ติดตามสถานะการณ์

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย สุกิจSukit, 8 มิถุนายน 2013.

  1. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ประชุมโลกร้อนล้มเหลว!!!

    นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่า "ประเทศที่ปล่อยก๊าซเรือนกระจกที่ใหญ่ที่สุดในโลกส่วนใหญ่ต่างก็แก้ปัญหาอย่างขาดๆ เกินๆ แถมยังขัดขืนที่จะยกระดับความพยายามลดการปล่อยก๊าซ"
    https://www.posttoday.com/world/609265

     
  2. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นักฟิสิกซ์โนเบลเตือน!!
    “เราไม่มีทางหนีโลกพ้นนอกจากรักษาเอาไว้”

    นักฟิสิกส์ผู้ค้นพบดาวเคราะห์นอกระบบและผู้ได้รับรางวัลโนเบลฟิสิกส์ปีล่าสุด แสดงความเห็นระหว่างการบรรยายพิเศษก่อนเข้ารับพระราชทานรางวัล ว่าหากโลกเราอยู่ในสภาพที่อาศัยอยู่ไม่ได้แล้ว เราก็ไม่มีทางหนีรอดไปได้ มีทางเลือกเดียวคือเราต้องดูแลโลกใบนี้เท่านั้น

    ตามธรรมเนียมก่อนพิธีพระราชทานรางวัลโนเบล ที่จัดขึ้นในวันที่ 10 ธ.ค.ของทุกปี ณ ออสโลซิตี ฮอลล์ นอร์เวย์ นักวิทยาศาสตร์และผู้ได้รับรางวัลโนเบลจะร่วมบรรยายพิเศษในช่วงสัปดาห์โนเบล (โนเบล) โดยบรรยายพิเศษที่เกี่ยวข้องกับผลงานของผู้ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติ

    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/science/detail/9620000117672

    #โลก #รางวัลโนเบลฟิสิกส์ #วิทยาศาสตร์ #โลกร้อน #รักษ์โลก

     
  3. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan

    รูปร่างวงกลมลึกลับขนาดใหญ่ที่สร้างขึ้นในชายหาด mangroves ของ ciudad del carmen campeche เม็กซิโกบน dec10 2019.


    นี่คือกิจกรรม หรือไม่?

    คุณคิดว่าไง?


    จากวิดีโอนี้ฉันแน่ใจว่านี่เป็นเหตุการณ์ที่ร้ายแรงเพราะพวกเขาใช้เฮลิคอปเตอร์เพื่อตรวจสอบสถานที่ของมัน (รัฐบาลหรือทหาร)

    ฉันคุ้นเคยกับเฮลิคอปเตอร์นี้มากมันคือเฮลิคอปเตอร์ bell412


     
  4. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุแผ่นดินไหวรุนแรงทางตอนใต้ของฟิลิปปินส์ขยับเพิ่มเป็น 3 รายวันนี้ (16 ธ.ค.) ขณะที่หน่วยกู้ชีพใช้ทั้งเครื่องจักรกลหนักและมือเปล่าค้นหาเหยื่อซึ่งอาจจะยังติดอยู่ใต้ซากอาคารที่พังถล่ม

    คลิก>>https://mgronline.com/around/detail/9620000119642

    #MGROnline

     
  5. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ธุรกิจแดนมังกรไม่สนข้อตกลงการค้าเฟส 1
    เดินหน้าปลดแอกเศรษฐกิจเลิกพึ่งอเมริกา
    .
    แม้ที่สุดแล้วจีน-อเมริกาสามารถบรรลุข้อตกลงเฟส 1 แต่ไม่ได้หมายความว่า สงครามการค้ากำลังจะถึงจุดจบ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อพิจารณาจากนิสัยส่วนตัวของทรัมป์ที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ ดังนั้น ทางเลือกที่ดีที่สุดของจีนคือ การพยายามต่อไปเพื่อยุติการพึ่งพิงอเมริกาที่แม้เป็นหนึ่งในหุ้นส่วนเศรษฐกิจใหญ่ที่สุด แต่ก็เป็นศัตรูร้ายกาจที่สุดเช่นเดียวกัน
    .
    หลังจากประลองกำลังกันด้วยภาษีศุลกากรสลับกับการพยายามเจรจาแก้ไขข้อพิพาทกันมาเกือบสองปี อยู่ๆ เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (13) อเมริกาตกลงยกเลิกแผนการขึ้นภาษีศุลกากรสินค้าจีนมูลค่า 160,000 ล้านดอลลาร์ที่เดิมเตรียมบังคับใช้ในวันอาทิตย์ (15) รวมทั้งลดขนาดการรีดภาษีอื่นๆ ก่อนหน้านี้โดยมีผลทันที ขณะที่จีนตกลงซื้อสินค้าและบริการของอเมริกาเพิ่มอีก 200,000 ล้านดอลลาร์ภายใน 2 ปี
    .
    อ่านต่อ>>https://mgronline.com/around/detail/9620000119556
    #mgronline #ธุรกิจ #เศรษฐกิจ #จีน #ไม่สนข้อตกลงการค้าเฟส1 #อเมริกา #สงครามการค้า #ปลดแอก

     
  6. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    พุทธศาสนิกชนจำนวนมากร่วมพิธีอัญเชิญ “พระบรมเกศาธาตุ” ครั้งประวัติศาสตร์จากศรีลังกา ประดิษฐานวัดบวรนิเวศวิหาร
    .
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    -------------------------------

     
  7. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหลายตัว บ่งบอกว่า "คนไทย" ขาดความเชื่อมั่นอย่างหนักในเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ขณะที่ "ต่างชาติ" อย่างเอสแอนด์พี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก กลับปรับระดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น
    ----
    'ต่างชาติ' มั่นใจเศรษฐกิจไทย เหตุใด 'คนไทย' กลับไม่เชื่อ
    16 ธันวาคม 2562

    ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหลายตัว บ่งบอกว่า "คนไทย" ขาดความเชื่อมั่นอย่างหนักในเศรษฐกิจของตัวเอง แต่ขณะที่ "ต่างชาติ" อย่างเอสแอนด์พี บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก กลับปรับระดับความน่าเชื่อถือมากขึ้น

    ดัชนีความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจหลายๆ ตัว บ่งชี้ว่า "คนไทย" ขาดความเชื่อมั่นอย่างหนักในเศรษฐกิจของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็น "ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค" หรือ "ดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจ" โดยในส่วนของดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ล่าสุดของเดือน พ.ย.2562 ปรับลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 9 มาอยู่ที่ระดับ 69.1 เป็นระดับต่ำสุดรอบ 67 เดือน นับตั้งแต่ปี 2559 แม้ว่าในเดือนดังกล่าวจะเริ่มได้อานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาล เช่น มาตรการชิมช้อปใช้ โดยสาเหตุที่ดัชนีดังกล่าวปรับลดลง เนื่องจากผู้บริโภคกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวช้าและเสถียรภาพการเมืองในอนาคต
    ด้านดัชนีความเชื่อมั่นทางธุรกิจเดือน พ.ย.2562 ปรับลดลงจากเดือนก่อนหน้ามาอยู่ที่ 47.4 ผลจากความเชื่อมั่นที่ลดลงในภาคการผลิต โดยดัชนีภาคการผลิตปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบและอยู่ต่ำกว่าระดับ 50 เป็นเดือนที่ 8 ติดต่อกัน สะท้อนถึงภาวะการผลิตโดยรวมที่ยังแย่ลงต่อเนื่อง มองไปในอีก 3 เดือนข้างหน้า ดัชนีดังกล่าว ยังคงลดลงมาอยู่ที่ 52.7 จากมุมมองเชิงบวกที่ลดลงทั้งในภาคการผลิตและภาคที่ไม่ใช่การผลิต ซึ่งดัชนีย่อยปรับลดลงในเกือบทุกองค์ประกอบ โดยเฉพาะด้านปริมาณการผลิตและผลประกอบการ นำโดยกลุ่มก่อสร้างและกลุ่มผลิตเครื่องจักรและอุปกรณ์ สอดคล้องกับการลงทุนในธุรกิจดังกล่าวที่ยังไม่ฟื้นตัว
    ส่วนดัชนีความเชื่อมั่นด้านอื่นๆ เช่น ดัชนีความเชื่อมั่นด้านคำสั่งซื้อของลูกค้าในประเทศเดือน พ.ย. ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 6 โดย "อุปสงค์ในประเทศ" ยังคงเป็นข้อจำกัดสำคัญในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลต่อความไม่แน่นอนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจเพิ่มขึ้นมาก ส่วนหนึ่งสะท้อนจากความเชื่อมั่นด้านผลประกอบการที่มีแนวโน้มลดลง เช่นเดียวกับความเชื่อมั่นด้านการจ้างงานที่ปรับลดลงในช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา โดยเฉพาะในภาคการผลิต

    อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางดัชนีความเชื่อมั่นต่างๆ ที่ลดลง แต่กลับมีข่าวว่า "เอสแอนด์พี" บริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือชั้นนำระดับโลก "ปรับมุมมอง" ความน่าเชื่อถือของเศรษฐกิจไทย "เพิ่ม" จากระดับ "มีเสถียรภาพ" เป็น "เชิงบวก" ซึ่งเป็นการปรับเพิ่มครั้งแรกรอบ 9 ปี โดย "เอสแอนด์พี" ให้เหตุผลหลัก คือ ฐานการคลังและการเงินของประเทศเข้มแข็ง ทำให้รัฐบาลยังสามารถขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์ที่สำคัญได้อีกมาก รวมทั้งในช่วงที่ผ่านมายังดำเนินนโยบายได้อย่างเหมาะสมด้วย ขณะเดียวกันไทยยังมียุทธศาสตร์การลงทุนเพื่อยกระดับประเทศที่สำคัญ โดยเฉพาะด้านโครงสร้างพื้นฐาน และ เอสแอนด์พี ก็ยังมองภาพการเมืองไทยมีเสถียรภาพดี
    นอกจาก "เอสแอนด์พี" ที่ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยสู่เชิงบวกแล้ว ก่อนหน้านี้ไม่นาน ทั้ง "ฟิทช์ เรทติ้ง" และ "มูดี้ส์" ซึ่งเป็นบริษัทเครดิตเรทติ้งระดับโลก ก็ได้ปรับมุมมองเศรษฐกิจไทยสู่เชิงบวกด้วยเช่นกัน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีบริษัทจัดอันดับความน่าเชื่อถือบางแห่ง คือ "อาร์แอนด์ไอ" ได้ปรับอันดับความน่าเชื่อถือของไทยดีขึ้นจากระดับ BBB- เป็น A-
    ทั้งหมดนี้สะท้อนถึง "ความเชื่อมั่น" ของ "ต่างชาติ" ที่มีต่อเศรษฐกิจไทย แล้วอย่างนี้ทำไมคนไทยถึงยังไม่เชื่อมั่นในเศรษฐกิจของตัวเอง ...ประเด็นนี้จึงถือเป็นโจทย์ใหญ่ที่รัฐบาลต้องคิดและทบทวนวิธีการที่จะฟื้นความเชื่อมั่นให้กลับคืนมา หากปล่อยไว้นานจะยิ่งดึงเศรษฐกิจไทยดิ่งลงเหวมากขึ้น
    .
    .
    .
    #กรุงเทพธุรกิจ #กรุงเทพธุรกิจออนไลน์
    ----------------------------------------
    ติดตาม "กรุงเทพธุรกิจ" ผ่านช่องทางต่างๆ ได้ที่
    Line: https://line.me/R/ti/p/@rvb8351i
    Twitter: https://twitter.com/ktnewsonline
    Website : http://www.bangkokbiznews.com
    Youtube: https://www.youtube.com/user/KrungthepTurakij

     
  8. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    สำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียเผยตั้งแต่กลางสัปดาห์หน้า (18 ธ.ค.) ออสเตรเลียจะมีคลื่นความร้อนหลายพื้นที่ คาดอุณหภูมิสูงสุดมีโอกาสทำลายสถิติปี 2503 ที่เคยแตะระดับ 50.7 องศาเซลเซียส
    สำนักอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลีย หรือ บีโอเอ็ม รายงานว่า ตั้งแต่วันพุธ (18 ธ.ค. 2562) เป็นต้นไป อุณหภูมิในหลายพื้นที่ของออสเตรเลียอาจสูงทะลุ 40 องศาเซลเซียส
    นอกจากนี้ คลื่นความร้อนที่มาจากฝั่งตะวันตกของประเทศยังอาจทำให้ออสเตรเลียประสบกับอุณหภูมิที่สูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ ซึ่งสถิติอุณหภูมิที่ร้อนที่สุดของออสเตรเลียเคยแตะที่ 50.7 องศาเซลเซียส เมื่อวันที่ 2 มกราคม 2503 ณ ออดนาดาตา เมืองชนบทห่างไกลในออสเตรเลียตอนใต้

    'ไดอานา เอดีย์' นักอุตุนิยมวิทยาของบีโอเอ็ม คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะอุ่นขึ้นอย่างรุนแรงในช่วงสัปดาห์หน้า และอาจจะมีการทำลายสถิติความร้อนในหลายพื้นที่ทางตอนใต้ของออสเตรเลียในช่วง 7 วันข้างหน้า
    "มันเป็นไปได้ที่เราจะร้อนจนทำลายสถิติ" ไดอานา กล่าว

    ทั้งนี้ อุณหภูมิของแต่ละเมืองจะมีแนวโน้มสูงต่อเนื่อง อาทิ ในเมืองเพิร์ธทางตะวันตกของออสเตรเลีย มีการคาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะคงตัวสูงอยู่ในช่วงวันธรรมดา และพุ่งไปแตะ 40 องศาเซลเซียส ในวันเสาร์ที่ 21 ธ.ค. และ 41 องศาเซลเซียสในวันอาทิตย์ที่ 22 ธ.ค. ขณะที่อุณหภูมิในเมืองเมลเบิร์น จะขึ้นไปแตะ 41 องศาเซลเซียส ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 20 ธ.ค. เป็นต้นไป

    อย่างไรก็ดี ล่าสุด รัฐบาลออสเตรเลียได้ติดป้ายเตือนการเกิดไฟป่าในเขตออสเตรเลียตอนกลางและรัฐควีนส์แลนด์แล้ว
    อ้างอิง; BBC, Daily Mail, Independent

     
  9. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk

    ไฟป่า ที่เรียกว่า บุชไฟเออร์ยังคงเดือดดาลทั่วประเทศออสเตรเลียคุกคามบ้านเรือนทั้งสองฝั่ง


    ข่าวทั่วโลก

    15 ธันวาคม 2019


    Bushfires continue to rage across Australia, threatening homes on both coasts.


    Global News

    Dec 15, 2019


     
  10. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แผ่นดินไหวขนาด 5 ที่ตำบลหนานอ้าวเมืองอี๋หลาน (宜蘭縣南澳鄉) เมื่อเวลา 19.25 น. ชาวไทเปสะดุ้งเฮือก...#RtiFanpage

     
  11. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    แพทย์เตือน "โรคพยาธิชอนไชผิวหนัง" กำลังระบาด แนะอย่าเดินเท้าเปล่า-สัมผัสดินที่เปื้อนมูลสัตว์

     
  12. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ฟอสซิลชี้ปรากฏการณ์หินเคลื่อนที่ได้เอง มีมาตั้งแต่ 200 ล้านปีก่อน
    15 ธันวาคม 2019

    ปรากฏการณ์ประหลาดที่หินทั้งก้อนเล็กก้อนใหญ่สามารถเคลื่อนที่ได้เองบนพื้นทะเลสาบ "ลู่วิ่ง" หรือเรซแทร็ก พลายา (Racetrack Playa) ที่เหือดแห้งไปแล้วในทะเลทรายหุบเขามรณะ (Death Valley) ของรัฐแคลิฟอร์เนีย ทำให้หินเหล่านี้ได้รับฉายาว่า "หินแล่น" (Sailing stone) เพราะเคลื่อนที่เองเหมือนแล่นเรือใบออกไปได้ไกลอย่างเหลือเชื่อ
    นักวิทยาศาสตร์เพิ่งพบสาเหตุที่ "หินแล่น" สามารถเคลื่อนที่ได้เองในปี 2014 และล่าสุดยังพบว่าปรากฏการณ์นี้มีความเก่าแก่ เพราะเคยเกิดขึ้นมาแล้วอย่างน้อยเมื่อ 200 ล้านปีก่อน เนื่องจากซากฟอสซิลชิ้นหนึ่งมีร่องรอยของหินแล่นอยู่ร่วมกับรอยเท้าไดโนเสาร์จากยุคเดียวกัน

    ศาสตราจารย์พอล ออลเซน นักบรรพชีวินวิทยาจากมหาวิทยาลัยโคลัมเบียของสหรัฐฯ นำเสนอผลการศึกษาซากฟอสซิลดังกล่าวในที่ประชุมสหภาพธรณีฟิสิกส์อเมริกัน (AGU) เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยชี้ว่าร่องรอยที่ปรากฏเป็นทางยาวอยู่ข้างรอยเท้าของบรรพบุรุษไดโนเสาร์จำพวกซอโรพอด (Prosauropod) เป็นร่องรอยของหินแล่นที่ไม่เคยมีผู้สังเกตเห็นมาก่อน แม้ว่าจะมีการค้นพบฟอสซิลชิ้นนี้และนำออกแสดงในพิพิธภัณฑ์ตั้งแต่ปี 1896 แล้วก็ตาม

    ย้อนไปเมื่อปี 2014 ริชาร์ดและเจมส์ นอร์ริส นักวิทยาศาสตร์จากสถาบันสมุทรศาสตร์สคริปส์ (SIO) ของสหรัฐฯ ได้ค้นพบกระบวนการทางธรรมชาติที่ทำให้เกิดหินแล่นอันน่าพิศวงขึ้น โดยพวกเขาติดเครื่องบอกพิกัดจีพีเอสเข้ากับหินดังกล่าว จนทราบว่าหินแล่นไปได้เพราะน้ำฝนที่ตกลงมาในฤดูหนาว จับตัวเป็นผืนน้ำแข็งที่มีความหนาพอเหมาะอยู่ด้านล่างของก้อนหินในเวลากลางคืน

    ผืนน้ำแข็งนี้จะแตกออกเป็นแผ่นที่เล็กลงและละลายตัวเล็กน้อยเมื่อต้องแสงแดดยามเช้า ทำให้เมื่อมีลมแรงพัดมา หินจะเคลื่อนที่ไปบนแผ่นน้ำแข็งที่ไถลตัวบนพื้นโคลนเปียกด้วยแรงลมได้ แม้หินบางก้อนจะมีน้ำหนักมากถึง 320 กิโลกรัมก็ตาม โดยจะทิ้งร่องรอยเป็นทางยาวเหมือนลู่วิ่งไว้ให้เห็น เมื่อน้ำระเหยแห้งไปจากพื้นโคลนแล้ว

    ฟอสซิลรอยเท้าไดโนเสาร์ที่มีแนวของหินเคลื่อนที่เองได้ประทับอยู่ด้วยImage copyrightR.S. LULL
    คำบรรยายภาพ

    ศ. ออลเซนชี้ว่า กระบวนการเกิดหินแล่นในยุคดึกดำบรรพ์นั้นก็น่าจะเป็นเช่นเดียวกัน โดยสภาพภูมิอากาศแปรปรวนอาจทำให้แหล่งที่มาของฟอสซิลดังกล่าวในพื้นที่รัฐคอนเนตทิคัต ซึ่งในยุคโบราณน่าจะมีสภาพอากาศอบอุ่นแบบเส้นศูนย์สูตร เกิดหนาวเย็นลงอย่างมากชั่วคราว

    นักวิทยาศาสตร์พบสาเหตุที่หินก้อนใหญ่หลายก้อนสามารถเคลื่อนที่ได้เองเหมือนแล่นไปบนพื้นดิน ในปี 2014Image copyrightGETTY IMAGES
    คำบรรยายภาพ

    " เหตุภูเขาไฟระเบิดครั้งใหญ่ที่ทำให้บรรยากาศโลกมืดมัวและหนาวเย็นลง จนเกิดการสูญพันธุ์ของสิ่งมีชีวิตครั้งมโหฬารในช่วงระหว่างยุคไตรแอสสิก-จูราสสิก อาจทิ้งหลักฐานไว้ให้เราได้เห็น ในรูปของร่องรอยหินแล่นในซากฟอสซิลนี้ก็เป็นได้" ศ. ออลเซนกล่าว

     
  13. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ผลการสำรวจทำแผนที่ภูมิประเทศของทวีปแอนตาร์กติกาครั้งใหม่ เผยให้เห็นหุบเหวใต้ธารน้ำแข็งเดนแมน (Denman Glacier) ซึ่งมีความลึกถึง 3.5 กิโลเมตรจากระดับน้ำทะเล ทำให้จุดดังกล่าวกลายเป็นจุดที่ต่ำที่สุดบนผืนแผ่นดินของโลก และมีเพียงบรรดาร่องลึกก้นสมุทรเท่านั้นที่จะอยู่ในพิกัดตำแหน่งที่ต่ำกว่านี้

    หุบเหวใต้ธารน้ำแข็งดังกล่าว ตั้งอยู่ทางตะวันออกของทวีปแอนตาร์กติกาหรือ "ทวีปสีขาว" ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ถูกปกคลุมไปด้วยน้ำแข็ง ทำให้ก่อนหน้านี้ไม่อาจจะทราบได้แน่ชัดว่า มีหุบเหวดังกล่าวตั้งอยู่หรือไม่และมีความลึกมากน้อยเพียงใด

    การค้นพบครั้งนี้นับว่าเป็นสถิติที่สำคัญอย่างยิ่ง เพราะแม้แต่พื้นที่เปิดโล่งที่ต่ำที่สุดในโลกอย่างฝั่งทะเลสาบเดดซี (Dead Sea)ก็ยังต่ำกว่าระดับน้ำทะเลเพียง 413 เมตร ส่วนหุบเหวยาร์ลุงซังโป (Yarlung Tsangpo Grand Canyon )ในทิเบต แม้จะมีความลึกสูงสุด 6 กิโลเมตร แต่ก็ตั้งอยู่ในพิกัดตำแหน่งที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลมาก

    มีการตีพิมพ์รายละเอียดของการสำรวจครั้งนี้ในวารสาร Nature Geoscience โดยโครงการ BedMachine Antarctica ของมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย วิทยาเขตเออร์ไวน์ในสหรัฐฯ ผู้ดำเนินการสำรวจครั้งล่าสุดระบุว่า ได้ใช้เทคนิคการคำนวณตามกฎการอนุรักษ์มวลทางฟิสิกส์ เข้ามาช่วยในการคาดคะเนลักษณะภูมิประเทศใต้ผืนน้ำแข็ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงที่มีความลึกและแคบเป็นพิเศษอย่างเช่นหุบเหวใต้ธารน้ำแข็งเดนแมน เนื่องจากสัญญาณเรดาร์ที่ใช้สำรวจเกิดการสะท้อนเสียก่อนจะเข้าไปถึงก้นบึ้งของหุบเหว

    ดร.เอ็มมา สมิธ หนึ่งในทีมผู้สำรวจอธิบายวิธีการดังกล่าวว่า "ถ้าทดลองเทกากน้ำตาลเหนียวลงบนพื้นผิวเรียบ ลักษณะการไหลกระจายตัวออกจากศูนย์กลาง จะแตกต่างอย่างมากกับการเทมันลงบนพื้นผิวขรุขระ หรือพื้นผิวที่มีระดับความสูงต่ำไม่สม่ำเสมอ"

    "เช่นเดียวกันกับธารน้ำแข็งที่ปกคลุมหุบเหวนี้ไว้ หากเราทราบว่ามีปริมาณน้ำแข็งเคลื่อนตัวเข้ามาในหุบเขาแคบ ๆ มากน้อยแค่ไหน และธารน้ำแข็งนั้นเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่าใด ก็จะทราบได้ถึงปริมาตรของน้ำแข็งที่ลงไปถมหุบเหวใต้ธารน้ำแข็งนั้น รวมทั้งขนาดความกว้างและความลึกของมันด้วย"

    นอกจากการค้นพบจุดที่ต่ำที่สุดบนแผ่นดินแล้ว โครงการสำรวจภูมิประเทศใต้ผืนน้ำแข็งของทวีปแอนตาร์กติกาครั้งนี้ ยังช่วยให้ทราบถึงจุดที่ธารน้ำแข็งและหิ้งน้ำแข็งในมหาสมุทรเสี่ยงอันตรายต่อภาวะโลกร้อนอีกด้วย

    "พื้นที่ซึ่งมีแนวหินยกสูงขึ้นเป็นสัน จะช่วยชะลอความเร็วของธารน้ำแข็งที่ไหลลงทะเล ทำให้ธารน้ำแข็งละลายและหดตัวสั้นลงช้ากว่า เมื่อเทียบกับจุดที่พื้นหินลาดลงโดยไม่มีสิ่งกีดขวาง" ทีมผู้ทำการสำรวจระบุ

     
  14. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ด่วน !ระวังกันด้วย แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์ ออกมาลอยนวลอยู่ในสังคมแล้ว
    วันี้ สภ.กระนวน จ.ขอนแก่น รับแจ้งเหตุคนถูกฆ่าตายและไปตรวจที่เกิดเหตุก็พบศพ นางรัศมี มุลิจันทร์ อายุ 51 ปี ถูกฆ่าตายในบ้านตัวเองที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น
    พยานแวดล้อม ทำให้ตำรวจสงสัย ว่า ฆาตกรรายนี้คือ นายสมคิด พุ่มพวง ปัจจุบันอายุ 55 ปี
    ที่เพิ่งพ้นโทษ ออกมา เมื่อ 17พ.ค.62
    ก่อนหน้านี้ เขาฆ่าคนตายไป 5ค น ในช่วงปี 2548 เกือบจะมีรายที่ 6แต่เจ้าหน้าที่ หยุดเขาไว้ได้ก่อน

    ใครจะไปคิด ว่ารายที่ 6 อาจเกิดขึ้นด้วยน้ำมือของเขา ในอีก14 ปีต่อมา
    ................................................
    ย้อนกลับไปเมื่อปี พ.ศ. 2548 เป็นครั้งแรกที่ประเทศไทยได้เผชิญหน้ากับคดีฆาตกรรมต่อเนื่อง นับตั้งแต่เกิดคดีซีอุย เมื่อฆาตกรปริศนาตามฆ่าหญิงสาวผู้มีอาชีพเป็นหมอนวดกว่า 5 ราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเดือนมิถุนายน ปี 2548 ฆาตกรรายนี้ลงมือไปทั้งสิ้น 4 ราย เฉลี่ยแล้ว อาทิตย์ละราย ในช่วงนั้น สังคมต่างตื่นตระหนก หวาดกลัว สื่อต่างให้ฉายาฆาตกรรายนี้ว่า “แจ็คเดอะริปเปอร์” ฆาตกรต่อเนื่องในตำนานของประเทศอังกฤษ คำถามหนึ่งที่สื่อและคนทั่วไปต่างสงสัย เหตุใด สมคิด พุ่มพวง จึงก่อเหตุอันน่าสยดสยองเช่นนี้ สมคิดมีอาการทางจิตหรือไม่? บทสรุปของคดีนี้จะเป็นเช่นไร ร่วมย้อนอดีตคดีฆาตกรรมนี้ได้ใน ‪#รายการข่าวดังข้ามเวลา ตอน : ฆาตกรรมซ้ำซ้อน ฆาตกรต่อเนื่อง


     
  15. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
  16. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    John Traczyk


    บันทึกไว้

    เวลา: 16 ธ.ค. - 2019 22:36 UT

    ความเร็วลมสุริยะ: 346 km / s

    ความหนาแน่นของโปรตอน: 44.2 โปรตอน / cm³

    IMF Bz: 0.5 nT

    ระยะทางUT: 9.10 Re

    ความดันแบบไดนามิก: 4.4 nPa

    12/17/19 00:28:56 UTC

    IMG_5677.JPG IMG_5678.JPG IMG_5679.JPG IMG_5680.JPG IMG_5681.JPG IMG_5682.JPG IMG_5683.JPG IMG_5684.JPG

    Documenting

    Time: 16-Dec-2019 22:36 UT

    Solar wind speed: 346 km/s

    Proton density: 44.2 protons/cm³

    IMF Bz: 0.5 nT

    Stand-off distance: 9.10 Re

    Dynamic pressure: 4.4 nPa

    12/17/19 00:28:56 UTC


     
  17. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    Setiawan


    รอยร้าวของโลก ดินเหลวและดินถล่มรายงานเมื่อบารังไกที่ Hagonoy, ดาเวาเดลซูร์, ฟิลิปปิน หลังเกิดแผ่นดินไหว ขนาด 6.9 ในพื้นที่ศูนย์กลางของแผ่นดินไหว เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2562


     
  18. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    ออสเตรเลีย กำลังจะมีวันที่ร้อนที่สุดในประวัติศาสตร์ ซ้ำเติมไฟป่าที่ยังไหม้ไม่หยุด

    อุตุนิยมวิทยาเตือนว่าคลื่นความร้อนจากออสเตรเลียตะวันตกกำลังจะพัดไปสู่ตะวันออก ทำให้อุณหภูมิสูงขึ้นตลอดแนวด้านใต้ของประเทศในช่วงสัปดาห์นี้

    Diana Eadie นักอุตุนิยมวิทยากล่าวว่าช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมาออสเตรเลียตะวันตกเผชิญภาวะอุณหภูมิสูงผิดปกติ และอาจต่อเนื่องไปจนถึงช่วงสุดสัปดาห์ ซึ่งมีแนวโน้มจะพัดไปด้านตะวันออก ทำให้อุณหภูมิภาคพื้นทั่วประเทศทะลุ 45 องศาเซลเซียสในวันพุธเป็นต้นไป ซึ่งสูงเกินค่าเฉลี่ยถึง 12-16 เซลเซียสในช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านๆมา นั่นส่งผลให้เกิดความเป็นไปได้ที่อุณหภูมิจะทำลายสถิติวันที่ร้อนที่สุดและซ้ำเติมไฟป่าให้รุนแรงขึ้น

    ในขณะที่ไฟไหม้ป่าใน New South Wales และ Queensland ยังไม่สงบดี ความร้อนนี้จะยิ่งทำให้ไฟป่ารุนแรงยิ่งขึ้น ไฟป่า Gospers Mountain กินพื้นที่ไปแล้วกว่า 1ล้านเอเคอร์ ในขณะที่ตัวเลขจาก New South Wales Fire Service รายงานว่าไฟป่าลามไปแล้วกว่า 5.3ล้านเอเคอร์ หรือเท่ากับ 1.5 เท่าของรัฐ Connecticut

    สถิติอุณหภูมิอยู่ที่เมือง Oodnadatta ทางด้านใต้ของประเทศ ในปี 1960 ที่ 50.7 เซสเซียส ในขณะที่อุณหภูมิเฉลี่ยสูงสุดของประเทศอยู่ที่ 40.3 เซลเซียส ในเดือนมกราคม ปี 2013

    นักอุตุนิยมวิทยาจากช่อง Sky News Weather กล่าวว่าคลื่นความร้อนที่โจมตี Perth ทำให้อุณหภูมิของเมืองสูงกว่า 40 เซลเซียสต่อกันนานถึง 3วัน ในเดือนธันวาคม เป็นครั้งแรกในรอบ 120 ปี หลังจากคลื่นความร้อนถูกพัดไปด้านใต้และตะวันออก อุณหภูมิในเมืองเหล่านั้นจะปรับสูงขึ้นถึง 45 -50 เซลเซียส

    ทางช่องยังกล่าวอีกว่า แม้สถิติที่50เซลเซียสจะไม่ถูกทำลายภายในอาทิตย์หน้า มันก็จะไปถูกทำลายลงที่เมืองใดเมืองหนึ่งก่อนหมดเดือนมกราคมอยู่ดี

    Darwin ได้ทำลายสถิติจำนวนวันที่อุณหภูมิมากกว่า 35 เซลเซียสในเดือนธันวาคมไปแล้ว และจากข้อมูลปี 2019 อาจจะเป็นปีที่ร้อนและแล้งที่สุดที่เคยมีการจดสถิติมา

    คลื่นความร้อนจะนำมาสู่ไฟป่า ครัวเรือนกว่า 700 หลังใน New South Wales จะถูกทำลายด้วยไฟป่า ซึ่งในสัปดาห์หน้าอาจก่อให้เกิดปัญหาจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นมากกว่า 40 เซลเซียส

    https://www.couriermail.com.au/tech...r/news-story/69918fab1f641f92800d5730bcfb2eec
    https://www.washingtonpost.com/weat...ay-record-this-week-fueling-bush-fire-crisis/

    #climatechange #climatecrisis #globalwarming #tooyoungtodie #australia #bushfire

     
  19. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    น้ำแข็งกรีนแลนด์ละลายเร็วมากขึ้นกว่าปี 1990 7 เท่า

    ในวันนี้น้ำแข็งในกรีนแลนด์ละลายเร็วมากขึ้น 7เท่ากว่าที่เป็นในปี 1990 ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้กรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งไปประมาณ 250พันล้านตัน ซึ่งย้อนดูไปในช่วงปี 90 กรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งเพียงแค่ 33พันล้านตัน เท่านั้น โดยปีนี้นักวิทยาศาสตร์คาดว่าอาจสูงถึง 370 พันล้านตัน

    การคาดการณ์มาจากทีมนักวิทยาศาสตร์ขั้วโลกที่รวบรวมข้อมูลจากดาวเทียมในช่วง 26ปีที่ผ่านมา นั่นหมายความว่าระดับน้ำทะเลจะเพิ่มขึ้นอย่างน้อย 7เซนติเมตรในปี 2100 (เฉพาะจากน้ำแข็งในกรีนแลนด์ที่ละลายเท่านั้น )ซึ่งจะส่งผลกระทบเกิดน้ำท่วมต่อผู้คนหลายล้านคนที่อยู่บริเวณที่ราบลุ่มริมชายฝั่ง มีคนกว่า190 ล้านคน อาศัยอยู่ในเมืองที่คาดว่าจะจมอยู่ใต้น้ำปี 2100 ถ้าหากเกิดพายุขึ้นในขณะที่ระดับน้ำทะเลอยู่สูงกว่าปกติ ผู้คนจะประสบปัญหาน้ำท่วมมากกว่าเดิม

    ศ.แอนดี้ เชพเพิร์ด จากมหาวิทยาลัยลีดกล่าว คำนวนง่ายๆว่ารอบๆโลกของเรา ผู้คนหกล้านคนจะต้องเจอกับปัญหาน้ำท่วมทุกๆระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้น 1 เซนติเมตร หากคุณได้ยินว่าระดับน้ำเพิ่มแค่ 1 เซนติเมตรมันดูไม่ค่อยเยอะและไม่กระทบเท่าไหร่ เขากล่าว

    ทีมนักวิทยาศาสตร์วิเคราะห์ข้อมูลจากดาวเทียม 11ดวงที่ปฏิบัติการช่วงปี 1992-2018 ซึ่งดาวเทียมเหล่านี้วัดค่าความหนาของน้ำแข็ง ความเร็วกระแสน้ำและแรงโน้มถ่วง นักวิทยาศาสตร์ทีมImbie ได้รวบรวมข้อมูลการสำรวจของพวกเค้ากับข้อมูลสภาพอากาศล่าสุดสิ่งที่เกิดขึ้นแสดงให้เห็นถึงภาพปฏิกิริยาของกรีนแลนด์ต่อการร้อนขึ้นของอาร์กติก นี่เป็นส่วนหนึ่งของโลกที่เปลี่ยนไปจากอุณหภูมิที่สูงขึ้นเพียง 0.75องศาสเซลเซียส ในช่วง10ปีที่ผ่านมา
    ทีมImbie แสดงให้เห็นถึงว่ามีน้ำแข็งละลายไปมากกว่า3.8ล้านล้านตันไปสู่มหาสมุทรในช่วงการศึกษาที่ผ่านมา เทียบเท่ากับระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้น 10.6มิลลิเมตร ในขณะที่ช่วงแรกของยุค90 อัตราการสูญเสียอยู่ที่ประมาณปีละ 1มิลลิเมตร ซึ่งขณะนี้เพิ่มขึ้นเป็นอัตรา7มิลลิเมตรใน10ปี

    Dr.Ruth Mottram สมาชิกทีมImbie กล่าวว่า กรีนแลนด์สูญเสียน้ำแข็งใน2ช่องทางคือ ละลายทางพื้นผิวส่วนบนและไหลสู่มหาสมุทร อีกทางคือธารน้ำแข็งละลาย ในระยะยาวทั้งสองกระบวนการนี้จะละลายพอๆกัน

    ย้อนกลับไปในปี2013 IPCCได้คาดการณ์ระดับน้ำทะเลว่าอาจจะสูงขึ้นถึง60เซนติเมตรในปี2100จากผลของน้ำแข็งละลายและอากาศที่ร้อนขึ้น ตัวเลขใหม่ชี้ว่า ในปี 2100 น้ำทะเลจะสูงขึ้นเป็น 67 เซนติเมตร 67 เซนติเมตรอาจจะฟังดูไม่เยอะ แต่มีเมืองชายฝั่งหลายแห่งที่ต้องได้รับผลกระทบ เกิดน้ำท่วมบ่อยขึ้น และชายฝั่งหายไป

    ในปี2018 Imbie คำนวณพบว่าขั้วโลกใต้ Antarctica ในปี2100 จะต่ำกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้ 10เซนติเมตร สำหรับกรีนแลนด์ Imbie กล่าวว่าความหนาของน้ำแข็งต่ำกว่าที่คาดแล้ว 7เซนติเมตร ซึ่ง IPCCจะต้องรวบรวมข้อมูลใหม่นี้สำหรับรายงานฉบับต่อไปในการประชุมใหญ่สภาพอากาศโลกในไม่กี่ปีข้างหน้านี้

    https://www.bbc.co.uk/news/science-environment-48387030

    https://www.theguardian.com/environ...heet-melting-seven-times-faster-than-in-1990s

     
  20. สุกิจSukit

    สุกิจSukit เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 เมษายน 2013
    โพสต์:
    222,286
    ค่าพลัง:
    +97,150
    นากาโน่ ประกาศเป็นจังหวัดแรกในญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในระดับภาวะฉุกเฉิน

    ตามกระแสของทั่วทุกมุมโลก ที่ประกาศและเริ่มนโยบายเรื่องสิ่งแวดล้อมอย่างเร่งด่วนในขณะนี้ นากาโน่เองได้ประกาศเป็นจังหวัดแรกในญี่ปุ่น ที่ให้ความสำคัญของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ในระดับภาวะฉุกเฉิน

    การประกาศภาวะฉุกเฉินครั้งนี้ เป็นการให้คำมั่นสัญญาที่จะลงมือปฏิบัติอย่างรวดเร็วและสอดคล้องในการลดคาร์บอน ผลักดันแหล่งพลังงานทดแทน และทำทุกทางเพื่อหยุดภาวะโลกร้อน โดยนอกจากญี่ปุ่นแล้ว ยังมีอีก 22ประเทศ เช่น สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส แคนาดา ไอร์แลนด์ และเมืองกว่าอีก 1,200 เมือง เช่น นิวยอร์ค ซานฟรานซิสโก ที่ได้ประกาศตนไปแล้ว

    นากาโน่ได้รับความเสียหายจากพายุไต้ฝุ่นฟ้าใส เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ต่อด้วยพายุฮากิบิส ที่ทำให้เกิดลมแรง ฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน สร้างความเสียหายอย่างรุนแรงให้กับเมือง โดยนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าความถี่และความรุนแรงของภัยธรรมชาติที่มากขึ้น เกิดจากสภาพภูมิอากาศที่เปลี่ยนแปลงไป

    ประเทศญี่ปุ่นประกาศการปลดปล่อยคาร์บอนของประเทศอยู่ในภาวะเป็นกลางเมื่อทศวรรษที่ผ่านมา และตั้งใจให้อยู่ในภาวะดังกล่าวถึงปี 2050 แต่ไม่ได้มีการประกาศภาวะฉุกเฉินใดๆ แม้จะมีการประท้วงจากเหล่านักรณรงค์รุ่นใหม่ที่ล่ารายชื่อเพื่อให้เกิดการประกาศสภาวะฉุกเฉินได้ถึง 4,000 ราย

    Shin Furuno ประธาน Asia Finance กล่าวว่า "เป็นการพัฒนาที่น่ายินดี ที่องค์กรระดับภูมิภาค ประกาศภาวะฉุกเฉินนี้ ต่อไปก็ต้องรอดูท่าทีของประเทศที่จะเร่งการเปลี่ยนการใช้พลังงานfossil ไปเป็นพลังงานทดแทน ให้ได้ตามเป้าหมายที่จะไม่ให้อุณหภูมิเพิ่มมากกว่า 1.5 องศาเซลเซียสภายในปี 2030 ตามที่ความร่วมมือระดับนานาชาติได้กล่าวไว้ ได้หรือไม่"

    Cr photo Kotaro Ebara , Kyodo , Getty Images
    https://www.japantimes.co.jp/news/2019/12/06/national/nagano-climate-emergency/

     

แชร์หน้านี้

Loading...