ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อเมริกันเริ่มออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งปธน.สหรัฐฯ “ทรัมป์” เล็งเก็บตัวในทำเนียบขาวทั้งวัน “ไบเดน” หาเสียงในรัฐเพนซิลเวเนีย
    .
    .
    .
    .รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – มีประชาชนอเมริกันออกไปใช้สิทธิ์เลือกตั้งก่อนวันนี้(3 พ.ย)จำนวนกว่า 100 ล้านคนออกไปใช้สิทธ์เลือกตั้งแล้ว มีบางคูหาเลือกตั้งในฝั่งตะวันออกสหรัฐฯเปิดทำการเวลา 06.00 น. ภาพคนยืนรอต่อคิวที่คูหาในบรุ๊คลิน นิวยอร์กเวลา 05.45 น.เพื่อใช้สิทธิครั้งประวัติศาสตร์ ทำเนียบขาวตั้งรั้วกั้นรอบแบบที่ปีนข้ามไม่ได้ก่อนหน้าพบผู้นสหรัฐฯจะลุ้นระทึกผลคะแนนในทำเนียบทั้งวัน ส่วนโจ ไบเดน คู่แข่งมีแผนจะเดินทางไปรัฐเพนซิลเวเนียเพื่อเกลี้ยกล่อมคนที่ยังไม่ตัดสินใจ
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(3 พ.ย)ว่า ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯซึ่งตรงกับเช้าตรู่วันอังคาร(3) วันเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯศึกการตัดสินชี้ชะตาชาวอเมริกันอีก 4 ปีข้างหน้าว่าจะต้องอยู่ภายใต้ประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน โดนัลด์ ทรัมป์ ต่อไปหรือเลือกที่จะยืนอยู่กับโจ ไบเดน จากพรรคเดโมแครตที่มีผลงานในสมัยอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา การันตี พบว่าคูหาเลือกตั้งในฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯได้เปิดขึ้นในเวลา 06.00 น. โดยมีภาพหนึ่งในผู้ใช้สิทธิ์ที่เมืองบรุ๊คลิน รัฐนิวยอร์ก ถ่ายภาพแสดงให้เห็นคนที่กำลังรอต่อแถวเข้าคิวยาวในเวลา 05.45 น. และอีก 15 นาที คูหาจึงจะเปิด อ้างอิงจากเดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รอยเตอร์ชี้ว่า เวลาราว 19.00 น. จะเป็นเวลาที่ผลต่างๆจะเริ่มปรากฎออกมา
    .
    อ้างอิงจาก CNN สื่อสหรัฐฯพบว่า มีจำนวนประชาชนชาวอเมริกันกว่า 100 ล้านคนได้ออกไปใช้สิทธิ์ก่อนหน้าแล้วรวมไปถึงประธานาธิบดีทรัมป์ และไบเดนคู่แข่งของเขา
    .
    ซึ่งสำหรับทั้งวันนี้อ้างอิงจากบีบีซี สื่ออังกฤษ พบว่า ทรัมป์เลือกที่จะเก็บตัวตลอดทั้งวันที่ทำเนียบขาว ซึ่งจะมีการให้สัมภาษณ์ และคงจะชมรายงานสดผ่านทางเคเบิลทีวีเหมือนอย่างที่ทุกคนทราบดีว่าเขาชื่นชอบทำในสิ่งนี้มาก โดยมีการโทรศัพท์ให้สัมภาษณ์กับรายการฟ็อกซ์และเพื่อน(Fox & Friends) ทางสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ขาใหญ่ของพรรครีพับลิกันได้ถูกกำหนดขึ้นในเช้าวันอังคาร(3)
    .
    โดยในการให้สัมภาษณ์ เดอะการ์เดียนรายงานว่า ผู้นำสหรัฐฯยังคงยืนยันในการให้สัมภาษณ์ในรายการว่าตัวเขาจะเป็นผู้ชนะ แต่ยืนยันว่า เขาจะประกาศชัยชนะก็ต่อเมื่อมีชัยเกิดขึ้น และคาดว่าจะสามารถเก็บเสียงคะแนนคณะผู้แทนเลือกตั้ง (electoral vote) ได้ 306 คะแนน
    .
    แต่อย่างไรก็ตามสื่ออังกฤษชี้ว่า มีคนไม่ต่ำกว่า 2 คนลงความเห็นว่าน้ำเสียงของทรัมป์เช้าวันเลือกตั้งจริงไม่ดูเหมือนสดใสอย่างที่เคย
    .
    บีบีซีรายงานว่า ซึ่งมีอดีตรัฐมนตรียุติธรรมสหรัฐฯ 2 คนที่หนึ่งในนั้นคือ เอริค โฮลเดอร์ ในสมัยของอดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ บารัค โอบามา ได้ออกมาเตือนถึงผลของการไม่ยอมรับการเลือกตั้งผ่านบทความแสดงความคิดเห็นของหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์
    .
    และนอกจากทรัมป์แล้วสื่ออังกฤษคาดว่า เขาจะอยู่ร่วมกับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ไมค์ เพนซ์ และครอบครัวทรัมป์เพื่อติดตามผลการเลือกตั้ง บีบีซีกล่าวว่า ทรัมป์เลี่ยงจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯที่สอบตกในการเลือกตั้งสมัย 2 ที่เกิดขึ้นเมื่อครั้งอดีตประธานาธิบดี จอร์จ เอช.ดับเบิลยู บุช ผู้พ่อเมื่อปี 1992
    .
    ส่วนวันเลือกตั้งสำหรับโจ ไบเดน พบว่าตัวแทนพรรคเดโมแครตจะเดินทางไปที่รัฐเพนซิลเวเนียเพื่อหว่านล้อมกลุ่มผู้มีสิทธิ์ที่ยังไม่ตัดสินใจ ซึ่งรัฐนี้ถือเป็นรัฐสวิงสเตทที่สำคัญในการเลือกตั้ง และจะจัดการปราศรัยย่อยที่เมืองสครานตัน(Scranton)ซึ่งเป็นเมืองที่เคยอยู่สมัยเด็ก และในเมืองฟิลาเดลเฟียก่อนที่จะเดินทางด้วยเครื่องบินกลับไปยังรัฐเดลาแวร์เพื่อฟังผลและเฝ้ารอ
    .
    ทั้งนี้เป็นที่คาดกันว่าไบเดนจะขึ้นประกาศแถลงที่เมืองงวิลมิงตัน(Wilmington) รัฐเดลาแวร์
    .
    ซึ่งมีการวิตกว่าการเลือกตั้งสหรัฐฯรอบนี้จะนำไปสู่ความรุนแรง โดยเดอะการ์เดียนรายงานวันจันทร์(2)ว่า ทำเนียบขาวได้ตั้งรั้วแบบไม่สามารถปีข้ามได้ติดตั้งรอบทำเนียบขาวเป็นปราการให้กับผู้นำสหรัฐฯ โดยนักข่าว NBC News ได้ทวีตวันอาทิตย์(1)ว่า “แหล่งข่าวเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายรัฐบาลกลางสหรัฐฯเปิดเผยกับ NBC News ว่า เริ่มตั้งแต่พรุ่งนี้ที่จะมีทีมงานจะสร้างรั้วล้อมรอบทำเนียบขาว สวนสาธารณะอิลิปเซ และจตุรัสลาฟาเยต

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “Ant กรุ๊ป” ของ "แจ็ค หม่า" ถูกตลาดหุ้นเซียงไฮ้-ฮ่องกงสั่งแขวนพักการซื้อขายหุ้น IPO มูลค่าสุดช็อก 34 พันล้านดอลลาร์
    .
    .
    .รอยเตอร์/เอเอฟพี/เอเจนซีส์ – ตลาดหุ้นเซียงไฮ้และตลาดหุ้นฮ่องกงวันนี้(3 พ.ย)ออกคำสั่งประกาศแขวนพักการซื้อขายหุ้น IPO ครั้งประวัติศาสตร์ของบริษัท Ant กรุ๊ป (Ant Group) มูลค่า 34 พันล้านดอลลาร์ เกิดขึ้นหลัง แจ็ค หม่า และผู้บริหารคนอื่นที่สั่งเรียกตัวเข้าไปหารือในวันจันทร์(2 พ.ย)
    .
    รอยเตอร์รายงานวันนี้(3 พ.ย) ตลาดหุ้นเซียงไฮ้เป็นแห่งแรกที่ประกาศการตัดสินใจสั่งแขวนการพักซื้อขายหุ้น IPO มูลค่ารวม 34 พันล้านดอลลาร์ของบริษัท Ant กรุ๊ป (Ant Group) ต่อตลาด STAR ของตัวเองส่งผลทำให้ทางตลาดหุ้นฮ่องกงตัดสินใจแขวน Ant 6688.HK688688.SS ตามไปด้วย
    .
    ทั้งนี้หุ้น IPO หรือ หุ้น Initial Public Offering คือ หุ้นที่มีการเปิดขายแก่บุคคลทั่วไปเป็นครั้งแรก หรืออีกนัยหนึ่งก็มีความหมายถึง การที่บริษัทนำหุ้นเข้าตลาดหลักทรัพย์ด้วย
    .
    ทาง Ant กรุ๊ปแถลงว่า คำสั่งการสั่งแขวนเกิดขึ้นหลังจากในวันจันทร์(2)ที่ แจ็ค หม่า ผู้ก่อตั้งของ Ant กรุ๊ป และผู้บริหารคนอื่นๆถูกเรียกตัวให้ไปหารือกับผู้กำกับซึ่งถือเป็นเรื่องที่ไม่ปกติ โดยคำสั่งการแขวนเกิดขึ้นจากการอ้างเหตุวิตกว่าทาง Ant กรุ๊ปจะไม่สามารถทำตามเงื่อนไขต่างๆตามข้อกำหนดในการเข้าตลาดหลักทรัพย์ได้ เกิดขึ้นท่ามกลางการรายงานของสื่อจีนที่ออกมาชี้เรื่องถึงความน่าวิตกต่อการไม่มีเสถียรภาพทางการเงินที่ส่งผลมาจากการเติบโตอย่างรวดเร็วของ Ant กรุ๊ป อ้างอิงจากเอเอฟพี
    .
    บริษัทแห่งนี้มีที่มีผู้ใช้จริงต่อเดือนมากกว่า 700 ล้านคนช่วยสร้างปรากฎการณ์ทางด้านการค้าและการเงินส่วนบุคคลในจีนโดยที่ผู้ใช้จะใช้แอปบนโทรศัพท์สมาร์ทโฟนเพื่อชำระค่าสินค้าหรือค่าบริการทุกสิ่งตั้งแต่ค่าอาหารไปจนถึงการซื้อของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตไปถึงตั๋วโดยสาร
    .
    แต่ทว่าการให้บริการกู้ยืม การจัดการความมั่งคั่ง และการบริการประกันภัยของ Ant กรุ๊ปกลับสร้างความวิตกให้กับภาคส่วนการเงินที่ถูกควบคุมของรัฐ เอเอฟพีชี้
    .
    รอยเตอร์ชี้ว่า ทาง Ant กรุ๊ปเตรียมเข้าตลาดหุ้นที่เซี่ยงไฮ้และฮ่องกงในวันพฤหัสบดี(5)หลังจากระดมทุนมาได้ถึง 37 พันล้านดอลลาร์ รวมไปถึงการเสนอขายหลักทรัพย์ส่วนเพิ่มโดยมีเงื่อนไขซื้อคืน. การให้สิทธิแก่ผู้รับประกันการจำหน่ายหลักทรัพย์(GREENSHOE OPTION)

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ออสเตรียปิดเมืองล่าพวกหนุนไอเอส ขณะยอดเสียชีวิตจากเหตุกราดยิง‘เวียนนา’เพิ่มเป็น5

    ตำรวจออสเตรียอย่างน้อย 1,000 คนปิดเมืองเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ล่ามือปืนที่ก่อเหตุโจมตีในเมืองหลวงเวียนนาตอนค่ำวันจันทร์ (2) ทำให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 คน บาดเจ็บอีกกว่า 10 คน โดยรัฐมนตรีมหาดไทยระบุเป็นผู้ก่อการร้ายอิสลามิสต์และอาจมีมากกว่า 1 คน ขณะที่นายกรัฐมนตรีชี้ผู้ก่อเหตุวางแผนมาแบบมืออาชีพ

    คาร์ล เนแฮมเมอร์ รัฐมนตรีมหาดไทยออสเตรีย แถลงในเช้าวันอังคาร (3) โดยย้ำให้ประชาชนงดออกจากบ้าน และเผยว่า ตำรวจยิงผู้ก่อเหตุเสียชีวิต 1 คน เป็นชายสวมเข็มขัดระเบิดปลอมและทางการระบุว่า เป็นผู้สนับสนุนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)

    รายงานระบุว่า ผู้ก่อเหตุที่ถูกตำรวจยิงเสียชีวิต รวมทั้งน่าจะมีมือปืนคนอื่นๆ ได้เปิดฉากโจมตีสถานที่ต่างๆ 6 แห่งในกรุงเวียนนาเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น. วันจันทร์ เริ่มต้นจากหน้าโบสถ์ยิว ขณะที่มีผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ใช้ปืนไรเฟิลอัตโนมัติกราดยิงเข้าไปในบาร์หลายแห่งที่มีลูกค้าแน่น เนื่องจากคนจำนวนมากต้องการใช้เวลาหย่อนใจให้เต็มคาบก่อนที่รัฐบาลจะเริ่มมาตรการเคอร์ฟิวทั่วประเทศเพื่อสกัดโควิด-19 ในอีกไม่กี่ชั่วโมงถัดไป

    นายกรัฐมนตรีเซบาสเตียน เคิร์ซ ประณามเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นการก่อการร้ายที่น่ารังเกียจ พร้อมระบุว่า ผู้โจมตีพกอาวุธปืนอัตโนมัติและมีการเตรียมพร้อมมาอย่างดีระดับมืออาชีพ

    ในวันอังคาร ตำรวจยืนยันว่า เหตุการณ์ดังกล่าวทำให้ประชาชนเสียชีวิต 3 คน เป็นชาย 2 คน และหญิง 1 คน นอกจากนั้นยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอย่างน้อย 15 คน ซึ่งรวมถึงตำรวจ 1 นาย และในจำนวนนี้มีผู้บาดเจ็บสาหัส 7 คน และต่อมาสถานีทีวีโออาร์เอฟรายงานว่า มีผู้หญิงอีกคนเสียชีวิต

    เนแฮมเมอร์เสริมว่า สามารถยึดวิดีโอจากบ้านของผู้ก่อเหตุระหว่างการตรวจค้น และตำรวจกำลังสืบสวนขยายผลไปถึงพวกผู้ร่วมขบวนการคนอื่นๆ อย่างไรก็ดี ไม่มีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุเพิ่มเติมเนื่องจากเกรงว่า จะมีผลกับการสอบสวน

    ขณะเดียวกัน สำนักข่าวเอพีเอรายงานว่า บ้านหลายหลังถูกค้นและยังมีการออกหมายจับจำนวนมาก ทว่า โฆษกกระทรวงมหาดไทยยังไม่ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวนี้

    เคิร์ซสำทับว่า ขณะที่ตำรวจโฟกัสกับการต่อต้านการก่อการร้าย ทหารจะรับผิดชอบดูแลความปลอดภัยอาคารสถานที่สำคัญๆ ในเวียนนา

    ทั้งนี้ ตำรวจปิดล้อมย่านประวัติศาสตร์ในกรุงเวียนนาเมื่อคืนวันจันทร์ และขอให้ประชาชนอยู่แต่ในบ้าน ระบบขนส่งทั่วเขตเมืองเก่าปิดให้บริการ รวมทั้งปิดโรงเรียนในวันอังคารด้วย ขณะที่ตำรวจอย่างน้อย 1,000 นายเร่งล่าตัวผู้มีส่วนร่วมในการก่อเหตุโจมตีครั้งนี้ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกในรอบหลายสิบปีที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของออสเตรีย

    ทั้งนี้ ออสเตรียเป็นหนึ่งในประเทศที่เป็นสมาชิกแนวร่วมต่อต้านไอเอสที่อเมริกาก่อตั้งขึ้นในปี 2014

    ออสการ์ ดอยช์ ผู้นำชุมชนยิวในเวียนนาที่มีสำนักงานอยู่ติดกับโบสถ์ยิวบนถนนแคบๆ ที่ปูด้วยหินก้อนใหญ่และเต็มไปด้วยผับบาร์ ทวิตว่า ยังไม่ชัดเจนว่า สำนักงานหรือโบสถ์ยิวเป็นเป้าหมายการโจมตีครั้งนี้

    วิดีโอที่เผยแพร่บนโซเชียลมีเดียมีภาพมือปืนคนหนึ่งวิ่งไปตามถนนดังกล่าวและกราดยิงพร้อมตะโกน

    ทั่วโลกต่างส่งข้อความแสดงความเสียใจไปยังออสเตรีย เช่น ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่บอกว่า อเมริกาจะสวดภาวนาให้ประชาชนในเวียนนาภายหลังการก่อการร้ายชั่วช้าอีกครั้งในยุโรป และว่า อเมริกาจะยืนหยัดเคียงข้างออสเตรีย ฝรั่งเศส และประเทศทั้งหมดในยุโรปเพื่อต่อสู้กับผู้ก่อการร้าย ซึ่งรวมถึงผู้ก่อการร้ายอิสลามหัวรุนแรง

    ขณะที่อดีตรองประธานาธิบดีโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ ในการเลือกตั้งที่เริ่มต้นขึ้นแล้วเมื่อวันอังคาร ประณามการโจมตีน่าขนลุกของผู้ก่อการร้าย และสำทับว่า นานาชาติจะต้องสามัคคีกันเพื่อต่อต้านความเกลียดชังและความรุนแรง

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เข้าวันเลือกตั้ง ‘ไบเดน’ยังนำ ‘ทรัมป์’ ขณะทั้งคู่ต่างเตรียมทัพนักกฎหมายสู้ศึกในศาลหลังผ่าน 3 พ.ย.

    ทั้งทรัมป์และไบเดน ต่างเร่งหาเสียงครั้งสุดท้ายเพื่อแย่งชิงคะแนนโหวตในรัฐที่ถือเป็นสมรภูมิสำคัญ ขณะที่ทีมงานของทั้งสองฝ่ายต่างเตรียมนักกฎหมายพรักพร้อมรับมือข้อพิพาทหลังการเลือกตั้ง ที่อาจทำให้ผลการนับคะแนนชี้ขาดผู้ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ของสหรัฐฯ ลากยาวไปอีกหลายวันหรือหลายสัปดาห์

    อเมริกาในวันนี้ เต็มไปด้วยความแตกแยกและความกราดเกรี้ยวมากกว่าช่วงเวลาใดๆ นับจากสงครามเวียดนามในทศวรรษ 1970 เป็นต้นมา นอกจากนั้นยังมีความกลัวกันว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ อาจคัดค้านไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งหากปรากฏว่าเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ยิ่งตึงเครียดมากขึ้นไปอีก

    ทรัมป์ที่เป็นฝ่ายไล่ตามในโพลสำรวจความคิดเห็นทั่วประเทศแทบทุกสำนัก ยังคงโจมตีการเลือกตั้งทางไปรษณีย์โดยไม่มีหลักฐานระหว่างการหาเสียงในวันจันทร์ (2 พ.ย.) และพูดเป็นนัยว่า ได้จัดเตรียมทีมกฎหมายมาดำเนินการ หากมีรัฐซึ่งยังคงนับคะแนนต่อไปภายหลังวันอังคาร (3) ซึ่งเป็นวันเลือกตั้ง

    ทั้งนี้ ศาลสูงสุดรัฐเพนซิลเวเนียได้ตัดสินสั่งให้ยังต้องนับคะแนนบัตรเลือกตั้งส่งทางไปรษณีย์ ซึ่งประทับตราวันที่หน้าซองภายในวันเลือกตั้ง 3 พ.ย. แต่มาถึงเจ้าหน้าที่รับผิดชอบหลังวันเลือกตั้ง 3 วัน และเมื่อฝ่ายสนับสนุนทรัมป์ยื่นคัดค้านไปยังศาลสูงสุดสหรัฐฯ ปรากฏว่าศาลสูงสุดสหรัฐฯไม่ได้สั่งระงับคำสั่งของทางเพนซิลเวเนีย ทว่ามีบุคคลวงการยุติธรรมฝ่ายอนุรักษนิยมแสดงท่าทีว่า พวกเขาจะกลับมารื้อฟื้นเรื่องนี้อีกภายหลังการเลือกตั้งผ่านไปแล้ว

    ทรัมป์กล่าวกับผู้สื่อข่าวในวันจันทร์ (2) ว่า การกระทำของรัฐเพนซิลเวเนีย จะนำไปสู่การโกงการเลือกตั้งครั้งใหญ่โดยไม่ได้อธิบายว่า จะมีการโกงกันได้อย่างไร ขณะที่ผู้เชี่ยวชาญจำนวนมากระบุว่า เหตุการณ์โกงเลือกตั้งเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นน้อยมากในประวัติศาสตร์การเลือกตั้งของสหรัฐฯ

    ประมุขทำเนียบขาวคนปัจจุบันยังโพสต์บนเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ว่า การตัดสินใจของศาลสูงสุดสหรัฐฯในการไม่คัดค้านเรื่องขยายเวลาการนับคะแนนจะกระตุ้นให้เกิดความรุนแรงบนท้องถนน

    แนวโน้มที่จะเกิดความไม่แน่นอนในการเลือกตั้ง กำลังทำให้ร้านค้ามากมายในเมืองต่างๆ ซึ่งรวมถึงกรุงวอชิงตัน นครนิวยอร์ก และกระทั่งนครลองแองเจลิส พากันนำไม้อัดขนาดใหญ่มาตอกปิดกระจกหน้าร้านเพื่อป้องกันเหตุการณ์รุนแรง

    ด้านเฟซบุ๊กและทวิตเตอร์ ต่างติดธงเตือนโพสต์โจมตีการโหวตทางไปรษณีย์ขององทรัมป์ โดยระบุว่า เนื้อหาดังกล่าวอาจทำให้เกิดการเข้าใจผิด และยังระบุว่า การลงคะแนนทั้งด้วยตนเองและทางไปรษณีย์ในอดีตที่ผ่านมาล้วนน่าเชื่อถือ นอกจากนั้นสื่อสังคมชั้นนำทั้งสองรายนี้ยังสำทับว่า จะติดเครื่องหมายเตือนข้อความที่เป็นการกล่าวอ้างชัยชนะล่วงหน้าด้วย ยกเว้นแต่เป็นการคาดการณ์ของสื่อระดับชาติซึ่งมีชื่อเสียงเป็นที่น่าเชื่อถือ

    ทั้งนี้ ในอเมริกา ถือเป็นเรื่องไม่ปกติที่รัฐต่างๆ จะต้องใช้เวลานับคะแนนการเลือกตั้งยืดเยื้อหลายวันหรือกระทั่งหลายสัปดาห์ แม้จะเป็นสิ่งที่เคยมีตัวอย่างเกิดขึ้นในอดีตก็ตามที แต่สำหรับปีนี้เนื่องจากมีผู้เลือกตั้งเกือบ 100 ล้านคนพากันไปลงคะแนนล่วงหน้าทั้งทางไปรษณีย์และคูหาเลือกตั้งที่เปิดล่วงหน้า เพื่อป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ซึ่งมีแนวโน้มจะทำให้การนับคะแนนล่าช้ากว่าปกติ

    เจนนิเฟอร์ โอมัลลีย์ ดิลลอน ผู้จัดการทีมแคมเปญหาเสียงของโจ ไบเดน ผู้ท้าชิงจากพรรคเดโมแครต บอกว่า ไม่ว่าในสถานการณ์ใด ทรัมป์หมดสิทธิ์ประกาศชัยชนะในคืนเลือกตั้งเด็ดขาด

    ด้านไบเดนกล่าวในวันจันทร์โดยคาดว่า ตนเองจะได้ชัยชนะอย่างรวดเร็ว แต่สำทับว่า อยากเห็นการเลือกตั้งที่ตรงไปตรงมาและราบรื่นที่ประชาชนออกไปใช้สิทธิ์กันอย่างคับคั่ง
    เท่าที่ผ่านมา การเลือกตั้งครั้งนี้ได้กระตุ้นให้เกิดการฟ้องร้องมากมายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนว่า ควรปรับกฎการลงคะแนนให้สอดคล้องกับวิกฤตโรคระบาดหรือไม่ และเวลานี้ผู้สมัครทั้งสองพรรคต่างระดมทีมนักกฎหมายเตรียมพร้อมเอาไว้สำหรับการต่อสู้ในศาลหลังการเลือกตั้งอีกด้วย

    เมื่อวันจันทร์ ศาลชั้นต้นสหรัฐฯที่ตั้งอยู่ในรัฐเทกซัส ตัดสินปฏิเสธคำร้องของพรรครีพับลิกันที่จะให้ทิ้งบัตรลงคะแนนราว 127,000 ใบจากคูหาเลือกตั้งล่วงหน้าแบบไดรฟ์-ทรูในพื้นที่ที่มีแนวโน้มให้การสนับสนุนพรรคเดโมแครต อย่างไรก็ดี จากความไม่แน่นอนทางกฎหมาย ทำให้เจ้าหน้าที่รับผิดชอบตัดสินใจปิดคูหาเลือกตั้งแบบไดรฟ์-ทรูส่วนใหญ่ในวันอังคารที่เป็นวันเลือกตั้ง

    ทรัมป์ วัย 74 ปี พยายามไม่ให้ตัวเองกลายเป็นประธานาธิบดีในตำแหน่งคนแรกที่ประสบความปราชัยในการเลือกตั้ง นับจากความพ่ายแพ้ในปี 1992 ของอดีตประธานาธิบดีจอร์จ เอช.ดับเบิลยู. บุช ซึ่งมาจากพรรครีพับลิกันเช่นเดียวกัน

    สำหรับไบเดน วัย 77 ปีนั้น แม้มีคะแนนนำในโพลทั่วประเทศ แต่ในรัฐที่เป็นสมรภูมิสำคัญนั้น คะแนนของทั้งคู่ยังใกล้กันมาก และยังคงมีความเป็นไปได้ที่ทรัมป์อาจสามารถชนะได้เสียงจากคณะผู้เลือกตั้ง (อีเล็กโทรัล คอลเลจ) เกินกึ่งหนึ่ง นั่นคือ 270 เสียงขึ้นไป และคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีอีกสมัยอย่างเดียวกับในสมัยแรก ซึ่งเขาเคยพ่ายแพ้เรื่องเสียงโหวตที่ได้จากผู้ลงคะแนนโดยตรง (ป็อปปูลาร์ โหวต) แก่ ฮิลลารี คลินตัน เกือบ 3 ล้านเสียง

    ทรัมป์ประกาศบนเวทีหาเสียงในเมืองแกรนด์ ราปิดส์ รัฐมิชิแกน ซึ่งก็เคยเป็นเวทีหาเสียงสุดท้ายเมื่อปี 2016 ของเขาเช่นกันว่า วันอังคารจะเป็นอีกหนึ่งวันแห่งชัยชนะยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์การเมือง

    ขณะเดียวกัน ผู้สนับสนุนพรรคเดโมแครตจำนวนมากยอมรับว่า ยังกังวลกับผลการเลือกตั้ง หลังจากศึกชิงทำเนียบขาวปี 2016 ทรัมป์เป็นฝ่ายพลิกล็อกชนะทั้งที่โพลแทบทุกสำนัก ยก ฮิลลารี คลินตัน จะเป็นผู้คว้าชัย

    ทางด้านอดีตประธานาธิบดีบารัค โอบามา ซึ่งเลือกไบเดนเป็นรองประธานาธิบดีทั้ง 2 สมัย และเข้าร่วมการหาเสียงกับไบเดนอย่างเข้มแข็ง วิพากษ์วิจารณ์ว่า การที่ทรัมป์ผลักดันให้หยุดนับคะแนนหลังคืนเลือกตั้งเป็นการกระทำที่ไม่เป็นประชาธิปไตย

    อนึ่ง หลังจากแวะหาเสียงในนอร์ทแคโรไลนาและเพนซิลเวเนีย ทรัมป์ยังมุ่งหน้าต่อไปยังวิสคอนซินและมิชิแกน ซึ่งเป็น 4 รัฐที่เขาได้ชัยชนะหวุดหวิดเมื่อ 4 ปีที่แล้ว และโพลขณะนี้ชี้ว่า ไบเดนกำลังเป็นต่อ

    ทรัมป์ปราศรัยกับฝูงชนจำนวนมากที่หลายคนไม่สวมหน้ากากและไม่เว้นระยะห่างทางสังคม แม้ยอดผู้ติดเชื้อในอเมริกาพุ่งไม่หยุดก็ตาม ตรงข้ามกับไบเดนที่พุ่งเป้าโจมตีความล้มเหลวของทรัมป์ในการจัดการวิกฤตไวรัสโคโรนา และจำกัดจำนวนผู้เข้าฟังปราศรัยเพื่อหลีกเลี่ยงโรคระบาด

    อดีตรองประธานาธิบดีจากพรรคเดโมแครตผู้นี้ย้ำว่า อเมริกาต้องฟื้น “จิตวิญญาณ” และได้ผู้นำใหม่ท่ามกลางวิกฤตไวรัสที่คร่าชีวิตประชาชนกว่า 231,000 คนทั่วประเทศ

    โพลของรอยเตอร์/อิปซอสในฟลอริดา ซึ่งเป็นอีกหนึ่งรัฐสมรภูมิสำคัญ ชี้ว่า ไบเดนมีคะแนนนำ 50% ต่อ 46%

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยังไม่ทันปิดหีบ!ทรัมป์โวจะชนะไบเดน ห่างกว่าตอนคว้าชัยเหนือ'ฮิลลารี คลินตัน'

    ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ฟ็อกซ์นิวส์ ในวันเลือกตั้งประธานาธิบดี 3 พฤศจิกายน คาดหมายว่าเขาจะคว้าชัยชนะหนือ โจ ไบเดน ด้วยคะแนนทิ้งห่างมากกว่าครั้งที่สร้างประวัติศาสตร์ พลิกโค่น ฮิลลารี คลินตัน เมื่อศึกเลือกตั้งปี 2016

    https://mgronline.com/around/detail/9630000114122

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรโบคอลล์ป่วนเลือกตั้งสหรัฐฯ!โทรศัพท์ลึกลับยุประชาชนอย่าออกไปใช้สิทธิ์

    สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ(เอฟบีไอ) ทราบเรื่องกรณีที่มีรายงานเกี่ยวกับระบบสายเรียกเข้าที่เป็นสแปม บริการโทรและตอบรับอัตโนมัติ หรือ Robocall ป่วนเมืองในวันเลือกตั้ง โดยยุผู้มีสิทธิ์ออกเสียง "อยู่บ้านเพื่อความปลอดภัย" อย่างไรก็ตามพวกเขาชี้แจงว่ามันเป็นเรื่องปกติ เกิดขึ้นในทุกการเลือกตั้ง

    https://mgronline.com/around/detail/9630000114125

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การวิจัยและพัฒนา "โรคอุบัติใหม่" (ตอนที่ 2)

    การวิจัยและพัฒนาไปข้างหน้า ที่สำคัญต้องทราบที่มาว่ามีการศึกษาอะไรมาก่อน และไม่ทำซ้ำการวิจัยและพัฒนาไปข้างหน้าเกี่ยวกับการแพร่กระจายไวรัสข้ามสายพันธุ์ในสิ่งมีชีวิตจากค้างคาวด้วยกันเอง จาก species หนึ่ง ไปยังคนละชนิด ลงมายังสัตว์บกเข้ามนุษย์ และจากมนุษย์กลับเข้าสู่สัตว์บกและเริ่มมีหลักฐานกลับเข้าสู่ค้างคาว
    เป็นเรื่องปกติของกำเนิดโรคอุบัติใหม่จากสัตว์สู่คน ทั้งนี้ เป็นที่ศึกษากันดีในไวรัสอาร์เอ็นเอ ตระกูล lyssavirus ถึงความสามารถที่ไวรัสจากค้างคาวจะลงไปยังสัตว์บกได้แตกต่างกัน เช่น red fox skunk raccoon เป็นต้น ในไวรัส genotype 1
    ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับ co evolution ของไวรัสจากค้างคาว และสัตว์อีกชนิดที่จำเพาะ

    ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโคโรนาไวรัส ที่จะพิสูจน์ว่า สามารถเข้าไปตั้งตัวในสัตว์อีกชนิดหนึ่งได้นั้น ในโควิด-19 สามารถที่จะเข้าร่างกายของแมว เสือ จากมนุษย์ที่ติดเชื้อและจากนั้นมีการแพร่กระจายในพวกเดียวกัน
    สำหรับสุนัขนั้นมีหลักฐานชัดเจนว่าสามารถรับเชื้อและเกิดโรคได้แต่ไม่บ่อยเท่าแมวและตัวมิ้งค์ และอาการรุนแรงน้อยกว่าหรือไม่มีอาการเลย ยกเว้นสุนัขอายุมากกว่า 10 ปีขึ้นไปที่มีรายงานว่าเกิดโรครุนแรงได้
    อย่างไรก็ตาม ถึงปัจจุบันยังไม่มีรายงานชัดเจนว่าสัตว์เลี้ยงเหล่านี้จะนำโรค กลับไปยังมนุษย์ได้มากน้อยเพียงใด แต่เป็นไปได้แน่นอน
    สำหรับการศึกษาไวรัสโคโรนาที่เรียกว่า novel coronavirus ว่าจะเข้ามนุษย์และเกิดโรคได้หรือไม่? ไม่สามารถตอบได้จากการที่ไวรัสสามารถเกาะติดกับตัวรับ receptor เท่านั้น แต่ต้องสามารถพิสูจน์ได้ว่าไวรัสนั้นสามารถตั้งต้นกระบวนการ transcription translation และ replication ได้ เช่น การพิสูจน์ว่าในเซลล์มีการสร้าง subgenomic RNA ของยีนต่างๆ

    และกระบวนการในการทำให้เกิดโรคได้ต้องสามารถแสดงให้เห็นได้ว่ามี Up หรือ Down regulation ของยีนในเซลล์นั้นๆ และมีส่วนเกี่ยวพันกระทบกับการควบคุมการทำหน้าที่หรือการทำงานของเซลล์ รวมทั้งระบบในการป้องกันภัยของเซลล์ว่าถูกยับยั้งหรือถูกกระตุ้นให้ทำงานมากเกินไปในระยะหลัง จึงจะสามารถอธิบายความเสี่ยงของไวรัสที่ยังไม่ทราบชื่อว่าสามารถที่จะติดเชื้อในมนุษย์และสามารถก่อโรคในมนุษย์ได้หรือไม่

    กล่าวโดยสรุป
    แบบแผนการวิวัฒนาการของไวรัสในตระกูลโคโรนาเป็นที่ทราบและถึงกับมีการทำนายทางวิชาการมานานรวมกระทั่งถึงการพิสูจน์ว่าเกิดขึ้นจริงแล้วในไวรัสโควิด-19 และพิสูจน์ไวรัสที่เป็นปฐมบท ก่อนที่จะเป็นโควิด-19 สิ่งที่อาจหลีกเลี่ยงไม่ได้คือการผสมควบรวมเกิดเป็นตัวใหม่ที่ไม่ใช่โควิด-19 เดิม และเกิดโรคทั้งในสัตว์และในคนใหม่
    มาตรการที่ควรทำเลยโดยไม่ต้องทำวิจัยอีกครอบคลุมทั้งโควิด-19 และโคโรนาไวรัสตัวอื่น
    1– เพื่อหาว่าคนหรือสัตว์เช่นสัตว์เลี้ยง มีการติดโควิด-19 หรือไม่? (ซึ่งสามารถกระทำได้เลยโดยไม่ต้องมีการวิจัยอีก) แต่ในทางปฏิบัติจริงเมื่อทราบแล้วจะปฏิบัติอย่างไรต่อ?
    คือการตรวจเลือดซึ่งต้องตรวจด้วยวิธีมาตรฐานดังที่ห้องปฏิบัติการโรคอุบัติใหม่สภากาชาดไทยใช้อยู่ และพิสูจน์แล้วว่ามีความไว 100% และความจำเพาะ 100% จากการตรวจสอบในผู้ป่วย 2313 รายจนกระทั่งถึงต้นเดือนตุลาคมและจากการตรวจสอบในผู้ป่วยที่รับการรักษาตัวในโรงพยาบาลและมีการตรวจเป็นระยะติดตามหลัง
    จากนั้นทั้งนี้การตรวจดังกล่าวสามารถตรวจได้ทั้งในคนและในสัตว์โดยไม่มีผลบวกต่อไวรัสโคโรนาอื่นๆที่ไม่ใช่โควิด–19

    2– มาตรการที่ต้องทำต่อ จากที่พบว่ามีการติดเชื้อโควิด-19 ในสัตว์เลี้ยงแล้ว คือการตรวจว่ามีการปล่อยเชื้อออกมาหรือไม่ เหมือนกับที่ปฏิบัติในคนทุกประการ
    ทั้งนี้ ในสัตว์เลี้ยงก็จะเป็นชนิดที่ไม่แสดงอาการแต่ปล่อยเชื้อได้ ซึ่งจะเป็นมาตรการปฏิบัติทางสัตวแพทย์และกรมปศุสัตว์ สถาบันสุขภาพสัตว์ของประเทศ
    3– มาตรการในการป้องกันการนำเชื้อโควิด-19 และเชื้อโคโรนาอื่นๆ ทั้งที่ทราบชื่อแล้วและไม่ทราบชื่อที่ติดในคนไม่ให้แพร่กลับไปที่สัตว์
    มาตรการที่สำคัญอันดับแรกคือสัตว์ป่าโดยเฉพาะค้างคาว ทั้งนี้โดยที่การเข้าไปยังถ้ำค้างคาว คนที่เข้าไปต้องมีเครื่องป้องกันไม่ให้เชื้อจากมนุษย์แพร่กลับไปที่สัตว์ ไม่ว่าคนนั้นจะมีอาการหรือไม่มีอาการก็ตาม
    โดยอนุมานว่าอาจมีเชื้อโคโรนาอย่างใดอย่างหนึ่งอยู่ในตัวอยู่แล้ว และเริ่มมีหลักฐานแล้วว่าเชื้อโคโรนาประจำถิ่นในคนกลับเข้าไปในค้างคาวได้
    ที่ต้องให้ความสำคัญกับค้างคาวเป็นอันดับหนึ่งเพราะเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่มีความสามารถในการเพาะบ่มไวรัสอาร์เอ็นเอได้ทุกตระกูลและสามารถสร้างไวรัสใหม่ที่มีความสามารถในการแพร่กระจายข้ามสายพันธุ์และในที่สุดไปถึงมนุษย์
    สำหรับสัตว์เลี้ยงอื่นนั้นในทางปฏิบัติเช่น สุนัขและแมว การขัดขวางวงจรการติดเชื้อจากคนไปสู่สัตว์หรือสัตว์มาสู่คนนั้น นอกจากโควิด-19 ดังที่ได้กล่าวในข้อหนึ่งและข้อสอง สามารถกระทำได้โดยมีวิธีการตรวจหาแอนติบอดีต่อไวรัสโคโรนาอื่นๆ ทั้งหมดที่เป็นไวรัสประจำหมาและแมวและที่เป็นไวรัสประจำของคน
    แต่ในทางปฏิบัติที่จะต้องมีการตรวจสุนัขและแมวทุกตัวและตรวจเจ้าของทุกรายว่ามีการติดเชื้อและสามารถปล่อยเชื้อได้หรือไม่แทบจะเป็นไปไม่ได้

    ดังนั้น การตรวจตราสุนัขและแมวและคนที่ติดเชื้อทั้งที่มีอาการหนักหรือไม่หนักก็ตามจนกระทั่งถึงเสียชีวิตจำเป็นต้องได้คำตอบว่าที่ติดเชื้อนั้นติดเชื้อจากไวรัสชื่ออะไร ไม่ใช่โควิด-19 อย่างเดียวที่ทราบอยู่แล้วว่าต้องมีอยู่แล้ว
    ในกรณีของ “สุนัข” และ “แมว” ที่ติดเชื้อ “โควิด–19” คงไม่ใช่เรื่องใหม่หรือเป็นเรื่องผิดปกติ แต่อยู่ที่จะทำอะไรต่อเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่มาสู่คน
    และที่สำคัญกว่านั้นคือ การที่ต้องพัฒนาการวินิจฉัยโรคติดเชื้อให้ได้ทราบชื่อทั้งในคนและในสัตว์ หรือจะเรียกว่า Disease X ทั้งนี้โดยที่ต้องตระหนักว่าโรคติดเชื้อในมนุษย์เองนั้นยังทราบได้เพียงไม่เกิน 50% เท่านั้น และเป็นปัจจัยสำคัญที่อาจมีการระบาดของโรคอุบัติใหม่ในอนาคตลุกลามขึ้นทั้งนี้โดยมีการเพาะบ่มอยู่อย่างเงียบๆ แต่ไม่ลุกลามกระจายไปอยู่แล้วก็ได้.
    หมอดื้อ

    https://www.thairath.co.th/lifestyle/life/1965920

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประกาศด่วน
    อังกฤษ :ประกาศยกระดับก่อการร้าย SEVERE
    #ยกระดับภัยคุกคามจากการก่อการร้ายในสหราชอาณาจักรเพิ่มขึ้นจาก มาก เป็นระดับรุนแรง ซึ่งหมายความว่ามีโอกาสเกิดการโจมตีสูง
    ...........…….........
    #ความเห็นแอดมิน/
    ในยุโรปเกือบทุกเมืองควรหลีกเลี่ยงจุดเสี่ยงเป้าโจมตี
    ภาพ : Home office

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อวานนี้
    พายุลูกเห็บสร้างความเสียหาย
    ให้กับที่พักอาศัยใน #บริสเบน
    ประเทศ...ออสเตรเลีย

    CR: Via Boletín del Tiempo

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Angkor Wat คนเขมรเรียกปราสาทหลังนี้ว่า อ็องโกร์ว็อด หรืออ็องโกร์เวื้อด ส่วนคนไทยเรียกว่า นครวัด ในยุคนั้นได้นำหินเกรดดีเยี่ยมมาจากลำห้วยโอร์ทมอดับ อยู่ห่างจากเมืองเสียมราฐ 60 กม. เชิงเขาพนมกุเลนห่างจากปราสาทเบงเมียเลีย 6 กม. และลำเลียงหินมาสร้างผ่านป่าผ่านเขาโดยใช้ช้างนับหมื่นเชือกฉุดลากมาสร้างนานถึง 50 ปี แต่ยังไม่เสร็จเรียบร้อยดีผู้สร้างคือพระบาทสุริยวรมันที่ ๒ สวรรคตไปเสียก่อนและไม่มีกษัตริย์ใดสานต่อเพราะที่นี่คือสุสานของสุริยวรมันที่ ๒ นั่นเอง

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รักอมตะของคนเขมร...ถ้าบ้านเราก็ไอ้ขวัญอีเรียมมีต้นไทรเป็นสักขีพยานรักส่วนของเขมรก็ต้นโพธิ์ที่บ้านเชิงขาล จังหวัด ตโบงฆมุม (จังหวัดใหม่แยกตัวออกจากจังหวัดกำปงจาม) ฝ่ายชายบวชเป็นเณรชื่อตุม ส่วนฝ่ายหญิงชื่อเตียวเป็นบุตรสาวเศรษฐี ทั้งสองพบรักกันโดยบังเอิญจนฝ่ายชายต้องสึกจากความเป็นเณรโดยไม่ฟังคำทัดทานจากหลวงพ่อถ้าสึกวันนี้อนาคตดับ ด้วยใจรักต้องสึกให้ได้...ทั้งสองอยู่ด้วยกันด้วยความไม่พอใจของแม่ยาย...วันหนึ่งตุมไปรับราชการ ส่วนฝ่ายหญิงอยู่บ้านอีตัวแม่ได้โอกาสบังคับให้แต่งกับลูกเศรษฐี เธอไม่ยินยอมแต่ขัดใจแม่ไม่ได้ และในวันแต่งตุมได้เดินทางกลับมาเยี่ยมบ้านและทราบเรื่อง ฯลฯ ในที่สุดทั้งสองก็ไปจบชีวิตที่ใต้ต้นโพธิ์ส่วนอีตัวแม่ก็เสียใจที่ไปฝืนใจลูกสาว เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อ 360 ปีที่ผ่านมา นักเรียนเขมรในยุคหนึ่งต้องเรียนหนังสืออ่านประกอบเรื่องตุมเตียว

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทูตจีนชี้ 'รถไฟสินค้าจีน-ยุโรป' โตพรวดช่วงโควิด-19 ระบาด
    .
    เมื่อวันจันทร์ (2 พ.ย.) จางเซียว ทูตจีนประจำคาซัคสถาน โพสต์ทวิตเตอร์ว่าจำนวนรถไฟสินค้าจีน-ยุโรป ที่เดินทางผ่านคาซัคสถานเติบโตอย่างรวดเร็วขณะเกิดการระบาดใหญ่ของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) โดยตัวเลขในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2020 สูงกว่าตัวเลขของทั้งปี 2019 แล้ว
    .
    จางระบุว่ารถไฟสินค้าเหล่านี้บรรทุกอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดและพัสดุข้ามพรมแดนเป็นปริมาณมหาศาล ซึ่งช่วยรับประกันความเพียงพอของวัสดุอุปกรณ์ป้องกันโรคระบาดและรักษาเสถียรภาพของห่วงโซ่อุปทานทั่วยูเรเซีย
    .
    อนึ่ง ข้อมูลสถิติจากบริษัทการรถไฟแห่งชาติของคาซัคสถานเผยว่าช่วง 7 เดือนแรกของปี 2020 จำนวนตู้สินค้าที่รถไฟสินค้าจีน-ยุโรป ขนส่งผ่านคาซัคสถานเพิ่มขึ้นร้อยละ 61 อยู่ที่ 290,000 ตู้
    .
    จางระบุว่าการค้าระดับทวิภาคีช่วงเดือนมกราคม-สิงหาคมอยู่ที่ 1.32 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 4.1 แสนล้านบาท) เพิ่มขึ้นร้อยละ 1 เมื่อเทียบปีต่อปี โดยปริมาณสินค้าที่คาซัคสถานส่งออกไปยังจีนลดลงร้อยละ 10.6 อยู่ที่ 6.4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.98 แสนล้านบาท) ส่วนการนำเข้าพุ่งขึ้นร้อยละ 14.8 อยู่ที่ราว 6.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 2.11 แสนล้านบาท)
    .
    ทูตจีนระบุว่าการฟื้นตัวอย่างรวดเร็วของเศรษฐกิจจีนช่วยกระตุ้นความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีท่ามกลางการระบาดใหญ่ โดยผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศหรือจีดีพีของจีนในไตรมาส 3 เพิ่มขึ้นร้อยละ 4.9 ซึ่งทำให้เป็นประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ประเทศเดียวที่มีการเติบโตเชิงบวก
    .
    (แฟ้มภาพซินหัว : รถไฟสินค้าจีน-ยุโรป ที่บรรทุกเวชภัณฑ์เดินทางออกจากเมืองอี้อู มณฑลเจ้อเจียงทางตะวันออกของจีน มุ่งหน้าสู่กรุงมาดริด เมืองหลวงของสเปน วันที่ 5 มิ.ย. 2020)
    .
    .
    อ่านข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวียดนามเผย 'ยอดเหยื่ออาหารเป็นพิษ' สูงขึ้นใน 10 เดือนแรก
    .
    วันอังคาร (3 พ.ย.) สำนักการปกป้องสุขภาพของเวียดนาม เปิดเผยว่าช่วง 10 เดือนแรกของปี 2020 เวียดนามพบผู้ป่วยอาหารเป็นพิษ 2,040 ราย เสียชีวิตแล้ว 21 ราย โดยเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่พบผู้ป่วยเกือบ 1,700 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 9 ราย
    .
    ช่วงเวลาเดียวกันนี้ เวียดนามยังพบผู้ป่วยโรคไข้เลือดออกเด็งกี 84,411 ราย เสียชีวิตแล้ว 13 ราย ผู้ป่วยโรคไข้สมองอักเสบ 449 ราย เสียชีวิตแล้ว 10 ราย และผู้ป่วยโรคมือเท้าปาก 43,903 ราย
    .
    ขณะเดียวกันเมื่อนับถึงวันที่ 18 ต.ค. เวียดนามพบการระบาดของโรคคอตีบในบางจังหวัด โดยพบผู้ป่วย 208 ราย เสียชีวิตแล้ว 5 ราย ส่วนยอดผู้ติดเชื้อเอชไอวีอยู่ที่ 210,871 ราย ซึ่งกลายเป็นผู้ป่วยโรคเอดส์ 97,077 ราย โดยมีผู้เสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับโรคเอดส์ 99,044 ราย
    .
    กระทรวงสาธารณสุขของเวียดนามเสริมว่าเวียดนามพบผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ (โควิด-19) ที่ได้รับการยืนยันผลแล้ว 1,192 ราย และผู้ป่วยเสียชีวิต 35 ราย เมื่อนับถึงช่วงเช้าวันอังคาร (3 พ.ย.)
    .
    ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : https://www.xinhuathai.com/

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนเผยแผนพัฒนา 'รถยนต์พลังงานใหม่'
    .
    เมื่อวันจันทร์ (2 พ.ย.) จีนเปิดเผยแผนการพัฒนาสำหรับอุตสาหกรรมยานยนต์พลังงานใหม่ (NEV) ในช่วงปี 2021-2035 มุ่งมั่นผลักดันให้จีนเป็นประเทศที่ทรงอิทธิพลด้านยานยนต์
    .
    แผนพัฒนาดังกล่าวซึ่งเผยแพร่โดยคณะรัฐมนตรีของจีน ระบุถึงภารกิจเชิงกลยุทธ์ 5 ประการ ได้แก่ เพิ่มขีดความสามารถด้านนวัตกรรมเทคโนโลยี, สร้างระบบนิเวศอุตสาหกรรมประเภทใหม่, เพิ่มความก้าวหน้าด้านการพัฒนาและบูรณาการอุตสาหกรรม, วางระบบโครงสร้างพื้นฐานที่สมบูรณ์ และเพิ่มความร่วมมือและการเปิดกว้างมากขึ้น
    .
    ส่วนเป้าหมายที่เฉพาะเจาะจง ได้แก่ ทำให้การใช้พลังงานเฉลี่ยของรถยนต์โดยสารพลังงานไฟฟ้าเต็มรูปแบบ ลดลงอยู่ที่ 12 กิโลวัตต์ต่อ 100 กิโลเมตร และเพิ่มสัดส่วนรถยนต์พลังงานใหม่ในยอดขายรถยนต์ใหม่ให้แตะร้อยละ 20 ภายในปี 2025
    .
    ภายในปี 2035 คาดว่ารถยนต์พลังงานไฟฟ้าจะกลายเป็นกระแสหลักในยอดขายรถยนต์ใหม่ ขณะที่รถยนต์ที่ใช้ในระบบขนส่งสาธารณะก็จะถูกเปลี่ยนมาเป็นพลังงานไฟฟ้าทั้งหมดเช่นกัน
    .
    อนึ่ง จีนนับเป็นประเทศที่มีการผลิตรถยนต์พลังงานใหม่มากที่สุดของโลก และมียอดขายรถยนต์ประเภทดังกล่าวคิดเป็นร้อยละ 55 ของยอดขายทั่วโลก
    .
    ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : https://www.xinhuathai.com/

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    โรคระบาด-ประท้วง-เลือกตั้ง หนุนชาวสหรัฐฯ แห่ซื้อ 'ปืน' สูงเป็นประวัติการณ์
    .
    เมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) บัสฟีด นิวส์ สื่อออนไลน์สหรัฐฯ รายงานว่าสาธารณชนสหรัฐฯ พากันหาซื้ออาวุธปืนติดต่อกันนานหลายเดือนก่อนหน้าการเลือกตั้งประธานาธิบดีที่แข่งขันกันอย่างดุเดือด
    .
    รายงานระบุว่าสหรัฐฯ ทำลายสถิติยอดจำหน่ายอาวุธปืนที่มีมาทั้งหมดในปี 2020 โดยยอดจำหน่าย "พุ่งสูงตั้งแต่ช่วงหลายเดือนแรกของการเกิดโรคระบาดใหญ่ ระหว่างการประท้วงเรียกร้องความยุติธรรมทางเชื้อชาติในฤดูร้อน และยังคงเพิ่มสูงเป็นประวัติการณ์จนถึงช่วงการเลือกตั้ง ซึ่งหลายฝ่ายต่างหวาดกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ความไม่สงบ"
    .
    บัสฟีด นิวส์ คาดการณ์ยอดจำหน่ายปืนของสหรัฐฯ จากข้อมูลการตรวจสอบประวัติของสำนักสอบสวนกลางสหรัฐ (FBI) โดยใช้วิธีที่ได้รับการพัฒนาโดยเยอร์เกิน เบราเออร์ เจ้าหน้าที่ของบริษัทที่ปรึกษา สมอลล์ อาร์มส์ อนาไลติกส์ แอนด์ ฟอร์แคสติง (Small Arms Analytics & Forecasting)
    .
    รายงานระบุว่าปัจจุบันยอดจำหน่ายอาวุธปืนของสหรัฐฯ อยู่ที่ราว 18.6 ล้านหน่วย และอาจพุ่งสูงถึง 22 ล้านหน่วยภายในสิ้นปีนี้ เพิ่มสูงขึ้นจากตัวเลขคาดการณ์ของเบราเออร์ ซึ่งอยู่ที่ 13.9 ล้านหน่วยในปี 2019
    .
    ยอดจำหน่ายอาวุธปืนที่พุ่งสูง "อาจเป็นการตอบสนองความวิตกกังวลในวงกว้างเกี่ยวกับสถานการณ์ความไม่สงบ ขณะสหรัฐฯ เผชิญความยากลำบากจากโรคระบาดใหญ่ การประท้วงต่อต้านพฤติกรรมรุนแรงของตำรวจ และความกังวลที่เพิ่มสูงของหลายฝ่ายว่าอาจเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงทางการเมืองช่วงที่มีการเลือกตั้ง"
    .
    กลุ่มประชาชนที่ซื้อปืนในปี 2020 ส่วนมากเพิ่งเคยซื้อปืนครั้งแรก โดยรายงานอ้างอิงงานวิจัยใหม่จากนิโคล คราวิตส์-เวิร์ตส์ นักวิจัยมืออาชีพประจำโครงการวิจัยป้องกันความรุนแรง คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เดวิส ซึ่งระบุว่าประชาชนจำนวนมากไม่ได้เก็บปืนไว้ในตู้อย่างมิดชิด และมีปืนอย่างน้อย 1 กระบอก ที่บรรจุลูกกระสุนพร้อมใช้งาน
    .
    (แฟ้มภาพซินหัว : ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เมืองหลวงของสหรัฐฯ วันที่ 2 พ.ย. 2020)
    .
    .
    อ่านข่าวน่าสนใจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : www.xinhuathai.com

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศส ‘ยอดดับโควิด-19’ พุ่งสูงกว่า 850 ราย ในวันเดียว
    .
    อ่านเพิ่มเติมได้ที่ https://www.xinhuathai.com/high/150622_20201104

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    'ไต้ฝุ่นโมลาเบ' ในเวียดนาม ดับพุ่ง 39 ราย สูญหาย 44 ราย
    .
    วันพุธ (4 พ.ย.) คณะกรรมการกลางเพื่อการป้องกันและควบคุมภัยพิบัติทางธรรมชาติของเวียดนาม เปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุพายุไต้ฝุ่นโมลาเบพัดถล่มเมื่อไม่นานนี้เพิ่มขึ้นเป็น 39 รายแล้ว ส่วนยอดผู้สูญหายในภูมิภาคตอนกลางและเขตที่ราบสูงตอนกลางของประเทศอยู่ที่ 44 ราย
    .
    คณะกรรมการฯ ระบุว่ายอดผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นจากเมื่อวันอังคาร (3 พ.ย.) ซึ่งอยู่ที่ 36 ราย โดยผู้เสียชีวิตถูกพบในจังหวัดกว๋างนาม เหงะอาน ดั๊กลัก และซาลาย ขณะที่ผู้สูญหายส่วนใหญ่อยู่ในจังหวัดกว๋างนามและบินห์ดินห์
    .
    รายงานเสริมว่า 26 ชุมชนในจังหวัดกว๋างนามและกว๋างไหงยังคงไม่มีไฟฟ้าใช้ เมื่อนับถึง 07.00 น. ของวันพุธ (4 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น
    .
    ข้อมูลจากคณะกรรมการฯ ระบุว่าช่วง 10 เดือนแรกของปี 2020 ภัยพิบัติทางธรรมชาติ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นดินถล่ม น้ำท่วม และพายุลูกเห็บ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหรือผู้สูญหายรวม 335 ราย และการสูญเสียทางเศรษฐกิจในเวียดนามมากกว่า 21 ล้านล้านดองเวียดนาม (ราว 2.8 หมื่นล้านบาท)
    .
    ติดตามข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ : https://www.xinhuathai.com/

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คาดปีหน้าได้วัคซีนโควิด-19
    1.6 หมื่นล้านโดส
    แต่ครึ่งหนึ่ง ถูกจองไว้แล้ว..
    .
    .
    แม้จะมีข่าวการหยุดทดลองวัคซีนอย่างต่อเนื่อง หลังพบผลข้างเคียงกับกลุ่มตัวอย่าง ทั้งของ Moderna จากสหรัฐอเมริกา และของ AstraZeneca กับมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ด จากอังกฤษ แต่ข่าวดีก็คือ ภาพรวมการทดลอง 3 เฟส ยังคงเป็นไปตามปกติ ไม่ได้ล่าช้าไปกว่ากำหนดมากนัก และจากการเดินหน้าแบบสุดตัวจากผู้ผลิตแถวหน้าทั้งหมด ก็เชื่อว่าเราจะได้เห็นวัคซีนโควิด – 19 ที่ได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ อย่างเร็วที่สุดภายในปลายปีนี้ และอย่างช้าที่สุดก็ภายในต้นปี 2024
    .
    ไม่ต้องสงสัยเลยว่ากระบวนการที่ “เร่งรัด” ที่สุด มาจากการระบาดรอบใหม่ทั้งในยุโรป และในสหรัฐอเมริกา ที่สะท้อนให้เห็นว่าโรคนี้ ยังคงเป็นปัญหามากกว่าที่คิด จากตัวเลขผู้ติดเชื้อ Second Wave ที่มากกว่ารอบแรก 5-6 เท่า และจะเริ่มส่งผลกับเตียงโรงพยาบาล - เครื่องช่วยหายใจ ในเวลาอันใกล้
    .
    หากประเมินศักยภาพการผลิตวัคซีนจากโรงงานทั่วโลกล่าสุด คาดว่าในปี 2024 ตลอดทั้งปี จะสามารถผลิตวัคซีนได้ทั้งหมดกว่า 1.6 หมื่นล้านโดส ซึ่งเป็นการผลิตครั้งมโหฬารที่สุดเป็นประวัติการณ์ และหากคิดจากจำนวนประชากรโลกทั้งหมด 6,500 ล้านคน การได้รับวัคซีนคนละ 2 โดส ก็น่าจะเหลือเฟือ..
    .
    แต่เรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น.. เพราะการผลิตวัคซีน ต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูง และโรงงานที่มีมาตรฐาน การผลิตในปริมาณที่มากขนาดนั้น แปลว่าจะมีวัคซีน “จำนวนหนึ่ง” ที่ไม่ได้มาตรฐาน ถูกคัดออก ไม่สามารถใช้งานได้จริง จนถึงขณะนี้ เมื่อยังไม่เห็นหน้าตาของวัคซีน ก็มีความเป็นไปได้ที่วัคซีนที่ถูกคัดออก อาจมากเกินครึ่ง
    .
    ขณะเดียวกัน ที่น่าสนใจอีกอย่างก็คือ กระบวนการจาก “ต้นทาง” คือโรงงาน ไปจนถึงปลายทางคือผู้รับวัคซีน จะเกิดคำถามมากมายว่าใคร ควรเป็นผู้ได้รับวัคซีนก่อน ปัจจุบัน ประเทศร่ำรวย ประเทศต้นทางบริษัทผู้ผลิตวัคซีน ล้วน “สั่งจอง” วัคซีนสำหรับประชากรตัวเองไว้แล้ว พร้อมกับจ่ายเงินไปแล้วบางส่วน เช่นเดียวกับประเทศรายได้ปานกลาง รายได้ปานกลาง - ต่ำ ก็มีบางประเทศ ที่ทำสัญญาซื้อวัคซีนล่วงหน้าไว้แล้วเช่นกัน
    .
    นอกจากนี้ ยังมีปัญหาว่าด้วยระบบ “โลจิสติกส์” ลองนึกภาพประเทศที่มีระบบสาธารณสุขไม่แข็งแรง แต่มีประชากรล้นเกิน ซึ่งจะเกิดคำถามอย่างมากว่าควรทำอย่างไร ให้ฉีดวัคซีนได้อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ขณะเดียวกัน บางประเทศ แม้จะมีโรงงานที่มีศักยภาพมากพอจะผลิตวัคซีนได้ ก็จะพบปัญหาเรื่อง “ทรัพย์สินทางปัญญา” และเรื่องสิทธิบัตรวัคซีน ทำให้ติดขัดได้อยู่ดี
    .
    ไม่กี่วันที่ผ่านมา เซยาดูร์ ราห์มาน คณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยแห่งชาติบังกลาเทศ แสดงความคิดเห็นว่า “หน้ากากอนามัย” จะเป็นวัคซีนสำหรับประเทศนี้ไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพราะไม่มีทางที่ประเทศซึ่งมีจำนวนประชากร 160 ล้านคน และอยู่ในข่ายยากจน จะสามารถสู้ราคาซื้อวัคซีน แข่งกับประเทศอื่นได้ และถึงแม้จะมีวัคซีนมาถึง ก็คาดว่าจะได้รับโควต้ามาราว 20% ของจำนวนประชากรเท่านั้น ไม่สามารถจัดการฉีดประชากรได้มากพอจนเกิดภูมิคุ้มกันหมู่ได้อยู่ดี แน่นอน เรื่องพวกนี้ มีโอกาสสูงที่จะเกิดขึ้นกับประเทศยากจนอื่นๆ ทั่วโลก
    .
    ข้อมูลจาก Airfinity บริษัทวิจัยด้านชีววิทยาของอังกฤษ พบว่า ปัจจุบัน วัคซีนที่กำลังอยู่ในระหว่างวิจัยและพัฒนากว่า 8,600 ล้านโดส มี “เจ้าของ” ล่วงหน้าแล้ว โดย 2,500 ล้านโดส ถูกสั่งจองโดยประเทศรายได้ปานกลาง รายได้ปานกลาง - ต่ำ โดยวัคซีนกว่า 500 ล้านโดส ของบริษัท Novavax และของ AstraZeneca จะถูกผลิตโดยบริษัท Serum Institute of India ของมหาเศรษฐี ไซรัส ปุณณวรา ในเมืองปูเน่ ประเทศอินเดีย
    .
    ขณะที่อีก 1,600 ล้านโดส จะถูกผลิตโดยบริษัทจีนซึ่งรัฐบาลจีนยืนยันแล้วว่าวัคซีนที่ผลิตได้ทั้งหมด จะถูกส่งต่อไปยังประเทศรายได้ปานกลางอื่นๆ (รวมถึงไทย) ส่วนกำลังการผลิตโดยบริษัทในยุโรป และในสหรัฐฯ ยังไม่ได้รับการเปิดเผยในขณะนี้
    .
    แต่ทั้งหมดก็เป็นเพียงการคาดการณ์ The Yellow House สถาบันคลังสมอง ภายใต้ความร่วมมือจากนักวิจัยยุโรป-สหรัฐอเมริกา ประเมินว่าจนถึงสิ้นปีหน้า จะมีวัคซีนที่ผลิตได้ทั่วโลก 1.2 หมื่นล้านโดส แต่จะมีวัคซีนมากกว่า 1 ใน 3 ที่ไม่ผ่านมาตรฐาน
    .
    ตัวเลขดังกล่าวไม่ได้เกิดขึ้นลอยๆ หากเทียบกับวัคซีนอื่นในประวัติศาสตร์ จะพบว่าวัคซีนอื่นๆ ก็มี “ดีเฟคท์” ในอัตรานี้ระหว่างทดลองขั้นท้ายๆ ซึ่งเกี่ยวพันกับผู้คนจำนวนมาก ขณะเดียวกัน ยิ่งเร่งมากเท่าไหร่ ยิ่งหมายความว่าโอกาสผิดพลาดยิ่งมากขึ้นเท่านั้น
    .
    นอกจากนี้ จอห์น ดอนเนลลี จากโครงการ Vaccinology บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีวัคซีน ระบุว่า แม้สัญญาณจากบริษัทวัคซีนจะออกมาดูดี แต่ในขั้นตอนการอนุมัติขั้นสุดท้ายนั้น ก็อาจทำให้วัคซีน “ดีเลย์” ออกไปได้ เช่นเดียวกับในช่วงเร่งการผลิต อาจเกิดการขาดแคลนวัตถุดิบบางอย่าง เพราะขณะนี้ โรงงานจำนวนมากที่ใช้ในการผลิตวัคซีนนั้น ไม่ใช่โรงงานวัคซีนตั้งแต่ต้น หากแต่เป็นการดัดแปลงโรงงานอย่างอื่นมาเพื่อผลิตวัคซีนจำนวนมากๆ
    .
    นอกเหนือจากวัคซีน ที่ “ดีล” กันล่วงหน้าแต่ละประเทศแล้ว อีกหนึ่งโครงการสำคัญที่องค์การอนามัยโลก เป็นผู้สนับสนุนรายใหญ่คือ COVAX หรือ โปรแกรมจัดหาวัคซีนสำหรับประเทศยากจน ประเทศรายได้ต่ำ ซึ่งตั้งเป้าว่าจะจัดหาอย่างน้อย 2,000 ล้านโดส ให้กับ 184 ประเทศในปีหน้า ภายใต้ 10-15 ดีล กับบริษัทวัคซีน ที่ COVAX เจรจาไว้ล่วงหน้าแล้ว
    .
    หลักการทำงานของ COVAX จะอยู่ด้วยเงินบริจาค และจะจัดซื้อในปริมาณมากๆ เพื่อกดราคาให้ต่ำเหลือวัคซีนละ 1.6 – 2 เหรียญสหรัฐฯ ให้ได้ โดย COVAX เอง ก็มีเป้าไว้ว่าจะพยายามฉีดวัคซีนให้กับประชากรประเทศยากจน ในอัตราส่วน 20% เช่นกัน โดยงานวิจัยเบื้องต้น เชื่อว่าหากประชากร 20% มีภูมิคุ้มกันผ่านวัคซีน จะสามารถลดอัตราการระบาดใหญ่ลงได้
    .
    แต่ทั้งหมดนี้ ก็ยังขึ้นกับระบบสาธารณสุขของแต่ละประเทศ จนถึงขณะนี้ หลายชาติ ยังไม่มีระบบจัดเก็บวัคซีนที่ดีพอ และเมื่อถึงขั้นตอนต้องฉีดวัคซีน ก็ยังไม่แน่ใจว่า จะฉีดได้ตรงกลุ่มเป้าหมายหรือไม่
    .
    ทั้งหมดนี้ เป็น “ความเสี่ยง” ที่อาจทำให้วัคซีน อาจยังไม่ถึงฝั่งฝันได้ง่าย แต่การมีความหวังอยู่บ้าง ก็ยังดีกว่าไม่มีเลย..

    #COVID19 #โควิด19 #วัคซีนโควิด19

    อ้างอิงจาก

    https://www.scmp.com/news/china/sci...9-vaccine-could-top-16-billion-doses-delivery

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐ และตัวแทนชิงตำแหน่งผู้นำประเทศอีกสมัยจากพรรครีพับลิกัน ได้รับชัยชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีในรัฐเทกซัส ทางใต้ของสหรัฐ
    .
    รัฐเทกซัสถือว่ามีความสำคัญมากรัฐหนึ่งในการเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะมีเสียงคณะผู้เลือกตั้งแทน (อิเลกโทรอล คอลเลจ) ถึง 38 เสียง ซึ่งผู้ที่ได้รับเสียงส่วนใหญ่ของประชาชน จะได้เสียงทั้งหมดของรัฐนี้ ซึ่งเมื่อเวลาประมาณ 13.30 น. นับคะแนนไปได้ 82% นายทรัมป์ มีคะแนนอยู่ที่ประมาณ 5.6 ล้านคะแนน มากกว่านายโจ ไบเดน คู่แข่งจากพรรคเดโมแครตกว่า 600,000 คะแนน
    .
    เหตุนี้ทำให้นายทรัมป์ มีจำนวนคณะผู้เลือกตั้งแทนแล้ว 213 คน เข้าใกล้คะแนนของนายไบเดน ที่ได้เสียงจากคณะผู้เลือกตั้งแทน 224 คน
    .
    อย่างไรก็ดี ในรัฐอีกหลายรัฐที่ยังไม่ประกาศผลอย่างเป็นทางการ พบว่าส่วนใหญ่นายทรัมป์มีคะแนนนำ โดยเฉพาะในรัฐที่มีคณะผู้เลือกตั้งแทนจำนวนมาก

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.sanook.com/news/8289926/

    ภาพจาก
    Sergio Flores / AFP

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกิดเหตุโศกนาฎกรรมที่รุนแรงมากที่ประเทศ อัฟกานิสถาน หลังกลุ่มติดอาวุธไอเอส บุกมหาวิทยาลัยคาบูล ซึ่งเป็นมหาลัยที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ ถล่มยิงกลางงานเทศกาลหนังสือ ที่มีเอกอัครราชทูตอิหร่านเข้าร่วมด้วย มีการต่อสู้ด้วยอาวุธปืนยาวนานหลายชั่วโมง ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 22 ราย และบาดเจ็บอีกจำนวนมาก
    .
    สำนักข่าวเอพี รายงานว่า เมื่อวันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา กองกำลังรัฐอิสลาม หรือ ไอเอส ได้ก่อเหตุสะเทือนขวัญครั้งใหญ่กลางกรุงคาบูล เมืองหลวงของอัฟกานิสถาน เมื่อบุกเข้ามหาวิทยาลัยคาบูล และสังหารเหยื่อที่เป็นนักศึกษา ภายในรั้วมหาวิทยาลัย จนเสียชีวิตอย่างน้อย 22 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา และยังมีผู้บาดเจ็บอีก 22 คน อาการไม่สู้ดีหลายคน หวั่นว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้นอีก
    .
    เหตุการณ์ดังกล่าว เกิดภายในรั้วมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดของอัฟกานิสถาน ขณะจัดงานเทศกาลหนังสือและเชิญเอกอัครราชทูตอิหร่าน ชาติที่นับถือนิกายชีอะห์มาร่วมงาน บริเวณคณะนิติศาสตร์ และการสื่อสารมวลชน คนร้ายกราดยิงด้วยปืนกลอัตโนมัติ พร้อมปาระเบิดเข้าใส่เหยื่ออย่างไม่เลือกหน้า
    .
    ทำให้นักศึกษาและอาจารย์แตกตื่นวิ่งหนีเอาชีวิตรอด ภายหลังเหตุการณ์ กลุ่มนักรบตาลิบันรีบแถลงว่า ไม่เกี่ยวข้องด้วย จากนั้นไม่นาน กลุ่มไอเอสที่เป็นนิกายสุหนี่สายสุดโต่ง ได้ประกาศตัวเป็นผู้ลงมือ และว่าเล็งเป้าหมายไปยังบัณฑิตที่จะไปเป็นผู้พิพากษาและทีมสอบสวนของรัฐบาล
    .
    แถลงการณ์ของไอเอสระบุว่า มีนักรบของกลุ่มเพียง 2 รายที่ร่วมปฏิบัติการนี้ ไม่ใช่ 3 รายอย่างที่ทางการแถลง และยืนยันว่า ไม่ได้เล็งเป้าหมายไปที่ทูตอิหร่านแต่อย่างใด เหตุการณ์นี้เกิดเป็นครั้งที่ 2 ต่อเนื่องจากที่ กรณีกลุ่ม ไอเอส ที่เพิ่งได้บุกสังหารหมู่ที่ศูนย์ติวเตอร์ ในย่านชุมชนนิกายชีอะห์
    .
    โดยสังหารนักศึกษา ไปจำนวน 24 ราย และบาดเจ็บนับร้อย เมื่อวันที่ 24 ต.ค.ที่ผ่านมา โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา และเกรงกันว่ายอดผู้เสียชีวิตอาจจะเพิ่มขึ้นอีก เพราะผู้บาดเจ็บบางคนอยู่ในสภาพวิกฤต
    .
    เมื่อการโจมตีเปิดฉากขึ้น นักศึกษา และบรรดาอาจารย์ ต่างก็พากันวิ่งหนีออกมาจากอาคารที่เป็นที่ตั้งของคณะนิติศาสตร์ และสื่อสารมวลชน ท่ามกลางเสียงระเบิดและปืนยาวอัตโนมัติ ขณะที่ทหารกองกำลังปฏิบัติการพิเศษของอัฟกานิสถาน ก็เข้าล้อมมหาวิทยาลัย และนำนักศึกษากับคณะครูอาจารย์ออกไปยังจุดที่ปลอดภัย
    .
    นักศึกษาคนหนึ่งเล่าว่า เห็นผู้ก่อการร้ายที่ถือปืนพก และปืนอากา ยิงใส่มหาวิทยาลัย ซึ่งถือว่าที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศ และมีนักศึกษา 17,000 คน ความวุ่นวายโกลาหลนาน 5 ชั่วโมง สงบลงในช่วงเย็น เมื่อกระทรวงมหาดไทยเปิดเผยว่าคนร้ายทั้ง 3 ที่เกี่ยวข้องกับการโจมตีถูกสังหารหมดแล้ว
    .
    กลุ่มไอเอสบอกว่าเป้าหมายในการโจมตีครั้งนี้คือ ผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่สอบสวนที่เพิ่งจบการศึกษาของรัฐบาลอัฟกานิสถานผู้ละทิ้งความเชื่อ แถลงการณ์ของไอเอส อ้างว่ามีนักรบเพียง 2 คนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ และโพสต์รูปถ่ายของพวกเขา แต่ขัดแย้งกับรายงานของทางการอัฟกานิสถานเกี่ยวกับคนร้าย 3 คน คำกล่าวอ้างไม่ได้ระบุว่ากลุ่มไอเอสมีเป้าหมายที่จะมุ่งเป้าไปที่เอกอัครราชทูตอิหร่านหรืองานเทศกาลหนังสือ
    .
    สื่ออัฟกานิสถานรายงานว่า ระหว่างนั้น มีการจัดนิทรรศการหนังสือที่มหาวิทยาลัยและมีบุคคลสำคัญเข้าร่วมจำนวนมาก แต่ในช่วงเวลาที่มีการยิงกัน ไม่มีรายงานว่ามีบุคคลสำคัญได้รับบาดเจ็บ
    .
    ในขณะที่เจ้าหน้าที่อัฟกานิสถานปฏิเสธที่พูดเกี่ยวกับงานดังกล่าว สำนักข่าว ISNA สำนักข่าวกึ่งทางการของอิหร่านรายงานเมื่อวันอาทิตย์ว่าเอกอัครราชทูตอิหร่าน นายบาฮาดอร์ อามิเนียน และผู้ช่วยทูตวัฒนธรรมจะมาร่วมในพิธีเปิดงานซึ่งมีสำนักพิมพ์อิหร่านประมาณ 40 แห่งเข้าร่วม โทรทัศน์อิหร่านรายงานเรื่องการโจมตีเกิดขึ้น แต่ไม่ได้ให้ข้อมูลเกี่ยวกับเจ้าหน้าที่ของตน

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.ctvnews.ca/world/afghans-mourn-those-killed-in-horrific-isis-university-attack-1.5172213

    https://www.aljazeera.com/news/2020/11/3/afghan-attack-follow-up

    https://www.nationtv.tv/main/conten...cvRglqBqwhXOMFgH6XGf81g_UKetOz8mlshwwg2qy_PmU
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     

แชร์หน้านี้

Loading...