><กระทู้ใหม่(4) วัตถุมงคลดีพิธีใหญ่สภาพสวย หลากหลายสายราคาเบา (สรุปรายการ น.1) ><

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย ศิษย์ปิยธโร, 5 มกราคม 2017.

  1. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3482.ผิวหิ้งเก่าเก็บของดีที่ถูกลืม ลป.หมุน เสก 9วัน9คืน
    พระสมเด็จทรงเครื่อง วัดช้าง ลป.หมุน,ลป.ลมัย,ลป.ทอง อธิษฐานจิตมหาพิธี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    g1c3ts-jpg.jpg

    พระสมเด็จทรงเครื่อง พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสลำดับที่9 วัดช้าง จังหวัดนครนายก ( ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น จากท่านอาจารย์นิรันดร์(อ.หนู) แดงวิจิตร อาจารย์ต๊ะท่านเป็นพระหลานชายของ อ.หนู และ มีเกี่ยวพันเป็นอย่างดีกับทางวัดสุทัศน์) พระอาจารย์ต๊ะรูปนี้ไม่ธรรมดานะครับ ท่านเป็นผู้คงแก่เรียน ท่านศึกษาสรรพวิชามากมายหลายแขนง เรียกได้ว่าใครอยกาเจอของจริงๆ ต้องท่านเลย และที่สำคัญท่านละสังขารไป 5ปีสรีระไม่เน่าไม่เปื่อย

    เนื้อผงพุทธคุณ หลัง ปั๊มโค้ดตัวหนังสืออักษร (วัดช้าง ) ดำเนินการจัดสร้างขึ้น เมื่อปีพ.ศ.2544 นำเข้าพิธีไหว้ครู ที่วัดสุทัศน์เทพวราราม กทม.



    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระที่ : 1
    - หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน อธิฐานปลุกเสกก่อนงานพิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม 9 วัน 9 คืน


    วาระที่ : 2
    - ประกอบพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ พิธีไหว้ครู วัดสุทัศน์เทพวราราม
    เมื่อวันอาทิตย์ที่ 20 พฤษภาคม พ.ศ.2544 อธิษฐานจิตปลุกเสก โดย


    1. หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล วัดบ้านจาน อายุ 107 ปี พระปรมาจารย์อมตะมหาเถระ 5 แผ่นดิน
    2. หลวงปู่ลมัย ฐิตมโน อายุ 102 ปี สำนักสงฆ์สวนสมุนไพร เพชรบูรณ์ พระผู้เชี่ยวชาญในกสิณสมาบัติ และวิชาปรอท เล่นแร่แปรธาตุ
    3.หลวงปู่ทอง อายุ 96 ปี วัดจักรวรรดิ กทม. สหธรรมิกร่วมสมัยกับหลวงปู่หมุน ผู้เคยทดลองวิชาอาคมในยุคอินโดจีน

    พระเครื่องรุ่นนี้ ท่านเจ้าคุณ วัดสุทัศน์ เตรียมไว้แจกแก่ผู้ที่มาร่วมงานพิธีไหว้ครูในครั้งนี้

    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - เว็บไซต์สายตรง พระเครื่องหลวงปู่หมุน
    - https://tnews.teenee.com/weird/8472.html
    - https://www.komchadluek.net/amulet/152400



    พระครูธวัชภัทราภรณ์(อ.ต๊ะ)
    พระครูธวัชภัทราภรณ์(ธงชัย) หรือ อาจารย์ต๊ะ อดีตเจ้าอาวาสวัดช้าง ท่านเป็นผู้สืบทอดตำนานการสร้าง “พระกริ่งใหญ่ วัดช้าง” อันลือลั่น เป็นที่รู้จักกันดีในวงการผู้ที่นิยมพระกริ่งในเมืองไทย ทั้งนี้พระกริ่งวัดช้างถือเป็นพระกริ่งที่มีความเป็นมาเกี่ยวพันกับท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) วัดสุทัศน์เทพวราราม อดีตพระเถระผู้เรื่องวิทยาคมอีก รูปหนึ่งของชาวอำเภอบ้านนา นครนายก

    ประวัติพอสังเขป
    พระอาจารย์ต๊ะ วัดช้าง บ้านนา เมื่อสมัยท่านเป็น เลขารองเจ้าคณะอำเภอบ้านนา ในสมัยที่ พระครูภัทรกิจโกศล (ภู) ท่านได้ศึกษาท่องจำตำราของท่านอาจารย์เทพ สาริกาบุตร วันหนึ่งในขณะที่อยู่ในโบสถท่านก็ได้ท่องมนต์ของอาจารย์เทพ สาริกาบุตรอยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านได้เดินมาในโบสถ์ท่านได้ยิน อาจารย์ต๊ะกำลังท่องมนต์อยู่นั้น หลวงพ่อภูท่านบอกให้ไปหาที่กุฏิท่านหลังจากทำวัตรเย็นเสร็จแล้ว อาจารย์ต๊ะก็ได้ไปพบตามที่นัดหม ายไว้ หลวงพ่อภูท่านก็ให้ไปหยิบใบพลูมา 1 ใบ แล้วท่านก็ถาม อาจารย์ต๊ะว่าจะเอาเปรี้ยวหรือเอาหวาน อาจารย์ต๊ะท่านตอบว่าเอาหวาน หลวงพ่อภูท่านก็เอาใบพลูมาฉีกแบ่งออกเป็น 2 ส่วน ท่านหยิบส่วนแรก แล้วเสกลงในส่วนนั้น ส่งให้ อาจารย์ต๊ะ ท่านเคี้ยว ปรากฏว่ารสชาติออกมาหวาน แล้วท่านก็เสกลงที่ใบพลูส่วนที่เหลือแล้วให้ อาจารย์ต๊ะเคี้ยวปรากฏว่ารสเปรี้ยว ด้วยเหตุนั้นมาทำให้อาจารย์ต๊ะท่านเกิดความตั้งใจขอเรียนวิชากับ หลวงพ่อภูมาโดยตลอดทุกวันหลังทำวัตรเย็นเสร็จ จนสามารถสืบทอดสรรพวิชาจากหลวงพ่อภูมาอย่างมากมายทั้งทางตรงและทางอ้อม

    หลังจากนั้นต่อมาท่านติดตาม หลวงพ่อภูไปนั่งปรก พุทธาพิเษกวัตถุมงคลตามวัดวาอารามต่างๆที่ได้รับนิมนต์ ในยุคสมัยนั้น จนท่านอาจารย์ต๊ะได้มีโอกาสไปพบกับ หลวงพ่อพรหม วัดขนอนเหนือ ผู้โด่งดังแห่งยุคในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พระนารายณ์ พระบุตร – ลบ หนุมาน ราชสีห์ ท่านก็ไปขอศึกษาร่ำเรียนวิชา พระนารายณ์ หนุมาน และวิชาสักยันต์ จากหลวงพ่อมาโดยตรง และนอกเหนือจากนั้นท่านร่ำเรียนวิชา เสกปลัดขิกจาก ปู่พาน ศิษย์ฆราวาสคนเดียวของหลวงพ่อเกิด วัดสะพาน ตำรานี้เป็นตำราของหลวงพ่อเหลือวัดสาวชะโงก

    ต่อมาท่านเดินทางไปเรียนวิชา ทำตะกรุดหน้าผากเสือ และเสกเสือ จาก หลวงพ่อขวัญ วัดอรุณ ฯ ท่านได้เรียนมาจากหลวงปู่นาค และฝากตัวเป็นศิษย์หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ
    หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา ตามให้ท่านไปเรียนกับท่าน (เจ้าตำหรับ 5 ม)
    หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม ท่านไปเรียน วิชาทำน้ำมนต์ เสกนะ หลวงพ่อเก๋ วัดแม่น้ำ ท่านก็ไปฝากตัวเป็นศิษย์ และต่อมา อาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร ผู้เป็นตาเคยเรียก อาจารย์ต๊ะท่านไปอาบน้ำมนต์ครอบครูวิชาและตำราเทพระกริ่ง ให้เมื่อ ลอยกระทงปี 36 และปี 40 หลังจากนั่งปรกวัดสุทัศน์เทพวรารามเสร็จแล้ว

    และได้เรียนตำราเสกช้าง เพิ่มเติมจากตำราเก่าของวัดช้าง จาก หลวงพ่อฉาบ วัดคลองจันทร์ จังหวัดชัยนาถ
    อีกทั้งท่านได้ร่ำเรียนวิชาลงตะกรุดบังปืนใบลานจากหลวงพ่อสง่า วัดบ้านหม้อ ราชบุรี พระเกจิอาจารย์แห่งลุ่มแม้น้ำแม่กลอง จากหลวงพ่อมาโดยตรงอีกมายมาย และไปมาหาสู่เป็นประจำ หลวงพ่อสง่าท่านรักและเมตตา อาจารย์ต๊ะเป็นอย่างมาก ที่มีงานพุทธาพิเษกพระกริ่งของทางวัดช้างครั้งใด หลวงพ่อท่านจะเมตตามานั่งปรกให้ทุกครั้ง
    ท่านไปศึกษาโหราศาสตร์ กับพระมหาณัฐพงษ์ ฐิตปญฺโญ วัดชำนิหัตถการ (วัดสามง่าม) เชิงสะพานยศเส ปทุมวัน กรุงเทพฯ

    และคาดว่าท่านยังศึกษาวิชาต่าง ๆ จากพระเกจิอาจารย์อื่น ๆ อีกมากมาย ที่มิได้กล่าวมาข้างต้น
    จากหลักฐานรูปถ่ายพิธีปลุกเสกพระกริ่งของท่านไม่ว่ารุ่นใดในอดีต พระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ ที่นอกเหนือจากที่กล่าวมานั้น โดยมี หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ หลวงพ่อทอง วัดสำเภาเชย หลวงพ่อพูล วัดไผ่ล้อม นครปฐม หลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่ หลวงพ่อถนอม วัดสุทัศน์ พระอาจารย์สาท (โม่ง) ธรรมโชติ วัดขนอนเหนือ ศิษย์และมีศักดิ์เป็นหลานชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อพรห์ม วัดขนอนเหนือ และพระเถระสายสำนักวัดสุทัศน์เทพวราราม อีก หลาย ๆ รูป ด้วยกัน ที่มิได้เอ่ยนาม ก็เป็นพระเถระคณาจารย์ที่ท่านให้ความเคารพนับถือ และกราบอาราธนามานั่งปรกในมณฑลพิธีพระกริ่งวัดช้างของท่าน
    นับว่าเป็นที่น่าเสียดายที่ท่านมาด่วนจากไป เนื่องจากสุขภาพร่างกายท่าน มีโรคประจำตัวแทรกซ้อนมากมาย ทั้งเบาหวาน ความดัน ก่อนการเดินทางแพทย์ประจำตัวของท่านตรวจรักษาโรคประจำตัว และกำชับว่าไม่อยากให้เดินทางในช่วงนี้ แต่เนื่องจากอุปนิสัยของพระอาจารย์ท่านมักเป็นคนดื้อรั้น ไม่อยากผิดคำพูดที่รับปากว่าจะไป และท่านก็ไม่ได้นำยาที่ฉันประจำ ติดไปจึงทำให้ท่านมิอาจทนกับความทุกข์ทรมานในร่างกายของท่านได้ ท่านระสังขารไปอย่างรวดเร็วโดยที่คณะศิษย์ยานุศิษย์ของท่านทุกคนมิทันตั้งตัว อย่างไรก็ตามสิ่งที่ท่านหลงเหลือไว้ก็เป็นคุณความดี และหลวงพ่อดำศักดิ์สิทธิ์ ที่ท่านตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาให้ชาวอำเภอบ้านนา ได้กราบไหว้บูชา อยู่ทุกวันนี้

    ท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจารย์ต๊ะ เข้าดำรงตำแหน่งเป็นเจ้าอาวาสวัดช้างลำดับ ที่ ๙ หลังจากที่พระจารย์ต๊ะ เข้ารับตำแหน่งแล้ว ก็ได้ดำริที่จะให้มีการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่ของวัดช้าง ขึ้นมาอีกครั้ง หลังจากที่มีเคยการจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งการสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้างในครั้งนั้น เกิดขึ้นโดยท่านอาจารย์นิรันดร์ แดงวิจิตร หรืออาจารย์หนู ได้กราบทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนา จัดสร้างพระกริ่งวัดช้างขึ้นมา เพื่อหารายได้มาใช้ในการก่อสร้างโรงเรียนวัดช้าง ซึ่งองค์สมเด็จพระสังฆราช(แพ) ก็ทรงพระเมตตา ประทานอนุญาต ตามคำกราบทูลขอ และได้ดำเนินจัดสร้างขึ้น โดยกำหนดให้มีการเททองหล่อพระกริ่ง ขึ้นในวันเพ็ญกลางเดือนสิบสอง ปีพุทธศักราช ๒๔๘๔ ซึ่งตรงวันประสูติของสมเด็จพระสังฆราช(แพ) และทรงเสด็จพระดำเนินมาเป็นองค์ประธานในพิธี ณ พระอุโบสถวัดสุทัศน์ฯ อีกด้วย

    การจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง ขึ้นอีกในครั้งนี้ แต่เดิมพระอาจารย์ต๊ะดำริที่จะจัดสร้างรูปหล่อจำลององค์หลวงพ่อดำซึ่งเป็นพระพุทธรูปปางมารวิชัยของวัดสุทัศน์ฯ ให้ประดิษฐานอยู่ที่วัดช้างเพื่อให้ประชาชนโดยทั่วไปได้กราบไว้บูชา การจัดสร้างองค์หลวงพ่อดำนั้น อาจารย์ต๊ะ ได้ให้ช่างออกแบบขยายใหญ่ ขนาดหน้าตัก ๙ ศอก สูง ๑๓ ศอก แต่การจัดสร้างมีอุปสรรคมากมาย เริ่มตั้งแต่การปั้นหุ่นพระ ก็ต้องปั้นแล้วปั้นอีก เป็นเวลานานถึง ๒ ปีจึงสามารถปั้นจนแล้วเสร็จ แล้วจึงได้ทำพิธีเททองหล่อองค์หลวงพ่อดำ ซึ่งต่อมาพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ ประทานพระนามว่า “หลวงพ่อพระพุทธมหามุณีศรีวรเขตนายก สาธกสรรพมงคลมหาชนอภิปูชะนี”

    เมื่อหลวงพ่อดำ สร้างแล้วเสร็จ ก็มีปัญหาตามมาเนื่องจากหลวงพ่อดำเป็นพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องมีการสร้างวิหารครอบ แต่ยังขาดทุนทรัพย์อีกเป็นจำนวนมากในการก่อสร้าง พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ตั้งจิตอธิฐานขอให้พบกับผู้มีบุญมีจิตศรัทธามาร่วมสร้างบุญกับท่าน

    แล้วท่านก็สมความปรารถนา เมื่ออาจารย์ต๊ะได้พบกับพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์ จึงได้ปรึกษาหารือถึงการก่อสร้างวิหารครอบหลวงพ่อดำ ซึ่งเป็นช่วงที่ทางวัดสุทัศน์ฯ กำลังจะจัดสร้างพระกริ่งจักรพรรดิ เพื่อฉลองชนมายุ ๗๑ พรรษาของพระวิสุทธาธิบดี พระอาจารย์ต๊ะจึงได้ถวายตำราและแนะนำให้พระเดชพระคุณเจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม ได้ทำการเฉลิมพระนามพระพุทธเจ้า เพิ่มจากเดิมในสมัยกรมหลวงมรุพงษ์ศิริพัฒน์ รวมเป็น ๖๗๒ พระนาม ทั้งยังรับอาสาเป็น-านในการจาร “พระนามแดง” ( เป็นภาบาลีขอม) ลงในใต้ฐานองค์พระกริ่งจักรพรรดิ

    นอกจากนี้ยังได้ถวายมณฑลพิธีวัดช้างให้เป็นสถานที่เททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิ อีกทั้งพระอาจารย์ต๊ะ ยังได้ถวายชนวนมวลสาร แร่ธาตุของพระกริ่งรุ่นเก่าของวัดสุทัศน์ ที่ท่านอาจารย์หนู ผู้เป็นคุณตาเก็บรักษาไว้ ให้นำไปหล่อเป็นพระกริ่งจักรพรรดิ ซึ่งมีทั้งชนวนก้าน ชนวนแผ่นและชนวนเม็ด จำนวนเป็นกระสอบๆ

    จนถึงวันเพ็ญขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๒ พุทธศักราช ๒๕๔๔ ณ ตำหนักสมเด็จพระสังฆราช(แพ) คณะ ๖ วัดสุทัศน์เทพวราราม ซึ่งเป็นวันไหว้ครูของท่านอาจารย์นิรันดร์(หนู) ซึ่งในวันนั้นตรงกับวันสถาปนาพระกริ่งวัดช้าง (พ.ศ.๒๔๘๔) ซึ่งเป็นรุ่นแรก และยังตรงกับวันประสูติของสมเด็จพระสังราช(แพ) อีกด้วย โดยในวันนั้นพระวิสุทธาธิบดี ได้มีเมตตาอนุญาตให้พระอาจารย์จัดสร้างพระกริ่งวัดช้าง ขึ้นมาอีก ๑ รุ่น รวมทั้งมอบต้นแบบพิมพ์พระกริ่งใหญ่ ให้กับพระอาจารย์ต๊ะ และท่านอาจารย์หนูไปจัดสร้างพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยมีวัตถุประสงค์ ๓ ประการ คือ
    ๑.เพื่อเป็นอนุสรณ์ครบรอบ ๖๐ ปี ที่อาจารย์นิรันดร์(หนู)ได้ทูลขอท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ให้มีการสถาปนาพระกริ่งวัดช้างขึ้น ณ.วัดสุทัศน์เทพวราราม พุทธศักราช ๒๔๘๔
    ๒. เพื่อมอบเป็นพุทธานุสรณ์ให้แก่พุทธศาสนิกชนที่ร่วมทำบุญ สนับสนุนการสร้างพระพุทธรูปใหญ่และวิหาร วัดช้าง
    ๓. เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา
    ในค่ำคืนวันนั้นพระครูวัชภัทราภรณ์ หรือพระอาจาร์ต๊ะและพระคณาจารย์ผู้ทรงวิทยาคม ได้ร่วมกันการจารแผ่นพระยันต์ ๑๐๘ เพื่อเตรียมไว้ในการทำพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง และมีพิธีพุทธาภิเษกน้ำทิพย์มนต์ ที่พระวิสุทธาธิบดีได้จัดถวายน้ำสรงรูปเหมือนท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระสังฆราช(แพ) ณ พระอุโบสถวันสุทัศน์เทพวราราม หลังเสร็จพิธี ได้มีการแจกน้ำทิพย์มนต์ในคืนศิวาราตรีนั้นให้แก่พุทธศาสนิกชนที่มาร่วมในพิธีกันเป็นจำนวนมากอีกด้วย

    จากนั้นในวันที่ ๒๖ มกราคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ตรงกับวันเสาร์ขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง มงคลฤกษ์ ๑๘.๕๕ น.ได้ประกอบพิธีเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้าง โดยทำพิธีเททองหล่อร่วมกับพิธีเททองหล่อพระกริ่งจักรพรรดิและเททองหล่อพระพุทธรูปใหญ่องค์หลวงพ่อดำ(ส่วนพระเกศ) ซึ่งมีพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดี เจ้าอาวาสวัดสุทัศน์เทพวราราม เป็นองค์ประธานในพิธี

    เมื่อทำการเททองหล่อพระกริ่งใหญ่วัดช้างเรียบร้อยแล้ว จึงได้ทำการประกอบพิธีพุทธาภิเษก เมื่อวันที่ ๒-๓ กุมภาพันธ์ พุทธศักราช ๒๕๔๕ โดยพระวิสุทธาธิบดี เป็นองค์ประธาน มีพระเถรานุเถระผู้ทรงวิทยาคมร่วมพิธีจำนวนมาก ซึ่งพระกริ่งใหญ่วัดช้างรุ่นนี้ได้ทำการบรรจุเกศาและผงพุทธคุณของพระเดชพระคุณพระวิสุทธาธิบดีไว้ทุกองค์ มีจำนวนทั้งสิ้น ๒๕๔๕ องค์ แบ่งเป็นแบบก้นถ้วย ๕๖๐ องค์ และก้นเรียบ ๑๙๘๕ องค์
    หลังจากเสร็จพิธีพุทธาภิเษก แล้วมีการเปิดให้ประชาชนบูชา ปรากฏว่าได้มีคลื่นประชาชนจำนวนมาก ต่างหลั่งไหลมาจากทั่วทุกสารทิศเพื่อเช่าบูชาพระกริ่งใหญ่ จนบริเวณวัดและบริเวณใกล้เคียงเนืองแน่นไปด้วยศาสนิกชน นับเป็นเหตุการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งที่ได้มีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ของวัดช้าง

    เมื่อองค์จำลองพระพุทธรูปใหญ่(หลวงพ่อดำ)ได้มีการหล่อเสร็จสมบูรณ์ จากเงินรายได้ในการให้บูชาพระกริ่งใหญ่วัดช้าง อันถือเป็นความภาคภูมิใจและเป็นวาระอันเป็นมหากุศลอย่างยิ่งของพระอาจารย์ต๊ะ หรือ พระครูธวัชภัทราภรณ์ ที่ได้ตั้งมั่นในการดำเนินการจัดสร้าง จึงเป็นเสมือนการยกภูเขาออกจากอก จนท่านถึงกับเคยเอ่ยปากกับคนใกล้ชิดว่า “ภาระเสร็จแล้ว สบายแล้ว จะไปแล้ว จะไปพักผ่อนแล้ว ” ซึ่งหลังจากที่ท่านพระอาจารย์ปรารภเพียงไม่กี่วัน คือวันที่ ๒๐ มีนาคม พุทธศักราช ๒๕๔๕ ท่านก็เดินทางไปอย่างสงบด้วยโรคหัวใจวายเฉียบพลัน สิริรวมอายุได้ ๓๔ ปี โดยทิ้งผลงานและคุณงามความดีไว้ให้ลูกศิษย์ลูกหาได้กราบไหว้มาจนปัจจุบันนี้

    เมื่อท่านพระอาจารย์ต๊ะมรณภาพลงแล้ว คณะกรรมการวัดช้างและลูกศิยษ์ที่เคารพนับถือ จึงได้ตกลงร่วมกันให้เก็บสังขารของท่านบรรจุไว้ในโลงศพ แล้วทำพิธีสวดพระอภิธรรมติดต่อกันตลอดมา เป็นเวลานานเกือบ ๕ ปี และมีกำหนดพระราชทานเพลิงศพในวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ แต่ก่อนจะถึงกำหนดวันพระราชทานเพลิง คือวันที่ ๙ กุมภาพันธ์ คณะกรรมการและลูกศิษย์ของท่านจึงได้ทำพิธีเปิดโลงศพของท่าน แล้วทุกคนก็ต้องตกตะลึง เมื่อพบว่าสังขารของพระอาจารย์ต๊ะที่นอนสงบนิ่งอยู่ในโลงมานานกว่า ๔ ปี กลับไม่เน่าเปื่อย หรือมีกลิ่นเหม็น ร่างของท่านเพียงแค่แห้งไปเท่านั้น

    ท่านพระครูโสภณนาคกิจ อาจารย์เดช เจ้าอาวาสองค์ปัจจุบัน จึงได้นำแผนทองคำเปลวมาปิดที่ใบหน้าของพระอาจารย์ต๊ะ และเปิดให้ประชาชนเข้ามาสักการะบูชา เมื่อข่าวแพร่กระจายออกไป บรรดาผู้ที่เคารพนับถือต่างเดินทางมากราบสังขารของท่านกันเป็นจำนวนมาก

    ซึ่งทางวัดก็ได้จัดให้ประชาชนเข้ามากราบไหว้เป็นเวลา ๑ วัน รุ่งขึ้นวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๐ เวลา ๑๖.๐๐ น.จึงได้ประกอบพิธีพระราชทานเพลิงศพท่านพระครูธวัชภัทราภรณ์ ท่ามกลางประชาชนผู้มีจิตเคารพศรัทธาในองค์พระอาจารย์มาร่วมในพิธีนับหมื่นคน
    ข้อมูล พระครูโสภณนาคกิจ อ.เดช



    สภาพผิวหิ้งเก่าเก็บ พิมพ์คมชัดลึก ของดีราคาเยาว์ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 234 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณc_apirom จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2023
  2. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3483.ยอดเหรียญดีเมืองล้านนา สุดยอดมหาพิธีสายครูบาศรีวิชัย
    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย พิมพ์ดอกบัว 11ดอก รุ่นศรีวิชัยยาชนะ

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    gwfg0e-jpg.jpg

    gwhs7g-jpg.jpg
    gwhygw-jpg.jpg
    gwhnig-jpg.jpg

    เหรียญครูบาเจ้าศรีวิชัย พิมพ์ดอกบัว 11ดอก รุ่นศรีวิชัยยาชนะ วัดบ้านปาง จังหวัดลำพูน เนื้อทองแดงผิวไฟ ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 โดยมี ครูบาชัยวงศาพัฒนา วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เป็นผู้ตั้งชื่อรุ่นนี้ ว่า “ศรีวิชัยยาชนะ”

    จัดสร้างโดย
    - คณะสงฆ์และพุทธศาสนิกชน อำเภอลี้ จ.ลำพูน กับ อ.เถิน จ.ลำปาง

    วัตถุประสงค์
    - เพื่อฉลองศิริราชสมบัติ 50 ปี พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ, สร้างอนุสาวรีย์ครูบาเจ้าศรีวิชัยและตกแต่งบริเวณสถานที่ตั้ง, สร้างกำแพงเมืองลี้ ณ รอยต่อแดนข้างถนนสายลี้-เถิน, สมทบทุนสร้างศาสนสถานและสาธารณะสถานในอำเภอลี้

    คณะกรรมการที่ปรึกษาและจัดสร้าง
    - พระครูพัฒนกิจจานุรักษ์ "ครูบาวงษาพัฒนา" วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม ผู้ให้นามรุ่น "ศรีวิชัยยาชนะ ๓๙"
    - พระครูวิลาศคณาทร เจ้าคณะอำเภอลี้ วัดพวงคำ, พระครูอินทวุฒิคุณ รองเจ้าคณะอำเภอลี้ วัดบ้านกลาง

    คณะกรรมการจัดสร้าง
    นายทวี แก้วเรือน นายอำเภอลี้, นายกมลพันธ์ ศัลยพงษ์ ปลักอำเภออาวุโส อำเภอลี้, นายธีรพงษ์ นิลาพันธ์ ศึกษาธิการอำเภอลี้, นายประสิทธิ์ ดวงคำ ป่าไม้ อำเภอลี้, นายภูชิชย์ อาจอง, นายสุรสิทธิ์ ทองรวย, นายนิติวัติ วัฒนพงษ์ศิริ, นายเลิศศักดิ์ ลิขิตดำรงชัย

    รายการวัตถุมงคลที่จัดสร้าง มีดังนี้
    1. รูปเหมือนอนุสาวรีย์ เนื้อโลหะผสม มี 3 ขนาด คือ ขนาดสูง 19 นิ้ว สร้างตามสั่งจอง, ขนาดสูง 9 นิ้ว สร้าง 499 องค์ ขนาดสูง 3.9 นิ้ว สร้าง 4,999 องค์
    2. เหรียญพิมพ์รูปไข่ ชุดกรรมการ ชุดใหญ่ 5 กษัตริย์ (ทองคำ เงิน นวะโลหะ ฝาบาตร และทองแดง) จำนวนสร้างตามสั่งจอง , ชุดกรรมการ ชุด 4 กษัตริย์ (เงิน นวะโลหะ ฝาบาตร และทองแดง) สร้าง 499 ชุด , เนื้อเงิน สร้าง 499 เหรียญ , เนื้อนวะโลหะ สร้าง 999 เหรียญ , เนื้อฝาบาตร สร้าง 7,999 เหรียญ และเนื้อทองแดง สร้าง 9,912 เหรียญ
    3. เหรียญพิมพ์รูปบัวสิบเอ็ดดอก ชุดกรรมการ ชุดใหญ่ 5 กษัตริย์ (ทองคำ เงิน นวะโลหะ ฝาบาตร และทองแดง) จำนวนสร้างตามสั่งจอง , ชุดกรรมการ ชุด 4 กษัตริย์ (เงิน นวะโลหะ ฝาบาตร และทองแดง) สร้าง 499 ชุด , เนื้อเงิน สร้าง 499 เหรียญ , เนื้อนวะโลหะ สร้าง 999 เหรียญ , เนื้อฝาบาตร สร้าง 7,999 เหรียญ และเนื้อทองแดง สร้าง 9,912 เหรียญ

    สำหรับวัตถุมงคลประเภทเหรียญ ที่มี 2 แบบ ลักษณะคือ
    - แบบเหรียญรูปไข่ ด้านหน้าเป็นรูปครูบาเจ้าศรีวิชัย รูปครึ่งองค์ แบบห่มคลุมผ้าจีวร หลังเหรียญ ยันต์ด้านหลังแถวบนสุดเรียกว่า ยันต์พระเจ้าห้าพระองค์

    - แบบเหรียญบัวสิบเอ็ดดอก ด้านหน้าเป็นรูปครูบาเจ้าศรีวิชัยนั่งขัดสมาธิ หลังเหรียญ ยันต์ด้านหลังเรียกว่ายันต์กระบองไขว้
    ด้านหลังของเหรียญทั้งสองแบบเขียนไว้ว่า “รุ่นสร้างอนุสาวรีย์ศรีวิชัยยาชนะ 11 มิ.ย.39 วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน”

    จุดพิจารณาที่สำคัญ คือ โค้ดรูปตัวอักษรไทย เลข ๙ ที่ตอกไว้หลังเหรียญ โดยชุดกรรมการจะมีหมายเลขแต่ละชุดกำกับไว้ ด้วยอักษรตัวเลขไทยเช่นกัน พบว่าส่วนใหญ่ชุดกรรมการจะตอกโค้ดเลข ๙ กำกับไว้จำนวน 2 ตัว แต่บางครั้งก็พบว่าเหรียญชุดกรรมการ ตอกโค้ด ๙ ไว้ตัวเดียวก็มี

    การแยกเหรียญแต่ละเนื้อ พิจารณาจากตำแหน่งที่ตอกโค้ด เลข ๙ ดังนี้
    - เหรียญเนื้อทองคำ ตอกสองโค้ดบริเวณด้านบนซ้าย-ขวา
    - เหรียญเนื้อเงิน ตอกโค้ดบริเวณด้านล่างขวา
    - เหรียญนวะโลหะ ตอกบริเวณด้านล่างซ้าย
    - เหรียญเนื้อฝาบาตร ตอกโค้ดบริเวณด้านบนขวา
    - เหรียญเนื้อทองแดง ตอกโค้ดบริเวณด้านบนซ้าย

    พิธีพุทธาภิเษก
    - เมื่อวันอังคารที่ 11 มิถุนายน พ.ศ.2539 ณ วัดบ้านปาง อ.ลี้ จ.ลำพูน โดยมี

    พระธรรมธีรราชมหามุนี เจ้าคณะภาค ๗ เป็นประธานจุดเทียนชัย
    มีพระเกจิคณาจารย์ที่ร่วมพิธีมหาพุทธาภิเษกมากมาย อาทิเช่น.-

    ๑ ท่านเจ้าคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ วัดปากน้ำ
    ๒ พระธรรมรัตนากร วัดพระบาทมิ่งเมือง
    ๓ พระราชมุกดาหารคณี วัดศรีมงตลใต้
    ๔ พระโสภณธรรมวาที วัดช้างค้ำ
    ๕ พระครูไชยวงศ์วิวัฒน์ (ครูบาน้อย) วัดบ้านปง
    ๖ พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอิน) วัดฟ้าหลั่ง
    ๗ พระครูบาคำหล้า เตชะปุญโญ วัดป่าลาน
    ๘ ครูบาบุญปั๋น ธรรมปัญโญ วัดร้องซุ้ม
    ๙ พระครูศิรินันทคุณ (ครูบาศรีนวล) วัดช้างค้ำ
    ๑๐ ครูบาคำมูล มงคลิโก วัดกอค่า (หนองบัว)
    ๑๑ พระครูมงคลวรเวช (ครูบาจันทร์) วัดป่าเส้า
    ๑๒ พระครูโสภณ ศีลขันธ์ (ครูบาฑูรย์) วัดดอยน้อย
    ๑๓ พระครูสังวรญาณ สำนักปฎิบัติธรรมสังวรญาณ
    ๑๔ พระครูมงคลธรรมสถิต (ครูบาสุจินดา) วัดม่วงชุม
    ๑๕ พระครูมงคลคันธวงศ์ (ครูบาศรียูร) วัดมงคล
    ๑๖ พระครูสันติจิตตานุยุติ (ครูบาตั๋น) วัดลานทอง
    ๑๗ พระครูโพธิสารคุณ วัดโพธิ์โนนทัน
    ๑๘ พระครูพิทักษ์ปัจจันตเขต วัดพระธาตุดอยตุง
    ๑๙ พระครูปัญญาธรรมวัฒน์ วัดสันป่ายางหลวง
    ๒๐ ครูบาตุ่น ปัญญาวิลาโส วัดบ้านล้อง
    ๒๑ พระครูบวรสุขบท (ครูบาสุข) วัดป่าซางน้อย
    ๒๒ พระครูประจักษ์ธรรมวิจารณ์ (ครูบาข่าย) วัดหมูเปิ้ง
    ๒๓ พระครูธรรมสารโสภิต (ครูบาคำมูล) วัดบ้านหลวย
    ๒๔ พระเทพคุณาภรณ์ (หลวงพ่อขุ้น) วัดวังตะกู
    ๒๕ พระครูอมร ธรรมประยุกต์ วัดแม่ริม
    ๒๖ พระวิมลธรรมญาณเถร วัดโรงธรรมสามัคคี
    ๒๗ พระอาจารย์ทอง วัดพระธาตุศรีจอมทอง
    ๒๘ พระครูชัยวงศาพัฒนา วัดพระบาทห้วยต้ม
    ๒๙ ครูบาจ๋อน วัดป่าตาล
    ๓๐ พระครูพิศิษฏ์สังฆการ (ครูบาผัด) วัดศรีดอนมูล
    ๓๑ หลวงพ่อสม โสถโณ วัดเจดีย์สามยอด
    ๓๒ พระครูมงคลคุณาทร วัดหม้อคำตวง
    ๓๓ หลวงพ่อพ่วง ธรรมปัญโญ วัดศรีโคมคำ
    ๓๔ หลวงพ่อธงชัย ฐิตปุญโญ วัดราชคฤห์
    ๓๕ พระธรรมปริยัติมุนี วัดพระธาตุพนม
    ๓๖ ครูบาแสงหล้า วัดพระธาตุสาย
    ๓๗ ครูบาดวงดี วัดท่าจำปี
    ๓๘ พระครูสิทธิวรญาณ วัดศรีคำพู
    ๓๙ พระเทพสุธิ วัดปากน้ำ


    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    - https://www.web-pra.com/shop/jamadevi52/show/1322144



    สภาพสวยผิวไฟเดิมๆเก่าเก็บ พุทธคุณหายห่วงทุกท่านต่างรู้กันดีว่าพิธีนี้สุดยอดขนาดไหน แบ่งให้บูชา 321 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  3. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3484.แนะนำพระที่หลวงพ่อสุรินทร์วัดลาดบัวขาวร่วมเสก พระแก้วมรกตปี09 วัดบ้านโป่ง
    ประจุ4วาระ อ.นำ,ลพ.คล้าย,ลพ.น้อย,ลพ.เงิน ร่วมเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    gku6mg-jpg.jpg

    gk6tan-jpg.jpg

    พระแก้วมรกตพิมพ์สี่เหลี่ยม วัดบ้านโป่ง จังหวัดราชบุรี สีเขียว เนื้อผงว่านผสมผงมหาพุทธคุณ จัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2509 เป้าหมายจะหาทุนบูรณะปฏิสังขรณ์วัดบ้านโป่ง ในการรวบรวมมวลสารต้องใช้เวลากว่า 5 ปี

    มีมวลสารหลักดังนี้
    ผงว่าน 108, ผงวิเศษจากเกจิอาจารย์ทั่วประเทศ 108 สำนัก, เกสรดอกไม้ 108, ดินหลักเมืองและดินจากสังเวชนียสถาน 4 แห่ง, ดิน 7 โป่ง 7 ท่า, ดอกไม้แห้งจากสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ 108 แห่ง, ผงกรุต่าง ๆ 108 กรุ, น้ำพระพุทธมนต์ 108 โบสถ์ และน้ำมนต์ในพิธี 25 พุทธศตวรรษ


    ในการกระทำพิธีพุทธาภิเษกพระแก้วมรกตวัดบ้านโป่ง ได้ทำอย่างจริงจังถึง 4 ครั้ง ดังรายละเอียดดังต่อไปนี้

    ครั้งที่ 1 : วันเสาร์ที่ 3 กันยายน 2509 เวลา 10.20 น. คือฤกษ์จุดเทียนชัย
    และมีคณาจารย์นั่งปรกอยู่ 14 รูป เป็นจำนวนตัวเลขมหาจักรพรรดิ
    - เจ้าคุณราชธรรมาภรณ์ (หลวงพ่อเงิน) วัดดอนยายหอม
    - หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    - เจ้าคุณอินทเขมาจารย์ วัดช่องลม
    - เจ้าคุณพิบูลย์ธรรมวาที วัดปากท่อ
    - เจ้าคุณโพธารามคณารักษ์ วัดเฉลิมอาศน์
    - พระครูสาธุกิจวิมล วัดหนองดินแดง
    - พระครูปราสาทลังวรกิจ (หลวงพ่ออินทร์) วัดโบสถ์
    - พระครูปลัดพรหม วัดสัตตนาถปริวัตร
    - พระครูอนุรักษ์วรคุณ (หลวงพ่อสง่า) วัดหนองม่วง
    - พระครูประสิทธิ์ วัดอุบลวรรณาราม
    - พระครูอาจารโสภณ วัดกลางวังเย็น
    - หลวงพ่อแก้ว วัดหนองเอี่ยน
    - หลวงพ่ออ๊อด วัดโกสินารายณ์
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดท่ากระทุ่ม


    ครั้งที่ 2 : วันเสาร์ที่ 10 เดือนปีเดียวกัน 9.30 น. จุดเทียนชัย
    - เจ้าคุณเทพลังวรภวิมล วัดเจริญสุธารามสมุทรสงคราม
    - เจ้าคุณสมุทรสุธี วัดช่องลม ราชบุรี
    - เจ้าคุณอินทเขมาจารย์ วัดช่องลม
    - พระครูโพธาภิรมย์ (วัดบ้านเลือก) ราชบุรี
    - เจ้าคุณราชวชิราภรณ์ วัดยาง เพชรบุรี
    - พระครูวชิรรังษี วัดมฤคทายวัน เพชรบุรี
    - พระครูพรหมวิหารธรรม วัดพรหมวิหาร เพชรบุรี
    - พระครูอาจารโสภณ วัดกลางวังเย็น ราชบุรี
    - พระครูอาทรวชิรธรรม วัดพลับพลาชัย เพชรบุรี
    - พระครูบรรณกิจสุนทร วัดโพธาราม ราชบุรี
    - พระครูปลัดพรหม วัดสัตตนาถปริวัตร ราชบุรี
    - หลวงพ่อหวล วัดโพธิโสภาราม ราชบุรี
    - พระครูอนุรักษ์วรคุณ (หลวงพ่อสง่า) วัดหนองม่วง ราชบุรี
    - หลวงพ่ออ๊อด วัดโกสินารายณ์
    - พระครูปึก วัดสวนหลวง ราชบุรี
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดท่ากระทุ่ม กาญจนบุรี


    ครั้งที่ 3 : วันเสาร์ที่ 17 กันยายน เวลา 11.50 น. จุดเทียนชัย
    - หลวงพ่อแก้ว วัดป่า(เจ้าคุณวรพตปัญญาจารย์) วัดอรัญญิกาวาส ชลบุรี
    - พระครูโสภณประชานาถ (หลวงพ่อนาถ) วัดศรีโลหะราษฏร์บำรุง
    - หลวงพ่อหลิว วัดสนามแย้ กาญจนบุรี
    - หลวงพ่อหอม วัดซากมาก ระยอง
    - พระครูสถาพรพุทธมนต์ (หลวงพ่อสำเนียง) วัดเวฬุวัน นครปฐม
    - พระครูวิจิตรสารคุณ วัดลาดบัวขาว ราชบุรี
    - พระครูสุวรรสาธุกิจ (หลวงพ่อแดง) วัดทุ่งคอกสุพรรณบุรี
    - หลวงพ่อหวล วัดโพธิโสภาราม ราชบุรี
    - พระครูเมธาธิการ วัดโพธิบัลลังก์ บ้านโป่งราชบุรี
    - พระอาจารย์เงิน วัดจันทราม ราชบุรี
    - พระครูโพธาภิรมณ์ วัดบ้านเลือก ราชบุรี
    - พระอาจารย์ขันธ์ วัดศรีอารีย์ ราชบุรี
    - พระครูอนุรักษ์วรคุณ วัดหนองม่วง ราชบุรี
    - หลวงพ่อพิมพ์ วัดหุบมะกล่ำ ราชบุรี
    - หลวงพ่อเกลี้ยง วัดเขาใหญ่ กาญจนบุรี
    - พระอาจารย์แสวง วัดหนองหญ้าปล้อง ราชบุรี
    - พระครูปลัดพรหม วัดสัตตนาถปริวัตร
    - หลวงพ่อทอง วัดหมอสอ กาญจนบุรี
    - พระครูบรรณกิจสุนทร วัดโพธาราม ราชบุรี
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดท่ากระทุ่ม


    ครั้งที่ 4 : วาระสุดท้าย วันที่ 8 ตุลาคม 2509 เวลา 10.30 น.
    - พระครูพิศิษย์อรรถการ (พ่อท่านคล้าย) วัดจันดี นครศรีธรรมราช
    - พระครูวิสัยโสภณ (อาจารย์ทิม) วัดช้างไห้ ปัตตานี
    - เจ้าคุณวิมลกิจจารักษ์ วัดชนะสงคราม กทม.
    - หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ อยุธยา
    - หลวงพ่อนำ วัดดอนศาลา พัทลุง
    - หลวงพ่อเยื้อง วัดชะอวด นครศรีธรรมราช
    - หลวงพ่อวัน วัดรัตนาราม พัทลุง
    - พระใบฏีกาจำปี วัดโปรตุเกศ ปากเกร็ด นนทบุรี
    - พระอาจารย์แสวง วัดหนองหญ้าปล้อง
    - หลวงพ่อแง วัดเจริญสุทธาราม สมุทรสาคร
    - หลวงพ่อชื้น วัดตำหนักเหนือ นนทบุรี
    - เจ้าคุณสมุทรสุธี วัดกลางเหนือ สมุทรสงคราม
    - พระครูพิศาลถาวรกิจ วัดบ้านหม้อ ราชบุรี
    - พระอาจารย์เล็ก วัดเขาดิน กาญจนบุรี
    - พระครูเมธาการ วัดโพธิบัลลังก์, หลวงพ่อสง่า วัดหนองม่วง
    - พระครูวรพตธาดา วัดตาลปากลัด ราชบุรี
    - พระครูวราภิวัฒน์ วัดบ้านม่วง ราชบุรี
    - หลวงพ่อหลิว วัดสนามแย้ กาญจนบุรี
    - พระครูบรรณกิจสุนทร วัดโพธาราม
    - หลวงพ่อแก้ว วัดหนองเอี่ยม
    - หลวงพ่อหวล วัดโพธิโสภาราม
    - พระครูล้น วัดหัวหิน ราชบุรี
    - หลวงพ่อสำอางค์ วัดท่ากระทุ่ม

    ข้อมูลจาก : เว็บไซต์ศิษย์หลวงพ่อสังวาลย์ เขมโก


    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์ เก่าเก็บหิ้งเก่ากึก พระดีพิธีใหญ่พุทธคุณครอบครบ ดูจากรายนามพระคณาจารย์ก็คงจะหายสงสัยได้นะครับ ท่านใดหาพระเครื่องของหลวงพ่อสุรินทร์ใช้ไม่ได้ เอารุ่นนี้ไปบูชาแทนได้เลยครับผม แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  4. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3485.มหากาพย์พิธีเหนือโลก นิมิตร อ.ไพศาล แสงไชย(๑๐) พระรอดปลอดภัย
    เจตนาสร้างบริสุทธิ์ ครูบาอินโท และพระสงฆ์จากเทวโลก อธิษฐานจิตมหาพิธี 9ราตรี

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    hjm6iq-jpg.jpg

    kyclpk-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycc4q-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg kycuqs-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระรอดปลอดภัย(หลัง อ.) พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน วัดสันป่ายางหลวง จังหวัดลำพูน ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปีพ.ศ.2532 เนื้อดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมาผสม ผงยา,ผงว่าน,มวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่างๆ ,ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดทำมวลสาร

    ประวัติพระรอด
    คนส่วนใหญ่มากเมื่อพูดถึงเมืองลำพูน มักจะเล่าสู่กันฟังถึงความวิจิตรสายงามของพระธาตุภุญชัย อันตั้งเด่นตระหง่านเป็นพันปี เท่าอายุของนครหริภุญชัยหรือลำพูน ในปัจจุบัน เช่น พระเจดีย์วัดจามเทวีและกู่บรรจุอัฎฐิพระแม่จามเทวี ปฐมกษัตริย์ของหริภุญชัย ตลอดจนพระวัดวาอารามต่างๆ อีกหลายแห่ง ซึ่งล้วนแต่มีประวัติอันยาวนานคู่บ้านคุ่เมือง

    วัดที่รู้จักกันดีในบรรดาพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศ เพราะเป็นที่บรรจุพระเครื่องสำคัญเป็นอันที่รู้จัก และเป็นที่นิยมกันทั่วไปนับได้ว่าเป็นลัญญสักษณ์อย่างหนึ่งของเมืองลำพูน คือ วัดพระคงฤาษี ซึ่งอยู่ทางทิศเหนือของตัวเมืองลำพูน เป็นที่ประดิษฐานบรรจุพระคง หรือเรียกกันอีกชื่อหนึ่งว่าพระลำพูนดำ หรือ ลำพูนแดง แล้วแต่สีของพระ อีกวัดหนึ่งคือวัดมหาวัน ซึ่งอยู่ทางทิศตะวันตกของตัวเมืองลำพูน เป็นวัดที่ประดิษฐานบรรจุพระเครื่องสำคัญ ซึ่งเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขว้าง ทั้งคนในเมืองลำพูน และคนทุกภาคทุกจังหวัดของประเทศไทย ต่างก็พยายามเสาะแสวงหามาไว้บูชาพกพาติดตัวเพื่อพึ่งพลังอิทธิฤทธิ์ ให้แคล้วคลาดจากภยันอันตรายทั้งหลายทั้งปวงอันอาจจะประสบเข้ากับตนเอง และด้วยอำนาจพระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณอันบรรจุไว้ในองค์พระรอดนี้ ได้ช่วยให้ผู้ที่บูชากราบไหว้อยู่เสมอ ให้แคล้วคลาดหลุดพ้นจากเหตุการณ์อันตรายได้โดยปลอดภัยราวกับปาฎิหาริย์ มานับครั้งไม่ถ้วน มีหลักฐานบุคคลที่ประสบเหตุการณ์พอที่จะสอบถามได้อยู่มาก

    เหตุที่พระรอดเป็นพระเครื่องที่ทรงไว้ ซึ่งอิทธิปาฎิหาริย์อันยิ่งใหญ่ดังที่ได้กล่าวมาแล้วนั้นเป็นเพราะ
    1. ผู้สร้างพระรอด (รวมทั้งพระคง และพระลือ) สร้างขึ้นมาด้วยจิตอันบริสุทธิ์ ประกอบด้วยเมตตาธรรมเป็นที่ตั้ง หวังให้บุคคลผู้มีไว้ครอบครอง และบูชาอยู่เป็นนิจ ได้รับความร่มเย็นเป็นสุข รอดพ้นจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวงที่จะมาเบียดเบียนชีวิต ทั้งนี้ โดยไม่หวังผลเป็นอามิสไดๆ ทั้งสิ้น
    2. นอกจะมีไว้เพื่อปกป้องประชาชนแล้ว ท่านผู้สร้าง ยังมุ่งหวังเพื่อจะให้คุ้มครองบ้านเมืองให้แคล้วคลาดปราศจากภยันตรายทั้งหลายทั้งปวง ดังนั้นการสร้างก็อธิฐานไปในทางข่มศัตราวุธและอำนายให้เกิดความแคล้วคลาด (รายละเอียดการสร้างพระรอด โปรดหาอ่านได้จากหนังสือ)

    เหตุการณ์มหัศจรรย์
    ในระยะที่ทางคณะผู้จัดสร้างพระรอด กำลังดำเนินงานกันอยู่นี้ คุณไพศาล แสนไชย ผู้สามารถติดต่อกับเทวโลกได้ และนรกได้ ทำหน้าที่ทูตจากเทวโลกและนรกโลกมาเป็นเวลานานแล้ว ได้นำข่าวจากเทวโลกมาแจ้งให้แก่พระอาจารย์อินทรว่า การสร้างพระรอดครั้งนี้ทางพระสงฆ์ที่อยู่บนเทวโลก ท่านก็ได้ทราบแล้วและทุกท่านที่ทราบ เช่น ท่านครูบาคัณธา คัณธาโล ครูบาสรีวิชัย หลวงพ่อโอภาสี ก็ขอร่วมอนุโมทนา ในเจตนารมณ์อันเป็นบุญเป็นกุศลนี้ และแจ้งด้วยว่าในวันพุทธาภิเกพระนั้น ทุกท่านก็จะลงมาร่วมด้วยพร้อมกับพระสงฆ์อีกหลายรูปที่อยู่บนเทวโลก ในโอกาสนี้ท่านครูบาคัณธา คัณธาโลก สั่งมาว่าขอหัยสาธุเจ้าอินทร ไปบอกกล่าวแก่เทวดาผู้รักษา ดอยไซและขอดินที่ดอยไซมาร่วมผสมทำพระรอดด้วย เพราะเทวดาท่านนี้ในอดีตสมัยพระนางจามเทวีท่านชื่อ ขุนเจ้าคำบุญ เคยร่วมสร้างพระรอดโดยเป็นเจ้าพิธีในการทำทุกขั้นตอน ส่วนท่านพญาพิงคราช ก็กำชับมาว่าอย่าลืมเอาว่านเพชรหลีกมาผสมด้วย จะทำให้พระรอดนี้มีอิทธิทางแคล้วคลาดหลีก พ้นจากอันตราย หลวงพ่อโอภาสี ได้ขอให้ครูบาคัณธา นำท่านไปพบกับหลวงปู่บุญ หรือพระพุทธวิถีนายก วัดกลางบางแก้ว อำเภอนครชัยศรี จังหวัดนครปฐม ซึ่งเป็นอาจารย์ของท่านเมื่อยังทรงสังขารอยู่ในมนุษย์โลก แต่ขณะนี้ได้มาสถิตอยู่บนพรหมโลก ท่านมีความรู้เรื่องการสร้างพระเครื่องดีมากเมื่อพบกันแล้วโดยไม่ต้องแจ้งความจำนง หลวงปู่กล่าวออกมาทันทีที่คณะของครูบาคัณธา ไปถึงว่า

    เริ่มดำเนินงาน
    การดำเนินการสร้างพระรอดในครั้งนี้ พระอาจารย์อินทร ปัญยาวัฑฒโน และบรรดาผู้ร่วมงานได้ตกลงจะจะปฏิบัติตามแบบฉบับเดิมของพระแม่เจ้าจามเทวีได้ปฏิบัติมา ซึ่งองค์พระแม่เจ้าได้เล่าเรื่องการสร้างพระรอด พระคง พระลือ อย่างละเอียดผ่านคุณไพศาล แสนไชย และได้จัดพิมพ์เป็นรูปเล่มเรื่อง
    การอธิษฐานจิตแผ่เมตตาให้แก่แบบพิมพ์พระ
    แบบพิมพ์พระรอดนี้ ได้จ้างผู้ที่มีความรู้เรื่องพระรอดและเคยแกะต้นแบบพระรอดมาแล้วจนชำนาญ เป็นผู้แกะต้นแบบจัดทำพิมพ์พระให้แต่ก่อนที่จะนำแบบพิมพ์ทั้งหมดมาทำการพิมพ์พระ ท่านอาจารย์อินทร ได้นำเอาแบบพิมพ์เหล่านั้น ไปขอความเมตตาจากครูบาสังฆะที่มากด้วยพรรษา และเปี่ยมด้วยบารมีธรรมช่วยแผ่พลังจิตอธิษฐาน เพื่อให้พระรอดทุกองค์ที่กดออกจากแบบพิมพ์นั้น ทรงไว้ซึ่งความศักดิ์สิทธิ์ ครูบาสังฆะที่พระอาจารย์อินทร ได้ไปขอความเมตตาจากพระคุณท่าน คือ
    1. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไว อำเภอเมือง จังหวัดลำพูน
    2. ครูบาอิ่นแก้ว วัดวาลุการาม (ป่าแงะ) อำเภอดอยสะเก็ด จังหวัดเชียงใหม่
    3. ครูบาคำตั๋น อารามดอย อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่
    4. พระครูวรวุฒิคุณ (ครูบาอินทร) วัดฟ้าหลั่ง อำเภอจอมทอง จังหวัดเชียงใหม่ แล้วได้ฝากแบบพิมพ์ทั้งหมด ไว้กับท่านครูบาอิน อินโทเป็นเวลา5 วัน กับ 5 คืน เพื่อขอรับบารมีจากครูบา

    การกดพิมพ์พระ
    พระรอดวัดสันป่ายางหลวง ได้ฤกษ์ลงมือกดพิมพ์พระตามแบบโหราจารย์ภาคเหนือ ในวันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2532 ตรงกับวันศุกร์ ขึ้น 11 ค่ำ เดือน 3 เหนือ ยามเช้า พระเณรในวัดสันป่ายางหลวงและคณะศรัธธาผู้ร่วมสร้างพระรอด ได้ช่วยกันนำวัตถุมงคลทุดอย่าง ที่ต้องใช้ในการกดพิมพ์พระรอด เช่น ดินผสม ผงยา และผงว่าน ที่จะนำมาคลุกดินอีกครั้งหนึ่งก่อนการกดพิมพ์พระรอด น้ำทิพย์ที่นำมาผสมดินให้อ่อนนิ่ม ทั้งหมดได้นำมารวมไว้กลางพระอุโบสถ แล้ววางรูปพระเกจิอาจารย์สำคัญๆ อันเป็นที่รู้จักและเคารพสักการะของพุทธศาสนิกชนทั่วประเทศไว้รอบๆ กองวัตถุมงคลนั้น เพื่ออธิษฐานของความเมตตาจากพระคุณท่าน ช่วยแผ่พลังบารมีมาปกป้องคุ้มครองพร้อมกับร่วมประจุพลังลงในวัตถุมงคลนั้นด้วย พระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวง อันมีพระอาจารย์อินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาสเป็นประธาน ได้ร่วมกันสวดชยันโต ประพรมน้ำทิพย์ซึ่งนำมาทำน้ำพระพุทธมนต์ลงไปตามวัตถุมงคลเสร็จแล้วจึงลงมือกดพิมพ์พระ โดยพระอาจารย์อินทร เริ่มประเดิมเป็นองค์แรกพิมพ์ละองค์ทุกๆ พิมพ์ การสร้างพระครั้งนี้ ท่านพระอาจารย์อินทร ได้ตั้งใจไว้ว่าจะทำให้ได้ แปดหมื่นสี่พันองค์ เท่ากับจำนวนพระธรรมขันธ์ และเท่ากับจำนวนที่พระนางจามเทวีได้เคยสร้างไว้ครั้งแรก

    การอาบว่านยา
    การอาบว่านยาเริ่มตั้งแต่วันที่ 28 ธันวาคม 2532 ไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2533 รวมเวลา 9 วัน เริ่มด้วยพิธีการด้วยการเทศน์หนึ่งกันฑ์พระสงฑ์สวดชัยมงคลคาถา อุบาสกพิธีกรรมร่วมกับพระเณร ช่วยกันนำรพะลงอาบแช่น้ำว่านยา เป็นเวลาพอสมควร ให้เนื้อพระดูดซับเอาน้ำว่ายาไว้ แล้วนำขึ้นผึ่งบนแท่นที่ปูลาดด้วยผ้าเหลืองภายในปริมณฑล พระสงฑ์สวดชยันโตแล้วคลุมทับด้วยดอกไม้นานาชนิด ประพรมด้วยน้ำมนต์ น้ำอบน้ำหอม ทำพิธีเช่นนี้ติดต่อกันทุกเช้าเวลา 09.09 น. เป็นต้นไป จนถึงวันครบกำหนดคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 และในตอนกลางคืนทุกคืน ได้รวมพระรอดกองไว้แล้วพระสงฑ์ภายในวัด สวดชัยมงคลคาถาเป็นประจำจนเสร็จพิธีอาบว่านยา หลังจากนั้นวันสุดท้ายคือ วันที่ 5 มกราคม 2533 ได้นำพระรอดทั้งหมดมาประพรมและคลุกด้วยน้ำมันมนต์ อันประกอบด้วยน้ำมันงา , น้ำมันจันทน์ , น้ำมันมะพร้าว , น้ำมันมะกอก , น้ำมันละหุ่ง , น้ำมันหมื้อ , ชมด , ผงจันทร์เทศ , และกฤษณา น้ำมันนี้ได้เก็บไว้ในโบสถ์ และทำพิธีสวดด้วยธรรมจักร ทุกวันพระตลอดพรรษา ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2525 จนกระทั่งเนื้อพระดูดซับเอาน้ำมันมนต์ฉ่ำทั่วองค์พระแล้ว จึงนำออกผึ่งให้แห้ง พอพระรอดทั้งหมดแห้งพอดี ก็ลำเลียงเข้าสู่บริเวณพิธีที่จะทำพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไป

    การอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    เมื่อขั้นตอนทั้งหลายผ่านพ้นไป และได้สำเร็จเป็นองค์พระตามที่ต้องการแล้ว พิธีสำคัญยิ่งคือพิธีพุทธาภิเษก หรือการอธิฐานจิตแผ่เมตตาประจุไว้ในองค์พระ สถานที่ประกอบพิธีกรรมภายในโบสถ์ วัดสันป่ายางหลวง ด้วยเห็นว่า โบสถ์นั้น เป็นสถานที่ของสงฑ์โดยเฉพาะการทำพิธีกรรมของสงฑ์ เช่น การอุปสมบท การปลงอาบัติ ฟังพระปาฏิโมกข์ ก็ทำได้เอาเฉพาะในโบสถ์เท่านั้น ดังนั้น โบสถ์จึงเป็นสถานที่หมดจดสะอาดปราศจากสิ่งเลวร้ายและมลทิน

    การจัดสถานที่ได้จัดเอาบรรดาศาสตราวุธทุกชนิดเท่าที่จะจัดหาได้บางอย่างก็ต้องใช้ของสมมุติแทนสิ่งมีพิษทั้งหลาย เช่น บรรดายาพิษทั้งหลายที่ชาวบ้านใช้กัน สัตว์มีพิษ และดุร้าย เช่น งูพิษ ตะเข็บ ตะขาบ ฯลฯ เสือ สิงโต กระทิง ควายป่า ช้าง ฯลฯ สัตว์ร้ายเหล่านี้ต้องใช้ของประดิษฐ์แทนของจริง ของทั้งหมดจัดนำมาเพื่อข่มพิษร้ายโดยจัดวางไว้ใต้แท่นที่วางพระแล้วปูทับด้วยผ้าขาวโรยทับด้วยดอกไม้อันมีดอกพุธ ดอกมะลิ และดอกไม้หอมอื่นๆ อีกมาก หมายถึงการลดความเลวร้ายลงและเปลี่ยนจากร้ายให้กลายเป็นดีในที่สุด ชั้นบนเป็นชั้นที่จัดวางพระรอดที่จะนำมาเข้าพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ปูลาดด้วยผ้าขาวแล้วจึงวางเกลี่ยพระลงบนชั้นนั้น ประพรมด้วยน้ำอบ น้ำหอมจนทั่วกองพระ แล้วปูทับด้วยผ้าขาวอีกชั้นหนึ่ง ชั้นบนสุดก็โรยด้วยดอกไม้อันเป็นมงคล และมีกลิ่นหอม การโรยดอกไม้ชั้นนี้ ได้โรยทับขึ้นไปทุกคืน ตลอดระยะเวลา 9 คืน
    พิธีสำคัญนี้ได้ฤกษ์เริ่มพิธีในวันที่ 6 มกราคม 2533 ตรงกับวันเสาร์ขึ้น 14 ค่ำ เดือน 4 เหนือ ไปจนถึงวันที่ 14 มกราคม 2533 พิธีเริ่มตั้งแต่เวลา 19.00 น. ไปจนถึงเที่ยงคืน หลังเที่ยงคืนไปแล้ว ก็ยังคงเปิดโบสถ์จุดเทียนชัยไว้ แล้วกล่าว อัญเชิญเทพเทวาทั้งหลาย และพระสงฑ์จากพรหมโลก เทวโลก ขอให้มาร่วมแผ่เมตตาและอนุโมทนาในกองกุศลนี้ด้วย พิธีกรรมนี้ทำติดต่อกันไปรวมเวลาได้ 9 คืน ในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ ทางวัดได้นำพระพุทธรูปขนาดหน้าตักกว้าง 9 นิ้ว จำนวน 205 องค์ พระพุทธรูปใหญ่ปางสมาธิ ขนาดหน้าตักกว้าง 69 นิ้ว 1 องค์ พระพุทธรูป ยืนปางห้ามมารสูง 4 ศอก 1 องค์ พระพุทธรูปปางประธานพรแบบอินเดีย ขนาดหน้าตักกว้าง 39 นิ้ว 2 องค์ เข้าร่วมพิธีด้วย พระเกจิอาจารย์หรือครูบาสังฆะ ที่นิมนต์มาร่วมในพิธีอธิฐานจิตครั้งนี้ทั้งหมด 32 รูป ส่วนมากจะมีอายุ 70 พรรษาขึ้นไป และได้บำเพ็ญจิตภาวนาสั่งสมบารมีมาตลอด แม้บางองค์จะมีอายุพรรษาน้อยกว่านั้น แต่ก็เป็นพระที่ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ และสั่งสมบุญบารมีด้วยการบำเพ็ญจิตเรื่อยๆมาไม่ขาดสาย นับได้ว่าเป็นบุญอย่างยิ่งของคณะผู้ดำเนินการสร้างพระ ที่ได้รับความเมตตาอย่างสูงจากพระคุณเจ้าทุกรูป บางองค์ แม้จะสูงอายุสังขารร่างกายก็ทรุดโทรมตามปกติไม่รับนิมนต์ที่ไหนไกลๆ แต่ก็ยินดีมาร่วมพิธีกรรมครั้งนี้โดยเฉพาะ

    รายนามพระสงฆ์ที่มาร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา
    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1. พระมหาเจติยารักษ์ วัดพระธาตุหริภุญชัยวรมหาวิหาร แสดงธรรม “ไชยะสังคะหะ “ เริ่มพิธีกรรม
    2. ครูบาดวงจันทร์ จันวโร วัดป่าเส้า อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาปั๋นคำ วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน
    4. พระมหาบุญช่วย วัดสวนลำไย อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1. ครูบาสิงห์แก้ว สิริวิชโย วัดป่าขาม อ.เมือง ลำพูน
    2. พระครูสุทธิธรรมสุนทร วัดบ้านหลุก อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาอินตา ธนักขันโธ วัดวังทอง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาต่วน อริยวังโส วัดหนองปลาขอ อ.เมือง ลำพูน

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1. พระครูสังวรญาณ วัดพระเจ้าสะเลียมหวาน อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดห้วยแทง อ.บ้านโฮ่ง ลำพูน
    3. พระครูศิรินันทคุณ วัดช้างค้ำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    4. ครูบาซอน ธันมชโย วัดดอนหลวง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดปทุมสราราม อ.ป่าชาง ลำพูน
    3. ครุบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโส วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. พระครูชยาลังการ วัดทาดอยแช่ อ.แม่ทา ลำพูน
    2. พระครูรัตนวงศ์วิวัฒน์ วัดประทุมสราราม อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูบาจันทร์ จันทวังโส วัดสันเจดีย์ริมปิง อ.เมือง ลำพูน
    4. ครูบาสุจินดา สุมังคโล วัดม่วงชุม อ.พาน เชียงราย

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1. ครูสิงหวิชัย สิริวิชโย วัดฟ้าฮ่าม อ.เมือง เชียงใหม่
    2. ครูบาอินตา อินทปัญโญ วัดห้วยไซ อ.เมือง ลำพูน
    3. ครูบาแสง วัดล้อมก่องข้าว อ.สันกำแพง เชียงใหม่
    4. พระครูพิทักษ์ปัจจันตเขต วัดพระชินธาตุดอยตุง อ.แม่สาย เชียงราย

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1. พระครูคันธวงศ์วิวัฒน์ วัดหนองผำ อ.ป่าซาง ลำพูน
    2. ครูบาสม โสภโน วัดเจดีย์สามยอด อ.ป่าซาง ลำพูน
    3. ครูตุ่น ปัญญาวิลาโส วัดบ้านล้อง อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    2. พระครูศรียูรมงคล วัดทุ่งแป้ง อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูบวรสุขบท วัดป่าซางน้อย อ.ป่าซาง ลำพูน

    วันที่ 13 มรกราคม 2533
    1. พระครูวรวุฒิคุณ วัดฟ้าหลั่ง อ.จอมทอง เชียงใหม่
    2. พระครูธรรมภาณี วัดดอยชัย อ.สันป่าตอง เชียงใหม่
    3. พระครูญาณภิรัต วัดป่าเจริญธรรม อ.สันป่าตอง เชียงใหม่

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1. พระครูสุขบทบริหาร วัดห้างฉัตร อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    2. พระครูโถมมณียคุณ วัดบ้านเป้า อ.ห้างฉัตร ลำปาง
    3.พระครูรัตนาคม วัดพระธาตุเสด็จอ.เมือง ลำปาง
    4.พระครูรักขิตคุณ วัดม่อนพญาแช่ อ.เมือง ลำปาง
    นอกจากพระเถระที่นิมนต์มาแล้ว ทุกคืนพระสงฆ์ภายในวัดสันป่ายางหลวงอันประกอบด้วย
    1.พระปลัดอินทร ปัญญาวัฑฒโน เจ้าอาวาส
    2.พระมหาเจริญ ชุตินธโร
    3.พระอุทัย อภิญญาโณ
    4.พระชัยพร สิริปัญโญ
    5.พระคัชเชน โชติธัมโม
    ได้ร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา กับพระเถระเป็นประจำทุกคืน ตั้งแต่คืนเริ่มต้นจนถึงคืนสุดท้าย พระภิกษุรูปอื่นที่ไม่เข้าร่วมพิธีอธิฐานจิตแผ่เมตตา ก็เข้าไปสวดพระคาถาพุทธาภิเษก ร่วมกันกับสามเณร ตั้งแต่เริ่มพิธีจนจบพิธีกรรมทุกๆ คืน

    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลกที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา ทุกคืน หลังจากพิธีกรรมทางมนุษย์โลกจบสิ้นแล้วเวลาตั้งแต่ 24.00 น.เป็นต้นไป ได้มีพระสงฆ์จากพรหมโลก เทวโลก มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตาต่อไปอีก จนถึงเวลา 05.00
    พระสงฆ์จากเทวโลก พรหมโลก ที่มาร่วมอธิฐานจิตแผ่เมตตา พระรอดปลอดภัย

    วันที่ 6 มกราคม 2533
    1.ครูบาคัณธา คัณธาโล วัดเมืองสร้อย ตาก
    2.ครูบาศรีวิชัย วัดบ้างปาง ลี้ ลำพูน
    3.ครูบาบุญทา วัดสันป่ายางหลวง ลำพูน
    4.ครูบาอภัยสะระทะ วัดฝานหิน เชียงใหม่

    วันที่ 7 มกราคม 2533
    1.ครูบาอุปาละ วัดดอยเต (บ้านทา)ลำพูน
    2.หลวงพ่อคล้าย วัดสวนขัน นครศรีธรรมราช
    3.หลวงพ่อสงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร
    4.หลวงปู่เขียว วัดหลงบน นครศรีธรรมราช

    วันที่ 8 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อยิ้ม วัดเจ้าเจ็ดใน อยุธยา
    2.หลวงพ่อปาน วัดคลองด่วน สมุทรปราการ
    3.หลวงพ่อปาน วัดบางนมโค อยุธยา
    4.หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง อุบล

    วันที่ 9 มกราคม 2533
    1.สมเด็จลูน ประเทศลาว
    2.หลวงพ่อโอภาสี วัดบางมด
    3.หลวงปู่บุญ นครปฐม
    4.หลวงปู่สงฆ์ วัดเจ้าฟ้าศาลาลอย ชุมพร

    วันที่ 10 มกราคม 2533
    1.ครูบาสุริยะ วัดเท้าบุญเรือง เชียงใหม่
    2.ครูบาเถิ้ม วัดแสนฝาง เชียงใหม่
    3.ครูบาอินทรจักร วัดป่าลานห้วยยาบ ลำพูน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 11 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก อยุธยา
    2.หลวงพ่อหมุน วัดเขาตะแคงตะวันตก พัทลุง
    3.หลวงพ่อเอีย วัดบ้านด่าน ปราจีน
    4.ครูบาอุปาละ วัดดอยแต (บ้านทา) ลำพูน

    วันที่ 12 มกราคม 2533
    1.หลวงพ่อน้อย วัดศรีษะทอง นครปฐม
    2.หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม นครปฐม
    3.ครูบาอ้าย อินทรปัญโญ วัดสะปุ๋งน้อย (ป่าซาง) ลำพูน

    วันที่ 13 มกราคม 2533
    1.ครูบาดง ชวโน วัดดงเหนือ แพร่
    2.ครูบาแก้ว อินทรจักโก วัดเขื่อนคำลือ แพร่
    3.พระครูเนกขัมมะวิสุทธิ์ วัดดอนตัน น่าน
    4.ครูบาขันแก้ว วัดสันพระเจ้าแดง ลำพูน

    วันที่ 14 มกราคม 2533
    1.ครุบาคำแสน วัดสวนดอก เชียงใหม่
    2.ครูบาคำแสน วัดป่าดอนมูล เชียงใหม่
    3.หลวงปู่คำปัน วัดสันโป่ง เชียงใหม่
    4.หลวงปู่ภู วัดอินทร์วิหาร กรุงเทพ

    พระมหาเถระที่มีชื่อประจำวันนี้ ท่านจะมาร่วมอธิฐานจิต ตั้งแต่เที่ยงคืนจนถึง 5โมงเช้า ตามรายการ นอกจากนี้ยังมีพระเถระอีกนับร้อยรูปจากพรหมโลก ผลัดเปลี่ยนเวียนกันมาร่วมอธิฐานจิต องค์ละประมาณ10-15 นาที แล้วกลับ ตลอดระยะเวลาพิธีอธิฐานจิต ตั้งแต่วันเริ่มต้นจนวันสุดท้าย แต่ไม่อาจจะนำรายนามท่านมาลงได้ทั้งหมด เพราะมีจำนวนมากและบางองค์คุณไพศาล ก็ไม่รู้จัก
    ในคืนเริ่มต้นและคืนสุดท้ายของพิธีกรรม พระแม่เจ้าจามเทวี ได้เสด็จมาร่วมอนุโมทนา และแผ่เมตตาด้วยแต่อยู่ภายนอกโบสถ์ พระแม่เจ้าได้ตรัสกับไพศาลว่า พระรอดปลอดภัยนี้ดีเท่ากับพระรอดในสมัยที่แม่หม่อน(พระแม่จามเทวี)สร้างสามารถปราบแป๊ (ชนะ)ภูตผี เงือกหงอน ได้ด้วย ใครมีบูชาก็จะอยู่เย็นเป็นสุข จำเริญรุ่งเรือง แม่หม่อนขออนุโมทนากับผู้ใดก็ตามที่ได้ไว้บูชาทุกผู้ทุกคน ขอให้เคารพนบยำอย่าได้เหยียบย่ำข้ามกลายเป็นอันขาด(นี่คือคำยืนยันจากดวงพระวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระนางจามเทวี)

    ในปีพุทธศักราช 2529 พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโน (พระครูปัญญาธรรมวัฒน์) ได้สร้างพระอุโบสถหลังใหม่แทนหลังเก่าซึ่งชำรุด ในปีนั้นท่านได้พิจารณาว่า ในงานฉลองอุโบสถหลังใหม่จะเอาอะไรเป็นที่ระลึกแก่ญาติโยมตลอดจน พุทธบริษัทที่ได้ร่วมกันสร้างพระอุโบสถ

    ในคืนวันหนึ่งท่านนั่งสมาธิและได้เห็นรูปพระรอดปรากฏขึ้นในนิมิตนั้น รุ่งเช้าหลังจากฉันภัตตาหารเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ท่านได้คำนึงถึงนิมิตนั้น ท่านได้พิจารณาว่า ถ้าสร้างพระรอดเลียนแบบของเก่าก็จะไม่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง อีกทั้งจะกลายเป็นว่ารูปแบบซ้ำกันเหมือนเลียนแบบของเดิม ท่านจึงเอาสัญญาลักษณ์ อ. ซึ่งเป็นตัวอักขระสำคัญที่ทุกคนจะต้องใช้ตัว อ. นี้ รวมเข้าไปในชื่อของทุกคน คือ อะ อา อิ อี อุ อู เอ โอ โอม ซึ่งเป็นอักขระนะโม มี 9 ตัว เท่ากับโลกุตระธรรมของพระสัมมาสัมมาพุทธเจ้า อีกทั้งเป็นชื่อของท่านด้วย พระอาจารย์อินทรปัญญาวัฑฒโนจึงได้รวบรวมมวลสารต่าง ๆ ในสมัยที่ท่าน เดินธุดงค์ปฏิบัติธรรมไปในสถานที่ต่าง ๆ ใบลานจารอักขระธรรมของวัดที่หักชำรุด เอามาบดรวมกันเพื่อทำผงพระรอด ผสมกับดินสังเวชนียสถานและดินที่วังหัวกวงซึ่งเป็นดินสร้างพระของเมืองลำพูนแต่โบราณกาลมา ได้สร้างพระรอดหลัง อ. ขึ้นจนสำเร็จและทำพิธีพุทธาภิเษก โดยได้นิมนต์พระสงฆ์คณาจารย์แห่งเมืองลำพูนมาทำพิธีพุทธาภิเษก เป็นเวลาหนึ่งเดือนกับเก้าวันเก้าคืน และได้แจกให้ญาติโยมในพิธีฉลองพระอุโบสถหลังใหม่

    หลังจากที่ญาติโยมได้รับแจกพระกันไปโดยทั่วถึงแล้ว เกิดปรากฏการณ์อภินิหารแก่ผู้ที่ได้รับแจกไป ดังนี้

    เรื่องที่หนึ่ง ตำรวจถูกยิง
    นายดาบตำรวจวิสูตร ประจำสถานีตำรวจภูธรแม่ทา จังหวัดลำพูน ถูกยิงด้านหลังขณะเข้าจับกุมยาบ้า หมดสติไป
    สองวัน ในวันที่สามจึงพื้นคืนสติเหมือนคนนอนหลับ ไม่ปรากฏแผลตามร่างกายแต่อย่างใด

    เรื่องที่สอง คนจะคลอดบุตร
    นางนภาภรณ์ บ้านกอม่วง อำเภอเมือง ลำพูน ตั้งครรภ์ เลยกำหนดคลอดมาเป็นเวลานานพอสมควร ญาติจึงนำส่งโรงพยาบาลแมคคอมิค ผลกาตรวจปรากฏว่าเด็กขวางลำตัว ขณะเตรียมตัวรอเจ้าห้องผ่าตัด แม่ของนางนภาภรณ์ได้ระลึกถึงพระรอดหลัง อ.ได้ เพราะได้ยินท่านอาจารย์พูดว่า ถ้าใครมีปัญหาอะไรที่สาหัส ให้เอาพระรอดตั้งสัจจะอธิษฐาน ทำน้ำพระพุทธมนต์ น้ำไปดื่ม กิน อาบ โดยเอาพระรอดแก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ มารดาของนางนภาภรณ์ก็ทำเช่นนั้น เพราะพระรอดได้ผ่านการอาบน้ำว่าน ๑๐๘ ชนิดและน้ำมันมนต์ผ่านการทำพิธีมาเรียบร้อยแล้ว แม่ของนางนภาภรณ์จึงนำน้ำมนต์นั้นมาให้นางนภาภรณ์ดื่ม กิน ลูบหัว ลูกหน้า ลูบท้องของนางนภาภรณ์ ปรากฏเป็นที่อัศจรรย์ว่า ลูกของนางนภาภรณ์คลอดออกมาอย่างง่ายดาย โดยไม่ต้องทำการผ่าตัด

    เรื่องที่สาม อุบัติเหตุรถชน
    นายสวัสดิ์ สันตติภัค คนบ้านพระคงฤาษี ในเมืองลำพูน อายุ ๖๐ ปีถูกรถกระบะชนกลางลำตัวขณะขับขี่จักรยานสองล้อตัดหน้ารถ เพราะไม่เห็นรถกระบะด้วยสายตาไม่ดี รถกระบะชนเต็มที่ ปรากฏว่า ขาหัก ๓ ท่อน โดยไม่มีบาดแผลอื่นใด หมดสติ ไปรู้สึกตัวที่โรงพยาบาล พอรู้สึกตัวก็คลำหาพระรอดหลังอ. ยกมือท่วมหัวพรางนึกในใจว่า รอดตายพระบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้น ยังโดนรถมอเตอร์ไซด์ชนอีก ๒ ครั้ง แต่ก็รอดมาได้โดยไม่เป็นอะไร

    เรื่องที่สี่ พระรอดช่วยคนฟันปลอมติดคอ
    นายบุญชื่น บ้านต้นเหียว อำเภอสารภี จังหวัดเชียงใหม่ รับประทานอาหารเสร็จในวันหนึ่งแล้วลุกมาบ้วนปาก ขณะกรั้วคอล้างปาก ฟันปลอมที่ใส่อยู่ประจำเกิดหลุดออกจากเหงือกที่ยึดอยู่ แล้วไหลลงไปติดอยู่ที่หลอดลม เจ็บปวดสุดแสนสาหัส ทำอย่างไรก็ไม่อาจสามารถเอาออกมาได้ ภรรยาจึงนำส่งโรงพยาบาลมหาราช เชียงใหม่ แพทย์ได้ทำการ x - ray ผลปรากฏว่าฟันปลอมไปติดค้างอยู่ที่หลอดลม หมอลงความเห็นว่าต้องผ่าตัดลำคอเพื่อเอาฟันปลอมออกมา ในขณะที่กำลังรอการผ่าตัด นายบุญชื่นได้รับความทรมานอย่างสุดแสนสาหัส จึงลงความเห็นให้ผ่าตัดด่วน ขณะที่รอหมอภรรยานายบุญชื่นซึ่งแขวนพระรอดหลังอ.ไว้ นึกขึ้นมาได้ จึงเดินไปเอาน้ำจากที่ดื่มน้ำบริการของโรงพยาบาลมหาราช แล้วนำพระรอดหลังอ. มาอธิษฐานว่า “ถ้าพระรอดแน่จริง ศักดิ์สิทธิ์จริง ของให้ฟันปลอมของนายบุญชื่นหลุดออกมาโดยปาฏิหารย์” ภรรยาจึงนำพระรอดหลังอ.แก่วงลงไปในน้ำเพื่อทำน้ำพระพุทธมนต์ แล้วให้นายบุญชื่นอธิษฐานดื่ม ประมาณครู่หนึ่งหลังจากที่นายบุญชื่อดื่มน้ำเข้าไปแล้ว มีอาการคลื่นไส้ อยากอาเจียรอย่างรุนแรง นายบุญชื่นจึงเดินไปที่ถังขยะ ด้วยความทุรนทุรายแล้วอาเจียรออกมาอย่างหนัก ปรากฏว่า ฟันปลอมได้หลุดมากับการอาเจียรในครั้งนั้นโดยอัศจรรย์ นายบุญชื่นได้หยิบเอาฟันปลอมมาทั้งน้ำหูน้ำตา แล้วนำออกมาเพ่งดู ขณะนั้นพอดีกับพยาบาลเรียกให้ไปเข้าห้องผ่าตัด นายบุญชื่นจึงเดินไปหาพร้อมกับยื่นฟันปลอมให้พยาบาลที่จะนำเข้าห้องผ่าตัดดู แล้วบอกว่า “ผมไม่ผ่าแล้ว ฟันผมหลุดออกมาแล้ว” พยาบาลมองดูดด้วยความงุนงงว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? จึงถามนายบุญชื่นว่ามันหลุดออกมาได้อย่างไร? ภรรยาจึงเล่าเรื่องเอาพระรอดหลังอ.ทำน้ำมนต์ให้พยาบาลฟัง เรื่องนี้เป็นที่ฮือฮาและเล่าขานกันมากในโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่

    เรื่องที่ห้า ตำรวจได้ลาภ
    รตต.รัตน์ บุญชู ประจำกองกำกับการตำรวจภูธร จว.ลำพูน เป็นผู้มีความศรัทธาในตัวพระอาจารย์อินทรเป็นอย่างยิ่ง ตอนพักกลางวันของทุกวัน หลังจากรับประทานอาหารแล้วก็จะมาไหว้พระสวดมนต์ แล้วนั่งสมาธิภาวนาเป็นประจำทุกวัน วันหนึ่ง ได้ยินกิตติศัพท์พระรอดหลังอ. จึงมาขอต่อท่านอาจารย์ ไป ๑ องค์ จึงนำไปใส่กรอบติดตัว ในขณะที่รับพระไปนั้น ตั้งสัตย์อธิษฐานว่า ขอให้ได้เลื่อนยศภายในเร็ววัน ต่อมาอีก๒ อาทิตย์ รตต.รัตน์ ได้มาที่วัดเพื่อถวายสังฆทาน แล้วบอกท่านอาจารย์ว่า “ ใครว่าพระรอดหลังอ. รอดจากจากโชคจากลาภ ผมไม่เชื่อเด็ดขาด ท่านอาจารย์ครับ วันนี้ผมได้เลื่อนเป็นรตท.แล้วครับ”

    เรื่องที่หก พระธาตุเสด็จอยู่ในกรอบพระรอด
    นายถวิล ท้าวรอม (ร้านถวิลท้าวรอม) บ้านป่าซาง ได้มาช่วยกดพิมพ์พระรอดหลัง อ. ได้นำพระรอดหลังอ.ที่พระอาจารย์อินทรเป็นผู้กดเอง ใส่กรอบแขวนติดตัวไว้ อุปนิสัยของนายถวิลเป็นใจบุญสุนทานหมั่นปฏิบัติภาวนาเป็นประจำทุกวัน หลังจากนั้นไม่นาน พระธาตุได้เสด็จมาอยู่ในกรอบกับองค์พระรอดหลังอ. เป็นที่น่าอัศจรรย์ (เมื่อมองดูจะเห็นแต่เศียรพระรอดหลังอ. ส่วนองค์พระมองไม่เห็น เห็นแต่พระธาตุ)

    เรื่องที่เจ็ด แสงเลเซอร์ยิงไม่เข้า
    คุณวิภา องค์มหัสมงคล ผู้พิพากษาศาลสมทบจังหวัดนนทบุรี ได้บูชาพระรอดหลังอ.ทองคำไป ๑ องค์ วันหนึ่งได้ไปที่โรงพยาบาลเพื่อทำการตรวจรักษาต้อกระจก หมอนัดวันให้มาทำการรักษา เมื่อถึงวันนัดก่อนออกจากบ้าน คุณวิภาได้ยกพระขึ้นจบพร้อมกับอธิฐานขอบารมีพระรอดหลังอ.คุ้มครอง อย่าได้มีอันตรายใดใดต่อดวงตาเลย ที่โรงพยาบาล หมอทำการรักษาโดยการยิงแสงเลเซ่อร์เพื่อรักษาต้อกระจก พอเริ่มทำการรักษา หมอยิงเลเซ่อร์ ๒ - ๓ ครั้ง ปรากฏว่าเครื่องยิงหยุดการทำงาน เป็นที่อัศจรรย์ หมอได้ตรวจสอบเครื่องยิ่งเลเซ่อร์ก็ไม่พบสิ่งผิดปรกติแต่อย่างใด
    หมอจึงถามคุณวิภาว่า “คุณแขวนพระอะไรไว้?”
    คุณวิภาตอบว่า “แขวนพระรอดหลังอ. และได้อธิษฐานก่อนออกจากบ้านมาพบหมอ” สร้างความงุนงงให้กับวิทยาศาสตร์การแพทย์เป็นอย่างยิ่ง!!

    เรื่องที่แปด รถชนที่มาเลเซีย
    มิสเตอร์กูบูเซ็ง เจ้าของบริษัท ประเทศมาเลเซีย ได้ส่งจดหมายเป็นภาษาอังกฤษถึงท่านอาจารย์อินทรว่า มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งไปออกกำลังกายตอนเช้าที่ Park หลังจากเสร็จกิจกรรมแล้วได้ขี่จักรยานสองล้อเพื่อเดินทางกลับบ้าน ขณะเดินทางกลับบ้านถูกรถยนต์ชนอย่างแรง ด้วยแรงกระแทก มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งกระเด็นไปไกลหลายตลบเป็นที่น่าอัศจรรย์ว่า ไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด มารดาของมิสเตอร์กูบูเซ็งจึงให้มิสเตอร์เซ็งเขียนจดหมายเล่าเรื่องประสบการณ์เหลือเชื่อให้ทางวัดสันป่ายางหลวงได้ทราบ พร้อมทั้งขอบคุณบารมีพระรอดหลังอ. ที่ช่วยให้ปลอดภัยจากอุบัติเหตุ

    ปาฏิหารณ์ที่เกิดจากมีมากมายหลายเรื่องหลายประการจนไม่สามารถนำมากล่าวได้หมด ผู้ที่นำไปบูชาแล้วเท่านั้นจึงได้พบความอัศจรรย์และปาฏิหารย์ต่าง ๆ ของพระรอดหลัง อ

    ข้อความทั้งหมดนี้คัดลอกมาจากหนังสือ แม่หม่อนเล่าและย้อนอดีตวัดสันป่ายางหลวง จากนิมิตของคุณ ไพศาล แสนไชย เรียบเรียงโดย คุณ ประสิทธิ์ เพชรรักษ์ ทั้งหมด
    ....เพื่อเป็นการเผยแพร่ข้อมูบให้ทุกท่านได้ทราบถึงพระรอดซึ่งทรงคุณค่าและได้รับการรับรองจากดวงวิญญาณอันศักดิ์สิทธิ์ของพระแม่จามเทวี(แม่หม่อนหรือคุณทวด)ว่ามีคุณเปรียบดังพระรอดที่ท่านได้สร้างไว้เมื่อ 2000 กว่าปีมาแล้วครับ


    สภาพสวยผิวหิ้งเดิมเก่าเก็บ พุทธคุณหายห่วง นี้แหละครับของดีราคาเยาว์ เนื้อดีพิมพ์ดีของท่านที่ทุกคนสามารถมีไว้ในครอบครองได้ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)






    ( คุณphraedhammajak จองแล้วครับ )






    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 ธันวาคม 2023
  5. phraedhammajak

    phraedhammajak เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2011
    โพสต์:
    1,602
    ค่าพลัง:
    +2,972
    จองบูชา
     
  6. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3486.หนุนดวง เรียกทรัพย์ กันอัปมงคล ท้าวเวสสุวรรณ
    หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง เข้มขลังพุทธาคมสายสำนักวัดประดู่ทรงธรรม

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    6hfh-jpg-jpg.jpg

    รูปหล่อท้าวเวสสุวรรณ โชคดีปลอดภัย หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จังหวัดชลบุรี ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2542 เนื้อทองแดงผิวไฟ ใต้ฐานยิงโค้ดเลเซอร์ สุดยอดแห่งความร่ำรวย อธิษฐานจิตปลุกเสก โดยหลวงพ่อยงยุทธ สวยเข้มขลัง

    ขอขอบคุณที่มาข้อมูลจาก

    : https://www.web-pra.com/shop/itsda/show/1308617

    หลวงพ่อยงยุทธ วัดเขาไม้แดง จ.ชลบุรี
    พระครูธรรมกิจโกวิท" หรือ "หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล" เป็นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังแห่งเมืองชลบุรี มีเมตตาธรรมสูง มักน้อยถือสันโดษ มีพลังจิตที่เข้มขลังอาคมที่แก่กล้า
    นามของท่านจึงขจรขจายไปไกลทั่วภาคตะวันออก

    ท่านมีนามเดิมว่า จำปี แก้วไพรำ เกิดเมื่อวันที่ 17 กันยายน 2470 เขตอำเภอไชโย จ.อ่างทอง บิดา-มารดา ชื่อ นายเชียงและนางถุงเงิน แก้วรำไพ มีพี่น้อง 5 คน
    เมื่อช่วงวัยเด็ก ท่านได้ศึกษาเล่าเรียนที่โรงเรียนประจำจังหวัดอ่างทอง จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6

    ต่อมาท่านได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ยงยุทธ" หลังจากนั้นได้เดินทางมาศึกษาต่อที่โรงเรียนแถวฝั่งธนบุรี กรุงเทพฯ จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 8 ก่อนที่จะทำงานที่วิทยุการบินแห่งประเทศไทย
    เมื่ออายุ 23 ปี ท่านตัดสินใจบวชตั้งใจลางาน 15 วัน ณ วัดบ้านป่า อ.ไชโย จ.อ่างทอง โดยมีพระครูโกวิทนวการหรือหลวงปู่โห้ เจ้าอาวาสวัดวงษ์ภาศนาราม เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูวิบูลสังฆกิจ เจ้าคณะอำเภอไชโย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ และพระอธิการตี๋ เจ้าอาวาสวัดประสาท เป็นพระกรรมวาจาจารย์ ได้รับฉายาว่า ธัมมโกสโล

    แต่เมื่อครบกำหนดลางาน 15 วัน ปรากฏว่า พระยงยุทธไม่ยอมลาสิกขาบท ตัดสินใจบวชต่อ เพื่อศึกษาพระธรรมวินัย อีกทั้งมุ่งมั่นฝึกฝนกัมมัฏฐาน จนเกิดความสุขสงบทางใจ
    ท่านได้มีโอกาสศึกษาวิปัสสนากัมมัฏฐาน จากหลวงปู่ลิ้ม วัดไทรใต้ จ.นครสวรรค์ และครูจาบ สุวรรณ เป็นฆราวาส เชี่ยวชาญด้านกสิณมาก

    ในปี พ.ศ.2502 ท่านได้ออกเดินธุดงค์ผ่านมา จ.ชลบุรี พบว่าบริเวณเขาไม้แดงนั้น มีความร่มรื่นอาณาบริเวณเงียบสงบ ท่านตัดสินใจจะสร้างวัดที่เขาไม้แดง
    หลวงพ่อยงยุทธ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ชั้นพระครูสัญญาบัตร ในราชทินนามที่ พระครูธรรมกิจโกวิท หลวงพ่อยงยุทธ เป็นผู้ที่มีชาวบ้านให้ความเลื่อมใสศรัทธาเป็นจำนวนมาก หลวงพ่อยงยุทธจึงได้สร้างวัตถุมงคลเอาไว้หลายรุ่น ทั้งเหรียญพระ รูปหล่อ ฯลฯ ได้รับความเลื่อมใสจากบรรดาทหารหน่วยต่างๆเป็นอย่างมาก

    หลวงพ่อยงยุทธ ธัมมโกสโล ได้มรณภาพด้วยอาการอันสงบ เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2545 เวลา 05.45 น. สิริอายุ 75 ปี 2 เดือน พรรษา 52 เนื่องจากท่านก็มีโรคประจำตัว คือ โรคหัวใจ ต้องเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลสมเด็จพระบรมราชเทวี ณ ศรีราชา เนื่องด้วยโรคถุงน้ำดีอักเสบและโรคหัวใจ ทางวัดได้บรรจุร่างท่านไว้ในโลงแก้ว ตั้งในกุฏิของท่าน เพื่อให้คณะศิษย์ได้มากราบไหว้ สังขารท่านไม่เน่าไม่เปื่อย ร่างกายแห้งแข็งคล้ายหิน
    ปูชนียาจารย์ ของหลวงพ่อ
    ท่านเป็นผู้ที่ไฝ่หาความรู้ชอบศึกษาวิชาอาคมตั้งแต่สมัยเด็กๆ จึงได้เรียนหลัดวิปัสนา กัมฐานจากครูบาอาจารย์มากมาย ทั้งที่เป็นญาติของหลวงพ่อเองและพระนักวิปัสนาอื่นๆด้วย อาจารย์ ที่สอนวิปัสนากัมฐานให้มีกลายองค์ ดังนี้

    1.หลวงปู่โห้ วัดประสาท อำเภอไชโย อยุธยา
    ซึ่งเป็นพระอุปัชฌาย์ และเป็นญาติของหลวงพ่อเอง

    2. หลวงปู่ลิ้ม วัดไทรใต้ จังหวัดนครสวรรค์
    ท่านเป็นอาจารย์ด้านกรรมฐาน ท่านเก่งด้านวิปัสนาในสมัยนั้นมีเรื่องเล่าว่า ครั้งหนึ่งหลวงปู่ลิ้มไปนั่งกัมมัฏฐานอยู่ในป่าเล็กๆ ใกล้ทางรถไฟ ปรากฏว่า รถไฟไม่สามารถแล่นผ่านไปได้ เมื่อมีเสียงคลเอะอะมากมายกลวงปู่ลิ้มจึงคิดได้จึงถอดจืตออกจากกัมมัฏฐาน รถไฟจึงสามารถแล่นต่อไปได้ ซึ่งท่านได้สอนกัมมัฏฐานและวิชาคาถาอาคมให้หลวงพ่อจนหมดสิ้นเพราะว่าหลวงปู่ลิ้มท่านมีศักดิ์เเป็นตาของหลวงพ่อ

    3.ครูจาบหรือก๋งจาบ
    ฆราวาสผู้เรื่องวิชา ลูกศิษย์ของหลวงพ่อศรี วัดประดู่ทรงธรรม ผู้สืบสายวิชาสาย วัดประดู่ทรงธรรม อยุธยา (อาจารย์จาบ ท่านนี้ยังเคยเป็นคนช่วยหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ให้รอดตาย จากการถูกหมอไสยศาสตร์บังฟัน ซึ่งตอนนั้น ทุกคนลงความเห็นกันว่า หลวงพ่อปาน ไม่รอดแน่ มีทางเดียว ต้องไปตามก๋งจาบ มารักษา พอก๋งจาบมาก็เอายายอดไม้ ตามตำราของท่านให้กิน หลวงพ่อปานจึงหายเป็นปกติ)

    4.หลวงพ่อม่วง วัดโบสถ์ อำเภอมหาราช อยุธยา
    พระเกจิจอมขมังเวทย์ชั้นครู แห่งทุ่งมหาราช เป็นพระเกจิอาจารย์ที่สำเร็จวิชาอภิญญาชั้นสูง เป็นสหธรรมิกกับ หลวงพ่อจั่น วัดบางมอญ เป็นพระอาจารย์ หลวงพ่อกลั่น วัดพระญาติ, ท่านเป็นอาจารย์ของ อาจารย์จาบ สุวรรณ (ก๋งจาบ)

    5.หลวงปู่สม เจ้าตำหรับมีดบินอันลือลั่น
    หรือพระอาจารย์สม ที่เรา-ท่านรู้กันดี หลวงปู่สมองค์นี้ ท่านไม่ได้อยู่วัดใดวัดหนึ่งแต่ท่านจะพักอาศัยอยู่ตามถ้ำ จากถ้ำนี้ไปถ้ำนั้น เพื่อเรียนวิชาอาคมจากผนังถ้ำ (จากคำบอกเล่าของหลวงพ่อยงยุทธท่านเล่าให้ฟัง) วิชาอาคมที่หลวงพ่อได้ร่ำเรียนกับหลวงปู่สมอีกวิชาหนึ่งคือ วิชาการรักษาโรคด้วยปรอท(หรือการเรียกปรอท) และแพทย์แผนโบราณด้วยโดยใช้สมุนไพร ส่วนวิชาการเรียกปรอทนั้น ท่านรักษาโดยการให้ปรอทเข้าไปกินของเน่าเสียในร่างกาย เพื่อรักษาโรคน้ำเหลืองเสียและโรคมะเร็ง


    ท้าวเวสสุวรรณ
    เป็นเทพแห่งขุมทรัพย์ เป็นมหาเทพแห่งความร่ำรวย มั่งคั่ง รักษาสมบัติของเทวโลก ทั้งเป็นเจ้านายปกครองดูแลพวกยักษ์ ภูตผีปีศาจทั้งปวง โดยในคัมภีร์เทวภูมิ กล่าวไว้ว่า ท้าวเวสสุวรรณได้บำเพ็ญบารมี มาหลายพันปี รับพรจาก พระอิศวร พระพรหม ให้เป็นเทพแห่งความร่ำรวย


    ความหมายของชื่อ “ท้าวเวสสุวรรณ” นั้น เวส แปลว่า พ่อค้า หมายถึง พ่อค้าอันมีทรัพย์ อันได้แก่ ทองคำ เนื่องจากท้าวเวสสุวรรณ เคยมีอดีตชาติเป็นพราหมณ์ เปิดโรงงานค้าขายหีบอ้อยจนร่ำรวย และได้นำเงินทองบริจาคให้ผู้ยากไร้ เมื่อเกิดใหม่จึงได้ครองเมืองวิสานะนคร ผู้คนจึงเรียกว่าเวสาวัณ ด้วยกุศลดังกล่าวจึงได้รับพรจากพระพรหมให้เป็นอมตะไม่ตาย และให้เป็นเจ้าของทรัพย์สมบัติต่างๆ ทั่วแผ่นดิน
    คนไทยรู้จักท้าวเวสสุวรรณ ในนามของ “ปู่โสมเฝ้าทรัพย์” หรือในชื่อ “ธนบดี” แปลว่า ผู้เป็นใหญ่ในทรัพย์ หรือ “ธเนศวร” แปลว่า เจ้าแห่งทรัพย์ อีกทั้งมีหน้าที่คอยจดความดีของคนทางทิศอุดรขึ้นไปจารึกและประกาศให้ปวงเทพยดาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์รับรู้ ผู้คนจึงนิยมจัดสร้าง หรือจำหลักรูปท้าวเวสสุวรรณ และเคารพบูชาเพื่อความมั่งคั่งอีกด้วย

    พุทธคุณ
    - เด่นมาก ด้านมหาอุตม์ คงกระพัน แคล้วคลาดป้องกันภัย เหนียวยันต์กระดูก เหนียวทุกรูขุมขน
    - เด่นมาก ด้านทำมาค้าขายและดูดทรัพย์รับโชคดีบูชาแล้วมีแต่รวย อีกทั้งยังเป็นเมตตามหานิยม คนรักคนเมตตา นารีอุปถัมป์ หญิงรัก ชายหลง มีเสน่ห์มากๆ จนคนต้องมอง ต้องถามหา
    - เด่นมากด้านเสริมวาสนาบารมี เจริญก้าวหน้าในการทำงานทุกอาชีพ เลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่ง ปกครองลูกน้องบริวาร คนเกรงใจ เป็นมหาอำนาจ
    - เด่นมากด้านป้องกันภูตผีวิญญาณร้าย คุณไสยมนต์ดำของอาถรรพ์ต่างๆ ขับไล่สิ่งอัปมงคลชั่วร้ายพร้อมทั้งหนุนดวงค้ำชะตา กลับร้ายกลายเป็นดี สะท้อนย้อนกลับผู้คิดร้าย เห็นผลดีนักแล
    - จึงมีอานุภาพครอบจักรวาล ตามแต่อธิษฐานใช้ ทั้งเหนียว คงกระพัน อำนาจ แคล้วคลาดเมตตา มหานิยม ค้าขาย โชคลาภ ป้องกันคุณไสยวิญญาณร้ายต่างๆ ป้องกันสิ่งอัปมงคล สะท้อนสิ่งที่ไม่ดีกลับสำหรับคนที่คิดไม่ดีกับเรา อธิษฐานได้ 108 ประการ


    สภาพสวยพร้อมกล่องกำมะหยี่เดิมๆจากวัด พิมพ์สวยคมโค้ดชัดลึก ของดีมีประสบการณ์ของหลวงพ่อดีขลังทุกรุ่น ผู้บูชาจริงๆเท่านั้นที่จะทราบได้ แบ่งให้บูชา 333 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    ( คุณromegat จองแล้วครับ )





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 24 ธันวาคม 2023
  7. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    ขออนุญาตแจ้งกำหนดการจัดส่งครับ


    *** วันที่ 23/12/2566 มีรอบจัดส่งของ

    ตัดรอบ 22/11/2566 เวลา 22.00 น. ครับผม ***


    หากเลยกำหนดนี้จะมีรอบอีกหลังปีใหม่เลยครับ พอดีผมจะเดินทางไปต่างจังหวัดครับผม



    เนื่องจากพอดีผมไม่สบาย ประสาทกล้ามเนื้อหลังอักเสบครับ ยังไม่หายดีเลยครับ จึงรวบยอดส่งสัปดาห์ละ 1 ครั้งครับ

    กราบขออภัยในความล่าช้าด้วยนะครับ ขอบพระคุณมากครับ


    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  8. romegat

    romegat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    2,509
    ค่าพลัง:
    +9,414
    ปิดรายการนี้ครับ
     
  9. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  10. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    รายการจัดส่ง แฟลช 23/12/2566



    d0pzaLP.jpg



    ***สรุปรายการที่ หน้า1 ครับผม***
    Tel: 086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    Line id : engiman_nu


    -gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif-gif.gif
     
  11. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3487.เมตตามหาโภคทรัพย์ กันนิวเคลียร์ ระสมเด็จปฐวีธาตุ รุ่นพิเศษ
    หลวงปู่คำพันธ์ วัดธาตุมหาชัย พระเถรจารย์ศิษย์พระอาจารย์เสาร์ กันตสีโล

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    d0vzL82.jpg
    พระสมเด็จปฐวีธาตุ รุ่นพิเศษ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ (พระสุนทรธรรมากร) วัดธาตุมหาชัย อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม เนื้อผงพุทธคุณ ผสมองค์ปฐวีธาตุที่ได้มาจากแม่น้ำโขง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541 *** ( ด้านหน้าโรยปฐวีธาตุ เห็นชัดเจน )

    หลวงปู่ได้นำองค์ปฐวีธาตุที่ได้มาจากแม่น้ำโขงทั้งหมดในช่วงยุคแรกๆ ที่เก็บไว้ในกุฏิ หลวงปู่ทำการปลุกเสกยาวนานมาก อนุญาตนำมาบดเป็นผงเพื่อทำเป็นพระพุทธปัฐวีธาตุ เพื่อให้พุทธศาสนิกชนได้บูชาติดตัวเพื่อเป็นเครื่องปกป้องคุ้มครองตน

    หลวงปู่บอกว่าให้เป็นพิมพ์พระสมเด็จ เอาพระพุทธเจ้าเป็นประธานนำหน้า ด้านหลังเขียนว่าปฐวีธาตุ เพราะเป็นมวลสารจากองค์ปฐวีธาตุจากลุ่มน้ำโขงล้วนๆ ซึ่งพญานาคเป็นผู้มอบให้หลวงปู่เอง

    หลวงปู่บอกว่าสมเด็จรุ่นนี้หลวงปู่ได้นำปฐวีธาตุมาบดเป็นผง เนื่องจากพระท่านต้องการให้ทำแบบนี้ ปฐวีธาตุเป็นสิ่งวิเศษอยู่แล้ว แต่ท่านต้องการให้มี พระนำหน้าจึงจะดีมากกว่านี้ หลวงปู่จึงสร้างตามดำริของพระบนฟ้าที่ท่านเมตตาหลวงปู่เรื่อยมา

    หลวงปู่บอกว่าขอบารมีพระพุทธเจ้าเป็นประธาน และได้บารมีจากสิ่งศักสิทธิ์ในตัวเองคือปฐวีธาตุช่วยเกื้อหนุน เพียงเท่านี้พุทธคุณก็หาประมาณมิได้แล้ว...ที่สำคัญกว่านั้นมีพญานาคปกป้องพระสมเด็จทุกองค์

    หลวงปู่ต้องใช้กำลังขั้นสูง วิธีเดียวกับเจ้าคุณนร วัดเทพสิรินทร์ ดังนั้นผลที่ได้จากการบูชาจะสำฤทธิ์ผลทุกประการ

    พระของหลวงปู่คำพันธ์ สามารถกันรังสีได้ ท่านบอกไว้เอง (รู้เรื่องในภายภาคหน้า) พระของที่ท่านอธิฐานก็จะรวมพุทธบารมี ธรรมบารมี อริยะสังฆบารมี และบารมีพระโพธิสัตว์ทุกพระองค์ ท่านเชิญมาหมดมีพุทธคุณคุณวิเศษครบครัน



    ****************************************************

    ประวัติ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ

    ชื่อ คำพันธ์ ศรีสุวงค์ เกิดเมื่อวันที่ ๑๐ มกราคม พุทธศักราช ๒๔๕๘ โยมบิดาชื่อ นายเคน ศรีสุวงค์ โยมมารดาชื่อ นางล้อม ศรีสุวงค์ เป็นบุตรคนโต มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน ๒ คน

    การบรรพชา-อุปสมบท
    วันที่ ๗ กันยายน ๒๔๗๕ (อายุ ๑๗ปี) ได้บรรพชาเป็นสามเณร ที่วัดศรีบุญเรือง บ้านหนองหอย ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม โดยมีพระอาจารย์เชื่อม เป็นพระอุปัชฌาย์ หลังจากได้บรรพชาแล้วก็ได้ศึกษาอักษรธรรม และหนังสือสูตรคาม แบบโบราณ ในขณะเดียวกันก็ได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฎฐานควบคู่ไปด้วย หลังจากบรรพชาได้ ๓ พรรษา ได้ออกเดินธุดงค์ทรงกรดไปที่จังหวัดเลย พร้อมกับพระภิกษุ ๒ รูป คือ พระภิกษุบุญ และพระภิกษุวัน ได้พบกับชีปะขาวคนหนึ่งชื่อว่าครุฑ ได้ศึกษาแนวทางการปฎิบัติจากชีปะขาวอยู่ประมาณ 3-4 เดือน ก่อนหน้าที่จะได้ฝึกปฏิบัติกัมมัฏฐานนั้น เคยได้รับความรู้เรื่องกัมมัฏฐานมาจาก พระอาจารย์เสาร์ ซึ่งท่านไปอบรมประชาชนที่วัดโพนเมือง ท่านอาจารย์เสาร์ให้แนวทางในการ ปฏิบัติกรรมฐานไว้ว่า ให้กำหนดลมหายใจออก ท่านอาจารย์เสาร์ได้ให้ข้อคิดต่อ ไปอีกว่า “ร่างกายของคนเรานั้น เป็นธรรมชาติอย่างหนึ่ง มันทำงานอยู่ตลอดเวลา ลมหายใจเข้า-ออกนั้น มีความสำคัญมาก ถ้าลมไม่ทำงานคนเราจะตายทันที ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำหนดลมหายใจ” นอกจากนั้นท่านอาจารย์เสาร์ยังได้ย้ำอีกว่า “ให้คนเราตีกลองคือขันธ์ ๕ ให้แตก” ซึ่งก็หมาย ความว่า ท่านให้ทำความเข้าใจขันธ์ ๕ ให้จงดีให้เข้าใจตามสภาพที่เป็นจริง........
    หลวงปู่ได้ศึกษาภาคทฤษฎีและภาคปฎิบัติกับหลวงปู่เสาร์ประมาณ 1 ปี หลังจากนั้นหลวงปู่คำพันธ์ ก็ได้นำเอาแนวทางการปฎิบัติของอาจารย์ทั้ง 2 มาเป็นแนวทางปฎิบัติกัมมัฎฐาน
    หลวงปู่ได้จำพรรษาอยู่ที่จังหวัดเลยเป็นเวลา 1 ปี หลังจากนั้นได้เดินธุดงค์ไปยังจังหวัดเชียงรายประมาณ 3-4 เดือน โยมบิดาได้เสียชีวิตลง หลวงปู่จึงได้เดินทางกลับมาทำบุญงานศพบิดา และได้เดินธุดงค์ไปยังสถานที่ต่างๆในเขตจังหวัดนครพนม สกลนคร อุดรธานี หนองคายและข้ามไปฝั่งลาวประมาณ 3-4 เดือน แต่ไม่ได้จำพรรษา แต่กลับมาจำพรรษาอยู่ที่วัดป่าบ้านเดิมอยู่ประมาณ 3 ปี และญาติโยชาวบ้านก็นิมนต์ท่านให้เข้ามาอยู่จำพรรษาที่วัดบ้านเพื่อโปรดญาติ โยมชาวบ้านบ้าง หลังจากออกพรรษาแล้ว หลวงปู่ก็ออกเดินธุดงค์ต่อ จนอายุถึง 40 ปี จึงหยุดเดินธุดงค์ แต่ก็พยายามศึกษาปฎิบัติธรรมกัมมัฎฐานมาโดยตลอดจนถึงปัจจุบัน

    พ.ศ. ๒๔๗๘ อายุ ๒๐ ปี ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุ และเริ่มศึกษาพระปริยัติธรรม
    พ.ศ. ๒๔๘๒ อายุ ๒๔ ปี มารดาก็ถึงแก่กรรม เวลานั้นเหลือน้องผู้หญิง ๒ คน ซึ่งยังเล็กมาก จึงได้ลาสิกขาบทออกไปเลี้ยงดูน้อง
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี ได้กลับเข้าอุปสมบทอีกครั้ง และได้ออกไปจำพรรษาที่วัดป่า เป็นเวลา ๓ พรรษา
    ต่อมาก็ได้ปฏิบัติกัมมัฏฐานพร้อมเป็นครูสอน พระปริยัติธรรมด้วยที่วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ ต.นาแก อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๙๕ ได้นำญาติโยมประมาณ ๕ ครอบครัว จากบ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก มาสร้างบ้านและวัดใหม่ ที่โนนมหาชัย และให้ชื่อบ้านว่า “บ้านมหาชัย” ในปัจจุบันนี้ ได้สร้างวัดธาตุมหาชัย (เดิมชื่อวัดโฆษการาม) จนเจริญรุ่งเรืองตราบถึงปัจจุบัน
    การศึกษา
    พ.ศ. ๒๔๗๙ อายุ ๒๒ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นตรี สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๘ อายุ ๓๐ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นโท สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    พ.ศ. ๒๔๘๙ อายุ ๓๑ ปี สอบไล่ได้นักธรรมชั้นเอก สำนักเรียนคณะจังหวัดนครพนม วัดพระพุทธบาทจอมทอง บ้านหนองหอยใหญ่ อ.นาแก จ.นครพนม
    เมื่อหลวงปู่สอบได้นักธรรมเอกได้แล้ว หลวงปู่ก็ได้พยายามศึกษาพิเศษ เช่น เรียนหนังสืออักษรธรรม อักษรขอมได้เป้นอย่างดี และยังทรงพระปาฎิโมกข์ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย

    ลักษณะนิสัยทั่วไป
    พระเดชพระคุณหลวงปู่เป็นพระมหาเถระ ที่มีอัธยาศัยใจคอกว้างขวาง เยือกเย็น มีความเมตตา กรุณาต่อศิษย์ ตลอดถึงญาติโยมทุกคนที่เข้าหาท่าน ใครก็ตามที่มีปัญหา หรือมีความทุกข์เข้าหาท่าน จะได้รับการต้อนรับจากท่านอย่างดียิ่ง เสมอกันหมด ไม่ว่าคนนั้นจะเป็นใครก็ตาม ต่อครูบาอาจารย์ และพระเถระที่อาวุโสกว่า หลวงปู่จะแสดงอาการอ่อนน้อมถ่อมตนเสมอ โดยไม่เคยจะแสดงอาการ แข็งกระด้างใดๆเลย ด้วยเหตุนี้หลวงปู่จึงเป็นที่เคารพนับถือของ ศิษยานุศิษย์และญาติโยมโดย ทั่วไปเป็นจำนวนมาก นอกจากนี้แล้ว หลวงปู่ก็ยังเป็นพระเถระที่มีความตั้งใจมั่นคง หนักแน่นอีกด้วย
    จะเห็นได้จากการที่ท่านตั้งใจจะทำสิ่งใดแล้ว จะต้องทำสิ่งนั้นให้สำเร็จให้จงได้ คงเป็นเพราะ ความตั้งใจจริงและความตั้งใจมั่นคงนี้เอง ที่ทำให้หลวงปู่ทำสิ่งใดก็สำเร็จลุล่วงด้วยดี และรวดเร็ว เกิน ความคาดหมายทุกประการ ตัวอย่างเช่น พระธาตุมหาชัย, อุโบสถวัดธาตุมหาชัย, กำแพง ล้อมรอบวัดธาตุมหาชัย และกุฏิสงฆ์หลังใหม่ ๒ หลัง ซึ่งสิ่งก่อสร้างแต่ละอย่างล้วน แต่ใช้ค่าก่อ สร้างจำนวนมากทั้งสิ้น เมื่อญาติโยมที่มีความเคารพนับถือในตัวหลวงปู่ทราบ ต่างก็มีจิตศรัทธา ช่วย กันสละกำลังทรัพย์มาช่วยในรูปของกฐินบ้าง ผ้าป่าบ้าง จนงานก่อสร้างดัง กล่าวสำเร็จรวดเร็วเกินคาด อีกประการหนึ่ง โดยอุปนิสัยแล้ว หลวงปู่ท่านถือการ ปฏิบัติกัมมัฏฐานเป็นประจำนับตั้ง แต่อุปสมบทพรรษาแรก จนกระทั่งมรณภาพ

    มรณภาพ
    พระสุนทรธรรมากร (หลวงปู่คำพัน โฆษปัญโญ) ได้มรณภาพลงดัวยอาการอันสงบ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 23 พฤศจิกายน 2546 เวลาประมาณ 02.00 น. ที่วัดธาตุมหาชัย สิริรวมอายุ 88 ปี 71 พรรษา.


    สภาพสวยเก่าเดิมๆ พิมพ์คมชัดลึกไม่ผ่านการบูชา พุทธคุณครอบจักรวาล เมตตามหานิยม มหาอำนาจ มหาอุตม์ และโภคทรัพย์ หลวงปู่ท่านไม่ธรรมดา วัตถุมงคลของท่านล้วนมีประสบการ์มากมาย แบ่งให้บูชา 280 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    ( คุณchomkamon จองแล้วครับ )








    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 ธันวาคม 2023
  12. chomkamon

    chomkamon เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2008
    โพสต์:
    403
    ค่าพลัง:
    +356
    จอง
     
  13. c_apirom

    c_apirom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +1,145
     
  14. c_apirom

    c_apirom เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +1,145
    จอง
     
  15. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333


    -jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
     
  16. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3488.สวยเดิมผิวไฟส้มๆ เหรียญหยดน้ำใบโพธิ์
    หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง พระอริยเจ้าผู้ทรงอภิญญาแห่งล้านนา


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    8mixsl-jpg.jpg

    เหรียญหยดน้ำใบโพธิ์ รุ่นมงคลอายุ 97 ปี หลวงปู่ครูบาอิน อินโท วัดฟ้าหลั่ง จังหวัดเชียงใหม่ เนื้อทองแดงผิวไฟ ตอกโค้ด ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2541 สร้างถวายโดยพระอาจารย์สุเจริญ วัดมักกะสัน (ตอนนี้ท่านไปเป็นเจ้าอาวาสวัดอยู่ที่อยุธยา)


    สภาพสวยเดิมๆเก่าเก็บ ผิวไฟส้มๆเดิมๆ พุทธคุณล้นฟ้าราคาหลักร้อย แบ่งให้บูชา 222 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    ( คุณTong จองแล้วครับ )




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2023
  17. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3489.ผงอุดมวลสารเเน่นๆ อ.อำพล เจน รังสรรค์ผลงาน (๔)
    บรมครูกัศยปเทพบิดรมหาฤาษี หลวงปู่มงคล วัดเขาดาร์สปวง ทายาทพุทธาคม ลพ.แช่ม วัดตาก้อง

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    d0G44nk.jpg

    pr3uiq-jpg-jpg-jpg.jpg
    pr3qus-jpg-jpg-jpg.jpg
    pr3owg-jpg-jpg-jpg.jpg
    รูปหล่อ บรมครูกัศยปเทพบิดรมหาฤาษี หลวงปู่มงคล สัจจาสโก วัดเขาดาร์สปวง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เนื้อโลหะผสมระฆัง อุดผงพุทธคุณ เกษา จีวร ฯลฯ ตอก 2โค้ด รันนัมเบอร์ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2562 จำนวนการสร้าง 2,199 องค์

    (ความลับสวรรค์ หัวไม้เท้านี้สำคัญนักลองสังเกตดู เป็นปี่เซี๊ยะ กินอย่างเดียวไม่ขี้ เงินทอง โชคลาภไหลเข้าตลอด อนึ่ง ไม้เท้านี้เป็นไม้ค้ำ คอยพยุงค้ำจุน หนุนไม่ให้ตกต่ำ ใครไม่มีรีบเก็บ ใครจองยินดีด้วยครับ)

    พระอาจารย์ เอกพล วัดปทุมมาลัย ดำเนินการจัดสร้าง
    ผลงานรังสรรค์ ปฏิมากรมือทอง ของ อ.อำพล เจน แห่งสำนักห้วยไผ่


    วัตถุประสงค์
    1.วัตถุมงคลส่วนหนึ่งนำถวายหลวงปู่มงคล สัจจาสโภ วัดเขาดาร์สปวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ และวัดอื่นๆที่กำลังพัฒนา
    2.ร่วมสมทบทุนสร้างโรงครัว ธรรมสถาน บ.โพนทอง อ.เขื่องใน จ.อุบลฯ

    ผงที่นำมาอุดใต้ฐาน
    1. ผงสมเด็จปกโพธิ
    2. ผงนะปัดตลอดหลวงปู่โต๊ะ
    3. แป้งเจิมหลวงปู่โต๊ะ
    4.ผงหลวงพ่อพรหมวัดช่องแค
    5. แป้งเจิมหลวงพ่อพรหม วัดช่องแค
    6. ผงพระพรหมหลวงปู่ดู่
    7. ผง7คัมภีร์และ12คัมภีร์ อาจารย์รอด
    8. ผงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว
    9. ผง12นักษัตร หลวงปู่เทียม
    10. ผง12นักษัตรหลวงปู่เริ่ม วัดจุกกะเฌอ
    11. ผงหลวงปู่แหวน
    12. ผงท่านเจ้าคุณนรฯ
    13.ผงยาหลวงปู่ดู่ วัดสะแก
    14.ผงยาวาสนาหลวงปู่เพิ่ม วัดกลางบางแก้ว
    15. ผงยาวาสนาหลวงพ่อทองอยู่ วัดท่าเสาร์
    16. ผงหินพระธาตุ ของจังวัดราชบุรี
    17. ผงธูป พระราชครูมหามุณีฤาษี ( ขาว )
    18. ผงธูป ฤๅษี โชดก สมุทรปราการ
    19. ผงธูปพระพิฆเนศ ที่ศาลหลักเมืองพระประแดง
    20. ผงดินใต้ฐานพระฤๅษี คู่บ้านคู่เมือง
    21. ผงดินพระธาตุพนม
    22. ผงหอมพันปีพระอาจารย์จี้กง
    23. ผงแร่ ลาวา จากทั่วโลก
    24. ทรายเสก 32 อาจารย์
    25. ผงว่าน ธาตุทั้ง 4
    26.หลวงปู่โต๊ะสมเด็จฐานเกย
    27.ทรายเงิน ทรายทอง คุณแม่บุญเรือน
    28.ทรายเสกหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
    29.ผงยาหลวงปู่ศุข วัดมะขามเฒ่า
    30.ผงอธิฐานหลวงปุ่เกษม เขมโก ลำปาง
    31.ผงพุทธคุณหลวงปู่ทิม(พิมพ์พระปิดตา) วัดละหารไร่
    32.ผงเสกหลวงปู่ครูบาธรรมชัย
    33.ผงหลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง
    34.ผงบางขุนพรหม
    35.ผงหลวงพ่อคูณ วัดบ้านไร่
    36.ผงหลวงพ่ออุตตะมะ วัดวังก์วิเวกการาม
    37.ผงแป้งเสก หลวงปู่บุดดา วัดกลางชูศรี เจริญ
    38.ผงพุทธคุณ พระกริ่ง 19,20 จังหวัด
    39.ผงเก่าอ.อำพล เจน กว่า 300 อาจารย์
    40.เกศา หลวงปู่มงคล
    41.จีวร หลวงปู่มีชัย จีวรหลวงปู่สวน วัดนาอุดม
    42.ไม้กุ๊กไก่ที่ใช้แล้ว หลวงปู่สี สิริญาโณ
    43.ผงสำเด็จโต สามวัดใหญ่ วัดสำคัญในภาคกลาง
    44. ผงพระวัดบรม ปี 2521 สายหลวงปู่มั่น
    45. ผงวาสนา หลวงปู่ยวง หลวงปู่บุญ หลวงปู่ดี
    46. ผงอื่นๆ อีก


    พิธีพุทธาภิเษก ทั้งหมด 7 วาระ

    วาระ 1 พิธีเปลี่ยนผ้าพระเจ้าใหญ่ พิธีเลื่อนสมณศักดิ์เจ้าอาวาส วัดปทุมมาลัย

    วาระ 2 เจริญพุทธมนต์ อุโบสถแรกพรรษาวันอาสาฬหบูชา วันปวารณาเข้าพรรษา ปี 2562

    วาระ 3 หลวงปู่ประโชติ อ.พนา จ.อำนาจเจริญ อธิษฐานจิต

    วาระ 4 หลวงปู่สี อนุตโร วัดบ้านคำข่า จ.อุบลราชธานี อธิษฐานจิต

    วาระ 5 ญาท่านเขียว วัดภูน้อย จ.อุบลราชธานี อธิษฐานจิต

    วาระ 6 หลวงปู่ทอง ปภากโร วัดบ้านคูบ อ.น้ำเกลี้ยง จ.ศรีษะเกษ

    วาระ 7 หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ วัดเขาดาร์สปวง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์



    ข้อมูลบางส่วนของฤๅษีกศป (อ.อำพล เจน ผู้เรียบเรียง)
    กศปมหาฤษี มีเรียกอยู่หลายชื่อ พระกศป, พระประชาบดี และด้วยเหตุที่เป็นผู้ให้กำเนิดเทพเทวดา มนุษย์ และสรรพสัตว์ทั้งหลาย เช่น แทตย์, ทานพ, นาค, ครุฑ และปีศาจ จึงได้อีกชื่อว่า กัศยปเทพบิดร

    กศปมหาฤษี มีที่สถิตอยู่เขาเหมกูฎบรรพตเป็นผู้แต่งโศลกต่าง ๆ ในฤคเวทเป็นอันมาก แต่งพระเวทอื่นๆบางตอนด้วย ว่ากันว่ากศปฤษีองค์นี้ยังเป็นพระอาจารย์สอนศิลปะศาสตร์แก่ปรศุราม (รามสูร) และพระรามจันทร์ อีกด้วย

    ทั้งคัมภีร์รามายณะปุราณะ และมหาภารตะกล่าวว่า กศปมหาฤษี เป็นโอรสของ พระมารีจิมุนี แต่ก็มีผู้วิเคราะห์ว่า กศปมหาฤษีนี้เป็นชาวคอเคซัส หรือชาวกัศมีรอด ซึ่งอยู่ในแถบทะเลคัสเปียน นับว่าน่าสนใจมาก ฟังดูแล้วพระกศปมหาฤษีจะอยู่ใกล้ชิดความเป็นมนุษย์มากขึ้น แต่เสียดายไม่ทราบเหตุผลที่มีการวิเคราะห์ไว้เช่นนั้น

    กศปมหาฤษี มีอัครมเหสีชื่อ พระอทิติ และมีมเหสีฝ่ายซ้าย (องค์รอง) คือ นางทิติ แล้วก็มีชายาอีก 12 องค์ บางตำราก็ว่ามี 13 องค์
    กศปมหาฤษี หรือกัศยปเทพบิดร มีโอรสอยู่มาก เช่น พวกอาทิตย์ทั้ง 8 คือ สุริยาทิตย์, วรุณาทิตย์, มิตราทิตย์, อรยมนาทิตย์, ภคาทิตย์, องศาทิตย์, อินทราทิตย์ และธาตราทิตย์ โดยเป็นโอรสที่เกิดกับนางอทิติอัครมเหสี
    อีกองค์หนึ่งคือ พระวามน ซึ่งตำราว่าเป็นพระนารายณ์อวตารปางที่ 5 โดยเกิดกับพระนางอทิติเช่นกัน
    ส่วน ครุฑ นั้นเกิดกับ นางวินตา
    นาค กับ อรุณ เกิดกับนางกัทรุ
    มารุต (ลม) และแทตย์ เกิดกับนางทิติ
    ทานพ เกิดกับนางทนุ
    ปีศาจ เกิดกับนางโกรธศา
    จะเห็นได้ว่าชื่อกัศยปเทพบิดร ก็มาเพราะเหตุที่มีลูกเป็นเทพ ที่คนรู้จักกันมากมายหลายองค์นี่เอง

    กศป หรือ กัสสป มีความหมายเดียวกันคือ แปลว่า ผู้มีฟันดำ ชื่อนี้มีผู้ใช้กันมาก พระพุทธเจ้าองค์ที่ 3 ก็มีชื่อนี้ รวมทั้งพระอรหันต์สาวกองค์แรกที่เป็นประธานในการทำสังคายนาครั้งแรกก็ชื่อ นี้ (พระมหากัสสป) ทั้งยังเป็นผู้สร้างพระธาตุพนม ตั้งแต่ พ.ศ. 8 อีกด้วย



    ชีวะประวัติโดยย่อของ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ เทวดา ดาร์สปวง
    ➡️ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ อายุ84ปี พรรษา33 วัดเขาดาร์สปวง อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เกิด 16 ต.ค 2480

    ต้นกำเนิดเป็นคน อำเภอสามพราน จ.นครปฐม และเข้าอุปสมบทบวชในพุทธศาสนาเรื่อยมา แต่หลวงปู่มงคล ชอบสันโดดไม่ชอบคลุกคลี่กับหมู่คณะมากนักชอบปฎิบัติกรรมฐานภาวนา และเดินธุดงค์ควัตรแสวงหาธรรมในที่ต่างๆจนได้เดินธุดงค์มาแถบตะเข็บชายแดนไทย กัมพูชา จนมาถึงเขาดาร์สปวงจึงพำนักจำพรรษาตลอดมา อยู่วัดตามลำพังองค์เดียวมานานราว 35 ปี

    เป็นครูบาอาจารย์ที่รอบรู้สรรพวิชาอย่างน่าอัศจรรย์น้อยคนจะรู้จักท่าน เนื่องจากการเก็บตัวเงียบสงบ อยู่ในสถานที่สงัด ปราศจากผู้คนรบกวน หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ ท่านเป็นหลานหลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง ศิษย์สายตรงหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว และได้ศึกษาสรรพวิชาอาคมมนตราพระเวชต่างๆ กับ หลวงปู่แช่ม วัดตาก้อง และหลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว เบี้ยแก้ปรอท และมนย์ต่างๆจนครบสูตร และก็ได้ศึกทางวิชาสายกัมพูชา อาจารย์เขมรพระเกจิเขมร จนครบสูตร

    หลวงปู่มงคล สัจจาสโภพำนักอยู่รูปเดียวบนเขาดาร์สปวง ติดชายแดนเขมร ในเขตจังหวัดสุรินทร์ จนถึงปัจจุบันนี้ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ ได้ศึกษาร่ำเรียนวิชาจาก หลวงปู่เส็งวัดบางนา ปทุมธานี ซึ่งโดดเด่นเรื่องวิชาพญาครุฑ หลวงพ่อแช่มวัดตาก้อง สายหลวงปู่บุญวัดกลางบางแก้ว หลวงปู่มงคล สัจจาสโภ

    เป็นพระเมตตาต่อลูกศิษย์ลูกหาทุกคนที่เดินทางไปกราบไหว้ไม่เลือกชั้นวรรณอยู่เรียบง่ายสะถะ หลวงปู่มงคล สัจจาสโภได้มอบชีวประวัติให้หลวงปู่เณรแก้ว คัมภีโร ศิษย์ก้นกุฎิ เพื่อเผยแผ่บารมีหลวงปู่มงคล ให้ไพรศาล สาธุๆๆ



    สภาพสวยเดิมสมบูรณ์กล่องเดิมๆ เก่าเก็บพระไม่ช้ำไม่ได้ใช้ สุดยอดผงอุดมวลสารวุดวิเศษ ปลุกเสกอย่างดี 7วาระ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณธนกฤต จองแล้วครับ)





    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2024
  18. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3490.สุดยอดมหาพิธีและมวลสารหลังยันต์นิยม(A) พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ วัดช่องลม
    ลพ.คล้าย,ลพ.ทบ,ลพ.เขียน,ลป.เฮี้ยง,ลพ.อั้น,ลป.โต๊ะ ร่วมปลุกเสก

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    gmavs8-jpg.jpg

    6giz-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg
    6gin-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg-jpg.jpg

    พระนางพญาเสน่ห์จันทร์ หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม จังหวัดอุตรดิตถ์ เนื้อดินผสมมวลสารศักดิ์สิทธิ์อีกมากมายอย่างพิถีพิถัน หลังปั้มโค้ดยันต์ตรีนิสิงเห ดำเนินการจัดสร้างเมื่อปี พ.ศ.2502-2503 และเสร็จสิ้นวาระพิธีพุทธาภิเษกสมบูรณ์ทุกประการเมื่อปี พ.ศ.2506 ซึ่งนอกจากนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกใหญ่ทั้งสองวาระแล้ว ก่อนหน้านั้นหลวงพ่อไซร้ ท่านก็ทำการปลุกเสกเดี่ยวมาตลอด ( หลวงพ่อไซร้ ท่านเป็นศิษย์ของ หลวงพ่อฮวบ วัดสามัคคยาราม(หาดงิ้ว) ผู้มีวาจาศักดิ์สิทธิ์ และเรียกท่อนซุงใหญ่มาสร้างโบสถ์ ซึ่งเป็นลูกศิษย์ยุคแรกๆของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน และก็เป็นพระสหมิกธรรมกับหลวงปู่ภู วัดท่าฬ่อ พิจิตร )

    มวลสารพิมพ์พระ
    - เนื้อดินผสมผงเหล็กน้ำพี้
    - ผงพุทธคุณ
    - ดินขุยปูที่ปากรูหันไปทางทิศตะวันออก
    - ชิ้นส่วนพระกรุเนื้อดินที่แตกหัก
    - เนื้อว่านศักดิ์สิทธิ์มากมาย
    - ผงตะใบ สีเงิน สีทอง และมวลสารอื่นๆอีกมากมาย

    นอกจากนั้นยังมี พิมพ์หลวงปู่ทวด, พิมพ์แม่น่าสุโขทัย, พิมพ์นางพญาเล็ก
    ด้านหล้ง : จะมีทั้งหลังยันต์ ตรีนิสิงเห,ยันต์กงจักร และหลังเรียบ ส่วนพระปี2502 ยังไม่พบหลังยันต์กงจักรมาก่อน

    พิธีพุทธาภิเษก
    วาระครั้งที่ : 1
    - เมื่อปี พ.ศ.2505 นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกของ หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย ต.ลานหอย อ.บ้านด่านลานหอย จ.สุโขทัย
    โดยเกจิดังมาร่วมปลุกเสกถึง 9 รูป ดังนี้
    1. หลวงพ่อไซร้ วัดช่องลม
    2. หลวงพ่อปี้ วัดด่านลานหอย
    3. หลวงพ่อทบ วัดชนแดน
    4. หลวงพ่อเขียน วัดสำนักขุนเณร
    5. หลวงปู่เฮี้ยง วัดป่า(อรัญญิกาวาส)
    6. หลวงพ่ออั้น วัดพระญาติการาม
    7. ครูบาวัง วัดบ้านเด่น
    8. หลวงพ่อกัน วัดเขาแก้ว

    9. ครูบาบุญโสม วัดหัวข่วง

    วาระครั้งที่ : 2 (นำเข้าพิธีพระเครื่องชุดภูธราวดี ของ พล.ต.ต.ขุนพันธ์ รักราชเดช)
    - เมื่อ 24 เมษายน พ.ศ.2506 ทำพิธีพุทธาภิเศก ณ.วัดพระปฐมเจดีย์ราชวรมหาวิหาร จังหวัดนครปฐม มีทั้งพราหมณ์ พระไทย พระจีน พระญวน ในนิกายต่าง ๆ รายนามพระคณาจารย์ต่าง ๆ เท่าที่รวบรวมได้ซึ่งปรากฏหลักฐานว่าเข้าร่วมพิธีพุทธาภิเศกของพระเครื่องชุดภูธราวดี อาทิ
    1. สมเด็จพระสังฆราชเป็นองค์ประธานพิธีที่หน้าองค์พระปฐม
    2.พระมหาวีรวงศ์-พิธีเดียวกับสมเด็จพระสังฆราช
    3. พระอาจารย์ปาน วัดเขาอ้อ
    4. พระอาจารย์คง วัดบ้านสวน
    5. หลวงพ่อหมุน วัดเขาแดงตะวันออก
    6. อาจารย์นำ วัดดอนศาลา ( ขณะเข้าพิธียังเป็นฆราวาสอยู่และมีรูปถ่ายปรากฏเป็นหลักฐาน)
    7. หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม
    8. หลวงพ่อน้อย วัดธรรมศาลา
    9. หลวงปู่เพิ่ม วัดกลาบางแก้ว
    10. หลวงพ่อเงิน วัดดอนยายหอม
    11.หลวงพ่อบุญธรรม วัดพระปฐมเจดีย์
    12.หลวงพ่อห่วง วัดท่าใน
    13.หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    14.พระครูอาคมสุนทร วัดสุทัศน์ฯ
    15.หลวงพ่อคล้าย (วาจาสิทธิ์) วัดสวนขันธ์

    16.หลวงปู่ทิม วัดช้างให้ ฯลฯ
    นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันเข้าพิธีพุทธาภิเษก ทั้ง 3 ครั้ง และไม่ได้มีหลักฐานบันทึกไว้ฯลฯ นอกจากนี้มีเกจิฯ อีกมากมายที่สลับสับเปลี่ยนหมุนเวียนกัน
    ขอขอบคุณข้อมูลจาก
    : https://lanpothai.blogspot.com/2013/05/1117-2505-2556-60.html
    : http://www.phangpra.com/pageputaravadee.html



    ประวัติโดยย่อหลวงพ่อไซร้
    พระครูนิกรธรรมรักษ์ ติสฺสโร นามเดิม ไซร้ ทิพยาวงษ์ เป็นบุตรคนที่ 5 ของขุนนิกรรักษา กับนางแท่น ทิพยาวงษ์

    วัน เดือน ปีเกิด วันที่ 11 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2436 ตรงกับวันอาทิตย์ ขึ้น 6 ค่ำ เดือน 3 ปีมะเส็ง ที่บ้านหนองเหี้ย ตำบลหาดงิ้ว อำเภอเมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันรวม 7 คน หลวงพ่อไซร้ในสมัยหนุ่มหน้าตาดี มีสง่าราศี รูปร่างสูงโปร่ง ผิวขาวสะอาด อัธยาศัยดี สงบเสงี่ยม กิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อย มีเมตตาธรรมต่อผู้อื่นเสมอ ก่อนอุปสมบทได้ฝากตัวเป็นลูกศิษย์วัดอยู่กับหลวงพ่อฮวบ เจ้าอาวาสวัดสามัคคยาราม และได้ศึกษาเล่าเรียนภาษาไทย และภาษาขอมจาก หลวงพ่อฮวบ จนมีความรู้แตกฉาน และยังมีความชำนาญนำไปใช้ในการศึกษาธรรมะได้เป็นอย่างดี

    ต่อมาได้ออกจากวัดหาดงิ้ว กลับไปอยู่บ้านช่วยเหลือบิดามารดา ในการประกอบอาชีพทำนาทำไร่อยู่ได้ระยะหนึ่ง จนกระทั่งอายุได้ 16 ปี ด้วยนิสัยใฝ่เรียนรู้ด้านธรรมะ และมีความรักความศรัทธาเลื่อมใสในสมณเพศ จึงได้ขอบรรพชาเป็น สามเณรกับ พระอธิการก้อน เจ้าอาวาสวัดช่องลม เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม พ.ศ. 2452

    การบรรพชาอุปสมบท หลังจากบวชเป็นสามเณรจนกระทั่งอายุครบ 20 ปี จึงได้เข้าอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดช่ิองลม ต.หาดงิ้ว อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม พ.ศ. 2456 มี พระอธิการขีด วัดกุมภีร์ทอง ต.บ้านด่าน เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการจ้อน เป็นกรรมวาจาจารย์ และ พระอธิการป้อม เป็นอนุสาวนาจารย์

    บำเพ็ญสมณะธรรม
    หลังจากอุปสมบทแล้ว หลวงพ่อไซร้ตั้งใจบำเพ็ญสมณะธรรมเอาใจใส่กิจวัตร เคร่งครัดในพระธรรมวินัยอย่างยิ่ง ไม่ยอมละทิ้งการงานของพระภิกษุและสามเณร ซึ่งในพระพุทธศาสนามีอยู่ 2 อย่างคือ 1.คันถะธุระ การศึกษาพระธรรมวินัย อันเป็นส่วนปริยัติ 2.วิปัสสนาธุระ การเรียนพระกัมมัฎฐาน ทั้งที่เป็นสมถะและวิปัสสนา อันเป็นสายปฏิบัติและปฏิเวช ซึ่งท่าน สนใจเป็นพิเศษเพราะเป็นเหตุให้เจริญทางด้านจิตใจ ท่านได้อยู่ปฏิบัติพระอุปัชฌาย์ที่วัดกุมภีร์ทองเป็นเวลา 4 พรรษา
    หลังจากนั้นจึงได้ย้ายไปจำพรรษาต่อที่วัดดอยแก้ว ต.แสนตอ อ.เมือง และที่วัดหาดงิ้ว ได้ศึกษาวิทยาคุณไสยศาสตร์กับ หลวงพ่อฮวบ ที่วัดหาดงิ้ว จนมีความรู้อย่างแตกฉาน จึงได้ย้ายไปอยู่วัดช่องลมในเวลาต่อมา ซึ่งพระครูวิเชียรปัญญามหามุนี(เรือง) เจ้าคณะจังหวัดอุตรดิตถ์ เจ้าอาวาสวัดท่าถนนในสมัยนั้น ได้พิจารณาเห็นว่าหลวงพ่อไซร้ เป็นที่เคารพนับถือของ บรรพชิตและคฤหัสถ์ จึงแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ตั้งแต่วันที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2462 สืบต่อมา

    การทำนุบำรุงศาสนา....
    ภายหลังจากได้รับการแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาสวัดช่องลม ท่านได้เอาใจใส่ในการก่อสร้าง และปฏิสังขรณ์ เสนาสนะ วางระเบียบแผนผังของวัดที่ท่านพำนักจนเป็นที่เรียบร้อย ดังปรากฏหลัฐานมาจนถึงทุกวันนี้ เช่น หอไตร กุฏิเจ้าอาวาส อุโบสถ หอสวดมนต์ ศาลาการเปรียญ พระวิหาร เจดีย์บรรจุพระบรมสารีริกธาตุ กำแพงรอบวัด โรงเรียน ปริยัติธรรม และโรงเรียนประชาบาลวัดช่องลม การก่อสร้าง และการปฏิสังขรณ์ดังกล่าว รวมทั้งอุโบสถของวัดหาดงิ้ว ศาลาการเปรียญวัดสามัคคยาราม และอุโบสถของวัดดอยท่าเสา เป็นต้น

    วัตถุมงคลของหลวงพ่อไซร้
    เงินทุนที่ท่านได้มาใช้จ่ายในการก่อสร้างและปฏิสังขรณ์นี้ ส่วนใหญ่เกิดมาจากการจำหน่ายวัตถุมงคลของท่าน เช่น เหรียญ รูปเหมือน แหวนรูปท่าน ตะกรุด ฯลฯ ให้กับประชาชนเช่าบูชา เงินที่ชาวบ้านบริจาคทำบุญก็มีแต่เป็นส่วนน้อย
    วัตถุมงคลของท่านที่ทำขึ้นเองก็ดีหรือมีผู้อื่นนำมาถวายให้ท่านปลุกเสกให้ก็ดี ล้วนแล้วแต่เป็นของที่มีอาุนุภาพศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่ปรากฏต่อลูกศิษย์และชาวบ้านทั่วไป แม้แต่คนที่นับถือศาสนาอื่นๆยังแขวนพระเครื่องและตะกรุดของหลวงพ่อไซร้ ติดตัวตลอด เพราะท่านเป็นพระที่มีสมาธิจิตสงบนิ่งมั่นคงมากในเวลาปลุกเสก ประกอบกับผู้รับไปบูชามีจิตใจเชื่อมั่นเคารพนับถือในวิทยาคุณของท่านด้วย

    หลวงพ่อไซร้หรือพระครูนิกรธรรมรักษ์ ท่านมีเมตตาธรรมเป็นอุปปัญญาประจำใจไม่เลือกชั้นวรรณะใครมีธุระก็ติดต่อได้ทุกเวลา อัธยาศัยกว้างขวางเคารพในการปฏิสันถาร วาจาอ่อนน้อมน่าบูชายิ่งนัก ใครจะขอให้ปลุกเสกเลขยันต์ทำน้ำมนต์ ท่านทำให้ทุกอย่าง จนหาเวลาว่างของตนเองไม่ได้แม้แต่ยามอาพาธท่านยังยอมเสียสละเวลาและชีวิต เพื่อผู้อื่นโดยถือคติธรรมตามรอยพระพุทธองค์ว่า ผู้เสียสละ คือ ผู้ชนะแล้ว หมายถึง การเอาชนะใจตนเองถือเป็นการชนะเลิศเพราะว่าไม่มีทางกลับมาแพ้ได้อีกต่อไป

    หลวงพ่อไซร้ มรณภาพเมื่อวันที่ 17 ตุลาคม พ.ศ. 2507 สิริอายุรวม 71 ปี พรรษา 51 ปี


    สภาพคัดสวยๆคมๆ สภาพค่อนข้างสมบูรณ์ มีกดไม่ติดกดไม่เต็มน้อยมาก ซึ่งโดยส่วนใหญ่แตกหักค่อนข้างเยอะเพราะเนื้อแก่มวลสารมาก ของดีพิธีใหญ่หลายวาระคงไม่ต้องบรรยายให้มากความ แบ่งให้บูชา 345 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com

    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
  19. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3491.สุดยอดเมตตา โชคลาภ ค้าขาย หนุนดวงดีนักแล (New2)
    เหรียญนั่งพาน หลวงปู่บุญศรี วัดใหม่ศรีสุทธาวาส อธิษฐานจิต 3 เดือน

    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    mmtb8e-jpg-jpg.jpg
    dwwnhag-jpg-jpg-jpg.jpg

    เหรียญนั่งพาน หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ(ลพ.ฤาษีลิงเล็ก) วัดใหม่ศรีสุทธาวาส จังหวัดนครสวรรค์ เนื้อทองแดง ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2539 จัดสร้างถวายโดยคณะองค์การเภสัช (ศิษย์ใกล้ชิดหลวงปู่บุญศรี) ออกแบบโดย คุณสุชีพ

    สำหรับเหรียญรุ่นนี้
    ศิษย์องค์การเภสัช ได้ช่วยกันออกแบบ ร่างแบบแล้วได้นำไปให้หลวงปู่บุญศรีดู หลวงปู่ท่านก็พอใจและก็ได้อนุญาตให้จัดสร้าง

    เหรียญรุ่นนี้ จะมีเนื้อทองคำ เนื้อเงินลงยา เนื้อทองเหลือง เนื้อทองแดง นำมาปั๊มจัดสร้างที่กรุงเทพฯ แล้วก็ได้นำไปให้หลวงปู่บุญศรีอธิษฐานจิต “ปลุกเสกไตรมาส” 3 เดือน ถือว่านานพอสมควร หลวงปู่ท่านก็เมตตาอธิษฐานจิตปลุกเสกให้เป็นอย่างดี เหรียญรุ่นนี้ออกแบบได้สวยงามเป็นอย่างมาก เจตตนาการจัดสร้างก็บริสุทธิ์ “จัดสร้างมาเพื่อแจก” ให้กับผู้ร่วมบุญผ้าป่าวัดใหม่ศรีสุทธาวาส เป็นเหรียญที่ดีทั้งนอกและใน

    หลวงปู่ได้ทำพิธีในวันเสาร์ 5 คือ วันเสาร์ที่ 23 มีนาคม 2539



    ประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของเหรียญรุ่นนี้

    $$$ พนักงานขับรถบริษัท $$$


    เมื่อประมาณวันที่ ๑๓ พ.ค. ๕๕ .. นายสุรศักดิ์ มีสมบัติ อายุ ๓๓ ปี เป็นพนักงานขับรถบริษัท ได้มีประสบการณ์จากวัตถุมงคลหลวงปู่บุญศรี.

    .คือ. พี่โอส์ได้เล่าประวัติของหลวงปู่ให้ฟัง..และได้มอบวัตถุมงคลของหลวงปู่ไว้แก้ดวงและเป็นของขวัญวันเกิด ๒๒ เมษายน.

    และแนะนำว่า..เมื่อรับวัตถุมงคลหลวงปู่ไปแล้ว.ต้องตักบาตรพระ ๙ องค์เป็นสังฆทาน ถวายหลวงปู่ เทวดาประจำพระ ผู้มีพระคุณ เทวดาประจำตัว และ ปล่อยปลา ๓๙ ตัว..
    ..นายสุรศักดิ์..ก็รับปากและทำตามที่แนะนำ

    พออยู่มาไม่นาน..นายสุรศักดิ์ก็ได้มาเล่าให้พี่โอส์ฟังว่า.
    .ตั้งแต่วันนั้น.วันที่ผมได้รับวัตถุมงคลของหลวงปู่มาไว้บูชา. ผมรู้สึกอุ่นใจมากๆจนบอกไม่ถูก เจ้านายผู้หญิงที่ผมขับรถให้เป็นชาวต่างชาติ และเป็นคนเจ้าระเบียบ ตรงเวลา และเวลาขับรถก็ไม่ให้เกิน ๙๐ กิโลเมตร/ชั่วโมง.

    ...พนักงานที่ขับรถให้จะอึดอัดใจเป็นอย่างมาก... ๓ เดือนเปลี่ยนพนักงานขับรถไป ๒ คน ส่วนผม.คือนายสุรศักดิ์ เป็นคนที่ ๓ รู้สึกว่าตั้งแต่บูชาวัตถุมงคลหลวงปู่ติดตัวมา.. จะไม่โดนบ่น โดนว่า แถมยังไปบอกกับสามีของเค้าว่า (ที่เป็นฝรั่ง) บอกว่าผมขับรถดี ถูกใจ...
    .นายสุรศักดิ์..บอกว่าปกติไม่เคยแขวนพระเลย.. พระหลวงปู่คือองค์แรกที่แขวนขึ้นคอบูชาติดตัว. พระหลวงปู่ดีจริงๆ เมตตาสุดๆ ..

    ..บูชาแล้วเห็นผล.. จากที่ไม่เคยได้.ก็ได้.จากที่ไม่เคยเจอ.ก็เจอ..คือ ได้ทิป และก็มีคนพาไปเลี้ยงข้าวบ่อยมาก .. รู้สึกว่าชีวิตมีความสุข.. หยั่งที่ไม่เคยเจอมาก่อน


    ----------------------------------

    $$$ คนดวงดี $$$


    ครั้งหนึ่งบ้านผมหลังคารั่วหลายแผ่น..และต้องเปลี่ยนหลังคาใหม่..และติดตั้งเสาวีที..ต้องใช้เงินเป็นหมื่น...

    .นายสุรศัดิ์. เป็นคนที่ไม่เล่นการพนัน . เค้าจึงอธิษฐานขอบารมีบอกกล่าวหลวงปู่ว่า "ขอให้คนที่บ้านถูกหวย" ด้วยเทอญ .. เพื่อจะได้นำเงินมาซ่อมแซมหลังคาบ้านและติดตั้งเสาวีที

    ..ถ้ามีความศรัทธาหลวงปู่จริงๆ ย่อมเห็นผล...หวยงวดประจำวันที่ ๑ พ.ค. ๕๕ หรือ วันที่ ๒ นี่แหละ เลขท้าย 3 ตัวออก 501 และเลข 2 ตัวออก 29 ถ้าจำไม่ผิด .. ปรากฏว่า.. แม่ของนายสุรศักดิ์ ถูกเลข 3 ตัวโต๊ด และเลข 2 ตัว ล่าง/บน. ได้เงินสดๆ มาถึงสี่หมื่นกว่าบาท..

    .เท่านั้นยังไม่พอ. แถมถูกทั้งพ่อและแม่เลย. เพราะต่างคนต่างซื้อ.
    ทุกวันนี้เค้าและครอบครัวต่างก็ศรัทธาหลวงปู่บุญศรีเป็นอย่างมาก . บูชาพระหลวงปู่ติดตัวตลอด . ไม่มีห่างกาย . แถมยังย้ำว่า ."พระของหลวงปู่ดีจริง" บูชาแล้วเห็นผล

    ขอให้ทุกคนจำไว้..."ถ้าเราศรัทธาจริง หลวงปู่ท่านก็เมตตาจริง"




    ขอขอบพระคุณข้อมูลจาก
    - กลุ่มลูกศิษย์ หลวงปู่บุญศรี อินทวัณโณ



    สภาพสวยเดิมๆ โดดเด่น สุดยอดเมตตา โชคลาภ ค้าขาย หนุนดวงดีนักแล ตามตำรับโบราณ แบ่งให้บูชา 450 บาท (พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)

    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • d0GThhy.jpg
      d0GThhy.jpg
      ขนาดไฟล์:
      343.4 KB
      เปิดดู:
      263
    • dwwnhag-jpg-jpg.jpg
      dwwnhag-jpg-jpg.jpg
      ขนาดไฟล์:
      113.8 KB
      เปิดดู:
      255
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มกราคม 2024
  20. ศิษย์ปิยธโร

    ศิษย์ปิยธโร อายุ วรรณโณ สุขัง พลัง สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    15,224
    ค่าพลัง:
    +14,333
    3492.กลับร้ายกลายเป็นดี หนุนดวงกันของ ตามตำราวัดใต้ พระผงเพชรกลับ
    หลวงพ่อมหาวิบูลย์ พระอริยเจ้าสายหลวงปู่มั่น ผู้สำรวมเป็นนิจตลอดกาล


    คลิ้กเพื่อชมรูปใหญ่ครับ
    d0GP9uI.jpg
    พระผงเพชรกลับ หลังจาร "จิเจรุนิ" หลวงพ่อมหาวิบูลย์ พุทฺธญาโณ วัดโพธิคุณ บ้านห้วยเตย ตำบลแม่ปะ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เนื้อผงพุทธคุณ ดำเนินการจัดสร้างขึ้นเมื่อปี พ.ศ.2544

    หลวงพ่อมหาวิบูลย์ ท่านได้สร้างตามตำรา พระเพชรหลีกพระเพชรกลับ ตามตำราสายวัดใต้(วัดอินทาราม ธนบุรี) ตามตำรา ของท่านเจ้าคุณทักษิณคณิสรผู้สร้างพระเพชรหลีกเพชรกลับอันโด่งดัง ราคาตอนนี้ก็เรือนแสน

    สืบทอดมาสู่ท่านพระวิเชียรมุนี(พัน) วัดอินทาราม >>หลวงพ่อมหาวิบูลย์ท่านก็เป็นศิษย์รูปหนึ่งของหลวงพ่อพระวิเชียรมุนี นับว่าเป็นรุ่นที่3 ที่สืบทอดวิชาพระเพชรหลีกเพชรกลับครับผม สุดยอดแน่นอน

    ที่เรียกว่า เพชรกลับ เนื่องจาก ถ้าเกิดมีผู้ใดตั้งใจกระทำสิ่งชั่วร้ายใส่ตัวเรา สิ่งนั้นจะถูกย้อนกลับไปหาตัวผู้กระทำนั้น กลับร้ายกลายเป็นดี หนุนดวงหนุนโชคชะตา ค้ำดวงที่ตกต่ำ





    หลวงพ่อพระมหาวิบูลย์

    หรือหลวงพ่อวัดห้วยเตย เป็นพระที่ศีลบริสุทธิ์น่าเคารพกราบไหว้ได้อย่างสนิทใจ ชาวแม่สอดและไกล้เคียงหรือกระทั่งลูกศิษย์ทางไกลให้ความเคารพและนับถือท่านมากครับ วัตถุมงคลต่างๆที่ท่านจัดสร้างและได้อธิษฐานจิตปลุกเสกนั้นมีพลานุภาพมากมายเหลือคณานับ ถ้าท่านใดยังไม่มีวัตถุมงคลของท่านบูชาไว้เถิดครับ ไม่มีผิดหวังแน่นอนครับ พระพุทธลีลา สุดยอดมวลสารที่ลูกศิษย์หลวงพ่อต่างทราบกันดี มีมวลสารมากมายและสำคัญมีมวลสารที่เป็นพระทนต์ของในหลวงอยู่ในองค์พระ

    หลวงพ่อพระมหาวิบูลย์ท่านเป็นศิษย์ของพระอาจารย์หลายรูปครับ เช่น
    - หลวงปู่แหวน วัดดอยแม่ปั๋ง เชียงใหม่
    - หลวงพ่อพระวิเชียรมุนี อดีตเจ้าอาวาสวัดอินทาราม (เป็นศิษย์ของหลวงพ่อเจ้าคุณทักษิณคณิสร วัดอินทาราม พระผู้สร้างพระเพชรหลีกเพชรกลับอันโด่งดัง)
    - หลวงปู่ชา วัดหนองป่าพง
    - หลวงปู่เตียง วัดเขารูปช้าง
    - หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช
    - หลวงพ่อพุทธทาส สวนโมกขพลาราม

    ท่านพระ อาจารย์มหาวิบูลย์ พุทธญาโณ เป็นพระโพธิสัตว์ใหญ่ที่ลาพุทธภูมิและเข้าพระนิพพานแล้ว ก่อนท่านจะนิพพาน เกศาท่านปลงภายในวันเดี่ยว แปรสภาพพระธาตุ สร้างความอัศจรรย์ใจแก่ศิษยานุศิษย์เป็นอย่างมาก


    ประวัติโดยย่อของหลวงพ่อมหาวิบูลย์
    http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=13&t=21566&view=print


    สภาพสวยเดิมๆผิวหิ้งนิดๆผิวไฟเดิม พิมพ์คมชัดลึก เก่าเก็บไม่ได้ใช้ เนื้อดีพุทธคุณเด่นครอบจักรวาล แบ่งให้บูชา 250 บาท(พร้อมจัดส่ง EMS อย่างดีครับ)





    (คุณPeterbn จองแล้วครับ)




    คุณวิทมน สุ่มเกิด ธ.กรุงไทย สาขาเทสโก้โลตัสอุตรดิตถ์ เลขที่ 6000088418
    โทร.086-0441367, Engineer0206nu@gmail.com
    *** ขอขอบพระคุณทุกท่านที่เข้ามาเยี่ยมชม และอุดหนุนผมครับ ***
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 ธันวาคม 2023

แชร์หน้านี้

Loading...