ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จชุมนุมมหาคุณบารมีเก้าชั้นแต่งอโหสิกรรม(ถอนกรรมเผ่าพันธุ์บาปบรรพชน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พรุ่งนี้ติดตามกันนะครับ
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรเทพ EI 3836 3118 1 TH

    พี่ภิญโญ EI 3836 3119 5 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 3836 3120 4 TH

    พี่วิชัย EI 3836 3121 8 TH

    พี่ชัยวัฒน์ EI 3836 3122 1 TH

    พี่พรหมพล EI 3836 3123 5 TH

    พี่ศิระ EI 3836 3124 9 TH

    พี่กีรติศักดิ์ EI 3836 3125 2 TH

    พี่ภาคภูมิ EI 3836 3126 6 TH

    พี่ณธพรหม EI 3836 3127 0 TH

    พี่วันชัย EI 3836 3128 3 TH

    พี่สุภณัฏฐ์ EI 3836 3129 7 TH
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุ (ผังจักรวาลศรีจักราสุริยันจันทรโคจร)


    ในวาระจันทร์เพ็ญหรือจันทร์ซ้อนจันทร์ผ่านมา เรียกได้ว่าเป็นฤกษ์ที่เหมาะเเก่การสร้างเเละเสกวัตถุมงคลเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากพระจันทร์ไขรัศมีกระจ่างฟ้า ส่งผลต่อแม่น้ำตามห้วยหนองคลองบึงต่างๆให้เอ่อท่วมท้นเป็นนิมิตหมายมงคล ซึ่งฤกษ์จันทร์เพ็ญปีนี้เป็นฤกษ์ที่ให้คุณทางการเงินและมหานิยมอย่างเเท้จริงพื่อที่จะผลักดันสิ่งมีชีวิตไม่ว่ามนุษย์หรือสัตว์ให้ตกอยู่ในอำนาจลึกลับของดวงดาว พ่ออาจารย์ท่านจึงเพ่งพลังจิตในฤกษ์มงคลนี้เพื่ออาศัยพลังอำนาจแห่งฤกษ์ แห่งดวงดาวและกำลังดาราจักรเพื่อหนุนกำลังเครื่องมงคลให้พร้อมที่จะเปลี่ยนวงจรชีวิตคน

    ดวงธาตุยาตรานี้ ท่านว่ายาตราก็คือเดินไปข้างหน้าเดินต่อไปไม่มีถอยหลังกลับเป็นวงจรของเขาที่จะทำงานให้ชีวิตเราเดินสูงขึ้นไปเรื่อยๆดุจดวงธาตุยาตราไปทางไหนตัวเราก็ไปจุดนั้น ต้องเดินต่อไปให้สูงขึ้นในทุกๆก้าว คำว่าดวงธาตุยาตราเบญจราชันก็ดุจดวงธาตุนั้นมีความหมายถึงสิ่งมงคลห้าตระกูล ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านต้องเสกให้ครบให้เต็มทีละอย่างและหลอมกำลังทั้งหมดเพื่อให้ดวงธาตุนั้นเป็นมหามงคลอย่างเต็มกำลัง จะเรียกว่าเป็นเครื่องมงคลที่ใช้ได้ถึงห้าในหนึ่งก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านนิมิตถึงครูพระแลเทพพรหมท่านปรึกษากันว่าแต่เดิมนั้นโลกก็มีดวงแก้วกายสิทธิ์เกิดขึ้นอันจะเป็นของคู่บารมีสำหรับผู้มีบุญญาธิการใช้ทำการใหญ่,ใช้เพื่อสร้างบารมี,สร้างชีวิตของตนเองให้ดีเหนือกว่ามนุษย์ด้วยกัน เช่นนั้นบรมครูทั้งหลายจึงมีดำริให้พ่ออาจารย์ท่านหุงธาตุสำเร็จในลักษณะปรอทสำเร็จขึ้นมา แต่ท่านได้กำกับให้หาแร่สำคัญ...หลากชนิดที่ไม่สามารถเปิดเผยได้ด้วยมีอาถรรพ์ส่งผลต่อชะตาลิขิตและอำนาจกระแสดึงดูดของหมู่ดาวมาหุงเข้าว่านยาเพิ่มไปด้วย ทำให้ได้ดวงธาตุที่พ่ออาจารย์ท่านว่ามีคุณเกินกว่าปรอทสำเร็จไปไกลโข เป็นดั่งดวงแก้วสำคัญที่ใช้โปรดโลกยามเจอภัยพิบัติเช่นนั้น ต่อมาบรมครูทั้งหลายจึงได้นิมิตให้พ่ออาจารย์ท่านทำผงกำแพงจักรวาลขึ้นมาเป็นฐานรับดวงแก้วนั้น โดยบรมครูพระและเทพพรหมท่านว่าดวงแก้วนี้ใช้แทนวิสุทธิวัตถุทั้งห้าสิ่ง มีกำลังแข็งมาก ให้คุณมาก เหมาะแก่ผู้คิดทำการใหญ่ ทำให้ชีวิตตนเองดีกว่าที่เคยเป็นอยู่ ซึ่งวัตถุทั้งห้านั้นได้แก่

    1.จักรวาลแห่งการเคลื่อนไหวเปลี่ยนผ่าน(ศรีจักรา)
    ด้วยเปรียบดวงธาตุคือเขาพระสุเมรุหรือเสาหลักของจักรวาลอันเป็นแกนจักรวาลเป็นที่ตั้งสวรรค์เป็นที่ประทับและอาศัยของทวยเทพทั้งปวง ที่เทวะและหมู่ดาวต้องโคจรดุจเคลื่อนที่รอบๆพระสุเมรุตลอดเวลา(ท่านว่าถ้าตาดีเพ่งมาจะเห็นเลยทั้งพระอาทิตย์พระจันทร์ท่านหมุนรอบอยู่เราจึงเรียกว่าสุริยันจันทรโคจร)ดวงดาวและทวยเทพท่านยาตราไม่หยุดนิ่งงันแสดงลักษณะการกระจายตัวของพลังงานแห่งจักรวาลมีลักษณะคล้ายคลื่นเสียงของคำว่า"โอม" ซึ่งเป็นกำลังของเทวะและกำลังของศักติ จึงเป็นดั่งตัวแทนพลังอันไม่สิ้นสุดแห่งเทวะและเทวีทั้งปวง พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นลักษณะการเคลื่อนไหวเปลี่ยนผ่านชีวิตจากช่วงเวลาหนึ่งไปสู่ช่วงเวลาหนึ่งที่ดีกว่า ด้วยเป็นตัวแทนการเปลี่ยนผ่านของเวลาทั้งสามอันได้แก่ อดีต,ปัจจุบัน,อนาคต และเป็นภาพจำลองของเขาพระสุเมรุหรือแกนจักรวาลที่ควบคุมภพทั้งสามคือกามภพ,รูปภพ,อรูปภพ เป็นดั่งจุดสมดุลย์ของพลังเทวะและศักติรวมไปถึงพลังงานการสร้างสรรพสิ่งของพระเป็นเจ้านั่นคือแสง,น้ำและอากาศก่อนจะก่อเกิดเป็นภพภูมิต่างๆกระจายไปทั้งสี่ทิศหกมุมซ้อนกันขึ้นลงเป็นทวีคูณไม่สิ้นสุด พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพกสิ่งนี้ดุจเราพกธาตุย่อส่วนของจักรวาลไว้ทีเดียว
    อันฐานล่างนั้นแทนเขาสัตตบริภัณฑ์และมหาสมุทรที่ขวางกั้นเป็นด่านชั้นนอกจนถึงเขาพระสุเมรุเป็นสัญลักษณ์ของการให้โอกาสได้เริ่มต้นใหม่ ได้ตั้งตัวใหม่และยอดเขานั้นก็เปรียบเสมือนจุดสูงสุดที่จะหลอมรวมตัวเราเข้ากับพลังงานจักรวาล ท่านว่าเป็นดั่งยันต์ศรีจักราที่ประยุกต์ขึ้นมาเป็นเครื่องมงคล มีพลังในตัวเองสามารถกระจายกำลังสู่จิตเราให้สงบได้เสมอช่วยให้เราเข้าสมาธิได้ลึกขึ้น ดึงเราเข้าสู่ขุมกำลังแห่งฟ้าดินนำไปสู่การถ่ายทอดกำลังปราณและจักระ น้อมนำกำลังจากพุทธะแลเทวะที่อยู่ในโลกธาตุอื่นส่งผ่านมาหาตัวเราได้ ท่านว่าร่างกายบางคนนั้นปิดกั้นไม่รับพลังงานจากครูบาอาจารย์เลย ถึงแม้ปากจะขอแต่ร่างของเรามันหมองเกินกว่าที่จะรับ ครูท่านถึงจะส่งพลังให้อย่างไรแต่ก็รับไม่ได้ บางทีได้แต่รู้สึกขนลุกสัมผัสได้ถึงพลังงานที่พยายามจะไหลผ่านตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงชีวิตเราแต่ตัวเราก็รับไม่ได้เลยดุจแก้วแตกหรือแก้วเต็มมีแต่จะรั่วจะล้นออก ดังนั้นศรีจักราจึงรวบและกระจายกำลังแรงครูจากโลกธาตุอื่นส่งถึงตัวเราโดยเฉพาะ(พ่ออาจารย์ท่านว่าช่วยแก้ทางคนที่ขอพรไม่ประสบความสำเร็จ)
    ทั้งยังใช้รับกำลังจากอรูปฌาณ,กำลังธรรมชาติ,กำลังปฐมพรหม,กำลังต้นกำเนิดชีวิต..เหล่านี้พ่ออาจารย์ท่านว่าจะส่งผ่านศรีจักราอันเป็นสัญลักษณ์เปลี่ยนผ่านกาลเวลาและวิถีชีวิตของเรา ช่วยปรับธาตุในตัวให้สมดุลทั้งยังขจัดพลังไสยดำและอวิชชาทั้งหลายที่ตกค้างในธาตุขันธ์ ทำให้มีกำลังสมาธิสูงช่วยให้จิตว่างให้เรารู้สึกว่ากายกับจิตเรานั้นแยกกันอันจะนำไปสู่การพัฒนากำลังของจิตต่อไป นอกจากนั้นเหนือสิ่งอื่นใดศรีจักรานี้ไม่เพียงแต่ใช้รับพลังแรงครูจากโลกธาตุอื่นหากแต่ยังเป้นสื่อช่วยให้เราสื่อสารกับครูไม่ว่าจะอยู่ในโลกธาตุใดๆได้อีกด้วย
    ท่านว่าหากเราเพ่งสมาธิกำหนดจิตไปตรงจุดกึ่งกลางดวงธาตุอยู่เสมอๆพร้อมกับทำใจให้ว่าง เราจะสัมผัสได้ถึงคลื่นและความเย็นที่แผ่ออกมาดุจจิตเรารวมเข้ากับจุดยอดพระสุเมรุนั้นเหมือนเราถูกดูดเข้าไปกายทิพย์ถูกเปลื้องออก พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าหมั่นทำบ่อยๆจิตจะละเอียดขึ้นวิธีนี้ท่านเรียกว่าการซักฟอกจิต จิตจะมีกำลังมากขึ้นสว่างขึ้น ***เมื่อมีคุณเปลี่ยนผ่านกาลเวลาในชีวิตจริงจึงสามารถใช้ยกระดับเปลี่ยนภพภูมิให้แก่ตนเองได้เสมอกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าผ่านการใช้ซักฟอกจิตบ่อยๆเช่นนี้เรื่องเปลี่ยนภพภูมินั้นไม่ยากเลยจิตจะเกิดความเบาขอแค่เราเอาจิตสัมผัสลงตรงจุดกลางเบาๆไม่ต้องเพ่งสบายๆไม่เครียด แต่ต้องมีสติรู้ตัวอยู่ตลอด
    ดวงธาตุศรีจักรานี้เป็นตัวดึงอำนาจเบื้องสูงลงมารวมทั้งเป็นตัวนำพาพลังงานจากเบื้องต่ำขึ้นสู่เบื้องบน ไม่ว่าจะสถิตย์อยู่ที่ใดย่อมสั่นสะเทือนและเกิดแรงกระเพื่อมของคลื่นในบรรยากาศส่งผลต่อระนาบมิติต่างๆ เราจะกำหนดจิตให้ดึงเข้าหรือผลักออกก็ได้ เมื่อเขาอยู่ที่ตัวเรากำลังนี้ก็จะซึมเข้าสู่กระบวนการหายใจเข้าออกเป็นการดึงพลังงานธรรมเข้าและขับพลังลบออกผ่านลมหายใจนั้น
    พ่ออาจารย์ท่านเน้นว่าศรีจักรานั้นมีความหมายล้ำลึกส่วนมากคนใช้จะมีที่อยู่อาศัยมีหลักฐานมั่นคง เพราะเป็นรูปย่อของสัดส่วนจักรวาลที่รวบภพภูมิทั้งหมด เมื่อบูชาย่อมเป็นแหล่งศูนย์รวมพลังเทวะ สามารถแผ่พลังงานให้สถานที่ให้ตัวของเราได้ สามารถแผ่พลังงานให้บุคคลที่เจ็บป่วยหรือปรารถนาความสงบแลต้องการพลังงานก็ทำได้ ท่านว่าพลังชีวิตที่สึกหรอในตัวเราก็จะได้รับการเติมเต็มเป็นทั้งการสื่อพลังงานจักวาลการสื่อพลังงานของเทพจนกระทั้งการเข้าถึงปรัชญาระดับสูง


    2. ตราหยินหยางเปลี่ยนแปลง
    ดวงธาตุนี้มีสัณฐานคล้ายตราหยินหยางซึ่งเป็นเครื่องหมายพลังงานทางธรรมชาตติระดับสูง นั่นคือพลังงานที่เป็นคู่กันเป็นพลังงานธรรมชาติที่นำมาประกอบกันโดยแท้จริงเเล้วท่านอธิบายไว้ว่าถือเป็นสัญลักษณ์แห่งการก่อกำเนิดทุกสรรพสิ่งก็ได้ เป็นการถ่วงดุลย์ของพลังงานธรรมชาติที่จำเป็นต้องมีให้เท่าๆกันไม่ควรมากไปหรือน้อยไป ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันเสมอไปเเต่ถ้าอยู่ร่วมกันในภาวะที่ถ่วงดุลย์กันก็ถือว่าเป็นสิ่งดีงามเเละจะมีสิ่งที่ดีๆอุบัติขึ้น(ถึงขั้นเปลี่ยนแปลงชีวิตได้)
    ดวงธาตุหยินหยางนี้เเสดงให้เห็นถึงสภาวะคู่อย่างชัดเจนกล่าวได้ว่าในหยินมีหยางเเละในหยางก็มีหยินอีกเช่นกัน ถือเป็นสัจธรรมที่มีความหมายยิ่งใหญ่ตีได้กว้างไกลยิ่งนักเเต่ท่านจะพูดถึงบริบทเมื่อท่านนำมาทำเป็นเครื่องมงคลให้สวมคอพ่ออาจารย์ท่านถือเคล็ดตรงนี้ที่ว่ อยากจะให้คนใช้คนบูชาประสบพบเจอเเต่โชคดีมีความเจริญรุ่งเรืองเช่นนั้นดวงธาตุของท่านจึงเป้นมงคลใช้ได้หลายทางตามหลกหยินหยาง
    - เพื่อให้ถ่วงดุลย์เเละปรับสภาพในร่างกายตลอดจนสภาพเเวดล้อมรอบตัวให้สมดุลย์กันและปลุกเสกใส่พลังงานเพื่อที่คนบูชาจะได้พบเเต่สิ่งที่ดี ดึงดูดสิ่งที่ปรารถนาเเละต้องการมาสู่ตนเอง
    - เพื่อให้ปรับสภาพร่างกายให้รู้สึกสบาย สดชื่นเเจ่มใสไม่อมโรค ปรับสมดุลย์ทางด้านร่างกายเเละจิตใจให้อยู่ในเกณฑ์ที่พอดีไม่มีมากไปหรือน้อยไป ให้สมดุลย์กันใครที่อารมณ์ร้อนก็ให้เย็นลง ใครที่เย็นเกินไปก็ได้ปรับขึ้นมาอยู่ในความพอดี
    - พลังงานหยินหยางเป็นเรื่องที่เข้าใจได้ยาก ท่านหมายให้ผู้บูชาเข้าถึงพลังงานธรรมชาติอันยิ่งใหญ่ นั่นคือเปิดสัมผัสพิเศษต่างๆของตัวเราเอง ให้มีพัฒนาการควบคู่ไปกับการใช้ชีวิตประจำวัน จะได้มีความกะตือรือร้น เป็นคนตื่นตัวไม่เอื่อยเฉื่อย
    - เพื่อปรับธาตุทั้งห้าในร่างกายให้สมดุลย์กันไม่มีธาตุใดเเสดงผลออกมามากหรือน้อยกว่าที่ควรจะเป็น เป็นเหตุให้เกิดโรค หรืออาการวิปริตทางด้านอารมณ์ต่างๆได้
    - เพื่อเปิดทางเปิดชะตาให้พบเจอเเต่โชคลาภเเละสิ่งที่ดีงาม เมื่อร่างกายได้ปรับสภาวะให้อยู่ในสภาพที่สมดุลย์แล้ว ดวงธาตุก็จะดึงดูดสิ่งดีๆเข้ามาเอง
    - เพื่อความสวยงามเเละดูไม่น่ารังเกียจ ใครๆก็สามารถสวมใส่ได้ มีอิทธิคุณแฝงไว้ทางด้านเมตตามหาเสน่ห์เเละคู่ครองเหมือนพกอิ้นคู่เช่นนี้เป็นต้น
    ซึ่งดวงธาตุหยินหยางนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่เเละใช้ได้หลากหลายประการไม่สามารถอธิบายได้หมดหากคนใช้เข้าถึงก็จะเข้าถึงพลังงานธรรมชาติมากมายหลากหลายแขนง เพราะเครื่องหมายหยินและหยางนี้พัฒนามาจากปรากฎการณ์ทางธรรมชาติของจักรวาล ซึ่งหยินหมายถึงดวงจันทร์เป็นตัวแทนของการเต็มใจรับหรือยอมเป็นฝ่ายถูกกระทำ เป็นพลังแห่งสตรีเพศ,ความเยือกเย็น,การหยุดนิ่ง,การเคลื่อนลงต่ำ,การเก็บรักษา,การยับยั้ง ส่วนหยางหมายถึงดวงอาทิตย์ อันเป็นสัญลักษณ์ของพลังแห่งบุรุษเพศได้แก่การเคลื่อนไหว,ความกระตือรือร้น,การเคลื่อนขึ้นไปด้านบน,การเจริญเติบโต,เจริญรุ่งเรือง,ความร้อนแรง ดังนั้นพลังทั้งสองนี้จึงดึงมาเพื่อเป็นการสร้างสมดุลให้กับพลังในร่างกายก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงโชควาสนาอย่างใหญ่หลวง


    3.องค์ปฐมพรหมมหากำเนิด(ศิวะลึงค์โยนีศวร)
    เป็นดั่งสัญลักษณ์มหากำเนิดด้วยรูปศิวลึงค์ประทับบนฐานโยนี ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านร่ายพระเวทย์สายพระศิวะทั้งหมดทั้งลงมนต์มหากำเนิดก่อเกิดสรรพสิ่งกำกับไว้ เรียกได้ว่าพระศิวะท่านแฝงพระรูปลงมาเต็มพระญาณถือได้ว่าศิวลึงค์นี้คือเลือดเนื้อและชีวิตของท่านก็ไม่ปาน ด้วยศิวลึงค์ได้ชื่อว่าเป็นอำนาจแห่งการสร้างสูงสุด เป็นอำนาจที่ยิ่งใหญ่เหนือพลังทั้งปวง(ท่านว่าแม้ใครมีวิชาดีมีอำนาจบารมียิ่งใหญ่เพียงใด ก็แข่งขันกับเราไม่ได้ เราข่มเขาได้ทั้งหมด) เป็นสัญลักษณ์แห่งการบูชาและประสาทพรของพระศดาศิวะเจ้า
    ซึ่งการสร้างศิวลึงค์นั้นก็มีหลายประเภทตั้งแต่ทำด้วยมูลโค ดินแม่น้ำ เมล็ดข้าวธัญพืช ศิลา แก้วอัญมณี ไม้ หรือวัสดุมีค่าต่างๆเช่นเงินหรือทองคำ ซึ่งศิวลึงค์ประเภทต่างๆนั้นก็จะมีค่าและมีพลังอำนาจแตกต่างกันออกไปตามวัสดุที่นะมาใช้สร้าง แต่เหนืออื่นใด พ่ออาจารย์ท่านว่าศิวลึงค์ที่มีอำนาจมากที่สุดเหนือกว่าการสร้างด้วยวัสดุทั้งปวงนั้น คือการสร้างด้วยธาตุกายสิทธิ์ที่ขอมาแต่พระเป็นเจ้า ซึ่งเมื่อทำแล้วนั้นท่านว่าจะมีค่ามากเสียกว่าศิวลึงค์ที่ทำด้วยทองคำเสียอีก ว่ากันว่าศิวลึงค์ทองคำนั้น หาผู้ใดบูชาหมั่นขอพรระลึกนึกถึงเสมอ จะทำให้เปลี่ยนชีวิตดึงดูดความมั่นคงร่ำรวยเข้ามา ท่านว่าเป็นเศรษฐีไปตลอดชาตินั่นเอง แต่นี่คือธาตุกายสิทธิ์พ่ออาจารย์ท่านว่าดีขึ้นไปอีกมากกว่านั้นเจ็ดชั่วโคตร จะไม่รู้จักคำว่าตกต่ำเลย
    พ่ออาจารย์ท่านได้มนต์ดวงธาตุนี้ให้เป็นดั่งศิวลึงค์นำมาอัญเชิญญานบารมีของเสด็จปู่ใหญ่พระศิวะ ผ่านพิธีประสระโลหิตและพิธีต่างๆมาแล้วมากมาย ท่านว่าเพื่อให้มีพลังศิกดิ์สิทธิ์แห่งจิตวิญญาณสูงสุดที่จะบันดาลให้เกิดได้ทุกสิ่ง เอาว่าขออะไรยิ่งได้ ยิ่งขอยิ่งสำเร็จด้วยมหากรุณาส่วนนี้ของพระเป็นเจ้าด้วยพระศิวะนั้นท่านก็เป็นผู้ประทานโชคลาภ คนจะไปคิดกันเอาเองว่าท่านเป็นแต่พนักงานทำลายฝ่ายเดียว ซึ่งจริงๆแล้วพ่อนั้นเป็นผู้ทำลายความเศร้าโศก เป็นผู้ทำลายกาลเวลา(ใครตกอยู่ในกาลแห่งทุกข์ท่านนำออกได้ ท่านทำลายให้พ้นได้) เป็นผู้ลิขิตโชคชะตาไม่ว่าร้ายหรือดี ซ้ำยังเป็นผู้สร้างอาคม นี่รู้หรือไม่ว่าพลังงานพระเวทย์อาคมต่างๆล้วนมีจุดกำเนิดมาจากพระองค์ทั้งสิ้น เป็นต้นกำเนิดทุกสิ่่ง
    พ่อคือผู้ประทานโชคลาภที่ยิ่งใหญ่ เป็นผู้ให้ความผาสุข ประทานทุกสิ่งทุกอย่าง ชนแต่โบราณเค้ารู้กันถึงกับขนานนามไว้ว่าสรวัทบ้าง ศุภัทบ้าง สุขทะบ้าง นั่นคือพ่อผู้ประทานโชคลาภอันยิ่งใหญ่ ให้ได้ทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเองด้วยศิวลึงค์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งพระผู้สร้างหรือการให้กำเนิดมีอานุภาพถึงขนาดว่าสามารถกระทำสิ่งสมมติให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ด้วยเชื่อถือกันว่าครูพระสยมนั้นคือเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์และให้กำเนิดชีวิต ทั้งศิวลึงค์ยังเป็นตัวแทนครูพระสยม มีอานุภาพดลบันดาลปาฏิหาริย์และอำนวยพรแก่ผู้ครอบครองได้ แม้ผู้ใดได้อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นย่อมพิทักษ์รักษาชีวิตมิให้ต้องอันตรายทั้งปวง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจแลความสำเร็จซึ่งเป็นดั่งเกียรติยศสามารถนำพาความเจริญมาสู่ตัวเองตลอดจนครอบครัวและบริวารนับพันนับหมื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์
    ผู้ที่อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นจะมีอำนาจมากเป็นที่เกรงขามแก่ชนทั่วไป แม้กระทำการแข่งขันหรือกระทำการค้าทำกิจใดๆที่มีคู่แข่งเราก็จะมีอำนาจอยู่เหนือผู้อื่นเสมอ เรียกว่าทำอะไรก็ได้กำไรมหาศาล นอกจากนั้นยังอาราธนาขอต่ออายุคนที่ใกล้สิ้นใจให้พอมีสติเอ่ยวาจาสั่งเสียได้ อาราธนารักษาโรคหรือความเจ็บไข้ที่มองไม่เห็นไม่รู้สาเหตุให้บรรเทาสูญหายได้ ทั้งป้องกันภูติผีปีศาจและไสยศาสตร์ทุกชนิดไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ สามารถบันดาลให้พ้นจากความยากจน เมื่อสิ้นธาตุดับขันธ์ไปย่อมได้อยู่ในคณะของครูพระสยมไม่ตกลงสู่อบายภูมิองค์ศิวลึงค์เห็นเล็กๆอยู่เพียงนี้ท่านมีดวงตามหาศาลถึงหนึ่งพันดวงปรากฏโดยรอบ เป็นดวงตาของครูพระสยมที่จะสอดส่องการมองเห็นออกไปในทุกทิศทาง เป็นดวงตาที่เกิดจากน้ำพระทัยและกำลังวิญญาณของพระองค์ท่านที่ได้มาสถิตย์เพื่อคุ้มครองและอำนวยพรให้กับผู้ที่ได้สักการะ ผู้ใดมีไว้บูชาย่อมถือว่าเป็นวาสนาและบุญลาภของบุคคลนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าศิวลึงค์นี้มีสร้างขึ้นด้วยสิ่งของหลายชนิด แต่หากเป็นศิวลึงค์ธรรมชาติจะมีฤทธิ์มากเป็นที่สุด ยิ่งเป็นศิวลึงค์ที่เกิดจากธาตุกายสิทธิ์ด้วยแล้ว ท่านว่าย่อมมีพลังเหนือธรรมชาติ ใครจะได้ใครจะพบก็ให้เป็นเรื่องของวาสนาแล้วกัน


    4. ผู้กลืนกินตรีโลก(มัจฉาอานนท์)
    อันเขาตรีกูฏดุจหินสามเส้ารองเขาพระสุเมรุ ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงใช้ผงกำแพงจรกรวาลปั้นเป็นรูปปลาอานนท์หนุนเขาไว้ทำหน้าที่เสมือนส่วนฐานมีภาระที่หนักหนา ใหญ่หลวง เพราะต้องแบกรับภพภูมิต่างๆไว้เป็นจำนวนมาก ด้วยเขานี้จะแบ่งเขตแดนโลกต่างๆให้ขาดออกจากกันด้วย หรืออาจเรียกได้ว่าเป็นสถานที่แบ่งเขตสวรรค์ มนุษย์ และบาดาล แยกดินแดนมนุษย์ เทวดา พรหม เปรต อสุรกาย พ่ออาจารย์ท่านจึงเปรียบเขาพระสุเมรุเป็นรากฐานของวัฏจักรภพภูมิทั้งหมด ท่านว่าเมื่อปลาอานนท์หนุนเขาก็จะยกเขาพระสุเมรุที่เป็นแกนผลึกจักรวาลขึ้นพร้อมๆกันด้วย เมื่อยกขึ้นจึงดุจยกได้ทั้งหมดลั่นฟ้าสะเทือนสวรรค์
    นับจากอดีตกาลเนิ่นนานผ่านพ้นมา พ่ออาจารย์ท่านว่ามนุษย์นั้นแบกรับเศษเสี้ยวกฏของวัฏสงสารเอาไว้ บางคนเกิดมาตามกรรมลิขิต มีภาระความรับผิดชอบมากกว่าคนอื่นเขา ต้องทำงานใช้ชีวิตเหมือนแบกโลกอยู่ทั้งใบแม้กระนั้นก็ยังหาประโยชน์และความสุขอะไรกับใครเขาไม่ได้ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาชีวิตคนเหล่านั้นเสมือนยอดเขาตรีกูฏ เพราะเขานั้นล้วนมีภาระหนักเทียมฟ้าที่ต้องแบกเอาไว้ตลอดเวลาเสมอกันด้วยท่านเวทนาเหล่าคนที่มีภาระหน้าที่ความรับผิดชอบหนักทั้งหลาย ท่านว่าบางคนหนักจนรู้สึกเหมือนภาระจะทับตัวตายตอนไหนก็ได้ ตรงนี้ใครไม่เคยเจอเขาก็จะไม่รู้ ทั้งๆที่เป็นคนเสมอกัน แต่ความรับผิดชอบหน้าที่กลับมีไม่เท่ากัน บางคนนั้นภาระก็หนักเกินกำลังของเขาไปมาก ยิ่งแบก ยิ่งรับ ก็ยิ่งบีบชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเอาเคล็ดการสร้างมัจฉาโต้วารีที่มหาพรหมยมราชได้เคยแนะนำสอนสั่งท่านไว้ ว่าให้ทำวิชานี้ให้กับคนที่หน้าที่มีปัญหามาก มีภาระความรับผิดชอบหนักได้ลอยตัว ให้ชีวิตพ้นจากเศษกรรมนั้นจึงเป็นที่มาของการสร้างปลาอานนท์ผู้กลืนกินตรีโลกนี้ นอกจากจะได้สร้างปลาอานนท์แล้วรูปปลานี้พ่ออาจารย์ท่านยังถือเป็นกฤติยาคมแฝดอีกขนานหนึ่งด้วย
    - ประการแรก คือความเชื่อเรื่องปลาอานนท์ ด้วยตามลัทธิพราหมณ์นั้นว่าปลาอานนท์นอนหนุนโลก เพราะมีร่างกายใหญ่โตโอฬารมากมายเหลือคณา เล่ากันว่าหากวัดความยาวของปลาอานนท์นี้นับได้เป็นพันๆโยชน์ทีเดียว โดยปกตินั้นปลาอานนมักจะนิ่งสงบและแบกโลกไว้ แต่อยู่มาก็อาจจะเกิดความเมื่อยขบ ก็เลยพลิกตัวบ้างเพื่อเป็นการเปลี่ยนอิริยาบทที่ได้แบกโลกไว้จึงทำให้เกิดแผ่นดินไหวภัยพิบัติเหนือผิวโลก ลมฟ้าแปรปรวน....เป็นต้น พ่ออาจารย์ท่านจึงถือคติที่ปลาอานนท์นั้นรองรับยอดเขาตรีกูฏอีกชั้นหนึ่งว่าเขาเป็นปลาที่มีภาระหนักมาก เพราะจะต้อง แบกน้ำหนักของโลกแลภพภูมิต่างๆไว้ ที่จะมีสิ่งใดแบกรับภาระยิ่งใหญ่หนักหนาเกินปลาอานนท์นี้เป็นไม่มี
    - ประการที่สอง คือความเชื่อดึกดำบรรพ์ของกำเนิดมนุษยชาติ ที่องค์ศรีหรินารายณ์ทรงอวตารมาเป็นปลาศะผะริ ในกาลนั้นลูกปลาน้อยได้ถูกพระมนูช้อนเอาไปเลี้ยง แต่เมื่อเอาไปเลี้ยงในภาชนะเล็กๆปลาก็โตใหญ่คับภาชนะอย่างรวดเร็ว เอาไปใส่ในสระไม่นานก็คับสระ เอาไปใส่ในคลองไม่นานก็คับคลอง เอาไปใส่ในแม่น้ำไม่นานก็โตใหญ่เต็มแม่น้ำ พ่ออาจารย์ท่านจึงอุปมาปลาศะผะรินี้แม้อยู่ในที่ไหนเปลี่ยนถิ่นไปสถานที่ใดๆแม้นมีภัยจากนาคาและมัจฉาสังหารมากมาย แต่ปลาน้อยก็กลับแคล้วคลาดรอดพ้นเติบใหญ่อุดมสมบูรณ์ชนิดโตไวไปยิ่งกว่าโตวันโตคืนเสียอีก ท่านว่าปลาศะผะรินี้มีพลังในการพัฒนาการแม้นนำมาสร้างเป็นเครื่องราง ใครได้ใช้เขาก็จะใหญ่โตคับบ้านคับเมือง ซ้ำเมื่อน้ำท่วมโลกพระมนูได้นำคนและสิ่งจำเป็นต่างๆของมนุษยชาติลงเรือใหญ่ ปลาศะผะรินี้ก็ได้ชักลากจูงเรือไปให้พ้นจากเขตอันตราย พ่ออาจารย์ท่านจึงถือว่าเป็นปลาวิเศษเพราะเขาให้ความช่วยเหลือในเวลาที่มนุษยชาติเข้าตาจนให้รอดพ้นจนอยู่รอดปลอดภัย จึงเป็นอีกคติหนึ่งที่ว่าพญาปลาต้องช่วยคน ต้องแบกภาระใหญ่ช่วยคนทั้งโลกชักจูงไปส่งให้ถึงฝั่ง ซ้ำยังซ้อนด้วยฤทธิ์อันเป็นปัจเจกแห่งนารายณ์อวตารที่อยู่ไหนก็เจริญเติบโตคับที่ คับบ้าน คับเมืองเช่นนั้น
    ด้วยท่านประสงค์ที่จะใช้เคล็ดวิชามัจฉาโต้วารีของมหาพรหมยมราชสร้างวาสนาใหม่ให้กับมนุษย์ ดุจช่วยเขายกตรีโลก แบกวัฏจักร แบกภาระ แบ่งปันกฏของกรรม ท่านจึงยกพญาปลาทั้งสองนั้นเพื่อมาทำวิชาร่วมกันทั้งปลาอานนท์และปลาศะผะริท่านจึงได้นำผงกำแพงจักรวาลปั้นเป็นรูปปลาหนุนดวงธาตุที่ใช้แทนเขาพระสุเมรุ ท่านว่าตอนเสกนั้นก็ยากเพราะต้องแบ่งจิตปลาอานนท์มาตั้งเป็นรูปนามเสียใหม่ซ้ำยังต้องเชิญองค์ศรีหรินารายณ์ให้อวตารเล่นฤทธิ์ไปพร้อมกัน ท่านว่าวิชาปลานี้จึงสำคัญมาก แต่หากจะทำให้เพียงแรงฤทธิ์แล้วก็จะเสียประโยชน์ใหญ่ไป เพราะในหลายๆครั้งของที่มีอานุภาพมาก มีฤทธิ์แรง มีเทวดารักษาแต่กลับใช้ช่วยสงเคราะห์คนไม่ได้ก็มีอยู่มากมาย ทั้งนี้ท่านจึงได้ยกพญาปลาทั้งสองอันมีวิสัยเบื้องต้นที่ต้องแบกภาระยิ่งใหญ่แทนมวลมนุษย์อยู่แล้วมาเป็นหัวใจหลักกอปรกับวิสัยปลาเวลาเจอเคราะห์กรรมแลภัยอันตรายมักจะดีดตัวพลิกตัวต่อต้านคลื่นลมแรงกรรมเสมอ พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำของมงคลเอาไว้ดีดชีวิตด้วยอานุภาพพญาปลาทั้งสองขึ้นมา ดุจพญาปลาร่วมแบ่งปันรับภาระแบกกฏวัฏจักรสงสารนั้นไว้แทนตัวเรา ไอ้ที่หนักหนาสาหัส มันก็จะเบาลง และเบาลง ค่อยๆหมดไป
    ท่านว่าปลาของเรานี้ใหญ่โตนักพอที่จะโอบโลกได้ ทั้งยังมีอายุนับกัปกัล เป็นปลาที่มีฤทธิ์มาก แม้เทวดาหมู่อมรคนธรรพ์ ฤาษีสิทธิ์วิทยา นาคา นาคี หรืออสุรกายภูติผีใดๆ ก็ล้วนแล้วแต่หลีกเลี่ยงเลือกที่จะไม่ยุ่งไม่เข้าใกล้เสียดีกว่า ดังนั้นคนใช้ชีวิตจึงไร้ปัญหาไร้ซึ่งอุปสรรคใดๆเรียกว่าแม้มีมารมาผจญก็แคล้วคลาดไปเพราะเขาไม่อยากยุ่งไม่อยากแตะต้องเราด้วยเกรงอานุภาพพญาปลานั้น พญาปลานี้ท่านว่ายิ่งใช้ยิ่งเก่ง ยิ่งเลี้ยงยิ่งโตมีฤทธิ์มาก เพราะเขาจะแบกรับภาระปลดเปลื้องจิตวิญญาณเราให้เบาสบายอยู่ตลอดเวลา เรียกว่าอะไรที่หนักๆเอาไปลงกับปลา ตัวเรานี้ไม่เอาเลย เคราะห์กรรมอะไร เรื่องหนักหนาสาหัสอะไรเข้ามายกปลาเทิดหัวบอกเขาไว้ ว่า"พ่อปลาจ๋ารับแทนฉันหน่อยสิ " ท่านว่ากาลแห่งทุกข์และภาระหมักหมมทั้งหลายล้วนไม่ได้กล้ำกรายทีเดียว พอเรายกไปลงกะปลาแล้ว เรื่องต่างๆนั้นล่วนอัศจรรย์ทั้งสิ้น ดุจเข้าไม่ถึงตัวเรา ไม่ใช่ธุระหรือภาระของเรา ซ้ำปลานี้ท่านยังเสกไว้ให้เก่งครบถ้วนด้วยมีแท่งยามหาสะเดาะให้เสี่ยงโชคเรียกลาภกันได้อยู่เนืองๆ


    5. ดวงแก้วจตุธาตุมณี
    เมื่อสร้างดวงธาตุนั้นพ่ออาจารย์ท่านก็คิดถึงของวิเศษสี่ประการที่มีอำนาจล่วงกฏเกณฑ์ของมหาวัฏฏะได้ นั่นคือจตุรมณีสี่ชนิดอันมีกำเนิดขึ้นมาเองในมหาจักวาล เป็นยอดยิ่งของแก้วมณีและธาตุทั้งหลายอันประเสริฐยิ่งกว่าแก้วจักรพรรดิ์ ซึ่งการเกิดขึ้นของดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นี้ ด้วยมหาอานุภาพที่ยังผลให้ผู้ครอบครองเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตจากสามัญขึ้นสู่จุดสูงสุดในฉับพลันทันที แก้วมณีทั้งสี่อันมีอานุภาพไร้ขอบเขตสิ้นสุดนั้น บางชนิดก็ให้ลาภผลให้ทรัพย์ต่อเนื่องในทุกๆวันไม่ขาดตกบกพร่อง บ้างก็คุ้มครองไม่ให้อคติและทุกข์คติใดมาล่วงเกินทำอันตรายแก่ผู้ครอบครองได้ บ้างก็คุ้มกันอันตรายทั้งหลายอันเกิดจากมหาธาตุทั้งสี่ บ้างก็ดลบันดาลให้สำเร็จกิจทุกประการดั่งใจนึก บ้างก็เปลี่ยนแปลงฐานแห่งดวงชะตาและโชคชะตาเสียใหม่ให้ดีดขี้นและเจริญยิ่งๆขึ้นในฉับพลันทันที แก้วมณีอันประเสริฐทั้งสี่ประการนี้ ได้แก่
    - แก้วเกาสตุภะ
    - แก้วจินดามณี
    - แก้วศยามันตะกะ
    - แก้วรุทรมณี
    ซึ่งการปรากฏขึ้นของมหามณีทั้งสี่นี้ยังความเป็นไปให้มหาจักรวาลโกลาหล ด้วยทุกสรรพชีวิตล้วนคาดหวังจะครอบครองดวงแก้ววิเศษดวงใดดวงหนึ่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะมนุษย์ เทวดา อสูรตลอดจนสิ่งมีชีวิตทุกจำพวก ก่อให้เกิดมหาสงครามแย่งชิงกันอยู่เนืองๆ สุดท้ายดวงแก้วทั้งสี่อันมีมหาคุณเป็นอเนกประการแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนในพิภพและมหาวัฏฏะใด ก็ได้ไปอยู่ในความครอบครองของบุคคลต่างๆทั้งสี่ท่าน พ่ออาจารย์ท่านว่าอันแก้วเกาสตุภะกับแก้วศยามันตะกะนั้นได้อยู่ในความครอบครองของพระวิษณุนารายณ์ ในส่วนของแก้วศยามันตะกะนั้นเบื้องหลังพระวิษณุเจ้าก็ได้ประทานไว้ให้เป็นของคู่สวรรค์แก่องค์อินทร์อีกชั้นหนึ่ง แก้ววิเศษจินดามณีนั้นอยู่ในครอบครองของท้าวมหาพรหมพ่ออาจารย์ท่านว่าแม้มนต์จินดามณีที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ก็เป็นเพียงมนต์กำกับดวงแก้วซึ่งเรียนสืบต่อกันมาจากท้าวมหาพรหมประทานให้องค์อินทร์และสืบเนื่องมาถึงในชั้นมนุษย์ แม้เป็นเพียงมนต์ก็มีอานุภาพมากเหลือคณา แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าก็ยังไม่เท่าอานุภาพของดวงแก้วจินดามณีที่แท้จริง ประการสุดท้ายแก้วรุทรมณีนั้นก็อยู่ในการครอบครองของครูพระสยมหรือองค์พระศดาศิวะนั่นเอง เมื่อแก้วทั้งสี่ได้รับการถือครองและใช้เป็นเครื่องประดับวรกายก็ดลให้เกิดความความเจริญ รุ่งโรจน์ มั่งคั่งแบบที่ไม่เคยปรากฏมาก่อนแก่ผู้ครอบครอง ทั้งยังอภิบาลรักษาปกป้องภัยทั้งหลายไม่ให้กระทำอันตรายใดๆได้ ซึ่งเมื่อแก้วทั้งสี่ได้ผู้ครอบครองที่แท้จริงแล้วก็ไม่เคยเปลี่ยนมืออีกเลย จนทำให้เรื่องราวของดวงธาตุจตุรมณีแห่งสรวงสวรรค์นั้นขาดการกล่าวถึงและเลือนหายไป
    พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าบางครั้งคนบูชาองค์เทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ด้วยจริตและการกระทำของตัวมนุษย์เองก็ยังทำให้เทพถอยห่าง เกิดธรรมสังเวช และวางเฉยเอาได้ เรียกว่าไม่เข้าตาและไม่ถูกโฉลกกันก็ได้ทำให้ท่านวางเฉยไม่เอาเป็นธุระ ไม่ช่วยเหลือใดๆ เนื่องจากองค์เทพทั้งหลายท่านก็มีทัศนะและความคิดเป็นของท่านเองเช่นกัน พ่ออาจารย์ท่านจึงมีดำริว่าหากจะเอาอิทธิมงคลที่ยังผลช่วยเหลือผู้ครอบครองโดยไม่ต้องมีชีวิตและความนึกคิดเป็นของตัวเองแล้วก็คงจะต้องใช้อัญมณีสุดประเสริฐทั้งสี่ประการของมหาจักรวาลแต่เพียงเท่านั้นเพราะสามารถพลิกฟ้าคว่ำดินได้ฉับพลันทันทีและมีอานุภาพแรงกล้าที่สุดในบรรดาของวิเศษอันจะเกิดมีในมหาจักรวาลทั้งปวง แต่ดวงแก้วทั้งสี่นี้ก็ยังเป็นของมีจิตวิญญาณในตัวเองถ้าเอาไปใช้ก่อกรรมกระทำชั่วรังแกเอาเปรียบผู้อื่น อานุภาพของดวงแก้วก็จะดลให้เกิดผลร้ายแก่ผู้ครอบครองเช่นกัน
    พ่ออาจารย์ท่านว่าดวงแก้วทั้งสี่นี้สร้างยากมากเพราะท่านต้องทำตามคำแนะนำของครูทั้งสี่คือครูพระสยม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูท้าวมหาพรหม ครูพระอินทร์ โดยท่านได้เชิญครูมากำกับวิชาประสิทธิมหาธาตุด้วยแก้วทั้งสี่ของครูให้มีอานุภาพเสมอกัน
    ทั้งยังต้องแสวงหามวลสารตามที่ครูสั่งซึ่งหายาก บางอย่างก็อยู่ในป่า อยู่ใต้ดิน อยู่ในถ้ำ อยู่ในน้ำแตกต่างกันไป ตลอดจนได้หาศิลาวิเศษตามธรรมชาติอันเป็นที่สิงสถิตย์แฝงญาณของครูทั้งสี่ตั้งแต่ศิวลึงค์ธรรมชาติของพระศิวะ ศาลิครามอันเป็นตัวแทนที่พระวิษณุเจ้าสาปตัวเองมายังโลก ศิลาพรหมลูกฟักอันเป็นจุดนิทราแห่งท้าวมหาพรหม ศิลาดวงตาสวรรค์ของพระอินทร์ที่ท่านสาปสรรค์ให้เป็นตัวแทนท่านปรากฏแก่ตาโลก พ่ออาจารย์ท่านนำมหาศิลาทั้งสี่อันมีธาตุและอิทธิคุณสูงสุดในเทวานุภาพและมวลสารว่านยามาบดแยกกันกอปรด้วยผงวิเศษที่ท่านลบด้วยพระเวทย์และหัวใจของดวงแก้วทั้งสี่ ตลอดจนคาถากำกับแก้วทั้งสี่ตามที่ครูทั้งสี่สอนและมอบให้ทำเป็นการเฉพาะ ซ้ำยังย้ำให้เก็บเป็นเรื่องลับหนักหนาห้ามถ่ายทอดหรือเผยแพร่ออกไป ท่านว่าใช้ว่านใช้ยามานั่งลบผงแต่ละอย่างร้อยรอบพันรอบ ก่อนจะนำผงเหล่านั้นมาเข้ากับน้ำทิพย์อันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติที่ท่านเก็บสะสมไว้ ทั้งน้ำในรอยพระพุทธบาท น้ำผุดในวิษณุบาท น้ำในเศียรพระพุทธรูป น้ำที่หลั่งออกมาเองจากเทวรูปพระอรรถนารีศวรเนื้อสัมฤทธิ์ ตลอดจนน้ำในบ่อธรรมชาติที่มีอาถรรพ์และความศักดิ์สิทธิ์แต่โบราณที่ท่านเก็บรวบรวมไว้ท่านนำมาผสมปั้นเป็นฐานเข้ากับผงกำแพงจักรวาลเพื่อใช้รองดวงธาตุ พ่ออาจารย์ท่านได้เชิญครูถ่่ายทอดกำลังแก้วทั้งสี่ชนิดคือแก้วเกาสตุภะ,แก้วจินดามณี,แก้วศยามันตะกะ,แก้วรุทรมณี ท่านว่าทำทั้งทีก็เอาให้ดีที่สุดแบบไม่เคยปรากฏมีเป็นประวัติการณ์มาก่อนที่ดวงแก้วทั้งสี่นี้จะได้มาอยู่รวมกัน
    ด้วยดวงแก้ววิเศษทั้งสี่นั้น แม้ปกติแยกกันอยู่ ก็มีอานุภาพดลบันดาลให้มหาเทพทั้งสี่เป็นยอดบุรุษของจักรวาล สูงสุดจนไม่มีผู้ใดคิดล่วงเกินหรือล่วงละเมิดได้ พ่ออาจารย์ท่านว่ายิ่งนำมารวมกันเป็นหนึ่งเดียวแล้วยิ่งไม่ต้องคิดเลย ทั้งนี้ดวงแก้วยังมีญาณบารมีจากครูพระสยม ครูพระพรหม ครูพระวิษณุนารายณ์ ครูพระอินทร์สถิตย์อยู่ด้วย พ่ออาจารย์ท่านว่าเรื่องใดที่ครูองค์ใดท่านไม่ยุ่งไม่ช่วยครูอีกองค์ก็จะช่วยฉับพลันทันที ขึ้นอยู่ที่ว่าเรื่องที่เราขอเป็นหน้าที่ของผู้ใด เช่นหน้าที่แห่งการสร้างสรรค์พัฒนาความเจริญของพระพรหม หน้าที่แห่งการทำลายล้างอัปมงคลเพื่อให้เกิดมหามงคลตลอดจนประทานพรอันประเสริฐของครูพระสยม หน้าที่แห่งการธำรงค์พิทักษ์รักษาชีวิตให้ดำเนินไปอย่างปรกติสุขของพระวิษณุนารายณ์ หน้าที่แห่งการบังคับควบคุมมหาธาตุตลอดจนอภิบาลรักษาผู้ประพฤติธรรมของพระอินทร์
    ดวงแก้วทั้งสี่ที่รวมเป็นหนึ่งนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราแทบจะไม่ได้เสกเลย เพราะต้องรบกวนครูทั้งสี่เท่านั้น แม้นจะระดมครูพระครูเทพซักหมื่นแสนก็ทำไม่ได้ เนื่องจากเป็นของวิเศษในมหาจักรวาลและเป็นของคู่บารมีเฉพาะผู้ครอบครอง พ่ออาจารย์ท่านต้องอาราธนาครูทั้งสี่ให้เมตตาทำให้เป็นดวงแก้วสำเร็จ ซึ่งครูทั้งสี่ก็ได้เมตตาถ่ายพลังจากแก้วต้นกำเนิดให้เต็มที่ท่านว่าต้องทำไปทีละขั้นทีละชนิดก่อนจะเสกรวมและให้ครูพระวิษณุนารายณ์สำเร็จแก้วเกาสตุภะเป็นลำดับสุดท้าย ท่านว่าทำยากมากกว่าจะได้แก้วที่มีชื่อว่าเหนือกว่าแก้วจักรพรรดิ์เช่นนี้ กว่าจะได้แก้วทั้งสี่อันประเสริฐซึ่งไม่มีผู้ใดระลึกนึกถึงแล้วในมหาจักรวาล ท่านว่าทำครั้งนี้ก็เพื่อเปลี่ยนตำนานให้กลับคืนสู่ความเป็นจริง


    เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงย้ำหนักหนาว่าดวงธาตุยาตรานี้เป็นของสูงและทำยาก ต้องเสกกันเป็นสิบปี ไม่ใช่ของเล่นๆด้วยเป็นตัวแทนของมงคลวัตถุห้าชนิดซึ่งไม่ว่าจะเป็นแบบไหนก็ล้วนแต่ทรงพลังและเป็นมหามงคลทั้งสิ้น ท่านต้องแยกทำวิชาทีละอย่างทีละพิธีจนเสร็จจนเต็ม พ่ออาจารย์ท่านว่าจะใช้ด้านไหนทางไหนก็อธิษฐานกันเอาเลย จะให้เป็นอะไรในห้าสิ่งนี้ก็บอกกับเขาเอา ฉันบอกได้คำเดียวว่า...นี่เป็นของทิพย์

    ### วิธีใช้
    ท่านให้หาน้ำอบน้ำปรุงประพรมดวงธาตุยาตราเวลาอธิษฐานขอพรเสร็จ แล้วจึงเอาดวงธาตุนั้นมาเจิมหน้าเปิดบารมี พ่ออาจารย์ท่านกล่าวว่าเพียงเท่านี้ชีวิตเราก็จะเดินต่อไปไม่มีวันถอยหลังลงเหว คือก้าวไปข้างหน้าและเจริญขึ้นเรื่อยๆ ด้วยดวงธาตุเป็นที่สุดแห่งความปรารถนาทั้งหกภพและหมื่นจักรวาล ไม่มีสิ่งใดเกินคุณค่าของดวงธาตุนี้เลย ท่านตั้งใจทำให้ไว้ปรับพื้นฐานเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของตนเอง เมื่อประสบพบความสุขเสมอใจแล้วก็ให้เร่งพิจารณาธรรม สร้างกุศลกรรม อย่าหลงไปกับอำนาจเงินตราและความสุขจอมปลอมใดๆ

    *** ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุนั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าจะไปทำเครื่องประดับทับอกห้อยคอหรือทำเป็นกำไลข้อมือก็ได้(##ท่านกะซิบว่ามวลสารบางตัวที่ใส่ลงไปตอนหลอมนั้นเกินค่าเกินราคาที่จะนึกคิดกันออก และก็เป็นของสูงมาก ท่านว่าในยุคปัจจุบันนั้นท่านพูดออกไปไม่ได้เลยเพราะมันเสี่ยงที่จะพูด) ดวงธาตุนี้ท่านทำไว้สิบสององค์ท่านอาราธนาทำเครื่องคาดเอวซ้ายขวาข้างลำตัวท่านสององค์จึงมีให้บูชาสิบองค์เท่านั้น ท่านว่าของแบบนี้เป็นของทิพย์เขามีเจ้าของอยู่แล้ว คนที่พรหมลิขิตถูกผูกกับเขา ดึงเข้าหาเขา นั่นคือคนที่ได้รับเลือกแล้ว ส่วนคนที่วาสนาไม่ต้องกันทำอย่างไรชีวิตนี้ก็คว้าไว้ไม่ได้ รายการนี้รับจองเฉพะทาง PM ผู้บูชาพ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลและเรื่องที่ปรารถนาจะขอต่อดวงธาตุตลอดจนหน้าที่การงานของตนเอาไว้ด้วย ท่านจะอธิษฐานเปิดบารมีให้อีกวาระหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กชาวเขาด้อยโอกาสต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา ดวงธาตุยาตราเบญจราชันมหาวิสุทธิวัตถุ (ผังจักรวาลศรีจักราสุริยันจันทรโคจร) บูชา 2,500 บาท

    75625332-1041744379490631-4370233230608039936-n.jpg 74643578-1035851880084665-7097467992472027136-n.jpg
    75262300-574422209998189-5024309393479434240-n.jpg
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    รายการนี้ท่านจะเรียกติดปากว่าดวงธาตุจานบินบ้าง องค์เหล็กจานผีบ้าง แต่เห็นหลักๆเลยที่ท่านชอบอาราธนาใช้ท่านว่าเอาไว้ผ่านโลกธาตุอื่นๆ(น่าจะหมายถึงการสื่อสารพูดคุยในที่แสนไกล) แต่โดยรวมแล้วรายการนี้ใครทันก็เหมือนได้ห้าในหนึ่ง
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ยิ้มวันละนิด

    เหตุผลดีๆ ที่ควรยิ้มยิ้มวันละนิด จิตแจ่มใส การยิ้มเป็นการเริ่มต้นมิตรภาพที่ดีที่สุด การยิ้มในวันที่อ่อนล้าหรือเซ็ง สุดๆ ในชีวิต จะช่วยกระตุ้นให้คุณรู้สึกดีขึ้น

    ยิ้มสวยๆ เพียงครั้งเดียวดีกว่าคำพูดนับแสนคำทั้งหมดนี้เป็นตัวอย่างเหตุผลดีๆ ที่เราควรส่งยิ้มให้แก่กัน แต่ ‘ยิ้ม’ ยังมีประโยชน์มากกว่านี้อีกนะ เพราะเมื่อเรายิ้มกล้ามเนื้อใบหน้าก็จะเคลื่อนไหว ส่งผลให้โลหิตแดงที่ไปเลี้ยงสมองมีอุณหภูมิลดลง ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย และในขณะที่เรากำลังยิ้มนั้น หัวใจก็จะเต้นช้าลง ความดันโลหิตลดลง ระบบต่างๆ ในร่างกายก็จะผ่อนคลายลง ฮอร์โมนอะดรีนาลีนซึ่งเป็นฮอร์โมนแห่งความเครียดก็จะถูกขับออกมาน้อยลงด้วยค่ะ นอกจากนี้ การยิ้มช่วยเพิ่มระบบภูมิคุ้มกัน การยิ้มจะช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในตัวคุณทำงานดีขึ้น เมื่อคุณยิ้ม ระบบการทำงานก็จะพัฒนาดีขึ้น อาจเป็นเพราะว่าคุณรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น อีกทั้ง “การยิ้ม” ยังสามารถป้องกันการเกิดไข้และไข้หวัดได้อีกด้วย

    นอกจากยิ้มจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีแล้ว ยิ้มยังช่วยในเรื่องของจิตใจ สภาวะทางอารมณ์และกระบวนการคิดของสมองอีกด้วย เพราะเมื่อคุณยิ้มจิตใจก็จะผ่อนคลาย สมองก็จะได้รับออกซิเจนอย่างเต็มที่ กระบวนการทางความคิดก็จะกระจ่างช่วยให้คุณแก้ไขปัญหาต่างๆ หรือเกิดมุมมองที่ดี ให้แก่ชีวิตได้มากขึ้น แถมยังช่วยกระจายความสุขไปสู่ผู้ที่พบเห็นอีกด้วย

    ยิ้มเป็นยาชูกำลัง (Smile is stimulant) เมื่อ คนเราเกิดความเศร้า ท้อแท้เป็นอาการป่วยทางจิต ยาปฏิชีวนะขนาดใดๆก็ไม่สามารถรักษาเยียวยาได้ ทว่าหากมีใครสักคนเดินเข้ามา ด้วยความจริงใจพร้อมมอบรอยยิ้มเห็นอกเห็นใจให้ แม้ไม่มีคำปลอบประโลมใดแต่ทำให้ใจที่มืดมนเกิดหนทางสว่างขึ้นได้ ประหนึ่งยาชูกำลังจิตใจคนเศร้าหมองให้มีพลัง กลับมายืนหยัดสู้กับปัญหาอีกครั้ง

    ยิ้มยังเป็นยาอายุวัฒนะ (Smile is elixir of life) ใคร ก็ตามที่มีอารมณ์ดีเป็นนิสัย มองไปคราใดก็พบใบหน้าเปื้นยิ้มอยู่เป็นนิจ จะเป็นผู้ที่สภาพจิตดีและอายุยืน เขาว่า “ใจเป็นนายกายเป็ยบ่าว” เมื่อใจซึ่งเป็นนายของกายดี ก็พลอยทำให้บ่าวอย่างกายมีพลานามัยแข็งแรง ส่งผลให้มีอายุยืนยาวตามไปด้วย
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    สะเดาะเคราะห์
    เนื่องจากมีผู้ถามเรื่องวิธีสะเดาะเคราะห์เข้ามา ก็เลยนำวิธีสะเดาะเคราะห์เบื้องต้นที่ทำได้ง่ายๆมาให้อ่านกันจะได้พิจารณาว่าตัวเองสะดวกจะใช้วิธีไหนนะครับ

    ในการสะเดาะเคราะห์ นับตั้งแต่สมัยโบราณเป็นเรื่องที่มีการเกี่ยวโยงกับจิต รวมทั้งเทพยดา ซึ่งเป็นแนวทางสะเดาะเคราะห์ และอีกแนวทางหนึ่งการระมัดระวังตัวเอง ในที่นี้จะขอกล่าวทั้ง 2 แนวทาง

    แนวทางที่ 1

    1. พิธีการสวดนพเคราะห์ เพื่อบูชาเทพยดาประจําดาวนพเคราะห์ ซึ่งในการทําพิธีต้องมีเครื่องเซ่นสังเวยเทพยดา ครูบาอาจารย์ และขั้นตอนต่างๆ มาก จําเป็นที่จะต้องมีผู้รู้ คอยกํากับพิธีให้ จึงจะทําได้สําเร็จ อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการทําพิธีสูงมาก ตั้งแต่อดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน พิธีนี้จึงมีการทํากันในวันเกิดของหมู่เจ้านายชั้นสูง หรือผู้ที่มีฐานะดี และตามวัดบางแห่งก็มีการสวดนพเคราะห์ คนที่รู้วิธีการที่ถูกต้องก็มีน้อย

    2. ใช้ยาจินดามหามณี "ดอกคราด ดอกจันทร์ เกสรบุษบัน เปราะหอม กํายาน โกฐสอ โกฐเขมา ทองน้ำประสาน เปลือกกุมชลธาร กรุงเขมาเท่ากัน สมแล้วตําบด พิมเสน ชะมด น้ำผึ้งรวงรัน กฤษณา น้ำมะนาว น้ำมะเขือขื่นคั้นผสมยาเข้าด้วยกัน บดปั้นตากกินเป็นยาวาสนา เลิศล้ำตําราในโลกแดนดิน อุปเท่ห์กล่าวไว้ ผู้ใดได้กินจะ สวัสดิโสภิน กว่าคนทั้งหลาย พัสดุเงินทองจักพูนกูนกอง กว่าโลกหญิงชาย นํามาบูชาอภิวาท์บ่วาย ระงับอันตราย ทั้งสี่กิริยา โทษหนักเท่าหนัก มาตร์แม้นประจักษ์ ถึงกาลมรณา ถ้าแม้นได้กิน ซึ่งยาวาสนา กลับน้อยถอยคลา เคลื่อนคลายหายเอย"
    ที่กล่าวมานี้เป็นตําราสําหรับปรุงยาจินดามหามณีโดยย่อ และสรรพคุณของยา ซึ่งหากใครได้กินยานี้แม้ดวงชะตามีเคราะหนักขนาดไหนก็ตาม ยาเพียง 1 เม็ดสามารถคุ้มภัยได้เจ็ดวัน แต่การจะทํายานั้นก็มีพิธีการ และขั้นตอนมาก รวมทั้งต้องมีพิธีพุทธาภิเษก เปรียบเหมือนกับการเติมพลังจิตลงไปในยาด้วย ซึ่งตํารายานี้มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "ยาวาสนา" รวมทั้งมีการนํามาผสมผงวิเศษสร้างพระเครื่อง หรือบรรจุในพระบูชาพร้อมกับดวงชะตา และมีหลักฐานว่า ยานี้มีการปรุงมาตั้งแต่ครั้งสมัยสมเด็จพระพันรัตน์วัดป่าแก้ว ผู้เป็นพระอาจารย์ของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช และในปัจจุบันก็ยังมี ผู้ประกอบยาสืบกันมา แต่ส่วนใหญ่ตัวยาจะหาได้ไม่ครบ เท่าที่ทราบปัจจุบันมีเพียง 2-3 คน ที่เคร่งครัดในการปรุงยาให้ได้ครบตามตําราจริงๆ และยานี้ใช้กินป้องกันก่อนที่ดวงจะบอกเวลาเกิดเหตุ

    3. น้ำมนต์พระปริตร ต้องเป็นน้ำมนต์ที่พระเกจิอาจารย์ที่มีสมาธิจิตเข้มขลัง เป็นผู้สวดทําน้ำมนต์ให้ในพิธี จึงจะใช้ได้ผล โดยนํามาอาบ มาดื่ม บางวัดจะสวดในโบสถ์ตลอดเข้าพรรษาเช่น วัดบวรนิเวศน์ และวัดชาวมอญ

    4. การทําบุญใส่บาตรให้เทวดาประจําดาวนพเคราะห์แต่ละองค์ อย่างน้อย 1 ครั้ง และควรทำก่อนมีเคราะห์ ซึ่งขึ้นอยู่กับดวงชะตาในขณะนั้นว่า พระเคราะห์ใดกําลังให้โทษในดวงชะตา ก็จะมีการทําบุญ เพื่อขอให้เทวดาประจํานพเคราะห์ที่กําลังให้โทษนั้น งดโทษทั้งปวงที่จะบังเกิดขึ้นกับดวงชะตาไว้ ซึ่งวิธีการนี้เป็นที่นิยมของชาวบ้าน เพราะค่าใช้จ่ายไม่สูงมากนัก ซึ่งโดยทั่วไปมี หลักการทําบุญตามกําลัง และลักษณะของเทวดาประจําดาวนพเคราะห์แต่ละดวง เช่น อาทิตย์ มีกําลัง 6, พระจันทร์ มีกําลัง 15, อังคาร 8, พุธ 17, พฤหัส 19, ศุกร์ 21, เสาร์ 10, ราหู 12 และมีวิธีการเมื่อพระเคราะห์แต่ละดวงให้โทษดังนี้คือ

    พระอาทิตย์ ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันอาทิตย์ 6 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 6 ดอก เทียน 6 เล่ม ดอกไม้สีแดง 6 ดอก อาหารรสเผ็ดร้อน ขนมสีแดง และให้ใส่ยาธาตุน้ำแดงด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 6 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําพระอาทิตย์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย

    พระจันทร์ ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันจันทร์15 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 15 ดอก เทียน 15 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีนวล 15 ดอก อาหารรสเค็ม ขนมสีขาวหรือสีนวล และให้ใส่ยาธาตุน้ำขาว ด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 15 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําพระจันทร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระอังคาร ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันอังคาร 8 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 8 ดอก เทียน 8 เล่ม ดอกไม้สีแดงหรือสีชมพู 8 ดอก อาหารรสเผ็ด ขนมสีแดง และให้ใส่ยาแดงสําหรับใส่แผลสดลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 8 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําดาวอังคาร และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญที่ ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระพุธ ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 17 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 17 ดอก เทียน 17 เล่ม ดอกไม้ที่มีสีผสมกันหลายสีในดอกเดียวกัน 17 ดอก อาหารมีหลายรสในชนิดเดียวกัน เปรี้ยว-เค็ม-หวาน-เผ็ด ขนมสีเขียว และให้ใส่ยาเขียวสําหรับแก้ไข หรือยาแก้ไอ้ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 17 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตร และทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําดาวพุธ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระพฤหัส ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันพฤหัส 19 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 19 ดอก เทียน 19 เล่ม ดอกไม้สีเหลือง 19 ดอก อาหารรสจืด ขนมสีเหลือง และให้ใส่ยาหอม ลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่ๆมา 19 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําดาวพฤหัส และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระศุกร์ ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันศุกร์ 21 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 21 ดอก เทียน 21 เล่ม ดอกไม้สีขาวหรือสีฟ้า 21 ดอก อาหารรสหวาน ขนมสีขาวหรือสีฟ้า และให้ใส่ยาแก้ไอที่มีรสหวานลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่ๆมา 21 ตัว ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําดาวศุกร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระเสาร์ ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันเสาร์ 10 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 10 ดอก เทียน 10 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 10 ดอก อาหารรสเปรี้ยว ขนมสีม่วงแดง หรือสีน้ำตาล และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาที่ใช้รักษาแผลเน่าเปื่อยลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 10 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่ เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ เทวดาประจําดาวเสาร์ และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    พระราหู ให้ทําบุญใส่บาตรพระในวันพุธ 12 รูป แต่ละรูปใส่ธูป 12 ดอก เทียน 12 เล่ม ดอกไม้สีม่วงแดง 12 ดอก อาหารสีดําเช่นไข่พะโล้ เป็ดพะโล้ ขนมสีม่วง หรือสีดํา และให้ใส่ยาถ่ายพยาธิ หรือยาแก้เมาคลื่นลมลงไปด้วยในแต่ละรูป พร้อมกับซื้อปลาไหล หรือปลาดุกในตลาด เพราะจะถูกฆ่าแน่มา 12 ตัว หากซื้อปลาไหลอย่าซื้อตัวใหญ่ เพราะมักจะมีเบ็ดอยู่ในคอ ให้เลือกซื้อตัวเล็กๆ เท่านิ้วก้อย ระวังอย่าให้ตาย เมื่อใส่บาตรและทําการปล่อยปลาแล้ว ให้กรวดน้ำทันที่ว่าดังนี้ 'ขออุทิศส่วนกุศลผลบุญที่ได้ทําบุญใส่บาตร และปล่อยปลาในวันนี้ให้กับ พระราหู และเจ้ากรรมนายเวร หากท่านทั้งหลายได้รับส่วนกุศลผลบุญ ที่ข้าพเจ้าได้ทําบุญทําทานในครั้งนี้แล้ว ขอได้โปรดงดโทษทั้งปวง ที่จะบังเกิดกับดวงชะตาของข้าพเจ้าเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งหนึ่งสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วย'

    ในการใช้กําลังดาวเคราะห์นั้นอาจประยุกต์ไปในแบบต่างๆ ตามความรุนแรงของเหตุการณ์ เช่น การบวชพระตามกําลังดาวเคราะห์ เช่นพระอาทิตย์บวชพระ 6 รูป เสร็จแล้ว อุทิศส่วนกศุลให้เทวดาประจําดาวอาทิตย์ กับเจ้ากรรมนายเวร เพื่อขอให้งดโทษทั้งปวงไว้ด้วยเป็นต้น ซึ่งวิธีนี้เป็นการแก้กรณีหนักที่สุดของดวงชะตา ยิ่งลูกหลานหรือคนใกล้ชิดร่วมบวชให้ด้วยยิ่งดีจะได้ผลมากขึ้น

    ในบางทีก็ใช้สร้างพระประจําวันต่างๆ การหล่อพระ สร้างพระจากไม้ หิน ดิน หรือวัตถุต่างๆ ถวายวัดเพื่ออุทิศส่วนกุศลเช่นกัน

    ถ้าหากการให้โทษที่เกิดจากเสาร์ หรือราหู ที่เกิดขึ้นในราศีธาตุดิน หรือธาตุน้ำ วิธีป้องกันดวงชะตาอีกอย่างหนึ่งคือการสร้างส้วมถ่ายทุกข์ หรือสุขาถวายวัด

    แต่ถ้าหากการให้โทษที่เกิดจากเสาร์ หรือราหู ที่เกิดขึ้นในราศีธาตุลม หรือธาตุไฟ ให้ร่วมสร้างเมรุเผาศพ แต่ห้ามเป็นเจ้าภาพ เป็นประธาน ห้ามเข้าไปบริหารจัดการในการก่อสร้าง ให้ร่วมทําบุญเท่านั้น เสร็จแล้วกรวดน้ำอธิษฐาน อุทิศส่วนกุศลให้ พระเสาร์ พระราหู และเจ้ากรรมนายเวร เมื่อท่านได้รับส่วนบุญกุศลนี้แล้ว ขอให้งดโทษกับดวงชะตาทั้งปวงเอาไว้ด้วย และหากขาดตกบกพร่องสิ่งใดไป ก็ขอให้งดโทษทั้งปวงเอาไว้ด้วย

    กรณีดวงเดิมมีเสาร์กุมลัคนาในราศีมีน เมื่อดาวพฤหัสเข้ามาทับ ยังมีวิธีอีกอย่างหนึ่งคือ การนําเศียรพระเก่าสีดำ มาหล่อเป็นพระองค์พระปางสมาธิขึ้นมาใหม่ ถวายวัด เพื่ออุทิศส่วนกุศล

    ยังมีการแก้ดวงชะตาด้วยวิธีการเดินทางเพื่อหลีกเลี่ยงอํานาจของดาวเคราะห์ แต่วิธีนี้ต้องระวัง เพราะหากเดินทางไปผิดทิศทาง แทนที่จะเป็นการแก้ไข กลับจะทําให้เหตุการณ์หนักรุนแรงยิ่งขึ้น ทางที่ดีต้องปรึกษานักโหราศาสตร์ อย่านึกคิดเอาเองเป็นอันขาด

    นอกจากนั้นก็ยังมีบทสวดมนต์พระปริตร โดยเฉพาะจันทรปริตร สุริยปริตร และบทสวดมนต์เพื่อบูชาเทวดาประจําดาวเคราะห์ เพื่อคุ้มครองตนเองให้ปลอดภัย


    แนวทางที่ 2

    ใช้หลักธรรม "ความไม่ประมาท และหลีกเลี่ยงโอกาสที่จะเผชิญหน้า กับเหตุการณ์ที่กําลังจะเกิดขึ้น"

    • หากรู้ว่ากําลังจะมีปากเสียง ระยะนั้นก็ให้หลีกเลี่ยง อย่าไปต่อว่าใคร การพูดจาในระยะนั้นก็ต้องระวังการใช้คําพูดให้ดี ใครชวนทะเลาะก็พยายามพูดจาดีๆ ด้วยความสุภาพ และใจเย็น ค่อยๆ พูดผ่อนปรนปัญหาต่างๆ ลงมา
    • หากรู้ว่ากําลังจะมีอุบัติเหตุ การเดินทางต่างๆ ก็ต้องเพิ่มความรอบคอบ ระมัดระวังให้ มากยิ่งขึ้น ตรวจเช็กสภาพยานพาหนะให้ดีก่อนเดินทาง รวมทั้งศึกษาเส้นทางคมนาคมให้ดี เพื่อที่หากมีปัญหาเกิดขึ้นมาจะได้รู้ว่า ที่ไหนมีใครช่วยได้บ้าง ในเรื่องต่างๆ สิ่งสําคัญที่สุดคืออย่าประมาท เพราะหากประมาทแล้ว ความรุนแรงย่อมเกิดขึ้นเป็นทวีคูณ ตรงกันข้ามหากคุณตั้งอยู่ในความไม่ประมาท ความรุนแรงต่างๆ ย่อมลดลงมาก หรือไม่เกิดขึ้นเลย
    • หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องเงิน ก็ต้องระมัดระวังรอบคอบในการใช้เงิน ตั้งแต่ปัญหาเรื่องการเงินยังไม่เกิดขึ้น มิใช่ว่าเกิดปัญหาแล้ว หรือเข้าไปในช่วงเวลาที่ทํานายแล้วจึงค่อยระวังการใช้เงิน เพราะที่ถูกต้องคือ ต้องเตรียมตัวเตรียมเงินสํารองจ่ายไว้ให้พอ และหากคําทํานายช่วงเวลาที่จะเกิดความยุ่งยากด้านการเงินยิ่งยาวเท่าไร ยิ่งต้องเตรียมเงินไว้แก้ปัญหาให้มากยิ่งขึ้นตามไปด้วย ประสบการณ์ที่ได้รับจากการทํานายจะสอนคุณเองว่า ควรจะเตรียมเงินไว้ขนาดไหน เพราะขนาดของปัญหาแต่ละคนมักไม่เท่ากัน และต่างก็มีวิธีแก้ปัญหาที่แตกต่างกันออกไป
    • หากรู้ว่าจะมีปัญหาเรื่องสุขภาพ ก็ต้องใส่ใจดูแลรักษาสุขภาพให้ดี ระมัดระวังในเรื่อง อาหารการกิน การนอนหลับพักผ่อน การออกกําลังกาย การรักษาอารมณ์ให้ปกติ ทําจิตใจให้แจ่มใส
    • ดวงเป็นการอ่านกรรมเก่า คุณสามารถแก้ไขได้ โดยพยายามทําทุกอย่างให้ดีที่สุด ด้วยความดีงาม ด้วยความไม่ประมาท ภายในขอบเขตศีลธรรม อย่าวิตกกังวลมากเกินไป ต้องรู้จักปล่อยวาง ในเรื่องที่ผ่านมาแล้วและเรื่องที่ยังไม่เกิดขึ้น พยายามทำปัจจุบันให้ดีที่สุด ถูกต้องที่สุด ด้วยจิตบริสุทธิ์
    ซึ่งหลักการป้องกันพร้อมกับใช้ความไม่ประมาทนี้ สามารถนําไปดัดแปลงใช้ได้กับทุกเรื่อง หลักการนี้แท้จริงแล้วก็คือ คําสอนในศาสนาพุทธ ที่ให้ทุกคน ตั้งอยู่ในความไม่ประมาท กับกฎแห่งกรรม ที่ว่า ทําดีได้ดี ทําชั่วได้ชั่ว โดยยึดมั่นทําแต่ความดี หลีกเลี่ยงการทําความชั่วจะได้ไม่ต้องมาปวดหัวกลุ้มใจทีหลังนั่นเอง


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรหมพล EI 3836 3441 8 TH

    พี่ศิระ EI 3836 3442 1 TH

    พี่ธีรนนท์ EI 3836 3443 5 TH

    พี่ณธพรหม EI 3836 3444 9 TH
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    มีคนโทรมาถามว่าเทพนี่แนะนำเรื่องการลงทุนได้มั๊ย ตอนแรกผมนึกว่าใครโทรมาถามกวนๆแบบนี้แต่เช้าแต่พอได้คุยจึงรู้ว่าพี่เขาไม่ได้กวนแต่โทรมาเล่าประสบการณ์

    เป็นประสบการณ์เกี่ยวกับดวงธาตุ พี่เค้าว่าพอได้มาตอนสัมผัสจะมีอาการหูแว่วซึ่งปกติไม่เคยเป็น ตอนแรกก็เสียงผู้ชายไปๆมาๆเสียงผู้หญิง ผู้ชายก็ทักเราปกติ แต่พอเสียงผู้หญิงมาบอกเหตุล่วงหน้าพูดมาเป็นประโยคเกี่ยวกับเรื่องลงทุนที่ตัวเขาทำอยู่ พี่เขาว่าพูดไปหัวเราะไปแล้วก็เตือนตัวเค้าให้ระวัง...

    พอตั้งสติได้พี่เค้าเลยคิดว่าน่าจะเกี่ยวกับดวงธาตุและโทรมาถามเราว่าแค่วันเดียวก็มาให้ได้ยินถึงสององค์แล้ว ไม่รู้ว่าใครแต่คำแนะนำองค์หลังนี่เป็นประโยชน์กับอาชีพเขามาก เราเลยบอกว่าเป็นเรื่องเฉพาะตัวนะแต่ถ้าครูเทพพรหมท่านพูดนี่คือเชื่อได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เพราะท่านพูดกับตัวเราเองโดยตรงไม่ผ่านใคร

    ดวงธาตุนี้ผมก็เพิ่งมาเข้าใจว่าทำไมพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าดวงธาตุจานบินบ้าง องค์เหล็กจานผีบ้าง และไอ้ที่ค้างใจเราอยู่ว่าเอาไว้ผ่านโลกธาตุอื่นๆ(น่าจะหมายถึงการสื่อสารพูดคุยในที่แสนไกล) ทีนี้ก็รู้แล้วว่าหมายความว่าอย่างไร ทีแรกก็พิศวงอยู่เหมือนกันแต่พอฟังพี่เขาที่เอาไปใช้เล่าเลยเข้าใจว่า
    ท่านจะพูดออกมาแบบเสียงกะซิบข้างหู เสียงที่เราได้ยินคนเดียวถามใครเขาก็ไม่ได้ยินกับเราด้วย แม้เราคุยตอบหรือถามกลับบางทีท่านก็ไม่ตอบ พอเราเผลอถึงได้ยินใหม่ ที่มีเสียงหลายคนก็คงอย่างที่ท่านบอกว่าตัวใครมีวาสนากับเทพองค์ไหน หรือคนไหนที่มีครูมีเทพรักษาเยอะๆจะได้เปรียบกว่าคนอื่น *** เป็นความเชื่อส่วนบุคคลนะครับ
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ตอบคำถาม PM ครบนะครับ

    ส่วนใครที่ชอบพระผงสายโหดเอาไว้บู๊กับตัวเองพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ รายการนี้แค่หลักร้อยแต่ผงคุ้มมาก
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสะกดเบี้ยดูดจิตพลิกผันสนองกลับปัดอุปสรรค(ผงเหยียบเซียน)

    พระพิมพ์เพชรกลับของพ่ออาจารย์นั้นเป็นที่ทราบกันดีว่าท่านเสกให้มีคุณทางกลับร้ายเป็นดี แต่ถ้าชีวิตใครดีอยู่แล้วจะกลับหนุนให้ดียิ่งๆขึ้นไปอีก * ทั้งใช้พลิกชีวิต,เปลี่ยนชะตาจากหน้ามือเป็นหลังมือให้ดีวันดีคืน ซึ่งการทำพระพิมพ์เพชรกลับนั้นท่านว่าไม่ใช่นั่งทำบล๊อกทำแม่พิมพ์แล้วกดพระขึ้นมาจะมีอานุภาพเป็นเพชรกลับได้ ด้วยพระพิมพ์นี้ผู้ที่จะกระทำการปลุกเสกต้องเป็นผู้ที่มีพลังจิตสูงซ้ำต้องชำนาญในการเข้าออกสมาธิและเหนือสิ่งอื่นใดเลยนั่นคือต้องทำเป็นต้องรู้คาถาว่าใช้อะไรใช้อย่างไรต้องบริกรรมคาถาปลุกเสกเฉพาะทั้งอนุโลมและปฏิโลม ท่านว่าตอนเสกนี่สำคัญสุดต้องวางอารมณ์ให้เป็นด้วยทำพระเพชรกลับนี้หากจะทำให้ใช้ได้จริงไม่ได้มีดีแค่พิมพ์ทรงแล้วท่านว่าย่อมมีคุณมากแม้วางอารมณ์ผิดคนเสกก็เป็นบ้าได้ทีเดียว(ดังนั้นพระพิมพ์จึงมีอาถรรพ์มาก พ่ออาจารย์ท่านว่าเราทำพิมพ์แบบบ้านๆไม่ค่อยงามเท่าไหร่เลยกลัวคนเขาจะปรามาสเอาเพราะไม่รู้ว่านี่แหละยอดของดีท่านจึงเก็บไว้เรื่อยมา) ด้วยเพชรกลับนี้ท่านทำให้ดีทั้งนอกและดีทั้งในจึงมีอิทธิฤทธิ์อิทธิคุณที่เปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตของคนที่นำไปบูชาติดตัวไปในทางที่ดีขึ้นอย่างแม่นมั่น

    นอกจากพิมพ์พระแล้วพ่ออาจารย์ท่านยังเน้นเรื่องมวลสารให้เข้มข้นที่สุด ท่านว่าทำพระหนหนึ่งต้องมีดีให้เค้าใช้ได้หลายด้าน ท่านจึงใช้ผงที่ลบเก็บสะสมไว้หลายสูตรมาเข้ากับพระเพชรกลับนี้ ได้แก่
    - ผงมหาสะกดไมยราพสะกดทัพ ใช้สะกดวิญญาณ,ล้างอาถรรพณ์ ดีเด่นทางด้านป้องกันภูตผีปีศาจ วิญญาณร้าย,ผีภูต,ผีพรายมิกล้ากล่ำกลาย ทั้งผงนี้ยังใช้ล้างอาถรรพณ์อันไม่เป็นมงคลต่างๆในชีวิตเราได้ทั้งสิ้น(ท่านว่าเดี๋ยวนี้คนต้องอาถรรพ์กันเยอะทั้งคนเล่นของก้มากขึ้นทุกวันจนคุมไม่อยู่จะทำพระเพชรกลับไปกลับชีวิตใครเขาได้ก็ต้องเอาเรื่องล้างตัวอาถรรพ์ออกให้ได้ก่อนจึงจะกลับได้) ทั้งเป็นมหาสะกด ใช้สะกดจิตสะกดใจถึงมีฤทธิ์เก่งกล้าดั่งหนุมานชาญสมรก็ยังสะกดให้หลับได้(ไมยราพสะกดทัพ) ตามตำรากล่าวไว้ว่าวิชากล้องยาเป่ามนต์สะกดทัพของพญาไมยราพนั้นมีฤทธิ์มากแม้จะสะกดองค์นารายณ์อวตารก็ยังทำได้ ดังนั้นวิชาผงนั้นก็เช่นกันพ่ออาจารย์ท่านว่าต้องใช้สะกดได้แม้เทพยดานั่นแหละจึงจะกดตัวอาถรรพ์ลงไปได้
    - ผงตัดพลัง(สยบดวง) วิชานี้จริงๆแล้วท่านว่าต้องเรียกสยบดวงแต่ท่านเอาที่วิธีใช้พอจะพูดให้เข้าใจง่ายๆก็เหมือนเราตัดพลังคนอื่นเค้า เวลาเราจะทำกิจอันใดที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้อื่นคุณวิชานี้จะสยบดวงของเขาไว้ ใช้สะกดดวงทั้งลูกค้า คู่แข่งและคนรอบข้างเพื่อเบิกทางสู่ความมั่งคั่งของตนเอง ท่านว่าอะไรก็ตามที่เป็นการแข่งขันทั้งการค้า,ธุรกิจ,การเสี่ยงโชค หรือคนที่รู้ตัวว่าชีวิตมีความเสี่ยง เราทำแล้วมันไม่แน่ไม่นอนนะแบบไม่แน่ว่าจะได้ ผงนี้จะหนุนเราให้กิจที่ทำเป็นไปได้ด้วยดีดั่งเราตัดพลังคนอื่นเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าใช้เพิ่มโอกาสในหน้าที่การงานจะได้มีทรัพย์สินดั่งที่ต้องการ ให้ชีวิตรับเอาแต่สิ่งที่ดีมากกว่าคนอื่น จะทำอะไรก็มีลาภลอยไม่ขัดสน
    - ผงพระเจ้าดับทุกข์ ท่านว่าผงนี้ดีเพราะมีตัวรู้ ให้เราอธิษฐานดับทุกข์ได้ตามสั่ง จะใช้ปัดเคราะห์กันความก็ทำได้ตามต้องการ ทั้งยังเป็นกำบังแม้แต่อริศัตรูหมู่มารร้ายมาพบเจอย่อมไม่เห็นเราทำร้ายเราไม่ได้ไม่ต้องเนื้อตัว ท่านว่าผงนี้สำคัญเพราะผสมลงไปให้องค์พระมีคุณทางดับทุกข์,ปัดเคราะห์,เตือนภัย ถ้าเมื่อไหร่ที่ชีวิตเรามีภัยจะมีเหตุดลใจให้ฉุกคิดก็เป็นอันที่รู้กันว่าจะเกิดภัยอันตรายมาสู่ตัวให้ระวังภัย ทั้งคุณวิชานี้ยังมีผลงอกงามใครที่ขยันหมั่นสวดหมั่นอธิษฐานสิ่งใดไว้อะไรๆก็จะดีขึ้น แม้ฉุกเฉินต้องเผชิญอันตรายก็จะบังเกิดเป็นเกราะคุ้มภัยไม่ให้มีเหตุร้ายแรงเกิดขึ้นเลย
    - ผงไก่กุกเรียกทรัพย์ ผงไม้นี้ท่านว่าเป็นทั้งเสน่ห์ก็ได้ใช้ทางเรียกทรัพย์ก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านปลุกเสกเสริมใส่ไว้ด้วยวิชาเมตตาอันเหลือล้นด้วยคนไหนพกไม้ไก่กุกไม่ว่าชายหรือหญิงย่อมเป็นที่ต้องจิตตรึงตาสะกดใจชนทั้งผองเมื่อได้พบหน้า จะเจรจาความอะไรก็เป็นไปตามปากสำเร็จสมหวังทุกประการ ผงนี้ท่านว่าดีทางเมตตาหากิน จะหาคู่หาทรัพย์ก็ใช้ได้ทั้งนั้นสุดแท้แต่จะต้องการเถิด
    - ผงเหยียบเซียน ท่านว่าวิชานี้ก็เป็นการหนุนดวงอย่างหนึ่ง แต่ต้องเรียกว่าหนุนเน้นไปในทางโชคลาภและการแข่งขันทุกรูปแบบโดยเฉพาะ ชนิดที่ว่าหากไปเจอใครมีอาถรรพ์มีวิชาอะไรในตัวเราข่มเขาหมด ของที่ผู้อื่นใช้จะอ่อนแรงดั่งเสือที่ว่าดุยังนอนหมอบสยบลง จะใช้ทางไหนก็ได้ท่านว่าใช้เพื่อให้ทุกสิ่งที่มันได้ชื่อว่าดีกับตัวเราเข้ามาในชีวิต หนุนให้ตัวเราสูงยิ่งขึ้นเหยียบเอาชัยเหนือผู้อื่นจนเขาหมอบกราบยอมแพ้กันแบบนั้น คนที่ชีวิตไม่ค่อยจะดีท่านว่าผงนี้จะพลิกกลับให้ชีวิตพลิกผัน จะกลับร้ายกลายเป้นดี พลิกชีวิตให้เจริญรุ่งเรืองทั้งการเงินการงานความรักการเสี่ยงดวง...ครบเครื่อง
    - ผงภาคพระราหู วิชาสายราหูนั้นใช้ได้หลายเรื่องจะเน้นให้บังเกิดโชคลาภ ถามหาโชคใหญ่ เปลี่ยนคนโชคร้ายให้โชคดีมีทรัพย์ คนที่ดวงตกดวงไม่ดีดวงด้านการเงินเจ๊งเปลี่ยนให้ทำมาค้าขึ้นค้าขายคล่อง คนที่ดวงด้านความรักไม่ดีก็จะมีแต่คนรักคนเมตตา คนไม่มีคู่ก็จะพบคู่เรียกว่าใช้ได้หลายทาง แต่วิชานี้ส่วนใหญ่ต้องทำในคืนราหูอมจันทร์บางอย่างพ่ออาจารย์ท่านต้องทำอาถรรพ์นำผงออกมาอาบแสงจันทร์เป็นปี บางอย่างก็ผ่านพิธีรับส่งราหูมาหลายพิธี ที่เรียกว่าผงภาคพระราหูนั้นเพราะท่านท่านทำผงวิชาราหูหลายตำรับนำมาลบรวมกันเพื่อเน้นกำลังให้แรงที่สุดด้วยวิชาสายราหูนั้นจะเรียกเรียกเงินเรียกทองเรียกโชคลาภทรัพย์สินความร่ำรวยยิ่งยิ่งขึ้นไปให้เกิดกับผู้ที่นำมาสักการะบูชา ท่านว่ามีครบหมดทั้งราหูหาทรัพย์,ราหูค้นทรัพย์,ราหูรับทรัพย์,ราหูสะกดภูมิ(ท่านว่าตัวนี้แรงเพราะสะกดได้หมดแม้แต่เจ้าที่พระธรณีหรือเทวดาทั้งหลายรวมไปถึงสะกดอาถรรพ์สถานที่ต่างๆที่เราอาศัย) ท่านอธิษฐานจิตฝากพระราหูให้ช่วยเรื่องทรัพย์และการเสี่ยงดวงเป็นทางเฉพาะ ให้ผู้สักการะมีคนอุปถัมภ์คอยช่วยเหลือเวลาไร้ที่พึ่งพิง
    - ผงสมบัติพระอินทร์ ใช้สร้างคนให้เป็นมหาเศรษฐีเน้นทางมหาลาภใหญ่ ให้ผู้อาราธนาประสบความสำเร็จสมหวังในสิงที่ปรารถนาทั้งค้ำคูณหนุนดวงให้เจริญรุ่งเรืองดุจมีสมบัติเทวดาสมบัติพระอินทร์มีวาสนาจอมเทพนำทางชีวิต ผงนี้ท่านว่าใส่ไว้เดินไปทางไหนติดต่อใครไม่มีคนกล้าเกลียดเป็นที่รักของทั้งคนและเทวดาทั้งหลาย ไม่มีคำว่าอดอยากยากจนเพราะเป็นของทิพย์ ต่อให้ยามขัดสนหมดหนทางจริงๆก็จะเห็นทางไป เห็นทางออกที่ใช้แก้ปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
    - ผงมนต์ดูดจิต ใช้ดูดจิตดูดใจให้มีคนมารักใคร่จะดูดจิตให้รักหรือดูดทรัพย์เข้ามาหา ดูดอะไรมาใส่ปากให้เรากลืนให้เรากินก็ได้ทั้งนั้นขึ้นอยู่ที่เจตนาเอาไปใช้ เป็นเสน่ห์เมตตามหานิยมและมหาลาภอยู่ในตัวเอง แต่เหนือสิ่งอื่นใดคือดูดจิตเรียกใจคนได้
    - ผงเต่าเลือนสูญความ ท่านว่าปกติวิชาเต่าก็ดีทางทำมาค้าขึ้นหนุนดวง เป็นสุดยอดทางมหาลาภเน้นโชคลาภดีอยู่แล้ว แต่เต่าเลือนนี้ยังช่วยให้ทุกข์ให้ถ้อยความสูญไปผ่านพ้นไปด้วยดีให้มีชัยชนะเหนือศัตรูคู่แข่ง ชนะคดีทำให้ศัตรูเลอะเลือนงุนงง ถ้าเราใช้เพื่อการแข่งขันผงนี้จะช่วยให้เรามีชัยเหนือศัครูคู่แข่งเสมอ ที่ทุกข์ที่ร้อนนั้นสูญสิ้น มีเรื่องมีความติดตัวก็เบาลงคลายลงผ่อนลง พ่ออาจารย์ท่านว่ามีชีวิตอยู่ย่างปกติสุขตามที่ควรจะเป็นนั้นแหละดีที่สุด

    เพื่อจะเน้นให้องค์พระเพชรกลับนั้นใช้ได้หลายทางครบเครื่องพ่ออาจารย์ท่านจึงเน้นลงเรื่องสำคัญๆโดยเฉพาะเรื่องโชคลาภเรียกเงินเรียกทองเรียกโชคอย่างมหาศาล ท่านว่ารุ่นนี้ใช้เสี่ยงดวงเสี่ยงโชคได้กลับคนที่ไม่เคยโดนไม่เคยถูกให้เข้าที่เข้าทาง ทั้งเป็นเมตตามหานิยมให้มีคนรักคนเมตตาต่อเราไม่ขาดเลย ตลอดจนสะกดศัตรูคู่แข่ง พระเพชรกลับรุ่นนี้นอกจากเน้นผงแล้วยังมีมวลสารที่พ่ออาจารย์ท่านจดไว้คร่าวๆผสมลงไปด้วยอีกมากทั้งผงว่านไพรดำ,ผงดินเจ็ดท่าน้ำ,ดินใจกลางประสาทขอมเจ็ดแห่ง,ผงอิทธิเจ,ผงเทพรัญจวน,ผงเทพรำลึก,ผงเทพทันใจ,ผงเทวดาตาทิพย์,ผงคาถาเสี่ยงโชค,หัวใจนางกวัก,เทวดาล่องหน,ผงนะเศรษฐีนะมีนะเงิน,ผงจิ้งจกสองหาง,ผงเดือยงูเหลือม,ผงดีจรเข้,ผงหิงหายผี,ผงเทพสังหรณ์,ว่านช้างผสมโขลง,ว่านเสน่ห์จันขาว,ว่านเสน่ห์เขียว,ว่านเพชรหึง,ว่านดอกทองตัวผู้,ว่านดอกทองตัวเมีย,ว่านจูงนาง,ว่านห้าร้อยนาง,ว่านแก้วสารพัดนึก,ว่านสาลิกาลิ้นทอง,เต่านำโชค,ลูกไก่ทอง,ว่านมหาโชค,เครือเขาหลง,ว่านมหาลาภ,ว่านรางเงิน,ว่านเศรษฐีน้ำเต้าทอง,ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์,ผงรักซ้อน,ไม้ยอ,ไม้มะยม,ไม้งิ้วดำ,ว่านกระบี่ทอง,ว่านนางวันทองห้ามทัพ,ว่านกาสัก,ว่านเสือนั่งร่ม,ว่านกำแพงขาว,ว่านเขาควายใหญ่,ว่านคางคก,ว่านพญาปลิง,ว่านจักรไกร,ว่านจักรพรรดิ์,ว่านท้าวชมพู,ว่านนารายณ์แปลง,ว่านปัดตลอด,ว่านกายประสิทธิ์,ว่านปราบสมุทร,ว่านเพชรคง,ว่านเพชรกลับ,ว่านเพชรใหญ่,ว่านเพชรหน้าทอง,ว่านเพชรน้อย,ว่านเพชรไพรวัลย์,ว่านรางเงิน,ว่านสบู่หลวง,ว่านหนุมานนั่งแท่น,ผงกะลาตาเดียว,ผงกบตายคารู,ผงดินขุยปู,ผงรังผึ้งร้างขวางตะวัน,ผงรังต่อปิดตาพระเจ้า...
    - ฝังตะกรุดเปิดดวงรับโชค
    ท่านว่าตะกรุดนี้จะลงมหายันต์ในด้านการเสี่ยงดวง มีอานุภาพทางด้านเรียกโชคลาภทรัพย์สินเงินทองเรียกเงินเรียกโชคหนุนดวงทางด้านเสี่ยงโชคเสริมลาภโดยเฉพาะให้ดวงด้านนี้เปิดออก ทั้งจะใช้ทางการค้าการขายหรือธุรกิจการงานก็ใช้ได้ดี จะอธิฐานขอโชคลาภอธิฐานเวลาเสี่ยงดวง(ก่อนจะทำให้อธิษฐานก่อน) ดวงเราจะเปิดโชคเปิดลาภให้กับตัวเองใช้เรียกหาทรัพย์หรือจะใช้ทางทำมาค้าขึ้นก็ได้ ท่านว่าทำให้ชีวิตสำเร็จทุกประการในเรื่องเงินทองมีกินไม่หมดไม่อดไม่อยากไม่ยากไม่จน เพราะท่านกำกับด้วยนะมีกินไม่รู้สิ้น

    พระเพชรกลับนี้..ท่านเน้นทางกลับให้ได้ผลงอกเงย พอกพูน เรียกทรัพย์กลับเงินเข้าไม่ขาด เน้นให้ดวงให้โชคนั้นเด่นมากกว่าคนอื่น จะแข่งขันกับใครก็ได้สำเร็จสมหวัง ท่านว่าทำไว้ให้หมั่นใช้หมั่นขอติดขัดอะไรก็ให้อธิษฐานขอเลย ใครดวงตกอาภัพโชคลาภการงานไม่ดีให้ลองขอดูจะพลิกกลับเร่งโชคเร่งลาภเร่งให้รวยเร่งให้เร็วจะไปแห่งหนตำบลใดขอให้อธิษฐานใช้เปิดทรัพย์กลับดวงกลับโชคลาภวาสนารับรองว่ามีกินไม่หมดไม่มีคำว่าอดอยาก ทั้งยังจักห้ามเสียได้ซึ่งยังภัยทั้งหลายไม่ว่าจะกันฟ้าฝ่า กันไฟไหม้ ชนะภัยร้ายทั้งปวง บรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยและเป็นมหาโชคมหาลาภแก่ผู้ที่บูชากราบไหว้อันตรายทั้งปวงจักมิบังเกิดมีมาให้อยู่เย็นเป็นสุข จะบังเกิดอำนาจวาสนาในบุญบารมี มีโชคมีลาภเลื่อนฐานะก้าวหน้าทำมาค้าขึ้น แม้ประสงค์ทรัพย์อันใดในโลกให้เร่งอาราธนาจักร้อนถึงเทวดานำมาให้ ขอให้ขยันทำมาหากินเท่านั้นองค์พระจะกลับจะหนุนให้มีกินมีใช้ตลอดไป เมื่อถามหาโชคท่านว่าบางคนก็อยู่ที่วาสนาแลบุญของเขาด้วย บางคนไม่เคยมีโชคเรื่องพนันเสี่ยงดวงเลยก็จะได้ลาภจากการขอลาภทางหน้าที่การงานเข้ามาแทน ทำให้ผู้ใหญ่เพื่อนฝูงเอ็นดูเมตตาให้สิ่งต่างๆเช่นนี้

    ### องค์พระนี้ท่านว่าให้หมั่นสวดปลุกคาถาเป็นประจำ ถือเสียว่าสวดเพื่อสั่งสมโชคให้ตัวเอง ให้วาสนาพอกพูนขึ้นเรื่อยๆเสมอด้วยคำสวดคำอธิษฐาน เวลาจะไหนมาไหนพอนึกออกก็สวดปลุกได้ตลอดเวลาที่ต้องการจะตอนไหนก็ได้ โดยหลักในการท่องคาถาหรือบทสวดต่างๆนั้น ขอแค่ตัวเรามีสมาธิ มีใจที่ตั้งมั่นหรือมีความเชื่อความศรัทธาภายในจิตใจเป็นพื้นฐานเสียก่อนนั่นถึงจะเห็นผลได้ไว

    คาถาบูชา
    นะลาโภ ละพะติลาภัง นะจังงัง สวาโหมติด ใช้อาราธนา
    อุเยอะเย เพงๆ พาๆ หาๆ รือๆ สัมปะติจฉามิ ใช้อธิษฐานหาทรัพย์ได้มากตามที่ต้องการ
    พุทธะ นิมิตตัง มะอะอุ ปัจจะยะ ลาโภ นะโมพุทธายะ ชนะภัยร้ายทั้งปวงทั้งบรรเทาทุกข์จากการเจ็บป่วยและเป็นมหาโชคเรียกทรัพย์ กลับชะตาชีวิต

    *** องค์พระเพชรกลับรุ่นนี้ เป็นพระที่พ่ออาจารย์ท่านเน้นในการทำผง ใช้มวลสารล้วนๆมากดพิมพ์ ท่านว่าเน้นให้กลับทุกทางจากร้ายไปหาดี ไม่มีว่าจะกลับดีให้ทรุดลงเลย คนที่มีวาสนาพอตัวนั่นแหละเขาถึงจะได้ไปต่อบารมีเขา ท่านว่าทำไว้ได้ไม่มากมีอยู่สิบหกองค์ ผู้ที่บูชาก็ให้หมั่นใช้หมั่นอาราธนาตามพระคาถานั่นเลยว่างเมื่อไหร่จะใช้ทางไหนก็ให้สวดให้ขึ้นใจตอนนั้น รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาและซื้อหนังสือให้เด็กชาวดอยต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระเจ้าสะกดเบี้ยดูดจิตพลิกผันสนองกลับปัดอุปสรรค(ผงเหยียบเซียน) บูชา 900 บาท

    72146636-3308881819153776-473681205657600000-n.jpg 75603440-848619612220167-1074889503686000640-n.jpg
    74209149-411865303082953-2157374218948313088-n.jpg
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ตำนานพระเพชรหลีก-เพชรกลับนั้น สร้างขึ้นโดยท่านเจ้าคุณทักษิณคณิศร หรือจะเรียกกันติดปากว่าพระเพชรหลีก-เพชรกลับวัดใต้ ที่เรียกว่า ###เพชรกลับนั้นเนื่องจากถ้าเกิดมีผู้ใดตั้งใจทำสิ่งชั่วร้ายใส่ตัวเราสิ่งนั้นจะย้อนกลับไปหาผู้กระทำนั้น ทั้งยังกลับร้ายกลายเป็นดี,กลับคนจนกลายมาเป็นร่ำรวย,ทำสิ่งที่ยากให้กลายเป็นสำเร็จดั่งว่าง่าย ส่วนพระเพชรหลีกนั้นจะเน้นไปทางแคล้วคลาดในยามที่มีภัยอันตรายซึ่งเราสามารถที่จะอาราธนาพระพุทธคุณให้หลีกหนีพ้นไปได้จึงได้ชื่อว่าเพชรหลีก

    ว่ากันว่าพระเพชรกลับนั้นจะหายากมากๆ หายากกว่าพระเพชรหลีกเป็นเท่าตัวด้วยจำนวนสร้างทั้งเพชรหลีกและเพชรกลับสมัยท่านเจ้าคุณทักษิณนั้นไม่ปรากฏทราบแน่ชัด แต่ที่แน่นอนก็คือคุณวิเศษขององค์พระนั้นยอดเยี่ยมใช้เรียกลาภสักการะก็ดีนักเรียกว่าใช้ได้รอบด้าน

    *** หนนี้ก็นับว่าโชคดีเพราะพ่ออาจารย์ท่านทำพระเพชรกลับไว้ให้ใช้กัน ท่านว่าใช้แทนของเก่าได้ ถ้าศรัทธาก็เอาไปแขวนคอ หากอยากรู้ว่าทำไมคนโบราณถึงแสวงหากันนัก เวลามีเรื่องหนักอกจวนตัวหรือเจอทุกข์มากๆ พ่ออาจารย์ท่านว่าคนสมัยก่อนก็รู้จักวิชามหาสะท้อนกันนะอย่างกันสะท้อนของทางเหนือก็มีหลายที่ทำไว้ แต่คนโบราณนั้นถ้าเขาเจอเรื่องทุกข์เขาจะดูก่อนว่าหนักว่าเบาอย่างไร ถ้าทุกข์สุมอกแก้ยากเขาจะหาพระเพชรกลับเจ้าคุณทักษิณนี่แหละมาใช้แม้จะสู้ราคากันแม้องค์ละหลายๆหมื่นก็ยังเอานี่เค้าเรียกว่ารู้วิธีแก้จริง ตอนนี้คนมาถามหาพระเพชรกลับกันมากท่านก็เลยเอาที่ทำไว้ออกมาให้ใช้แทนกันถ้าใครหาของเก่าไม่ได้หรือไม่อยากไปเช่าของแพงท่านว่าก็ใช้ได้เหมือนกัน เพราะผงแต่ละอย่างลงยากมากก็ดูเอาเองว่าชีวิตเราหนักหรือเบาอย่างไร ถึงพระจะองค์เล็กแต่ท่านมั่นใจว่าคุณภาพคับแก้ว ส่วนคนที่จองเหมามาหลักสิบผมขอตัดยอดไปนะครับเพราะพระมีน้อยแบ่งกันคนละองค์สององค์นี่ก็จะเต็มแล้วนี่แหละที่เขาเรียกว่า"เล็กดีแต่รสโต"

    ยืมภาพพระเพชรกลับเจ้าคุณทักษิณมาลงประกอบอีกที


    180c-02216.jpg
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีคนถามว่าพ่ออาจารย์ท่านเคยทำพระชัยหรือพวกพระยอดธงมั๊ย รายการนี้จะว่าไปก็ยังไม่เคยนำมาออกเลยจริงๆ เดี๋ยวเอาไว้ติดตามกันนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 พฤศจิกายน 2019
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่พรพจน์ EI 3836 1914 6 TH

    พี่เมธี EI 3836 1915 0 TH

    พี่สุรวุฒิ EI 3836 1916 3 TH

    พี่พรเทพ EI 3836 1917 7 TH

    พี่สิวริศร EI 3836 1918 5 TH
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    พอกล่าวถึงพระชัยกันไปเมื่อวานก็ให้นึกถึงพระชัยตำรับของพ่ออาจารย์ท่านที่ค่อนข้างจะแปลกกว่าที่อื่น ก็พอดีว่าพระชัยนี้เป็นเครื่องมงคลเสริมกำลังให้กับของวิเศษคู่หนึ่ง

    คงพูดได้ว่าท่านไม่ค่อยทำเครื่องรางที่เป็นเทพเดรัจฉานซักเท่าไหร่ คนจะจำกันได้ติดตาก็เฉพาะสมิงพระกาฬ ควายธนู...หมูวราหาเหล่านี้ แต่คราวนี้ต้องบอกว่าเป็นของอาถรรพ์สูง ด้วยท่านว่าแรงกว่าวราหาที่เคยทำไว้เสียอีก

    แต่เจ้าตัวนี้ต้องใช้เป็นคู่ ต้องเอาไปทั้งตัวผู้ตัวเมียมันถึงจะดีเป็นทวีคูณตรงตามตำรา เช่นนั้นท่านจึงทำมาให้เป็นคู่เลยๆ ด้วยว่าจะได้ไม่ต้องเปลืองทรัพย์มาเช่ากันมาก เรียกว่าบูชาหนึ่งก็ได้สองได้ทั้งผัวทั้งเมียทั้งตัวผู้ตัวเมียเลย

    ใครที่เคยถามว่ามีอะไรแรงกว่าควายธนูมั้ย ก็ลองติดตามกัน
    ดู รับรองว่าแค่เห็นหลายคนคงอยากจะรับไปเลี้ยงกันท่านสร้างมาให้เป็นคู่ๆ แต่จะเป็นอะไรเอาไว้ใช้ทำอะไรเดี๋ยวจะมาเล่าคร่าวๆให้ฟังอีกที บอกได้แค่ว่าคุ้มสุดๆ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    แจ้งการส่ง ems

    พี่กษิดิ์เดช EI 3836 4612 4 TH

    พี่ศิระ EI 3836 4613 8 TH

    พี่เมธาพันธ์ EI 3836 4614 1 TH

    พี่นพพร EI 3836 4615 5 TH

    พี่พรหมพล EI 3836 4616 9 TH
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    พรุ่งนี้ใครชอบแนวจิตวิญญาณสัตว์เลี้ยงชั้นยอดติดตามกันดีๆนะครับ
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    มีทายกันเข้ามาเยอะว่าจะเปิดจองอะไร เดี๋ยวรอลุ้นกันเย็นนี้นะครับแต่แอบใบ้ไว้ก่อนว่าในสมัยโบราณสิ่งนี้คือเครื่องรางที่แสดงออกถึงความเป็นเจ้า... โดยตัวนี้เฉพาะรายการของฝังก็คุ้มค่ามากแล้ว
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 20 พฤศจิกายน 2019
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    รายการเย็นนี้เตรียมกระสุนกันให้ดีนะครับ แอบบอกได้แค่ว่าคุ้มสุด เฉพาะข้างหลังก็เกินราคามากๆแล้วเพราะเป็นวิชาทำตะกรุดสังวาลย์ของพ่ออาจารย์ เป็นการทำตะกรุดชุดทั้ง 16 ดอก ซึ่งแต่ละดอกจะมีอานุภาพต่างกันไป เรียกว่าฝังชนิดไม่มีช่องว่างเลย ห้อยไปไหนก็เหมือนคาดสังวาลย์ คาดตะกรุดชุดสิบหกดอกไปพร้อมกัน ท่านว่าแต่ละดอกเห็นเล็กๆนี่ยังต้องตีตาราง จึงลงยากมากเพราะบีบอักขระ(เช่นนี้จึงได้บอกว่าคุ้มมาก)
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญสั่งฟ้าทวิราชรุกฆาตสิงหบัณฑูร(พระอวตารชัยราชยกศร,สังวาลย์สิบหกดอก)

    เหรียญรุกฆาตนี้ถือว่ามีความสำคัญมากและนับว่าลึกลับอย่างยิ่ง ด้วยคนเรานั้นพอเติบโตขึ้นเป็นลำดับชีวิตย่อมผ่านวิกฤติ ความสุข ทุกข์ ความอยากได้ใคร่ดี ตัณหามากมีต่างๆ..ชีวิตที่เปื้อน ที่สกปรก สูญเสียสมดุลเสียความบริสุทธิ์ ถูกอวิชชาตัณหาครอบงำแม้มีบารมีเก่าทำมาดีหรือมีบารมีใหม่ที่พร้อมส่งผลด้วยบุพกรรมความดีความชอบทั้งหลาย สิ่งเหล่านี้มันก็ไม่ให้ผล เหมือนภาชนะที่สกปรกแม้เอาสีใดๆไปแต้มไปเจิมมันก็ปรากฏให้เห็นยาก เหรียญรุกฆาตเป็นวิชาที่ปรับเปลี่ยนกฏแห่งกรรมในวัฏสงสาร ให้โอกาสสรรพชีวิตได้เริ่มต้นใหม่ จากที่แปดเปื้อนก็เปลี่ยนให้ขาวสะอาดด้วยพุทธานุภาพและมายาศาสตร์คติแห่งคุณวิชา วิชานี้ท่านว่าเป็นวิชารุกฆาตนั่นคือกินเขาไปเรื่อย แม้รุกเข้าไปในแดนศัตรูมีอันตรายรอบด้านก็ยังเอาชัยเขาได้ ท่านว่ากินแล้วกินอีกเป็นการรุกคืบเพื่อความสำเร็จเพื่อการณ์ใหญ่ เช่นนั้นท่านจึงทำเหรียญเป็นรูปสิงโตเพราะเป็นราชาแห่งสัตว์อยู่ที่ไหนไม่ว่าถิ่นใครก็กินเขาหมด สำเร็จประโยชน์ ได้ทุกสิ่งเช่นนี้นั่นเอง มีแต่รุกไปไม่ถอยหลังกลับ ท่านว่าด้วยอาถรรพ์แห่งคุณวิชาพกเอาไว้เถิด เดี๋ยวจะรู้เองว่ากินเขาได้ กินหมดทั้งกระดานนั้นเป็นอย่างไร แต่ให้พึงสังวรณ์ไว้ว่ากระดานที่จะเดินจะกินเขานี้มันไม่ใช่เกมส์ แต่เป็นหมากกระดานชีวิต เดินไปไหนทำอะไรก็รุกฆาตมีแต่จะเจริญก้าวหน้าตามลำดับไม่ถดถอย แก้ดวงแก้อาถรรพ์ชีวิตที่แปดเปื้อนมีมลทินอย่างใหญ่หลวงให้บริสุทธิ์

    " ดั่งสิงโตยอดเสาอโศก ใช้ประกาศศาสนา ปักที่ไหนเจริญรุ่งเรืองเป็นศูนย์กลางตรงนั้น เป็นตัวแทนพระพุทธเจ้าทั้งหลาย "
    กาลจักร - พยุหไกรสี
    สองชื่อนี้คือชื่อสิงโตที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ในเหรียญรุกฆาต ซึ่งท่านปั้นหุ่นเทียนไว้ได้สวยสง่าและมีอาถรรพ์ตั้งแต่ยังเป็นหุ่น ด้วยสิงโตนั้นมีลักษณะแห่งความเป็นเจ้า ใช้อาราธนาในการปกป้อง ทั้งป้องกันอันตรายและป้องกันความคิดไม่ดีทั้งสลายพลังชั่วร้ายในตัวและรอบตัวของเรา ช่วยเรียกโชคเรียกลาภ ด้วยเป็นสัตว์เทพที่มีศักดิ์สูงมีพลังงานมากมหาศาล จึงเป็นของสูงที่อดีตจักรพรรดิ์มักจะนิยมใช้กันสืบมา พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติเขาจะเป็นตัวแทนของการปกปักรักษาพูดง่ายๆคือพิทักษ์เรารวมไปถึงอาณาเขตที่เราอยู่ด้วยเขาจะกำจัดสิ่งชั่วร้ายต่อเราทั้งหมดในอาณาเขตรอบๆตัวเรา ท่านว่าสิงโตนี้ต่างจากสัตว์เทพหรือพยนต์อื่นๆนอกจากความแข็งแรง ตรงที่เขาฉลาด มีอำนาจความกล้าหาญ ทั้งดุร้ายกับหมู่มาร และมีสัญชาตญาณของผู้ล่าอยู่อย่างเต็มเปี่ยม(ในขณะที่สัตว์อื่นๆนั้นเป็นเพียงผู้ถูกล่า) เช่นนั้นท่านจึงปั้นหุ่นเป็นสัตว์เทพของเสด็จพระใหญ่นั่นคือกาลจักร - พยุหไกรสี สิงโตสองผัวเมียที่คอยเป็นพาหนะให้พระองค์ท่าน พ่ออาจารย์ท่านย้ำว่าทำสิงโตสำคัญของท่านคู่นี้ ท่านกำชับไว้เลยว่าขนหัวหยิก ตาใหญ่ อ้าปากกว้างเพียงแค่มองก็ดูมีพลังอำนาจ ด้วยเขาเป็นเจ้าแห่งสัตว์ และเป็นสัญลักษณ์แห่งอำนาจและเกียรติภูมิทั้งผองจัดเป็นสัตว์เทพตระกูลสูงเหนือสัตว์ใดๆ
    เหรียญรุกฆาตนี้พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากใช้เพื่อเสริมอำนาจ ยังเป็นที่สุดในการได้มาซึ่งยศถาบรรดาศักดิ์(ความก้าวหน้าแบบก้าวไกล) และยังปกป้องคุ้มภัยให้เจ้าของ ทั้ง"กาลจักรและพยุหไกรสี" นั้นเป็นสิงโตคู่ที่แยกจากกันไม่ได้ เมื่ออยู่ร่วมกันจะเป็นที่มาแห่งเกียรติยศความรุ่งเรืองช่วยให้เจ้าของมีฐานะและชื่อเสียง(ด้วยปกติเป็นสัตว์พาหนะในแดนทิพย์ขององค์ปฐม) ทั้งยังมีอำนาจขจัดปีศาจและสิ่งชั่วร้าย นำมาซึ่งความสุขสมหวัง จะยังให้ต่อไปนั้นชีวิตของเราปราศจากซึ่งการรบกวนของภูตผีปีศาจ,คุณไสย,มนต์ดำและคนพาล(พ่ออาจารย์ท่านว่าสมัยนี้สำคัญที่สุดก็คือน้ำใจคน สิ่งนี้น่ากลัวกว่าผีก็คือคนหลอกคน สมัยนี้ใครไม่ชอบหน้าใครเขาจองล้างจองผลาญกันจนตายกันไปข้างแบบไม่มีเหตุผลเช่นนั้นคนพาลจึงมีอยู่ทั่ว) ดังนั้นท่านจึงนำกาลจักรและพยุหไกรสีซึ่งให้คุณทางด้านข่มจิตคนให้ยำเกรง ช่วยให้ผู้ใช้ปราศจากการรบกวนของคนใจพาลทุจริตที่คอยหาเรื่องหาราวมาให้ ทั้งเขายังจะช่วยหนุนส่งวาสนาเราให้รุ่งเรืองขึ้นด้วยวิธีของเขา พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะเพิ่มพลังอำนาจที่จะแผ่ออกมาจากตัวเราจนคนรอบข้างสัมผัสได้
    ท่านเห็นว่ากาลจักรและพยุหไกรสีนั้นเป็นสิงโตคู่ ท่านจึงยืมรูปลักษณ์ของสิงโตจีนมาใช้เพราะท่านถือว่าเป็นลักษณะมงคล การวางคู่กันทั้งเพศผู้และเพศเมียกลมกลืนนั้นก็เป็นกระแสพลังงานของหยินและหยางที่สมดุลย์กัน ซึ่งสิงโตเพศผู้เท้าหน้าจะเหยียบลูกบอล และสิงโตเพศเมียเท้าหน้าจะเหยียบลูกสิงโต โดยคนจีนเชื่อว่าสิงโตเพศผู้มีบรรดาศักดิ์เป็น“ไท่ซือ”อันแปลว่ามหาเสนาบดี มีหน้าที่เป็นราชองครักษ์ของกษัตริย์หรือฮ่องเต้ ดังนั้นแม้แต่เชื้อพระวงศ์หรือบรรดาขุนนางชั้นผู้ใหญ่ยังต้องให้ความเกรงใจและเกรงกลัว ส่วนเพศเมียมีบรรดาศักดิ์เป็น“เส้าเป่า” มีหน้าที่เป็นราชองครักษ์ให้กับองค์ชายของราชวงศ์ ด้วยเป็นตำแหน่งขุนนางชั้นสูงสุดเช่นนั้นรูปลักษณ์สิงโตคู่ของจีนพ่ออาจารย์ท่านว่าจึงเหมาะสมเพราะเป็นยอดของมงคล มีทั้งศักดิ์และสิทธิ์คือเป็นรูปเคารพที่มีบรรดาศักดิ์สูงอยู่ในตัวเอง
    ท่านว่าของเช่นนี้มีอาถรรพ์มานับพันปีถือเป็นของสูงที่จะหนุนคนใช้ให้สูงขึ้นเป็นเงาตามตัวตามวาสนาสัตว์เทพพิทักษ์นี้ ท่านว่าสิงโตเทพทั้งคู่นี้จะนำชีวิตเรารุกฆาตไปเรื่อยๆและเมื่อใดที่เราจับเราฝากชีวิตไว้กับท่านทั้งสอง ### ฉันบอกได้คำเดียวว่างานที่ท่านรับไปนั้นไม่เล็กเลย คนที่ท่านหนุนท่านช่วยล้วนเป็นใหญ่เป็นโตเกินคนทุกยุคทุกสมัยทั้งสิ้น จำคำฉันไว้คำเดียวนั่นคือ"เป็นใหญ่เป็นโต" ไม่ว่าจะเอาดีทางไหนจะทำอะไรก็แล้วแต่ไม่มียกเว้น

    กาลจักรและพยุหไกรสีนั้นท่านว่าเขามีบริวารเป็นสิงโตและเหล่าสัตว์ตระกูลสูงทั้งหมด ***เพราะเป็นราชาแห่งสัตว์และมนุษย์ ไม่ใช่เป็นเจ้าเฉพาะเหล่าสัตว์เท่านั้นที่เราใช้แล้วเจริญรุดหน้ารวดเร็วนั้นเพราะเขามีอำนาจเหนือมนุษย์ทั้งหลายด้วย เรียกได้ว่าเป็นใหญ่ในโลกดั่่งสิงโตที่เหยียบโลกไว้ใต้อุ้งเท้าเหยียบแผ่นดินไว้ทั้งสี่ทวีป อุปมาเหมือนทุกสิ่งนั้นล้วนอยู่ในอุ้งมือในควบคุมของเขาทั้งหมดแม้ชีวิตของเราหรือสรรพสัตว์ทั้งหลาย เรียกว่ามีศักดิ์ใหญ่แต่กำเนิด เกิดมาก็เป็นเจ้าตั้งแต่ครั้งบรรพกาลก่อนเกิดโลกแตกดับนับครั้งไม่ถ้วน เช่นนั้นผู้ที่ขอให้เขาช่วยเหลือจึงหนีไม่ได้ที่เขาจะช่วยให้มีฐานะและชื่อเสียงรุ่งเรืองถึงพร้อมทั้งยศถาบรรดาศักดิ์ทั้งดับล้างสิ่งทรามอันชั่วร้ายทั้งหลาย นำมาซึ่งความสุขสวัสดี ชีวิตใครที่โดนรบกวนโดยภูติผีหรือเทวดาเกเรนี่เอาพี่กาลจักรและพยุหไกรสีของพ่ออาจารย์ท่านอาราธนาได้เลย ท่านว่าเขาไม่มาวอแวเราหรอกเพราะทั้งสองนั้นเขาจับวิญญาณร้ายกินหมด(เรียกว่าใครมาร้ายต่อหน้าเราไม่ได้เลย) วิชาสิงโตคู่นี้ปกติเขาจะสงวนกันไว้มาก ยิ่งกาลจักรและพยุหไกรสีที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างยิ่งต้องสงวนไว้ ### นั่นเพราะเป็นวิชาที่จะหนุนคนให้รวย เกินคน เหนือคน จึงเป็นของที่มีแต่คนรวยคนมีฐานะจะใช้ ดั่งในสมัยโบราณที่รูปสิงโตคู่นี้อยู่หน้าบ้านไหนย่อมบ่งบอกถึงฐานะทางการเงินของบ้านนั้นทีเดียว

    ท่านทั้งสองนี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสูงเหนือสัตว์เทพอื่นๆ แม้เราไม่อาราธนาติดตัวเพียงยกมือไหว้จบหัวท่านก็ครอบตัวเราคลุมทั้งบ้านทั้งอาณาเขตของเราแล้ว ใครมีความทุกข์เดือดร้อนมากให้เอาท่านทำน้ำมนต์อาบ(อธิษฐานไปเลยว่าขอพ่อพระพุทธมีองค์ปฐมเป็นที่พึ่งสูงสุดตลอดจนกาลจักรและพยุหไกรสีนี้ทำน้ำมนต์ล้างทุกข์ให้ด้วย) เดือดร้อนมากเท่าไหร่,ชีวิตร้อนอย่างไร อาบน้ำมนต์ล้างตัวล้างเสนียดไล่วิบากอุบัติภัยร้ายทั้งหลายทุกข์ภัยหายทันที คนที่ทำมาหากินไม่สะดวกการงานไปไม่ได้ไม่เจริญก้าวหน้าก็ขอบารมีท่านทั้งสองเอา พ่ออาจารย์ท่านว่าจะหากินคล่องแบบคาดไม่ถึง ดั่งสัตว์เทพอันมีศักดิ์สูงโดยกำเนิดแม้อยู่ที่ไหนย่อมไม่ต้องออกหาอาหารเอง จะมีคนหามาให้กินถึงปาก เงินทองก็เข้ามาง่าย หากินคล่องดั่งมีคนคอยเปิดทางให้ได้กินอย่างง่ายดาย

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสิงโตนั้นมีศักดิ์สูงมากโดยธรรมชาติ ให้เธอสังเกตุดีๆว่าแม้บ้านเราคนในสมัยโบราณยังไม่เอาสิงโตมาทำสัตว์พาหนะหรือเทียมเกวียนเทียมราชรถใดๆเลย เขาจะมีหน้าที่เฝ้าสถานที่สำคัญหรือล้อมสถูปเจดีย์และยืนอยู่บนยอดเสาของพระเจ้าอโศกเช่นนั้นนี่จึงเป็นอาถรรพ์ที่จะดึงชีวิตเธอ ทั้งกาลจักรและพยุหไกรสีมาอยู่ด้วยกัน นั่นคือดึงขึ้นไปให้เกิดสภาวะสมดุลย์ ไม่ใช่ดึงๆร่วงๆขาดๆเกินๆ ชีวิตผู้ใดที่หากินไม่ขึ้น,คนชั่วคนพาลรังแก,ถูกกลั่นแกล้งหรือกระทำทั้งจากสิ่งที่มองเห็นหรือมองไม่เห็น,มีเรื่องให้ชีวิตร้อนอยู่เป็นประจำ,เป็นโรคที่หาสาเหตุไม่เจอ,ต้องอุบาทว์หน้าหมองคล้ำไร้สง่าราศี... สิงโตคู่นี้แก้อาถรรพ์กลับร้ายกลายดีหนุนส่งเราได้ทั้งหมดดั่งผู้นำที่คอยเป็นมือมืดช่วยเหลืออยู่ในเงาของราชาทั้งหลาย ด้านหลังท่านอุดด้วยผงวิเศษสกุลสูงต่างๆทั้งผงมหาชัย,ผงมหาจักรพรรดิ,ผงทิพย์เกษรจุฬามณี,ผงพระพุทธเจ้าถอดรูป,ผงพระพุทธเจ้าแปลงรูป,ผงพระพุทธเจ้าแบ่งภาค,ผงพระพุทธเจ้าเปล่งรัศมี,ผงพระพุทธคุณ,ผงรัตนมาลา,ผงมหาปราบ,ผงมหาระงับ,ผงยันต์คู่ชีวิต,ผงตารางเพชร,ผงเฉลียวเพชร,ผงเกราะเพชร,ผงเงินล้านของหลวงพ่อปานที่ใช้อุดในพระพิมพ์ทรงสัตว์,ผงเอกลาภเรืองยศ,ผงโพธิสัตว์ค้าสำเภา,ผงทศชาติเงินไม่ขาดมือ,ผงเร่งลาภ,ผงมารุมให้ทรัพย์,ผงราชาโชค,ผงสิบสองนักษัตร,ผงพญาหนูขนคำ,ผงเงาะถอดรูป,ผงนารายณ์นั่งเมือง,ผงนาคราชคายแก้ว,ผงอุดมทรัพย์,ผงขอลาภพระฉิมพลี,ผงสิทธิลาภเจริญยศ,ผงยันต์พระฤาษีตาไฟ,ผงหัวใจกวักทรัพย์,ผงพระเจ้าค้าคำ ผสมด้วยผงมวลสารวิเศษทางกลับดวง หนุนดวง พลิกดวง และทนสิทธิ์ที่มีฤทธิ์ผิดธรรมชาติเหนือกฏวัฏจักรอันไม่คิดว่าจะเกิดขึ้นได้แต่ก็เกิดขึ้นโดยโลกวิสั

    ด้านหลังท่านฝังด้วยของมงคลสามสิ่งอันมีฤทธิ์เป็นที่สุดของพลังงานอย่างแท้จริง ได้แก่
    - พระอวตารชัยราชยกศร
    คติการสร้างพระชัยนั้นเพื่อหมายเอาอำนาจเอาชัยอันจะนำมาซึ่งความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า ให้ชนะทุกเภทภัย ให้มีชัยแม้ในความเดือดร้อนทุกทิศทาง เป็นยอดพระแห่งการขจัดปัดเป่าอุปสรรคทั้งปวงให้มลายหายไปสิ้นต้องเสกเบิกฟ้าเบิกไพรให้ชนะไพรีและศัตรูอันจะคิดทำร้าย ให้คนก้าวข้ามผ่านอุปสรรคปัญหาในชีวิตโดยเฉพาะโรคเจ็บโรคจนจะไม่ต่ำกว่าคนอื่น ใช้พลิกชะตาให้มีชัยไปตลอดชาติ ทั้งกลับร้ายกลายเป็นดี หนุนชะตาให้สูงส่ง

    แต่พระชัยตำรับพ่ออาจารย์นั้นท่านสร้างเป็นรูปพระอวตาร(องค์ศรีราม)ยกศรชัย อันเป็นมหาธนูโมลีขององค์พระอิศวร ที่ในประวัติศาสตร์นั้นนอกจากองค์ครูพระสยมเองล้วนไม่มีใครยกขึ้นแม้ซักคน อย่าว่าแต่ยกขึ้นเลยทำให้ขยับแค่เพียงข้อนิ้วหรือหนึ่งองคุลีก็ยังทำกันไม่ได้ การยกศรของพระรามนั้นเป็นชัยชนะเหนือชัยชนะ เป็นการประกาศก้องทั้งตรีโลกไม่ว่าจะเทวดาหรือกษัตริย์ทั้งร้อยแปดพระนคร แลอสูรคนธรรพ์ทั้งหลาย เพราะในพิธีนั้นมีคนมาลองยกศรทุกเผ่าพันธ์แม้เทพและกษัตริย์อันเป็นใหญ่ในโลกทั้งร้อยแปดพระนครหรือแม้กระทั่งตัวทศกัณฐ์เองก็ยั่งแพ้พ่ายไม่สามารถยกขึ้น
    อันมหาธนูโมลีของครูพระสยมนั้นมีสัณฐานใหญ่โต พ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะเชิญออกมายังต้องวางอยู่บนแท่นที่มีล้อแปดล้อต้องใช้คนที่มีกำลังมากที่สุดกว่าร้อยคนในการดันชักเลื่อนรถเทียมคันศรนั้นให้ขยับ ทั้งศรนี้ไม่มีแม้เทพเทวาคนธรรพ์นาคครุฑผู้ใดยกได้ไม่ว่าจะมีพละกำลังประเสริฐอย่างไร
    ...การยกศรชัยจึงเป็นการประกาศชัยชนะต่อบรรดากษัตริย์ทั้งร้อยแปดนคร พ่ออาจารย์ท่านว่า
    เพียงยกศรขึ้นก็คือชนะแล้ว กษัตริย์ร้อยแปดทั้งหลายนั้นรู้แล้วว่าไม่มีแสนยานุภาพพอจะต่อต้านพระรามได้ซักนครหนึ่ง ทั้งการยกศรขึ้นก็ยังหมายถึงการประกาศว่าตนนั้นพร้อมรบแล้ว ###ยกศรชัย ประกาศชัย ได้บำเหน็จ ดั่งพระรามได้นางสีดา ดั่งองค์สิทธัตถะราชกุมารได้พระนางพิมพา นั่นคือยกแล้วต้องได้ลาภ ได้นั่งเมืองเรืองยศ มีเกียรติปรากฏไปทั่วทั้งสิบทิศ ดั่งนั้นพระชัยราชยกศรนั้นจึงเป็นชัยชนะอันยิ่งใหญ่ที่เข้ามาพร้อมกับการเสวยสุข ไม่ใช่ว่าดีใจแล้วได้ทุกข์ตามมา ท่านทำตามตำรับกลับดวง พลิกดวง ฟื้นวาสนา เปลี่ยนแปลงชะตาลิขิต โดยอุปมาเหมือนกับว่า ตัวเราเป็นเพียงมนุษย์สองมือก็ยังมีวาสนายกคันศรเจ้าโลกขึ้นได้
    ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำคุณวิชามหาปราบเต็มวิชาโดยตั้งใจว่าจะทำให้เขาเอาไปใช้กันง่ายๆ ท่านตั้งใจจะทำให้พวกคนที่ไม่มีอาคม ไม่มีตบะ ไม่มีสมาธิให้เขาใช้ได้ เรียกว่าใครเอาไปถือครองก็ใช้ได้โดยเฉพาะพวกคนที่คิดการณ์ใหญ่ คนที่โดนเบียดเบียนรังแก เป็นไก่รองบ่อน วาสนาน้อย เหล่านั้น ซึ่งเหรียญรุ่นนี้ท่านว่าหากคนใช้เขาปราดเปรื่องก็ยังเล่นใช้ได้หลายทาง พ่ออาจารย์ท่านจึงได้นำวิชาทำตะกรุดมหาปราบทุกตำรับของท่านมาเข้ากับที่สุดของวิชาสายมหาปราบคือวิชาสายปราบโลกและปราบแผ่นดินทั้งสี่ทวีป อันเป็นอะไรที่เกินและมากกว่าวิชามหาปราบทั่วไป โดยหลอมรวมกับธาตุกายสิทธิ์และชนวนสำคัญเพื่อเทเหรียญพระชัยนี้
    พ่ออาจารย์ท่านได้กำหนดรูปแบบทำพิมพ์เป็นองค์พระอวตาร ท่านว่าต้องใช้พิมพ์นี้เท่านั้นเพราะองค์พระอวตารนั้นเป็นการแบ่งภาคของพระเป็นเจ้าลงมาปราบยุค ล้างอธรรม เป็นหน้าที่ตายตัวที่ต้องให้ความเป็นธรรมกับมวลมนุษย์ ด้วยกำลังพระอวตารอันเป็นผู้เป็นใหญ่ เป็นแม่ทัพสยบศึก มีอานุภาพทางมหาอำนาจ มหาปราบ มหาระงับ ...พ่ออาจารย์ท่านว่าแม้เหรียญนี้ไปตกอยู่กับใคร เขาก็จะมีแต่ความสุขความเจริญยิ่งๆขึ้นไปโดยเร็วพลัน ดั่งพระรามปราบโลก ล้างยุคเข็ญ ชนะพญายักษ์ที่อยู่ในจุดสูงสุดของโลก เป็นศัตรูที่เหนือกว่ามนุษย์และเทวดาอย่างทศกัณฐ์ได้ฉันใด ท่านบอกว่าแม้ตัวคนที่เอาไปใช้ก็ต้องชนะอุปสรรคขวากหนามทุกอย่างได้ฉันนั้น ท่านให้ใช้ทางดับทุกข์ ดับภัย ดับเคราะห์กรรม ระงับเหตุร้าย ระงับอันตราย ระงับเรื่องไม่ดีทั้งหลาย ทั้งยังใช้กันภัย กันความเดือดร้อนได้ทุกอย่าง ปราบเขาได้ทั่ว สยบเขาได้ทั้งโลก ท่านว่าต่อให้เป็นมดตัวเล็กๆก็ล้มช้างได้ เป็นคนตัวเล็กๆก็ฆ่ายักษ์ได้เช่นนั้น
    ท่านเสกแช่น้ำมนต์ล้างพิษไฟลง
    ระงับดับพิษ ดับภัย ดับอุปสรรคปัญหาอันตรายใดๆไม่ให้เข้ามาใกล้ชีวิตได้เช่นนั้น ท่านว่าเอาติดตัวไว้เถิดชีวิตจะสดใสทุกข์ภัยไม่มี ขอเพียงอย่างเดียวคือให้พกติดตัวจริงๆท่านจะแก้กันปัญหา แรงกรรมจะเสื่อมถอย คราเคราะห์จะหมดไป ระงับดับเรื่องร้อน เรื่องร้าย เรื่องไม่ดี ทั้งใช้ปราบคู่แข่งขันในทุกๆด้านไม่ว่าจะเรื่องรัก เรื่องงาน เรื่องส่วนตัวสารพัดเรื่องท่านว่าปราบเขาได้หมดทุกท่วงทำนองแห่งชีวิตเพราะครูท่านปกาศิตไว้ให้ใช้ปราบและปราบเท่านั้น ดังนั้นเหรียญนี้จึงเป็นยอดแห่งการปราบปรามและสะกดข่มทุกสรรพชีวิต ท่านว่าหนนี้เน้นไปที่พวกมีบารมีมาก มีบุญเยอะ มีวาสนาสูง ปกติเจอคนพวกนี้เราจะทำอะไรไม่ได้เลย แม้ห้อยพระชั้นครูอย่างไรก็เงียบ แต่ท่านว่าครานี้เหรียญนี้ทำมาเพื่อแก้กลเหตุเหล่านั้นโดยเฉพาะ ให้ปราบโลกสะกดไว้ทั้งหมด ระงับเหตุได้แม้ขึ้นโรงขึ้นศาล พ่ออาจารย์ท่านว่าขอให้พกไว้เถิดแล้วก็ใช้ชีวิตของเราไปแบบปกติรับรองว่าสยบ ได้ทั้งหมดทุกคน ทุกจำพวก และแม้แต่วิชาที่เขาจะใช้หรือบูชาติดตัว ทั้งมายาศาสตร์แลเวทย์มนต์กลใดย่อมไม่มีผลแก่เราทั้งสิ้น มีฤทธิ์เก่งกาจปราบไตรจักรหมายถึงปราบอันตรายของสามโลก ทรงอานุภาพทางป้องกันอันตรายทั้งบนบกในน้ำและอากาศ มีมหาอำนาจข่มศัตรูทุกกรณีเป็นเดชเดชะชนะไพรีได้ทั้งปวง
    ทุกการกระทำที่
    ผู้อาราธนานึกถึงองค์รามตราบใดที่ยังมีเหรียญพระชัยยกศรนี้อยู่ ท่านว่าทุกความปรารถนานั้นจะต้อง “สัมฤทธิ์ผล” พ่ออาจารย์ท่านว่าใครที่มีติดตัวขอให้หมั่นออกนามท่านถิด รามๆๆๆเถิด ชีวิตจะห่างไกลจากโรคภัยไข้เจ็บและเคราะห์หามยามร้ายได้ทั้งปวง

    - ตะกรุดสังวาลย์สั่งฟ้ามหาโสฬส
    ตะกรุดสั่งฟ้านี้ท่านให้ใส่กำลังโสฬสเอาไว้ โดยหมายถึงว่าตวาดสั่งฟ้าได้ครอบคลุมทั้งสิบหกชั้นฟ้าจึงต้องทำทั้งหมดสิบหกดอก โดยท่านลงมหาอักขระศักดิ์สิทธิ์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แทนพลังจักรวาล ท่านว่าใครมีกำลังโสฬสหนุนดวงนี่ชีวิตเขาจะออกแนวสบายๆไม่ต้องลำบากดิ้นรนมาก จะได้ทรัพย์สินหรือทำสิ่งใดก็ได้ก็สำเร็จมาแบบฟลุคๆง่ายๆ ทั้งโชคลาภเข้ามาไม่ขาด หนุนชีวิตเขาด้วยตะกรุดสิบหกดอกนี้จะเปิดบารมีเก่าดึงมาไว้ใช้กับตัว เทวดาทั้งสิบหกห้องสวรรค์ชั้นฟ้าจะเกื้อหนุนชะตาชีวิตจะไม่อับจน ต่อให้ลงกำลังใดๆซักร้อยแปดท่านว่าก็หนุนสู้กำลังโสฬสนี่ไม่ได้ เพราะถ้าไม่มีตัวนี้ลำบากกันทั้งชีวิตเลย ซึ่งพ่ออาจารย์ท่านก็ได้ลงตะกรุดทั้งสิบหกดอกเท่ากำลังโสฬส
    วิชาสังวาลย์มหาโสฬสนี้ ถ้าลงเป็นเส้นใหญ่ๆยาวๆต้องสะพายแล่งท่านกลัวว่าคนจะพกกันยาก แต่ก็รู้มือกันดีว่าเมื่อไหร่ที่พ่ออาจารย์ท่านออกตะกรุดสังวาลย์จะสี่หรือห้าดอกก็ตาม หรือแม้แต่ท่านยอมทำตะกรุดสังวาลย์ฝังไว้ในเครื่องมงคลชุดใด แน่นอนว่าเครื่องมงคลชุดนั้นต้องเป็นอะไรที่มีพลังศักดิ์สิทธิ์รุนแรงเต็มไปด้วยแรงครูขั้นสูงสุดอย่างแท้จริง หลายคนจึงหมายปองและรอเครื่องมงคลที่ท่านจะลงวิชาตะกรุดสังวาลย์ฝังไว้ด้วยเป็นตะกรุดที่สร้างยากลงยาก(กะซิบว่าปกติแค่บูชาตะกรุดสังวาลย์ของท่านๆเส้นๆนึงยังมีค่าหลายพันหรือเกินหมื่น) เมื่อจะเสกก็ต้องแยกเสกจนสำเร็จก่อนจึงนำมาฝังได้ ท่านว่าตะกรุดสั่งฟ้านี้แม้อยู่กับใครย่อมจะเป็นใหญ่เหนือคนอื่นทั้งหมด ทั้งเป็นที่รักของจิตวิญญาณและสิ่งมีชีวิตทั้งหลาย ท่านว่าสารพัดจะใช้เลยสำหรับตะกรุดชุดนี้
    - อธิษฐานจิตคิดสิ่งใดที่เป็นไปตามครรลองคลองธรรมย่อมสำเร็จผลอย่างอัศจรรย์
    - จะเป็นเลิศกว่าคนทั้งปวง รู้ความคิดกลอุบายทันเล่เหลี่ยมคนอื่น
    - มีลาภมาก ลาภผลถ่ายเทไม่ขาดตกบกพร่อง
    - เป็นตะกรุดชัย ทำอะไรก็ตามเราแพ้ใครไม่เป็น
    - ไม่ตายด้วยอุบัติภัยทั้งปวง
    - แม้มีภัยศัตรูมองไม่เห็นตัว
    - เจ้านายเอ็นดู คนโกรธเกลียดยิ้มรับมีมิตรไมตรี
    - เป็นเมตตาแก่ผู้อื่นในทิศทั้งสิบ
    - พบเจอเนื้อคู่หากมีวาสนาสมพงษ์
    - จะพูดะไรเสียงก็ก้องหูติดใจผู้อื่น
    - คุ้มทั้งคนทั้งบ้าน คนในครอบครัวไม่ทะเลาะเบาะแว้ง
    - ติดตัวไว้แคล้วคลาดปลอดภัย
    - แช่น้ำทำน้ำมนต์ได้สารพัดอธิษฐาน
    - เอาแช่น้ำให้ผู้อื่นดื่มกินเขารักเราดุจลูกในอุทร
    - ระงับอันตรายทุกข์โทษโทสา
    - ลูบหน้าตามีราศี ใบหน้าผ่องใสจะนำมาซึ่งวันเวลาที่ดี....


    คาถาบูชา
    เอหิจิตตัง มหาจิตตัง กาลจักร-พยุหไกรสี เมกะมุอุเมตตามะมะ มานิมามา...ขอให้(คำอธิษฐาน)..จงสัมฤทธิผล


    เคล็ดลับ
    # ท่านว่าคนที่ดวงชะตาเกิดไม่ดี เปลี่ยนดวงเกิดตัวเองย่อมทำไม่ได้ ท่านให้แก้เคล็ดด้วยการเอามือเราลูบหัวสิงโตทั้งสอง พร้อมกับบอกท่านว่าขออำนาจท่านช่วยให้เรามีชัยชนะเหนือศัตรู ทั้งคุ้มครองป้องกันดวง อุ้มชะตาเราให้เจริญก้าวหน้า ร่ำรวย และสำเร็จ (ตามแต่จะอธิษฐานเอาไว้) แม้ดวงตกชีวิตต่ำ ก็จะมีผลมาก...รวดเร็วดังปาฏิหาริย์

    *** เหรียญสั่งฟ้านี้ พ่ออาจารย์ท่านทำไว้เจ็ดเหรียญ ท่านอาราธนาเององค์หนึ่งและพลีให้เสด็จพระใหญ่(เนื่องจากเป็นพาหนะของท่านไปองค์หนึ่ง) จึงเหลือเพียงห้าองค์ให้บูชา รายการนี้รับจองเฉพาะทาง PM ###ผู้จองให้แจ้งปัญหาสารพัดในชีวิตของตนเอาไว้ด้วย พ่ออาจารย์ท่านจะทำการบอกกล่าวให้อีกคำรบหนึ่ง รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างอาคารเรียนในชนบทสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา เหรียญสั่งฟ้าทวิราชรุกฆาตสิงหบัณฑูร(พระอวตารชัยราชยกศร,สังวาลย์สิบหกดอก) บูชา 4,000 บาท


    76695056-1777083219092691-793319543773593600-n.jpg 75513464-445026016197964-6137361678750187520-n.jpg
    75369276-2225763397722748-369810848987742208-n.jpg
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,118
    ค่าพลัง:
    +16,629
    เฉพาะตะกรุดสังวาลย์ชุดนี้ที่เอามาลง ใครได้ไปก็นับว่าคุ้ม เกินค่าเครื่องมงคลไปไกลแล้ว รายการนี้ไม่รับโทรจองนะครับย้ำไว้อีกที
     

แชร์หน้านี้

Loading...