เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 25 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ กระผม/อาตมภาพต้องวิ่งไปยังวัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) เพื่อร่วมงานทำบุญอายุวัฒนมงคล ๖๗ ปี พระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี โดยมีพระเดชพระคุณพระธรรมวชิรานุวัตร, ดร. (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าคณะภาค ๑๔ เป็นประธาน

    ภายในงานนั้นมีทั้งการแต่งตั้งพระสังฆาธิการระดับสูงของจังหวัดกาญจนบุรี คือระดับเจ้าคณะอำเภอและรองเจ้าคณะอำเภอ พร้อมกับพิธีเปิดอาคารเรียนหลังใหม่ ของโรงเรียนอนุบาลวัดไชยชุมพลชนะสงคราม ที่ใช้ชื่อว่าอาคารเรียนพระเทพปริยัติโสภณ (เจ้าคุณปัญญา ครุฑวงศ์ ป.ธ.๙) ซึ่งกระผม/อาตมภาพเห็นว่าชื่อยาวไปสักหน่อย..!

    แต่ในเมื่อทางผู้อำนวยการโรงเรียนอนุบาลวัดไชยชุมพลชนะสงครามต้องการใช้ชื่อแบบนี้ กระผม/อาตมภาพก็ไม่ขัดคอให้เสียเวลา เพราะโบราณบอกว่า "ขัดขันขัดจอกยังพอเงาได้ ขัดคอคนเมื่อไร มีหวังได้ทะเลาะกัน" จึงต้องปล่อยให้เลยตามเลยไปตามนั้น

    หลังจากที่ทำหน้าที่ทุกอย่างตรงนั้นเรียบร้อยแล้ว ก็ต้องฝ่าฝนหลงฤดูไปยังวัดอุทยาน อำเภอบางกรวย จังหวัดนนทบุรี เพื่อเตรียมเข้าร่วมพิธีบวงสรวงและภาวนาพระคาถาเงินล้าน ๑๐๘ จบ โดยเฉพาะในส่วนของพิธีภาวนาพระคาถาเงินล้านของวัดอุทยาน ก็จะมีการปลุกเสกวัตถุมงคลไปในตัวด้วย

    เมื่อพูดถึงวัตถุมงคล ญาติโยมอาจจะเห็นว่าวันนี้มีการนำพระสมเด็จคำข้าวจำนวนหนึ่งและพระพิมพ์หยดน้ำ ปี ๒๕๒๖ ของวัดท่าซุงอีกจำนวนหนึ่งมาลงกระทู้ จึงขอบอกกล่าวว่า วัตถุมงคลชุดนี้เป็นของลูกศิษย์ผู้ใหญ่ท่านหนึ่งของพระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ ซึ่งอยู่ในยุคสมัย "ล่าพระอาจารย์" มาด้วยกัน

    ลูกศิษย์ลูกหาในยุคนั้น ส่วนใหญ่แล้วถึงแม้ท่านจะเป็นเจ้าใหญ่นายโต แต่ก็สมกับเป็นบุคคลที่ประพฤติปฏิบัติธรรม ก็คือหา "มานะ" ได้น้อยมาก ลูกศิษย์ผู้ใหญ่ท่านนี้ก็เช่นกัน ท่านเป็นถึงนายพล แต่บอกว่า "ขออนุญาตปิดชื่อไว้นะครับ" กระผม/อาตมภาพจึงไม่บอกกล่าวชื่อเสียงเรียงนามของท่าน แต่บอกให้รู้ว่าท่านมีส่วนในการสร้างวัตถุมงคลของวัดท่าซุงอยู่หลายรุ่น ตรงจุดนี้ก็ยังไม่เท่าไร เพราะว่าของมาแล้วก็หมดไป

    แต่ว่าหลายท่านที่ไม่ได้อยู่ใกล้วัดท่าขนุน ไม่ได้เล่นเฟซบุ๊ก หรือว่าไม่ได้เป็นสมาชิกเว็บไซต์วัดท่าขนุน ท่านทั้งหลายที่ต้องการวัตถุมงคลแล้วไม่สามารถจะเข้าไปจองได้ ก็ให้ไปยังวัดต่าง ๆ ที่เคยนิมนต์กระผม/อาตมภาพไปทำการบวงสรวงพุทธาภิเษก

    โดยเฉพาะมีหลายวัดที่นิมนต์ค่อนข้างจะบ่อย อย่างเช่น วัดบึงลาดสวาย อำเภอบางเลน จังหวัดนครปฐม วัดสี่แยกเจริญพร อำเภอกำแพงแสน จังหวัดนครปฐม วัดโพธิ์ผักไห่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา หรือว่าวัดประเสริฐสุทธาวาส เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพมหานคร ท่านทั้งหลายใกล้ที่ไหนก็ไปเสาะหาวัตถุมงคลได้ที่นั่น
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เนื่องเพราะว่าวัตถุมงคลของวัดท่าขนุนนั้น จะสร้างเฉพาะตามที่ครูบาอาจารย์ท่านสั่ง ถ้าไม่ใช่ส่วนที่ท่านสั่งแล้ว กระผม/อาตมภาพไม่เสียเวลาไปทำ เนื่องเพราะว่าทำเมื่อไรก็ได้เงินมา ได้เงินมาเมื่อไร ก็ต้องทำงานโน่นทำงานนี่ ต้องบอกว่า "เหนื่อยจนหมดอารมณ์ที่จะทำแล้ว" ปล่อยให้เป็นไปตามคำสั่งครูบาอาจารย์อย่างเดียว จะไม่แส่หาไปทำเองอย่างเด็ดขาด..! เพราะว่าเท่ากับหาเรื่องเหนื่อยนั่นเอง

    ญาติโยมหลายท่านที่ไม่เข้าใจตรงจุดนี้ ก็พยายามที่จะส่งข้อความส่วนตัว ที่เรียกว่า PM บ้าง ติดต่อผ่านทางอีเมล์บ้าง บอกว่า "ต้องทำจำนวนเท่านั้นหมื่น เท่านี้แสน เพื่อที่ทุกคนจะได้วัตถุมงคลที่มีคุณค่า เสกโดยองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยทั่วถึงกัน" กระผม/อาตมภาพอยากจะถามว่า "ท่านทั้งหลายรู้จักวงการสร้างวัตถุมงคลดีแค่ไหน ?"

    เพราะว่าวงการนี้ โดยปกติแล้วจะมีผู้รับอาสาสร้างวัตถุมงคลให้กับหลวงปู่หลวงพ่อวัดต่าง ๆ ที่มีชื่อเสียง แม้แต่ในสมัยของพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงก็เป็นแบบนี้ แต่ว่าก็มีการบวกตัวเลขกันอย่างชนิดที่เรียกว่า "ไม่คำนึงถึงหิริโอตัปปะเลย" อย่างเช่นว่าการสร้างพระสมเด็จคำข้าว วัดท่าซุงนั้น ทางโรงงานขอที่ราคาองค์ละ ๘๐ สตางค์ แต่มีการแจ้งพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "องค์ละ ๑ บาท ๕๐ สตางค์" แล้วจำนวนสร้าง ๕ ล้านองค์ เขาจะกินเปล่าไปเท่าไร ?!!

    แม้แต่กระผม/อาตมภาพเองก็ต้องเปลี่ยนตัวผู้สร้างวัตถุมงคลไปหลายต่อหลายราย เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าโดยธรรมเนียมแล้ว ทางโรงงานจะสอบถามผู้ไปติดต่อเลยว่า "ต้องการกี่เปอร์เซ็นต์ ?" แล้วเท่านั้นยังไม่พอ ยังมีการสร้างเผื่อให้ด้วย อย่างเช่นว่าร้อยละ ๑๐ ร้อยละ ๒๐ ตามแต่ที่เราเรียกร้องไป ส่วนที่สร้างเผื่อมานั้น ก็จะไม่ใช่ของวัด อย่างเช่นว่าถ้าร้อยละ ๑๐ ทางวัดสั่ง ๕,๐๐๐ องค์ ก็จะกลายเป็น ๕,๕๐๐ องค์ แต่ว่าทางวัดจะได้รับแค่มา ๕,๐๐๐ องค์เท่านั้น

    หรือถ้าเขาแจ้งมาว่าเหรียญละ ๒๐ บาท แต่อีกฝ่ายหนึ่งจะมาบอกกับทางวัดว่าเหรียญละ ๓๐ บาท เหรียญละ ๔๐ บาท ซึ่งไม่ว่าจะตรวจสอบอย่างไร ทางโรงงานก็จะแจ้งราคาตามที่ตกลงกับเขา แล้วในส่วนที่บอกเกินนั้น ก็คือส่วนที่เข้ากระเป๋าผู้ติดต่อไปนั่นเอง..+

    เรื่องทั้งหลายเหล่านี้ ในระยะแรกกระผม/อาตมภาพก็พอที่จะทน เพราะถือว่าเป็นค่าแรงในการติดต่อประสานงานให้ แต่ว่าพอนานไป ความโลภของคนไม่มีที่สิ้นสุด เมื่อไม่เห็นการทักท้วง ก็ถึงขนาดไปคุยกันว่า "หลวงพ่อไม่เห็นรู้จริงอย่างที่พวกคุณว่ากันมาเลย..!"
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    ในเมื่อเป็นเช่นนั้น จึงมีการบวกหนักจนเกินกว่าที่กระผม/อาตมภาพจะรับได้ ครั้นจะไปบีบคอให้คายออกมาก็จะผิดใจกันเสียเปล่า ๆ จึงต้องเปลี่ยนตัวผู้ติดต่อในการสร้างวัตถุมงคลไปเลย ไม่เช่นนั้นแล้วก็จะกลายเป็นเรื่องเสื่อมเสีย ทำให้วงการพระเครื่องก็ดี ทำให้ชื่อเสียงของวัดก็ดี มีความเสียหายขึ้นมาได้

    โดยเฉพาะบรรดาผู้ติดต่อหลายต่อหลายรายในสมัยพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุง ถึงขนาดสร้างมากกว่าของวัดเป็นเท่า ๆ ตัว อย่างเช่นว่าวัดสั่งสร้าง ๑๐,๐๐๐ องค์ ก็ทำออกมา ๓๐,๐๐๐ องค์ ๕๐,๐๐๐ องค์ เป็นต้น โดยเฉพาะพระสมเด็จคำข้าวรุ่นที่ ๒ ส่งงานช้ากว่าที่บอกเอาไว้ถึง ๒ เดือนกว่า ญาติโยมทั้งหลายลองคิดดูว่าแม่พิมพ์ ๑๓ ตัว ส่งช้าไป ๒ เดือน จะปั๊มเพิ่มได้จำนวนมากขนาดไหน ?

    แล้วสิ่งที่ทำออกมานั้น "แบบก็ใช่ พิมพ์ก็ใช่ เนื้อหาก็ใช่" แล้วเราจะไปแยกแยะอย่างไรว่าแบบนี้ได้รับการเข้าพิธีมาแล้ว ? แบบนั้นได้รับการเข้าพิธีมาแล้ว ? ก็ต้องรอแต่ว่าได้รับจากบุคคลซึ่งเป็นที่เชื่อถือได้ ไม่เช่นนั้นแล้วก็มีโอกาสที่จะได้ของแท้แต่ไม่ได้เข้าพิธี..! ซึ่งบรรดาผู้ติดต่อทั้งหลายเขาทำเอาไว้แล้วรอจำหน่ายนั่นเอง

    อีกส่วนหนึ่งก็คือเรื่องของการสร้างวัตถุมงคลนั้น บรรดาผู้ติดต่อก็จะคะเนว่า วัดไหนที่มีชื่อเสียงโด่งดัง แล้วก็ไปอาศัยชื่อวัดนั้นสร้าง พร้อมกับจัดจำหน่ายให้ทั้งหมด โดยที่ตนเองนั้นเป็นผู้ที่ดำเนินการตั้งแต่ต้นจนจบ แล้วถึงเวลาก็มาบอกกับทางวัดว่า ขาดทุนบ้าง จำหน่ายไม่หมดตามเป้าหมายบ้าง ส่วนแบ่งที่ให้กับทางวัดก็เหลือไม่มากอย่างที่ตั้งใจเอาไว้ ทั้ง ๆ ที่การจองนั้น ก็กวาดยอดจองไปถล่มทลายจนหมดเกลี้ยงไปแล้ว..!

    เรื่องนี้กระผม/อาตมภาพเคยเจอมาด้วยตนเอง แต่ไม่ใช่ตนเองโดนแบบนี้ แต่เป็นหลวงปู่ทอง (พระศีลมงคล) วัดสำเภาเชย เจ้าคุณหลวงปู่ปกติแล้วก็จะสนิทสนมคุ้นเคยกัน เพราะว่าเวลาออกงานพุทธาภิเษกได้เจอกันบ่อย ท่านก็ช่วยแนะนำในเรื่องของการวางกำลังใจบ้าง ในเรื่องของวิธีการสร้างวัตถุมงคลชนิดนั้น ชนิดนี้บ้าง พระคาถาต่าง ๆ บ้าง ในเมื่อเป็นเช่นนั้น เมื่อถึงเวลาลงไปยังปัตตานีเมื่อไร กระผม/อาตมภาพก็จะโทรไปหาพระเลขานุการ เพื่อขออนุญาตเข้าไปกราบหลวงปู่ในฐานะครูบาอาจารย์รูปหนึ่ง
     
  5. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    แต่ครั้งนั้นเลขานุการบอกว่า "ท่านอาจารย์อย่าเพิ่งมาเลย วันนี้หลวงปู่เครียดมาก" ถามว่าทำไม ? ท่านบอกว่า "มีคุณนายท่านหนึ่ง ถ้าบอกชื่อก็รู้กันทั่วประเทศไทย มาติดต่อสร้างวัตถุมงคล โดยที่บอกกับหลวงปู่ว่า ส่วนกำไรจะถวายหลวงปู่ ๒๐ ล้านเพื่อให้สร้างพระเจดีย์วัดสำเภาเชย แต่ปรากฏว่าหลังจากที่พุทธาภิเษกเสร็จเรียบร้อยแล้ว ก็หายเข้ากลีบเมฆไป ไม่ไปวัดสำเภาเชยอีกเลย" เรื่องนี้จะแปลว่าอะไรได้ ? นอกจากว่าเมื่อเห็นเงินมากแล้วก็มีรายการอมกันขึ้นมา..!

    ดังนั้น..ท่านทั้งหลายจะเห็นว่าพระเดชพระคุณหลวงพ่อวัดท่าซุงนั้นแทบจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับบรรดา "เซียนพระ" เลย ถ้าหากว่าท่านไปยุ่งเกี่ยวด้วย เขาทั้งหลายจะ "ปั่น" ให้พระเดชพระคุณหลวงพ่อดังมากกว่านี้อีกหลายเท่า แต่ว่าประโยชน์โพดผลต่าง ๆ นั้น ก็จะไปตกแก่พวกเขาอย่างมากมายมหาศาลแทน

    พูดง่าย ๆ ว่า "เอาหลวงพ่อไปขายกินอย่างเป็นทางการ" นั่นเอง เมื่อมาถึงยุคของกระผม/อาตมภาพก็ยอมเสียประโยชน์ให้เฉพาะบุคคลที่ติดต่อในการสร้างเท่านั้น ไม่เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับวงการทั้งหลายเหล่านี้เช่นกัน

    ถึงแม้ว่าจะมีบุคคลที่นำเอาวัตถุมงคลไปแอบเข้าพิธีที่วัดโน้นบ้าง วัดนี้บ้าง แล้วก็ไปลงโฆษณาว่า "หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน ร่วมพิธีปลุกเสก" กระผม/อาตมภาพก็ต้องปล่อยเลยตามเลย เพราะว่าถ้าทางเจ้าของวัดเขาไม่ห้าม เราก็ไม่สามารถที่จะห้ามได้เช่นกัน

    ขอให้ท่านทั้งหลายทราบว่าวงการนี้ "เขี้ยวลากดิน" จนกระทั่งเดินขึ้นหน้าไม่ได้ จะเดินไปไหนก็ต้องเดินถอยหลัง ไม่อย่างนั้นแล้วเขี้ยวจะค้ำพื้นเดินต่อไปไม่ได้..!

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันศุกร์ที่ ๒๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...