ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สุดซึ้ง! ลูกชายอุ้มพ่อวัยชราชมทิวทัศน์กระแสน้ำไหล หลังถูกฝูงชนบังวิว แต่ลุกไม่ไหว
    .
    เมื่อเร็วๆ นี้ ณ ริมแม่น้ำเฉียนถัง ในเมืองไห่หนิง มณฑลเจ้อเจียง ฉากลูกชายท่านหนึ่งอุ้มพ่อวัยชราชมกระแสน้ำสร้างความประทับใจให้กับชาวเน็ตจำนวนมาก ในช่วงที่กระแสน้ำไหลแรง พ่อที่นั่งอยู่บนรถเข็นถูกฝูงชนบังวิว ลูกชายจึงอุ้มพ่อสูงวัยขึ้นด้วยแขนทั้งสองข้าง ค้างไว้จนกระทั่งกระแสน้ำพัดไปไกล ชาวเน็ตจีนคนหนึ่งบอกว่า ตอนเด็ก ท่านอุ้มฉันดูกระแสน้ำแบบนี้ ตอนนี้เปลี่ยนเป็นฉันอุ้มท่านบ้าง
    .
    #ลูกอุ้มพ่อ #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศญี่ปุ่น ประจำวันที่ 22 ตุลาคม 2563

    - ผู้ติดเชื้อสะสมในประเทศ (สถานะวันที่ 21 ตุลาคม 2563) 94,634 คน (เพิ่มขึ้น 621 คน)

    - จังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มรายวันมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ กรุงโตเกียว 150 คน จังหวัดคานากาวะ 88 คน จังหวัดโอซากา 82 คน จังหวัดไซตามะ 50 คน จังหวัดชิบะ 49 คน

    - ผู้เสียชีวิตสะสม 1,687 คน (เพิ่มขึ้น 7 คน)

    - ผู้ติดเชื้ออาการรุนแรง 150 คน

    - ผู้ที่รักษาหายสะสม 87,107 คน (เพิ่มขึ้น 594 คน)

    รายละเอียดผู้ติดเชื้อทั่วประเทศตาม link สำนักข่าว NHK https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data-all/

    รายละเอียดผู้ติดเชื้อรายจังหวัดตาม link สำนักข่าว NHK https://www3.nhk.or.jp/news/special/coronavirus/data/

    มาตรการสำคัญ
    - ระหว่างการประชุมด้าน AI เมื่อวันที่ 20 ต.ค. นรม. Suga ได้ส่งคลิปวิดีโอกล่าวว่า จะนำระบบ AI มาใช้อย่างเต็มที่ สำหรับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสฯ จะใช้ AI ประเมินสถานการณ์ล่วงหน้าและลดโอกาสการมีปฏิสัมพันธ์ใกล้ชิดซึ่งก่อให้เกิดความเสี่ยงในการติดเชื้อ นอกจากนี้ จะใช้ AI สำหรับการแก้ไขปัญหาประชากรวัยเด็กลดลงและมีผู้สูงอายุจำนวนมาก

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นาทีระทึก! “ท่อส่งแก๊สระเบิด“ ย่านบางบ่อ นักเรียน-ชาวบ้านหนีตายวุ่น

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ‘น้ำท่วมใครว่าดีกว่าฝนแล้ง’!! เวียดนามระทึกหนัก พายุโซนร้อน โซเดล จ่อขึ้นฝั่งถล่มภาคกลาง ซ้ำเติมสถานการณ์อุทกภัยรุนแรงที่สุดในรอบ 2 ทศวรรษของประเทศ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Oct 22,2020 อสมท.เตรียมปรับลดพนักงาน 600 ตำแหน่ง หลังสถานะการเงินอยู่ในขั้นวิกฤติ
    .
    นายสิโรตม์ รัตนามหัทธนะ กรรมการและรักษาการในตำแหน่งกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ส่งสารถึงพนักงาน อสมท. ลงวันที่ 21 ตุลาคมที่ผ่านมา ระบุว่า เวลานี้บริษัทกำลังอยู่ในภาวะวิกฤตด้านการเงินอย่างหนัก จำเป็นต้องลดจำนวนพนักงานลงจาก 1,300 คน เหลือ 700 คน พร้อมทั้งเรียกร้องให้พนักงานประหยัดค่าใช้จ่าย โดยยืนยันว่าจะยังไม่มีการลดเงินเดือนแต่อย่างใด
    .
    โดยข้อความระบุว่า ในอดีต อสมท เคยเป็นสื่อสารมวลชนขนาดใหญ่ของประเทศ ซึ่งรัฐบาลเห็นศักยภาพนั้น จึงแปลงสภาพจาก อ.ส.ม.ท. เป็น บมจ.อสมท ตั้งแต่ พ.ศ.2547 โดยเป็นสถานีโทรทัศน์ 1 ใน 6 ช่องที่แข็งแรงและผูกขาดอุตสาหกรรมโดยไม่มีช่องทีวีดาวเทียมหรือเคเบิลทีวีมาแข่งขันได้เลย จนกระทั่ง กสทช.ได้จัดสรรช่องทีวีดิจิทัลตามกฎหมาย
    .
    ใน พ.ศ.2556 ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ อสมท มีรายได้ลดลงอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน เนื่องจากกิจการของ อสมท ดำรงอยู่ได้ด้วยเงินจากการโฆษณาซึ่งการเกิดขึ้นของทีวีดิจิตอลทำให้เม็ดเงินดังกล่าวถูกตัดแบ่งออกไปสู่ช่องทีวีรายใหม่จำนวนมากอย่างต่อเนื่อง ที่จากเดิมประเทศไทยมีสถานีโทรทัศน์ 6 ช่อง กลายเป็น 28 ช่องในทันที ในขณะที่เม็ดเงินโฆษณายังคงอยู่เท่าเดิม แม้ กสทช.ได้เคยเปิดให้คืนใบอนุญาตฯ ซึ่ง อสมท ได้คืน MCOT Famiy ช่อง 14 ไปเมื่อ พ.ศ.2562 เพื่อลดสกาวะการขาดทุนอย่างถาวร อันเป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องของผู้บริหารในยุคนั้น อีกทั้งภาวะที่ 2
    .
    การเกิด Digital Disruption คือ จำนวนผู้ชมโทรทัศน์และผู้ฟังวิทยุลดลงอย่างมากและต่อเนื่อง ทำให้เม็ดเงินโฆษณาในสื่อวิทยุและโทรทัศน์ถูกโยกไปสู่สื่อดิจิทัลอื่นๆ เป็นเหตุให้เกิดผลกระทบแก่อุตสาหกรรมโทรทัศน์อย่างควบคุมไม่ได้
    .
    สำหรับธุรกิจวิทยุกระจายเสียงของ อสมท โดยเพาะวิทยุคลื่น FM จำนวน 6 สถานีในกรุงเทพฯ และอีก 53 สถานีในส่วนภูมิภาค ซึ่งได้รับความนิยมอย่างสูงทั้งในอดีตและปัจจุบันก็ได้รับผลกระทบจากภาวะ Digital Disruption ในลักษณะเดียวกัน อสมท ได้เห็นสภาวะดังกล่าว จึงมีแนวคิดการเดินไปสู่ธุรกิจดิจิทัล โดยการเริ่มปรับโครงสร้งบริษัทโดยยกธุรกิจดิจิทัลขึ้นเป็นสายงานใหม่
    .
    แต่ต้องยอมรับว่า รายได้หลักของ อสมท เกิดจากโฆษณาทางโทรทัศน์และทางวิทยุ ซึ่งจำเป็นต้องมีการบูรณาการระหว่างการตลาดและการขายของบริการโทรทัศน์ วิทยุ และสื่อดิจิทัลต่าง ๆ ภายใน อสมท ในรูปแบบ Bundling หรือ Solution ตามความต้องการของลูกค้า
    .
    นอกจากนี้ ภาวะที่ 3 ยังมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไร้สโควิด-19 ที่ส่งผลกระทบต่อทุกอุตสาหกรรมและเศรษฐกิจของประเทศ อันเป็นภาวะที่ควบคุมไม่ได้และยังไม่มีจุดสิ้นสุด ส่งผลทวีคูณให้แก่ทั้ง 2 ภาวะข้างต้น
    .
    กระทรวงการคลัง ในฐานะผู้ถือหุ้นได้ประเมินธุรกิจลักษณะเดียวกับ อสมท. ว่าจำนวนพนักงานที่เหมาะสมกับการประกอบธุรกิจในอนาคตของ อสมท คือ 700 คน ในขณะที่ปัจจุบัน อสมท มีพนักงานมากถึง 1,300 กว่าคน ไม่รวมถึงลูกจ้าง โดยแนะนำให้ อสมท พิจารณาจัดโครงการร่วมใจจากองค์กร (MSP) เพื่อปรับ ลดพนักงาน ให้เหมาะสม โดยฝ่ายบริหารแนะนำให้ผู้ประสงค์จะสมัครเข้าร่วมโครงการ ควรมีเป้าหมายในการบริหารจัดการงินที่ได้รับจากโครงการฯ อย่างมีประสิทธิภาพ
    .
    ปัจจุบันสถานะทางการเงินของ อสมท อยู่ในขั้นวิกฤต โดยต้องขอสินเชื่อจากสถาบันการเงินเพื่อนำมาใช้ในการดำเนินโครงการ MSP โดยฝ่ายบริหารจะปรับโครงสร้างองค์กรใหม่ ภายหลังจากการดำเนินโครงการ MSP ในทันที
    .
    อสมท จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องขอความร่วมมือพนักงานทุกท่านปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนที่ตนเองรับผิดชอบ โดยฝ่ายบริหารจะยังไม่มีการปรับลดเงินเดือนที่ท่านได้รับอยู่แต่อย่างใด จึงขอให้ทุกท่านปฏิบัติงานอย่างเต็มที่และสุดความสามารถ
    .
    โดยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา อสมท มี ผลประกอบการ ติดลบอย่างต่อเนื่อง มูลค่าทรัพย์สินและราคาหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง
    - ปี 2559 ขาดทุนสุทธิ 734 ล้านบาท ราคาหุ้น 14.40 บาท
    - ปี 2560 ขาดทุนสุทธิ 2,542 ล้านบาท ราคาหุ้น 11.60 บาท
    - ปี 2561 ขาดทุนสุทธิ 375 ล้านบาท ราคาหุ้น 9.10 บาท
    - ปี 2562 ขาดทุนสุทธิ 457 ล้านบาท ราคาหุ้น 9.75 บาท
    - ครึ่งปีแรก 2563 ขาดทุนสิทธิ 1,061 ล้านบาท ราคาหุ้น 3.04 บาท
    .
    #อสมท #MCOT #ปลดพนักงาน #600ตำแหน่ง #ขาดทุน #Misterban

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การทดสอบวัคซีนต้านโควิด-19 ของจีน ล่าสุด กับอาสาสมัคร 60,000 คน 'ปลอดภัย' ทุกคน
    .
    1/ จีนเผยความคืบหน้าการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 ที่กำลังอยู่ในการทดลองระยะที่ 3 ระยะสุดท้าย ว่า อาสาสมัครจำนวน 60,000 คนที่ได้รับวัคซีน ไม่พบผลข้างเคียงรุนแรง
    .
    2/ เรื่องนี้เปิดเผยโดยกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของจีน ที่ยืนยันว่า การทดสอบวัคซีนมีแต่ความก้าวหน้า และพิสูจน์ได้ว่า วัคซีนมีความปลอดภัย
    .
    3/ ผลข้างเคียงของการทดสอบวัคซีนในระยะ 3 ที่พบ อาสามัครบางรายมีอาการข้างเคียงเพียงเล็กน้อย ตรงข้ามกับการทดสอบในระยะ 1 และ 2 ที่พบว่า อาสาสมัครมีอาการปวดเมื่อย บวม และมีไข้
    .
    4/ จีนอยู่ระหว่างการพัฒนาวัคซีนต้านโควิด-19 รวม 11 ตัว ในจำนวนนี้ 4 ตัวอยู่ในการทดลองระยะสุดท้าย
    .
    5/ ‘ซิโนฟาร์ม’ และ ‘ชิโนวัค ไบโอเทค’ บริษัทเภสัชกรรมจีน จดทะเบียนในสหรัฐฯ อยู่ระหว่างพัฒนาวัคซีน 3 ตัว ส่วน ‘แคนชิโน ไบโอโลจิกส์’ พัฒนาวัคซีนตัวที่ 4 เป็นตัวที่ได้รับอนุมัติให้ใช้ในกองทัพจีนเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
    .
    6/ หลิว จิ้งเจิน ประธานซิโนฟาร์ม บอกว่า บริษัทพร้อมจะผลิตวัคซีนจำนวนมากแล้ว ขณะที่องค์การอนามัยโลกยืนยันว่า ยังไม่มีวัคซีนตัวใดได้รับอนุญาตให้จำหน่ายในตลาด
    .
    7/ หัวหน้าทีมปฏิบัติการพัฒนาวัคซีนฯของจีน คาดการณ์ว่า จีนน่าจะสามารถผลิตวัคซีนต้านโควิด-19 ได้มากถึง 610 ล้านโดสภายในสิ้นปีนี้
    .
    ที่มา: www.xinhuanet.com/english/2020-10/20/c_139454403.htm
    .

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    *** เสียดายที่รัฐบาลไทย กระทรวงสาธารณสุขยังไม่สนใจสิ่งดีๆ ที่แพทย์และนักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกได้เตือนเรื่องนี้กันมาพักใหญ่ๆ ... รัฐบาลอังกฤษ และเยอรมันขยับครั้งใหญ่อีกครั้ง เริ่มเน้นให้มีการระบายอากาศให้หมุนเวียน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อ-ติดเชื้อไวรัสที่แพร่ทางการหายใจได้ ทั้งหวัดแบบต่างๆ และ Covid19 ได้

    ---> ในไทย ยังไม่มีมาตรการให้โรงเรียนต่างๆ ในไทยที่มีห้องเรียนติดแอร์ ปรับระบบให้มีการเปิดประตู-หน้าต่างระบายอากาศบ้าง ทั้งๆ เป็นเรื่องง่ายแต่สำคัญต่อเด็กนักเรียนไทยนับล้านคน

    ในช่วง 0 ต่อเนื่องหลายเดือน มีเด็กนักเรียนมากมายที่มีอาการคล้ายหวัดแบบต่างๆ ซึ่งส่วนใหญ่คงไม่ได้รับการตรวจ PCR หาเชื้อกัน เพราะทุกคนต่างไม่มั่นใจว่า ในไทยยังมีเชื้อ Covid19 อยู่หรือไม่ (คล้ายๆ ตอนจีนระบาด ในไทยกำลังจะเจอผู้ติดเชื้อเคสแรก)

    ซึ่งความน่ากลัวคือ ถ้าวันใดวันนึงเชื้อสายพันธุ์ใหม่เข้ามาจากทั้งชายแดนฝั่งใดฝั่งนึงไม่ว่าจะจากพม่า หรือมาเลเซียหรือจากนักท่องเที่ยวที่รับเข้ามา

    ซึ่งสายพันธุ์นี้กระจายไว ติดง่ายมากเมื่อเทียบกับตัวเก่าที่ระบาดในไทย

    ถ้ามีคนไทยที่ติดเชื้อเคสแรกๆ เกิดขึ้นในเมืองใหญ่สักแห่งโดยไม่รู้ตัว คนติดเชื้อคนแรกก็ไม่ไปตรวจ หรือไปตรวจ แพทย์คงไม่ค่อยคิดถึง Covid19 เลยไม่ส่งตรวจหาเชื้อไม่ได้ให้กักตัว ก็ไปกระจายเชื้อที่บ้านที่ทำงาน ในชุมชนได้

    พอผู้ใหญ่ไปกระจายเชื้อที่บ้านได้ เด็กๆ ก็จะติดเชื้อตอนนี้ แล้วไปกระจายต่อที่โรงเรียนๆ ซึ่งหลังๆ ก็เรียนแน่นห้องคล้ายๆ เดิม กิจกรรมต่างๆ ของเด็กก็กลับมาเยอะพอควร ...

    สิ่งที่พอช่วยได้ นอกจากย้ำเรื่องใส่มาส์กในห้องเรียน ห้องปิดติดแอร์ทุกที่อย่างจริงจัง คือ

    รัฐบาลต้องให้โรงเรียน หรือสถานที่มีคนอยู่รวมกันมากๆ ในห้องปิดติดแอร์ มีการเปิดประตู เปิดหน้าต่างให้อากาศด้านนอกหมุนเวียนเข้ามาเป็นระยะๆ แบบที่ผู้เชี่ยวชาญ และรัฐบาลอังกฤษ และเยอรมันแนะนำ

    อย่างน้อยเป็นการลดความเสี่ยงที่ืำไม่ยากมาก ไม่ต้องลงทุน ได้ผลสำหรับโรคติดเชื้อมากมาย

    ...............

    ล่าสุดรัฐบาลเยอรมันนีลงทุนปรับระบบระบายอากาศในอาคารให้ดีขึ้นแบบจริงจัง ทุ่มเงินไประดับหมื่นๆ ล้านบาท (ซึ่งไทยคงไม่มีเงินไปปรับปรุงระบบ แต่ก็สามารถแนะนำให่เปิดหน้าต่างประตูได้)

    .............

    ผู้เขี่ยวชาญทางอังกฤษก็ให้คำแนะนำดีๆ ไว้ 5 ข้อในการลดความเสี่ยงติดเชื้อ Covid19 ในห้องปิด หรืออาคาร

    1. ถ้าเข้าไปในห้องที่คิดว่าอากาศอุดอู้ การระบายอากาศไม่ดีพอ ก็ให้เลี่ยง

    2. ดูแอร์ที่อยู่ในห้อง ถ้าเป็นระบบแอร์แยกแบบใช้กันในบ้านทั่วไป อากาศจะหมุนอยู่ในห้อง มีความเสี่ยงมากกว่าแอร์แบบระบบอาคารที่มีการหมุนอากาศเข้าออก

    โดยมีวิจัยตัวอย่าง ที่ผู้ติดเชื้อไร้อาการไปแพร่เชื้อให้คนอื่นที่นั่งในโต๊อื่นในแนวแอร์เดียวกันติดเชื้อไปอีก 9 คน

    ก็ควรแก้ไขด้วยการเปิดประตูหน้าต่างให้มากที่สุด เท่าที่ทำได้

    หรือใช้เครื่องกรองอากาศอาจช่วยได้บ้าง

    3. ให้ดูว่าแต่ละอาคารนั่น กำหนดสัดส่วนของากาศบรินสุทธิ์ประมาณกี่ % ยิ่งมากยิ่งดี

    4. ตรวจสอบในไส้กรองอากาศของแอร์ ในห้อง หรืออาคารที่มีผู้ติดเชื้อ อาจจะพบไวรัสได้

    ในเกาหลีใต้ ในอาคารแห่งหนึ่งในชั้น 11 มีผู้ติดเชื้อ 1 คนแพร่เชื้อให้คนอื่นในห้องกว้างๆ เดียวกันในชั้นเดียวกันถึง 90 คน

    5. ให้ดูทิศทางของกระแสลมว่า ลมโกรก ลมพัดไปด้านไหน ผู้ที่ไม่สบาย ไม่ควรไปนั่งต้นลมใกล้แอร์หรือหน้าต่าง

    ..............

    #เปิดหน้าต่างระบายอากาศลดติดเชื้อCovid19ได้

    ...............

    ทั้งรัฐบาลเยอรมันและอังกฤษทำให้เห็นว่า เขาให้ความสำคัญ กับการลดความเสี่ยงของการแพร่เชื้อ Covid19 แบบจริงจัง

    ในเยอรมันนี ให้เริ่มมีการเปิดหน้าต่างรถไฟ ทานอาหารนอกร้านอาหาร ปรับปรุงห้องเรียนที่ไม่มีหน้าต่าง และอื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ

    เมื่อก่อนเยอรมันเขาจะให้ประชาชนเน้น Distance Hygiene Mask

    แต่ตอนหลังนี้ เพิ่ม Air (Ventilation) เข้าไปด้วย

    หลังจากมีวิจัยยืนยันการแพร่เชื้อด้วย Aerosol Transmission ในห้องปิดติดแอร์หลายวิจัยจากหลายประเทศ

    .............. .

    ในไทย เรามัวแต่หลงกับคำว่า 0 ต่อเนื่องที่ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าจริงหรือไม่จริง เพราะไม่ได้ทำการสุ่มตรวจแบบทางการ (มีแต่การสุ่มตรวจแบบวิจัยบ้างแล้ว ก็พบผู้ติดเชื้อที่มี Antibody ไปแล้ว แต่ไม่ได้อยู่ในรายชื่อที่ตรวจ PCR เจอเชื้อ แต่รัฐบาลไม่ได้ออกข่าวเรื่องผลการสุ่มตรวจ เพราะจะตรงข้ามกับ 0 ต่อเนื่อง)

    พอมัวแต่เน้น 0 ต่อเนื่องทำให้เราไม่ได้ฟังผู้เชี่ยวชาญทั่วโลก ไม่ได้ดูสถานการณ์ทั่วโลกกันอย่างจริงจัง

    พอมีข่าวประเทศเพื่อนบ้านระบาดเวฟ 2 ก็เหมือนกระตุ้นคนไทยได้นิดๆ หน่อยๆ พอสักพักก็เริ่มชิน บางส่วนเริ่มประมาทกันอีกรอบ

    ......

    อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่

    1. Coronavirus: Germany improves ventilation to chase away Covid

    https://www.bbc.com/news/world-europe-54599593

    ...........

    2. Covid-19: Five ways to avoid catching the virus indoors

    https://www.bbc.com/news/explainers-53917432

    .............

    ปล.

    ---> งดการเมืองในเพจนี้นะครับ เราเน้นเรื่องสาธารณสุข เรื่องนี้ประชาชนต้องช่วยกันกระจายความรู้กันเองให้มากที่สุด ถ้ามีวรอพึ่งพาฝั่งหน่วยงานรัฐอย่างเดียวอาจไม่พอ (เพราะเราเน้นแต่ 0 ต่อเนื่องเพื่อเปิดประเทศ มากเกินไป)

    ---> เรื่อง การเมืองก็คงมีเพจต่างหากมากมายอยู่แล้ว เชิญในเพจในกลุ่มการเมืองที่มีมากมายได้เลยนะครับ

    เขียนดักๆ ไว้ก่อนแล้วกัน ใครมาโยงไปหาการเมือง ถือว่า อ่านภาษาไทยไม่ออก หรือเป็นประเภทไม่ยอมอ่าน

    .

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    1 > เกิดเหตุระเบิดใกล้สถานีตำรวจภูธรเปร็ง ต.เปร็ง อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 22 ต.ค. เวลา 12.55 น. สาเหตุจากท่อส่งก๊าซภายในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. หรือ PT เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 3 ราย บาดเจ็บกว่า 52 ราย บ้านเรือนที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุไฟไหม้เสียหาย 8 หลัง โรงเรียน 1 แห่ง รถเสียหายประมาณ 20 คัน

    2> นายวุฒิกร สติฐิต รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. กล่าวว่า ท่อก๊าซธรรมชาติที่เกิดเหตุเป็นท่อก๊าซของ ปตท. ที่เดินท่อไปยังนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (สุวรรณภูมิ) เบื้องต้นได้ตัดแยกระบบการเดินท่อ เพื่อควบคุมก๊าซ และอยู่ในระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุการระเบิด ขณะนี้หน่วยงานด้านความปลอดภัยของ ปตท.ได้เข้าไปดูพื้นที่และแก้ปัญหาแล้ว

    3 > อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่ทราบสาเหตุที่ชัดเจน แต่เบื้องต้นทราบเพียงว่ามีรถแบคโฮเข้าไปทำงานยังจุดที่มีแนวท่อก๊าซฝังอยู่ แต่จะตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดอีกครั้ง โดยทาง ปตท.จะเข้ามาดูแลผู้บาดเจ็บและบ้านเรือน รวมทั้งทรัพย์สินที่เสียหาย

    4 > นายอาวีระ ภัคมาตร์ ผอ.สำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 13 (ชลบุรี) นายชายชาญ เตโชทินกร ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสมุทรปราการ เข้าตรวจสอบพื้นที่หลังเกิดเหตุพบว่า มีก๊าซฟุ้งกระจายสู่บรรยากาศ และเกิดการติดไฟระเบิด มีรัศมี 300 เมตร แม้จะควบคุมเปลวไฟได้ แต่ยังมีควันจากการเผาไหม้

    5> จากการตรวจวัดค่าปริมาณก๊าซของเจ้าหน้าที่ ด้วยอุปกรณ์ภาคสนามแบบพกพา พบค่าปริมาณเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดของสารไวไฟ ทั้งโซนที่มีอันตรายน้อยลง และบริเวณอันตราย มีค่าเท่ากับ 0 แต่ ปตท.ส่งโดรนเพื่อเข้าวัดในพื้นเพื่อเฝ้าระวังเป็นระยะ

    6 > ด้าน พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจํานงค์ โฆษกสํานักงานตํารวจแห่งชาติ กล่าวว่า พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตํารวจฝ่ายสืบสวน และเจ้าหน้าที่ตํารวจพิสูจน์ หลักฐาน เข้าตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด ภายหลังจากเพลิงสงบลง และอุณหภูมิภายในที่เกิดเหตุลงลด เพื่อหาสาเหตุการเกิดระเบิดเพลิงไหม้ต่อไป

    ขอบคุณภาพจาก #ThaiNewsPix โดย กฤษณ์ พรหมสาขา ณ สกลนคร

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ฉบับที่ 4
    "พายุไต้ฝุ่น “โซเดล” (พายุระดับ 5)"

    .
    ฉบับที่ 4 ลงวันที่ 22 ตุลาคม 2563
    เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (22 ตุลาคม 2563) พายุไต้ฝุ่น “โซเดล” (พายุระดับ 5) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง
    มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนืออย่างช้าๆ คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนเข้าใกล้ชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 25-26 ตุลาคม 2563 หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลทำให้ด้านตะวันออกและตอนล่างของภาคตะวันออกเฉียงเหนือกับมีฝนบางแห่งกับมีลมแรง

    จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยา และสามารถติดตามข้อมูลที่เว็บไซต์กรมอุตุนิยมวิทยา http://www.tmd.go.th หรือสายด่วนพยากรณ์อากาศ 1182 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

    ประกาศ ณ วันที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 17.00 น.
    กรมอุตุนิยมวิทยาจะออกประกาศฉบับต่อไป ในวันที่ 23 ตุลาคม พ.ศ. 2563 เวลา 05.00 น.

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวียดนาม : ชาวนาจับปลาดุกยักษ์ได้ ขนาด 1 เมตรกว่า หนัก 8 กิโลกรัม
    #จังหวัด เหิ่วซาง (Hậu Giang) ภาคใต้สามเหลี่ยมปากแม่น้ำโขง ชาวนาสูบน้ำออกจากนาข้าว พบปลาดุกยักษ์ หลังจากมีข่าว ผู้คนต่างแห่มาดูจำนวนมาก จากคำบอกเล่าคนแก่ในหมู่บ้านสถิติที่มีการจับได้นานมาแล้วใหญ่ที่สุดคือ 4 กิโลกรัม ไม่เคยเจอปลาดุกตัวใหญ่ขนาดที่จับได้ในวันนี้มาก่อน

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    กัมพูชา : จังหวัดพระตะบอง น้ำลด ระเบิดผุด
    #พบกับระเบิดจำนวนมาก หลังน้ำท่วมลดลง ฝน กระแสน้ำไหล ช่วยเปิดหน้าดินทำให้พบกับระเบิดที่ถูกฝังดินไว้ในยุคสงคราม จำนวนมาก

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    หลังจากที่มีกระแสข่าวว่า ม็อบราษฎรของไทยได้มีการติดแฮชแท็ก ยุคนลาวให้ออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย โดยเขียนว่า #ถ้าการเมืองลาวดี ซึ่งก็มีคนลาวให้ความสนใจ เริ่มชู 3 นิ้ว และติด แฮชแท็กต่อต้านรัฐบาลลาว แต่ทว่ากฎหมายประเทศเขาไม่ได้เสรีจนสามารถด่าทอให้ร้ายรัฐบาลได้อย่างประเทศไทย เพราะถ้าเกิดก่อกบฏ หรือว่าติดแฮชแท็กต่อต้านรัฐบาลลาวในสื่อออนไลน์ ขึ้นมาอาจจะติดมีสิทธิได้รับโทษจับคุก 3 ปี หรือปรับมากกว่า 10 ล้านกีบเลยทีเดียว
    .
    โดยวันนี้ในทวิตเตอร์ แคน สาริกา (@can_nw) ของนายบัณฑิต จันทศรีคำ คอลัมนิสต์เครือเดอะเนชั่น ได้มีการโพสต์ข้อความว่า สำนักข่าวออนไลน์ลาวแจงข้อกฎหมายว่าด้วยการติดแฮชแท็กผ่านสื่อโซเชียลเพื่อยุยงส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐมีความผิด พร้อมกับโพสต์ภาพรายละเอียดจากสื่อออนไลน์ของลาว ระบุว่า
    .
    ท่านรู้แล้วหรือไม่ว่า การสร้าง #Hastage ทางสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อยุยง และส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐบาลนั้นผิดทางกฎหมาย มาตรา 13 การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์แสดงออกด้วยการกระทำดังนี้
    ...

    1. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะใสร้ายป้ายสี, หมิ่นประมาท, ใช้คำศัพท์ไม่สุภาพเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
    .
    2. การนำข้อมูลที่มีลักษณะใช้ความรุนแรง, ข้อมูลเท็จ, ข้อมูลหลอกลวง, ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริงเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์
    .
    3. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่เป็นการทำลายความมั่นคงของชาติ, ความสงบ, ความเป็นระเบียบเรียบร้อยของสังคม วัฒนธรรม และจารีตประเพณีอันดีงามของชาติ
    .
    4. การนำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีลักษณะชวนเชื่อ ยุยง และส่งเสริมประชาชนต่อต้านรัฐบาลหรือแบ่งแยกความสามัคคี
    .
    5. การโฆษณาค้ายาเสพติด อาวุธสงคราม อาวุธเคมี ค้ามนุษย์ ค้าประเวณี ค้าโสเภณี และสิ่งที่ผิดกฎหมาย
    .
    6. การเผยแพร่หรือส่งต่อข้อมูลคอมพิวเตอร์ตามที่ได้กำหนดไว้ในมาตรา 11 และ14 ของกฎหมายฉบับนี้รวมทั้งข้อ 1, 2, 3, 4 และ 5 ของมาตรานี้
    ...

    นอกจากนี้ กฎหมายยังระบุอีกว่า ในมาตรา 168 การสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ บุคคลใดหากสร้างความเสียหายผ่านสื่อสังคมออนไลน์ จะถูกลงโทษตัดอิสรภาพ ตั้งแต่สามเดือนถึงสามปี และจะถูกปรับตั้งแต่ 4,000,000 ถึง 10,000,000 กีบ (เป็นเงินไทยประมาณ 33,000 บาท) และถ้ามีกรณีการยุยงส่งเสริม หรือการเคลื่อนไหวก่อความวุ่นวายต่อต้านอำนาจรัฐขึ้นมา ยังอาจมีความผิดฐานทรยศต่อชาติ ตามมาตรา 110 และฐานกบฏ ตามมาตรา 111 ซึ่งมีโทษหนักถึงขั้นประหารชีวิตเลยทีเดียว

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000108053
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รู้สึกว่าช่วงนี้สหรัฐฯ จะห้าวหาญเที่ยวไปกระตุกหนวดมังกรจีนอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดวันนี้สื่อต่างประเทศรายงานว่า เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ทำเนียบขาวมีการเร่งเจรจาเพื่อจะผลักดันข้อตกลงขายอาวุธล้ำสมัยให้แก่ไต้หวันรวม 5 ฉบับ
    .
    ซึ่งจะมีมูลค่ารวมกันถึง 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางความพยายามของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ ที่จะยกระดับกดดันจีนให้เพิ่มมากขึ้น
    .
    รายงานที่กระทรวงการต่างประเทศแจ้งไปยังสภาคองเกรส มีการเอ่ยถึงแท่นยิงขีปนาวุธติดตั้งบนรถบรรทุกของ ล็อกฮีต มาร์ติน (High Mobility Artillery Rocket System – HIMARS) จำนวน 11 หน่วย
    .
    ซึ่งมีสนนราคาราวๆ 436.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ, ขีปนาวุธชนิดยิงจากอากาศสู่พื้นดิน AGM-84H Standoff Land Attack Missile Expanded Response (SLAM-ER) ซึ่งผลิตโดยโบอิ้ง จำนวน 135 หัวรบ มูลค่าประมาณ 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และระบบเซ็นเซอร์ MS-119 Recce ที่ผลิตโดย คอลลินส์ แอโรสเปซ อีกประมาณ 367.2 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
    .
    อย่างไรก็ดี การซื้อขายครั้งล่าสุดนี้ไม่รวมโดรนประจัญบาน MQ9 ที่ไต้หวันได้ร้องขอไป ทั้งนี้ สภาคองเกรสมีเวลา 30 วันที่จะพิจารณา และคัดค้านการจำหน่ายอาวุธ ซึ่งในกรณีนี้คาดว่าจะไม่มีปัญหา เนื่องจากทั้ง 2 พรรคการเมืองต่างก็มีจุดยืนร่วมในการปกป้องไต้หวัน
    .
    เอี๋ยน เต๋อฟา รัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมไต้หวัน ได้ออกมาแสดงความชื่นชมท่าทีของสหรัฐฯ และย้ำว่าระบบอาวุธเหล่านี้จะมีส่วนช่วยยกระดับศักยภาพในการป้องกันประเทศของไทเป การจำหน่ายอาวุธครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า
    .
    สหรัฐฯ เล็งเห็นความสำคัญในทางยุทธศาสตร์ของภูมิภาคอินโด-แปซิฟิก และช่องแคบไต้หวัน และพร้อมที่จะสนับสนุนเราในการยกระดับศักยภาพด้านการป้องกันประเทศ พร้อมยืนยันว่าไทเปไม่ได้มีเจตนาแข่งขันด้านอาวุธกับจีน หากแต่จำเป็นต้องคงไว้ซึ่งศักยภาพในการต่อสู้ที่เชื่อถือได้
    .
    ส่วนทีท่าของจีน ต้องถือว่าไต้หวันเป็นเพียง มณฑลทรยศ ที่จะต้องถูกผนวกรวมกลับมาอยู่ภายใต้การปกครองของแผ่นดินใหญ่ในสักวันหนึ่ง แม้จะต้องใช้กำลังทหารก็ตาม ในขณะที่สหรัฐฯ เองก็มองไต้หวันเป็นหุ้นส่วนประชาธิปไตยที่สำคัญ และมีพันธกรณีตามกฎหมายที่จะต้องช่วยไทเปให้สามารถป้องกันตนเองได้
    .
    กระทรวงการต่างประเทศจีนออกมาเตือนเมื่อสัปดาห์ที่แล้วว่า การที่สหรัฐฯ ขายอาวุธให้ไต้หวันถือว่าคุกคามอธิปไตย และผลประโยชน์ด้านความมั่นคงของจีนอย่างร้ายแรง และเรียกร้องให้อเมริกาทบทวนแผนดังกล่าว มิเช่นนั้นปักกิ่งก็จะ ใช้มาตรการตอบโต้ที่ชอบธรรม และจำเป็นตามแต่สถานการณ์

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.business-standard.com/a...-amid-tensions-with-china-120102200201_1.html

    https://majesticpr.com/us-approves-1-8bn-weapons-sale-to-taiwan/

    https://www.posttoday.com/world/636...dSbYL4pZXVEtyP2eIrS4ILv-ZeCHcT6k_eKvbhHLL3UXc
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบันยังคงตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง เพราะนอกจากรัฐบาลไทยจะต้องหามาตรการมากระตุ้นเศรษฐกิจ ยังต้องดูแลลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 จึงทำให้มีมาตรการพักการชำระหนี้ออกมา แต่เวลาผ่านไปสถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น
    .
    ล่าสุดวันนี้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้สั่งให้แบงก์รัฐเตรียมอุ้มลูกหนี้โควิด-19 ต่อออกไปอีก เพื่อแบ่งเบาภาระของประชาชน
    .
    โดย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า ได้สั่ง ให้สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐทั้ง 7 แห่ง ออกมาตรการดูแลลูกหนี้ที่อยู่ระหว่างการพักชำระหนี้จากผลกระทบโควิด จำนวน 6.57 ล้านราย คิดเป็นมูลหนี้ 2.89 ล้านล้านบาทอย่างต่อเนื่อง หลังจากมาตรการของแต่ละธนาคารจะทยอยสิ้นสุดลงในสิ้นปีนี้
    .
    นอกจากนี้ นาย อาคม ได้ให้คำมั่นสัญญาว่า ลูกหนี้ทุกรายไม่ต้องกังวลใจ ว่าจะไม่ได้รับความช่วยเหลือ ธนาคารรัฐยังพร้อมขยายเวลาการดูแลออก ไปตั้งแต่ 3-12 เดือนตามสถานการณ์ และความจำเป็นของลูกหนี้แต่ละรายอย่างแน่นอน
    .
    อย่างไรก็ตาม การช่วยเหลือของแบงก์รัฐ จะไม่เหมือนกับแบงก์พาณิชย์ เพราะมีความยืดหยุ่นกว่า ไม่ว่าจะทั้งออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์ ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลาง และขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
    .
    พร้อมเข้าไปช่วยเหลือหลายรูปแบบทั้งการปรับโครงสร้างหนี้ การขยายเวลาการพักหนี้ทั้งเงินต้น และดอกเบี้ย การปล่อยสินเชื่อเสริมสภาพคล่อง รวมถึงการลดดอกเบี้ยให้ด้วย เพื่อให้ลูกหนี้เดินต่อไปได้ เพราะเข้าใจว่าสถานการณ์ยังไม่ปกติ รายได้ที่มีก็อาจยังไม่กลับมาเต็มที่
    .
    ทั้งนี้ ยืนยันว่า ทุกสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐมีความเข้มแข็ง เห็นได้จากการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะ
    สูญยังเกินกว่าเกณฑ์ที่กำหนด เช่นธนคารออมสิน มีการตั้งรองประมาณ 1:2 เท่ของหนี้เสีย ธนาคาร
    อาคารสเคราะห์(ธอส) ตั้งสำรองไว้ที่ 1.6 เท่า และธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตรตั้งสำรองไว้ถึง 5.6 เท่า

    -------------------------------
    แหล่งข่าว
    https://www.thebangkokinsight.com/461487/
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Second Wave ที่ยุโรป
    กับความท้าทายใหม่
    เมื่อ “ล็อคดาวน์” อาจไม่ง่ายอีกต่อไป..
    .
    .
    ตัวเลขการระบาดระลอกสองของโควิด – 19 ทั่วทวีปยุโรปกำลังเพิ่มขึ้นอย่างน่ากังวล ล่าสุดประธานาธิบดี เอมมานูเอล มาครอง ประกาศ “สถานการณ์ฉุกเฉิน” และประกาศเคอร์ฟิว ตั้งแต่ 3 ทุ่ม จนถึง 6 โมงเช้า ในเมืองใหญ่หลายเมือง รวมถึงปารีส ลียง และตูลูสด้วย คิดเป็นจำนวนประชากรรวมกันกว่า 20 ล้านคน โดยเริ่มตั้งแต่วันเสาร์ที่ 17 ต.ค.นี้เป็นต้นไป โดยคาดว่าจะกินเวลารวม 4 สัปดาห์ และผู้ที่ฝ่าฝืน อาจมีโทษปรับถึง 1,500 ยูโร (ประมาณ 5.49 หมื่นบาท)
    .
    แน่นอนว่าการระบาดรอบใหม่ ได้ทำให้แผนของรัฐบาลที่วางไว้ก่อนหน้านี้ ให้ใช้วันหยุดยาวในเดือน ต.ค. เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวต้องถูกพับลงทั้งหมด ขณะที่ร้านอาหาร และบาร์ในปารีส ก็ต้องปิดเร็วเพื่อให้ทันเคอร์ฟิว เช่นเดียวกับการจัดอีเวนท์ จัดเทศกาลที่มีการรวมตัวเกิน 50-60 คน
    .
    ประธานาธิบดีฝรั่งเศสให้เหตุผลว่าจำเป็นต้องเลือกเดินเส้นทางนี้ เพราะเตียงโรงพยาบาล และห้องไอซียู กำลังเต็มอีกรอบ ตัวเลขผู้ป่วยใหม่ในฝรั่งเศส เมื่อวันที่ 21 ต.ค.ที่ผ่านมา ขึ้นไปถึง 3.4 หมื่นคน โดยรายงานสัปดาห์ที่แล้วจากรัฐบาลระบุว่าเตียงไอซียู ถูกใช้ไปแล้วมากกว่า 40% และจากการคาดการณ์ คาดว่าภายในเดือนนี้ อัตราการครองเตียงไอซียู อาจพุ่งขึ้นไปถึง 90% ทั่วประเทศ ทำให้การผ่าตัดอื่นๆ ต้องถูกเลื่อนออกไปทั้งหมด เพื่อเตรียมเตียงไว้สำหรับผู้ป่วยโควิด -
    .
    การระบาด Second Wave สร้างความตกตะลึงให้กับรัฐบาลฝรั่งเศสเป็นอย่างมาก เพราะเดือน มี.ค. – เม.ย. ที่ผ่านมาที่มีการระบาดระลอกแรกนั้น ถึงอย่างไรตัวเลขผู้ป่วยรายวันสูงสุดก็ยังคงอยู่ที่ไม่เกิน 7,500 คน แต่รอบใหม่ ตัวเลขกลับสูงกว่าเดิมถึง 3 เท่า ซึ่งแน่นอน ด้วยตัวเลขที่สูงขนาดนี้ จะเกินขีดความสามารถที่โรงพยาบาลจะรับไหว ฝรั่งเศส อาจถึงเวลาต้องเตรียม “โรงพยาบาลสนาม” ไว้รับมืออีกรอบ
    .
    แต่ทั้งหมดนี้ ฝรั่งเศสยังปฏิเสธที่จะ “ล็อคดาวน์” ทั้งประเทศเหมือนรอบก่อนหน้า เพราะรู้ว่าส่งผลกระทบทางเศรษฐกิจมากเกินไป เอาเข้าจริงหากไม่มีการระบาดรอบใหม่ ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจหลายอย่างของฝรั่งเศสกำลังดูดีขึ้น ไม่ว่าจะเป็นอัตราการว่างงาน หรือจีดีพี ซึ่งทำให้รัฐบาลต้องเลือกเส้นทางที่ระมัดระวังมากขึ้น..
    .
    ไม่เฉพาะฝรั่งเศสเท่านั้นที่เจอคลื่นลูกใหม่ ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีรายงานผู้ป่วยใหม่ทั่วทวีปยุโรปรวมแล้วกว่า 7 แสนคน ทำให้หลายประเทศ ต้องออกมาตรการที่เข้มงวดกว่าเดิม อีกที่ที่หนักไม่แพ้กันคือเยอรมัน ตัวเลขล่าสุด ทำลายสถิติใหม่ของเวฟแรก คือพุ่งไปถึงวันละ 1.2 หมื่นคน ทำให้เยอรมันต้องเร่งออกมาตรการใหม่ ลดการรวมตัวให้เหลือไม่เกิน 25 คน ในที่สาธารณะ และไม่เกิน 15 คน ในพื้นที่ปิด เพื่อลดการแพร่เชื้อแบบ Super Spreader ขณะเดียวกัน จะออกมาตรการเคร่งครัดการสวมหน้ากากในพื้นที่สาธารณะมากขึ้น
    .
    อังเกลา มาร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมันระบุว่า จำเป็นต้องใช้ “ยาแรง” มากขึ้น รวมถึงการประกาศใช้เคอร์ฟิวในบางรัฐ ที่มีอัตราการติดเชื้อของผู้ป่วยเกิน 35 คน ต่อประชากร 1 แสนคน ในรอบ 7 วัน ตั้งแต่เวลา 5 ทุ่มเป็นต้นไป เพราะหากสำรวจตัวเลขขณะนี้แล้ว มีความเป็นไปได้สูง ที่อัตราผู้ป่วยใหม่ในเยอรมัน จะเพิ่มเป็นอัตราทบทวีคูณ หรือ exponential มากขึ้นเรื่อยๆ จึงต้องหาทางกดกราฟลงก่อน โดยยังคงเลือกปฏิเสธการ “ล็อคดาวน์” หรือปิดธุรกิจที่ไม่จำเป็นเป็นวงกว้าง เพื่อลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ
    .
    ขณะที่ในอังกฤษ อีกหนึ่งประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงเกินกว่าวันละ 1.9 หมื่น – 2 หมื่นคน สูงกว่าการระบาดรอบแรก ราว 4 เท่า ตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้มีความพยายามประกาศมาตรการใหม่ โดยเลี่ยงการล็อคดาวน์เช่นเดียวกัน ด้วยการกำหนดขั้นตอนแบบ “เซอร์กิต เบรกเกอร์” ตีวงธุรกิจที่จำเป็น และไม่จำเป็นให้ชัด ว่ามีอะไรที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อบ้าง รวมถึงกำหนดเกณฑ์ใหม่ 3 ขั้น เป็นกลุ่มเมืองสีแดง สีเหลือง และสีส้ม เพื่อแยกแต่ละพื้นทีเสี่ยงออกจากกัน รวมถึงจำกัดวงการปิด ให้เริ่มจากสถานที่อย่างผับ บาร์ ก่อน เป็นอันดับแรก
    .
    แต่การเลือกปิดบางอย่าง และเปิดบางอย่าง ก็สร้างความขัดแย้งรอบใหม่ นักการเมืองท้องถิ่นในแมนเชสเตอร์หลายคน เห็นว่ามีการ “เลือกปฏิบัติ” และหลายคนก็เกี่ยงที่จะประกาศเคอร์ฟิว หรือกิจการในพื้นที่ของตัวเอง เพราะรู้ดีว่าเสียงประชาชนจะคัดค้านอย่างรุนแรง รวมถึงหากลากยาวไปถึงสิ้นปี เศรษฐกิจในเมืองเล็กๆ หลายแห่งจะพังพินาศลงทั้งหมด
    .
    ความขัดแย้งดังกล่าว ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์ในหน่วยงานรัฐ หลายคนออกมาเตือนว่าอังกฤษอาจ “ออกแรง” น้อยไป ในการหยุดยั้งการระบาดระลอกใหม่ ด้วยตัวเลขขณะนี้ อาจทำให้ตัวเลขผู้ป่วย และผู้เสียชีวิตในอังกฤษ พุ่งขึ้นไปใหม่ตลอดฤดูหนาวนี้
    .
    เทรนด์แบบเดียวกัน และเรื่องใกล้เคียงกัน ล้วนเกิดขึ้นในเนเธอร์แลนด์ อิตาลี ไอร์แลนด์ และประเทศอื่นๆ ทั่วยุโรป เพราะทุกคนล้วนรู้ดีว่าการ “ล็อคดาวน์” ส่งผลร้ายกว่าที่คิด แม้จะสามารถลดยอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ได้เห็นผลก็ตาม แต่จะตามมาด้วยการตกงาน การประท้วง และการต้องตั้งวงเงิน “เยียวยา” แบบไม่รู้จบ
    .
    เป็นการตัดสินใจได้ยากยิ่งของรัฐบาลทั่วยุโรปว่าจะกดกราฟอย่างไร ในวันที่ “ล็อคดาวน์” ไม่อาจทำได้ง่ายอีกต่อไปแล้ว

    #COVID19 #โควิด19 #ยุโรป #SecondWave

    อ้างอิงจาก

    https://www.theguardian.com/uk-news...-rise-for-three-weeks-without-strictest-curbs

    https://www.scmp.com/news/world/eur...tial-coronavirus-lockdown-while-britain-faces

    https://www.reuters.com/article/us-...urfews-to-beat-back-coronavirus-idUSKBN26Z2TB

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันนี้ ทางรอยเตอร์สรายงานว่า กระทรวงวัฒนธรรม และการท่องเที่ยวของประเทศจีน ได้ประกาศลงบนเว็บไซต์ในวันที่ 21 ตุลาคมว่า ประเทศจีนห้ามนักท่องเที่ยวชาวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์เดินทางออกนอกประเทศ และสั่งห้ามบริษัทนำเที่ยว นำนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการระบาดของไวรัสโคโรนาอีกครั้งในช่วงฤดูหนาวนี้
    .
    โดย จีน ได้ระงับนักท่องเที่ยว ทั้งในประเทศ และนอกประเทศเป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาที่เข้มงวด โดยในเดือนกรกฎาคมได้อนุญาตให้เปิดการท่องเที่ยวในประเทศอีกครั้ง เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อใหม่ลดลงอย่างรวดเร็ว
    .
    ทั้งนี้ การระงับทัวร์ต่างประเทศ ส่งผลกระทบอย่างมาก ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในหลายประเทศ รวมถึงประเทศไทย ที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

    -------------------------------
    แหล่งข่าว

    https://www.posttoday.com/world/636200
    -------------------------------
    ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
    Website : http://www.thailandvision.co
    Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
    Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
    Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักฟิสิกส์ค้นพบวิธีเก็บแสงและควบคุมตำแหน่งของมันได้แล้ว

    ทีมนักฟิสิกส์แห่งมหาวิทยาลัยไมนซ์ (JGU) สามารถทำการเก็บแสงไว้ได้ เหมือนเก็บของไว้ในกระเป๋าที่ทำจากกลุ่มอะตอมรูบิเดียมเย็นจัด จากนั้นควบคุมกลุ่มอะตอมเหล่านี้ให้ย้ายตำแหน่งได้ 1.2 มิลลิเมตร! โดยที่การย้ายตำแหน่งนี้ "แทบจะ" ไม่ส่งผลใดๆต่อคุณสมบัติของแสงที่เก็บไว้

    แม้ระยะในการเคลื่อนย้ายดังกล่าวจะยังไม่มาก
    แต่งานวิจัยนี้นับว่าเป็นเรื่องน่าตื่นเต้นมาก เพราะการย้ายตำแหน่งอะตอมที่กักเก็บแสงเป็นเรื่องยากยิ่ง อีกทั้ง งานวิจัยนี้อาจนำไปสู่เทคโนโลยีการสื่อสารทางควอนตัมรูปแบบใหม่ๆได้ในอนาคต

    อ้างอิง
    https://journals.aps.org/prl/abstract/10.1103/PhysRevLett.125.150501
    https://phys.org/news/2020-10-physicists-successfully.html

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "박사방" หรือ โจจูบิน อนาคตดับจำคุกตลอดชีวิต

    โจจูบิน (24) หนุ่มเกาหลีสุดซาดิสม์ถูกอัยการตัดสินสั่งจำคุกตลอดชีวิตฐานผลิตและหาประโยชน์ทางเพศในนาม "박사방" ผ่านช่องทางเทเลแกรม (Telegram)

    ส่วนผู้สมรู้ร่วมคิดทั้ง 4 คน รวมถึง นายชอน (29) อดีตเจ้าหน้าที่ศาลาว่าการเมืองกอเจซึ่งถูกฟ้องร่วมกันนั้นทางอัยการเองก็เรียกร้องให้จำคุก 10 ถึง 15 ปี

    ผู้เสียหายต่างยื่นคำร้องว่า:
    “เราต้องอยู่กับความเสียหายที่ยากจะลืมเลือน”

    "แต่พอเห็นในสิ่งที่นายโจเขียนในจดหมายขอโทษ ว่าเขาเองต้องการอยากจะใช้ความสามารถของเขาเพื่อเป็นการขอโทษเหยื่อ ฮึ ฉันได้แต่หัวเราะเยาะกับสิ่งที่เขาเขียน"

    “ถ้าเช่นนั้นคงต้องลองให้นายโจหรือผู้สมรู้ร่วมคิดถูกจำคุกสัก 2,000 ปีก่อนเถอะแล้วเรื่องแบบนี้ถึงจะไม่เกิดขึ้นอีก”

    ขอบคุณที่มา: https://news.naver.com/main/read.nhn?mode=LSD&mid=sec&sid1=102&oid=001&aid=0011963316

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ร่วมส่งแรงใจให้เวียดนาม!!! วานนี้ (22 ต.ค. 2563) รายงานข่าวเผยว่า รัฐบาลเวียดนามได้สั่งอพยพประชาชนหลายแสนราย หลังน้ำท่วมหนักในทางภาคกลางของประเทศ ขณะที่มีประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 105 ราย โดยประชาชนนับล้านในภาคกลางของเวียดนามกำลังเผชิญหน้ากับน้ำท่วมครั้งใหญ่ หลังจากในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่อง

    ** สภากาชาดเวียดนาม เปิดเผยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมในเวียดนามครั้งนี้ นับเป็นครั้งที่รุนแรงที่สุดในรอบทศวรรษ บ้านเรือนประชาชน ถนน และ โครงสร้างสาธารณะพื้นฐานต่างจมอยู่ใต้น้ำ

    เหตุการณ์น้ำท่วมที่เวียดนามในครั้งนี้ น้ำได้เข้าท่วมบ้านเรือนแล้วอย่างน้อย 178,000 หลังคาเรือน มีประชาชนเสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 105 ราย และสูญหายอีก 27 ราย นอกจากนี้ ยังทำลายพื้นที่ทางการเกษตรเกือบ 7,000 เฮกตาร์ (หรือประมาณ 42,000 ไร่) และยังสร้างผลกระทบต่อสัตว์ปีกกว่า 690,000 ตัว รวมถึงปศุสัตว์ตายและสูญหายเป็นจำนวนมาก.

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,300
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว ไม่ไหวจะทน!!! วานนี้ (21 ต.ค. 2563) รายงานข่าวระบุว่า มีนักศึกษาและผู้ใช้แรงงานจำนวนหลายพันคนชุมนุมในกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เพื่อเดินหน้าประท้วงต่อต้านกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่รัฐบาลอ้างว่า "เป็นสิ่งจำเป็นในการดึงดูดการลงทุน" แม้จะไม่มีความรุนแรงเกิดขึ้นแต่บรรยากาศการชุมนุมเป็นไปด้วยความตึงเครียด ขณะที่ตำรวจได้นำรั้วลวดหนามมาวางปิดกั้นและตรึงกำลังรักษาความปลอดภัย

    ** นี่นับเป็นการประท้วงต่อต้านกฎหมายแรงงานฉบับใหม่ที่เกิดขึ้นล่าสุด หลังการประท้วงในก่อนหน้านี้เป็นไปด้วยความรุนแรงจากการปะทะกันระหว่างผู้ประท้วงกับตำรวจ ขณะที่แกนนำสหภาพแรงงานยืนยันว่า จะเดินหน้าชุมนุมต่อไปจนกว่ากฎหมายดังกล่าวจะถูกยกเลิก

    สำหรับกฎหมายแรงงานที่เป็นปัญหาของอินโดนีเซียฉบับนี้ผ่านความเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฎรเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมา ท่ามกลางความไม่พอใจของชาวอินโดนีเซีย นำโดยกลุ่มแรงงานและนักศึกษาซึ่งมองว่า กฎหมายฉบับนี้ลิดรอนสิทธิแรงงานและกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แม้ว่า โจโค วิโดโด ประธานาธิบดีอินโดนีเซีย ยืนยันว่า จะช่วยกระตุ้นการจ้างงานและดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจจากผลกระทบของ COVID-19 ก็ตาม.

     

แชร์หน้านี้

Loading...