ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    (29/1/63)
    ...เจ้าหน้าที่ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ พรมแดนเชียงของ อ.เชียงของ จ.เชียงราย ตรวจคัดกรองผู้เดินทางข้ามแดน โดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เดินทางด้วยรถยนต์มาจากมณฑลยูนนาน ทางถนนอาร์สามเอ ผ่านแขวงบ่อแก้ว ประเทศลาว ข้ามสะพานแม่น้ำโขงไทย-สปป.ลาว แห่งที่ 4 มายัง อ.เชียงของ หลังเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา สายพันธุ์ใหม่ในประเทศจีน
    ...
    โดยตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค. 2563 ถึงปัจจุบัน มีชาวจีนเดินทางเข้ามาในประเทศไทย รวม 863 คน ทั้งหมดผ่านการคัดกรองด้วยการวัดอุณหภูมิ และ ไม่พบการติดเชื้อแต่อย่างใด ล่าสุดนักท่องเที่ยวชาวจีน ที่เคยเดินทางเข้ามา ก็ทยอยเดินทางกลับประเทศ โดยใช้เส้นทางสายเดียวกัน
    #ThaiPBSNorth #ThaiPBS #ThaiPBSNews
     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    เพิ่มเติมครั้งที่ 33
    เฝ้าระวังระดับ 1 (สูงสุด) ทั้งประเทศ
    ห้อง 62 ภาคพื้นแปซิฟิก ติดตาม สถานการณ์การโรคปอดอักเสบขั้นรุนแรงระบาด ในประเทศจีน ต่อเนื่อง
    /// เสียชีวิตแล้ว 170 ราย
    * ติดเชื้อขั้นรุนแรง 2320 ราย
    * จีนติดเชื้อ 7500 ราย
    / เฝ้าระวังพิเศษ (มีไข้) 30000-50000 ราย
    //ทางการประกาศให้ ประชาชนที่อยุ่ในพื้นที่เสี่ยงอยุ่ในบ้าน 14 วัน
    ** ประเทศที่พบการติดเชื้อ 22 ประเทศ รวม 75 ราย (ไม่นับรวมผู้หายป่วยแล้ว) **
    ไทย 8 ราย (หาย 6 ราย) ญี่ปุ่น 5 ราย (หาย 1 ราย) เกาหลีใต้ 3 ราย สหรัฐ 5 ราย ออสเตรเลีย 5 ราย ไต้หวัน 2 ราย มาเก๊า 5 ราย สิงคโปร์ 10 ราย เวียดนาม 2 ราย ฮ่องกง 8 ราย ฝรั่งเศษ 3 ราย *เนปาล มาเลเซีย 7 ราย แคนนาดา 1 ราย รัสเซีย 2 ราย(หาย 5) กัมพูชา 1 ราย เยอรมัน 3 ราย ศรีลังกา 1 ราย
    *UAE 1 ราย * ทิเบต 1 ราย *ฟินแลนด์ 1 ราย *ยูเครน 1 ราย
    // แต่ละประเทศมีกักตัวเฝ้าระวังพิเศษรวมประมาน 6500 คน
    // จีนสั่งสร้าง รพ.พิเศษสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 1,000 เตียง สำหรับ #coronavirus โดยได้อ้างอิงตามรูปการจัดการกับ SARS ในปี 2003 โดยการก่อสร้างมีกำหนดแล้วเสร็จในวันที่ 3 กพ.นี้
    // สั่งสร้าง รพ.ขนาด 1300 เตียงเพิ่มอีก 1 แห่ง ให้เส็ดภายใน 10 วัน
    // มีการร้องขอเตียงสนามเร่งด่วนเพิ่มอีก 10000 เตียง
    // จีน สั่งอัพเกรด รพ.20 แห่ง ให้รองรับผู้ป่วยได้ 10000 คน
    // จีนเปิดใช้ระบบ 5 G เต็มรูปแบบให้ทีมแพทย์ เพื่อประสานการช่วยเหลือ รพ.ต่างๆ
    // จีนตั้งทีมรถแท๊กซี่พิเศษ 6000 คัน ในการรับส่งยาไปให้ผู้ป่วยตามบ้าน
    // สั่งผลิตชุดป้องกันระดับ 3 ถุงมือแพทย์ และหน้ากาก 20 ล้านชุด
    // จีนระดมทีมแพทย์เข้าพื้นที่ 30 ทีม รวมจนท.อีก 7000 นาย
    // จีนสั่งระงับการขายทัวร์ไปยังประเทศต่างๆ ชั่วคราว
    // จีนประกาศยกระดับพื้นที่ติดเชื้อรวม 7 มณฑล เป็นระดับภัยพิบัติ ควบคุมทุกอย่างขั้นสูงสุด
    // จีน บังคับใช้กฏหมายขั้นสูงสุด (ติดอาวุธ) ในการควบคุม ดูแล ประชาชน
    // จีนได้ลำเลียง/สั่งผลิตเวชภัณฑ์ ไปพื้นที่ประกาศภัย คือ หน้ากากอนามัย ชุดกั้นเคมี เครื่องมือแพทย์ รวม 10 ล้านชุด
    // รพ 1 แห่งในฮู่ฮั่น ประกาศเป็นพื้นที่ติดเชื้อ อยุ่ระหว่างควบคุม
    // จีน สั่งห้ามการซื้อขายสัตว์ป่าทุกชนิดทั้งประเทศจนกว่าสถานการณ์จะสิ้นสุด

    // ประเทศมองโกเลีย ประกาศปิดเส้นทางคมนาคมเข้า-ออกประเทศ ปิดชายแดนตลอดเขตแนวกับจีนแผ่นดินใหญ่ ปิดโรงเรียนทุกแห่ง ห้ามจัดกิจกรรมทุกรูปแบบทั่วประเทศ มีผลทันทีถึง 2 มี.ค.
    //ฮ่องกง ประกาศพื้นที่ควบคุมพิเศษทั้งเกาะ ควบคุมการแพร่ระบาด
    // คาจิกิสถาน ปิดด่านพรมหแดน ติดชายแดนจีนทั้งหมด ไม่มีกำหนด
    // รัสเซียและเกาหลีเหนือ ปิดชายแดน ไม่มีกำหนด
    **** การอพยพ ****
    /สหรัฐ อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
    /ญี่ปุ่น อพยพแล้ว เครื่องบิน 2 ลำ
    /ศรีลังกา อพยพแล้ว เครื่องบิน 1 ลำ
    /ประเทศ ไทยเตรียม อพยพ จนท.นศ.ยังไม่ทราบกำหนด
    /เยอรมัน เตรียมอพยพ ภายใน 1 วัน
    /ฝรั่งเศษ เตรียมอพยพ
    /อืนเดีย เตรียมอพยพ
    /เกาหลีใต้ เตรียมอพยพ
    /ออสเตรเลีย เตรียมอพยพ
    ** องค์การอนามัยโลกระบุในรายงานสรุป 27 ม.ค 63
    - จีน = ระดับความเสี่ยงสูงมาก
    - ภูมิภาค = ระดับความเสี่ยงสูง
    - ระดับโลก = ระดับความเสี่ยงสูง
    ยังไม่มีการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน / ห้อง 62 / หน่วยวิจัยสถานการณ์ฉุกเฉินจีน
     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    บขส. เข้มนายสถานี-ผู้ประกอบการรถร่วม
    *ช่วยดูแลความสะอาด-ฆ่าเชื้อโรคบนรถทัวร์
    *เฝ้าระวังโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนา
    นายจิรศักดิ์ เยาว์วัชสกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ขนส่ง จำกัด (บขส.) เปิดเผยว่า ตามที่ได้มีการระบาดของโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 บขส. ได้กำชับไปยังทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องให้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด
    และมอบหมายให้นายสถานีเดินรถทุกแห่ง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพิ่มมาตรการความเข้มงวดในเรื่องการทำความสะอาดภายในบริเวณสถานีขนส่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ ทั้ง 3 แห่ง (จตุจักร หรือหมอชิต 2, เอกมัย ,ถนนบรมราชชนนี) ซึ่งเป็นสถานีขนส่งหลักที่มีผู้ใช้บริการทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติมาใช้บริการเป็นจำนวนมาก
    นายจิรศักดิ์ กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ บขส. ได้ดำเนินการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค บริเวณพื้นที่ให้บริการที่มีการสัมผัสกับผู้ใช้บริการบ่อยครั้ง เช่น บริเวณช่องจำหน่ายตั๋วโดยสาร เก้าอี้นั่งพักผู้โดยสาร ห้องน้ำ เป็นต้น รวมทั้งได้มีการทำความสะอาดภายในรถโดยสารก่อนที่จะนำออกให้บริการด้วย นอกจากนี้ได้กำชับไปยังพนักงานประจำรถ และพนักงานประจำสถานี ให้สวมหน้ากากอนามัยกรณีที่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่ที่มีประชาชนหนาแน่น เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ
    อย่างไรก็ดี บขส. ได้รับการสนับสนุนหน้ากากอนามัย เจลล้างมือแอลกอฮอล์ และน้ำยาฆ่าเชื้อ จากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข สำหรับแจกจ่ายให้แก่ผู้โดยสารและทำความสะอาดพื้นที่ภายในสถานีขนส่งผู้โดยสารกรุงเทพ (จตุจักร) ด้วย
    ทั้งนี้ในวันเดียวกันนี้ (29 ม.ค.63) กองบัญชาการตำรวจนครบาล กองบังคับการตำรวจจราจร ได้ร่วมกับบริษัท ขนส่ง จำกัด สำนักงานเขตจตุจักร จิตอาสาภาคประชาชน M-Help me และข้าราชการตำรวจกองบังคับการตำรวจจราจร (บก.จร.) จัดกิจกรรมรณรงค์ให้ความรู้สร้างความเข้าใจและตระหนักถึงปัญหามลพิษทางอากาศ PM 2.5 และแจกจ่ายหน้ากากอนามัยให้แก่ผู้ใช้บริการที่สถานีขนส่งหมอชิต 2
    ❤️❤️ฝากกด Like กด Share เพจ “ข่าวนวัตกรรมขนส่ง เดลินิวส์” ด้วยนะค๊า
    #ทีมข่าวนวัตกรรมขนส่งเดลินิวส์
    #บขส.
    #ป้องกันไวรัสโคโรนา
    #จิรศักดิ์เยาว์วัชสกุล
     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    FB_IMG_1580347308295.jpg

    เรากำลังจะออกจาก "EU วันศุกร์นี้"

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ชาวสิงคโปร์กว่าหนึ่งแสนคนลงชื่อเรียกร้องแบนคนจีนเข้าประเทศ
    รัฐบาลสิงคโปร์จะกำลังเตรียมรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาโดยประกาศในนักศึกษาอพยพออกจากหอพักเพื่อทำศูนย์กักกันผู้ป่วย และมีมาตรการให้ผู้โดยสารที่เดินทางมาจากประเทศจีนหยุดพักงาน 2 สัปดาห์เพื่อสังเกตอาการ แต่ก็ยังคงชะลอการแบนนักท่องเที่ยวจีนแบบเต็มรูปแบบ แม้ว่าจะมีประชาชนชาวสิงคโปร์ลงชื่อแบนนักท่องเที่ยวจีนกว่า 100,000 คน โดยนาย Lawrence Wong รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาแห่งชาติ เผยว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ และอาจทำให้พลเมืองเกลียดชาวต่างชาติโดยไม่รู้ตัว
    https://www.tcijthai.com/news/2020/1/asean/9824
     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    "อุปนายกฯธุรกิจท่องเที่ยว" แนะดูแลนักท่องเที่ยวจีนกลุ่มไม่ติดเชื้อ ต่อวีซ่า-ผลักดันเที่ยวเมืองรอง ใช้โอกาสสร้างความประทับใจ เตือนอย่าแสดงท่าทีรังเกียจเด็ดขาด พร้อมห่วงผู้ประกอบการท่องเที่ยวอยู่ยาก คาดทรุดหนัก 3-5 เดือนเป็นอย่างน้อย เสนอรัฐช่วยเงินกู้ดอกเบี้ยต่ำ - ขยายเวลาจ่ายภาษี
    https://mgronline.com/onlinesection/detail/9630000009756
    #MGRonline #โคโรนา #อู่ฮั่น #การท่องเที่ยว
     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฝรั่งเศสพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาคนที่5,แคนาดารอจีนอนุญาตส่งเครื่องบินรับพลเมืองจากอู่ฮั่น
    คลิก>> https://mgronline.com/around/detail/9630000009763
    #MGROnline #ฝรั่งเศส #ไวรัสโคโรนา #อู่ฮั่น
     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” บันทึก"ชาวเปอร์เซีย"ถึง“ชาวสยาม”สมัยพระนารายณ์!
    โดย: ศิลปวัฒนธรรม www.silpa-mag.com
    @ ราชทูตกษัตริย์สุลัยมานบันทึกชาวเปอร์เซีย(อิหร่าน)ช่วย “พระนารายณ์” ยึดบัลลังก์อยุธยา
    “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” เป็นบันทึกโดยอาลักษณ์ของคณะราชทูตเปอร์เซียของกษัตริย์สุลัยมานแห่งราชวงศ์เศาะฟะวียฮฺที่เดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยาในสมัยสมเด็จพระนารายณ์ หนังสือต้นฉบับเป็นภาษาเปอร์เซียชื่อว่า “สะฟีนะ-อิ-สุลัยมาน” ที่ให้รายละเอียดเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาและบทบาทของชาวเปอร์เซียต่อการเมืองการปกครองกรุงศรีอยุธยา
    อาลักษณ์ผู้นี้มีนามว่า อิบนิ มูฮัมหมัด อิบรอฮีม เป็นคนช่างสังเกต เจ้าคารม รู้ศาสนา และมีจินตนาการทางกวี ได้บันทึกเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสมเด็จพระนารายณ์กับชาวอิหร่านหรือเปอร์เซียได้อย่างน่าสนใจ ตามบันทึกระบุว่า มีชาวเปอร์เซียในกรุงศรีอยุธยาประมาณ 30 คน ที่อาศัยอยู่มาตั้งแต่ก่อนรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์ และทุกคนล้วนแต่ได้รับพระราชทานบรรดาศักดิ์ ที่ดิน บ้านเรือนให้อยู่อาศัย พร้อมทั้งตำแหน่งในการบริหารบ้านเมือง และเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนารายณ์ยังทรงพระเยาว์ก็มักไปคบค้าสมาคมกับชาวอิหร่านอยู่เสมอจนคุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมการดำเนินชีวิตของชาวอิหร่านเป็นอย่างดี
    **ยึดอำนาจพระเชษฐา
    เมื่อสมเด็จพระเจ้าปราสาททองสวรรคต พระราชโอรสคือสมเด็จเจ้าฟ้าไชยได้ขึ้นครองราชบังลังก์สืบต่อ อาลักษณ์บันทึกว่า เหตุนี้ได้สร้างความ “อิจฉา” ต่อสมเด็จพระนารายณ์ผู้เป็นพระราชโอรสของสมเด็จพระเจ้าปราสาททองเช่นกัน พระองค์จึงคิดวางแผนการชิงราชสมบัติ โดย
    “พระองค์เสด็จไปหาพระเจ้าอา (สมเด็จพระศรีสุธรรมราชา) พลางทูลว่า ไฉนพระเจ้าอาจึงทรงประทับอยู่เฉย ๆ ขณะที่พระเชษฐาของพระองค์ (สมเด็จเจ้าฟ้าไชย) ทรงเป็นกษัตริย์ พระเจ้าอาคิดจะถวายบังคมกราบกระนั้นหรือ จงอย่าคิดท้อถอย พระองค์จะทรงให้กำลังสนับสนุนทุกประการ…”
    สมเด็จพระนารายณ์ทรง “เป่าหู” สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาสำเร็จ และร่วมมือกันชิงราชบัลลังก์ ตามบันทึกระบุว่า รุ่งเช้าสมเด็จพระนารายณ์เสด็จไปหาสมเด็จเจ้าฟ้าไชยและทรงสังหารพระเชษฐาด้วยพระหัตถ์ของพระองค์เอง แล้วจึงทูลเชิญสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาขึ้นเป็นกษัตริย์ปกครองกรุงศรีอยุธยา และถึงช่วงเวลานี้ อาลักษณ์คณะราชทูตเปอร์เซียระบุว่า ชาวอิหร่านในกรุงศรีอยุธยาก็มีจำนวนเพิ่มขึ้นราว 100 คน
    **โอกาสที่เหมาะสม
    อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ ได้อธิบายว่าการยึดอำนาจครั้งนี้สมเด็จพระนารายณ์น่าจะเป็นผู้นำในการก่อการ เพราะสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาดูไม่ค่อยมีกำลังไพร่พลมากนัก อีกเหตุผลหนึ่งคือขุนนางบางกลุ่มสนับสนุนสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาเพราะทรงเป็นผู้ที่อ่อนแอและควบคุมง่ายกว่าสมเด็จพระนารายณ์ที่ทรงเข็มแข็งกว่า แต่สมเด็จพระนารายณ์ก็ทรงหมายปองราชบัลลังก์เช่นกัน เพียงแต่ทรงรั้งรอจังหวะที่เหมาะสมและพันธมิตรที่จะหนุนหลังพระองค์ในการยึดอำนาจ
    บันทึกของอาลักษณ์คณะราชทูตเปอร์เซียระบุว่า เกิดเหตุการณ์ความตึงเครียดระหว่างสมเด็จพระศรีสุธรรมราชากับสมเด็จพระนารายณ์ขึ้นไม่นานจากการยึดอำนาจที่ผ่านมา สมเด็จพระนารายณ์ทรงจัดการปกครองโดยไม่ได้ปรึกษาสมเด็จพระศรีสุธรรมราชา จนกระทั่งทรงฆ่าเสนาบดีคนหนึ่งต่อหน้าพระพักตร์สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาโดยไม่มีเหตุผล หลังจากนั้นพระองค์จึงไม่ได้มาเข้าเฝ้าสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาอีกเลย
    กระทั่งสมเด็จพระศรีสุธรรมราชาเรียกประชุมเสนาบดีเพื่อคิดจะกำจัดสมเด็จพระนารายณ์ แต่มีชายคนหนึ่งที่เคยเติบโตมาตั้งแต่เล็ก ๆ พร้อมกับสมเด็จพระนารายณ์ ที่อยู่ในที่ประชุมนั้น ได้ลอบนำความไปทูลแจ้งให้สมเด็จพระนารายณ์ให้ทรงทราบ พระองค์จึงทรงเห็นว่า “…ได้เวลาตามแผนการที่วางไว้แล้ว จึงทรงขอความช่วยเหลือจากชาวอิหร่านและพวกฝรั่งเศส”
    แม้จะหาข้ออ้างในการยึดอำนาจได้ แต่สิ่งสำคัญในการยึดอำนาจนั่นคือกำลังทหาร ซึ่งทรงเลือกใช้กองทหารอาสาต่างชาติมากกว่าจะใช้ “กองทัพชาวนา” ของกรุงศรีอยุธยา
    **กองทหารต่างชาติ
    เรื่องกองทหารต่างชาตินี้เป็นประเด็นที่มองข้ามไม่ได้ เพราะถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการก้าวขึ้นสู่อำนาจของสมเด็จพระนารายณ์และเป็นฐานอำนาจทางทหารที่สำคัญในการค้ำจุนราชบัลลังก์ไปจวบจนสิ้นรัชกาล ทำไมกองทหารต่างชาติจึงสำคัญต่อการเมืองกรุงศรีอยุธยา?
    ในหนังสือการเมืองไทยสมัยพระนารายณ์ อ. นิธิ เอียวศรีวงศ์ ได้กล่าวถึงความสำคัญของกองทหารต่างชาติว่า ทหารเหล่านี้รับเงินโดยตรงจากกษัตริย์ ถูกจัดให้เป็นกองทหารอาสาหรือใช้เป็นราชองครักษ์ไปในตัว จึงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกษัตริย์ มีความรู้และปฏิบัติการตามแบบทหารอย่างมีประสิทธิภาพ เชี่ยวชาญอาวุธอย่างปืนไฟ ไม่ต้อง “เข้าเดือน” เช่นไพร่กรุงศรีอยุธยา แม้จะมีจำนวนน้อยแต่ก็รวมไพร่พลได้รวดเร็วกว่า ซึ่งเหมาะแก่การยึดอำนาจอย่างฉับพลันที่ไม่จำเป็นต้องใช้ “กองทัพชาวนา” หรือทหารไพร่ของกรุงศรีอยุธยาจำนวนมาก ๆ ก็สามารถยึดอำนาจได้
    อีกทั้งกองทหารต่างชาติไม่มีฐานอำนาจทางการเมืองในกรุงศรีอยุธยา ไม่ถูกควบคุมโดยขุนนาง ไม่มีอำนาจควบคุมไพร่ทาส นอกจากจะเป็นเครื่องมือทางทหารแล้วยังถูกใช้เพื่อต่อกรหวังลดอำนาจของขุนนางในกรุงศรีอยุธยาลงอีกด้วย กองทหารต่างชาติจึงเหมาะเป็นเครื่องมือทางการเมืองและการทหารอย่างสำคัญของสมเด็จพระนารายณ์ที่จะทรงเลือกใช้อย่างไม่ต้องสงสัย
    สมเด็จพระนารายณ์ทรงมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับชาวเปอร์เซีย และหากสังเกตจากบันทึกของอาลักษณ์เปอร์เซียที่ระบุว่าก่อนรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มีชาวเปอร์เซีย 30 คน จนเมื่อรัชสมัยสมเด็จพระศรีสุธรรมราชามีชาวเปอร์เซีย 100 คน การเพิ่มขึ้นของชาวเปอร์เซียจึงเทียบได้กับการเพิ่มพูนผู้สนับสนุนและเพิ่มอำนาจให้พระองค์ การรั้งรอโอกาสอันเหมาะสมจึงเป็นแผนการที่แยบยลมากทีเดียว
    และไม่ใช่แต่ชาวเปอร์เซียเท่านั้น สมเด็จพระนารายณ์ยังทรงมีพันธมิตรจากกองทหารต่างชาติอื่นอีกหลายเชื้อชาติ แต่ไม่มีชาวจีน ผลสุดท้ายคือพระองค์จะใช้กองทหารเปอร์เซียเป็นกำลังสำคัญในการยึดอำนาจและสถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยา
    **ยึดอำนาจพระเจ้าอา
    “พอถึงเดือนมุหัรฺร็อม และชาวอิหร่านก็จะทำพิธีในเดือนนั้นพระนารายณ์จึงทรงรับสั่งให้ชาวอิหร่านทำขบวนแห่ไปเฝ้าสมเด็จพระเจ้าอา ส่วนพระองค์และทหารคู่ใจจะเสด็จตามข้างหลัง พวกอิหร่านก็พากันไปเฝ้าและทูลว่า วันนี้เป็นวันสำคัญทางศาสนา อยากจะเข้าเฝ้าอย่างใกล้ชิด…”
    พิธีดังกล่าวคือ พิธีตะซิยัต (Taziyat) เป็นพิธีที่จัดขึ้นเพื่อรำลึกและอาลัยถึงอิหม่ามฮุเซ็น (หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อ เจ้าเซ็น) ผู้นำศาสนาของมุสลิมนิกายชีอะหฺ โดยพิธีจะแต่งริ้วขบวนทหารจำลองเหตุการณ์สงครามสมัยอิหม่ามฮุเซ็นแห่ไปยังพระราชวังหลวงเพื่อให้พระมหากษัตริย์ทอดพระเนตร แผนการนี้ลุล่วงด้วยดี ขั้นต่อไปคือการกำจัดหรือตัดกำลังทหารของฝ่ายตรงข้ามให้ได้มากที่ ในบันทึกระบุว่า
    “…พระเจ้าแผ่นดินในสยามไม่ทรงบำรุงกองทัพไว้นอกจากราษฎรมาเป็นทหารเท่านั้น แต่บางครั้ง เมื่อจำเป็นก็เกณฑ์พวกเหล่านี้มาเป็นทหาร ในหมู่พวกเหล่านี้มีพวกที่กล้าหาญหลายกลุ่ม… พระเจ้าแผ่นดินจึงประทานที่อยู่ในวังใกล้ ๆ พระองค์เพื่อเป็นยามคอยป้องกัน สมเด็จพระนารายณ์จึงออกอุบายให้ทหารของพระองค์เผาหมู่บ้านของพวกนี้ซึ่งเป็นเชื้อไฟอย่างดี…”
    และเมื่อเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น ทหารเหล่านั้นจำต้องละทิ้งหน้าที่ไปดับไฟ สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาจึงรับสั่งให้ทหารรักษาการณ์ออกไปช่วยดับไฟอีก แผนการเข้าทางสมเด็จพระนารายณ์มากขึ้นเมื่อทรงเกลี้ยกล่อมทหารรักษาการณ์เข้ามาเป็นพรรคพวกได้เพิ่มอีก
    “…ตอนนี้พวกอิหร่านก็เอาพิธีทางศาสนาเป็นอุบายบังหน้า ถือโอกาสเข้าไปในพระราชวัง เข้าล้อมวังและให้ปืนใหญ่ยิง สมเด็จพระนารายณ์ก็เสด็จมาสมทบด้วย ทั้งทรงส่งพระสุรเสียงว่า ‘ข้าแต่ท่านอะลี’ แล้วทั้งหมดก็กรูกันเข้าไปยังที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดิน…”
    ที่ว่ายิงปืนใหญ่นั้น เข้าใจว่าเป็นการสร้างภาพเพื่อให้ขบวนแห่ที่พรรณานั้นคึกคักสมจริงขึ้น เพราะเป็นการทำพิธีไว้อาลัยท่านอิมามหุสัยน์ที่เสียชีวิตในการสงครามที่กัรฺบะลา เรื่องที่สมเด็จพระนารายณ์ทรงตะโกนออกนามของท่านอิมามอฺะลี บิดาของท่านอิมามหุสัยน์นั้นน่าเป็นจริง เพราะพวกชีอฺะฮฺมักจะออกนามเช่นนี้เสมอเมื่อทำสิ่งหนึ่งสิ่งใด (ดิเรก กุลสิริสวัสดิ์, 2545)
    อาลักษณ์คณะราชทูตเปอร์เซียบันทึกเหตุการณ์ต่อจากนั้นว่า สมเด็จพระศรีสุธรรมราชาทรงกระโดดน้ำหลบหนีไปแต่ไม่ช้าก็ถูกจับกุมพระองค์ได้แล้วทรงถูกถอดออกจากราชบัลลังก์ และสมเด็จพระนารายณ์ก็สถาปนาพระองค์เป็นกษัตริย์กรุงศรีอยุธยาพระองค์ใหม่เมื่อวันที่ 8 มุหัรฺร็อม ฮ.ศ. 1068 ตรงกับวันที่ 17 ตุลาคม ค.ศ. 1657
    อิบนิ มูฮัมหมัด อิบรอฮีม อาลักษณ์ผู้บันทึกหลักฐานชิ้นนี้พร้อมคณะราชทูตออกเดินทางจากท่าบันดัรฺอัฺบบาส ในดินแดนเปอร์เซีย เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน ค.ศ. 1685 และเดินทางกลับถึงท่าเรือนี้เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 1688 รวมระยะเวลากว่า 3 ปี
    ________________________________________________
    @ อาลักษณ์อิหร่านบันทึกถึง “ชาวสยาม” สมัยพระนารายณ์ ไว้อย่างไรบ้าง?
    ในสมัยพระนารายณ์ กษัตริย์แห่งกรุงศรีอยุธยา เป็นช่วงเวลาที่ได้มีการติดต่อเจริญสัมพันธไมตรีกับหลายเชื้อชาติ ชาวต่างชาติที่เข้ามาในดินแดนนี้จึงได้บันทึกเกี่ยวกับชาวสยาม ที่ฉายให้เห็นสภาพบ้านเมือง วิถีชีวิต อุปนิสัย และอื่นๆ นอกเหนือจาก “จดหมายเหตุลาลูแบร์” แล้ว ยังมี “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” อีกหนึ่งหลักฐานชิ้นสำคัญที่ฉายให้เห็นภาพได้เป็นอย่างดี
    “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” (แปลโดย ดิเรก กุลสิริสวัสดิ์. สำนักพิมพ์มติชน, 2545) เป็นบันทึกของอาลักษณ์ชาวอิหร่านนามว่า อิบนิ มูฮัมหมัด อิบรอฮีม ซึ่งเป็นหนึ่งในคณะทูตเปอร์เซียที่เดินทางเข้ามายังกรุงศรีอยุธยา ราว ค.ศ. 1686 ซึ่งเป็นการเจริญสัมพันธไมตรีตอบ หลังจากที่สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ได้ส่งคณะราชทูตไปเจริญสัมพันธไมตรีกับเปอร์เซีย
    อิบรอฮีมได้จดบันทึกการเดินทางและบันทึกเกี่ยวกับกรุงศรีอยุธยาไว้อย่างน่าสนใจหลายประการเกี่ยวกับ “ชาวสยาม” ทั้งสภาพบ้านเมือง วิถีชีวิต อุปนิสัย วัฒนธรรม กฎหมาย อาหาร และอื่นๆ
    ***ชีวิตและอุปนิสัย
    อิบรอฮีมบันทึกว่า “พวกอิหร่านและพวกฝรั่งเรียกชาวเมืองชะฮฺริ เนาว์* ว่า ชาวสยาม แต่ชาวพื้นเมืองสืบสาวเชื้อสายของพวกเขาไปถึงคนไต…”
    อย่างไรก็ตาม อิบรอฮีมยังอธิบายเพิ่มเติมว่า “…ถึงแม้ว่าชาวสยามไม่ได้สืบสาวถึงท่านนบีอาดัม แต่พวกอิหร่านเชื่อว่าคงมาจากลูกหลานคนหนึ่งของอาดัมที่ชื่อ สาน บุตรของยาฟุษ บุตรของนูหฺ…” ซึ่งอิบรอฮีมได้พยายามเชื่อมโยงว่า คำว่า สยาม เป็นคำที่เพี้ยนมาจากคำว่า สาน อิบรอฮีมยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นการคาดเดาของเขาเท่านั้น เพราะในที่สุดแล้ว “…พระผู้เป็นเจ้านั้นทรงทราบดี”
    เมื่ออิบรอฮีมได้พบเจอชาวสยามในช่วงแรก ๆ ที่เข้ามาในสยาม ในตอนที่คณะราชทูตไปเมืองลพบุรีเพื่อเข้าเฝ้าพระนารายณ์ อิบรอฮีมบันทึกไปว่า “…ชาวพื้นเมืองต่างไม่สวมเสื้อและรองเท้า เป็นเช่นนี้ทุกฤดูกาล พวกเขาตัดผมสั้นและเรียบ มีทหารยืนเรียงรายสองข้างทางที่เราผ่าน สวมหมวกทอด้วยกกหรือสานด้วยไม้ไผ่ นุ่งผ้าชิ้นเดียว เป็นกางเกง บางคนก็ถือปืน แต่ที่จริงแล้ว พวกเขาเดินเท้าเปล่า ไม่มีม้าสำหรับขี่”
    แต่ “ฐานะ” ของชาวสยามดูจะไม่สะดวกสบายเท่าใดนัก เพราะ “ในแผ่นดินสยามนั้น ชาวเมืองไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีอำนาจที่จะกล้าพูด ชีวิตเป็นไปอย่างผิวเผิน มักจะเปลือยกายบางส่วน ไม่มีบ้านใหญ่โต…”
    และ “ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่น่าเศร้าก็คือ ชาวสยามนั้นไม่ขยันขันแข็ง ซึ่งพระเจ้ากรุงสยามเองทรงทราบดี…” ซึ่งประโยคนี้อิบรอฮีมอาจหมายถึงอุปนิสัยของชาวสยามโดยทั่วไป ที่สะท้อนไปถึงตำแหน่งที่ปรึกษาของกษัตริย์ด้วย กล่าวคือ พระองค์มักโปรดให้ชาวต่างชาติมากกว่าชาวสยามให้มาเป็นที่ปรึกษา ซึ่งก่อนที่คอนสแตนติน ฟอลคอน จะทำหน้าที่นี้ ก็มีชาวอิหร่านนามว่า อากฺอ มุหัมมัด เป็นที่ปรึกษาของพระนารายณ์มาก่อน
    **ศาสนา
    อิบรอฮีมได้สนทนากับชาวสยามเกี่ยวกับความเชื่อของคนในท้องถิ่น “จากการสนทนากับผู้คงแก่เรียนชาวสยาม เราทราบว่าเขาใช้เวทมนตร์คาถาในการเผยแผ่ความเท็จและความเชื่อในการเวียนว่ายตายเกิด…” และ “เมื่อข้าพเจ้าสนทนากับผู้คงแก่เรียนชาวสยามในเรื่องเหล่านี้ เขาไม่สามารถพิสูจน์ความชื่อของเขาตามเหตุผลได้ นอกจากว่า เราพบพ่อแม่ของเราทำมาอย่างไร เราก็ทำตามอย่างนั้น เพราะฉะนั้น ทางที่ดีข้าพเจ้าจึงหลีกเลี่ยงการสนทนาเกี่ยวกับเรื่องนี้”
    แน่นอนว่าอิบรอฮีมนับถือศาสนาอิสลาม ซึ่งนับถือพระเจ้าพระองค์เดียวและไม่มีรูปปั้นเพื่อทำการเคารพ สักการะบูชา ต่างจากศาสนาพุทธและความเชื่อท้องถิ่นของชาวสยาม ที่อิบรอฮีมอธิบายว่า “…ชาวสยามนั้นไม่นับถืออะไรแน่นอน เห็นอะไรดีก็ลากเอาเข้ามานับถือ ชาวสยามนับถือรูปปั้น เผาศพ กินสัตว์ทุกชนิด จะเป็นซากสัตว์ที่ตายเองก็ได้ ดื่มสุราเมา พวกเขาไม่เหมือนพวกอื่นที่นับถือรูปเคารพเฉพาะอย่างเดียวแบบเดียว“
    อิบรอฮีมยังอธิบายอีกว่าชาวสยามนับถือแนวคิดเวียนว่ายตายเกิด และการให้ความสำคัญกับพระสงฆ์และวัดเป็นอย่างมาก เพราะชาวสยามเชื่อว่าพระสงฆ์เป็นผู้ชี้นำทางอันถูกต้อง ถ้าไม่มีพระสงฆ์แล้ว กิจการงานของพวกเขาจะหลงผิดและไร้ผล ดังนั้นชาวสยามจึงทำนุบำรุงพระสงฆ์อย่างถึงที่สุด รวมถึงวัดวาอารามต่าง ๆ ที่อิบรอฮีมบันทึกว่ามีวัดมากกว่า 5,000 แห่ง ซึ่งถ้าหากมีวัดไม่เพียงพอ พระสงฆ์ก็จะขอให้ชาวบ้านช่วยกันสร้างวัดเพิ่มเติมอีกด้วย
    นอกจากนี้ชาวสยามยังมีความเชื่อเกี่ยวกับสิ่งต่าง ๆ ในธรรมชาติ เช่น ดาวเคราะห์ ไฟ น้ำ ทะเล และพระอาทิตย์ ซึ่งเชื่อว่า “…ทรงแบ่งภาคลงมาจุติเป็นมนุษย์ จึงถือว่าพระเจ้าแผ่นดินนั้นเป็นเทพสมมุติ และโดยที่ดวงตะวันก็เป็นพระเจ้า ชาวสยามจึงเรียกกษัตริย์ของพวกเขาว่า เป็นพี่น้องกับสุริยะ”
    **ค้าขาย
    การขายลูกหรือภรรยาเป็นที่ปรากฏในเอกสารทั้งของไทยและต่างประเทศหลายแห่ง ใน “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” นั้นอิบรอฮีมบันทึกว่า “ชาวสยามยินดีจะขายตนเองหรือลูกชายลูกหญิง… ผู้ใดที่ทำการขายเช่นนี้ก็เอาเงินไปใช้ได้นานปี โดยไม่ต้องเสียดอกเบี้ย เมื่อมีเงินพอก็มาไถ่คืนได้ น่าเสียใจที่พ่อแม่ชาวสยามไม่สงสารลูก ๆ ของตน… บ้างก็ถูกนำไปขาย บางทีบางคนก็ขายฝากตนเอง ถ้าหาเงินมาเพื่อไถ่ตนเองไม่ได้ ก็ทำงานไปเยี่ยงทาส บางทีเป็นเช่นนั้นจนตาย แล้วลูกของเขาก็ต้องเป็นขี้ครอกทำงานเป็นทาสสืบต่อจากพ่อต่อไป วิธีนี้ไม่เป็นธรรมในสังคม แต่ชาวสยามถนัดค้าขายแบบนี้”
    ส่วนการค้าขายสินค้าที่เป็นสินค้าส่งออกก็มีหลากหลายประเภท เช่น ช้าง ส่งออกไปยังอินเดีย ซึ่งเป็นช้างที่ได้รับการฝึกจนเชือก ปีหนึ่งส่งออกราวสามถึงสี่ร้อยเชือกก็มี นอกจากนี้ยังขาย ไม้กฤษณา แร่ หมาก เครื่องเคลือบ พริกไทย และอำพัน เป็นต้น
    **อาหารการกิน
    ตลอดระยะเวลาที่คณะราชทูตอยู่ในพระราชสำนักของพระนารายณ์ พระองค์ทรงให้การต้อนรับอย่างสมเกียรติ ทั้งที่พักและอาหารการกินก็อยู่ในขั้นหรูหราทีเดียว ในงานเลี้ยงต้อนรับอิบรอฮีมบันทึกถึงงานในวันนั้นว่า
    “เมื่อเราเข้าไปในพระราชวัง ก็เห็นมีหมอนอิงเล็กใหญ่วางเรียงรายไว้ต้อนรับพวกเรา ท่านอิบรอฮีม เบก ได้สูบมอระกู่เงิน เขาอบห้องให้หอมด้วย เมื่อรับประทานกาแฟและน้ำชาแล้ว ก็ถึงเวลารับประทานอาหาร มีจานหลายขนาด มีถ้วยเงิน มีขนมหวาน ผักและพริดดอง ขิงดอง ข้าวกวนน้ำนม นมร้อน น้ำส้ม อ้อย น้ำหวาน นี่เป็นเพียงชุดแรก ต่อมามีอีกห้าสิบสำรับ…”
    นอกจากนี้ อิบรอฮีม ยังบันทึกเกี่ยวกับอาหารของชาวสยามไว้อีกว่า
    “…แปลกที่ว่าตลอดชีวิตชาวสยามไม่กินน้ำมัน ไม่รีดนม ไม่ทำเนย เขาถือว่าอาหารเหล่านี้เป็นบาป…ชาวสยามกินข้าวเป็นอาหารหลัก ไม่เติมเกลือ เนื้อหรือเครื่องเทศ แต่เขากินกับหัวปลาต้ม แทบทุกชั้นมีอาหารเช่นนี้เป็นหลัก ถ้าพบสัตว์ที่ตายเอง ไม่ว่าเป็นชนิดใด แม้เป็นวัวแก่ตายแล้วหลายวัน เขาก็จะพากันแล่เนื้อเอาไปกิน เขาจะไม่ฆ่าสัตว์เพื่อปรุงอาหาร เพราะถือว่าเป็นบาปหนัก ถ้าเขาจะเลี้ยงต้อนรับแขก ก็บีบคอนก (ไก่?) จนมันตาย แล้วก็เอาไปต้มใส่เครื่องชูรสหรือน้ำมันบ้าง แล้วก็กินกัน แม้แต่เวลานี้ก็ยังกินแย้ปิ้งและงู จะเห็นมีวางขายตามตลาด แทนที่จะเห็นเนื้อแกะ อาหารอีกชนิดหนึ่งคือเนื้อเต่า ชาวสยามไม่เว้นกินสัตว์ทะเลหรือสัตว์ป่า มีชาวสยามพวกหนึ่งกินเนื้อช้างและหมาป่า”
    *แปลว่า เมืองใหม่ หรือเมืองที่มีเรือมาก หมายถึงกรุงศรีอยุธยา
    __________________________________________________
    @ ทูตเปอร์เซียเล่าเหตุ คนกรุงศรี “ตกตะลึง” เมื่อกษัตริย์สั่งรีดนมควายทำเนย!
    ชีวิตชาวไทยในสมัยอยุธยาเป็นมาอย่างไรนั้น ส่วนหนึ่งก็รับรู้ได้จากบันทึกของชาวต่างชาติที่พบว่าเข้ามาอยู่อาศัยในสยาม ณ ช่วงเวลานั้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นชาวเนเธอร์แลนด์ ฝรั่งเศส อังกฤษ ญี่ปุ่น จีน และชาติอื่น ๆ โดยเฉพาะชาวเปอร์เชีย ซึ่งในช่วงปลายศตวรรษที่ 17 นั้นประวัติศาสตร์ได้บันทึกไว้ว่ามีชาวเปอร์เชีย “หลายพันคน” เข้ามาตั้งหลักแหล่งในสยาม บางคนได้รับราชการเป็นเสนาบดีการคลังก็มี
    ทั้งนี้เมื่อชาวเปอร์เซียได้มาถึงไทยแล้วก็ได้จดบันทึกสิ่งที่พวกเขาพบเห็นไว้เป็นประวัติศาสตร์เสียด้วย โดยบันทึกดังกล่าวนั้นรู้จักกันในชื่อว่า “สำเภากษัตริย์สุลัยมาน” เขียนโดยราชทูตชาวเปอร์เซียที่มาเยือนสยามในปลายศตวรรษที่ 17 มีเนื้อความกล่าวถึงการเดินทาง ภูมิประเทศที่พบเห็น ประเพณีวัฒนธรรมในสยามประเทศ รวมถึงชีวิตของผู้คนในกรุงศรีที่น่าสนในใจ ดังที่ได้คัดย่อมาส่วนหนึ่งดังต่อไปนี้
    ในแผ่นดินสยามนั้น ชาวเมืองไม่มีทรัพย์สมบัติ ไม่มีอำนาจที่จะกล้าพูด ชีวิตเป็นไปอย่างผิวเผิน มักจะเปลือยกายบางส่วน ไม่มีบ้านใหญ่โต แปลกที่ว่าตลอดชีวิตชาวสยามไม่กินน้ำมัน ไม่รีดนม ไม่ทำเนย เขาถือว่าอาหารเหล่านี้เป็นบาป ชาวสยามจึงไม่รู้ว่าต้นไม้อะไรให้ น้ำมัน หรือสัตว์อะไรให้เนย ชาวอิหร่านต้องสั่งเนยมาจากอินเดีย
    เมื่อเร็ว ๆ นี้ตอนที่ทางนี้เตรียมเสบียงไว้ต้อนรับเรานั้น พระเจ้ากรุงสยามเองก็ทรงแปลกพระทัย เพราะหาเนยให้เราได้ไม่พอ พระองค์ ทรงมีรับสั่งให้ชาวเมืองรีดนมวัวนมควายและทําเนย พวกชาวพื้นเมือง ถึงกับตกตะลึง ร้องว่า
    “ไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ของพระเจ้าแผ่นดินองค์ใดที่เกิดมีความทารุณและกดขี่เช่นนี้ เพราะเท่ากับริบน้ำนมสําหรับลูกวัว”
    ชาวสยามกินข้าวเป็นอาหารหลัก ไม่เติมเกลือ เนื้อหรือเครื่องเทศ แต่เขากินกับหัวปลาต้ม แทบทุกชั้นมีอาหารเช่นนี้เป็นหลัก ถ้าพบสัตว์ ที่ตายเอง ไม่ว่าเป็นชนิดใด แม้เป็นวัวแก่ตายแล้วหลายวัน เขาก็จะพา กันแล่เนื้อเอาไปกิน เขาจะไม่ฆ่าสัตว์เพื่อปรุงอาหาร เพราะถือว่าเป็นบาป หนัก ถ้าเขาจะเลี้ยงต้อนรับแขก ก็บีบคอนก (ไก่?) จนมันตาย แล้วก็ เอาไปต้มใส่เครื่องชูรสหรือน้ำมันบ้าง แล้วก็กินกัน
    แม้แต่เวลานี้ก็ยังกินแย้ปิ้งและงู จะเห็นมีวางขายตามตลาด แทนที่จะเห็นเนื้อแกะ อาหารอีกชนิดหนึ่งคือเนื้อเต่า ชาวสยามไม่เว้นกิน สัตว์ทะเลหรือสัตว์ป่า มีชาวสยามพวกหนึ่งกินเนื้อช้างและหมาป่า
    มีอีกพวกหนึ่งเรียกว่า Lavand มีกษัตริย์ปกครองเอง กล่าวกัน ว่าพระองค์ทรงมีพระราชทรัพย์มาก มีเหยี่ยวไว้ล่าสัตว์หลายตัว วันหนึ่ง ต้องใช้ควายถึงสองตัวแล่เนื้อไว้เป็นอาหารของเหยี่ยว
    แม้ว่าชายหญิงชาวสยามและของประเทศใกล้เคียงเมืองจีน ไม่ไว้ผม แต่ท่านจะเห็นชาวพื้นเมือง Lavand มีรูปร่างสวยงาม มาก ยิ่งในหมู่สาวๆ ด้วยแล้วจะเห็นคนสวยอย่างที่มีให้เห็นในเมือง จีน (หรือตุรกี)
    ________________________________________________
    อ้างอิง :
    สำเภากษัตริย์สุลัยมา. (2545). แปลโดย ดิเรก กุลสิริสวัสดิ์. พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพฯ : มติชน.
    นิธิ เอียวศรีวงศ์. (2537). การเมืองไทยสมัยพระนารายณ์. พิมพ์ครั้งที่ 3. กรุงเทพฯ : มติชน.
    จุฬิศพงศ์ จุฬารัตน์. (กุมภาพันธ์, 2542). อกามะหะหมัด ชาวเมืองแอสตาราบัด (Aqa Mahammad Astarabadi) อัครมหาเสนาบดีชาวอิหร่าน ในราชสำนักสมเด็จพระนารายณ์. ศิลปวัฒนธรรม. ปีที่ 20 (ฉบับที่ 4) : หน้า 108
    Articles and pictures by https://www.silpa-mag.com/history/article_38532
    https://www.silpa-mag.com/history/article_23697
    https://www.silpa-mag.com/history/article_43691
     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ญี่ปุ่นเดินทางกลับบ้านติดเชื้อ 3 คน
     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    CDC แจ้งเตือนการเดินทางสำหรับหวู่ฮั่นเป็น "ระดับ 3"
    ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ได้ออกคำเตือนการเดินทางระดับ 3 สำหรับหวู่ฮั่น ประเทศจีน ซึ่งเป็นระดับสูงสุด - - - เมื่อเป็นระดับ 3 ภายในประเทศอื่น ๆ คาดว่าในภายหลังทหารจะมีส่วนร่วมในการรักษาความสงบเรียบร้อย นอกจากนี้ยังคาดว่าอาจมีการกักกันเมืองที่อาจได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการเพิ่มเคอร์ฟิว
    CDC raises travel alert for Wuhan to "Level-3".
    The Center for Disease Control and Prevention (CDC) has issued a level 3 travel warning for Wuhan, China – its highest level. - - - When it becomes a Level-3 within other countries, expect, at a later date, the military to be involved to maintain order. Also expect a possible quarantine of certain cities heavily affected with the addition of a curfew.
     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ตารางด้านล่างแสดงกรณีผู้ป่วยที่มีการยืนยัน coronavirus (2019-nCoV) ในประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ หากต้องการดูแผนที่การกระจายและเส้นเวลาให้เลื่อนลง ปัจจุบันมีผู้ป่วยยืนยันแล้ว 7,814 รายทั่วโลกรวมถึงผู้เสียชีวิต 170 ราย

    upload_2020-1-30_9-27-59.png

    upload_2020-1-30_9-28-36.png

    https://bnonews.com/index.php/2020/01/the-latest-coronavirus-cases/
     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    5 ด่วน! หนทางที่ดีที่สุดควบคุม "ไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่" แพร่ระบาด
    เผยแพร่: 30 ม.ค. 2563 10:09 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

    563000001011701.jpg
    เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจีน เผย วิธีที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ และขอให้ประชาชนเห็นด้วยไปทางเดียวกัน

    วันนี้ (30 ม.ค.) สำนักข่าวซินหัว รายงานว่า เจ้าหน้าที่สาธารณสุขกล่าวในกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ว่า ประชาชนควรเห็นไปในทางเดียวกันว่า การตรวจด่วน , การรายงานด่วน , การกักกันด่วน , การวินิจฉัยด่วน และการรักษาผู้ป่วยด่วน เป็นวิธีที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพสูงสุดในการควบคุมโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่

    อู๋ฮ่าว ผู้อำนวยการศูนย์บริการสุขภาพชุมชนฟางจวงในกรุงปักกิ่งกล่าวในงานแถลงข่าวซึ่งจัดขึ้นโดยคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) ว่า ตามที่สื่อได้รายงานสถานการณ์ของโรคอย่างต่อเนื่อง ประชาชนควรตระหนักถึงความเร่งด่วนในการควบคุมการแพร่ระบาด เนื่องจากการจัดการด้านสุขภาพในชุมชนยังคงต้องการแรงขับเคลื่อนจากสังคมทั้งหมด

    "มาตรการป้องกันและควบคุมที่ครอบคลุมดังกล่าวเป็นหนทางที่ดีที่สุดและมีประสิทธิภาพที่สุดในการป้องกันไม่ให้เชื้อไวรัสแพร่ระบาดเพิ่มขึ้น และจะสามารถควบคุมการแพร่ระบาดได้ในที่สุด" อู๋ กล่าว

    ทั้งนี้ อู๋ยังได้แนะนำวิธีการปฏิบัติในการร่วมกันป้องกันโรค และกล่าวว่ารัฐบาลท้องถิ่นได้ส่งเสริมมาตรการมากมายเพื่อช่วยให้พลเมืองตระหนักว่าความไม่สะดวกสบายในการดำเนินชีวิตประจำวันที่เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว เป็นไปเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนและครอบครัว นอกจากนี้ การให้ความร่วมมือถือเป็นความรับผิดชอบต่อสังคมที่ประชาชนพึงมี

    https://mgronline.com/onlinesection...ujNmQSsz7fAwYnQwDQjDZO1JS_QgxA7BBhWxEB7nsv9Ac
     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    #ไม่มีเรื่องบังเอิญบนโลกใบนี้
    &url=https%3A%2F%2Fwww.infoquest.co.th%2Fwp-content%2Fuploads%2F2020%2F01%2Fsyringe-1884758_1280.jpg
    Bio Terrorist Wartfre (สงครามชีวภาพแบบกองโจร) : ไวรัสโคโรน่าแพร่จากเมืองหวูฮั่น เพราะมีคนจีนไปกินค้างคาว หรือสัตว์ป่าแบบเปิปพิศดารทำให้ติดเชื้อไวรัสที่มีการผสมข้ามพันธุ์ระหว่างค้างคาวกับงู หรือสัตว์ชนิดอื่นๆ เรื่องนี้ไม่น่าจะจริง (มันน่าจะเป็น story ทีวางพล็อตไว้แล้ว) โคโรน่าไวรัสที่กำลังระบาดในจีนเวลานี้ น่าจะมีต้นตอจากห้องแลป?

    อู่ฮั่นตั้งอยู่กลางประเทศจีน เป็น Transportation Hub ทั้งทางบก อากาศ ทางน้ำ และระบบรางรถไฟ เป็นเมืองศูนย์กลางการขนส่งสำคัญที่สุดเมืองนึงของจีน ซึ่งเหมาะมากที่จะกระจายการแพร่ระบาดของเชื้อโรค แถวมาตรงกันวันปีใหม่จีน (ได้สองเด้งเห็นผลใหญ่หลวง) ไม่ต่างกันคนที่โดนดักตีหัวลับหลังจนสลบ แต่หาคนตีไม่ได้ ต้องค่อยๆ หาต้นต่อไป...

    สิทธิบัตรโคโรนาไวรัส CORONA เป็นไวรัสที่จดสิทธิบัตรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ที่สหรัฐ C.I.A เป็นเจ้าของสิทธิบัตร C.I.A. PATENT US7220852B1 – CORONAVIRUS AKA SARS

    แล้วมันหลุดจากห้องแล็บมาระบาดที่จีนได้อย่างไร!? ในสิทธิบัตรด้านล่างเราจะพบหน้าความจริงทั้ง 72 หน้า เพื่อให้คุณสามารถตัดสินได้ว่า การระบาดที่น่ากลัวอย่างกะทันหัน แท้จริงมาจากไหน?

    Link :

    https://patentimages.storage.googleapis.com/…/US7220852.pdf…

    ----------------------------------------------

    https://prepareforchange.net/…/c-i-a-patent-us7220852b1-c…/…

    ----------------------------------------------

    ปริศนา? อะไรเอ่ย... ที่เห็นนิ่งๆ เพราะอาจมีวัคซีนรออยู่แล้ว ถ้าไม่มีอยู่ในมือ คงร้องแรกแหกกระเชิงไปตามสไตร์เค้าแหละ!

    คำที่น่าค้นหา >>> #Event201

    * (ความคิดส่วนตัวแอดมิน ไม่ต้องเชื่อตามก็ได้นะครับ แค่ตั้งกระทู้ให้คิดสงสัย)
     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวฮ่องกง

    ชาวฮ่องกงแตกตื่น กักตุนสินค้าตามซุปเปอร์สินค้า

    ผู้คนในฮ่องกงต่างกังวลในสถานการณ์โคโรน่าไวรัสระบาดจะรุนแรงขึ้นในช่วงสัปดาห์หน้า และต่างพากันไปซื้อสินค้าประเภทอาหาร และของใช้จำเป็นจนหมดสต๊อก

    ก่อนหน้านี้ หน้ากากก็ได้ถูกขายไปจนหมดเกลี้ยงหลังจากที่ทางการฮ่องกงยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายแรกเมื่อวันพฤหัสบดีสัปดาห์ที่แล้ว หน้ากากอนามัยถูกอัพราคาขายเฉลี่ย 2 เท่า และจะเห็นผู้คนเต็มใจที่จะเข้าแถวต่อคิวมากกว่า 2 ชั่วโมงเพื่อที่จะรอซื้อหน้ากากอนามัยที่ร้าน Watson

    ซุปเปอร์มาร์เก็ตใหญ่หลายร้านไม่มีสินค้าเหลือ ผู้คนบางส่วนเลยหันไปซื้ออาหารของนำเข้าออนไลน์จากไต้หวัน ญี่ปุ่น ไทย และมาเลย์เซียแทน

    นอกจากนี้หลายคนก็ตุนพวกข้าว บะหมี่ อาหารแช่แห่แข็งหเนื่องจากต้องทำงานที่บ้านแทนจนถึงวันศุกร์นี้ ในขณะที่เด็กๆ ก็มีวันหยุดยาวไปจนถึง 16 กุมภาพันธ์

    นอกจากนี้ สินค้าประเภทฆ่าเชื้อต่างๆ เช่น เดทตอล ก็ถูกกว้านซื้อไปเช่นกัน

    Source : https://www.asiatimes.com/2020/01/a...QsbKzwXbKsXtsJfSln7E9LWi5aickmQ-TdMsySWw6PlVw

    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

    78326_2407942761320808448_n.jpg?_nc_cat=105&_nc_ohc=h4jht-kawRgAX-of4qy&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg

    44992_8348814165929885696_n.jpg?_nc_cat=107&_nc_ohc=Ulo2bcAcT2oAX9J3Tpv&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg

    11650_8273957232467509248_n.jpg?_nc_cat=102&_nc_ohc=v293dElbGKEAX_udP6C&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg
     
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ข่าวฮ่องกง
    ·
    เนติเซนฮ่องกงออกเตือน! ระวังหน้ากากอนามัยใช้แล้วย้อมแมวขาย
    51351_8568027651745251328_n.jpg?_nc_cat=110&_nc_ohc=Nng46DOCufgAX_s_cSa&_nc_ht=scontent.fbkk10-1.jpg
    เมื่อเร็วๆ นี้ เนติเซนหลายคนอ้างว่าเขาได้ซื้อหน้ากากอนามัยจาก Sha Tin และ Yuen Long แต่กลับพบว่ามีสภาพเหมือนมือสองที่ผ่านการใช้งานมาแล้ว ทั้งมีคราบและดูไม่สะอาด

    เพื่อความปลอดภัย เนติเซนแนะนำให้ทำลายหน้ากากอนามัยที่ใช้แล้วทุกครั้ง เช่น ตัดหน้ากาก, ตัดสายคล้องหน้ากาก, วาดรูป หรือเผาที่เตาเผาเพื่อป้องกันการนำมาขายซ้ำ

    Source : Facebook@Niki tsoi tsoi,


    #ข่าวฮ่องกง #khaohongkong

     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พรรคพลังประชารัฐ

    #ปิดประเทศ
    อพยพคน...เป็นเรื่องใหญ่

    กรณีที่มีกระแสเรียกร้องให้รัฐบาลอพยพคนไทยในประเทศจีนกลับด่วน และปิดประเทศหยุดรับนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้ามาในช่วงนี้เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 เรื่องนี้ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงหลาย ๆ คน มองตรงกันว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะต้องมีเหตุผลเพียงพอแล้วจริง ๆ ถึงจะดำเนินมาตรการที่ส่งผลกระทบระดับสูงแบบนี้ได้ สอดคล้องกับคำสัมภาษณ์ของนายเทดรอส อัดฮาโนม กีเบรเยซัส ผู้อำนวยการใหญ่องค์การอนามัยโลก (WHO) ที่ล่าสุดเดินทางไปเยือนกรุงปักกิ่ง เมืองหลวงสาธารณรัฐประชาชนจีน แสดงความมั่นใจกับรอยเตอร์ว่า จีนยังสามารถกักกันโรคไวรัสโคโรนาดังกล่าวไม่ให้แพร่กระจายได้ดี ดังนั้นจึงไม่สนับสนุนการอพยพของชาวต่างชาติในจีน และขอให้ทุกคนอย่าตื่นตระหนกเกินความเป็นจริง

    ไทยตรวจพบคนติดเชื้อเพิ่ม ... ไม่ได้หมายความว่าควบคุมไม่ได้

    ในส่วนของประเทศไทยเรา การตรวจพบผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็น 14 ราย ไม่ได้หมายความว่าเกิดการแพร่ระบาดที่ไม่สามารถควบคุมได้ แต่เกิดจากประสิทธิภาพด้านการคัดกรองโรคของไทยที่ดีเยี่ยม แม้จะเป็นไวรัสสายพันธุ์ใหม่ยังไม่มียารักษาและไม่มีวัคซีนป้องกัน แต่แพทย์ของไทยได้รักษาตามอาการเพื่อให้ร่างกายปรับสภาพและสร้างภูมิคุ้มกันขึ้นมา จนมีค่าติดเชื้อเป็นลบ สามารถกลับบ้านได้แล้ว 5 ราย ส่วนรายอื่น ๆ ก็รักษาตามแนวทางดังกล่าวเช่นกัน และขณะนี้ไม่ปรากฎว่ามีผู้ป่วยรายใดอยู่ในขั้นวิกฤตแม้แต่รายเดียว ทุกคนมีอาการดีขึ้นตามลำดับ !!

     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ้ายจง

    #อัพเดท "ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ในจีน พุ่งถึง อย่างน้อย 7,771 ราย เสียชีวิต 170ราย(นอกอู่ฮั่นและหูเป่ย 8ราย ) และออกจากรพ.แล้ว 126ราย"
    .
    สำหรับผู้เสียชีวิตยังคงอายุเฉลี่ย 60+ ขึ้นไปและส่วนใหญ่มีโรคประจำตัว และตอนนี้มีผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อทั่วจีน 12,167ราย โดยจีนได้เฝ้าระวังและสอบสวนโรคผู้ที่ใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อและผู้ที่มีความเสี่ยงไปแล้ว 88,693ราย
    .
    ข้อมูลผู้ติดเชื้อในจีน แบ่งตามพื้นที่ ณ 29มกราคม 2563 เวลา 07.25น. ตามเวลาประเทศไทย

    (สำหรับตัวเลขที่แบ่งตามพื้นที่เป็นข้อมูลอัพเดทเท่าที่มีตอนนี้ครับ อาจจะไม่อัพเดทที่สุด )

    - มณฑลหูเป่ย 4,586ราย (รวมอู่ฮั่น ) เสียชีวิต 162ราย ออกจากรพ.90ราย

    - ปักกิ่ง 111ราย เสียชีวิต1ราย ออกจากรพ. 4ราย

    - กว่างตง 277ราย (รวมกว่างโจว,เซินเจิ้น,จูไห่) ออกจากรพ. 6ราย

    - เซี่ยงไฮ้ 96ราย เสียชีวิต 1 ราย ออกจากรพ.5ราย

    - เจ้อเจียง 296ราย ออกจากรพ.4ราย

    - หยุนหนาน 55ราย (รวมคุนหมิง,ต้าหลี่,ลี่เจียง,สิบสองปันนา,เต๋อหง)

    - ซื่อชวน 108ราย เสียชีวิต1ราย ออกจากรพ.1ราย

    - ซานตง 121ราย ออกจากรพ. 1ราย

    - กว่างซี 58ราย ออกจากรพ. 2 ราย

    - กุ้ยโจว 9ราย ออกจากรพ.1ราย

    - อันฮุย 152ราย ออกจากรพ. 2ราย

    - ไห่หนาน 43ราย เสียชีวิต1ราย ออกจากรพ.1ราย

    - หนิงเซี่ย 12ราย

    - ฝูเจี้ยน 84ราย

    - เจียงซี 162ราย ออกจากรพ.3 ราย

    - เทียนจิน 27 ราย

    - เหอหนาน 206 ราย เสียชีวิต 2 ราย ออกจากรพ.1ราย

    - ฉงชิ่ง 165ราย ออกจากรพ.2ราย

    - ซานซี 35ราย ออกจากรพ.1ราย

    - หูหนาน 221 ราย

    - เหลียวหนิง 39ราย ออกจากรพ.1ราย

    - เหอเป่ย 48ราย เสียชีวิต1ราย

    - จี๋หลิน 9 ราย

    - ซินเจียง 13 ราย

    - ส่านซี 56ราย (รวมซีอาน)

    - ไต้หวัน 8 ราย

    - มาเก๊า 7ราย

    - มณฑลเจียงซู 99ราย (รวม เมืองหนานจิง, เมืองซูโจว) ออกจากรพ. 1ราย

    - กานซู่ 24 ราย

    - เฮยหลงเจียง 38ราย (รวมเมืองฮาร์บิน เมืองเอกของมณฑลนี้ ) เสียชีวิต1ราย

    - เน่ยเหมิงกู่ (เขตปกครองตนเองมองโกเลียใน) 16 ราย

    - ฮ่องกง 10ราย

    - ชิงไห่ 6ราย

    - ทิเบต 1ราย

    ทิเบตมีผู้ติดเชื้อแล้ว ทำให้ตอนนี้จีนมีผู้ติดเชื้อครบทุกพื้นที่ระดับมณฑล-มหานคร-เขตปกครองตนเองและเขตปกครองพิเศษในจีนแล้ว

    นอกจากนี้มีรายงานว่า ในจีน รักษาและออกจากรพ.แล้ว 126รายเป็นอย่างน้อย รวมคุณยายวัย87ปีที่อู่ฮั่น มณฑลหูเป่ย

    .

    สำหรับนอกจีน มีผู้ติดเชื้อดังนี้

    - ไทย 14 ราย (รักษาและออกจาก รพ. 6 ราย)
    - เกาหลีใต้ 4ราย
    - ญี่ปุ่น 8 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
    - สิงคโปร์ 10 ราย
    -มาเลเซีย 7 ราย
    -เวียดนาม 2 ราย
    -อเมริกา5 ราย (รักษาและออกจากรพ. 1ราย)
    -ออสเตรเลีย 5 ราย
    -เนปาล 1 ราย
    -ฝรั่งเศส 5 ราย
    - แคนาดา 2ราย
    -เยอรมัน 4ราย
    -กัมพูชา1 ราย
    - ศรีลังกา 1 ราย
    - ฟินแลนด์ 1ราย
    -แองโกลา 1ราย

    อ้ายจงรวบรวมข้อมูลจาก
    -
    https://voice.baidu.com/act/newpneumonia/newpneumonia

    - Weibo:央视新闻, 人民日报

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    อ้ายจง

    จีนยืนยัน "พบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาชนิดใหม่ รายแรกในทิเบตแล้ว" ทำให้ตอนนี้ "จีนมีผู้ติดเชื้อครบทุกพื้นที่" ในระดับมณฑล-มหานคร-เขตปกครองตนเองและเขตปกครองพิเศษของจีนแล้ว

    #อ้ายจง #เล่าเรื่องเมืองจีน #ชีวิตในจีน

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,319
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

    หวู่ฮั่น ว่ากันว่าพวกเขากักขัง เพื่อนบ้านที่ติดเชื้อ coronavirus ในบ้าน









     

แชร์หน้านี้

Loading...