ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ใหญ่สุดในจีน! ส่อง ‘ซากโรงต้มเหล้าโบราณ’ สมัยราชวงศ์หมิง-ชิง เก่าแก่หลายร้อยปี
    .
    การดื่มสุราเป็นที่นิยมอย่างมากในจีนยุคโบราณ ในอดีตเหล่าบัณฑิตจีนส่วนใหญ่เชื่อว่าความงดงามของช่วงเวลาแห่งการเขียนและท่องจำบทกวี ย่อมต้องมาพร้อมกับการดื่มด่ำสุราชั้นดี วันนี้เราจะพาคุณผู้อ่านย้อนรอยไปติดตามการค้นพบ “ซากโรงกลั่นสุราโบราณ” ซึ่งสันนิษฐานว่ามีขนาดใหญ่สุดเท่าที่เคยค้นพบในจีนกันค่ะ
    .
    รายงานระบุว่าโรงกลั่นสุราแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยราชวงศ์หมิง (ค.ศ. 1368-1644) จนถึงราชวงศ์ชิง (ค.ศ. 1644-1911) ถูกค้นพบโดยบังเอิญโดยกลุ่มคนงานก่อสร้างในอำเภอซุยซี มณฑลอันฮุยทางจีนตะวันออก และมีขนาดครอบคลุมพื้นที่ราว 18,000 ตารางเมตร สามารถผลิตสุราในระดับอุตสาหกรรมได้เลยทีเดียว
    .
    เฉินฉาว นักวิจัยประจำสถาบันมรดกและโบราณคดีมณฑลอันฮุย เปิดเผยการค้นพบ “เตากลั่น 3 เตา และถังหมักมากกว่า 30 ใบ" บริเวณซากโรงกลั่น แต่จนถึงขณะนี้คณะนักโบราณคดีขุดสำรวจพื้นที่ไปเพียง 3,000 ตารางเมตร จากทั้งหมด 18,000 ตารางเมตร ทำให้อาจมีวัตถุโบราณอีกมากมายที่รอคอยการค้นพบ
    .
    นอกจากนั้น คณะนักโบราณคดียังขุดพบภาชนะเครื่องดื่ม ขวด และแม้แต่กล้องบุหรี่ โดยสิ่งประดิษฐ์ที่พบในโรงกลั่นบ่งชี้ว่าโบราณสถานแห่งนี้เคยเปิดดำเนินการเป็นเวลานานหลายศตวรรษ
    .
    ซากดังกล่าวนับเป็นโรงกลั่นสุราโบราณแห่งที่ 4 แล้วที่คณะนักโบราณคดีจีนขุดพบ ก่อนหน้านี้มีการค้นพบโรงกลั่นโบราณสองแห่งทางตะวันตกเฉียงใต้ของจีน และอีกหนึ่งแห่งในมณฑลเจียงซีทางตะวันออก โดยโรงกลั่นเหล่านี้ล้วนตั้งอยู่ในพื้นที่ทางภูมิศาสตร์ขนาดใหญ่ สะท้อนถึงความสลักสำคัญของโรงกลั่นสุราในจีนยุคโบราณได้เป็นอย่างดี
    .
    #โรงกลั่นสุรา #จีน #วัฒนธรรม #ประวัติศาสตร์
    .
    ที่มา : https://www.ancient-origins.net/news-history-archaeology/chinese-distillery-0012563
    .
    ติดตามข่าวเด่นประเด็นร้อนแดนมังกร : https://www.jeenthainews.com/

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สลด! ทารก 1 เดือนในหูหนานขาดอากาศตาย เพราะใส่ห่วงคอว่ายน้ำ
    .
    เมื่อวานนี้ (3 พ.ย.) เกิดเหตุน่าเศร้าที่มณฑลหูหนานของจีน ทารกน้อยเถียนเถียน (นามสมมติ) ที่เพิ่งอายุครบ 1 เดือน เสียชีวิตเนื่องจากใส่ห่วงคอสำหรับช่วยว่ายน้ำนานเกินไป
    .
    วันที่เกิดเหตุนั้น แม่กับยายของเถียนเถียนใส่ห่วงยางสวมคอเด็กและปล่อยให้เด็กว่ายน้ำอยู่นานสิบกว่านาทีโดยไม่ได้เฝ้าตลอด หลังจากนั้นจึงค่อยมาอุ้มเด็กขึ้นจากน้ำ
    .
    พอเอาห่วงยางออก แม่กับยายก็เห็นรอยรัดที่คอเด็ก แต่เด็กดูนิ่งเป็นพิเศษ ไม่ร้องงอแงเหมือนทุกที ก็เข้าใจไปว่าเด็กหลับ จนกระทั่งพ่อเด็กกลับมาถึงบ้านจะเล่นกับลูก ก็สังเกตเห็นว่าหน้าลูกซีดขาวและไม่ขยับแล้ว จึงรีบพาส่งโรงพยาบาล
    .
    แต่อนิจจาว่ากว่าจะถึงมือหมอก็ไม่ทันเสียแล้ว แพทย์วินิจฉัยว่าเด็กขาดออกซิเจนนานเกินไปจนเกิดภาวะสมองตาย อีกทั้งยังถูกส่งมาโรงพยาบาลช้า จึงเป็นเหตุให้เกิดเรื่องน่าสลดดังกล่าวขึ้น พร้อมกับย้ำเตือนบรรดาผู้ปกครองทั้งหลายว่าอย่าให้เด็กทารกใส่ห่วงยางสวมคอว่ายน้ำเป็นอันขาด และห้ามปล่อยให้เด็กเล็กว่ายน้ำตามลำพังนานเกินไป เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์น่าเศร้าเช่นนี้
    .
    #เลี้ยงเด็ก #ว่ายน้ำ #ห่วงยาง
    .
    ที่มา : https://www.thepaper.cn/newsDetail_forward_9838080
    .
    ติดตามข่าวเด่นประเด็นร้อนแดนมังกร : https://www.jeenthainews.com/

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปักกิ่งรับประกันความสามารถตรวจวัดกรดนิวคลิอิกหาเชื้อโรคได้วันละ 1.5 ล้านครั้ง
    .
    เมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา กรุงปักกิ่งได้ตีพิมพ์และเผยแพร่ แผนดำเนินการสร้างความสามารถในการตรวจวัดกรดนิวคลิอิกสำหรับโควิด-19 ของกรุงปักกิ่งเพื่อการดำเนินงานและความก้าวหน้าระดับชาติ เพื่อให้มั่นใจว่าโรงพยาบาลทั่วไป โรงพยาบาลเฉพาะทางด้านโรคติดเชื้อ และหน่วยงานควบคุมโรคประจำเขตเมืองของเมืองระดับ 2 ขึ้นไปจะมีความสามารถในการตรวจวัดกรดนิวคลิอิกและพึ่งพาความสามารถในการตรวจวัดของตนเองได้ทั้งหมด โดยไม่ต้องส่งตัวอย่างไปตรวจวัดที่อื่น
    .
    แผนงานดังกล่าวระบุว่า ปักกิ่งมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวม 96 แห่ง ก่อนปลายเดือนก.ย. มีความสามารถตรวจวัดกรดนิวคลิอิกโดยพื้นฐานแล้ว แต่ยังมีหน่วยงานส่วนหนึ่งที่ยังมีความสามารถในการตรวจวัดไม่ถึงเป้าหมายที่พึ่งพาตนเองได้ทั้งหมด ซึ่งก่อนถึงปลายเดือนต.ค. นี้จะทำให้เสร็จสิ้นทั้งหมด ทั้งนี้ ข้อกำหนดในการปฏิบัติงานโดยพื้นฐานเป็นการรับประกันว่าจะสามารถตรวจกรดนิวคลิอิกหาเชื้อโรคได้วันละ 1.5 ล้านครั้ง อีกทั้งยังรับรองว่าจะสามารถตรวจวัดได้เสร็จสิ้น 10 ล้านครั้งภายใน 5-7 วัน
    .
    ภาพจาก https://www.jfdaily.com/news/detail?id=237930
    .
    #ปักกิ่ง #Covid19 #โควิด19 #ไวรัสโคโรนา #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    งานสัมมนาวิชาการจะไม่น่าเบื่ออีกต่อไป!!!!
    .
    เป็นข่าวฮือฮาไปทั่วสังคมจีน เพราะเมื่อเร็ว ๆ นี้ ที่ประเทศจีนมีการจัดสัมมนาวิชาการนานาชาติว่าด้วยเรื่อง "ปัญญาประดิษฐ์ หรือ เอไอ" ซึ่งแต่เดิมกำหนดจัดขึ้นในกรุงปักกิ่งประเทศจีน
    .
    อย่างไรก็ตามด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด19 ที่ยังคงมีความไม่แน่นอน ส่งผลให้งานดังกล่าวไม่สามารถจัดขึ้นได้ผ่านรูปแบบการประชุมปกติ
    .
    ข้อจำกัดดังกล่าวจึงกลายเป็นที่มาของไอเดียสุดเจ๋งในการจัดสัมมนาวิชาการนานาชาติออนไลน์ รูปแบบใหม่ที่แหวกแนวที่สุดในโลก เพราะพวกเขาไม่สัมมนากันผ่านโปรแกรมประชุมออนไลน์ แต่เลือกที่จะใช้เกมส์ออนไลน์ในการจัดสัมมนา
    .
    โดยเกมที่ถูกเลือกมาใช้ในครั้งนี้คือเกม "Justice" ของ ค่าย NetEase game ซึ่งเป็นเกมแนว MMORPG ที่เราสามารถสร้างตัวละครแล้วก็เกมเลเวลเพื่อไต่ระดับไปได้
    .
    ทั้งนี้งานสัมมนาภายในเกมนี้มีนักวิชาการ อาจารย์มหาวิทยาลัย และนักวิจัยด้านปัญญาประดิษฐ์จากทั่วโลกเข้าร่วมกว่า 300 คน นี่จึงกลายเป็นการสัมมนาเสมือนในเกมครั้งแรกของโลก
    .
    โดยมีการปรับตัวเกมให้แสดงผลสไลด์การนำเสนอของนักวิชาการแต่ละคนที่ต้องบรรยายเกี่ยวกับหัวข้อและงานวิจัยประเภทต่าง ๆ ที่ผู้เล่นสามารถนั่งฟังและกดเข้าไปดูหัวข้อและสไลด์การนำเสนอได้ตลอดเวลา
    .
    ที่น่าสนใจไปกว่านั้นคือ เวลาเราเบื่อขึ้นมาก็สามารถออกไปตีมอนส์เตอร์เพื่อเก็บเลเวลไปพราง ๆ ก่อนได้ เพื่อรอเวลาระหว่างที่จะนำเสนอ หรือรอเวลาฟังหัวข้อวิจัยที่เราสนใจ
    .
    บอกได้เลยว่างานสัมมนาวิชาการบนเกมรอบนี้ทำเอาเรื่องเครียด ๆ กลายเป็นเรื่องสนุกไปด้วยในตัวเลยทีเดียว
    .
    #พูดทั้งโลก #สัมมนาวิชาการ #เกมออนไลน์ #AI #Justice #ปัญญาประดิษฐ์ #จีน

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักลงทุนช็อก!จีนขวางIPO‘แอนต์’นาทีสุดท้าย ลือปักกิ่งกังวลอิทธิพลฟินเทค‘แจ็ก หม่า’ และมุ่งป้องกันปัญหาหนี้เสีย-คุ้มครองรายย่อย

    นักลงทุนช็อก ปักกิ่งประกาศระงับการทำไอพีโอครั้งประวัติศาสตร์ของแอนต์ กรุ๊ปในนาทีสุดท้าย ทุบราคาหุ้นอาลีบาบาร่วงเกือบ 10% นักวิเคราะห์ชี้การตัดสินใจนี้สะท้อนความไม่สบายใจของผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์จีนที่มีต่ออิทธิพลมหาศาลของแอนต์ ซึ่งอยู่ในเครืออาลีบาบา ของ แจ็ก หม่า รวมทั้งเพื่อป้องกันปัญหาหนี้เสีย และปกป้องนักลงทุนรายย่อย

    ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้ประกาศระงับแผนการของแอนต์ กรุ๊ป บริษัทฟินเทคยักษ์ใหญ่ของจีน ในการนำหุ้นออกขายต่อสาธารณชนครั้งแรก (ไอพีโอ) เมื่อคืนวันอังคาร (3) หรือไม่ถึง 48 ชั่วโมง ก่อนกำหนดหุ้นตัวนี้เริ่มซื้อขายในตลาด และหนึ่งวันหลังจากที่แจ็ก หม่า ผู้ก่อตั้งอาลีบาบา กรุ๊ป ที่ถือหุ้นแอนต์อยู่ 1 ใน 3 ถูกผู้คุมกฎด้านการเงินเรียกเข้าพบและแจ้งว่า ธุรกิจสินเชื่อออนไลน์ของแอนต์จะถูกตรวจสอบเข้มงวดขึ้น

    ตลาดหุ้นฮ่องกงประกาศในเวลาต่อมาว่า จะระงับแผนการระดมทุนของแอนต์เช่นเดียวกัน โดยการทำไอพีโอครั้งนี้ สามารถระดมเงินทุนได้จากการเข้าทั้ง 2 ตลาดพร้อมกันครั้งนี้ เป็นมูลค่าสูงที่สุดในโลก นั่นคือถึง 37,000 ล้านดอลลาร์ ทิ้งห่างแชมป์โลกไอพีโอรายเก่าคือรัฐวิสาหกิจน้ำมัน ซาอุดี อารัมโค ซึ่งระดมทุนได้ 29,000 ล้านดอลลาร์ในเดือนธันวาคมปีที่แล้ว

    ตลาดหุ้นเซี่ยงไฮ้กล่าวถึงการนัดคุยกับหม่าว่า เป็นเหตุการณ์สำคัญซึ่งเมื่อประกอบกับสภาพแวดล้อมการกำกับดูแลที่เข้มงวดขึ้น อาจทำให้แอนต์ขาดคุณสมบัติในการเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้น

    การตัดสินใจที่สร้างความประหลาดใจของผู้คุมกฎจีนครั้งนี้มีขึ้นหลังจากหม่าแสดงความคิดเห็นในงานประชุมที่เซี่ยงไฮ้เมื่อปลายเดือนที่แล้วว่า การควบคุมอย่างเข้มงวดของผู้คุมกฎไม่คำนึงถึงความต้องการของผู้บริโภค ทั้งยังขัดขวางการสร้างสรรค์นวัตกรรมฟินเทค เรื่องนี้ถูกหลายฝ่ายมองว่า เป็นฟางเส้นสุดท้ายสำหรับปักกิ่ง

    นักวิเคราะห์ตีความความเคลื่อนไหวเหล่านี้ว่า เป็นการส่งสัญญาณจากเหล่าผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ว่า ไม่สบายใจกับอิทธิพลมหาศาลของแอนต์ที่แม้ช่วยกระตุ้นการปฏิวัติการระดมทุนสำหรับธุรกิจและรายย่อยในจีน แต่ก็บ่อนทำลายอำนาจของสถาบันการเงินของรัฐ รวมทั้งยังเป็นการตอบโต้หม่าที่ต้องการให้ทางการปฏิบัติต่อแอนต์ในฐานะบริษัทเทคโนโลยีแทนที่จะเป็นสถาบันการเงินที่ถูกควบคุมเข้มงวด

    การระงับแผนการทำไอพีโอทำให้หุ้นอาลีบาบาร่วงลง 9% หรือเกือบ 76,000 ล้านดอลลาร์ในตลาดนิวยอร์กวันอังคาร ขณะที่ในการเทรดที่ตลาดฮ่องกงวันพุธ อาลีบาบาเปิดตลาดหล่นฮวบลงลึกสุดถึง 9.3% ก่อนกระเตื้องขึ้นบ้าง และปิดตลาดที่ลดลง 7.5%

    นักวิเคราะห์ระบุว่า ด้วยรูปแบบธุรกิจที่ไม่เหมือนใครและไม่มีคู่แข่งในจีน แอนต์ประสบความสำเร็จในฐานะแพลตฟอร์มเทคโนโลยีที่ไม่ต้องอยู่ภายใต้กฎระเบียบของภาคการธนาคาร แม้นำเสนอผลิตภัณฑ์การเงินมากมายหลากหลายก็ตาม

    ทว่า ปักกิ่งไม่พอใจมากขึ้นที่แบงก์ต่างๆ ใช้ผู้ปล่อยกู้รายย่อยหรือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีบุคคลที่สาม เช่น แอนต์ เป็นผู้รับประกันเงินกู้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของหนี้เสียและสินทรัพย์ด้อยคุณภาพขณะที่เศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญผลกระทบจากวิกฤตโรคระบาด

    การยกระดับกฎระเบียบเข้มงวดขึ้นพุ่งเป้าที่ธุรกิจสินเชื่อผู้บริโภคที่เติบโตอย่างรวดเร็วและเป็นแหล่งรายได้สำคัญของแอนต์ ซึ่งใช้วิธีกระตุ้นความต้องการของผู้บริโภคและธุรกิจขนาดเล็กและส่งต่อความต้องการสินเชื่อไปให้แบงก์ราว 100 แห่งรับประกันเงินกู้ และชักส่วนแบ่งค่าธรรมเนียมจากผู้ปล่อยกู้ซึ่งทำให้งบดุลของบริษัทมีความเสี่ยงน้อยมาก

    ภายใต้กฎใหม่ที่ธนาคารกลางและผู้คุมกฎการธนาคารจีนเผยแพร่เมื่อวันจันทร์ (2) ผู้ปล่อยกู้ออนไลน์รายย่อยต้องกันเงินทุนอย่างน้อย 30% ของเงินกู้ที่ร่วมปล่อยกับแบงก์อื่นๆ ซึ่งบริษัทฟินเทคจีนหลายแห่งเชื่อว่า กฎนี้ร่างขึ้นมาสำหรับแอนต์โดยเฉพาะ นายธนาคารคนหนึ่งในฮ่องกงยังบอกว่า แอนต์อาจต้องแตกธุรกิจและแยกบริการชำระเงิน สินเชื่อรายย่อย และการบริหารความมั่งคั่งออกจากกัน

    ทั้งนี้ แอนต์เตรียมเข้าเทรดในตลาดหุ้นฮ่องกงและเซี่ยงไฮ้ในวันพฤหัสฯ (5) หลังจากเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งระดมทุนได้ราว 37,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งถือเป็นสถิติใหม่ในการทำไอพีโอที่ดึงดูดบริษัทลงทุนชั้นนำจากทั่วโลก รวมถึงนักลงทุนรายย่อยมากมายในจีนและฮ่องกง โดยในส่วนนักลงทุนฮ่องกงนั้นกู้ยืมเงินจำนวนมากจากแบงก์มาซื้อหุ้นแอนต์

    หนังสือพิมพ์อิโคโนมิก เดลี่ของทางการจีนแสดงความเห็นว่า การระงับการทำไอพีโอสะท้อนการตัดสินใจเด็ดขาดของผู้คุมกฎในการปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุน และที่ชัดเจนที่สุดคือ เพื่อให้แอนต์ปรับปรุงแนวทางการทำธุรกิจ

    อเล็กซ์ ไซราคอฟ เจ้าหน้าที่อาวุโสของบริษัทที่ปรึกษา คาโปรนาเซีย ชี้ว่า แอนต์อาจแค่เป็นเหยื่อความสำเร็จของตัวเอง

    ด้านแอนต์แถลงขอโทษนักลงทุนและสำทับว่า จะเปิดเผยรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระงับการจดทะเบียนโดยเร็วที่สุด รวมทั้งจะดำเนินการอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎระเบียบของตลาดหุ้นทั้งสองแห่ง ขณะที่อาลีบาบายืนยันจะให้การสนับสนุนแอนต์ในการปรับตัวและปฏิบัติตามกรอบโครงกฎระเบียบใหม่

    อย่างไรก็ดี เดฟ หวัง ผู้จัดการพอร์ตการลงทุนของนูเวสต์ แคปิตอล คาดว่า ผู้คุมกฎน่าจะระงับการทำไอพีโอของแอนต์ในช่วงสั้นๆ เพื่อร่างกฎใหม่และให้เวลาบริษัทต่างๆ ปรับตัว

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ เริ่มแล้วครับ ! ทรัมป์เริ่มทวีตออกมาโจมตีว่าทาง #เดโมแครตกำลังโกงผลการเลือกตั้ง หลังทางไบเดนทำคะแนนดีดแซงหน้าทรัมป์กลับไปได้ในคืนนี้ และกำลังจะใกล้เข้าเส้นชัยกลายเป็นประธานาธิบดีสหรัฐคนใหม่แล้ว

    ทางทรัมป์ได้ตั้งคำถามผ่านทวีตว่า #คะแนนของไบเดนอยู่ดีๆก็โผล่มาจากไหน ?

    หลังจากที่คะแนนของทรัมป์นั้นดูเหมือนจะได้เปรียบไบเดนอยู่ในช่วงคืนแรกของการนับคะแนน และทางทรัมป์ก็ได้ออกมาประกาศรับชัยชนะไปแล้วก่อนที่การนับคะแนนจะจบลง

    แต่คืนนี้หลังจากเริ่มนับคะแนนในคืนที่ 2 คะแนนของโจไบเดนก็เริ่มพลิกกลับมานำทรัมป์ได้ใน Swing States ที่สำคัญอย่าง Michigan, Nevada และ Wisconsin

    ทำให้ทรัมป์เกิดความไม่พอใจและออกมาทวีตทันทีว่า

    "เมื่อคืนที่ผ่านมาผมกำลังเป็นผู้มีคะแนนนำในหลายรัฐที่สำคัญ ในเกือบทุกรัฐที่ทางพรรคเดโมแครตเป็นผู้คุมรัฐอยู่ แต่ต่อมาอยู่ดีๆเช้านี้คะแนนในรัฐต่างๆก็ของผมก็เริ่มลดหายลงไปอย่างน่าอัศจรรย์ทีละรัฐ ทีละรัฐ หลังจากที่พวกเขาได้เริ่มนำบัตรคะแนนกล่องใหม่ๆออกมา #มันแปลกมากเลย ที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น และทุกครั้งที่พวกเขานับคะแนนจากการเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์ คะแนนก็จะผิดเพี้ยนกับสถิติที่นับได้จากคูหาตลอด... มันน่าแปลกจริงๆ"

    นี่คือคำทวีตล่าสุดของทรัมป์ที่ออกมาช่วงสี่ทุ่มครึ่งในคืนนี้ (รูปเต็มๆแนบในคอมเม้นท์)

    #เกมส์แพ้คนไม่แพ้

    ต้องจับตาดูการนับคะแนนเลือกตั้งต่อไปให้ดี เพราะต่อให้ทางโจ ไบเดนมีคะแนนชนะเป็นเอกฉันท์แล้ว ทางทรัมป์อาจจะยังไม่ยอมแพ้ง่ายๆแน่ ทางทรัมป์ได้ขู่ที่จะนำเรื่องนี้ขึ้นศาลมาตลอดเวลาเพราะเขาไม่เชื่อในการนับคะแนนจากการเลือกตั้งผ่านไปรษณีย์

    #ทำให้ต่อให้เรารู้ผลการเลือกตั้งแล้วแต่ศึกนี้อาจจะยังไม่จบลงไปง่ายๆซะทีเดียว ! ท่าจะยืดเยื้อครับ

    ✅ ติดตามผลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดไปกับเพจเราได้ครับ ทางเราจะพยายามหาข้อมูลมาให้ท่านนักลงทุนอย่างรวดเร็วที่สุด กดติดตามทางทางเพจไว้ได้เลยครับ !

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนียเผย อาจนับคะแนนไม่เสร็จในวันพุธ
    .
    เอเจนซีส์ - ในขณะที่การนับคะแนนยังคงดำเนินไปในรัฐเพนซิลเวเนีย ทางผู้ว่าฯ ทอม วูล์ฟ ได้ออกมาระบุว่า ยังคงมีบัตรเลือกตั้งจำนวนมากที่กำลังนับอยู่ และอาจจะยังไม่รู้ผลในวันพุธ (4 พ.ย.)
    .
    "มีบัตรเลือกตั้งที่ส่งมาทางไปรษณีย์ประมาณ 3 ล้านใบที่กำลังนับอยู่ นี่อาจทำให้ผลการนับคะแนนล่าช้าเป็นอย่างมาก บางทีอาจจะไม่รู้ผลในวันนี้" เขาระบุในวันพุธ
    .
    วูล์ฟ ระบุที่การแถลงข่าวในวันพุธว่า สิ่งสำคัญที่สุดคือผลการนับคะแนนที่ถูกต้องแม่นยำ แม้มันจะต้องใช้เวลานานกว่าที่เคยก็ตาม
    .
    เขาย้ำว่ามีศรัทธาอย่างเต็มเปี่ยม และจะทำอย่างเต็มที่ภายใต้อำนาจที่เขามี เพื่อให้แน่ใจว่าผลการนับคะแนนจะเป็นไปอย่างยุติธรรม และทุกคะแนนโหวตจะต้องได้รับการนับ

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า โจ ไบเดน กลายเป็นผู้ชนะที่รัฐมิชิแกน เก็บคะแนนจากคณะผู้แทนเลือกตั้งได้อีก 16 เสียง

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไบเดนมั่นใจนับคะแนนเสร็จเมื่อไหร่ชนะแน่ หลังเก็บมิชิแกนได้อีก 16 เสียง
    .
    เอเจนซีส์ - โจ ไบเดน ผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ จากพรรคเดโมแครต แสดงความเชื่อมั่นขณะกล่าวปราศรัยต่อผู้สนับสนุนว่า เมื่อการนับคะแนนเสร็จสิ้นลง เขาจะเป็นผู้ชนะ
    .
    ไบเดนบอกว่า ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าเขาจะได้เสียงจากคณะผู้แทนเลือกตั้งถึง 270 เสียง ซึ่งเพียงพอต่อการจะเป็นประธานาธิบดี แต่ถึงกระนั้นเขาก็ยังไม่ประกาศชัยชนะ
    .
    "ผมไม่ได้มาประกาศชัยชนะ แต่ผมมาพูดตรงนี้เพื่อรายงานว่า เมื่อไหร่ที่การนับคะแนนเสร็จสิ้น เราจะเป็นผู้ชนะ" ไบเดน กล่าว
    .
    ซึ่งสถานการณ์ล่าสุดขณะนี้ สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า โจ ไบเดน กลายเป็นผู้ชนะที่รัฐมิชิแกน เก็บคะแนนจากคณะผู้แทนเลือกตั้งได้อีก 16 เสียง นั่นหมายความว่า ไบเดนรอลุ้นที่เนวาดาอีกรัฐเดียว ก็จะได้ครบ 270 เสียง แห่งสันติภาพ

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทีมหาเสียงของ โดนัลด์ ทรัมป์ เตรียมยื่นคำร้องให้นับคะแนนเสียงเลือกตั้งที่รัฐวิสคอนซินใหม่ หลังผลอย่างไม่เป็นทางการชี้ว่า นายไบเดน จะเป็นผู้ชนะ และอ้างว่าฟ้องขอให้หยุดนับคะแนนที่มิชิแกนแล้ว #ไทยรัฐออนไลน์ #เลือกตั้งสหรัฐ2020

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลการนับคะแนนเลือกตั้งเบื้องต้นที่รัฐมิชิแกน หนึ่งในรัฐสวิงสเตทสำคัญ ชี้ว่า นายไบเดนเอาชนะนายทรัมป์ไปได้ ทำให้เขาเข้าใกล้ความเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ อีกก้าวแล้ว #ไทยรัฐออนไลน์ #เลือกตั้งสหรัฐ2020

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โจ ไบเดน ขึ้นเวทีปราศรัยที่รัฐเดลาแวร์ แสดงความมั่นใจว่า เขาจะเป็นผู้ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี หลังจากการนับคะแนนจบลง แต่ยังไม่ประกาศชัยชนะ #ไทยรัฐออนไลน์ #เลือกตั้งสหรัฐ2020

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “หยวนจะกลายเป็นสกุลสำรองเร็วกว่าที่คาดกันไว้” เรย์ ดาลิโอ

    เป็นประโยคที่ชวนเรียกแขกอยู่ไม่น้อย เมื่อเรย์ ดาลิโอผู้จัดการกองทุน Hedge Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์กับทาง Bloomberg ว่า “Yuan Will Be A Reserve Currency Faster Than Expected” หรือ “หยวนจะกลายเป็นสกุลสำรองเร็วกว่าที่คาดกันไว้”

    เพราะมันมี 2 ประเด็นที่ฟังดูขัดหูสำหรับคนส่วนใหญ่คือ
    1. หยวนจะเป็นสกุลสำรองของโลกได้จริง ๆ หรือ?
    2. ถ้าข้อ 1 เกิดขี้น ยังจะเกิดขึ้นเร็วกว่าที่คิดอีกเหรอ?

    แม้ว่าเรย์จะพูดมาตลอดถึงการเติบโตอย่างน่าสนใจของประเทศจีนที่ขึ้นมาท้าทายอำนาจสหรัฐ แต่ในด้านการลงทุนนั้น ถ้าเข้าไปดูพอร์ตของกองทุน Bridgewater แล้วจะพบว่าเรย์ยังคงมีสัดส่วนการลงทุนส่วนใหญ่อยู่ในดัชนี S&P500 ของสหรัฐ ส่วนที่ลงทุนในจีนนั้นจะเน้นเป็นหุ้นรายตัว ซึ่งส่วนใหญ่จะเทไปที่กลุ่มเทคโนโลยี

    อีกอย่างคือเรย์จะเน้นเรื่องการกระจายความเสี่ยง เพราะเขามองว่าถ้าเปรียบเทียบไทม์ไลน์ของเหตุการณ์ต่าง ๆ ในปัจจุบันกับประวัติศาสตร์แล้วจะพบว่าตอนนี้เป็นช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่าน ซึ่งไม่สามารถคาดเดาได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นและเงินจะไหลจากไหนไปไหน ฉะนั้นการที่เขาออกมาฟันธงแบบนี้ก็ถือว่ามีนัยสำคัญไม่น้อย
    .

    ทำไมเรย์จึงคิดว่าหยวนจะกลายเป็นสกุลเงินสำรองของโลกได้?

    เงินสกุลใดจะแข็งหรืออ่อนค่านั้นขึ้นอยู่กับ “ความเชื่อมั่น” ต่อประเทศนั้น ๆ โดยจีนมีความเข้มแข็งและการเติบโตทางเศรษฐกิจจีนที่มีสูงขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเทียบกับกลุ่มประเทศที่มีสกุลเงินหลัก ๆ ของโลก โดยเฉพาะสหรัฐ, ยุโรปและญี่ปุ่น ที่ประสบปัญหาเศรษฐกิจชะลอตัวจาก “หนี้” ปริมาณมหาศาลที่สั่งสมมายาวนานและยังมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อย ๆ

    ซึ่งเรย์ได้กล่าวเสริมในประเด็นนี้ว่าให้จับตามองปริมาณหนี้ของสหรัฐหลังการเลือกตั้งให้ดี ๆ เพราะไม่ว่าใครจะได้เป็นประธานาธิบดีก็ต้องเจอกับโจทย์เดิม ๆ ทั้งเรื่องเศรษฐกิจในประเทศและแรงกดดันจากจีน ที่รัฐบาลไม่มีทางเลือกมากนัก ยังไงก็ต้องขาดดุลงบประมาณอีกมหาศาล (ขณะที่เรย์สัมภาษณ์นั้นยังไม่ทราบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการ)
    .

    ทำไมเรย์ถึงมองว่าหยวนจะเป็นสกุลเงินสำรอง “เร็วกว่าที่คาด”?

    เรย์กล่าวถึง 2 สาเหตุหลัก ๆ คือ

    1. การระบาดของโควิด19 เป็นตัวเร่ง เพราะในขณะที่ประเทศต่าง ๆ ยังได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจที่ไม่น่าจะจบง่าย ๆ บวกกับปัญหาความขัดแย้งทางการเมืองนั้น จีนกลับควบคุมการระบาดได้ดีและแทบจะเป็นประเทศเดียวที่เศรษฐกิจพลิกกลับมาเติบโตอีกครั้ง มันจึงเป็นการเร่งให้เกิดความสามารถในการแข่งขันของจีนสามารถสู้กับประเทศอื่น ๆ ได้เร็วกว่าเดิม (หลายประเทศมีการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แต่ตัวเลขต่าง ๆ ยังไม่สามารถกลับไปอยู่ในจุดก่อนการระบาดในปี 2019 ได้)

    2. ไฮไลท์สำคัญคือเรื่อง “ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปี” ของจีนที่สูงกว่าอเมริกาถึง 5 เท่า โดยพันธบัตร 10 ปีของจีนและอเมริกาให้ผลตอบแทนอยู่ที่ 3.19% และ 0.63% ตามลำดับ ถ้าตีความแบบหยาบ ๆ นั่นหมายความว่าตลาดคิดว่าโอกาสที่รัฐบาลจีนจะผิดนัดชำระหนี้นั้นสูงกว่ารัฐบาลอเมริกาอยู่ 5 เท่า ซึ่งเมื่อหันกลับดูไปปัจจัยต่าง ๆ แล้วมันไม่น่าจะต่างกันได้ขนาดนี้

    เรย์กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า “Almost everybody is underweight on China” หรือ “คนส่วนใหญ่ให้ค่าประเทศจีนน้อยเกินไป” จึงทำให้พันบัตรรัฐบาลจีนมีความน่าลงทุนเป็นพิเศษ โดยเรย์ทายว่าหลังจากนี้จะมีเม็ดเงินมหาศาลไหลเข้าซื้อพันบัตรรัฐบาลจีนนั่นหมายถึงความต้องการของเงินสกุลหยวนจะมากขึ้น เพื่อปรับให้ระบบมีความสมดุล
    .

    ไม่ว่าเงินสกุลหยวนจะขึ้นมาผงาดได้ตามที่เรย์พูดหรือไม่ แต่ต้องยอมรับความจริงว่าตอนนี้บรรดาประเทศเจ้าของเงินสกุลหลักนั้นสถานการณ์ยังน่าเป็นห่วง แต่อัตราดอกเบี้ยกลับมีลดลงเรื่อย ๆ (ไหนล่ะ “High risk high return”) สวนทางกับจีนที่เศรษฐกิจยังไปต่อได้และพันธบัตรให้ผลตอบแทนสูง ถ้าตัดอคติเรื่องความเป็นจีนหรือสหรัฐออก เพื่อน ๆ ก็คงตอบได้ไม่ยากใช่ไหมครับว่าพันธบัตรของประเทศไหนน่าลงทุนกว่ากัน?

    .
    แอดปุง

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวญี่ปุ่น ไวรัสโคโรน่าในญี่ปุ่นมีการระบาดเพิ่มขึ้นและมีผู้ติดเชื้อต่อวันมากขึ้น

    หลังจากไวรัสโควิด-19 เริ่มมีการระบาดตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ก็ทำให้ญี่ปุ่นนั้นติดเชื้อขึ้นมาอย่างมากจนต้องเปิดสภาวะฉุกเฉินเพื่อป้องกันการระบาดเชื้อ แต่เนื่องจากเศรษฐกิจยืนไม่ไหวรัฐบาลจึงตัดสินใจว่าจะไม่มีการ LockDown เมืองญี่ปุ่นอย่างแน่นอน

    นั่นจึงทำให้มีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาระยะหนึ่งประมาณ 300-500 คนต่อวัน แต่ล่าสุดนี้ญี่ปุ่นมีมาตราการที่ค่อนข้างไม่เข้มงวดมากนักเนื่องจากทุกคนเห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดาแล้ว จึงทำให้การระบาดของเชื้อไวรัสโคโรน่ามีมากขึ้นและมีผู้ติดเชื้อรวมกันทะลุกว่า 100,000 รายแล้ว

    ล่าสุดจึงทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อในแต่ละวันมีค่อนข้างมากเฉลี่ยอยู่ที่ 600-800 กว่ารายและอาจจะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นไปเรื่อยๆ เนื่องจากไม่สามารถหาต้นตอของการระบาดได้อย่างชัดเจน แนะนำให้คนไทยที่อยู่ในญี่ปุ่นพกสเปย์แอลกอฮอร์เอาไว้ติดตัวด้วยเมื่อจับสิ่งของที่เป็นสาธารณะ และใส่แมสป้องกันทุกสถานที่ที่ไปนั่นเป็นการป้องกันที่ดีที่สุดในตอนนี้แล้ว

    อ้างอิง : https://newsdigest.jp/pages/coronavirus/

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #บทความเรื่องญี่ปุ่น

    "หมาป่าโอคุริ ตำนานสัตว์พิศวงญี่ปุ่น"

    .

    ในตำราเก่าแก่ของญี่ปุ่นนั้นมีเรื่องเล่าและความเชื่อต่างๆที่ถูกบันทึกไว้อยู่มากมาย บางเรื่องก็อาจถูกเล่าขานกันมานานก่อนที่จะมีการบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์เสียอีก บางเรื่องก็ทำให้เรานั้นเปลี่ยนความคิดและทัศนคติที่มีต่อสิ่งนั้นๆไปเลย หรือบางเรื่องก็ทำให้เราได้รับความคิดและวัฒนธรรมใหม่ๆมาประกอบใช้ในชีวิต หรือบางเรื่องที่รู้เพื่อความบันเทิงเท่านั้น เรื่องที่จะเล่าให้ฟังต่อจากนี้เป็นเรื่องของ "หมาป่าโอคุริ" หนึ่งในสัตว์พิศวงของญี่ปุ่น มันจะออกหาเหยื่อภายในเวลากลางคืน เหยื่อที่อยู่ตัวคนเดียวท่ามกลางความมืดมิด ซึ่งหากพลาดท่าให้มันแล้วล่ะก็ จะโดนจับกินทันที

    .

    หมาป่าโอคุริ นั้นมีลักษะคล้ายคลึงกับหมาป่าหรือหมาทั่วไป ภายนอกอาจดูเหมือนสัตว์ธรรมดา แต่ความดุร้ายของมันมีอยู่มาก มันอันตรายกว่ามนุษย์ด้วยกันเองเสียอีก คนคุณที่คิดว่าอันตรายแล้ว ยังมิอาจเทียบได้กับเจ้าโอคุริ ซึ่งสถานที่ที่สามารถพบเห็นมันได้คือภูเขาและเส้นทางในป่าในยามค่ำคืนที่มีเพียงเสียงธรรมชาติและแสงไฟสลัวจากดวงจันทร์ มันจะปรากฎตัวก็ต่อเมื่อมีมนุษย์เดินทางผ่านมาตัวคนเดียว พฤติกรรมของมันก็คือ มันจะเดินตามคุณไปเรื่อยๆ ฝี่ก้าวต่อฝี่ก้าว เว้นระยะห่างพอประมาณ รอจังหวะที่คุณสะดุดและล้ม มันจะกระโจนเข้ามาเขมือบร่างของคุณอย่างรวดเร็ว เร็วจนน่าพิศวง

    .

    กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้ว มีโรนินผู้หนึ่ง ที่มีจิตใจเด็ดเดี่ยวและแน่วแน่ เขาใช้ชีวิตอยู่เพียงลำพัง ละทิ้งความหลังและเดินทางร่อนเร่พเนจรไปทั่วทุกผืนแห่ง ซึ่งในยามค่ำคืนวันหนึ่ง ซามูไรไร้นายผู้นี้ก็ได้ใช้ถนนเส้นทางในป่าพงไพรที่มืดมิดที่สามารถทะลุไปสู่อีกเมืองนึงได้ โดยเส้นทางนี้จะเป็นเส้นทางที่สั้นที่สุด ในมือของเขาถือคบเพลิงที่ช่วยในการมองเห็น ในใจวางแผนที่จะเดินไปเรื่อยๆ หวังว่าจะให้ถึงตัวเมืองในรุ่งเช้า ไม่นานนักเขาก้ได้ยินเสียงนกฮัมเพลงใกล้ๆ "ชี ชี ชี~" นกที่ฮัมเพลงเหล่านี้มีชื่อว่า "โยซูซูเมะ" เป็นสัตว์พิศวงอีกชนิดที่มีความสัมพันธ์ดั่งเพื่อนของโอคุริ เมื่อใดที่ได้ยินเสียงนกฮัมเพลงนี้แล้วล่ะก็ จงระวัง เพราะนี่คือการมาของหมาป่าโอคุริด้วยเช่นกัน

    .

    นอกจากเสียงเพลงที่ได้ยิน ประสาทสัมผัสของโรนินผู้นี้ยังสามารถรับรู้ได้ถึงสิ่งมีชีวิตบางสิ่งที่กำลังเดินตามหลังของเขาอยู่ เขาชำเลืองมองด้านหลัง เห็นหมาป่าตัวหนึ่ง เขาจับดาบซามูไรของเขาเตรียมพร้อมที่จะชักมันออกมา แต่เมื่อสังเกตพฤติกรรมของมันสักพัก เขาก็รู้ทันทีว่ามันคืออะไร เขาทราบเรื่องตำนานของเหล่า "โยไค" ดีพอสมควร (โยไคคือสัตว์พิศวงและสิ่งลี้ลับในภาษาญี่ปุ่น) จิตใจของเขาสั่นไหวเล็กน้อย แต่ปฏิเสธที่จะแสดงความกลัวใดๆออกมา เพราะเขารู้ว่าถ้าหากเขาทำเช่นนั้นเขาจะต้องโดนเจ้าหมาป่าโอคุริจับกินเป็นแน่ มากไปกว่านั้นเขาจะต้องเดินต่อไปเรื่อยๆจนกว่าจะออกจากป่าแห่งนี้อย่างระมัดระวังทุกฝี่ก้าว เพราะถ้าหากพลาดท่าสะดุดล้มแล้วล่ะก็ เขาก็จะโดนมันเล่นงานทันทีเช่นกัน เขาเดินต่อไปเรื่อยๆ ในขณะนั้นเอง เจ้าโอคุริก็กระโดดโลดเล่นปั่นประสาทของเขา มันกระโดดข้ามหัวของเขาไปมา ซึ่งไม่นาน ลมจากการกระโดดบวกกับเชื้อเพลิงที่ใกล้หมด ทำให้คบเพลิงของเขาดับลง ตอนนี้เหลือเพียงแสงไฟสลัวจากดวงจันทร์เพียงเท่านั้นที่จะทำให้โรนินผู้นี้รอดพ้นจากความตาย หากนึกดูดีๆ เส้นทางในป่า ไม่ได้สวยงามและเรียบง่ายอย่างถนนคอนกรีต ทำให้การเดินทางที่จะไม่สะดุดล้มเป็นเรื่องที่ลำบากอย่างมากในความมืดนี้

    .

    เขาสะดุดล้มจนได้ แต่ด้วยความที่มีความรู้เรื่องโยไคเป็นอย่างดี เขาแกล้งทำเป็นว่าขอนั่งพักเสียก่อน ซึ่งนั่นก็เป็นวิธีที่จะสามารถทำให้คุณรอดพ้นจากเงื้อมือโอคุริได้ กฎหนึ่งข้อที่มันจะไม่ทำร้ายคุณก็คือ “การพักเล็กน้อยระหว่างทาง” เมื่อสะดุดล้มคุณจะต้องรีบพูดว่า “ด่กโคอิโช” (Dokkoisho) (เป็นคำคล้ายๆกับคำสบถ ซึ่งปัจจุบันคนไม่ใช้กันแล้ว) หรือ “ชินโดอิวะ!” (Shindoi wa!) ที่มีความหมายประมาณว่า “เหนื่อยจังเลยโว้ย” หลังจากนั้นจึงค่อยจัดสรีระของคุณในท่านั่ง (ทำเนียนว่าจะนั่ง จริงๆแล้วล้ม) แต่อย่านั่งนานล่ะ หากนั่งนานเกินไปคุณก็จะโดนมันเขมือบจนได้เช่นเดียวกัน

    .

    การติดตามของโอคุรินั้นมีข้อดีก็คือ สัตว์พิศวงตัวอื่นๆจะไม่สามารถทำอะไรคุณได้ มันจะช่วยปกป้องคุณจากสัตว์พิศวงตัวอื่นๆ ดังนั้น ถ้าหากคุณไม่พลาดท่าแล้วล่ะก็ วางใจได้ มันจะปกป้องคุณยันสุดทางเลยล่ะ

    .

    เมื่อถึงรุ่งเช้า โรนินรอดพ้นออกมาจากป่าจนได้ สิ่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ที่เขาต้องทำก็คือ “การกล่าวของคุณ” เขาหันหลังกลับไปที่ป่าแล้วพูดว่า “ขอบคุณที่มาส่งนะโอคุริ” ซึ่งตามกฎแล้ว เมื่อคุณกล่าวคำขอบคุณเป็นที่เรียบร้อย เจ้าหมาป่าโอคุริจะไม่มาให้คุณเห็นอีกต่อไป

    .

    ปัจจุบันชาวญี่ปุ่นสมัยใหม่ใช้คำว่า “โอคุริ โอกามิ” (อีกชื่อหนึ่งของโอคุริอินุ) เรียกผู้ชายนักรักและนักล่าที่พูดจาอ่อนหวานดูเหมือนจริงใจกับผู้หญิง แต่ลึกๆจริงๆแล้วเขาหวังผลตอบแทนอะไรบางอย่าง

    .

    ที่ 'อิซุ' และ 'ไซตามะ' นั้นมีสัตว์พิศวงที่มีพฤติกรรมคล้ายๆกับหมาป่าโอคุริ มันมีชื่อว่า “โอคุริ อิทาชิ” เป็นพังพอน แต่เจ้าตัวนี้ เมื่อคุณปารองเท้าใส่มันข้างนึง มันจะกินจนหมด และวิ่งหนีไปแต่โดยดี

    .

    อ้างอิง: Yokai
    #โอคุริอินุ #Okuri #Yokai

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวสั้น (4 พ.ย.) วันนี้ตามข่าวเลือกตั้งอเมริกา กับ ปั่นงานทั้งวันเลย พอดียังตรวจงานไม่เสร็จขอแว่บมาเล่าข่าวนะคะ

    #โควิด
    (1) ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มในประเทศวันนี้ 624 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 4 ราย
    ตอนนี้ญี่ปุ่นกำลังพิสูจน์กันอยู่ว่า อากาศหนาวน่าจะมีผลให้โควิดระบาดมากกว่าหรือไม่ และดับเบิ้ลแพนเดมิกที่กลัว ๆ กัน (ไข้หวัดใหญ่บวกโควิด) จะเกิดหรือเปล่า

    #ต่างประเทศ
    (2) ทรัมป์กับไบเดนใครจะชนะ ยังคงสูสีหายใจรดต้นคอ
    หลายคนถามสาเหตุที่ "ผลโหวตทางจดหมาย" กลายเป็นประเด็นในครั้งนี้
    หลัก ๆ มี 2 ประเด็นก็คือ
    วันปิดรับโหวต แต่ละรัฐกำหนดวันทางไปรษณีย์แตกต่างกัน และเริ่มเปิดซองไม่พร้อมกัน
    ความเหวี่ยงของคะแนน
    >>คาดกันว่า คนเชียร์ไบเดน ส่วนใหญ่ทำตามมาตรการโควิด และเลือกที่จะไม่ไปกาลงคะแนนที่หีบเลือกตั้ง แต่เลือกทางไปรษณีย์
    >>คาดกันว่า คนเชียร์ทรัมป์ ส่วนใหญ่จะเลือกไปลงคะแนนเสียงวันจริง เพราะไม่ได้คิดว่าโควิดเป็นอุปสรรคอะไร
    นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทรัมป์บอกว่า อยากร้องขอต่อศาลให้ไม่นับคะแนนโหวตทางไปรษณีย์ (ซึ่งมีถึง 60 ล้านกว่าเสียง)

    ลุ้นกันต่อไปนะคะทุกคน

    #กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #สรุปข่าว
    เครดิต:
    https://www3.nhk.or.jp/news
    Yahoo! News
    TVAsashi

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    04.11.20

    ⚡⚡#Update อย่างรวดเร็วทันใจ ไม่ต้องรอจนถึงอาทิตย์หน้า จะมี การแถลงข่าวของ รัฐบาล เพื่อ ประกาศมาตรการระดับชาติ ฉบับใหม่

    ในวันที่ 05.11.20 เวลา 11.45

    ผู้เข้าร่วมการแถลงข่าว มี 4 ท่านดังต่อไปนี้

    ▪นายกรัฐมนตรี Erna Solberg
    ▪รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข Bent Høie
    ▪ผู้อำนวยการสถาบัน FHI Bjørn Guldvog
    ▪Camilla Stoltenberg จาก สถาบัน FHI

    อนึ่ง ก่อนหน้านี้ แอด ลงรายละเอียดใน สรุปแถลงข่าว ของวันที่ 03.11.20 ว่า จะมีการประกาศมาตรการฯ ในสัปดาห์หน้า เนื่องจาก ในเวปไซต์ของ รัฐบาล และ สรุปต้นฉบับจาก NRK ได้ลงรายละเอียดในเรื่องเดียวกัน ต่อมา ได้มีการแก้ไข เรื่องวันที่ แถลงข่าว จึงกลายมาเป็น แถลงข่าววันพรุ่งนี้แทนค่ะ ..แอด ว่าก็ดีนะ จะได้ไม่ต้องรอนาน (แต่รู้สึกหนาวๆร้อนๆยังไงไม่รู้)

    (เวปไซต์รัฐบาล แก้ไขเมื่อเวลา 17:38 น. วันที่ 04.11.20 ส่วน NRK แก้ไขเมื่อเวลา 17:08 ของวันที่ 03.11.20 สารภาพว่า แอด ไม่ได้เช็คการแก้ไขหลังจากแปลเสร็จเมื่อตอนบ่าย 2 ของวันที่ 03.11 ค่ะ)

    เอาเป็นว่า ใครสนใจติดตามรับชมกันได้ในวันพรุ่งนี้นะคะ

    ที่มา : https://direkte.vg.no/coronaviruset...hkKzurmh?utm_source=vgfront&utm_content=row-3

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ทางผู้สื่อข่าวได้มีการรายงานว่า เพจเฟซบุ๊ก “มนุษย์โรงงาน” ได้โพสต์ข้อความสรุปยอดโบนัส 10 โรงงานใหญ่ ประจำปี 63 โดยระบุข้อความว่า สรุปยอดจ่ายโบนัส ปี 63

    ==========

    1. บริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค ไทย ออโต้-พาร์ท จำกัด เขตอุตสาหกรรมสยามอีสเทิร์น 60/16 หมู่ 3 ต.มาบยางพร อ.ปลวกแดง จ.ระยอง ทางบริษัทจ่ายโบนัสในปี 63 มีดังนี้ 5.5 เดือนบวกเงินพิเศษ 13,000 บาท ปรับเงินขึ้นอีก 3.2+130
    ...

    2. บริษัท MG ภายในนิคมอุตสาหกรรมเหมราชอีสเทิร์น ซีบอร์ด แห่งที่ 2 จังหวัดชลบุรี สรุปตัวเลขโบนัส 2 เดือน เงินบวกพิเศษ 40,000 บาท แล้วแบ่งจ่ายเป็น 2 งวด ได้แก่ ช่วงปีใหม่ และสงกรานต์
    ...

    3. บริษัท ยามาเซอิ (ประเทศไทย) จำกัด นิคมอุตสาหกรรมอีสเทิร์นซีบอร์ด ปลวกแดง อำเภอปลวกแดง ระยอง สรุปตัวเลขโบนัส 4 เดือน เงินบวกพิเศษ 30,000 บาท
    ...

    4.โยโกฮามา ไทร์ แมนูแฟคเจอริ่ง ประเทศไทย ตำบลมาบยางพร อำเภอปลวกแดง ระยอง สรุปตัวเลขโบนัสปี63
    .
    เกรด s 4.5 เดือน บวกเงินพิเศษ 28,000
    .
    เกรด A 4.4 เดือน บวกเงินพิเศษ 28,000
    .
    เกรด B 4.3 เดือน บวกเงินพิเศษ 28,000
    .
    เกรด C 4.2 เดือน บวกเงินพิเศษ 28,000
    ...

    5. บริษัท มิตซูบิชิ เทอร์โบชาร์จเจอร์ เอเซีย จำกัด ตำบลพานทอง อำเภอพานทอง ชลบุรี สรุปตัวเลขโบนัสปี 63 3.8 เดือน เงินบวกพิเศษ 15,000 บาท สงกรานต์ 3000 บาท เงินขึ้น 3%
    ...

    6. บริษัท มิตซูบิชิ สมุทรปราการ สรุปตัวเลขโบนัสปี63 5 เดือน เงินบวกพิเศษ 25,000 บาท
    ...

    7. บริษัท เอช-วัน พาร์ท ศรีราชา จำกัด นิคมปิ่นทอง1 อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี สรุปตัวเลขโบนัสปี63 เงินบวกพิเศษ 40,000 บาท
    ...

    8. บริษัท JTEKT บางปะกง ฉะเชิงเทรา สรุปตัวเลขโบนัสปี63 2.5 เดือน เงินบวกพิเศษ 20,000 บาท
    ...

    9. บริษัท สยามโกชิ ระยอง สรุปตัวเลขโบนัสปี63 5.9 เดือน เงินบวกพิเศษ 20,000 บาท
    ...

    10. บริษัท โตโยต้าทูโช โฟล์คลิฟท์ ตั้งอยู่นิคมอมตะชิติ้ ชลบุรี จ่ายถึง 9.25 เดือน ปรับเงินขึ้นอีก 4.5%

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.nationtv.tv/main/content/378804353


    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้า‘ไบเดน’ชนะ‘ทรัมป์’ สงครามการค้าสหรัฐฯจีนจะยุติไหม?
    September 19, 2020
    563000009887601.jpg

    US election 2020: Joe Biden faces pressure to separate China trade policy from Donald Trump’s
    By Finbarr Bermingham , The South China Morning Post
    Updated: 11:55am, 15 Sep, 2020

    อเมริกันชนรู้สึกลบต่อจีนเพิ่มขึ้นมากจนอยู่ในระดับสูงสุดเท่าที่เคยเป็นมาก็จริงอยู่ ทว่าการมีสายสัมพันธ์ทางการค้าอันดีกับชาติเจ้าของระบบเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับสองของโลกรายนี้ กลับยังคงเป็นที่นิยมชมชื่นในหมู่ผู้ออกเสียงสหรัฐฯอย่างน่าประหลาดใจ เวลานี้ โจ ไบเดน จึงเผชิญความท้าทายในการทำให้นโยบายการค้าจีนของเขาแตกต่างไปจากของทรัมป์ โดยที่พวกอดีตผู้ช่วยทำเนียบขาวต่างพากันคาดหมายว่า หากไบเดนขึ้นเป็นประธานาธิบดี คงจะเป็นการเปลี่ยนแปลงในทางยุทธวิธีมากกว่าการยกเครื่องกันยกใหญ่

    เมื่อตอนย่างเข้าเดือนสิงหาคมปีนี้ ผู้ช่วยคนหนึ่งในทีมรณรงค์หาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีของ โจ ไบเดน ต้องรีบรุดออกมาอธิบายเพิ่มเติมความคิดเห็นซึ่งผู้สมัครผู้นี้พูดเอาไว้ในการให้สัมภาษณ์แก่ “เนชั่นแนล พับลิก เรดิโอ” (National Public Radio เครือข่ายสถานีวิทยุสาธารณะในสหรัฐฯ ดูเพิ่มเติมได้ที่ https://en.wikipedia.org/wiki/NPR) แล้วมีสื่อกระจายข่าวบางแห่งไปตีความว่า เขาจะยกเลิกมาตรการที่โดนัลด์ ทรัมป์ ขึ้นภาษีศุลกากรเอากับสินค้าจีน หากเขาชนะได้เป็นประธานาธิบดีคนใหม่

    ไบเดน “จะประเมินผลของมาตรการขึ้นภาษีเหล่านี้กันอีกครั้งเมื่อเข้ารับตำแหน่ง” ผู้ช่วยผู้นี้กล่าวย้ำ และโดยข้อเท็จจริงแล้วเขาก็ไม่ได้ให้สัญญาเลยว่ากำลังจะยกเลิกสิ่งเหล่านี้ไป อย่างไรก็ตาม การที่ต้องร้อนรนออกมาตอบโต้แก้ข่าวเรื่องที่อาจบ่งชี้ให้เห็นว่าเขาทำท่าจะอ่อนปวกเปียกในเรื่องจีน –หรืออ่อนปากเปียกในเรื่องการค้า— ย่อมเป็นสิ่งที่แสดงให้เห็นถึงความท้าทายซึ่งไบเดนเผชิญอยู่ ในการต่อสู้ชิงชัยกับประธานาธิบดีคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้เวลานี้ ซึ่งเป็นนักแอนตี้การค้าและแอนตี้จีน

    “มีบ่อยครั้งที่พวกผู้สมัครแข่งขันชิงตำแหน่ง จะมีความคิดเห็นเชิงวิพากษ์วิจารณ์อย่างแรงๆ ในเรื่องการค้า นี่เป็นยุทธวิธีธรรมดาสามัญเหลือเกินในเส้นทางของการรณรงค์หาเสียง ตัวอย่างเช่น ประธานาธิบดี (บารัค) โอบามา เมื่อตอนที่เขาอยู่บนเส้นทางหาเสียงในปี 2008 ก็วิพากวิจารณ์เอาไว้เยอะในเรื่องวิธีการที่สหรัฐฯไปทำข้อตกลงการค้าซึ่งได้ทำกันไปเรียบร้อยแล้ว” นี่เป็นคำอธิบายของ เอลิซาเบธ บัลซ์แซน (Elizabeth Baltzan) ผู้มีตำแหน่งสูงสุด (principal) ที่ บริษัทที่ปรึกษาทางการค้า อเมริกัน ฟีนิกซ์ เทรด แอดไวซอรี เซอร์วิเซส (American Phoenix Trade Advisory Services) และเคยเป็นเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯทั้งในยุคโอบามาและในสมัยประธานาธิบดีจอร์จ ดับเบิลยู บุช อย่างไรก็ตาม เธอกล่าวต่อไปว่า “แต่สิ่งที่เรากำลังเห็นอยู่ในเวลานี้ต้องถือเป็นสถานการณ์ที่ผิดปกติเอามากๆ ตรงที่ว่าประธานาธิบดีผู้กำลังดำรงตำแหน่งอยู่กลับเป็นผู้ซึ่งวิพากษ์วิจารณ์เรื่องการค้าอย่างหนักหน่วงเสียเอง”

    ผลสำรวจของ พิว รีเสิร์ช เซนเตอร์ (Pew research Center) จากเดือนกรกฎาคม แสดงให้เห็นว่ามีชาวอเมริกันสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 73% ทีเดียว เวลานี้มีความคิดเห็นในทางที่ไม่ชมชอบจีน แต่กระนั้นก็มี 51% ที่ต้องการให้ดำเนินการสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจอย่างเข้มแข็งกับคู่แข่งผู้ใหญ่โตที่สุดของอเมริการายนี้ หากนับกันเฉพาะในยุคสมัยใหม่

    ยังมีผลโพลของสำนักสำรวจความคิดเห็น “แกลลัป” (Gallup) เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ –โดยที่สำคัญแล้วเป็นการสำรวจก่อนหน้าที่จะเกิดความเสียหายร้ายแรงต่างๆ จากโรคระบาดไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่— ซึ่งก็แสดงให้เห็นว่า 79% มีทัศนะต่อการค้าในเชิงบวก ตัวเลขนี้ต้องถือว่าชวนให้เซอร์ไพรซ์ หากเราเพียงแต่วินิจฉัยตัดสินความเป็นไปในอเมริกาโดยแค่ดูจากบรรยากาศการณรงค์หาเสียงทางการเมือง

    หนึ่งในความท้าทายสำคัญๆ ของไบเดน ถ้าหากเขาชนะได้รับกุญแจไขเข้าไปพำนักในทำเนียบขาว ก็คือ เขาจะต้องสังเคราะห์ทัศนะที่แตกแยกไปกันคนละทางสองทางเหล่านี้ให้กลายเป็นนโยบายที่กลมกลืนสอดคล้องกัน เขาไม่เพียงจะต้องสร้างความสามัคคีขึ้นในประเทศชาติที่เกิดความแตกขั้วแบ่งแยกกันอย่างหนักเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันขึ้นในหมู่ผู้ประกาศตนสังกัดพรรคเดโมแครต ซึ่งมีความผิดแผกแตกต่างกันอย่างกว้างขวาง โดยที่จำนวนมากของพวกเขาก็รู้สึกเช่นกันว่าพอกันทีสำหรับการพาณิชย์แบบปล่อยเสรีเต็มที่ และพอกันทีสำหรับสิ่งที่รับรู้เข้าใจกันว่าเป็นการยินยอมอ่อนข้อในเรื่องจีน

    “พวกผู้กำหนดนโยบายทั้งหลาย จะต้องก้าวออกไปให้ไกลกว่าภูมิปัญญาซึ่งเคยเป็นที่ยอมรับกัน ที่ว่าข้อตกลงการค้าทุกๆ อย่างคือข้อตกลงการค้าที่ดี และที่ว่าการมีการค้าขายกันมากขึ้นคือคำตอบที่ดีเสมอ” นี่เป็นข้อเขียนของ เจค ซุลลิแวน (Jake Sullivan) ที่ปรึกษาคนหนึ่งในทีมรณรงค์หาเสียงไบเดน ซึ่งได้รับการจับตาจากฝ่ายต่างๆ จำนวนมากว่า จะได้ครองตำแหน่งระดับอาวุโสในคณะบริหารไบเดนหากมันเกิดขึ้นมาได้สำเร็จ เขาเขียนเช่นนี้ในบทความชิ้นหนึ่งซึ่งเผยแพร่เมื่อเร็วๆ นี้ทางวารสาร “ฟอเรนจ์ โพลิซี” (Foreign Policy) ทั้งนี้เขายังย้ำต่อไปว่า “รายละเอียดต่างๆ (ของข้อตกลงการค้าทั้งหลาย) คือสิ่งที่มีความสำคัญ”

    ข้อเขียนของซุลลิแวนและของคนอื่นๆ ซึ่งคาดหมายกันว่าจะเข้ามีบทบาทอยู่ในคณะบริหารไบเดนที่อาจจะเกิดขึ้นมา กำลังกลายเป็นกุญแจสำคัญสำหรับการทำความเข้าใจเกี่ยวกับทิศทางซึ่งผู้สมัครคนนี้น่าจะก้าวเดินไปทั้งในเรื่องจีนและในเรื่องการค้า

    ตัวบุคคลอย่างเช่น เคิร์ต แคมป์เบลล์ (Kurt Campbell) และ อีลี่ แรตเนอร์ (Ely Ratner) ซึ่งเคยเป็นเจ้าหน้าที่ระดับอาวุโสในคณะบริหารโอบามา ต่างกำลังออกมารับสารภาพผิดในทั้งสองเรื่องนี้เป็นเวลาหลายเดือนแล้ว พวกเขายอมรับว่าภัยคุกคามจากจีนเป็นเรื่องที่ถูกให้น้ำหนักน้อยเกินไปในอดีตที่ผ่านมา ขณะเดียวกันการเทศนาเกี่ยวกับการค้าเสรี ก็จำเป็นที่จะต้องดำเนินไปในลักษณะกระเหี้ยนกระหือรือน้อยลงกว่าเดิม

    ในเรื่องจีน ธีมที่นิยมใช้กันทั่วไปคือสหรัฐฯจำเป็นที่จะต้องแข่งขันกับจีนในบางด้าน และจะต้องร่วมมือด้วยในบางอย่าง แต่ต้องยุติทัศนะของนโยบายการค้าแบบใครชนะคือคนที่กวาดเดิมพันไปคนเดียวทั้งหมด (zero sum) ซึ่งปรากฏชัดเจนในแบบแผนวิธีการจัดการปัญหาของทรัมป์

    “ถ้าหากผมเป็นไบเดน วิธีการที่ผมจะวางแผนเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คือ ผมจะพูดว่าผมสามารถทำอะไรได้บ้างในเรื่องการค้า แทนที่จะบอกว่าผมควรจะทำยังไงบ้าง” นี่เป็นความเห็นของ แฟรงก์ ลาวิน (Frank Lavin) อดีตปลัดกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในผู้ลงชื่อในเอกสาร “คำแถลงของบรรดาอดีตเจ้าหน้าที่ความมั่นคงแห่งชาติพรรครีพับลิกัน” ซึ่งตีพิมพ์เผยแพร่ทางหนังสือพิมพ์ต่างๆ ในสัปดาห์ปลายเดือนสิงหาคม เพื่อแสดงการสนับสนุนรับรองไบเดน

    “ความคิดเห็นของผมก็คือ เขาจะรักษาส่วนประกอบบางอย่างในนโยบายทรัมป์เอาไว้ แต่แน่นอนว่าเขาจะไม่รักษาพวกน้ำเสียงเกรี้ยวกราดและพวกถ้อยคำท้าตีท้าต่อยเอาไว้หรอก ดังนั้นมันจะเป็นเพียงแค่การปรับปรุงให้ดีขึ้น” เขากล่าวต่อ

    ข้อเสนอเมื่อไม่นานมานี้ของไบเดนที่ว่าด้วยการ “สร้างสายโซ่อุปทานสหรัฐฯขึ้นมาใหม่” (rebuild US supply chains) ซึ่งมีการเอ่ยชื่อจีนถึง 10 ครั้ง โดยที่มีรัสเซียเป็นอีกชาติเดียวซึ่งถูกเอ่ยนาม (จำนวน 3 ครั้ง) คือการตอกย้ำถึงข้อเท็จจริงนี้

    “ผมคิดว่าความแตกต่างที่แท้จริงนั้นจะเป็นเรื่องของยุทธวิธี ข้อโจมตีหลักของค่ายไบเดนที่มีต่อนโยบายการค้าของทรัมป์นั้น อยู่ตรงที่ว่าสหรัฐฯเลือกที่จะต่อสู้ทางการค้ากับพวกชาติพันธมิตรด้วย แทนที่จะโฟกัสมุ่งสาดกระสุนไปที่จีน ซึ่งมันยังเป็นการทำให้ประเทศต่างๆ เกิดความแปลกแยกอย่างไม่จำเป็นเลย ทั้งๆ ที่ประเทศเหล่านี้แหละที่สหรัฐฯยังควรที่จะต้องรักษาความสนิทสนมเอาไว้” เอดเวิร์ด อัลเดน (Edward Alden) ผู้เชี่ยวชาญด้านนโยบายการค้า ซึ่งทำงานให้ เคาน์ซิล ออน ฟอเรนจ์ รีเลชั่นส์ (Council on Foreign Relations) คลังสมองทรงอิทธิพลด้านการต่างประเทศที่ตั้งสำนักงานอยู่ในนครนิวยอร์ก กล่าว

    ด้วยแนวคิดเช่นนี้ เป็นที่คาดหมายกันว่าไบเดนจะยกเลิกการขึ้นภาษีศุลกากรตามอำนาจในมาตรา 232 ที่เก็บจากอลูมิเนียมและเหล็กกล้า โดยประเทศที่ถูกเล่นงานคือเหล่าชาติพันธมิตรสหรัฐฯไล่ตั้งแต่ เกาหลีใต้ และ บราซิล ไปจนถึง แคนาดา และสหภาพยุโรป ส่วนมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรที่ใช้อำนาจตามมาตรา 301 และพุ่งเป้าที่จีนโดยเฉพาะนั้น จะยังอยู่หรือจะถูกยกเลิกไปน่าจะขึ้นกับว่าจีนมีปฏิกิริยาอย่างไรต่อประธานาธิบดีสหรัฐฯคนใหม่ พวกอดีตเจ้าหน้าที่อเมริกันหลายรายพูดกันเช่นนี้

    “พวกภาษีเก็บตาม 232 เป็นสิ่งที่สามารถยกเลิกได้ง่ายกว่าภาษีตามมาตรา 301 ซึ่งใช้กับจีนโดยเฉพาะ ผมคิดว่าอย่างหลังนี่จะต้องมีความลำบากมากกว่านิดหน่อย” เป็นคำบอกเล่าของ เจมส์ กรีน (James Green) ผู้ดำรงตำแหน่งเป็นอัครราชทูตที่ปรึกษา (minister counsellor) ฝ่ายกิจการการค้า อยู่ที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐฯประจำกรุงปักกิ่งในสมัยโอบามาเป็นเวลากว่า 5 ปี

    กรีนคาดหมายว่าจีนจะทดสอบไบเดนในเรื่องการค้าตั้งแต่ต้นๆ ทีเดียว บางทีอาจจะเป็นการยกเลิกข้อตกลงการค้า เฟส 1 –ซึ่งกรีนเองบรรยายว่าเป็น “ข้อตกลงแบบปล้องไม้ไผ่ที่ตรงกลวง เนื่องจากด้านนอกมันดูเหมือนกับว่าเป็นการดีลกับจีน แต่เนื้อหาข้างในกลับกลวงโบ๋— แล้วจากนั้นปักกิ่งก็จะคำนวณพิจารณาสิ่งที่ประธานาธิบดีคนใหม่ตอบโต้กลับมา

    “ดังนั้นกระทั่งถ้าหากคณะบริหารไบเดนไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นยินดีอะไรเกี่ยวกับการขึ้นภาษีศุลกากรเหล่านี้ ผมก็คิดว่าพวกเขาจะบรรจุมันเอาไว้ในตำแหน่งที่พวกเขาจะสามารถก้าวเลยผ่านมันไปก็ได้ หรือเพิ่มน้ำหนักให้มันแรงยิ่งขึ้นไปอีกก็ได้” กรีนกล่าว

    การรักษามาตรการขึ้นภาษีศุลกากรของทรัมป์เอาไว้ จะเป็นการกระทำซึ่งขัดแย้งตรงกันข้ามจากถ้อยคำวาจาเกี่ยวกับการค้าของไบเดนก่อนหน้านี้ เป็นต้นว่าเมื่อตอนที่ยังเป็นวุฒิสมาชิกอยู่ เขาเคยออกเสียงสนับสนุนพวกนโยบายปรับความสัมพันธ์ทางการค้ากับจีนให้เข้าสู่ภาวะปกติ รวมทั้งเห็นด้วยกับการให้จีนได้เข้าเป็นสมาชิกขององค์การการค้าโลก (WTO) ตลอดจนรับรองเห็นชอบกับข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ (North American Free Trade Agreement)

    เมื่อตอนรณรงค์หาเสียงเพื่อให้ได้รับการเสนอชื่อจากพรรคเดโมแครตให้เป็นผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดี เขาเคยพูดเอาไว้ว่า “พวกเกษตรกรของอเมริกากำลังถูกบดขยี้จากสงครามภาษีศุลกากรที่ (ทรัมป์) ทำกับจีน” พร้อมกับพูดต่อไปว่า ทรัมป์ “คิดว่าภาษีศุลกากรของเขานั้นจีนกำลังเป็นคนจ่าย แต่นักศึกษาเศรษฐศาสตร์ระดับเพิ่งเริ่มต้นคนไหนก็ตามใน ไอโอวา (University of Iowa มหาวิทยาลัยไอโอวา) หรือ ไอโอวา สเตท (Iowa State University มหาวิทยาลัยรัฐไอโอวา) ก็สามารถบอกคุณได้ทั้งนั้นแหละว่า ประชาชนชาวอเมริกันต่างหากที่กำลังเป็นคนจ่ายภาษีศุลกากรของเขา”

    คามาลา แฮร์ริส (Kamala Harris) ผู้ร่วมทีมของไบเดนที่ลงแข่งขันชิงตำแหน่งรองประธานาธิบดี ก็เป็นผู้ที่คัดค้านแบบแผนวิธีการของทรัมป์อย่างแข็งขัน โดยบอกว่า “สงครามการค้ากำลังบดขยี้เกษตรกรชาวอเมริกา ฆาตกรรมตำแหน่งงานอเมริกัน และกำลังลงโทษผู้บริโภคชาวอเมริกัน”

    “ดิฉันจะทำงานกับพวกชาติพันธมิตรของเราในยุโรปและเอเชียเพื่อประจันหน้ากับจีนในเรื่องวิธีการปฏิบัติทางการอย่างแย่ๆ ของจีน แต่ไม่ใช่การสืบต่อทำให้สงครามภาษีศุลกากรที่กำลังล้มเหลวของทรัมป์กลายเป็นเรื่องถาวรอมตะ โดยคนที่กำลังจ่ายภาษีศุลกากรพวกนั้นอยู่ก็คือชาวอเมริกันผู้กำลังทำงานหนัก” เธอกล่าว ในช่วงรณรงค์หาเสียงเพื่อชิงชัยเป็นผู้สมัครของพรรคเดโมแครต

    ดังนั้น หากทั้งคู่ชนะได้รับเลือกตั้ง บางคนบางฝ่ายจึงคาดหมายว่าจะมีการพิจารณาทบทวนเรื่องมาตรการขึ้นภาษีศุลกากรเหล่านี้ โดยพวกที่ถูกมองว่าสร้างความเสียหายให้แก่ชาวอเมริกันมากที่สุดจะถูกยกเลิกไป

    “ฉันคิดว่าเขาจะพิจารณาทบทวนภาษีศุลกากรเหล่านี้ โดยมองดูว่าอันไหนที่กำลังจะส่งเสริมสนับสนุนจริงๆ ต่อเป้าหมายของเขาในเรื่องการฟื้นฟูอุตสาหกรรมการผลิตสหรัฐฯ และอันไหนไม่ใช่” บัลซ์แซน อดีตเจ้าหน้าที่การค้าสหรัฐฯ กล่าว “ถ้าคุณมองดูการวิพากษ์วิจารณ์ของเดโมแครตบางอันต่อวิธีการที่ทรัมป์กระทำอยู่เกี่ยวกับเรื่องภาษีนี่ให้ดี มันไม่ใช่เป็นการโจมตีภาษีพวกนี้ในตัวมันเองเท่าไหร่หรอก แต่มันเป็นเรื่องที่พวกเขารู้สึกว่าเขาทำเรื่องนี้ลงไปด้วยวิธีการที่ขบคิดพิจารณาอย่างไม่เหมาะสมถูกต้องต่างหาก”

    แต่สำหรับนโยบายการค้าอื่นๆ ซึ่งโฟกัสที่จีนของทรัมป์นั้น บางเรื่องคณะบริหารไบเดนอาจจะมีช่องทางสำหรับการยักย้ายเปลี่ยนแปลงลดน้อยลง ตัวอย่างเช่น เรื่องการถอดถอนฐานะพิเศษทางการค้าของฮ่องกง, การลงโทษคว่ำบาตรพวกเจ้าหน้าที่ของฮ่องกงและของจีนแผ่นดินใหญ่จากเรื่องการออกกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติเพื่อใช้กับฮ่องกง, การควบคุมการส่งออกเทคโนโลยีที่มีความอ่อนไหว, ตลอดจนพวกมาตรการห้ามขนส่งสินค้าและการลงโทษคว่ำบาตรที่เกี่ยวข้องกับการที่จีนละเมิดสิทธิมนุษยชนในซินเจียง

    อย่างไรก็ตาม โดยภาพรวมแล้วแทบจะพูดได้อย่างมั่นใจว่า ไบเดนจะทำอะไรอย่างชนิดคาดทายทำนายได้มากยิ่งกว่าทรัมป์ เขาจะเสาะแสวงหาทางสร้างความเป็นพันธมิตรขึ้นมาใหม่กับพวกหุ้นส่วนที่เคยถูกทรัมป์หยามหมิ่น ในจังหวะเวลาที่จีนกำลังมีเรื่องทะเลาะวิวาทกับทั้งออสเตรเลีย, อินเดีย, แคนาดา รวมทั้งยังกำลังต่อสู้ดิ้นรนหนักเพื่อผลักดันให้เกิดความก้าวหน้าในเรื่องการทำสนธิสัญญาการลงทุนกับสหภาพยุโรป

    “จีนอาจจะเพียงแค่กำลังฉวยใช้ประโยชน์จากความผันผวนแปรปรวนของช่วงโรคระบาด และสูญญากาศทางอำนาจระดับโลกซึ่งเกิดขึ้นมาจากการที่คณะบริหารสหรัฐฯไม่ยอมแสดงบทบาท แต่มีเหตุผลดีทีเดียวที่จะเชื่อว่าการปรับเปลี่ยนอันลึกซึ้งกว่านั้นและคงทนถาวรกว่านั้นกำลังปรากฏออกมาให้เห็น โลกอาจจะกำลังเกิดความตระหนักสำนึกเป็นครั้งแรกว่านโยบายการต่างประเทศแบบแข็งกร้าวยืนกรานอย่างแท้จริงของจีนนั้นมีรูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร” นี่เป็นข้อเขียนของ เคิร์ต แคมป์เบลล์ ที่ปรึกษาคนหนึ่งของไบเดน ซึ่งเป็นหนึ่งในทีมสถาปนิกจัดวางนโยบาย “ปักหมุดสู่เอเชีย” (Pivot to Asia) ของโอบามา ในบทความที่เผยแพร่ทางวารสาร ฟอเรนจ์ แอฟแฟรส์ (Foreign Affairs) เมื่อเร็วๆ นี้

    แต่พวกนักวิเคราะห์เรื่องการเมืองของจีนกำลังมีความเห็นแตกแยกกันว่า การหวนกลับไปสู่ลัทธิพหุนิยมและการมุ่งรวมกลุ่มกับพวกชาติพันธมิตรขึ้นมาใหม่ เพื่อใช้รับมือกับจีนเช่นนี้ จะก่อให้เกิดความหวาดกลัวขึ้นในแวดวงแห่งอำนาจภายในกองบัญชาการของคณะผู้นำจีนที่วังจงหนานไห่ในกรุงปักกิ่งหรือไม่

    “ปักกิ่งน่าจะยังต้องการได้ทรัมป์มากกว่าไบเดน เพราะไบเดนขาดบุคลิกภาพอันโดดเด่นในการชี้นำนโยบายจีน นี่หมายความว่าเขาจะทำตัวเป็นตัวแทนฉันทามติของสองพรรคการเมืองอเมริกัน” อู่ เฉียง (Wu Qiang) นักวิเคราะห์การเมืองอิสระในกรุงปักกิ่ง ให้ความเห็น “ไบเดนบอกว่าเขาจะปรับปรุงความสัมพันธ์ที่มีอยู่กับพวกชาติพันธมิตร ซึ่งเป็นสิ่งที่ทรัมป์ไม่ได้เคยทำในรอบระยะ 4 ปีที่ผ่านมา”

    นี่ก็เป็นทัศนะที่ได้รับการรายงานข่าวกันอย่างกว้างขวางก่อนที่ความสัมพันธ์สหรัฐฯ-จีนจะอยู่ในอาการดิ่งลงเหวในช่วงที่เกิดโรคระบาดใหญ่ โดยเวลานั้นเห็นกันว่าปักกิ่งปรารถนาที่จะรับมือกับประธานาธิบดีซึ่งนิยมการแลกเปลี่ยนกัน มากกว่าประธานาธิบดีผู้ต้องการผลักดันให้เกิดการปฏิรูปอย่างลึกซึ้งถึงรากเหง้า แต่เมื่อในเวลานี้ทรัมป์กำลังมีความแข็งกร้าวกับจีนมากยิ่งขึ้นทุกวี่วัน และความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศในปัจจุบันก็อยู่ในภาวะแตกร้าวหนัก จึงทำให้ผู้คนจำนวนมากรู้สึกแน่ใจน้อยลง

    “มันเป็นทัศนะสามัญทั่วไปในหมู่เพื่อนร่วมงานชาวจีนของผมเลยว่า ใช่แล้ว ทรัมป์กำลังทำความเลวร้ายมากให้แก่จีน แล้วมันอาจจะเลวร้ายยิ่งขึ้นไปอีก แต่หลักๆ แล้วเขาโฟกัสเน้นหนักในประเด็นทางศรษฐกิจ และเขากำลังทำลายอเมริกาตลอดจนกลุ่มพันธมิตรตะวันตกของอเมริกา ซึ่งนี่แหละกลับจะเป็นการช่วยเหลือจีนในระยะยาว” เป็นคำบอกเล่าของ สุ่ยเซิง เจ้า (Suisheng Zhao) ผู้อำนวยการของศูนย์กลางเพื่อความร่วมมือจีน-สหรัฐฯ (Centre for China-US Cooperation) ณ มหาวิทยาลัยเดนเวอร์ (University of Denver) โดยที่ตัวเขาเองคิดว่าเวลานี้ปักกิ่งน่าจะพึงพอใจปรปักษ์ที่มีความเป็นแบบแผนปกติอย่างไบเดนมากกว่า

    เจ้าบอกด้วยว่า “แต่ผมบอกพวกเขา (เพื่อนร่วมงานชาวจีน) ว่า ความคิดแบบนั้นนะผิดพลาดอย่างสิ้นเชิง แม้กระทั่งเมื่อมองจากทัศนะมุมมองของฝ่ายจีน ทรัมป์กำลังทำลายอเมริกาก็จริง แต่เขาก็กำลังทำลายจีนด้วย เขากำลังทำลายทั่วทั้งโลกนั่นแหละ … ดังนั้นมันจึงไม่ใช่เรื่องดีสำหรับในระยะยาวหรอก”

    https://sondhitalk.com/2020/09/19/9262
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,324
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ #ไบเดนกำลังจะชนะเลือกตั้งแล้ว !

    เช้านี้คะแนนนำห่างทรัมป์ 264 ต่อ 214 และทางไบเดนต้องการชัยชนะในอีกเพียงแค่รัฐเดียวก็จะกลายเป็น #ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐ

    แต่… #ทางทรัมป์ยังไม่ยอมง่ายๆ เข้าฟ้องศาลให้ทำการนับคะแนนใหม่ในบางรัฐและให้ระงับการนับคะแนนจากไปรษณีย์ที่ยังไม่ได้ทำการนับแล้ว

    ตื่นมาเช้านี้โลกเรากำลังเกือบจะได้ประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐแล้ว

    หลังจากที่คะแนนกำลังไล่กันอย่างสูสีทั้งวันเมื่อวานนี้ พอเริ่มเปิดกล่องนับคะแนนใหม่ในวันที่ 2 คะแนนของโจ ไบเดนกลับฉีกนำทรัมป์อย่างเห็นได้ชัด และกำลังได้ชัยชนะไปในรัฐ Swing States หรือรัฐที่มีคะแนนไล่เลี่ยกันและยังอาจมีการพลิกล็อคกันได้อยู่

    โดยเฉพาะรัฐ Michigan และ Wisconsin ที่เป็นรัฐที่ทรัมป์เคยครองชัยชนะได้เมื่อ 4 ปีก่อน แต่มาวันนี้อยู่ดีๆคะแนนของไบเดนก็พลิกขึ้นนำทรัมป์ในการนับคะแนนวันที่สอง

    ทำให้ตอนนี้ด้วยคะแนน Electoral Vote ที่ไบเดนนำห่างที่ 264 ต่อ 214 หากเขาได้ชัยชนะไปจากอีกเพียงรัฐเดียวเขาก็จะได้คะแนนเกิน 270 คะแนนและ #ชนะการเลือกตั้งไปโดยทันที

    แต่... ทางทรัมป์ยังไม่ยอมง่ายๆ

    วันนี้ทางทรัมป์ได้มีการฟ้องและขอเรียกร้องให้มีการนับคะแนนเลือกตั้งใหม่ในรัฐ Wisconsin ที่คะแนนยังเฉือนกันอยู่ไม่มากแต่ทางไบเดนได้รับชับชนะไปอย่างหวุดหวิด และได้ขอให้มีการหยุดนับคะแนนจากไปรษณีย์ในรัฐ Michigan ที่ยังไม่ได้ทำการนับแม้ว่าจดหมายจะเข้ามาถึงคูหาแล้วก็ตาม

    ต้องติดตามชมกันอย่างใหล้ชิดว่าความดื้อดึงของทรัมป์จะหยุดชัยชนะของไบเดนในครั้งนี้ได้หรือไม่ เพราะเขาเคยเป็นผู้ชนะและผู้คุมคะแนนรัฐทั้ง 2 นี้มาก่อน

    ✅ ติดตามผลการเลือกตั้งอย่างใกล้ชิดไปกับเพจเราได้ ทางเราจะพยายามหาข้อมูลมาให้ท่านนักลงทุนอย่างรวดเร็วที่สุด กดติดตามทางทางเพจไว้ได้เลยครับ !

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     

แชร์หน้านี้

Loading...