ติดตามสถานะการณ์

Oct 27,2020 ธนาคารยูบีเอสประเมินอีก 4 ปีข้างหน้า คนจะหันมาใช้รถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น จากการที่ต้นทุนการผลิตจะเท่ากับรถยนต์ใช้น้ำมัน
.
งานวิจัยโดยธนาคารยูบีเอส ธนาคารรายใหญ่ที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ระบุว่า จากการวิเคราะห์รายละเอียดของแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าจากโรงงานผู้ผลิตรายใหญ่ที่สุด 7 แห่ง พบว่ารถยนต์ไฟฟ้าอาจมีราคาเทียบเท่ารถยนต์ใช้น้ำมันภายในปี 2567 หรืออีก 4 ปีข้างหน้า เนื่องจากต้นทุนการผลิตแบตเตอรี่มีราคาถูกลง
.
โดยในปี 2565 ส่วนต่างในการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ใช้น้ำมันจะลดลงเหลือเพียง 1,900 เหรียญสหรัฐ หรือราว 60,000 บาทต่อคัน และต้นทุนในการผลิตรถยนต์ทั้งสองจะเท่ากันภายในปี 2567
.
ซึ่งเป็นก้าวสำคัญในการเปลี่ยนผ่านจากรถยนต์ใช้น้ำมันมาเป็นรถยนต์ไฟฟ้าเนื่องจากผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่หลายรายเลี่ยงการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเพราะแบตเตอรี่มีราคาแพง ซึ่งราคาแบตเตอรี่คิดเป็น 1 ใน 4 ถึง 2 ใน 5 ของราคารถทั้งคัน
.
แต่คาดว่าราคาแบตเตอรี่จะลดลงต่ำกว่า 100 เหรียญสหรัฐหรือราว 3,000 บาทต่อกิโลวัตต์ชั่วโมง รวมถึงปัจจัยด้านเทคโนโลยีอื่นๆ จะส่งผลให้ต้นทุนการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าต่ำลง ทำให้คาดว่าผู้คนจะสามารถเปลี่ยนไปใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้เร็วกว่าที่คาดไว้ก่อนหน้านี้ โดยยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าในสหภาพยุโรปและจีนกำลังเติบโตได้ดี
.
นอกจากนี้ยังประเมินว่าส่วนแบ่งการตลาดของรถยนต์ไฟฟ้า โดยในปี 2568 รถยนต์ไฟฟ้าจะครองส่วนแบ่งการตลาด 17% และในปี 2573 อาจมีส่วนแบ่งถึง 40% ของยอดขายรถยนต์ทั่วโลก
.
ด้านแมตเธียส ชมิดต์ นักวิเคราะห์รถยนต์คาดการณ์ว่าในปีนี้ สหภาพยุโรปจะสามารถขายรถยนต์ไฟฟ้าและรถยนต์ไฮบริดได้ถึง 1 ล้านคัน จากตลาดรถยนต์ทั้งหมด 11 ล้านคัน
.
#รถยนต์ไฟฟ้า #ไฮบริด #Misterban

 

Oct 27, 2020 ถล่มเทขายตั้งแต่วันแรก ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ดิ่งเหวถึง 650 จุด ตลาดน้ำมันดิบร่วงแรงกว่า 3% ส่งราคาไนเม็กซ์ปิดต่ำกว่า 39 ดอลลาร์ ราคาทองคำปิดเหนือ 1,900 ดอลลาร์

เมื่อวันที่ 26 ตุลาคม (ตามเวลาในสหรัฐ) ตลาดหุ้นนิวยอร์ก สหรัฐ ดัชนีหุ้นดาวโจนส์ ปิดที่ระดับ 27,685 จุด -650 จุด หรือ -2.29% ดัชนีหุ้นเอสแอนด์พี 500 ปิดที่ระดับ 3,400 จุด -64 จุด หรือ -1.86% และดัชนีหุ้นนาสแดค ปิดที่ระดับ 11,358 จุด -189 จุด หรือ -1.64% สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทั่วโลก โดยเฉพาะในสหรัฐ และยุโรป ที่ทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ทำให้ต้องใช้มาตรการปิดล็อคเมืองบางส่วน ประกาศเคอร์ฟิว และประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินในประเทศขนาดใหญ่ ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อภาวะเศรษฐกิจโลกอย่างไม่สิ้นสุด

ราคาน้ำมันดิบไนเม็กซ์ นิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 38.56 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.29 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.2% ราคาน้ำมันดิบเบร็นท์ อังกฤษ ทะเลเหนือ ปิดที่ 40.46 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล -1.31 ดอลลาร์สหรัฐ/บาร์เรล หรือ -3.1% สาเหตุจากสถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ทวีความรุนแรงในสหรัฐ และทวีปยุโรป และประเทศลิเบียกลับมาผลิตน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น

ราคาทองคำล่วงหน้านิวยอร์ก สหรัฐ ปิดที่ 1,905.70 ดอลลาร์สหรัฐ/ออนซ์ แทบไม่เปลี่ยนแปลง สาเหตุจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐพลิกแข็งค่ามากขึ้น การเจรจาแพคเกจฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจสหรัฐ ซึ่งยังคงมีความไม่แน่นอน

#ลงทุน #การเงิน #หุ้น #ทองคำ #น้ำมัน #ตลาดหุ้น #เล่นทอง #ราคาทอง #markets #business #stock #gold #oil #investment #misterban #เศรษฐกิจ #เล่นหุ้น #btimes

 

Oct 27 , 2020 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) พบผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ 3 ราย รวมยอดติดเชื้อสะสม 3,746 ราย ยอดเสียชีวิต 59 ราย
.
โดยขณะนี้มีผู้ป่วยในโรงพยาบาล 136 ราย รักษาหายแล้ว 3,551 ราย เสียชีวิต 59 ราย
.
โดยผู้ป่วยรายใหม่ 3 ราย อยู่ในพื้นที่ State Quarantine
.
เดินทางมาจาก กาตาร์ 1 ราย สหรัฐฯ 1 ราย และ ซูดาน 1 ราย
.
#ศบค #Covid19 #ไวรัส #Misterban

 

Oct 27 , 2020 กสิกรคาด 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ ยอดใช้จ่ายไทยเที่ยวไทยสะพัด 1.8 แสนล้านบาท หากไม่มีโควิดระบาดรอบ 2 แต่หากเทียบกับปีก่อนยังหดตัวถึง 37.1%
.
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย รายงานว่า ในช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2563 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างเร่งทำตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยวในประเทศ เพื่อความต่อเนื่องในการฟื้นตัวของตลาดไทยเที่ยวไทย จากผลสำรวจของ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย พบว่า ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ กลุ่มตัวอย่างมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วน 77.3% เพิ่มขึ้นเล็กน้อยเมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
แต่การท่องเที่ยวยังมีความไม่แน่นอนสูง เมื่อกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มองว่าหากมีการพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในประเทศจะมีผลต่อการปรับแผนการเดินทางท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปีนี้ รวมถึงยังมีประเด็นการเมืองที่ต้องติดตาม
.
อย่างไรก็ตามกลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ยังมีความกังวลในเรื่องภาวะเศรษฐกิจส่งผลทำให้จำนวนความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยวเฉลี่ยลดลง รวมถึงแผนการใช้จ่ายของนักท่องเที่ยวต่อทริปปรับลดลงประมาณ 5.5% เมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
โดยภายใต้กรณีที่ไม่มีการระบาดของโควิด-19 ในประเทศอีกครั้ง ประกอบกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว และการชุมนุมทางการเมืองที่อยู่ในขอบเขตจำกัด จะช่วยทำให้การใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวในประเทศในช่วง 3 เดือนสุดท้ายนี้ น่าจะมีมูลค่าประมาณ 1.8 แสนล้านบาท หดตัวประมาณ 37.1% จากปีก่อน ดีขึ้นจากที่หดตัวแรงในช่วงก่อนหน้า และทั้งปี 2563 นี้ ผลจากโควิด-19 ทำให้การใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวในประเทศน่าจะมีมูลค่า 5.06 แสนล้านบาท หดตัว 53.3% จากปี 2562
.
แม้ผลสำรวจจสะท้อนภาพของจำนวนคนที่คาดว่าจะเดินทางเพิ่มขึ้นในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ แต่ผลสำรวจจำนวนครั้งที่กลุ่มตัวอย่างมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวอยู่ที่ประมาณ 1.8 ครั้ง (ทริป) ลดลงเมื่อเทียบกับผลสำรวจในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา นอกจากนี้ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่มีการปรับลดค่าใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยว โดยค่าใช้จ่ายเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 6,700 บาทต่อทริป ซึ่งลดลงประมาณ 5.5% เมื่อเทียบกับผลสำรวจจากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
โดยค่าใช้จ่ายที่ลดลง ได้แก่ ค่าใช้จ่ายในการซื้อของฝาก โดยค่าใช้จ่ายในกลุ่มนี้ลดลงต่อเนื่องติดต่อกันมา 2 ปี เนื่องจากปัจจุบันผู้ประกอบการธุรกิจขายสินค้าของที่ระลึกและของฝาก ปรับมาทำตลาดออนไลน์มากขึ้น ทำให้ผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อได้ตลอดเวลา นอกจากนี้ ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ปรับลดลงเช่นกันอย่างค่าใช้จ่ายการเข้าสถานที่ท่องเที่ยว เป็นต้น
.
ขณะที่ในส่วนของค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ โรงแรมและที่พัก ซึ่งเป็นผลจากโครงการเราเที่ยวด้วยกันที่รัฐบาลสนับสนุนค่าที่พัก 40% สูงสุด 3,000 บาทต่อคืนต่อห้อง นอกจากนี้ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมระดับ 4 ดาวขึ้นไป ลงมาทำราคาที่จูงใจเพื่อเป็นทางเลือกให้นักท่องเที่ยว ทำให้กลุ่มตัวอย่างส่วนหนึ่งปรับไปเลือกใช้บริการกลุ่มโรงแรมดังกล่าว
.
โดยสรุป ทิศทางตลาดไทยเที่ยวไทยในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีนี้ หากไม่มีการกลับมาระบาดซ้ำอีกครั้งของโรคโควิด-19 ในประเทศ และปัญหาการเมืองอยู่จำกัดเฉพาะพื้นที่ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ตลาดไทยเที่ยวไทยน่าจะยังรักษาระดับการเพิ่มขึ้นได้ โดยในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศน่าจะมีจำนวน 36.1 ล้านคน-ครั้ง และการใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวในประเทศน่าจะมีมูลค่า 1.8 แสนล้านบาท
.
ขณะที่ภาพรวมตลาดไทยเที่ยวไทยทั้งปี 2563 การเดินทางท่องเที่ยวของคนไทยน่าจะแตะที่กรอบล่างของการประมาณการ โดยอยู่ที่ประมาณ 89.5 ล้านคน-ครั้ง หดตัว 46.4% และสำหรับการใช้จ่ายของคนไทยเที่ยวในประเทศน่าจะมีมูลค่า 5.06 แสนล้านบาท หดตัว 53.3% จากปี 2562
..
#กสิกรไทย #ไทยเที่ยวไทย #ยอดใช้จ่าย #กระตุ้นท่องเที่ยว #Misterban

 

Oct 27 , 2020 ที่ปรึกษากรมควบคุมโรคแนะรัฐไตร่ตรองเรื่องการลดระยะเวลากักตัวโควิด 19 หลังพบนักท่องเที่ยวต่างชาติติดเชื้อในประเทศ
.
รศ.(พิเศษ) นพ.ทวี โชติพิทยสุนนท์ ที่ปรึกษากรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ระบุว่า การที่รัฐบาลกำลังหารือถึงข้อเสนอให้ลดการกักกันตัวผู้ที่เดินทางเข้าไทยจาก 14 วัน เหลือ 10 วัน หรือ พิจารณาเปลี่ยนเป็น 7+7 คือ 7 วันแรก กักตัวในห้องพักโรงแรม ส่วน 7 วันหลัง สามารถลงมาใช้พื้นที่ส่วนกลาง นั้น เพื่อให้การดูแลทั้งด้านเศรษฐกิจและสุขภาพเดินหน้าควบคู่กันไป
.
เข้าใจว่าเศรษฐกิจก็ต้องเดินหน้า แต่ก็ต้องมีความปลอดภัย ในการควบคุมโรค แต่เมื่อเกิดเคสที่เกาะสมุย ทำให้ต้องย้อนกลับมามองว่า ควรจะต้องทำอย่างไรต่อ แต่ในมุมการแพทย์ เมื่อเริ่มมีนักท่องเที่ยวเข้ามา นั่นหมายถึงมีความเสี่ยงเข้ามาด้วย หากพบว่ามีเชื้อหรือป่วยระหว่างอยู่ไทยจะต้องอยู่ในจุดที่บุคลากรทางการแพทย์เรารับได้
.
ซึ่งการระบาดระลอก 2 ของไทยเชื่อว่าเกิดขึ้นแน่ แต่จะเร็วหรือช้า ต้องดูไปตามสถานการณ์ เพราะทั่วโลกบางประเทศ การระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 - 4 แล้ว แม้ไทยจะค่อนข้างน้อย และ บางคนที่มีเชื้อก็แทบไม่มีอาการแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะชะล่าใจ
.
การออกไปร่วมชุมนุม ก็ถือว่ามีความเสี่ยง แต่เชื่อว่า ทุกๆ คนจะสามารถป้องกันตัวเองได้ด้วยการสวมหน้ากากอนามัย หมั่นล้างมืออยู่เสมอ
.
#กักตัว #ASQ #Covid19 #ไตร่ตรอง #Misterban

 

Oct 27 , 2020 เอกชนจี้รัฐเร่งลงทุน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นในการลงทุน โดยเฉพาะในพื้นที่อีอีซี คาดอีก 2 ปี เศรษฐกิจจะฟื้นตัวแบบช่วงก่อนโควิด
.
ผศ.ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย ที่ปรึกษาหอการค้าไทยและอธิการบดี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า เศรษฐกิจไทยจะกลับมาฟื้นตัวในปี 2564-2565 ที่ระดับ 5 % เท่ากับช่วงที่ก่อนการเกิดโควิด-19 บนสมมติฐานที่จะไม่เกิดการระบาดรอบที่ 2 โดยเทรนด์ในการขับเคลื่อนธุรกิจภายหลังโควิด-19 ส่วนใหญ่จะเป็นสตาร์ทอัพ ซึ่งเกิดจากการเติบโตของกลุ่มเจนเนอเรชั่นวาย ที่เข้ามาขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล ผ่านการสร้างโมเดลธุรกิจในแพลตฟอร์มต่างๆ เพราะคนรุ่นใหม่ต้องการสร้างธุรกิจของตัวเอง ขณะที่ภาคอุตสาหกรรมไทยกำลังยกระดับไปสู่เทคโนโลยีชั้นสูง
.
อย่างไรก็ดีภาครัฐต้องเร่งส่งเสริมให้เกิดการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หรือ อีอีซี ใช้จุดยุทธศาสตร์ศูนย์กลางอาเซียน พัฒนาเป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ เพื่อหาเอสเคิร์ฟตัวใหม่สร้างการเติบโตจาก BCG ประกอบด้วย เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว รวมถึงการสร้างความชัดเจนให้กับนักลงทุนกับทิศทางการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคต แก้ไขปัญหาโครงสร้างการผลิตที่ขาดแคลนแรงงาน และเป้าหมายการขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
.
ด้านดร.ปริญญ์ พานิชภักดิ์ รองหัวหน้าพรรคและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจทันสมัย พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ภาครัฐต้องเร่งกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งระบบ รวมถึงการบริหารจัดการงบประมาณกระตุ้นเศรษฐกิจ 4 แสนล้านบาท ที่จะต้องเร่งการเบิกจ่ายเยียวยาและฟื้นฟูผู้ที่ได้รับผลกระทบอย่างเร็วที่สุด โดยเฉพาะงบประมาณที่เสนอมาจากชุมชน ยังมีการอนุมัติน้อยมาก รวมไปถึงการอนุมัติสินเชื่อ (Soft loan) เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการ ที่ได้รับโดยเฉพาะการมุ่งเน้นการช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) แทนการเข้าไปช่วยเหลือผู้ประกอบการขนาดใหญ่
.
ขณะที่นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ชิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาการชะลอตัวเศรษฐกิจจากวิกฤติโควิด-19 ส่งผลทำให้ความเชื่อมั่นของภาคเอกชนลดลง ทำให้อัตราการลงทุนในไตรมาส 1 ของปี 2563 ติดลบ มีเพียงเงินลงทุนจากภาครัฐที่ยังขยายตัวเป็นบวก 10% ในไตรมาสแรก และต่อเนื่องมาถึงไตรมาส 2 ของปีนี้ ส่วนภาคเอกชนก็ยังลดลงเช่นเดิม รัฐจึงต้องสร้างความมั่นใจโดยการนำร่องลงทุนกระตุ้นเศรษฐกิจฟื้นตัว หลังจากจัดการกับโควิด-19 ได้เป็นอย่างดีแต่เศรษฐกิจยังชะลอตัว โดยเฉพาะอุตสาหกรรมก่อสร้าง ซึ่งผู้ที่ได้รับผลกระทบคือผู้ประกอบการก่อสร้างรายเล็ก และรายกลางที่ต้องวิ่งเข้าหางาน เพื่อรักษาธุรกิจให้อยู่รอดได้ ทุกฝ่ายจึงภาครัฐลงทุนฟื้นความเชื่อมั่นให้กับภาคธุรกิจ
.
#เอกชน #รัฐบาล #การลงทุน #กระตุ้นเศรษฐกิจ #Misterban

 

Oct 27 , 2020 ห้ามรถบรรทุก 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพตั้งแต่เวลา 06.00 - 21.00 น. ลดปัญหาฝุ่น PM 2.5 ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 - สิ้นเดือน ก.พ. 2564
.
พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร หรือ กทม. กล่าวถึงมาตรการป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก pm 2.5 โดยระบุว่าได้ประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กรมควบคุมมลพิษ กรมอนามัย กรมอุตุนิยมวิทยา กรมโรงงานอุตสาหกรรม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ กองบังคับการตำรวจจราจร และกรมการขนส่งทางบก เพื่อติดตามการทำงานป้องกันและแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (pm2.5) ในรอบปีที่ผ่านมา รวมถึงการเตรียมความพร้อมในการป้องกันและรับมือค่าฝุ่นสูงที่จะเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาวที่สภาพอากาศปิด
.
โดยได้ออกมาตรการ ห้ามรถบรรทุกตั้งแต่ 6 ล้อขึ้นไป วิ่งเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานคร ในช่วงเวลา 06.00 - 21.00 น. ตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. 2563 - สิ้นเดือน ก.พ. 2564 เพื่อลดมลพิษ PM2.5 จากควันรถ และจะขอความร่วมมือสถานศึกษา ให้งดจัดกิจกรรมในที่โล่งแจ้งในช่วงเดือน ธ.ค. 2563 - ก.พ. 2564 เช่นเดียวกัน
.
อย่างไรก็ตามกองจัดการคุณภาพอากาศและเสียงกรุเทพมหานคร รายงาน สถานการณ์คุณภาพอากาศ ณ เวลา 12.00 น. มี 1 เขตที่มีคุณภาพอากาศอยู่ในระดับสีส้ม เริ่มส่งผลกระทบต่อสุขภาพ คือ เขตบางคอแหลม ริมถนนบริเวณป้อมตำรวจสี่แยกถนนตก ส่วนอีก 49 เขตที่เหลือ คุณภาพอากาศอยู่ในระดับปานกลาง ถึงคุณภาพดี
.
#รถบรรทุก #กทม #Misterban #ฝุ่น

 

Oct 27 , 2020 กระทรวงสาธารณสุขแถลงพบผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 2 ราย ในพื้นที่กักตัวเดียวกับหญิงชาวฝรั่งเศสที่ติดเชื้อก่อนหน้านี้
.
นายแพทย์โสภณ เอี่ยมศิริถาวร ผู้อำนวยการกองโรคติดต่อทั่วไป นายแพทย์ธนรักษ์ ผลิพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค ร่วมกันแถลงความคืบหน้าสถานการณ์กรณีหญิงชาวฝรั่งติดเชื้อไวรัสโควิด-19 โดยตรวจพบเชื้อขณะเข้าพักในสถานกักกันที่โรงแรมแห่งหนึ่งในจ.สมุทรปราการว่า ผลจากการตรวจหาเชื้อทางผู้สัมผัสเสี่ยงสูงและผู้สัมผัสเสี่ยงต่ำ ในส่วนของสามีและลูกชายไม่พบการติดเชื้อขณะที่พนักงานโรงแรมสถานที่กักกันจำนวน 23 คนนั้น วันนี้รอผลตรวจหาเชื้อจำนวน 6 ราย ส่วนอีก 17 คน ได้นำเชื้อไปตรวจแล้ว
.
อย่างไรก็ดี ในสถานที่กักกันตัว ASQ จ.สมุทรปราการซึ่งเป็นสถานที่เดียวกับที่หญิงชาวฝรั่งเศสติดเชื้อดังกล่าวก่อนหน้านั้น พบติดเชื้อเพิ่มอีกจำนวน 2 ราย เป็นชายต่างชาติชาวเอเชีย 1 ราย พบติดเชื้อในวันที่ 29 กันยายน และชาวยุโรป อีก 1 ราย พบติดเชื้อในวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งติดเชื้อในช่วงเวลาใกล้เคียงกัน แต่ยังไม่ชัดว่า มีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนโรค
.
ทั้งนี้ภายหลังการตรวจสอบโรคพบว่าสถานที่โรงแรมสถานที่กักกันตัวดังกล่าว มีผู้ติดเชื้อ 3 ราย เจ้าหน้าที่ควบคุมโรคได้เข้าไป เก็บหาเชื้อ พบว่าที่ฟิตเนสมีซากเชื้อ แต่ทั้งนี้จากการสอบถามหญิงชาวฝรั่งที่มาจากฝรั่งเศส บอกให้การว่าไม่ได้ไปใช้บริการในห้องฟิตเนส ซึ่งตรงกับภาพที่ตรวจสอบจากกล้องวงจรปิดของโรงแรม ดังนั้นจากข้อมูลดังกล่าวจึงสรุปเพียงได้ว่า โรงแรมแห่งนี้มีผู้ที่เข้าไปใช้ติดเชื้อโควิค เข้าไปใช้บริการในฟิตเนสของโรงแรมแห่งนี้
.
แต่ จากเหตุการณ์ดังกล่าวยังไม่มีความจำเป็นที่จะต้องมีมาตรการให้ปิดสถานบริการฟิตเนสในแห่งอื่นของประเทศ เนื่องจากเราไม่ตรวจพบผู้ป่วยในประเทศมาระยะหนึ่งแล้ว
.
ส่วนมาตรการที่จะต้องดำเนินการกับสถานการณ์ดังกล่าวนั้น ทาง สสจ.จังหวัดสมุทรปราการ ได้สั่งการ ดังนี้ 1)ให้สถานที่ดังกล่าวไม่สามารถรับคนเข้าเฝ้ากักกันตัวได้เพิ่ม 2) ให้ผู้ที่ยังคงเหลือค้างในการเฝ้ากักกันตัวเมื่อครบกำหนดระยะเวลา 14 วันแล้วให้กับการตัวต่อในที่พักเป็นเวลา 7 วันโดยที่ไม่สามารถเคลื่อนไปไหน หลังจากนั้นให้มารับการตรวจหาเชื้ออีกครั้ง และ 3)จะต้องให้สถานที่กับการดังกล่าวเขียนระบบ ให้เรียบร้อยเสียก่อนจึงจะได้รับการพิจารณาใหม่อีกครั้ง
.
#โควิด #Covid19 #สาธารณสุข #Misterban #ฝรั่งเศส

 

Oct 27 , 2020 มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐฯยังล้มเหลว หลังยังขัดแย้งเรื่องมาตรการแก้ปัญหาโควิดไม่ได้
.
สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า นายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรี กระทรวงการคลังสหรัฐฯ และนางแนนซี่ เปโลซี่ ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ เปิดเผยว่าการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ ยังคงไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังคงมีความคิดเห็นที่ขัดแย้งกันในประเด็นใหม่ อย่างการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด-19 ให้กับประชาชนทั่วประเทศ และแผนการติดตามผู้ที่ติดเชื้อ
.
นายดรูว์ แฮมมิลล์ โฆษกและรองหัวหน้าเจ้าหน้าที่ของนางแนนซี่ เปโลซี่ กล่าวว่า ทางพรรคเดโมแครต ยังคงรอคอยการยอมรับข้อเสนอด้านการรักษาสุขภาพ รวมถึงแผนยุทธศาสตร์การตรวจหาเชื้อทั่วประเทศและการติดตามผู้ติดเชื้อจากฝ่ายบริหารทำเนียบขาว ซึ่งขณะนี้นางเปโลซี่ ยังคงเชื่อว่าทั้งสองฝ่ายจะสามารถบรรลุข้อตกลงทั้งหมดได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในวันที่ 3 พ.ย.
.
โดยนางเปโลซี่ กล่าวว่าประเด็นการตรวจหาเชื้อไวรัสโควิด รวมถึงการติดตามผู้ติดเชื้อ การบำบัดรักษา เพื่อสกัดกั้นการระบาดของไวรัสโควิด-19 ถือเป็นประเด็นสำคัญของมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจฉบับใหม่ เนื่องจากสหรัฐยังไม่อยู่ในสถานการณ์ที่ปลอดภัยในการเปิดโรงเรียนและเศรษฐกิจ ซึ่งทางพรรคเดโมแครตจะรอคอยคำตอบของทำเนียบขาว และหวังว่าจะบรรลุข้อตกลงโดยเร็วที่สุดต่อไป
.
ทั้งการเจรจาเพื่อบรรลุข้อตกลงในการกระตุ้นเศรษฐกิจของสหรัฐฯได้ยืดเยื้อมานานเกือบสามเดือนตั้งแต่เดือน ส.ค.หลังทั้งสองฝ่ายยังมีความขัดแย้งในหลายประเด็นทั้งในส่วนของวงเงินงบประมาณ และรวมถึงประเด็นการรับมือกับไวรัสโควิด-19 ซึ่งจากการเจรจาที่ยืดเยื้อได้ทำให้ดัชนีดาวโจนส์ปรับลดลงมากถึง 650.19 จุด หลังปิดตลาดเมื่อคืนที่ผ่านมา
.
#สหรัฐ #Misterban #เศรษฐกิจ #กระตุ้น #Covid19 #โควิด19

 

#news1feed ที่ปรึกษาระดับสูงของรัฐบาลฝรั่งเศส เตือนว่าการแพร่ระบาดระลอกสองของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่(โควิด-19) ดูเหมือนจะเลวร้ายกว่ารอบแรก โดยเคสผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 50,000 คนเมื่อวันอาทิตย์(25ต.ค.) อาจเป็นเพียงครึ่งหนึ่งของตัวเลขที่แท้จริง ขณะที่ประเทศแห่งนี้มีแนวโน้มว่าอาจจำเป็นต้องล็อกดาวน์อย่างเข้มข้นเพื่อสกัดการแพร่ระบาด

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000111160
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

ผู้เชี่ยวชาญกังวล อินเดียเข้าสู่การเฉลิมฉลอง เทศกาลทุรคาบูชา, ดุชเชห์ร่า และนวราตรีระหว่าง ตุลาคม – พฤศจิกายน อาจกระตุ้นให้ยอดการระบาดโควิดในประเทศ กลับมารุนแรงอีกครั้ง

 

#news1feed วุฒิสภาสหรัฐฯ ลงมติรับรอง เอมี โคนีย์ บาร์เร็ตต์ (Amy Coney Barrett) เป็นผู้พิพากษาศาลสูงสุดคนใหม่ในวันจันทร์ (26 ต.ค.) ซึ่งจะทำให้องค์คณะผู้พิพากษาเอียงไปในทางสายอนุรักษนิยมมากยิ่งขึ้นอีก และถือเป็นการหยิบยื่นชัยชนะครั้งใหญ่ให้แก่ประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ เพียง 8 วันก่อนจะถึงศึกเลือกตั้ง

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000111185
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

PM 2.5 มาตามนัด /ระลอกแรก กทม.แดงพรึ่บ : [NEWS REPORT]

."ฝุ่น" PM 2.5 มาตามนัด หลังฤดูฝนผ่านไป ประเทศไทยที่กำลังเข้าสู่ฤดูหนาว สภาพอากาศปิด ลมสงบ และชั้นบรรยากาศผกผัน จึงทำ
ให้ "ฝุ่น" PM 2.5 ระลอกแรก มีความเข้มข้นสูง ส่งผลกระทบต่อสุขภาพ

 

#News1feed : เวียดนามรีบเร่งอพยพผู้คนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มภาคกลางมากกว่า 1 ล้านคนในวันนี้ (27) เมื่อพายุไต้ฝุ่นกำลังพัดเข้ามาใกล้ประเทศทุกขณะ ขณะที่บางภูมิภาคยังต้องรับมือกับผลพวงของอุทกภัยจากอิทธิพลของพายุลูกก่อน

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000111287
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

เปิดไทม์ไลน์เส้นทางพายุ “โมลาเบ” 26-30 ต.ค. จวนเข้าไทย เตือนภัยเตรียมรับมือฝนถล่ม

 

#ญี่ปุ่นกับเป้าหมายประเทศปลอดคาร์บอนภายในปี2050
#นวัตกรรมแห่งความหวังVSปัญหาโรงไฟฟ้านิวเคลียร์

ในที่สุดสภา Diet ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โยชิฮิเดะ ชูกะ ก็ประกาศเป้าหมายใหม่ของประเทศ ว่าจะพาญี่ปุ่นไปสู่ประเทศปลอดก๊าซคาร์บอน หรืออย่างน้อยต้องลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ 80% ภายในปี 2050

ถือเป็นความกล้า และ บ้าบิ่นมาก สำหรับญี่ปุ่น ประเทศที่มีโครงสร้างเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก ที่ประกาศจะบรรลุสังคมปลอดคาร์บอนภายใน 30 ปี

ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องที่ไม่ดีนะคะ หากทำได้จริง นับเป็นเรื่องที่ดีมากๆ แต่ก็มีคำถามคือ ญี่ปุ่นจะมีระเบียบขั้นตอน วิธีการอย่างไร ที่จะไปให้ถึงเป้าหมายดั่งที่ตั้งใจไว้ภายในเวลาแค่ 30 ปี

ถึงแม้จะมีหลายประเทศที่ตั้งธงนโยบาย Zero-Carbon ภายในปี 2050 อาทิ ฝรั่งเศส อังกฤษ เยอรมัน ฮังการี นิวซีแลนด์

แต่ญี่ปุ่นเป็นประเทศอุตสาหกรรมที่มีปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนเป็นอันดับ 5 ของโลก และพึ่งพาพลังงานจากถ่านหินถึง 1 ใน 3 ของพลังงานทั้งหมดที่ใช้ในประเทศ

ส่วนประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนมากที่สุดในโลกตอนนี้คือจีน ที่เขาขอเวลาถึงปี 2060 ที่จะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนให้ได้ รองลงมาคือสหรัฐ ในยุคของท่านเสี่ยอ่างโดนัลด์ ทรัมพ์ ที่เสี่ยบอกว่า No สน No แคร์ เพราะไม่เชื่อว่าภาวะโลกร้อนมีอยู่จริง แล้วก็ถอนสหรัฐออกจากข้อตกลงสิ่งแวดล้อม Paris Agreement ไปแล้วนั่นเอง

ดังนั้นจะเห็นว่าญี่ปุ่นอยู่ในโจทย์และปัจจัยที่ยาก ที่ต้องอาศัยเม็ดเงินลงทุนมหาศาล เพื่อลดการใช้พลังงานจากถ่านหิน ไปเป็นอย่างอื่นที่สะอาด เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และที่สำคัญที่สุดคือ ต้องเพียงพอต่อการใช้งานในประเทศ

หากเป็นเมื่อหลายปีก่อน คนญี่ปุ่นคงเชื่อมั่นว่ายังไงก็ทำได้อยู่แล้ว เพียงแค่โยกการใช้โรงไฟฟ้าถ่านหิน มาใช้โรงไฟฟ้านิวเคลียร์ทั้งหมด ก็น่าจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไปได้มากโข

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า โรงไฟฟ้าพลังงานนิวเคลียร์ จัดอยู่ในกลุ่มแหล่งผลิตพลังงานสะอาด หากในแง่ของการปล่อยก๊าซคาร์บอน หรือการเหลือกากของเสียหลังการผลิตถือว่าน้อยมากๆ

ก่อนหน้านี้รัฐบาลญี่ปุ่น ก็พยายามลดการพึ่งพาถ่านหิน มาใช้พลังงานทดแทน และ โรงไฟฟ้านิวเคลียร์เพิ่มมากขึ้น

แต่ทว่าหลังจากเกิดแผ่นดินไหว และทสึนามิในภูมิภาคเซนไดในปี 2011 จนทำให้โรงงานไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ฟุกุชิมะระเบิด กลายเป็นหนึ่งในอุบัติเหตุจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่ร้ายแรงอีกครั้งหนึ่งของโลก

อีกทั้งปัญหาการกำจัดกาก และน้ำปนเปื้อนสารกัมมันตรังสี ที่ต้องใช้เวลานาน และงบประมาณมหาศาล และไม่สามารถการันตีว่าจะไม่มีผลข้างเคียงได้อย่าง 100%

จึงทำให้คนญี่ปุ่นเองก็เริ่มไม่เชื่อมั่นแล้ว หากรัฐบาลจะขยายฐานการผลิตพลังงานด้วยในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์เป็นหลัก

ในเมื่อโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ยังไม่ใช่ทางเลือกที่ใช่ ดังนั้น นายกฯ ชูกะ จึงประกาศว่า กุญแจสำคัญที่จะพาญี่ปุ่นไปสู่ยุคสังคมปลอดคาร์บอนได้คือ "การพัฒนาเทคโนโลยีพลังงาน" รุ่นใหม่ๆ ที่ใช้กับพลังงานแสงอาทิตย์ แบตตารี่เก็บพลังงานรุ่นใหม่ หรือพัฒนาแหล่งผลิตพลังงานทางเลือกให้มากขึ้น

แน่นอนว่า การประกาศเจตนารมย์ของญี่ปุ่น สร้างความยินดีให้กับนักสิ่งแวดล้อม แต่ทุกอย่างมีราคาของมัน ที่ญี่ปุ่นจะต้องเริ่มเปลี่ยนโครงสร้างนิคมอุตสาหกรรมทั้งระบบ การใช้รถยนต์ในประเทศ ภาคการเกษตร และครัวเรือน ที่ยังใช้พลังงานจากถ่านหิน ปิโตรเลี่ยม และก๊าซธรรมชาติ เป็นหลัก มาใช้พลังงานสะอาดในรูปแบบใหม่ ที่ญี่ปุ่นเขาบอกว่าจะคิดค้นให้ได้ในอนาคตอันใกล้

ยังไงก็ฝากความหวังไว้กับหนึ่งในประเทศยอดนักประดิษฐ์ เจ้าแห่งนวัตกรรมของโลก อย่างญี่ปุ่นที่มักจะออกอะไรมาให้ว้าวอยู่บ่อยครั้ง ในความ "คิดได้ไง" ของเขา ที่คราวนี้จะขอเป็นเสาหลักแถวหน้าในการสร้างสังคมปลอดคาร์บอนให้สำเร็จ เป็นศรีย่านเอเซียของเรานะคะ

แหล่งข้อมูล

https://japantoday.com/category/politics/post-abe-agenda-suga-says-japan-to-go-carbon-free-by-2050

https://www.theguardian.com/world/2020/oct/26/japan-will-become-carbon-neutral-by-2050-pm-pledges

https://www.climatechangenews.com/2019/06/14/countries-net-zero-climate-goal/

https://www.ucsusa.org/resources/each-countrys-share-co2-emissions

https://www.energy.gov/ne/articles/3-reasons-why-nuclear-clean-and-sustainable

 

ครั้งแรกของโลก! นักวิทย์เตรียมสร้างรายชื่อสายพันธุ์ของสัตว์-พืช-สิ่งมีชีวิต ทั้งโลกแบบครบถ้วน! ทำระบบเพื่อความเข้าใจที่ตรงกัน ช่วยให้ง่ายต่อการอนุรักษ์ทั่วโลก
•
การผลักดันครั้งใหม่ในการสร้างรายชื่อของสายพันธุ์สัตว์ และพืชทั่วโลก โดยระบบนี้จะช่วยหยุดข้อถกเถียง รวมถึงจะทำให้การผลักดันการอนุรักษ์มากขึ้น

นักวิทยาศาสตร์วางแผนที่ลิสรายชื่อสายพันธุ์สิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนโลกที่มีความเป็น universal ครั้งแรกเพื่อง่ายต่อการอนุรักษ์ และดำรงไว้ซึ่งความหลากหลายของระบบนิเวศ รวมถึงการยุติการค้าสัตว์ใกล้สูญพันธุ์

ปัจจุบันนี้การจัดหมวดหมู่ของสิ่งมีชีวิตในปัจจุบันมีความกระจัดกระจายและความไม่ชัดเจน ทำให้เกิดความเข้าใจที่ไม่ตรงกัน โดยปัจจุบันนั้นมีคอนเซปที่เกี่ยวกับสายพันธุ์ต่าง ๆ ที่หลากหลาย จึงทำให้องค์กรอนุรักษ์ ภาครัฐ นักวิทยาศาสตร์นั้นใช้รายชื่อสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม เชื้อรา และสิ่งมีชีวิตอื่นๆโดยใช้การอธิบายที่ต่างกัน

ยกตัวอย่างเช่น หลักฐานทางวิทยาศาสตร์ชี้ให้เห็นว่าช้างแอฟริกามี 2 สายพันธุ์ ช้างป่า และช้าง savanna แต่องค์กรอนุรักษ์อย่าง the Convention on International Trade in Endangered Species (Cites) และ the International Union for Conservation of Nature (IUCN) ประกาศว่ามีแค่หนึ่ง
•
โดยแพลนการจัดหมวดหมู่ครั้งใหม่ใช้การวิเคราะห์แบบ Genomic และใช้ micro TC สแกน ซึ่งจะช่วยให้สามารถวิเคราะห์และจำแนกได้ละเอียดมากยิ่งขึ้น อาจะทำให้เกิดข้อค้นพบว่า สิ่งมีชีวิตที่เข้าใจว่ามีสายพันธุ์เดียว อาจมีหลายพันธุ์ได้ เช่นค่างแว่น ยีราฟ และฉลามเดินได้ หรือค้นพบสัตว์สายพันธุ์ย่อย
•
องค์กรอนุรักษ์ รัฐบาล และนักวิทยาศาสตร์ มักจัดหมวด และคำอธิบายที่แตกต่างกันไป ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการอนุรักษ์
•

https://www.independent.co.uk/indep...icrobes-biodiversity-extinction-a9605886.html

https://www.theguardian.com/environ...ard-plan-to-create-universal-species-list-aoe

https://ncse.ngo/species-concepts-modern-literature-0

 

#เตือนต่อ #ไม่รอแล้วนะ(27ตค.63)

โดยปกติปลายเดือนตุลาคมประเทศไทยจะเข้าสู่ฤดูหนาว ฝนทางตอนบนจะลดลง หรือหากมีพายุก็มักจะมีผลกระทบพื้นที่ภาคใต้!!!

พายุไต้ฝุ่น "โมลาเบ" ตามข้อมูลที่กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์พื้นที่ผลกระทบ หนักสุดคือภาคอีสาน ภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ กทม.ปริมณฑล หากข้อมูลเป็นไปตามนี้ก็ต้องบอกว่า "โมลาเบ" มาผิดที่ผิดเวลา!!!

⛈️‍♀ ข้อมูลวันนี้ยังไม่เปลี่ยนแปลง "โมลาเบ" จะเข้าประเทศไทยในเขตรอยต่อระหว่างจังหวัดอุบลราชธานี กับจังหวัดมุกดาหาร หลังเที่ยงคืนวันที่ 28 หรือเช้าวันที่ 29 ตค. ฝนตกหนักถึงหนักมาก ลมแรง ภาคอีสานจะมีฝนโดยทั่วไป แต่พื้นที่ไขแดง เสี่ยงกระทบมาก ได้แก่ มุกดาหาร อุบลราชธานี อำนาจเจริญ ยโสธร ร้อยเอ็ด บุรีรัมย์ เลย ขอนแก่น อุดรธานี โดยจังหวัดนครราชสีมาเป็นพื้นอ่อนไหว มีพื้นที่เปราะบางมากที่สุด 3 อำเภอประกอบด้วย อำเภอปักธงชัย อำเภอเมือง และอำเภอปากช่อง!!!

⛈️‍♀ ภาคใต้ฝนได้เวลาเฝ้าระวัง หลังจากนี้ฝนฟ้าจะมีมากขึ้น น้ำท่วมฉับพลันเกิดขึ้นแน่ แต่ปีนี้ต้องระวังอาจรุนแรงเป็นอุทกภัย!!!

⛈️‍♀ เพื่อกระจายข้อมูลล่วงหน้าได้อย่างทั่วถึง มูลนิธิสภาเตือนภัยฯ ร่วมกับเครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงลูกทุ่งเน็ตเวิร์ก เครือข่ายสถานีวิทยุกระจายเสียงบิ๊กเอฟเอ็ม. จัดรายการพิเศษ"เกาะติดพายุโบลาเว" เวลา 12.00-12.30น. เริ่มวันนี้จนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย ติดตามข้อมูลและแจ้งเหตุแจ้งข่าวกันได้ครับ!!!

วันนี้รีบซักผ้าท้องฟ้าเปิด "โมลาเบ" ดูความชื้นไปสะสมพลังงานอยู่บริเวณทะเลจีนใต้ เตรียมมาให้น้ำประเทศไทย 28-30ตค. อยู่ที่ไหน ฝนตกแดดออก บอกต่อข้อมูลกันบ้างนะครับ ขอบคุณที่ติดตาม...สวัสดี ขอรับ กระผ้ม!!!

ขอบคุณข้อมูลจากแบบจำลองรศ.ดร.เสรี ศุภราทิตย์

 

นายกฯ #ญี่ปุ่น เผยโควต้าเดินทางเข้าญี่ปุ่นวันละ 20,000 คน แจกวัคซีนโควิดให้ประชาชนทุกคน ภายในกลางปีหน้า
‼️
นายโยชิฮิเดะ ซูงะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น แถลงนโยบายต่อรัฐสภาครั้งแรกนับตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง เน้นไปที่การรับมือการระบาดของไวรัสโควิด-19 ซึ่งขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่ในญี่ปุ่นมีแนวโน้มลดน้อยลง แต่รัฐบาลยังไม่วางใจสถานการณ์ จะป้องกันไม่ให้การติดเชื้อเพิ่มขึ้น ปกป้องสุขภาพและชีวิตของประชาชน และในขณะเดียวกันก็จะเริ่มขับเคลื่อนกิจกรรมทางสังคม พลิกฟื้นเศรษฐกิจ
.
นายกฯ ญี่ปุ่นระบุว่า มีเป้าหมายเปิดรับให้สามารถเดินทางเข้าญี่ปุ่นได้วันละ 20,000 คน เฉพาะจากภาคธุรกิจและภาคการศึกษาภายในสิ้นเดือนพฤศจิกายน และยังไม่เปิดให้นักท่องเที่ยวต่างชาติมายังญี่ปุ่น โดยรัฐบาลจะเพิ่มศักยภาพในการตรวจหาเชื้อเพื่อรองรับผู้ที่จะเดินทางเข้าประเทศ
.
นอกจากนี้ นายซูงะยังกล่าวว่า รัฐบาลจะจัดหาวัคซีนให้เพียงพอสำหรับประชาชนทุกคนภายในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า โดยจะมีการออกกฎหมายเพื่อกำหนดขั้นตอนการจัดหา แจกจ่าย รวมทั้งภาระค่าใช้จ่ายของรัฐบาล ทางการท้องถิ่น รวมถึงประชาชนว่าต้องจ่ายค่าวัคซีนเท่าไหร่

การรับมือไวรัสโควิดและแจกจ่ายวัคซีนเป็นปัจจัยสำคัญในการเปิดให้ให้นักท่องเที่ยวมายังญี่ปุ่นอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นราวเดือนมีนาคม ปีหน้า รวมทั้งการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันโตเกียวโอลิมปิกและพาราลิมปิก ซึ่งมีกำหนดจัดขึ้นในตั้งแต่ 23 กรกฎาคม - 5 กันยายน.

 

เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมาแหล่งข่าวของรัฐบาลเปิดเผยว่าจำนวน “เด็กทารก” ที่เกิดในปี 2020 คาดว่าจะลดลงเหลือประมาณ 845,000 คน ซึ่งจะแตะระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ของญี่ปุ่น นับตั้งแต่มีการเก็บข้อมูลเปรียบเทียบเมื่อ 120 ปีก่อน
.
ตั้งแต่มีการเก็บสถิติมา ในญี่ปุ่นมีจำนวนทารกแรกเกิดลดลงต่ำกว่า 1 ล้านคนเป็นครั้งแรกในปี 2016 (ตามข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขแรงงานและสวัสดิการ) และก็ได้ลดต่ำลงเรื่อยๆ จนมาเจอกับวิกฤตการระบาดของโคโรน่าไวรัส ทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นยิ่งเลวร้ายลงไปอีก ซึ่งการลดลงในหลายปีที่ผ่านมานี้เกิดจากผู้คนเลือกที่จะ “ไม่แต่งงานหรือแต่งงานตอนอายุมากขึ้น”
.
และยังเชื่อกันว่าคู่รักหลายคู่ได้เลื่อนแผนการมีลูกออกไปด้วยเหตุผลทางเศรษฐกิจเนื่องจากการระบาดของโควิด-19 ทำให้สถานการณ์การจ้างงานแย่ลง ผู้คนจึงไม่มั่นใจว่าจะมีความมั่นคงมากพอที่จะเลี้ยงดูบุตรได้
.
จากข้อมูลที่แสดงถึงผลกระทบของโคโรนาไวรัสต่อจำนวนการเกิดของญี่ปุ่น กระทรวงวางแผนที่จะเสริมสร้างมาตรการสนับสนุนต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีอัตราการเกิดที่สูงขึ้นและป้องกันปัญหาที่อาจตามมาในอนาคต
.
ทารกแรกเกิดลดลงหมายถึงแรงงานในอนาคตที่มีจำนวนน้อยลง ซึ่งจะเป็นปัญหาเมื่อต้องรองรับค่าใช้จ่ายด้านประกันสังคมที่เพิ่มสูงขึ้น เพื่อให้ครอบคลุมเงินบำนาญและการรักษาพยาบาลสำหรับประชากรสูงอายุของประเทศ ญี่ปุ่นซึ่งเป็นประเทศที่ผู้คนมีอายุขัยสูงที่สุดแห่งหนึ่งของโลก
.
หากสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นไม่สามารถฟื้นตัวได้โดยเร็ว มีการคาดการณ์กันว่าปีหน้า "จำนวนทารกแรกเกิดอาจลดลงต่ำกว่า 800,000 คน” เลยทีเดียว
.
เพื่อให้ท่านไม่พลาดทุกสิ่งที่น่าสนใจจากเพจ Thailand State กด Like เพจและตั้งค่า See First ⭐️ เพื่อติดตามข้อมูลดีๆได้เลยครับ
.
Source : https://english.kyodonews.net/news/...rd-low-number-of-newborn-babies-for-2020.html
.
https://english.kyodonews.net/news/...-in-2021-as-pandemic-affects-pregnancies.html
.
#ThailandState #ThailandStateUpdate