาลา และรูปหล่อขนาดบูชาพระมหาจักรพรรดิ์ แล้วครับ
ขอบพระคุณมากครับ ท่านอาจารย์

 

​

.....วันนี้ 8/1/2567 เวลาประมาณ 9.00 น. ทางผู้เขียนและคณะ (นำโดย อ.ชาญวิทย์ที่ปรึกษาชมรมพุทธรรมเพื่อการเผยแพร่) เดินทางไปเข้าพบท่านอาจารย์บุญเลิศ เชื่อบุญมี(อาจารย์ฆราวาสสายวัดประดู่ทรงธรรม) ด้วย อ.ชาญวิทย์หลังจากที่ท่านสนทนากับหลวงพ่อท่านเจ้าคุณเรื่อง "ยันต์พุทธนิมิตร" แล้วท่านมีความสนใจมาก วันนี้เลยนัดหมู่คณะเข้าสัมภาษณ์พูดคุยกับอาจารย์บุญเลิศอีกครั้งครับ

อาจารย์บุญเลิศ เชื่อบุญมี(อาจารย์ฆราวาสสายวัดประดู่ทรงธรรม)​

....ท่านอาจารย์บุญเลิศ ก็ให้ความกรุณาเล่าให้ฟังคร่าวๆว่า "ตัวท่านเอง(อ.บุญเลิศ) กับ อ.สันติ(อ.สันติ วรรณภิรมณ์) เคยไปกราบขอเมตตาครอบสืบวิชา"ยันต์พุทธนิมิตร" จากหลวงพ่อสละ วัดประดู่ทรงธรรม ตั้งแต่ปี 2526-2527 ซึ่งสมัยนั้นท่านยังรับราชการอยู่ที่กระทรวงในกรุงเทพ แล้ววันหยุดเสาร์-อาทิตย์ มักจะเดินทางจากกรุงเทพ-ไปอยุธยาอยู่เป็นประจำ เพื่อไปกราบขอสืบวิชาจากครูบาอาจารย์สมัยนั้นอยู่เสมอ "

.....ท่านเล่าว่า ท่านได้สืบวิชานี้จากหลวงพ่อสละ ซึ่งท่านได้เมตตาบอกเคล็ดวิชาและหลักการในการเขียน การว่างอารมณ์ในวิชาเพื่อตั้งสมาธิอะไรเหล่านี้เป็นต้น โดย อ.บุญเลิศท่านว่า "ยันต์พุทธนิมิตร แปลว่า เครื่องหมายแห่งพระพุทธเจ้า เป็นการลงเพื่อสร้างอุบายในการตั้งสมาธิให้อยู่กับองค์พระ แล้วลากเส้นเพื่อขึ้นองค์พระ ตรงนี้ก็มีคำภาวนาด้วยนะไม่ใช่ลากเส้นเฉยๆ พอลากเป็นองค์พระแล้ว ภายในองค์พระก็ต้องลงอักขระ 56 ห้องพุทธคุณโดยใช้คาถารัตมาลาลงอีกครั้งทีละตัว และหลังจากเสร็จขึ้นเป็นองค์พระแล้ว ให้เสกด้วยคาถา พุทธนิมิตร 7 คาบ นับว่าใช้ได้แล้ว..."

....ยันต์พุทธนิมิตรแม้ว่าจะมีกลยันต์ไม่ซับซ้อน แต่เป็นกลยันต์ที่ต้องอาศัย"สมาธิมากเป็นพิเศษ" เพราะการลากยันต์องค์พระจะต้องลากครั้งเดียวไม่ยกขึ้นยกลง ฉะนั้นถ้าสมาธิสั้นไป อาจทำให้เผลอหลงเขียนผิดได้ "นี้ยันต์นี้ยากตรงนี้" เพราะยันต์อื่นๆขึ้นโครงยันต์เราลากเส้นเป็นเลขาคณิตได้ ยกได้ขีดทีละเส้นได้ แต่ยันต์พุทธนิมิตรไม่ได้ ต้องลงครั้งเดียวให้เสร็จ

.....การเสกนั้นท่านกำหนดมาเลยละว่า "คราวเมื่อพระท่านลงอุโบสถศีล" ให้นำยันต์นี้เข้าไปสมโภชด้วยจึงจะถือว่า "อธิษฐานจิตครบครู"

.....อ.ชาญวิทย์ถาม : แล้วพุทธคุณยันต์นี้เป็นอย่างไรครับอาจารย์

.....อ.บุญเลิศตอบ : "แก้วสารพัดนึก(ท่านหัวเราะ) อวิชชามองไม่เห็น มารมองไม่เห็น ความชั่วมองไม่เห็น คุณก็คิดเอาว่าทำอะไรก็ราบรื่นใช่ไม คนเราไม่มีอะไรมาบังไม่มีอะไรมาปิด ไม่มีอะไรมาทำอันตรายได้ มันก็มีแต่เจริญละสิ พระพุทธเจ้าท่านเป็นผู้เจริญแล้วในทุกๆทางนะ นี้เราอาศัยบารมีท่านโดยตรงจะไม่เจริญได้งัย อัปปมาโณพุทโธนะ ฉัพพรรณรังสีของพระพุทธเจ้ามีไม่ประมาณ พลังงานท่านไม่เสื่อมไม่เสียไปจากโลก อยู่ที่ท่านผู้นั้นจะเข้าถึงพระท่านหรือป่าว...(ท่านอมยิ้ม) "

....อ.ชาญวิทย์กล่าวสาธุ แล้วจึงขออนุญาตท่านเมตตาพิจารณาอยากสร้างวัตถุมงคลหรือเหรียญเกี่ยวกับยันต์พุทธนิมิตรได้ไหมครับ ขอเมตตาท่านอาจารย์พิจารณา ไว้เป็นการสืบวิชาและเป็นพุทธานุสติให้กับผู้ศรัทธาได้เข้าถึงพุทธบารมี..

...ท่านอาจารยืบุญเลิศบอก : ได้แต่ให้พวกคุณไปขอเมตตาท่านเจ้าคุณก่อนนะ ให้ท่านทำวิชา(หมายถึงเขียนคาถาหัวใจพุทธคุณให้) ให้ก่อนแล้วถ้าท่านเมตตาผมจะลงยันต์พุทธนิมิตรให้นะ...

หมู่คณะกราบสาธุโมทนา...

 

...วันนี้เวลา 9.30 น. ทางคณะชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ ได้เข้ากราบนมัสการและขอเมตตาธรรมจากพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัด(หลวงพ่อมหาสุพัฒน์) โดย อ.ชาญวิทย์ที่ปรึกษาชมรม ได้กราบเรียนท่านเรื่องการขอจัดสร้าง "เหรียญพระพุทธนิมิตร" และได้กราบเรียนท่านว่า "อ.บุญเลิศให้มากราบขอเมตตาพระเดชพระคุณ" เมตตาลงหัวใจบทสรรเสริญพระพุทธคุณ เพื่อนำไปจัดสร้างเหรียญพุทธนิมิตรนี้ด้วยครับ กราบขอเมตตา....

....หลวงพ่อเมตตา "ลงอักขระหัวใจบทสรรเสริญพุทธคุณให้แบบเต็ม คือ อิติปิโส....ห้องพุทธคุณทั้ง 56 ตัวอักษร"

....และอาจารย์บุญเลิศ ก็ได้กรุณามอบยันต์พระพุทธนิมิตร(ที่ผ่านการสมโภชลงอุโบสถศีลให้แล้ว) มอบให้ 1 แผ่นเพื่อให้ครบสูตรตามตำราโบราณ ยันต์พุทธนิมิตร ในการสร้างเหรียญพุทธนิมิตรครั้งนี้ครับ
....และเป็นครั้งแรกที่หลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเมตตาลงอิติปิโส บทพุทธคุณครบสูตรให้ครับ

**********************




*******

แผ่นจารหัวใจยันต์พุทธคุณ
พระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเมตตาลงให้


แผ่นจารหัวใจยันต์พุทธนิมิตร
อาจารย์บุญเลิศ เชื่อบุญมี กรุณาลงสูตรรัตนมาลาให้ครบสูตร​

​

 

พระพุทธานุภาพไม่เคยเสื่อมไปจากโลก
โดย : พระเดชพระคุณหลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
​

.....หลวงปู่ดู่ท่านศึกษาเรื่องพลังงานของ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ ถึงแม้ว่าพระพุทธเจ้าจะเสด็จดับขันธ์ปรินิพานไปนานแล้ว ก็ยังมีพลังงานเหล่านี้อยู่ ส่วนในเรื่องข้อขัดแย้งระหว่างหลวงปู่กับอาจารย์ เฮง ไพรวัลย์ ซึ่งเป็นอาจารย์หลวงปู่สี วัดสะแก อาจารย์เฮงจะทำในด้านเกี่ยวกับพรหม คือจะเชื่อว่าพรหมยังมี แต่ในขณะเดียวกันจะถือว่า พระพุทธเจ้าหรือพระอรหันต์พอเข้านิพพานแล้ว ก็สูญ ไม่มีตัว ไม่มีตน ไม่มีพลังเหลือ

....หลวงปู่ดู่จึงถามท่านว่า อาจารย์เคยไปพระปฐมเจดีย์แล้วเห็นพระธาตุเสด็จหรือเปล่า ท่านก็บอกว่าอยู่ในเหตุการณ์นั้นด้วย คือสมัยที่เป็นเสือป่าตามเสด็จรัชกาลที่ ๖เมื่อครั้งยังเป็นพระบรมโอรสาธิราช ในคืนนั้นพระบรมสารีริกธาตุของพระพุทธเจ้าเสด็จ ออกจากพระปฐมเจดีย์ ระยะหนึ่งแล้วกลับมาโดยมีรัศมีสีเขียวเป็นลูกกลมเท่าผลส้มเกลี้ยง ซึ้งในครั้งนั้นรัชกาลที่ ๖ พร้อมทั้งข้าราชบริพารที่ตามเสด็จก็เห็นทั่วกัน พระองค์จึงมีพระราชหัตถเลขาไปถึงพระราชบิดา หรือพระพุทธเจ้าหลวง โดยทรงอธิบายตามหลักวิทยาศาสตร์ว่า "อาจเกิดจากสารเรืองแสง แต่ทรงมีข้อสงสัยว่า น่าจะเกิดขึ้นหลังฝนตก แต่การเสด็จของพระธาตุนั้น เกิดในขณะที่ฟ้าโปร่ง "

...รัชการที่ ๕ ได้มีพระราชหัตถเลขาตอบมาว่า " ไม่ต้องสงสัยในเรื่องนี้ เพราะพระองค์พร้อมทั้งข้าราชบริพารได้เคยประสบเหตุการณ์เช่นนี้มาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องของพุทธานุภาพ คือเป็นบารมีของบรมสารีริกธาตุนั่นเอง " ตรงนี้อาจารย์เฮงก็บอกว่า ตนเองก็อยู่ในเหตุการณ์นั้น

​

.....หลวงปู่จึงบอกว่า "ถ้าพระธาตุหรือพระบรมสารีริกธาตุ เคลื่อนที่ไปได้ก็แปลว่า จะต้องมีพลังงานขับเคลื่อน ซึ่งพลังและบารมีนี้ก็แสดงว่าไม่ได้สูญหายไปไหน " หลวงปู่ยังกล่าวต่อว่า " กระดูกคนตายหลายร้อยหลายพันราย เห็นทิ้งกันเกลื่อนกลาดดาษดื่น ถ้าพลังงานแห่งพุทธหมดไปแล้ว พระบรมธาตุจะเสด็จไปได้อย่างไร"อาจารย์เฮงนั่งเงียบ ไม่สามารถจะหาข้อโต้แย้งกับหลวงปู่ได้เพราะที่พระธาตุเสด็จ ก็เสด็จไปด้วยอำนาจของบารมีพุทธที่ยังอยู่เหล่านี้

 

​

.....มีสมาชิกหลายท่านสอบถามผู้เขียนเข้ามาจำนวนมากเลยครับว่า "เหรียญพระพุทธนิมิตร" นี้จะออกให้ทำบุญไมหรือว่าอย่างไร ทำเป็นรูปแบบไหน ผู้เขียนขออนุญาตเรียนแจ้งให้ท่านสมาชิกที่สนใจให้ทราบดังนี้ครับ

1.เหรียญพุทธนิมิตรที่จัดสร้างครั้งนี้ เป็นความดำริของ รศ.ชาญวิทย์ เสนานนท์ (ที่ปรึกษาของชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่) ที่ท่านได้มีโอกาสสนทนากับพระเดชพระคุณหลวงพ่อเจ้าคณะจังหวัดเลย โดยท่านเมตตากล่าวปรารภถึงพุทธานุภาพของยันต์พระพุทธนิมิตรทำให้ อ.ชาญวิทย์ เกิดความสนใจและเลื่อมใส่ศรัทธา จึงได้ดำริแล้วขอความกรุณาอาจารย์บุญเลิศเพื่อปรึกษาแนวทางการดำเนินการจัดสร้างเหรียญพุทธนิมิตร ดังกล่าวให้เกิดความสมบูรณ์แบบตามโบราณจารย์ให้มากที่สุด

2.เพื่อสืบต่อสรรพวิชาแบบโบราณจารย์ในอดีตให้ใกล้เคียงแบบดังเดิมให้ได้มากที่สุด โดยได้รับความเมตตาสูงสุดจาก พระเดชพระคุณ(หลวงพ่อมหาสุพัฒน์) ท่านลงอักขระหัวใจ"พระพุทธคุณ" เมตตาให้เป็นครั้งแรกในการจัดสร้าง เพื่อเป็นต้นชนวนประกอบกับชนวนมวลสารอื่นๆ พร้อมถึงยันต์พระพุทธนิมิตรที่ท่านอาจารย์บุญเลิศ กรุณาลงให้อีกชั้นหนึ่ง(ลงแบบรัตนมาลาวัดประดู่ทรงธรรม) และผ่านพิธีลงศีลอุโบสถครบตามสูตรแห่งธรรม

3.โดยจัดสร้างครั้งนี้เพื่อมอบไว้ให้เป็นที่ระลึกสำหรับท่านสมาชิกที่ร่วมบุญกับทางชมรมและอีกสวนหนึ่งจะมอบให้กับ "ผู้ที่เข้าร่วมปฏิบัติธรรม" ที่วัดศรีอภัยวันโดยพระอาจารย์ที่วัดท่านขอไว้(ประมาณ 15 เหรียญ) จะมอบให้ไว้เพื่อเป็นพุทธานุสติในการปฏิบัติธรรม 15 วัน

4.และอีกนัยหนึ่งเพื่อให้ท่านที่มีจิตศรัทธา "นำไปเป็นสื่อเพื่อระลึกถึงคุณพระพุทธเจ้า" โดยตรง เพราะพระพุทธานุภาพ(พลังงานของพระพุทธเจ้า) เป็นของละเอียดมากเพราะเป็นต้นพลังงานที่มีมานานแล้วและพระพุทธเจ้าท่านก็ปรินิพานไปแล้ว แต่ยังคงทิ้งพลังงานต่างๆนี้ไว้ในโลกอยู่(ไม่เหมือนพลังงานพระโพธิ์สัตว์ที่ยังวิ่งอยู่) ผู้ที่สืบพลังงานของพระพุทธมาเป็นลำดับคือ พระธรรมที่ยังคงอยู่และหมู่พระสงฆ์ที่ยังทรงจำพุทธพจน์ไว้อยู่ คือผู้สืบพลังงานแห่งพระพุทธเจ้ามาจนถึงปัจจุบัน(ที่เรียกว่าศากยบุตร)

....ดังนี้เหรียญพระพุทธนิมิตรตามนัยแล้วคือเหรียญที่เป็นภาพลักษณ์ที่เป็นสื่อพลังงานของพระพุทธเจ้า(ความหมายคำว่า นิมิตร หมายถึงเครื่องหมาย) หรือเป็นพลังงานนามธรรมแห่งพระพุทธเจ้านั้นเอง ซึ่งผู้ใดได้เหรียญนี้ไปบูชาระลึกนึกถึงคุณพระพุทธเจ้าถือ "เป็นช่องทางธรรมให้สื่อไปถึงพลังงานอันละเอียดแห่งพระพุทธเจ้า เหมาะสำหรับใช้ในการปฏิบัติธรรม เพื่อให้เกิดความเจริญงอกงามในทางธรรมต่อไป" ได้อย่างดี หรือแม้แต่ติดตัวบูชา "อวิชชา คือความไม่ดีใดๆ" ย้อมระงับดับหายไป ไม่มาแผ้วพานได้เลย

....หรือจะขอบารมีในเรื่องที่ติดขัดต่างๆทั้งทางโลกและทางธรรม ก็สามารถระลึกถึงคุณพระท่านให้ช่วยในเรื่องนั้นๆได้ดังแก้วสารพักนึก

....หรือกันคุณ กันของคุณไสย ทั้งหมู่คน หมู่สัตว์ร้ายและอมุนษย์ทั้งหลายที่มีทิฐิ จะมาทำร้ายทำลายมิได้เลย ทำน้ำมนต์แก้คนถูกของไม่ดีได้อีกด้วย....

5.ลักษณ์เหรียญ "ท่านให้ทำยันต์แบบนูนต่ำประทับลงในเหรียญ" โดยด้านหน้าเป็นรูปองค์พระ ด้านหลังเป็นรูป "ยันต์ไตรสรณคมน์ค้ำดวง" ซึ่งเป็นยันต์ที่ช่วยหนุนนำชีวิตมิให้ตกต่ำ ทั้งนี้จัดสร้างเป็นแบบเหรียญหล่อเส้นผ่าศูนย์กลาง
4 ซม. โดยที่ทำเป็นเหรียญนูนต่ำ(ยันต์จม) เพราะให้เหมือนหนึ่งว่ายันต์ถูกจารึกลงที่เหรียญ และสองอักขระที่ทำว่างได้ชัดเจน คมชัดกว่าแบบเหรียญนูนสูงครับ....

จึงเรียนแจ้งท่านสมาชิกมาดังนี้ครับ​

 

แบบเหรียญพุทธนิมิตร
หลังยันต์**ไตรสรณคมน์ค้ำดวง**
***********




******
ความคมชัดทุกตัวอักษรด้วย อ.บุญเลิศ
ให้ความเห็นว่าการที่อักษรคมชัดเป็นการทรงไว้
และเป็นการสืบวิชาให้คนรุ่นหลังได้เห็นอย่างชัดเจน
จะได้ไม่บิดเบือนให้เสียอักษรตัวยันต์





*****************
ชนวนมวลสารที่ทรงคุณค่า
และตรงตามตำราครบสูตรแบบโบราณจารย์
**********

​

**เฉพาะชนวนมวลสาร**///
- ชนวนมวลสาร ก้อนหล่อพระกริ่งชินบัญชร เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ ออกวัดโล่ห์สุทธาวาส
- ชนวนหล่อพระชุดรัตนมาลา
- ชนวนหล่อพระชุดธรรมจักรกัปปวัตนสูตร
​

​

**แผ่นจารยันต์วิชาสูตร**
- อักขระ "อิติปิโส..." (พระราชวชิรสุธี เมตตาลงและอธิษฐาน)
- ยันต์พระพุทธนิมิตร(อ.บุญเลิศลงตามสูตรรัตนมาลา)
- ยันต์ไตรสรณคมน์ค้ำดวง(พระราชวชิรสุธี เมตตาลงและอธิษฐาน)

​

 

เปิดร่วมบุญ "เหรียญพระพุทธนิมิตร"
16 มกราคม 2567


​

.......เนื่องด้วยมีสมาชิกหลายท่านสอบถามเข้ามาจำนวนมากเรื่องการบูชา "เหรียญพระพุทธนิมิตร" ด้านหลังยันต์ไตรสรณคมน์ ผู้เขียนขออนุญาตเรียนแจ้งดังนี้ครับ

- เดิมทีผู้เขียนคุยกับ อ.ชาญวิทย์ ผู้ริเริ่มโครงการจัดสร้างครั้งนี้ โดยท่านประสงค์ว่า "จะจัดสร้างเพื่อมอบให้กับผู้ที่มาปฏิบัติธรรม(ที่วัดศรีอภัยวัน) และ ผู้สนับสนุนชมรม เท่านั้น" ไม่มีให้บุคคลภายนอกได้บูชา เพราะครั้งนี้จะจัดสร้างไม่เกิน 200 เหรียญเท่านั้น

- ดังนั้นท่านสมาชิกท่านใดอยากได้ไว้บูชา "ผู้เขียนจะเป็นสื่อกลาง" ระหว่างท่านที่มีจิตศรัทธาอยากได้ร่วมบุญและรับของดีไว้บูชากันในการนี้ "ท่านสมาชิกสามารถ" ลงชื่อจองจำนวนได้เลยนะครับ โดยทางชมรมพุทธธรรมเพื่อการเผยแพร่ ไม่ได้กำหนดอัตตราการบูชาไว้ แต่ผู้ใดร่วมบุญ(จะถือว่าเป็นผู้สบับสนุนชมรมนะครับเพราะครั้งนี้ไม่ได้มีการเปิดให้คนทั่วไปบูชาครับ) 100 บาท ก็จะได้เหรียญพระพุทธนิมิตร 1 เหรียญ(จำกัดท่านละไม่เกิน 10 เหรียญนะครับ)

- สามารถจองได้ตั้งแต่บัดนี้ 16/1/2567 จนถึง 18/1/2567 จึงจะปิดร่วมบุญ หลังปิดแล้วจึงสมาารถโอนปัจจัยได้นะครับ..

จึงเรียนแจ้งมาเพื่อทราบสำหรับสมาชิกที่สนใจร่วมบุญกันในครั้งนี้ครับ

ปล.คงจะมีการสร้างเพียงวาระเดียวนี้เท่านั้นนะครับ ไม่มีรุ่นสอง
เพราะสร้างได้ยากอุปเท่ห์และเคล็ดมีหลายขั้นตอน ครูบาอาจารย์ท่านก็ชราภาพมากแล้วการจะสร้างแบบนี้บ่อยๆคงไม่ดีนักต่อธาตุขันธ์ท่านครับ จึงสร้างไว้เป็นอนุสรณ์และการสืบวิชาเพื่ออนุรักษ์ให้คนรุ่นหลังต่อไปครับ

*******


​

 

ร่วมบุญ เหรียญพระพุทธนิมิตร 10 เหรียญ ครับ

 

ขอร่วมบุญเหรียญพระพุทธนิมิตร 2 เหรียญครับ

 

ร่วมบุญ เหรียญพระพุทธนิมิตร 10 เหรียญครับ