พระเครื่อง/เครื่องรางทั่วไป

พระปิดตารุ่นแรกหลวงปู่พระครูวรพรตวิธาน วัดจุมพล อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ปี ๒๕๒๔

บูชา 850 บาท

หลวงปู่พระครูวรพรตวิธาน วัดจุมพล อ.แวงน้อย จ.ขอนแก่น ท่านเป็น อริยสงฆ์ 5 แผ่นดินเรื่องหลวงปู่เหยียบรถกระดก (ลอยขึ้น) เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปี พ.ศ 2503 หลวงปู่จะออกเดินทางจาก อ. พล จ. ขอนแก่น ด้วยรถโดยสารเพื่อจะไป จ.ร้อยเอ็ด รถคันที่หลวงปู่จะขึ้นเป็นรถสองแถวขนาดใหญ่ ตามธรรมดาโดยทั่วไปแล้วพระเณรจะต้องนั่งด้านหน้าติดกับคนขับ เพื่อจะได้ไม่ปะปนกับผู้โดยสารคนอื่น แต่รถคันนี้มีผู้หญิงนั่งเต็มอยู่ด้านหน้าแล้ว ด้านหลังรถยังพอมีที่นั่งได้ คนขับรถจึงบอกให้หลวงปู่ขึ้นทางท้ายรถ หลวงปู่ก็ได้ปฏิบัติตามโดยดี แต่ก่อนจะขึ้นรถหลวงปู่ได้พูดกับคนขับรถว่า “รถจะไม่เดี่ยงหรือ”(เดี่ยงเป็นภาษาไทยอีสานแปลว่า “ กระดก”) คนขับก็บอกว่า “ไม่เดี่ยงแน่เพราะรถรับน้ำหนักได้หลายตัน” พอคนขับพูดจบ หลวงปู่ก็ก้าวเท้าขึ้นรถ ปาฏิหาริย์ก็เกิดขึ้นทันที ด้านหน้ารถลอยขึ้น เหมือนมีมือยักษ์มาจับยกขึ้น คนขับรถเห็นเช่นนั้นถึงกับตกตะลึงจึงกราบนิมนต์หลวงปู่มานั่งด้านหน้า โดยให้พวกผู้หญิงไปนั่งด้านหลัง ตั้งแต่นั้นมาสมญานาม “หลวงปู่วรพรตเหยียบรถเดี่ยง” จึงเป็นที่รู้จักกันโดยทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นในเขตขอนแก่น ชัยภูมิ นครราชสีมา ต่างก็รู้เรื่องกันดี ท่านละสังขารสะลีระท่านไปเน่าเปื่อยเป็นที่น่าอัศจรรย์มากๆ

 

พระกระดูกผีวัดโพธิ์ปี๒๔๘๕กทม. ท่าเตียน พิมพ์ปางอุ้มบาตร

พระอาจารย์หนูท่านจัดสร้างไว้ในปี๒๔๘กว่า(ยุคสงครามโลกครั้งที่2) พระชุดนี้ที่สร้างไว้หลายพิมพ์ครับ แต่ที่เห็นกันเยอะก็คงจะไม่พ้นพิมพ์ปิดตา สำหรับพิมพ์พระพุทธอุ้มบาตรเป็นที่หาพบได้ยากสุดๆ... พุทธคุณด้านแคล้วคาดและโชคลาภเป็นเลิส ผู้นำไปแขวนบูชาใช้ต่างพบประสบการณ์มากมายหลายรูปแบบ รับประกันแท้สากล

บูชา 4,500 บาท

 

แหวนนางกวัก หลวงพ่อเพี้ยน ตอกโค๊ต วฐ เนื้อเงินแท้ ยุคต้นๆ หายากครับ วงนี้เก็บใว้เดิมๆไม่ได้ใส่สีจึงออกดำ ถ้าล้างหรือขัดจะออกเงินขาวสวยงาม รับประกันแท้ ตอกโค๊ตชัดเจนหายากครับ

บูชา 1,800 บาท

 

ปิดครับ





เหรียญพระแก้วมรกต ปี2475
เนื้อทองแดง ปั้ม ขอบข้างกระบอก รับประกันแท้สากล


เหรียญดี พุทธคุณเด่น สร้างเมื่อกรุงเทพฯครบ 150 ปี ตรงกับ พ.ศ.2475 สร้างเพื่อหาทุนบูรณะปฎิสังขรวัดพระแก้วโดยพระราชดำริของพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 7 ปลุกเสกหมู่โดยคณาจารย์ยุคเก่ามากมาย ที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม หรือวัดพระแก้วในปี2475

การประกอบพิธีพุทธาภิเษก นับว่ายิ่งใหญ่อลังการมาก เพราะเป็นการรวมพระเกจิคณาจารย์ชื่อดังผู้ทรงพุทธาคมในยุคนั้นมากมายเข้าร่วมอธิษฐานจิต มีอาทิ
พระเจ้าวรวงศ์เธอกรมหลวงชินวรสิริวัฒน์ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า วัดราชบพิตร กรุงเทพฯ,
สมเด็จพระวันรัต (แพ ติสสเทโว) วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ,
พระโพธิวงศาจารย์ (นวม) วัดอนงคาราม กรุงเทพฯ,
สมเด็จพระพุฒาจารย์ (เข้ม) วัดโพธิ์ กรุงเทพฯ,
เจ้าคุณอุบาลี สิริจันโท วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อพุ่ม วัดบางโคล่ กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อพริ้ง วัดบางปะกอก กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อพร วัดดอนเมือง กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อสด วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อสนธิ์ วัดสุทัศน์ กรุงเทพฯ,
หลวงพ่อแฉ่ง วัดพิกุลเงิน จ.นนทบุรี,
หลวงพ่อชม วัดพุทไธสวรรค์ จ.พระนครศรีอยุธยา,
หลวงพ่อฉาย วัดพนัญเชิง จ.พระนครศรีอยุธยา,
หลวงพ่อจง วัดหน้าต่างนอก จ.พระนครศรีอยุธยา,
หลวงพ่อลา วัดแก่งคอย จ.สระบุรี,
หลวงพ่อกรัก วัดอัมพวัน จ.ลพบุรี,
หลวงพ่อเผือก วัดกิ่งแก้ว จ.สมุทรปราการ,
หลวงพ่อคง วัดซำป่าง่าม จ.ฉะเชิงเทรา,
หลวงพ่อจาด วัดบางกระเบา จ.ปราจีนบุรี,
หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ จ.ชลบุรี,
หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว จ.นครปฐม,
หลวงพ่อคง วัดบางกะพ้อม จ.สุมทรสงคราม,
หลวงพ่อบ่าย วัดช่องลม จ.สุมทรสงคราม,
หลวงพ่อรุ่ง วัดท่ากระบือ จ.สุมทรสงคราม,
หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง จ.ราชบุรี,
หลวงพ่อลา วัดโพธิ์ศรี จ.สิงห์บุรี,
หลวงพ่อสอน วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี,
หลวงปู่รอด วัดทุ่งศรีเมือง จ.อุบลราชธานี,
หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพธิ์ จ.นครสวรรค์,
หลวงพ่อทอง วัดเขากบ จ.นครสวรรค์,
หลวงพ่อเปลี่ยน วัดใต้ จ.กาญจนบุรี,
หลวงพ่อคง วัดใหม่บำเพ็ญบุญ จ.ชัยนาท,
หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง จ.พิจิตร
และ หลวงพ่อเปี่ยม วัดเกาะหลัก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นต้นด้วยบารมีแห่ง “พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร” และ “พระเกจิคณาจารย์” ที่ร่วมอธิษฐานจิตปลุกเสก ร่วมทั้ง “เจตนาการจัดสร้าง” คงจะไม่ต้องบอกกล่าวกันถึงความต้องการและการแสวงหามาไว้ครอบครองของผู้คนในแวดวงและบรรดาพุทธศาสนิกชนทั้งหลาย

 

ปิดครับ




พระปิดตา จตุรพิธพรชัย ปี 2518

พระปิดตามหาลาภ เนื้อผงวิเศษ มีขนาดประมาณ 3 x 3.5 ซม. ด้านหน้าเป็นองค์พระประทับนั่งขัดเพชร ด้านหลังมีอักขระเลขยันต์ของลป.ดู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านรับเป็นธุระในการออกแบบพระให้ ตลอดจนปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลา 1 เดือนเต็ม หลังจากนั้นลป.ดู่ท่านได้นำพระชุดนี้เข้าพิธีพุทธาภิเษกพร้อมกับเหรียญจตุรพิพิธพรชัย 9 พระอาจารย์ที่วัดรัตนชัย จ.อยุธยา เมื่อปี 2518 อีกครั้งหนึ่ง

เลี่ยมพร้อมใช้ เวบใหญ่เปิดราคากัน 4-5,000ครับ รับประกันแท้สากล

บูชา 2,800 บาท

 

ตะกรุดลูกปืนหลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย จ.กำแพงเพชร

เป็นลูกปืนเอ็ม16ไม่มีหัว ก้น.42 ถักลวดทองแดงตามภาพเก่าถึงยุค

เลี่ยมมาแบบเก่าๆโบราณๆ แบบนี้เลยครับ ตัวจริงๆ รับประกัน

บูชา 8,000 บาท

“ตำนาน ลูกปืนด้าน ลานกระบือ" หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย กำแพงเพชร จัดว่าเป็นตะกรุดที่หายาก และ มีประสบการณ์มากมายเหลือเกิน ทางด้านปืนยิงไม่ออก .. มหาอุตเป็นที่สุด // สุดยอดตระกรุด แทบจะเป็นตำนานไปแล้วครับ ตะกรุดลูกปืน (ลูกด้าน) หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ตะกรุดลูกปืนนี้เป็นลูกด้าน (ผ่านการยิงมาแล้ว) ลงอักขระ อุดด้วยผงพุทธคุณตามตำรับหลวงพ่อเงิน บางคลาน

หลวงพ่อขำ วัดโพธิ์เตี้ย อ.ลานกระบือ จ.กำแพงเพชร ท่านเป็นพระเถระยุคเก่า ท่านมรณะภาพเมื่อปี ๒๔๘๒ และ เป็นศิษย์เอกท่านหนึ่งของหลวงพ่อเงิน วัดบางคลานครับ ท่านเป็นศิษย์ร่วมรุ่นกับหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง แต่ท่านได้มาอยู่ที่จ.กำแพงเพชรครับ /// ของท่านก็มีเหรียญรูปเหมือน , เหรียญหล่อ รวมทั้งสิงห์เนื้อดิน และที่หายากคือตะกรุด ลูกปืนด้าน และ เป็นเหมือนเครื่องรางในตำนาน!!! ไปแล้ว พุทธคุณพอ ๆ กับตะกรุดหลวพ่อพิธ ว่ากันว่าตะกรุดหลวงพ่อขำ หายาก!!! กว่าตะกรุดหลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง เสียอีก... สุดยอดตระกรุดลูกปืนด้านที่เก่าแก่ที่ร่ำลือกันเรื่องมหาอุดนั้นสุดๆ

ในอดีตคนในถิ่น ใกล้เคียง อ.ลานกระบือ และ อ.พรานกระต่าย จะทำมาค้าขายซื้อสินค้าต่าง ๆๆ ก็จะมาที่อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก ประมาณ36.2 กม.เท่านั้นเอง มากกว่าจะเดินทางไปใน ตัวจ.กำแพงฯประมาณ 69 กม. เชียวแหละ .. ในอดีต ชื่อเสียงเกียรติคุณของ หลวงพ่อขำ อินทปัญญา สมัยนั้นโด่งดังเอามาก ๆๆ เพราะท่านเป็นพระอุปัชฌาย์ จึงมีลูกศิษย์ลูกหามาให้ท่านบวชให้มากมาย และรวมทั้ง จ.ใกล้เคียง เมื่อลูกศิษย์ลูกหามากมายดั้งนั้น ก็ตามตำราละครับ มีทั้งดีไม่ดีบ้างปะปนกันไป

ลูกศิษย์บางคนจนกลายเป็นคนที่ประพฤติไม่ดีก็มีบ้าง อย่างกรณี เสือช้าง บึงกระดาน , ซึ่งเป็นหัวหน้าโจรสมัยก่อน ก็มี ตะกรุดโทน และลูกด้าน ของท่าน และอีกราย เสือขาว บ้านวังพาน อ.พรานกระต่าย นั้นก็มีตะกรุดโทน ของท่านติดตัวเป็นประจำ คนสมัยก่อนเค้าจะเชื่อมั่นตะกรุดมากกว่าพระเครื่อง (ความเชื่อส่วนบุคคล) และอีกราย เสือขาว เป็นคนประวัติทางด้านลบ อยู่มากเจ้าหน้าที่ต้องการตัวเป็นอย่างยิ่ง เวลาตำรวจประจันหน้ากับเสือขาว และกราดยิงไปที่เสือขาวครั้งใด เสือขาวก็รอดจากวงล้อมของตำรวจทุกครั้งไป จนกระทั้งเจ้าหน้าที่บ้านเมืองและคณะนายตำรวจ ต้องมานมัสการหลวงพ่อขำ โดยขอร้องหลวงพ่อไม่ไห้ทำวัตถุมงคลให้ใครอีก เพราะคนที่ได้ไปจะฮึกเหิม และจับกุมได้ยาก มีบางคนนำของท่านไปใช้ในทางไม่ดีผิดศีลธรรม เป็นโจรผู้ร้ายก็มาก …..... หลวงพ่อขำจึงได้สร้างเจดีย์ สององค์ไว้ที่หน้าพระอุโบสถ เพื่อเป็นการบรรจุพระเครื่อง และเครื่องรางต่างๆของท่านที่สร้างเอง และพระเครื่องที่นำมาจากที่อื่น พระสกุลกำแพงเพชรอีกมาก <พระเครื่องของท่านมีการเปิดกรุ ในสมัย หลวงพ่อโน เจ้าอาวาสวัดแก้วสุริยฉาย อ.ลานกระบือ (ศิษย์เอกหลวงพ่อขำ) ใน พศ.2512 หลังท่านเกิด เมื่อ ๒๔๐๗ -มรณะภาพ พศ.2482 ก็พูดง่ายประมาณ 30 ปี ของท่านมีสร้าง เหรียญรุ่นแรกประมาณ ปี 82 ลูกศิษย์ที่เมืองพิษณุโลกสร้างถวาย และประเภทเหรียญหล่อ พิมพ์ต่าง ๆๆ รวมทั้งพระเนื้อดิน อีกด้วย และเครื่องรางของท่านก็เป็นตะกรุดโทน เนื้อตะกั่ว และตะกรุดลูกด้าน หรือ พูดแบบเราๆๆ เข้าใจคือ ตะกรุดลูกปืน นั่นแหละ หลวงพ่อขำ ท่านสร้างจากลูกปืน พระราม 6 หรือปืนเสือป่า เป็นอาวุธปืนยาว ที่พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว นำเข้ามาประมาณ พศ. 2454 ต้องยิงมาแล้ว มีรอยสับ แต่ปืนไม่ลั่นหรือด้านเอง ถือเป็นมหาอุตในตัว นำมาลงอักขระ และปลุกเศกจนท่านพอใจ ถือว่าเป็นสุดยอดตระกรุดลูกปืนที่เก่าแก่และ ร่ำลือกันเรื่องมหาอุดมากที่สุด ….// ว่ากันว่า ท่านบวช วัดวังตะขบ จังหวัดพิจิตร แล้ว ท่านได้ตั้งใจศึกษาวิปัสสนากรรมฐานและคันถธุระ ตลอดจนวิชาอาคมต่างๆอย่างจริงจัง เพราะเป็นสิ่งที่ท่านโปรดปรานมาก เมื่อทราบว่าที่ใดมีพระอาจารย์ที่เรืองเวทย์ ท่านจะต้องเดินทางไปฝากตัวเป็นศิษย์ และที่จังหวัดพิจิตร ท่านได้พบกับหลวงพ่อเงิน บางคลาน เกจิอาจารย์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังของเมืองพิจิตรในขณะนั้น หลวงพ่อขำท่านก็ได้ฝากตัวเป็นศิษย์ และได้ร่วมเดินธุดงค์ไปกับหลวงพ่อเงิน ในเวลานั้นศิษย์ร่วมสำนักกับท่านที่มีชื่อเสียงโด่งดังได้แก่ หลวงพ่อพิธ วัดฆะมัง ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ มีชื่อเสียงโด่งดังมาก เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไป ว่ามีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ ส่วนตะกรุดของหลวงพ่อขำก็มีอิทธิฤทธิ์ไม่แพ้ตะกรุดของหลวงพ่อพิธ เพราะจำนวนการสร้างตะกรุดของหลวงพ่อขำมีจำนวนน้อยมาก....และหายาก

 

ปิดครับ

เหรียญจตุรพิธพรชัย หลวงพ่อแพ ปี2518
รับประกันแท้สากล

บูชา 4,000 บาท

 

แหวนเงิน หลวงพ่อทองมา วัดสว่างท่าสี

เนื้อเงินแท้ เป็นแหวนที่ทันท่านปลุกเสกแน่นอนตามมาตรฐานพระเครื่อง,เครื่องรางของท่าน ประมาณปี2522-2523 ก่อนนั้นเคยได้จากลุงคือที่แกใส่บูชา แต่วงนี้ไม่ได้ใส่เก็บใว้อย่างดี รับประกันแท้

สนใจทักครับ

 

ปิดแล้วครับ



"เหรียญลป.มหาเจิม"ประสบการณ์ไม่หยุด!
9ม.ม.ยิงเผาขนพลทหารเห็นแค่”รอยถลอก”

เหรียญรุ่นแรก “หลวงปู่มหาเจิม ปัญญาพโล” อดีตเกจิอาจารย์ดังวัดสระมงคล อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม ที่ละสังขารไปเพียง 2 ปี ก่อเกิดประสบการณ์ไม่หยุด ล่าสุด ช่วยคุ้มชีวิตพลทหารที่ถูกจ่อยิงเผาขนบริเวณท้องด้วยปืนขนาด 9 ม.ม. แต่กระสุนไม่เจาะทะลุผิวหนัง มีแค่รอยถลอกเท่านั้น เผยวัตถุมงคลรุ่นแรกรุ่นเดียวของท่านมีเสียงร่ำลือเรื่องพุทธคุณเด่นในด้านคงกระพันและเหนียวสุดๆ นักลองของผวาไม่กล้าเอาไปลองยิงเพราะกลัวมีอันเป็นไป

ทั้งนี้ จากการเปิดเผยของ ด.ต.สุธี เสรีเผ่าวงษ์ ผู้บังคับหมู่อำนวยการตำรวจภูธรภาค 7 (ผบ.หมู่ อ.ก.บก.7) หรือเจ้าของฉายา “ดาบธี ภาค7" ผู้ที่ชื่นชอบและสะสมวัตถุมงคลรุ่นใหม่ที่มีประสบการณ์ กล่าวว่า ในฐานะที่เป็นตำรวจได้ติดตามคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณของเหรียญหลวงปู่พระมหาเจิม มีผู้ต้องหาหลายราย โดยเฉพาะผู้ที่ก่อเหตุทะเลาะวิวาทสุดท้ายจบด้วยการใช้อาวุธปืนยิงกัน แต่เป็นเรื่องที่เหลือเชื่อเพราะผู้ต้องหาที่ถูกยิงหลายราย เสื้อมีรอยทะลุจากลูกกระสุนแต่ผิวหนังไม่เป็นไร ซึ่งมีเรื่องเล่าจากตำรวจในพื้นที่หลายสถานี

นอกจากนี้แล้ว ด้วยกิตติศัพท์คำร่ำลือดังกล่าว นักลองของจึงนำไปลองยิง ที่ยิงไม่ออกนั้นไม่เท่าไร แต่ผู้ที่ลองยิงส่วนใหญ่มีอันเป็นไป ต้องรีบจุดดอกไม้ธูปเทียนขอขมาหลวงปู่ จนทุกวันนี้นักลองของจะไม่กล้าลองยิงพระเครื่องหลวงปู่มหาเจิม

"ดาบธี"เผยต่อว่า เมื่อไม่นานมานี้ เหรียญหลวงปู่เจิมมีประสบการณ์อีกครั้ง โดยช่วยชีวิต พลทหารฉัตรชัย บุญช่วย ชาว อ.ดอนตูม จ.นครปฐม ให้รอดตายจากการถูกปืนขนาด 9 มม. จ่อยิงบริเวณท้อง เมื่อตนเองทราบเหตุได้เดินทางไปพบทันที และสิ่งแรกที่ทำคือ ขอดูพระว่ามีพระอะไรดี ปรากฏว่าพลทหารฉัตรชัยแขวนเหรียญรูปไข่ หลวงปู่มหาเจิม หันข้าง เพียงเหรียญเดียว จากการตรวจสภาพบาดแผลพบว่ามีเพียงแค่รอยถลอกเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวเชื่อว่าเป็นเพราะบารมีความศักดิ์สิทธิ์ของท่านช่วยคุ้มครอง
-----------------------ค่านิยมจาก ๙๙ บาท กลายเป็นหลักพัน-----------------------

เหรียญหลวงปู่มหาเจิม รุ่นปัญญาบารมี ได้ประกอบพิธีพุทธาภิเษก ณ อุโบสถวัดสระมงคล โดยหลวงปู่พระมหาเจิม เป็นประธานจุดเทียนชัยอธิษฐานจิตภาวนาร่วมกับพระเกจิคณาจารย์ดังสายกรรมฐานของวัดป่า อาทิ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ.เลย, หลวงปู่แผ้ว ปวโร วัดกำแพงแสน จ.นครปฐม หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน จ.บุรีรัมย์

หลวงปู่บุญเพ็ง กัปโป วัดป่าวิเวกธรรม จ.ขอนแก่น, หลวงปู่อ่อนสา สุขกาโร วัดประชาชุมพลพัฒนาราม จ.อุดรธานี, หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ วัดอรัญบรรพต จ.หนองคาย, หลวงพ่อมาลัย อุทโย วัดบางหญ้าแพรก, หลวงพ่อสุพจน์ ฐิตพฺพโต วัดห้วงพัฒนา จ.ตราด และหลวงปู่บุญหลาย อัคคจิตโต วัดโนนทรายทอง จ.อำนาจเจริญ เป็นต้น

ด้วยเหตุที่เป็นเหรียญรุ่นแรกและรุ่นเดียวในปีที่ออกนั้นกรรมการวัดได้ตั้งราคาวัตถุมงคลทุกรายการไว้เพียง ๙๙ บาทเท่านั้น เพื่อให้ลูกศิษย์ได้เช่าหากันอย่างทั่วถึง แต่ปัจจุบันด้วยคำร่ำลือเรื่องพุทธคุณและประสบการณ์ด้านมหาอุด และแคล้วคลาด

หลังจากท่านละสังขารรวมทั้งวัตถุมงคลได้หมดจากวัดสระมงคล ทำให้วัตถุมงคลราคาสูงขึ้นทุกรายการ

 

"พญาเต่าเรือน หล่อโบราณ" หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา...

องค์นี้ เนื้อชินตะกั่วเก่าถึงยุค รอยจารด้านหลังที่เขียนว่า อิ่ม นั้น เป็นรอยจารเก่าจริง ไม่ใช่การขีดเขียนขึ้นใหม่

อิทธิวัตถุมงคลของ "หลวงพ่ออิ่ม" วัดหัวเขา จ.สุพรรณบุรี มีแพร่หลายไปในวงกว้าง พระของท่านคงจะสร้างไว้น้อย ที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง คือ พระหล่อโบราณ ในวงการนักนิยมพระเครื่องรางของขลังถือว่าใครมีวัตถุมงคลหลวงพ่ออิ่มนับได้ว่าเป็นผู้มีวาสนา ก็มีอยู่หลายพิมพ์ด้วยกัน ได้แก่ เหรียญหล่อใบเสมา ที่คุ้นหูคุ้นตาอย่างน้อย ๓ แบบ แตกต่างกันที่รายละเอียด
นอกจากนี้ยังมีนางกวัก ๒ พิมพ์ หล่อแบบโบราณ อีกพิมพ์หนึ่งเป็นพิมพ์พระพุทธรูปหล่อโบราณแบบลอยองค์ก็มี พระปิดตา แบบมหาอุด หมายถึง ปิดตาและปิดทวาร พิมพ์นางกวัก มีสร้างไว้หลายแบบ พญาเต่าเรือน นอกจากนี้ก็ยังมี แหวนพิรอด หัวพระปิดตา หัวพระพุทธ มี ๒ แบบ ทั้งหมดสร้างด้วยเนื้อโลหะแบบหล่อโบราณ
พระเครื่อง เนื้อโลหะ รวมทั้งเครื่องรางของขลัง อันเป็นวัตถุมงคลของหลวงพ่ออิ่ม เชื่อกันในหมู่นักเลงพระว่าประสบการณ์ยอดเยี่ยม เหรียญหล่อโบราณใบเสมาเชื่อถือกันว่ามีคุณวิเศษในด้านบันดาลความมั่งมีศรีสุข ไปมาค้าขายดีมาก
ถ้าใครมีเหรียญใบเสมา หล่อโบราณ พิมพ์นางกวัก กับนางกวัก รูปหล่อลอยองค์ไว้บูชา ไม่มีผิดหวัง แต่ถ้าได้เหรียญหล่อโบราณ พิมพ์พระพุทธ กับพระปิดตามหาอุดลอยองค์
วัตถุประสงค์ที่หลวงพ่ออิ่มสร้างไว้ ในแง่อยู่ยงคงกระพัน แมลงวันไม่มีได้กินเลือด กล่าวขวัญกันอย่างนี้มานาน ตั้งแต่เมื่อครั้งเหล่าทหารเข้าร่วมรบเมื่อปี ๒๔๘๕
ส่วนแหวนพิรอดก็เช่นกัน แบบหัวพระปิดตา ใช้ในทางแคล้วคลาด และคงกระพันชาตรี แต่หัวพระพุทธนั้นมีประสบการณ์ด้านเมตตาบารมี เสน่ห์ของวัตถุมงคล เนื้อทองเหลือง ทุกแบบของหลวงพ่ออิ่ม อยู่ที่ความเข้มขลัง ประกอบกับการหล่อแบบโบราณ ทำให้เนื้อโลหะขรุขระเหมือนของเก่า ยิ่งดูยิ่งเข้าตา บางท่านถือว่าเป็นการหล่อที่ต้องตำรับการสร้างอย่างพราหมณาจารย์โบราณ ที่จะต้องมีพิธีปลุกเสกตามหลักอาถรรพเวท จากคัมภีร์พราหมณ์ เมื่อผ่านการปลุกเสกแล้ว เทพยดาและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายจะได้มาสถิตประสิทธิ์ผลแก่ผู้บูชาในอิทธิวัตถุดังกล่าว การสร้างพระเครื่องรางและวัตถุมงคล ด้วยเนื้อโลหะ เป็นที่นิยมในเหล่าพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยหลายท่าน ซึ่งต่างก็มีชื่อเสียงโด่งดัง เช่น หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จ.ชัยนาท หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่ แต่ของ หลวงพ่ออิ่ม วัดหัวเขา แม้ว่าวัตถุมงคลเนื้อทองเหลืองของท่าน จะสร้างไว้น้อยกว่าพระเกจิอาจารย์ท่านอื่นๆ แต่กิตติศัพท์ในคุณวิเศษหาได้ยิ่งหย่อนเลยแม้แต่น้อย

 

จองพระผงลป.ดู่และพระผงเจ้าคุณนรฯ

 

รับทราบ ขอบคุณท่านมากครับ

 

จองครับผม

 

ขอบคุณมากครับ

 

โอนแล้วครับ ที่จัดส่งแจ้งทางข้อความส่วนตัวแล้วครับผม

 

พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต)
วัดพระบรมธาตุ ตำบลนครชุม อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร

พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ได้ชื่อว่าเป็นพระที่เน้นหลักคุณธรรม คือ ความเมตตาและความเสียสละ ละความโลภในลาภสักการะได้สิ้นเชิง กล่าวกันว่า ท่านเดินทางไปที่แห่งใดไม่เคยพกเงินติดตัวไปเลย ด้วยมีแต่ผู้คนเอามาถวายท่าน แต่ท่านก็ไม่เคยเก็บสะสมเงินทองที่ได้มานั้นไปใช้เป็นการส่วนตัว มีแต่นำไปพัฒนาบูรณะวัดให้มีความเรียบร้อยสวยงามเป็นที่น่าเลื่อมใสของผู้มาทำบุญที่วัด
เมื่อวันที่ท่านมรณภาพนั้น บังเกิดเหตุการณ์ที่แปลกมหัศจรรย์ กล่าวคือ บรรดาฝูงนกยูงที่พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ได้เลี้ยงไว้ต่างส่งเสียงร้องอยู่ตลอดเวลา เสมือนกับอาลัยอาวรณ์ต่อการจากไปของท่าน
พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ยังได้ชื่อเป็นหนึ่งในพระเกจิอาจารย์ยุคสงครามอินโดจีน ที่ได้ทำเสื้อยันต์แดงแจกจ่ายทหารที่ไปร่วมรบในครั้งนั้น อีกทั้งยังได้รับอาราธนาขึ้นเครื่องบินไปโปรยทรายเสกให้ประชาชนรอดพ้นจากภัยสงครามด้วย
แต่สำหรับปูมหลังของพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ที่เป็นที่รับทราบกันโดยทั่วไปนั้นอาจจะมีความคลาดเคลื่อนไปจากข้อเท็จจริงได้ ด้วยเมื่อมีการสืบค้นข้อมูลจากบางด้านกลับมีความแตกต่างจากกัน โดยหลักฐานที่สืบค้นมีความน่าเชื่อถืออยู่ไม่น้อย ดังจะกล่าวถึงในภายหลัง
อย่างไรก็ตามปูมหลังของพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ที่เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไป เพราะพบเห็นข้อเขียนดังกล่าวเมื่อกล่าวถึงปูมหลังของท่าน นั่นคือ
“อัตโนประวัติพระวิเชียรโมลี มีนามเดิมว่า ปลั่ง ส่วนนามสกุลนั้นยังสืบไม่ได้แน่ชัด ท่านเป็นชาวกำแพงเพชรโดยกำเนิด เกิดที่บ้านตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร (ในปัจจุบันตำบลลานดอกไม้ขึ้นอยู่กับอำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร) ในปี พ.ศ. ๒๔๑๗ โยมบิดาชื่อ นายพุ่ม โยมมารดาชื่อ นางน้อย ครอบครัวประกอบอาชีพกสิกรรม ท่านเป็นบุตรคนที่ ๒ ในจำนวนบุตร ๕ คนของบิดามารดา
ได้รับการศึกษาเบื้องต้นจนสามารถอ่านออกเขียนได้ที่วัดพระบรมธาตุ เมื่ออายุครบอุปสมบทแล้วท่านได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ ณ พัทธสีมาวัดคูยาง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีพระครูธรรมาธิมุตมุนี (กลึง) วัดคูยาง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระปลัดจอก วัดเสด็จ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระครูชื่น วัดทุ่งสวน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า พฺรหฺมโชโต’
ภายหลังจากอุปสมบทท่านได้เดินทางไปศึกษาหาความรู้ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ระยะหยึ่ง แล้วกลับมาอยู่ที่จังหวัดตาก และได้สร้างวัดขึ้นวัดหนึ่งที่อำเภอสามเงา จังหวัดตาก
ต่อมาท่านได้กลับมาอยู่ที่จังหวัดกำแพงเพชรแดนมาตุภูมิอีกครั้ง โดยจำพรรษาที่วัดราษฎร์เจริญพร ตำบลหนองปลิง ก่อนย้ายไปอยู่ที่วัดอมฤต ตำบลลานดอกไม้ตก จากนั้นกลับไปอยู่ที่วัดคูยางอีกครั้ง ก่อนที่จะได้รับอาราธนาให้ครองวัดพระบรมธาตุเป็นลำดับ”

แต่ปูมหลังของพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ในช่วงข้างต้นนี้ มีความแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับปูมหลังของพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ใน ‘ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ’
โดยข้อมูลประวัติในทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ มีนายชลทัต สุขสำราญ เป็นผู้ให้ข้อมูล พระเมธีวชิรภูษิต เป็นผู้บันทึก ที่มาของข้อมูลได้จากการสืบค้นข้อมูลจากหอสมุดมหามกุฎราชวิทยาลัย หอสมุดดำรงราชานุภาพ และจากการสัมภาษณ์ลูกหลานพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ซึ่งผู้ให้ข้อมูลคือ นายเผียน ทองหล่อ เป็นหลานย่าของนางป่วน ทองหล่อ และจากนายแป้น พุ่มน้อย หลานปู่ของนายยิ้ม พุ่มน้อย
นางป่วน ทองหล่อ คือพี่สาวพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ส่วนนายยิ้ม พุ่มน้อย เป็นน้องชายพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) จึงกล่าวได้ว่าปูมหลังนี้มีความน่าเชื่อถือเป็นอย่างยิ่ง โดยได้กล่าวถึงปูมหลังประวัติพระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) ไว้ว่า
“พระวิเชียรโมลี เกิดเมื่อ พ.ศ. ๒๔๑๖ ที่อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อพยพมาอยู่ที่อำเภอสามเงา (จังหวัดตาก) ในช่วงสงครามปราบฮ่อ (ในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีการศึกในการปราบปรามฮ่อถึง ๓ ครั้ง คือ ในปี พ.ศ. ๒๔๑๘, ๒๔๒๖ และ พ.ศ.๒๔๒๘)
โยมบิดาชื่อ พุ่ม โยมมารดาชื่อ น้อย นามสกุล พุ่มน้อย (มาขอตั้งใหม่ในชั้นหลัง โดยใช้ชื่อบิดามารดารวมกันเป็นนามสกุล) มีพี่น้อง ๔ คน คือ
๑. นางป่วน ทองหล่อ
๒. นายเปลี่ยน พุ่มน้อย
๓. พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต)
๔. นายยิ้ม พุ่มน้อย
ในขณะที่อพยพมาอยู่สามเงานั้น หลวงพ่อบรรพชาเป็นสามเณรมาแล้วแต่ไม่ทราบว่าผู้ใดเป็นพระอุปัชฌาย์ และบรรพชามาจากวัดใด
ตระกูลนี้หลังจากที่ย้ายที่อยู่จากสามเงาได้อพยพครอบครัวมาจับจองที่ดินที่ทำกินบริเวณเหนือวัดอรัญสถิตย์ บ้านเกาะพิมูล นางป่วนอยู่ ณ ตำแหน่งเดิมที่จับจองที่ดิน ส่วนนายเปลี่ยนและนายยิ้ม ย้ายลงมาอยู่บริเวณบ้านลานดอกไม้
(วัดอรัญสถิตย์ บ้านเกาะพิมูล อยู่ในตำบลอรัญสถิตย์ อำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร บ้านลานดอกไม้ อยู่ในท้องที่ตำบลลานดอกไม้ อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร แต่ตำบลลานดอกไม้ตกอยู่ในอำเภอโกสัมพีนคร จังหวัดกำแพงเพชร)
พ.ศ. ๒๔๓๘ อายุได้ ๒๒ ปี ได้เข้าพิธีอุปสมบท ณ พัทธสีมาวัดคูยาง ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดกำแพงเพชร โดยมีพระครูธรรมาธิมุตมุนี (กลึง) วัดคูยาง เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูชื่น วัดทุ่งสวน (ปัจจุบันเป็นวัดร้าง คือโรงเรียนเทศบาล ๒ วัดทุ่งสวน) เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระปลัดจอก วัดเสด็จ เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับสมณฉายาว่า พฺรหฺมโชโต
การปกครองคณะสงฆ์
พ.ศ. ๒๔…เป็นเจ้าอาวาสวัดราษฎร์เจริญพระ จังหวัดกำแพงเพชร
พ.ศ. ๒๔…เป็นเจ้าอาวาสวัดอมฤต จังหวัดกำแพงเพชร
พ.ศ. ๒๔๖๘ เป็นเจ้าอาวาสวัดคูยาง จังหวัดกำแพงเพชร
พ.ศ. ๒๔๖๙ เป็นเจ้าคณะแขวงเมืองกำแพงเพชร
พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นเจ้าอาวาสวัดพระบรมธาตุ จังหวัดกำแพงเพชร
พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นเจ้าคณะจังหวัดกำแพงเพชร
ลำดับสมณศักดิ์
พ.ศ….เป็นพระครูปลั่ง (พระครูประทวนสมณศักดิ์)
พ.ศ. ๒๔๖๙ เป็นพระครูสัญญาบัตรที่ พระครูเมธีคณานุรักษ์
พ.ศ. ๒๔๗๒ เป็นพระครูสัญญาบัตรเจ้าคณะจังหวัดที่ พระครูวิเชียรโมลี ศรีบรมธาตุนุรักษ์ วชิรสังฆวาหะ
พ.ศ. ๒๔๘๔ เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระวิเชียรโมลี ศรีวชิรปราการ คณาภิรักษ์ สังฆปาโมกข์
พระวิเชียรโมลี (ปลั่ง พฺรหฺมโชโต) มรณภาพเมื่อ พ.ศ. ๒๔๘๘ สิริรวมอายุได้ ๗๒ ปี พรรษา ๕๐”
จากนี้จะพบเห็นความแตกต่างของข้อมูลของทั้งสองเป็นอย่างมาก แต่ดูเหมือนข้อมูลจาก ‘ทำเนียบอดีตพระราชาคณะภาคเหนือ’ มีความเชื่อถือมากกว่า

 

ปิดแล้วครับ

เหรียญหลวงพ่อกวย หลังสิงห์ ออกวัดหัวเด่น ปี 2540

หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ และ หลวงปู่ปรง วัดธรรมเจดีย์ ปลุกเสก
รายละเอียด ประวัติว่า ท่านอ.สมานเจ้าอาวาส วัดหัวเด่นเป็นช่างที่ก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆของวัดโฆษิตารามให้หลวงพ่อกวย
หลังจากนั้นจึงบวชที่วัดหัวเด่นที่อยู่ใกล้กัน จนได้เป็นเจ้าอาวาส
เมื่อทำวัตถุมงคลใดก็จะนึกถึงหลวงพ่อกวย
เพราะท่านนับถือหลวงพ่อมาก
องค์นี้จัดสร้างในปี40 โดยหลวงพ่อเชิญหลวงปู่ปรงและหลวงปู่เย็นร่วมปลุกเสก
พระแยกจากชุดกรรมการ แจกในคราวฉลองวิหารแก้วสารพัดนึกเมื่อปี2541 รับประกันแท้ พร้อมกรอบบูชา

บูชา 900 บาท

 

ชานหมากหลวงปู่ขุ้ย วัดซับตะเคียน

ได้มาพร้อมรูปถ่ายท่านแบบนี้เลยครับ รับประกันแท้

บูชา 700 บาท

 

ปิดครับ



รูปปั๊มเหมือนครูบาอริยชาติ เนื้อเงินแท้ ปี2552

หมายเลข 100 เช่าจากวัด 3,*** กว่าบาท รุ่นนี้เนื้อเงินสร้างหลักร้อย เช่าเสร็จขอให้ท่านจารให้ทั้งหลังและใต้ฐาน พร้อมใส่กรอบเงินแท้แกะลายชุบทองคำ รับประกันแท้สากล น่าเก็บมากๆครับ กล่องเดิมยังอยู่
ในเวบอื่นให้บูชาพร้อมกล่องเดิม 12,000 บาท

บูชา 8,500 บาท

 

จองครับ