ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เกาะสมุย ในช่วงวันที่ 6-8 เมษายน นี้ อาจจะมีฝนตก คลื่นสูงเล็กน้อย ลมตะวันออกปกคลุมอ่าวไทย (หย่อมความกดอากาศต่ำเนื่องจากความร้อนปกคลุมประเทศไทยตอนบน ลมตะวันออกปกคลุมอ่าวไทย ส่งผลให้เกิดพายุฤดูร้อน สำหรับภาคใต้ เกาะสมุย อาจจะมีฝนตกในบางพื้นที่ ขอให้เตรียมพร้อมรับสถานการณ์สภาพอากาศ เตรียมพร้อมอาหารในยามฉุกเฉิน(พร้อมกับสถานการณ์โควิด19) ยาสามัญประจำบ้าน และรักษาสุขภาพร่างกาย

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    รายที่ 4 ของเกาะสมุย
    FB_IMG_1586012077916.jpg
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ข่าวภัยพิบัติ
    // มีความเสียหายอย่างกว้างขวางหลังจากพายุฝนลูกใหม่ถล่มอินโดนีเซีย
    กระทบผู้คนกว่า 56,000 คน อาคาร,บ้านเรือนได้รับผลกระทบ 9,285 แห่งถูกน้ำท่วม //
    02/04/20
    ตามรายงานของคณะกรรมการแห่งชาติเพื่อการจัดการภัยพิบัติ (BNPB) เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2020

    อาคารมากกว่า 280 แห่งถูกน้ำท่วมและมีผู้ได้รับผลกระทบ 56,000 คนหลังจากฝนตกหนักก่อให้เกิดอุทกภัยครั้งใหญ่ในเมืองบันดุงของอินโดนีเซีย

    ท่ามกลางอาคารที่ได้รับผลกระทบมีโรงเรียน 28 แห่งทั่วทั้งรีเจนซี่ นอกจากนี้บ้าน 61 หลังได้รับความเสียหายเล็กน้อยและ 238 คนได้รับผลกระทบทั่วเขตโบกอร์รีเจนซี่

    Agus Wibowo โฆษกของ BNPB กล่าวว่าน้ำท่วมในภาคใต้ของบันดุงสูงถึง 2.8 เมตร (9.2 ฟุต) ในบ่ายวันอังคารที่ 31 มีนาคมพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดคือ Dayeuhkolot, Bojong Soang และ Bale Endah

    https://www.thejakartapost.com/news...e-their-homes-as-floods-inundate-bandung.html
    เครดิตภาพ : ElshintaBandung, detikcom,Lalu Lintas Bandung
    @LMbandung
    #Watchers

     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (#Filmtopic)
    ...................
    #akira
    .
    อิทธิพลของ AKIRA ภาพยนตรที่เบิกทางแอนิเมชั่นญี่ปุ่นสู่สายตาชาวโลก
    .
    .
    ถ้าถามว่าภาพยนตร์แอนิเมชั่นเรื่องไหนที่มีอิทธิพลที่สุดต่อวงการภาพยนตร์ เราจะบอกว่ามีอยู่3เรื่องที่เป็นอนุสรณ์ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในวงการแอนิเมชั่น
    .
    เรื่องที่ 1 1937 Snow White ภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกของ Walt Disney Productions แอนิเมชั่นยาวที่สร้างด้วยวิธี traditional หรือการวาดมือล้วนๆเฟรมต่อเฟรม ที่ทำให้เกิดยุคเฟื่องฟูของดิสนีย์ขึ้นเป็นครั้งแรก ความทะเยอทะยานของมันก็คือการกู้หนี้สร้างงานชนิดที่ว่าถ้าเจ๋ง ก็คือล้มทั้งดิสนีย์ ล้มทั้งครอบครัวเพราะขายทุกอย่างมาสร้างหนังเรื่องนี้ (ว่างๆมาเล่าอีกที)

    เรื่องที่2 1995 คงหนีไม่พ้น ภาพยนตร์ยาวเรื่องแรกที่สร้างโดยเทคนิค 3มิติ กับความฝันอันยิ่งใหญ่ที่ถูกเติมเต็มอย่างยากลำบากของ เอ็ด แคทมุล ภาพยนตร์ในฝันของ จอห์น ลาสเซ็ทเตอร์อย่าง Toy Story ที่ได้เปลี่ยนวงการภาพยนตร์ไปตลอดกาล ไม่เพียงแค่แอนิเมชั่น แต่รวมไปถึงการเข้ามาของ CGI กับวงการภาพยนตร์(เนื้อหาละเอียดเคยเขียนไปแล้ว)

    เรื่องที่3 1988 ภาพยนตร์ที่ทำให้สิ่งที่เรียกว่า “อนิเมะ” เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก ลองนึกถึงการ์ตูนทุกเรื่องที่คุณเคยผ่านหูผ่านตา เคยชอบ หรือแม้แต่เป็นแฟนเดนตาย ดราก้อนบอล วันพีช เซเลอร์มูน โดเรม่อน เป็นที่รู้จักไปทั่วโลกได้ ด้วยความสำเร็จของภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เรียกได้ว่าเป็น1ในหนังที่มีความทะเยอทะยานสูงที่สุดจากญี่ปุ่น ด้วยเทคนิคและเงินทุนที่ก้าวข้ามแม้แต่ Studio Ghibli ณ ตอนนั้น ผลงานที่ทำให้ผู้กำกับระดับโลกของ HOLLYWOOD หลายต่อหลายคนหันมามองหนังจากเกาะเล็กๆในที่สุด ผลงานจากอัจฉริยะที่เป็นทั้งผู้เขียนมังงะ และผู้กำกับของภาพยนตร์เรื่องนี้ คัทสึฮิโระ โอโตโมะ วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้น ที่มาที่ไป และความสำเร็จของภาพยนตร์เรื่อง AKIRA
    .
    ก่อนอื่น แน่นอนว่าที่เราอยากเขียนเรื่องนี้เป็นเพราะตอนนี้มันว่างชิบหายอยากหาอะไรยาวๆเขียนสักหน่อย เพราะฉะนั้นบทความนี้คงใช้เวลาอ่านเยอะหน่อยนะ อีกอย่างก็คือเราเข้าใจว่าคนไทยหลายๆคนอาจจะไม่ค่อยคุ้นเคยกับภาพยนตร์เรื่องนี้และไม่รู้ว่ามันมีอะไรซ่อนอยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้บ้าง เพราะส่วนนึงคนไทยคุ้นเคยกับการ์ตูนญี่ปุ่นมาก่อนหน้านี้แล้ว ตั้งแต่ปี82 เรานำเข้าการ์ตูนจากญี่ปุ่นทางทีวีมาก่อน อย่างเรื่อง หน้ากากเสือ หรือ โดราเอม่อน 9ล9 อีกอย่างโรงหนังบ้านเราตอนอกิระเข้าฉายมันยังมีไม่เยอะ แน่นอนเองว่าเราเองก็เคยดูหนังเรื่องนี้เมื่อ10กว่าปีก่อนเอง แต่ก็ไม่ได้รู้สึกประทับใจอะไรเป็นพิเศษ เพราะตอนนั้นบ้านเราพวกการ์ตูน มังงะ อนิเมะมันมีให้เลือกดูเยอะแยะเต็มไปหมดแล้ว รวมถึงหนังจากดิสนีย์ที่ดูง่ายกว่าด้วย อีกอย่างหนังเรื่องนี้มันข้อนข้างน่ากลัวด้วยความที่มันเป็นกึ่งๆ anti-war ที่แสดงความรุนแรงออกมามาก เราจึงค่อยๆลืมเลือนมันไปตามกาลเวลา...แต่วันนึงเมื่อประมาณ 3-4ปีก่อน ที่งานหนังสือเราได้เดินไปที่บูท “เมืองหนังสือ” แล้วไปเจอมังงะเรื่องนี้แหละวางขายแบบครบเซ็ต 6 เล่ม ตอนนั้นกะว่าเอามาอ่านแก้เซ็งช่วงทำโปรเจค ในใจพอจำเรื่องราวของหนังได้ แต่ก็ไม่ได้คิดว่ามันจะต่างจากหนังมากมาย และกะอ่านฆ่าเวลาเท่านั้น
    .
    ซึ่งพออ่านจบ
    .
    มันกลายเป็น1ในมังงะที่ดีที่สุดที่เคยอ่าน ทั้งเนื้อเรื่องสุดล้ำเกี่ยวกับมิติและเวลาแบบ interstellar แต่เหนือชั้นกว่า ทั้งตัวละครที่ละเอียดอ่อนกับเรื่องราวที่เชื่อมโยงความเป็น cyberpunk เข้ากับบริบทของโลกหลังพ่ายสงครามที่สื่อถึงจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นในยุคนั้น การใช้พลังจิต และองค์ประกอบของ sci-fi fantasy ที่ทุกวันนี้ยังหาเทียบได้ยาก มันเป็นมังงะที่มีภาพแนว post apocalyptic-scifi ที่สวยงามที่สุดตลอดกาล ที่สำคัญที่สุดมันทำให้เราได้กลับไปดูตัวหนังอีกครั้งแล้วพบว่านี้เป็นแอนิเมชั่นที่โคตรน่าประทับใจเรื่องนึงและเราเสียดายมากๆที่หลายๆคนยังไม่ค่อยรู้จักเรื่องนี้เท่าที่ควร แต่ไม่เป็นไรถือว่าบทความนี้เป็นการทำความรู้จักกับมรดกของ akira ฉบับรวดเร็ว
    .
    .
    .
    โอเค ก่อนอื่น การที่เราจะเข้าใจความยิ่งใหญ่ของความสำเร็จของ Akira ได้เราต้องเข้าใจปูมหลังของสังคมญี่ปุ่นในตอนนั้นซะก่อน สภาพของญี่ปุ่นในตอนนั้นราวๆปี1980-1990 ต้องบอกว่าเป็นช่วงที่ญี่ปุ่นฟื้นตัวจนมาถึงจุดที่เรียกว่าเศรษฐกิจดีเป็นครั้งแรกนับจากจบสงครามโลกครั้งที่2 โดยดูจากกราฟหุ้นที่มีการก้าวกระโดดในช่วงนี้อย่างไม่เคยมีมาก่อน มีค่าการว่างงานเพียง 4.8% ซึ่งถือว่าน้อยกว่าทศวรรษอื่นมาก อีกอย่างคือมันกลายเป็นยุคทองของวงการ เอนเตอร์เทนเม้นท์ และเทคโนโลยี เป็นจุดกำเนิดของบริษัทที่เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก อย่างที่เราคงพอนึกออกเช่น NINTENDO , GHIBLI รวมไปถึงสำนักพิมพ์มังงะที่ดังขึ้นมา นั่นหมายถึงการเสพย์และสร้างสิ่งบังเทิงของญี่ปุ่นที่มากขึ้นแบบเอกซ์โพเน็นเชียลอีกด้วย ถ้าจะเอาให้เข้าใจง่ายๆในช่วง1970 มีภาพยนตร์แอนิเมชั่นประมาณ50 เรื่องถูกสร้างและขายในญี่ปุ่น และในช่วง1980 นั้นมีการสร้างภาพยนตร์แอนิเมชั่นเพิ่มขึ้นมาถึง 4เท่าตัว! ราวๆ200เรื่องเลยทีเดียว และยังส่งขายไปต่างประเทศจนประสบความสำเร็จอย่างมากอีกด้วย
    .
    แน่นอนเพราะว่า AKIRA ก็เป็น1ในภาพยนตร์ที่เป็นปัจจัยสำคัญของความสำเร็จนั้น แต่ไม่ใช่เพราะความฟลุ๊ค แต่ต้องบอกว่าในช่วงปี80 สำหรับวงการอนิเมะแล้วเป็นยุคทองก็ว่าได้ ไม่ใช่เพียงเพราะมันดังขึ้นมาอย่างมาก แต่เป็นเพราะมัน “หลากหลาย” เรนจ์ของเนื้อหานั้นมีตั้งแต่เด็กดูง่ายอย่าง totoro, dragonball ไปจนถึงโหดดิบหรือsci fi แปลกๆไปเลยอย่าง Devil Man , gundam , Battle of the Planets เป็นยุคแรกๆที่เกิดคำว่า ”โอตาคุ” ถือว่าเป็นช่วงที่ตลาดอนิเมะและมังงะกำลังขยายตัว กำลังทดลองสิ่งใหม่ๆ หาฐานลูกค้าใหม่ๆ พร้อมกับศิลปินที่มีความสามารถมากมายที่ผลิออกมาในช่วงนั้นอย่างไม่ขาดสาย จนมาถึงจุดที่วงการพร้อมที่จะบุก “ตลาดนอก” แล้ว และ AKIRA ก็คือเรื่องที่ถูกเลือก
    .
    แน่นอนว่าก่อนหน้านั้นภาพยนตร์ของ ghibli ได้ไปลองลุยตลาดนอกมาก่อนแล้วอย่างเรื่อง Castle in the Sky ในปี 86 จากเงินทุนประมาณ 3ล้านดอลลาร์ สามารถขายในญี่ปุ่นเพียวๆได้ถึง 16ล้านดอลลาร์ ยังไม่รวม home video ที่ถล่มทลายจนถึงหลัก 100ล้าน แต่ด้วยโรงที่น้อยและการพากย์ทับภาษาอังกฤษสมัยนั้นที่เรียกได้ว่าเปลี่ยนทั้งเนื้อหาและบทพูดจากต้นฉบับไปอย่างน่าผิดหวัง จนตัวหนังทำผลงานนอกบ้านได้ไม่ดีนัก แต่ไม่ใช่กับอากิระ
    .
    ในปี 1982 หนุ่มไฟแรง นาม คัทสึฮิโระ โอโตโมะ ที่เพิ่งจะประสบความสำเร็จจากซีรีส์มังงะของเขาอย่าง Domu ที่ขายได้มากกว่า 5แสนชุดและทำให้เขาได้รางวัล Nihon SF Taisho Award พูดง่ายๆก็คือรางวัลสำหรับเรื่องราว sci-fi ยอดเยี่ยม ซึ่งในยุค 80 นั้นด้วยความสำเร็จของภาพยนตร์อย่าง star wars ปลุกทั้งโลกให้คลั่งไคล้ความเป็น sci-fi แน่นอนว่ารวมไปถึง โอโตโมะ ที่กำลังจะเขียนซีรีส์ที่จะเปลี่ยนวงการอนิเมะไปตลอดกาล
    .
    อากิระ ผลงานที่ได้รับแรงบรรดาลใจมาจากความเป็น cyberpunk แบบ blade runner ผสมผสานเข้ากับสภาพของประเทศที่พ่ายสงคราม และประเด็นทางการเมืองกับชีวิตที่หนักอึ้งทั้งหลายนั้น เพียงเล่มแรกที่ออกมาก็สามารถก้าวข้ามยอดขายเรื่องก่อนๆของโอโตโมะได้ทั้งหมด และยังถือว่าเป็น1ในหนังสือการตูนแนว ไซเน็น (วัยรุ่น) ที่มียอดขายต่อกรกับหนังสือการ์ตูนโชเน็น (เด็กโต) ได้เลยทีเดียว และกลายเป็นมังงะที่พูดถึงมากที่สุดเรื่องนึงในตอนนั้น และด้วยความที่มีฉากหลังเป็น cyberpunk ที่น่าจะขายได้ง่ายกว่ากับตลาดต่างประเทศ โดโมโตะ จึงได้ข้อเสนอที่เขาปฎิเสธไม่ลง
    .
    ในทีแรกนั้นเขาไม่ต้องการที่จะเสียเวลาจากการวาดมังงะไปกับการสร้างหนัง แต่ด้วยเงินทุนที่เกินกว่า 10ล้านเหรียญ เรียกว่ามากที่สุดตลอดกาลของภาพยนตร์แอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นในตอนนั้น และอำนาจในโปรเจคที่มอบให้เขาสามารถดูแลงานสร้างได้แทบทั้งหมด โดยนี่เป็นโปรเจคยักษที่เป็นการร่วมทุนกันของบริษัทชื่อดังถึง 7 บริษัท Kodansha, Mainichi Broadcasting System, Bandai, Hakuhodo, Toho, Laserdisc Corporation และ Sumitomo Corporation ที่ล้วน support เงินทุนให้หนังเพียงเรื่องเดียว โดยหวังให้มันแหวกว่ายผ่าไปถึงผู้ชมทั่วโลก
    .
    และในด้านเทคนิคเองมันก็เป็นภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคอัดเข้าไปอย่างไม่เคยมีมาก่อน เช่นการใช้คอมพิวเตอร์ GCI ผสมผสานกับการวาดมือแบบดั้งเดิม ถ้านึกภาพไม่ออกก็อารมณ์เดียวกับพวก อลาดิน, ลิตเติ้ล เมอ์เมด ซึ่งถูกใช้เป็นครั้งแรกในภาพยนตร์แอนิเมชั่นญี่ปุ่น แถมยังวาดมือโดยใช้ frame rate ที่ 24 หมายถึงใน 1วินาทีต้องวาดถึง 24ภาพ มากกว่าทุกเรื่องที่เคยทำมาทั้งหมด และสรุปรวมมีภาพที่วาดไว้ถึง 160,000ภาพเลยทีเดียว และด้วยความละเอียดละออแบบสุดหยังถึงของ โอโตโมะ เขายังได้ใช้ quick action recorder เพื่อแก้ไขฉากที่ไม่ดีพอจนงานมากกว่าเดิม2-3เท่า
    .
    ไม่เพียงเท่านั้นเพลงประกอบของหนังเรื่องนี้ก็ได้ใช้เพลงชนพื้นเมืองโบราณของญี่ปุ่น โดยกลุ่ม Geinoh Yamashirogumi ที่เป็นการรวมตัวกันของชนพื้นเมืองที่พยายามรักษามรดกวัฒนธรรมเพลงชนเผ่าไว้
    .
    ด้วยทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้มันกลายเป็นหนังที่ใช้ทั้งเงินและเวลาในการสร้างแทบจะเรียกว่าไม่จบสิ้น และถูกตราหน้าด้วยความคาดหวังที่หนักอึ้ง แบบไม่เคยมีมาก่อน
    .
    .
    .
    แต่ เมื่อมันออกฉายในญี่ปุ่น.....มันกลับล้มเหลวไม่เป็นท่า และทำเงินได้เพียง 7.5ล้านเท่านั้นตลอดการฉาย หรือเรียกง่ายๆว่าขาดทุนย่อยยับในบ้านนั่นแหละครับ และแม้แต่ตัว โอโตโมะ นั้นที่ได้ชมรอบปฐมทัศน์ของตัวหนัง ยังต้องเดินหงอยๆกลับบ้านมาบอกภรรยาว่า “มันเป็นหนังที่ล้มเหลว”
    .
    อาจจะบอกได้ว่าในช่วงที่มันออกมาในตลาดญี่ปุ่นนั้นรูปแบบการเสพย์อนิเมะและมังงะของคนในตอนนั้นก็ได้เปลี่ยนไปอย่างมากแล้ว ซึ่งน่าจะไม่ต้องบอกว่าเป็นเพราะความโด่งดังของ รูปแบบการ์ตูนที่เบาสมองและเสพย์ง่ายกว่าเช่น shonen jump อย่างดราก้อนบอล หรือ ภาพยนตร์ที่มีความน่ารักและเนื้อหาเบาๆของ Ghibli กับหนังอย่าง totoro ทำให้การเปิดตัวของอากิระนั้นน่าผิดหวังอย่างที่เป็น
    .
    และยิ่งซ้ำร้ายตัวภาพยนตร์ที่ตั้งใจจะนำไปเจาะตลาด ตปท กลับได้ผู้จัดจำหน่ายเจ้าเดียวกับ ghibli ที่ทำผลงานย่ำแย่จนตัวหนังขายไม่ออกมาแล้วในปี 86 โดยหนังเรื่องนี้ถูกปฏิเสธการจัดจำหน่ายจากทั้ง Steven Spielberg และ George Lucas ที่มองว่ามันไม่น่าจะประสบความสำเร็จได้
    .
    .
    .
    แต่อย่างไรก็ตาม เมื่อมันได้ออกฉายจริงๆด้วยโรงจำกัดใน US นั้น มันกลับกลายเป็นภาพยนตร์แอนิเมชั่นที่เปลี่ยนทุกอย่าง ทั้งกับวงการอนิเมะของญี่ปุ่นเอง และกับวงการภาพยนตร์ทั่วโลก
    .
    นี่เป็นแอนิเมชั่นจากญี่ปุ่นเรื่องแรกที่สามารถทำเงินจริงๆจังๆอย่างไม่เคยมีมาก่อนได้จากตลาดต่างประเทศ โดยสิริรวมแล้วมันสามารถทำเงินได้ถึงราวๆ50ล้านเหรียญทั่วโลก แต่ทำไมมันถึงประสบความสำเร็จได้มากขนาดนั้น?
    .
    ลองนึกภาพดู ภาพยนตร์ของ Hollywood กับ ภาพยนตร์ Animation นั้นแทบจะเรียกได้ว่าถูกแบ่งฐานคนดูออกจากกันอย่างชัดเจน ภาพยนตร์ของ Hollywood จะเน้นหนักไปทางผู้ชมที่มีอายุตั้งแต่วัยรุ่นไปถึงกลุ่มคนทำงาน แต่สำหรับแอนิเมชั่นนั้นเจาะตลาดขายเด็กโดยเฉพาะ ไม่ว่าจะผลิตมาจากค่ายไหนก็ตาม ตั้งแต่อดีตจนถึงทุกวันนี้เส้นแบ่งนี้ของ Hollywood ก็ยังไม่จางไปเท่าไหร่ แต่กลับกันภาพยนตร์ของฝั่งญี่ปุ่น ที่คนทั่วไปนั้นไม่ได้เหลียวแลในตอนแรก กลับกลายเป็นระเบิดปรมาณูทางวัฒนธรรมที่ทำให้ perception การเสพย์แอนิเมชั่นของคนทั้งโลกเปลี่ยนไปตลอดกาล และกลายเป็น1ในผลงานที่แผ่กระจายวัฒนธรรมความกล้าบ้าบิ่นของงานศิลปะตะวันออกที่ระเบิดลงกลางใจของผู้ชมทั่วโลก จนเริ่มมีการนำเข้าหนังและการ์ตูนจากญี่ปุ่นเข้าสู่ US และ EU ในเวลาต่อมาสร้างฐานแฟนคลับที่ยังคงเรียกตนเองว่า “โอตาคุ” มาจนถึงทุกวันนี้ไปทั่วโลก
    .
    และอากิระเองก็ยังกลายมาเป็นหมุดหมายสำคัญที่ทำให้เกิดผลงานที่โด่งดังระดับโลกอีกมากมายเช่น ghost in the shell, Cowboy bebop รวมไปถึงสร้างแรงบรรดาลใจให้กับศิลปินผู้กำกับมากมายเช่น looper ของ Ryan Johnson หรือ Stranger Things ของ Duffer Brothers ไม่เพียงแค่นั้นความสำเร็จของมันยังทำให้เหล่าสตูดิโอในอเมริกาสนใจที่จะเริ่มทำการ์ตูนที่เน้นกลุ่มผู้ชมที่เป็นผู้ใหญ่ดูบ้าง จนเกิดเป็นซีรีส์แอนิเมชั่นที่ประสบความสำเร็จอย่าง Batman: The Animated Series ที่ฉายในปี1992 และอีกมากมาย
    .
    แม้แต่ตัว Steven Spielberg ที่เคยปฏิเสธหนังเรื่องนี้เองก็ยังต้องนำรถมอเตอร์ไซค์ของตัวเอก คาเนดะ จาก Akira มาเป็นยานพาหนะหลักของตัวเอกในหนังเรื่องล่าสุดของเขาอย่าง Ready Player One
    .
    ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งนึงที่แฟนหนังการ์ตูนเรื่องนี้ก่นด่ากันมากที่สุดก็คงเป็นเรื่องที่ตัวหนังไม่เคยถูกดัดแปลงเป็น Live action เสียที ทั้งๆที่มันเป็นผู้บุกเบิก โดยโดยน้องๆที่ตามมาอย่าง ghost in the shell หรือ Alita Battle Angel นั้นแซงมี live action ของตัวเองไปก่อนแล้ว
    .
    แต่อย่างที่หลายคนอาจจะรู้แล้วว่าในตอนนี้ก็ได้มีความเคลื่อนไหวของ ภาพยนตร์เรื่องอากิระที่กำลังจะถูกดัดแปลงเสียทีด้วยน้ำมือของ Taika Wititi เจ้าของผลงานอย่าง Thor ragnarok และ Jojo Rabbit ที่มีแผนจะฉายในปี2021 แต่ในตอนนี้ที่ทุกอย่างในโลกหยุดชะงักก็ไม่อาจจะแน่ใจอนาคตได้อีก เราคงทำได้เพียงแค่อดทนและใจเย็น รอคอยสิ่งที่ดีที่สุดเท่านั้น
    .
    แต่ในระหว่างนี้ถ้าใครได้แวะเวียนมาอ่านบทความนี้แล้วสนใจ ลองไปหาหนังสือการ์ตูนมาอ่านได้ แค่6เล่ม แล้วคุณจะรู้ว่า อิทธิพลของ AKIRA การ์ตูนที่เปลี่ยนทุกอย่าง คืออะไรกันแน่ จบ

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (#Filmrecommendation)
    .......................................
    #pandamicmovies

    30 เรื่องฝ่าวิกฤตโรคระบาด NETFLIX / HULU ETC.

    ในช่วงเวลาที่โลกของเรากำลังตกอยู่ในวิกฤตการณ์การแพร่ระบาดของโรค covid-19 จนมีมาตรการณ์ social distancing เช่นการ work from home หรือการปิดสถานบันเทิงต่างๆ รวมถึงโรงหนังทำให้ในช่วงนี้คงจะเป็นช่วงเราคงจะไม่สามารถเสพหนังใหม่ได้เท่าไหร่นัก แต่แม้สถานการณ์จะดูตึงเครียด แต่ถ้ามองในแง่บวก นี่อาอจจะเป็นช่วงเวลาที่เราจะได้ใช้ในการทำความรู้จักกับภาพยนตร์แนวที่เราไม่เคยให้ความสนใจมาก่อน โดยวันนี้ ดู หรือ ข้าม ขอเสนอภาพยนตร์ “ฝ่าวิกฤตโรคระบาด” 30 เรื่องที่คัดสรรรคุณภาพมาอย่างดี บางเรื่องอาจจะเป็นหนังขึ้นหิ้งของใครหลายๆคน แต่บางเรื่องก็อาจจะไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยด้วยซ้ำ และถ้าเพื่อนๆคนไหนมีหนังแนวนี้ในดวงใจจะแนะนำเพิ่มอย่าลืมคอมเมนท์บอกกันหน่อยนะ

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวียดนามกำหนดเป้าหมายควบคุมโรค COVID-19 ให้ได้ภายใน 1 เดือน

    Vietnam Aims to Contain COVID-19 Within One Month

    • เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ Vietnamnet Global รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 2 เมษายน ค.ศ. 2020 อ้างถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี 'เหวียน ซวน ฟุก' (Nguyen Xuan Phuc) ของเวียดนาม ในการประชุมคณะรัฐมนตรีว่า 'รัฐบาลจะดำเนินมาตรการรุนแรงขึ้น เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ใน 1 เดือนข้างหน้า...และย้ำว่าต้องป้องกันมิให้เศรษฐกิจล่มสลาย'

    • โดยเสนอแนะการเพิ่มมาตรการ เช่น การดำเนินมาตรการด้านการคลัง ด้วยการลดภาษีและค่าธรรมเนียม รวมถึงลดค่าใช้จ่ายสาธารณะ

    • นอกจากนี้ ยังสั่งให้ลดราคาสินค้าจำเป็น โดยเฉพาะเนื้อหมู และค่าธรรมเนียมการอนุญาต พร้อมระบุว่า 'ความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดเชื้อ COVID-19 ไม่ควรเป็นอุปสรรคต่อการหลั่งไหลของสินค้า ขั้นตอนการผลิตและการดำเนินธุรกิจ'

    • บรรณานุกรม :

    Credit : https://vietnamnet.vn/en/politics/vietnam-aims-to-contain-covid-19-within-one-month-630115.html

    Credit : https://en.nhandan.org.vn/politics/...ims-to-contain-covid-19-within-one-month.html

    Credit : https://english.vtv.vn/news/pm-viet...vid-19-within-one-month-20200402091340312.htm

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    วันเชงเม้ง ทั่วประเทศจีนไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากโควิด-19

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #โควิด19 #ไว้อาลัย
    วันนี้ ตั้งแต่เวลา10.00น.ประชาชนจีนร่วมยืนสงบนิ่งพร้อมกันเป็นเวลา3นาที รถยนต์ รถไฟ และเรือได้ร่วมกันบีบแตรและเปิดหวูด และมีการส่งเสียงเตือนภัยป้องกันภัยทางอากาศ เพื่อรำลึกถึงเหล่าวีรชนผู้สละชีพ ระหว่างการต่อสู้กับการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเหล่าเพื่อนพี่น้องร่วมชาติที่เสียชีวิตจากโรคระบาดนี้

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เจ้าหน้าที่เมืองเบอร์ลินได้ประกาศว่า
    จนถึงวันที่ 4 เมษายน หน้ากากที่ตำรวจเมืองเบอร์ลินได้สั่งบริษัท 3M ของอเมริกาผลิตที่โรงงาน 3M ในประเทศจีน จำนวน 200,000 ชิ้นนั้น ถูกส่งมายัง่สนามบินในกรุงเทพทางอากาศ
    หลังจากนั้น ถูกใครไม่รู้โจรกรรมไปในเวลาต่อมา
    .
    เจ้าหน้าที่เมืองเบอร์ลินกล่าวหาสหรัฐฯว่า มีส่วนเกี่ยวข้องและได้โจรกรรมไป
    หนังสือพิมพ์ของเยอรมันได้ออกข่าวว่า ตอนนี้ หน้ากากนี้ถูกนำออกจากกกรุงเทพไปยังสหรัฐอเมริกาแล้ว
    ทางเจ้าหน้าที่ของสหรัฐได้ปฏิเสธว่า ไม่ได้มีส่วนร่วมกับเหตุการณ์ในครั้งนี้่
    .
    เจ้าหน้าที่ระดับสูงของกรุงเบอร์ลินกล่าวในแถลงการณ์ว่า อเมริกาควรปฏิบัติตามบรรทัดฐานระหว่างประเทศครับ
    .
    Mister JAPAN

    https://this.kiji.is/619144096362087521?c=49404987701575680

     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การสอบเข้าทำงานช่วงโควิดระบาด

    เนื่องจากสถานการณ์โควิดระบาดในเกาหลีใต้และด้วยคำสั่งให้เว้นระยะห่างทางสังคมด้วยแล้ว นี่คือบรรยากาศการสอบเข้าทำงานในบริษัทแห่งหนึ่งที่ทางบริษัทเปลี่ยนสนามบอลเป็นสนามสอบตามภาพ

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #คำสั่งจังหวัดภูเก็ต #ปิดพื้นที่ตำบลป่าตอง #ตั้งแต่วันที่ 5 เมษายน 63 เป็นต้นไป

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มาครบแล้ว 158 ผู้โดยสารบินเข้าไทย จัดเข้าสู่กระบวนการกักตัวทันที

    https://mgronline.com/crime/detail/9630000034926

    #MGRonline #หนีกักตัว

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    มูลค่าการใช้ Single Stock Futures(SSF) ในตลาดหุ้นบ้านเราโดยรวมจาก 2017 - ปัจจุบัน

    SSF คือการซื้อหรือช็อตหุ้นผ่านตลาดฟิวเจอร์ส คือแทนที่จะใช้เงิน 100 บาท เพื่อซื้อหุ้น 100 บาท การใช้ SSF ทำให้นักลงทุนสามารถใช้เงินแค่ 10 20 30 40 50 บาท เพื่อซื้อหุ้นหรือเอาง่ายๆคือมันกู้เงินมาซื้อหุ้นได้ง่ายขึ้นนั้นแหละ

    ที่รวบรวมมาคือการเอาหุ้นที่บริษัทหลักทรัพย์เปิดให้สามารถใช้ SSF ได้ทั้งหมด เอาปริมาณสัญญา * ราคาหุ้น มารวมกันทุกตัว กราฟข้างล่างที่เขียนว่า SSF - OI VALUE เลขข้างๆ 1 - 5 คือ สเกล หมื่นล้านบาทนะ (รวบรวมเอง เขียน Code เอง อาจไม่ถูก 100%)

    จะเห็นว่าช่วงก่อนหน้านี้ SSF ถูกใช้เยอะมาก เป็นที่นิยมในหมู่นักลงทุนรายใหญ่มาก แต่พอเจอสัปดาห์หฤโหดเข้าไปปริมาณการใช้ SSF ลดลงจนเหลือมูลค่าแค่ไม่ถึง 1 หมื่นล้าน จาก 2.5 - 2.x หมื่นล้าน หลังจากนี้เราน่าจะเห็นโอกาสเกิด Panic แรงๆจากการพยายามปิดสัญญา SSF น้อยลง แต่ตัวไหนยังเหลือเยอะอยู่ ลองไปดูกันเองน้า

    ตรงปี 2016 อย่าไปดูนะครับ พอดีผมหาข้อมูลไม่ได้แล้วขี้เกียจตัดออก มันเลยเป็น 0 จริงๆ มันไม่ใช่ 0
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ที่ทำไป ก็เพราะรัก

     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน!! ผู้ว่าภูเก็ตสั่งล็อกเพิ่มอีกชั้น
    ⭕️ ปิดห้ามเข้าออก ต.ป่าตอง อ.กะทู้ อย่างเป็นทางการแล้ว ⭕️

    คําสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ ๑๘๒๓/๒๕๖๓
    เรื่อง ปิดสถานที่เสี่ยงและกําหนดมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ พื้นที่ตําบลป่าตอง อําเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต

    จากการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดในจังหวัดภูเก็ตพบว่า ยังคงมีจํานวนผู้ติดเชื้อ เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว โดยผู้ติดเชื้อไม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ เป็นผู้ที่ทํางานหรือสัมผัสกับผู้ทํางาน ในสถานประกอบการในซอยบางลา เขตเทศบาลเมืองป่าตองทั้งสิ้น

    ⭕️ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดภูเก็ต ตามมติที่ประชุมครั้งที่ ๑๔/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๓ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓ จึงออกคําสั่งไว้ ดังต่อไปนี้
    ✔✔ ข้อ ๑. เนื่องจากพื้นที่ตําบลป่าตอง อําเภอกะทู้ จังหวัดภูเก็ต เป็นพื้นที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ เพื่อป้องกันมิให้โรคนั้นแพร่โดยทางตรงหรือทางอ้อมไปยังผู้อื่น จึงห้ามประชาชนเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ดังกล่าว เว้นแต่ยานพาหนะสําหรับการขนส่งสินค้าเครื่องอุปโภค บริโภค แก๊สหุงต้ม น้ํามันเชื้อเพลิง เครื่องมือแพทย์ ยานพาหนะกู้ชีพ กู้ภัย รถพยาบาล รถฉุกเฉิน ทางการแพทย์ รถที่ใช้สําหรับภารกิจของทางราชการ รถขนส่งพัสดุและสิ่งพิมพ์ ทั้งนี้ ผู้ได้รับอนุญาตยกเว้น หรือผ่อนผันต้องปฏิบัติตามคําสั่งของเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อโดยเคร่งครัด

    ✔✔ ข้อ ๒ เพื่อให้การดําเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ตามข้อ ๑ จึงกําหนดจุดตรวจคัดกรองโรค ติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ หรือโรคโควิด ๑๙ ตามแผนที่แนบท้ายคําสั่ง ดังนี้
    (๑) จุดตรวจคัดกรองสี่กอ ตั้งอยู่ ณ ถนนพระบารมี ตําบลกะทู้ อําเภอกะทู้ (ท้องที่สถานตํารวจภูธรกะทู้)
    (๒) จุดตรวจคัดกรองไซม่อนคาบาเร่ ตั้งอยู่ ณ ถนนสิริราชย์ ตําบลป่าตอง อําเภอกะทู้ (ท้องที่สถานีตํารวจภูธรป่าตอง)
    (๓) จุดตรวจคัดกรองหน้าโรงเรียนบ้านกะหลิม ตั้งอยู่ ณ ถนนกมลา-ป่าตอง ตําบลป่าตอง อําเภอกะทู้ (ท้องที่สถานีตํารวจภูธรป่าตอง)
    ทั้งนี้ ให้นายอําเภอหรือปลัดอําเภอที่นายอําเภอในพื้นที่นั้นมอบหมายในพื้นที่เป็น หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจําจุดคัดกรองและให้เทศบาลเมืองป่าตองร่วมปฏิบัติการข้างต้น

    ✔✔ ข้อ ๓ ให้เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อพิจารณาตรวจคัดกรองบุคคลที่ผ่านจุดตรวจคัดกรอง ตามข้อ ๒ เพื่อป้องกันและควบคุมโรคตามพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ. ๒๕๕๘ และข้อกําหนดออกตาม ความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๑) ลงวันที่ ๒๕ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๖๓

    ✔✔ ข้อ ๔ มาตรการป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ดังต่อไปนี้
    (๑) ให้สํานักงานสาธารณสุขจังหวัดภูเก็ตร่วมกับอําเภอกะทู้ และเทศบาลเมืองป่าตอง จัดบุคลากรเข้าไปตรวจวัดไข้ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ตําบลป่าตองทุกคน หากพบผู้ใดมีอาการซึ่งเข้าข่ายที่ต้อง เฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ จะต้องถูกส่งไปแยกกัก กักกัน หรือคุมไว้สังเกตอาการ ยังสถานที่ที่จังหวัด กําหนด
    (๒) ให้เทศบาลเมืองป่าตอง ทําความสะอาดสถานที่สาธารณะ ถนน บ้านพักอาศัย ร้านค้าในเขตพื้นที่ตําบลป่าตอง โดยการฉีดฆ่าเชื้อทั้งหมดทุกหลังคาเรือน
    (๓) ตามที่จังหวัดได้มีคําสั่งปิดโรงแรมแล้วตามคําสั่งจังหวัดภูเก็ต ที่ ๑๗๙๗/๒๕๖๓ ลงวันที่ ๒ เมษายน ๒๕๖๓
    ✌✌ หากมีโรงแรมใดในพื้นที่ตําบลป่าตอง จําเป็นจะต้องให้พนักงานเข้าไปปฏิบัติงาน ด้านการบัญชี การซ่อมบํารุง หรืออื่น ๆ ให้โรงแรมจัดหาที่พักภายในโรงแรมให้พนักงานจนกว่าจะปฏิบัติหน้าที่แล้วเสร็จ
    ⭕️ ทั้งนี้เพื่อป้องกันไม่ให้มีการเคลื่อนย้ายพนักงานซึ่งอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรค
    ⭕️ แต่หากมีพนักงานคนใดมีภูมิลําเนาอยู่นอกเขตจังหวัดและประสงค์จะกลับภูมิลําเนา ให้โรงแรมแจ้งรายชื่อ พนักงานให้หัวหน้าชุดปฏิบัติการประจําด่านตรวจจังหวัดภูเก็ต (ท่าฉัตรไชย) พิจารณาเป็นรายกรณี
    ⭕️ ทั้งนี้จะต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๓

    ✔✔ ข้อ ๕ ขอความร่วมมือให้ประชาชนในพื้นที่มิให้ออกนอกเคหสถานหรือบริเวณสถานที่พํานัก ของตน เพื่อป้องกันตนเองจากการรับเชื้อและอาจเป็นพาหะในการกระจายของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ไปยังบุคคลอื่นอีก

    การดําเนินการตามมาตรการดังกล่าวนี้จําเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากประชาชน ในทุกภาคส่วน เพื่อให้สามารถแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ในพื้นที่ตําบลป่าตองได้อย่างเด็ดขาด

    หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามคําสั่งฉบับนี้ อาจจะมีความผิดตามมาตรา ๕๒ แห่งพระราชบัญญัติโรคติดต่อ พ.ศ.๒๕๕๘ ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน ๑ ปี หรือปรับไม่เกินหนึ่งแสนบาทหรือ ทั้งจําทั้งปรับและอาจได้รับโทษตามมาตรา ๑๘ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๔๘ ตามข้อกําหนดตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกําหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ ฉุกเฉิน พ.ศ.๒๕๕๘ (ฉบับที่ ๑)

    ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๕ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓ เป็นต้นไป จนกว่าจะมีคําสั่งเป็นอย่างอื่น

    ✉️ สั่ง ณ วันที่ ๔ เมษายน พ.ศ.๒๕๖๓
    นายภัคพงศ์ ทวิพัฒน์
    ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต
    ผู้กํากับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินในเขตพื้นที่จังหวัดภูเก็ต

    #ปิดป่าตอง
    #ภูเก็ตล็อกเพิ่มอีกชั้น
    #หยุดเชื้อ
    #ลดCOVID19

    Cr. NBT PHUKET

     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Fenómenos Naturales

    ประเทศญี่ปุ่น - การระเบิดของภูเขาไฟ Sakurajima, เถ้าภูเขาไฟ 3800 m เหนือปล่องภูเขาไฟวันนี้ 4 เมษายน

    JAPÓN - Erupción del volcán Sakurajima, pluma volcánica 3800m. sobre el cráter, hoy 4 de Abril.

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    การประชุมของผู้ผลิตน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในโลกนัดชี้ชะตาตลาดยังไม่ทันเริ่มต้นขึ้น ก็เกิดสงครามน้ำลาย เกิดการระแวง การขู่กันระหว่างประเทศผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากราคาน้ำมันแล้ว !

    ราคาน้ำมันดิบได้ดีดตัวขึ้น +40% ในอาทิตย์ที่ผ่านมาจาก #ความหวังว่า ผู้ผลิตทั่วโลกที่หลังชนฝาอาจจะกลับมาร่วมมือกันลดกำลังการผลิตเพื่อดันราคาขึ้นอีกครั้งได้ แต่อย่างเพิ่งมีความหวังว่าราคาจะกลายเป็นเทรนด์ขึ้นได้นะครับ เพราะยังมีปัญหาอีกหลายเรื่องที่ยังต้องการคำตอบ...

    เมื่อสายๆวันนี้เราได้อัพเดทข่าวไปแล้วว่าทาง ซาอุและ รัสเซียนั้นได้มีสงครามน้ำลายกัน ทางรัสเซียกล่าวหาว่าทางซาอุเป็นคนเริ่มสงครามราคาครั้งนี้และควรเป็นคนแก้ ในขณะที่ฝั่งซาอุออกมาปัดข่าวว่าทางรัสเซียต่างหากที่ไม่ยอมรับเงื่อนไขลดกำลังการผลิตของการประชุมโอเปกครั้งก่อน เป็นที่มาให้ซาอุต้องเริ่มสงครามราคา

    สงครามน้ำลายของทั้งสองฝั่งนั้นเริ่มทำให้การเจรจานั้นดูจะยากขึ้น ในขณะที่ทางรัสเซียเองก็บอกว่าพร้อมจะลดกำลังการผลิตตัวเองลง 10% ซึ่งถือว่ายังน้อยมากๆ การลดเพียงเท่านี้จะไม่สามารถทำให้ทางกลุ่มบรรลุเป้าหมายในการลดกำลังการผลิต 10% ทั่วโลกได้

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในช่วงวันเสาร์นี้จึงทำให้ทางฝั่ง สหรัฐและ แคนนาดาเริ่มเกิดการระแวงใจขึ้นมา... เพราะสองประเทศนี้เป็นผู้ผลิตต้นทุนสูงที่สุดในประเทศ และจะต้องเป็นประเทศแรกๆที่บริษัทน้ำมันจะต้องล้มละลายไปก่อน

    ทั้งสองฝั่งจึงได้ต่อสายตรงเพื่อหารือกันว่าควรจะหาทางออกอย่างไรดี และตามข่าวที่ออกมาคือทั้งสองฝั่งอาจจะ #ขึ้นภาษีน้ำมัน นำเข้าจากซาอุและรัสเซีย หากทั้งสองประเทศยังไม่สามารถหาทางออกร่วมกันได้เรื่องสงครามราคาในครั้งนี้

    การขึ้นภาษีน้ำมันจะช่วยทางสหรัฐและแคนนาดาอย่างไร ?

    นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทางสหรัฐและทรัมป์นั้นใช้ภาษีเข้ามาเป็นกลไกช่วยในการค้าระหว่างประเทศ จำช่วง 2 ปีที่แล้วที่สิ้นค้าราคาถูกของจีนกำลังไหลเข้ามาในสหรัฐจนแย่งส่วนแบ่งตลาดของสหรัฐไปหมดได้ไหมครับ ? ทางสหรัฐจึงขึ้นภาษีสินค้าจีนด้วยการประกาศ #สงครามการค้า จนทำให้ของๆจีนที่จะต้องนำเข้ามานั้นราคาแพงกว่าของที่ผลิตเองในสหรัฐ ทำให้ผู้ประกอบการในสหรัฐยังมีส่วนแบ่งตลาดที่ดีอยู่ และสุดท้ายก็เป็นการบีบให้จีนต้องยอมจำนนต่อข้อเสนอสัญญาการค้าจากสหรัฐที่เพิ่งเซ็นกันไปตอนต้นปี

    ครั้งนี้เหตุการณ์ก็เหมือนกันเป๊ะๆครับ ต้นทุนผลิตของ ซาอุ และ รัสเซีย นั้นถูกว่าทางสหรัฐเยอะ หากการผลิตน้ำมันยังสูงกว่าการใช้ที่หายไปจากไวรัสโควิดอยู่เรื่อยๆนั้น จะทำให้สหรัฐต้องหยุดการผลิตในประเทศและหันไปนำเข้าแทนจะคุ้มราคากว่า แต่ทางทรัมป์จะไม่ยอมให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้น จึงกำลังอาจใช้การขึ้นกำแพงภาษีน้ำมันเข้าขู่เพื่อให้ทั้งสองประเทศนั้นบรรลุกันได้

    สิ่งที่อาจเกิดขึ้นในการประชุมในอาทิตย์หน้า ?

    จากการที่วิเคราะห์ข่าวมาตลอดวันเสาร์นี้ ทางเพจเริ่มมั่นใจต่อ #มุมมองที่ว่า ถึงแม้ทุกๆฝ่ายอยากจะมาลดกำลังการผลิตร่วมกัน แน่นอนเพราะหลายๆผู้ผลิตนั้นหลังชนฝาแล้ว ถ้าไม่ลดก็คงผลิตน้ำมันไปได้อีกไม่นานก็จะเริ่มขาดทุน แต่ในความเป็นจริงนั้นการเจรจายังเป็นไปได้ยาก ทุกๆฝ่ายอาจต้องลดกำลังการผลิตมากกว่าที่ตัวเองจะรับไหวถึงจะสามารถทำให้อุปทานนั้นพอสมดุลกับการหายไปจากไวรัสโควิดได้

    และหากคุณเป็นซาอุดิอาระเบีย ผู้ผลิตที่ต้นทุนต่ำที่สุดในโลกและมีการผลิตที่สูงที่สุดในโลก (ได้) ถ้าลดการผลิตแล้วยังไงราคาก็ลงอยู่ดีเพราะไม่สามารถลดรวมกันได้พอ สู้คุณจะเร่งเพิ่มการผลิตแล้วแย่งส่วนแบ่งตลาดไม่ดีกว่าหรือ ?!?! แน่นอนถ้าไหนๆราคาจะต้องลงการขายได้ปริมาณที่เยอะขึ้นย่อมได้รายได้ดีกว่า

    #ทางเราจึงเชื่อว่า ถ้าไม่สามารถตกลงเรื่องการลดกำลังการผลิตได้ที่ 10-15 ล้านบาร์เรลต่อวันร่วมกัน ทางซาอุจะไม่ร่วมวงด้วยเป็นอันขาด การร่วมกันลดการผลิตน้อยกว่านั้นซาอุจะเป็นผู้เสียหายฝ่ายเดียว ทำให้

    1️⃣ ถ้าตกลงกันได้ราคาก็จะยืนเหนือระดับ 30 เหรียญได้
    2️⃣ แต่ถ้าตกลงกันไม่ได้ ราคาก็เตรียมลงไปต่ำกว่า 20 เหรียญได้เลยครับ

    ในขณะที่ทางสหรัฐกำลังพยายามหาทางออกเพื่อตัวเองหากดีลนี้ล่มแล้ว นักลงทุนเองก็ควรจะเตรียมตัวไว้เผื่อเช่นเดียวกันครับ

    ⛔️ กลับมาติดตามความคืบหน้าจากทางซาอุได้ในวันพรุ่งนี้หลังจากมีการประกาศราคา OSP ครับ #ความชัดเจนน่าจะมากขึ้น เยอะ

    แนะนำให้กดไลค์ที่โพสต์เรื่อยๆ หรือกดตั้งค่า “เห็นโพสต์ก่อน” หรือ See First ไว้ที่เมนูมุมขวาบนของเพจได้เลยครับ ไม่งั้นทาง Facebook จะไม่ค่อยแสดงโพสต์ของเราที่อัพเดทใหม่ๆ ที่อาจออกมาก่อนสื่ออื่นๆครับ

    ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามเพจของเรานะครับ ฝากกดไลค์และแชร์ให้แอดด้วยหากข้อมูลนี้มีประโยชน์นะครับ ขอบคุณมากๆครับ

    #OilTradingKP

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [กรณีนี้พ่อค้าจีนเลวสุดเห็นแก่การที่สหรัฐให้ราคาสินค้าสูงกว่าเลยส่งสินค้าให้สหรัฐแทน อีกหน่อยจีนก็คงจะตกต่ำลงไปเรื่อยๆ]

    #ผ่าปริศนาโจรสลัดหน้ากาก
    #มาเหนือเมฆ

    วันนี้มีข่าวออกดังกระหึ่ม แม้ในช่องข่าวภาคค่ำของสหรัฐ ว่าเยอรมันด่าข้ามทวีป กล่าวหาสหรัฐว่าเป็นโจรปล้นหน้ากาก!

    ต้นเรื่องนั้น เกิดจากที่ กระทรวงมหาดไทยของเยอรมันได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยจากจีน จำนวนกว่า 2 แสนชิ้นเพื่อใช้ในกรมตำรวจ

    ทางจีนก็ได้ทำเรื่องจัดส่งหน้ากากไปให้ แต่ระหว่างขั้นตอนการขนส่ง ที่ต้องมาลงของที่กรุงเทพ ปรากฏว่าหน้ากากทั้งล็อตโดนฉก และมีการเปลี่ยนใบขนส่งไปลงที่สหรัฐอเมริกา!

    เรื่องนี้ ทางเยอรมันจะไม่ทน ลุกขึ้นมาแฉออกสื่อ ว่าโจรสลัดยุค 5G ฉกกันด้านๆอย่างนี้เลย

    เรื่องนี้ไม่ใช่เยอรมันจะโดนคนเดียว ฝรั่งเศสก็โดนมาแล้ว

    เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ฝรั่งเศสได้รับการยืนยันจากจีนว่า จะมีการจัดส่งหน้ากากอนามัยนับล้านชิ้นตามที่สั่ง โดยเครื่องบินโดยสารที่จะออกจากสนามบินในเซี่ยงไฮ้

    พอถึงวันจัดส่ง ทางสหรัฐส่งนายหน้าไปดักที่สนามบิน แจ้งว่าต้องการซื้อต่อ หน้ากากทั้งล็อตบนเครื่องพร้อมเสนอราคาให้มากกว่าฝรั่งเศสถึง 3 เท่า

    ก็เซ็งลี้ฮ้อพ่อค้าจีน หน้ากากบนเครื่องทั้งล็อตของฝรั่งเศสถูกเปลี่ยนพิกัดไปลงที่สหรัฐทันที

    ทางฝรั่งเศสถึงขั้นประนามหนักมาก เพราะหน้ากาก อนามัยล็อตนั้น เป็นของหน่วยแพทย์ของฝรั่งเศสทั่วประเทศ ที่กำลังรอใช้หน้ากากเพื่อปฏิบัติหน้าที่ และตอนนี้ก็ขาดแคลนกันหนักมาก

    พอนักข่าวไปถามข้อเท็จจริงเรื่องนี้กับทางเจ้าหน้าที่สหรัฐ ซึ่งก็ได้ปฏิเสธว่าไม่เป็นจริง มันเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดกัน

    ท่าจะว่าไปแล้ว ตอนนี้สหรัฐมีปัญหากับหลายชาติอยู่ โดยเฉพาะเรื่องหน้ากาก

    เนื่องจากยอดผู้ติดเชื้อในสหรัฐพุ่ง จะทะลุ 3 แสนคนอยู่แล้ว และเสี่ยอ่าง โดนัลด์ ทรัมพ์ ก็เริ่มรณรงค์ให้ชาวอเมริกันสวมหน้ากากออกจากบ้าน เลยยิ่งทำให้หน้ากากขาดแคลน

    รัฐบาลสหรัฐก็เลยต้องไปกว้านซื้อหน้ากากอนามัย เอาให้ได้มากที่สุด ไม่ได้ด้วยมนต์ ก็เลยเล่นกลด้วยคาถาซะเลย

    รัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิล ร่วมด้วยช่วยแฉว่า บราซิลเองก็สั่งซื้อหน้ากากอนามัย และอุปกรณ์การแพทย์จากจีนเหมือนกัน แต่รอนานแล้วจนป่านนี้ยังไม่ได้ แต่เพิ่งได้ข่าวว่าสหรัฐส่งเครื่องบิน Cargo กว่า 23 ลำ บินตรงไปลงจีน เพื่อรับอุปกรณ์การแพทย์กันถึงที่ เราก็ได้แต่หวังว่าจะมีโคว์ต้าเหลือถึงเราบ้าง แต่ตอนนี้เราจำเป็นต้องให้ชาวบราซิลทำหน้ากากผ้าใช้เองไปก่อน

    แล้วนอกจากจะแอบฉกออเดอร์ของประเทศอื่น ทางสหรัฐยังสั่งแบนการส่งออกหน้ากากจากโรงงานตัวเองไปต่างประเทศด้วย โดยเฉพาะ โรงงาน 3M ได้รับคำสั่งให้เก็บหน้ากาก N.95 ไว้ใช้เองในประเทศเท่านั้น เลยทำให้ 3M ไม่มีทางเลือกและต้องเทออเดอร์ของแคนนาดา และลาตินอเมริกาทั้งหมด

    พอมาเกิดเรื่องโจรสลัดหน้ากาก เสด็จพี่ จัสติน ทรูโด แห่งแคนนาดาเลยกำชับเจ้าหน้าที่ให้ตามจิก ตามจี้คำสั่งซื้อหน้ากากอนามัยกับทางจีนทุกระยะ เพื่อให้แน่ใจว่าล็อตของแคนาดาจะไม่ถูกชิงตัดหน้า

    แต่ว่า ถ้าสั่งซื้อกับจีนแล้วมีปัญหา งั้นลองซื้อกับประเทศอื่นดูไม่ได้หรือ?

    ปัญหาคือ จีนคือผู้ที่สามารถผลิตหน้ากากอนามัยได้มากที่สุดในโลก และพร้อมส่งออก ส่วนอีกประเทศที่ผลิตหน้ากากส่งออกเหมือนกันก็คือ ตุรกี ซึ่งตอนนี้ท่านสุลต่าน ราเซ็ป ไทยิบ แอโดแกน แกได้สั่งแบนการส่งออกไปแล้ว

    และไม่ได้แค่แบนอย่างเดียว ขนาดใบออเดอร์ที่ผ่านแล้ว จ่ายเงินหมดแล้ว ยังเท ไม่จัดส่งให้ซะงั้น

    ถึงขนาด นายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต แห่งอิตาลี โทรสายตรงไปหา ท่านสุลต่าน ทวงกันเห็นๆว่าส่งหน้ากากมาให้อิตาลีได้แล้ว แต่ทางตุรกียังเงียบ

    ด้วยเหตุที่สถานการณ์ในตุรกีเองก็แย่ ยอดผู้ติดเชื้อ 2 หมื่นกว่า ทำให้งานนี้ทางตุรกีต้องขอกั๊กหน้ากากให้คนในประเทศก่อน

    อิตาลีก็ช่างซวยซ้ำ ซวยซ้อน เพราะล็อตหน้ากากที่จีนบริจาคมาให้ ของจัดส่งมาแล้ว แต่พอผ่านมาทางประเทศเช็ก แต่โดนแฮพ! หายเข้ากลีบเมฆไปเลย

    ทางเยอรมันก็โดนไม่น้อย สั่งซื้อหน้ากากอนามัยถึง 6 ล้านชิ้นจากเคนยา แต่หายเฉย! ขณะกำลังจะนำขึ้นเครื่องบินขนส่งที่สนามบินในเคนยา แถมงานนี้ยังจับมือใครดมไม่ได้ เพราะรัฐบาลเคนย่าประกาศตัวเลย ข่อยบ่ฮู้ ข่อยบ่เฮ็ด

    ดูเหมือนว่า ยังไงสั่งจากจีนน่าจะปลอดภัยกว่าใครเพื่อนแล้วจริงๆ เพียงแต่ต้องจี้กันหน่อย

    เมื่อเช้าเพิ่งเห็นข่าว รัฐบาลไทยก็ได้สั่งซื้อหน้ากากอนามัยจากจีนเพิ่มอีก 8 แสนชิ้นด้วยเหมือนกัน ต้องจิกติดใบออเดอร์กันเลยนะค้า เพราะโจรสลัด 5G ยุคนี้ มาเหนือเมฆ ตัดหน้ากันตั้งแต่หน้าโรงงานเลยค่า

    แหล่งข้อมูล

    https://www.theguardian.com/world/2020/apr/02/global-battle-coronavirus-equipment-masks-tests

    https://m.dw.com/en/coronavirus-ger...et-prices-on-masks-protective-gear/a-52952314

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ... "เวียตนาม: ชะลอส่งออกข้าวเก็บไว้ยามวิกฤติไวรัส"

    ... ในอดีตนั้น "เวียตนาม" เคยประสบกับ"ความอดอยากของเวียดนามครั้งใหญ่" ที่เกิดขึ้นในภาคเหนือของเวียดนามในอินโดจีนฝรั่งเศสในช่วงสงครามโลกครั้งที่สองจากตุลาคม 1944 ถึงปลายปี 1945

    ... ซึ่งตอนนั้นอยู่ภายใต้การยึดครองของ "ญี่ปุ่น" ตั้งแต่1940 กับ รัฐบาลหุ่นเชิดวิชีฝรั่งเศส, มีคนเวียตนามอดตายด้วยการขาดอาหารระหว่าง 400,000 ถึง 2 ล้านคน

    ... สาเหตุมาจากสามอย่างหลักคือ "ญี่ปุ่น, ฝรั่งเศส" ใช้ข้าวจาก "เวียตนาม" เป็นแหล่งเสบียงในการหล่อเลี้ยงทหารตนเองในหลายสมรภูมิทั่วโลก ช่วงสงครามโลกครั้งที่2, และอเมริกาก็ทิ้งระเบิดลงในเวียตนามเพื่อสกัดการลำเลียงอาหารของญี่ปุ่น ทำให้พลเรือนชาวบ้านเวียตนามเดือดร้อนอดอยากตามไปด้วยมากมายเป็นประวัติศาสตร์

    ... ปีนี้ 2020, ช่วงที่โลกประสบกับ "สงครามไวรัสโควิด19" "เวียดนาม" พิจารณาการ "ส่งออกข้าว" อีกครั้งท่ามกลาง "การสำรองสต็อคข้าว" เพื่อรองรับวิกฤติไวรัสที่กำลังจะมาและการขาดแคลนอาหาร ยารักษาโรค

    ... ขณะนี้ "เวียดนาม" กำลังพิจารณาว่าจะส่งออกข้าวอีกครั้งเมื่อไหร่ อย่างไร? ท่ามกลางการระบาดของโรคโคโรนาไวรัส, หลังจากครั้งแรกที่กล่าวเมื่อปลายเดือนมีนาคม, ว่าจะมี "การระงับการลงนามในสัญญาข้าวรายใหม่", เวียตนามนั้นเป็นประเทศเป็นผู้ส่งออกข้าวรายใหญ่อันดับสามของโลก

    ... นั่นคือสิ่งที่เคยเกิดขึ้นเมื่อ "อินเดีย" หยุดส่งออกข้าวในปี 2008 ช่วงวิกฤติการเงินซับไพรม์ของอเมริกา, โดยวิกฤติโดมิโนที่นำไปสู่การห้ามส่งออกอื่นและแม้แต่การปันส่วนข้าวที่ร้าน Costco ทั่วอเมริกา

    ... ช่วงวิกฤติไวรัสโควิด19ปี 2020นี้ "รัสเซียและคาซัคสถาน" ได้เริ่มออกนโยบายจำกัดปริมาณการส่งสินค้าออกจำพวกอาหารไปขายต่างประเทศแล้ว, "เวียตนาม" ก็เช่นกันเช่นตอนนี้กระทบกับปริมาณที่จะส่งไปออสเตรเลียแล้ว

    ... วิกฤติไวรัสทำให้ห่วงโซ่การผลิตอาหารบางอย่างแพงขึ้น โรงงานถูกปิด ผลิตได้ปริมาณน้อยลง ทำให้ราคาอาหารแพงขึ้น หรือหายากขึ้น

    ... "วิกฤติไวรัสเรื่องสุขภาพ" กำลังโดมิโนลามไปสู่ วิกฤติการเงินเศรษฐกิจและ "วิกฤติอาหาร" ของโลกแล้วอย่างช้าๆ

    ... "ไทยเรา" ผู้ปกครองจะต้องมองไกลวางแผนด้วยความรอบคอบ ปริมาณ "อาหารและยา" จะต้องไม่ขาดแคลนในอนาคตเหมือนหน้ากากอนามัยที่ผ่านมา

    ... "การบริหารจัดการทรัพยากรโดนเฉพาะอาหารและยาในยามวิกฤติ นั้นสำคัญมาก" ผู้ปกครองเราต้องไม่พลาดโดยเด็ดขาด

    .

    ... Vietnam is now considering when it will resume exporting rice amid the coronavirus pandemic, after first saying Tuesday it was suspending the signing of any new rice contracts. The nation is the world’s third-largest rice exporter.

    Authorities are reevaluating the situation because companies are saying there is plenty of rice in domestic storage, which the nation deemed a priority so citizens could stock up on food and stay at home to slow down the spread of the coronavirus.

    The government formed a team to “work with local authorities and rice exporting companies to review, inspect and evaluate the supply of rice, the rice exporting conditions, the circulation of reserves and the status of executing rice export contracts,” it said on its official website Wednesday

    ...

    Vietnam is now considering when it will resume exporting rice amid the coronavirus pandemic, after first saying Tuesday it was suspending the signing of any new rice contracts. The nation is the world’s third-largest rice exporter.

    Authorities are reevaluating the situation because companies are saying there is plenty of rice in domestic storage, which the nation deemed a priority so citizens could stock up on food and stay at home to slow down the spread of the coronavirus.

    The government formed a team to “work with local authorities and rice exporting companies to review, inspect and evaluate the supply of rice, the rice exporting conditions, the circulation of reserves and the status of executing rice export contracts,” it said on its official website Wednesday.

    The Vietnam Food Association said it was safe to ship rice abroad, as domestic inventories are more than enough to serve local demand.

    “Rice is still abundant in companies’ warehouses and right now the family farmers in the Mekong Delta are already harvesting it,” Xuan said in an interview with the state-run newspaper Tuoi Tre.

    Not to allow exports could risk setting off a negative chain reaction that historically has been a counterproductive move.

    That is what happened when India stopped exporting rice in 2008, knocking down a series of dominoes that led to other export bans and even rice rationing at Costco stores halfway around the world in the United States.

    All of that happened despite the fact that there actually was a surplus of rice supplies. India, the biggest exporter of rice in the world, decided at the time to hold on to its domestic rice supply as part of a state initiative to ensure citizens had enough food. That scared other nations into thinking they had to hoard rice, too, and ban exports.

    There was no real shortage of rice, but the collective action caused consumers to hoard rice because they saw prices rising, according to Princeton University economist Harrison Hong.

    “You can call it survival instincts. You can call it speculative behavior. But people respond,” he said, after he and other academics studied consumer behavior in the crisis.

    “Our findings suggest that one way to stabilize markets would be to basically promise households a certain ration of rice, which would reduce the fear of households about being able to obtain the food they need,” said Hong.

    That is a reoccurring concern amid the COVID-19 pandemic. A few nations, such as Russia and Kazakhstan, have begun limiting their exports of food products. Vietnam’s suspension of rice shipments already has shown signs of impact elsewhere, including in Australia.

    ...

    .https://en.m.wikipedia.org/wiki/Vietnamese_famine_of_1945
    ... https://www.voanews.com/east-asia-p...-rice-shipments-amid-virus-driven-stockpiling

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,287
    ค่าพลัง:
    +97,150
    [เห็นมีข่าวลือๆว่าไวรัสน่าจะหลุดมาจาก เล็บที่แคนาดา มาที่ห้องเล็บจีนในอู่ฮั่น แต่จากบทความนี้ เกี่ยวกับนักวิจัยในแล็บจุลชีววิทยาแห่งชาติในวินนิเพก ซึ่งเคยเป็นแพทย์จากเทียนจิน ประเทศจีนที่มาแคนาดาเพื่อศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในปี 1996 เธอยังคงเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยที่นั่นและได้นำนักศึกษาจำนวนมากมาช่วยงานของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และจากข่าวต่างๆที่เคยได้รับมา ชาวจีนถูกกล่าวหาว่าขโมยองค์ความรู้ ต่างๆเพื่อนำกลับไปที่ประเทศจีน ดังนั้นถ้าไวรัสจะหลุดจากแล๊บแคนนาดา ก็มาจากการไร้คุณธรรมของชาวจีนเองน่ะแหละ ที่ไปนำผลการวิจัย ซึ่งเธอเป็นผู้ทำวิจัยเองหรือเปล่าก็ไม่รู้กลับจีน (อ่านแล้ว ชาวจีนในประเทศจีนน่าจะละเลยคุณธรรมในคำสอนของขงจื๊อไปแล้ว)]



    รัฐบาลแคนาดา นักวิทยาศาสตร์อยู่ภายใต้การสอบสวนเจ้าหน้าที่ที่ผ่านการฝึกอบรมที่ห้องปฏิบัติการระดับ 4 ในประเทศจีน

    ยังไม่มีคำตอบในการสอบสวนของนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลที่ถูกพาออกไปจากห้องแล็บจุลชีววิทยาแห่งชาติในวินนิเพก

    Karen Pauls ·ข่าว CBC ·โพสต์: 3 ต.ค. 2019 2:57 PM CT | แก้ไขล่าสุด: 4 ตุลาคม 2019

    Xiangguo Qiu, สามีนักชีววิทยาของเธอและนักเรียนของเธอไม่ได้กลับไปทำงานที่แล็บจุลชีววิทยาแห่งชาติในวินนิเพกหลังจากถูกพาออกไป (น่าจะหมายถึงไล่ออก) ในเดือนกรกฎาคม RCMP ยังคงตรวจสอบสิ่งที่หน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดาอธิบายว่าเป็นไปได้ 'การละเมิดนโยบาย' (CBC)

    เรื่องราวนี้เผยแพร่เมื่อ 3 ต.ค. 2019

    นักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลแคนาดาที่แล็บจุลชีววิทยาแห่งชาติในวินนิเพกเดินทางไปจีนอย่างน้อยห้าครั้งในปี 2017-18, รวมถึงการฝึกอบรมนักวิทยาศาสตร์และช่างเทคนิคในห้องปฏิบัติการระดับ 4 ที่เพิ่งได้รับการรับรองของจีน ซึ่งทำการวิจัยกับเชื้อโรคที่อันตรายที่สุด เอกสารที่ได้รับจาก CBC News

    Xiangguo Qiu - ผู้ถูกพาออก (ไล่ออก) จากห้องปฏิบัติการวินนิเพกในเดือนกรกฎาคมท่ามกลางการสอบสวน RCMP ในสิ่งที่ถูกอธิบายโดยหน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดาว่าเป็นไปได้ "การฝ่าฝืนนโยบาย" - ได้รับเชิญไปที่ห้องปฏิบัติการความปลอดภัยทางชีวภาพแห่งชาติหวู่ฮั่น วิทยาศาสตร์ปีละสองครั้งเป็นเวลาสองปี เป็นระยะเวลานานถึงสองสัปดาห์ในแต่ละครั้ง

    "นี่เป็นเงินทุนของบุคคลที่สาม ดังนั้นจึงไม่มีค่าใช้จ่ายสำหรับ [สำนักงานสาธารณสุขแคนาดา]" เอกสารดังกล่าวได้รับจากการเข้าถึงการร้องขอข้อมูล ข้อมูลประจำตัวของบุคคลที่สามถูกแก้ไขใหม่

    ในระหว่างวันที่ 19-30 กันยายน 2017 เธอเดินทางไปพบกับผู้ประสานงานในปักกิ่ง รายละเอียดตามเอกสาร แต่ชื่อของพวกเขาก็ถูกทำให้ปิดสนิท

    Qiu, สามีของเธอ Keding Cheng และนักเรียนของเธอจากประเทศจีนถูกลบออก (ไล่ออกเพราะไม่มีรายชื่อในหน่วยงาน) เมื่อวันที่ 5 กรกฎาคมจากห้องปฏิบัติการระดับ 4 ของแคนาดาเพียงแห่งเดียว ซึ่งหนึ่งในนั้นพร้อมที่จะทำงานกับโรคที่ร้ายแรงและเป็นอันตรายถึงชีวิตมนุษย์และสัตว์เช่นอีโบล่า การเข้าถึงของทั้งคู่และนักเรียนชาวจีนถูกเพิกถอน ก่อนหน้านี้แหล่งข่าวที่ทำงานในห้องแล็บบอกกับ CBC News

    ผู้คนที่ทำงานในห้องแล็บบอกกับ CBC News ว่าพวกเขาได้ยินมาว่าทั้งคู่อาจจะกลับมาทำงานในไม่ช้า

    หลายคนที่ถามว่าจะไม่ถูกระบุ (ไม่ให้บอกว่าพวกเขาเป็นใคร) ว่าเป็นเพราะกลัวการจองเวร บอกว่ามีคำถามเกี่ยวกับการเดินทางไปประเทศจีนของ Qiu เสมอ - และข้อมูลและเทคโนโลยีใดที่เธอแบ่งปันกับนักวิจัยที่นั่น

    “ ไม่ถูกต้องที่เธอเป็นพนักงานรัฐบาลแคนาดาที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับงานลับสุดยอดและความรู้ในการตั้งห้องปฏิบัติการกักกันสูงสำหรับชาวต่างชาติ” พนักงานคนหนึ่งกล่าว

    สมาชิกพนักงานอ้างว่าเจ้าหน้าที่ RCMP ยังไม่ได้สัมภาษณ์คนสำคัญในห้องปฏิบัติการ, เพราะการบริหารระดับสูง ทำให้พวกเขา ไม่สามารถเข้าถึงเจ้าหน้าที่ตำรวจหรืออนุญาตให้พนักงานติดต่อกับพวกเขาด้วยข้อมูลที่เกี่ยวข้อง

    โฆษกของหน่วยงานสาธารณสุขของแคนาดาซึ่งดูแลห้องปฏิบัติการได้ส่งคำถามไปยัง RCMP

    "เราสนับสนุนให้ทุกคนที่มีข้อมูลและต้องการพูดคุยกับ RCMP ในเรื่องนี้เพื่อเข้าร่วม RCMP HQ ใน Winnipeg ที่ 1091 Portage Avenue" RCMP กล่าวในแถลงการณ์ทางอีเมล

    "เพื่อรักษาความสมบูรณ์ของกระบวนการสืบสวนเราไม่มีความเห็นเพิ่มเติมในเวลานี้"

    โฆษกยืนยันการสืบสวนของตำรวจอย่างต่อเนื่อง หน่วยงานทั้งสองได้กล่าวซ้ำแล้วซ้ำอีกว่าไม่มีภัยคุกคามต่อความปลอดภัยของประชาชน

    นักวิจัยจะต้องสมดุลความระมัดระวังการทำงานร่วมกัน

    ในขณะเดียวกันก็ไม่มีการเปลี่ยนแปลงสถานะของ Qiu และ Cheng ที่มหาวิทยาลัยแมนิโทบาซึ่งได้ตัดความสัมพันธ์กับทั้งคู่และมอบหมายให้นักเรียนของเธอในเดือนกรกฎาคม

    Qiu เป็นแพทย์และนักไวรัสวิทยา ผู้ช่วยพัฒนา ZMapp - การรักษาไวรัสอีโบลาที่ถึงตายซึ่งคร่าชีวิตผู้คนมากกว่า 11,000 คนในแอฟริกาตะวันตกระหว่างปี 2557-2559 และพบการระบาดในคองโกเมื่อต้นปีนี้

    เธอเป็นแพทย์จากเทียนจินประเทศจีนที่มาแคนาดาเพื่อศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาในปี 1996 เธอยังคงเป็นพันธมิตรกับมหาวิทยาลัยที่นั่นและได้นำนักศึกษาจำนวนมากมาช่วยงานของเธอในช่วงหลายปีที่ผ่านมา

    ในระหว่างการเดินทางของเธอ, Qiu ก็ได้เยี่ยมชมสถาบันวิทยาศาสตร์ของจีน มหาวิทยาลัยซิงหัว สถาบันวิทยาศาสตร์การแพทย์จีนและสถาบันเทคโนโลยีชีวภาพเบจิง

    เธอพูดในการประชุมหลายครั้งรวมถึงบางส่วนที่จัดโดยองค์การอนามัยโลก สมาคมไวรัสวิทยาแห่งชาติจีน และการประชุมวิชาการระดับนานาชาติว่าด้วยโรคไวรัสตับอักเสบ

    Jia Wang, รองผู้อำนวยการสถาบันจีนแห่งมหาวิทยาลัยอัลเบอร์ตาในเอดมันตันกล่าวว่าการทำงานร่วมกันและการแบ่งปันข้อมูลเป็นเรื่องปกติและคาดหวังในสถาบันการศึกษา

    “ ในโลกยุคโลกาภิวัฒน์ที่เพิ่มมากขึ้นในสาขาการวิจัยที่มีความเป็นสากลมากขึ้นเราจะเห็นการแลกเปลี่ยนมากขึ้น

    แต่นักวิจัยที่ทำงานกับพันธมิตรระหว่างประเทศก็จำเป็นต้องเข้าใจพารามิเตอร์ความปลอดภัยและข้อกำหนดในการปฏิบัติตามขั้นตอนและปกป้องทรัพย์สินทางปัญญาและปกป้องงานวิจัยของพวกเขาด้วย

    หวางกล่าวว่ามีความสมดุลที่พวกเขาต้องการระหว่างการระมัดระวังและเปิดใจรับการทำงานร่วมกัน

    "ในที่สุดเราหวังว่าการแลกเปลี่ยนการวิจัยครั้งนี้จะเป็นประโยชน์ต่อแคนาดาและเป็นประโยชน์ต่อผู้คนของเราที่นี่"

    Qiu และ Cheng ไม่ได้ตอบคำขอหลายความคิดเห็น

    ความสัมพันธ์ระหว่างแคนาดาและจีนเริ่มตึงเครียดตั้งแต่การคุมขังในปีที่แล้วของผู้บริหารหัวเว่ยเหมิงว่านโจวจากหมายจับของสหรัฐ

    https://www.cbc.ca/news/canada/mani...y-lab-scientist-investigation-china-1.5307424
     

แชร์หน้านี้

Loading...