ติดตามสถานะการณ์

23.10.20

เมืองออสโล ประกาศ จะเพิ่มความเข้มงวด มาตรการควบคุมการติดเชื้อใหม่ ในเขตเมืองมากกว่าเดิม ในวันจันทร์นี้

1.Raymond Johansen (Ap) นายกเทศมนตรีเมืองออสโล กล่าวในงานแถลงข่าววันนี้ว่า เขามีความกังวลมากว่า อัตราการติดเชื้อ จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น แม้ว่า เมืองออสโล จะมีกฎควบคุมการติดเชื้อที่เข้มงวดอยู่แล้ว ก็ตาม เมืองออสโล ได้ต่อสู้กับการติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นอย่างมากตั้งแต่ฤดูร้อนที่ผ่านมา เหตุการณ์นี้ทำให้ เทศบาลเมืองฯ แนะนำข้อจำกัด ที่เข้มงวดกว่าในส่วนอื่น ๆ ของประเทศ และตอนนี้จะเข้มงวดมากขึ้นอีก

2.Johansen กล่าวว่า มาตรการที่ลดการติดต่อระหว่างผู้คน และ ทำให้แน่ใจว่า ผู้คนจะระยะห่างจากผู้อื่น 1 เมตร คือพื้นฐานสำหรับการตัดสินใจ นำมาตรการต่างๆมาใช้ รวมไปถึง ลดความสี่ยงของการนำเข้าเชื้อจากต่างประเทศให้มากขึ้นอีกด้วย

3.สองสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ติดเชื้อ 662 คนได้รับการลงทะเบียนในเขตเมืองออสโล และในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีการลงทะเบียน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 79 รายในออสโล นี่เป็นตัวเลขที่สูงที่สุดในรอบ 2 สัปดาห์ ของ เขตเทศบาลฯ ในช่วงต้นเดือนตุลาคมมีการเปิดเผยว่า 1 ใน 3 ของผู้ที่ติดเชื้อในเมืองออสโล ไม่ทราบว่าพวกเขาติดเชื้อมาจากที่ใด

4.พื้นที่ ที่มีผู้ติดเชื้อ มากที่สุด อยู่ในช่วงอายุ 20-29 ปี และมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดในเขต Frogner และ Gamle Oslo นาย Johansen มีความกังวลว่า จะมีโอกาศที่การติดเชื้อจะแพร่ไปสู่กลุ่มผู้สูงอายุหรือไม่ เป้าหมายของเทศบาลคือการ เปิดเมืองออสโล/เปิดโรงเรียนอนุบาล และ โรงเรียน แต่จะปิดสิ่งที่เราต้องปิดเพื่อไม่ให้อัตราการติดเชื้อเพิ่มขึ้น จนถึงจุดที่ควบคุมไม่ได้

5.Johansen กล่าวว่า หากเราจัดการได้ดี และ จำกัดอัตราการติดเชื้อ ได้เราหวังว่า ทุกคนจะได้มีการติดต่อกับครอบครัวและเพื่อนฝูงมากขึ้นในช่วงเทศกาลคริสต์มาส แต่ คุณทุกคนต้องทำตัวดีๆและปฏิบัติตาม มาตรการทั้งหมดที่ประกาศใช้ไปแล้ว รวมถึงมาตรการใหม่ๆ ที่กำลังจะมาถึงด้วย

มาตราการของเมืองออสโล (ยังมีผลใช้อยู่ค่ะ - มาตรการใหม่รอประกาศวันจันทร์)

*สนับสนุนสำนักงานที่บ้าน
*ต้องสวม หน้ากากอนามัย เมื่อใช้ระบบขนส่งสาธารณะ และ เมื่อไม่สามารถรักษาระยะห่าง 1 เมตร จากผู้อื่นได้
*ร้านอาหารต้องลงทะเบียนชื่อ ลูกค้า
*งดให้บริการเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังเที่ยงคืน
*กิจกรรมสาธารณะ จำกัด ผู้เข้าร่วมงานได้สูงสุด 200 คน ในอาคารจะต้องมีการจัดที่นั่งถาวร ในกรณีที่ไม่สามารถจัดที่นั่งถาวรได้ จำกัด จำนวนคนเข้าร่วมสูงสุดคือ 50 คน
*การสังสรรค์ส่วนตัว จำกัด คนเข้าร่วมได้สูงสุด 10 คน และต้องปฏิบัติตามกฏ 1 เมตร

เพิ่มเติม : สถานการณ์ จำนวนผู้ติดเชื้อของ เมืองออสโล , Bergen ,Trondheim, Hammerfest , Gjøvik กำลัง เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ แอด ขอให้ทุกคนรักษาสุขภาพด้วยนะคะ
.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Camilla Wernersen : Journalist
Kari Bækken Larsen : Programleder

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/norge/byradslederen-i-oslo-lover-nye-tiltak-pa-mandag-1.15213306

 

23.10.20

FHI และ กระทรวงต่างประเทศนอร์เวย์ ประกาศพื้นที่สีแดง มีรายการดังต่อไปนี้

มีผลตั้งแต่เวลา 00.00 น. วันที่ 24.10.20

พื้นที่สีแดง (กักตัว 10 วันเมื่อเดินทางมาถึงนอร์เวย์)

ประเทศสวีเดน

1.Kalmar

เป็นอันว่า ตอนนี้ ทุกภูมิภาคใน ประเทศสวีเดน กลายเป็น พื้นที่สีแดงทุกภูมิภาคแล้วค่ะ ท่านที่จะเดินทางมาจาก ประเทศสวีเดน ขอให้ตรวจสอบรายละเอียดก่อนเดินทาง

ดูรายชื่อ พื้นที่สีแดง - เหลือง - เทา ได้ที่ :
https://www.fhi.no/nettpub/coronavirus/fakta/reiserad-knyttet-til-nytt-koronavirus-coronavirus/

ที่มา เวปไซต์รัฐบาล Regjeringen :
https://www.regjeringen.no/no/aktuelt/endring-i-reiserad-for-regionen-kalmar-i-sverige/id2774295

 

23.10.20

เทศบาลเมือง Bergen ประกาศมาตรการควบคุมการติดเชื้อในท้องถิ่นฉบับใหม่ โดยมีผลตั้งแต่วันนี้ เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก

1.เทศบาลเมือง Bergen นำโดย Roger Valhammer สมาชิกสภาเมืองฯ จัดงานแถลงข่าว ในวันนี้ เมื่อเวลา 13.00 น โดยรายงานสถานการณ์ว่า ในช่วง 24 ชม. ที่ผ่านมา มีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนารายใหม่ทั้งหมด 57 ราย ครึ่งหนึ่งของ ผู้ติดเชื้อ มีอายุระหว่าง 20-29 ปี นี่คือจำนวนผู้ติดเชื้อสูงสุดที่เคยลงทะเบียน ภายในหนึ่งวัน ของเมือง Bergen

2.ผู้ติดเชื้อ ส่วนใหญ่เป็นคนหนุ่มสาว และ หลายคนมีอาการไม่รุนแรงหรือแทบไม่มีอาการเลย ดังนั้นจึงต้องใช้เวลาซักพักก่อนที่พวกเขาจะเริ่มทดสอบตัวเอง Valhammer กล่าวว่ามันมีความจริงที่ว่า หลายคน ไม่สามารถรักษาระยะห่างอย่างน้อย 1 เมตร จากบุคคลที่อยู่ถัดไปได้

3.Valhammer อธิบายสถานการณ์ในขณะนี้ว่าร้ายแรงมาก และ เน้นภารกิจหลักสองประการของเทศบาล คือ ป้องกันผู้ที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง และ
ตรวจสอบให้แน่ใจว่า การดำเนินการ ด้านบริการสุขภาพ ยังคงดำเนินการต่อไปได้ ในขณะเดียวกันกับที่มี ผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้น

สภาเทศบาลเมืองฯ ได้แจ้ง มาตรการ /กฎระเบียบ ที่จะนำมาใช้จริงๆในสัปดาห์หน้า แต่ แนะนำ ให้ผู้ที่สะดวกสามารถเริ่มปฏิบัติตาม มาตรการ เหล่านี้ได้ตั้งแต่วันนี้ เป็นต้นไป (ยังไม่มีกำหนดสิ้นสุด)

*ห้ามมิให้บุคคลมากกว่า 10 คน รวมตัวกัน ใน งานสังสรรค์ส่วนตัว (ก่อนหน้านี้ อนุญาตที่ 20 คน)
*จำเป็นต้องเก็บรายชื่อ ลูกค้า ที่มาใช้บริการ ที่ ร้านอาหาร ทุกแห่ง แม้กระทั่ง ร้านที่ไม่มีการขาย เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ในข้อบังคับระดับชาติ กำหนดให้มีการ เก็บรายชื่อ ลูกค้าที่มาใช้บริการอยู่แล้ว แต่ในข้อบังคับ สำหรับท้องถิ่น เมือง Bergen จะมีข้อกำหนด เพิ่มเติมสำหรับ บุคคลที่ไม่ต้องการระบุตัวตน หรือ ลงทะเบียน สามารถถูกปฏิเสธไม่ให้เข้าใช้บริการที่ร้านอาหาร ได้
*ข้อจำกัด ในการเยี่ยมบ้านคนชรา ระยะเวลา การเข้าเยี่ยม บ้านพักคนชรา ลดลงเหลือเข้าเยี่ยมได้ 1 ชั่วโมง / สัปดาห์ และ จะต้องทำการนัดล่วงหน้า กำหนดจำนวนผู้เข้าเยี่ยมบ้านพักคนชราได้ครั้งละไม่เกิน 2 คน
*ผู้เข้าเยี่ยม บ้านพักคนชรา ต้องสวมหน้ากากอนามัย
*พนักงานในสถานพยาบาล และใน พนักงานที่บริการที่บ้านนอกสถานที่ จะต้องสวมหน้ากากอนามัย ในสถานการณ์ที่พวกเขาไม่สามารถรักษาระยะห่าง 1 เมตรได้
*(anbefaler) สภาเมืองฯ แนะนำ ให้ ผู้ที่ใช้บริการระบบขนส่งสาธารณะ สวมหน้ากากอนามัย
*เพิ่มการควบคุมการเว้นระยะห่างที่ร้านอาหาร ให้เข้มงวดขึ้น เมื่อเร็ว ๆ นี้กระทรวงสาธารณสุข ได้ระบุว่า ร้านอาหาร-บาร์-ไนต์คลับ-คาเฟ่ ควรมีการจัดที่นั่ง โดยมีระยะห่างจากกัน 1 เมตร ระหว่างเก้าอี้ของแขก
.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ที่มา : https://www.bergen.kommune.no/hvask...smittetall-i-bergenbyradet-varsler-nye-tiltak

 

22.10.20

การแพร่ระบาดใน Gjøvik มีผู้ติดเชื้อ16 คนได้รับการยืนยันแล้ว และ มากกว่า 250 คน เข้าสู่การกักกันตนเอง ขณะนี้มีการทดสอบเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง และ เทศบาลมีความกังวลว่า จะมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น

1. Siri Fuglem Berg หัวหน้าแพทย์เทศบาลเมือง Gjøvik และ Torvild Sveen นายกเทศมนตรีเมือง Gjøvik ได้แถลงข่าวเกี่ยวกับสถานการณ์การติดเชื้อในเขตเมืองในวันนี้ โดยรายงานว่า

ตั้งแต่ วันศุกร์ที่ 17 ตุลาคม มี ผู้ติดเชื้อ 4 คน ในเขตเทศบาล ตั้งแต่นั้นมามี ผู้ป่วยรายใหม่ เพิ่มขึ้นในอีกไม่กี่วันหลังจากนั้น และ มี ผู้ถูกกักกันประมาณ 250 คน เมื่อวานนี้ มีการทดสอบ ผู้คน 80 คน และ จะมีการทดสอบผู้คนมากขึ้นอีกในวันนี้

2.มีข่าวลือหนาหูว่า ไวรัสที่กำลังแพร่ระบาดอยู่ในเขตเมือง Gjøvik อยู่ในขณะนี้ อาจจะเป็น «superspreiar» นายกเทศมนตรีฯ Sveen ปฏิเสธ ข่าวลือทั้งหมดนี้ไม่เป็นความจริง ไม่มี «superspreiar» ในเมือง และไม่มีเหตุผลที่จะสร้างความตื่นตระหนกให้กับประชาชน ด้วยข่าวแบบนี้

3.มี นักเรียน 2 คนที่ โรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลาย Gjøvik เป็น ผู้ติดเชื้อ นักเรียนในชั้นเรียนของ นักเรียนทั้ง 2 คน ได้รับการทดสอบแล้ว ขณะนี้สถานการณ์ค่อนข้างสับสน และเป็นงานการติดตามการติดเชื้อที่ใหญ่มาก เพื่อค้นหาว่าพวกเขาติดเชื้อได้อย่างไร และ จะแพร่กระจายไปสู่ใครได้บ้าง

4.นายกเทศมนตรีฯ Sveen กล่าวว่า พวกเขายังไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ในขณะนี้เนื่องจากยังไม่สามารถทำแผนที่ เส้นทางการติดเชื้อ ได้ เขาขอให้ ชาวเมือง ใช้ความระมัดระวังในการปฏิบัติตามมาตรการควบคุมการติดเชื้อ โดยขณะนี้ ผู้ติดเชื้อหลายกรณีมีความเชื่อมโยงกัน รวมไปถึง บางกรณี การติดเชื้อ ที่อยู่นอกเหนือจากการติดเชื้อภายในเขตเมือง นั่นคือ คนที่เคยไปต่างประเทศ ซึ่งได้รับการพิสูจน์แล้ว

5.ผู้ติดเชื้อ 3 คนทำงานอยู่ที่ sjukeheim ในเขตเทศบาลและอีกคนทำงานอยู่ที่โรงพยาบาล Kommuneoverlegen กล่าวว่า ผู้ป่วยทุกรายที่ได้สัมผัสใกล้ชิด กับผู้ติดเชื้อ ขณะนี้ อยู่ในการกักกันตนเอง

6.นอกจากนี้ยังมีการระบาดใน Vestre Toten และ Østre Toten
*Østre Toten มี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 7 รายได้รับการวินิจฉัยว่าติดเชื้อในวันอังคารหลังจากถูกกักกันตั้งแต่วันจันทร์ที่ 12 ตุลาคม พวกเขาอยู่บ้านเดียวกับคนที่เคย ติดเชื้อ มาก่อน และในวันนี้มีการยืนยัน ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 2 รายเพิ่มเติม ที่ Østre Toten
*Vestre Toten มี ผู้ติดเชื้อรายใหม่ 1 ราย ทำให้ อีก 5 คน เข้าสู่การกักกันตนเอง และมีผู้คนที่เกี่ยวข้องกว่า 50 คน เข้ารับการทดสอบ
.
อ่านรวมข่าว และ มาตรการโคโรน่าต่างๆของ ประเทศนอร์เวย์
http://norgetiltak.blogspot.com/

อ่าน นอร์เวย์สไตล์วาไรตี้
https://www.blockdit.com/norwaystyle

#นอร์เวย์ #ข่าวนอร์เวย์ #norway #รายงานข่าวประจำวัน
.
แปลภาษาไทยโดย Facebook เรื่องแปล - ข่าวนอร์เวย์
https://www.facebook.com/whatisgoingoninnorway

ผู้ทำข่าวต้นฉบับ :
Marte Iren Noreng Trøen : Journalist
Anders Bakkerud Larsen : Journalist
Mette Vollan : Journalis

ข่าวต้นฉบับ NRK :
https://www.nrk.no/innlandet/fryktar-mange-fleire-smitta-pa-gjovik-1.15210635

 

*** ศบค ยอมรับว่า ไทยเป็น Endemic และไม่ 0 จริง แปลว่ายอมรับว่า เรามีระบาดเงียบๆ ในอัตราที่ค่อนข้างคงที่มาตลอดเวลาหรือไม่ ?!? ... ถ้าใช่ ควรจะเปิดข้อมูลจริงให้คนไทยรับทราบตรงๆ ได้แล้ว

#คนไทยการ์ดตกเพราะ0ต่อเนื่องหรือไม่ ?

เลิกยึกยักๆ กับทฤษฎี 0 ต่อเนื่องที่ทำให้คนไทยการ์ดตกกันเกือบครึ่งประเทศไปแล้ว

หรือมีตัวเลขวิจัย มีหลักฐานอะไรออกมายืนยันว่า ไทยเป็น Endemic ไปแล้ว ?!?

#Endemicในไทยมีหลักฐานหรือไม่ ?

โรคประจำถิ่น หมายความว่า เราจะไม่มีปัจจัยจากภายนอก ปัจจัยอื่นๆ ที่จะเข้ามายุ่งเกี่ยวเลย จึงทำให้เรามีอัตราการติดเชื้อค่อนข้างคงที่ไปเรื่อยๆ อีกแสนนาน

Endemic ในไทยอาจจะใช้ได้แค่กรณี "Covid19 สายพันธุ์แรกที่ระบาดรอบแรก" ที่ตอนนี้คงระบาดเงียบในอัตราน้อยๆ (แต่เราไม่ค่อยได้ตรวจ PCR หาเชื้อใน รพ. กันมากเท่าอดีต จึงไม่พบผู้ติดเชื้อ)

ยกเว้นการเจอผู้ติดเชื้อจากการสุ่มตรวจในกรณีพิเศษ เช่น นักบอล ดีเจ คนจะบินไปทำงานที่ต่างประเทศ ต่างชาติหรือคนไทยที่ไปตรวจเจอที่ต่างประเทศ ซึ่งกรณีแบบนี้ ถ้าไม่เล่นแร่แปรธาตุไปมา คงมีเคสติดเชื้อในประเทศพอสมควร ถึงไปเจอโดยบังเอิญขนาดนี้

#Covid19สายพันธุ์ใหม่ยังไม่เป็นEndemic

เพราะยังคงมีเสี่ยงระบาดได้เรื่อยๆ เพราะคนไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีภูมิคุ้มกันต่อ Covid19

สายพันธุ์ใหม่เริ่มระบาดเมื่อไหร่ ประชาชนกับ ศบค การ์ดตกพร้อมกันแบบนี้ ก็กลายเป็นส่วนนึงของ Pandemic ร่วมกับทั่วโลกไม่ยากเลย !!

แถมถ้าระบาดในเมืองใหญ่ๆ ในไทย แล้วมัวแต่ยึกยักๆ ปกป้อง 0 ต่อเนื่องซ้ำซากกัน เจอออีกที อาจจะหนักกว่าพม่าก็เป็นได้

ระวังกันด้วย !!

.............

ในไทย

1. ของสายพันธุ์เดิมที่ระบาดรอบแรก และมีระบาดเงียบๆ มาเรื่อยๆ นั้น เรารู้ "อัตราการติดเชื้อในปัจจุบันของสายพันธุ์เก่า" ได้อย่างไร

- เรามีวิจัยสุ่มตรวจ Antibody ยืนยันหรือไม่

- หรือในไทย ที่ผ่านมาหลายเดือน เรามีเคสติดเชื้อเรื่อยๆ ในอัตราคงที่ แต่ไม่เปิดเผยตัวเลข (เหตุผลคงเดิมๆ กันแตกตื่น สร้างภาพจะเปิดรับนักท่องเที่ยว)

- แต่ถ้ายืนยันว่าที่ผ่านมา 0 ต่อเนื่องจริงๆ เราจะรู้ว่าว่าอัตราการติดเชื้อคงที่ไปแล้วได้อย่างไร ในเมื่อไทยยังตรวจหาเคส Covid19 แทบไม่เจอเลย พอเจอเคสนึงก็บอกซากเชื้อ เจออีกเคสก็หาผู้รับเชื้อไม่เจอ พอคนที่บินออกไปแล้วตรวจเจอที่ต่างประเทศก็บอกว่า เทสต์เขา False Positive 100% (นี่เคสญี่ปุ่นอีกครึ่งนึง ที่บอกผลการตรวจสอบยังไม่ออก ก็ทำท่าจะเนียนเงียบไปอีกแล้ว)

2. เรายังปัจจัยอื่นๆ จากภายนอกที่จะทำให้ยังเป็น Epidemic หรือส่วนนึงของ Pandemic ได้ เพราะยังมีสายพันธุ์ใหม่ที่เข้าไทยมาแล้ว แต่เป็นหมันตลอดทุกเคส ทั้งกรณีดีเจ นักบอลต่างชาติ คนพม่าที่แม่สอด

คือพอเข้าไทย ก็ไม่สามารถตรวจเจอผู้สัมผัสเชื้อที่เป็นคนไทยได้เลย (คนพม่าอุตส่าห์ตรวจเจอว่าติดเชื้อในครอบครัวได้ 5 คน แต่ไม่กระจายเชื้อให้คนไทยเลย แปลกและมหัศจรรย์ดีจริงๆ)

ยังมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์ใหม่ที่จะเข้ามาเสี่ยงให้เกิดระบาด

- เราไม่สามารถคุมการผ่านเข้าออกทางพรมแดนธรรมชาติได้ 100% จึงมีการลักลอบเข้าได้ดรื่อยๆ

- ถ้าเปิดด่านเป็นทางการเหมือนก่อนหน้านี้ เราก็มีกลุ่มอนุโลมให้คนพม่ากับมาเลเซียกลุ่มนี้เข้ามาซื้อของส่งของรับของแบบไปกลับโดยไม่กักตัว 14 วันมาตั้งนานแล้ว ... มาโป๊ะแตกตอนกรณีแม่สอด

- เราจะรับนักท่องเที่ยวเข้ามาแล้ว ซึ่งมีให้เห็นเรื่อยๆ ว่าการกักตัว 14 วันไม่ได้การันตีว่า จะไม่ติดเชื้อ

..............

ถ้าทั่วโลกรับทราบข่าวว่า ไทยให้ Covid19 กลายเป็นโรคประจำถิ่น คงจะงงกันไปทั้งโลกแน่ ...

ลองค้น Endemic Disease มาให้อ่านกัน

...............

*** ที่ดูมาตรฐาน ทางการ จะเป็นของ CDC สหรัฐ รูปที่ 2 และ 3 กับ 10-12

.............

Section 11: Epidemic Disease Occurrence

Level of disease

https://www.cdc.gov/csels/dsepd/ss1978/lesson1/section11.html

Endemic refers to the constant presence and/or usual prevalence of a disease or infectious agent in a population within a geographic area

.............

Endemic โรคประจำถิ่น คือจะพบโรคนี้ในระดับที่คงที่ในประชากรในพื้นที่นั้นๆ

...........

ดูจาก Wikipedia ทั้งอังกฤษ และไทย ก็ออกมาคล้ายกัน

ของ Wikipedia ไทยจะเป็น รูปที่ 2 และรูป 8

https://th.m.wikipedia.org/wiki/โรคระบาด

...........

โรคระบาดประจำถิ่น (Endemic) ของ Wikipedia อังกฤษ จะมีเปรียบเทียบ Endemic กับ Epidemic Pandemic (รูปที่ 5-7)

https://en.m.wikipedia.org/wiki/Endemic_(epidemiology )

..........

มีรูป 9 จะเป็นของ Cambridge Dictionary

รูปที่ 13 เป็นของ USA Today

On the verge of a pandemic, can the world look to China for answers?

https://www.usatoday.com/in-depth/news/2020/02/26/pandemic-how-differs-epidemic-outbreak/4856243002/

An endemic disease affects a group of people at "a fairly stable predictable rate." The illness could affect an area as small as a town or as large as a continent, but it emerges in a way that doctors and researchers expect

...........

รูปที่ 14-17 จะเป็นของเวบ insightsonindia ที่สรุปเหตุผลของการกลายเป็น Endemic

When does a disease become endemic?
What to study?

https://www.insightsonindia.com/2020/05/16/when-does-a-disease-become-endemic /

เวบนี้อ้างอิงคำจำกัดความของ CDC สหรัฐ แต่มีรายละเอียดเพิ่มเติม

มีตอนนึงเขียนไว้ว่า

One mathematical modelling published in the Journal of Epidemiology and Community Health states that if R0, which is the rate at which the virus is transmitted is equal to 1, then the disease is endemic

ถ้าอัตราการติดต่อ R0 มีค่าเท่ากับ 1 (นิ่งๆ ไปเรื่อยๆ โดยรัฐไม่ต้องควบคุมอะไรมากมาย ไม่ต้องมาเว้นระยะ ใส่มาส์กกัน ไม่ต้องปิดเมือง) ก็อาจเป็น Endemic ในประเทศนั้นๆ ก็ได้

มียกตัวอย่าง Endemic เช่น Chicken Pox และ Malaria ในบางพื้นที่ของโลก ซึ่งเราสามารถคาดเดาอัตราการเกิดโรคที่คงทีืได้แล้ว

ซึ่ง Covid19 ในไทย เรายังไม่รู้ว่าอัตราการติดเชื้อ แพร่เชื้อในปัจจุบันว่าเป็นอย่างไร

.............

ในไทย

กรณี Covid19 ถ้าจะให้กลายเป็นโรคประจำถิ่นได้ คนส่วนใหญ่ในประเทศควรติดเชื้อไปมากๆ แล้ว หรือฉีดวัคซีนในคนส่วนใหญ่ มีคนที่ไม่ติดเชื้อน้อยจนไม่ต้องกลัวระบาดหนักอีกต่อไป

ปัญหาคือในไทย รัฐบาลมั่นใจว่า จะไม่ระบาดอีกรอบได้อย่างไร ??

ในเมื่อยังมีชาวพม่าลักลอบเข้าเมืองเรื่อยๆ

ยังมีคนพม่า หรือมาเลเซียที่ยังเดินทางเข้าออกไทยโดยไม่กักตัว 14 วัน เข้ามาเรื่อยๆ

.

 

#ข่าวสั้น (24 ตุลา) เดือนหน้านี้ทางญี่ปุ่นจะเริ่มคืนเงินค่าบัตรโตเกียวโอลิมปิกให้กับผู้ชมที่คาดว่าจะมาเข้าร่วมในปีหน้าไม่ได้

บัตรเดิมยังสามารถใช้เข้าชมการแข่งขันในวันและเวลาเดิมได้อยู่ (จริง ๆ เหลื่อมกัน 1 วัน ถ้าจำไม่ผิด ระหว่างตารางปี 2020 กับ 2021)

ระยะเวลาในการยื่นขอคืน 20 วัน

ใครที่ยังอยากลุ้นต่อก็ถือบัตรไว้ก่อน ส่วนคนไม่อยากลุ้นแล้วขอเงินคืนได้ เดือนหน้าไปค่ะ เช็คช่วงดี ๆ นะคะ
—-> โอลิมปิก 10 พ.ย. - ปลายเดือน(20 วัน)
———-> พาราลิมปิก เริ่มคืนธันวาไป (20 วัน)

บัตรโอลิมปิกจำหน่ายไปแล้วถึง 4.48 ล้านใบ ส่วนพาราชิมปิก 970,000 ใบ

✒️แอดว่าแฟร์ดีนะคะ เพราะตอนแรกบอกว่าจะไม่คืนเลย

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #โอลิมปิก #พาราลิมปิก 

東京オリンピック観戦チケット11月から払い戻しへ https://www3.nhk.or.jp/news/html/20201024/k10012678661000.html

 

เตรียมตัวรับมือพายุโมลาเบ
#รัศมีของพายุปกคลุมบริเวณกว้างมากๆ อัพเดทพายุดีเปรสชั่น 98W ก่อนที่จะเป็นโซนร้อน ว่าที่พายุโมลาเบ อัพเดทข้อมูลช่วงระหว่างวันที่ 28 ถึง 29 ตุลาคม 2563

คาดการณ์ว่าพายุจะขึ้นฝั่งประเทศเวียดนาม บริเวณที่จะได้รับผลกระทบของประเทศเวียดนาม ญาจาง กวีเญิน เปล็ยกู ด่าหลัต ดานัง ช่วงเช้ามืดประมาณวันที่ 28 ตุลาคม 2563 รัศมีของพายุปกคลุมกว้างมาก เวียดนาม ลาว กัมพูชา ไทย คาดการณ์ว่าจะได้รับอิทธิพลจากพายุลูกนี้

บริเวณที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ
เมื่อเข้าเขตประเทศไทยอาจจะเป็นดีเปรสชันกำลังแรง
ประเทศไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือ บริเวณใกล้ จุดศูนย์กลางคาดว่าจะเคลื่อนตัวเข้าจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ รัศมีของพายุกลุ่มเมฆฝนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือทั้งหมด รวมไปถึงภาคใต้ ภาคกลาง ภาคตะวันออก

สปปลาว ปากเซ สาละวัน เซกอง เมืองจําปาสัก

กัมพูชา อุทยานแห่งชาติวีระชัย โดยเฉพาะกัมพูชาตอนบน

ระวังน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะแนวหน้าที่เป็นบริเวณรับลมรับฝนตกหนัก โดยเฉพาะสปปลาว เวียดนาม กัมพูชา และบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง

ภาพทั้งหมดนี้ เป็นภาพจากแบบจำลองข้อมูล gfs ของอเมริกา

ข้อมูลอาจจะมีการเปลี่ยนแปลงไปบ้างไม่มากก็น้อยก่อนพายุขึ้นฝั่งประเทศเวียดนามควรติดตามข้อมูลก่อนพายุขึ้นฝั่งประมาณ 1 วันถึงจะมีความชัดเจน เพราะข้อมูลมีการอัพเดตตลอด
อัพเดทข้อมูลล่าสุด 24 ตุลาคม 2563
#เตือนภัยพิบัติวาตภัยฝนฟ้าพายุ

 

Oct 24, 2020 ทั่วโลกติดโควิด-19 ทะลุกว่า 42.4 ล้านคน ยอดตายโควิด-19 ทั่วโลกกว่า 1.14 ล้านคน The Covid-19 infected globally toll surpassed 42.4 million

เวลา 8.10 น.รายงานสถานการณ์จำนวนผู้ติดโรคปอดอักเสบไวรัสโคโรนา 2019 ทั่วโลก เพิ่มเป็น 42,463,052 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรกของโลก คือ สหรัฐอเมริกา 8,746,953 ราย อินเดีย 7,813,668 ราย บราซิล 5,355,650 ราย รัสเซีย 1,480,646 ราย สเปน 1,110,372 ราย อาเจนติน่า 1,069,368 ราย ฝรั่งเศส 1,041,075 ราย โคลอมเบีย 998,942 ราย เปรู 883,116 ราย เม็กซิโก 874,171 ราย

สำหรับจำนวนผู้เสียชีวิตทั่วโลกเพิ่มเป็น 1,148,698 ราย ซึ่ง 10 อันดับแรก คือ สหรัฐอเมริกา 229,284 ราย บราซิล 156,528 ราย อินเดีย 117,992 ราย เม็กซิโก 87,894 ราย สหราชอาณาจักร 44,571 ราย อิตาลี 37,059 ราย สเปน 34,752 ราย ฝรั่งเศส 34,508 ราย เปรู 34,003 ราย และอิหร่าน 31,985 ราย

ในส่วนจำนวนผู้ติดเชื้อในอาเซียน และเสียชีวิต(ตัวเลขในวงเล็บ) พบว่า อินโดนีเซีย 381,910 ราย(13,077) ฟิลิปปินส์ 365,799 ราย(6,915) สิงคโปร์ 57,951 ราย(28) เมียนมา 42,365 ราย(1,038) มาเลเซีย 24,514 ราย(214) ไทย 3,727 ราย(59) เวียดนาม 1,148 ราย(35) กัมพูชา 286 ราย บรูไน 148 ราย(3) และลาว 24 ราย

#ไวรัสโคโรนา #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่2019 #โควิด19 #covid19 #Misterban #btimes

 

Oct 24, 2020 "กรมอุตุนิยมวิทยา" ประกาศเตือนพายุไต้ฝุ่น "โซเดล" (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง เตรียมขึ้นฝั่งเวียดนาม 25 -26 ตุลาคม นี้ ส่งผลกระทบประเทศไทยทางภาคอีสาน รับมือฝนตกหนัก
.
กรมอุตุนิยมวิทยา ได้ออกประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา พายุไต้ฝุ่น โซเดล (พายุระดับ 5) ฉบับที่ 7 ระบุถึงการเคลื่อนตัวของ พายุไต้ฝุ่น โซเดลที่อยู่บริเวณทะเลจีนใต้ ตอนกลาง ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประเทศไทย เมื่อพายุเคลื่อนตัวขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนามในเร็วๆ นี้
.
สภาพอากาศบริเวณทางภาคอีสานของประเทศไทยจะได้รับผลกระทบเกี่ยวกับฝนตกหนัก และมีลมกันโชกแรงโดยมีเนื้อความดังต่อไปนี้
.
เมื่อเวลา 04.00 น. วันนี้ (24 ตุลาคม 2563) พายุไต้ฝุ่นโซเดล (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 18.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 113.7 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้าๆ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนกับมีลมแรง

จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง
.
ประกาศ ณ วันที่ 24 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.00 น.
#misterban #กรมอุตุ #พายุโซเดล #ฝนตกหนัก #น้ำท่วม #ประกาศเตือน

 

Oct 24, 2020 ม็อบเพียบโผล่ทุบ ต้านปิดล็อคเมืองเนเปิลส์ อิตาลี ยอดติดเชื้อพุ่ง 7 เท่าในตุลาคม

เมื่อคืนที่ผ่านมาของวันที่ 23 ตุลาคม ชาวอิตาเลียนในเมืองเนเปิลส์ แคว้นคัมปาเนีย ประเทศอิตาลี มีจำนวนหลายพันคนออกมาประท้วง แสดงความโกรธ ความไม่พอใจอย่างรุนแรงจากมาตรการปิดล็อคเมืองเนเปิลส์ ซึ่งเป็นเมืองหลวงของแคว้นคัมปาเนีย ส่งผลให้ตำรวจนับร้อยนายต้องยิงแก๊สน้ำตาเข้าสลายกลุ่มผู้ประท้วง เพื่อควบคุมสถานการณ์ในเมืองเนเปิลส์

สถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 รอบที่ 2 ในอิตาลี ทวีความรุนแรงมากกว่าตั้งแต่รอบแรกเป็นต้นมา นับตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคมถึงปัจจุบัน จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 พุ่งทะยานถึง 7 เท่า ทำให้มีผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมถึงเช้าวันนี้ 24 ตุลาคมเป็น 484,869 ราย

ทั้งนี้ การประท้วงในคืนที่ผ่านมา นับเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หรือตั้งแต่เกิดการระบาดโรคโควิด-19 ในอิตาลีเป็นต้นมา

#อิตาลี #โควิด19 #โควิดรอบสอง #btimes

 

Oct 24, 2020 สึนามิโควิด-19 กวาดยุโรปติดสถิติใหม่เกิน 200,000 คนใน 1 วัน สั่งเคอร์ฟิวหลายเมืองใหญ่ทั่วยุโรป

องค์การอนามัยโลก หรือ WHO เปิดเผยว่าในรอบ 24 ชั่วโมงถึงวันที่ 23 ตุลาคมที่ผ่านมา สถานการณ์โรคระบาดโควิด-19 ในทวีปยุโรปทวีความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง ส่งผลมีผู้ติดโรคโควิด-19 เกิน 200,000 คนใน 1 วัน ทำสถิติครั้งใหม่นับตั้งแต่เกิดการระบาดในยุโรปเป็นต้นมา ขณะที่การทำสถิติติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 มากที่สุดใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงเช้าวันนี้ 24 ตุลาคม ยังคงเกิดขึ้นนับตั้งแต่เกิดการระบาดของแต่ละประเทศอย่างไม่สิ้นสุด

ฝรั่งเศส: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 42,032 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในประเทศเป็นต้นมา และเป็นครั้งที่ 2 และวันที่ 2 ติดต่อกันที่มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 มากกว่า 40,000 ราย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสมทะลุ 1,041,075 ราย อยู่อันดับที่ 7 ของโลก และเป็นอันดับ 2 ของยุโรปตะวันตก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 298 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 34,508 ราย อยู่อันดับ 8 ของโลก ขยับขึ้น 1 อันดับโลกในชั่วข้ามคืน

ประธานาธิบดีฝรั่งเศส นายเอ็มมานูเอล มาครง แถลงว่ารัฐบาลฝรั่งเศสประกาศมาตรการเคอร์ฟิวในฝรั่งเศสรวมถึงกรุงปารีส มีผลครอบคลุม 2 ใน 3 ของประชากรทั่วฝรั่งเศสราว 46 ล้านคน มีผลตั้งแต่วันที่ 23 ตุลาคมเป็นต้นไป โดยมาตรการดังกล่าวมีผลนาน 6 สัปดาห์ นอกจากนี้ ยังยอมรับว่าภาวะโรคระบาดโควิด-19 ในฝรั่งเศสมีอัตราเร่งที่ทะยานสูงอย่างรุนแรง มาตรการหลายๆอย่างอาจจำเป็นต้องเพิ่มความเข้มข้น ถ้าหากมาตรการที่ประกาศบังคับใช้ไปแล้วไม่สามารถควบคุมสถานการณ์การระบาดได้

เยอรมนี: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 24 ตุลาคม มีจำนวน 13,476 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุด ตั้งแต่เกิดโรคระบาดในเยอรมนีเป็นต้นมา และยังทำลายสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 3 และเป็นวันที่ 3 ติดต่อกันด้วย ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 417,350 ราย นับเป็นครั้งที่ 2 ที่มีจำนวนทะลุเกิน 400,000 ราย และอยู่อันดับที่ 17 ของโลก ขยับขึ้น 1 อันดับโลกใน 1 วันผ่านมา ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 46 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 10,090 ราย

อิตาลี: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 19,143 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดตั้งแต่เกิดโรคระบาดในอิตาลี ทำให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 484,869 ราย กลายเป็นประเทศที่มีผู้ติดโรคโควิด-19 มากเป็นอันดับ 4 ของยุโรป และเป็นอันดับที่ 15 ของโลก ในขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตรายวันเพิ่มขึ้นอีก 91 ราย ทำให้ผู้เสียชีวิตสะสมรวมเป็น 37,059 ราย ทำสถิติประเทศที่มีผู้เสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 ในยุโรป

รัฐบาลแคว้นคัมพาเนีย เปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้สูงที่จะประกาศใช้มาตรการปิดล็อคเมืองเนเปิลส์ ซึ่งเป็นเมืองใหญ่สำคัญทั้งเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวระดับประเทศ หลังจากพบว่าอิตาลีต้องเผชิญกับอัตราการระบาดโรคโควิด-19 สูงถึง 7 เท่าตั้งแต่ 1 ตุลาคมเป็นต้นมา

รัสเซีย: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมาถึงวันเช้าวันนี้ 24 ตุลาคม มีจำนวน 17,340 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในรัสเซียเป็นต้นมา ทำให้จำนวนติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 1,480,846 ราย อยู่อันดับที่ 4 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในรอบ 1 วันผ่านมาที่ 283 ราย ส่งตัวเลขสะสมมาอยู่ที่ 25,525 ราย

โปแลนด์: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 13,632 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา และยังทำสถิติติดเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 10,000 รายเป็นครั้งที่ 3 และเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 228,318 ราย อยู่อันดับที่ 29 ของโลก ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 153 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 4,172 ราย

สาธารณรัฐเชค: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 15,258 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดเป็นต้นมา นอกจากนี้ ยับทำสถิติติดมากกว่า 10,000 รายเป็นครั้งที่ 4 และเป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน ทำให้จำนวนติดโรคโควิด-19 สะสมเป็น 238,323 ราย อยู่อันดับที่ 28 ของโลก ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นในรอบ 1 วันผ่านมาที่ 126 รายนับเป็นยอดผู้เสียชีวิตมากที่สุดเท่าที่เคยมีมา และมีจำนวนมากกว่าวันละ 100 รายติดต่อกันเป็นวันที่ 4 อีกด้วย ส่งผลให้ตัวเลขสะสมมาอยู่ที่ 1,971 ราย

เนเธอแลนด์ส: กระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า จำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 ในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา มีจำนวน 9,996 ราย ทำสถิติจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 รายวันมากที่สุดนับตั้งแต่เกิดการระบาดในประเทศเป็นต้นมา ที่สำคัญนับเห็นครั้งที่ 2 และวันที่ 2 ติดกันที่มีจำนวนผู้ติดเชื้อมากกว่า 9,000 รายด้วย และยังทำสถิติติดเพิ่มขึ้นมากกว่าวันละ 8,000 รายเป็นครั้งที่ 6 ส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดโรคโควิด-19 สะสม 272,401 ราย อยู่อันดับที่ 26 ของโลก ขยับขึ้น 1 อันดับโลกใน 1 วันผ่านมา ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้น 45 รายในรอบ 24 ชั่วโมงผ่านมา ทำให้ยอดสะสมเพิ่มเป็น 6,974 ราย

#ยุโรป #โควิด19 #โควิดรอบ 2 #btimes

 

อินเดียกำลังเผชิญภัยคุกคามโควิดพร้อมควันพิษ! จากการเผาพื้นที่การเกษตรจ่อทำการติดเชื้อสาหัสขึ้น ติดเชื้อแล้ว 7.6 ล้าน ตาย 1 แสน
•
ฉากที่คุ้นเคยของหมอกควันกำลังเกิดขึ้นกับทางตอนเหนือของอินเดีย ทุ่งนาที่สุดแสนจะกว้างใหญ่ถูกลุกไหม้ไปด้วยเปลวเพลิงหลังเก็บเกี่ยวพืช ทำให้หมู่มวลควันมหาศาลลอยข้ามพรมแดนของรัฐ ทั่วทั้งเมืองของอินเดียอากาศเต็มไปด้วยหมอกที่หนาทึบและท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยสีเหลือง
•
ควันไฟที่เกิดจากเผาไหม้จากภาคการเกษตรที่เตรียมที่ดินสำหรับการเพาะปลูกในครั้งต่อไปเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เกิดมลพิษในอินเดียในช่วงเริ่มต้นของฤดูหนาว
•
หมอกควันที่ปกคลุมมักเกิดขึ้นแย่เป็นพิเศษในกรุงนิวเดลี ที่มักประสบกับควันจากการเผาไร่ทำการเกษตร ยานพาหนะ โรงงานผลิตพลังงาน และการก่อสร้าง
•
อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ได้พยายามอย่างเต็มที่เป็นเวลาหลายปีเพื่อต่อสู้กับกับปัญหาด้านสุขภาพสาธารณะที่เกิดจากมลพิษต่าง ๆ ซึ่งในปีนี้อินเดียก็ต้องเผชิญปัญหาด้านสุขภาพหนักอีกหลายเท่าเพราะโดนพิษจากโควิดซ้ำไปอีก ซึ่งมลพิษทางด้านอากาศก็ส่งผลให้ผู้ที่ได้รับเชื้อโควิดรุนแรงมากขึ้น
•
ข้อมูลจาก World Air Quality ระบุว่า อินเดียเป็นประเทศที่อากาศแย่ที่สุดในโลก 21 เมืองจาก 30 ประสบกับปัญหามลพิษทางด้านอากาศอยู่เป็นประจำในทุกปี ซึ่งกรุงนิวเดลีมีค่ามลพิษสูงกว่าค่ามาตรฐานของ WHO เท่าเมื่อปีที่ผ่านมา
•
อย่างที่ทราบกับดีว่า PM 2.5 ที่เป็นฝุ่นละอองขนาดเล็กสามารถเข้าไปทำลายปอด อวัยวะอื่น ๆ และเลือดของมนุษย์เราได้ ส่งผลทำให้ชีวิตเราสั้นลง University of Chicago's Air Quality Life Index ระบุว่า หากผูคนที่อาศัยอยู่ในนิวเดลีมีอากาศที่สะอาดตามค่ามาตรฐานของ WHO ประชากรที่อาศัยอยู่ในเมืองนี้จะสามารถมีอายุยืนขึ้นอีก 10.2 ปี
•
เมื่อต้นปีนี้อินเดียได้พบเจอกับอากาศที่สะอาดในช่วงล็อคดาวน์โควิด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นเหล่านั้นก็เกิดขึ้นอยู่เพียงชั่วคราวเท่านั้น
•
นิวเดลีกำลังเริ่มเข้าสู่ฤดูมลพิษที่จะเกิดการเผาพืชมากยิ่งขึ้นและเทศกาล Diwali แต่ในขณะเดียวกันแม้ว่าการติดเชื้อจะค่อย ๆ ลดลง แต่ยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่อีก 45,000 - 70,000 อีกในแต่ละวัน ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขทั่วโลกออกมาเตือนอีกว่าในช่วงฤดูหนาวอาจจะต้องประสบกับคลื่นอีกลูกของโควิด และโรงพยาบาลก็ไม่สามารถรับคนได้อย่างเพียงพอ
•
ทางด้านของรัฐบาลของเดลีเตรียมลงทุน 2.73 ล้านเหรียญเพื่อสร้างตึกที่ทำหน้าที่เป็นเหมือนเครื่องกรองอากาศจำนวนสองตึก ซึ่งจะสร้างเสร็จในอีก 10 เดือนข้างหน้า รวมกับจะปิดโรงงานพลังงานบางแห่ง และแบนการใช้น้ำมันเตาในอุตสาหกรรม
•
https://edition.cnn.com/2020/10/21/asia/india-pollution-covid-intl-hnk-scn-wellness/index.html

https://projects.iq.harvard.edu/covid-pm

 

ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน! สัญญาณเตือนภัย อาร์กติก ไซบีเรีย น้ำแข็งทะเลยังไม่แข็งตัว! ล่าช้าที่สุดในรอบปีตั้งแต่เคยบันทึกมา ชี้เหตุอากาศ-น้ำ-โลกร้อนขึ้น หวั่นเกิดแบบเดียวกันทั่วขั้วโลก
•
การล่าช้าของการก่อตัวเป็นน้ำแข็งใน Laptev Sea อาจส่งผลกระทบแบบเดียวกันทั่วพื้นที่ขั้วโลก นักวิทยาศาสตร์เผย
•
ครั้งแรกตั้งแต่การบันทึกมา ที่ทะเลอาร์กติกในไซบีเรียยังไม่กลายเป็นน้ำแข็งในช่วงปลายเดือนตุลาคม
•
การล่าช้าของการก่อตัวของน้ำแข็งในแต่ละปีในบริเวณ Laptev Sea เกิดจากการที่ความร้อนที่ยืดยาวกินเวลานานออกไปในบริเวณตอนเหนือของรัสเซีย รวมถึงการบุกรุกของน่านน้ำแอตเลนติก นักวิทยาศาสตร์ด้านสภาพภูมิอากาศเผย ว่าผลกระทบจะอาจเกิดขึ้นทั่วภูมิภาคขั้วโลก
•
อุณหภูมิมหาสมุทรในอาร์กติกสูงขึ้น 5 องศาเซลเซียสเหนือค่าเฉลี่ย ตามมาด้วยคลื่นความร้อนทุบสถิติ และความผิดปกติของการที่น้ำแข็งฤดูหนาวที่แล้วลดลงเร็วกว่าปกติ ความร้อนใช้เวลานานในการหายไปในชั้นบรรยากาศ แม้ว่าในช่วงเวลานี้ของปี ที่มีแสงอาทิตยน้อยเพียง 1-2 ชั่วโมงต่อวัน
•
โดยจากข้อมูลเผยให้เห็นว่าในปีนี้น้ำแข็งในบริเวณนั้นน้อยกว่าปีก่อนๆในช่วงเวลานี้ของปี ซึ่งทำให้ตอนนี้อาร์กติกมีทะเลเปิดมากที่สุดทุบสถิติ
•
การหายไปของน้ำแข็งในช่วงนี้เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในภูมิภาคอาร์กติกในไซบีเรีย ซึ่งนี้เป็นผลกระทบจากสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
•
2020 เป็นปีที่อาร์กติกเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว หากไม่มีการลดก๊าซเรือนกระจกอย่างเร่งด่วน จะมีแนวโน้มว่าเราจะได้เห็นฤดูร้อนที่ไร้น้ำแข็งมากขึ้นภายในกลางศตวรรษนี้
•
ในปีนี้คลื่นความร้อนเกิดขึ้นในไซบีเรีย ซึ่งส่วนสำคัญเกิดจากการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากภาคอุตสาหกรรม และเกษตรกรรม
•
อุณหภูมิที่สูงขึ้นไม่เพียงทำให้การก่อตัวของน้ำแข็งล่าช้าเท่านั้น แต่สภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงยังทำให้กระแสน้ำเปลี่ยนแปลงอีกด้วย ซึ่งทำให้น้ำแข็งก่อตัวยากเช่นกัน
•
น้ำแข็งเก่าแก่ในอาร์กติกกำลังละลายหายไป ความหนาของน้ำแข็งตามฤดูกาลบางลง โดยค่าเฉลี่ยความหนาของน้ำแข็งขณะนี้น้อยกว่าครึ่งของความหนาในช่วงปี 1980
•
ภายในช่วง 2030-2050 อาร์กติกอาจเผชิญภาวะไร้น้ำแข็งในช่วงฤดูร้อน
•
นักวิทยาศาสตร์กังวลถึงความล่าช้าของการก่อตัวของน้ำแข็ง และครอบน้ำแข็งลดน้อยลง นอกจากนี้แผ่นน้ำแข็งที่น้อยลงหมายความว่าโลกเราจะมีที่สีขาวน้อยลงที่จะสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์กลับไปในอวกาศ
•
Leptive Sea เป็นที่รู้จักในสถานที่เกิดของน้ำแข็งที่ก่อตัวบริเวณชายฝั่งในช่วงต้นฤดูหนาว และแตกลงในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ซึ่งหากการก่อตัวของน้ำแข็งล่าช้าในบริเวณนี้ นั่นหมายความว่าน้ำแข็งจะบางลง และละลายหายไปเร็วขึ้นเช่นกัน และหมายความว่าจะมีแพลงก์ตอนน้อยลง และความสามารถในการดูดซับคาร์บอนไดออกไซด์จากบรรยากาศจะน้อยลงอีกด้วย
•
ทะเลเปิดที่มากขึ้นทำให้ดึงความร้อนสู่น้ำทะเลมากขึ้นและส่งผลกระทบต่อน้ำแข็งอีกครั้ง
•
ปัญหาน้ำแข็งในทะเลเป็นสิ่งที่น่ากังวล และถูกคาดการณ์มาเป็นระยะเวลานานแล้ว แต่การลงมือเพื่อแก้ไขปัญหานี้ยังน้อยนิดเหลือเกิน
•
ที่มา

https://www.theguardian.com/world/2...ice-not-yet-freezing-at-latest-date-on-record

ร่มธรรม ขำนุรักษ์

 

หนุ่มโกตดิวัวร์ปิ๊งไอเดียเจ๋ง ผุดเป้พลังงานอาทิตย์! ให้เด็กยากไร้เสียบโคมไฟ ไว้อ่านหนังสือตอนกลางคืน หวังขยายให้ประเทศขาดแคลนอื่นๆ
•
ปัญหาความเหลื่อมล้ำทางการศึกษาเป็นปัญหาที่ยังมีอยู่ในทั่วทุกมุมโลกและเกิดขึ้นได้จากหลายปัจจัย หนึ่งในนั้นคือปัจจัยด้านการขาดแคลนระบบสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานอย่างไฟฟ้า ในชุมชนที่น้ำไฟเข้าไม่ถึง มีเด็กหลายคนไม่สามารถเรียนหนังสือหรือทำกิจกรรมได้เหมือนชุมชนอื่น ๆ ซึ่งนอกจากเรื่องอุปกรณ์ในโรงเรียนที่ไม่พอและไม่ตอบโจทย์การเรียนการสอนของศตวรรษที่ 21 แล้ว พวกเขาต้องเผชิญกับการที่บ้านไม่มีไฟฟ้าใช้และสภาพแวดล้อมไม่อำนวยต่อการเรียนรู้หรือการทำการบ้านด้วย
•
ด้วยเหตุนี้ หลังจากที่ Evariste Akoumian พนักงานบริษัทคอมพิวเตอร์ชาวโกตดิวัวร์ได้ไปทำงานในชุมชนที่ห่างไกลในประเทศของเขาเอง เขาได้เห็นถึงสภาพแวดล้อมที่ผู้คนยังขาดแคลนและมีความเป็นอยู่ที่ลำบาก นักเรียนในชนบทของประเทศโกตดิวัวร์ หรือที่รู้จักกันในชื่อประเทศไอวอรีโคสต์ไม่ได้มีโอกาสเรียนรู้อย่างเต็มที่ พวกเขาต้องทำการบ้านใต้แสงตะเกียงที่ยังต้องแบ่งกับสมาชิกคนอื่น ๆ ในครอบครัวอีก
•
นี่เลยเป็นที่มาของกระเป๋าเป้พลังงานแสงอาทิตย์ Solarpak ที่มีแผงโซลาร์เซลล์ติดอยู่บริเวณด้านหลังของกระเป๋า พร้อมจะกักเก็บแสงอาทิตย์ในตอนกลางวันมาแปลงเป็นพลังงานมอบแสงสว่างให้นักเรียนสำหรับตอนกลางคืน
•
ในตอนกลางวัน แผงโซลาร์เซลล์หลังกระเป๋า Solarpak จะทำงานเป็นแบตเตอรี่ มันจะชาร์จแบตด้วยแสงจากดวงอาทิตย์ โดยตัวแบตเตอรี่จะใช้เวลาเพียงแค่ครึ่งชั่วโมงในการชาร์จแบตจนเต็มเท่านั้น
•
พอตกกลางคืน นักเรียนจะสามารถดึงสาย USB ที่เชื่อมกับโคมไฟ LED ขนาดเล็กที่ติดมากับกระเป๋ามาต่อกับแบตตัวนี้ได้ ซึ่งโคมไฟ LED นี้จะใช้งานได้นานถึง 5 ชั่วโมง พอดีสำหรับการทำการบ้านและทบทวนบทเรียนในแต่ละวัน
•
ส่วนตัวดีไซน์ของกระเป๋าก็มาพร้อมกับสีสันที่สดใสและวัสดุที่ทนทาน สะดวกสบายสำหรับนักเรียนมากกว่าเดิม เพราะก่อนหน้านี้นักเรียนในชุมชนนี้จะใช้ถุงพลาสติกหรือกระสอบข้าวแทนกระเป๋าเวลาไปโรงเรียน
•
กระเป๋า 500 ใบแรกถูกผลิตเมื่อปี 2016 แต่เพื่อจะให้เด็กนักเรียนในชุมชนที่ห่างไกลได้ใช้กระเป๋านี้มากขึ้น Akoumian ได้ไปขอสปอนเซอร์และจับมือร่วมกับรัฐบาล องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร และหน่วยงานของ UN หลายหน่วยงาน จนตอนนี้กระเป๋ากว่าพันใบถูกนำไปบริจาค และอีก 55,000 ใบถูกขายไปเพื่อเอาไปให้นักเรียน
•
ในอนาคตเขาหวังว่าจะส่งออกกระเป๋าเหล่านี้ไปยังประเทศที่นักเรียนยังขาดแคลนอุปกรณ์การเรียนและไฟฟ้าเข้าไม่ถึงชุมชนอย่างประเทศกาบอง บูร์กินาฟาโซ มาดากาสการ์ รวมถึงส่งไปให้องค์กร NGO ที่มีฐานอยู่ในประเทศเยอรมันและฝรั่งเศสด้วย
•
เรื่องเล่าและที่มาของกระเป๋า Solarpak ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ด้วยความที่ Akoumian หวังจะสร้างชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นให้กับนักเรียนในชุมชนที่การศึกษายังไม่ใช่เรื่องที่ทุกคนให้ความสำคัญ Solarpak นี้จึงเข้ามามีบทบาทที่จะช่วยทำให้นักเรียนได้เรียนอย่างเต็มที่และคนกลับมามองถึงความจำเป็นของการเรียนรู้มากขึ้นผ่านการมีไฟใช้ทบทวนบทเรียนและทำการบ้านในยามดึก
•
ซึ่งทาง Solarpak ก็หวังว่าบริษัทอื่น ๆ จะหันมาช่วยกันหยิบยื่นโอกาสให้กับนักเรียน ให้พวกเขาได้มีโอกาสเรียนจนสามารถอ่านออกเขียนได้เพื่อที่จะมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
•
ที่มา
https://observers.france24.com/en/20160909-solar-backpacks-kids-homework-ivory-coast

https://www.springwise.com/sustainability-innovation/solarpak-backpacks-solar

https://solarpak.net/about-style-1/
•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

ออสเตรเลียทดลอง ใช้โดรนโปรยเมล็ดพันธุ์ไม้ ยูคาลิปตัส ช่วยพื้นที่เสียหาย หวังเพิ่มจำนวนโคอาลา! หลังเผชิญไฟป่า สัตว์ตายมหาศาล
•
หลังจากเหตุการณ์ไฟป่าครั้งใหญ่ของออสเตรเลีย โคอาลากว่าหลายพันตัวได้จบชีวิตลงอย่างน่าสงสาร องค์กร WWF ออสเตรเลียจึงหวังกระตุ้นจำนวนประชากรโคอาลาในบริเวณชายฝั่งตะวันออกและแก้ปัญหาพื้นที่ป่าไม้หายไปด้วยการใช้โดรนที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะ โปรยเมล็ดต้นยูคาลิปตัสลงในพื้นที่ที่เคยประสบปัญหาไฟป่า
•
ซึ่งพวกเขาได้เริ่มทดลองบินโดรนกันแล้ว และได้เลือกเมล็ดยูคาลิปตัสเพราะใบไม้ของต้นยูคาลิปตัสเป็นอาหารหลักของโคอาลา
•
การโปรยเมล็ดพันธุ์และวิธีอื่น ๆ คาดว่าจะสามารถช่วยฟื้นฟูป่าไม้ที่ถูกทำลายไปเมื่อปี 2019-2020 จากเหตุการณ์ไฟไหม้ป่าครั้งใหญ่ ซึ่งนี่เป็นหนึ่งในแผนระยะยาวที่สำคัญที่ WWF ได้ตั้งไว้เพื่อที่จะนำโคอาลาและความอุดมสมบูรณ์ของรัฐ New South Wales กลับคืนมา
•
ยิ่งเมื่อองค์กร WWF ของออสเตรเลียเองเผยว่ามีสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม นก และสัตว์เลื้อยคลายอีกกว่า 3 พันล้านตัวต้องจบชีวิตลงหรือถูกย้ายถิ่นฐาน อีกทั้งพื้นที่ป่าไม้กว่า 110,000 ตารางกิโลเมตรในทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศต้องถูกเผาทำลาย (เทียบเท่ากับครึ่งหนึ่งของสหราชอาณาจักร) ทางหน่วยงานจึงตั้งใจอย่างยิ่งที่จะหาเงินกว่า 300 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลียภายในเวลา 5 ปีเพื่อที่จะนำมาใช้ในโครงการโปรยเมล็ดจากโดรน และหาตัวช่วยอื่น ๆ
•
โดยเป้าหมายของพวกเขาคือ การเพิ่มจำนวนโคอาลาในบริเวณชายฝั่งตะวันออกเป็น 2 เท่าตัว
•
CEO ของ WWF ออสเตรเลีย Dermot O’Gorman กล่าวว่า “ผลกระทบของวิกฤตการณ์ไฟป่านี้ทำให้เราต้องตอบสนองด้วยสเกลที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน”
•
“หนึ่งในวิธีใหม่ที่เรานำออกมาใช้คือการใช้เทคโนโลยีโดรนที่สามารถโปรยเมล็ดพันธุ์สู่พื้นดินเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่เข้าถึงยากได้ง่ายขึ้น” O’Gorman เผย
•
โดรนบางตัวขององค์กรสามารถโปรยเมล็ดลงดินได้กว่า 40,000 เมล็ดต่อวัน และจะสามารถสร้างเส้นทางต้นไม้ให้โคอาลาหรือสัตว์ป่าอื่น ๆ สามารถกลับมาสัญจรในบริเวณที่เคยถูกไฟเผาหรือถูกปรับสภาพพื้นที่มาก่อนได้
•
ประเทศออสเตรเลียเป็นประเทศที่มีสภาพภูมิอากาศที่ร้อนแห้ง และมีแนวโน้มจะเผชิญกับภัยแล้งได้ง่าย ด้วยเหตุนี้การเกิดไฟป่าในประเทศจึงง่ายมากด้วยเช่นกันจนมีช่วงที่เรียกว่าเป็นช่วงของฤดูไฟป่าโดยเฉพาะ
•
ซึ่งฤดูไฟป่าครั้งล่าสุดปี 2019-2020 ของออสเตรเลีย ทางรัฐได้เผยว่าเป็นฤดูไฟป่าที่รุนแรงมากที่สุดเมื่อเทียบกับปีก่อน ๆ มีผู้เสียชีวิต 34 ราย บ้านเรือนถูกทำลายกว่า 3,000 หลัง
•
สำหรับประชากรโคอาลา พวกมันได้รับผลกระทบอย่างหนัก ในเดือนกันยายนที่ผ่านมา ทางรัฐบาลออสเตรเลียได้เตรียมพิจารณาเปลี่ยนสถานะของโคอาลาให้เป็นสัตว์ใกล้สูญพันธุ์ เพราะแค่เหตุการณ์ไฟป่าปี 2019-2020 ก็ได้ทำลายที่อยู่อาศัยของโคอาลา 30% จนทำให้ประชากรลดน้อยลง
•
แต่ที่น่าเศร้าไปกว่านี้คือ ก่อนหน้าทางสภาของรัฐ New South Wales พบว่าโคอาลาอาจจะสูญพันธุ์ไปหมดภายในปี 2050 ถ้าไม่มีโครงการเพื่อปกป้องโคอาลา และช่วยฟื้นฟูที่อยู่อาศัยของพวกมัน
•
เราจึงหวังว่าการโปรยเมล็ดพันธุ์ยูคาลิปตัส และอีกหลายวิธีที่ทาง WWF จะนำออกมาใช้จะช่วยฟื้นฟูผืนป่า และประชากรโคอาลากลับมาได้
•
https://edition.cnn.com/2020/10/20/asia/drones-gum-trees-australia-scli-intl/index.html


•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

ข่าวดีทะเลไทย อ.ธรณ์เผยเตรียม ยก"ขนอม"เป็นที่คุ้มครอง ทะเลแห่งใหม่ของประเทศ! เพื่ออนุรักษ์ทะเล พะยูน โลมา เผยพะยูนตายน้อยลงในปีนี้ คาดเหตุโควิดทะเลสงบขึ้น
•
เมื่อวันที่ 20 ตุลาคมที่ผ่านมา ผศ.ดร.ธรณ์ ธำรงนาวาสวัสดิ์ ผู้เชี่ยวชาญด้านนิเวศทางทะเล และรองคณบดีคณะประมง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โพสต์ข้อความว่า ในปีนี้จำนวนพะยูนตายไม่ถึง 10 ตัว น้อยกว่าปีที่แล้ว ที่มีพะยูนตายกว่า 20 ตัว เหตุผลหนึ่งอาจมาจากโควิด ทำให้ทะเลสงบ จึงเป็นจังหวะดีมากสำหรับการอนุรักษ์สัตว์หายาก หนึ่งในนั้นคือ พื้นที่คุ้มครองทะเลขนอมเพื่อพะยูนและโลมา โดยเผยข้อมูลว่า

"ในปีนี้พะยูนตายไม่ถึง 10 ตัว น้อยกว่าปีที่แล้วเยอะครับ (20+ ตัว)

เหตุผลหนึ่งอาจมาจากโควิดทำให้ทะเลสงบ จึงเป็นจังหวะดีมากสำหรับการอนุรักษ์สัตว์หายาก หนึ่งในนั้นคือ #พื้นที่คุ้มครองทะเลขนอมเพื่อพะยูนและโลมา

ทะเลขนอมสวยมาก คำนี้ยืนยัน เพราะเมื่อสิบปีก่อน ผมเคยนั่งเรือขึ้นลงเลียบชายฝั่งเป็นเดือน เพื่อติดตามศึกษาโลมาสีชมพู ชายฝั่งพร้อมสรรพ ทั้งในด้านภูมิสัณฐาน หาดทราย หาดหิน และที่สำคัญคือหินแพนเค้กที่พบอยู่เพียง 3-4 แห่งทั่วโลก

เรานั่งเรือหางยาวของพี่ๆ เลาะมาตามฝั่ง เจอโลมาทุกครั้ง บางหนถึงขั้นว่ายเข้ามาเอาตัวถูเรือ

สุดปลายทางก่อนวกกลับคือรอยต่ออำเภอดอนสักตรงนี้มีเกาะเกือบติดฝั่งเรียกเกาะท่าไร่ ในน้ำมีดงหญ้าทะเลผืนใหญ่เขียวปี๋ เป็นแหล่งหญ้าที่สำคัญสุดๆ ทำให้รอบๆ อุดมสมบูรณ์

คุณๆ ที่ไปท่าเรือเฟอร์รี่แล้วเห็นโลมาสีชมพู ส่วนหนึ่งก็เพราะดงหญ้าตรงนี้แหละ (ห่างไป 3 กม.เท่านั้น) ยังรวมถึงพะยูน ผู้กินหญ้าทะเลโดยตรง
รายงานล่าสุดปี 63 มีพะยูนในอ่าวบ้านดอน 5 ตัว ว่ายน้ำไปมา

เมื่อนำทุกอย่างมารวมกัน หากเราประกาศชายฝั่งขนอมเป็นพื้นที่คุ้มครองทางทะเล จะเป็นประโยชน์มากคุ้มครอง ในที่นี้ไม่ใช่ห้าม ชาวบ้านยังหากุ้งหอยปูปลาได้

โดยมีมาตรการช่วยดูแลแหล่งหญ้าทะเลไว้ เช่น ห้ามเปลี่ยนสภาพ ห้ามทิ้งตะกอน มลพิษ ห้ามทำการประมงที่ส่งผลกระทบโดยตรงกับระบบนิเวศ สัตว์หายาก ฯลฯ รวมถึงควบคุมการท่องเที่ยวให้ยั่งยืน เช่น ห้ามให้อาหารโลมา มีกติกาในการนำเรือเข้ามาชมสัตว์ ที่สำคัญคือให้คนท้องที่มีส่วนร่วมจริงจัง

ตามแผนคือจัดตั้งอนุกรรมการขนอมภายใต้กม. ขึ้นตรงกับกรรมการทะเลจังหวัด

จากผลการศึกษาในสมัยก่อน เรื่อยมาจนถึงแผนทำร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งกรมทะเล ชาวบ้าน นักวิชาการ ฯลฯ จนถึงวันนี้ แผนพื้นที่คุ้มครองชายฝั่งขนอมจะได้รับการพิจารณา เพื่อนำเสนอคณะกรรมการทะเลชาติต่อไป

หากทุกอย่างราบรื่น ทะเลไทยจะมีพื้นที่คุ้มครองเพิ่มขึ้น ตอนนี้เรามีเกาะกระ เกาะมันใน เกาะโลซิน วันนี้จะมีการพิจารณาอีก 4 แห่ง (รวมขนอม)

ตามเป้า SDG 14 และยุทธศาสตร์ชาติ ไทยควรมีพื้นที่คุ้มครอง 10% ของพื้นที่ทะเล ภายในปี 2030 ตอนนี้เกือบ 7% แล้ว หากเราช่วยกันผลักดันต่อไป อีก 10 ปียังเป็นไปได้

แต่วันนี้ ดีใจมากครับ เพราะขนอมกำลังจะเป็นพท.คุ้มครองทางทะเลแห่งใหม่
อะไรต่างๆ ที่ช่วยกันทำมา แม้ต้องใช้เวลา แต่สุดท้ายแล้วไม่เสียหลาย
หญ้าทะเล โลมา พะยูน และชาวขนอม/บ้านดอน จะได้ประโยชน์อย่างมาก
และคำว่ายั่งยืนจะเกิดขึ้นในทะเลชายฝั่ง ที่ผมกล้ายืนยันว่าสวยที่สุดแห่งหนึ่งของไทย

ไชโย้ !"
•
ที่มา



https://www.thairath.co.th/news/soc...aGTOKv-7GrVt6lvUPXiKYp7QdUzv9Bx4PPpmLod25n6F4

 

กลุ่มนักสิ่งแวดล้อมฟ้อง! หน่วยรักษาความมั่นคงสหรัฐ ใช้แก๊สน้ำตาสลายชุมนุม Black Lives Matter ในพอร์ทแลนด์ ชี้มีสารพิษต่อคน-สิ่งแวดล้อม-แหล่งน้ำ
•
ก๊าซน้ำตาและอุปกรณ์ที่ใช้ควบคุมผู้ชุมนุมมีสารเคมีทิ้งค้างไว้บนพื้นซึ่งท้ายที่สุดจะถูกชะล้างลงในท่อระบายน้ำ
•
สารที่ใช้ควบคุมส่งผลกระทบต่อทั้งสุขสภาพมนุษย์และสร้างผลกระทบให้แก่สิ่งแวดล้อม ทำให้นักสิ่งแวดล้อม 5 กลุ่ม จาก ACLU จากโอเรกอนและอื่น ๆ รวมตัวกันฟ้องหน่วยรักษาความมั่นคงว่าละเมิดกฎหมายสิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางโดยการใช้อาวุธสารเคมีที่อันตรายจำนวนมาก โดยไม่ประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตามที่กำหนดไว้ใน National Environmental Policy Act
•
สำนักบริการสิ่งแวดล้อมของพอร์ทแลนด์ตรวจพบสารไซยาไนต์และโลหะหนักเช่น โคเมียมและสังกะสีในระดับที่สูงในที่ระบายน้ำฝนบริเวณที่ชุมนุมมากกว่าที่อื่นในเมือง
•
กรมคุณภาพและสิ่งแวดล้อมของโอเรกอนระบุว่า แก็สน้ำตาที่ปนเปื้อนอยู่ในที่ระบายน้ำฝน แต่ทางด้านของโฆษกหญิงซูซานมิลส์กล่าวว่าความเข้มข้นในแอ่งเก็บน้ำฝนนั้นไม่ได้สูงพอที่จะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ทันที อย่างไรก็ตามสารเคมีที่ปนเปื้อนอยู่ในน้ำอาจส่งผลอันตรายต่อสัตว์ป่าได้
•
Lori Pillsbury ผู้ดูแลห้องปฏิบัติการที่แผนกสิ่งแวดล้อมของรัฐ กล่าวว่า สารบางอย่างที่ใช้ในแก็สน้ำตาอาจจะส่งผลกระทบต่อคุณภาพน้ำและสิ่งมีชีวิตในน้ำ
•
ศูนย์การวิจัยด้านสุขภาพ Kaiser Permanente ระบุว่าแก็สน้ำตาส่งผลสุขภาพทันทีหลังจากสัมผัสและบางครั้งก็ส่งผลกระทบหลังจากนั้นเป็นสัปดาห์
•
https://apnews.com/article/lawsuits...icy-portland-bf9025735e2687b0f5fa71d8587a45bc

 

เบอร์เกอร์คิงสหรัฐฯ-ญี่ปุ่นเตรียมเปลี่ยนใช้ภาชนะใช้ซ้ำได้! สั่งกลับบ้านได้ แบบไร้ขยะ จ่ายมัดจำภาชนะ รับเงินเมื่อส่งคืน เริ่มทำลองปีหน้า เตรียมขยายสาขาเพิ่ม
•
ในปีหน้าที่กำลังจะมาถึงนี้ "BURGER KING" เตรียมทดลองใช้บรรจุภัณฑ์ใช้ซ้ำ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดขยะ
•
เบอร์เกอร์คิง ได้จับมือกับ Loop แพลตฟอร์มการจัดส่งแบบไร้ขยะของ TerraCycle โดยสามารถให้ลูกค้าเลือกเมนูที่ใช้ภาชนะใช้ซ้ำได้ทั้งในเมนูอาหารและเครื่องดื่ม ซึ่งลูกค้าจะสามารถนำภาชนะมาส่งคืนได้ที่เบอร์เกอร์คิงเพื่อทำความสะอาดและใช้ในครั้งต่อไป
•
ลูกค้าที่เข้าร่วมในโครงการดังกล่าวจะต้องจ่ายค่ามัดจำภาชนะเพิ่มนิดหน่อย แต่เมื่อนำภาชนะมาส่งคืนจะได้เงินส่วนนี้คืนไป
•
ภาชนะใช้ซ้ำนี้จะเริ่มใช้ร้านอาหารในสาขานิวยอร์ก พอร์ทแลนด์ และโตเกียว
•
นอกจากนี้เบอร์เกอร์คิงยังมุ่งที่จะใช้บรรจุภัณฑ์ในร้านอาหารที่มาจากแหล่งที่สามารถหมุนเวียน รีไซเคิล หรือได้รับการรับรองแล้ว ซึ่งบรรจุภัณฑ์รีไซเคิลทั้งหมดจะถูกนำมาใช้ที่ร้านในสหรัฐและแคนาดาภายในปี 2025
•
https://edition.cnn.com/2020/10/22/business/burger-king-reusable-packaging-sustainability/index.html

 

ข่าวเก่าเล่าใหม่ 31 ตุลาคมนี้ ชวนลอยกระทงรักษ์โลก ลดขยะ ขอขมาอย่าสร้างโทษ!
••
สวนสัตว์ในเยอรมันนีเกิดเหตุไฟไหม้ มีสัตว์น้อยใหญ่บาดเจ็บและเสียชีวิตมากมาย ต้นเพลิงมาจาก ‘โคมลอย’
•
เมื่อวันที่ 31 ธันวาคม 2562 ที่ผ่าน ได้เกิดเหตุการณ์น่าสลดขึ้น เมื่อมีเหตุเพลิงไหม้ในสวนสัตว์ Krefeld ของประเทศเยอรมันนี คร่าชีวิตสัตว์น้อยใหญ่ไปกว่า 30 ชีวิต ทั้งค้างคาว นก และลิงสายพันธุ์ต่าง ๆ สัตว์หลายพันธุ์ที่เสียชีวิตเป็นสัตว์ใกล้สูญพันธ์
•
ในบริเวณเดียวกันนั้น มีเพียงลิงชิมแปนซี 2 ตัวที่รอดชีวิต ทั้งสองตัวได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้น
•
ในค่ำคืนหลังฉลองศกใหม่ได้เพียงไม่กี่นาที ก็มีผู้พบเห็นโคมลอยที่กำลังไหม้ ลอยตัวต่ำผ่านสวนสัตว์ Krefeld จากนั้นมีการโทรแจ้งเหตุไฟไหม้ในเวลา 00:38 นาฬิกา
•
ภายหลังมีคุณแม่วัย 60 ปีพร้อมลูกสาวสองคน เข้ามอบตัวด้วยตัวเองกับเจ้าหน้าที่ว่าเป็นผู้ปล่อยโคมลอย ผู้ต้องหาให้การว่าตนได้สั่งซื้อโคมลอยมาจากประเทศจีนผ่านทางอินเตอร์เน็ต โดยไม่ทราบถึงข้อกฎหมายที่ห้ามปล่อยโคมลอยในประเทศเยอรมันนี ฉลองวันขึ้นปีใหม่ ไม่คิดว่าโคมที่ลอยเพื่อความเป็นสิริมงคลนั้นจะกลายเป็นต้นเพลิงของโศกนาฏกรรม
•
จากเหตุการณ์นี้ มีผู้คนเข้าสวนสัตว์ร่วมมาไว้อาลัยแก่เหล่าสัตว์ที่ต้องเสียชีวิตจากอุบัติเหตุครั้งนี้ด้วยการจุดเทียและวางดอกไม้เพียงแสดงความไว้อาลัยในบริเวณทางเข้าสวนสัตว์
•
สวนสัตว์ Krefeld ตั้งอยู่ในเมือง Krefeld ของประเทศเยอรมันนี้ เปิดให้บริการตั้งแต่ปี ค.ศ. 1975 มีสัตว์ภายใต้การดูแลถึง 1,000 ตัว และมีผู้เข้าชมกว่า 400,000 คนต่อปี
•
ที่มา
https://www.theguardian.com/world/2...fire-three-women-hand-themselves-in-to-police

https://www.bangkokpost.com/world/1827569/mother-and-daughters-investigated-over-german-zoo-fire

https://abcnews.go.com/International/wireStory/fire-kills-animals-zoo-western-germany-68016320

https://www.euronews.com/2020/01/01/monkeys-killed-in-massive-blaze-at-german-zoo
•
แพร สันโดษ
Environman
••
จากเหตุการณ์นี้จึงอยากเชิญชวนทุกท่าน 31 ตุลาคมนี้ชวนคนไทยสร้างปรากฎการณ์ "ลอยกระทงรักษ์โลก" ไร้ขยะ ใช้วัสดุเป็นมิตร เลี่ยงลดงดโฟม-โคม-ขนมปัง ไปด้วยกันลอยอันเดียว ลอยออนไลน์ เลือกลอยในแหล่งน้ำปิด