เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 10 พฤศจิกายน 2022.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๕


     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕ เป็นวันสำคัญวันหนึ่งของทางคณะสงฆ์ไทย เพราะว่าเป็นวันที่กำหนดให้มีการสอบนักธรรมชั้นโท - ชั้นเอก (สนามหลวง) ประจำปี ๒๕๖๕ เป็นวันแรก ซึ่งจะต้องมีพิธีเปิดตามสนามสอบต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัดทั่วประเทศ

    คณะสงฆ์จังหวัดกาญจนบุรี โดยพระเดชพระคุณพระเทพปริยัติโสภณ, ดร. (ปัญญา วิสุทฺธิปญฺโญ ป.ธ.๙) เจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรีนั้น ให้แบ่งสนามสอบของจังหวัดกาญจนบุรีออกเป็นแค่ ๒ สนามเท่านั้น เพื่อความสะดวกในการควบคุมดูแล ก็คือสนามสอบที่ ๑ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) สนามสอบที่ ๒ วัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ทั้ง ๒ สนามนั้นต่างก็มีคณะกรรมการ ตลอดจนกระทั่งผู้อำนวยการสนามสอบ ช่วยดูแลอยู่อย่างเข้มงวดและใกล้ชิด

    กระผม/อาตมภาพและคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมินั้นขึ้นอยู่กับสนามสอบที่ ๑ วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) แต่ว่าเมื่อทำพิธีเปิด และได้เยี่ยมสนามสอบทั้ง ๒ ส่วน ก็คือส่วนของนักธรรมชั้นเอกและนักธรรมชั้นโทเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็ได้เดินทางไปยังวัดพระแท่นดงรังวรวิหาร ซึ่งเป็นสนามสอบที่ ๒ ในฐานะพระสังฆาธิการฝ่ายอำนวยการไปตรวจเยี่ยมสนามสอบ และถวายปัจจัยสนับสนุนสนามสอบด้วย ซึ่งการกระทำแบบนี้นั้นก็เป็นการแสดงออกซึ่งน้ำใจ ของบรรดาเจ้าคณะพระสังฆาธิการฝ่ายปกครองต่าง ๆ ที่จะมีต่อการสอบในแต่ละปี

    กระผม/อาตมภาพซึ่งให้ความสำคัญเกี่ยวกับการศึกษาของคณะสงฆ์เป็นอย่างมาก จึงไม่รับงานอื่น นอกจากว่าจะมีงานที่รับเอาไว้ก่อน แล้วเกิดกำหนดงานสอบของทางแม่กองธรรมสนามหลวงมาชนกันพอดี ถ้าอย่างนั้นก็จะมอบหมายให้เลขานุการมาทำหน้าที่แทน แล้วกระผม/อาตมภาพไปยังงานที่ได้รับเอาไว้ แต่ถ้าหากว่ารู้ล่วงหน้าก็จะไม่รับงานใด ๆ ทั้งสิ้น

    นอกจากจะมาเป็นกรรมการอำนวยการสอบแล้ว ก็ยังร่วมเป็นเจ้าภาพถวายภัตตาหารเพลในนามคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิด้วย ส่วนของปัจจัยนั้น มอบให้สนามสอบในนามของตนเอง ก็เรียกว่า "งานหลวงก็ไม่ให้ขาด งานราษฎร์ก็ไม่ให้เสีย"
     
  3. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    เมื่อทำการเยี่ยมสนามสอบครบถ้วนสมบูรณ์แล้ว ก็ได้เดินทางกลับไปพักที่วัดราษฎร์ประชุมชนาราม หรือว่าวัดท่ามะขาม ปล่อยให้คณะกรรมการคุมห้องสอบปฏิบัติหน้าที่ของตนไป กระผม/อาตมภาพเองก็มาดูแบบพระสมเด็จคำข้าว วัดท่าขนุน ซึ่งได้ให้ทางผู้ออกแบบเขียนเป็นพระสมเด็จพิมพ์ปรกโพธิ์ ด้านหลังเป็นยันต์เกราะเพชร

    เหตุที่ได้แบบเช่นนั้นมาก็เพราะว่าได้รับคำบอกกล่าวจากครูบาอาจารย์ว่า ในเรื่องของพระสมเด็จคำข้าวนั้นเป็นไปในเรื่องของลาภผลโดยตรง แต่ว่าในระยะนี้ตรงกับสงครามใหญ่ จึงต้องเน้นการป้องกันเอาไว้ด้วย ในลักษณะของ "เศรษฐีสงคราม" ก็คือรวยด้วย เอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ยากลำบากได้ด้วย คาดว่าถ้าหากว่าทำเสร็จในช่วงไหน แล้วหาวันเวลาที่เหมาะสมได้ ก็จะทำการบวงสรวงพุทธาภิเษก กราบขอบารมีพระท่านสงเคราะห์อีกวาระหนึ่ง


    ความจริงจะว่าไปแล้ว พระสมเด็จคำข้าววัดท่าขนุนรุ่นนี้ พระท่านสงเคราะห์ให้ตั้งแต่ตอนทำผงอย่างเต็มที่แล้ว ไม่จำเป็นที่จะต้องเสกซ้ำก็ได้ แต่ว่าที่เสกซ้ำนั้นก็เป็นไปตามที่ครูบาอาจารย์ได้ให้แนวทางเอาไว้ว่า "เพื่อรักษากำลังใจของคนที่รับไปบูชา" บุคคลที่กำลังใจอ่อน ถ้าไม่เห็นพิธีกรรมใหญ่สมบูรณ์ตามรูปแบบ ก็อาจจะขาดความเชื่อมั่น ซึ่งกระผม/อาตมภาพเองนั้นไม่ได้ใส่ใจบุคคลประเภทนี้อยู่แล้ว


    แต่ครูบาอาจารย์ท่านไม่ได้วางอุเบกขา ท่านมีเมตตากรุณาเป็นปกติ ตั้งใจสงเคราะห์ต่อหมู่คนโดยถ้วนหน้า จึงได้มีคำสั่งมาให้จัดการบวงสรวงพุทธาภิเษกอีกวาระหนึ่ง กระผม/อาตมภาพจึงจำเป็นที่จะต้องทำตามไป เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าคำสั่งของครูบาอาจารย์ย่อมเหมือนกับประกาศิต เรามีหน้าที่รับมาใส่เศียรเกล้าแล้วปฏิบัติตามเท่านั้น ไม่ต้องไปสงสัยอะไรทั้งสิ้น เพราะว่าสิ่งที่ครูบาอาจารย์หรือว่าพระท่านบอกมา ย่อมพอดี พอเหมาะ พอสม ทั้งสิ้น


    แบบเดียวกับการสร้างสมเด็จองค์ปฐมหน้าตัก ๒๑ ศอกที่หน้าวัดท่าขนุน ซึ่งท่านสั่งให้ทำฐานขึ้นไปในขนาดเท่าไร และขณะเดียวกันก็ไม่ให้สร้างอาคารคลุมพระไว้ด้วย

    ในตอนแรกกระผม/อาตมภาพก็ไม่สบายใจ กราบทักท้วงครูบาอาจารย์ไปว่า ตามที่เคยสั่งเอาไว้ก็คือ ถ้าหากว่าสร้างพระเมื่อไร อย่าให้ตากแดดตากฝน แต่ว่าคำสั่งครั้งนี้ก็คือ นอกจากจะไม่ให้ปิดทองหรือว่าลงสีทองแล้ว ยังให้ลงเป็นสีขาว และไม่ให้สร้างอาคารคลุมไว้อีกด้วย
     
  4. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,461
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,534
    ค่าพลัง:
    +26,371
    อีกส่วนหนึ่งก็คือมีบุคคลที่มักจะสอบถามเกี่ยวกับสภาวะพระนิพพานว่า มีลักษณะเป็นดินแดนหรือไม่ ? หรือว่ามีสภาพสูญ เรื่องพวกนี้กระผม/อาตมภาพเคยอธิบายไปแล้ว และขอย้ำอีกครั้งหนึ่งว่า บุคคลที่เข้าไม่ถึงอารมณ์พระนิพพาน พูดไปก็ไร้ประโยชน์ ถกเถียงกันก็เป็นไปตามกิเลสในใจของตนเท่านั้น

    ลักษณะเดียวกับที่ครูบาอาจารย์ท่านเคยเปรียบไว้ว่า เต่าสามารถขึ้นไปบนบก เมื่อท่องเที่ยวดูสิ่งต่าง ๆ จนครบถ้วนตามที่ตนเองต้องการแล้ว ก็ลงน้ำไปบอกกล่าวให้ปลารู้ แต่ทำอย่างไร ปลาก็ไม่สามารถที่จะจินตนาการไปถึงได้

    เหตุที่เป็นเช่นนั้นก็เพราะว่าปลาไม่สามารถที่จะขึ้นจากน้ำไปได้ ต่อให้มีปลาพันธุ์พิเศษอย่างปลาตีน ก็ขึ้นจากน้ำได้แค่ระยะใกล้ ๆ ฝั่งเท่านั้น ไม่สามารถที่จะมีประสบการณ์ชัดเจนแบบเดียวกันเต่า

    แล้วถ้าหากว่านกมาบอกกับปลาว่า สภาพของโลกนี้เป็นอย่างไร สภาพของท้องฟ้าเป็นอย่างไร ก็ไม่ต้องไปหวังเลยว่าปลานั้นจะเข้าใจ เพราะว่าแม้ปลาจะอยู่กับน้ำ แต่ว่าแม้แต่น้ำที่ตนเองอาศัยอยู่ ก็ไม่แน่ว่าจะมองเห็น การปฏิบัติธรรมจึงเป็นเรื่องของปัจจัตตัง ความรู้แจ้งเฉพาะตนที่ปฏิบัติเข้าถึงเท่านั้น คำพูดและตัวหนังสือเป็นสิ่งที่หยาบจนเกินไป ไม่สามารถที่จะอธิบายสภาวธรรมที่แท้จริงได้

    กระผม/อาตมภาพเองนั้นก็คงต้องมีภาระในการเฝ้าสนามสอบ คอยอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ตลอดจนกระทั่งเป็นเจ้าภาพในการถวายภัตตาหารเพลไปจนกว่าที่จะสอบเสร็จ ยกเว้นว่างานใด ถ้าหากว่ารับปากผู้คนเอาไว้ก่อนหน้าที่จะมีกำหนดการสอบครั้งนี้ ก็จะมอบให้เลขานุการมาปฏิบัติหน้าที่ในสนามสอบแทน ตนเองก็จะเดินทางไปตามงานที่รับปากเขาเอาไว้ แล้วกลับมาดูแลสนามสอบให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้

    สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
    วันพฤหัสบดีที่ ๑๐ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๕
    (ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...