ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยเฮ วัคซีนโควิด-19 อ็อกฟอร์ดเลือกฐานผลิตในไทย : Suthichai live 17/10/2563 ติดตามผลงานทั้งหมด ของ สุทธิชัยหยุ่น ได้ทาง www.suthichaiyoon.net

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายงานความคืบหน้าสมรภูมิ ดินแดนนากอร์โน-คาราบาฮ์ หรือ สาธารณรัฐอาร์ทซัค ในแถบเทือกเขาคอเคซัส ที่ดูจะเริ่มกลับมาระอุอีกครั้ง เมื่อเกิดการโจมตีด้วยขีปนาวุธที่เมืองแกนจาของอาร์เซอร์ไบจาน ราว 01.00 น. ตามเวลาท้องถิ่น ส่งผลให้พลเรือนเสียชีวิต 12 ราย และบาดเจ็บมากกว่า 40 คน รวมถึงโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะเสียหาย

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รมต.ต่างประเทศออสเตรีย ติดโควิด หวั่นที่ประชุมสภาอียู เป็นซุปเปอร์สเปรดเดอร์

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ⚠️ [BREAKING] ⚠️ เจ้าชายซาอุและปูติน ต่อสายตรงเพื่อหารือกันเรื่องราคาน้ำมัน และทั้งสองตกลงกันว่าจะช่วยกันใช้กำลังการผลิตรักษาระดับราคาไว้

    หลังจากที่ไม่ได้อัพเดทเรื่องราคาน้ำมันมาซักพักแล้วเพราะ #ทางเพจก็ได้แชร์มุมมองไปแล้วว่าราคาน้ำมันคงจะทรงอยู่ในกรอบจนกว่าจะถึงการเลือกตั้งของสหรัฐ

    โดยตั้งแต่กลุ่มโอเปกประชุมกันครั้งล่าสุดและได้มีนโยบายตรึงการกำลังผลิตและให้ประเทศที่ไม่ได้ทำการลดกำลังการผลิตตามโควตามีการลดชดเชย ด้วยจุดยืนของโอเปกนั้นชัดเจนที่จะรักษาสมดุลด้านอุปทานไว้ ในขณะที่การใช้ก็ดูจะโตเร็วไปกว่านี้มากไม่ได้แล้วเพราะไวรัสยังคงระบาดอยู่ทำให้การใช้ฟื้นตัวยาก คงทำให้ราคาหลุดออกจากกรอบยาก เพราะไม่มีปัจจัยไหนจะดันให้ออกจากกรอบได้อย่างชัดเจน

    #และราคาก็ไม่ได้ขยับไปไหนจริงๆ ตลอด 5 เดือนที่ผ่านมา Brent ขยับอยู่ในกรอบแคบๆที่เพียง 7 เหรียญ (39 - 46 เหรียญต่อบาร์เรล) ในขณะที่ 2 เดือนที่ผ่านมากรอบยิ่งแคบลงไปเหลือเพียง 4 เหรียญเท่านั้น (39 - 43 เหรียญต่อบาร์เรล) ทำให้ยังไม่มีเรื่องอะไรอัพเดทมาก

    #แต่แล้วคืนนี้ก็มีเรื่องสำคัญให้อัพเดท

    เพราะได้มีการต่อสายตรงกันระหว่างบุคคลสำคัญ 2 ท่านที่กำลังกุมชะตาของตลาดน้ำมันไว้ ทางเจ้าชายโมฮัมเหม็ด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียและประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซียได้ต่อสายตรงคุยกันในคืนนี้เพื่อหารือกันเรื่องกำลังการผลิตน้ำมันของกลุ่มโอเปกและพันธมิตร

    โดยการประชุมครั้งใหญ่ครั้งหน้าของโอเปกจะมีขึ้นในวันที่ 30 พ.ย. - 1 ธ.ค. นี้ และทางผู้นำกลุ่มโอเปกและพันธมิตรต้องทำการตัดสินใจว่าจะเพิ่มโควตาการผลิตต่อไปตามแผนไหม ? หรือจะลดโควตาลงมาเพราะการใช้น้ำมันฟื้นตัวช้ากว่าที่วางแผนไว้ในตอนแรก ? และระดับราคาน้ำมันที่ 40 กว่าเหรียญต่อบาร์เรลนี้เป็นที่พอใจของทั้งสองประเทศหรือยัง ? หรืออยากจะปิดก็อกให้แน่นขึ้นกว่านี้หน่อย ? #ราคาระดับนี้นั้นสมดุลแล้วหรือยัง ?

    #คงไม่มีใครทราบว่าทั้งสองนั้นได้คุยกันว่าอย่างไรบ้าง แต่แหล่งข่าวรายงานว่าได้เป็นการคุยที่ยาวนานและละเอียดมาก "Entensive Talk" และมีรายงานว่าทั้งคู่ตกลงกันว่าจะช่วยกันใช้กำลังการผลิตรักษาระดับความสมดุลของตลาดไว้ (คงจะไม่ทะเลาะกันอย่างที่เห็นเมื่อเดือนมีนาคมอีกแล้ว)

    วันที่ 19 ตุลาคมนี้เราจะได้เห็นรายงานของกลุ่มโอเปกอีกครั้งว่าแต่ละประเทศสมาชิกมีใครทำตามสัญญาการผลิตบ้าง ? มีใครผลิตเกินบ้าง ? ผ่าน "Compliance Review Report" ที่จะออกมา

    #มุมมองราคาน้ำมันต่อไปในอนาคต

    ถึงทั้ง 2 ประเทศจะร่วมมือกันมากเท่าไหร่ #คงยากมากที่เราจะเห็นราคาน้ำมันดีดกลับขึ้นไปแพงๆ ถึงขั้น 70-80 เหรียญอย่างที่เราเคยเห็นมา (นอกจากจะเกิดการรบกันที่ตะวันออกกลาง)

    ตราบใดที่การใช้น้ำมันจากการบินยังไม่กลับมา (เป็นภาคการใช้ที่หดตัวไปมากที่สุดในตอนนี้ ประมาณ 8% ของการใช้น้ำมันทั่วโลก) คงยากที่จะเห็นราคาน้ำมันดีดขึ้นไปแรงๆและคงอยู่ได้นานๆ เพราะนอกจากสต็อกน้ำมันที่ยังอยู่ในระดับสูงทั่วโลกแล้วเรายังมีปัจจัยด้านอุปทานใหญ่ๆ 4 อย่างที่กดดันตลาดอยู่

    1️⃣ #การผลิตในลิเบียที่หายไปเริ่มจะกลับมาแล้ว

    กำลังการผลิตในลิเบียที่สูงเกือบ 1-2% ของการผลิตโลกได้หายไปหลายเดือนเพราะความขัดแย้งในประเทศ แต่ตอนนี้ได้เริ่มทยอยกลับมาแล้วและอาจสูงขึ้นในอนาคต

    2️⃣ #การส่งออกของอิหร่านและเวเนซุเอลาที่ยังโดนคว่ำบาตรอยู่

    กำลังการส่งออกใน 2 ประเทศนี้ที่สูงเกือบ 2-3% ของการผลิตโลกยังโดนคุมไว้อยู่ตราบใดที่ทรัมป์ยังเป็นประธานาธิบดีสหรัฐ แต่ก็พร้อมจะโดนปล่อยออกมากดดันตลาดได้ทุกเมื่อ โดยเฉพาะหากทางไบเดนได้ขึ้นมาเป็นประธานาธิบดีสหรัฐแทนทรัมป์

    3️⃣ #กำลังการผลิตในสหรัฐที่หายไปอาจกลับมาได้ถ้าราคาน้ำมันดีดขึ้นสูง

    ที่กล่าวว่าหากราคาดีดขึ้นไปได้สูงๆก็คงอยู่ได้ไม่นาน เพราะยังมีกำลังการผลิตเชลออยล์ในประเทศสหรัฐอีกเกือบ 2-3% ของการผลิตโลกที่โดนปิดไปเพราะราคาไม่คุ้มต้นทุน แต่ถ้าราคาดีดขึ้นไปสูงเกินกว่าจุดคุ้มทุนเมื่อไหร่ การผลิตเหล่านี้ก็พร้อมจะไหลกลับเข้ามากดดันตลาดอีกครั้ง

    4️⃣ #กำลังการผลิตสำรองของโอเปกนั้นมากที่สุดในประวัติศาสตร์ในขณะนี้

    ในช่วง 3-4 ปีที่ผ่านมาทางโอเปกจะมีกำลังการผลิตสำรองที่พร้อมจะเปิดก็อกเทน้ำมันออกมาขายเพิ่มได้กว่า 4-5% ของการผลิตโลกอยู่เสมอ แต่ด้วยการร่วมการลดกำลังการผลิตของกลุ่มครั้งใหญ่ ทำให้กำลังการผลิตสำรองตอนนี้ดีดขึ้นไปอยู่ที่กว่า 7-8% ของการผลิตโลก

    ทำให้เมื่อไหร่ก็ตามที่ราคาน้ำมันอาจดีดขึ้นแรงๆเพราะน้ำมันขาดตลาด ตราบใดที่น้ำมันยังไม่หายไปทันทีเกินกว่า 7-8% ของโลก ทางกลุ่มโอเปกก็พร้อมที่จะเปิดก็อกผลิตน้ำมันออกมาขายเพิ่มได้อย่างเพียงพออยู่ตลอดเวลา #ทำให้ยากมากที่เราจะเห็นราคาน้ำมันแพงๆในตลาดโลก

    ✅ ท่านใดสนใจมาร่วมกลุ่ม LINE กับพวกเรา เพื่อติดตามข่าวสารในตลาดโลกโดยเฉพาะเรื่องน้ำมัน

    เพียงแค่เลือกแชร์โพสต์ของเรา 3 โพสต์แล้วส่ง Inbox - Screenshot รูปที่แชร์ทั้งหมดเข้ามาครับ เดี๋ยวทางเราจะ Invite เข้าไป รับรองว่าได้ข้อมูลข่าวสารครบถ้วนและรวดเร็วที่สุดแน่ๆครับ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “สถานการณ์ในเมืองไทยกำลังน่าเป็นห่วงมาก หลักๆเพราะการท่องเที่ยวเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับประเทศไทย และหากคุณมีเหตุการณ์ไม่สงบในประเทศ นักท่องเที่ยวก็จะไม่เข้ามา และคุณก็จะมีปัญหาทางเศรษฐกิจอย่างจริงจัง”

    Mark Mobius ผู้จัดการกองทุนชื่อดังของโลกกล่าวถึงการประท้วงในประเทศไทย

    #รบกวนขอไม่แสดงความเห็นเรื่องการเมืองไทยนะครับ ทางเพจต้องการเสนอข้อมูลที่เกี่ยวกับด้านเศรษฐกิจ การลงทุน และมุมมองของนักลงทุนระดับโลกที่ลงผ่านสื่อต่างชาติเท่านั้นครับ

    Mark Mobius เป็นกูรูด้านการลงทุนที่เชื่อว่าทุกคนที่ติดตามเพจนี้ต้องรู้จัก เขาเป็นอดีตผู้จัดการกองทุนและอดีต CEO ของ Franklin Templeton

    และวันนี้ทาง Mark ได้ออกมากล่าวกับ CNBC ถึงสถานการณ์ในเมืองไทยว่า

    "It is a serious situation, no question about it, mainly because tourism is so important for Thailand and if you have unrest, tourism does not come in and you got a real problem." Mark Mobius said

    Mizuho ปรับลด GDP ของไทยลง

    รายงานของ CNBC ยังได้รายงานต่ออีกว่านักวิเคราะห์ของ Mizuho ได้ปรับลดการคาดการณ์ GDP ของไทยปีนี้ลงจาก -6.3% ลงมาเป็น -7.5% ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เพราะผลกระทบจากการประท้วงที่จะเข้ามาซ้ำเติมวิกฤตเศรษฐกิจจากไวรัสโควิดที่ไทยกำลังเผชิญอยู่

    ที่มา: https://www.cnbc.com/2020/10/16/tha...economy-already-hit-by-covid-19-pandemic.html

    ✅ ติดตามข่าวสารในตลาดโลกและการลงทุนไปกับทางเพจอย่างรวดเร็วและทันตลาด !

    แนะนำให้กดตั้งค่า “#รายการโปรด” หรือ "#Favourites" ที่เมนูมุมขวาบนของเพจใน Facebook ตรงปุ่ม [...] และกด #เปิดกระดิ่ง ไว้ได้เลยครับ จะได้ไม่พลาดทุกข่าวสารสำคัญ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรา ฝากกด Like และ Share ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์ ขอบคุณมากๆครับ

    #ทันโลกกับTraderKP

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    *** ฝากเตือนๆ กัน !! ... ตัวเลขช่วงหลังๆ ของประเทศสหรัฐพบว่า ผู้ที่อายุน้อยเริ่มมีอัตราตรวจพบว่าติดเชื้อในอัตราส่วนที่มากขึ้น เมื่อเทียบกับผู้ใหญ่ และคนสูงอายุจนอธิยายว่าทำไมผู้สูงอายุที่อยู่ในบ้านก็ติดเชื้อได้มากขึ้น แม้ไม่ได้ออกจากบ้านเป็นส่วนใหญ่ (แบบเคสชาวพม่า 2 คนล่าสุดที่เพิ่งตรวจพบที่แม่สอด ที่ติดเชื้อเพราะลูกมาจากพม่ามาเยี่ยมที่บ้าน)

    US CDC’s MMWR, examined SARS-CoV-2 transmission dynamics among different age groups in US hotspots during the US summer resurgence

    On October 9, 2020, this report was posted online as an MMWR Early Release

    https://www.cdc.gov/mmwr/volumes/69/wr/mm6941e1.htm?s_cid=mm6941e1_w

    ..........

    ตามกราฟในรูปที่ 3 จะพบว่า

    ผู้ที่อายุ 18-24 ปีจะมี "โอกาสตรวจแล้วเจอติดเชื้อ" (Test Positivity) มากเป็นอันดับที่ 1 รองลงมาไม่น่าเชื่อ เป็นช่วงอายุ 0-17 ปี

    โดยกลุ่มอายุน้อยนั้นเริ่มมีอัตราการตรวจพบติดเชื้อ 1 เดือน ก่อนที่เมืองนั้นจะประกาศว่าเป็นเมืองที่ติดเชื้อระบาดหนัก (Hot Spot)

    กลุ่มที่เป็นผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ ก็จะค่อยๆ มีอัตราการตรวจแล้วเจอว่าติดเชื้อมากขึ้นทีละนิด จนสูงสุดในช่วงประมาน 4 สัปดาห์หลังเมืองนั้นประกาศเป็น จุด HotSpot

    ............ ....

    ปล.

    1. เคสคนพม่า เพิ่งทักไปเมื่อวานว่าสายพันธุ์ใหม่ในไทยแบบเคสดีเจนั้น ทำไมตรวจไม่เจอคนที่รับเชื้อต่อเลย โดยเฉพาะคนในครอบครัวที่กินนอนด้วยกันทั้งสัปดาห์ ... วันนี้ทางกระทรวงแถลงว่า กรณีคนพม่านั้น มีแพร่เชื้อให้ลูกหลานในบ้านได้แล้ว ซึ่งแสดงว่าเชื้อยัง Active อยู่ อาจแพร่เชื้อให้คนไทยไปบ้างแล้ว หรือคนพม่าที่นำเชื้อมาแพร่ให้ ฝครอบครัวนี้ ก็ยังสามารถแพร่เชื้อให้คนพม่าครอบครัวอื่นในไทย หรือแพร่ให้คนไทยได้

    2. เคสพม่า เราควรมีไทม์ไลน์ของ "ผู้นำเชิ้อมาแพร่ให้ชาวพม่าทั้ง 2 คนด้วย" (ลูกชายที่มาเยี่ยม)

    3. เราควรมีไทม์ไลน์คร่าวๆ ของ 5 เคสที่ตรวจพบติดเชื้อในไทย เพื่อให้ประชาชนที่ที่คิดว่า เคยไปอยู่สถานที่ วันละเวลาเดียวกันกับ 5 เคส ล่าสุดนี้

    4. เพราะผู้ที่สัมผัสใกล้ชิดทั้ง 1+5 คนนี้อาจออกนอกพื้นที่แม่สอด หรือแม้แต่ออกไปตากจังหวัดตากมานานแล้ว การตรวจหาเชื้อเฉพาะคนในพื้นที่แม่สอดแค่นั้นอย่างเดียว อาจจะไม่ครอบคลุมผู้มีความเสี่ยงทั้งหมดได้

    5. โพสต์นี้ไม่มีประเด็นทางการเมืองใดๆ ทั้งสิ้น แต่แค่ชี้ให้เห็นความจริงจากวิจัยของประเทสสหรัฐที่เพิ่งออกมา แล้วจดหมายข่าวของ Johns Hopkins ฉบับล่าสุดคือ 14 ตค. นำมาลงไว้แบบย่อๆ จึงนำมาแปลคร่าวๆ ให้

    .......

    - โดยสรุป -

    ถ้าจะออกนอกบ้าน เด็กวัยรุ่นข่วง 18-24 และ 0-17 ปีนั้น มีความเสี่ยงสูงที่จะติดเชื้อทากขึ้นกว่าในอดีต แล้วถ้าติดเชื้อไม่รู้ตัว ก็อาจมาแพร่เชื้อให้คนในครอบครัว ในโรงเรียน ในมหาวิทยาลัย ในที่ทำงานก็เป็นได้

    เด็กวัยรุ่น (รวมถึงคนไทยทุกคนที่ออกนอกบ้าน) จึงควร "ให้ใส่มาส์กกันแบบถ้วนหน้า และควรใส่ให้ถูกต้องด้วย"

    .

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บุคลากรทางการแพทย์กว่า 300 คน ร่วมลงชื่อเพื่อสะท้อนความเห็นต่อเหตุการณ์การใช้ความรุนแรงในการสลายการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 16 ต.ค.2563
    .
    พร้อมออกแถลงการณ์ เรียกร้องให้เปลี่ยนการใช้ความรุนแรงทุกรูปแบบของรัฐ ต่อผู้ชุมนุมเป็นการรับฟังอย่างสันติวิธีและขอให้เจ้าหน้าที่รัฐและผู้บังคับบัญชายึดหลักสากลในการควบคุมฝูงชน คือ
    .
    1. โรงพยาบาลต้องเป็นสถานที่ปลอดภัย และเป็นกลางทางการเมือง การเข้าถึงการรักษาพยาบาลเป็นสิ่งพึงได้รับของพลเมือง บุคลากรทางการแพทย์ต้องได้รับความคุ้มครองและอำนวยความสะดวกในการดูแลผู้ป่วยและผู้ประสบภัยทุกคนอย่างเสมอภาค
    .
    2. การดูแลการชุมนุมต้องปฎิบัติตามหลักสากล มาตรการที่ใช้ควบคุมฝูงชนจะต้องสอดคล้องกับกฎหมายสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลักความจำเป็น หลักความสมเหตุสมผล หลักความได้สัดส่วนต่อความรุนแรงที่เกิดขึ้น
    .
    3. การใช้รถยิงน้ำยังผสมสารเคมียิงไปยังผู้ชุมนุมเป็นมาตรการที่มีความรุนแรงโดยสภาพ เจ้าหน้าที่ไม่อาจแยกแยะเป้าหมายเพื่อบังคับมาตรการนี้อย่างเป็นธรรมได้ เจ้าหน้าที่จึงไม่ควรใช้รถยิงน้ำกับการชุมนุมที่สงบ แรงดันที่เกิดจากน้ำมีระดับสูง สามารถทำให้เกิดอันตรายแก่กายทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ
    .
    4. งดใช้สารเคมีที่มีพิษต่อระบบผิวหนัง และเยื่อบุ หรือต่อระบบทางเดินหายใจ เช่น แก๊สน้ำตา ต่อผู้ชุมนุมโดยสงบปราศจากอาวุธ
    .
    5. เปิดพื้นที่รับฟังความคิดเห็นของผู้เห็นต่างในสังคม เพื่อป้องกันความรุนแรงที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
    .
    แถลงการณ์ฉบับเต็ม :


    #สลายการชุมนุม #ม็อบ16ตุลา #คณะราษฎร #ข่าวช่องวัน

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ศิลปะเกาหลีเหนือ ที่เป็นมากกว่าโฆษณาชวนเชื่อ
    .
    ภาพของแรงงานที่ยิ้มแย้มขณะที่พวกเขากั้นน้ำจากเขื่อน ทหารบนหลังม้ากระโดดข้ามสะพานทางรถไฟที่กำลังลุกไหม้ ชายบนเรือพร้อมที่จะยิงกระสุนใส่ศัตรู สิ่งเหล่านี้มาจากประเทศซึ่ง UN เรียกพวกเขาว่า ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างเลวร้าย
    .
    พวกเขาทั้งหมดเป็นตัวอย่างของเทคนิคที่เรียกว่า Chosonhwa ซึ่งหมายถึงการใช้หมึกและกระดาษสาแทนที่จะใช้สีน้ำมันและผืนผ้าใบ
    .
    ข้อจำกัดนี้นำไปสู่การคิดค้นเทคนิค ตัวอย่างเช่น การวาดเสือรวมโดยมีพื้นที่ว่างมากมายแทนการวาดหิมะ สิ่งเหล่านี้นำไปสู่สัมผัสที่ละเอียดอ่อนของภาพวาด เมื่อมองใกล้ๆ สารทางการเมืองมากมายถูกส่งออกมาอย่างมีพลัง
    .
    ถึงแม้ว่างานของพวกเขาจะซับซ้อนมากเพียงใด แน่นอนว่าภาพหลายๆภาพเป็นการโฆษณาชวนเชื่ออย่างชัดเจน ธีมไม่ได้เปลี่ยน ชิ้นงานในแกลอรี่อาจจะไม่ได้ชวนเชื่ออย่างรุนแรง อย่างการชกเครื่องบินรบอเมริกา แต่รูปภาพนั้นชื่นชมความกล้าหาญ ความองอาจ ความอุดมสมบูรณ์ ในประเทศซึ่งเกิดภาวะอดอยากอยู่บ่อยครั้ง
    .
    เรื่อง เกบ บูลลาด
    .
    อ่านเรื่องราวเพิ่มเติมได้ที่ https://ngthai.com/featured/918/north-korea-propaganda-art/

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ผู้ว่าโคราชเตือนประชาชน
    อำเภอเมือง ปากช่อง ปักธงชัย สีคิ้ว สูงเนิน
    และอำเภออื่นๆ ริมลำตะคอง ลำพระเพลิง
    และลำน้ำสาขา เตรียมรับมือมวลน้ำจำนวนมาก

    เนื่องจากมีฝนตกหนักหลายวัน
    ขณะนี้เขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำมากกว่า
    ความจุต้องเร่งระบายออก

    ส่วนเขื่อนลำตะคองมีปริมาณน้ำกว่า 90% แล้ว
    คาดว่าจะต้องเร่งระบายน้ำเร็วๆ นี้

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “ธุรกิจต้องเดินหน้า”แม้อยู่ในสถานการณ์ฉุกเฉิน

    รัฐมนตรีคลัง ระบุ รัฐบาล จำเป็นต้องใช้ พ.ร.ก.ฉุกเฉินพื้นที่ กทม. เพื่อคุมสถานการณ์การชุมนุม ไม่ให้รุนแรง บานปลาย / ย้ำภาคธุรกิจ ต้องเดินหน้าต่อ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PSX_20201018_072107.jpg

    (Oct 17) SMEs เกือบ100% จ่อปากเหว เข้าไม่ถึงซอฟต์โลน-จัดจ้างรัฐยังไม่เริ่ม: สภา SMEs โอด 90% เข้าไม่ถึงมาตรการ soft loan 4 แสนล้าน เตรียมเสนอ 6 ข้อที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านเศรษฐกิจของสภาพัฒน์ 14 ธ.ค.นี้ ด้าน ส.อ.ท.-สมาพันธ์เอสเอ็มอี เร่งขึ้นทะเบียนเอกชนเข้าร่วมตลาดจัดซื้อจัดจ้าง 1.3 แสนล้าน ห่วง 5 ประเด็นกระทบเอสเอ็มอีเข้าไม่ถึงโครงการ “รายใหญ่ส่งนอมินี” ชิงตลาด

    นายไชยวัฒน์ หาญสมวงศ์ ประธานสภาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมไทย (สภาเอสเอ็มอี) เปิดเผย “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า นับตั้งแต่สภาได้ยื่นข้อเสนอต่อภาครัฐเพื่อเป็นหนึ่งในเครื่องมือ และกลไกช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs มาตลอด ทางภาครัฐยังไม่มีการตอบสนองในทางที่ถูกต้อง และยังไม่ตรงจุดตามที่ SMEs ขอให้ช่วย โดยเฉพาะมาตรการช่วยเหลือทางด้านการเงิน ขณะนี้จึงมีเพียง 10% เท่านั้นที่เข้าถึงมาตรการ ส่วนอีก 90% ยังไม่มีทางออกว่าจะเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้อย่างไร

    จากการรวบรวมตัวเลขรายงานของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มาตรการ soft loan วงเงิน 500,000 ล้านบาท ข้อมูล ณ วันที่ 5 ต.ค. 2563 สามารถปล่อยสินเชื่อได้เพียง 117,809 ล้านบาท ให้กับผู้ประกอบการ 70,255 รายเท่านั้น สินเชื่อเฉลี่ย 1.7 ล้านบาท/ราย เป็นผู้ประกอบการขนาดเล็ก 76% ขนาดกลาง 17% และขนาดใหญ่ 6.5%

    “เหลือเวลาอีก 3 เดือนก็จะหมดปีแล้วรัฐแทบจะช่วยเราได้น้อยมากจากความเป็นจริง SMEs เข้าถึงสินเชื่อธนาคารได้เพียง 468,000 ราย จากทั้งหมดที่มี 3.1 ล้านราย SMEs ไม่สามารถเข้าถึงความช่วยเหลือด้านการเงิน หากพิจารณาด้วยเงื่อนไขปกติในสถานการณ์ที่ไม่ปกติสะท้อนว่า มาตรการ soft loan ยังช่วยเหลือ SMEs ไม่ได้ โดยส่วนมากติดเงื่อนไขคุณสมบัติที่กําหนดเอาไว้ ซึ่งแบงก์ชาติควรออกมาตรการใหม่ ปรับเงื่อนไขผ่อนปรนให้เข้ากับสถานการณ์ที่ไม่ปกติในปัจจุบัน โดยอาจใช้วงเงินที่ยังเหลือ 400,000 ล้านบาท”

    นอกจากนี้ ในวันที่ 14 ธ.ค. 2563 ทางสภาในฐานะอนุกรรมการด้านวิเคราะห์และสนับสนุน ข้อมูลด้านเศรษฐกิจรายสาขา ภายใต้คณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบศ.) เตรียมหารือกับธนาคารพาณิชย์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) ถึงการขยายมาตรการพักชำระหนี้ รวมถึงการเตรียมเสนอมาตรการอีกครั้งให้รัฐบาลรับทราบ 6 ข้อ เช่น จ่ายเงินช่วยผู้ประกอบการในอัตรา 25% ของเงินที่บริษัทได้ชําระผ่านระบบประกันสังคม, ธนาคารต้องพิจารณาสินเชื่อวงเงินเพิ่มเติมดูจากประวัติเดิมไม่ต้องยื่นใหม่ เป็นต้น

    ส่วนแนวทางปฏิบัติตาม พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ที่แม้จะกำหนดให้มีการซื้อจากเอสเอ็มอีสัดส่วน 30% แต่ก็ต้องไปดูรายละเอียดของประกาศว่าการจัดซื้อสินค้าต่าง ๆ หน่วยงานใดรับผิดชอบโครงการขึ้นกับกระทรวงไหนก็ต้องดู TOR หน่วยงานนั้น ๆ แต่จะแน่ใจได้อย่างไรว่ามาตรฐานการจัดซื้อ ระบบต่าง ๆ จะซื้อสินค้าช่วย SMEs ได้จริง

    นายสุพันธุ์ มงคลสุธี ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำระบบข้อมูลรายชื่อ SMEs ตามที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้เห็นชอบในหลักการ เรื่องหน่วยงานของรัฐจัดซื้อจัดจ้างพัสดุจากผู้ประกอบการ SMEs โดยใช้เงินงบประมาณไม่น้อยกว่า 30% ในการจัดซื้อจัดจ้าง พร้อมทั้งกำหนดหลักเกณฑ์

    มาตรฐานต่าง ๆ สำหรับสินค้าเพื่อให้ตรงกับที่รัฐต้องการ และเพื่อส่งเสริมสินค้าเมดอินไทยแลนด์ นายแสงชัย ธีรกุลวาณิช เลขาธิการสมาพันธ์ SME ไทย และประธานสมาพันธ์ SME ไทย ส่วนภูมิภาค เปิดเผย”ประชาชาติธุรกิจ” ขณะนี้ทางสมาพันธ์ ประสานกับ ส.อ.ท. เปิดรับลงทะเบียนผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่จะเข้าร่วมโครงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในเดือนตุลาคมนี้ จ

    ากนั้นจะส่งให้ทางสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาย่อม (สสว.) พิจารณาคัดกรองเอสเอ็มอีตัวจริงต่อไป ทั้งนี้ เอสเอ็มอีสามารถมาขึ้นทะเบียนได้ทั้งประเภทบุคคลธรรมดาและนิติบุคคล โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และถึงแม้จะไม่ใช่สมาชิกของสมาพันธ์ก็ขึ้นทะเบียนได้เช่นกัน โดยเบื้องต้นตามข้อมูลปี 2562 มีเอสเอ็มอีประเภทนิติบุคคล และบุคคลธรรมดา ซึ่งอาจจะมีทั้งวิสาหกิจ และโอท็อป ที่สามารถเข้าระบบจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ 2.6 แสนราย จากเอสเอ็มอี

    ทั้งหมด 3.1 ล้านราย โดยแบ่งเป็นคู่สัญญากับภาครัฐ 56% องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น 29% รัฐวิสาหกิจ 16% มหาวิทยาลัย 7% และหน่วยงานอื่น ๆ โดยมีมูลค่าการจัดจ้าง 1.3 แสนล้านบาทแบ่งเป็น ก่อสร้างสัดส่วน 40% รองลงมาคือ รับผลิตสินค้า 36% รับจ้างเหมาบริการ 19% เช่า 2-3% และที่ปรึกษา 1%

    ประเด็นที่เรากังวลในทางปฏิบัติ 5 เรื่อง คือ 1) การตั้งทีโออาร์ของรัฐต้องไม่กีดกันเอสเอ็มอีกลุ่มวิสาหกิจชุมชนและโอท็อปให้สามารถเข้าร่วมได้ 2) หากเป็นไปได้ควรเพิ่มสัดส่วนการจัดจ้างผู้ประกอบการเอสเอ็มอีจาก 30% เป็น 50% เพราะเรามั่นใจว่าเอสเอ็มอีมีกำลังมากพอจะเข้าร่วมโครงการจัดซื้อจัดจ้างได้ จากตัวเลขปัจจุบันไทยมีเอสเอ็มอี 3.1 ล้านราย แต่เพิ่งเข้าสู่การจัดจ้างเพียงแค่ 2.6 แสนรายเท่านั้น หากเพิ่มสัดส่วนก็จะทำให้ผู้ประกอบการเข้าถึงตลาดการจัดซื้อจัดจ้างมากขึ้น

    3) การใช้อำนาจเหนือตลาด โดยเฉพาะบริษัทใหญ่ที่อาจจะส่งบริษัทลูกมาเข้าประมูลแทน ซึ่งรัฐต้องมีมาตรการตรวจสอบ ป้องกันไม่ให้มีการใช้นอมินีรายใหญ่ หรือหากพบก็ต้องมีบทลงโทษ เพื่อให้เม็ดเงินกระจายสู่มือเอสเอ็มอีตัวจริง

    4) การประชาสัมพันธ์หลักเกณฑ์เงื่อนไขการประมูล เพราะที่ผ่านมาเรามีตัวเลขจากกรมบัญชีกลาง ระบุว่าในปีที่ผ่านมามีการประชาสัมพันธ์

    ทีโออาร์ 53,845 ครั้ง ลดลง 5% จากปี 2561 ที่มี 51,226 ครั้ง และการประชาสัมพันธ์ประกาศจัดซื้อจัดจ้าง มีจำนวน 1.30 แสนครั้ง ลดลงจากปี 2561 ซึ่งมีจำนวน 1.38 แสนครั้ง และ 5) เรื่องธรรมาภิบาล เราเสนอว่าภาครัฐควรมีการตรวจสอบประเมินทุกเดือนว่ามีการจัดจ้างเอสเอ็มอีไปแล้วเท่าไร และต้องประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนรับรู้เพื่อความโปร่งใส

    “ในระบบการประมูลภาครัฐ เน้นผู้ที่เสนอราคาต่ำที่สุดเป็นเกณฑ์ แต่ประเด็นการแข่งขันราคานี้ ตามมติ ครม.ให้แฮนดิแคปราคาเอสเอ็มอีสูงกว่า10% ก็ได้ เช่น การแข่งขันสินค้าชนิดเดียวกัน เอสเอ็มอีเสนอชิ้นละ 110 บาทรายใหญ่เสนอชิ้นละ 100 บาท ก็ต้องเลือกเอสเอ็มอี แต่ในทางปฏิบัติก็ขึ้นอยู่กับผู้ประมูล ซึ่งอาจจะมีการเลือกโดยใช้ดุลพินิจก็ได้ โดยเฉพาะกรณีที่มีนอนิมีรายใหญ่ลงแข่งด้วยก็จะมีความได้เปรียบ เราจึงเน้นเรื่องการดูแลอำนาจเหนือตลาดให้ดี ต้องอาศัยการตรวจสอบกันเอง เพราะตอนนี้ภาครัฐเปิดโอกาสให้เอสเอ็มอีได้ร่วมแล้วก็ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี”

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
    https://www.prachachat.net/economy/news-538765
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PSX_20201018_072639.jpg

    (Oct 16) ญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำเสียจากโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ: รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะลงสู่ทะเล แม้ยังคงมีกระแสคัดค้านอย่างหนักในเรื่องผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 16 ต.ค. ว่าสื่อท้องถิ่นหลายแห่งของญี่ปุ่น รวมถึงหนังสือพิมพ์โยมิอุริและนิกเคอิ รายงานเมื่อวันศุกร์ ว่ารัฐบาลญี่ปุ่นเห็นชอบแผนการของคณะกรรมาธิการตรวจสอบ ในสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและพลังงาน ซึ่งเป็นหนึ่งในหน่วยงานย่อยของกระทรวงเศรษฐกิจ การค้าและอุตสาหกรรม ให้ปล่อยน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีซึ่งยังหลงเหลืออยู่ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ฟุกุชิมะ ที่จังหวัดฟุกุชิมะ ลงสู่ทะเล หลังได้รับความเสียหายอย่างหนักจากแผ่นดินไหวและสึนามิ เมื่อเดือนมี.ค. 2554

    ทั้งนี้ รายงานระบุว่า น้ำเสียทั้งหมดจะผ่านกระบวนการกรองเพื่อลดสารอันตรายลงประมาณ 40% ตามข้อมูลของโยมิอุริ และการดำเนินงานดังกล่าวน่าจะเริ่มต้นได้ "อย่างเร็วที่สุด" คือภายในปี 2565 และอาจกินเวลานานถึง 30 ปีกว่าจะเสร็จสิ้น อนึ่ง นิกเคอิให้ข้อมูลเพิ่มเติมด้วยว่า ปริมาณน้ำปนเปื้อนกัมมันตรังสีในโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะมีประมาณ 1.23 ล้านตัน และอ่างเก็บน้ำเสียจะเต็มความจุในช่วงกลางปี 2565

    ย้อนกลับไปเมื่อต้นปีนี้ คณะทำงานได้เสนอแนวทางแก้ไข 3 ประการ คือการระบายน้ำเสียที่ยังเหลือทั้งหมดซึ่งมีปริมาณมากถึง 1 ล้านตันลงสู่ทะเล การใช้กระบวนการทางวิทยาศาสตร์เพื่อเปลี่ยนสถานะของเหลวให้กลายเป็นไอ แล้วระเหยขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ หรือการใช้กระบวนการทั้งสองแบบร่วมกัน ด้านบริษัทเทปโก ผู้บริหารโรงไฟฟ้าฟุกุชิมะ ใช้เครื่องกรองน้ำเสียประสิทธิภาพสูงเพื่อคัดแยกสารอันตรายออกจนเกือบหมด คงเหลือเพียงทริเทียม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่าต้องเป็นการบริโภค "ปริมาณมหาศาล" จึงจะก่อให้เกิดอันตรายถึงแก่ชีวิต

    อย่างไรก็ตาม รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีโยชิฮิเดะ ซึงะ ยังไม่มีปฏิกิริยาอย่างเป็นทางการต่อรายงานที่ออกมา ซึ่งเป็นผลจากการหารือมานานหลายปี หรือนับตั้งแต่ยุคอดีตนายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ท่ามกลางกระแสต่อต้านอย่างหนักของชาวประมงในพื้นที่

    Source: เดลินิวส์ออนไลน์
    https://www.dailynews.co.th/foreign/801334

    เพิ่มเติม
    -Japan to release radioactive Fukushima water into the sea: Media https://aje.io/7y239
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    PSX_20201018_072847.jpg

    (Oct 17) ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่ประกาศออกมาแสดงให้เห็นว่าแสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจจีนกำลังอยู่ในทิศทางค่อยๆ ฟื้นตัวภายหลังจากการระบาดของ COVID-19: ดัชนี Caixin PMI ภาคบริการเดือนกันยายนอยู่ที่ระดับ 54.8 สูงกว่าที่คาดการณ์และสูงกว่าเดือนก่อนหน้า โดยเป็นการขยายตัวเดือนที่ห้าติดต่อกัน สาเหตุมาจากการจ้างงานที่เพิ่มขึ้นเพื่อตอบสนองต่อคำสั่งซื้อ และผู้ประกอบการมีมุมมองที่ดีต่อเศรษฐกิจ

    - ดุลการค้า (Trade Balance) เดือนกันยายนเกินดุลที่ 37 พันล้านดอลลาร์ สรอ. โดยการส่งออกและนำเข้าเติบโตร้อยละ 9.9 และ 13.2 yoy ตามลำดับ
    -- การส่งออกและนำเข้าที่เพิ่มสูงขึ้นมีสาเหตุมาจากอุปสงค์ซึ่งปรับสูงขึ้นทั้งภายนอกและภายในประเทศ
    -- การส่งออกไปสหรัฐฯ และเกาหลีใต้ยังคงปรับสูงขึ้นร้อยละ 20.5 และ 14.8 yoy ตามลำดับ ในขณะที่การส่งออกไปสหภาพยุโรปและญี่ปุ่นยังคงหดตัวที่ร้อยละ 7.8 และ 2.7 yoy ตามลำดับ ส่วนสินค้าส่งออกที่ยังเติบโตได้ดีคือ สินค้าที่เกี่ยวข้องกับการรักษาโรค ในขณะที่การส่งออกสินค้าเทคโนโลยีเติบโตชะลอลงเนื่องมาจากการชะลอการเปิดตัวของ Smart phone รุ่นใหม่
    -- การนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ ปรับสูงขึ้นร้อยละ 24.7 yoy แสดงให้เห็นถึงการปฏิบัติตาม Phase I Trade Deal ระหว่างจีนและสหรัฐฯ อย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม การนำเข้าสินค้ากลุ่ม Hi-tech และ Semiconductor
    ได้ปรับสูงขึ้นเพื่อเตรียมพร้อมรับการห้ามส่งออกสินค้าจำพวกนี้จากสหรัฐฯ

    - Money Supply M2 เดือนกันยายนปรับสูงขึ้น 10.9% yoy สูงกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้า เนื่องจากการใช้จ่ายภาครัฐที่ปรับสูงขึ้นก่อนสิ้นไตรมาสที่ 3

    - ตัวเลขการให้สินเชื่อใหม่ (New Yuan Loan) เดือนกันยายนอยู่ที่ 1,900 พันล้านหยวน สูงกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้า ส่วนใหญ่เกิดจากการกู้เงินระยะยาวของภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจจำนวน 636 และ 1,068 พันล้านหยวนตามลำดับ โดยสาเหตุที่ทำให้ตัวเลขการกู้เงินระยะยาวเพิ่มขึ้นเป็นเพราะยอดขายบ้านปรับสูงขึ้น และภาคการผลิตมีการลงทุนเพิ่มขึ้น

    -- เมื่อประกอบกับตัวเลข Money Supply ที่ปรับสูงขึ้น แสดงให้เห็นว่าสถานการณ์ด้านเครดิตอยู่ในทิศทางผ่อนคลาย ดังนั้น PBC อาจไม่ต้องมีมาตรการผ่อนคลายทางการเงินเพิ่มเติมในระยะข้างหน้า

    - อัตราเงินเฟ้อเดือนกันยายนอยู่ที่ร้อยละ 1.7 yoy ต่ำกว่าที่คาดการณ์และเดือนก่อนหน้า สาเหตุจากราคาอาหารที่เติบโตชะลอลงหลังจากพ้นช่วงฤดูฝน
    -- อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ร้อยละ 0.5 yoy ไม่เปลี่ยนแปลงจากเดือนก่อนหน้า
    -- อย่างไรก็ตาม ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) หดตัวร้อยละ 2.1 yoy เนื่องจากราคาน้ำมันปรับตัวลดลง

    Source: BOTSS

    เพิ่มเติม
    -Chinese Released Mixed Trade Data, Points Towards More Bumps on Road to Recovery - https://invst.ly/sfxq-
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ตรวจโควิดจากลมหายใจ ญี่ปุ่นกำลังพัฒนาเครื่องตรวจไวรัสโควิดจากในลมหายใจ!!?

    มหาวิทยาลัยโทโฮกุและบริษัทชิมัดสึได้กำลังพัฒนาระบบที่สามารถตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่จากแค่ในลมหายใจ ซึ่งพวกเขากล่าวว่าเครื่องตรวจไวรัสนี้สามารถแสดงผลออกมาภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากเริ่มตรวจได้

    ซึ่งตอนนี้พวกเขาก็ได้เริ่มทดลองจากกลุ่มคนบางส่วนแล้ว แต่ปัญหาคือเครื่องมันมีขนาดใหญ่และอาจจะต้องใช้ต้นทุนในการผลิตที่สูงมาก จึงทำให้อาจจะทำให้ยังต้องพัฒนาในเรื่องของขนาดให้มันมีขนาดที่เล็กลงกว่านี้เพื่อการขนส่งและต้นทุนที่ถูกลง

    ในตอนนี้ญี่ปุ่นก็กำลังเร่งพัฒนาวัคซีนอย่างไม่หยุด ซึ่งเราอาจจะเห็นข่าวดีความสำเร็จของวัคซีนในปีนี้หรือต้นปีหน้าก็เป็นไปได้เราคนไทยก็มาเป็นกำลังใจให้คนญี่ปุ่นกันนะ

    อ้างอิง : https://www3.nhk.or.jp/

    อ้างอิง :

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ขอโทษคนไข้ทุกคนที่เคยดูแล ต่อไปนี้คงจะไม่ได้เจอกันที่ห้องตรวจเบอร์ 9 อาคาร B ชั้น 3 อีกแล้วนะคะ ขอบคุณที่ให้โอกาสหมอคนนี้ทำการรักษา คุณคืออาจารย์ที่ดีที่สุดของหมอ และญาติๆที่น่ารักคือกำลังใจของหมอในทุกวันที่ทำงาน

    ขอบคุณอาจารย์เหรียญทอง แน่นหนา ที่ให้โอกาสศัลยแพทย์ทรวงอกคนนี้ทำงานที่โรงพยาบาลมงกุฎวัฒนะ เป็นประสบการณ์ 1 ปีกว่าๆอันทรงคุณค่าที่สุดครั้งหนึ่งในชีวิต

    ขอบคุณแพทย์ผู้ร่วมงานทุกท่าน ขอบคุณทีมพยาบาล RN PN Nurse Aid ทุกคนที่เคยร่วมงานด้วย ขอบคุณที่ให้โอกาสเราได้ทำงานร่วมกัน

    ขอโทษจริงๆ ที่ครั้งนี้เราปล่อยวางไม่ได้

    ต่อจากนี้ ก็ยังไม่รู้ว่าชีวิตจะเป็นอย่างไร คิดว่าคงต้องหาทางเดินของตัวเองต่อไปล่ะนะ

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ผู้ว่าโคราชเตือนประชาชน
    อำเภอเมือง ปากช่อง ปักธงชัย สีคิ้ว สูงเนิน
    และอำเภออื่นๆ ริมลำตะคอง ลำพระเพลิง
    และลำน้ำสาขา เตรียมรับมือมวลน้ำจำนวนมาก

    เนื่องจากมีฝนตกหนัก ติดต่อกันหลายวัน
    ขณะนี้ น้ำในเขื่อนลำพระเพลิง มีปริมาณน้ำ
    มากกว่าความจุแล้ว จึงต้องเร่งระบายออก

    ส่วนน้ำในเขื่อนลำตะคอง มีปริมาณน้ำกว่า 90%
    โดยคาดว่าจะต้องเร่งระบายน้ำออก เร็วๆ นี้

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #นวัตกรรมญี่ปุ่น ???

    "สันติภาพจะมาสู่โลกเมื่อประชากรทุกคนมีกินเพียงพอ"

    กล่าวโดย

    คุณโมโมฟุกุ อันโด (Momofuku Ando) ผู้คิดค้นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปนิชชิน (Nissin)

    .

    ก่อนจะมาเป็นนิชชินเช่นทุกวันนี้

    ต้องขอบอกก่อนว่า "คุณโมโมฟุกุ อันโด" แท้จริงแล้วไม่ใช่คนญี่ปุ่นโดยกำเนิดแต่เป็นคนไต้หวันที่ย้ายถิ่นฐานเข้ามาในญี่ปุ่นต่างหาก ชื่อที่แท้จริงของเขาชื่อว่า "อู๋ ไป่ฝู" แต่มาเปลี่ยนใช้นามสกุล "อันโด" หลังจากแต่งงาน ซึ่งก็คือนามสกุลของภรรยานั่นเอง ส่วนชื่อนั้นไม่ได้เปลี่ยนแต่อย่างใด เพียงแต่สามารถอ่านได้สองแบบเท่านั้นเอง 百福 อ่านว่า ไป่ฝู (ไต้หวัน) และอ่านว่า โมโมฟุกุ (ญี่ปุ่น) เมื่อยังเด็ก เขามีความฝันที่อยากจะเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง ซึ่งเขาก็ได้เปิดบริษัทสิ่งทอในไต้หวันตอนอายุ 22 ปี หลังจากนั้นเขาก็มีแผนการใหญ่ที่จะขยายกิจการไปสู่ประเทศญี่ปุ่น เขาเดินทางเข้าสู่โอซาก้า เปิดโรงงานทอผ้าและร้านขายเสื้อผ้าจนเติบโตและประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง แต่แล้วสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็เกิดขึ้น

    .

    โรงงานและร้านเสื้อผ้าของเขานั้นโดนทิ้งระเบิดเละจนแทบจะไม่เหลือซาก และเมื่อสงครามจบลง ในปีค.ศ.1948 เขายังถูกจับขังคุกเป็นเวลา 2 ปีอีกด้วย ด้วยเหตุผลที่ว่าเขานั้น 'หลีกเลี่ยงภาษี' ซึ่งเขาก็ได้ออกมาบอกในภายหลังว่า รายได้หรือกำไรบางส่วนที่ได้มานั้น เขาได้นำมันไปบริจาคเป็นทุนการศึกษาให้กับเด็กยากจน อย่างไรก็ตาม หลังจากที่เขาพ้นโทษ เค้าก็แทบจะไม่เหลืออะไรเลย แต่ชีวิตก็ยังคงต้องเดินต่อ เค้าเปิดธุรกิจเล็กๆเกี่ยวกับวัตถุดิบอาหาร

    .

    หลังสงครามจบ ส่งผลให้เศรษฐกิจนั้นตกต่ำ อาหารก็ขาดแคลนไปด้วย ซึ่งหนึ่งในนโยบายของรัฐบาลก็คือการแจกจ่าย 'แป้งสาลี' ให้กับประชาชน และส่งเสริมให้ชาวญี่ปุ่นหันมาทำและมากินขนมปังกันมากขึ้น ในช่วงหน้าหนาววันหนึ่งคุณโมโมฟุกุก็เดินไปเห็นคิวต่อแถวรอรับราเมนร้อนๆที่ยาวเหยียด แถมคนที่ยืนรอก็มีอาการหนาวสั่น และเมื่อเขาได้เห็นเช่นนั้น เขาก็คิดได้ว่า แป้งสาลีที่รัฐบาลแจกนั้นก็สามารถนำมาทำเป็นเส้นราเม็งได้เหมือนกันนี่

    .

    เขาเริ่มทำการทดลองด้วยตัวของเขาเองที่สวนหลังบ้าน โดยมีแนวคิดที่ว่า "ทำยังไง ให้บะหมี่นั้นทานได้ง่ายเหมือนกันขนมปัง" ซึ่งเวลาก็ร่วงโรยผ่านไปเป็นปีๆแต่เขาก็ยังทำไม่สำเร็จ จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาที่นั่งดูภรรยาทอดเทมปุระอยู่นั้นก็เกิดไอเดียขึ้นมา ว่าจะลองเอาเส้นบะหมี่ราเม็งของเขาเนี้ย ลงไปทอดดู

    .

    ในวันที่ 25 สิงหาคม ปีค.ศ.1958 บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปก็ได้เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกของโลก ในชื่อ "ชิกิง ราเมน" บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสไก่ ที่ในเวลาต่อมาก็ขายดิบขายดีจนได้รับความนิยมกันอย่างแพร่หลาย ในปีค.ศ.1966 เขานั้นได้เดินทางไปเยี่ยมผู้จำหน่ายที่สหรัฐอเมริกา ซึ่งที่ออฟฟิศดังกล่าวนั้นเขาได้เห็นพนักงานคนนึงหักบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปของเขาเป็นชิ้นเล็กๆใส่แก้วกระดาษละใส่น้ำร้อนรับประทาน ซึ่งเขาก็เห็นว่าสิ่งที่เป็นอยู่นั้นมันสะดวกได้มากกว่านี้(แบบซอง) จึงเกิดเป็นไอเดียใหม่ขึ้นอีกครั้งในชื่อ "นิชชิน คัพนูเดิ้ล" หรือบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปตรานิชชินแบบถ้วยนั่นเอง ซึ่งจุดที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขาก็คือการที่นักบินอวกาศชาวญี่ปุ่นได้นำนิชชิน "The Space Ram" ขึ้นไปกินบนอวกาศ ณ เวลาดังกล่าวคือปีค.ศ.2005 คุณโมโมฟุกุมีอายุได้ 95 ปี

    .

    คุณโมโมฟุกุ อันโด เคยกล่าวไว้ว่า

    "แรงบันดาลใจจะนำไปสู่การประดิษฐ์ และความดื้อรั้นจะเป็นสิ่งที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ซึ่งมันคงไม่มีสิ่งประดิษฐ์ใดเกิดขึ้นหากไม่มีความดื้อรั้น"

    .

    อ้างอิง: Wikipedia

    Nissin

    .

    #บทความเรื่องญี่ปุ่น

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เผยข้อตกลงสำคัญรมต.ต่างประเทศจีน “#หวังอี้” เยือนไทย ขยายสถานกงสุลจีน หลัง #สหรัฐ ทุ่มเงินเกือบ 9,000 ล้านบาทสร้างกงสุลแห่งใหม่ที่ #เชียงใหม่ ภาคเหนือระอุ 2 มหาอำนาจสัประยุทธ์ข่าวกรอง

    นายหวังอี้ มนตรีแห่งรัฐและรัฐมนตรีต่างประเทศ #จีน เดินทางเยือน #ไทย เมื่อ 15 ต.ค. หนึ่งในข้อตกลงระหว่างไทย-จีน คือ การลงนามร่วมกันในหนังสือแลกเปลี่ยนว่าด้วยการได้มาและการจำหน่ายที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง และการเช่าที่ดินเพื่อใช้เป็นที่ทำการสถานกงสุลใหญ่และที่พักเจ้าหน้าที่กงสุลของทั้งสองประเทศ
    .
    ข้อตกลงดังกล่าวเกี่ยวข้องกับการให้สิทธิ์ในการสร้างและขยายสถานกงสุลไทยในจีน และสถานกงสุลจีนในไทย โดยปัจจุบัน จีนมีสถานกงสุลที่เชียงใหม่ ขอนแก่น สงขลา และสำนักงานกงสุลที่ภูเก็ต
    .
    ข่าวของกระทรวงการต่างประเทศไทยไม่ได้ระบุรายละเอียดเรื่องการขยายสถานกงสุล แต่มีการคาดการณ์ว่า จีนต้องการขยายสถานกงสุลหรือจัดตั้งสถานกงสุลใหม่ในพื้นที่ภาคเหนือตอนล่างหรือภาคตะวันตก
    ️‍♀️
    ความเคลื่อนไหวของจีน ประจวบเหมาะกับก่อนหน้านี้ที่สหรัฐได้เริ่มต้นการก่อสร้างสถานกงสุลสหรัฐ #อเมริกา ประจำเชียงใหม่แห่งใหม่ บนพื้นที่ 16.5 ไร่ ติดถนนซูเปอร์ไฮเวย์เชียงใหม่-ลำปาง ปากทางเข้ามหาวิทยาลัยพายัพ ด้วยงบประมาณสูงถึง 284 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือกว่า 8,800 ล้านบาท มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จในปี 2566
    .
    ภาคเหนือของไทยเป็นฐานสำคัญในการรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับการค้ายาเสพติด การต่อสู้ของชนกลุ่มน้อย รวมถึงสถานการณ์ในพม่า แต่เมื่อจีนก้าวขึ้นมามีบทบาทในภูมิภาคมากขึ้น สหรัฐจึงหวังใช้พื้นที่เชียงใหม่เพื่อรวบรวมข่าวกรองเกี่ยวกับประเทศจีน ซี่งฝ่ายจีนย่อมนิ่งเฉยไม่ได้

    สถานกงสุลใหญ่จีนประจำเชียงใหม่ ตั้งขึ้นเมื่อปี2534 มีเขตอาณาครอบคลุม 12 จังหวัดในภาคเหนือ ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย แม่ฮ่องสอน น่าน พะเยา แพร่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก และตาก ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเขตเกษตรกรรมที่สำคัญของประเทศไทย ยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่มีชื่อเสียงมากมายอีกด้วย จังหวัดเหล่านี้กับประเทศจีนใกล้กันทางภูมิศาสตร์ คล้ายคลึงกันทางวัฒนธรรม ประชาชนมีการไปมาหาสู่กันอย่างใกล้ชิด ความร่วมมือระหว่างกันได้ขยายตัวอย่างต่อเนื่องในด้านต่างๆ อาทิเช่น การท่องเที่ยว เกษตรกรรม พลังงาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
    .
    ขณะนี้ด้านฝั่งแม่น้ำโขง จีนมีคุมอิทธิพลได้อย่างไม่ปัญหา มีทั้งกองเรือลาดตระเวนในลำน้ำโขง ขณะที่กัมพูชา ลาว ก็ล้วนแต่ยืนข้างจีน ยิ่งในอนาคตจะมีเส้นทางรถไฟเชื่อมจีน-ลาว-ไทย จีนจึงมีฐานที่มั่นคงในฝั่งนี้
    .
    แต่ฝั่งพม่า ที่เดิมจีนมีบทบาทอย่างสูงในยุครัฐบาลทหาร แต่เมื่อพม่าเปลี่ยนการปกครองมาสู่พลเรือน สหรัฐก็เริ่มมีบทบาทในพม่ามากขึ้น จนสั่นคลอนฐานอำนาจของจีน ยิ่งเมื่อสหรัฐขยายสถานทูตในเชียงใหม่ด้วยงบประมาณมหาศาล ชัดเจนว่าต้องการใช้เป็นฐานเพื่อสอดส่องจีน
    .
    ภาคเหนือของไทยเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์มาตั้งแต่อดีต เพราะใกล้กับมณฑลยูนนานของจีน และยังเชื่อมต่อทั้งจีน พม่า ต่อไปยังมหาสมุทรอินเดีย ในยุคที่พรรคก๊กมินตั๋งรบกับพรรคคอมมิวนิสต์จีน พื้นที่นี้ก็เป็นฐานที่มั่นสำคัญของกองพล 93 ที่ตกค้างอยู่ในดินแดนไทย จวบจนถึงยุคพรรคคอมมิวนิสต์ไทย การค้ายาเสพติด การสู้รบของกองกำลังต่างๆ ในพม่า ล้วนเกี่ยวข้องกับชนกลุ่มน้อยเชื้อสายจีน และประเทศจีนทั้งสิ้น

    สามเหลี่ยมทองคำในวันนี้ แม้จะไม่ใช่ดินแดนยาเสพติดและการสู้รบเหมือนในอดีต แต่การต่อสู้ยังไม่จบสิ้น ยิ่งเมื่อสหรัฐมุ่งปิดล้อมจีนด้วย “ยุทธศาสตร์อินโด-แปซิฟิก” ภาคเหนือของไทยจึงเป็นสนามรบใหม่ด้านข่าวกรอง ที่รบกันด้วยเทคโนโลยีและการซื้อใจประชาชนในพื้นที่.

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ไปดูเค้าขี่ม้ากัน.. มันส์แค่ไหน

    #เบื้องหลังการถ่ายทำสุดฮา

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,649
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เลี่ยงภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐ
    .
    Robert T. Brockman เจ้าพ่อเทคโนโลยีของรัฐเท็กซัสสหรัฐอเมริกาถูกตั้งข้อหาเลี่ยงภาษีครั้งใหญ่ที่สุดในสหรัฐมูลค่าทั้งสิ้นๆ 2000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

     

แชร์หน้านี้

Loading...