ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จชุมนุมมหาคุณบารมีเก้าชั้นแต่งอโหสิกรรม(ถอนกรรมเผ่าพันธุ์บาปบรรพชน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ห้ามพลาดกันนะ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา มีดเดือนดับแหกสัญญากรรมประทับนัยน์ตาสัจธรรม(ชุดโต้กลับ - ปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล)

    ### เทพศาสตราที่ยิ่งใช้งานมาก...ก็ยิ่งขลัง...ยิ่งศักดิ์สิทธิ์..ประสิทธิ์มาก
    ### ด้วยเป็นศาสตราวุธที่เอาไว้ใช้...เพื่อตัวเอง..รักษาตัวเอง


    เมื่อพ่ออาจารย์ท่านจะทำมีดแหกเพื่อสืบสานตำรับพระเวทย์นั้น องค์ปฐมท่านแนะแนวทางให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างทำในรูปของมีดอีโต้....และประทับนัยน์ตาแห่งสัจธรรมลงไป ด้วยเหตุว่ามีดนี้จะได้ตอบสนองผู้ถือผู้จับคอยตอบโต้ต้านทานโดยอาถรรพ์ในตัวมันเอง พ่ออาจารย์ท่านอธิบายเอาไว้ว่าอานุภาพของมีดแหกที่ทำเป็นรูปอีโต้นี้จะใช้โต้คืนและตอบโต้เสนียดและสิ่งที่คอยรังควานตลอดจนกฏแห่งกรรมได้ด้วยตัวของมันเองแม้เราจะไม่อาราธนา ทั้งยังโต้ตอบเอาคืนสวนกลับอย่างรุนแรงต่อการกระทำย่ำยีและการรังแกเจ้าของมีด ท่านว่าไม่เพียงแต่เวลามีเรื่องมีปัญหาเขาจะทานไว้ต้านไว้ให้เรา แต่มีดโต้นี้จะสวนกลับสนองคืนอย่างรุนแรงเรียกว่าโต้กลับไปในสิ่งที่ทำมาตีกลับการกระทำของฝ่ายตรงข้ามไม่ว่าจะเป็นมนุษย์หรืออมนุษย์แม้แต่แรงกรรมที่กระทำกับเราเค้าก็โต้กลับเช่นกัน เรียกว่ากระทำตอบแก่คนหรือสิ่งที่ทำให้เราเจ็บปวดด้วยความเท่าเทียมถ้าดีมาก็ดีกลับแต่หากร้ายมาเขาจะไม่เอาไว้เลย..แรงแค่ไหนก็คืนไปแค่นั้นให้สาสมกัน เช่นนั้นมีดแหกรุ่นนี้จึงใช้ต่อต้านขัดขวางคนที่รังแกเราและสิ่งที่ดึงชีวิตเราให้เปลี่ยนไปไม่ว่าจะมองเห็นหรือมองไม่เห็นก็ดี ท่านว่าเขาจะค้านไว้คอยขัดขวางไม่ให้สำเร็จผลเรียกว่ารับและยันเอาไว้ให้เราก่อนโต้กลับทั้งหมด...ดั่งเช่นที่องค์ปฐมท่านบอกแก่เราว่า "ผู้ที่ทนมามากแล้ว ก็ให้เขาได้โต้กลับไปเสียบ้าง"

    ### มีดแหก คืออะไร พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดแหกตำรับของท่านที่องค์ปฐมท่านให้ทำนั้นเรียกอีกชื่อว่า "มีดแหกทุกข์" หรือจะเรียกว่า "มีดครู" ก็ได้ พูดแค่นี้ก็รู้แล้วว่าแรงกว่ามีดทั้งหมดเป็นของครูที่มีอาถรรพ์มีแรงครูสูงสุดเมื่อยึดครองไว้จะเคารพเสมอด้วยเป็นตัวแทนของครูบาอาจารย์ก็ได้ ...ซึ่งมีดแหกนี้จะต่างจากเทพศาสตราทั้งหลายด้วยจะทำโดยวัสดุที่มีอาถรรพ์(ท่านเลือกใช้ธาตุกายสิทธิ์หลอมถลุงร้อยแปดครั้งจนเนื้อแร่ศักดิ์สิทธิ์สูงสุด) และจะทำออกมาแบบทื่อๆไม่ให้มีคม(ปกติมีดหมดจะเน้นคม)เพื่อเน้นผลประโยชน์ในการใช้งานอย่างแท้จริง ***...อย่างที่ท่านบอกไว้ว่าเป็นมีดที่ใช้โดยตัวเอง..เพื่อตัวเอง เพราะมีดนี้จะใช้ขูดและถูส่วนต่างๆตามร่างกายเพื่อเปิดสัมผัสให้มีดแหกช่วยขับของเสียออกไปทั้งกระตุ้นพลังงานและกรรมดีที่เราเคยทำไว้ให้ตอบสนองออกมาเรียกว่าผลักทุกข์ออกและส่งพลังไปกระตุ้นให้ผลดีเกิดเร็วขึ้น ท่านว่าเวลาใช้ขูดเนื้อตัวนี้บางครั้งร่างกายก็จะร้อนเพราะข้างในนั้นเขาเผาผลาญสลายกรรมปรับธาตุกันอยู่เพื่อให้ร่างกายเราอยู่ในภาวะที่สมดุลย์และสมบูรณ์ด้วยชะตาวาสนามากที่สุด ทั้งมีดแหกนี้ยังใช้ขับพิษหรือสิ่งเลวร้ายตกค้างในตัวเราได้ อะไรที่เป็นอันตรายต่อเราและขึ้นชื่อว่าเป็นภัยกับชีวิตเราที่มีติดมีตกอยู่ในธาตุในขันธ์ในตัวเอง อันจะทำให้เราทุกข์ เราเจ็บปวด เราพิการหรือเป็นเคราะห์ที่จะทำให้เราพลัดพรากจากความสุขสมบูรณ์ ..ทำให้เราตายเช่นนี้เขาขับออกได้ทั้งสิ้น *** เพราะมีดเเหกนั้นคือมีดที่ใช้บังคับให้ออกและต้องออก(ท่านว่าเป็นการบังคับเอาออก เอาทิ้งไปเลย) โดยใช้แรงครูเป็นกำลังดึงออกให้ชีวิตเราฝ่าความเจ็บปวดทั้งหลายพ้นไปทั้งสิ้น

    นอกจากใช้เพื่อดับล้าง - ขับไล่ เคราะห์ร้าย,สิ่งชั่วร้าย,วิญญาณร้าย,ยาพิษ,ยาเบื่อ,ยาสั่ง,โรคภัยไข้เจ็บ,โรคร้ายต่างๆ...บรรดามีอันฝังอยู่และทำให้เกิดอาถรรพ์ร้ายในตัวเราและธาตุขันธ์ของเรา เขายังขับสิ่งที่ทำให้เราทุกข์ออกมาในคราเดียวกันด้วยซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เราเองมองไม่เห็น ไม่ว่าจะเกิดจากกรรม,สัญญากรรม แม้คุณไสยลมเพลมพัดหรือภูติผีปีศาจมันเล่นเอาก็ดี ทั้งเสนียดจัญไรต่างๆเหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าหลุดหมดเลย องค์ปฐมท่านตั้งใจให้พ่ออาจารย์ทำมีดแหกในรูปอีโต้เพื่อแหกออกและโต้กลับในสิ่งที่เรามองไม่เห็นโดยเฉพาะ ทั้งมีดนี้มีแรงครูสูง *** ท่านเน้นว่าจะลับจะทำให้แหลมให้คมไม่ได้เด็ดขาดเพื่อจะได้ใช้ถากใช้ขูดร่างกายไม่ให้เข้าเนื้อเอาไว้ใช้แค่ขูดๆสับๆไม่บาดเนื้อ หากเข้าเนื้อได้เลือดเดี๋ยวเนื้อจะยุ่ยจะเปื่อยเอา(อุปมาว่ามีดถอนอาคมที่คุ้มตัวเราหมดท่านจึงให้ตัดปัญหาทำเป็นมีดทื่อๆจะสับจะขูดยังไงก็ไม่เข้าเนื้อเข้าเลือด) จะอาราธนาปัดเป่าสิ่งใด..จะอาราธนาขับไล่สิ่งใด...ฉันบอกแล้วว่าเป็นมีดครู มีแรงครูจะขับจะไล่อะไรก็ยกมีดจบหัวบอกครูท่านได้เลยแล้วเอามีดขูดไปจากบนลงล่างพอเป็นพิธี คนไหนที่เจ็บที่ป่วยปวดตรงไหนหากคิดว่าเป็นไปด้วยคุณไสยการกระทำแล้วก็ให้เอามีดกดลงไป จะจี้จะทิ่มลากไล่คุณไสยออกไปก็ได้

    ความนัยที่ครูแฝงไว้(นัยน์ตาแห่งสัจธรรม)

    มีดแหกทุกข์นี้ท่านว่านอกจากจะใช้ไล่ใช้โต้ตอบแล้วยังใช้ตัดก็ได้...ใช้ปัดก็ได้...ใช้แก้ก็ได้ จะตัดกรรมตัดทุกข์ปัดอุปสรรคปัดรังควานปัดสิ่งไม่พึงประสงค์ให้พ้นตัวหรือจะแก้อาถรรพ์ที่ทำให้ชีวิตเราไม่เจริญเหล่านี้ท่านว่าสุดแล้วแต่จะใช้ พกเอาไว้กับตัวภูติผีเทวดาเกรเรจะกลัวนัก พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้ข่มขู่พวกนี้ได้หมดเลยเพราะเขากลัวมีดครูกันทั้งนั้น องค์ปฐมท่านให้ประทับนัยน์ตาหรือดวงเนตรแห่งสัจธรรมลงไปด้วยตานี้คือการเปิดพระเนตรแล้ว..เบิกแล้ว...ลืมตาอ้าปากขึ้นมาแล้วไม่ปิดลงดั่งชีวิตเราที่ใครก็ไม่ปิดลง พ่ออาจารย์ท่านพูดถึงความสำคัญของดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ไว้ว่าสำคัญนัก องค์ปฐมท่านได้จำแนกพอจะบอกสืบต่อไปถึงพวกเธอได้ ดังนี้

    - ปกตินั้นตาเป็นสัญลักษณ์ของการมองเห็น เป็นเครื่องรู้ เช่นเดียวกันกับดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ หากเบิกขึ้นแล้ว ผู้ครอบครองไว้จะไม่เดินทางผิด สิ่งที่ไม่เห็น ไม่รู้ ไม่เคยประสบพบเจอ นับจากนี้ไปก็จะได้เห็นได้ทราบเฉพาะตัวของตนเอง

    - ตาเป็นสัญลักษณ์ของการเห็น การรู้แจ้ง เป็นสัญลักษณ์ของปัญญาอันยิ่ง ท่านว่าสัญลักษณ์ดวงเนตรแห่งสัจธรรมนี้ดีนัก ให้เอาไว้กับตัวสมองจะปลอดโปร่ง ความคิดจะแจ่มใสขึ้น จะคิดอ่านทำสิ่งใดย่อมเกิดตัวรู้ ตัวปัญญาเด่นชัด ไม่ขุ่นเคือง

    - แม้ในพระพุทธศาสนา สมเด็จพระสุคตบรมครูท่านก็ได้แสดงธรรมไว้อย่างชัดเจนแล้วถึงความสำคัญของการมองเห็นว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุได้เกิดขึ้นแล้ว ญาณได้เกิดขึ้นแล้ว ปัญญาได้เกิดขึ้นแล้ว วิชชาได้เกิดขึ้นแล้ว แสงสว่างได้เกิดขึ้นแล้วแก่เรา สิ่งนี้นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเราถือเป็นเคล็ด สำหรับคนที่ยังมืดบอดอยู่ ยังไม่รู้จักคำว่ามี เพราะเรายัดหัวใจพระธรรมจักรของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเสกลงไปด้วย สิ่งใดที่ปรารถนาจะมี ยังไม่เกิด ยังไม่มี นับจากนี้ให้เกิดมีตามที่เรานี้สรรค์ประสิทธิ์เอาไว้

    - นัยน์ตานั้น คำนี้สื่อถึงความหมายยิ่งใหญ่ ประดุจสิ่งอันเป็นที่รัก สิ่งที่มีค่าสูงสุดของเจ้าของ ดั่งที่คำโบราณท่านเปรียบเปรยว่าแก้วตาดวงใจ นัยน์ตานี้ก็คือแก้วตาสื่อถึงความรักหวงแหนสูงสุด เป็นอิทธิคุณแฝดทางด้านมหานิยม มหาเสน่ใหญ่อย่างที่สุด ถ้ารักใครชอบใครนั้น ต่อไปไม่ใช่เรื่องยาก ดุจเราได้ครองของสำคัญคือแก้วตาดวงใจของเค้าไว้แล้วนั่นเอง ให้ตั้งจิตนึกเอาว่าเรากุมแก้วตาดวงใจของเขาไว้อยู่ในตัวเราเขาอยู่ในอุ้งมือเราแล้ว จะใช้ทางเสน่ห์เล่กลใดก็สุดแต่ใจเถิด

    - เป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจการทำลายล้างสูงสุดในจักรวาล(ของครูพระสยม) พ่ออาจารย์
    ท่านว่าแม้ในเหล่ามาร อสุรกาย เทพเจ้า และพระเป็นเจ้าด้วยกัน ก็ยังเกรงอำนาจการทำลายล้างอันเป็นปรมัตถ์นี้ เพราะเป็นการทำลายขั้นสูงสุด พกไว้กับตัวเป็นมหาเดช มหาอำนาจเหนือสิ่งอื่นใด เป็นที่เคารพและเกรงกลัว จนเข้าต้องรีบเข้าหาเรามาประจบเอาใจเราเช่นนั้น

    เช่นนั้นดวงเนตรแห่งสัจธรรมจึงอยู่ในข่ายอันเรียกว่ามหาสัญลักษณ์ ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ใช้แทนตัวพระเป็นเจ้าแทนอำนาจบัญชาการศักดิ์สิทธิ์เหนือธรรมชาติทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกตินั้นดวงตาคือสิ่งที่ใครๆผู้ใดก็ย่อมมีแต่ตาแห่งสัจธรรมที่จะล่วงรู้ดูเห็นในตรีกาลทั้งสามอันจะปรากฏระหว่างพระนลาฎนั้น แม้ในหมู่เทพยดาผู้ทรงมเหศรศักดิ์ทั้งหลายก็ยังไม่ค่อยจะปรากฏมี เพราะเป็นสัญลักษณ์ป็นตัวแทนอำนาจที่จะทำให้เราล่วงเข้าถึงพลังของมหาจักรวาล เป็นสัญลักษณ์ของการหยั่งรู้คือรู้กาลอดีต,รู้กาลปัจจุบันและหยั่งรู้ในอนาคตกาลเช่นนี้จึงมีพลังเปิดญาณทัศนะของผู้ครอบครองได้โดยตรง *** เมื่อประทับลงบนมีดแหกทุกข์ ดวงเนตรนี้นอกจากจะเป็นตัวแทนกำลังฟ้าแล้ว ยังเป็นตัวแทนการดึงอำนาจครูบาอาจารย์ผู้สูงส่งทรงศักดิ์ทั้งหลายลงสู่มีดเพื่อสงเคราะห์เรา

    เพื่ออาถรรพ์สูงสุด...ท่านได้ลงวิชาแผ่นชนวนด้วย
    สองสุดยอดนัยนาวุธเพื่อจะให้เป็นที่สุดของการประทับดวงเนตรแห่งสัจธรรมลงไป นอกจากเสกมีดแล้วพ่ออาจารย์ท่านยังต้องแยกเสกเปิดเนตรเฉพาะดวงเนตรนี้ ท่านเสริมกำลังแห่งดวงตาพระสยมและดวงตายมราชลงไปเป็นกาลเฉพาะ

    ### เนตรพระสยมภูวญาณ เมื่อพูดถึงพระเนตรที่สามอันเกิดแต่พระนลาฏของเทพเจ้าผู้ทรงมเหศักดิ์แล้ว ก็หามีดวงพระเนตรใดอันจะเป็นที่เกรงกลัวและเชื่อได้ว่ามีอานุภาพร้ายกาจสูงสุด เท่ากับดวงนัยน์เนตรขององค์พระสยม(ศิวะเทพ) ด้วยดวงเนตรนี้หาได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของความรู้แจ้งเท่านั้น หากแต่ยังเป็นสัญลักษณ์แห่งพลังการทำลายล้างสูงสุดอันเกิดมีมาแต่เดิมในฐานะพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย เหนือกว่าและมากกว่าเหล่าเทพอาวุธอันทรงอานุภาพทั้งหลายของเทพเจ้าต่างๆซึ่งอาจเกิดมีขึ้นได้ด้วยอำนาจการสร้างสรรค์ของแต่ละพระองค์ แต่เมื่อเทียบกับอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรพระสยมแล้วยังห่างกันไกลมาก สาเหตุที่เหล่าเทพเจ้านั้นเกรงกลัวและเคารพองค์พระศิวะเทพเป็นที่สุดนั้นก็เพราะกลัวอำนาจการทำลายล้างของดวงเนตรนี้ แม้พระองค์มีพระประสงค์จะทำลายมหาจักรวาลให้ถึงกาลพินาศย่อยยับไป ก็จะเกิดเพลิงประลัยกัลป์ขึ้นมาจากพระเนตรที่สามนี้เผาผลาญห้องมหาจักรวาลให้พังพินาศไป พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าดวงพระเนตรนี้ ถ้าจะสร้างเป็นเพียงสัญลักษณ์ดวงตานั้นย่อมกระทำได้ง่ายนัก แต่ถ้าจะทำเป็นดวงตาของพระศิวะเจ้าแล้วนั่นคือสิ่งที่สร้างได้ยากที่สุด เพราะมีอานุภาพรุนแรงนักแม้สัญลักษณ์ดวงเนตรพระสยมปรากฏขึ้นที่ใด เหล่าเทพเจ้าทั้งหลายย่อมกลัวเกรงในอาญาสิทธิ์นี้ของพระเป็นเจ้า จึงอาจจะกล่าวได้ว่าบุคคลที่ได้ครอบครองไว้ จะสามารถปราบและข่มเขาได้ทั้งโลก วิชานี้ถือว่าเป็นมหาปราบอย่างที่สุดอีกสายหนึ่งทีเดียว

    ### นัยน์ตาแห่งยมราช นัยเนตรของท่านพญายมราชที่เพ่งแล้วภูตผีทั้งหลายจะมอดไหม้ไปเป็นจุลมหาวิจุลในพริบตา เมื่อพญายมราชพิโรธแล้ว สักว่ามองดูด้วย นัยนาวุธ กุมภัณฑ์ทั้งหลายนับหมื่นพันตนก็จะลุกเป็นไฟพินาศไป ดุจหญ้าและใบไม้บนกระเบื้องร้อนฉะนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านัยน์ตามยมราชนั้นเป็นอีกหนึ่งสุดยอดอาวุธทำลายล้างที่ทรงกำลังสูงสุดเพียงหนึ่งเดียวซึ่งเกิดจากการบำเพ็ญตบะและบารมีอย่างแท้จริงแตกต่างจากอาวุธวิเศษอื่นใดทั้งหมด ดังนั้นจึงมีฤทธานุภาพร้อนแรงสูงสุดสามารถแผดเผาสรรพสิ่งอันเป็นอุปาทวอันตรายทั้งหลายได้ อีกทั้งเมื่อญานบารมีแห่งพระยมนั้นเบิกเนตรจะทำให้ชีวิตคนใช้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เมื่อพลังแห่งนัยนนาวุธปรากฏเราจะมีพลังมีตบะดุจถือครองนัยน์ตาของพระยมฉันใดก็ฉันนั้น ท่านว่าฤทธิ์นัยนาวุธนั้นเพียงแค่มองใครเค้าก็กลัวก็เกรงเราแล้ว พอคนนอบน้อมจะทำอะไรก็สะดวกและง่ายไปเสียทั้งหมด ท่านว่าดวงเนตรแห่งพระยมนี้นอกจากจะสูงสุดด้วยฤทธิ์แล้ว ยังเป็นเนตรสอดส่อง เนตรแห่งความรักความยุติธรรมที่จะใช้มองสัตว์ทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านว่านี่คือที่สุดแล้วของวิชาสายพญายม ใครจะได้ดีได้ชั่วอยู่ในอำนาจแห่งดวงเนตรนี้ทั้งสิ้น ท่านได้ทำการบอกกล่าวพญายมราชผู้เป็นนายเหนือหัวแห่งยมโลก เป็นนายแห่งสรรพชีวิตหลังความตาย ให้เมตตาช่วยเหลือและคุ้มเกรงผู้บูชา ท่านว่าบูชาไว้เถิด เราเชื่อใจพระยมท่านแล้วจะรู้ว่าได้ดีอย่างคาดไม่ถึงนั้นเป็นอย่างไร

    มีดแหกทุกข์ฝังตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล

    ตะกรุดตัวนี้ได้ชื่อว่าเป็นตะกรุดชั้นสูงเพราะมีขั้นตอนรายละเอียดการสร้างที่ลึกซึ้งอย่างมาก ท่านว่าปกติสมัยก่อนจะเอาไว้ออกในช่วงที่คนเค้าลำบาก..เรียกว่
    า ไม่ขัดสน ไม่ทุกข์ยาก อย่าเพิ่งให้ใครเอาไปใช้ ตะกรุดนี้ชื่อว่าปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าวิชานี้เป็นวิชาของสมเด็จองค์ปฐม ท่านเล่าว่าในมวลหมู่พระพุทธเจ้าทั้งหลายและเหล่าพระมหาโพธิสัตว์ตลอดจนเทวราชที่มีลำดับศักดิ์ใหญ่ๆนั้น จะมีจักรเพชรอันเกิดขึ้นแต่บุญและโพธิสมภารเป็นอาวุธประจำกาย เช่นพระศิวะก็มี,พระนารายณ์ก็มี,พระพรหมก็มี,พระอินทร์ก็มี แม้แต่ในสภาของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุกพระองค์ก็ล้วนแต่มีจักรเพชรอันเกิดแต่พุทธบารมีของแต่ละพระองค์ ขึ้นชื่อว่าจักรเพชรนั้นด้วยจักรนั้นจะหมุนไปไม่ขาดช่วงขาดตอนเหมือนการดำเนินวนเวียนของวัฏสงสาร หมุนถ่ายสับเปลี่ยนคงอยู่ดับไปเช่นนั้น เป็นวงล้อแห่งพระเวทย์และพระธรรม เป็นสัญลักษณ์ทางกายภาพของการตัดขาดหมดสิ้น ซ้ำยังเป็นยอดศาสตราวุธที่สูงส่ง มวลสรรพชีวิตเกรงกลัวด้วยอานุภาพการทำลายล้างนั้นสามารถตัดทุกสิ่งได้ หากจะกล่าวแล้วจักรเพชรที่เปี่ยมด้วยอานุภาพสูงสุดก็คือจักรเพชรของสมเด็จองค์ปฐมนั่นเอง

    จักรเพชร คือบารมีอันสำเร็จออกมาเป็นรูปทางกายภาพของสิ่งศักดิ์สิทธิ์แต่ละพระองค์เหนือกว่าพระขรรค์หรือศาสตราวุธใดๆ จะมีกำลังเพียงไหนก็ขึ้นอยู่ที่บารมีของผู้นั้นตกผลึกออกมา พ่ออาจารย์ท่านเคยได้รับนิมิตรจากองค์ปฐมท่าน ให้นำวิชาพุทธจักรเพชรของพระองค์ท่านมาทำเครื่องรางเอาไว้ ต่อไปจะสูงค่าหาได้ยากยิ่ง ด้วยว่าจะค้ำจุนสรรพชีวิตทั้งมวลและพาเค้าดำเนินเป็นสายตรงเข้าไปหาความสำเร็จสูงสุด ซึ่งวิชานี้พ่ออาจารย์บอกว่าลึกล้ำพิศดารนักเพราะในส่วนของวิชาคือดวงความสำเร็จหรือจะเรียกว่าดวงสัมฤทธิ์ผลจะช่วนหนุนในทุกเรื่อง ทุกสรรพสิ่ง ที่มนุษย์จะคิดจะพึงปรารถนา ด้วยเป็นฐานดวงยันต์หนุนด้วยพุทธจักรเพชรองค์ปฐมแบบส่งต่อกันไร้จุดบกพร่อง ดุจดั่งว่าจักรเพชรของสมเด็จพระยอดแก้วดวงธรรมนั้นจะหมุนทำลายความขัดข้องและปัญหาทุกสรรพสิ่ง ตัดขาด ทำลาย ซึ่งจัญไรและอุปาทวมงคลทั้งปวง ด้วยอำนาจแห่งวิปัสนาญาณของสมเด็จองค์ปฐมอันจะริดรอนผลกรรมขยายขอบข่ายกรรมดีของสรรพสัตว์ ซ้ำยังเป็นสัญลักษณ์ที่หมุนวนไม่หยุดนิ่งอยู่กับที่ ทำลายกรรมหนักชนเข้าด้วยกำลังแห่งวิปัสนาญาณ ทำให้ชีวิตสรรพสัตว์นั้นหมุนเวียนเปลี่ยนผันไปไม่มีหยุด ที่ว่าเลวลงก็จะดีขึ้น เจอแต่เรื่องดีๆยิ่งๆขึ้นไป ตัดสิ้นทุกสิ่ง สะบั้นให้เป็นธุลีแม้แต่กิเลสและอวิชชาทั้งหลายก็ไม่อาจทานอำนาจของพุทธจักรเพชรองค์ปฐมนี้ได้ ตัดแล้วก็หมุนวนไปหาความสำเร็จซ้ำแล้วซ้ำเล่า ได้แล้วได้อีก

    เหนือทุกสรรพสิ่งพ่ออาจารย์ท่านเล่าว่าวิชานี้แปลก สมเด็จชินเจ้าผู้บรมครูท่านคงรู้กาลในอนาคตเบื้องหน้าจึงเมตตาถึงปานนี้ ด้วยวิชาที่ประทานนั้นเป็นพุทธจักเพชรอันทรงอำนาจสูงสุด แวดล้อมรักษาดวงความสำเร็จเอาไว้ ปฐมพุทธจักรเพชรนี้อยู่กับผู้ใดคิดการณ์จะกระทำสิ่งใดก็สำเร็จดั่งความคิด ท่านว่าเวลาจะใช้ให้อาราธนาให้ดี ระลึกถึงสมเด็จองค์ปฐมและจักรเพชรนี้เป็นที่สุด ตั้งจิตเพ่งความปรารถนาเข้าไปในตะกรุด เมื่อส่งความปรารถนาไปก็ได้ชื่อว่าสัมฤทธิ์แล้ว สำเร็จแล้วแก้เคล็ดของความตกต่ำย่ำแย่ในทุกๆสิ่ง พ่ออาจารย์ท่านว่าลงยากนัก วิชานี้ต้องลงในเวลาอันมีฐานของดวงมหาอุจจ์ ท่านว่าเบื้องบนกำชับมานักหนาใช้ฤกษ์อื่นไม่ได้ เพราะว่าฐานมหาอุจจ์นี้จะวิ่งยิงตรงไปเสริมพื้นดวงของผู้ครอบครองให้สูงส่ง หนุนขึ้นไป ยิ่งหน้าที่การงานจะยิ่งได้ผลดีมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตเค้าที่ว่าแย่จะหักเหเปลี่ยนแปลง พลิกตัวมาเจอสิ่งดีๆ จากหน้ามือเป็นหลังมือเปลี่ยนดุจคนละคน คนเราลองดวงชนเสียเจอแต่อะไรแย่ๆท่านว่าวิชานี้มันแก้ที่ฐานดวงกันเลย เสริมมหาอุจจ์เข้าชีวิต ใช้ปฐมพุทธจักรตัดขาดความยากจน ความสิ้นเนื้อสิ้นตัวทั้งหลาย สิ่งเลวร้ายทั้งปวงต่อไปจะไม่มาย่ำยี หนุนด้วยอำนาจแห่งสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณที่ 1 (องค์ปฐม) ย่อมเป็นที่เคารพเกรงใจแก่สรรพชีวิตทั้งหลายเป็นมหาจักรที่หมุนไปวิ่งเข้าหาความสำเร็จ

    ท่านว่าวิชานี้แปลกและตรงมาก คือปกติความสำเร็จนั้นมันคือเป้าหมายที่รอคนอยู่เบื้องหน้า มนุษย์ปรารถนาความสำเร็จในทุกกิจที่กระทำ มันไม่ได้วิ่งเข้ามาหาเรา แต่เราต้องวิ่งไปหามัน มันเหนื่อยยากตรงนี้ วิชานี้เป็นการขับเคลื่อนหนุนส่งด้วยปฐมพุทธจักรเคลื่อนตัวเข้าสู่ช่วงชีวิตวงจรแห่งความสำเร็จ ต่อไปทุกกิจที่กระทำไม่ต้องกลัวว่าจะล่าช้า ทำอะไรจะเลวจะแย่ไม่สัมฤทธิ์ประสิทธิ์ผลเพราะการกระทำและความสำเร็จนั้นจะเคลื่อนต่อกัน วิ่งเข้ามาชนกัน ไม่หยดุรอเราอยู่นิ่ง ว่องไวดั่งจักรผัน เมื่อลงตะกรุดนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นวิชาที่สำคัญในฝ่ายของพระโพธิญาณ เพราะอักขระที่แวดล้อมกงจักรนั้น ก็เปรียบเสมือนตัวแทนของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าหนึ่งพระองค์ มีกี่ตัวก็ยากเพียงนั้น ท่านว่าวิชานี้ยากเอาเรื่อง ต้องใช้ญาณใช้กำลังใจในการลงสูงมาก ดุจดั่งว่ามีพลังงานหมุนวนส่งต่อกันเป็นช่วงๆไม่ขาดตอน ดุจดั่งจักเพรชที่ผันอยู่ตลอดเวลาไม่มีช่องว่างเว้น ชีวิตเราก็จะหมุนวนดำเนินไปสู่หนทางที่ดีขึ้น สูงขึ้นตลอดเวลาเช่นกัน ท่านว่าเจอแต่สิ่งดีงามซ้ำๆซากๆไม่เลวลงด้วยมหาจักเพชรนั้นเป็นอาวุธทางกายภาพก็จริงแต่ก็มีจิตรู้เป็นเจตสิกที่จะแยกแยะออกว่าสิ่งไหนดีหรือไม่ดี จะดูดเข้ามาหรือทำลายให้ย่อยยับไป เป็นคติที่จะบอกเป็นความนัยย์ว่าตะกรุดนี้มีชีวิตไม่ใช่ของเล่น

    เมื่อจะเสกตลอดระยะเวลาสามปีนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ามันยาก เพราะต้องเชิญที่ละขั้นเริ่มจากเทวดาก่อน ให้เทพผู้มีมเหศรศักดิ์ทั้งหลายนำเอาจักแก้วจักรเพชรของแต่ละพระองค์นั้นมาเปล่งอานุภาพลงในตะกรุดนี้ ทำเป็นกลบทไป ไล่ไปทีละชั้นจากเทพ โพธิสัตว์ พรหม มหาพรหม มหาพรหมโพธิสัตว์ พระปัจเจกพุทธเจ้า แหละสภาพระพุทธเจ้าทั้งหลายที่จะมีมหากรุณามาสงเคราะห์อันมีสมเด็จองค์ปฐมเป็นประธาน ก่อนที่จะอาราธนาสมเด็จพระพุทธสิกขีทศพลญาณให้ลงมากระทำวิชาประทานจักรเพชรของพระองค์ให้แยกออกและสิงสถิตย์ไว้ด้วยพุทธานุภาพ

    *** พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำมีดแหกทุกข์อันได้ชื่อว่าเป็นมีดครูแล้ว จึงจำเป็นจะต้องลงต้องอาบอาถรรพ์แห่งยอดศาสตราวุธอย่างแท้จริงลงไปด้วยท่านจึงนำยอดตะกรุดปฐมพุทธจักรเพชรที่ลงใส่เเผ่นทองเหลืองแยกไว้สมัยออกตะกรุดเงินรุ่นแรกฝังลงไปตอนหล่อมีดพร้อมๆกัน

    มีดแหกทุกข์(ตัดสัญญา)

    โดยมีดแหกทุกข์แต่ละเล่มนั้นท่านจะนำมาจารอักขระ
    ปลุกเสกทุกวันเดือนดับจึงเรียกว่ามีดเดือนดับแหกสัญญากรรม ท่านว่าถือเป็นเคล็ดเฉพาะทางที่จะใช้ดับพิษภัยโรคร้ายแลอาถรรพ์อัปมงคลทั้งปวง ท่านว่าเล่มหนึ่งก็วันหนึ่งต้องทำพิธีลงจารเสกเป่ามนต์ตามตำรับการสร้างมีดแหกโดยเฉพาะ แต่พ่ออาจารย์ท่านว่ามีดนี้ต่างกับมีดแหกอื่นๆเพราะฉันทำตามตำรับขององค์ปฐมท่านเป็นมีดที่ใช้แหกทุกข์ตัดสัญญากรรมเช่นนี้จึงทำยากแต่ก็ต้องทำ ..เพื่อที่จะใช้แหกสิ่งอัปมงคลดันเอาสัญญากรรมที่ผิดพลาดดับล้างไป ให้ผู้เป็นเจ้าของมีชีวิตปกติห่างจากภัยอันเกิดแต่การผูกสัญญากรรมอย่างน่าอัศจรรย์ แล้ว...สัญญากรรมร้ายแรงปานใด

    ด้วยปัญหาแห่งชนทั้งผอง ..คำสัญญาเมื่อชาติก่อนๆย่อมผูกพันอย่างไม่สิ้นสุด ชาติที่แล้วเราไปผูกมัดใครไว้บ้างก็ไม่รู้ด้วยคำสัญญา โดยหารู้ไม่ว่ากรรมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ชาติภพใหม่ก็เลยแตกต่างกันไปแต่คำมั่นที่สาบานยังอยู่ ....

    สัญญากรรม ก็คือ ผลแห่งกรรมนั่นแหละหากจะกล่าวให้ละเอียดขึ้นก็คือผลแห่งกรรมที่ก่อให้เกิดพันธะข้อผูกมัดหรือก่อให้เกิดความสัมพันธ์ขึ้น ไม่ว่าจะเป็นพันธะหรือความสัมพันธ์(ทั้งด้านดีหรือไม่ดี) ต่อผู้หนึ่งผู้ใด กลุ่มหนึ่งกลุ่มใด หรือสถานที่ใดสถานที่หนึ่ง
    ยิ่งคนบางคนสัญญากรรมซับซ้อนมาก เพราะเกิดบ่อยและเกิดมาแต่ละชาติก็ทำแต่ความดีเป็นส่วนใหญ่ การทำความดีก็ต้องไปเกี่ยวข้องกับบุคคลและสถานที่ทั้งหลายมากขึ้น ยิ่งหลากหลาย สัญญากรรมก็ยิ่งซับซ้อนถือว่าเป็นสัญญากรรมฝ่ายดี เมื่อสัญญากรรมฝ่ายดีตามทันก็ทำให้คนผู้นั้นไปรู้จักกับคนนั้นคนนี้ ต้องกลับไปสร้างบุญสร้างกุศลกับคนกลุ่มนั้นกลุ่มนี้ หรือต้องเดินทางไปณ.จุดนั้นจุดนี้ ซึ่งก็ไม่ใช่ที่ไหนเลยหากแต่เป็นที่ๆคนผู้นั้นเคยมีสัญญากรรมมานาน นานเสียจนอาจลืมไปแล้วแต่สัญญากรรมก็ยังคงมีอยู่

    สัญญากรรมไม่เคยเป็นฝ่ายลืมเราตราบใดที่เรายังไม่พ้นการเวียนว่ายตายเกิด เราเสียอีกกลับเป็นฝ่ายลืมเลือนสัญญากรรมนั้น จนกระทั่งต้องให้สัญญากรรมาเตือนแต่ก็ไม่ใช่ว่าเมื่อสัญญากรรมเตือนเราแล้วจะทำให้เรารู้ระลึกหรือเข้าใจได้เสมอไป ตรงกันข้ามอาจทำให้เรางุนงงสงสัยไม่เข้าใจว่าทำไมต้องเป็นอย่างนั้นทำไมต้องเป็นอย่างนี้หรืออาจคิดได้เพียงแค่ว่า "ซวยจริงๆ" และถึงแม้เราจะสร้างบุญสร้างกุศลมากเพียงใดก็ตาม ตราบใดที่กิเลสยังครอบงำใจเราอยู่เราก็ยังมีโอกาสทำกรรม
    มีโอกาสลุ่มหลงมัวเมาเมื่อเราทำผิดพลาดไปก็จะก่อให้เกิดสัญญากรรมฝ่ายไม่ดีรอเวลาให้เราชดใช้หนี้กรรมนั้น

    *** พ่ออาจารย์ท่านทราบถึงสาเหตุว่าคนส่วนใหญ่ คนส่วนมาก คนบางคนก็ตั้งสัจจะอธิษฐานกันเป็นจริงเป็นจัง ลั่นกันออกมาแล้วตั้งแต่ก่อนลงมาเกิดว่าจะขอมาสร้างบารมี จะขอลงมารับทุกขเวทนาขัดเกลาจิตใจตนเองให้พ้นห้วงกิเลสบรรดามี...ก็สัญญากรรมนั้นอย่างไรจึงทำให้เกิดมาทั้งชีวิตหนีห้วงแห่งทุกข์ไม่พ้นเลย จบเรื่องหนึ่งก็เจอเรื่องหนึ่งเหมือนฉากละครที่คอยมอบบทส่งบททดสอบให้ตั้งแต่เกิดจนตาย บันดาลให้ต้องจมทุกขเวทนาไปตลอดชีวิต ### เช่นนั้นท่านจึงทำมีดเดือนดับแหกสัญญากรรม(มีดแหกทุกข์) ขึ้นมา เพื่อจะได้ตัดสัญญารบกวนทั้งหลายเหล่านั้น ให้บอกกล่าวแก่ตัวมีดและแรงครูบาอาจารย์ให้ท่านตัดสัญญาที่ไม่ดีซึ่งคอยเปลี่ยนชีวิตเรา(ข้อนี้สำคัญพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องอาราธนานะเขาถึงจะทำ หากเอาไปพกเฉยๆไม่อาราธนาเฉพาะเรื่องนี้เขาจะไม่ทำไม่ยุ่งเลย)

    คาถาบูชา
    อมจะรุ่งชะชะ พิษสะหิงสะแห สะแกแม อมวะวะ กะริสสามิ อมสะวาหะเท็ก อุ่ง แซ แซ ซะตอแซ อุ่งตุ๊ก นะมุดวุ๊ก อุ่งสวาหะ เกสานัง ปิวิจะยะ อุอะมิ เกสาปะติ กุลาตุ สุเต กัตวา สวาหาย อุ่งมะ อุ่งปะ อุ่งฝะ อุ่งมะลิจอ ขันธะ สวาหะ นะอุ นะเต๋ ยะเย เจ๋ลัง
    อมพิษพญาเจ็บ อมพิษพญาไหม้ อมพิษพญาไข้ อมพิษพญาหนาว พิษเดือนพิษดาว ไสยศาสตร์คุณไสย์ กูจักเรียกหื้อมึงออก มึงจึงออก กูจักเรียกหื้อมึงหนี มึงจึงหนี สะหรี๋กันใจ กูจักบาด กูจักตัด หื้อมึงขาดเป็นสอง อมสวาหาย นะหลุด โมถอด พุธหลั่ง ธาเลื่อน ยะถอน อมปุปิ สะละหิง สวาหาย อุ่งทองปิ๊ทอง อมมะแล แจคอง ผั๊วหาย ติ๊ก ติ๊ก

    เวลาใช้มีดแหกทุกข์กดลากไปตามตัว ให้ภาวนาว่า เวสสุวัณณะราจา สุวัณณะเวสสะปัสสะติ ต๋าถาอาวุธา จัตต๋าโรอาวะ ทาโรเก๋ อาวุนันติ ทันติ หัตถานัง เสตตว๋า สันติ มรณัง

    นอกจากจะทำในส่วนของมีดแหกทุกข์ตัดสัญญากรรมแล้ว พ่ออาจารย์ท่านยังทำให้มีอานุภาพแบบเทพศาสตราไปพร้อมๆกันด้วยจะพกติดตัวไว้กำราบผีก็ทำได้ จะใช้ทางกันคุณไสย์,กันคุณคน,กันกระทำย่ำยี,กันภูติผีปีศาจ,กันภยันตราย,กันสิ่งอัปมงคล,กันลมเพลมพัด หรือจะใช้ทำลายอาถรรพ์จากอาคมของผู้ไม่หวังดีและภูตผีเวลาเดินทางหรือเวลานอนต่างถิ่นเข้าไปเกี่ยวข้องในที่อาถรรพ์แรงทั้งหลายในบริเวณที่เราก็ไม่ทราบว่ามีอาถรรพ์อะไรบ้าง พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้มีดแหกนี้สับลงไปก็ทำลายได้ทั้งสิ้น จะอาราธนาทำน้ำมนต์ดื่มกิน ทำน้ำมนต์รักษาโรคที่เกิดจากอาถรรพ์ต่างๆก็ได้...สารพัดที่จะใช้

    *** มีดแหกทุกข์นี้สร้างไว้สำหรับคนพร้อมที่จะให้โอกาสตัวเอง..ท่านว่าพร้อมกันหรือยัง อยากหยุดอยากเลิกสัญญาเก่าเพื่อเปิดชีวิตใหม่ค่อยมาเอาไป มีดนี้ยิ่งใช้ยิ่งขลัง ท่านว่าชีวิตนึงทำได้ครั้งเดียว จะฝากให้คนที่เรารักพกติดตัวก็ได้ด้วยในอนาคตนั้น สัญญากรรมที่ผูกเราไว้ให้เกิดในยุคนี้ จะได้เห็นได้เจอความทุกข์ทับถมทวียิ่งกว่าทุกวันนี้ คนที่ไม่อยากจะทนให้เวลานั้นมาถึงในสภาพที่ตัวเองยังพึ่งตัวเองไม่ได้ก้ให้รีบตัดของเก่าเสียเปิดรับสิ่งใหม่ๆ เตรียมตัวกันไว้ให้พร้อมให้ดี ...รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น ผู้จองให้แจ้งชื่อนามสกุลเอาไว้ด้วย พ่ออจารย์ท่านจะประสิทธิ์ให้อีกครั้งหนึ่ง ท่านว่ามีดแบบนี้เราทำได้ครั้งเดียว ใครเค้าพลาดเค้าไม่สนใจรอจนเวลาทุกข์สาหัสมาถึงค่อยมาถามหาก็ไม่มีอีกต่อไปแล้ว เพราะนั่นย่อมสายเกินไปที่จะแก้กันใดๆได้อีก รายได้ส่วนหนึ่งร่วมสมทบทุนวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มีดเดือนดับแหกสัญญากรรมประทับนัยน์ตาสัจธรรม(ชุดโต้กลับ - ปฐมพุทธจักรเพชรมหาสัมฤทธิ์ผล) บูชา 2,500 บาท

    94779691-542248933151376-4631018503745306624-n.jpg 95281871-2891722690916312-3118179959504371712-n.jpg
    95597184-1341583666232526-6802413596186771456-n.jpg
    94884222-554204872198289-6482916820192854016-n.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    วิชาทำมีดแหกนั้นถือว่าทำยากกว่ามีดหมอมาก ยิ่งมีดแหกทุกข์ที่ถือเป็นยอดกว่าเทพศาสตราทั้งหลายท่านสร้างและเน้นให้ใช้งานจริงเท่านั้น ### ท่านว่าชุดนี้จะมีไว้ถือไว้ใช้กันเฉพาะผู้เห็นภัยในสังสารวัฏ ท่านว่า.. ถ้าเขาพร้อมก็ลุย
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ภาคภูมิ EI 8931 3613 8 TH

    พี่เกษมธิดา EI 8931 3614 1 TH
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ก็เป็นเรื่องน่าแปลกตั้งแต่เปิดจองเครื่องมงคลมา ถ้าจะพูดถึงบางรุ่นคนทักมาขอยอดเยอะก็พอจะมีอยู่บ้าง อย่างมีดแหกทุกข์รุ่นนี้คนที่ทักมาขอยอดเกินสิบเล่,มีเข้ามาสี่ห้าคนไปแล้ว แต่ของไม่มีจริงๆ ท่านให้บูชาได้แค่คนละเล่มสองเล่มใครได้เกินนี้ไปนิดๆหน่อยๆก็ถือว่าโชคดีที่จองมาไวมากๆ

    สำหรับมีดแหกทุกข์ที่บอกว่าแปลกนั้นก็เพราะมีครูบาอาจารย์และพระสงฆ์องค์เจ้าต่อสายมาโดยตรงหลายท่านขอให้ไปส่งที่วัดนั้นวัดนี้บ้าง อันไหนไม่ไกลเราพอเดินทางไปได้เรียกว่าพอรู้จักทางก็จะเอาไปให้เพราะถือโอกาสเดินทางกราบไหว้พระไปในตัว ...อันนี้ก็นับว่าแปลกตั้งแต่ออกเครื่องรางมามีดแหกทุกข์นับว่ามีคนจองทั้งบรรพชิตและฆราวาส ****สมกับที่พ่ออาจารย์ท่านว่าทำได้ครั้งเดียว รายการนี้สำหรับผมคือเสียดายมากถ้าใครพลาดไปเพราะเป็นศาสตราวุธที่ควรเก็บไว้ใช้งานเพื่อตัวเองจริงๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 พฤษภาคม 2020
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    การชดใช้กรรมบุพเพสันนิวาส
    *** วันนี้ก็จะยกบทความเกี่ยวกับคู่บุพเพมาให้อ่านกันนะครับ

    โดยปกติคนที่มีกงเกวียนกรรมเกวียน กรรมเก่าเกี่ยวเก่า หากเราไม่มีตัวรู้ในองค์ฌานเราคงไม่มีทางรู้ว่าเราจะต้องชดใช้กรรมกับใครด้วยวิธีไร ยาวนานแค่ไหน....

    การใช้กรรม การชดเชยกรรมให้กันนั้นถือเป็นเงื่อนปมหลักในพรหมลิขิต ซึ่งทุกคนจะต้องเผชิญ แต่น้อยคนนักที่คนเราจะมีตัวรู้ในระดับนี้ บางครั้งการใช้กรรมกลับกลายเป็นไปก่อกรรมทับซ้อนเพิ่มเข้าไปอีก บ้างกับก่อเงื่อนปมใหม่ที่วุ่นวายทับถมเข้าไปมากกว่าชาติก่อนเสียอีก เช่นนี้ภูมิธรรมจึงเป็นปัจจัยสำคัญพื้นฐาน เพราะคนที่มีภูมิธรรมอย่างน้อยก็ไม่ไปก่อกรรมก่อเงื่อนปมให้มากขึ้นไปอีก

    ในเรื่องของบุพเพสันนิวาสนั้นลึกซึ้งข้ามภพข้ามชาติ จะว่าไปแล้วบุพเพสันนิวาสถือเป็นกุญแจสำคัญของชาติภพแต่มีกี่คนที่ได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสตัวจริง บ้างก็แต่งไปก่อนกับเจ้ากรรมนายเวร บ้างก็แต่งงานไปก่อนกับคนที่กำหนดเป็นเพียงแค่เพื่อน เนื่องจากเสียท่าเจ้ากรรมนายเวรดลใจจนไขว้เขวกันไปก่อน สำหรับคนที่ได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสตัวจริงนั้นถือได้ว่าโชคดีมากๆ คนเคยทำบุญทำกรรมร่วมกันมามากรวมนับไม่ถ้วนชาติถึงคราวใช้กรรมก็ใช้ด้วยกัน ถึงคราวรับบุญก็รับด้วยกัน หากไปแต่งกับคนอื่นโอกาสรับบุญก็เลยมีปัญหา มีเงื่อนไข เพราะบุญนั้นๆทำมาด้วยกันก็เลยต้องมารับบุญด้วยกัน

    คนรักกันอยู่ด้วยกันมาสัญญาทั้งสองคนก็เลยจำกันได้ เข้ากันได้ดี เช่นเวลาเราทำงานหรือไปนั่งใกล้ๆใครแล้วมีจิตที่ดีต่อกันเวลาอยู่ร่วมกันมันเกิดขึ้นมันปิติขึ้นมาเอง(เป็นทั้งคู่ไม่ใช่คิดไปเอง) ที่เป็นเช่นนี้เพราะความรักนั้นสะเทือนอารมณ์ไปกระเทาะจิตเมื่ออารมณ์รักลึกซึ้งดื่มด่ำจนอาจทะลุไปถึงภวังคจิตของคู่สัญญากรรมได้ สัญญากรรมเก่าๆก็กลับมาเรียกว่าจำกันได้เมื่อเจอคู่เช่นนี้ย่อมสามารถแลกเปลี่ยนกันได้ทั้งบุญฤทธิ์หรือบุญเก่าที่จะกลับมาช่วยกันมาชดใช้กันได้ในจังหวะนี้ ทั้งนี้หากการชดใช้และชดเชยกรรมในบุพเพสันนิวาสในส่วนของการสัมผัส,สัมพัทธ์,สัมพันธ์ทั้งในด้านกาย,อารมณ์,จิตหรือวิญญาณไม่เพียงพอก็จะก่อให้เกิดเป็นกรรมเก็บกดได้อีก

    การที่ได้อยู่ร่วมกับคนที่เป็นบุพเพสันนิวาสตัวจริงหรือคู่บุญคู่สัญญากรรมเก่า จึงเท่ากับต่างคนต่างมีตู้ ATM กดบุญมาใช้กันได้ตลอด ย่อมดีกว่าคนที่มีกรรมสัมพันธ์ในระดับธรรมดาเช่นกงเกวียนกรรมเกวียนกรรมเก่าเกี่ยวเก่าหรือบุพกรรมแน่นอน ยิ่งคู่ของเรามีบารมีมากปฏิบัติธรรมมามากทุกอย่างก็จะยิ่งสอดคล้องลงตัวกันมากขึ้น หากคู่บุพเพสันนิวาสคนใดคนหนึ่งกำลังอยู่ในช่วงดวงตกบุญของอีกคนก็จะมาช่วยดึงไว้โอกาสชีวิตที่จะประสบความสำเร็จย่อมมีสูง

    ในทางตรงข้ามหากคู่บุพเพสันนิวาสเกิดมีจิตย้อนแย้งกัน ก็กลับจะก่อให้เกิดอันตรายอันคาดไม่ถึงได้ โดยเฉพาะเมื่อยามดวงตกหรือวาระของกฏแห่งกรรมกำลังแสดงออกนอกจากบุญไม่มาแล้วกรรมจะมาเสริมทับอีกด้วยซ้ำ ปัญหาคือเราจะรู้ได้อย่างไรว่าใครคือเนื้อคู่ตัวจริงของเรา อีกทั้งบุพเพสันนิวาสเราก็อาจที่จะมีหลายคน..แล้วใครคือคนที่สอดคล้องกับเราที่สุดในชาตินี้ หากเราไม่มีตัวรู้ในระดับองค์ฌานการปฏิบัติต่อคู่บุพเพสันนิวาสของตนผิดพลาดย่อมมีสูง

    เราจึงต้องมีภูมิธรรมสูงมีเมตตาและอุเบกขาอยู่เสมอ ถึงแม้เราจะไม่ได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสตัวจริงของชาติภพ ก็ไม่ต้องตกใจ เราอาจได้แต่งงานกับคนอื่นทีไม่ใช่บุพเพสันนิวาสไปแล้วแต่หากท่านประสงค์ให้ชีวิตของท่านมีความสุขและมีโอกาสประสบความสำเร็จในชีวิตให้เหมือนหรือใกล้เคียงกับเมื่ออยู่กับคู่บุพเพสันนิวาสตัวจริงก็ทำได้เช่นกัน โดยการอธิฐานจิตต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือมหาเทพที่มีกรรมสัมพันธ์กับเรา ขอเล่นเกมกลกรรมในบุพเพสันนิวาสโดยอธิษฐานเข้าสู่เกมกลกรรมให้ชะตาชีวิตคู่ปัจจุบันของเราเปลี่ยนเหมือนชะตาชีวิตคู่เมื่อได้แต่งงานกับบุพเพสันนิวาสชีวิตเราก็จะเดินไปในแนวทางแห่งบุญกุศลแต่เราต้องทำบุญที่ตรงกับหนี้กรรม หรือทำบุญทดแทนอย่างต่อเนื่องเพื่อเป็นการทดแทนแลกเปลี่ยน

    โดยเฉพาะการช่วยงานการกุศลงานสาธาระณะอย่างต่อเนื่อง ฝึกฝนและพัฒนาตัวรู้แจ้งแทงตลอดโดยเฉพาะต้องมีภูมิธรรมยึดมั่นในคู่ของเราห้ามนอกใจแม้คู่บุพเพตัวจริงมาก็เปลี่ยนใจไม่ได้เพราะนั่นหมายถึงการแพ้เกมกลกรรมในบุพเพสันนิวาส อันจะเป็นเหตุให้ความลำบากลำเค็ญที่คาดไม่ถึงตามมา โดยให้อธิฐานทำดีไปตลอดเส้นทางชีวิตแล้วทำดีผ่อนกรรมเราและครอบครัวเราควบคู่ไปตลอดชีวิตของเราก็จะเดินทางไปในทางสำเร็จ เมื่อกาลเวลามาถึงเราก็มีโอกาสที่จะชนะเกมเพื่อให้รางวัลชีวิตเช่นเดียวกับการได้อยู่กับบุพเพสันนิวาส ทั้งนี้จะสำเร็จมากน้อยและยุ่งยากซับซ้อนแค่ไหนขึ้นอยู่กับกรรมเก่าและตัวรู้แจ้งแทงตลอดของเรา รวมทั้งการปฏิบัติตนเมื่ออยู่ในเกมของแต่ละคน ที่แน่ๆเราจะได้ไม่ต้องเสียใจว่าเลือกคู่ผิดด้วยพระพุทธศาสนาสอนให้เรารักเดียวใจเดียวสอนให้รักนวลสงวนตัวจึงควรคิดให้รอบครอบก่อนเลือกคู่ หากเรามีตัวรู้แล้วก็จะเข้าใจกรณีนี้อย่างถูกต้องทั้งในสามัญวิสัยและเหนือสามัญวิสัย

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ไปรษณีย์ปิดที่โอนค้างไว้จะจัดส่งของให้รอบพรุ่งนี้นะครับ

    พอดีเมื่อวานก็มีคุณผู้หญิงสอบถามมาเรื่องมีดแหกทุกข์ ว่ากรรมจากบุพเพสันนิวาสแก้ได้มั๊ยเพราะคู่บารมีเป็นคนเจ้าชู้ใช้มีดแหกจะแก้ได้มั๊ย ...เรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องตรงงานตอบได้แต่เพียงเท่านี้

    เพราะสัญญากรรมมีอยู่หลายประเภทมากมาย มากจริงๆไม่ได้จำกัดแค่กรรมบุพเพ เช่นนั้นมีดแหกจึงบอกแต่แรกเปิดจองว่าควรเก็บไว้บ้างนะ ยังไงก็เก็บไว้เพื่อตัวเองเพราะทุกคนถึงเวลาย่อมได้ใช้แน่นอน
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    วันนี้รอบเย็นติดตามกันดีๆนะครับ จะมีตะกรุดเวทย์สวรรค์ชุดเล็กให้บูชากัน...ราคาหลักร้อย
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเวทย์สวรรค์ตะกรุดแปลงโชคหมุนกระแสเวลา (ปฐมมังกรดำ)

    ตะกรุดดอกดำ..ใช้แทนตัวของ ปฐมมังกรดำ

    ด้วยมังกรดำนั้นเป็นมังกรอหังการที่ขัดขืนต่อต้านกฏสวรรค์ ใช้กำลังแห่งตนฝ่าฟันเปลี่ยนแปลงชะตากรรมจนมีวาสนาได้มาซึ่งชะตาแห่งจักพรรดิมังกร พ่ออาจารย์ท่านว่าวาสนาของปฐมมังกรดำคือวาสนาที่น่ายำเกรงสูงสุดในหมู่มังกรเทพทั้งปวง...เขาได้ดีเข้าถึงซึ่งความเป็นจ้าวแห่งเผ่าพันธ์ด้วยกำลังตัวของเขาเอง(ซ้ำเผ่าพันธ์ของเขานั้นมองไปทางใดแต่ละตัวตนก็ล้วนแต่สั่นสะเทือนจักรวาลได้ทั้งสิ้น การปราบข่มและก้าวข้ามเหล่ามังกรเทพเจ้าทั้งปวงจึงเป็นเกียรติยศอย่างยิ่ง) ดังนั้นปฐมมังกรดำพ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งการเปลี่ยนผ่านและเปลี่ยนแปลงยุคสมัยที่ใช้หมุนผ่านกาลเวลา..ไม่ใช่เป็นเพราะเกิดมาเป็น หรือเป็นเพราะเป็นมาโดยกำเนิด เช่นนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงยกย่องสรรเสริญปฐมมังกรดำว่าเป็นยอดแห่งนักสู้ที่เปลี่ยนวาสนาตนเองข้ามผ่านเหล่ามังกรเทพที่ยิ่งใหญ่ทุกตัวตนได้

    ### ปฐมมังกรดำ เป็นมังกรพิเศษต่างจากมวลมังกรเทพทั้งหลายด้วยว่าสามารถขโมยโชคชะตาเปลี่ยนแปลงวาสนาของตนเองและผู้อื่นได้ ทั้งยังขัดขวางการไหลไปหรือการดำเนินไปของโชคชะตาในโลกทั้งปวงได้ซึ่งสิ่งเหล่านี้แม้ตัวตนระดับเทพเจ้าก็ไม่สามารถกระทำได้ เพราะการไหลของกระแสเวลานั้นเป็นกฏแห่งวัฏจักรผู้ที่กำเนิดมาเพื่อหยุดการไหลของกระแสเวลาและกฏแห่งกรรมเหล่านั้นก็คือปฐมมังกรดำนั่นเอง ไม่เพียงแต่เขาจะหยุดได้เท่านั้นเขายังทำได้แม้แต่การขัดขวางและเปลี่ยนแปลงฉากละครชีวิตหมู่ชนทั้งหลาย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นความสามารถพิเศษของปฐมมังกรดำโดยเฉพาะ *** พ่ออาจารย์ท่านว่าสิ่งมีชีวิตชั้นสูงเช่นนี้จริงๆแล้วเขาเป็นพาหนะขององค์ปฐมท่าน(ซึ่งแม้แต่องค์บรมครูก็ยังไม่ค่อยรบกวนเขาเท่าไหร่)เสมือนเป็นการให้ฐานะเชิดชูไว้เท่านั้น กอปรด้วยคุณลักษณะพิเศษของสายเลือดมังกรที่ชมชอบทรัพย์สมบัติ สิ่งไหนมีค่าแม้จะอยู่ไกลสุดหล้าฟ้าสวรรค์ก็ต้องไปหามาเก็บมาสะสมไว้ในวังฟ้าของตน เพราะเขาเป็นสายพันธุ์ที่มีความโลภและชอบในรัตนะแลอัญมณีและทองคำอันทรงค่าศักดิ์สิทธิ์..พ่ออาจารย์ท่านว่านิสัยมังกรคือรักและหวงแหนสมบัติอย่างถึงที่สุด มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักอิ่ม มีเท่าไหร่ก็ไม่รู้จักพอ มีแล้วก็อยากมีอีก เขาจะเก็บรวบรวมทุกอย่างซึ่งได้ชื่อว่าเป็นสิ่งมีค่าแม้จะเล็กน้อยสักปานใดก็ตาม พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นข้อดีเพราะเป็นคุณสมบัติของคนมีอันจะกิน เมื่อท่านสร้างตะกรุดปฐมมังกรดำซึ่งเป็นมังกรเทพอันมีตัวตนและคุณลักษณะพิเศษท่านจึงแฝงอิทธิคุณทางด้านเก็บสะสมวาสนาและชะตาแห่งทรัพย์สมบัติเหล่านี้ไว้พร้อมมูล

    ตะกรุดปฐมมังกรดำนั้น พ่ออาจารย์ท่านได้ทำวิชาตามที่องค์ปฐมบรมครูท่านให้สัญลักษณ์(อันเป็นวิชาเวทย์สวรรค์กำกับปฐมมังกรดำโดยเฉพาะ)เพื่อสื่อถึงปฐมมังกรดำมาลงไว้ โดยตะกรุดนี้จะมีคุณให้ใช้อาราธนาเพื่อแก้ไขขัดขวางการไหลการดำเนินไปของกระแสกรรมในห้วงเวลา สถานะใดที่ผิดพลาด ความคับข้องใดที่ต้องการการแก้ไข กรรมใดที่หลีกเลี่ยงไม่ได้แต่อยากเปลี่ยนแปลงจากร้ายให้กลายดีเหล่านี้ สิ่งทั้งหลายซึ่งไม่ใช่หน้าที่ของเทพเจ้าและเทพเจ้าช่วยไม่ได้เพราะเป็นอำนาจแห่งกฏวัฏจักรของปฐมมังกรดำท่านเท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าให้ขอกับปฐมมังกรดำ ท่านจะช่วยแปลงโชคหมุนกระแสเวลาขัดขวางการไหลของโชคชะตาเพื่อมอบกำลังและสถานะใหม่อันยิ่งใหญ่ให้กับผู้เรียกร้อง

    แปลงโชคหมุนกระแสเวลาวาสนา..ปฐมมังกร

    เรื่องของมังกรนั้น...เป็นเรื่องที่ค่อนข้างเร้นลับอย่างมาก และมักจะไม่นิยมพูดถึงกันโดยละเอียด พ่ออาจารย์ท่านได้ให้วิทยาทานเกี่ยวกับมังกรไว้คร่าวๆดังนี้ ท่านว่ามังกรนั้นเป็นสัตว์เทพชั้นสูงที่เกิดขึ้นยาก และที่สำคัญคือเขาเป็นชนชั้นปกครอง เรามักจะนิยมนำมาเปรียบเทียบและโมเมไปกับพญานาคฝั่งเรา ซึ่งเอาจริงๆแล้วท่านว่าคนละเรื่อง เพราะนาคนั้นมีประชากรมากกว่าเป็นโกฏิจนมิอาจประมาณได้แต่มังกรนั้นมีน้อยกว่านักและหากยิ่งนับชนชั้นปกครองหรือมังกรขั้นสูงสุดก็น้อยเสียว่านับได้ด้วยนิ้วมือ พ่ออาจารย์ท่านว่าการกำเนิดของมังกรนั้นมีหน้าที่ต่างๆกันมากมายเพราะเป็นสัตว์เทพที่พิเศษ ถ้าเกิดบนฟ้าก็จะเป็นมังกรฟ้าเป็นมังกรชั้นสูงสุด เป็นมังกรสวรรค์มีอานุภาพมาก ยกตัวอย่างง่ายๆอย่างเง็กเซียนฮ่องเต้ผู้ยิ่งใหญ่ครอบครองบัลลังค์สวรรค์ของมหายานนี่ก็เป็นมังกรฟ้าเช่นกัน นอกจากนี้ก็ยังมีลำดับรองลงมาเช่นมังกรควบคุมมหาสมุทร และมังกรที่เกิดตามเขาตามป่าหรือในน้ำทั่วไปซึ่งจะพบเจอหรือหาได้ง่ายกว่ามังกรฟ้า แต่ถึงอย่างนั้นก็เรียกว่าแทบหาไม่เจอกันเลยทีเดียว แม้ในมังกรระดับล่างสุดโดยประเภทหลังนี่เองที่มักทำหน้าที่เป็นภูมิเทวารักษาพิทักษ์แผ่นดินหรือแม่น้ำสำคัญต่างๆ บางตัวนอกจากเป็นภูมิเทวา,บางตัวก็ยังมีฐานะเป็นพระโพธิสัตว์อันมีภพชาติแน่นอนมีทั้งพุทธภูมิ,สาวกภูมิ ซึ่งมังกรเหล่านี้แม้ในระดับล่างสุดเมื่อลงมาเกิดขึ้นก็จะเป็นใหญ่เหนือพื้นที่นั้นๆ พ่ออาจารรย์ท่านยกตัวอย่างเช่นหากในพื้นที่นั้นมีนาคราชทั้งหลายหรือกษัตริย์นาคาปกครองอยู่ก็จะโดนปกครองโดยมังกรนั้นอีกทีหนึ่ง ท่านว่านี่เราพูดถึงเพียงมังกรระดับล่างสุดเท่านั้นนะ

    พ่ออาจารย์ท่านว่าหากจะพูดถึงคุณวิเศษของมังกรฟ้าหรือเทพมังกรที่ท่านเชิญมาลงในตะกรุดปฐมมังกรดำคร่าวๆก็คงบอกแต่พอฟังได้ เพราะว่าท่านพูดมากไม่ได้มันพัวพันซับซ้อนเกินกว่าจะพูดถึงได้

    - เทพมังกรมีฤทธิ์มากกว่าสัตว์เทพทั้งหลาย หากให้เปรียบเทียบย่อมไม่ไกลกว่าพญาครุฑดึกดำบรรพ์

    - เทพมังกรเหินฟ้า เธอรู้มั๊ยคืออะไร ...นั่นคือเทพมังกรย่อมไม่มาแปดเปื้อนด้วยธุลีดินทั้งหลาย... เขาจะไม่ร่อนต่ำ ไม่ลงต่ำ ต่างจากมังกรทุกสายพันธุ์เช่นนั้น คนใช้ก็มีแต่จะสูงและสูงขึ้นไม่มีคำว่าเสมอตัวหรือตกต่ำ

    - เทพมังกรเป็นสัตว์ที่สูงศักดิ์ การบูชามังกรนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่า "ย่อมนำความสูงศักดิ์และสิ่งที่สูงศักดิ์มาสู่ผู้คน"

    - เทพมังกรเป็นสัตว์มงคลสูงสุดเป็นราชาของทุกเผ่าพันธุ์ ย่อมนำมาถึงซึ่งความเจริญในอำนาจ วาสนา บารมีอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

    - เทพมังกรคือจิตวิญญาณของการเปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูให้ดีขึ้น คนจีนเชื่อและถือกันมาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเทพมังกรย่อมนำมาซึ่งความเปลี่ยนแปลงในหลายๆสิ่งอย่างของชีวิต พร้อมกับฟื้นฟูสิ่งที่เสียหายไปให้กลับมางอกงาม

    - เทพมังกรมักจะช่วยส่งเสริมธุรกิจการค้าให้รุ่งเรืองโดยเฉพาะสำนักงานหรือร้านค้า แม้บุคคลธรรมดาก็ยังช่วยเรียกโชคลาภให้มาเยือนได้ไม่ขาดสาย

    - เทพมังกรเป็นสัญลักษณ์ของการช่วยป้องกันสิ่งชั่วร้ายพร้อมทั้งยังช่วยเพิ่มความเจริญรุ่งเรืองให้กับชีวิต

    - เทพมังกรเป็นตัวตนที่สื่อถึงอำนาจ การปกครอง การบังคับบัญชา ทุกสรรพสิ่ง

    - เทพมังกรเป็นตัวแทนของความแข็งแกร่ง ความตั้งใจ ความพยายาม กล้าหาญ และอดทน

    - เทพมังกรเป็นสัญลักษณ์นำโชคที่ดีต่อชีวิต ให้พรั่งพร้อมด้วยอำนาจ บารมี ความมั่งคั่ง พลานามัยที่สมบูรณ์

    - เทพมังกรเป็นสัตว์ที่เปี่ยมไปด้วยความเมตตาปราณี ชอบส่งมอบความสุขให้กับผู้ประพฤติดี

    - เทพมังกรสามารถสลายพลังปราณพิฆาต และสามารถแก้ไขให้โชคชะตาดีขึ้นได้

    - เทพมังกรมีความสามารถที่จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาและผลักดันเรื่องเลวร้ายออกไป....


    พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพูดได้แค่คร่าวๆ เพราะหากจะถามหาคุณของปฐมมังกรดำนั้นย่อมไม่สมควรเหมือนเราไปสอบถามสิ่งที่เป็นอนันต์กาล เหมือนผู้น้อยไปถามต่อสิ่งที่ไม่อาจหยั่งวัดจุดจบได้ สิ่งที่เสมือนเป็นโคตรบรรพบุรุษของจักรวาลว่าเคยทำคุณอะไรไว้สามารถช่วยอะไรได้แบบนี้ย่อมไม่เหมาะสม จึงบอกได้เพียงเท่าที่ควรบอก ท่านว่าอันตะกรุดปฐมมังกรดำนี้แม้ผู้ใดได้พบเห็นนับว่าเป็นสิริมงคลอย่างมาก *** หากแม้นได้ครอบครองดุจคนผู้นั้นขี่หลังมังกรมีวาสนาดุจเทพยดาแปลว่าเขามีบุญเก่ามีของเก่าผูกพันธ์กันมาด้วยว่าแต่เก่าก่อนนับแต่เบิกฟ้าดินนั้นคนธรรมดาหาได้มีหวังที่จะจับต้องของใช้ซึ่งเป็นสิริมงคลสูงสุดเช่นนี้ อันปฐมมังกรดำนั้นมีชาติกำเนิดลึกลับเกินหยั่งทั้งยังมีตบะและวาสนาบารมีเปี่ยมล้นสูงสุด ท่านว่าเพียงมังกรฟ้าปกติก็จำกัดไว้ใช้เพียงองค์พระจักรพรรดิ์เท่านั้น แต่นี่กลับเป็นถึงปฐมมังกรดำที่เชิญและลงอาถรรพ์โดยศาสตร์ในองค์ปฐมของพ่ออาจารย์แล้วนับได้ว่าเป็นประวัติศาสตร์โดยแท้จริง ถึงกับท่านบอกเปรยเป็นนัยๆว่า"แปลงโชคหมุนกระแสเวลาวาสนา..ปฐมมังกร" สิ่งนี้ย่อมต้องแฝงความยิ่งใหญ่อย่างถึงที่สุดแน่นอนเพราะเป็นสิ่งที่ใช้สื่อกำลังและวาสนาของจ้าวแห่งเผ่าพันธ์มังกรปฐมมังกรดำนั่นเอง

    ด้วยเป็นตะกรุดเวทย์สวรรค์อันทรงค่าที่ใช้เสมือนเป็นสื่อกลางเชื่อมถึงอำนาจแห่งปฐมมังกรดำ พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อเราร้องขอพลังการเปลี่ยนแปลงของปฐมมังกรดำมาใช้ การใช้การอธิษฐานแบบนี้ก็เหมือนกับการยืมเอากำลังแห่งปฐมมังกรดำมาช่วยเหลือดุจนำอำนาจของปฐมมังกรดำมาใช้ เช่นนี้ตะกรุดเวทย์สวรรค์ที่ใช้แทนตัวปฐมมังกรดำจึงมีความสำคัญมากองค์ปฐมท่านกำชับว่าจะให้ไปตกอยู่ในมือคนพาลทุจริตมิได้ จะให้มีแต่เจ้าของโดยแท้จริงเท่านั้นที่มองที่สนใจและนำไปครอบครองได้ เพราะอำนาจแห่งปฐมมังกรดำต่างจากอำนาจเทพเจ้าทั้งหลาย เขาจะอำนวยประโยชน์ช่วยเหลือเราเวลาติดขัดไร้หนทางเช่นนี้เมื่อยกตะกรุดระลึกถึงปฐมมังกรดำออกคำอธิษฐานใช้กำลังของเขาแล้วย่อมได้ชื่อว่ามีผู้อุปถัมภ์ทันที(ปฐมมังกรท่านจะเข้ารักษา)ด้วยชีวิตจะไม่ตกต่ำถึงเกิดมาชะตาลิขิตไว้อย่างไรก็ตาม แม้คนไม่เคยมีโชคดีใดๆเลยไม่เคยได้ทรัพย์ได้สิ่งปลอบประโลมหัวใจทำให้ใจชุ่มชื้นแบบนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าขอไปเถอะ...ขอกับตะกรุด ..ขอกับปฐมมังกรดำนี่แหละจนกว่าจะได้ท่านจะให้โชคลาภพึงมีพึงเกิดขึ้นมาตามวาสนาอย่างไม่ยากเย็น หากใครที่ในตัวมีเสนียดจัญไรแฝงอยู่คุณแห่งปฐมมังกรย่อมจะล้างจะดับสิ่งที่ไม่เป็นมงคลทั้งหลายออกไปจากตัว

    คุณแห่งปฐมมังกรดำนั้นใช้หมุนกระแสเวลา ...ด้วยกาลเวลาที่เคลื่อนผ่านไปนั้นส่งผลโดยตรงกับชีวิตคน เพราะกาลเวลานั้นพรากวัยอันสดใสไปจากเรา พรากความแข็งแรงไปจากเรา พรากโอกาสที่ดีทุกสิ่งไปจากเรา นำโรคมาให้เรา นำความชรามาให้เรา นำความตายมาให้เรา กาลเวลานั้นพรากทุกสิ่งจากเราไปทั้งหมดทำให้กำลังและชีวิตเราเสื่อมถอยลง เช่นนั้นถ้าใครไม่รู้ค่าของกาลเวลาก็เป็นชีวิตที่ไม่มีค่าพอที่จะสงเคราะห์ด้วยตะกรุดนี้ ด้วยตะกรุดนี้หากอาราธนาแล้วจะไม่ตกตระกำลำบากจะแคล้วคลาดจากเรื่องที่ทำให้เราเจ็บตัวและเจ็บใจในประการต่างๆ ทั้งยังมีผลไปถึงการแคล้วคลาดจากคุณไสยลมเพลมพัดด้วยซ้ำยังหนุนให้แรงบนบานแลอธิษฐานใดๆแสดงผลเร็วไวชั่วพริบตารุนแรงดั่งสายฟ้าฟาด ด้วยปฐมมังกรดำนั้นจะช่วยเพื่อนร่วมวัฏจักรที่ทุกข์ยากให้ชีวิตดำเนินไปสู่ความสำเร็จ ไม่ตกกรอบไม่ออกนอกเส้นทาง เมื่อมีเป้าหมายย่อมต้องไปถึงดุจใช้กำลังแห่งปฐมมังกรเป็นพลังไฟในการขับเคลื่อนชีวิตให้ไปสู่เป้าหมายไม่ใช่เพียงมีเป้าหมายไว้ให้เพ้อฝันแต่ไม่สามารถไปถึงได้ ทั้งปฐมมังกรท่านจะช่วยขจัดปัญหาอุปสรรคเหตุการณ์อาเพศต่างๆทั้งน้อยใหญ่ไม่ให้เกิดเเก่ผู้ครอบครอง คิดอ่านทำการณ์สิ่งใดใหญ่น้อยทั้งหลายก็ให้สัมฤทธิ์ผลพบเจอเเต่ชัยมงคลไร้พ่ายตลอดไป

    เมื่อแปลงโชคหมุนกาลเวลาแล้วท่านจะช่วยปิดเคราะห์ต่อให้ผีให้มารที่ไหนก็ทำอะไรเราไม่ได้เพราะปฐมมังกรท่านกำราบหมด แม้มีคนมาฆาตมาตรร้ายหมายทำลายเราทุกอย่างก็จะสะท้อนผลของมันกับไปทั้งสิ้นดีมาก็ดีกลับร้ายมาก็ร้ายกลับ เพราะเคราะห์กรรมไม่ได้กระทำแก่เราแล้วทุกอย่างจึงย้อนกลับไปที่ตัวเค้าเอง พ่ออาจารย์ท่านว่าของบางอย่างมันต้องระลึกรู้ได้จากจิตสำนึกตัวเอง รู้ว่านี่คือของที่เรารอคอย ของที่เราตามหา ของที่ใช่ที่เหมาะสมกับตัวเรา นั่นจึงจะเป็นสิ่งคู่บารมีสำหรับเราอย่างแท้จริงหากตัวเองไม่รู้ด้วยตัวเองต้องรอให้คนอื่นคอยบอกแบบนี้ก็ป่วยการไม่ใช่คู่บารมีหรือชีวิตเขายังติดกรรมอยู่เพราะกรรมของสัตว์นั้นเราจะไปขวางเอาไว้ก็ไม่ใช่ที่ หากเขาไม่รู้ไม่มีจิตสัมผัสไม่ได้ขวนขวายด้วยตัวเองแล้วนั่นก็แปลว่ายังไม่หมดวาระของเขา

    ด้วยปกติคนนั้นย่อมมีความปรารถนาไม่สิ้นสุด มีความคิดที่จะทำนั่นทำนี่อยู่ตลอดเวลา *** เหมือนคุณลักษณะความโลภ อยากได้ อยากครอบครองทุกสิ่งที่มีค่าของเผ่าพันธ์มังกร เช่นนั้นท่านจึงให้ผู้ครอบครองตะกรุดปฐมมังกรนี้อาศัยวาสนามังกรนำโชคชะตาแห่งทรัพย์ทั้งหลายเข้ามาหาตัวเอง ตะกรุดปฐมมังกรนั้นท่านสร้างไว้เพื่อให้คนสร้างฝันที่เป็นจริงผ่านการกระทำของตนเองไม่ละเมอเพ้อพกไปในสิ่งที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ ท่านว่าขอให้มีความฝันแต่อย่าเว่อร์มากอย่าไปคิดไปฝันอะไรเกินจริงที่เรารู้ตัวดีอยู่แล้วว่าแม้ชาติหน้าก็ยังทำไม่ได้เช่นนี้มันเสียเวลาคิดและจะติดอยู่กับจินตนาการติดอยู่ในความปรารถนานั้นเพราะการทำความฝัน,ความคิด,ความปรารถนาที่เราตั้งไว้ให้เป็นเป้าหมายสูงสุดของชีวิตนั้นให้เป็นจริงมันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ใครที่รู้ว่าตนเองกำลังไม่พอ แรงไม่พอ วาสนาไม่ถึงคิดอะไรทำอะไรก่อนจะได้อะไรมาต้องเสียอะไรไปต้องแลกกับอะไร..วันเวลาผ่านไปวันแล้ววันเล่าเช่นนี้ใครเป็นแบบนี้ก็ให้บอกปฐมมังกรท่าน ใช้กำลังของท่านเช่นนี้ไขว่คว้ามา เมื่อกำลังท่านมาแฝงเราใจเราจะเกิดปิติเป็นพลังใจที่เข้มแข็งที่จะสร้างทางเดินแห่งโชคชะตาพร้อมวาสนาอันยิ่งใหญ่ไว้รอเราดังนี้ เมื่อเราสัมผัสได้ว่าใจมีกำลังมีปิติแล้วก็ก้าวเข้าไปเถิดใช้ใจที่เข้มแข็งไม่ย้อท้อต่อความลำบากเป็นจุดยืนและใช้กำลังใจจากคนรอบตัวที่รักเราหวังดีกับเรามาเป็นแรงผลักดันคอยสนับสนุนส่งเราอีกต่อหนึ่ง เรียกว่ามีทั้งกำลังภายนอกและภายในหนุนกันฟ้าหนุนดินดันคิดทำสิ่งใดการณ์เล็กการณ์ใหญ่ย่อมสำเร็จทั้งปวง

    คาถาบูชา
    # พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของทิพย์ ให้ยกตะกรุดไหว้จบหัว
    ระลึกถึงออกนามขอความช่วยเหลือจากปฐมมังกรดำแล้วใช้ได้เลย

    ตะกรุดสำคัญนี้ท่านว่ามีเจ้าของทุกดอก มีผู้จับจองและมีผู้รับไปใช้แน่นอนแล้วทุกดอก ท่านว่าไม่ต้องกังวลเลย รุ่นนี้ต่อไปจะมีค่ามากกว่าทองคำเธอคอยดูเถอะ ใครที่เขามีเขาได้ใช้แม้เอาทองมาแลกเขาก็ไม่ขายไม่ให้หลุดมือไปได้เลย เพราะนี่คือตะกรุดดอกดำซึ่งใช้แทนตัวปฐมมังกรดำ

    ### ด้วยคนบางคนนั้นวาสนาเขามากล้นเกินเราคาดเดาเขาก็ต้องใช้หลายดอกเพราะตะกรุดหนึ่งดอกเปรียบกับวาสนามังกรหนึ่งตน บางคนเค้าเกิดมาชะตารองรับวาสนาได้มากเช่นนี้ก็มี ***กรณีนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้กี่ดอกติดกายเพื่อหนุนตัวเองแต่ละคนล้วนมีตัวรู้อยู่ในใจ ก็ตัวรู้นั่นแหละที่ข้างบนเขาสื่อเพื่อที่บอกเราว่าใครควรอาราธนาไว้เท่าไหร่ให้เหมาะสมกับวาสนาตามภพชาติแต่ละคนเช่นนี้ รายการนี้นั้นรับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลเวทย์สวรรค์ตะกรุดแปลงโชคหมุนกระแสเวลา (ปฐมมังกรดำ) บูชา 900 บาท

    95500836-539845443385206-6651141171529646080-n.jpg
    96233084-255650842221268-3608942305932738560-n.jpg
    95330320-244888166752047-7506619053968982016-n.jpg
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ EI 8931 5673 3 TH

    พี่นฐมน EI 8931 5674 7 TH

    พี่ศิระ EI 8931 5675 5 TH

    พี่สุรวุฒิ EI 8931 5676 4 TH

    พี่วุฒิชัย EI 8931 5677 8 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 8931 5678 1 TH
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    รายการที่โอนไว้จัดส่งให้วันพรุ่งนี้นะครับ เดี๋ยววันนี้รอบเย็นติดตามกันดีๆนะมีเรื่องน่าสนใจจะแจ้ง
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    วันนี้ถ้าใครไม่สะดวกออกไปวัดทำบุญก็กราบพระไหว้พระรักษาศีลอยู่บ้านกันนะครับ(ทำที่ไหนก็ได้) หลีกเลี่ยงที่แออัดไว้ก่อนดีที่สุด
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    หลายปีมากๆแล้วที่พ่ออาจารย์ท่านไม่ได้ออกพระปางซ่อนหา...นานมากๆจนหลายคนลืมว่าท่านก็เคยทำไว้และชุดเก่าก็เป็นตำนานไปแล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงให้เอาพระพิมพ์ซ่อนหา..อันเป็นกฤติยาคมแฝดชุดพิเศษออกมาให้บูชากันอีกครั้ง แต่หนนี้บอกได้ว่าท่านทำให้พิเศษสุดๆนอกจากนะใด้พระปางซ่อนหาของเก่าแล้วยังได้ซ้อนได้คุ้มไม่รู้เสียว่าจะคุ้มอย่างไร ใครที่เคยถามหาพระปางซ่อนหาของท่านพรุ่งนี้รอบเย็นติดตามกันดีๆนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 พฤษภาคม 2020
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้จัดส่งของให้แล้วมาติดตามพูดคุยกันนะครับ นานๆทีจะเห็นพ่ออาจารย์ท่านออกเครื่องมงคลแบบจุ่มรัก เย็นนี้ห้ามพลาดกันจริงๆ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ธวัช EI 8931 6535 5 TH

    พี่ศิระ EI 8931 6536 9 TH

    พี่พรหมพล EI 8931 6537 2 TH

    พี่ฐิตกาญจน์ EI 8931 6538 6 TH

    พี่ณธพรหม EI 8931 6539 0 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ (ฝังเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา)

    "เมื่อเกิดยุคเข็ญข้าวยากหมากแพง มโนธรรมตกต่ำ ศีลธรรมเสื่อมทราม คนใจร้ายยิงปล้นฆ่าฟัน กระทำสิ่งที่วิปริตผิดกว่าแต่กาลก่อนกันเพราะขาดจิตสำนึก พ่ออาจารย์ท่านว่าก็เหตุและปัจจัยเหล่านั้นถึงพร้อม องค์วิสุทธิเทพและครูบาอาจารย์ที่ประสงค์เจาะจงจะช่วยเหลือบรรเทาเคราะห์ภัยสัตว์ผู้ยากจึงเมตตาอนุเคราะห์ให้นำออกมาบูชา"

    พ่ออาจารย์ท่านมีดำริตามคำแนะนำของเสด็จพระใหญ่ว่าจะสร้างเครื่องมงคลชุดพิเศษเอาไว้เพื่อซ่อนกรรมบรรเทากรรมของสัตว์ไว้ซักวาระหนึ่ง อีกยังต้องลงให้ครบทั้งประทานทรัพย์ โชคลาภ ความเจริญรุ่งเรืองด้วยท่านไม่ปรารถนาจะให้กล่าวถึงมาก ท่านว่าองค์พระนี้ขึ้นอยู่กับวาสนาถ้าชะตาชีวิตไม่เปิดทำเสียอย่างไรก็ไม่มีวันได้พบจึงจะลงข้อมูลแต่พอสังเขปเท่านั้น

    องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ

    พระพิมพ์นี้ท่านสร้างไว้ด้วย
    ผงลบวิชาเฉพาะกาลที่เก็บไว้ใช้ในยุคเข็ญอย่างแท้จริง เพราะกฏฟ้าได้กำหนดให้ยุคสามนี้เป็นยุคที่เทพยดาผู้มเหศรศักดิ์ทั้งหลายรวมไปถึงแม้กระทั่งองค์วิสุทธิเทพทั้งปวง ได้อนุเคราะห์สัตว์โลกตามงานตามภารกิจที่แต่ละพระองค์จะพึงกระทำ ด้วยพระบัญชานั้นเทพเจ้าทั้งหลายจึงต้องลงมาช่วยเหลือมนุษย์นั่นก็เพื่อจะสำเร็จภารกิจของแต่ละพระองค์ด้วยส่วนหนึ่ง เช่นนั้นท่านจึงได้ทำผงพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันตรึงไตรภพนี้ขึ้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้เราไม่ได้เขียนหรือตั้งเล่นๆเพราะข้างบนเขาเขียนเขาบอกให้ใช้ชื่อนี้ ท่านว่าท่านพูดอะไรไม่ได้มากให้คนที่บูชารู้ไว้แค่ว่า วิสุทธิเทพในนิพพานทุกพระองค์ "ทั้งกำลังและพลังงานอันบริสุทธิ์ทั้งหลายนั้นเขาพร้อมมานานแล้ว" ...พร้อมที่จะลงมาปรับเปลี่ยนชีวิต สมกับคำว่าพระเจ้าแปดหมื่นตรึงไตรภพที่จะตรึงเธอเอาไว้ดึงรั้งชีวิตของเธอไว้ไม่ให้ต่ำไม่ให้แย่ไปตามยุคเข็ญ เพื่อความสงบระงับไปของห้วงทุกข์ จากร้อนให้คลายเย็น แก้ปมทุกข์เข็ญเคราะห์กรรมบรรดามีด้วยกำลังแห่งอำนาจพระโพธิญาณและวิปัสสนาญาณอันโอฬารเกินกว่าเทวานุภาพจะบันดาลได้

    ผงนี้ท่านว่าทำยากมากเพราะสูตรและการลงแต่ละอย่างเหมือนย่อเอาพระคัมภีร์มาลงทีเดียว ท่านต้องลงผงในฤกษ์เวลาที่ตะวันดับคือสุริยคราสนั่นเอง ต้องลงหัวใจพระอิติปิโส ตามด้วยเดือนเบิกเมฆ ตะวันเบิกเมฆ ใส่นะมหากำเนิด นะพระเจ้าตรึงไตรภพ ถอดด้วยเมฆพยับ ลงจันทราส่องโลก สุริยันดั้นเมฆ กระหนาบด้วยมหาพรหมส่องโลก ลงองค์อิติปิโส องค์ตรีนิสิงเห องค์ปฐมพินธุ องค์อิทธิเจ พระเจ้าห้าพระองค์ถอดแบบตรึงไตรภพ ลงมหาพุทธาธิคุณและอุโองการมหาราช ถอดด้วยคาถามหาโพธิสัตว์ทั้งสามเหล่าทั้งปัญญาธิกะ,สัทธาธิกะ,วิริยาธิกะ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าผงเช่นนี้ถ้าเสด็จพระใหญ่ไม่ให้ทำก็คงทำไม่ได้จริงๆเพราะมีอานุภาพครอบคลุมและเสมอด้วยพระสัมมาสัมพุทธเจ้าอันได้ตรัสรู้ไปแล้วทั้งสามเหล่าถ้วนแปดหมื่นสี่พันพระองค์ลงมาทำให้เอง ทั้งคุณพระพุทธเจ้าแต่ละพระองค์ล้วนเป็นมหันต์คุณกล่าวคือล้ำเลิศไม่มีประมาณผงนี้จึงเป็นมากกว่าพุทธานุภาพใดๆเพราะดึงเอากำลังพุทธานุภาพของแปดหมื่นสี่พันพระองค์เชื่อมวาสนาชะตาเราโดยตรง ซ้ำพ่ออาจารย์ท่านว่ามันไม่ได้ง่ายเพียงเท่านั้นนอกจากนี้ท่านยังต้องลงผงยันต์พระรัตนไตร ลงหัวใจสมเด็จองค์ปฐม ใส่หัวใจพระเจ้าแปดหมื่นสี่พัน ครอบด้วยพระเจ้าเปิดโลก พระเจ้าลงโลกา พระเจ้าตรึงพระธรณี ลงหัวใจมหาปรารถนา(ท่านว่าสำคัญมาก เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าบทนี้อยากได้อะไร ปรารถนาอะไรขอแค่แบมือขอ แบมือออกแล้วรับกลับไปจะได้ดั่งใจปรารถนา)เขียนงลงคาถาอัคคีเย็นเหมือนพระคงคา(ท่านว่าชีวิตคนนั้นที่จะสุขสบายฝ่ายเดียวย่อมไม่มี ความทุกข์ทั้งหลายเปรียบได้กับเครื่องร้อนของร้อนทั้งสิ้น อัคคีเย็นนั้นคือกลับร้อนเป็นเย็นกลับโชคร้ายเป็นโชคดีในเมื่อเลี่ยงไม่ได้ต้องเจออยู่ร่ำไปก็กลับมันเอาไว้ให้กลายเป็นโชคดีเป็นเรื่องดีๆแทน พร้อมทั้งตรึงสังขารปรับธาตุ แก้สมดุลร่างกายทั้งหมด ให้พลังงานถ่วงดุลและทำงานโดยปกติเอาว่าไม่ป่วยไม่เป็นโรคง่ายๆสุขภาพแข็งแรง)

    ด้วยผงสำคัญนี้ล้วนเกิดจาก
    หัวใจยอดของตำราพระยันต์ทั้งสิ้นมีความสัมพันธ์กับพุทธกายและจิตใจมนุษย์ พร้อมกันนั้นยังสร้างแรงดึงดูดเอาแต่สิ่งดีๆมาหาตัวเองใช้ทางกลับร้ายกลายเป็นดีได้ผลที่สุดท่านว่ารู้กันกับใจตัว ใครคิดว่าชีวิตตัวเองร้ายแล้วร้ายอย่างไร คนอื่นดีนั้นเขาดีกันอย่างไรทำไมตัวเราเองเจอแต่อะไรร้ายๆอันนี้ต้องรู้ตัวเองเขาจะรู้เองว่าควรแก่การบูชาอะไร ซึ่งผงนี้ดีที่สุดเลยก็ทางกลับร้ายกลายเป็นดีนี่แหละ ซ้ำใครจะทำร้ายเราองค์พระท่านจะบังตากำราบใจให้เขามองไม่เห็นถึงเห็นก็เห็นเราเป็นคนอื่นเดินเลยผ่านไปเฉยๆนี่ตรงนี้บารมีครูท่านแผ่ท่านปกป้องรักษาให้แคล้วคลาดจากสิ่งไม่ดีทั้งหมด ท่านว่าผงที่สร้างองค์มหากำเนิดธรรมนี้จะกระตุ้นให้ความคิดความสามารถใดๆที่มีอยู่ในตัวเราให้มันเผยออกมาเอง แม้อาราธนาไว้ก็ปราศจากพันธะอันทำให้ชีวิตตกต่ำอย่างน้อยตัวก็โล่งเพราะปลอดเหตุแห่งทุกข์หัวก็โล่งงสมองก็ปลอดโปร่งไม่มืดทึบตีบตัน ท่านว่าได้อธิษฐานขอพระเสด็จพระใหญ่ไว้แม้ผู้ใดได้ไปติดตัวจะประกอบอาชีพด้วยความสัตย์สุจริตใดๆก็ให้ชีวิตคนผู้นั้นประสบแต่โชคลาภอยู่เนืองๆโภคทรัพย์หลั่งไหลเทมาดั่งพระแม่คงคาในห้วงมหาสมุทรไม่รู้จักสิ้นสุดให้มีความเจริญในลาภสักการะไม่รู้ยากรู้จน ผงเช่นนี้ท่านว่าลงยากเพราะสมัยนี้คนหากินลำบากเวลาลงท่านว่าต้องทำใจให้อยู่ในมหากรุณาตั้งใจสงเคราะห์สัตว์อย่างแท้จริง ท่านว่าตรงนี้สำคัญนะองค์ปฐมท่านกำกับไว้เลยว่าจะทรงอารมณ์ไหนต้องเปิดจิตเปิดใจเปิดรูปตั้งอยู่ในฐานมหากรุณาไม่อย่างนั้นลงไปคนเอาไปใช้ก็เท่านั้นเพราะฐานอารมณ์ไม่ได้ตั้งอยู่ในมหากรุณาของจะเอาไปสงเคราะห์แก้ทุกข์ภัยอย่างไรได้ อักขระแต่ละตัวนั้นต้องเรียกต้องภาวนา ผิดไม่ได้ วิบัติไม่ได้ เมื่อลงแล้วยังต้องอธิษฐานจิตเรียกสูตรตลอดเวลาท่านว่าต้องภาวนาตั้งแต่แท่งจับดินสอมาเขียนผงทีเดียว นี่แหละที่ว่ายากเพราะว่าท่านว่าทำครั้งเดียวพอ พอแล้วไม่เอาแล้วด้วยผงนี้คู่ควรแก่ผู้มีบารมีเสมอกันเราทำไว้เท่านี้ใครเหมาะใครสมเขาก็มาเอาของเขาไปเองถ้าทำมากไปเกรงว่าใครจะเอาไปใช้ก็ไม่รู้ เมื่อลบผงสะสมไว้ได้เรื่อยๆตอนเสกผงชนิดนี้แนกไว้ก่อนก็สำคัญเพราะเป็นเรื่องของเสด็จพระใหญ่และเบื้องบนท่านทำให้ทั้งนั้นส่วนตัวพ่ออาจารย์ท่านได้แต่ตั้งธาตุ ปลุกแม่ธาตุ หนุนธาตุ เจริญพระเวทย์และพระธรรมตามไปเฉยๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าข้างบนท่านเมตตาอนุเคราะห์ทำให้เราจนเสร็จจนผงนี้มีรัศมีสว่างไสวดุจดาวประกายพฤกษ์เพราะท่านยืมแต่เพียงธาตุสังขารของเราเพื่อลงเท่านั้นวิชาของพระองค์ท่านก็ต้องให้ตัวท่านสำเร็จของท่านเอง

    ### พ่ออาจารย์ท่านเมตตาบอกกล่าวไว้ว่าผงชุดนี้สำคัญมากเพราะลบตามโองการพระใหญ่มีการลงการบรรจุหัวใจของพระเจ้าทั้งแปดหมื่นสี่พันรวมไปถึงองค์ปฐมด้วย แม้อยู่ที่ไหนผู้นั้นย่อมเป็นผู้รู้ตื่นไม่มืดบอดเพราะบารมีพระแปดหมื่นสี่พันทรงดับทุกข์ได้ทั้งหมด อย่าว่าแต่ปัจจัยสังคมแวดล้อมเรื่องทุกข์ร้อนของมนุษย์เดินดินเลย ด้วยพุทธานุภาพอันไม่มีประมาณแม้จะเป็นไฟทุกข์์ของเทพยดาต่อให้ร้อนเช่นดวงอาทิตย์ก็ยังดับได้ ท่านว่านี่มันของแก้ทางกันนะรู้มั๊ยไอ้คำว่าของแก้ทางนี่น่ะสำคัญมากนะให้รู้ไว้เถิดว่าปกติไม่มีใครเขาทำ เพราะของแก้ทางคือเมื่อทำแล้วสิ่งเหล่านั้นจะไม่เกิดขึ้นเพราะข้างบนเขาถือว่าได้แก้แล้วทุกอย่างต้องเบี่ยงเบนออกไปจะเหมือนเดิมไม่ได้อีกแล้วมีของแก้ทางกันเอาไว้อยู่เช่นนี้จึงถือได้ว่าพ้นแล้วนั่นเอง ท่านว่าฉันพูดได้เท่านี้ ผงนี้ให้เอาไว้แก้ทางเรื่องร้อนๆที่เจอในชีวิต..อะไรที่ร้อน...อะไรที่ไม่ปกติ...ไม่เป็นสุข เอาไว้แก้โดยโดยตรงนะ เหมือนพระเจ้าแปดหมื่นสี่พันท่านลงมาแล้ว..ท่านเหยียบดินแล้วเหยียบหัวเหยียบตัวเหยียบบ่าเราไร้ช่องว่าง อะไรที่มันร้อนย่อมต้องคลี่คลายทั้งหมด

    นอกจากนั้นองค์พระมหากำเนิดธรรมนี้ พ่ออาจารย์ท่านยังใช้ว่านยาวิเศษในตระกูลเศรษฐีที่ได้ชื่อว่าเก่ง มีฤทธิ์ มีตัว มีเจตสิก มีภูติมีคนธรรพ์รักษาทั้งหมด อันไหนดีอันไหนครูสั่งให้หาให้เก็บ ท่านไปแสวงหามาทั้งสิ้น นำมาเข้ากับผงวิเศษที่ชักพระยันต์ชั้นสูงตำรับพิชัยสงครามต่างๆและพระยันต์ที่ท่านลงคาถามหาเศรษฐีอีกนับร้อยบทลบถมกันไปตามวาระตามโอกาส พ่ออาจารย์ท่านมีความปรารถนาไม่อยากจะเห็นผงวิเศษที่ลบถมขึ้นจากมหายันต์ชั้นสูงที่สืบทอดกันในหมู่กษัตริย์แม่ทัพนายกองอันประกอบด้วยสรรพคุณที่ทรงพลานุภาพสูญหายไป ประกอบกับท่านพิจารณาว่าถึงเวลาอันดีที่ทำเอาไว้ให้กับผู้ที่ต้องการรับสุดยอดของดีไว้บูชาจึงได้จัดทำผงนี้ขึ้น ซึ่งในเรื่องของฤกษ์ยามที่ลงจะต้องคัดฤกษ์มงคลสูงสุดตามสายวิชาเพื่อทำผงโดยพ่ออาจารย์ท่านก็เลือกฤกษ์เพียงสองฤกษ์เท่านั้นที่จะใช้ลบผงนี้ประกอบไปด้วยราชาฤกษ์เเละเพชรฆาตฤกษ์ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนั้นก็เนื่องมาจากท่านตั้งใจจำทำให้ดีที่สุดนั่นเอง อันผงทั้งหลายนั้นพอจะยกตัวอย่างได้ดังนี้

    - ผงยันต์เกราะเพชรพระเจ้าสูตรพิชัยสงคราม ผงที่เกิดจากพระยันต์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่ามีพลานุภาพมากยากที่จะประเมิณค่าได้ หาผู้สืบทอดและทำได้ยาก เนื่องจากเป็นมหายันต์ชั้นสูงที่ทำให้เจ้าฟ้าเจ้าแผ่นดิน มีพลานุภาพปรากฎในทุกด้านในทุกทิศทางแม้ผงนี้อยู่ที่ใดก็จะแผ่รัศมีออกไปในทิศทั้งสิบ เปรียบดังเกราะแก้วกำแพงเหล็กที่ป้องกันภัยและเสนียดจัญไรจากทุกสารทิศไม่ให้มากล้ำกรายผู้บูชาได้ ทั้งยังมีพุทธคุณสุดแต่ใจนึก พ่ออาจารย์ท่านอธิษฐานจิตให้ผงนี้สอดคล้องรับกันกับอารมณ์ปรารถนาในใจเรา ไม่ใช่แต่เพียงให้ดีทางด้านคุ้มครองทั้งยังเป็นเมตตาและมหาอำนาจชั้นเลิศตามสูตรยันต์พิชัยสงครามอีกด้วย ในส่วนตัวพ่ออาจารย์จะเรียกผงนี้ว่าผงแหพันชั้น ท่านว่าเป็นสิ่งที่ทำได้ยาก เพราะเวลาเสกต้องทำให้มีพุทธคุณสมกับชื่อผงที่ว่าแหพันชั้นนั้น ท่านหมายถึงว่าแม้ผู้บูชาใคร่จะปรารถนาอะไรก็แล้วแต่ สิ่งที่ปรารถนาไว้จะไม่สามารถหลุดรอดพ้นหนีออกไปได้เลย ผงนี้ท่านว่าลงยากเพราะพระยันต์นั้นต้องชักถักคล้ายรูปร่างแห ดุจแหตาถี่ที่จะดลบันดาลให้ทุกสิ่งไม่สามารถหลุดรอดออกไปได้ตามคำอธิษฐาน แม้ว่าจะปรารถนาลาภยศชื่อเสียงเงินทองความเจริญก้าวหน้า สิ่งต่างๆเหล่านี้เมื่อได้มาแล้วจะต้องอยู่กับเราไปตลอดไม่รู้จักคำว่าตกต่ำลงเลย เปรียบดั่งแหฟ้าตาข่ายดินที่ดักจับสิ่งใดไว้ได้แล้วต้องพันธนาการไว้ไม่ให้รู้หลุดรู้เคลื่อนเลยฉันใดก็ฉันนั้น การเสกผงนี้ก็เช่นกันต้องทำให้ได้เฉกเช่นนั้น ความยากจึงไม่ได้อยู่ที่การลงการเชิญครูเพียงอย่างเดียวเพราะท่านเน้นพระพุทธคุณในทุกด้านให้ปรากฏในทุกทิศทางที่ผงนี้สถิตย์อยู่

    - ผงมหาจักรอนันตคุณ เป็นผงซึ่งก็จัดเป็นมหายันต์ตามสูตรพิชัยสงครามโดยแท้เช่นกันที่ต้องเลือกฤกษ์และเวลาลงอย่างพิถีพิถันเพื่อให้ผู้บูชาไปใช้พบเจอแต่สิ่งดีๆ ซึ่งพ่ออาจารย์กล่าวว่ามหายันต์สูตรนี้มีดีทุกด้านไม่ต่างกับชื่อเลยนั่นคือนันตคุณ คือมีคุณเป็นอเนกอนันต์นั่นเองสุดแต่ใจของผู้ใช้จะพึงปรารถนาแต่ที่แน่ๆนั่นคือ เด่นทางด้านเสริมสิริมงคลชื่อเสียงและเกียรติยศให้ปรากฏแก่ผู้บูชา ท่านว่าหากเราเองมีชื่อเสียง เป็นคนมีเกียรติเป็นที่นับหน้าถือตาในสังคมแล้วแม้จะทำอะไรไม่ต้องเอ่ยปากทุกสิ่งก็ไม่ใช่เรื่องยากที่จะได้มา ท่านว่าได้แบบไวด้วยไม่เหนื่อยด้วย ซึ่งการเสกนั้นท่านต้องตั้งธาตุหนุนธาตุตั้งนิมิตเสกให้มหาจักรนี้พัดหมุนไปได้ตลอดเวลา ถือเคล็ดที่ว่านอกจากดีมีคุณเป็นอนันต์ตามใจผู้ใช้แล้ว ยังเปรียบเสมือนกงจักรศาสตราเทพอาวุธแห่งองค์พระนารายณ์ที่ใช้ตัดและทำลายได้ทุกสิ่ง ไม่ใช่ตัดแต่เพียงเคราะห์กรรมเท่านั้นยังตัดทุกข์โศกโรคภัยและใช้ป้องกันเทพยดาอันธพาลทั้งหลายไม่ให้มากลั่นแกล้งได้อีกด้วย

    - ผงกาลกินวิชา ผงสำคัญนี้เป็นผงหลักที่พ่ออาจารย์ท่านลบถมวิชาหน้ากาลกินวิชาขึ้นมาโดยเฉพาะ ท่านว่าเจ้าตัวหน้ากาลนั้นเป็นอสูรที่มีลักษณะดุร้าย คิ้วขมวด นัยน์ตากลมโตถลน จมูกใหญ่ ปากกว้างเห็นฟันบนและมีเขี้ยว ไม่มีริมฝีปากล่าง ไม่มีลำตัว มีแขนออกมาจากด้านข้างของศีรษะสวมเครื่องประดับศีรษะลักษณะเป็นกระบังหน้าเรียกเกียรติมุขหรือหน้ากาลซึ่งกาลนั้นก็พ้องกับเวลา กาลหรือหน้ากาลมีความหมายเดียวกับเวลาเป็นผู้ซึ่งกลืนกินสรรพสิ่งทั้งมวล จึงมีคติว่ากินได้ทุกอย่างจึงเป็นผู้ครอบครองเหนือทุกสิ่งทุกอย่าง นอกจากนั้นผงนี้ยังเสมือนสิ่งคุ้มครองปกปักรักษามิให้สิ่งชั่วร้ายเข้ามาสู่ตัวเราและยังนำเกียรติยศมาสู่เราด้วย เพราะเกียรติมุขนั้นหมายถึงหน้าอันมีเกียรติ พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ถือเป็นสิ่งสำคัญและมีอาถรรพ์มากเพื่อให้ชีวิตและลมหายใจของเขาที่เกิดขึ้นจากการเรียกสูตรลบยันต์มอบพลังให้กับเราล้างอาถรรพ์ในชีวิตเรา ทั้งหน้ากาลยังได้ชื่อว่าหิวกระหายเป็นนิจกินอย่างไรก็ไม่อิ่มอันเป็นเคล็ดสื่อถึงความมั่งคั่งร่ำรวย ได้เปรียบ กินคนอื่นไปเรื่อย กินไม่รู้จบเพราะเป็นผู้กลืนกินเวลาทุกขณะในโลก เวลาอันเดินหน้าไปเรื่อยๆที่ไม่อาจเรียกกลับคืนมาได้ จึงเป็นดั่งผู้ควบคุมกาลเวลาและครอบครองเหนือทุกสิ่ง ด้วยผงนี้จะเปลี่ยนอารมณ์เราในวันที่ร้อนให้เย็นลง ให้ชีวิตเราเคลื่อนไปสู่จุดที่สูงที่สุดและดีที่สุดอย่างรวดเร็ว ทั้งยังกลับสิ่งร้ายให้กลายเป็นดีสามารถล้างอาถรรพ์ไม่ดีต่างๆ ป้องกันสิ่งชั่วร้าย เสริมดวงชะตาทำให้มีราศีมีชื่อเสียงมีเกียรติยศ.. พ่ออาจารย์ท่านว่าหน้ากาลนี้มีฤทธิ์มากแม้เหล่าราชาอสูรตลอดจนเทพนพเคราะห์อย่างพระราหูก็ยังกลัวจะถูกหน้ากาลกลืนกินดังนั้นจึงเป็นเคล็ดว่าใครที่มีผงนี้อยู่กับตัวเทพอสูรทั้งหลายจะเกรงกลัวเรา นพเคราะห์ทั้งหลายจะไม่เล่นตลกกับชีวิตเรา ผงกาลกินวิชานั้นจะกินวิญญานกินความชั่วร้ายและอุบาทว์จัญไรทั้งหมด ที่จะมาทำร้ายเราให้โทษกับเรา จะกินคุณไสยในอากาศกินวิชาที่ไม่ดีทั้งพวกฝ่ายต่ำและของอุบาทว์เปลี่ยนเป็นพลังงานบริสุทธิ์เกื้อหนุนเรา ทั้งคุ้มครองผู้ที่เป็นเจ้าของกันคุณไสย และยังมีคุณสะกดให้คนหลงเชื่อหรืออยู่ในอำนาจของเราเชื่อฟังเราทุกอย่าง จะให้คนหลงรักเราก็ได้ ให้พ้นจากถ้อยความและสิ่งที่ถูกคนกระทำให้ร้ายก็ได้ ท่านว่าแล้วแต่จะอธิษฐานใช้กันเลย

    - ผงอาถรรพ์โสมเฝ้าทรัพย์ พ่ออาจารย์ท่านว่าเฮี้ยนเสียยิ่งกว่าภูติพรายใดๆมี ท่านว่าเป็นผงอาถรรพ์ซึ่งอาถรรพ์ในที่นี้ไม่เกี่ยวกับพรายกับผีแต่อย่างใด หากแต่เป็นพยนต์มหายักษ์ซึ่งถูกผูกไว้เฝ้าสมบัติสมัยอยุธยามหาสถาน พ่ออาจารย์ท่านว่าในกรุสมบัติแผ่นดินหนึ่งๆที่เป็นสมบัติของกษัตริย์แต่โบราณจะมีพยนต์เหล่านี้รักษาหลายตน ในสมัยที่ท่านบวชและมีโอกาสได้ธุดงค์ผ่านอยุธยานั้น ท่านได้พบกับโสมเฝ้าทรัพย์ซึ่งพาท่านไปดูกรุสมบัติตั้งแต่ยุคสมัยของพระนเรศวรเรื่อยมาจนถึงพระเจ้าเสือ และปู่โสมนั้นท่านได้ขอตามไปจะไปอารักขาท่านด้วย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านว่าเขามาจริงๆไม่ใช่แต่เพียงคำพูด เพราะปรากฏมีตุ๊กตายักษ์ดินเผาขนาดเล็กมาปรากฏอยู่ในย่ามของท่าน หลังจากท่านตรวจดูแล้ว ท่านว่าเค้าตั้งใจจะไปคุ้มครองเราจริงๆ จึงได้ทำพิธีพลีกรรมบอกกล่าวแก่เจ้าของเดิมและนำออกมาพ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้จะหวงไว้ใช้คนเดียวก็ไม่ใช่เรื่องไหนๆทำแล้วก็ต้องให้ดีให้แรงที่สุดไปเลย ท่านถึงได้สอบถามโสมเฝ้าทรัพย์ว่าจะขอให้ไปสร้างบารมีช่วยเหลือสัตว์ผู้ยากทั้งหลายซึ่งเขาก็ยินดีอย่างยิ่ง พ่ออาจารย์จึงนำตุ๊กตายักษ์นั้นมาขออนุญาติและตะไบฐานออกส่วนหนึ่งเป็นผง ท่านนำมาคลุกและนวดเข้ากับสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบวัดกะบกขึ้นผึ้งก่อนที่จะนวดเข้ากับมวลสาร ท่านว่าผงนี้มีญาณโสมเฝ้าทรัพย์เฝ้าแผ่นดินทุกอณูเขาจะตามรักษาลูกหลานเลือดเนื้อเชื้อชาติไทยอันนี้ท่านว่าเป็นเรื่องรู้ได้เฉพาะตน แต่ว่าแรงน่ะแรงแน่ๆอธิษฐานใช้กันให้ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าที่ท่านคลุกสีผึ้งเขียวท่านพ่อทาบให้เพื่อจะได้มีคุณทางเมตตาเป็นกฤติยาคมแฝดอย่างถึงที่สุด ท่านว่าสีผึ้งเขียวนี้มีคุณทางเมตตามหาเสน่ห์มากแต่ก็นั่นแหละสุดแต่ใจจะใช้จะเล่นทางเสน่ห์เมตตาหรือเอาไปทำมาหากินให้ได้ดิบได้ดีก็ตามแต่จริตชีวิตคน

    - ยาเทวีสิบสองนางหรือยานางสิบสอง พ่ออาจารย์ท่านนำแท่งยาสุระสะติ่ของเก่า ซึ่งหาได้ยาก เป็นยาเก่าที่ปรุงมาแต่โบราณของบูรพาจารย์พม่า ไม่ใช่ยาใหม่รึปรุงใหม่ที่มีขายแต่อย่างใดท่านว่าของใหม่นั้นทำอย่างไรก็เทียบของเก่าของโบราณไม่ได้ ท่านนำแท่งยามาฝนเอาผงนวดรวมกันกับผงอื่นๆ ท่านว่าลำพังยาสุระสะติ่นี่ก็เป็นปิยะสุดๆแล้วท่านพูดไปหัวเราะไปว่าเราเองก็คิดไม่ออกเหมือนกันว่าจะเป็นปิยะขนาดไหนเพราะนวดรวมมวลสารหลายตัวเอาว่าเทวดานางฟ้ายังหลงเท่านี้ก็พอ ยานี้ที่เรียกว่ายานางสิบสองก็เพราะทำจากยาสุระสะติ่ของเก่าของโบราณซึ่งนางสุระสะติ่นั้นก็คือพระแม่สุรัสวดีนั่นเอง เป็นครูใหญ่ทางสายวิชาพม่าไทใหญ่ที่เรียกนางสิบสองเพราะด้วยสายวิชานั้นเชื่อว่านางมีสิบสองปาง มีนางสุระสะติ่ทั้งหมดสิบสองคนจึงเป็นสิบสองกำลังของพระแม่แห่งภูมิปัญญาความรู้ที่จะช่วยและเกื้อกูลลูกที่ศรัทธา ท่านว่าพกไว้นะดียานี้สมองจะปลอดโปร่งคิดอะไรก็ออกสมัยนี้เขาเรียกว่าเก็ทคือคิดออกแต่เรื่องดีๆ คิดแล้วทำชีวิตก็ยิ่งดี จะนำชีวิตไปสู่ความเจริญทางภูมิปัญญามีวิวัฒนาการด้านความคิดสติปัญญาแตกแขนงไปไม่รู้จบ ซ้ำยานี้อยู่กับใครนอกจากจะเป็นปิยะเป็นที่รักของมนุษย์เทวดาแล้ว คนผู้นั้นจะมีสิริ เป็นทั้งเสน่ห์และเดช อำนาจครบถ้วนไม่มีอะไรจะเปรียบอยู่ในตัวเอง ท่านว่าคิดเอานะทั้งเสน่ห์เดชะตบะอำนาจรวมอยู่พร้อมๆกัน เช่นนี้จะหามีที่ไหน เป็นอะไรที่น่ากลัวมากๆเพราะทั้งหลงทั้งกลัวทั้งเกรงใจเกิดขึ้นพร้อมกันหมดเลย


    พ่ออาจารย์ท่านได้พิจารณาถึงสภาวะของมนุษย์โดยรวมก่อนท่านจึงรู้ว่าถ้าจะทำพระให้เขารวย เพียงเท่านั้นมันคงไม่พอ เพราะถ้าจะรวยต้องต้านกระแสกรรมหนักได้ด้วยไม่เช่นนั้นพระก็ไม่สามารถส่งผลอะไรได้มากเนื่องจากสัตว์โลกยังอยู่ในกฏของกรรมจำต้องทำเครื่องสูงที่มีอานุภาพส่งผลโดยตรงกับกรรมนั้นด้วยท่านทราบดีว่าหากท่านทำแล้วจะมีผลสืบเนื่องไปถึงเรื่องกฏของกรรมนั่นเอง เมื่อพ่ออาจารย์ท่านได้ผสมผงทำพิมพ์พระขึ้นท่านได้ทำพระทรงเครื่องอย่างมหาจักรพรรดิ์ท่านว่านี่คิดเสียว่าเป็นพระผู้ดีเป็นพระทรงเครื่อง ### ใช้แทนตัวพระเจ้าทั้ง 84,000 จะได้มีกินมีใช้ไม่ขัดสนไพบูลย์ด้วยทรัพย์สมบัติเป็นเอนกประการ องค์พระนั้นอยู่ในท่านั่งมารวิชัยอาศัยอาถรรพ์ว่าชนะมารจะได้ชนะอุปสรรคทุกสิ่ง
    *** ตรงจุดน่าอกองค์พระท่านได้นำศิลาน้ำของเจ้าปู่ชัยพรหมฝังไว้ด้วยทุกองค์ ท่านว่าให้ผลทุกทางตามแต่จะอธิษฐานดุจแก้วสารพัดนึก
    พ่ออาจารย์ท่านใช้มวลสารล้วนๆทั้งหมดข้างต้นมากด
    ก่อนจะนำองค์พระไปจุ่มรักท่านว่าผงมีเท่าใดก็ทำได้แค่นั้น พระรุ่นนี้ทำไว้เพื่อให้สร้างเนื้อสร้างตัวมีความสุขความสบายใจจะได้เอาเวลาที่เหลือไปสร้างบารมีปฏิบัติธรรมรักษาพระศาสนาให้เจริญงอกงามต่อไป

    ด้านหน้านั้นท่านเชิญเหล็กวิชาฝังไว้เป็นสำคัญส่วนด้านหลังนั้นเป็นเหรียญหล่อซ่อนหาและแร่กันอับเฉา ท่านเน้นว่าองค์กำเนิดธรรมนั้นดีทุกทางให้เอาติดตัวไว้ หากกรรมจะด่วนมา ถึงมาก็หาเราไม่เจอ(เจ้ากรรมนายเวรก็เช่นกัน)นี่คือผลของพระซ่อนหาของท่าน

    - เหล็กวิชาองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณสัณฐานเม็ดใหญ่ ในสภาวะสูงสุดของอนันตจักรวาลนั้น มีมหาชีวะที่ทรงพลังงานบริสุทธิ์อยู่สภาวะหนึ่ง ที่แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองก็ยังเพียรทำตบะเพื่อให้เข้าถึงและเป็นหนึ่งเดียวกับมหาอานุภาพนั้น สิ่งนั้นกล่าวได้ว่าเป็นดวงพระวิญญาณสูงสุดแห่งมหาจักรวาลที่ได้ให้กำเนิดพระผู้เป็นเจ้าทั้งสามขึ้นมาเพื่อทำหน้าที่อันแตกต่างกัน ซึ่งดวงพระวิญญาณนี้พ่ออาจารย์ท่านจำกัดความให้สั้นๆว่า ดวงชีพนิรันดร์หรือองค์อาตมภูวญาณนี้ เพราะอยู่เหนือทุกสรรพสิ่ง แม้แต่พระผู้เป็นเจ้าทั้งสามเองเมื่อถึงกาลถึงวาระที่พันธะหน้าที่หมดไป ก็ยังต้องกลับเข้าไปรวมกับองค์อาตมภูวญาณเช่นกัน การดำรงค์อยู่ในสภาวะพระผู้เป็นเจ้าสูงสุดยิ่งกว่าท้าวมหาพรหม..ยิ่งกว่าเทพเจ้านี้ ท่านคือพลังธรรมชาติที่มีชีวิตนั่นเอง เพราะท่านดำรงค์อยู่ได้ด้วยตนเอง,ไม่มีขอบเขตจำกัด,อยู่เหนือทุกกฏ,ไม่สามารถทำความเข้าใจได้...แต่ก็ปรากฏพระองค์ในทุกแห่ง ในที่ทุกสถานเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านได้เห็นพระรูปอันน่าตะลึงลานนั้นซึ่งครูพระสยมเคยอนุญาติให้ท่านดูด้วยว่าองค์อาตมันได้ปรากฏรูปทางกายภาพแล้วจะมีพระวรกายเช่นใด ท่านว่ามีพระพักตร์และพระกรมากมายไปหมด รัศมีนั้นส่องสว่างเกินกว่าเทวะใดๆ แต่ละพระกรนั้นล้วนทรงถือสิ่งอันเป็นความหมายมงคลต่างๆ รูปกายท่านคือปรพรหมสูงสุด(ไม่ใช่พระพรหม 1 ใน 3 พระผู้เป็นเจ้าของพราหมณ์ ซึ่งพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหมนั้นก็เป็นเพียงพระภาคหนึ่งขององค์อาตมันเท่านั้น) เช่นนั้นสภาวะอาตมันนั้นจึงถือเป็นสภาวะของการหลุดพ้นโดยแท้จริง ท่านเป็นผู้ตั้งฟ้า ตั้งดิน ตั้งกฏต่างๆ ...สถาปนาพระศิวะ พระนารายณ์ พระพรหม ด้วยเป็นมหาเทพที่อยู่กับธรรมชาติอันยิ่งใหญ่และอยู่แม้กระทั่งในตัวพวกเราทุกคน พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจระลึกถึงพระรูปองค์อาตมันที่ท่านเคยเห็นและขอกับพระรูปนั้นว่าจะกระทำให้เป็นเกียรติยศกับชีวิตท่านสักหนหนึ่ง ### ท่านจึงได้ขอธาตุกายสิทธิ์ที่เป็นธาตุขององค์ปฐมพรหมซึ่งท่านเนรมิตแทนตัวเองแม้อยู่ในความดูแลของท่านใดซึ่งดูแลอยู่ท่านก็จะขอมาบูชาไว้....จนครูใหญ่บรมพรหมสหัมบดีท่านได้ตอบสนองความต้องการนำมหาธาตุของปฐมพรหมบางส่วนมามอบให้กับพ่ออาจารย์(โดยพ่ออาจารย์ท่านว่านานมาแล้วท่านจำแลงเป็นชีปะขาวเอามาให้ฉันรักษาไว้โดยบอกแค่ว่าต้องเก็บไว้ในที่สูงเท่านั้น) ด้วยว่ายังไม่เคยมีใครได้สักการะธาตุแห่งองค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณกันเลย เพราะนี่คือสิ่งสูงสุดที่เต็มไปด้วยอาถรรพ์มากที่สุด ทำไม่ดีพลีไม่ถูกคนทำคนเสกแย่ใจหายเลยทีเดียว ซ้ำที่ผ่านมาท่านยังได้ขอกำลังแห่งองค์ปรพรหมอาตมันกับมหาธาตุเพื่อให้ประสิทธิ์ทำวิชาลี้ลับอันเกินกำลังในภพภูมิที่ท่านสัมผัสได้ไว้อยู่ตลอด เวลาท่านลงเสกเครื่องมงคลต่างๆ ***บางครั้งท่านก็ใช้องค์เหล็กชุดนี้เป็นสื่อกับองค์ปรพรหมเช่นนั้น องค์ปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณนั้นพ่ออาจารย์ท่านบอกว่าเป็นพระรูปที่ปรากฏทางกายภาพ แม้เหล่าพระเป็นเจ้า เทพเจ้า ฤาษีสิทธิ์ที่ไหนพบเห็นก็ต้องกราบไหว้นบนอบหมอบคลานด้วยทรงไว้ซึ่งศักดิ์และอาญาสิทธิ์สูงสุด สรรพชีวิตล้วนเกรงเดชพระองค์กันถึงปานนั้น ด้วยว่าเป็นผู้รู้ราตรีนาน เป็นสภาพธรรมมะที่แท้ของมหาจักรวาล เมื่อท่านปรากฏรูปเป็นธาตุกายสิทธิ์ก็เพื่อให้เป็นเทวานุสติแก่ผู้ศรัทธา ด้วยว่าพระองค์นั้นคือสภาพธรรมสูงสุดเป็นพลังชีวิตที่รักษาสมดุลย์แห่งธรรมของการค้นพบพระสัจธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทั้งหลาย องค์เหล็กวิชาอันเป็นตัวแทนปรพรหมนี้ เมื่อผู้ใดได้พบได้อาราธนาจะผ่านพ้นเหตุการณ์วิปริตผิดธรรมชาติต่างๆไปโดยง่าย แม้ภัยธรรมชาติก็หาได้กล้ำกราย เป็นที่เกรงอกเกรงใจแม้แต่เหล่าเทพยดาเรียกว่าอยู่เหนือผู้อื่นกว่าเขาหมด และยังเสริมพลังงานธาตุพลังงานชีวิตให้กับตัวเองอย่างมหาศาล ด้วยว่าสิ่งมีชีวิตทั้งหลายล้วนมีเชื้อแห่งอาตมันนั้นอยู่ในตนเองทั้งสิ้น จะมีความคิดเห็นที่ถูกที่ควร มีญาณทัศนะกระจ่างสว่างใส มีจิตรู้ในตนเองที่บริสุทธิ์มากขึ้น จะปรารถนาอยากจะกระทำความดี จะปรารถนาการเข้าถึงอมฤตธรรม จะหิวกระหายในคุณธรรมทั้งความคิดเห็นอกุศลมืดบอดจะค่อยๆหมดไป แม้ปรารถนาจะเอาดีทางโลก ก็ได้ดีได้พบความสำเร็จโดยง่ายดุจเหล่ามหาบุรุษ แม้ประสงค์จะเอาดีทางธรรมก็จะเห็นสัจธรรมมีสติตั้งมั่นเดินไปบนหนทางที่ถูกต้องไวกว่าคนอื่น จะไม่มีวันตกต่ำลงกว่าเดิมแม้อธิษฐานขอพรกับพระองค์ก็จะเห็นความศักดิ์สิทธิ์ในองค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณอย่างรวดเร็ว แม้เทพเจ้ามิจฉาทิฏฐิหรือสิ่งเลวร้ายทั้งหลายทั้งฝ่ายพุทธและฝ่ายไสยครอบคลุมทั้งหมดจะไม่กล้าแสดงฤทธิ์ต่อต้านอวดดีฉุดรั้งอีกต่อไป ด้วยนบนอบและเกรงกลัวในองค์องค์ธาตุของปรมัตถ์พรหมอาตมภูวญาณหรือองค์อาตมันดวงชีพนิรันดร์ยิ่งนัก นอกจากนั้นแม้ท่านจะขอพรกับเทพพระองค์ใดก็ย่อมสำเร็จได้โดยง่ายด้วยเค้าเกรงใจในองค์ปรพรหมสูงสุดของเขากันทั้งนั้น.... พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่อาราธนาดวงธาตุติดคอไว้เถอะเอาว่าครูท่านไม่ทิ้งและยังห่วงเรามากๆ ท่านไม่ไปไหนเลยจะคอยวนเวียนช่วยเราอยู่ใกล้ๆ ยิ่งแต่ละพระองค์ท่านชอบช่วยโลกโปรดมนุษย์อยู่แล้วถ้าเรามีทุกข์ยากอะไรก็ให้บอกกับท่านเลยถือว่าเป็นงานท่านเป็นภาระของท่านโดยตรง พ่ออาจารย์ท่านว่าเห็นดวงเล็กๆเช่นนี้เหมือนมีร้อยแรงพันแรงคอยโอบอุ้มเราเพราะจิตเหล่าอกนิฏฐ์พรหมท่านคอยรักษามหาธาตุแห่งอาตมันอันถือเป็นสิ่งสำคัญของเหล่าพรหมทั้งหลาย(ท่านว่าห้อยแล้วไม่หนักคอดั่งห้อยสร้อยแขวนท้าวมหาพรหมนับร้อยนับพันเส้น) ด้วยสภาวะของดวงธาตุแห่งอาตมันและเหล่ามหาพรหมนั้นท่านรักและเป็นห่วงมนุษย์มาก มากพอกับที่พ่อคนหนึ่งจะรักและเป็นห่วงลูกที่พรากไปจากอกได้ จะเลวชั่วหรือยากดีมีจนก็เป็นเพราะกรรมเเละการกระทำของเราปรุงเเต่ง เเต่ในบางเรื่องบางปัจจัยหากลูกๆนึกถึงพ่อท่านก็จะสามารถช่วยให้ผ่านพ้นเเละเปลี่ยนเเปลงชีวิตจากหน้ามือเป็นหลังมือได้ อย่าลืมว่าท่านคืออาตมันและเหล่าพรหมสูงสุดที่ทรงอภิสิทธิ์เด็ดขาดและรุนแรงที่สุด

    - แร่กันอับเฉา(กันพลาด) โบราณเขาเอาไว้ถ่วงท้องเรือสำเภา เวลาคนเดินทางแสวงโชคล่องเรือมานี่เขาก็จะหยิบแร่ที่ถ่วงท้องเรือออกมาเป็นที่ระลึกถือว่าเป็นของสิริมงคลด้วยอยู่ท้องสำเภายังถ่วงให้พ้นคลื่นลมแลภัยพิบัติได้ แม้เรื่อที่ว่างยังถ่วงให้เต็มได้ นี่เป็นเคล็ดแต่โบราณเอาไว้เริ่มตั้งตัว ดั่งว่าหยิบทรัพย์ ได้ทรัพย์ในสำเภามาครอบครองเป็นอาถรรภ์แฝด ซ้ำแร่ถ่วงท้องสำเภานี้ยังมีดีในตัวเองโบราณว่ามีคุณตามเคล็ดกันพลาดกันอับเฉาได้ครอบคลุมทั้งสิ้น หมายถึงกันสิ่งไม่ดี กันชีวิตอัปปาง กันชีวิตล่มจม ปิดทางให้ตั้งตัวได้เจริญขึ้นโดยส่วยเดียวไม่มีวิบัติภัยใดๆเลย แร่สำคัญนี้พอถ่ายทอดสืบสกุลจากรุ่นสู่รุ่นในตระกูลเศรษฐี ตัวแร่จึงถูกเคารพในฐานะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของบรรพบุรุษซึ่งมีเทวดารักษา คนในสกุลมักจะนำมาอธิษฐานขอพรเพื่อเข้าถึงพลังงานและสิริมงคลเบื้องสูง พ่ออาจารย์ท่านว่าแร่ก้อนนี้นอกจากจะดีทางกันพลาดกันอับจนแล้ว ยังมีดีด้านมหาสะกดให้ฝูงชนหลงเมามัวเคลิบเคลิ้มได้อย่างประหลาดเป็นไปด้วยอานุภาพเทวดา เธอลองคิดเอาเถิดว่าเพียงก้อนแร่ก้อนหนึ่งยังทำให้คนนับสิบในสกุลยึดถือกราบไหว้มาหลายชั่วอายุคนนับร้อยๆปีตั้งแต่ต้นกรุงได้นี่แร่ก้อนนี้ต้องมีอาถรรพ์และวิเศษกว่าแร่ชนิดเดียวกันขนาดไหน ท่านว่าแร่นี้เมื่อนำมาพกพาจะเสริมส่งตบะ เพิ่มวาสนา เติมบุญบารมี ต่อชะตาชีวิตทำให้เกิดความก้าวหน้าในการงาน มีความสุขความเจริญรุ่งเรือง แม้ต้องอาถรรพ์ดวงตกก็หนุนชะตาได้เป็นอย่างดี พ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดว่าแร่นี้ได้ซึมซับ ความสุข ความบริบูรณ์มาชั่วรุ่นเศรษฐีหลายอายุคน ซึมซับความสุขมายาวนานไม่รู้จักคำว่าตกต่ำยากจน มีอาถรรพ์ดุจสำเภาที่ฝ่าคลื่นลมข้ามน้ำข้ามทะเล ฝ่าคลื่น ฝ่าพายุมรสุมวิบากกรรมผ่านพ้นได้นับกาลเวลาไม่ถ้วน เช่นนี้ท่านจึงนำแร่มาอธิษฐานจิต ทั้งยังได้ขอบารมีหลวงพ่อฤาษีเสกให้หลายวาระจนประจักษ์แก่ใจว่าอานุภาพเต็ม ท่านจึงบอกขอกับเทวดาที่รักษาแร่ให้ออกไปสร้างกุศลใหญ่ แล้วนำแร่มาทุบฝังพระนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเราขอเขาให้ไปหนุนคนที่ได้ไปให้เจริญขึ้นโดยส่วนเดียวเหมือนที่เขาเคยสร้างคน เปลี่ยนคนติดสำเภาธรรมดาให้ตั้งตัวเป็นเจ้าสัวในเมืองกรุงเป็นเศรษฐีค้าสำเภาได้สืบทอดลูกหลานมาหลายร้อยปีโดยที่สกุลนี้ไม่มีตกต่ำเลย


    - เหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา ### ตำนานเหรียญซ่อนกรรม *** เหรียญเร้นกรรมของพ่ออาจารย์ท่านที่ให้ผลทันตา แต่ปางหลังนั้น นับจากสมเด็จพระพุทธโคดมศากยมุนีได้ทรงกระทำทิฏฐิในองค์ท้าวผกาพรหมให้แจ้ง รู้ชั่วดี มีปรีชาญาณแล้ว ท้าวผกาพรหมก็ได้บรรลุธรรมและกระทำบารมีต่างๆมากมายจนเลื่อนขึ้นสู่ปัญจสุทธาวาสมหาพรหม เป็นมหาพรหมขั้นสูงสุดคือมหาพรหมอนาคามี ครูบาอาจารย์แต่โบราณนั้นท่านรู้ดีว่าพระพุทธานุภาพทรงคุณเช่นไร พรหมคุณขององค์ท้าวผกาพรหมมีความสำคัญแตกต่างจากเทพเจ้าองค์อื่นอย่างไร ครูบาอาจารย์จึงหยิบยกพระคุณเหล่านี้มากระทำเป็นวัตถุมงคล

    หากจะกล่าวถึงสิ่งที่เป็นตำนานไปแล้ว หาดูได้ยาก มีพลังอิทธิคุณสูงส่งในพิมพ์พระพุทธเจ้าโปรดท้าวผกาพรหมนี้ ก็ต้องระลึกถึงเหรียญหล่อเมฆสิทธิ์ หลวงพ่อทับ วัดอนงคาราม ที่สภาพสวยๆสมบูรณ์นั้นมีมูลค่าว่ากันที่หลายๆแสน และนับวันจะทวีมูลค่าสูงขึ้นไปอีกและปรากฏของปลอมมากมาย ที่เกริ่นมาแล้วนี้เพราะต่อไปจะมาพูดถึงเหรียญหล่อปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหานั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านได้สัมผัสบารมีและบุญญาภินิหาริย์ของหลวงปู่ทับ วัดอนงค์มาแล้ว ทั้งได้รับคำฝากฝังจากครูบาอาจารย์ว่า ให้ท่านทำให้อีกซักครั้ง ด้วยว่าของที่ท่านทำไว้แต่เดิมนี้ นับวันจะหาของจริงแท้ดูได้ยากเต็มที สมัยผมทำ ผมก็ทำด้วยกายสิทธิ์(เมฆสิทธิ์) ถ้าคุณจะทำไว้เป็นที่ระลึกก็เอากายสิทธิ์ที่เหลือของคุณมาทำ ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้นำหุ่นเทียนมาแกะ โดยขอเมตตาจากบารมีหลวงพ่อทับตลอด ท่านว่าสมัยท่านนั้นจะทำเป็นเหมือนพระพุทธนั่งซ้อนอยู่บนพระพุทธอีกคำรบหนึ่ง คนจึงไม่รู้ว่าเป็นท้าวผกาพรหม ได้แต่เรียกกันว่าพระซ่อนหาไป เมื่อพ่ออาจารย์จะทำ หลวงปู่ทับท่านก็บอกให้แก้ไขพิมพ์ใหม่ ให้รู้ว่าองค์ไหนคือพระองค์ไหนคือท้าวผกาพรหม

    หลวงพ่อทับท่านได้กล่าวว่า
    ด้วยพุทธบารมีที่พระพุทธเจ้าได้โปรดท้าวผกาพรหมนั้น ท่านได้แสดงปาฏิหาริย์ไปปรากฏในพรหมโลก โปรดท้าวผกาพรหมโดยใช้ฤทธิ์และอภินิหาริย์โดยแท้ ซึ่งอานุภาพเหรียญหล่อนี้ จะมีไว้เพื่อคลายทิฏฐิความเห็นผิดในใจ ผู้บูชาจะระลึกถึงเหตุการณ์ครั้งนั้นเป็นอนุสติ ไม่ถูกฝ่ายมารครอบงำ หลุดพ้นจากอวิชชาทั้งหลาย แม้ขัดข้องสิ่งใดจะได้รับการช่วยเหลือการสงเคราะห์จากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ด้วยฤทธิ์แลอานุภาพ ทั้งยังเป็นที่เกรงกลัวของภูติผีปีศาจและเหล่ามารทั้งปวง ซ้ำยังนิราศโรคนิราศภัยร้ายทั้งหลาย เมื่อได้อาราธนาจะไม่มีโรคาพาธเบียดเบียนปลอดภัยจากโรคระบาด เป็นการนำพุทธและพรหมมาเกื้อกูลผู้ที่อาราธนาไปพร้อมกัน ที่เรียกว่าพระซ่อนหานั้น เพราะใครได้ไปได้ดีขึ้น ปรากฏเกียรติยศ ร่ำรวยกันทุกคน ดุจดังว่าได้สิ่งค้ำคูณเกื้อหนุนดวงชะตา ด้วยองค์พระนั้นสื่อความหมายว่าท้าวผกาพรหมไม่สามารถหาพระพุทธองค์พบเช่นไร เวรกรรมอันจะมาเบียดเบียน ทุกข์โทษภัยสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่ตามติดผู้ครอบครองอยู่ก็หาตัวเราไม่พบเช่นนั้น ดุจดังว่าเรานั้นเป็นอากาศธาตุจะเพียรหาตามติดด้วยวิธีใดก็หลุดพ้นไปได้โดยพุทธานุภาพ ทั้งนี้ท่านยังได้เมตตาบอกพระคาถาที่จะใช้ในการเสกและการอาราธนาให้ด้วย ท่านว่าเมื่อทางสะดวก ปราบและกำราบคนที่คิดไม่ดีกับเราหมดแล้ว จะทำอะไรก็เจริญรุ่งเรือง จะเอาดีทางโลกก็ไร้เสี้ยนหนาม จะเอาดีทางธรรมก็ไม่มีอุปสรรค เพราะชั้นถือว่าปราบนี่คือปราบหด ปราบราบคาบแม้แต่กิเลสในใจตน ก็ตั้งจิตอธิษฐานกันเองระลึกให้ดีว่าจะเอาดีทางโลกหรือทางธรรม ยิ่งเมื่อเสริมกันกับอานุภาพธาตุกายสิทธิ์และพลังฤทธิ์เทวราชที่ดูแลรักษา ตลอดจนพ่อท้าวผกาพรหม และสมเด็จพระศากยมุนีสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว หายห่วงได้ทุกเรื่อง ฝากชีวิตไว้ได้ พ่ออาจารย์ท่านได้หล่อเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหาไว้ด้วยวัชรธาตุหยาดน้ำฟ้าทวาราวดี นำมาผสมกับเหล็กสังขวานรเก่าพระอุโบสถอยุธยา เข้าด้วยตะกั่วน้ำนมพระท่ากระดานชำรุด ผสมแร่เงิน และปรอทป่า จนหลวงพ่อทับท่านบอกว่าได้เช่นนี้ก็เป็นกายสิทธิ์แล้ว พลังหนักหน่วงแต่กลับเย็น..เบาและสบาย..ดี.ดีมากๆ

    พ่ออาจารย์ว่า
    เหรียญนี้ตอนเสกนั้นท่านลงวิชาสูตรหลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่าไว้ที่องค์พระ โดยใช้รัศมีกายขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าฉาบเคลือบไว้ทุกเหรียญ แบบที่หลวงปู่ศุขท่านทำเหรียญรัศมีซุ้มประภามณฑล จนปรากฏว่าหลวงปู่ศุขท่านมาอนุโมทนา เป่าเหรียญลงวิชาให้เองทีละเหรียญ ท่านว่าวิชานี้ดี คุ้มได้ทั้งหมด เป็นดั่งแสงสว่างส่องนำทางให้กับเรา ต่อไปไม่มีวันมืดบอดอับจน เปิดแล้ว สว่างแล้ว รัศมีพระสัพพัญญูตกต้องถึงเราแล้ว ทำอะไรจะไม่ตกอับอีกแล้ว โดยในส่วนของพระรูปด้านล่างที่เป็นองค์ท้าวผกาพรหมนั้น พ่ออาจารย์ท่านให้เสด็จปู่ผกาพรหมมาแฝงกายทิพย์ของท่านลงไปเอง พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าคนไทยนี้ สมควรจะรู้ไว้นะท้าวผกาพรหมนี่แหละท่านมีความเป็นห่วงผูกพันธุ์กับคนไทยมาก เพราะพวกเราเคารพและไหว้ท่านกันมานานด้วยไปเข้าใจผิดว่าท่านเป็นพรหมของพราหมณ์ เป็นพรหมสร้างโลกลิขิตชะตามนุษย์ เมื่อท่านมีความผูกพันธ์ท่านก็จะเป็นธุระคอยช่วยเหลือให้ในเบื้องบน คอยหาเหล่าเทพ พรหม โพธิสัตว์ให้มาจุติช่วยเหลือบ้านเมืองมาตลอดทุกยุคทุกสมัย นี่เลยหัวแรงมีบุญคุณเหนือเกล้าเหนือกระหม่อมลูกหลานไทยอย่างแท้จริง พอรู้ว่าเป็นเรื่องของไทยนี่ท่านเอาเป็นธุระหมด ระลึกถึงพระคุณของท่านและอธิษฐานขอพรจากท่านดู เป็นคนไทยเป็นลูกหลานไทย ท่านไม่เพิกเฉยต่อคำร้องขอและอธิษฐานหรอก เพราะท่านมีน้ำพระทัยกรุณา จะตั้งจิตขออะไรก็ขอจากองค์ผกาพรหมนี่จะไวกว่าขอองค์พระนะจำไว้ องค์ผกาพรหมนี่จิตท่านก็สูงสุดในพรหมโลกแล้วเพราะเป็นมหาพรหมอนาคามี บารมีท่านไม่ธรรมดา เราเลยตั้งใจแกะรูปท่านในปางประทานพรเหมือนกลายกลายว่าให้ท่านให้พรคนที่เขาขอทุกเรื่อง ขอแล้วต้องช่วยเช่นนั้น เมื่อเสกนั้น ท่านนำเหรียญมาแช่น้ำมนต์ 9 สถานที่ ที่ผุดขึ้นเองโดยธรรมชาติ ทั้งในบ่อ ในถ้ำ และในเศียรพระพุทธรูปโบราณ ที่ท่านรวบรวมไว้ ท่านว่าน้ำเหล่านี้ผุดเอง มาเอง ตักเท่าไหร่ก็ไม่หมด คนใช้จะได้มีกินมีโชคงอกเงย ผุดเองได้เองเรื่อยๆ และท่านก็ลงวิชาของท่าน เชิญครูท้าวผกาพรหม ตลอดจนขอความอนุเคราะห์จากหลวงปู่ศุข หลวงพ่อทับ หลวงพ่อฤาษีลิงดำมาลงวิชาให้เพิ่มอีกคำรบหนึ่ง ซ้ำยังปรากฏญาณของสมเด็จพระพุฒนาจารย์(นวม)วัดอนงค์อีกด้วย เรียกว่าดีเหนือดีเลยเพราะหลวงปู่ทับคงจะอาราธนาท่านมาเสริมให้

    คาถาบูชา
    สุวัณณรัชชตัง จะระวะมัยหัง เทหิสาสะเต คฤหบดีเศรษฐี กุมภะโฆสะกะเศรษฐี เมณฑะกะเศรษฐี ธนัญชัยยะเศรษฐี ทุคคะตะเศรษฐี อนาถะบิณฑิกะเศรษฐี ปุริโสวา อิตถีวา ทาสีวา ทาสาวา สุวัณณัง รัชชะตัง วัตถังวา โอมมะหาสุนทริโพธิสัตโตจะ เทวะมนุสสานัง ตะระมาโภคาวะ ขิปปังขิปปะ มะหา สัมปัตติสุขัง สะระกะธะนัง อะหังวันทามิ สิทธิสะวาโหม(* ให้สวดและอธิษฐานตามแต่ใจจะปรารถนา ระลึกถึงพระพุทธานุภาพเป็นที่สุด ท่านว่าเคล็ดลับ ให้สวมคอบูชาปกติอย่าไปตั้งความหวังสิ่งใด ประกอบสัมมาอาชีพไปโดยปกติ ขอท่านเฉพาะในสิ่งที่จำเป็นเท่านั้น เดี๋ยวสิ่งดีๆก็จะเข้ามาด้วยตัวของมันเอง)


    อาราธนาพระเจ้า 84,000 ปราบทุกข์เข็ญ
    นาสสะ โจรา ปัสสะ หันติ นาติ มัญเญติ ขัตติโย สัพเพ อมิตเต ตรัสติโย ปิตตานัง นะทุพภะติ (ทุกข์จะคลาย เคราะห์จะหมดกาลแห่งทุกข์นั้นจะคลี่คลายไปอย่างรวดเร็ว)

    อาราธนาเหรียญปราบโลก
    ยะวะ อรหัง กะวิทู อิกะนาโถ โลกะนาโถ กะวิทู เวคะ สะหะกะ กัมมะ ถะละสัตตารา พรัมมะสิริ พรัมมะวังนัง พรัมมะสุขัง พรัมมะรูปัง พรหมันนิพพานัง อนิโสสะ สิวังพุทธัง ถ้าใช้ภาวนาสวดเฉพาะท่อนนี้ (พรัมมะสิริ พรัมมะวังนัง พรัมมะสุขัง พรัมมะรูปัง พรหมันนิพพานัง อนิโสสะ สิวังพุทธัง)

    *** องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ 7 องค์ แต่ท่านได้บรรจุไว้ในพระเจดีย์ที่ท่านเคยสร้างให้เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์รักษษพระธาตุเจดีย์องค์หนึ่ง(ท่านเลือกเช่นนี้องค์พระย่อมต้องมีพุทธคุณสูงสุดอย่างแท้จริง) และท่านอาราธนาเององค์หนึ่ง จึงมีให้บูชาเพียง 5 องค์เท่านั้น ผู้ใดปรารถนาบูชาองค์มหากำเนิดธรรมนี้ให้แจ้งจองเฉพาะทางPM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านว่ารุ่นนี้ท่านได้อธิษฐานประสิทธิ์เชิญครูไว้อย่างดีมานานมากแล้ว...ไม่ต้องทำอะไรอีกใช้ได้เลยายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กด้อยโอกาสสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา องค์มหากำเนิดธรรมอนันตคุณพระเจ้าจักรพรรดิ 84,000 ตรึงไตรภพ (ฝังเหรียญปราบโลกไพรีพินาศพุทธพรหมซ่อนหา) บูชา 4,000 บาท


    96285913-234301244467521-7035681932981567488-n.jpg 95383249-279293416804348-868773636603904000-n.jpg
    95707135-2935025056589103-5714471467844894720-n.jpg
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พ่ออาจารย์ท่านว่าห้อยองค์นี้ได้กำลังสำคัญเหมือนได้กำลังพระจักรพรรดิทั้ง 84,000 พระองค์มาซ้อนกายในคราวเดียว ท่านว่านี่แหละรูปเงาะดำๆฉันตั้งใจจับคลุกรักไว้คนตาบอดเขาจะได้ไม่สนใจ คนตาดีรู้ว่าข้างในสุกสว่างเพียงไหนถึงจะแจ้งคุณโดยแท้จริงนั่นจึงคู่ควรกัน *** รุ่นนี้ทีเด็ดเลยเฉพาะเหรียญซ่อนหาพุทธพรหมหรือจะเรียกหรียญซ่อนกรรม,เหรียญเร้นกรรม....ข้างหลังก็คุ้มแล้ว เฉพาะเหรียญนี้ปกติก็องค์ละสี่พันเท่ากัน
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    โทษของ “ศีลวิบัติ” และคุณของ “ศีลสมบัติ”

    สมัยหนึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยภิกษุสงฆ์จำนวนมาก เสด็จไปในเมืองราชคฤห์ผ่านปาฏลิคาม อุบาสกและอุบาสิกาชาวปาฏลิคามมาเฝ้า กราบทูลขอให้ทรงแสดงถึงโทษของศีลวิบัติและคุณของศีลสมบัติ พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงแสดงให้ฟังว่า

    ผู้ทุศีลมีศีลวิบัติย่อมประสบโทษ ๕ ประการ คือ
    ๑. เสื่อมทรัพย์เพราะมีความประมาทเป็นเหตุ
    ๒. ชื่อเสียงทางไม่ดีย่อมฟุ้งขจรไป
    ๓. ไม่แกล้วกล้าอาจหาญในที่ประชุม
    ๔. เมื่อจะตายย่อมหลงตาย
    ๕. เมื่อสิ้นชีพแล้วไปสู่ทุคติ


    ส่วนคุณของความเป็นผู้มีศีลหรือศีลสมบัติ มี ๕ ประการ เหมือนกันคือ
    ๑. ย่อมได้กองแห่งโภคะเป็นอันมาก เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ
    ๒. ชื่อเสียงอันดีงามย่อมฟุ้งขจรไป
    ๓. เป็นผู้แกล้วกล้าอาจหาญในที่ประชุม
    ๔. เมื่อจะตายไม่หลงตาย หมายความว่า ตายด้วยความสงบ มีสติสัมปชัญญะ
    ๕. เมื่อสิ้นชีพแล้วย่อมบังเกิดในสุคติโลกสวรรค์


    อุบาสกและอุบาสิกาชาวปาฏลิคามชื่นชมยินดีในพระภาษิตของพระผู้มีพระภาค แล้วลากลับไป

    สมัยนั้น สุนีธมหาอำมาตย์และวัสสการพราหมณ์แห่งนครราชคฤห์ คิดจะสร้างเมืองใหม่ ณ ปาฏลิคาม (ซึ่งต่อมาเป็นเมืองปาฏลีบุตร และปัจจุบันคือเมืองปัตตนะ)

    พระพุทธองค์ทรงเห็นด้วยทิพยจักษุ แล้วตรัสกับพระอานนท์ว่า เทวดาผู้มีศีลศักดิ์ใหญ่อยู่ ณ พื้นที่ใด ก็ทำให้จิตของมหาอำมาตย์ผู้ใหญ่น้อมไปเพื่อจะสร้างที่อยู่ของตน ณ พื้นที่นั้น เทวดาผู้มีศักดิ์ปานกลางและมีศักดิ์ต่ำก็เช่นเดียวกัน สถิตอยู่ ณ พื้นที่ใดก็น้อมจิตของราชมหาอำมาตย์ผู้มีศักดิ์ปานกลางและศักดิ์ต่ำให้สร้างที่อยู่ในพื้นที่ของตนๆ

    สุนีธมหาอำมาตย์และวัสสการพราหมณ์ได้ทราบข่าวว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จผ่านมาทางนั้น จึงได้เข้าเฝ้าและกราบทูลอาราธนาให้ไปเสวย ณ นิเวศของตน พระพุทธองค์เสวยแล้วทรงอนุโมทนาว่า

    “บัณฑิตอยู่ ณ ที่ใด ย่อมเลี้ยงดูผู้มีศีล ผู้สำรวมดีแล้ว ผู้ประพฤติพรหมจรรย์ ณ ที่นั้น และอุทิศส่วนกุศลให้แก่เทวดาทั้งหลายผู้สถิตอยู่ในที่นั้น เทวดาผู้ได้รับการบูชาแล้ว ย่อมบูชาตอบ ผู้ได้รับการนับถือแล้วย่อมนับถือตอบ แต่นั้นเทวดาย่อมอนุเคราะห์บุคคลนั้น เหมือนมารดาอนุเคราะห์บุตร บุคคลผู้อันเทวดาอนุเคราะห์แล้ว ย่อมพบเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม”

    หลังจากภัตกิจและอนุโมทนาแล้ว พระผู้มีพระภาคเจ้าจะเสด็จข้ามแม่น้ำคงคาไปทางฝั่งโน้น สุนีธมหาอำมาตย์และวัสสการพราหมณ์ตั้งใจไว้ว่า พระผู้มีพระภาคเสด็จออกทางประตูใดจะตั้งชื่อประตูนั้นว่า “โคตมะ” เสด็จข้ามฝั่ง ณ ท่าน้ำใดก็จะตั้งชื่อท่าน้ำนั้นว่า “ท่าโคตมะ”

    ก็สมัยนั้นแล น้ำในแม่น้ำคงคาปริ่มฝั่งประชาชนผู้ที่ต้องการจะข้ามไป ต่างก็เตรียมเรือบ้างแพบ้างแต่พระผู้มีพระภาคและภิกษุสงฆ์ทรงข้ามไปโดยไม่ต้องอาศัยเรือหรือแพเลย ทรงเปล่งอุทานในเวลานั้นว่า

    “ชนเหล่าใดจะข้ามห้วงน้ำคือสงสาร และสระคือตัณหา ชนเหล่านั้นกระทำสะพานคืออริยมรรค ไม่แตะต้องเปือกตมคือกามทั้งหลาย จึงข้ามสถานที่ลุ่มอันเต็มด้วยน้ำได้ ก็ชนแม้ต้องการจะข้ามน้ำมีประมาณน้อย ก็ต้องผูกแพ ส่วนพระพุทธเจ้าและพุทธสาวกทั้งหลายผู้มีปัญญา เว้นจากแพก็ข้ามได้”

    ๑. โทษแห่งผู้ทุศีลหรือศีลวิบัติ เช่น เสื่อมทรัพย์เพราะความประมาทเป็นเหตุ ตัวอย่างเช่น ประมาท มัวเมาในอบายมุขต่างๆ ทำให้เสื่อมทรัพย์ ล่วงละเมิดศีล เช่น ไปฆ่าเขา ลักทรัพย์หรือฉ้อโกงทรัพย์ของเขา ถูกจับได้ต้องติดคุกหรือต้องเสียทรัพย์มากมายในการสู้คดีความ ทรัพย์เก่าก็หมดไป ทรัพย์ใหม่ก็หาไม่ได้ เสียชื่อเสียง ถูกดูหมิ่น ไม่กล้าหาญในที่ประชุม เพราะเกรงจะถูกท้วงติงถึงความผิด เมื่อจะตายระลึกถึงกรรมชั่วของตนทำให้หลงตาย ตายแล้วยังต้องไปทุคติอีก

    ส่วนผู้มีศีลดี มีศีลสมบัติหรือสีลสัมปทา ย่อมได้รับผลตรงกันข้ามกับผู้มีศีลวิบัติ กล่าวคือ ได้โภคะเป็นอันมาก เพราะความไม่ประมาทเป็นเหตุ มีความเพียรหมั่นประกอบสัมมาชีพ ได้ความสบายใจ มีชื่อเสียงอันดีงาม เข้าไหนเข้าได้ไม่เก้อเขิน เมื่อถึงคราวจะตายระลึกถึงคุณความดีของตน ทำให้ได้สุขโสมนัส ไม่หลงตาย ตายแล้วไปสุคติ เป็นกำไรของชีวิต

    ๒. เรื่องเทวดาประจำพื้นที่ซึ่งปรากฏในเรื่องนี้ น่าจะเป็นต้นเค้าให้มีการสร้างศาลพระภูมิ เพื่อให้เทวดาประจำพื้นที่ได้อยู่อาศัย ท่านจะอยู่หรือไม่อยู่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ผู้ที่จะรู้ได้ก็ต่อเมื่อมีทิพยจักษุ หรือสามารถจะติดต่อกับเทวดาได้ ขอฝากไว้สำหรับท่านผู้อ่านได้พิจารณาต่อไปด้วย

    ในพระพุทธพจน์ที่ทรงอนุโมทนาในที่นี้ ทรงแนะนำให้ทำบุญอุทิศให้เทวดา และตรัสว่าเมื่อบูชาและนับถือเทวดา ย่อมได้รับการบูชาและนับถือตอบ จากนั้นเทวดาย่อมอนุเคราะห์เขา เหมือนมารดาอนุเคราะห์บุตร ผู้ที่เทวดาอนุเคราะห์แล้วย่อมพบเห็นแต่สิ่งที่ดีงาม ตามพระพุทธพจน์นี้แสดงว่า เทวดาที่ช่วยคุ้มครองรักษาคนดีก็มีอยู่


    557000001349001.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ปู่โสมตามคน ก็มีคนจองมาสอบถามเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าปู่ท่านตามให้มาอาราธนาให้ทันท่านว่าจะให้ทรัพย์...(เป็นเรื่องเฉพาะตัวเล่ามากกว่านี้ไม่ได้) แต่เชื่อได้ว่าองค์มหากำเนิดธรรมรุ่นนี้หนักผงโสมเฝ้าทรัพย์มากๆและมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์หลายองค์คอยดูแลองค์พระ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,119
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พรุ่งนี้ติดตามพูดคุยกันนะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...