ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    จีนขอให้บรรดาคู่รักหลีกลี่ยงการแต่งงานกันในวันยอดนิยมแห่งปีและให้ครอบครัวต่างๆ ช่วยลดขนาดพิธีศพเพื่อช่วยชะลอการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในประเทศ
    คลิก>> https://mgronline.com/around/detail/9630000010673
    #MGROnline #จีน #งานแต่ง #โคโรนา
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "พิษไวรัสโคโรนา"ทำยอดจองห้องพักเมืองพัทยา ร่วงเกือบ 100% โรงแรมหลายแห่งเริ่มทยอยถูกยกเลิกเข้าพักทำระบบเศรษฐกิจระส่ำระสาย ผู้ประกอบการหลายแห่งเตรียมงัดมาตรการเซฟค่าใช้จ่าย
    คลิก>>https://mgronline.com/local/detail/9630000010661
    #MGROnline #ไวรัสโคโรนา #ห้องพักเมืองพัทยา
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    คนไทยมีความเสี่ยงติดเชื้อ #ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ มากน้อยแค่ไหน
    #Qol #MGROnline
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพทย์ขอกำลังใจ หลังถูกชาวเน็ตตำหนิการทำงาน ยืนยัน ทุกฝ่ายปฎิบัติหน้าที่อย่างเข้มงวด
    คลิก>>https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000010663
    #MGROnline
     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Photo Of The Day: เมฆสีม่วงลึกลับปรากฏขึ้นที่บ้านของฉันและย้ายจากตะวันตกไปทางทิศเหนือ: ฉันแน่ใจว่าไม่ใช่ Aurora Borealis หรือ Airglow ทุกคนสามารถบอกฉันว่ามันคืออะไร?
    Photo Of The Day: Mysterious Purple cloud appears over my house and moves from West to North: I'm sure it's not Aurora Borealis or Airglow can anyone tell me what it is?
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ปอดอักเสบ
    Pneumonia Symptoms and Diagnosis
    • ปอดบวม หรือ โรคปอดบวม (Pneumonia) เป็นคำที่เราคุ้นเคยและรู้จักแพร่หลายกันดีทั้งผู้ป่วย บุคคลทั่วไปและบุคคลากรทางการแพทย์ ทุกวันนี้จะมีคำอีก 2 คำคือ 'ปอดติดเชื้อ' กับ 'โรคปอดติดเชื้อ' และ 'ปอดอักเสบ' กับ 'โรคปอดอักเสบ'..ที่อาจทำให้สงสัยและสับสนได้ว่า 'เหมือนกันกับปอดบวมหรือไม่'..ซึ่งขออธิบายดังนี้
    • ปอดติดเชื้อ (Lung Infection) เมื่อปอดได้รับเชื้อโรคเข้าไปเนื้อปอดจะเกิดอักเสบและบวม (Edema) ผู้ป่วยจะมีอาการไข้ ไอ และมีเสมหะ (Sputum)
    • ปอดอักเสบ..โดยความจริงแล้วเมื่อปอดได้รับอันตรายไม่ว่าสาเหตุใดก็ตาม 'จากทั้งเชื้อโรดและที่ไม่ใช่เชื้อโรค'..เนื้อปอดจะเกิดอักเสบ เมื่อใดที่มีการอักเสบจะมีการบวมเกิดขึ้นร่วมกันเสมอ
    • ดังนั้นเมื่อใดก็ตามที่ปอดอักเสบ ปอดก็จะบวมด้วยเช่นเดียวกัน ตามความเห็นแล้วคำว่า 'ปอดบวมและปอดอักเสบน่าจะมีความหมายอย่างเดียวกันและใช้แทนกันได้'
    • ปอดบวม (Pneumonia) เมื่อมีเชื้อโรคหรือปัจจัยอย่างอื่นก็ตาม 'ที่ไม่ใช่เชื้อโรคเข้าสู่ปอด' ทั้ง 2 สาเหตุนี้ทำให้เนื้อปอดเกิดอักเสบและบวมได้ ขอทำความเข้าใจว่าปอดบวมนั้นไม่จำเป็นต้องเกิดจากเชื้อโรคเสมอไป แต่เกิดจากสาเหตุอื่น ๆ ก็ได้ จะขอยกตัวอย่างประกอบคำอธิบายดังนี้ เช่น
    ❶ การเป็นหวัดและเป็นปอดบวม ปอดบวมในกรณีนี้เกิดจากเชื้อโรคที่บริเวณลำคอลุกลามลงไปในปอด เป็นปอดบวมชนิดที่เกิดจากเชื้อโรค
    • เชื้อโรคที่ทำให้เกิดปอดบวมส่วนใหญ่มักหมายถึงเชื้อแบคทีเรีย (Bacterial Infection) แต่นอกเหนือจากเชื้อแบคทีเรียยังมีเชื้อโรคอย่างอื่นอีก..ที่เป็นสาเหตุของปอดบวมได้ 'แต่ไม่ได้พบบ่อยเท่าเชื้อแบคทีเรีย'..และบางชนิดพบได้ในบางกรณีเท่านั้น เช่น เชื้อไวรัส (Viral Infection) โรคเชื้อรา (Fungal Infection) และโรคติดเชื้อปรสิต (Parasitic Infection)
    • ซึ่งเชื้อไวรัสนั้นมักพบได้ในช่วงที่มีการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ (Influenza)
    • เชื้อรา และ ปรสิต มักเกิดในกรณีผู้ป่วยมีภูมิคุ้มกันต้านทานโรคผิดปกติเช่น ติดเชื้อ HIV หรือโรคเอดส์ (AIDS)
    ❷ การสำลักน้ำเข้าไปในปอดเวลาคนจมน้ำ การที่น้ำเข้าไปในปอดนี้ก็ทำให้ปอดบวมและอักเสบได้..ในกรณีนี้ปอดบวมไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคแต่เกิดจากน้ำที่สำลักเข้าไป
    ❸ การทำงานในโรงเก็บซากพืช ซากสัตว์ หรือขยะที่หมักจนเปื่อยยุ่ยและทำให้วัสดุเหล่านี้ฟุ้งกระจายไปในอากาศและสูดเข้าไปในปอด การดูดถ่ายน้ำมันและเกิดสำลักน้ำมันเข้าไปในปอด
    • ในกรณีเหล่านี้ก็เช่นเดียวกับตัวอย่างที่ 2 ปอดบวมที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เกิดจากเชื้อโรค แต่เกิดจากการสูดวัสดุที่สัมผัสในที่ทำงานเข้าไปในปอด
    • ทั้งนี้..ปอดบวมชนิดที่ไม่ได้เกิดจากเชื้อโรคนี้อาการไม่ได้แตกต่างไปจากปอดบวมชนิดที่เกิดจากเชื้อโรคแต่อย่างใด..แต่การรักษานั้นต่างกัน
    • อย่างไรก็ดีปอดบวมมักมีสาเหตุมาจากเชื้อโรคเป็นส่วนใหญ่ จากสาเหตุอื่นก็เป็นไปได้แต่พบได้น้อยกว่า
    • ดังนั้นในทางปฏิบัติ..คำว่าปอดบวมจึงเป็นที่เข้าใจกันโดยทั่วไปว่าหมายถึง ปอดติดเชื้อโดยอนุโลม และในบทความที่ท่านจะได้อ่านต่อไปนี้ ปอดบวมจะหมายถึงปอดติดเชื้อ
    • 'ลักษณะปอดที่บวมเป็นอย่างไร'..เมื่อเนื้อปอดบวมและอักเสบจะมีลักษณะอย่างไรนั้น ขอให้ท่านลองนึกถึงผิวหนังที่เป็นฝี เวลาเป็นฝี ผิวหนังและเนื้อบริเวณนั้นจะอักเสบและบวม มีของเสียจากฝีคือ 'น้ำเหลืองและหนองเกิดขึ้น'..เนื้อปอดก็จะมีลักษณะเช่นเดียวกันคือ อักเสบ บวม และมีของเสียจากปอด แต่ของเสียที่เกิดจากปอดบวมนี้ คือ เสมหะ
    • 'ปอดบวมเกิดได้อย่างไร..มีอาการอย่างไร'..ปอดบวมเกิดขึ้นได้จากที่มีเชื้อโรคเข้าสู่เนื้อปอด ส่วนใหญ่เกิดจากการหายใจหรือสำลักเอาเชื้อโรคเข้าไปในปอด มีบ้างที่เชื้อมาตามกระแสโลหิต..มีบางครั้งแต่น้อยมากที่เชื้อเข้าสู่ปอดโดยตรงจากการถูกวัตถุมีคมแทงเข้าปอด
    • อาการของปอดบวม ผู้ป่วยจะมีอาการ
    ❶ ไอ (Cough) มักมีเสมหะ
    ❷ มีไข้
    ❸ เจ็บหน้าอก หรือแน่นหน้าอก (Chest Pain)
    ❹ อ่อนเพลีย เหนื่อยง่าย ไม่มีแรง (Tiredness)
    • อาการดังกล่าวเหล่านี้อาจมีไม่ครบทุกอย่างโดยเฉพาะอย่างยิ่งในผู้ป่วย 'เด็กเล็ก..ผู้สูงอายุ' ผู้ป่วยทุพพลภาพที่ไม่สามารถช่วยตัวเองและสื่อสารได้จำกัด ผู้ดูแลควรให้ความสนใจและสงสัยมากกว่าปกติ เนื่องจากอาการอาจไม่ชัดเจน เช่น
    ❶ ในผู้สูงอายุอาจจะมีเพียงมีไข้หรือตัวอุ่น ๆ และซึมลงเท่านั้น อาจจะไอเพียงเล็กน้อยหรืออาจจะไม่ไอให้เห็นก็ได้..เนื่องจากมีความจำกัดในการเคลื่อนไหว..หรือกล้ามเนื้อไม่มีแรงพอที่จะไอได้อย่างมีประสิทธิภาพ
    • 'มีปัจจัยเสี่ยงที่จะเกิดปอดบวมไหม..มีอันตรายมากหรือไม่'..ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดปอดบวม ได้แก่
    ❶ อายุ ในเด็กเล็ก ๆ และในผู้สูงอายุ เพราะร่างกายมีความบกพร่องในการป้องกันและกำจัดเชื้อโรค
    ❷ การดื่มสุรา สูบบุหรี่ หรือรับประทานยาบางชนิด เช่น ยากดภูมิคุ้มกัน ยารักษาโรคมะเร็ง (ยาเคมีบำบัด) ซึ่งจะมีผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค และการกำจัดเชื้อโรค
    ❸ การมีโรคประจำตัวบางอย่าง เช่น โรคถุงลมโป่งพอง (Emphysema) โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน (Diabetes Mellitus) โรคหัวใจ ฟันผุ (Dental Caries) และเหงือกเป็นหนอง โรคไตเรื้อรัง (Chronic Kidney Disease)
    ❹ การไม่รักษาสุขภาพและอนามัย เช่น การขาดอาหาร สุขภาพทรุดโทรม อยู่อาศัยในสถานที่ที่ไม่มีการถ่ายเทอากาศที่ดีพอ ในที่ที่มีมลภาวะที่ต้องหายใจและสูดมลภาวะเข้าไปในปอด
    • อันตรายจากปอดบวมนั้นจะมีหรือไม่มี..และหากมีแล้วจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับ
    ❶ มีปัจจัยเสี่ยงข้างต้นหรือไม่ หากมีก็ถือว่ามีอันตรายกว่าไม่มี และในกรณีที่มีปัจจัยเสี่ยงนั้น หากมีหลาย ๆ ปัจจัยย่อมจะมีอันตรายมากขึ้นเป็นเงาตามตัว
    ❷ ปอดบวมนั้นรุนแรงและมีอาการแทรกซ้อน (Complication) หรือไม่ ซึ่งทั้ง 2 ประการนี้จะเป็นอุปสรรคต่อการรักษา และมีผลต่อการรักษา ยกตัวอย่างเช่น
    • ผู้ป่วยวัยหนุ่ม..ที่สุขภาพแข็งแรงดีอยู่แล้ว เมื่อเกิดปอดบวม อาจให้การรักษาโดยไม่จำเป็นต้องพักรักษาตัวในโรงพยาบาล และให้การรักษาเพียงยาปฏิชีวนะ (Antibiotics) ชนิดรับประทานแบบผู้ป่วยนอกก็อาจเพียงพอ
    • ในทางตรงข้ามโรคแบบเดียวกันนี้..หากเกิดกับผู้สูงอายุ หรือมีปัญหาสุขภาพบกพร่องอยู่เดิม เช่น เป็นผู้ที่รับประทานอาหารได้ในปริมาณที่น้อยมาก..ก็จะมีอาการแทรกซ้อนและควรรักษาตัวในโรงพยาบาลทั้ง ๆ ที่เป็นปอดบวมอย่างเดียวกัน
    • ยิ่งกว่านั้น..หากในกรณีเช่นเดียวกันนี้เกิดกับผู้ป่วยสูงอายุที่มีโรคเบาหวาน และระดับน้ำตาลในเลือดสูงที่ไม่ควบคุมให้ดีมาก่อน และมีโรคไตเรื้อรัง 'มาพบแพทย์ล่าช้า'..อาการแทรกซ้อนนั้นก็จะมากขึ้นตามส่วน 'อาจถึงขั้นเสียชีวิต' และอาจต้องรับตัวไว้ในห้อง ICU หรือ Intensive Care Unit แทนที่จะรักษาในห้องพักผู้ป่วยทั่วไป
    • ทั้งนี้..อาการแทรกซ้อนจากปอดบวม เช่น การเกิดมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด (Pleural Cavity) การเกิดมีหนองในโพรงเยื่อหุ้มปอด การหายใจล้มเหลว ไตล้มเหลว (Renal Failure) เชื้อเข้าสู่กระแสโลหิต..มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด (Sepsis or Septicemia) ช็อกหมดสติ (Unconsciousness)
    • โดยสรุป..อันตรายจากปอดบวม และการมีผลแทรกซ้อนจะมากหรือน้อยขึ้นกับ อายุ สุขภาพของผู้ป่วย และความรุนแรงของปอดบวมที่เกิดขึ้นว่า 'เป็นมากหรือน้อยเพียงใด'
    • ดังนั้นการไม่รักษาสุขภาพและอนามัย การมีโรคประจำตัว (Underlying Disease) การสูบบุหรี่ ดื่มสุรา และรับประทานยาที่มีผลกระทบต่อสุขภาพ..จึงเป็นปัจจัยสำคัญต่อความรุนแรงของปอดบวม
    • 'แพทย์วินิจฉัยโรคปอดบวมได้อย่างไร'..ปอดบวมวินิจฉัยได้โดย
    ❶ ประวัติการมีไข้ ไอ มีเสมหะ เจ็บหน้าอก และหอบเหนื่อย หายใจลำบาก (Dyspnea) และจากการตรวจร่างกาย
    ❷ ถ่ายภาพรังสีทรวงอก (เอกซเรย์ปอด)
    ❸ การตรวจทางห้องปฏิบัติการเช่น การตรวจความสมบูรณ์ของเม็ดเลือด (CBC) 'การตรวจและเพาะเชื้อจากเสมหะ การเพาะเชื้อจากโลหิต'..การตรวจทางห้องปฏิบัติการเหล่านี้..แพทย์ผู้รักษาจะเลือกใช้เป็นกรณีตามความเหมาะสม..ตามความจำเป็น และตามดุลพินิจของแพทย์
    • 'รักษาปอดบวมได้อย่างไร'..แนวทางการรักษาปอดบวม ประกอบด้วย
    ❶ การให้ยาปฏิชีวนะ หากในรายที่เป็นไม่มากและไม่มีอาการแทรกซ้อนอาจให้การรักษาแบบผู้ป่วยนอกด้วยยาชนิดรับประทาน..กรณีนอกจากนี้การรักษาควรให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดแบบผู้ป่วยใน
    ❷ การรักษาประคับประคองตามอาการทั่ว ๆ ไปเช่น การให้ยาลดไข้ การให้สารน้ำทางหลอดเลือด การให้ออกซิเจน การให้อาหารเหลวทางสายให้อาหารลงกระเพาะอาหารในรายที่รับประทานอาหารเองไม่เพียงพอ
    ❸ การรักษาอาการแทรกซ้อน เช่น การใช้เครื่องช่วยหายใจในรายที่เหนื่อยและหายใจเองไม่เพียงพอ การให้ยาเพิ่มความดันโลหิตหากมีความดันโลหิตลดต่ำลง
    • 'ปอดบวมรุนแรงไหม มีผลข้างเคียงอย่างไร'..ความรุนแรงและภาวะแทรกซ้อน ของปอดบวมอาจมีเพียงเล็กน้อยหรือถึงขั้นรุนแรงจนอาจเสียชีวิตได้ สามารถแยกได้เป็นกรณี ดังนี้
    ❶ 'รุนแรงเพียงเล็กน้อย' สามารถรักษาด้วยยาปฏิชีวนะชนิดรับประทานแบบผู้ป่วยนอก ผู้ป่วยประเภทนี้มักเป็นผู้ป่วยที่อายุไม่มาก มีสุขภาพและรักษาสุขภาพและอนามัยดีอยู่ก่อนแล้ว และปอดบวมที่เกิดขึ้นไม่รุนแรงอาการป่วยไม่ได้หนัก
    ❷ 'รุนแรงปานกลาง' ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยสูบบุหรี่และดื่มสุราประจำ 'เกิดปอดบวม' ไม่ได้รับการวินิจฉัยแต่เนิ่น ๆ มาพบแพทย์หลังจากมีอาการหลายวัน..การรักษาในกรณีนี้จำเป็นต้องรักษาในโรงพยาบาลและฉีดยาปฏิชีวนะเข้าหลอดเลือด
    • นอกจากนี้ยังมีอาการเหนื่อยกว่าปกติและเบื่ออาหาร (Anorexia) จำเป็นต้องให้ออกซิเจนและสารน้ำทางหลอดเลือด (Blood Vessel) หากรับประทานอาหารไม่ได้หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย..และหากไม่มีอาการแทรกซ้อนอาจใช้เวลารักษาในโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วัน เมื่ออาการทุเลาไม่มีไข้ ผู้ป่วยสบายขึ้น แพทย์จึงอาจอนุญาตให้กลับบ้านได้และรักษาต่อเนื่องแบบผู้ป่วยนอก
    • ปอดบวมในกรณีเดียวกันนี้ 'เมื่อเกิดกับผู้สูงอายุ' ไม่รักษาสุขภาพและอนามัย ไม่ได้มาพบแพทย์และไม่ได้รับการวินิจฉัยแต่แรก จำเป็นต้องรับไว้รักษาและให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดในโรงพยาบาล หากรับประทานอาหารไม่ได้หรือไม่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย จำเป็นต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือด..และหากไม่มีอาการแทรกซ้อนอาจใช้เวลารักษาในโรงพยาบาลเพียงไม่กี่วัน เมื่ออาการทุเลาไม่มีไข้ ผู้ป่วยสบายขึ้น อาจอนุญาตให้กลับบ้านและรักษาต่อเนื่องแบบผู้ป่วยนอก
    • แต่รายเดียวกันนี้หากมีอาการแทรกซ้อน เช่น ความดันโลหิตต่ำ (Hypotension) ก็จำเป็นต้องให้สารน้ำทางหลอดเลือดนานขึ้น และหากยังเบื่ออาหารไม่สามารถรับประทานอาหารได้เพียงพอ แพทย์จะพิจารณาให้อาหารเหลวทางสายให้อาหารลงกระเพาะอาหาร..หรือหากมีอาการหายใจหอบเหนื่อยมากขึ้นกว่าเดิม การให้ออกซิเจนอย่างเดียวไม่พอ..อาจต้องใส่ท่อเข้าหลอดลมและช่วยการหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจร่วมด้วย
    • จะเห็นได้ว่าการรักษามีความยุ่งยากขึ้นตามลำดับต่างจากรายแรก คือ
    ❶ ต้องรักษาตัวในโรงพยาบาลแทนที่จะเป็นการรักษาตัวแบบผู้ป่วยนอก
    ❷ ต้องให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือดแทนที่จะให้โดยการรับประทาน
    ❸ ให้การรักษาเสริมด้วยสารน้ำทางหลอดเลือด ให้ออกซิเจน
    ❹ อาจต้องช่วยการหายใจด้วยเครื่องช่วยหายใจ
    ❸ 'ระดับรุนแรง' เช่น ผู้ป่วยสูงอายุ เป็นโรคเบาหวานและมีโรคหัวใจประจำตัว เมื่อเกิดปอดบวม มีไข้สูง หนาวสั่น ผลการวินิจฉัยพบว่าเป็นปอดบวมและมีน้ำท่วมปอด การรักษาในกรณีนี้นอกจากต้องรับไว้รักษาในหอผู้ป่วยหนัก (ICU) แทนที่จะเป็นการรักษาในหอผู้ป่วยทั่วไป..และต้องได้รับการเจาะน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอดออกมาวิเคราะห์ทางห้องปฏิบัติการ
    • ถ้าหากผลการวิเคราะห์น้ำที่เกิดจากปอดบวมนี้เป็นหนอง (Pus) แพทย์จะต้องใส่ท่อระบายของเหลวเข้าไปเพื่อระบายเอาหนองออก..และหากใช้วิธีนี้แล้วไม่สามารถระบายหนองออกได้หมด..จำเป็นต้องทำการผ่าตัดเข้าช่องอก (Mediastinum) เพื่อเอาหนองที่เกิดขึ้นนั้นออกมาให้หมด
    • ดังนั้นจึงเห็นได้ว่า..ปัญหาคนไข้รายนี้มีความซับซ้อนมากกว่าและเพิ่มเติมนอกเหนือไปจากการรักษาผู้ป่วยรายที่ได้กล่าวข้างบนได้รับ คือ
    ❶ ต้องได้รับการเจาะน้ำที่เกิดขึ้นในโพรงเยื่อหุ้มปอดซึ่งเกิดแทรกซ้อนจากปอดบวม
    ❷ หลังจากนั้นอาจต้องได้รับการรักษาเพิ่มเติม..ด้วยการใส่สายระบายเข้าระบายของเหลวที่เป็น 'หนอง'
    ❸ หากการระบายหนองไม่เพียงพอ..ก็ต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อเอาหนองออก
    ❹ 'ระดับรุนแรงมาก' ยกตัวอย่างเช่น ผู้ป่วยสูงอายุ เป็นโรคเบาหวาน โรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary Artery Disease) โรคไตเรื้อรัง รับประทานอาหารได้น้อย 'เป็นปอดบวม'..ซึมลง ไม่ค่อยรู้สึกตัว..ได้รับการส่งโรงพยาบาลตรวจพบว่า 'ความดันโลหิตต่ำ ไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถดื่มน้ำ และกลืนอาหารได้'..ผลการตรวจเลือดพบว่า 'ไตบกพร่องมาก น้ำตาลสูงมากจำเป็นต้องฉีดยาอินซูลิน (Insulin) เพื่อควบคุมน้ำตาล
    • ผลวิเคราะห์ก๊าซในเลือดแดงบ่งชี้ว่า 'ออกซิเจนในเลือดต่ำ'..ผลเอกซเรย์ปอดพบว่า 'ปอดบวมรุนแรงและเป็นบริเวณกว้าง..และหัวใจมีขนาดโตขึ้น ผลเพาะเชื้อจากโลหิตพบมีเชื้อขึ้นในกระแสโลหิต..มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
    • การรักษากรณีนี้จำเป็นต้องกระทำในห้อง ICU โดยให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด ใส่ท่อเข้าหลอดลม และใช้เครื่องช่วยหายใจเพื่อช่วยการหายใจ..ใส่สายให้อาหารเข้ากระเพาะอาหารเพื่อให้อาหารทางสายนี้ ให้ยาเพิ่มความดันโลหิต และอาจต้องทำการฟอกไต (Renal Replacement Therapy)
    • ปัญหาและอาการแทรกซ้อนในผู้ป่วยรายนี้มีเพิ่มขึ้นและรุนแรงมากขึ้นกว่าผู้ป่วยรายข้างต้น คือ
    ❶ มีโรคประจำตัวหลายโรค..และมีสุขภาพบกพร่องมาก่อน
    ❷ มีอาการแทรกซ้อนหลายประการ คือ ไม่รู้สึกตัว ไม่สามารถดื่มน้ำและกินอาหารได้ ไตเสื่อม ความดันโลหิตต่ำ มีอาการช็อก (Shock) มีภาวะหายใจล้มเหลว และโลหิตเป็นพิษ มีภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด
    ❸ ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยาเพิ่มความดันโลหิต ให้อาหารทางสายให้อาหารลงกระเพาะอาหาร ให้ยาอินซูลินควบคุมน้ำตาลในเลือด และอาจต้องทำการฟอกไต
    • โดยสรุปจากตัวอย่างดังกล่าว จะเห็นได้ว่าปอดบวมจะรุนแรงและมีอาการแทรกซ้อนได้ตั้งแต่
    ❶ 'อาการเล็กน้อย'..สามารถรักษาให้หายได้ด้วยยารับประทานแบบผู้ป่วยนอกและไม่มีอาการแทรกซ้อนแต่ประการใด
    ❷ 'อาการปานกลาง'..ต้องรักษาในโรงพยาบาลและให้ยาปฏิชีวนะทางหลอดเลือด ให้ออกซิเจน แต่ทันทีที่อาการทุเลา..ก็สามารถกลับมารักษาและรับประทานยาปฏิชีวนะต่อที่บ้านได้
    • ในกรณีเดียวกันนี้แต่หากยังรับประทานอาหารไม่ได้ ความดันโลหิตต่ำ ก็จำเป็นต้องอยู่โรงพยาบาลนานขึ้น..และต้องได้รับสารน้ำทางหลอดเลือด..และได้รับอาหารทางให้อาหารลงกระเพาะอาหาร
    ❶ 'อาการรุนแรง'..มีอาการแทรกซ้อนจากปอดบวม เกิดมีน้ำในโพรงเยื่อหุ้มปอด ต้องได้รับการเจาะน้ำจากโพรงเยื่อหุ้มปอด หากน้ำที่เกิดแทรกซ้อนเป็นหนอง..จำเป็นต้องใส่สายระบายเข้าโพรงเยื่อหุ้มปอด..ยิ่งไปกว่านั้นอาจจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัดเพื่อเอาหนองออก..หากการใส่สายระบายไม่สามารถทำให้หนองหมดไปได้
    ❷ 'อาการรุนแรงมาก'..เนื่องจากสูงอายุ มีโรคประจำตัวหลายชนิด ไตเสื่อม ไม่รู้สึกตัว และปอดบวมกระจายเป็นบริเวณกว้าง มีเชื้อกระจายเข้าสู่กระแสโลหิต จำเป็นต้องได้รับการรักษาเช่นเดียวกับกรณีข้างบนร่วมกับใช้เครื่องช่วยหายใจ ให้ยาเพิ่มความดันโลหิต..หากไตเสื่อมมากขึ้นอาจต้องทำการฟอกไต
    • บรรณานุกรม :
    Credit : https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/pneumonia
    Credit : https://www.who.int/medicines/areas/priority_medicines/Ch6_22Pneumo.pdf
    Credit : https://www.who.int/topics/pneumococcal_infections/en/
    Credit : https://www.unicef.org/topics/pneumonia
    Credit : https://data.unicef.org/topic/child-health/pneumonia/
    Credit : https://www.ecdc.europa.eu/en/novel-coronavirus-china
    Credit : https://www.ecdc.europa.eu/en/publi...-control/ventilator-associated-pneumonia-HAIs
    Credit : https://www.cdc.gov/pneumonia/index.html
    Credit : https://www.cdc.gov/pneumococcal/index.html
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แม้จะไม่อันตรายถึงชีวิต แต่จากการแพร่ระบาด ทั้งยังไม่สามารถรักษาให้หายได้ รวมถึงระยะของอาการป่วยที่นานหลายเดือน ก็ถือว่าเป็นการติดเชื้อที่น่ากลัวมากแล้ว
    #เหมียวตะปู
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เตรียมพร้อม จะตั้งรับ หรืออพยพ.......

    การรับมือ กับผู้บุกรุก ในภาวะคับขัน ภัยจลาจล หรือสถานการณ์โรคระบาด

    - ปิดบ้านพักอาศัย ทำให้แข็งแรง ทั้งหน้าต่าง ประตู ควรหาทางออกฉุกเฉินไว้ด้วย
    ( หากท่านไม่มีที่พักฉุกเฉิน หรือ บ้านพักนิรภัย หรือห้องนิรภัย )
    - ทำตัวให้เงียบที่สุด ใช้พลังงานให้น้อยที่สุด หลีกเลี่ยงการปะทะกับผู้คน
    - หาสิ่งจำเป็น ในชีวิตประจำวัน เช่น อาหาร น้ำ ยา พลังงาน แสงสว่าง
    - หาเครื่องทุ่นแรง หากมีการปะทะกับผู้บุกรุก เช่น ชะแลง จอบ เสียม ขวาน มีดทำครัว หรือขวานในตู้ดับเพลิง ผ้าเช็ดหน้า ผ้าปิดปากจมูก หน้ากาก เสื้อแขนยาว เครื่องมือช่าง เช่นค้อน ประแจใหญ่ๆ เชือก ไฟฉายช๊อต อาวุธปืน ( หากหาได้ )
    - เตรียมพาหนะ และเชื้อเพลิง ให้พร้อมที่จะเคลื่อนย้าย และอพยพ ตลอดเวลา หากต้องถูกแช่งชิงพื้นที่หรือสิ่งของจากผู้ประสบภัยเช่นเรา
    - เตรียมกระเป๋าฉุกเฉินให้พร้อม ใกล้ ๆ ตัว หากจะเคลื่อนย้าย สามารถทำได้ทันที
    - จุดที่มีการจลาจลมากที่สุด คือแหล่งสรรพสินค้า ทางสาธารณะ หากเป็นโรคระบาด โรงพยาบาลคือพื้นที่เสี่ยง และลุกลามออกไปตามชุมชนต่าง ๆ
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #มอร์มูฟเป็นข่าว เตือนระวัง!!! ลวกช้อนส้อมในหม้อหุงข้าวตามศูนย์อาหาร หากอุณหภูมิน้ำในหม้อสูงไม่ถึง 80 องศาฯ มีโอกาสได้รับเชื้อ 'แบคทีเรีย-ไวรัส' ไปเต็มๆ โดยเรื่องนี้ นพ.ดนัย ธีวันดา รองอธิบดีกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้ข้อมูลว่า หากน้ำร้อนในหม้อหุงข้าวตามศูนย์อาหารใดๆ มีอุณหภูมิแค่ 40-50 องศาฯ นอกจากจะไม่สามารถฆ่าเชื้อโรคได้แล้ว การต้มน้ำทิ้งไว้ทั้งวันโดยไม่มีการเปลี่ยนน้ำร้อนทุกๆ ชั่วโมงก็ยิ่งจะเป็นการเพิ่มจำนวนเชื้อโรคให้มากขึ้นอีกด้วย ทั้งแบคทีเรีย ไวรัส และพวกเชื้อโรคที่ทนต่อความร้อน ซึ่งหากเราได้รับเชื้อโรคพวกนั้นเข้าไปในร่างกาย จะนำไปสู่โรคระบบทางเดินอาหารโดยเฉพาะโรคท้องร่วง แถมหากบางแห่งใช้หม้อหุงข้าวประเภทที่เคลือบผิวภาชนะด้วยเทฟลอน เซรามิค จะมีความเสี่ยงเพิ่มขึ้นไปอีก โดยอาจได้รับสารโลหะจำพวกตะกั่วและโครเมียม อนึ่ง การลวกช้อนส้อมในหม้อต้มน้ำเพื่อฆ่าเชื้อโรคนั้นสามารถทำได้จริง แต่อุณหภูมิน้ำต้องสูงถึง 80-90 องศาฯ ใช้เวลาลวกอย่างน้อย 4 นาทีจึงจะสามารถฆ่าเชื้อโรคได้.
    ----------------------------------------
    #เพิ่มยอดขาย ร้านของคุณง่ายๆ ด้วย #เก็บแต้ม
    ส่งข้อความ #SMS ให้ลูกค้าตัวจริงของคุณ เพียงข้อความละ 1 บาท
    #เพิ่มลูกค้าใหม่ #สร้างลูกค้าประจำ
    เริ่มต้นเพียงเดือนละ 200 บาท สมาชิกไม่ถึง 200 ใช้ฟรีตลอดชีพ สมัครได้ที่ www.gebtam.com
    ช่องทางการติดต่อ
    FB : www.facebook.com/GebtamApp
    Line : @gebtam หรือคลิก bit.ly/2OnMJ4Z
    #สะสมแต้ม #เก็บแต้มง่ายๆแค่บอกเบอร์โทร #CustomerRoyalty
    #CloudMemberShip #MarketingPlatform #ForSMEs
    ----------------------------------------
    อ่านต่อ : https://www.thaiquote.org/content/2...42Mwo_pTp0i8slUH9bPbVHpsVsB_6cRgxDerOYidOVaL0
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักวิจัย คาดการณ์จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงอาจเพิ่มขึ้น 2,000% ในอีก 2 สัปดาห์หน้า
    Dr Yuan Hsiang-yu นักวิจัยคณะวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์จาก City University ได้คาดการณ์ตัวเลขของผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าในฮ่องกงอาจเพิ่มขึ้นถึง 200 ราย หรือคิดเป็น 2,000% ในอีก 2-3 สัปดาห์หน้า
    Dr Yuan เผยว่าแค่มีผู้ติดเชื้อ 15 คนในฮ่องกง ก็อาจทำให้เกิดการระบาดครั้งใหญ่ได้ หากไม่มีมาตรการป้องกันที่เข้มงวด อ้างอิงจากสถานการณ์ในอู่ฮั่น ที่ผู้ติดเชื้อ 1 ราย สามารถแพร่เชื้อไวรัสไปได้อีก 2.92 คน นั่นหมายความว่าเมื่อเริ่มมีการติดต่อจาก “คนสู่คน” ผู้ติดเชื้อจะมีจำนวนเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
    สถานการณ์สมมติที่ร้ายแรงที่สุด คือ คำนวนที่ระยะเวลาการฟักตัวเชื้อ 8 วัน และพบผู้ติดเชื้อจากจีน 56.7 ราย จะทำให้มีจำนวนผู้รับเชื้อจากการแพร่ไวรัสอีก 165.5 ซึ่งก็มาจากนักท่องเที่ยว 300,000 รายที่มาจากประเทศจีน
    อีกสถานการณ์ที่คำนวณกลางๆ คือ สมมติระยะเวลาการฟักตัวเชื้อ 5 วัน มีชาวจีนเข้ามา 200,000 คน และพบผู้ติดเชื้อจากจีน 15.4 ราย จะทำให้พบผู้รับเชื้อจากการแพร่ไวรัสอีก 45.1 ราย ในช่วง 2 สัปดาห์
    ในขณะเดียวกัน Dr Yuan ยังได้คำนวณปัจจัยเสี่ยงของการระบาดไปเมืองอื่นของจีน และพบว่าปักกิ่ง, เซี่ยงไฮ้ และกวางโจว มีโอกาสเกิดโรคระบาด 60-70%
    ทั้งนี้ ข้อมูลจากฝ่ายตรวจคนเข้าเมืองเผยตัวเลขว่ามีชาวจีนแผ่นดินใหญ่เข้ามาฮ่องกงเมื่อวันพฤหัสบดี 19,555 คน และ 27,780 เมื่อวันพุธที่ผ่านมา และชาวฮ่องกงจำนวน 37,000 คนไปเมืองจีนเมื่อวันพฤหัสบดี
    Source :
    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong
     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผู้โดยสารและพนักงานบริการบนเครื่องบินทั่วโลกเกิดกระแสตื่นกลัวไวรัสอู่ฮั่น
    : ที่สนามบินใหญ่ที่สุดของบังกลาเทศ เจ้าหน้าที่สาธารณสุขในชุดคลุมสีขาวตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า ใช้อุปกรณ์เทอร์โมมิเตอร์ดิจิทัลจี้ไปที่ศีรษะผู้โดยสารเพื่อวัดไข้ ขณะที่ผู้โดยสารบางส่วนเดินทางเครื่องสแกนความร้อนในร่างกาย
    ส่วนบนเที่ยวบินจากนครเซี่ยงไฮ้ไปยังนิวยอร์ก พนักงานบนเครื่องทุกคนสวมหน้ากากขณะเดินเสิร์ฟเครื่องดื่มให้กับผู้โดยสารที่สวมหน้ากากเช่นกัน ผู้โดยสารบางคนเปลี่ยนหน้ากากของตนทุกสี่ชั่วโมงเพื่อให้แน่ใจว่าสะอาดปลอดเชื้อโรค
    และไม่ใช่แค่บนเครื่องบินเท่านั้น แต่ตามสนามบินต่าง ๆ ทั่วโลก ก็สามารถพบเห็นพนักงานและผู้โดยสารที่มีหน้ากากปกปิดตั้งแต่จมูกลงมา เดินกันขวักไขว่ทั่วไป
    ภาพเช่นนี้กำลังกลายเป็นเรื่องปกติบนทุกเที่ยวบินทั่วโลกในขณะนี้ ท่ามกลางกระแสความกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของเชื้อโคโรนาไวรัส ที่มีศูนย์กลางในเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และมีผู้ติดเชื้อแล้วเกือบหนึ่งหมื่นคน และองค์การอนามัยโลกเพิ่งประกาศให้เป็น "ความฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ"
    บางครั้งความกังวลลุกลามไปเป็นความตื่นกลัว เช่น บนเที่ยวบินจากจีนไปยังนครอัมสเตอร์ดัม ผู้โดยสารหลายคนลุกขึ้นมาโวยวายเมื่อทราบง่ามีชายจากเมืองอู่ฮั่นผู้หนึ่งอยู่ในกลุ่มผู้โดยสารด้วย
    สำหรับเที่ยวบินที่ยังต้องให้บริการเข้าและออกจากจีนอยู่นั้น พนักงานต้อนรับบนเครื่องต่างพากันหาวิธีต่าง ๆ มาใช้กำจัดเชื้อโรคทั้งก่อนและหลังจากที่ผู้โดยสารขึ้นลงเครื่องบิน เช่น ใช้น้ำยากำจัดเชื้อโรคเช็ดทั่วบริเวณที่นั่งผู้โดยสารและกระจก และหากเที่ยวบินนั้นมีผู้โดยสารที่น่าสงสัยว่ามีอาการป่วย หน้ากากและแว่นตาแบบป้องกันพิเศษ รวมทั้งเสื้อแขนยาว ก็อาจถูกนำมาใช้ได้เช่นกัน ตามรายงานของโฆษกของสายการบิน United Airlines
    หลายวันที่ผ่านมา สายการบินต่าง ๆ ทั่วโลก รวมทั้ง Air France, British Airways และ Scandinavian Airlines ต่างระงับเที่ยวบินไปประเทศจีน
    และในวันศุกร์ สายการบิน Delta Air, United Airlines และ American Airlines ของสหรัฐฯ ได้สั่งระงับเที่ยวบินทั้งหมดที่ไปและกลับจากประเทศจีน
    โดยเที่ยวบินของ Delta Air จะถูกระงับตั้งแต่วันที่ 6 ก.พ. และอาจยาวนานถึงสิ้นเดือนเมษายน ส่วนของ American Airlines จะระงับไปจนถึงวันที่ 27 มีนาคม ขณะที่ United Airlines ระงับเที่ยวบินระหว่างวันที่ 6 ก.พ. - 28 มี.ค.
    การตัดสินใจของสายการบินสหรัฐฯ เหล่านี้มีขึ้นหลังจากสหภาพนักบินได้ยื่นฟ้องสายการบินต่าง ๆ ให้ระงับเที่ยวบินไปจีนทันที เนื่องจากความกังวลเรื่องการระบาดของโคโรนาไวรัส
    Source: VOA Thai
    https://www.voathai.com/a/flight-paranoia-from-coronavirus/5268604.html
    www.voanews.com
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตลาดบอนด์สหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve วันที่ 2 ขณะส่งสัญญาณศก.ถดถอย
    : ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve เป็นวันที่ 2 ซึ่งเป็นภาวะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นอยู่สูงกว่าพันธบัตรระยะยาว โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือน อยู่สูงกว่าพันธบัตรอายุ 10 ปีในวันนี้ ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย
    ณ เวลา 23.22 น.ตามเวลาไทย อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 10 ปี ร่วงลงสู่ระดับ 1.529% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 3 เดือนปรับตัวลงสู่ระดับ 1.556% ขณะที่อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอายุ 30 ปี อ่อนตัวลงสู่ระดับ 2.006%
    ราคาพันธบัตร และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรจะปรับตัวในทิศทางตรงกันข้ามกัน
    ตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเคยเกิดภาวะ inverted yield curve ในเดือนธ.ค.2548 โดยเกิดขึ้น 2 ปีก่อนที่จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยอันเนื่องจากวิกฤตการเงิน
    ผลการสำรวจพบว่า หลังจากตลาดพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve โดยเฉลี่ยราว 22 เดือน สหรัฐก็จะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยตามมา
    นอกจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจจากสัญญาณในตลาดพันธบัตรแล้ว นักลงทุนยังวิตกว่าการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลก
    คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากโรคปอดอักเสบที่เกิดจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในจีน เพิ่มขึ้นเป็น 213 ราย ขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสดังกล่าวอยู่ที่ 9,692 ราย
    แถลงการณ์ของ NHC ยังระบุว่า ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโคโรนาที่อยู่ในขั้นวิกฤตมีจำนวน 1,527 ราย และผู้ที่อยู่ในข่ายต้องสงสัยว่าติดเชื้อไวรัสดังกล่าวมีจำนวน 15,238 ราย
    องค์การอนามัยโลก (WHO) ประกาศว่า การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขของโลก หลังจากเชื้อไวรัสดังกล่าวแพร่ระบาดไปยังประเทศต่างๆทั่วโลกอย่างรวดเร็ว
    Source: อินโฟเควสท์
    แปลและเรียบเรียงโดย ก้องเกียรติ กอวีรกิติ
    www.marketwatch.com
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Ray Dalio แนะนำวิธีการลงทุนในยามไวรัสโคโรนาระบาด "เปลี่ยนวิกฤตให้เป็นโอกาส"
    Ray Dalio นักลงทุนแนวหน้าของโลก ผู้จัดการกองทุน Hedge Fund ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Bridgewater ได้ออกมาแนะนำวิธีในการจัดพอร์ตลงทุนในยามวิกฤตไวรัสนี้
    นับตั้งแต่ข่าวไวรัสโคโรนาระบาดเริ่มหนาหูเมื่อกลางเดือนมกราคมที่ผ่านมา ตลาดหุ้นและสินทรัพย์ต่างๆทั่วโลกก็โดนเทขายอย่างหนัก
    ดัช SET ของไทย -7% จาก 1,600 จุดลงมาเหลือ 1,514 จุด
    ดัชนีเซี่ยงไฮ้ Shanghai Composite Index ของจีน -7% จาก 3,124 จุดลงมาเหลือ 2,963 จุด
    ดัชนีดาวโจนส์ Down Jones ของสหรัฐ -4% จาก 29,371 จุดลงมาเหลือ 28,229 จุด
    ราคาน้ำมันดิบ Brent -12% จาก 66 เหรียญลงมาเหลือ 58 เหรียญ
    ในขณะที่ราคาทอง ซึ่งเป็นหลุมหลบภัยพักเงินของนักลงทุน (Safe Haven) ดีดขึ้น +4% จาก 1,540 เหรียญขึ้นไปถึง 1,589 เหรียญ
    และที่น่ากลัวที่สุดคือหลายๆสินทรัพย์กำลังโดนเทขายหนักขึ้นในวันปิดตลาดเมื่อวานนี้ และหากข่าวการติดเชื้อยังแพร่กระจายในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ตลาดก็จะเปิดมาลบวันจันทร์อย่างแน่นอน
    1️⃣ ข้อแนะนำที่ 1
    Ray Dalio กล่าวว่าถึงแม้ตัวเขาเองจะไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านโรคระบาด และไม่รู้เลยว่าไวรัสจะแพร่กระจายไปทางไหน เร็วแค่ไหน นี่เป็นเรื่องธรรมดาสำหรับวิกฤตต่างๆที่มาเยือนโลกเราเช่นสงครามโลก, แผ่นดินไหว , ภัยแล้งหรือน้ำท่วม ที่เราอาจไม่สามารถคาดเดาได้ แต่สิ่งนึงที่เขารู้ในฐานะนักลงทุนก็คือ "ทุกๆวิกฤตนั้นเราสามารถเปลี่ยนมันให้เป็นโอกาสได้"
    เพราะฉะนั้นเราควรตั้งสติให้ดีและพยายามหาข้อมูลศึกษาถึงเหตุการณ์ที่คล้ายกันในอดีตและผลลัพท์ของมัน
    2️⃣ ข้อแนะนำที่ 2
    ก่อนที่จะลงทุนในยามวิกฤตที่หลายๆคนกำลังตกใจและเทขายทุกอย่างในยามที่ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เราต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ราคาในตลาดกำลังสื่อถึงมูลค่าสองอย่าง
    1) ราคาที่เปลี่ยนไปจากเหตุการณ์หรือความเสียหายที่เกิดขึ้นจริงๆ ไปแล้ว
    2) ราคาที่เกิดจากความคาดการณ์หรือการตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต
    โดยมูลค่าที่นักลงทุนอย่างเราจะสามารถเปลี่ยนเป็นโอกาสได้คือส่วนราคาที่ 2) โดยทั่วไปนั้นหากวิกฤตที่กำลังเกิดขึ้นนั้นเป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โอกาสในการเกิดมูลค่าจากข้อสองย่อมมีสูงกว่า
    ดังนั้นจังหวะที่นักลงทุนควรเข้าซื้อไม่ใช่จุดที่คนตื่นตระหนกที่สุดอย่างเดียว แต่ให้เราคอยสังเกตุและเปรียบเทียบระหว่าง สิ่งที่อาจเกิดขึ้นจริง กับ สิ่งที่ผู้คนเชื่อว่ากำลังเกิดขึ้น (ซึ่งสะท้อนให้เห็นในราคา) โดยหากเราสามารถมองออกว่าโอกาสในการเกิดขึ้นจริงนั้นน้อยกว่าสิ่งที่ราคาสะท้อนเยอะขึ้นเรื่อยๆ นั้นจะแสดงถึงจุดที่ตลาดจะเริ่มกลับตัวและนั้นคือโอกาสในการเข้าซื้อ
    3️⃣ ข้อแนะนำที่ 3
    โดยปกติก่อนที่เราจะลงทุนในสินทรัพย์ต่างๆของโลกนั้น เราจะต้องถามคำภามใหญ่ๆกับตัวเอง 3 คำถาม
    1) เราจะลงทุนในธุรกิจหรือสินทรัพย์ประเภทไหน ?
    2) แล้ว เราจะลงทุนในประเทศไหน ? ภูมิภาคไหนกำลังจะโต ?
    3) แล้ว ค่าเงินของประเทศนั้น จะมีความเสี่ยงมากน้อยแค่ไหน ?
    ซึ่งในการลงทุนยามปกตินั้น หากเราอาจจะสามารถเจาะทั้ง 3 คำถามและหาทางเลือกที่ดีที่สุดได้ แต่ในยามวิกฤตโลกระบาดนี้ ทาง Ray Dalio กล่าวว่าเราคงไม่สามารถเดาได้เลยว่าโรคจะระบาดไปในภูมิภาคไหนมากที่สุด ตัวแปรนั้นสามารถเปลี่ยนแปลงไปได้ตลอดเวลา
    Ray จึงแนะนำว่าการปรับพอร์ตการลงทุนของเราในยามวิกฤตไวรัสนั้น ให้พยายามกระจายให้มีความหลากหลายให้มากที่สุด อย่าเดิมพันใหญ่ๆในจุดๆเดียว เพราะเราไม่มีโอกาสรู้ได้เลย (Not All Egg in One Basket) ถึงแม้ว่า Ray จะมองว่าโอกาสที่ดีที่สุดอาจอยู่ในจีน ที่ๆเริ่มต้นของไวรัสที่กำลังมีผู้ติดเชื้อมากที่สุดก็ตาม
    Ray ได้ศึกษาวิกฤตโรคระบาดที่ผ่านมาอย่าง H1N1 , SARS, Spanish Flu และอื่นๆ จนพบได้ว่าทุกๆวิกฤตนั้นกลาเป็นโอกาสจริง แต่ทุกๆครั้งนั้นมีแบบแผนที่ต่างกัน ไม่ว่าจะมาจากตัวไวรัสเองหรือการรับมือของรัฐบาลต่างๆ
    เพราะฉะนั้นการลงทุนที่ดีที่สุดคือ การกระจายการลงทุนไปทุกๆภูมิภาค ทุกๆประเทศ ทุกๆสินทรัพย์ ขยายไปหลายๆประเภทธุรกิจ หลายๆค่าเงิน เพราะนี่จะเป็นวิธีป้องกันความเสี่ยงที่ดีที่สุด และเพื่อไม่ให้เราพลาดโอกาสในการลงทุนในจุดที่อาจพลิกกลายเป็นโอกาสได้
    การกระจายไม่ใช่การสุ่ม แต่เป็นแผนการลงทุนที่ดีที่สุดที่ได้ศึกษาจากสถิติมาแล้ว
    Cr : OilTrading
    ที่มา: www.linkedin.com
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เวียดนามประกาศระงับทุกเที่ยวบินจีน-ฮ่องกง-มาเก๊า หลังพบผู้ติดเชื้อรายที่ 6
    คลิก>> https://mgronline.com/indochina/detail/9630000010698
    #MGROnline #เวียดนาม #ไวรัสโคโรนา #ระงับเที่ยวบิน
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    PSX_20200201_214518.jpg
    (Feb 1) จีนนำเข้าหน้ากาก 56 ล้านชิ้นใน 1สัปดาห์ : ศุลกากรจีน เผยได้รับวัสดุจำเป็นที่นำส่งจากตปท. รวมถึงหน้ากาก 56.228 ล้านชุด พร้อมเตรียมออกมาตรการเพิ่มเติมวันจันทร์นี้ ด้านพิธีการศุลกากรให้เกิดความรวดเร็วในการนำเข้าอุปกรณ์นำเข้าที่จำเป็น ด้านยาและอุปกรณ์ทางการแพทย์ ฯลฯ

    เว็ปไซด์โกลบอลไทมส์ รายงานว่ารอบ 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา (วันที่ 24 - 30 มกราคม 2563 ) จีนมีการนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันและควบคุมโรคระบาดจำนวน 59,178 ล้านหน่วยถูกนำเข้าประเทศจีนมูลค่า 160 ล้านหยวน ( 23 ล้านเหรียญสหรัฐ ) ตัวเลขดังกล่าวรวมถึง มาสก์ 56,228 ล้านหน้ากาก. แว่นตากันลม 69,000 คู่และชุดป้องกัน 738,000 ชิ้นตามรายงานของสำนักงานศุลกากรทั่วไป (GAC)

    เมื่อวันที่ 30 มกราคม 2563 ผ่านมาหน่วยงานศุลกากรทั่วประเทศนำเข้าอุปกรณ์ป้องกันและควบคุมการแพร่ระบาด 7,880 ชุด 21,968 ล้านชิ้นคิดเป็นมูลค่า 190 ล้านหยวน โดย 39% เป็นผลิตภัณฑ์ป้องกันจำเป็นต้องมีหน้ากากป้องกันเสื้อผ้าและยาในประเทศจีนโดยเฉพาะในอู่ฮั่น มณฑลหูเป่ยซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดของโรคระบาดและพื้นที่ยังคงมีความเสี่ยงมากที่สุด

    นอกจากนี้เพื่อให้มั่นใจว่าสามารถใช้วัสดุนำเข้าได้โดยเร็วที่สุด เมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาทาง GAC ได้ขอให้ศุลกากรของอู่ฮั่นสร้างช่องทางสีเขียวพิเศษสำหรับวัสดุที่ได้รับการบริจาค โดยศุลกากรท้องถิ่นสามารถลงทะเบียนและปล่อยพัสดุที่บริจาคและทำตามขั้นตอนที่จำเป็นอื่น ๆ ในภายหลังได้

    GAC ระบุในวันจันทร์ที่จะถึงนี้ ( 3 กุมภาพันธ์ ) จะออกประกาศเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินพิธีการศุลกากรอย่างรวดเร็วของอุปกรณ์นำเข้าที่จำเป็น ยานำเข้าอุปกรณ์ทางการแพทย์และวัสดุอื่น ๆ ผ่านด่านศุลกากรโดยไม่ล่าช้า ซึ่งรวมถึงวิธีการขนส่งทั้งหมดไม่ว่าจะขนส่งผู้โดยสารหรือขนส่งทางไปรษณีย์และพัสดุ"แผนกศุลกากรทั้งหมดทั่วประเทศจะตั้งสายด่วนที่ปรึกษาเพื่อตอบสนองความต้องการขององค์กรที่เกี่ยวข้อง " GAC กล่าว

    Source: ฐานเศรษฐกิจออนไลน์
    https://www.thansettakij.com/conten...m_medium=internal_referral&utm_campaign=world
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Bank of Thailand Scholarship Students
    PSX_20200201_214824.jpg
    (Feb 1) แบงก์ระดมมาตรการเร่งด่วน อุ้มลูกหนี้ฝ่าวิกฤต ‘ไวรัสโคโรน่า’ : การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ (2019-nCoV) หรือไวรัสอู่ฮั่น และการระงับการเดินทางของกรุ๊ปทัวร์จีนจะส่งผลกระทบโดยตรงต่อภาคการท่องเที่ยวไทย ที่พึ่งพารายได้จากนักท่องเที่ยวจีนมากกว่า 5 แสนล้านบาทต่อปี หรือกว่า 1 ใน 4 ของรายได้ในภาคการท่องเที่ยวจากต่างประเทศ

    และล่าสุด (31 ม.ค.) องค์การอนามัยโลก (WHO) ได้ประกาศให้การแพร่ระบาดของไวรัส “โคโรน่าสายพันธุ์ใหม่” เป็น “ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระดับโลก” เนื่องจากการแพร่ระบาดและการเสียชีวิตที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

    รายได้ท่องเที่ยวหาย 1 แสนล้าน

    TMB Analytics คาดการณ์ว่า ภาพรวมดีกรีผลกระทบจากไวรัสโคโรน่าต่อภาคการท่องเที่ยวจะอยู่ที่ 70% โดยคาดว่านักท่องเที่ยวจีนลดลง 2.4 ล้านคนในช่วงครึ่งปีแรก ก่อนที่จะเริ่มกลับมาขยายตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยรวมทั้งปี 2563 จะอยู่ที่ 38.7 ล้านคน ลดลงจากคาดการณ์เดิม 40.8 ล้านคน และรายได้ภาคท่องเที่ยวและธุรกิจเกี่ยวข้องลดลงกว่า 1 แสนล้านบาท หรือคิดเป็น 0.7% ของจีดีพี

    ผลกระทบต่อรายได้ภาคการท่องเที่ยวแบ่งเป็นธุรกิจโรงแรมรายได้หายไป 2.84 หมื่นล้านบาท เช่นเดียวกับธุรกิจค้าปลีกรายได้หายไป 2.84 หมื่นล้านบาท และธุรกิจร้านอาหารลดลง 1.89 หมื่นล้านบาท และที่เหลือ (ค่าเดินทาง ค่าเข้าชมสถานที่ท่องเที่ยว และอื่น ๆ) หายไป 2.92 หมื่นล้านบาท

    ศูนย์วิเคราะห์ฯประเมินว่า ธุรกิจที่ได้รับผลกระทบโดยตรงของไทยในระดับสูง คือ “ธุรกิจโรงแรม” โดยมีผู้ประกอบการโรงแรมที่อยู่ในข่ายได้รับผลกระทบถึง 7,500 ราย ขณะที่ธุรกิจภัตตาคารร้านอาหาร และอื่น ๆ คาดว่าจะได้รับผลกระทบไม่มากนัก เนื่องจากส่วนใหญ่เป็นเชนธุรกิจของผู้ประกอบการชาวจีน

    รร. 7,500 แห่งอ่วม สูญ 2.8 หมื่นล้าน

    สำหรับธุรกิจโรงแรมคาดว่าจะได้รับผลกระทบ 7,500 ราย แบ่งเป็นผู้ประกอบการขนาดกลาง 459 ราย และขนาดเล็ก 6,990 ราย คาดว่า “โรงแรมขนาดกลางได้รับผลกระทบหนักสุด” จากรายได้ของธุรกิจโรงแรมที่ลดลง 2.84 หมื่นล้านบาท คาดว่าจะเป็นโรงแรมขนาดกลางถึง 49% โรงแรมขนาดเล็ก 31% และโรงแรมขนาดใหญ่ 20% พื้นที่ที่ได้รับผลกระทบระดับสูงจะอยู่ในพื้นที่ที่นักท่องเที่ยวจีนชื่นชอบ 7 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ (32%) ภูเก็ต (29%) ชลบุรี (14%) กระบี่ (7%) สุราษฎร์ธานี (7%) เชียงใหม่ (5%) และพังงา (2%) ซึ่งมีผู้ประกอบการโรงแรมรวม 4,763 ราย หรือประมาณ 65% ของผู้ประกอบการโรงแรมไทยทั้งประเทศ

    ขณะที่คุณภาพสินเชื่อธุรกิจโรงแรมขนาดกลางถือว่า “เปราะบาง” และมีแนวโน้มแย่ลงจากผลกระทบไวรัส สะท้อนจาก ณ สิ้นปี 2562 ระดับหนี้เสีย (NPL) อยู่ที่ 5.1% และหนี้ค้างชำระไม่เกิน 3 เดือนที่ต้องเฝ้าระวังสูงถึง 13% ส่วนธุรกิจโรงแรมขนาดเล็กมี NPL อยู่ที่ 4.1%

    ธปท.สั่งแบงก์อุ้มลูกหนี้ท่องเที่ยว

    ด้าน ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ออกหนังสือเวียนถึงสถาบันการเงินทั้งแบงก์และน็อนแบงก์ ขอความร่วมมือให้ความช่วยเหลือลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 ประกอบด้วย

    1) พิจารณาให้ความช่วยเหลือด้านเงินทุนและสภาพคล่องแก่ลูกหนี้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อให้สามารถประกอบอาชีพหรือดำเนินธุรกิจต่อไปได้ เช่น ให้เงินทุนหมุนเวียนเพิ่มเติม ลดหรือยกเว้นดอกเบี้ย หรือค่าธรรมเนียม ผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระหนี้ หรือปรับปรุงโครงสร้างหนี้

    2) ปรับลดอัตราการผ่อน “ชำระหนี้บัตรเครดิตขั้นต่ำ” ให้ต่ำกว่า 10% ของยอดคงค้างจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563 และ

    3) ผ่อนผันหลักเกณฑ์การกำหนดวงเงินชั่วคราวกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นต่อการดำรงชีพของสินเชื่อส่วนบุคคลจนถึงวันที่ 31 ธ.ค. 2563

    แห่ให้พักหนี้เงินต้น 6-12 เดือน

    ฟากธนาคารก็ทยอยออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้า เริ่มจากธนาคารไทยพาณิชย์ที่ประกาศมาตรการพักชำระเงินต้นสูงสุด 6 เดือน ขณะที่ “ธนาคารกสิกรไทย” มีมาตรการพักชำระเงินต้น สูงสุด 12 เดือน พร้อมสนับสนุนวงเงินเพิ่มเติมเพื่อฟื้นฟูกิจการ ฟรีค่าธรรมเนียมค้ำประกัน 2 ปี กับบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บสย.)

    ด้านธนาคารกรุงไทย ออกมาตรการช่วยเหลือทั้งธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับภาคการท่องเที่ยว รวมทั้งกลุ่มส่งออกสินค้าไปจีน โดยพักชำระหนี้เงินต้นตามระดับผลกระทบสูงสุด 2 เดือนเช่นกัน พร้อมขยายระยะเวลาชำระหนี้และการค้ำประกัน รวมทั้งสนับสนุนค่าธรรมเนียม บสย.ค้ำประกัน

    เช่นเดียวกับธนาคารกรุงเทพก็ประกาศให้มาตรการช่วยเหลือการพักชำระเงินต้นตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้าเช่นกัน

    ธอส.จัดเงินกู้ดอกต่ำให้ “ไกด์–รายย่อย”

    นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ธอส.ได้เตรียมกรอบวงเงิน 1,000 ล้านบาท จัดทำมาตรการช่วยเหลือลูกค้าผู้ได้รับผลกระทบ ด้วยการลดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และเงินงวดผ่อนชำระไม่เกิน 6 เดือน อัตราดอกเบี้ยเงินกู้เท่ากับ 0.01% ต่อปี ซึ่งผู้ขอรับมาตรการช่วยเหลือต้องมีคุณสมบัติ คือ เป็นลูกค้าของ ธอส.ที่ได้รับผลกระทบด้านรายได้จากการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรน่า

    อาทิ ไกด์นำเที่ยว พนักงานโรงแรม ผู้ประกอบการรายย่อยที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยว หรืออาชีพอื่น ๆ ธนาคารจะยกเว้นค่าธรรมเนียมการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยเงินกู้และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้องด้วย สามารถยื่นคำร้องเพื่อเข้าร่วมมาตรการได้ที่สาขาของธนาคารระหว่างวันที่ 30 มกราคม-31 มีนาคม 2563 หรือภายใต้กรอบวงเงินที่ธนาคารกำหนด

    แบงก์เร่งส่งทีมสำรวจปัญหาลูกค้า

    นายสุรัตน์ ลีลาทวีวัฒน์ รองกรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยกับ “ประชาชาติธุรกิจ” ว่า ธนาคารได้ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการธุรกิจเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบทางตรงและทางอ้อมจากไวรัสโคโรน่า แบ่งเป็น 3 กลุ่ม คือ 1.โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวจีนเป็นหลัก 2.ซัพพลายเออร์ค้าขายกับโรงแรม และ 3.กลุ่มเกี่ยวเนื่องอื่น ๆ ซึ่งจากการประเมินพบว่ามีลูกค้าประมาณ 5,600 ราย วงเงินสินเชื่อ 3.5 หมื่นล้านบาท

    “ธนาคารได้ส่งทีมงานออกไปสำรวจลูกค้า และมีบางส่วนที่ลูกค้าติดต่อขอความช่วยเหลือเข้ามา ซึ่งการช่วยเหลือจะพิจารณาตามปัญหาของลูกค้า”

    เช่นเดียวกับ นายศิริเดช เอื้องอุดมสิน รองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ กล่าวว่า มาตรการหลัก ๆ ที่ธนาคารช่วยเหลือจะเป็นการพักชำระเงินต้นตั้งแต่ 6 เดือนถึง 1 ปี รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องให้กับลูกค้า โดยจะพิจารณาตามปัญหาของลูกค้าเป็นหลักแต่ละรายจะไม่เหมือนกัน

    โดยขณะนี้ธนาคารได้ส่งทีมงานสำรวจผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบโดยตรง เช่น โรงแรมที่รับนักท่องเที่ยวจีน รวมถึงกลุ่มร้านอาหารและธุรกิจเกี่ยวเนื่องกับนักท่องเที่ยวจีน เพราะเมื่อไม่มีกำลังซื้อจากนักท่องเที่ยวจีนก็ทำให้รายได้ของผู้ประกอบการเหล่านี้ได้รับผลกระทบ ซึ่งก็เริ่มมีเข้ามาคุยกับธนาคารแล้ว และธนาคารก็เริ่มให้ความช่วยเหลือบางส่วนแล้ว

    Source: ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

    https://www.prachachat.net/finance/news-416837
     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    แพทย์หรือพยาบาลติดอาวุธในถนนของหวู่ฮั่น ทำไม?
     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สถานการณ์ข่าว
    UPDATE NEWS
    01.02.2020 20:14
    1. รมว.สาธารณสุข รับการยืนยันจากอุปทูตจีนให้ไปรับคนไทยในอู่ฮั่นใน อ.4 ก.พ.63 พร้อมประสานขอสถานที่กักตัวจากหน่วยงานทหาร เพื่อเฝ้าระวังติดตามอาการ 14 วันหลังกลับเมืองไทย
    2. กองทัพอากาศ เตรียมเครื่องบิน C-130 จำนวน 3-4 ลำ และทีมแพทย์ 2-3 ชุดปฏิบัติการ พร้อมเดินทางไปให้การช่วยเหลือ หากได้รับมอบหมายจากรัฐบาล
    3. กระทรวงพาณิชย์ สั่งการให้ติดตามราคาและปริมาณหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ ถุงมือยาง หรือสินค้าจำเป็นที่เกี่ยวข้อง ไม่ให้มีการโก่งราคา และให้มีปริมาณเพียงพอ
    4. กระทรวงสาธารณสุข ยืนยันยอดผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาในไทย 19 คนเท่าเดิม โดยกลับบ้านแล้ว 7 ราย นอนโรงพยาบาล 12 ราย
    5. กรณีนักท่องเที่ยวชายชาวฮ่องกงล้มในศูนย์อาหารเทสโก้โลตัส มาร์เก็ตวิลเลจหัวหิน เป็นตะคริวที่ขาทำให้ล้มลงกับพื้น ผลตรวจไม่พบเชื้อไวรัสโคโรนา
    6. กระทรวงดิจิทัลฯ แจ้งความดำเนินคดีผู้จัดทำส่งเผยแพร่ข่าวปลอม จำนวน 7 ราย
    7. พบข่าวปลอม: คลิปเสียงว่ามีผู้โดยสาร 11 คนจากนครอู่ฮั่นแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาที่ภูเก็ต ข้อเท็จจริง: ตรวจสอบแล้วไม่มีมูลความจริงแต่อย่างใด
    8. พบข่าวปลอม: สายด่วน 1669 ปฏิเสธรับเด็กชาวต่างชาติป่วย 2 ราย ข้อเท็จจริง: ไม่พบข้อมูลการโทรแจ้งขอความช่วยเหลือ ตรวจสอบเชิงลึกแล้วไม่พบว่าเด็กทั้ง 2 ราย เข้ามารักษาที่ รพ.ของรัฐแต่อย่างใด
    9. พบข่าวปลอม: กรณีคลิปเสียงว่า รพ.วชิระภูเก็ต มีผู้ป่วย 1 ราย ทำให้ไม่มีผู้เข้าใช้บริการ เนื่องจากกลัวเชื้อไวรัสโคโรนา ข้อเท็จจริง: คลิปเสียงดังกล่าวไม่มีมูลความจริง
    #ศูนย์ปฏิบัติการนายกรัฐมนตรี
    #PMOC
     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สาหัส ! คาดเดือนกุมภาทัวร์จีน-เอฟไอทียกเลิกจองห้องพัก โรงแรมไม่ต่ำกว่า 2.4-3 แสนห้อง เผยกระทบหัวเมืองท่องเที่ยวหลัก ภูเก็ต พัทยา เชียงใหม่ สมุย ด้าน“แอตต้า” แจงภายในวันสองวันนี้ส่งแขกกลับหมด
    https://www.thansettakij.com/content/business/420359
     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,307
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน! #สหภาพลูกเรือคาเธย์ แปซิฟิก ขู่ประท้วงหยุดบินครั้งใหญ่ หากสายการบินไม่ยกเลิกเที่ยวบินเข้าจีนแผ่นดินใหญ่ เหตุโรคระบาดไวรัสโคโรนา 2019 ควบคุมไม่อยู่ เป็นอันตรายต่อผู้โดยสารและลูกเรือ คาเธย์ดราก้อนยกเลิกทุกเที่ยวบินเข้าจีนมีผลพรุ่งนี้(2) Cathay Pacific pressuring to stop flying
     

แชร์หน้านี้

Loading...