ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว รัฐบาลต้องเร่งแก้ไข!!! ล่าสุด ปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ หนึ่งในแกนนำ กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน (ERS) เผย รูปแบบการบริหารจัดการกิจการไฟฟ้าของประเทศมีช่องโหว่หลากหลาย ทั้งการอนุมัติสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มทั้งที่ไม่สอดคล้องกับความต้องการไฟฟ้าที่ลดต่ำลง การคาดการณ์ปริมาณใช้ไฟฟ้ามากเกินจริง ผนวกกับสถานการณ์ COVID-19 ที่ทำให้เกิดปัญหากำลังผลิตสำรองสูงถึงระดับ 50% เป็นภาระต่อผู้บริโภคในที่สุด

    ** แกนนำ ERS เผยว่า รัฐบาลต้องกลับมาแก้ปัญหาดังกล่าวอย่างเร่งด่วน พร้อมเสนอ 4 ข้อแนะนำที่สามารถปฏิบัติได้เลยคือ

    1) ทบทวนหลักเกณฑ์ทางการเงินในการกำหนดค่าไฟฐาน เพื่อลดค่าไฟฐานและสร้างแรงจูงใจให้มีการปรับปรุงประสิทธิภาพมากกว่าระบบปัจจุบันที่รับประกันผลตอบแทน

    2) เร่งเจรจาชะลอการลงทุนและเลื่อนกำหนดการเข้าสู่ระบบ (COD) ของหน่วยผลิตไฟฟ้าใหม่ โดยเฉพาะของเอกชนที่ได้รับอนุมัติโดยมิได้ผ่านการประมูล

    3) ปรับระบบการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้าในส่วนที่เรียกกันว่า Merit Order โดยจัดให้โรงไฟฟ้าต่างๆ ทั้งเอกชนและของรัฐแข่งกันเสนอราคาขายที่ต่ำที่สุด ซึ่งอาจจะต่ำกว่าค่าพลังงานที่เคยระบุไว้ในสัญญา

    4) รัฐควรใช้เงื่อนไขตามสัญญาเพื่อลดหรือเจรจาลดการซื้อในส่วนที่เป็นสัญญาผูกมัด (Must take) และลดการจ่าย “ค่าความพร้อมจ่าย” ที่สามารถลดได้ และ ไม่ต่อใบอนุญาตที่ไม่จำเป็น

    พร้อมกันนี้ รัฐบาลยังต้องปรับการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศหรือ PDP ให้ทันสมัย โปร่งใส และมีความยืดหยุ่น สะท้อนความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้าจากสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ไม่ให้เกิดการอนุมัติกำลังผลิตที่เกินความจำเป็น-เป็นปัญหาที่ยาวนาน และเพื่อวางแผนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่จริงจังมากขึ้น ทั้งยังควรให้มีการเปิดเผยข้อมูลเพื่อให้ได้ PDP ที่โปร่งใสและสมบูรณ์ อาทิ ต้นทุนของโรงไฟฟ้าทั้งเอกชน และ กฟผ. ข้อจำกัดในการสั่งเดินเครื่องโรงไฟฟ้า ข้อจำกัดของระบบสายส่งสาย รวมทั้งการวิเคราะห์ทางเลือกต่างๆ ในการจัดหาไฟฟ้า เพื่อให้เกิดการลงทุนโดยรวมที่มีประสิทธิภาพ (Optimization) ระหว่างสายส่งสายจำหน่าย กับการสร้างโรงไฟฟ้าในการจัดทำแผน PDP และแผนการลงทุนในระบบสายส่งสายจำหน่าย.
    --------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.voicetv.co.th/read/Oeyo...RBY7b6053zRuY6nVCB59DZXM03lWnqx4zlnh2pa-FbJ88

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักดาราศาสตร์เผย ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อาจชนโลกในอีก 48 ปี! วันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2611 เสียหายเท่านิวเคลียร์ 8 พันลูก! โอกาสเกิดขึ้น 0.00067%

    วันที่ 30 ตุลาคม สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติเผยว่า

    "อีก 48 ปีข้างหน้า #ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส อาจมีโอกาสพุ่งชนโลก

    นักดาราศาสตร์ต่างจับตามอง "ดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิส" เนื่องจากเป็น 1 ใน 3 ดาวเคราะห์น้อยที่มีโอกาสพุ่งชนโลกในช่วงหนึ่งร้อยปีต่อจากนี้ แต่เมื่อไม่นานมานี้ นักดาราศาสตร์จากมหาวิทยาลัยฮาวายได้เปิดเผยว่า วงโคจรของอะโฟฟิสมีความเปลี่ยนแปลงและอาจพุ่งชนโลกประมาณวันที่ 12 เมษายน พ.ศ. 2611 หรืออีก 48 ปีข้างหน้า

    Dave Tholen นักดาราศาสตร์ประจำสถาบันดาราศาสตร์ของมหาวิทยาลัยฮาวาย ผู้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสมากว่า 16 ปี ได้อธิบายถึงผลการสำรวจล่าสุดว่า การเปลี่ยนแปลงวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยเกิดจากการดูดซับรังสีจากดวงอาทิตย์เรียกว่า ยาคอฟสกีเอฟเฟค (Yarkovsky effect) ส่งผลให้เกิดการเบี่ยงเบนวงโคจรของดาวเคราะห์น้อยอะโพฟิสจากเดิมที่คำนวณไว้ปีละ 170 เมตร ซึ่งมากพอที่อาจจะมีโอกาสพุ่งชนโลกในปี พ.ศ. 2611 อย่างไรก็ตาม ขณะนี้โอกาสการเกิดขึ้นมากที่สุดตาม Sentry Risk Table ขององค์การนาซาคือ 1 ใน 150,000 หรือคิดเป็นร้อยละ 0.00067

    ปัจจุบัน นักดาราศาสตร์ได้ติดตามดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสอย่างต่อเนื่อง อัพเดทข้อมูลล่าสุดและคำนวณอย่างระมัดระวัง ซึ่งข้อมูลจากกล้องโทรทรรศน์ซูบารุในเดือนมกราคมถึงมีนาคม ช่วยให้วัดตำแหน่งของอะโพฟิสได้อย่างแม่นยำ และสามารถประมาณขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสได้ นั่นคือ 370 เมตร

    การเข้าใกล้โลกมากที่สุดครั้งถัดไป คือวันที่ 13 เมษายน พ.ศ. 2572 ซึ่งอาจทำให้สามารถมองเห็นดาวเคราะห์น้อยดวงนี้ได้ด้วยตาเปล่า นักดาราศาสตร์ต่างเฝ้ารอการเข้าใกล้ครั้งนี้เพราะเป็นโอกาสที่จะได้ข้อมูลของวงโคจรที่แม่นยำ ผลของแรงโน้มถ่วงและแสงอาทิตย์ที่มีผลกับวงโคจรของอะโฟฟิส

    ดาวเคราะห์น้อยอะโฟฟิสถูกค้นพบในปี พ.ศ. 2547 โดยหอดูดาวแห่งชาติคิตพีค (Kitt Peak National Observatory) หากการพุ่งชนเกิดขึ้นจะทำให้เกิดแรงระเบิดที่เทียบเท่ากับระเบิด TNT จำนวน 880 ล้านตัน ซึ่งถือเป็นหายนะของโลกได้

    เรียบเรียง : สิทธิพร เดือนตะคุ - เจ้าหน้าทีสารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.

    อ้างอิง :
    [1] https://www.hawaii.edu/news/2020/10/26/new-massive-asteroid-findings/
    [2] https://cneos.jpl.nasa.gov/sentry/
    [3] https://gizmodo.com/asteroid-apophis-remains-a-threat-to-hit-earth-in-2068-1845496002
    [4] https://www.dailymail.co.uk/science...mW8niqcbTpu2yr-rN_srLJDaZ7eG9QZvPUH8zkBnQR0PY

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝนที่ไม่ตกต้องตามฤดูกาล อาจเป็นตัวการที่ทำให้ปีนี้แล้งสุดในรอบ 40 ปี แต่ปริมาณน้ำที่ได้มา เราสามารถกักเก็บไว้ใช้งานได้ดีพอหรือยัง?
    .
    นอกจากน้ำ ในภาคการเกษตร ยังมีทรัพยากรอื่นที่เกษตรกรต้องใช้ ไม่ว่าจะเป็นปุ๋ย เมล็ดพันธุ์ หรือพลังงาน ทุกวันนี้เราใช้ประโยชน์จากทรัพยากรได้คุ้มค่าสูงสุดหรือยัง?
    .
    ขณะที่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็ไม่ได้ส่งผลกระทบแค่สุขภาพและเศรษฐกิจ แต่ยังซ้ำเติมปัญหาขยะที่ยังไม่ได้รับการจัดการให้ดีพอ ด้วยวิถีชีวิตแบบ New Normal ที่ผู้คนต้องบริโภคและสร้างขยะมากขึ้น ก่อนจะปล่อยให้ทรัพยากรเหล่านั้นเป็นขยะ เราได้หมุนเวียนทรัพยากรให้กลับมาใช้ได้คุ้มค่าที่สุดหรือยัง?
    .
    รวมทั้งขยะในอุตสาหกรรมก่อสร้างที่เพิ่มขึ้นจากการเร่งพัฒนาความเจริญให้กับประเทศ เราได้มีแนวทางที่จะลดขยะที่จัดการยากเหล่านี้และหมุนเวียนกลับมาใช้ประโยชน์ได้อีกหรือยัง?
    .
    จากปัญหาสำคัญของประเทศ ซึ่งกระทบต่อสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมเหล่านี้ เป็นเหตุผลว่าทำไมทุกภาคส่วนควรหันมาสนใจและเร่งขับเคลื่อนหลัก Circular Economy หรือเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งให้ความสำคัญกับการใช้ทรัพยากรเท่าที่จำเป็นอย่างเกิดประโยชน์สูงสุด
    .
    SCG จึงจัดงาน SD Symposium 2020 ขึ้นเป็นปีที่ 11 ภายใต้แนวคิด “Circular Economy: Action for Sustainable Future” เพื่อชักชวนให้ทุกภาคส่วน มาร่วมกันผลักดันเศรษฐกิจหมุนเวียน ให้เกิดการลงมือทำอย่างจริงจัง เพื่อสร้างสังคม เศรษฐกิจ และสิ่งแวดล้อมที่ดี และบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนให้ได้ในอนาคต เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ทำให้สำเร็จด้วยคนหรือภาคส่วนเดียวไม่ได้
    .
    โดยปีนี้จะจัดงานในรูปแบบ Online Symposium เป็นครั้งแรก ในวันจันทร์ที่ 9 พฤศจิกายน 2563 เวลา 13.30 - 15.00 น. เพื่อให้ทุกคนที่สนใจสามารถเข้าชมได้ นับว่าเป็นความพิเศษ ที่ทุกคนจะได้เข้าร่วมฟังแนวคิดจาก “ตัวจริงเสียงจริง” ในด้านต่างๆ ที่จะมารวมตัวกันเฉพาะกิจในงานนี้
    .
    นอกจากจะมี speaker ชั้นนำระดับประเทศและระดับโลกที่มาแบ่งปันประสบการณ์ สร้างแรงบันดาลใจแล้ว SCG ยังจัด Pre-Session Workshop ตลอด 1 เดือนก่อนงานวันที่ 9 พ.ย. เพื่อระดมสมอง แลกเปลี่ยนความรู้ และกรณีศึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทุกภาคส่วน เพื่อร่วมแก้ปัญหาสำคัญ คือ การจัดการน้ำ การจัดการทรัพยากรภาคการเกษตร การจัดการขยะ และการลดขยะจากการก่อสร้าง
    .
    ทาง Environman เอง ก็ได้มีโอกาสในการเข้าร่วม Pre-Session Workshop ในหัวข้อ “การถอดบทเรียนต้นแบบการจัดการขยะ” ด้วย ทำให้ได้เห็นความตั้งใจของหลายภาคส่วนที่ลุกขึ้นมาลงมือปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจหมุนเวียน เลยอยากให้ทุกคนที่สนใจเข้าร่วมชมงานนี้ เพื่อจะนำข้อมูล ความรู้ และเกิดแรงบันดาลใจไปประยุกต์ใช้ได้
    .
    แม้ปัญหาทรัพยากรและสิ่งแวดล้อมจะเป็นเรื่องใหญ่ แต่คนตัวเล็กๆ อย่างพวกเราก็สามารถเป็นส่วนสำคัญในการช่วยแก้วิกฤตนี้ได้ หากยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นอย่างไร มาลองรับฟังแนวทางดีๆ ในงาน SD Symposium 2020 ครั้งนี้ได้ เพียงคลิกลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อรับชม Online Symposium ที่ https://bit.ly/35Kcio9 และดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3mxhKS0
    .
    #SCG #SDSymposium2020 #ร่วมมือเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน|

    https://fb.watch/1rQ66APzjE/
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชวนคนไทยสร้างปรากฎการณ์ "ลอยกระทงรักษ์โลก" ไร้ขยะ ใช้วัสดุเป็นมิตร เลี่ยงลดงดโฟม-โคม-ขนมปัง ไปด้วยกันลอยอันเดียว ลอยออนไลน์ เลือกลอยในแหล่งน้ำปิด

    เทศกาลลอยกระทง คือหนึ่งในเทศกาลประจำปีของไทย กับความเชื่อที่ว่าการลอยกระทงคือการขอขมาและขอบคุณสายน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของคนทั้งประเทศ

    แต่ทุกวันนี้ กระทงของพวกเรากำลังทำร้ายแม่น้ำและสัตว์น้ำ สวนทางกับเจตนาของประเพณีนี้อย่างสิ้นเชิง จากข้อมูลย้อนหลังของกรุงเทพมหานคร พบว่าตั้งแต่ปี 2555 เรื่อยมา ปริมาณขยะกระทงเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เก็บมีราวๆ เกือบ 1 ล้านใบต่อปี

    ขยะกระทงแม้แต่วัสดุที่ย่อยสลายได้ก็ยังต้องใช้เวลานานและต้องดึงออกซิเจนจากน้ำ ทำให้มีผลต่อชีวิตสัตว์น้ำที่อาจทั้งกินเอาขยะเข้าไป หรือก็ต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่เริ่มเน่า

    ทั้งนี้ การจัดการเพื่อเก็บขยะตลอดทางไหลของกระแสน้ำก็ใช้ทรัพยากรมากและอาจมีการหลุดรอดของขยะไปสู่ทะเล และยังติดอยู่ตามแหล่งต่างๆที่กระแสน้ำพัดไป เช่น ทางระบายน้ำ บริเวณกอผักตบชวา ตลิ่งธรรมชาติหรือป่าโกงกางที่เป็นแหล่งเพราะพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญ ซึ่งอาจเก็บได้ไม่ทั่วถึง

    หลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีกระแสตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เช่น ในปี 2561 มีกระแสการรณรงค์ 1 กระทง 1 ครอบครัว เพื่อหวังลดปริมาณขยะในแม่น้ำลำคลอง ร่วมกับการมีกระทงที่ออกแบบมาให้ย่อยสลายง่ายขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าโฟม

    และมีสัญญาณดีมากขึ้นจากการรณรงค์ในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2562 กทม.เผยยอดรวมจัดเก็บกระทงได้จำนวนทั้งสิ้น 502,024 ใบ (น้อยกว่าปี 2561 339,303 ใบ ที่มีจำนวน 841,327 ใบ) เป็นกระทงวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ 96.3% และกระทงที่ทำจากโฟม 3.7%

    ปีนี้เรามาร่วมกันต่อ! เพื่อเป็นการลดจำนวนขยะที่จะปะปนอยู่ในแหล่งน้ำเปิด โดยเฉพาะในแม่น้ำ ลำคลอง ในงานลอยกระทงที่จะถึงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และหน่วยงานรัฐ เอกชน เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน โดยการไม่จัดการลอยกระทงในแหล่งน้ำเปิด ซึ่งเป็นต้นเหตุของการมีขยะไหลลงสู่ทะเล

    หากเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ อยากให้คุณช่วยแชร์แคมเปญนี้กันนะ และมาร่วมกันทำให้ปีนี้ลดขยะกระทงลงได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว พิจารณาทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ลดลอยกระทงโฟม เลือกลอยในแหล่งน้ำปิด ลอยออนไลน์ ใช้กระทงน้ำแข็ง กระทง 1 ใบต่อครอบครัว...และอีกหลายไอเดีย

    สุขสันต์วันลอยกระทงรักษ์โลก

    ร่มธรรม ขำนุรักษ์ (หวาย)







     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    The Ocean Cleanup องค์กรคลีนมหาสมุทรเปิดตัว แว่นจากแพขยะพลาสติกในทะเล! มุ่งเก็บขยะพลาสติกแหล่งน้ำทั่วโลก

    The Ocean Cleanup เป็นองค์กรที่ทำความสะอาดขยะในมหาสมุทรมาอย่างต่อเนื่อง โดยมีเป้าประสงค์ที่จะกำจัดขยะในมหาสมุทรให้ได้ 90% ในปี 2050 ที่มีชื่อเสียงจากการใช้เทคโนโลยีทำความสะอาดขยะจากมหาสมุทรและแหล่งแม่น้ำทั่วโลก

    ล่าสุด The Ocean Cleanup ได้ผนึกกำลังกับทาง Yves Béhar เพื่อสร้างแว่นตากันแดดจากพลาสสติกที่เก็บมาจากแพขยะใหญ่แปซิฟิก เพื่อให้เกิดการหมุนเวียนเปลี่ยนขยะให้กลายเป็นขุมทรัพย์

    แว่นจากขยะดังกล่าวผลิตโดยแบรนด์แว่นอิตาลีอย่าง Safilo โดยตัวแว่นและเลนส์ถูกออกแบบให้มีสีกรม เพื่อชวนให้นึกถึงสีของทะเลลึก

    แว่นดัวกล่าวถูกออกแบบมาให้สามารถใช้ได้จริงและทนทาน ตัวพลาสติดจะมีความนิ่มกว่าพลาสติกปกติทั่วไป เพื่อให้ความรู้สึกที่สบายเมื่อสวมใส่ และเมื่อมันหมดอายุการใช้งานพวกมันก็สามารถนำไปรีไซเคิลได้ด้วย

    โดยตัวแว่นทั้งหมดนี้จะทำมาจากขยะพลาสติกที่เก็บขึ้นมาในเดือนมิถุนายนปี 2019 ขณะที่กล่องใส่แว่นทำมาจากขยะพลาสติกที่เก็บได้ในปี 2018

    ซึ่งเงินที่ได้จากการขายทั้งหมดนี้จะกลับมาสู่ภาระกิจทำความสะอาดมหาสมุทรอีกต่อไป



    https://www.dezeen.com/2020/10/27/the-ocean-cleanup-sunglasses-yves-behar-fuseproject/

    http://theoceancleanup.com/sunglass...K3Ukn2Lubv8oY9GRHVsRtzTdTjWsfvyGkWrazUjUD_A7c

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กรุงเทพมหานครปรับภูมิทัศน์ใหม่ คลองโอ่งอ่าง บริเวณสะพานหัน จักรเพชร เขตพระนคร น้ำใสถนนสะอาด พัฒนาเป็นถนนคนเดิน กระตุ้นท่องเที่ยว เศรษฐกิจ สร้างรายได้ชุมชน

    24 ตุลาคมที่ผ่านมา นายอัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครเผยข้อมูลว่า

    "จากคลองโอ่งอ่างในอดีต กับปัจจุบัน ชอบแบบไหนมากกว่ากันครับ

    วันนี้คลองโอ่งอ่างเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้นจนจำภาพเก่าไม่ได้แล้ว และเร็วๆ นี้ คลองโอ่งอ่างกำลังจะเป็นจุดเช็คอิน และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมที่เก๋ไก๋และสวยงาม ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของภาคประชาชนริมคลองโอ่งอ่าง และศิลปินจิตอาสา ที่มาร่วมกันพัฒนาพื้นที่แห่งนี้ไปด้วยกัน นี่แค่น้ำจิ้มเท่านั้นครับ ไม่มาไม่ได้แล้ว

    ✨โดยกทม.จะเปิดตัวคลองโอ่งอ่างโฉมใหม่ในงานเทศกาลลอยกระทง "งามสะพรั่ง จันทร์ริมคลอง" ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 29-31 ต.ค.63 ตั้งแต่สะพานดำรงสถิต ถึง สะพานภาณุพันธุ์ ทั้ง 2 ฝั่งคลอง เพื่อสืบสานประเพณีลอยกระทง และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวิถีชีวิตริมคลอง

    จากนั้นกทม.จะจัดงานถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ONG ANG WALKING STREET ต่อเนื่องทุกวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ซึ่งจะมีกิจกรรมมากมายครับ ต้องติดตามต่อไป"

    นอกจากนั้น (28 ต.ค.63) ณ บริเวณสะพานหัน(คลองโอ่งอ่าง) เขตพระนคร : นางวัลยา วัฒนรัตน์ รองปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยภายหลังลงพื้นที่ตรวจความเรียบร้อยคลองโอ่งอ่าง ว่า วันนี้เป็นการตรวจความพร้อมบริเวณริมคลองโอ่งอ่าง สถานที่จัดงานวันลอยกระทงคลองโอ่งอ่างที่จะจัดระหว่างวันที่ 29 – 31 ต.ค. 63 และสถานที่กิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. 63 หลังจากนั้นกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างจะจัดทุกสัปดาห์ ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์

    ทั้งนี้นอกจากการปรับปรุงภูมิทัศน์แล้ว กรุงเทพมหานครได้ติดตั้งเพิ่มเติมระบบไฟฟ้าส่องสว่าง กล้องวงจรปิด (CCTV) บริเวณโดยรอบสถานที่จัดงาน จำนวน 60 ตัว ซึ่งทุกตัวสามารถใช้งานได้ปกติ ซึ่งจะสร้างความมั่นใจให้แก่ประชาชนที่จะมาร่วมงาน นอกจากนี้ กรุงเทพมหานคร ยังได้จัดเตรียม จุดเช็คอินแอปพลิเคชั่น “ไทยชนะ” บริเวณก่อนเข้างาน รวมทั้งได้จัดเตรียมพื้นที่จำหน่ายสินค้า ระบบแสง สี เสียง ตลอดจนลานแสดงกิจกรรมต่างๆ อาทิ การแสดงดนตรีหลากหลายรูปแบบ การแสดงเดี่ยวระนาดและเดี่ยวขลุ่ย การแสดงมายากล การจำหน่ายสินค้าที่มีความหลากหลาย เป็นต้น

    ซึ่งในภาพรวมส่วนใหญ่เป็นไปด้วยความเรียบร้อยพร้อมเปิดให้ประชาชนได้มาร่วมกิจกรรมและชมบรรยายกาศที่สวยงามและมีสีสันของคลองโอ่งอ่าง ที่พิเศษไปกว่านั้น ระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. 63 สวนลอยฟ้าเจ้าพระยา (Chao Phraya Sky Park) จะเปิดให้บริการตั้งแต่เวลา 05.00-24.00 น. เพื่อให้ประชาชนสามารถเดินเชื่อมต่อจากคลองโอ่งอ่างไปยังแม่น้ำเจ้าพระยาเพื่อชมวิวที่สวยงามกลางแม่น้ำอีกด้วย

    การจัดงานลอยกระทงและกิจกรรมถนนคนเดิน บริเวณคลองโอ่งอ่าง กรุงเทพมหานครมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยว กระตุ้นเศรษฐกิจ และสร้างรายได้ให้กับประชาชน โดยกำหนดจัดงานบริเวณริมคลองโอ่งอ่างที่กรุงเทพมหานครปรับปรุงภูมิทัศน์ใหม่ ช่วงระหว่างสะพานดำรงสถิต ถึงสะพานโอสถานนท์ ซึ่งทั้ง 2 กิจกรรมกำหนดพิธีเปิดอย่างเป็นทางการในวันที่ 31 ต.ค. 63 สำหรับงานลอยกระทงคลองโอ่งอ่างปีนี้กำหนดจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “งามสะพรั่ง จันทร์ริมคลอง” ระหว่างวันที่ 29 - 31 ต.ค. 63 เวลา 17.00– 24.00 น.

    ภายในงานมีกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การประกวดหนูน้อยนพมาศ สาธิตการประดิษฐ์กระทงจากวัสดุธรรมชาติ การแสดงดนตรี การแสดงศิลปวัฒนธรรม การออกร้านจำหน่ายอาหารและของดีของเขต เป็นต้น

    ส่วนกิจกรรมถนนคนเดินโอ่งอ่างซึ่งเป็นการเปิดตัวครั้งแรกนี้ กำหนดจัดระหว่างวันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย.63 แบ่งเป็น 5 โซน ประกอบด้วย

    1.ชานแชะ (Creative Terrace) พื้นที่สร้างสรรค์งานศิลปะ Street Art จากศิลปินชื่อดัง ลานกิจกรรม (Activity Area) กิจกรรมแต้มสีโอ่งอ่าง ศิลปินเปิดหมวก ลานละเล่น (Playing Space)

    2.ชานช็อป (Shopping Terrace) พื้นที่ร้านค้าท้องถิ่น / สินค้าตามเทศกาล

    3.ชานวัฒนธรรม (Cultural Terrace) พื้นที่ร้านค้า ร้านอาหารเชิงวัฒนธรรม เชื้อชาติที่มีความหลากหลาย แขก จีน ไทย และร้านค้า DIY

    4.ชานชิม (Gastronomy Terrace) พื้นที่อาหารท้องถิ่น Street Food ร้านเครื่องดื่ม

    และ5.ชานเรือน (Community Terrace) พื้นที่สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกรถสุขา และพื้นที่กิจกรรมหน้าบ้านหน้ามอง รวมระยะทาง 750 เมตร สามารถรองรับร้านค้า รวมจำนวน 261 ร้าน แบ่งเป็น ร้านค้า 119 ร้าน และแผงค้า 142 แผง สำหรับกิจกรรมครั้งต่อๆ ไปกำหนดจัดกิจกรรมทุกสัปดาห์ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์ ระหว่างเวลา 16.00 – 22.00 น. กรุงเทพมหานคร ขอเชิญชวนประชาชนร่วมงานลอยกระทง และร่วมกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง เพื่อร่วมอนุรักษ์วัฒนธรรมของไทยและกระตุ้นเศรษฐกิจของกรุงเทพมหานครต่อไป

    ที่มา







     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ทะเลเม็กซิโกมีเฮ เต่าหญ้าใกล้สูญพันธุ์ฟักตัวมากขึ้นในปีนี้! คาดเหตุท่องเที่ยว-ประมงน้อยลงชายหาดแหล่งวางไข่ไม่ถูกรบกวน

    ชุมชนพื้นเมือง Seri ปล่อยลูกเต่าหญ้า ( olive ridley sea turtles) มากกว่า 2,250 ชีวิตที่ฟักตัวในรัฐ Sonora ลงอ่าวแคลิฟอร์เนีย ซึ่งโดยปกติชุมชนพื้นเมืองดังกล่าวมักจะปล่อยลูกเต้าลงสู่ทะเลเป็นประจำอยู่แล้วปีละ 500 ตัว

    ซึ่งจำนวนลูกเต่าที่มากในปีนี้เชื่อว่าเกิดจากการที่การประมงและการท่องเที่ยวนั้นไม่คึกคักทำให้ชายหาดที่เป็นแหล่งวางไข่ไม่ถูกรบกวน

    เต่าหญ้าเป็นเต่าที่ถูกคุกคามและถูกจัดอยู่ในสิ่งมีชีวิตเสี่ยงสูญพันธุ์ไปจากธรรมชาติ โดยล่าสุดได้วางไข่ในหลายรัฐของ Mexico ช่วงพฤษภาคมถึงเดือนกันยายนที่ผ่านมา

    แม็กซิโกเป็นประเทศที่ห้ามการจับเต่าทะเลตั้งแต่ 1990 ซึ่งผู้ที่ฝ่าฝืนจะโดนบทลงโทษที่เข้มงวด

    https://www.bbc.com/news/world-latin-america-54724723

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวอัมสเตอร์ดัมคิดกรีน ผุดระบบจัดเก็บไฟฟ้าจากการปั่นจักรยาน! ติดแบตเตอรี่ไว้ตรงล้อหน้าจอดปุ๊ปส่งพลังงานที่ได้ไปเป็นไฟฟ้า

    อัมสเตอร์ดัมได้ชื่อว่าเมืองแห่งนักปั่น นับตั้งแต่ปี 2017 ผู้คนกว่า 68% มักเดินทางไปยังที่ทำงานหรือโรงเรียนด้วยจักรยานเป็นหลัก ในแต่ละวันผู้คนปั่นจักรยานรวม ๆ กันแล้ว 2 ล้านกิโลเมตร ซึ่งการปั่นของชาวเมืองสามารถกำเนิดพลังงานได้จำนวนมากถึง 19.5 ล้านวัตต์/ชั่วโมง ซึ่งมากเพียงพอที่จะใช้เป็นพันครัวเรือน

    S-Park ระบบจัดเก็บจักรยานใหม่ที่นักออกแบบอย่าง Guillaume Roukhomovsky และ Blaž Verhnjak ออกแบบมาเพื่อตอบสนองต่อพฤติกรรมการปั่นและการหันมาใช้พลังงานสะอาด

    โดยระบบจะถูกติดตั้งไว้กับล้อหน้า โดยล้อหน้าจะมีแบตเตอรี่ที่จัดเก็บพลังงานจากการเคลื่อนที่เป็นวงกลมของของล้อ และเมื่อนำจักรยานมาจอดกับ S-Park ที่จัดเก็บจักรยาน มันก็จะนำพลังงานที่ได้จากการปั่นไปใช้เป็นพลังงานไฟฟ้า

    อย่างไรก็ตาม S-Park ยังไม่ถูกนำมาใช้จริง แต่อัมสเตอร์ดัมได้วางแผนที่จะลงทุนเงินจำนวน 100 ล้านเหรียญ สำหรับโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการขี่จักรยานภายในปี 2020 ซึ่ง S-Park ก็หวังว่าจะได้เป็นหนึ่งในนั้น

    https://www.fastcompany.com/9027437...VvsmIXu-_1pGvZzn2C0GRnlzQpbXcqsv7g90AR3AFmlg0

    https://cleanenergychallenge.whatdesigncando.com/projects/s-park/

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Pokemon สุดเหมือนจริง โดย Joshua Dunlop มีใครชอบตัวไหนกันบ้าง!?

    Joshua Dunlop ศิลปินผู้ที่ทำคอนเซปอาร์ต Pokemon สุดสวยเสมือนจริง

    วันนี้จึงพามาดูภาพบางส่วน โดยสามารถไปดูรูปทั้งหมดได้ที่

    https://www.facebook.com/JoshDunlopConceptArtist

    https://www.patreon.com/JoshuaDunlop

    https://www.etsy.com/uk/shop/JoshuaDunlop

    #Pokemon #PokemonZoology #Venusaur #JoshuaDunlop

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อุทยานออสเตรเลียชุบชีวิตตัวคลอลล์ที่สูญพันธุ์ในพื้นที่กว่า 50 ปี คืนสู่ธรรมชาติอีกครั้ง! เตรียมติดตาม หวังช่วยพ้นสูญพันธุ์

    อุทยานแห่งชาติ Boodereeในออสเตรเลียได้นำ Eastern Quoll กลับมาสู่พื้นที่อนุรักษ์ เพื่อปกป้องไม่ให้สูญพันธุ์

    ไม่นานมานี้บริเวณชายฝั่งทางใต้ในรัฐนิวเซาท์เวลส์ของออสเตรเลียได้ติดตั้งเครื่องติดตามไว้ที่หางของเจ้า Eastern Quoll เพื่อติดตามพฤติกรรมของเจ้าควอลล์วัยเด็กสองตัว และติดตามการขยายพันธุ์ของพวกมันในเดือนพฤษภาคมปีหน้า

    Eastern Quoll หายไปจากพื้นที่ตั้งแต่ 50 ปีที่แล้วเนื่องจากสารกำจัดศัตรูพืชและโรค อย่างไรก็ตามช่วงสามปีที่ผ่านมาเจ้าควอลล์จำนวน 50 ตัวที่ถูกขังอยู่ใน Tasmania ได้ถูกปล่อยให้เป็นอิสระในพื้นที่อุทยาน Booderee แต่พวกมันวัยโตเต็มที่จำนวนมากก็ต้องตายลงจากการตกเป็นเหลื่อของนักล่าอย่างจิ้งจอก งู และโดนรถชนบนท้องถนน

    ตัวควอลล์ (quoll) สัตว์โลกตัวเล็กสุดน่ารักของออสเตรเลีย ในออสเตรเลียมีเจ้าควอลล์ด้วยกันอยู่ 4 สายพันธุ์ ได้แก่ Spotted-tailed Quoll, Western Quoll, Eastern Quoll และ Northern Quoll

    เจ้าตัวเล็กนี้สามารถโตได้มากสุดถึง 125 เซนติเมตร (รวมความยาวหางแล้ว) หนักประมาณ 5 กิโลกรัม อย่างไรก็ตามเจ้าควอลล์บางสายพันธุ์มีขนาดที่เล็กเพียง 1 กิโลกรัมเท่านั้น พวกมันมีตั้งแต่สีดำไปจนถึงสีน้ำตาลอมเหลือง มีลายจุดสีเหลือง มีหางยาว และมีฟันที่แหลมคม เห็นน่ารัก ๆ แบบนี้แต่เป็นสัตว์ดินเนื้อนะ

    อย่างไรก็ตาม Eastern Quoll และ Northern Quoll กำลังถูกคุมคามและตกอยู่ในสถานะเป็นสิ่งมีชีวิตที่ใกล้การสูญพันธุ์ของ IUCN

    https://www.abc.net.au/news/2020-10...to-be-tracked-with-tail-transmitters/12823180

    https://www.bushheritage.org.au/species/quolls

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว กะทิไทยโดนแบนอีกแล้วครับท่าน!!! ล่าสุด USA TODAY รายงานว่า คอสโก้ (Costco) ห้างค้าปลีกรายใหญ่อันดับสองของสหรัฐฯ สั่งถอดสินค้ากะทิจากผู้ผลิตไทยแบรนด์ 'ชาวเกาะ' จากชั้นวางขายในทุกสาขา จากกรณีที่องค์กรพิทักษ์สัตว์ หรือ PETA ได้รายงานอ้างกรณี-พบผู้ผลิตสินค้ากะทิของไทยใช้แรงงานลิงในการเก็บมะพร้าว

    ** ท่าทีล่าสุดของคอสโก้มีขึ้นตามมาหลังจากก่อนหน้านี้ ค้าปลีกแบรนด์ดังของสหรัฐฯ อย่าง วอลล์กรีน, ฟู้ดไลอ้้้้อน์, ไจแอนท์ฟู้ด และ สต็อป แอนด์ ช็อป ถอดสินค้ากะทิไทยแบรนด์ชาวเกาะจากชั้นวางจำหน่ายไปก่อนหน้านี้ สืบเนื่องจากข้อกล่าวหาการใช้แรงงานลิงของ PETA

    ด้าน บริษัทเทพพดุงพรมะพร้าว ได้เปิดเผยกับ USA TODAY ว่า บริษัทได้ทำการสอบสวนซัพพลายเออร์ผู้ผลิตมะพร้าวจำนวน 64 แห่ง จากทั้งหมด 817 แห่งแล้วพบว่า ไม่มีการใช้แรงงานลิงในกระบวนการเก็บมะพร้าว รวมถึงขอให้มั่นใจว่าผลิตภัณฑ์กะทิของบริษัทซึ่งเป็นผู้นำด้านการผลิตกะทิของโลกไม่ได้ใช้แรงงานลิงในกระบวนการเก็บมะพร้าว

    ** อิงกริด นิวเคิร์ก ประธานกลุ่ม PETA กล่าวว่า จะไม่มีผู้บริโภคคนใดต้องการให้ลิงถูกล่ามโซ่และถูกปฏิบัติราวกับเป็นเครื่องเก็บมะพร้าว ทั้งยกย่องว่าคอสโก้ทำถูกต้องในการปฏิเสธสินค้าที่แสวงหาผลประโยชน์จากสัตว์ รวมถึงเรียกร้องให้ค้าปลีกรายอื่นๆ อย่าง 'โครเกอร์' ที่ยังไม่ปฏิบัติตามให้รีบดำเนินการแบนสินค้าดังกล่าวจากชั้นวาง อย่างไรก็ตาม นับตั้งแต่ที่ PETA เปิดเผยรายงานการใช้แรงงานสัตว์ตั้งแต่ปี 2562 ที่ผ่านมา ได้ผลักดันให้บรรดาห้างค้าปลีกรายใหญ่ต่างชาติยุติการขายกะทิไทยบนชั้นวาง นับตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ค.ที่ห้างค้าปลีกในอังกฤษหลายแห่งทยอยถอดกะทิไทจากชั้นวาง โดยองค์กรอ้างว่า ลิงถูกใช้แรงงานให้บังคับเก็บมะพร้าวถึง 400 ลูกต่อวัน พร้อมกับถูกล่ามโซ่และจับไว้ในกรงขัง.

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ไทยยิ้มแป้น!!!?? นางแพตริเซีย มงคลวนิช ผอ.สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ เปิดเผยว่า วานนี้ (29 ตุลาคม 2563) บริษัท Fitch Ratings (Fitch) ได้คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Sovereign Credit Rating) ที่ BBB+ และคงมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) โดยมีรายละเอียดดังนี้

    1) คงอันดับความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Credit Rating) ที่ BBB+ และมุมมองความน่าเชื่อถือของประเทศไทย (Outlook) อยู่ในระดับมีเสถียรภาพ (Stable Outlook) เนื่องจากประเทศไทยมีความเข้มแข็งภาคการคลังและภาคการเงินต่างประเทศอยู่ในระดับสูง ซึ่งมีส่วนช่วยรองรับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรุนแรง และความผันผวนของวิกฤตเศรษฐกิจ รวมทั้งสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้เป็นอย่างดี

    2) ภาคการคลังสาธารณะ (Public Finance) มีความแข็งแกร่งเป็นผลจากการบริหารจัดการทางการคลังอย่างรอบคอบและเป็นไปตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 เพื่อรักษาวินัยทางการคลัง ทั้งนี้ การขาดดุลงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่เพิ่มขึ้นจากการดำเนินนโยบายการคลังจะทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นในระยะสั้น อย่างไรก็ดี Fitch เชื่อมั่นว่า เศรษฐกิจไทยจะฟื้นตัวและเติบโตในระยะปานกลางได้ โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจไทยในปี 2564 จะฟื้นตัวขึ้นร้อยละ 3.8 เป็นผลจากการดำเนินมาตรการทางการคลังของรัฐบาลอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของ COVID-19 และงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2564 มีผลบังคับใช้แล้ว สร้างความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพการใช้จ่ายของภาครัฐในภาวะที่เศรษฐกิจของประเทศมีความเปราะบางได้

    3) ภาคการเงินต่างประเทศ (External Finance) ยังคงมีความเข้มแข็ง โดยมีดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุล และทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ในระดับสูง

    4) ประเด็นที่ Fitch ให้ความสนใจและจะติดตามอย่างใกล้ชิดคือ สัดส่วนหนี้ภาคครัวเรือนต่อ GDP และความไม่แน่นอนทางการเมือง ซึ่งอาจมีผลต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานของภาครัฐและการเติบโตทางเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในระยะปานกลาง.

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ตอบงี้ก็ได้อ่อ!!!??? หลังเกิดเหตุสะเทือนขวัญ 'คนร้ายบุกวิหารในเมืองนีซทางตอนใต้ของฝรั่งเศสคร่าชีวิตผู้เคราะห์ร้าย 3 ราย' โดยหนึ่งในนั้นถูกมีดปาดคอ ล่าสุด มหาเธร์ โมฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีของมาเลเซีย ทวีตถึงเหตุการณ์ดังกล่าวโดยโยงไปถึงการตัดศีรษะครูชาวฝรั่งเศสที่นำภาพการ์ตูนของศาสดามูฮัมหมัดมาสอนนักเรียนว่า ไม่เห็นด้วยกับการฆ่าผู้อื่น แต่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นก็ไม่ได้รวมถึงการดูหมิ่นผู้อื่น

    ** “การไม่เคารพในศาสดาของผู้อื่นทำให้คนที่โกรธแค้นลุกขึ้นมาเข่นฆ่า” อดีตผู้นำวัย 95 ปีกล่าว

    มหาเธร์ยังกล่าวอีกว่า “ตามประวัติศาสตร์ฝรั่งเศสสังหารผู้คนนับล้าน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม ดังนั้น ชาวมุสลิมมีสิทธิ์ที่จะโกรธแค้นและสังหารชาวฝรั่งเศสหลายล้านคนเช่นเดียวกันสำหรับการสังหารในอดีต แต่ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว ชาวมุสลิมไม่ได้ใช้หลักตาต่อตาฟันต่อฟัน ดังนั้น เมื่อชาวมุสลิมไม่ใช้หลักนี้ ฝรั่งเศสก็ไม่ควรใช้เช่นกัน”

    อดีตผู้นำมาเลเซียรายนี้ยังเผยอีกว่า ฝรั่งเศสควรสอนให้คนของตัวเองรู้จักเคารพความรู้สึกของผู้อื่น เนื่องจากคุณกล่าวโทษชาวมุสลิมทั้งหมดและศาสนาของชาวมุสลิมต่อสิ่งที่เกิดขึ้นจากคนที่โกรธแค้นเพียงคนเดียว ดังนั้นชาวมุสลิมจึงมีสิทธิ์ลงโทษชาวฝรั่งเศส

    ** การแสดงความคิดเห็นดังกล่าวก่อให้เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมามากมาย โดยผู้ใช้โซเชียลมีเดียบางคนถึงกับบอกว่าน่ารังเกียจและน่าอัปยศอดสู ทั้งนี้ ในเวลาต่อมาทวิตเตอร์ได้ระบุว่าทวีตของมหาเธร์เป็นการยุยงให้เกิดความรุนแรง แต่ยังไม่ลบทวีต แต่ในท้ายที่สุด-ทวิตเตอร์ก็ตัดสินใจลบทวีตเจ้าปัญหา.

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ศธ.แก้ระเบียบกระทรวงฯการไว้ทรงผมใหม่!!! โดยให้โรงเรียนสามารถออกระเบียบทรงผมที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ แต่ต้องผ่านความเห็นร่วมกันของนักเรียน-ผู้ปกครอง

    โดยเรื่องนี้ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า คณะกรรมการพิจารณาข้อเรียกร้องของนักเรียน นักศึกษา ศธ. มีมติแก้ไขระเบียบ ศธ.การไว้ทรงผมของนักเรียน ปี 2563 ในข้อ 7 โดยแก้เป็น "โรงเรียนสามารถออกระเบียบทรงผมของนักเรียนที่มีความเฉพาะเจาะจงได้ แต่ระเบียบดังกล่าวจะใช้ได้ ต้องผ่านกระบวนการ การมีส่วนร่วมของนักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชนท้องถิ่น" ทั้งนี้ การออกระเบียบทรงผมที่มีความเฉพาะเจาะจงจะต้องยึดเรื่องสิทธิของนักเรียนเป็นตัวตั้ง และคำนึงถึงความหลากหลายทางเพศสภาพของนักเรียนด้วย พร้อมทั้งออกแนวทางปฏิบัติเพื่อแนะนำโรงเรียน พร้อมทั้งให้ตัวอย่างที่ดีกับโรงเรียนให้ดำเนินการตาม

    ** ในส่วนการลงโทษที่ให้ทำตามระเบียบ ศธ.คือห้ามกล้อนผมหรือทำให้เด็กเกิดความอับอายนั้น ตนยังไม่ได้รับทราบเรื่องดังกล่าว ขอกลับดูรายละเอียดอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม การแก้ไขเรื่องต่างๆ ต้องคำนึงถึงผลกระทบที่ตามมาด้วย ส่วนเรื่องการลงโทษหรือการคุกคามเด็ก ตนเห็นด้วยว่าไม่ควรจะมีการลงโทษในลักษณะที่คุกคามเด็ก.

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว เศรษฐกิจไทยกระเตื้อง!!!??? ล่าสุด นายพรชัย ฐีระเวช ที่ปรึกษาด้านเศรษฐกิจการเงิน สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะรองโฆษกกระทรวงการคลัง แถลงข่าวประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2563 และ 2564 ว่า เศรษฐกิจไทยปี 2563 คาดว่าจะหดตัวที่ -7.7% ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ -8.2 ถึง -7.2%) หดตัวน้อยกว่าที่คาดการณ์ไว้ ณ เดือนกรกฎาคม 2563 ที่ -8.5% ต่อปี

    สำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2564 สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง คาดว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถกลับมาขยายตัวได้ที่ 4.5% ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 4.0-5.0%) โดยได้รับแรงสนับสนุนจากมูลค่าการส่งออกสินค้าที่กลับมาขยายตัวได้ที่ 6.0% ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 5.5-6.5%) ตามเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าสำคัญที่มีแนวโน้มขยายตัว การบริโภคภาคเอกชนที่ขยายตัวที่ 2.6% ต่อปี (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 2.1-3.1%) และการใช้จ่ายภาครัฐทั้งจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 จำนวน 3.3 ล้านล้านบาท และการเบิกจ่ายจากพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 พ.ศ. 2563 โดยมีกรอบวงเงินกู้ไม่เกิน 1 ล้านล้านบาทที่คาดว่าจะมีการเบิกจ่ายได้อย่างต่อเนื่อง ในด้านเสถียรภาพภายในประเทศคาดว่า อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2564 จะอยู่ที่ 1.0% (โดยมีช่วงคาดการณ์ที่ 0.5 – 1.5%) ปรับตัวสูงขึ้น ตามการฟื้นตัวของอุปสงค์ภายในประเทศ.
    -------------------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.posttoday.com/economy/n...yszPPEN2rM8NmxCPvSltyhSTXxRbZBsbxTxWNrRRFFtQ4

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว เศรษฐกิจเกาหลีใต้ยังแข็งแกร่ง!!! เกาหลีใต้รายงานตัวเลข GDP ในไตรมาส 3 ที่ผ่านมา โดยเติบโต 1.93% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ดีกว่าที่นักวิเคราะห์จาก Goldman Sachs คาดไว้ที่ 0.7% และ UOB ที่ 1% แต่ถ้าหากเมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ของปี 2019 ที่ผ่านมายังถดถอยที่ -1.3% ในไตรมาสนี้ โดยภาคการผลิตและการส่งออกยังคงเป็นหัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของเกาหลีใต้

    สำหรับสินค้าส่งออกในไตรมาสนี้เติบโตสูงถึง 18.2% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา ส่วนสินค้าส่งออกหลักที่เติบโตคือสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ รวมไปถึงยานยนต์ แต่ในไตรมาสนี้การลงทุนในสินค้าคงทน การนำเข้าสินค้าและบริการเติบโต 4.9% เมื่อเทียบกับไตรมาส 2 ที่ผ่านมา แต่ถ้าเทียบกับในปี 2019 ยังถือว่าถดถอยที่ -8.5% ขณะที่ภาคการบริโภคของเกาหลีใต้นั้นถดถอยเล็กน้อยเมื่อเทียบกับไตรมาส 2 อยู่ที่ -0.1% ขณะที่เทียบกับปี 2019 อยู่ที่ -2.3% ปัจจัยที่กระทบการฟื้นตัวของการบริโภคคือการแพร่ระบาด COVID-19 ในช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ส่งผลต่อเนื่องมายังในไตรมาส 3 ที่เพิ่งมีมาตรการผ่อนคลาย

    ** UOB มองว่า เศรษฐกิจของเกาหลีใต้เริ่มฟื้นตัวอย่างช้าๆ หลังจากผ่านพ้นช่วงเวลาที่แย่ที่สุดไปแล้ว ขณะที่ประเทศคู่ค้าเช่น สหรัฐอเมริกาและยุโรปเองยังต่อสู้กับการแพร่ระบาดของ COVID-19 ในระลอก 2 อาจกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจเกาหลีใต้ โดยสถาบันการเงินอย่าง UOB คาดว่า เศรษฐกิจเกาหลีใต้ปีนี้จะยังถดถอยเล็กน้อยที่ -0.8% ขณะที่ ING คาดว่า GDP จะถดถอยที่ -1.4% แต่มีมุมมองที่เป็นบวกและอาจปรับตัวเลขได้ดีกว่านี้.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์ของประเทศญี่ปุ่นตอนนี้ ยังไม่สู้ดีนักทั้งด้านการคุมโรค อีกทั้งยังเรื่องเศรษฐกิจในตอนนี้ ซึ่งทางนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้ใช้คำแรงว่า ชาติกำลังเผชิญ “หายนะภัย” โควิดสะเทือนเศรษฐกิจของญี่ปุ่นอย่างสาหัส รัฐบาลต้องเร่งฟื้นฟูธุรกิจ และผ่อนคลายมาตรการควบคุมโรคระบาดอย่างรัดกุม
    .
    โดยนายโยชิฮิเดะ ซูงะ ได้มีการแถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 26 ต.ค. ซึ่งเป็นครั้งแรก หลังเข้ารับตำแหน่งผู้นำญี่ปุ่น คำแถลงที่ถูกกล่าวถึงมากที่สุดคือ นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า “การระบาดของไวรัสโคโรนา ทำให้เศรษฐกิจญี่ปุ่นตกต่ำที่สุด หลังจากสงครามโลก ญี่ปุ่นกำลังเผชิญสถานการณ์วิกฤตที่อาจเรียกว่า เป็นหายนภัยแห่งชาติ ข้าพเจ้าในฐานะผู้นำรัฐนาวาตระหนักถึงความรับผิดชอบอันใหญ่หลวง”
    .
    ซึ่งการใช้คำ ที่สื่อความอย่างหนักหน่วงเช่นนี้ สะท้อนให้เห็นว่า เศรษฐกิจของญี่ปุ่น ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิดหนักหนากว่าที่ปรากฏ เนื่องจากที่ผ่านมารัฐบาลได้ใช้งบประมาณจำนวนมากในการโอบอุ้มธุรกิจ และประชาชน แต่การระบาดที่ยืดเยื้อ เกือบทุกประเทศทั่วโลกยังปิดประเทศ ระงับการเดินทาง ทำให้ยากที่ธุรกิจต่างๆ จะฟื้นตัวกลับมา
    .
    ถึงแม้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ในญี่ปุ่นแต่ละวัน ยังเพิ่มขึ้นราว 400-700 คน แต่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตัดสินใจแล้วว่า จะเดินหน้าเศรษฐกิจ และ “อยู่ร่วมกับเชื้อไวรัส” แต่ขณะนี้ญี่ปุ่นยังไม่เปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ จึงต้องสนับสนุนการท่องเที่ยว และบริโภคภายในประเทศเป็นหลัก
    .
    ประเด็นสำคัญจากถ้อยแถลงของนายกฯ ญี่ปุ่น ที่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูเศรษฐกิจจากไวรัสโควิด ประกอบด้วย
    ...

    1. ยกระดับการตรวจหาเชื้อของหน่วยงานสาธารณสุขในท้องถิ่นต่าง ๆ ให้ได้วันละเฉลี่ย 200,000 กรณี ผู้ที่มีความเสี่ยงจะมีอาการหนัก ผู้สูงอายุ ผู้พิการจะได้รับการตรวจอย่างทั่วถึง
    .
    2. จัดหาวัคซีนโควิด-19 ให้กับประชาชนทุกคนฟรี ภายในกลางปีหน้า และรัฐบาลจะจ่ายค่าชดเชยหากประชาชนได้รับผลข้างเคียง รวมทั้งชดเชยให้หน่วยงานที่ถูกฟ้องร้องจากผลข้างเคียงจากการใช้วัคซีน
    .
    3. สานต่อนโยบาย “อาเบะโนมิกส์” พร้อมปฏิรูปการทำงานในด้านต่าง ๆ
    .
    4. ให้เงินสนับสนุนไม่เกิน 2 ล้านเยน กับบริษัทที่รายได้ลดลงจากโควิด และให้เงินกู้ปลอดดอกเบี้ย ปลอดการค้ำประกันกับประชาชนที่เผชิญความยากลำบากในชีวิต
    .
    5. จัดโครงการ “GO TO แคมเปญ” ส่งเสริมการท่องเที่ยว การบริโภค การจับจ่ายใช้สอย ภายในประเทศ
    .
    6. จัดตั้ง “สำนักงานเศรษฐกิจดิจิทัล” เร่งการปฏิรูปสู่ระบบราชการ และโมเดลธุรกิจใหม่ ที่อยู่ร่วมกับไวรัสโคโรนา (With Corona) และหลังผ่านพ้นไวรัสโคโรนา (Post Corona)
    .
    7. ยกเลิกการใช้ตราประทับในกระบวนการทำงาน เพื่อเอื้อต่อการทำงานออนไลน์ (ญี่ปุ่นมีวัฒนธรรมการใช้ตราประทับชื่อ แทนการใช้ลายเซ็นเหมือนในประเทศต่าง ๆ )
    .
    8. ปรับห่วงโซ่อุปทานของหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ให้ผลิตในประเทศ หรือกระจายการผลิตในหลายประเทศ รวมทั้งใช้การผลิตแบบอัตโนมัติ ไม่ต้องใช้มนุษย์
    .
    9. ลดการกระจุกตัวของเศรษฐกิจที่กรุงโตเกียว และ 3 จังหวัดโดยรอบ (ไซตามะ,ชิบะ,คานางาวะ) ให้ไม่เกินร้อยละ 30 ของ GDP ส่งเสริมการกระจายเศรษฐกิจสู่ภูมิภาคอื่น ๆ
    .
    10. ส่งเสริมการท่องเที่ยว ให้เป็นส่วนหนึ่งของวิถีชีวิตใหม่ รัฐบาลจะอุดหนุนค่าใช้จ่ายให้การเดินทางในประเทศราคาถูกลง
    .
    11. รัฐบาลจะให้เงินสนับสนุนกับผู้มีประสบการณ์ในองค์กรขนาดใหญ่ ที่ต้องการออกมาทำธุรกิจ SME ในท้องถิ่นของตัวเอง
    .
    12. เปิดรับแรงงานต่างชาติอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการเงิน โดยจะให้สิทธิพิเศษด้านภาษี และวีซ่าพำนักในญี่ปุ่น

    13. ปฏิรูประบบการทำงาน สนับสนุนสตรี ชาวต่างชาติ การโยกย้ายงาน เพื่อสร้างความหลากหลายในการทำงาน
    ...

    ยืนยันว่า จะจัดงานโตเกียวโอลิมปิก และพาราลิมปิกในปีหน้า เพื่อแสดงถึงชัยชนะของมนุษยชาติต่อไวรัสโคโรนา
    .
    โดยนายโยชิฮิเดะ ซูงะ เป็นผู้นำญี่ปุ่นในช่วงเวลาที่ยากลำบากที่สุด เขากล่าวว่า ต้องการผลักดันให้ญี่ปุ่นเป็นสังคมที่พึ่งพาตนเอง ช่วยเหลือกัน และกัน และสนับสนุนส่วนรวม เพื่อให้ญี่ปุ่นพ้นจากวิกฤตครั้งรุนแรงที่สุดครั้งนี้

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://mgronline.com/japan/detail/9630000112477
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หนังสือพิมพ์ เซาต์ ไชน่า มอร์นิง โพสต์ สื่อใหญ่ในฮ่องกงรายงานว่า เจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบจากแผนกคุ้มครองความมั่นคงแห่งชาติ สำนักงานตำรวจเขตบริหารพิศษฮ่องกง ซึ่งเป็นหน่วยงานตั้งขึ้นใหม่ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ ที่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 30 มิ.ย. ที่ผ่านมา
    .
    ได้บุกเข้าจับกุม นายจง ฮง-ลัม หรือโทนี่ จง อายุ 19 ปี หนึ่งในแกนนำ ของอดีตแนวร่วมนักศึกษาฮ่องกง ทีร้านกาแฟแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐในฮ่องกง เมื่อวันอังคาร
    .
    กลุ่มคลื่อนไหวในนาม "เฟรนด์ส อ็อฟ ฮ่องกง" เปิดเผยในเอกสารแจกจ่ายสื่อมวลชนว่า ก่อนที่นายจงจะหายตัวไป ทางกลุ่ม เฟรนด์ส อ็อฟ ฮ่องกง ได้ให้ความช่วยเหลือด้านเอกสารแก่เขาสำหรับขอยื่นลี้ภัยทางการเมือง ผ่านสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ และนายจงก็มีแผนจะเข้ายื่นเอกสารในวันอังคาร แต่ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมเสียก่อน
    .
    โดยเบื้องต้นยังไม่มีความเห็นเกี่ยวกับเรื่องการจับกุมนักเคลื่อนไหวดังกล่าว ทั้งจากสำนักงานตำรวจฮ่องกง และกระทรวงการต่างประเทศจีน ในกรุงปักกิ่ง เช่นเดียวกับสถานกงสุลใหญ่สหรัฐฯ
    .
    โดยก่อนหน้านี้ นายจงและเพื่อนอีก 3 คน เคยถูกจับกุมเมื่อเดือน ก.ค. ที่ผ่านมา ฐานละเมิดกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติ มาตรา 20 และมาตรา 21 ซึ่งห้ามดำเนินการ วา วางแผน มอบหมายงาน และเกี่ยวข้องกับกิจกรรมใด ๆ ที่มีเป้าหมายเพื่อเปลี่ยนแปลง สถานะทางกฎหมายของเขตบริหารพิเศษฮ่องกง แต่นายจงและพวกได้รับการประกันตัวในเวลาต่อมา
    .
    การเข้มงวดบังคับใช้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติฉบับใหม่ในฮ่องกง ทำให้เกิดการกวาดจับนักกิจกรรมที่จัดการชุมนุม ละเมิดกฎหมาย รวมทั้งบรรดาแกนนำที่ถูกมองว่าเป็นผู้ปลุกระดม ทำให้หลายคนพยายามหาช่องทางยื่นขอลี้ภัยในต่างประเทศ ทั้งนี้ นอกเหนือจากนายโทนี จง แล้ว ยังมีชาวฮ่องกงอีกเป็นจำนวนมากที่พยายามยื่นขอลี้ภัยไปยังต่างประเทศ
    .
    เซาต์ ไชน่า มอร์นิ่งโพสต์ รายงานว่า จุดหมายปลายทางยอดนิยมของชาวฮ่องกงที่กำลังมองหาแหล่งลี้ภัยทางการเมืองในต่างประเทศ คือ ประเทศออสเตรเลีย และแคนาดา โดยรายงานข่าวระบุว่า ในปี 2563 นี้ มีชาวฮ่องกงยื่นขอลี้ภัยไปยัง 5 ประเทศ รวมทั้งสิ้น 181 คน
    .
    ซึ่งเพิ่มขึ้นจาก 141 คนในปี 2562 และ 62 คนในปี 2561 โดยในจำนวนดังกล่าวมีนักเคลื่อนไหวทางการเมืองหลายคนที่เคยถูกจับกุมในระหว่างการประท้วงเมื่อปีที่แล้ว ยื่นขอลี้ภัยด้วย
    .
    ข้อมูลในเดือนก.ย.พบว่า มีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังออสเตรเลีย 136 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นจากปี 2562 ที่มี 120 คน และในปี 2561 ที่มีเพียง 50 คน ส่วนประเทศแคนาดา ข้อมูลล่าสุดในเดือนมิ.ย. ชี้ว่า มีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังแคนาดารวม 25 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นมากเมื่อเทียบกับสถิติในปี 2562 และ 2561 ที่มีเพียง 9 คน และ 2 คน ตามลำดับ
    .
    นอกจากนี้ ยังมีชาวฮ่องกงขอลี้ภัยไปยังประเทศอื่นๆ อย่าง อังกฤษ ยอรมนี และนิวซีแลนด์ แต่กระนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่มีรายงานว่า มีชาวฮ่องกงกี่คนที่ประสบความสำเร็จในการยื่นขอลี้ภัย
    .
    รายงานข่าวยังระบุด้วยว่า มีชาวฮ่องกงเดินทางไปยังประเทศต่าง ๆ เช่น ไต้หวัน และอังกฤษ ในระยะหลัง ๆ นี้ ด้วยวิธีการ ทั้งที่ถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย ยกตัวอย่าง เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา มีคู่สามีภรรยาที่เข้าร่วมการประท้วงในปีที่แล้ว และได้รับการยอมรับจากแคนาดาในฐานะผู้ลี้ภัย อย่างเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็มีนักศึกษาฮ่องกงที่ถูกตั้งข้อหาก่อจลาจล ได้รับอนุญาตให้ลี้ภัยในเยอรมนี เป็นต้น
    .
    แต่ขณะเดียวกัน ข่าวชาวย่องกงถูกปฏิเสธการยื่นขอลี้ภัยก็มี เช่นล่าสุดเมื่อต้นสัปดาห์ที่ในฮ่องกงมีข่าวว่า ผู้ชุมนุมเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงจำนวน 4 คนได้เข้าไปในสถานกงสุลสหรัฐฯ เพื่อยื่นเอกสารขอสิทธิเป็นผู้ลี้ภัยในสหรัฐ แต่ปรากฎว่าสุดท้ายแล้วบุคคลทั้ง 4 ก็ถูกปฏิเสธคำร้อง โดยยังไม่ได้มีการเปิดเผยถึงเหตุผล
    .
    นอกจากนี้ เมื่อวันอังคาร (27 ต.ค.) ตำรวจฮ่องกงยังได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีการจับกุมตัวชาย 2 หญิง 1 อายุระหว่าง 17-21 ปี โดยทั้ง 3 มีความผิดฐานโพสต์ข้อความในโซเชียลมีเดีย ที่ยุยงปลุกปั่นให้เกิดความไม่สงบนับตั้งแต่เดือนก.ย. เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นการละเมิดมาตรา 21 ของกฎหมายความมั่นคงแห่งชาติในฮ่องกง
    .
    แถลงการณ์ยังระบุว่า ตำรวจจะดำเนินการจับกุมกลุ่มผู้เรียกร้องประชาธิปไตยต่อไป ภายใต้กฎหมายความมั่นคงแห่งชาติใน ฮ่องกงฉบับใหม่ซึ่งผ่านการอนุมัติของรัฐสภาในเดือนมิ.ย. จนถึงขณะนี้ ได้มีการจับกุมผู้เรียกร้องประชาธิปไตยแล้วมากกว่า 10,000 คน
    .
    โดยตำรวจระบุว่า กลุ่มเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงได้ก่อเหตุจลาจลหลายครั้งในปีที่ผ่านมา ทั้งมีการทำลาย ทรัพย์สิน และทำร้ายตำรวจ รวมทั้งมีการวางเพลิงในสถานที่หลายแห่ง รวมถึงสถานีรถไฟใต้ดินด้วย

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://asia.nikkei.com/Spotlight/H...s-hit-wall-as-US-hesitates-to-accept-refugees

    https://www.washingtonpost.com/worl...92a9dc-18d9-11eb-8bda-814ca56e138b_story.html

    https://www.thansettakij.com/content/world/454722

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ที่วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วยนายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก ได้เปิดงานฉลองนวดไทย มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ ประจำปี 2563 โดยความร่วมมือของกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงวัฒนธรรม
    .
    เพื่อเฉลิมฉลองนวดไทยได้รับการประกาศจากองค์การยูเนสโกให้เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ พร้อมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว พระมหาเจษฎาราชเจ้า “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” ปลุกจิตสำนึกให้ประชาชนตระหนักในคุณค่าของภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย รวมถึงนำไปใช้ประโยชน์ดูแลตนเองและสังคมได้
    .
    โดยนายอนุทิน กล่าวว่า กระทรวงสาธารณสุขได้ตระหนักถึงคุณค่าของศาสตร์แห่งการนวดไทยและภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และอนุรักษ์นำมาใช้ประโยชน์ด้านการส่งเสริมสุขภาพ ซึ่งในปีที่ผ่านมา องค์กรยูเนสโก (UNESCO) ได้ประกาศให้ “นวดไทย” เป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
    .
    ซึ่งศาสตร์การนวดไทยที่มีความโดดเด่นเป็นเอกลักษณ์ที่สุด คือ “เส้นประธานสิบ” ที่ปรากฏในแผ่นศิลาจารึก จำนวน 60 ภาพ มากกว่า 100 ปี ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร จึงได้ร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคม ยกระดับสู่ Thai Wellness จัดอบรมนวดไทย 372 ชั่วโมง เพื่อเป็นการสร้างงานสร้างอาชีพให้แก่ประชาชน
    .
    นอกจากนี้ วันที่ 29 ตุลาคม ของทุกปี จะเป็น “วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติ” คณะรัฐมนตรีได้ ถวายพระราชสมัญญานาม “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย” แด่พระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัวพระมหาเจษฎาราชเจ้า เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติต่อคุณูปการที่พระองค์ทรงทำนุบำรุงการแพทย์แผนไทยให้รุ่งเรือง
    .
    จึงได้จัดกิจกรรมทั้งด้านเวชกรรมไทย เภสัชกรรมไทย การนวดไทย ดังปรากฏในแผ่นจารึกต่างๆ ถือเป็นหลักฐานทางประวัติศาสตร์ เป็นฐานรากให้ชนรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้และใช้ประโยชน์ในการดูแลสุขภาพถึงปัจจุบัน
    .
    พญ.อัมพร เบญจพลพิทักษ์ อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย ฯ กล่าวว่า จากการที่ยูเนสโก ประกาศขึ้นทะเบียนนวดไทย เป็นรายการตัวแทนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ กรมการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก ได้กำหนด โดยมีแนวทางสำคัญคือ การสร้างมาตรฐานนวดไทย ทั้งด้านองค์ความรู้ หลักสูตร รวมถึงการบริการนวดไทยให้เป็นที่ยอมรับ ตั้งแต่ในระดับชุมชน โดยดำเนินการใน 2 ประเด็นคือ ได้แก่ การอบรมหมอนวดครู ก จำนวน 188 คน
    .
    เพื่อสืบสานรักษา และต่อยอดการผลิตบุคลากรให้เป็นครูสอนคนในชุมชนนวดไทย นวดพื้นบ้านไทยแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ และยังต่อยอด ฟื้นฟู การอบรมหมอนวดไทยสร้างงานสร้างอาชีพ 1,000 คน โดยร่วมกับโรงเรียนนวดแผนไทยวัดโพธิ์
    .
    ซึ่งคาดว่าจะเริ่มอบรมในช่วงเดือน กุมภาพันธ์ - มีนาคม 2563 พร้อมมอบใบประกาศให้กับผู้เข้ารับการอบรมนวดเพื่อต่อยอดในการประกอบวิชาชีพด้านการนวดไทย
    .
    การจัดงานสัปดาห์วันภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยแห่งชาติในปีนี้ ขับเคลื่อนภายใต้แนวคิด “นวดไทย” มรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติ กิจกรรมประกอบด้วย นิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ “พระบิดาแห่งการแพทย์แผนไทย”, ประวัติศาสตร์นวดไทยจากอดีตถึงปัจจุบัน, นวดไทยมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของมนุษยชาติ
    .
    โดยได้จัดทำนวดอัตลักษณ์แต่ละภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ตอกเส้น, ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ขิดเส้น, ภาคกลาง เหยียบเหล็กแดง ตบเหล็กแดง ,โอสถศาลา, การจัดเวที ทางวิชาการในประเด็นต่างๆ, การออกหน่วยบริการด้านสุขภาพ
    .
    โดยหน่วยงานภาคีเครือข่ายทั้งภายใน และภายนอกกระทรวงสาธารณสุข รวมถึงการออกร้านของภาคเอกชน โดยมีผลิตภัณฑ์แปรรูปจากสมุนไพร กินอาหารเป็นยา สะอาด สดใหม่ ปลอดภัย ประชาชนที่สนใจสามารถเข้าร่วมงานได้ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม - 2 พฤศจิกายน 2563 ตั้งแต่เวลา 08.00 – 17.30 น. ณ วัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม ราชวรมหาวิหาร

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.hfocus.org/content/2020/10/20380

    https://www.thansettakij.com/content/normal_news/454818

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ถ้าพูดถึง “คลองโอ่งอ่าง” หลายคนน่าจะงงว่าอยู่ตรงไหน แล้วถ้าบอกว่านี่คือคลองที่อยู่ติดกับย่านสะพานเหล็ก แหล่งค้าขายที่ครั้งหนึ่งสุดจะแออัด พลุกพล่าน ทีนี้คงจะพอร้องอ๋อกันได้บ้าง แต่ใครจะเชื่อว่ายามนี้เจ้าคลองที่ว่าถูกชุบชีวิตใหม่จนแทบจำไม่ได้จากฝีมือของรัฐบาลนี้ ผิดกับเมื่อก่อนชนิดที่ต้องขยี้ตาหลายรอบ สวยจนอยากท้าชนกับ “คลองชองเกชอน” (Cheonggyecheon ) คลองสุดคูลในกรุงโซล เสียให้รู้แล้วรู้รอด เพราะทั้งสองคลองนี้ เริ่มต้นมาจากแหล่งเสื่อมโทรมในลักษณะคล้ายๆ กัน
    .
    ซึ่งปัจจุบันพื้นที่รอบคลองโอ่งอ่างเวลานี้ โล่ง โปร่ง สะอาด สบาย แถมกำแพงสองข้างยังมีงานสตรีทอาร์ตเจ๋งๆ ให้ได้เสพ ถือเป็นแหล่งเช็กอินที่ใครยังไม่เคยมาเรียกได้ว่าตกเทรนด์ ล่าสุดทางกทม. เตรียมจัดงานวันลอยกระทงคลองโอ่งอ่างระหว่างวันที่ 29 – 31 ต.ค. 63 และกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่าง ซึ่งเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 ต.ค.-1 พ.ย. 63 หลังจากนั้นกิจกรรมถนนคนเดินคลองโอ่งอ่างจะจัดทุกสัปดาห์ ในวันศุกร์ เสาร์ และอาทิตย์
    .
    Thailand Vision ไม่อยากให้คุณพลาดงานสุดคูลเบอร์นี้ด้วยประการทั้งปวง เพราะนี่คือโอกาสที่คุณจะได้ลอยกระทงอาบแสงจันทร์ แสงดาว ที่ “คลองโอ่งอ่าง” อยากรู้ว่าสวยแค่ไหนต้องไปดูเอง

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    http://www.bkknowconnect.com/viewdetail.php?type=new&id=5f9b8f8a5678bd2f09e8ebdf

    https://www.bangkokbiznews.com/news/detail/904935

    https://www.chillpainai.com/scoop/11111/

    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     

แชร์หน้านี้

Loading...