ติดตามสถานะการณ์

สิงคโปร์ ประเทศที่มีความไฮเทค กำลังจะเป็นประเทศแรก ที่ใช้เทคโนโลยี “ยืนยันใบหน้า” ระบุตัวตนแทนบัตรประชาชน และทำให้ประชาชนเข้าถึงบริการภาครัฐอย่างปลอดภัย แม้บางฝ่ายจะยังกังวลว่า จะถูกใช้เป็นเครื่องมือละเมิดสิทธิส่วนบุคคล

 

#news1feed พนักงาน ทอท.กลุ่มเกษียณอายุปี 63 บุกพรรคภูมิใจไทยยื่นหนังสือ “อนุทิน” ร้องขอจ่ายเงินช่วยเหลือหลังบอร์ด ทอท.งดจ่ายโบนัส ระบุเป็นนโยบาย “ศักดิ์สยาม” ชี้พนักงานทำงานหนักและเสี่ยงจากการคัดกรองโควิด-19 ส่วน ทอท.และ สคร.ชี้มีกำไรให้จ่ายโบนัสได้

อ่านต่อ >> https://news1live.com/detail/9630000107095
………………………………
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

นาทีสุดดีใจ ยานสำรวจของนาซาลงแตะดาวเคราะห์น้อยเบนนู ซึ่งเป็นหนึ่งในดาวเคราะห์น้อยที่มีโอกาสชนโลกในอนาคต

#ข่าวต่างประเทศ #ไทยรัฐออนไลน์

 

เศร้ามาก ชาวอัฟกานิสถานหลายพันยื้อแย่งยื่นขอวีซ่าเข้าปากีฯ เหยียบกันตายสลดอย่างน้อย 15 บาดเจ็บจำนวนมาก

#ข่าวต่างประเทศ #ไทยรัฐออนไลน์

 

หนุ่มเมืองเบียร์ มาชกมวยเมืองไทย เจอพิษโควิดฯ ไม่สามารถขึ้นชกได้ ใช้ความรู้ที่ติดตัวมา ทำฟาร์ม #กัญชาออร์แกนิก ในบ้านพักที่จ.เชียงใหม่ หาเงินเลี้ยงชีพ #ไทยรัฐออนไลน์

 

เศร้า คาเธ่ย์ แปซิฟิค ในฮ่องกง ประกาศปิดสายการบินลูก ‘คาเธ่ย์ ดรากอน’ แล้ว จำต้องปลดพนักงานถึง 8,500 ตำแหน่ง

#ข่าวต่างประเทศ #ไทยรัฐออนไลน์

 

ราชกิจจาฯ เผยแพร่ประกาศ โปรดเกล้าฯ เรียกประชุมสภาสมัยวิสามัญ 26 ต.ค.นี้ #ม็อบ21ตุลา #ข่าวการเมือง #ไทยรัฐออนไลน์

 

21 ตุลาคม 2563 / เวลา 09.30 น.
ยอดติดเชื้อโควิดทั่วโลก 41,023,149 ราย เสียชีวิต 1,128,910 ราย
ประเทศไทยมี +9 รายใหม่ เสียชีวิตรวม 59 คน สะสม 3,700 คน
#ชายแดนติดกับไทยยอดติดเชื้อ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา
พม่า+ 1,297 รายใหม่ เสียชีวิต 945 คน สะสม 38,502 คน
มาเลเซีย +862 รายใหม่ เสียชีวิตรวม 192 คน สะสม 22,225 คน
ฝรั่งเศส และ อังกฤษ มียอดติดเชื้อรายวันสูงขึ้น

 

ไอร์แลนด์ : เมืองคอร์ก Cork น้ำท่วมในรอบ 10 ปี ฝนตกเช้าวันนี้
ถังเบียร์ จากบาร์ ร้านอาหาร จำนวนมากไหลไปกับกระแสน้ำ

 

โซเดล พายุโซนร้อน พายุระดับ 3
ขณะนี้อยู่บริเวณมหาสมุทรแปซิฟิก ได้เคลื่อนผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ คาดว่าจะขึ้นฝั่งที่เวียดนามในวันที่ 24-25 ตุลาคม และอ่อนกำลังลงเล็กน้อยก่อนจะเคลือนตัวเข้าไทย ลาวใต้ กัมพูชา
#สถานการณ์น้ำท่วม ตอนกลางเวียดนามหนักสุดในรอบ 40ปี ลาวใต้หนัก กัมพูชาหนัก ไทยในโซนภาคอีสานหลายพื้นที่ได้รับผลกระทบหนัก

 

กัมพูชา : น้องมากับน้ำท่วม หลายพื้นที่ ที่มีน้ำท่วมชาวบ้านจะจับได้หลายตัว

 

อัฟกานิสถาน: เมืองจาลาลาบัด แตกตื่นเบียดแย่งกัน เหยียบกันตายใกล้สถานกงสุลปากีสถาน เสียชีวิต 15 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้หญิง
#เหตุเกิดจากแย่งกัน ทะเลาะกัน ต่อและทำหนังสือเดินทางเพื่อเข้าปากีสถาน หลังจากสถานกงสุลปิดนานจากปัญหาไวรัส ผู้คนมารอหลายชั่วโมง และมานอนค้างคืนรอประมาณ 3,000 คน ต่างเบียดแออัดแย่งกัน ไม่พอใจใช้สิ่งของหนังสือเดินทางปาใส่เจ้าหน้าที่สถานกงสุลที่ใช้สนามฟุตบอลเป็นจุดดำเนินงานชั่วคราว ความแออัด ทะเลาะกันแย่งกันทำให้มีผู้บาดเจ็บ เสียชีวิตจำนวนมาก ชาวอัฟกานิสถานนิยมเข้าไปรักษาพยาบาล ลี้ภัย ทำงานในปากีสถาน เพราะมีพรมแดนติดกัน 2,600 กม. สถิติ 40,000คน ที่ไปถูกต้อง แต่ยอดจริงสูงมากกว่าหลายเท่า

 

เวียดนาม : ภัยพบัติ ภาคกลาง พายุ น้ำท่วม ดินถล่ม หนักสุดในรอบ 40 ปี
#สรุปความเสียหาย 20 ตุลาคม 2563
- ประชาชนได้รับผลกระทบ 5 ล้านคน บ้านถูกน้ำท่วม 178,000 หลัง หลายแสนคนต้องการที่พัก
-เสียชีวิต 111 คน สูญหาย 27 คน

- แปลงเกษตรนาข้าวเสียหาย 44,000 ไร่ สัตว์ปศุสัตว์ 690,000 ตัวตาย และสูญหาย
# เวียดนามยังออกคำเตือนพายุโซนร้อนลูกที่8 ความรุนแรงระดับ3 จะขึ้นฝั่งในภาคกลางในวันที่ 23-25 นี้

 

สัตว์ในยุคหายนะโลกร้อนจะหน้าตาเป็นอย่างไร?
นักธรรมชาติวิทยาทำการคาดการณ์หน้าตาสัตว์ในอนาคตหากเราไม่ทำอะไรเลยเพื่อแก้ไขปัญหาสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลง
•
Steve Backshall นักธรรมชาติวิทยาได้ทำนายหน้าตาสัตว์ในอนาคตไว้ว่าพวกมันอาจจะแปรสภาพไปจากเดิมหากเราไม่จัดการกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
•
นักผจญภัยวัย 47 ปีและบริษัทด้านพลังงานของสหราชอาณาจักร อธิบายว่า สัตว์ป่าอาจถูกบังคับให้ปรับตัวและวิวัฒนาการเพื่อรับมือกับน้ำแข็งที่ละลาย มหาสมุทรที่อุ่นขึ้น และทะเลทรายที่แห้งมากขึ้น
•
หมีขั้วโลกสีเทาและผสมพันธุ์กับหมีกริซลีมากยิ่งขึ้น: Backshall ได้คาดการณ์ว่าในปี 2040 อาร์กติกจะไร้ซึ่งน้ำแข็งเกือบตลอดทั้งปี หมายความว่า หมีจะหิวโหยหรืออาจจะต้องจมน้ำตาย และจากการที่น้ำแข็งละลาย พวกมันอาจจะต้องขึ้นมาหากินบนพื้นทวีปมากยิ่งขึ้นตามกองขยะ ซึ่งจะทำให้มันมีโอกาสเจอกับหมีกลิซลี และผสมพันธุ์กันจนทำให้เกิดหมีพลิซลี (Pizzly bear) ที่เป็นหมีไฮบริด รวมทั้งมันจะมีจมูกที่ใหญ่มากขึ้นเพื่อใช้ดมกลิ่นขยะและซากวาฬที่ลอยอยู่ในอากาศของอาร์กติก
•
นกพัฟฟินที่มีจะงอยปากสีดำและขนสีด่าง: จากอุณหภูมิน้ำที่เพิ่มสูงขึ้น อาหารของพวกมันอย่าง sand eel ว่ายน้ำมายังอาร์กติก และนกพัฟฟินจะตามบินตามปลาไหลไป และมาสร้างรังอยู่บนพื้นดินเพื่อล่าเหยื่อได้ง่ายมากยิ่งขึ้น Backshall กล่าวว่าเมื่อร้อยปีที่แล้วพวกมันพัฒนาสีสันสดใสขึ้นมาที่จะงอยปากในช่วงฤดูผสมพันธุ์ แต่จเงอยปากที่มีสีสันสดใสอาจจะทำให้ดึงดูดนักล่ามากเกินไปพวกมันจึงพัฒนาจะงอยปากสีเข้มและขนที่มีรอยด่างขึ้นมาแทน
•
วอลรัสสีชมพูที่ตัวเล็กลงและมีเขี้ยวที่แหลมคมมากขึ้น: จากอุณหภูมิที่เพิ่มสูงขึ้นในอาร์ติกและไม่มีพื้นที่ให้อพยพเพราะน้ำแข็งละลาย ส่งผลให้เส้นเลือดขึ้นมาอยู่ใกล้กับผิวหนังมากยิ่งขึ้น จนทำให้ผิวของมันกลายเป็นสีชมพูสด ประกอบกับอาหารที่ลดลงทำให้พวกมันตัวเล็กลงไป นอกจากนี้เขี้ยวของมันที่ยาวมากขึ้นนั้นก็เพื่อไว้ป้องกันตัวจากหมี Pizzly ที่หิวกระหาย
•
หมาจิ้งจอกหูค้างคาวกับขากรรไกรที่แข็งแรงและขาที่ยาวมากขึ้น: เมื่อทุ่งหญ้าเปลี่ยนไปเป็นทะเลทรายเพราะอุณหภูมิที่สูงขึ้น ทำให้พวกมันต้องออกล่ามากขึ้น มันจึงพัฒนากรามที่แข็งแรงกว่าเพื่อกัดทะลุกระดูกของเหยื่อ หูของพวกมันจะมีขนาดที่ใหญ่มากขึ้น ขณะที่ร่างกายของพวกมันมีขนาดเล็กลงและมีขาที่ยาวมากขึ้น เพื่อปรับตัวในสภาพที่ร้อนขึ้น
•
แมงกะพรุนแผงคอสิงโตจะมีขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมกับพิษที่รุนแรงขึ้น: ในน้ำที่อุ่นขึ้นแมงกระพรุนพวกนี้จะวิวัฒนาการให้ตัวเองมีขนาดที่ใหญ่ขึ้นเพื่อสามารถล่าเยื่อที่มีขนาดใหญ่อย่างโลมาปากขวดได้ ซึ่ง Backshall คาดว่ามันจะเกิดขึ้นในร้อยปี
•
Backshall กล่าวว่ามันขึ้นอยู่กับมนุษย์เราแล้วว่าจะปกป้องธรรมชาติและสภาพแวดล้อมเหล่านี้อย่างไรเพื่อไม่ให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง
•
Shaunagh Duncan จาก Bulb กล่าวว่า มนุษย์เราต้องช่วยเร่งลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ และมุ่งไปสู่ทางเลือกที่ยั่งยืนมากขึ้น อย่างเปลี่ยนไปใช้พลังงานหมุนเวียน 100% เพื่อช่วยสัตว์ป่าและโลกที่พวกเราอาศัยอยู่
•
https://www.dailymail.co.uk/femail/...l-predicts-animals-forced-evolve-survive.html

 

ปะการังเทียมจากขาแท่นปิโตรเลียม วัสดุตอบโจทย์การอนุรักษ์ท้องทะเลไทย เป็นบ้านใหม่ให้ปลา เพิ่มแหล่งเพาะพันธุ์สัตว์น้ำให้ชาวประมง และเป็นแหล่งท่องเที่ยวดำน้ำแห่งใหม่ ที่ช่วยเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับคนในชุมชน
.
การทำแนวปะการังเทียม เป็นหนึ่งในวิธีที่พิสูจน์แล้วว่า ช่วยฟื้นฟูและรักษาระบบนิเวศใต้ท้องทะเล ซึ่งทั่วโลกทำกันมาอย่างยาวนาน
.
ปะการังเทียมเป็นการเลียนแบบธรรมชาติ ทำหน้าที่เสมือนบ้านของสัตว์น้ำ เป็นที่อาศัย ป้องกันภัย รวมทั้งเป็นแหล่งอาหารและแหล่งแพร่พันธุ์ของสัตว์น้ำ เพื่อทดแทนแนวปะการังตามธรรมชาติที่ลดน้อยลงและเติบโตช้า
.
ปะการังทดแทนนี้สามารถทำได้ด้วยการนำวัสดุรูปทรงต่างๆ ที่อาจเป็นวัสดุที่สร้างขึ้นมาใหม่อย่างแท่งคอนกรีต หรือวัสดุที่มีอยู่แล้วอย่างเรือเก่า หรือ ตู้โบกี้รถไฟเก่า หรือแม้แต่ขาแท่นปิโตรเลียมที่ปลดระวางแล้ว ในหลายประเทศ เช่น ที่อ่าวเม็กซิโก มาเลเซีย บูรไน ก็มีการนำมาจัดวางเป็นแนวปะการังเทียมด้วยเช่นกัน
.
โดยพบว่าขาแท่นปิโตรเลียม มีคุณสมบัติที่ตอบโจทย์ความเหมาะสมในการทำปะการังเทียม ดังนี้
.
1. วัสดุมีประสิทธิภาพในการดึงดูดสัตว์น้ำเข้าอาศัย แข็งแรง เหมาะสำหรับการยึดเกาะ โครงสร้างซับซ้อนมีโพรงสำหรับหลบภัยให้กับสัตว์น้ำ
.
2. วัสดุทำจากเหล็กกล้า มีความทนทาน และมีอายุการใช้งานยาวนาน
.
3. วัสดุเข้ากับสภาพแวดล้อมทางทะเล โดยส่วนของขาแท่นนั้นไม่สัมผัสกับปิโตรเลียม และมีการทดสอบว่าสามารถเข้ากับสิ่งแวดล้อมได้อย่างดี
.
4. เป็นวัสดุที่สามารถจัดหาได้และมีอยู่แล้ว นำมาใช้ประโยชน์โดยเคลื่อนย้ายมาที่ที่เหมาะสมต่อการเข้าอยู่อาศัยของสัตว์ทะเล
.
ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้มีการศึกษาเรื่องการนำขาแท่นมาจัดวางเป็นปะการังเทียมในประเทศไทยอย่างจริงจังในปี 2556 เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับทุกฝ่ายว่า วัสดุขาแท่นปิโตรเลียมสามารถสร้างประโยชน์ให้กับท้องทะเลไทยได้จริง โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ร่วมกับ สถาบันปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย ได้ทำการศึกษาทดลองด้วยการนำโครงสร้างเหล็กจำลอง ชนิดเดียวกับขาแท่นไปจัดวางเป็นปะการังเทียมในพื้นที่อ่าวโฉลกหลำของเกาะพะงัน
.
7 ปีผ่านไป พบว่าปะการังเทียมนี้ได้ช่วยฟื้นฟูระบบนิเวศใต้ท้องทะเลได้ เป็นที่อาศัยของสัตว์น้ำและสิ่งมีชีวิตต่างๆ โดยพบปลาอย่างน้อย 24 ชนิด บริเวณแนวปะการังเทียมโครงสร้างเหล็ก ซึ่งกว่าร้อยละ 80 เป็นปลาที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ยังสร้างประโยชน์ให้กับชุมชนบ้านโฉลกหลำทั้งทางด้านการท่องเที่ยวดำน้ำและการประมงด้วย
.
มากไปกว่านั้น เมื่อไม่นานมานี้ ประเทศไทยได้มีปะการังเทียมจากขาแท่นปิโตรเลียมเกิดขึ้นเป็นครั้งแรก โดยเป็นความร่วมมือระหว่าง กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) เชฟรอนประเทศไทย และจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในการนำ “7 ขาแท่นปิโตรเลียม” ไปจัดวางเป็นปะการังเทียม บริเวณเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อประโยชน์ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล ซึ่งจัดวางเสร็จสิ้นแล้วเมื่อปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยทั้งสามหน่วยงานจะร่วมกันศึกษาและติดตามการเข้าใช้ประโยชน์ในพื้นที่อีก 2 ปี เพื่อถอดบทเรียนก่อนนำไปขยายผลต่อไป
.
อนึ่ง ทั้ง 7 ขาแท่นนี้ เป็นขาแท่นปิโตรเลียมที่ไม่ใช้งานแล้ว ซึ่งเชฟรอนได้ดำเนินการจัดวางและส่งมอบให้ ทช. โดยได้รับความเห็นชอบในการเคลื่อนย้ายและนำมาจัดวางเป็นปะการังเทียมจากกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ รวมถึง ทช. ได้รับการอนุมัติอนุญาตจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า และกรมประมง เพื่อสร้างความอุดมสมบูรณ์ให้กับระบบนิเวศทางทะเลต่อไป
.
ที่มา
https://km.dmcr.go.th/th/c_1/s_240/d_12091

https://www.gsmfc.org/pubs/SFRP/Guidelines_for_Marine_Artificial_Reef_Materials_January_2004.pdf



https://www.energynewscenter.com/ปะการังเทียมจากขาแท่นป/
.
#RigsToReefs #RTR #ปะการังเทียมขาแท่น #ปะการังเทียมจากขาแท่นปิโตรเลียม #อนุรักษ์ท้องทะเลไทย #พัฒนาชุมชน #ฟื้นฟูท้องทะเลไทย #ท่องเที่ยวดำน้ำ

 

จราจรเป็นเหตุ วิจัยชี้ใน UK เม่นแคระตายบนถนนกว่า 3 แสนตัวต่อปี! ชี้การสร้างอุโมงค์ ลูกระนาด เปลี่ยนการขับช่วยปกป้องสัตว์ได้
•
เม่นแคระ (Hedgehog) ต้องทิ้งชีวิตตัวเองไว้บนถนนในสหราชอาณาจักรมากถึง 335,000 ตัวต่อปี ทำให้พวกมันเข้าใกล้การสูญพันธุ์ไปมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งทีมนักวิจัยจาก Nottingham Trent University (NTU) แสดงถึงตัวเลขอัตราเสียชีวิตที่เพิ่มขึ้นเป็น 3 เท่าในข้อมูลปี 2016
•
นักวิจัยกล่าวว่ามาตรการต่าง ๆ เช่น การสร้างอุโมงค์และลูกระนาดที่มีไว้เพื่อชะลอความเร็วสามารถช่วยปกป้องสัตว์ได้ส่วนหนึ่ง แต่แท้จริงแล้วการจะช่วยสัตว์เหล่านี้ได้นั้นต้องขึ้นอยู่กับผู้ขับที่ต้องเปลี่ยนแปลงพฤติกรรม
•
การศึกษาได้ประเมินว่าประชากรเม่นแคระในอังกฤษ เวลส์ และสกอตแลนด์เหลือเพียงประมาณล้านตัวเท่านั้นเมื่อเทียบกับทศวรรษ 1950 ที่มีอยู่มากถึง 30 ล้านตัว
•
ถึงแม้การเปลี่ยนแปลงแปลงพฤติกรรของผู้ขับขี่จะเป็นเรื่องสำคัญ (ซึ่งเป็นเรื่องยั่งยืนที่ทำได้ยาก) วิธีการแก้ปัญหาก็เกี่ยวข้องกับมาตการที่สร้างขึ้นมาเช่นกัน แต่มาตรการดังกล่าวก็ต้องสร้างขึ้นมาในสถานที่ที่เหมาะสมใกล้กับจุดที่มีเม่นอาศัยอยู่เยอะ
•
https://www.bbc.com/news/uk-england-nottinghamshire-54524338

 

ชวนคนไทยสร้างปรากฎการณ์ "ลอยกระทงรักษ์โลก" ไร้ขยะ ใช้วัสดุเป็นมิตร เลี่ยงลดงดโฟม-โคม-ขนมปัง ไปด้วยกันลอยอันเดียว ลอยออนไลน์ เลือกลอยในแหล่งน้ำปิด
•
เทศกาลลอยกระทง คือหนึ่งในเทศกาลประจำปีของไทย กับความเชื่อที่ว่าการลอยกระทงคือการขอขมาและขอบคุณสายน้ำ ซึ่งเป็นแหล่งน้ำกินน้ำใช้ของคนทั้งประเทศ
•
แต่ทุกวันนี้ กระทงของพวกเรากำลังทำร้ายแม่น้ำและสัตว์น้ำ สวนทางกับเจตนาของประเพณีนี้อย่างสิ้นเชิง จากข้อมูลย้อนหลังของกรุงเทพมหานคร พบว่าตั้งแต่ปี 2555 เรื่อยมา ปริมาณขยะกระทงเฉพาะในกรุงเทพฯ ที่เก็บมีราวๆ เกือบ 1 ล้านใบต่อปี
•
ขยะกระทงแม้แต่วัสดุที่ย่อยสลายได้ก็ยังต้องใช้เวลานานและต้องดึงออกซิเจนจากน้ำ ทำให้มีผลต่อชีวิตสัตว์น้ำที่อาจทั้งกินเอาขยะเข้าไป หรือก็ต้องอาศัยอยู่ในน้ำที่เริ่มเน่า
•
ทั้งนี้ การจัดการเพื่อเก็บขยะตลอดทางไหลของกระแสน้ำก็ใช้ทรัพยากรมากและอาจมีการหลุดรอดของขยะไปสู่ทะเล และยังติดอยู่ตามแหล่งต่างๆที่กระแสน้ำพัดไป เช่น ทางระบายน้ำ บริเวณกอผักตบชวา ตลิ่งธรรมชาติหรือป่าโกงกางที่เป็นแหล่งเพราะพันธุ์สัตว์น้ำที่สำคัญ ซึ่งอาจเก็บได้ไม่ทั่วถึง
•
หลายปีที่ผ่านมาเริ่มมีกระแสตระหนักต่อสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้น เช่น ในปี 2561 มีกระแสการรณรงค์ 1 กระทง 1 ครอบครัว เพื่อหวังลดปริมาณขยะในแม่น้ำลำคลอง ร่วมกับการมีกระทงที่ออกแบบมาให้ย่อยสลายง่ายขึ้น เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่าโฟม
•
และมีสัญญาณดีมากขึ้นจากการรณรงค์ในปีที่ผ่านมา โดยในปี 2562 กทม.เผยยอดรวมจัดเก็บกระทงได้จำนวนทั้งสิ้น 502,024 ใบ (น้อยกว่าปี 2561 339,303 ใบ ที่มีจำนวน 841,327 ใบ) เป็นกระทงวัสดุธรรมชาติและวัสดุที่ย่อยสลายได้ 96.3% และกระทงที่ทำจากโฟม 3.7%
•
ปีนี้เรามาร่วมกันต่อ! เพื่อเป็นการลดจำนวนขยะที่จะปะปนอยู่ในแหล่งน้ำเปิด โดยเฉพาะในแม่น้ำ ลำคลอง ในงานลอยกระทงที่จะถึงในวันที่ 31 ตุลาคมนี้ จึงอยากเรียกร้องให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ และหน่วยงานรัฐ เอกชน เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับประชาชน โดยการไม่จัดการลอยกระทงในแหล่งน้ำเปิด ซึ่งเป็นต้นเหตุของการมีขยะไหลลงสู่ทะเล
•
หากเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ อยากให้คุณช่วยแชร์แคมเปญนี้กันนะ และมาร่วมกันทำให้ปีนี้ลดขยะกระทงลงได้มากที่สุดเท่าที่เราจะทำไหว พิจารณาทางเลือก ไม่ว่าจะเป็น ลดลอยกระทงโฟม เลือกลอยในแหล่งน้ำปิด ลอยออนไลน์ ใช้กระทงน้ำแข็ง กระทง 1 ใบต่อครอบครัว...และอีกหลายไอเดีย

สุขสันต์วันลอยกระทงรักษ์โลก

ร่มธรรม ขำนุรักษ์ (หวาย)

 

นักศึกษาอังกฤษคิดกรีนผุด เครื่องดักไมโครพลาสติก ที่หลุดจากยางรถยนต์! ลดมลพิษปนเปื้อนโลก-ทะเล ชนะเลิศรางวัลประกวดสุดยอดไอเดีย
•
เครื่องดักจับไมโครพลาสติกจากยางรถยนต์ที่จะช่วยลดจำนวนไมโครพลาสติกไหลลงสู่ทะเล ได้รับรางวัลชนะเลิศการประกวด ออกแบบ James Dyson Award
•
เครื่องนี้เป็นไอเดียจากกลุ่ม The Tyre Collective ที่เป็นนักเรียนปริญญาโททั้งหมด 4 คนจาก Imperial College London และ Royal College Art พวกเขาตระหนักถึงปัญหาไมโครพลาสติกจากยางรถยนต์ที่ถูกชะล้างลงสู่มหาสมุทรจึงผุดไอเดียนี้ขึ้นมา
•
ซึ่งปัญหานี้จริง ๆ แล้วเป็นเรื่องที่หลายคนควรตระหนักพอสมควรเพราะทุก ๆ ครั้งที่รถเบรค เร่ง หรือเลี้ยว ยางรถจะเสียดสีกับถนนจนชิ้นส่วนเล็ก ๆ หลุดออกมา แค่ในยุโรปอย่างเดียวก็มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ หลุดออกมา 500,000 ตันแล้วในทุก ๆ ปี จนกลายเป็นไมโครพลาสติกที่ปนเปื้อนอยู่ในท้องทะเลเป็นอันดับที่สอง รองลงมาจากไมโครพลาสติกจากพลาสติกใช้แล้วทิ้ง
•
อีกทั้งยังมีงานวิจัยจากสถาบัน Norwegian Institute for Air Research ที่เผยว่าการเสียดสีของยางรถยนต์กับถนนเป็นแหล่งที่มาชั้นดีของไมโครพลาสติกที่อยู่ในทะเล ทุก ๆ ปีไมโครพลาสติก 200,000 ตันจะหลุดออกจากยางรถยนต์ ร่องรอยไปในอากาศและไหลลงสู่ทะเล
•
อีกงานวิจัยจาก Nature Communications ระบุว่าเพื่อให้เห็นภาพ ถ้ายางรถยนต์เส้นหนึ่งมีน้ำหนักประมาณ 9 กิโลกรัม จำนวนไมโครพลาสติกที่มาจากยางไหลลงสู่ทะเลก็จะเท่ากับจำนวนยางทั้งหมด 11 ล้านเส้น
•
แต่เครื่องดักจับที่ได้รางวัลชนะเลิศไปสามารถเข้ามาบรรเทาปัญหาได้ มันจะถูกติดเข้ากับล้อรถ และทำงานผ่านการใช้แม่เหล็กกระแสไฟฟ้าเพื่อดูดเก็บเศษไมโครพลาสติกที่สึกกร่อนออกมาจากยางรถยนต์ โดยจะอาศัยการหมุนเวียนของกระแสลมที่ล้อรถเป็นตัวช่วย
•
สำหรับเครื่องดักจับนี้ ตอนนี้ยังออกมาเป็นแค่ตัวต้นแบบ แต่ผู้ออกแบบกล่าวว่ามันเป็นอุปกรณ์ชิ้นแรกของโลกที่สามารถดักไมโครพลาสติกจากยางรถยนต์ได้ 60% บนแท่นทดสอบภายใต้สภาวะแวดล้อมที่มีการควบคุมเลยทีเดียว
•
Siobhan Anderson, Hanson Cheng, M Deepak Mallya และ Hugo Richardson ทีมนักวิจัยผู้ผลิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาโทสาขา Innovation Design Engineering เล่าว่า พวกเขาสนใจประเด็นเรื่องสิ่งแวดล้อมเหมือนกัน และต้องการใช้งานออกแบบมาช่วยเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในสังคม
•
“เรื่องยางรถยนต์สึกกร่อนเป็นเรื่องที่ทุกคนรู้ แต่ไม่ค่อยมีใครนึกว่าชิ้นส่วนเหล่านี้จะไปไหน ซึ่งพวกเราตกใจมากเมื่อรู้ว่า ไมโครพลาสติกจากยางรถยนต์มีจำนวนมากเป็นอันดับสองของขยะไมโครพลาสติกที่พบในมหาสมุทร ที่ Type Collective เรานำเรื่องความยั่งยืนและการบริโภคอย่างหมุนเวียนมาใช้ในการออกแบบเพื่อดักไมโครพลาสติกที่จุดกำเนิด” Hugo Richardson สมาชิกหนึ่งในทีมกล่าว
•
เมื่อดักได้แล้ว เศษยางชิ้นเหล่านี้จะถูกรวบรวมไปรีไซเคิล หรือนำไปใช้ผลิตวัสดุทั่วไป พวกเขาเคยลองทำนามบัตรของที่ใช้หมึกทำจากเศษยางรถยนต์ นอกจากนี้ยังลองทำวัสดุอื่น ๆ อย่างเช่น วัตถุดิบสำหรับเครื่องพิมพ์สามมิติ อุปกรณ์กันเสียงรบกวน หรือแม้แต่นำไปผลิตยางรถยนต์ใหม่ ทำให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียน และการผลิตแบบวงจรปิด
•
ทว่า ปัญหาไมโครพลาสติกจากยางรถยนต์นี้จะหนักขึ้นเมื่ออังกฤษหันไปใช้รถไฟฟ้า เนื่องจากน้ำหนักรถจะมากกว่ารถยนต์ดีเซลและเบนซิน ซึ่งมีส่วนที่จะทำให้ยางรถยนต์สึกกร่อนเร็วขึ้นได้ ก็ต้องคอยดูว่าจะมีการรับมือกับปัญหานี้อย่างไรได้บ้าง
•
ที่มา

https://www.theguardian.com/environ...zmHgtMnagTaXLb-5KWJ2e_cW7iLd-4iWtCotVf4nhxzbY

งานวิจัยจากสถาบัน Norwegian Institute for Air Research
https://www.theguardian.com/environ...are-major-source-of-ocean-microplastics-study

งานวิจัยจาก Nature Communications
https://www.nature.com/articles/s41467-020-17201-9
•
ณิชากร บัวทรัพย์
Environman

 

หมู่บ้านในอังกฤษผู้คนน่ารักษ์ สร้างไฮเวย์ให้เม่นแคระ! สัญจรผ่านรู อุโมงค์ บันไดไซส์มินิ ให้น้องเดินทางปลอดภัยได้ทั่วเมือง เป็นเมืองสวรรค์ของสัตว์ป่า
•
เม่นแคระต้องการพื้นที่เพื่อสร้างอาณาเขตเพื่อหาอาหารและหาคู่ แต่การมุษย์สร้างพื้นที่สวนส่วนตัวเป็นสาเหตุที่บรรดาเหล่าเม่นแคระหายไปจากภูมิทัศน์ โดยพวกมันลดจำนวนลงไปมากถึง 90% นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่สอง
•
หมู่บ้าน Kirtlington ใน Oxfordshire เปรียบเสมือนซาฟารีขนาดย่อม เป็นบ้านของเหล่าเม่นแคระและมีทางให้สัญจรโดยเฉพาะสำหรับเม่นแคระ รูที่อยู่อาศัยของเม่นแคระกว่า 12,000 รูได้ถูกต่อเติมเส้นทางสำหรับการเดินทางของพวกมันขึ้นมา
•
ช่วงเวลาแห่งความตื่นเต้นของ Chris Powles ผู้ที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านนี้เกิดขึ้นในปี 2016 ที่เขาเห็นอุจจาระของเม่นแคระในสวนของเขา เขาจึงได้เริ่มให้อาหารพวกมันและเขาก็ตระหนักได้ว่าพวกมันต้องการที่ไปมากกว่าถนน เขาจึงได้สร้างรูขึ้นมาที่กำแพงเพื่อที่มันจะได้ไปวิ่งเล่นในสวนของเพื่อนบ้านได้
•
หลังจากนั้น 4 ปี เขาก็มีแผนที่ที่สามารถระบุได้ว่าเม่นแคระเหล่านี้อยู่ที่ไหนบ้าง และด้วยเส้นทางที่เขาสร้างมาสำหรับการอำนวยความสะดวกให้เม่นทำให้เม่นเหล่านี้สามารถเดินทางได้เป็นกิโลในเวลากลางคืนอย่างปลอดภัย
•
นอกจากจะอำนวยความสะดวกให้แก่เหล่าบรรดาเม่นแคระเหล่านี้แล้ว การติดตามพวกมันก็เป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับโครงการนี้เช่นกัน เพื่อศึกษาเรียนรู้ทำความเข้าใจกับพวกมันได้มากยิ่งขึ้น การตรวจอุจจาระก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สามารถช่วยให้มนุษย์สามารถเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่อยู่ของพวกมันได้ People’s Trust for Endangered Species (PTES)
ได้ติดกล้องดักสัตว์ 11 ตัวรอบหมู่บ้านเพื่อจับตาดูการเคลื่อนไหวของพวกมัน
•
Powles กล่าวว่า ความร่วมมือที่ติดตั้งทางสัญจรให้แก่เหล่าเม่นแคระทำให้รู้ว่าจริง ๆ แล้วนั้นคนรักสัตว์และพร้อมที่จะช่วยเหลือพวกมัน
•
PTES และ British Hedgehog Preservation Society ได้เริ่มโน้มน้าวให้คนในอังกฤษหันมาสร้างรูไว้ที่รั้วสำหรับเจ้าพวกเม่นแคระ เพื่ออนุรักษ์พวกมันไว้ไม่ให้สูญพันธุ์ ซึ่งคาดการณ์ว่าขณะนี้พวกมันลดจำนวนลงเหลือเพียงแค่ 1 ล้านตัวเท่านั้น
•
https://www.theguardian.com/environ...-village-together-kirtlington-oxfordshire-aoe

 

ฮ่องกงอนุญาตให้บริษัททัวร์ เริ่มทำทัวร์ท้องถิ่นได้ จำกัดกรุ๊ปละไม่เกิน 30 คน!

เริ่มวันศุกร์ที่ 23 ตุลาคมนี้ ฮ่องกงได้ประกาศยืดหยุ่นมาตรการ social-distancing เพิ่ม ซึ่งรวมถึงการจัดงานแต่งงานที่อนุญาตให้เชิญแขกได้ 50 คนจากเดิม 20 คน แต่ยังคงห้ามให้มีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม

รัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์และพัฒนาเศรษฐกิจ นาย Edward Yau Tang-wah ได้กล่าวว่าผู้ประกอบการท่องเที่ยวที่มีใบอนุญาต ต้องลงทะเบียนและให้คำมั่นสัญญากับสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Travel Industry Council) ในการควบคุมการติดเชื้อ โดยพวกเขาต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขต่างๆ ซึ่งรวมถึงการทำประกันสุขภาพด้วย โดยจำกัดกรุ๊ปทัวร์ละไม่เกิน 30 คน ซี่งในจำนวนนี้รวมถึงเจ้าหน้าที่ทัวร์

โปรแกรมท่องเที่ยว, ยานพาหนะ, และที่ท่องเที่ยวก็ต้องมีการควบคุมสุขลักษณะ อีกทั้งไม่อนุญาตให้มีการรับประทานอาหารและเครื่องดื่มบนรถบัส และต้องมีการใส่หน้ากากอนามัยตลอดเวลายกเว้นเวลาทานอาหาร

โดยหวังว่าการท่องเที่ยวนี้ จะช่วยเปิดโอกาสให้ชาวฮ่องกงได้ออกไปนอกบ้านเพื่อพักผ่อนบ้าง แต่ยังคงไม่สามารถเริ่มต้นได้ในสุดสัปดาห์นี้

***ติดตามอัพเดทสรุปประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงได้ที่กระทู้ปักหมุด***


Source https://www.thestandard.com.hk/brea...allowed-with-conditions,-wedding-rules-eased?

#ข่าวฮ่องกง #khaohongkong