ติดตามสถานะการณ์

รวบหนุ่มอาร์เจนตินา ลอบปลูกกัญชา กว่า 100 ต้น

 

เวียดนาม ไทยผวา พายุ ‘เปปิโต’ มาใหม่อีกลูกจ่อถล่ม ต่อจากฟิลิปปินส์
พายุเปปิโต เตรียมถล่มฟิลิปปินส์ คาดจะขึ้นฝั่งที่เกาะลูซอนในวันที่ 21-22 ต.ค. ก่อนจะมุ่งหน้าในทิศทางตะวันตกมุ่งสู่เวียดนาม และไทย ที่หลายพื้นที่กำลังประสบภัยน้ำท่วม
Source : #ไทยรัฐ #ไทยรัฐทีวี #Thairath #ThairathOnline

 

Oct 19 , 2020 ส.อ.ท.เผยอุตฯเหล็กทั่วโลกเจอโควิดกระทบหนัก โดยไทยปีนี้คาดปริมาณความต้องการติดลบ 10% จากปีก่อนอยู่ที่ 16.7 ล้านตัน ส่วนปีหน้าจะฟื้นตัวกลับมาเติบโต 4-5%
.
นายนาวา จันทนสุรคน ประธานกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย หรือ ส.อ.ท. เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด ส่งผลให้ความต้องการใช้เหล็กทั่วโลกปรับตัวลดลง โดยปีนี้คาดว่าจะอยู่ที่ 1,725 ล้านตันลดลงจากปีก่อน 2.4%
.
หากจำแนกผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยเปรียบเทียบปริมาณความต้องการใช้เหล็กปี 2563 กับปี 2562 เป็นรายประเทศ พบว่าเกือบทุกประเทศมีปริมาณความต้องการใช้เหล็กลดลง ได้แก่ อิตาลี -22% อินเดีย -20% ญี่ปุ่น -19% สหรัฐอเมริกา -16% เกาหลีใต้ -8% ยกเว้นประเทศจีน ความต้องการใช้เหล็กยังมากกว่าปีก่อนขยายตัว 8%
.
สำหรับประเทศไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 2563 มีปริมาณการบริโภคผลิตภัณฑ์เหล็ก 11 ล้านตัน ลดลง 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
.
โดยสถานการณ์ความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยในช่วงท้ายปี 2563 มีแนวโน้มปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยคาดว่าจะมีปริมาณความต้องการใช้เหล็กทั้งปี 16.7 ล้านตัน ลดลง 10% จากปี 2562 โดยผลิตภัณฑ์เหล็กทรงแบน ลดลง 11% และผลิตภัณฑ์เหล็กทรงยาว ลดลง 9%
.
สำหรับวิกฤตโควิดปีนี้ ปริมาณความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยปี 2563 ถดถอยลง 10% แต่การฟื้นตัวจะช้าและต้องใช้เวลาหลายปี โดยคาดว่าปี 2564 ปริมาณความต้องการใช้เหล็กของประเทศไทยจะปรับตัวเพิ่มขึ้นไม่มาก อยู่ที่ระดับ 4-5% หรือ 17.3- 17.5 ล้านตันเท่านั้น
.
ดังนั้นการสนับสนุนจากภาครัฐทั้งการปกป้องอุตสาหกรรมเหล็กภายใน และการส่งเสริมการใช้ผลิตภัณฑ์เหล็กที่ผลิตในประเทศ จะเป็นปัจจัยสำคัญช่วยเร่งการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเหล็กภายในประเทศให้เร็วขึ้นได้
.
นอกจากนี้ ต้องการให้ภาครัฐพิจารณาให้โครงการร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน (Public Private Partnership : PPP) ต่างๆ ส่งเสริมการใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศไทยด้วยเช่นกัน เพื่อก่อให้เกิดการจ้างงานและการหมุนเวียนเศรษฐกิจภายในประเทศ
.
#เหล็ก #สอท #ติดลบ #Covid19 #โควิด19 #Misterban

 

#หมีบุก (19 ต.ค.) เช้านี้ เกิดเหตุหมี บุกเข้าไปในศูนย์การค้า จ. อิชิคาวะ ยังไม่ยอมออกมา

เช้านี้ 7:50 น.
พบหมีที่ประตูรับสินค้าในศูนย์การค้าอาบิโอะซิตี้ คากะ จ. อิชิคาวะ—> หมีบุกเข้าไปข้างในห้าง

สั่งปิดห้างและอพยพพนักงานออกจากอาคาร (ปรกติเปิด 9:30 น.)

ในเมืองคากะ เกิดเหตุคนถูกหมีทำร้ายอย่างต่อเนื่อง
- วานซืน ชายหญิง 3 คนถูกหมีทำร้าย
- เมื่อวาน หญิง 1 คนถูกหมีทำร้าย

✒️ความรู้สึกแอดตอนอ่านข่าว
- ตอนแรกเห็นแต่คำว่า 立てこもり (บุกยึด) ... มีใครทำอะไรอีกเนี่ย

- อ่านต่อ クマ คุมะ = หมี....

(。´･ω･)ん? หืม... คุมะ クマ？

(。´･ω･)ん? หืม.... คุมะที่มี 4 ขา? 熊?

(๑･㉨･๑)

(ꐦ`•(ェ)•´)!! หมี!!!!!!

✒️หมีบุก(ꐦ`•(ェ)•´)!! ที่แท้ทรู

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #หมีญี่ปุ่น

ภาพ:

อัพเดท: น้องหมีที่บุกเข้าไปในห้างเมื่อเช้าถูกยิงตายโดยพรานของเมืองแล้วค่ะ เมื่อตอน 3 ทุ่มกว่า ๆ ที่ผ่านมา （-人-）

 

#ข่าวโอตาคุ (19 ต.ค.) คิเม็ตสึ 3 วันแรกทำรายได้ถึง 4,600 ล้านเยน (เกิน 1.3 พันล้านบาท)

หลัง คิเม็ตสึ โนะ ไยบะ หรือ #ดาบพิฆาตอสูร การ์ตูนและอนิเมยอดฮิตประจำปี ภาคหนังโรงมูฟวี่ ตอน 無限列車 (มุเก็นเร็คฉะ; รถไฟสู่นิรันดร์) เข้าฉายเมื่อวันที่ 16 ตุลาที่ผ่านมา

นอกจาก เกิดปรากฏการณ์จำนวนเปิดฉายรอบจำนวนมหาศาล โดยบางแห่งฉายถึง 40 รอบ/วัน ยังทำรายได้ไปถึง 4,600 ล้านเยนแล้ว ในเวลา 3 วัน

✒️แอดจะไปดู แถวบ้านเต็มเกลี้ยงค่ะ
✒️คนไปดูมา ในยาฮู ไม่มีใครบ่นว่าหนังไม่ดีเลย
ｵｵｫｫｫ(ﾟﾛﾟ*)(ﾟﾛﾟ*) มีแต่คนบอกว่าดีมาก ทั้งเริ่มต้นทั้งจบ โอ้ยยยยย อยากดูแล้วค่า

https://news.yahoo.co.jp/pickup/6374116

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #คิเม็ตสึ #หนังโรง

 

Oct 19 , 2020 กอนช. เตือนภัย 11 จังหวัด เสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน จากอิทธิพล ร่องมรสุม
.
กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ได้ประเมินฝนจากแผนที่คาดการณ์ปริมาณฝน (One Map) พบว่า ในช่วงวันที่ 21 - 24 ตุลาคม 2563 จะมีฝนเพิ่มขึ้นในพื้นที่ 11 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดอุทัยธานี ขัยนาท นครราชสีมา สุรินทร์ ศรีสะเกษ บุรีรัมย์ อุบลราชธานี สระแก้ว ปราจีนบุรี เพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ อาจส่งผลให้ปริมาณน้ำท่าและปริมาณน้ำในแหล่งน้ำเพิ่มสูงขึ้น โดยจากการติดตามปริมาณน้ำในแหล่งน้ำขนาดใหญ่และขนาดกลางที่มีมากกว่าร้อยละ 95 หรือเกินเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) มีความเสี่ยงปริมาณน้ำในอ่างเก็บน้ำเกินความจุ
.
โดยอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ จำนวน 5 แห่ง ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา อ่างฯ ลำตะคอง อ่างฯ ลำพระเพลิง อ่างฯ มูลบน จังหวัดนครนายก อ่างฯ ขุนด่านปราการชล และจังหวัดระยอง อ่างฯ หนองปลาไหล 2. อ่างเก็บน้ำขนาดกลาง จำนวน 77 แห่ง แบ่งเป็นภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 45 แห่ง ภาคกลาง จำนวน 3 แห่ง ภาคตะวันออก จำนวน 21 แห่ง ภาคตะวันตก จำนวน ๗ แห่ง และภาคใต้ จำนวน 1 แห่ง
.
ทั้งนี้ ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำ ดังนี้ พิจารณาบริหารจัดการน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ขนาดกลาง และขนาดเล็ก ให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ โดยเฉพาะแหล่งน้ำที่มีปริมาณน้ำมากกว่าร้อยละ 95 หรือเกินเกณฑ์ควบคุมระดับน้ำสูงสุด (Upper Rule Curve) เพื่อมิให้ส่งผลกระทบต่อพื้นที่ท้ายอ่างฯ รวมทั้งใช้พื้นที่ลุ่มต่ำเป็นแก้มลิงหน่วงน้ำและรองรับน้ำหลาก
.
พร้อมกับตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงและความสามารถใช้งานของอ่างเก็บน้ำทุกขนาด โดยเฉพาะอ่างเก็บน้ำขนาดเล็กที่ถ่ายโอนให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบดูแล รวมทั้งอาคารบังคับน้ำ ระบบชลประทานต่าง ๆ ให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพตลอดเวลา ตลอดจนสำรวจและกำจัดสิ่งกีดขวางที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำ หากมีการชำรุดเสื่อมสภาพ ขอให้เร่งซ่อมแซมบำรุงรักษา และรายงานให้ กอนช.ทราบทันที
.
ในกรณีที่มีความเสี่ยงน้ำล้นอ่างฯ หรืออาจกระทบต่อความมั่นคงโครงสร้างเขื่อน ขอให้หน่วยงานเตรียมแผนรับมือเหตุฉุกเฉิน บุคลากร รวมถึงเครื่องจักรเครื่องมือ เพื่อรับมือสถานการณ์ได้ทันที พร้อมแจ้งเตือนประชาชนที่อาจได้รับผลกระทบให้ทราบล่วงหน้า จัดเตรียมเจ้าหน้าที่ในการติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำ พร้อมด้วยเครื่องจักรเครื่องมือ และดูแลบำรุงรักษาระบบสื่อสารหลักให้สามารถใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง รวมถึงจัดเตรียมระบบสื่อสารสำรอง เพื่อบูรณาการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประชาชน
.
#11จังหวัด #เสี่ยง #น้ำท่วม #ฉับพลัน #Misterban

 

Oct 19 , 2020 ดีอีเอสเผยพบผู้เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน 324,990 เรื่อง เตือนประชาชนให้ใช้สื่ออย่างระมัดระวัง ในสถานการณ์ฉุกเฉิน
.
นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ เฝ้าติดตามมอนิเตอร์การกระทำความผิดในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ ตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 และแก้ไขเพิ่มเติม และพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ระหว่างวันที่ 13 ตุลาคม – 18 ตุลาคม 2563
.
โดยทางเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าผู้เข้าข่ายสุ่มเสี่ยงกระทำผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ทั้งหมด 324,990 เรื่อง แบ่งเป็น Twitter 75,076 เรื่อง // Facebook 245,678 เรื่อง และ Web board 4,236 เรื่อง ซึ่งรวมทั้งผู้โพสต์คนแรก และแชร์ รีทวิตข้อความที่ผิดกฎหมาย
.
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบจะเอาผิดเฉพาะผู้โพสต์คนแรก ที่นำเข้าซึ่งข้อความสู่ระบบคอมพิวเตอร์ก่อนจำนวนหนึ่ง โดยมีทั้งเป็นแกนนำกลุ่มมวลชน นักการเมืองและผู้ที่ออกมาเคลื่อนไหวในโซเชียลมีเดีย รวมถึงสื่อและเพจที่ทำการรายงานสถานการณ์ทางออนไลน์ ที่เข้าข่ายผิด พ.ร.ก.ฉุกเฉินส่วนก่อนหน้านี้ศาลได้มีคำสั่งให้ปิดกั้น เพจ Royalist Market Place หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตหรือแพลตฟอร์ม ไม่ทำการปิดกั้นภายใน 15 วัน ทางกระทรวงดีอีเอสจะดำเนินการแจ้งความต่อพนักงานสอบสวนให้เอาผิดตามมาตรา 27 แห่งพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์
.
ทั้งนี้ได้กำชับเเละมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ศูนย์เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์การชุมนุม เเละดีอีเอส พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายกฎหมาย ทยอยส่งหลักฐานที่เก็บรวบรวมได้ ส่งให้ทางกองอำนวยการร่วมแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรง (กอร.ฉ.) และเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมถึงขออำนาจศาล ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายอย่างเด็ดขาด เเละยังฝากเตือนผู้ใช้โซเชียลมีเดีย ที่จะโพสต์ข้อความหรือภาพสถานการณ์ใดๆ ต้องระมัดระวังไม่ให้ผิดต่อกฎหมาย โดยจะมีเจ้าหน้าที่ติดตามและมอนิเตอร์ ความเคลื่อนไหว การใช้โซเชียลมีเดีย รวมถึงผู้ที่ทำการแชร์ข้อมูล หรือรีทวิตข้อมูลที่ผิด พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ และ พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อดำเนินการเอาผิดทางคดีตามขั้นตอนของกฎหมายทันที
.
นอกจากนี้ได้มอบหมายให้ปลัดกระทรวงดีอีเอส แจ้งความดำเนินคดีกับผู้ที่ใช้สื่อโซเชียลมีเดียทุกแพลตฟอร์มอย่างผิดกฏหมาย ในช่วงวันที่ 14-18 ต.ค.2563 โดยเบื้องต้นได้พบผู้กระทำผิดประมาณ 300,000 URL โดยอยู่ระหว่างการตรวจสอบเพื่อระบุตัวบุคคลเพื่อดำเนินคดี
.
ทั้งนี้ขอเตือนประชาชนให้ใช้สื่ออย่างระมัดระวัง เนื่องจากในสถานการณ์ฉุกเฉินจะมีข้อจำกัดมากขึ้น โดยเฉพาะห้ามยุยง ปลุกปั่นและสร้างความแตกแยก ดังนั้นหากมีการกระทำที่เข่าข่ายก็จำเป็นต้องบังคับใช้กฏหมายอย่างเคร่งครัด เเละหลายฝ่ายได้มองว่ารัฐบาลใช้อำนาจปิดกั้นประชาชนนั้นได้ย้ำว่า ไม่ได้ดำเนินคดีกับทุกคน หากไม่เข้าข่ายความผิดหรือข้อกฏหมาย ก็ไม่ได้ดำเนินคดี ยืนยันไม่ได้ละเมิดสิทธิอย่างแน่นอน
.
#ดีอีเอส #ผิด #ชุมนุม #ประท้วง #Misterban

 

Oct 19 , 2020 ‘อนุทิน ชาญวีรกูล’เผยไทยเตรียมทดสอบวัคซีนต้านโควิดในมนุษย์ระยะที่ 1 ไตรมาส 1/2564
.
นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข แถลงความคืบหน้าการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ของประชาชนไทยว่า "ทีมประเทศไทย" กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน ได้ร่วมกันเร่งรัดการจัดหาวัคซีนโควิด 19 ใน 3 แนวทาง เพื่อให้มั่นใจว่าเมื่อมีการพัฒนาวัคซีนโควิด 19 สำเร็จแล้วประเทศไทยจะมีวัคซีนใช้ในเวลาใกล้เคียงกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลก
.
โดยการดำเนินงานมีความก้าวหน้าตามลำดับ ทั้งการจัดหาวัคซีนโควิด 19 โดยการจองล่วงหน้าผ่าน COVAX Facility และการตกลงแบบทวิภาคี (Bilateral Agreement), การเจรจาขอความร่วมมือรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด 19 จากต่างประเทศ และการพัฒนาวัคซีนเองในประเทศ
.
และกระทรวงสาธารณสุขได้ส่งหนังสือแสดงเจตนารมณ์เข้าร่วมใน COVAX facility (Expression of Interest)และมอบหมายให้สถาบันวัคซีนแห่งชาติร่วมกับกรมควบคุมโรค กองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อและบริหารจัดการวัคซีนในประเทศ เร่งประสานความร่วมมือเพื่อให้ประเทศสามารถเข้าถึงวัคซีนโควิด 19 ได้ รวมทั้งได้เจรจาความร่วมมือแบบทวิภาคีกับผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบวัคซีนในคนระยะที่ 3 ทั้งในเอเชียและยุโรป ซึ่งได้ดำเนินการไปพร้อมกับการเจรจาแบบกลุ่ม เพื่อเพิ่มโอกาสการเข้าถึงวัคซีนของประชาชนไทยมากยิ่งขึ้น
.
ความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุข สยามไบโอไซเอนซ์ เอสซีจี และแอสตราเซนเนกา ในการลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนง (Letter of Intent) ในการผลิตและจัดสรรวัคซีนวิจัยป้องกันโควิด 19 ชนิด Adenoviral vector (AZD1222) ที่พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยอ๊อกซฟอร์ด เมื่อวันที่ 15 ต.ค.2563 นอกจากนี้ ในการเจรจาตกลงแบบทวิภาคีได้ครอบคลุมถึงการเจรจาเพื่อขอรับการถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิตวัคซีนโควิด 19 จากผู้ผลิตวัคซีนที่กำลังทดสอบวัคซีนในคนระยะที่ 3 และวัคซีนมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จทั้งในเอเชียและยุโรป เพื่อให้ประเทศมีสิทธิ์เข้าถึงวัคซีนได้เร็วขึ้น หากการพัฒนาวัคซีนนั้นประสบความสำเร็จ
.
สำหรับการพัฒนาวัคซีนเองในประเทศไทย ซึ่งมีทั้งหมด 7 เทคโนโลยีการผลิต ได้แก่ mRNA, DNA, Viral-like particle (VLP), Protein Subunit, Viral vector, Inactivated และ Live attenuated จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด 9 หน่วยงาน ทั้งภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ เอกชน และมหาวิทยาลัย โดยการวิจัยที่มีความก้าวหน้ามากที่สุด และอยู่ระหว่างเตรียมเข้าสู่การทดสอบในมนุษย์ระยะที่ 1 มี 3 เทคโนโลยีการผลิต ได้แก่ วัคซีนชนิด mRNA ซึ่งพัฒนาโดยศูนย์เชี่ยวชาญเฉพาะทางการวิจัยและพัฒนาวัคซีน คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย,
.
วัคซีนชนิด DNA โดยบริษัท ไบโอเนท-เอเซีย จำกัด และวัคซีนที่ใช้เทคโนโลยีการสกัดโปรตีนจากพืช (Plant based) โดยคณะเภสัชศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และบริษัท ใบยาไฟโตฟาร์ม จำกัด ซึ่งผู้วิจัยได้หารือกับหน่วยงานด้านควบคุมกำกับคุณภาพวัคซีนของประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้การพัฒนาวัคซีนโควิด 19 อยู่บนกฎเกณฑ์ที่เป็นไปตามมาตรฐานสากล และอยู่ระหว่างการแสวงหาความร่วมมือหรือพัฒนาศักยภาพในด้านการขยายขนาดการผลิต (scale up pilot plant) เพื่อทำการผลิตวัคซีนต้นแบบสำหรับทดสอบในมนุษย์ตามแผนที่วางไว้ ในไตรมาส 1/64
.
สำหรับการเตรียมการนำวัคซีนมาให้บริการ กรมควบคุมโรคอยู่ระหว่างติดตามผลการวิจัยวัคซีนแต่ละชนิด เพื่อทราบข้อบ่งใช้ ประสิทธิภาพ ข้อควรระวัง เมื่อมีวัคซีนที่วิจัยสำเร็จพร้อมจำหน่าย จะเสนอให้สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) พิจารณารับรอง และเตรียมคำของบประมาณสำหรับจัดหาวัคซีน
.
#วัคซีน #ต้านโควิด #ไตรมาส1 #ปี2564 #Misterban

 

#กลิ่นแก๊ส ผลการวิเคราะห์กลิ่นแก๊สในหลายพื้นที่ของ จ. คานางาวะ และล่าสุดเกิดที่เมืองโยโกฮามะ

เกิดตั้งแต่มิถุนายนของปีนี้ เริ่มตั้งแต่เมืองมิอุระ มา เมืองโยโกซึกะ และเมือง โยโกฮามะ

ผลการพิสูจน์อากาศพบว่ามีสารประกอบของ

ไอโซเพนเทน > ปรกติ 7 เท่า
เพนเทน > ปรกติ 10 เท่า
บิวเทน > ปรกติ 14 เท่า

ทั้ง 3 อันข้างต้นไม่เป็นอันตรายต่อร่างกาย ปรกติใส่เพื่อให้คนรับรู้กลิ่นแก๊ส

⚠️แต่มี เบนซิน อยู่ด้วย อันนี้ อาจก่อให้เกิดมะเร็งได้ ณ ตอนนี้ค่าที่ออกมา ยังไม่ถึงขั้นเป็นพิษต่อร่างกายตามมาตรฐานสิ่งแวดล้อม

ที่กังวลกันว่าน่าจะเป็นสิ่งเตือนของแผ่นดินไหวใหญ่ ทางผู้เชี่ยวชาญออกมาบอกว่าตำแหน่งที่เกิดกับจุดของรอยเลื่อนแผ่นดินไหวนั้นไม่ตรงกัน

ณ ตอนนี้มีสมมุติฐานว่าอาจจะเกิดจากมนุษย์มากกว่าธรรมชาติ เช่น จากกระบวนการผลิตน้ำมัน เป็นต้น

✒️ยังคงต้องหาสาเหตุกันต่อนะคะ

#กิ๊ฟจังนั่งเล่า #ข่าวญี่ปุ่น #กลิ่นแก๊ส #คานางาวะ

 

สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอแจ้งเปิดให้บริการการลงทะเบียนทำหนังสือเดินทางออนไลน์ ประจำเดือน พฤศจิกายน 2563

ตามลิ้งค์ลงทะเบียนด้านล่างนี้
https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSeGvkG2Eoe8d0FVNxxH5GL9HbXFUgysVTtK9XLs_4rYKqPXxQ/viewform

โปรดสวมหน้ากากอนามัยเมื่อมาใช้บริการ ทั้งนี้ เพื่อลดความหนาแน่นในห้องรับเรื่อง และลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (COVID-19)
ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ ที่นี้ ด้วย
- การนัดหมายทางอีเมล์ rtetokyo2020.consular@gmail.com เฉพาะผู้ที่ประสงค์จะรับบริการด้านนิติกรณ์ ทะเบียนราษฎร และบัตรประชาชน
เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สถานเอกอัครราชทูตฯ ขอความร่วมมือผู้มาขอรับบริการปฏิบัติตามมาตรการต่าง ๆ อย่างเคร่งครัด ดังนี้
- ขอให้สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าตลอดช่วงเวลาที่ขอรับบริการ
- เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยจะตรวจวัดอุณหภูมิผู้มาติดต่อ และขอสงวนสิทธิงดให้บริการผู้ที่มีอุณหภูมิร่างกายสูงเกินกว่า 37.5 องศาเซลเซียส หรือมีอาการน่าสงสัย
- ขอให้ผู้ที่จะขอรับบริการเท่านั้นเข้ามาในบริเวณฝ่ายกงสุล โดยไม่อนุญาตให้นำผู้ที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามาในพื้นที่
- โปรดใช้เจลแอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อซึ่งจัดเตรียมไว้ที่เคาน์เตอร์ให้บริการ ทำความสะอาดมือและข้อมือ
- ขอให้ผู้ที่มีอาการป่วยและมีไข้ หรือหายใจไม่สะดวก งดการเดินทางไปรับบริการ
——————————————————————
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางกับสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากาโปรดนัดหมายที่
โทร :06-6262-9226, 06-6262-9227
อีเมล์: rtcgosaka.consularsection@gmail.com
Facebook: สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา
——————————————————————
สำหรับผู้ที่ประสงค์จะทำหนังสือเดินทางกับสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ โปรดนัดหมายที่
โทร : 092-739-9090
อีเมล์ : consular.FUK@mfa.mail.go.th
Facebook: สถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟูกูโอกะ
(* ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ http://site.thaiembassy.jp )

 

"ผมทำให้คนอีกแปดคนต้องมาติดเชื้อโควิด-19 ไปด้วย"

 

Bubble แรกของอาเซียน
สิงคโปร์เตรียมเปิดเดินทางกับ “ฮ่องกง”
หวัง “ภาคการบิน” ฟื้น
.
.
ออง ยี กัง รมว.คมนาคมสิงคโปร์ ให้สัมภาษณ์สำนักข่าว South China Morning Post ส่งสัญญาณว่าอาจเปิดให้ผู้ที่เดินทางจากฮ่องกงเข้าประเทศได้ โดยไม่ต้องกักตัว 14 วัน และฮ่องกง ก็จะเปิดให้สามารถเดินทางจากสิงคโปร์ เข้าไปยังฮ่องกงได้เช่นกัน โดยอองระบุว่า กำลังเข้าสู่การเจรจาขั้นสุดท้าย และเป็นไปได้สูงที่จะเปิดการเดินทางกับสิงคโปร์เร็วๆ นี้ โดยมีจุดประสงค์สำคัญคือเพื่อพยุงธุรกิจการบินที่ซบเซามานานกว่า 7 เดือน และหวังว่าการ Bubble จะช่วยให้สนามบินซึ่งเคยเป็น “ฮับ” ของภูมิภาคอย่างสนามบินชางงี และสายการบินแห่งชาติอย่างสิงคโปร์แอร์ไลน์ พอที่จะลืมตาอ้าปากได้บ้าง ทั้งนี้ สถิติที่ผ่านมา มีผู้ที่เดินทางจากฮ่องกง เข้ามายังสิงคโปร์กว่า 4 แสนคนต่อปี
.
หลายประเทศทั่วโลกพยายามเปิด Bubble ระหว่างกัน มานานหลายเดือน แต่จากสถิติการระบาด ที่ยังมีตัวเลขผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้น ระลอกที่ 2 ระลอกที่ 3 ทำให้แผนถูกพับบ่อยครั้ง และเมื่อมี “กำแพง” ว่าด้วยการต้องกักตัว 14 วัน ก็ทำให้การเดินทางทางอากาศยังคงชะงักงัน สำทับด้วยความ “ไม่ไว้ใจ” ในมาตรการการตรวจเชื้อของแต่ละประเทศ ที่หลายครั้ง ตรวจไม่เจอในประเทศต้นทาง แต่กลับเจอเชื้อในประเทศปลายทาง
.
อย่างไรก็ตาม รมว.คมนาคมสิงคโปร์ ยืนยันว่า Bubble กับฮ่องกงจะเป็นไปอย่าง “ระมัดระวัง” จะมีการจำกัด “โควตา” ของผู้ที่เดินทางเข้าประเทศ, จะต้องมีการตรวจเชื้อที่ได้มาตรฐานจากต้นทางอย่างฮ่องกง โดยจะนำร่องจากฮ่องกงเท่านั้น ยังไม่มีประเทศอื่นอยู่ในลิสต์
.
นอกจากนี้ ออง ยังระบุว่า สนามบินชางงี ฮับสำคัญของภูมิภาค จะเลื่อนการเปิดให้บริการอาคารผู้โดยสารใหม่ หรือเทอร์มินัล 5 ออกไปอีกอย่างน้อย 2 ปี เพราะดีมานด์การบินขณะนี้ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยหากเทอร์มินัลใหม่เสร็จ สนามบินชางงี จะมีขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเพิ่ม จาก 85 ล้านคน เป็น 140 ล้านคน ต่อปี .
.
ตลอด 6 เดือนที่ผ่านมา สนามบินชางงี ให้บริการผู้โดยสารเพียงแค่ 1.5% จากจำนวนผู้โดยสารปกติ และมีไฟลท์บินเพียง 6% จากไฟลท์บินปกติต่อเดือนเช่นกัน
.
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศประเมินว่า 11.8% ของ GDP สิงคโปร์ มาจากการเดินทางทางอากาศ ทั้งจากธุรกิจการบิน สนามบิน และนักท่องเที่ยว เพราะฉะนั้น รมว.คมนาคม จึงยืนกรานว่าทางเดียวที่จะทำให้เศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง ก็คือต้องเริ่มเปิดชายแดน ให้การค้า การลงทุน และการเดินทาง กลับมาเติมเต็มระบบเศรษฐกิจที่ซบเซาอีกครั้ง
.
ก่อนหน้านี้ สิงคโปร์เปิด “กรีนเลน” ให้นักธุรกิจจากบรูไน จีน มาเลเซีย และเกาหลีใต้ เข้าประเทศได้แล้ว แต่ยังมีกำแพงใหญ่คือเรื่องของการกำหนดพื้นที่เดินทาง และยังต้องแจ้งทางการว่าจะเดินทางไปไหนบ้าง ซึ่งทำให้ยังไม่ “เปรี้ยง” มากนัก นอกจากนี้ รมว.คมนาคมสิงคโปร์ ยังมีแนวคิดเปิดการเดินทาง “ฝ่ายเดียว” ไม่ต้องเจรจา Bubble โดยก่อนหน้านี้ เปิดไปแล้วกับนิวซีแลนด์ บรูไน ออสเตรเลีย และเวียดนาม แม้ประเทศเหล่านี้ จะยังเข้มงวดกับการให้คนจาสิงคโปร์ หรือให้พลเมืองของตัวเองที่เดินทางจากประเทศอื่น เข้าประเทศก็ตาม
.
รมว.คมนาคมสิงคโปร์ บอกว่า “ทัศนคติ” สำคัญของการเป็น “ฮับ” ก็คือต้องเปิดกว้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับสิงคโปร์ ที่ไม่ได้มีตลาดในประเทศขนาดใหญ่เท่าไหร่ จากประชากรเพียง 5.7 ล้านคน เพราะฉะนั้น การเปิดประเทศ แม้เพียงฝ่ายเดียว ก็แสดงให้เห็นว่าสิงคโปร์นั้น “ใจกว้าง” พอ และถือเป็นการ “เชิญชวน” ให้ประเทศเหล่านั้น หันมาโฟกัสที่สิงคโปร์เป็นประเทศแรกๆ เมื่อใดก็ตามที่พวกเขา “พร้อม” ที่จะรับนักท่องเที่ยว
.
ปัจจุบันสิงคโปร์มีผู้ติดเชื้อรวม 5.78 หมื่นคน เป็นลำดับที่ 57 ของโลก อย่างไรก็ตาม มีผู้เสียีชีวิตเพียง 27 คนเท่านั้น โดย ณ ขณะนี้ ตั้งแต่ผ่านเดือน ต.ค. เป็นต้นมา สิงคโปร์ยังคงพบผู้ติดเชื้อใหม่ อยู่ที่ราววันละ 10 – 20 คน ซึ่งนับว่าดีขึ้นมาก จากที่เคยพบวันละหลายร้อยคน จากแคมป์แรงงานข้ามชาติก่อนหน้านี้
.
สำหรับประเทศไทย มีข้อเสนอจาก ศุภวุฒิ สายเชื้อ นักการเงินชื่อดัง และสมาชิกกลุ่มแคร์ สร้างระบบให้ ผู้ช่วยทูตพาณิชย์ ผู้ช่วยทูตแรงงาน เจรจากับประเทศต้นทาง เพื่ออำนวยความสะดวก และตรวจสอบมาตรฐานให้กับนักเดินทาง - นักท่องเที่ยว - นักธุรกิจที่จะเดินทางมาไทย กล่าวคือ หากมีนักท่องเที่ยวต้องการเดินทางเข้าไทย ก็ให้ “เทสต์” ที่ประเทศต้นทางล่วงหน้า 14 วัน โดยมีผู้ช่วยทูต หรือมีเจ้าหน้าที่สถานทูตดูแลกระบวนการเทสต์ให้มีมาตรฐาน หากเทสต์แล้วไม่มีเชื้อ ก็สามารถเข้าไทย โดยไม่ต้องกักตัว หรืออาจเทสต์อีกครั้ง 7 วัน และอีก 1 วันก่อนเดินทาง แล้วให้เข้าประเทศไทยได้ โดยไม่ต้องกักตัวอีก เพื่อฟื้นภาคการท่องเที่ยว – อุตสาหกรรมการบินอีกครั้ง
.
หากระบบนี้เป็นไปได้ ก็อาจทำได้ทั้งกับประเทศที่ไทย “พึ่งพา” นักท่องเที่ยวมากๆ อย่างจีน หรือประเทศอื่นๆ ในอาเซียนที่เป็นนักท่องเที่ยวหลัก เพื่อกำจัดกำแพงกักตัว 14 วันออกไป
.
แต่รัฐบาลไทย ดูเหมือนยังยืนกรานว่าในระยะนี้ การพึ่งพาเฉพาะนักท่องเที่ยวที่มีวีซ่าพำนักระยะยาว และให้กักตัวก่อนหน้านั้นเพียงพอแล้ว.. และเมื่อประเมินสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด– 19 ในประเทศอื่นทั่วโลก ยังได้ไม่คุ้มเสีย ทำให้การเจรจา Bubble กับฮ่องกง อย่างที่มีข่าวก่อนหน้านี้ เกาหลีใต้ จีน หรือ ญี่ปุ่น ยังคงดูเลือนราง..

#COVID19 #โควิด19 #ฮ่องกง #สิงคโปร์ #TravelBubble

อ้างอิงจาก

https://www.scmp.com/week-asia/econ...-closer-hong-kong-air-travel-bubble-considers

 

เศรษฐกิจจีนฟื้นตัว GDP ไตรมาส 3 โต 4.9% จากแรงขับเคลื่อนการลงทุน-ส่งออก
.
รายงานเรื่องผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ของจีนในไตรมาสที่ 3 (กรกฎาคม-กันยายน) ของปี 2020 ที่ทางสำนักงานสถิติแห่งชาติของจีนได้เผยแพร่เมื่อวันที่ 19 ตุลาคมนั้นระบุว่า GDP ของจีนได้เติบโตขึ้น 4.9% เมื่อไม่รวมผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงราคา
.
จากการคำนวณเบื้องต้น GDP ของจีนในสามไตรมาสแรกอยู่ที่ 72,278,600 ล้านบาท ซึ่งขยายตัวขึ้น 0.7% เมื่อคำนวณจากราคาเทียบเคียงในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หากพิจารณาแต่ละช่วงไตรมาสนั้น GDP ของจีนในไตรมาสแรกลดลง 6.8% ไตรมาส 2 เพิ่มขึ้น 3.2% และไตรมาส 3 เพิ่มขึ้น 4.9% ทั้งนี้ ด้วยแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนและการส่งออก ทำให้อัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2
.
เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ แล้ว ประเทศจีนกำลังเข้าสู่สภาวะปกติในด้านเศรษฐกิจเป็นประเทศแรกๆ ซึ่งเศรษฐกิจของจีนก็กำลังเติบโตไปอย่างรวดเร็วอีกด้วย
.
#GDPจีน #เศรษฐกิจจีน #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

 

Tesla เซ็นสัญญาลงหลักปักฐานที่ไหหลำ ตั้งศูนย์-วางผังสถานีชาร์จไฟรอบเกาะ
.
เมื่อวันที่ 13 ต.ค. ท่าเรือการค้าเสรีไห่หนานจัดพิธีเซ็นสัญญาหมู่โครงการสำคัญ รวมแล้วมีโครงการที่ลงหลักที่ไห่หนาน 46 โครงการ ยอดเงินลงทุน 17,000 ล้านหยวน (ราว 78,732 ล้านบาท) ซึ่งเป็นการลงทุนหลักๆ ในด้านการก่อสร้างท่าเรือการค้าเสรี การพัฒนาอุตสาหกรรม การบริการสาธารณะเพื่อมวลชน ฯลฯ ในจำนวนนี้ Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติอเมริกัน เซ็นสัญญาลงหลักปักฐานที่ไห่หนาน จัดตั้งโครงการศูนย์นวัตกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ และดำเนินการวางผังสถานีชาร์จไฟ Supercharger รอบเกาะ
.
โครงการศูนย์นวัตกรรมรถยนต์พลังงานใหม่ของ Tesla ในไห่หนาน ได้แก่ การพัฒนาแบตเตอรี่ อุปกรณ์กักเก็บพลังงาน รวมถึงการวิจัยและพัฒนาทางเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ของรถยนต์ไฟฟ้า ทั้งนี้ ไห่หนานหวังจะกลายเป็นหนึ่งในพื้นที่วางผังสำคัญของระบบวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์พลังงานใหม่ทั่วโลกของ Tesla
.
ภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Tesla_electric_cars_lineup_DCA_08_2018_0282.jpg
.
#Tesla #รถยนต์ไฟฟ้า #การค้าเสรี #ไห่หนาน #ไหหลำ #ChinaStory #เรื่องจีนจีน

 

อพยพด่วน! เมืองปักธงชัย จ่อจมบาดาล มวลน้ำล้อมเมืองเเล้ว

ภาพถ่ายมุมสูงของเขตเมืองปักธงชัย วันนี้ 19 ต.ค. 63 มวลน้ำจากเขื่อนลำพระเพลิงได้ไหลผ่านมาถึงตัวเมือง ทำให้เริ่มมีน้ำล้นตลิ่งเข้าท่วมหลายพื้นที่เเล้ว ซึ่งมวลน้ำยังคงไหลมาต่อเนื่อง ขอให้เร่งขนย้ายทรัพย์สินเเละอพยพมาอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย

เครดิตภาพ : ทีมปักธงชัย 304

 

จับอีกพม่าเข้าเมือง แพ็กกระเป๋ายัดถุงดำ คาดลอยคอข้ามเมยขึ้นฝั่งแม่สอด
.
ตาก 19 ต.ค.- จนท.คุมเข้มหลังปิดด่านฯ แม่สอด..จับพม่าแพกกระเป๋ายัดถุงดำตัวเปียกโชก คาดลอบข้ามน้ำเมยขึ้นฝั่งแม่สอด ขณะที่ตัวเมืองชายแดนเงียบเหงาหลังเจอชาวพม่าติดโควิด 5 รายรวด แม้ ร.ร.เทศบาลฯ เปิดแต่พ่อแม่ไม่กล้าพาลูกไปเรียน
.
ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา (18-19 ต.ค.) ทหารหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 4 ตำรวจ สภ.แม่สอด กองร้อย อส.แม่สอด ที่ 3 พร้อมชุดสายตรวจกำนันตำบลแม่ตาว ยังคงสนธิกำลังตั้งจุดตรวจบนถนนเลียบแนวแม่น้ำเมย และออกเดินเท้าตรวจในพื้นที่ล่อแหลมท่ามกลางฝนตก
.
ต่อมาเจ้าหน้าที่พบรถสามล้อเครื่องต้องสงสัยขับออกจากถนนเลียบแม่น้ำเมย ใกล้แนวชายแดนไทย-พม่า จึงรีบออกติดตามสกัดได้บริเวณถนนทางเข้าบ้านแม่ตาว-บ้านไร่ และควบคุมตัวนายกำหม่า ไม่มีนามสกุล อายุ 35 ปี คนขับสามล้อ พร้อมชาวพม่าไม่มีเอกสารเข้าเมืองที่นั่งมาด้วยอีก 3 คน
.
โดยพบว่าชาวพม่าทั้ง 3 อยู่ในสภาพเสื้อผ้าเปียกน้ำ และมีกระเป๋าสัมภาระใส่ในถุงดำป้องกันน้ำเข้าอย่างดี คาดว่าได้ลักลอบข้ามน้ำเมยจากฝั่งพม่าเข้ามา หลังจากจังหวัดตากประกาศปิดด่านพรมแดนถาวรแม่สอด-ท่าข้ามธรรมชาติตลอดแนวป้องกันโควิด-19 เป็นการชั่วคราวเป็นเวลา 7 วัน เริ่มตั้งแต่บ่ายวานนี้ (18 ต.ค.)
.
จากการสอบสวนชาวพม่าทั้ง 3 คนให้การเบื้องต้นว่า ข้ามแนวชายแดนช่วงกลางคืนและว่าจ้างคนขับรถสามล้อให้ขับรถไปส่งในตัวเมืองแม่สอดและมีแผนจะเดินทางต่อไปที่กรุงเทพฯ แต่มาถูกจับกุมตัวเสียก่อน เจ้าหน้าที่จึงคุมตัวทั้งหมดไปทำการตรวจคัดกรองโควิด-19 พร้อมส่งตัวดำเนินคดี
.
ขณะเดียวกัน ช่วงเช้าที่ผ่านมาโรงเรียนในพื้นที่สุ่มเสี่ยงและเป็นโรงเรียนขนาดใหญ่รอบตัวเมืองแม่สอดได้มีการติดป้ายประกาศหยุดทำการเรียนการสอนชั่วคราวเพื่อป้องกันการเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียนเข้าตัวเมืองแม่สอด ส่วนโรงเรียนในสังกัดเขตเทศบาลนครแม่สอด 5 แห่งซึ่งตั้งอยู่ย่านใจกลางอำเภอแม่สอด ได้เริ่มเปิดการสอนอีกครั้ง เนื่องจากจังหวัดตากยังไม่มีคำสั่งให้ปิด แต่ก็มีนักเรียนบางตา บางห้องมีเหลือนักเรียนเพียงไม่กี่คน จนทำให้ผู้ปกครองที่ไม่มั่นใจในสถานการณ์ต่างเร่งรีบขับรถมารับตัวบุตรหลานของตนเองออกจากโรงเรียนแล้วรีบเดินทางกลับบ้านโดยทันที คงเหลือเพียงครูประจำชั้นที่นั่งเฝ้าห้องเรียนอยู่
.
ส่วนสถานการณ์โควิด-19 ในชุมชนกลุ่มเสี่ยง หลังจากนายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผวจ.ตาก ได้ประกาศสั่งล็อกดาวน์เขตมัสยิดมะดีนะฮ์ ชุมชนถุงทอง เพราะพบครอบครัวชาวพม่าติดเชื้อโควิด-19 จำนวน 5 ราย ล่าสุดขณะนี้มีการปิดทางเข้าออกชุมชนถุงทองทั้งหมด 6 จุด ห้ามคนในชุมชนทั้ง 650 หลังคาเรือนออกนอกชุมชน และห้ามคนนอกเข้า โดยมีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอแม่สอดนำกำลังไปรักษาความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง.

 

วันนี้ ทางรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก เกี่ยวกับการระบาดของเชื้อโควิด-19 ทั่วโลก และนโยบายการเปิดรับนักท่องเที่ยวที่อาจเกิดขึ้นของรัฐบาลไทย โดยระบุว่า
...

สถานการณ์ทั่วโลก 19 ตุลาคม 2563 ทะลุ 40 ล้านคนไปแล้ว ตั้งแต่เมื่อวานนี้ตอนบ่ายๆ คาดว่าจะเกิน 50 ล้านคน ภายในเดือนพฤศจิกายน
.
เมื่อวานติดเพิ่ม 306,510 ราย รวมแล้วตอนนี้ 40,241,364 ราย ตายเพิ่มอีก 3,674 ราย ยอดตายรวม 1,117,814 คน อเมริกา ติดเพิ่ม 45,298 ราย รวม 8,385,541 ราย อินเดีย ติดเพิ่ม 55,035 ราย รวม 7,547,762 ราย บราซิล ติดเพิ่ม 10,982 ราย รวม 5,235,344 ราย รัสเซีย ติดเพิ่ม 15,099 ราย รวม 1,399,334 ราย
.
อันดับ 5-10 ตอนนี้เป็น อาร์เจนตินา สเปน โคลอมเบีย ฝรั่งเศส เปรู และเม็กซิโก ติดกันหลักพัน ถึงหลายหมื่นต่อวัน ฝรั่งเศสยังน่าเป็นห่วงมาก ติดเพิ่มสูงถึง 29,837 ราย ตอนนี้ยอดรวม 897,034 ราย อัตราเสียชีวิต 3.7% คาดว่า จะมีการติดเชื้อสะสมเกินหนึ่งล้านรายภายในสัปดาห์นี้ ในกลุ่มท็อปเทนนี้ เม็กซิโกมีอัตราตายสูงสุด 10.2%
.
สหราชอาณาจักร อิตาลี เยอรมัน เนเธอร์แลนด์ แอฟริกาใต้ แคนาดา รวมถึงอิหร่าน บังคลาเทศ ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และเมียนมาร์ ติดกันเพิ่มหลักพัน ถึงหลักหมื่น อัตราเสียชีวิตในปัจจุบัน อิตาลี 8.8% สหราชอาณาจักร 6% แคนาดา 4.9% อินโดนีเซีย 3.5% เนเธอร์แลนด์ 3% เยอรมัน 2.7% ฟิลิปปินส์ 1.9% บังคลาเทศ 1.5% หลายต่อหลายประเทศในยุโรป ก็ยังติดกันหลักร้อยถึงหลักพัน
.
ญี่ปุ่น และมาเลเซีย ติดเพิ่มกันหลายร้อย ส่วนจีน และเกาหลีใต้ ติดเพิ่มกันหลักสิบ ในขณะที่สิงคโปร์ ฮ่องกง เวียดนาม นิวซีแลนด์ และออสเตรเลีย ยังมีติดเพิ่มต่ำกว่าสิบ
.
วิเคราะห์สถานการณ์ของมาเลเซีย ติดไปถึง 871 รายในวันเดียว เป็นสถิติเกินแปดร้อยต่อเนื่องกันเป็นวันที่สอง ระลอกนี้สูงกว่าระลอกก่อนถึงเกือบ 3 เท่า ส่วนสถานการณ์ในเมียนมายังรุนแรง ติดเพิ่มอีก 1,150 ราย เสียชีวิตเพิ่มอีก 42 ราย ตอนนี้ยอดรวม 36,025 ราย เสียชีวิตไป 880 ราย อัตราตายตอนนี้ 2.4%
.
ในส่วน การระบาดทั่วโลกของ โควิด-19 รุนแรงขึ้นอย่างมาก จาก 10 ล้านไป 20 ล้าน ใช้เวลา 43.5 วัน จาก 20 ล้านไป 30 ล้าน ใช้เวลา 37.5 วัน และล่าสุด จาก 30 ล้านไป 40 ล้าน ใช้เวลาเพียง 33.5 วัน จะสังเกตว่าเร็วขึ้นเรื่อยๆ
.
หากรัฐบาลไทยคิดจะประคับประคองให้ประเทศไทยเรารอดจากการระบาดซ้ำ สิ่งที่ท่านควรคิดทำ ณ เวลานี้มีอย่างเดียวครับ นั่นคือ “ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อประกาศเลื่อนมาตรการรับนักท่องเที่ยวต่างชาติไปก่อนจนถึงอย่างน้อยต้นมีนาคม 2564” แต่หากเลือกที่จะรับ ก็คงต้องเตรียมตัวเผชิญกับเส้นทางสู่การระบาดซ้ำที่เป็น “The train with no return” และจะเกิดผลกระทบวงกว้างได้ ทรัพยากรที่มีอาจยืนหยัดต่อสู้ได้ไม่นาน และการฟื้นฟูเศรษฐกิจครั้งถัดไปอาจยากลำบากมากครับ

-------------------------------
แหล่งข่าว



https://www.thaipost.net/main/detail/81067
-------------------------------
ติดตามข้อมูลข่าวสาร รู้ไทย รู้โลก กับ Thailand Vision ได้ที่
Website : http://www.thailandvision.co
Facebook : https://www.facebook.com/thvi5ion
Twitter : https://twitter.com/Thailand_vision
Youtube : https://www.youtube.com/c/Thailandvision

 

#News1feed : ปราจีนบุรี ก็ไม่รอด ! น้ำจากแควพระปรง เริ่มเอ่อนล้นเข้าท่วมพื้นที่หลายตำบลในเขต อ.กบินทร์บุรี หลังมีฝนตกต่อเนื่อง ขณะที่ปริมาณน้ำในแควหนุมานและแม่น้ำปราจีนบุรี มีระดับสูงขึ้นต่อเนื่อง

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000106609
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

#News1feed : ระดับน้ำในแม่น้ำมูลและลำน้ำมูลน้อย เทศบาลนคร จ.อุบลราชธานี ล้นตลิ่งไหลท่วม 2 ชุมชน อพยพเพิ่มเป็น 13 ครอบครัว วอนเทศบาลฯ จัดรถสุขาเคลื่อนที่และถังน้ำบรรจุน้ำสะอาดเพิ่มเพราะไม่เพียงพอ

อ่านต่อ..https://news1live.com/detail/9630000106412
............................................
● อีกช่องทางติดตาม NEWS1
Line : http://nav.cx/4tvbDJ8
Youtube : youtube.com/c/NEWS1VDO

 

โตชิบา คอร์เปอเรชันได้ประกาศแผนการที่จะนำเทคโนโลยีการสื่อสารด้วยการเข้ารหัสเชิงควอนตัมของตนไปใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ภายในปีงบประมาณ 2564 เพื่อปกป้องข้อมูลในญี่ปุ่นและประเทศอื่น ๆ

เทคโนโลยีนี้ได้รับการขนานนามว่าเป็นการแจกจ่ายกุญแจเข้ารหัสเชิงควอนตัม แม้แต่ควอนตัมคอมพิวเตอร์ที่สามารถแก้ปัญหาได้เร็วกว่าซูเปอร์คอมพิวเตอร์มากก็ไม่สามารถถอดรหัสได้

โตชิบาได้รับคำสั่งซื้อแล้วจากรัฐบาลญี่ปุ่นเพื่อให้ปกป้องเครือข่ายการสื่อสารของรัฐบาล ถือเป็นโครงการเชิงพาณิชย์โครงการแรกในญี่ปุ่น

ส่วนในต่างประเทศ ทางบริษัทได้จัดตั้งหุ้นส่วนร่วมกับบีที บริษัทโทรคมนาคมของอังกฤษ และกับบริษัทเวอริซอน คอมมูนิเคชันส์ของสหรัฐ

ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกกำลังขับเคี่ยวกันในการแข่งขันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีนี้

จีนวางแผนที่จะขยายเทคโนโลยีของตนออกไปทั่วประเทศภายในปี 2568

ที่ผ่านมาโตชิบาเป็นผู้นำการวิจัยและการพัฒนาในสาขานี้ นอกจากนี้ยังถือครองสิทธิบัตรมากกว่าบรรดาคู่แข่ง

ทางบริษัทตั้งเป้าที่จะนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ก่อนบริษัทอื่นทั้งในญี่ปุ่นและต่างประเทศ และครองส่วนแบ่งตลาดมากที่สุดในโลก

โตชิบาคาดว่าตลาดโลกจะเติบโตได้ถึงกว่า 19,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2578

ติดตามรายละเอียดของข่าวอื่น ๆ ได้ที่นี่
https://www3.nhk.or.jp/nhkworld/th/news/