กระทู้สัพเพเหระ พูดตามใจอยาก

มันเริ่มชัดแล้ว
ความอดอยากจะทำให้เกิดสงครามได้ง่าย
เหมือนคนโมโหหิวจนตาลาย
คนจนกำลังหิวจะออกมาทำร้ายปล้นฆ่าคนรวย
แล้วรวมพลไปปล้นข้างประเทศที่มีอาหาร
ไม่อยากให้ไทยเอาข้าวมาเป็นเครื่องแสวงหาประโยชน์
จนเกินไปจะทำให้บางประเทศเกิดจราจลได้
ขายให้กลับประเทศยากจนแม้นราคาไม่สูงนักก็ควรทำ

 

หมู่นี้ทำไมคนหงุดหงิดง่ายจัง กระทบกันนิดๆหน่อยๆก็ปล่อยโทสะกันแล้ว
โดยเฉพาะกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรมนี่แหล่ะตัวดี คนธรรมดาสามัญไม่เท่าไหร่หรอก

ผมว่ามันแปลกๆอยู่เหมือนกันนะ ไม่เชื่อก็ลองมองดูคนข้างๆตัวก็ได้ จริงๆจ่ะ

 

อยากให้สร้างคลอง

อยากให้สร้างคลองรอบ กทม.ทำให้น้ำใส
ให้เรือท่องเที่ยวล่องไปตามคลอง
มีต้นไม้ร่มรื่นทั้งสองฟากฝั่ง
มีจุดลงชมแต่ละจุด เช่น การไถนา,ค่ายมวยไทย,ค่ายดาบ,สอนนาฎศิลป์,ช้าง
ประเทศจะได้เงินมหาศาล และเป็นที่รับน้ำที่จะท่วม
ถ้าท่านผู้ปกครองประเทศอ่านพบหรือท่านใดที่ใกล้ชิดท่าน
โปรดให้รีบทำเถิด

 

อยากให้ท่านมุ้ยสร้างหนังประวัติการสร้างบารมีของหลวงพ่อฤษี
ตั้งแต่สมัยพระเจ้าพรหมมหาราชเป็นต้นมา
จะเป็นหนังที่ยิ่งใหญ่ที่จะทำให้คนไทยรักชาติขึ้นมาทันที
จะหวงแหนแผ่นดินและยกย่องคนดีให้ปกครองประเทศ
สาธุครับ.ขอให้สำเร็จ

 

สวัสดีครับลุง

เห็นด้วยกับลุงครับ...หากอยากผ่านวิกฤตต่างๆ...ต้องทำกรรมฐานกัน...นะครับ

 

คะ กระทู้สัพเพเหระ พิมพ์ ตามใจอยาก

 

สัพเพเหระ ของลุงชัยมงคล มีประโยชน์ครับ
ต้องเรียกว่า สัพเพมีสาระ

 

อืมเห็นด้วยครับข้าวกับอาหารจะยิ่งมีราคามากขึ้น
เพราะว่าพืชปลูกได้ยากและผลผลิตน้อยลงทั้งเกิดจากโลกร้อนและเกิดจาก
ภัยธรรมชาติ อย่างอินเดียกับเวียดนามเขาน้ำท่วม กับเจอภายุจนผลิตข้าวส่งให้ตลาดโลกไม่ได้ ข้าวไทยก้อเลยขายดีราคาเลยเพิ่ม
แต่ถามว่าถ้ามันเกิดเหตุเภทภัยข้าวกับเงินอะไรมันจะสำคัญกว่ากัน
แต่ว่าเกษตรกรก้อต้องการเงินเอาไปใช้จ่ายกับจ่ายหนี้v_v
มันก้อเลยยากที่จะไม่ให้เกษตรกรขายข้าวในราคาแพงได้ อีกทั้งพวกเขาก็ไม่ใช่ผู้กำหนดราคา
ทางเดียวเลยที่จะควบคุมได้คือต้องมีมาตราการบังคับกับผู้ขายข้าวหรือโรงสีอ่ะครับ
ตัวดีเลย+_+ หรือไม่ก็ต้องเป็ฯคนค้าข้าวซะเองแล้วก้อเอามาขายถูกๆตัดราคาแบบกรมการค้าภายในเลยผมว่า
พวกที่กักตุนก้อต้องปล่อยออกมาจนได้

 

<CENTER>พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๓
อังคุตตรนิกาย จตุกกนิบาต</CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="90%" align=center background="" border=0><TBODY><TR><TD></TD><TR><TD width="100%" bgColor=darkblue hspace="0" vspace="0"></TD></TR></TBODY></TABLE>
<CENTER></CENTER><CENTER>ธรรมิกสูตร</CENTER> [๗๐] ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด พระราชาเป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรมสมัยนั้น แม้พวกข้าราชการ ก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อพวกข้าราชการไม่ตั้งอยู่ในธรรม สมัยนั้น แม้พราหมณ์และคฤหบดีก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อพราหมณ์และคฤหบดีไม่ตั้งอยู่ในธรรม สมัยนั้น แม้ชาวนิคมและชาวชนบท ก็เป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อชาวนิคมและชาวชนบทไม่ตั้งอยู่ในธรรม พระจันทร์และพระอาทิตย์ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เมื่อพระจันทร์และพระอาทิตย์หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ หมู่ดาวนักษัตรก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เมื่อคืนและวันหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เดือนหนึ่งและกึ่งเดือนก็หมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือนหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอเมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไม่สม่ำเสมอ ลมย่อมพัดไม่สม่ำเสมอ เมื่อลมพัดไม่สม่ำเสมอ ลมก็เดินผิดทางไม่สม่ำเสมอ ย่อมพัดเวียนไป เมื่อลมเดินผิดทางไม่สม่ำเสมอพัดเวียนไป เทวดาย่อมกำเริบ เมื่อเทวดากำเริบฝนย่อมไม่ตกต้องตามฤดูกาลเมื่อฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าทั้งหลายก็สุกไม่เสมอกัน ดูกรภิกษุทั้งหลายมนุษย์ผู้บริโภคข้าวที่สุกไม่เสมอกัน ย่อมเป็นผู้มีอายุน้อย มีผิวพรรณเศร้าหมองมีกำลังน้อย มีอาพาธมาก ดูกรภิกษุทั้งหลาย สมัยใด พระราชาเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรมสมัยนั้น แม้ข้าราชการก็ย่อมเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อข้าราชการตั้งอยู่ในธรรมสมัยนั้น แม้พราหมณ์และคฤหบดีก็เป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อพราหมณ์และคฤหบดีตั้งอยู่ในธรรม สมัยนั้น แม้ชาวนิคมและชาวชนบท ก็ย่อมเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม เมื่อชาวนิคมและชาวชนบทเป็นผู้ตั้งอยู่ในธรรม พระจันทร์และพระอาทิตย์ก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ เมื่อพระจันทร์และพระอาทิตย์หมุนเวียนสม่ำเสมอกัน หมู่ดาวนักษัตรก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ เมื่อหมู่ดาวนักษัตรหมุนเวียนสม่ำเสมอ คืนและวันก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ เมื่อคืนและวันย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอ เดือนหนึ่งและกึ่งเดือนก็ย่อมหมุนเวียนสม่ำเสมอกัน เมื่อเดือนหนึ่งและกึ่งเดือนหมุนเวียนสม่ำเสมอ ฤดูและปีก็ย่อมหมุนเวียนไปสม่ำเสมอ เมื่อฤดูและปีหมุนเวียนไปสม่ำเสมอกัน ลมย่อมพัดสม่ำเสมอ เมื่อลมพัดสม่ำเสมอ ลมย่อมพัดไปถูกทาง เมื่อลมพัดไปถูกทาง เทวดาย่อมไม่กำเริบ เมื่อเทวดาไม่กำเริบ ฝนย่อมตกต้องตามฤดูกาล เมื่อฝนตกต้องตามฤดูกาล ข้าวกล้าก็สุกเสมอกัน ดูกรภิกษุทั้งหลาย มนุษย์ผู้บริโภคข้าวกล้าที่สุกเสมอกัน ย่อมมีอายุยืน มีผิวพรรณดี มีกำลัง และมีอาพาธน้อย ฯ เมื่อฝูงโคข้ามไปอยู่ ถ้าโคผู้นำฝูงไปคด โคเหล่านั้นย่อม ไปคดทั้งหมด ในเมื่อโคผู้นำไปคด ในมนุษย์ก็เหมือนกัน ผู้ใดได้รับสมมติให้เป็นผู้นำ ถ้าผู้นั้นประพฤติอธรรม ประชาชนนอกนี้ก็จะประพฤติอธรรมเหมือนกัน แว่นแคว้น ทั้งหมดจะได้ประสบความทุกข์ ถ้าพระราชาเป็นผู้ไม่ตั้งอยู่ ในธรรม เมื่อฝูงโคข้ามไปอยู่ ถ้าโคผู้นำฝูงไปตรง โคเหล่า นั้นย่อมไปตรงทั้งหมด ในเมื่อโคผู้นำไปตรง ในหมู่มนุษย์ ก็เหมือนกัน ผู้ใดได้รับสมมติให้เป็นผู้นำ ถ้าผู้นั้นประพฤติ ธรรม ประชาชนนอกนี้ย่อมประพฤติธรรมเหมือนกัน แว่น แคว้นทั้งหมดย่อมได้ประสบความสุข ถ้าพระราชาเป็นผู้ ตั้งอยู่ในธรรม ฯ<CENTER>จบสูตรที่ ๑๐</CENTER><CENTER>จบปัตตกรรมวรรคที่ ๒</CENTER><CENTER class=l>-----------------------------------------------------</CENTER><CENTER>รวมพระสูตรที่มีในวรรคนี้ คือ</CENTER> ๑. ปัตตกรรมสูตร ๒. อันนนาถสูตร ๓. สพรหมกสูตร๔. นิรยสูตร ๕. รูปสูตร ๖. สราคสูตร ๗. อหิสูตร ๘. เทว-*ทัตตสูตร ๙. ปธานสูตร ๑๐. ธรรมิกสูตร ฯ<CENTER class=l>-----------------------------------------------------</CENTER>

เนื้อความพระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๑ บรรทัดที่ ๒๐๑๓ - ๒๐๖๑. หน้าที่ ๘๖ - ๘๘.http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=21&A=2013&Z=2061&pagebreak=0 ศึกษาอรรถกถานี้ ได้ที่ :-http://84000.org/tipitaka/attha/attha.php?b=21&i=70 สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๑http://84000.org/tipitaka/read/?สารบัญพระไตรปิฎกเล่มที่_๒๑</U>http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/mean_reverse.php?text=21&Aindex=%CA%D2%C3%BA%D1%AD</U>http://84000.org/tipitaka/read/?index_21<CENTER></CENTER></PRE>

 

ให้ชาวนาลืมตาอ้าปากบ้างเถอะครับ น้ำมันแพงขนาดนี้ อะไรๆมันก็ต้องแพงเป็นธรรมดา

ลุงอยากให้ขายถูกๆ ก็ไม่ยาก ให้รัฐบาลนั่นแหละซื้อข้าวไปขายในราคาถูก

รัฐบาลแต่ละประเทศต้องเป็นผู้ขาดทุน แล้วก็ไปขึ้นราคาส่งออกสินค้าตัวอื่นชดเชยการขาดทุน

ยกตัวอย่างนะครับ ฟิลลิปปินส์ มีสวนมะพร้าวมาก ก็ให้ขายน้ำมันมะพร้าวไปทำไบโอดีเซล ราคาน้ำมันสูง ได้กำไรก็ไปชดเชยการขายข้าวขาดทุน

แค่นี้ก็อยู่ได้แล้ว เมื่อทุกอย่างแพง ครบวงจร ระบบมันก็จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง

สินค้ามันไม่ได้ขาดแคลนนะครับ แต่มันกำลังถูกยกระดับราคาให้สูงขึ้น

อย่างตอนนี้ พรรคพวกบอกว่า มันสำปะหลัง โลละ4บาท นี่ก็ผลจากการเอาไปทำแอลกอฮอร์

 

ไม่มีใครเอาชนะธรรมชาติได้
ธรรมธาตุ ก็คือ ธรรมชาติ

ธรรมชาติยิ่งใหญ่ เป็นไฉน?
ธรรมธาตุย่อมยิ่งใหญ่ เช่นนั้น


ทุกอนู ทุกปรมณู นั่นคือธรรมธาตุใช่มั๊ย?
ใช่ ทุกอนู ทุกปรมณู และทุกจิตวิญญาณ์ คือธรรมธาตุ

เหตุไฉน ธรรมธาตุจึงยิ่งใหญ่เพียงนั้น
ดูกรท่านผู้ทรงธรรม และเจริญในธรรม เพราะเหตุด้วยธรรม เกิดแต่ธรรมชาติ

ธรรมชาติของสรรพสัตว์คือไฉน?
ดูกรท่านผู้เจริญ อันเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และดับไป นั่นแหล่ะคือธรรมชาติ

 

---------------------------------------------


กำลังเผชิญหน้ากับสถานการณ์แบบนี้เหมือนกันค่ะ
บ่อยขึ้นเรื่อยๆ ซะด้วย เหมือนโดนทดสอบยังไงไม่รู้...เหอๆๆ
สงสัยอากาศจะร้อนไปหน่อย.....เลยมีผลทางอารมณ์ด้วยมังคะ
ก็ถือซะว่าเป็นโอกาสที่เราจะได้ฝึกตัวเองบ่อยขึ้น

มองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้นแล้วย่อมดับไปเป็นธรรมดา...
ไม่ว่าเรื่องดีหรือไม่ดีทั้งหลาย
เกิดขึ้น....ตั้งอยู่....ดับไป....

(smile)

 

ทุกอย่างเกิดขึ้นเพราะมนุษย์ บัดนี้เหมือนกับลูกโซ่เริ่มตึงขึ้นทุกที ทุกอย่างย่อมพึ่งพาอาศัยและเป็นวงจรลูกโซ่ มนุษย์เป็นตัวกระทำให้ธรรมชาติผิดปกติ โลกร้อน ธรรมชาติเปลี่ยนกระทันหันเกิดภัยต่างๆ อาหารการกินเปลี่ยนแปลงจากธรรมชาติ โรคภัยเกิดมากมายและพัฒนาอย่างรวดเร็ว เวลานี้เงินดอลล่าเริ่มแข็งค่ามากขึ้น ทำให้ทั่วโลกแย่ตามไปด้วย อันนี้มาจากธรรมชาติและตัวมนุษย์ ที่ทำให้ลำบาก มนุษย์กระทำอะไรบ้างกับแร่ธาตุ น้ำมัน พวกนี้ใช้แล้วหมดไปกว่าจะเกิดอีกต้องใช้เวลานับหลายปี ใช้กันอย่างไม่คำนึง และด้วยความเห็นแก่ตัว อนาคตคือสิ่งที่ต้องเกิดขึ้นแน่นอน ทำปัจจุบันให้ดีเพื่อเตรียมรับอนาคตดีกว่า ถ้ามันเกิดแล้วยังไม่เตรียมตัวเตรียมใจจะลำบาก เรื่องป้องกันตัวเริ่มฝึกได้แล้วนะโดยเฉพาะชุมชนใหญ่ๆ หากหลบได้ก็หลบ ถ้าใครโกรธโมโหจงอย่าตอกกลับ เย็นเข้าไว้จะสยบไฟได้ เตรียมเรื่องอาหารด้วย อีกหน่อยจะอยู่ลำบากประเภทแป๊บซี่ใส่น้ำแข็งเย็นๆคงไม่ได้นั่งกินอย่างปัจจุบัน และจะทำอย่างไรเมื่อโลกมืดยาวนาน ขอให้ปัจจุบันใช้ชีวิตทางโลกและทางธรรมให้สายกลางไว้ อย่างทิ้งทางธรรม อย่าประมาท
อนาคตไม่เตรียมใจ น่าเป็นห่วง น่าเป็นห่วง

งดได้ก็งดนะ สิ่งไหนควรสิ่งไหนไม่ควร ทำใจให้เย็นไว้ อนาคตจะเดือดร้อนเพราะโมหะ และโทสะนำพาไป ใครทำใจให้เย็น เข้าใจในโลกนี้ตัดโลกนี้ได้ อยู่อย่างไรก็เป็นสุข ถึงแม้ทุกข์ทางกายก็สุขทางใจ

 

ตอบ. ...จริงของคุณครับ...เพื่อนๆหลายคนและผม ล้วนมีประสบการณ์เช่นนี้มานานแล้วระยะหนึ่ง...เรียกว่าปรากฎการน๊อตหลวม...หรือ เครื่องร้อนจัด...ระยะหลังนี่นั่งสมาธิแบบหลับตาเกือบไม่ได้เลย...ต้องทำสมาธิแบบลืมตา....เดาเอานะครับว่า คนธรรมดาไม่เดือดร้อนนี่เพราะเขารับพลังแปลกๆ..ที่ไม่ใช่ของดีนี้ไม่ได้....พลังนี้ทำให้กิเลสสามกองโตได้เร็วมาก...ยิ่งเสพก็ยิ่งแย่...ไม่เสพก็ไม่ได้..เพราะมันมากันเยอะเหลือเกิน เข้ามาในจิตได้หลายวิธี..ทั้งทางลมปราณและช่องรับสัญญาณทั้งหมดของมนุษย์...แล้วไปรวมตัวที่จิต..เหนื่อยใจจริงๆ...แต่ปรากฎการณ์นี้...จะเป็นเฉพาะ กลุ่มภัยพิบัติหรือกลุ่มก๊วนโลกแตกนี้เป็นส่วนใหญ่....นักปฏิบัตินอกกลุ่มไม่ค่อยทราบ..หลายคนยังคงนั่งสมาธิได้ลึกดีเหมือนเดิม..บางคน นอกจากจะมีปัญหา ไม่เฉพาะการเจริญสมาธิเพียงอย่างเดียว..ยังป่วยเป็นโรคแปลกๆเสียย่ำแย่...แต่ในที่สุดก็หายเอง


พลังเช่นที่ว่านี้...คลอบคลุมไปทั้งโลกแล้วมาชั่วระยะเวลา ประมาณ หนึ่งปี....หมายความว่า..ในปัจจุบัน...เหตุการณ์ทั้งหมดได้ผ่านจุดที่ไม่อาจหวนกลับคืนได้ดังเดิม...มีแต่มุ่งสู่จุดสุดท้าย...

เป็นเพียงความคิดเห็น...ผิดถูก ไม่ว่ากันนะครับ

 

คือ...สงสัยว่า ทำไมปรากฎการณ์นี้ถึงเป็นเฉพาะกลุ่มภัยพิบัติล่ะคะ

 

เรียน คุณ พุทธานุสติfficeffice" /><O></O>
ผมเป็นเพียงผู้เริ่มต้นศึกษาการปฎิบัติธรรม....ยังต้องการคำชี้แนะจากท่านผู้รู้อีกมาก..แต่ในเมื่อท่านถามมา ผมจะลองตอบดูครับ...<O></O>
เหตุที่เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก...สมาชิกก๊วนโลกแตกอย่างพวกผม......ชอบจูนคลื่นความถี่ของจิตให้ตรงช่อง..ภัยพิบัติและการอวสานของอารยธรรม ตลอดมา......นี่มิใช่เพียงชาติเดียว แต่เป็นเช่นนี้มานานมากแล้ว....จนเลิกไม่ได้......เพื่อนธรรมบางท่านเคยอยู่ในยุคโนอาห์โน่น...เขาว่าของเขาอย่างนั้นนะครับ......ผมไม่ได้ว่า......เมื่อเป็นเช่นนี้ย่อมเป็นธรรมดาที่ จะตรวจจับสัญญาณแปลกปลอมในเรื่องประหลาดพิลึกกึกกือนี้ จากภายนอกได้เร็วกว่าคนธรรมดา...และคู่กัดของเหล่ากระผม ก็คอยจ้องทำลายทุกขณะ...หากไม่อาศัยบารมีครูบาอาจารย์เก่ามาค้ำจุน...ป่านนี้คงล่องจุ้นไปนานแล้ว....<O></O>
สำหรับนักปฎิบัติบางท่าน ที่มิได้รับผลกระทบนี้..นับว่าโชคดี ที่ท่าน อาจไม่ตกเป็นเป้า..เพราะท่านสอนแต่ธรรมอย่างเดียว และไม่ขวางทางปืนเขา...เขาคือใคร......ต้องเดาเอาเอง<O></O>
<O></O>
ผมไม่ได้โกรธเขานะ..เขาทำหน้าที่ของเขา....บางครั้ง ผมก็เคย พบและเสวนากับลูกศิษย์ของเขาอย่างสนิทสนมมาแล้ว..ทำให้ทราบว่าเขาไม่เลวร้ายอะไรเลย.....เราต่างหากที่อ่อนแอเกินไป ยอมให้เขาเข้าแทรกได้......หากรู้ทันเขา เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้<O></O>
หวังว่าคำตอบนี้...คงตรงใจคุณ และตรงใจ คู่กัดของเหล่ากระผม....ไม่มีอะไรต้องโกรธและทำลายล้างกันต่อกันนะครับ...ก็แค่ ตอบปัญหาสนุกๆเรื่องหนึ่ง..อ้อ...เขาบอกว่าไม่ให้ผมเอ่ยชื่อเขา....คุณต้องเดาเอาเองแล้วล่ะครับ<O></O>
ท้ายที่สุดนี่....ไม่ทราบว่า....ผมกำลังเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนอยู่รึเปล่า? <O></O>

 

พอเข้าใจแล้วค่ะ ...แต่ไม่ทราบว่าจะถูกต้องตรงกันหรือไม่...
ดิฉันก็เป็นผู้ที่ศึกษาอยู่ค่ะ ยังต้องฝึกฝนขัดเกลาตัวเองอีกมาก

ตอนนี้อยากกลับไปเป็นคนธรรมดาค่ะ...
รู้สึกเหนื่อยและเครียดกับการเป็นนักปฏิบัติในสายตาคนรอบข้าง
มีทั้งความเกร็ง ความหวังดีเกินไป และความท้าทายบางประการ
ที่มาพร้อมกับคำว่านักปฏิบัติของเราค่ะ


เป็นคนธรรมดาๆ...แบบที่รู้เนื้อรู้ตัวมากขึ้น
น่าจะมีความสุขกับการปฏิบัติมากกว่านี้

เพิ่งเข้าใจว่าเล่นไปตามเกมส์ของโลกสมมุติซะบ้าง...จะง่ายกว่า...


ด้วยความเคารพค่ะ
^-^

 

สำหรับนักปฎิบัติบางท่าน ที่มิได้รับผลกระทบนี้..นับว่าโชคดี ที่ท่าน อาจไม่ตกเป็นเป้า..เพราะท่านสอนแต่ธรรมอย่างเดียว และไม่ขวางทางปืนเขา...เขาคือใคร......ต้องเดาเอาเอง<O></O>
<O></O>
ผมไม่ได้โกรธเขานะ..เขาทำหน้าที่ของเขา....บางครั้ง ผมก็เคย พบและเสวนากับลูกศิษย์ของเขาอย่างสนิทสนมมาแล้ว..ทำให้ทราบว่าเขาไม่เลวร้ายอะไรเลย.....เราต่างหากที่อ่อนแอเกินไป ยอมให้เขาเข้าแทรกได้......หากรู้ทันเขา เขาก็ทำอะไรเราไม่ได้<O></O>


เรียนคุณ OLDMAN AND A CAR <SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_1114404", true); </SCRIPT><?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
<o></o>
เขาทำหน้าที่ของเขามาหลายยุคแล้วครับ ระดับพลังของเขาสูงกว่าเทพก็มี แต่เมื่อเขาลงมาทำอะไรที่บนโลกใบนี้เขาต้องทำตามกฏิตากฏแห่งกรรมเช่นเดียวกันไม่มีข้อยกเว้นครับ เขาเพียงอาศัยกรรมเก่าของแต่ละบุคคลเป็นช่องทางเข้าแทรกแซงทางจิตเพื่อกระตุ้นจิตโทสะโลภะโมหะให้แสดงฤทธิ์เดชได้สมความปราถนาของเขาเพื่อขวางเส้นทางแห่งการสร้างบารมีของบุคคลนั้นๆ หากเราไม่ทันเกมเราก็แพ้เขาเท่านั้นเองมันเป็นบททดสอบจิตใจมนุษย์ในยุคทางเลือกขาว-ดำนี้เพื่อการคัดสรรผู้พร้อมทางจิตวิญญานจริงๆที่จะได้มีชีวิตหรือไปเกิดในยุคจักรทองของพระธรรมมิกราชา ขอให้ทุกคนที่ปฏิบัติธรรมโชคดีทั่วหน้าครับ<o></o>
<o> </o>

 

เรียน คุณ ชัยมงคลสถาน,


บทความตอนที่ ๒๒fficeffice" /><O></O>
เขียนเมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๑<O></O>
ผมอยาก...และเห็น อะไรในเวปนี้<O></O>
ข้อเขียนของคนที่ มากด้วยความอยาก.....เขียนลงตรงนี้ ก็ เพราะมันตรงกับกระทู้ครับผม<O></O>
หลังจากเข้าเป็นสมาชิกเวปนี้ได้ประมาณเดือนหนึ่งแล้ว......<O></O>
<O></O>
๑. อืมม์.....เป็นเวปที่ให้ความรู้ดี....และตอนนี้ก็สมใจอยาก แล้ว ต้องขอขอบพระคุณกัลยานมิตรหลายๆท่าน ที่ได้ให้ความรู้แก่ผม<O></O>
๒. กำลังจะอำลาพวกท่านเสียที...เพราะหมดเวลาหยุดยาวช่วงสงกรานต์ ผมต้องกลับสู่โลกของกิเลส...ทำมาหารับประทาน ในวังวนของ สังคมเส็งเคร็ง(วุ่นวายจริงหนอ) ต่อไป....<O></O>
๓. ผมยากเห็น การตั้งกระทู้ต่างๆที่เป็นไปในลักษณะตรงไปตรงมาและเกื้อกูลต่อการสร้างเสริมความรู้และความเข้าใจที่ดีต่อกัน......มากกว่าที่จะเป็นการ ถามและตอบแบบชิงไหวพริบ หรือ การโต้เถียงกันจนเกินงาม.....ถ้าไม่รู้หรือไม่แน่ใจ..ท่านถามและผู้อื่นมีสิทธิ์จะตอบได้....หลากหลายตามภูมิธรรมของแต่ละท่านซึ่งไม่จำเป็นต้องเหมือนกัน......ทั้งท่านผู้อ่าน, ผู้ตอบ, และท่านเจ้าของกระทู้ ก็จะได้รับประโยชน์จากการถาม-ตอบเช่นนี้ ด้วยการเลือกสรรคำตอบที่ดีที่สุด เท่ากับว่า เจ้าของกระทู้และผู้ตอบกระทู้ทั้งหลาย ได้ร่วมกัน กระทำแล้วซึ่งการให้วิทยาทาน... และการให้ธรรมเป็นทาน......ถือเป็นการสร้างบารมีขั้นสูง ไม่ต้องเสียเงินทอง....ไม่แน่นะในบางกระทู้และบางคำตอบ...ท่านอาจเปลี่ยนคนที่หลงผิดให้เป็นคนดี หรือแม้กระทั่ง เป็นอริยะบุคคลได้...ผลบุญนี้ยิ่งใหญ่......แล้วอย่าลืมอุทิศส่วนบุญกุศลนี้ให้เจ้าของเวปและคณะทำงานด้วยล่ะ...เพราะไม่มีพวกเขา ก็ไม่มีพวกเราในวันนี้....<O></O>
๔. ในทางตรงกันข้าม...กระทู้ที่รู้แล้ว ก็ยังถาม หรือถามเพราะคิดว่าคนอื่นไม่รู้เท่าทันตน....หรือผู้ตอบกระทู้บางท่านใช้อารมณ์ และถ้อยคำเหน็บแนม....สิ่งนี้เป็นเครื่องบ่งชี้ภูมิธรรมของตน ได้เป็นอย่างดี....ดีกว่าการสแกนจิตของคนอื่นเป็นใหนๆ ว่า.....ตัวเรายังไปไม่ถึงใหนของดีที่อยู่กับตัว หากใช้ในทางที่ผิด ก็เสื่อมได้ หรือไม่ ก็ยิ่งชักนำให้หลง....แทนที่จะได้บุญกลับได้บาปแทน ขาดทุนนะครับ<O></O>
๕. เจ้าของกระทู้ และ ท่านผู้ตอบกระทู้ สมควร ยอมรับกฎเกณฑ์ ของเจ้าของและคณะทำงานเวป เพราะพวกเขาต้องแบกรับความรับผิดชอบเรื่องราวทั้งหมดในเวป<O></O>
<O></O>
ถือเสียว่าเรามาอาศัยเขา.....เขาไม่ไล่เราไปก็ดีแล้ว....เรื่องลงหลุมดำนี่..ไม่เห็นเสียหายตรงใหน...สนุกดีเสียอีกที่ เขียนเองแล้วก็อ่านเอง....ไม่ต้องระวังหรือตามใจใคร....นานๆเข้าเราก็ได้เพื่อนในหลุมดำนี่แหล่ะ...ผมเองก็ลงไปแล้ว...เงียบดีครับไม่มีคนกวนใจ...ถ้าสนใจ.......พบกันได้ในหลุมนะครับ .....ผมรออยู่ที่นั่นแล้ว<O></O>
ขอท่านทั้งหลายเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไป.......สาธุ<O></O>

 

ตั้งใจจริงด้วย สัจจะ...ก็สำเร็จ
ไม่มีสัจจะ....ก็ไม่มีวันหลุดพ้นไปได้ !!!

- " หนุมาน ผู้นำสาร "