ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ทางสำนักข่าวต่างประเทศได้มีการรายงานว่า เมื่อวันพฤหัสบดี (29 ต.ค) ฌอง กัสเต็กซ์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศส ได้ออกมาประกาศยกระดับการเฝ้าระวังเหตุก่อการร้ายทั่วประเทศ เป็นระดับฉุกเฉิน หรือระดับสูงสุด หลังจากเกิดเหตุคนร้ายใช้มีดสังหารประชาชนในเมืองนีซ
    .
    โดยกัสเต็กซ์ ได้ออกมากล่าวประณาม ต่อเหตุการณ์ดังกล่าวว่า เป็นการกระทำที่ขี้ขลาด และป่าเถื่อน พร้อมเสริมว่า การประชุมสภากลาโหม จะมีขึ้นในช่วงเช้าวันศุกร์ (30 ต.ค.) ตามเวลาท้องถิ่น
    .
    อนึ่ง เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (29 ต.ค.) เกิดเหตุคนร้ายใช้มีดทำร้ายคนจนเสียชีวิต 3 ราย ที่โบสถ์นอเทรอดาม ใจกลางเมืองนีซ ของฝรั่งเศส โดยผู้ก่อเหตุถูกตำรวจยิงได้รับบาดเจ็บ และถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลในเวลาต่อมา
    .
    โดยหน่วยต่อต้านก่อการร้ายของสำนักงานอัยการฝรั่งเศส (PNAT) ระบุว่า จะดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นภายใต้แนวทาง “การพยายามฆ่าที่เกี่ยวข้องกับองค์กรก่อการร้าย”
    .
    ฝรั่งเศสนั้น ได้จัดทำแผนการป้องกัน (Vigipirate plan) เพื่อเป็นเครื่องมือต่อสู้กับการก่อการร้าย หลังเกิดเหตุความรุนแรงหลายครั้งในปี 2015 และ 2016 โดยแผนดังกล่าว มีการแจ้งเตือนแบ่งออกเป็น 3 ระดับ
    ...

    ระดับแรกคือ “เฝ้าระวัง” (vigilance) หมายถึงการรักษาความปลอดภัยถาวร
    .
    ระดับที่ 2 คือ “ยกระดับการรักษาความปลอดภัย-เสี่ยงเกิดเหตุโจมตี” (enhanced security-attack risk) หมายถึง มีความเสี่ยงที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายสูง
    .
    ระดับที่ 3 คือ “เหตุโจมตีฉุกเฉิน” (attack emergency) หมายถึงเกิดเหตุโจมตี หรือความเสี่ยงที่จวนจะเกิดขึ้นของการก่อการร้าย
    ...

    โดยเว็บไซต์ทางการของรัฐบาลฝรั่งเศสระบุว่า การแจ้งเตือนระดับเหตุโจมตีฉุกเฉิน สามารถถูกประกาศได้ทันทีหลังเกิดเหตุร้ายแรง หรือมีกลุ่มก่อการร้ายข้ามชาติที่สามารถระบุตัวตนได้เข้ามาก่อให้เกิดความเสี่ยง และเมื่อมีการประกาศใช้แล้ว แผนดังกล่าวจะทำให้ทางการสามารถระดมทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ และเผยแพร่ข้อมูล เพื่อป้องกันประชาชนในช่วงวิกฤต

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.theguardian.com/world/2...s-france-terror-alert-level-raised-to-maximum

    https://www.bbc.com/news/world-europe-54736277

    https://www.xinhuathai.com/inter/149611_20201030
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายวรสิทธิ์ ผ่องคำพันธุ์ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอเกาะสมุย กล่าวถึงสถานการณ์การท่องเที่ยวของเกาะสมุย ว่า จริง ๆ แล้ว สมุยต้องพึ่งพานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ มากกว่า 95% แต่หลังจากเกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาด ตั้งแต่ช่วงวันที่ 26 มีนาคม-เมษายน เป็นต้นมา เกาะสมุยไม่มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเลย ทำให้การท่องเที่ยวของเกาะสมุยต้องหันไปพึ่งพานักท่องเที่ยวคนไทยเป็นหลัก ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจึงต้องร่วมกันรณรงค์ด้วยการโปรโมตราคา ห้องพัก และ ตั๋วเครื่องบิน ตั้งแต่วันที่ 15 พฤษภาคม เป็นต้นมา

    โดยสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส ได้เปิดเส้นทางบินในประเทศ ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยสามารถเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวที่เกาะสมุยได้สะดวกขึ้น ทั้งทางเครื่องบินและเรือเฟอร์รี ณ ปัจจุบันพบว่ามีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้าเกาะสมุยมากกว่า 10 % และในช่วงเดือนตุลาคมนี้ มีนักท่องเที่ยวเดินมาเข้ามาเพิ่มมากขึ้น ส่วนใหญ่มาเป็นกรุ๊ป นอกจากนั้นยังมีดารานักแสดง เข้ามาเที่ยวและทำกิจกรรมด้วย ทำให้มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวตามเกาะแก่งต่าง ๆ วันละมากกว่า 2,000 คน ในช่วงสัปดาห์หยุดยาว

    ส่วนกรณีมีชาวฝรั่งเศส ติดโควิด-19 และเข้ารับการรักษาที่เกาะสมุย นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยว อำเภอเกาะสมุย กล่าวว่า เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของเกาะสมุย เพราะทุกคนเข้าใจว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้ติดเชื้อที่เกาะสมุย แต่ติดมาจากการกักตัว 14 วันที่ สเตท ควอรันทีน ในจังหวัดสมุทรปราการ สมุยไม่ใช่ต้นตอในการแพร่เชื้อ ซึ่งหน่วยงานสาธารณสุข โรงพยาบาลเกาะสมุย มีมาตรการในการป้องกัน มีการซักซ้อม และเข้มงวดในด้านการผ่านจุดคัดกรอง และเตรียมพร้อมในการเป็นสเตท ควอรันทีน มีการซักซ้อมในการเดินทางผ่านสนามบิน หรือเรือเฟอร์รี และมีความพร้อมสามารถทราบไทม์ไลน์ของผู้ป่วย และสามารถแจ้งข้อมูลภายใน 2 ชั่วโมง และปัจจุบันสามารถตรวจหาเชื้อ PCR swab ทั้งผู้ที่มีความเสี่ยงสูงและความเสี่ยงต่ำมากกว่า 100 คน ทำให้มีความเชื่อมั่นว่าสมุยมีมาตรการในการดูแลนักท่องเที่ยวได้ดี และสร้างความเชื่อมั่นให้ผู้ประกอบการ

    ขณะนี้ ททท. ได้จัดทำสโลแกน "เที่ยวสมุยปลอดภัย" เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้คนไทยเดินทางมาท่องเที่ยว โดยมีการประชาสัมพันธ์ผ่านโซเชียลมีเดีย ทำให้นักท่องเที่ยวมีความเชื่อมั่นมากขึ้น และที่สำคัญมาเที่ยวสมุยช่วงนี้ไม่แพงอย่างที่คิด ผู้ประกอบการลดราคาห้องพักกันสุด ๆ เป็นราคาที่คุณสัมผัสได้ และไม่มีการบวกเพิ่มกาลาดินเนอร์แก่นักท่องเที่ยวแต่อย่างใด

    ด้าน น.ส. นิฎฐา นาคเพชรพูล ผู้ประกอบการธุรกิจเรือท่องเที่ยว Samui boat charter เปิดเผยว่า จำนวนนักท่องเที่ยวลดลงเยอะ ถ้าเทียบกับเมื่อก่อน แต่สมุยไม่ได้ร้างเหมือนที่เป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ เรามีลูกค้าคนไทยที่กำลังเข้ามาเที่ยวอยู่ สังเกตได้ว่าคนไทยมีกำลังที่จะเที่ยว ทางบริษัทที่มีโปรโมชั่นในการลดราคาแบบสุด ๆ เพื่อให้บริษัทอยู่ได้ นักท่องเที่ยวสามารถเที่ยวได้ด้วยราคาเบา ๆ ณ ตอนนี้ต้องช่วยกันพยุงไปก่อน และคาดว่าสถานการณ์ในปีหน้าจะดีขึ้น

    ขณะเดียวกัน ลูกค้าของบริษัทส่วนใหญ่มีลูกค้าชาวต่างชาติ ที่ทำธุรกิจอยู่ในประเทศไทยและสมุย มาใช้บริการประมาณ 40% หลังจากที่สถานการณ์โควิด-19 ดีขึ้น ทำให้นักท่องเที่ยวชาวไทยที่กำลังมองหาสถานที่ท่องเที่ยว ประกอบกับนโยบายของที่รัฐบาลที่ออกมาเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ทั้งโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และ โครงการคนละครึ่ง ทำให้มีนักท่องเที่ยวคนไทยติดต่อเข้ามาผ่านช่องทางเพจ เว็บไซต์ และทางโทรศัพท์ของบริษัทเยอะขึ้น จึงอยากให้นักท่องเที่ยวคนไทยเลือกสมุยเป็นอีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยว

    หลังจากกลับมาเปิดกิจการอีกครั้ง ตอนแรกก็ยังมีความกังวล เรื่องโควิด -19 แต่ก็ไม่ได้ตื่นตระหนก เพราะนักท่องเที่ยวคนไทยก็เริ่มชิน และเริ่มเรียนรู้การระวังตัวเอง การสวมแมสก์ พกเจลล้างมือ ในการใช้ชีวิตประจำวัน และเห็นผลว่าสามารถป้องกันได้ มันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด ทุกวันนี้ลูกค้าก็เริ่มดีขึ้น แม้ว่าจะมีการตรวจพบกรณีชาวฝรั่งเศสติดเชื้อโควิดขณะมาพักที่เกาะสมุย นักท่องเที่ยวก็ไม่ได้หวาดกลัว เนื่องจากมีการสื่อสารเผยแพร่ให้รับรู้กันว่า เค้าไม่ได้ติดเชื้อที่สมุยแต่ติดมาจากที่อื่น

    ขณะที่ น.ส.คุณนวินดา เมืองเจริญ ผู้จัดการโรงแรม สไมล์เฮ้าส์ ริมถนนเลียบชายหาดบ้านบ่อผุด หมู่ 1 ตำบลบ่อผุด อำเภอเกาะสมุย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า โดยส่วนตัวคิดว่าสถานการณ์ดีขึ้นกว่าที่ผ่านมา ช่วงที่มีการแพร่ระบาดของโรคทางโรงแรมเองก็ได้ปิดกิจการไปตั้งแต่เดือนเมษายน และได้เปิดกิจการใหม่อีกครั้ง เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม ในช่วงแรกก็ยังไม่มีลูกค้า แต่หลังจากรัฐบาลได้มีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน โครงการคนละครึ่ง ลูกค้าเริ่มทยอยเข้ามาเที่ยวเกาะสมุย และรัฐบาลปล่อยวันหยุดยาวในช่วงศุกร์เสาร์-อาทิตย์ นักท่องเที่ยวก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น

    ยืนยันว่าเกาะสมุยไม่ใช่เมืองร้างตามสื่อโซเชียลนำเสนอ ตนเชื่อว่าแนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวในเกาะสมุยน่าจะดีขึ้น หากรัฐเข้ามาสนับสนุน อยากให้รัฐช่วยให้คนไทยได้มองเห็นแหล่งท่องเที่ยวในสมุยให้มากขึ้น ในด้านของการโปรโมตการท่องเที่ยวทางทะเล และอยากเชิญชวนนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่อยู่ในประเทศไทย มาเที่ยวและสัมผัสเกาะสมุยในช่วงนี้ดูว่ามันไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด โดยเฉพาะเรื่องของราคาที่สามารถจับต้องได้ไม่ได้แพงเหมือนที่ผ่านมา

    อย่างไรก็ตาม อยากเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจต่อเนื่อง รวมทั้งเพิ่มวันหยุดยาว เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว ให้นักท่องเที่ยวชาวไทย ได้มีโอกาสเข้ามาท่องเที่ยวเกาะสมุยมากยิ่งขึ้น

    #roundtablethailand
    Roundtablethailand.com

    ที่มา https://mgronline.com/south/detail/9630000112651

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แรงงานต่างชาติในไซต์แยกงานขยะก็น้อยวิกฤติโควิดก็ดันช่วยเพิ่มขยะ วอนช่วยกันแยกขยะจากจิตสำนึกต่อสังคม...!!

    #thaikuk #thaikuknews #งานแยกขยะ #ขาดแรงงาน #ต่างชาติ #เกาหลี

    https://thaikuk.com/korea-news/general/people-who-work-on-top-of-the-garbage-mountain-20201029/

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    29 ต.ค.63 นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ในฐานะโฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยเดือนกันยายน 2563 มีการปรับตัวไปในทิศทางที่ดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยเฉพาะด้านอุปสงค์ สะท้อนจากการบริโภคสินค้าคงทนและการลงทุนภาคเอกชนที่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลต่อเนื่องจากมาตรการผ่อนคลายการป้องกันและยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 เช่นเดียวกับการส่งออกสินค้าที่หดตัวในอัตราชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ด้านอุปทาน พบว่าภาคเกษตรและภาคอุตสาหกรรมยังคงปรับตัวดีขึ้น แต่ภาคบริการด้านการท่องเที่ยวยังคงชะลอตัว

    สำหรับภาคการส่งออกเดือนกันยายน พบว่าการส่งออกติดลบ 3.9% ปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน จากการขยายตัวต่อเนื่องในกลุ่มสินค้า คือ สินค้าอาหาร สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการทำงานที่บ้าน สินค้าที่เกี่ยวกับการป้องกันการติดเชื้อและลดการแพร่ระบาด ขณะที่การส่งออกรถยนต์ น้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน และแผงวงจรไฟฟ้ายังชะลอตัว ด้านการนำเข้าติดลบ 9.1%

    ด้านการบริโภคภาคเอกชนมีสัญญาณปรับดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า โดยการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ระดับราคาที่ปรับตัวดีขึ้น โดยกลับมาขยายตัว 0.1% และ 3.3% จากเดือนก่อนหน้า สอดคล้องกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทนที่สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ปรับตัวดีขึ้น ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันและขยายตัวสูงสุดในรอบ 25 เดือน

    ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศยังอยู่ในเกณฑ์ดี สะท้อนจากอัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบ 0.7% ต่อปี และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.3 ต่อปี ขณะที่สัดส่วนหนี้สาธารณะสิ้นเดือนสิงหาคม 2563 อยู่ที่ 47.9% ต่อ GDP ซึ่งยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังที่ตั้งไว้ตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561

    ส่วนเสถียรภาพภายนอกยังอยู่ในระดับมั่นคง และสามารถรองรับความเสี่ยงจากความผันผวนของเศรษฐกิจโลกได้ สะท้อนจากทุนสำรองระหว่างประเทศสิ้นเดือนกันยายน 2563 อยู่ในระดับสูงที่ 251.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905144

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    29 ต.ค.63 นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ครั้งที่ 8/2563 ว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ของประเทศไทยอยู่ในระดับต่ำ ผู้ติดเชื้อรายใหม่ที่พบในขณะนี้ส่วนใหญ่เดินทางมาจากต่างประเทศ แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อภายในประเทศบ้าง ก็เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้ แต่จากประสบการณ์การทำงานตั้งแต่ต้นปี ทำให้เราสามารถควบคุมโรคได้ดี ตั้งแต่การตรวจคัดกรองอย่างละเอียด ทำให้ค้นพบเร็ว ควบคุมโรคได้ดี ทีมงานสาธารณสุขมีความเข้มแข็ง ค้นหาเชิงรุกและตรวจหาเชื้อในกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่อย่างครอบคลุม สามารถป้องกันควบคุมไม่ให้มีการระบาดในวงกว้าง ภาพรวมในเวลานี้ ประเทศไทยมีศักยภาพในการต่อสู้โควิด-19 ทั้งทรัพยากร เวชภัณฑ์ แล็บ ยา แพทย์พยาบาล ที่สำคัญไม่มีผู้ป่วยหนักในไอซียู และอัตราการเสียชีวิตต่ำมากน้อยกว่าร้อยละ 2 ทำให้ประชาชนมั่นใจได้

    “โจทย์สำคัญในวันนี้ คือการสร้างสมดุลระหว่างสุขภาพกับเศรษฐกิจบนพื้นฐานความปลอดภัยประชาชน ช่วยกันฟื้นฟูเศรษฐกิจซึ่งไทยยังต้องพึ่งพาต่างชาติ การเปิดประเทศให้ชาวต่างชาติให้สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศเพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยว หรือการค้าการลงทุน จะช่วยให้เศรษฐกิจของเรากลับมาเดินหน้าอีกครั้ง เรื่องเศรษฐกิจสุขภาพเป็นนโยบายสำคัญทีจะขับเคลื่อนเศรษฐกิจ โดยยังคงความปลอดภัยให้กับประชาชนและสังคมด้วย” นายอนุทินกล่าว

    นายอนุทินกล่าวต่อว่า คณะกรรมการฯ ได้มีมติเห็นชอบ ร่างนโยบายการกักกันโรคในประเทศ (National Quarantine Policy) รองรับการเปิดประเทศเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว ประกอบด้วย 3 หลักการ คือ 1.จัดให้มีระบบการกักกันโรค และสถานที่กักกันผู้สัมผัสโรคหรือพาหะ เพื่อป้องกันการแพร่เชื้อที่ปลอดภัยได้มาตรฐาน เหมาะสมกับบริบทของการปฏิบัติงานและกลุ่มเป้าหมาย และเพียงพอทุกพื้นที่

    2.พัฒนากลไกการบริหารจัดการระบบการกักกันโรคและสถานที่กักกันโรคให้เป็นเอกภาพ ทั้งในระดับชาติ และระดับจังหวัด ที่สามารถทำงานเชื่อมโยงกันได้ โดยอยู่ภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ คณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และคณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร 3.เร่งพัฒนาระบบการบริหารจัดการข้อมูลแบบบูรณาการ เพื่อสนับสนุนการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

    พร้อมทั้ง ได้กำหนดระบบการจัดการในสถานที่กักกันโรค 10 ข้อ ทั้งด้านการจัดการสถานที่พัก พื้นที่ส่วนกลางและสถานที่เฉพาะ, มีผู้รับผิดชอบทุกขั้นตอนครบตามจำนวนวันที่กำหนด, การคัดกรองการเจ็บป่วย หรือสงสัยติดเชื้อโควิด-19, การจัดการสิ่งแวดล้อม, การบริการพื้นฐานเพื่อการดำรงชีวิต, การรวบรวม จัดเก็บข้อมูล, ระบบรายงานเหตุการณ์, การพัฒนาทักษะผู้ปฏิบัติงาน, การตรวจประเมินสถานที่กักกันโรค และมีวิธีการการตรวจสอบย้อนหลังเมื่อพบเหตุการณ์ผิดปกติ รวมทั้งมีการกำกับติดตาม และประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงาน ทั้งในระดับชาติและพื้นที่อย่างสม่ำเสมอ

    นอกจากนี้ ในที่ประชุมคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ เห็นด้วยกับหลักการ เรื่องการลดเวลาการกักตัวจาก 14 วันเหลือ 10 วัน และให้ข้อเสนอแนะให้เน้นเรื่องความปลอดภัย การติดตามตัวได้ มีอาการป่วยหรือไม่ เข้มข้นการปฏิบัติตัวแบบ New normal โดยจะเสนอ ศบค. พิจารณาต่อไป

    https://www.thaipost.net/main/detail/82202

    #RoundtableThailand
    roundtablethailand.com

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oct 30, 2020 ด่วน! กลุ่มตึกอพาร์ตเมนต์อย่างน้อย 20 ตึก ในเมืองอิซเมียร์ (Izmir) ประเทศตุรกี พังทลายทั้งกลุ่มอพาร์ตเมนต์ หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 แมกนิทูด ที่ประเทศตุรกี แรงสั่นไหวที่รุนแรงสะเทือนถึงกรุงเอเธนส์ และบริเวณทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกของประเทศกรีซ

    #แผ่นดินไหว #สึนามิ #กรีซ #ตุรกี #misterban

    https://fb.watch/1rRGO4xUqC/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oct 30, 2020 ด่วน! เกิดคลื่นยักษ์สึนามิพัดพาน้ำทะเลจากทะเลอีเจียนเข้าเมือง Izmir ประเทศตุรกี สร้างความเสียหายให้กับบ้านเรือน ร้านอาหาร แหล่งท่องเที่ยวเป็นจำนวนมากและเป็นวงกว้าง ระดับน้ำพุ่งสูงขึ้นต่อเนื่อง และทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่ขวางหน้า

    #แผ่นดินไหว #กรีซ #ตุรกี #misterban

    https://fb.watch/1rRPgotwMb/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oct 30, 2020 ด่วน! เกิดเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 แมกนิทูด ที่ประเทศตุรกี แรงสั่นไหวที่รุนแรงสะเทือนถึงกรุงเอเธนส์ และบริเวณทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกของประเทศกรีซ
    #แผ่นดินไหว #กรีซ #ตุรกี #misterban

    https://fb.watch/1rRY3vU9Yo/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oct 30, 2020 ด่วน! อพาร์ตเมนต์หลายแห่งในเมือง Izmir ประเทศตุรกี พังทลายลงอย่างสิ้นเชิง จากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงขนาด 7 แมกนิทูด ที่ประเทศตุรกี แรงสั่นไหวที่รุนแรงสะเทือนถึงกรุงเอเธนส์ และบริเวณทะเลอีเจียน (Aegean Sea) ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังระดับโลกของประเทศกรีซ

    #แผ่นดินไหว #กรีซ #ตุรกี #misterban

    https://fb.watch/1rS2rNAuUH/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : พบคนขับรถพม่าข้ามพรมแดนขนถ่ายสินค้าใน Safety Zone ด่านแม่สอด-เมียวดี ติดเชื้อโควิดอีก 2 ราย สธ.ไทยเร่งประสานพม่ากักตัวรักษาแล้ว ขณะที่การค้าไทย-พม่า คึกคักต่อเนื่อง รถสินค้าไทยทะลักรอคิวข้ามฝั่งล้นด่านฯ

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000112682
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #News1feed : ชาวพัทลุงตื่นโควิด-19 หลังตำรวจ สภ.ป่าบอน จับแรงงานพม่าหลบหนีเข้าเมืองได้ 10 คน ส่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจโรคพบไข้สูง 1 คน ก่อนตรวจเจอชิ้นส่วนหรือซากเชื้อโควิด-19

    อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000112645
    ............................................
    ● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
    Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
    Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #สรุปยอดผู้ติดเชื้อโควิดในญี่ปุ่น ⭕ 30 ต.ค. เวลา 20.20 ตามเวลาในญี่ปุ่น
    FB_IMG_1604067612049.jpg
    สภาพบ้านเมืองคนญี่ปุ่นในปัจจุบันหลังประกาศยกเลิกสภาวะฉุกเฉิน ใช้ชีวิตแบบ New Normal เป็นอย่างไร

    .
    ขอบคุณข้อมูลจาก NHK
    แค่กด see first หรือ “ดูเป็นอันดับแรก” ก็จะไม่พลาดทุกข่าวสาร และติดตามพวกเราต่อได้ที่..Facebook, Youtube, Instagram, Twitter, Tiktok, Blockdit และ Website
    .
    #ครบเครื่องเรื่องญี่ปุ่น #เที่ยวญี่ปุ่น #ญี่ปุ่น #ข่าวร้อนในญี่ปุ่น #corona #ไวรัส #โคโรนา #โคโรน่า #โควิด #covid19 #virus #covid #ยอดรวมผู้ติดเชื้อในญี่ปุ่น

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "ยักษ์ใหญ่ที่หลับไหล" อาร์คติคกำลังปล่อยก๊าซมีเทนที่สะสมไว้ โลกร้อนกำลังถูกเร่งให้เร็วขึ้น

    นักวิทยาศาสตร์พบว่าก๊าซมีเทนที่สะสมในมหาสมุทรอาร์คติคได้เริ่มปล่อยออกมาตามแนวไซบีเรียตะวันออกซึ่งเป็นแนวลาดชันของทวีป ซึ่งตามแนวทะเลLaptevใกล้กับรัสเซีย พบก๊าซเรือนกระจกลึกลงไปถึง350 เมตร นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์กังวลว่าวงจรผลกระทบของสภาพภูมิอากาศจะถูกเร่งให้เร็วขึ้น

    ก๊าซเรือนกระจกที่ถูกสะสม ประกอบไปด้วยมีเทน ซึ่งมีเทนมีผลต่อสภาวะโลกร้อนมากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์ถึง 80เท่า นั่นทำให้นักวิทยาศาสตร์เกรงว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากศอย่างเฉียบพลัน

    ทีมวิจัยนานาชาติที่ล่องเรือไปสำรวจ พบว่าระดับมีเทนบนผิวน้ำสูงกว่าปกติ 4-8เท่า อย่างไรก็ตามปริมาณมีเทนที่แน่นอน ยังต้องได้รับการวิเคราะห์จากข้อมูลที่ได้มาอีกครั้ง

    ในขณะนี้อุณหภูมิที่อาร์คติคสูงขึ้นกว่า2เท่าของค่าเฉลี่ยทั่วโลก คำถามคือเมื่อไหร่ หรืออย่างไร ที่มันจะปล่อยออกสู่บรรยากาศ ซึ่งการวิเคราห์ทางคอมพิวเตอร์ก็ยังไม่สามารถบอกได้

    ในตำแหน่งหนึ่งที่ทางลาดชันของทะเล Laptev ที่ความลึก 300เมตร พบว่ามีความเข้มข้นของมีเทนถึง 1,600 นาโนโมล/ลิตร ซึ่งสูงกว่าค่าที่ควรจะเป็น 400เท่า ซึ่งนักวิทยาศาสตร์ยืนยันว่าการปล่อยนั่นสูงกว่าที่เคยเป็นมาอย่างเห็นได้ชัด คาดการณ์ว่าสาเหตุคือความไม่แน่นอนของกระแสน้ำอุ่นที่ผ่านอาร์คติดตะวันออก อันเป็นผลมาจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนไป

    เป็น2ปีติดกัน ที่ทีมนักวิทยาศาสตร์พบสิ่งที่คล้ายปล่องไฟ ปล่อยฟองมีเทนออกมาบริเวณน้ำตื้นของทะเล Laptev และ ไซบีเรียตะวันออก ทำให้ปริมาณที่ผิวน้ำสูงกว่าปกติ 10-100เท่า คล้ายคลึงกับที่พบในป่าทุนดราในไซบีเรียช่วงฤดูใบไม้ร่วงก่อนหน้า

    อุณหภูมิในไซบีเรียในช่วงม.ค.-มิ.ย.ปีนี้สูงกว่าปกติ 5องศา น้ำแข็งในทะเลก็ละลายเร็วกว่าปกติในช่วงฤดูหนาวที่ผ่านมา รวมถึงน้ำแข็งใหม่เองก็จับตัวช้ากว่าปกติที่เคยมีการบันทึกไว้

    หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าเราเหลือเวลาไม่ถึง 10 ปีในการคุมอุณหภูมิโลก ไม่ให้เพิ่มเกิน 1.5C มิเช่นนั้นสภาพอากาศและระบบนิเวศน์จะเสียหายถาวร หากมีเทนถูกปล่อยออกมา เท่ากับระเบิดเวลาดีๆนี่เอง และภาวะโลกร้อนจะแย่ลงเร็วกว่าที่คิดมาก

    https://weather.com/en-IN/india/sci...-arctic-escape-scientists-warn-abrupt-climate

    https://www.theguardian.com/science...hSDcodUymp-y0e3U3NBawzsZE3h3GgrgnMLRUFAbILsRY

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1604067991579.jpg

    (Oct 30) คลังส่งสัญญานเศรษฐกิจฟื้น 'กำลังซื้อ-ลงทุน' ก.ย.กระเตื้องชัด: คลังชี้สัญญานเศรษฐกิจฟื้นตัวปรับคาดการณ์จีดีพีปีนี้ดีขึ้นเหลือติดลบ 7.7% จากติดลบ 8.5% รับปัจจัยบวกเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าที่ขยายตัวแกร่ง หนุนภาคส่งออก ด้านแบงก์ชาติผ่อนเกณฑ์ซอฟท์โลนเปิดทางบสย.ค้ำประกันหนี้ 3-10 ปี

    ดัชนีชี้วัดเศรษฐกิจประจำเดือนกันยายน เทียบกับเดือนสิงหาคม 2563 ส่งสัญญานในทางบวกว่าเศรษฐกิจเริ่มเข้าสู่เส้นทางของการฟื้นจัวอย่างช้าๆ หลังรัฐบาลใช้เงินหลายแสนล้านบาทกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ล่าสุดกระทรวงการคลัง ปรับประมาณอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ(จีดีพี) ปี 2563 ดีขึ้น

    นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง(สศค.) กล่าวว่า ประมาณการเศรษฐกิจไทยในปี 2563 และ 2564 ล่าสุด คาดว่าปี 2563 จะขยายตัวดีขึ้น โดยจะขยายตัวติดลบ 7.7% จากปประมาณการเดิมเมื่อเดือนก.ค.ที่ผ่านมาที่คาดจะขยายตัวติดลบ 8.5% ส่วนปี 2564 คาดว่าจีดีพีจะขยายตัวได้ 4.5% ไม่เปลี่ยนแปลงจากการประมาณการครั้งก่อนทั้งนี้ อย่างไรก็ตามการประมาณการครั้งนี้ ไม่นับปัจจัยการเมือง เนื่องจากกิจกรรมทางเศรษฐกิจยังเดินได้ต่อเนื่อง

    “ในภาพรวมเศรษฐกิจไทยในครึ่งหลังของปีขยายตัวดีขึ้น โดยปัจจัยด้านต่างประเทศ เป็นผลจากเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าเริ่มขยายตัวดี ทำให้การค้าขายดีขึ้น ส่วนในประเทศนั้น ก็มีเม็ดเงินจากภาครัฐทั้งในส่วนงบประมาณปกติและจากพ.ร.ก.กู้เงินฉุกเฉิน ที่เข้าไปช่วยพยุง ทำให้ภาพรวมเศรษฐกิจทั้งปีหดตัวดีขึ้น ซึ่งก็สอดคล้องกับการคาดการณ์ของแบงก์ชาติที่คาดจะขยายตัวติดลบ 7.8% ลดลงจากมิ.ย.ที่คาดการณ์ว่าขยายตัวติดลบ 8.1%”

    เปิดประเทศปัจจัยบวก

    ทั้งนี้ปัจจัยสนับสนุนหลักมาจาก 1.การผ่อนคลายมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของและการเริ่มเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจเพิ่มมากขึ้น 2.เศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญมีการฟื้นตัวที่ชัดเจน นำโดยกลุ่มประเทศในเอเชีย เช่น จีน เวียดนาม ส่งผลให้ภาคการส่งออกสินค้าของไทยปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่อง 3.การควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19ของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี สร้างความเชื่อมั่นให้แก่ภาคประชาชน ภาคเอกชนและต่างประเทศ โดยคาดว่าในปี 2563 การบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนภาคเอกชนจะหดตัวที่ 3.0%ต่อปี และ 9.8% ต่อปีตามลำดับ ขณะที่มูลค่าการส่งออกสินค้าจะหดตัวที่ 7.8%ต่อปี ปรับตัวดีขึ้นจากการคาดการณ์ครั้งก่อนที่ 11.0%ต่อปี

    นอกจากนี้ในช่วงครึ่งหลังของปี2563 ภาครัฐยังได้ดำเนินมาตรการทางการคลังเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นการสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ โดยประกอบไปด้วย โครงการ“เพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”โครงการ“คนละครึ่ง”และมาตรการ“ช้อปดีมีคืน”ซึ่งจะมีส่วนช่วยประคับประคองเศรษฐกิจไทย รักษาระดับการจ้างงาน และสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชนให้มีเม็ดเงินหมุนเวียนในเศรษฐกิจฐานรากคิดเป็น 0.54%ต่อปี

    “คาดว่า การบริโภคภาครัฐและการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวที่ 4.0% ต่อปี และ 10.5%ต่อปีตามลำดับ และคาดว่าเศรษฐกิจไทยได้ผ่านจุดต่ำสุดแล้วในช่วงไตรมาส 2 ปี 2563 และจะเห็นตัวเลขเศรษฐกิจที่ติดลบน้อยลงในช่วงครึ่งหลังของปี 2563”
    สำหรับด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจไทยคาดว่าอยู่ในระดับที่มั่นคง โดยเสถียรภาพเศรษฐกิจภายในประเทศคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2563 จะติดลบ 0.9% ปรับตัวลดลงจากปีก่อน ตามแนวโน้มราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ลดลง จากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ขณะที่เสถียรภาพเศรษฐกิจภายนอกประเทศ คาดว่าดุลบัญชีเดินสะพัดจะเกินดุล 14.1 พันล้านเหรียญสหรัฐ หรือคิดเป็น 2.8% ของจีดีพี

    ดัชนี ก.ย.สัญญานบวกเพียบ

    สำหรับเศรษฐกิจประจำเดือนกันยายนพบว่าดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ด้านการบริโภคภาคเอกชนดีขึ้น สะท้อนผ่านการจัดเก็บภาษีมูลค่าเพิ่มขยายตัวจาก 0.1% เป็น 3.3% สอดคล้องกับการบริโภคในหมวดสินค้าคงทน ที่สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์นั่งและปริมาณรถจักรยานยนต์จดทะเบียนใหม่ปรับตัวดีขึ้น โดยขยายตัว 32.6% และ 0.7% ส่วนหนึ่งได้รับปัจจัยสนับสนุนจากรายได้เกษตรกรที่แท้จริงขยายตัวเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกันและขยายตัวสูงสุดในรอบ 25 เดือน ที่ 10.5% ต่อปี

    ส่วนการลงทุนภาคเอกชนส่งสัญญาณปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า ปริมาณการจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์กลับมาขยายตัว 13.5% สอดคล้องกับปริมาณการนำเข้าสินค้าทุนขยายตัว 4.4% ส่วนการลงทุนในหมวดการก่อสร้างปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนเช่นกัน

    เช่นเดียวกับเศรษฐกิจภาคการค้าระหว่างประเทศปรับตัวดีขึ้นจากเดือนก่อนหน้า สะท้อนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าในรูปเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ หดตัวในอัตราที่ชะลอลงจากช่วงเดียวกันปีก่อนที่ 3.9% และเป็นการปรับตัวดีขึ้นเป็นเดือนที่ 3 ติดต่อกัน
    นายพรชัย กล่าวด้วยว่า ในการประมาณการเศรษฐกิจไทยจำเป็นต้องคำนึงถึงปัจจัยเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การระบาดโควิด-19 ที่เกิดขึ้นในประเทศหลายประเทศ ปัจจัยด้านภูมิรัฐศาสตร์และการเลือกตั้งของสหรัฐฯ ที่อาจส่งผลต่อทิศทางการค้าและเศรษฐกิจโลก การถอนตัวออกจากสหภาพยุโรปของสหราชอาณาจักร (Brexit)รวมถึง ความเปราะบางของเสถียรภาพระบบการเงินโลกที่อาจสูงขึ้น จากการดำเนินมาตรการการเงินการคลังของแต่ละประเทศ

    ฟิทช์คงเครดิต จับตาการเมือง

    นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า ฟิทช์ เรทติ้ง ประกาศคงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ซึ่งมีส่วนช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และความผันผวนของวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์การระบาดของโควิดได้เป็นอย่างดี

    ประเด็นที่ฟิทช์ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิด คือ สัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนต่อจีดีพี และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของภาครัฐและการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง
    ธปท.เปิดทางบสย.ค้ำซอฟท์โลน

    นายจาตุรงค์ จันทรังษ์ ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายกำกับสถาบันการเงิน 1 ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กล่าวว่า สำหรับสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ หรือซอฟท์โลน วงเงิน 5 แสนล้านบาทของธปท. ปัจจุบัน ยังมีวงเงินเหลืออยู่จำนวนมาก ล่าสุด ได้ให้ บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม(บสย.)เข้ามาช่วยค้ำประกันสินเชื่อ ในปีที่ 3-10 ในวงเงิน 57,000 ล้านบาท โดยบสย. จะเข้ามาค้ำประกัน หรือรับความเสี่ยง ที่ 30% ของวงเงินการปล่อยสินเชื่อหากเกิดหนี้เสีย ซึ่งทำให้ลูกหนี้เอสเอ็มอี สามารถเข้าถึงสินเชื่อซอฟท์โลนธปท.ได้ง่ายขึ้น

    “ลูกหนี้ที่เคยขอซอฟท์โลนไปแล้ว แต่สถาบันการเงินไม่มีความมั่นใจที่จะปล่อยกู้ ก็สามารถกลับมาติดต่อขอสินเชื่อใหม่ได้”

    สำหรับความคืบหน้าการให้สินเชื่อซอฟท์โลนธปท.ถึง 19 ต.ค. ล่าสุดมีสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติแล้ว 119,690 ล้านบาท คิดเป็นจำนวนผู้ที่ได้รับสินเชื่อแล้ว 71,284 ล้านบาท วงเงินสินเชื่อที่ได้รับอนุมัติเฉลี่ย 1.7 ล้านบาทต่อราย สัดส่วนผู้ที่ได้รับซอฟท์โลนเป็นธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดเล็ก ที่มีวงเงินสินเชื่อไม่เกิน 20 ล้านบาท ถึง 76.1% เอสเอ็มอีขนาดกลางที่มีวงเงินสินเชื่อ 20-100 ล้านบาท 17.4% และธุรกิจเอสเอ็มอีขนาดใหญ่ที่มีวงเงินกู้ 100-500 ล้านบาท 6.5 %

    เอกชนมั่นใจปล่อยกู้ได้เพิ่ม

    นายรักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการและผู้จัดการทั่วไป บสย.กล่าวว่าโครงการซอฟทโลนพลัส หลักๆ จะเข้ามาค้ำประกันต่อจากซอฟท์โลนธปท.หลังจากปีที่ 3 ของการผ่อนชำระเป็นต้นไป จนถึง 10 ปี ซึ่งถือเป็นการยืดหยุ่นมากขึ้นในการชำระเงิน แก่ผู้ประกอบการ ที่จะเพิ่มการชำระหนัี้ไปจนถึง 10 ปี หากเทียบกับเงื่อนไขเดิมของซอฟท์โลน ที่มีกำหนดให้ผู้ประกอบการผ่อนชำระได้เพียง 2 ปีเท่านั้น ดังนั้นการใช้กลไกบสย.ครั้งนี้ คือการเข้ามาช่วยสร้างความมั่นใจให้กับแบงก์กล้าปล่อยกู้มากขึ้น เพราะมีระยะเวลาการผ่อนชำระยาวขึ้น ลดการตึงตัวด้านสภาพคล่องและลดโอกาสเกิดหนี้เสียต่ำลงในอนาคต

    นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า การเปิดให้บสย.เข้ามาค้ำประกันซอฟท์โลนในปีที่ 3-10 เชื่อว่ามีส่วนช่วยให้ธนาคารต่างๆกล้าปล่อยสินเชื่อมากขึ้น เนื่องจากมีบสย.เข้ามารับประกันความเสี่ยง หากเกิดหนี้เสีย หรือลูกหนี้ไม่มีความสามารถในการชำระหนี้ในอนาคต

    สำหรับการปล่อยสินเชื่อซอทฟ์โลน ของธปท. ให้กับภาคธุรกิจในช่วงที่ผ่านมา ให้กับลูกค้ากสิกรไทย จนถึง 11 ต.ค.อยู่ที่ 2.17 หมื่นล้านบาท โดยคิดเป็นธุรกิจที่ได้รับซอฟท์โลน 6.8 พันราย ขณะเดียวกันสินเชื่อเสริมสภาพคล่องให้กับภาคธุรกิจโดยรวม ตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน ธนาคารปล่อยกู้ไปแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท โดยเป็นสินเชื่อของกสิกรไทยเอง 1.2 แสนล้านบาท

    Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905205

    เพิ่มเติม
    - ข่าว ก.คลัง
    http://www.fpo.go.th/main/getattach...ค-ประมาณการเศรษฐกิจไทย-ณ-ตุลาคม-2563.pdf.aspx

    - Presentation http://www.fpo.go.th/main/getattach...ารเศรษฐกิจไทย-ปี-63-และ-64-for-Press.pdf.aspx
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เลือกตั้งสหรัฐ ค่าเงินจะเป็นอย่างไร

    วันนี้ FX insight จะพาไป update และวิเคราะห์สถานการณ์การเลือกตั้งของสหรัฐฯ ระหว่าง Trump และ Biden ว่ามีนโยบายสำคัญๆ แตกต่างกันอย่างไร

    ด้านเศรษฐกิจ
    ด้าน Trump เน้นการกระตุ้นเศรษฐกิจด้วยการลดภาษีทั้งนิติบุคคลและบุคคลธรรมดา (Corporate and Income tax)
    ขณะที่ทาง Biden ต้องการกระตุ้นผ่านการใช้จ่ายของภาครัฐ (Government spending) ในด้านการศึกษาและการแพทย์ ซึ่ง impact ต่อภาคเศรษฐกิจของแต่ละเครื่องมือยังคงเป็นที่ถกเถียงว่าอย่างไหนจะได้ผลมากกว่ากัน

    ด้านนโยบายต่างประเทศ
    Trump ยังคงต้องการนโยบายกีดกันทางการค้า เพื่อปกป้องการค้าในประเทศ และสำหรับนโยบายกับจีนของ Trump คาดว่าจะยังคง aggressive และเผชิญหน้าตรง ๆ
    ขณะที่ Biden ค่อนข้างให้ความสำคัญกับเวทีพหุภาคีและความร่วมมือระหว่างประเทศ ขณะที่นโยบายกับจีนคาดว่าอาจจะหาพวกพ้องจากประเทศอื่นเพื่อร่วมกดดันจีน

    โดยรวมนโยบายหลักๆ ของทั้งคู่ที่ออกมาค่อนข้างแตกต่างกัน ดังนั้นผลต่อค่าเงินภูมิภาคอาจจะแตกต่างกันไปด้วย

    นักวิเคราะห์คาดว่า

    หาก Trump ชนะ เงินภูมิภาคอาจจะปรับอ่อนค่าลงจากเงิน USD ที่แข็งขึ้นเป็นหลัก
    หาก Biden ชนะ เงินภูมิภาคอาจจะปรับแข็งค่าขึ้นจากเงินทุนเคลื่อนย้ายที่อาจจะเริ่มกลับมาในประเทศกลุ่ม Emerging Market

    อย่างไรก็ดี สำหรับค่าเงินบาท สถิติในรอบ 30 ปี พบว่า หากมีการเปลี่ยนตัว ปธน. ค่าเงินบาทมักจะอ่อนค่าลงในช่วง 1 เดือนนับจากวันเลือกตั้ง

    แล้วใครมีแนวโน้มชนะ??
    จากผลสำรวจของ realclearpolitics พบว่า Biden มีคะแนนนำ Trump มาเกือบตลอดแต่เริ่มเห็นการปรับลดลงเล็กน้อยในช่วงที่ผ่านมา (51.1 VS 43.7)

    แต่คงไม่อาจชะล่าใจได้เพราะหากเราย้อนกลับไปดูผลการเลือกตั้งครั้งก่อนระหว่าง Trump และ Clinton จะเห็นว่า แม้คะแนนของ Clinton จะนำก็ Trump มาตลอด (ประมาณ 3-5%) แต่ในโค้งสุดท้าย Trump พลิกกลับมาชนะจนได้

    ปัจจุบันคะแนนของ Biden นำ Trump อยู่ประมาณ 7-8%

    เรายังต้องรอลุ้นกันต่อไปในวันที่ 3 พ.ย. ว่า ใครจะเป็นประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนต่อไป

    #3Nov #USelection #เมื่อเขามาฉันจะไป #ค่าเงินบาท

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เปิดคลิปนาทีคลื่นสึนามิ พัดถล่มชายฝั่ง กรีซ-ตุรกี แผ่นดินไหวรุนแรง ทำตึกถล่มต่อหน้าต่อตา

    https://fb.watch/1rTggXsCTs/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เมื่อ 30 ต.ค.63 เว็บไซต์เดอะ ซัน รายงานว่า ประชาชนในทุกประเทศทั่วโลกจะได้เห็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก คือ ‘พระจันทร์สีน้ำเงิน’ (Blue Moon) ในวันฮาโลวีน เป็นครั้งแรกในรอบ 76 ปี หรือนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

    สำหรับปรากฏการณ์ พระจันทร์สีน้ำเงิน หรือ บลูมูน นั้นเป็นปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นได้ยาก เนื่องจากปกติแล้ว พระจันทร์เต็มดวงจะเกิดขึ้นเดือนละ 1 ครั้ง แต่สำหรับ บลูมูน หากเกิดขึ้นในเดือนใด หมายถึง เราจะได้เห็นดวงจันทร์เต็มดวงถึง 2 ครั้งในเดือนนั้น และในปีนี้ชาวโลกได้เห็นพระจันทร์เต็มดวง หรือ Full Moon (ฟลูมูน) ในวันที่ 1 ตุลาคม 2563 ซึ่งเรียกว่า Harvest Moon

    ปรากฏการณ์ บลูมูน ในวันที่ 31 ตุลาคม ซึ่งตรงกับวันฮาโลวีนนั้น ประชาชนในประเทศต่างๆ จะได้มีโอกาสเห็นพระจันทร์เต็มดวงในวันฮาโลวีนในยามค่ำคืน แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงบริเวณที่มีแสงไฟยามราตรีเจิดจ้า.

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ทรัมป์ได้ทวีตออกมาหาเสียงในคืนนี้ว่า

    “ประเทศเราเพิ่งประกาศตัวเลข GDP ที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ของประเทศและปีหน้ามันจะดีไปได้กว่านี้อีก ! อย่าปล่อยให้คนขี้เซาอย่าง โจ ไบเดน เข้ามาเก็บภาษีพวกเราเพิ่มและเข้ามาทำลายเศรษฐกิจที่ดีแบบนี้เลย ผมดีใจมากที่ตัวเลข GDP ที่สุดยอดอย่างนี้ ออกมาให้ทุกคนได้เห็นก่อนการเลือกตั้งในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ !“

    #ทรัมป์จะมาแรงแซงทางโค้งได้หรือไม่ ??

    นับเป็นโค้งสุดท้ายแล้วจริงๆครับ สำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐที่จะมีขึ้นในอีก 5 วันข้างหน้านี้ โดยความหวังของทรัมป์นั้นเริ่มริบหรี่ไปทุกที (แม้จะยังไม่หมดไปซะทีเดียว) นอกจากโพลจะตามหลังไปเดนเป็นอย่างมากแล้ว ในปีนี้ยังมีผู้ออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งล่วงหน้ากันอย่างล้นหลามเป็นประวัติศาสตร์ เข้าใจว่ามีผู้ออกมาใช้สิทธิแล้วกว่า 50 ล้านคนทั่วประเทศหรือเกือบ 15% ของประชากร ซึ่งหลายฝ่ายเชื่อว่าคนที่รีบออกมาโหวตนั้นน่าจะเป็นฝั่งที่สนับสนุนทางไบเดนและเบื่อหน่ายกับทรัมป์มาตลอด 4 ปีที่ผ่านมา

    #แต่ทรัมป์ก็ยังไม่ยอมแพ้ ในคืนนี้ที่สหรัฐจะเพิ่งประกาศ GDP ไตรมาส 3 ขยายตัว +33.1% ซึ่งสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้ และยังเป็นการ #ขยายตัวที่สูงเป็นประวัติการณ์ นับตั้งแต่เริ่มมีการเก็บข้อมูลเป็นเวลา 70 ปี ทำให้ทรัมป์เกิดความหึกเหิมและออกมาทวีตหาเสียงตามที่กล่าวไป (ทวีตเต็มๆแนบในคอมเม้นท์)

    แต่หลังที่ทวีตออกไปแล้วทัวร์ลงทันทีเลยว่า

    ที่ขยายตัว +33% นี่หดตัวลงไปแล้วก่อนหน้านี้เท่าไหร่ ? แล้วประชาชนยังตกงานกันอยู่กันอีกกี่คน ? และปีหน้าที่บอกว่าปีหน้ามันจะดีก็คงไม่มีทางทำได้ระดับนี้แล้ว

    ต้องมาติดตามดูกันต่อไปครับว่าทรัมป์จะยังเหลือไม่ตายอะไรมาใช้ในโค้งสุดท้ายอีกไหม ?

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

    ✅ ติดตามข่าวสารในตลาดโลกและการลงทุนไปกับทางเพจอย่างรวดเร็วและทันตลาด !

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ ☺️

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นายกฯ #ญี่ปุ่น ระบุว่า “การระบาดของไวรัส #โควิด ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นตกต่ำที่สุดหลังจากสงครามโลก ญี่ปุ่นกำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตที่อาจเรียกว่าเป็นหายนภัยแห่งชาติ #国難 ข้าพเจ้าในฐานะผู้นำรัฐนาวาตระหนักถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง”

    การใช้คำที่สื่อความอย่างหนักหน่วงเช่นนี้สะท้อนว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่นได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดหนักหนากว่าที่ปรากฏ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณจำนวนมากโอบอุ้มธุรกิจและประชาชน แต่การระบาดที่ยืดเยื้อ เกือบทุกประเทศทั่วโลกยังปิดประเทศ ระงับการเดินทาง ทำให้ยากที่ธุรกิจต่าง ๆ จะฟื้นตัวกลับมา

    คลิกอ่าน https://mgronline.com/japan/detail/9630000112477

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ไม่รู้ว่าทุกอย่างจะกลับมาอย่างไร จึงต้องปรับโครงสร้างให้ทำงานได้อย่างคล่องตัว นี่คือเหตุผลที่ต้องทำ”
    .
    ยังคงเดินหน้า "เขย่า" บุคลากรอย่างต่อเนื่อง สำหรับ "ช่อง 3" หลังเผชิญวิกฤติซ้อนวิกฤติ พิษเศรษฐกิจซบเซา พายุดิจิทัล ดิสรัปชั่น และโควิด-19 ฉุดรายได้โฆษณาลดลง จึงต้อง "ลดคน" 300 ชีวิต เพื่อความคล่องตัว และอยู่รอด!
    .
    เป็นอีกครั้งที่เกิดอาฟเตอร์ช็อก! ย่านวิก 3 พระราม 4 หรือช่อง 3 นั่นเอง หลังจาก “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธ์” กรรมการผู้อำนวยการสายงานธุรกิจทีวี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด(มหาชน) ได้พบปะพนักงานผ่านการประชุมTown Hall เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ได้เขย่าโครงสร้างองค์กรอีกครั้งด้วยการ “ลดพนักงงาน” ประมาณ 300 ขีวิต และมีชื่อที่เป็นเซอร์ไพรส์ของหลายๆ คนคือ “กะลาแมร์ พัชรศรี เบญจมาศ” และ “นีน่า กุลนัดดา ปัจฉิมสวัสดิ์”
    .
    สำหรับเหตุผลของการปรับลดพนักงานครั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าเกิดจากผลกระทบโรคโควิด-19 ระบาด ทำให้ธุรกิจต่างๆหยุดชะงัก ช่วงที่มีการล็อกดาวน์ประเทศ สกัดการแพร่ระบาดของไวรัสร้าย ส่งผลต่อยอดขายสินค้าลดลง ที่สุดแบรนด์สินค้าและบริการต่างๆต้อง “หั่นงบโฆษณา” ลงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
    .
    แหล่งข่าวจากวงการทีวีดิจิทัล เปิดเผยว่า การประชุมทาวน์ ฮอลล์ของช่อง 3 ล่าสุด แม่ทัพอย่าง “สุรินทร์” ยังไม่กล่าวถึงนโยบายการขับคลื่อนธุรกิจมากนัก เพราะต้องการให้ผ่านวิกฤติโควิด-19 ไปก่อน ซึ่งยังไม่มีใครคาดเดาสถานการณ์ได้ว่าทุกอย่างจะฟื้นตัวกลับมาอย่างไร เมื่อต้องดำเนินธุรกิจท่ามกลางความเปราะบางของไวรัสเขย่าโลก บริษัทจำเป็นต้องปรับโครงสร้างให้คล่องตัว
    .
    อ่านต่อได้ที่: https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/905404?anm=
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    -------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://bit.ly/2WfbTpJ
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij
    Blockdit : https://www.blockdit.com/bangkokbiznews
    Instagram: https://www.instagram.com/bangkokbiznews

     

แชร์หน้านี้

Loading...