เรื่องเด่น ทิพจักขุญาณสามารถดูบุคคลในระดับที่เท่ากันหรือต่ำกว่าเท่านั้น

ในห้อง 'หลวงพ่อเล็ก วัดท่าขนุน' ตั้งกระทู้โดย iamfu, 3 มีนาคม 2020.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. iamfu

    iamfu ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2008
    โพสต์:
    19,360
    กระทู้เรื่องเด่น:
    2,526
    ค่าพลัง:
    +26,363
    lp023.jpg
    ทิพจักขุญาณสามารถดูบุคคลในระดับที่เท่ากันหรือต่ำกว่าเท่านั้น

    สมัยที่เป็นฆราวาสอยู่ ความที่คิดว่าตัวเองมีความสามารถพิเศษ มีทิพจักขุญาณ เวลาไปหาพระก็มักจะดูว่าท่านดีจริงหรือเปล่า ท้ายสุดพอไปเจอพระองค์ที่ ๑๐ เข้า เลยเจอท่านต้มเสียจนเปื่อย เพราะว่าดูท่านไม่ออก จึงเหมาว่าท่านไม่มีอะไร

    ตอนหลังหลวงพ่อวัดท่าซุงท่านชมว่า "โง่ดีมาก..!" ท่านบอกว่า "บุคคลที่จะดูคนอื่นรู้ ก็คือระดับที่เขาเท่ากัน หรือบุคคลที่เขาต่ำกว่าเท่านั้น ถ้าระดับสูงกว่าเราจะดูเขาไม่ออก" โดนไปทีหนึ่งก็เลยเข็ด ตั้งแต่นั้นมาก็เลิกดู เพราะพระองค์ที่ ๑๐ ท่านบอกว่า อย่าทำอย่างไอ้พวกแว่นแตก มันถือว่าแว่นมันดี แต่ดูไม่ได้เรื่อง ก็เลยแว่นแตก..!

    ก่อนหน้านั้นก็คิดว่า ความเป็นทิพย์ของเราสามารถดูได้ทุกคน ตัวอย่างก็คือ ท่านอาจารย์ปถัมภ์ เรียนเมฆ บรรณาธิการหนังสือมหาจักร ฉบับคนพ้นโลกรุ่นแรก ๆ

    อาจารย์ปถัมภ์ท่านได้ทิพจักขุญาณแจ่มใสมาก หนังสือมหาจักรของท่านอาจารย์ปถัมภ์ลงเรื่องของพระรูปไหน ยืนยันได้ว่าของแท้แน่นอน เป็นผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบแน่นอน เพราะท่านอาจารย์ปถัมภ์พิสูจน์ด้วยทิพจักขุญาณของตัวเองแล้ว

    พอไปเจอหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านอาจารย์ปถัมภ์เอาไปเขียนบรรยายเสียเลิศลอย ไม่เคยเจอพระที่ไหนบารมีสูงมาอย่างนี้ก่อน สว่างไปสามโลกเลย ปรากฏว่าครั้งต่อไปพาญาติโยมไปกราบหลวงพ่อ เจอหลวงพ่อกำลังด่าคนงานอยู่ กำหนดใจดูใหม่ ปรากฏว่ามืดตื๋อเลย มองอะไรไม่เห็น ท่านก็ลังเล ไปคุยกับเพื่อนว่า สงสัยว่าหลวงพ่อจะไม่ใช่พระอริยเจ้าระดับสูงอย่างที่คิด น่าจะเป็นได้ไม่เกินพระโสดาบัน เพราะว่ายังมีความโกรธอยู่ "

    ถาม : แล้วอย่างของท่านนี้จะเป็นการปรามาสพระหรือไม่ ?
    ตอบ : ไม่เป็น เพราะเข้าใจผิด แต่อาตมาก็ได้ขอขมาท่าน ท่านบอกว่าไม่ได้เจตนา ท่านไม่ได้ถือโทษหรอก ยังดีที่ท่านเมตตาให้รู้ ต่อไปจะได้ไม่ทำอะไรโง่ ๆ อีก

    พระพุทธเจ้าท่านตรัสถึงบุคคล ๔ ประเภทไว้อย่างหนึ่ง ท่านเปรียบเทียบเอาไว้ว่า

    ปะเภทแรก เหมือนกับหม้อเปล่าแล้วเปิด ก็คือ ไม่มีความสามารถ แต่ก็ไม่ปิดบังใคร
    ประเภทที่สอง เหมือนกับหม้อเปล่าแล้วปิด ไม่มีความสามารถ แต่ก็ไม่เปิดเผยตัวเองว่าไม่มีความสามารถ
    ประเภทที่สาม เหมือนหม้อเต็มแล้วปิด มีความสามารถเต็มที่ทุกอย่าง แต่ว่าปิดตัวเอง ไม่เปิดเผยแก่ใคร
    ประเภทสุดท้าย เป็นหม้อเต็มแล้วเปิด มีความสามารถเต็มที่ ท้าพิสูจน์ได้ทุกคน

    เพราะฉะนั้น..ถ้าเจอประเภทใดประเภทหนึ่งที่ว่ามานี้ อาจจะโดนหลอกจนหัวปั่นได้

    พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
    เดือนพฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๕๓ ณ บ้านอนุสาวรีย์ฯ

    ที่มา : www.watthakhanun.com
     
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...