เตรียมตัวให้พร้อม!มันกำลังมา แจ้งข่าวสารการชำระโลก

ในห้อง 'Black Hole' ตั้งกระทู้โดย jityim, 23 เมษายน 2018.

  1. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เรื่อง "พระนิพพาน ไม่ใช่เพชฌฆาตสังหารผู้ใด"

    จริงหรือที่ว่า ถ้าฆราวาสบรรลุพระอรหันต์ ถ้าไม่บวชพระ จะต้องตายภายใน ๗ วัน

    (วิสัชนาธรรมโดย หลวงปู่แบน ธนากโร)(วัดดอยธรรมเจดีย์ อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร)
    "ฆราวาส" ก็เป็น "พระอนาคา" ได้ แม้แต่เป็น "พระอรหันต์" ฆราวาสก็เป็นได้ บางท่านก็กล่าวว่า ฆราวาสเป็นพระอรหันต์อายุจะไม่เกิน ๗ วัน เพราะฆราวาสไม่สามารถจะทรงคุณธรรมของพระอรหันต์ไว้ได้ ทำให้เราคิด
    "อรหันต์ นี้จะฆ่าคนเชียวเหรอ !!!"

    มันอดที่จะคิดไม่ได้ จิตใจสะอาด จิตใจบริสุทธิ์ อยู่ตรงไหนก็สมบูรณ์อยู่แล้ว ยังเดินอยู่ ยังหายใจอยู่ มันไม่น่าจะมีปัญหาอะไร สามารถที่จะทำประโยชน์ให้กับโลกได้อย่างเต็มที่เหมือนกัน ในด้านเหตุผลก็ทำให้เราอดคิดไม่ได้ อยู่ตรงไหนๆ ให้ปฏิบัติให้ยิ่ง ไม่ต้องไปกลัว ว่าเมื่อสำเร็จเป็นพระอรหันต์แล้ว มันจะตาย พระอรหันต์ยังกลัวตายอยู่เหรอ !!!
     
  2. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    คำตอบของ พระนิพพาน
    โดย หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

    พระธรรมเจดีย์ ถามว่า : ข้าพเจ้าเคยได้ยินเขาพูดกันถึงเรื่องพระนิพพานว่า อายตนะอันหนึ่งมีอยู่ แต่ไม่ใช่ดินไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่ไฟ ไม่ใช่ลม ไม่ใช่อากาศ ไม่ใช่วิญญาณ ไม่ใช่ตัวตน เช่นนั้นพระนิพพานก็ศูนย์เปล่าเขาจึงไม่อยากไปพระนิพพาน

    หลวงปู่มั่น ตอบว่า : กามทั้งหลายไม่มีในพระนิพพาน ผู้ที่กำหนัดในกาม ยังมีความพอใจในรูปเป็นต้น จึงไม่ยินดีในพระนิพพาน พระนิพพาน คือ ความสิ้นราคะ โทสะ โมหะและดับตัณหาที่เป็นเหตุให้ทุกข์เกิดขึ้น เสียได้ ทุกข์เป็นผลมีชาติเป็นต้นก็ดับไปเพราะฉะนั้น พระนิพพานแม้จะชื่อว่าเป็นอนัตตา แต่คงศูนย์เฉพาะกิเลส กับทุกข์เท่านั้น

    ส่วน นิพพานธรรม ซึ่งเป็นธรรมที่เที่ยง ที่สุข นั้นยังคงมีอยู่

    พระธรรมเจดีย์ (จูม พนฺธุโล) ถาม
    หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ตอบ

    FB_IMG_1500476342292.jpg
     
  3. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    สติปัฏฐาน 4
    ความจำ ได้จากการศึกษาเล่าเรียนมา กับความจำได้จากการฟัง จงน้อมเข้ามาเป็นเครื่องสนับสนุน ให้กลมกลืนกับการปฏิบัติ สติกับปัญญาให้แนบสนิทอยู่กับใจ และความเคลื่อนไหว
    ตามองไปถึงไหน หูได้ยินถึงไหน สติกับปัญญาจงติดตามถึงที่นั้น จมูก ลิ้น กาย สัมผัสกับสิ่งต่างๆ ดี ชั่ว หยาบ ละเอียดแค่ไหน สติปัญญาจงตามรู้และค้นดูสาเหตุของสิ่งที่มากระทบโดยแยบคายและทุกครั้งที่ได้สัมผัสกัน แม้อารมณ์ที่เกิดขึ้นเฉพาะภายในใจต้องตามรู้ และพิจารณาไม่ขาดตอน เพราะท่านที่หลุดพ้นไปจากโลกแห่งความยุ่งเหยิงภายในใจ ท่านทำอย่างนี้ทั้งนั้น ท่านไม่ได้ทำแบบไม้ซุงทั้งท่อนที่ทิ้งอยู่บนพื้นดินให้เด็กๆปีนขึ้นแล้วถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดทั้งวันทั้งคืน ผู้ทำตัวให้เป็นเช่นไม้ซุงทั้งท่อน กิเลสตัณหามาจากทิศต่างๆ คือมาจากรูป จากเสียง จากกลิ่น จากรส และจากเครื่องสัมผัส ล่วงไหลเข้ามาช่องทางภายใน คือ ตา หู จมูก ลิ้น กาย และจะถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดลงไปที่หัวใจ ดวงที่ทำตัวเป็นเหมือนไม้ซุงทั้งท่อนนั้น เพราะไม่มีความฉลาดแยบคาย ไม่มีความรอบคอบต่อตัวเอง และอารมณ์ทั้งภายนอกและภายในยอมตัวให้กิเลสตัณหาถ่ายอุจจาระปัสสาวะรดลงทั้งวันทั้งคืน นี่ไม่สมควรเลยสำหรับผู้มุ่งดำเนิน เพื่อ "วิวัฏฏะ" คือ "พระนิพพาน"
    เพราะ พระนิพพานของพระพุทธเจ้าและพระสาวกไม่ใช่พระนิพพานเกียจคร้านและไม่ใช่พระนิพพานแบบไม้ซุงทั้งท่อนผู้หวังธรรมเช่นนั้นครองดวงใจ ก็จำต้องพยายามปรับปรุงตัวเองให้เข้ากับร่องรอยปฏิปทาของพระองค์ และพระสาวกท่านดำเนิน คือพยายามฝึกหัดอบรมสติปัญญาศรัทธาความเพียรให้ทันกับเหตุการณ์ที่เป็นไปอยู่ทั้งภายในและภายนอกตลอดเวลา อย่าทำตัวเหมือนซุงทั้งท่อน คือเดินก็สักแต่ว่าเดิน นั่งก็สักแต่ว่านั่ง ภาวนาก็สักว่าภาวนาเท่านั้น แต่แล้วนั่งอยู่เหมือนหัวตอกลางไร่กลางนา หาความรู้สึกรอบคอบประจำใจไม่มีเลย การสักแต่ว่าทำนี้ จึงไม่ผิดอะไรกับเขานั่งนอนธรรมดาจงพยายามรื้อฟื้นสติรื้อฟื้นปัญญาที่นอนจมอยู่กับใจขึ้นมาเพื่อเป็นเครื่องมือสนับสนุนความเพียร ถอดถอนกิเลสตัณหาทุกประเภทที่เกิดจากใจ ซึ่งกำลังเป็นไม้ซุงทั้งท่อนอยู่ในขณะนี้ ที่ท่านให้นามว่า ขี้โลภ ขี้โกรธ ขี้หลง ขี้เกียจ ขี้คร้าน ขี้บ่น ขี้โมโห ขี้หึง ขี้หวง เหล่านี้ล้วนแต่ขี้ และกองเต็มอยู่บนหัวใจทั้งนั้น เมื่อได้รับการฝึกฝนอบรมดังที่กล่าวมา...
    สติปัญญานับวันจะมีกำลังและเคยชินต่อตนเอง เช่นเดียวกับการงานด้านอื่นๆ เวลานำมาประกอบกับความเพียรภายในใจโดยเฉพาะ จะสามารถทราบเรื่องของหัวใจได้ในเวลาอันควรไม่นาน
    และเพื่อความมีหลักเกณฑ์ในการอบรม โปรดบังคับใจไว้ภายในกาย ใช้สติจดจ่อ และปัญญาท่องเที่ยวขุดค้นอยู่ในวงของกาย ชื่อว่าได้ดำเนินตามหลักสติปัฏฐานและอริยสัจ ซึ่งเป็นทางเดินของพระเจ้าทุกๆประเภท

    สติปัฏฐานมี 4 คือ กาย เวทนา จิต ธรรม
    ...กาย ได้แก่ อวัยวะทุกส่วนของร่างกายเรียกว่า กายานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ...เวทนา ได้แก่ ความสุข ความทุกข์ เฉยๆ ไม่สุข ไม่ทุกข์ เรียกว่า เวทนานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ...จิต ได้แก่สิ่งที่สัมปยุตด้วยเจตสิกธรรมที่ปรุงขึ้นจากจิต และย้อมจิตให้เป็นต่างๆ เรียกว่า จิตตานุปัสสนาสติปัฏฐาน
    ...ธรรม ได้แก่อารมณ์ที่เป็นเป้าหมายหรือเครื่องเพ่งพิจารณาของใจ เป็นได้ทั้งวัตถุและนามธรรม เรียกว่า ธัมมานุปัสสนาสติปัฏฐานการพิจารณาสติปัฏฐาน 4 โปรดทำความเข้าใจไว้ด้วยดีก่อนพิจารณา โดยทำความเข้าใจว่า กาย เวทนา จิต ธรรม เป็นแผนกหนึ่งจากจิต ผู้เป็นเจ้าของสติปัฏฐาน ไม่เช่นนั้นจะเกิดความท้อใจและทุกข์ใจในเวลา กาย เวทนา จิต ธรรม แสดงอาการเปลี่ยนแปลงตัวเองไปตามธรรมดา หรือถูกเปลี่ยนแปลงไปด้วยอำนาจการพิจารณาซึ่งอาจปรากฏในวงปฏิบัติ
    คือเวลาปกติอาการทั้ง 4 นี้ก็แสดงอาการเปลี่ยนแปลงให้เกิดความดีใจและเสียใจ ขณะพิจารณาก็แสดงอาการเปลี่ยนแปลงให้ผู้ปฏิบัติเกิดความดีใจ และเสียใจ และบางขณะเกิดความท้อใจ และระอาต่อการจะทนพิจารณาไป

    หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
    FB_IMG_1566455164682.jpg
     
  4. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เตรียมตัวให้พร้อม...มันกำลังมา! แจ้งข่าวสารการชำระโลก
    แท็ก: เพิ่มแท็ก

    ตามชื่อกระทู้..
    อะไรมา?..มาเมื่อไหร่?..ใครชำระ?
     
  5. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    หลวงปู่เทพโลกอุดร พยากรณ์ภัยพิบัติ ที่กำลังจะมาถึงนี้
    มวลมนุษย์ ภัยพิบัติ น้ำจะท่วมโลก แผ่นดินจะไหว มนุษย์ที่ดีถึงจะรอด หมู่ชนควรทำดี ให้มนุษย์มีการปฏิบัติ มวลชนทุกหมู่เหล่าต้องปฏิบัติ พระเจ้าผู้สร้างโลก มองเห็นมวลมนุษย์ กำลังจะทุกข์ยาก ล้มหายตายจาก เวลานั้นใกล้เข้ามา มนุษย์เท่านั้น ที่จะช่วยตัวเองได้ จงทำตัวเองให้ดี จงมีจิตที่ดี จึงจะรอดพ้น ไม่มีใครช่วยใครได้ แผ่นดินจะกลืนกิน มิรู้สิ้นชีวิตเท่าใด ผู้ที่จะรอดปลอดภัย ต้องอยู่ในศีลธรรม พึงรักษาชีวี อย่าคิดว่าตายแล้วดีกว่าอยู่ ต้องอดทน ผู้รอดจากภัยพิบัติ คือ ผู้ที่ต้องอยู่ต่อ เป็นผู้ที่ต้องช่วยกัน ปรับสภาพจากเหตุการณ์ ที่ผ่านพ้นแต่กว่าจะถึงตอนนั้น มนุษย์ก็แสนสาหัส ทุกข์ยากอดอยาก ยากไร้ปางตาย ไร้ความทรงจำก็มี เพราะขาด การเตรียม ด้วยความไม่รู้ มนุษย์ต้องพบ วิบากกรรมชีวิต ทุกชีวิตที่อาศัย อยู่บนโลกลำบาก มนุษย์เป็นผู้ทำทุกสิ่งด้วยมือ ของมนุษย์ทั้งสิ้น ไม่มี ไม่ใช่ ใครที่ไหนทำ เวลาใกล้เข้ามา ทุกขณะความตาย กำลังเข้ามาใกล้ตัว
    ก่อนถึงเวลา ก่อนถึงวันนั้น มนุษย์ผู้ซึ่งกระทำการทำลาย มนุษย์ด้วยกัน มันต้องพินาศเช่นกัน การกระทำของมันผู้นี้ ทำให้มนุษย์ จำนวนมากมายสิ้นชีวิต คล้ายใบไม้ร่วง มันหวังว่าจะได้เป็นใหญ่ ในแผ่นดินทั่วโลก แต่แล้วความหายนะ เข้ามาครองโลกแทน ความพินาศเต็มไปหมด ความหวังย่อยยับ ปฐพีเต็มไปด้วยเลือด ศพกลาดเกลื่อนเลือดทาแผ่นดิน ชีวิตสูญสิ้น สิ้นไร้ผู้คน มีแต่ความตาย ที่เห็นชัดความดับสูญครั้งใหญ่ ของมวลมนุษย์และสัตว์ในโลก
    ความตายเป็นผู้ชนะ ผู้แพ้คือผู้กระทำความชั่วร้าย ผู้ที่ตายทั้งหมดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ ผู้ที่รอดเป็นผู้โชคดีกระนั้นหรือ มิใช่ทุกอย่างคือ กฎแห่งกรรม วิถีแห่งกรรม มาจากที่ใด ทำไม มวลมนุษย์จึงต้องรับความดับสูญ เพราะชีวิตกับความตายเป็นสิ่งที่คู่กัน ไม่อาจหลีกเลี่ยง ไม่มีทางหนีพ้น โอกาสผู้ที่รอด หมายถึง ผู้อยู่ต่อ เพื่ออนาคตโลก ผู้ทำลายดับสิ้นสูญ โลกร้อนระอุ มีแต่ไฟ เถ้าถ่านท่วมท้นแผ่นดิน น้ำเป็นพิษ สารเคมีท่วมท้น เชื้อโรคสารพัดชนิด กัดกินผู้คน ผู้ที่รอดแสนสาหัส ทุกข์ยากรอความตาย
    ผู้มีบุญจะออกมาช่วย รักษาชีวิต ผู้คนมากมาย จะรอดชีวิตจากโรคร้าย การรักษา ไม่ต้องใช้ยา เป็นวิชา ไม่มีใครรู้จัก คนผู้นี้ รักษาผู้คน ไม่หวังสิ่งใด เพราะเป็นหน้าที่ก่อนเกิด การรักษา ไม่ต้องมาพบตัวผู้ป่วยอยู่แห่งใด รักษาได้ ไม่ต้องมา ถึงเวลาไม่ต้องค้นหา โรคจะหายเอง
    เศรษฐกิจตกต่ำ ต้องการผู้แก้ไข ทั่วโลกวุ่นวาย ขาดอาหาร น้ำตาเนืองนอง ศพลอยฟูฟ่อง เพราะน้ำหลากมา น้ำตาไหลริน ไม่มีใครได้กินอิ่ม มีแต่ความทุกข์ ความเศร้าโศกครอบคลุม คนทั่วโลกไม่ต่างกัน ทุกที่มีแต่ความเศร้า การสูญเสีย ของมวลมนุษย์ แต่ก็มีบางประเทศ ฟื้นตัวเร็ว การฟื้นตัวของบางประเทศรวดเร็ว เป็นประเทศเล็กๆ ประเทศที่เคยยิ่งใหญ่สูญเสียหนัก การพัฒนา เริ่มขึ้นอีกครั้ง แต่ช้า ทุกอย่างจึงกลับกัน ประเทศที่เคยเป็นมหาอำนาจ กลายเป็นผู้ยากไร้ แทบไม่น่าเชื่อ เคยมีเงินเหลือเฟือ ต้องฝืดเคือง ยิ่งกว่ากินเกลือ โลกไม่พ้นวิกฤต ความทุกข์ยังครองเมือง ผู้อ่อนแอจะไม่รอด อากาศหนาว หิมะถล่ม น้ำแข็งละลาย น้ำป่าหลาก ความทุกข์ยากทับถม คนตายเพราะความหนาวทุกข์ทับถมทวี กว่าจะรู้ ความดื้อรั้น ความเชื่อยาก ทำให้มนุษย์ ได้รับบทเรียน แต่ไม่เข้าใจ เพราะความตายมาเร็วเกินไป ไม่ทันรู้ตัว มนุษย์ไมทันได้คิด ไม่มีโอกาส เข้าใจ ทุกสิ่งทุกอย่าง เพราะไม่บรรลุธรรม ต้องมีชะตากรรม เวียนว่ายตายเกิด อยู่เช่นนี้ ทุกชีวี ผู้รู้เหตุการณ์ รอเวลามีน้อย ความไม่แน่นอน ความไม่มั่นใจ คิดว่าไม่เกิด จึงทำให้ การเตรียมตัวไม่พร้อมอาหารไม่พอ น้ำดื่มไม่มี หมอก็ป่วย คนไข้มากมาย โรคที่เป็นก็หายยาก พุพองทั่วร่างกาย โรคร้ายทั้งสิ้น เกาะกินร่างกายกัมมันตภาพรังสี สารเคมี เชื้อโรคมากมี ทำร้ายร่างกาย อาหารเป็นพิษ ยาปฏิชีวนะ ช่วยไม่ได้ โรคระบาด ทุกหย่อมหญ้า ชีวิตร่วงเหมือนผักปลา ไม่มีเวลา มีแต่ชีวิตที่สิ้นไป กว่าเถ้าจะมอด กว่าน้ำจะลด กว่าเชื้อโรคจะหมดสิ้น ชีวิตสิ้นไปไม่รู้เท่าไหร่ ความอดทนต้องสูงสุด ไม่มีเสียงนกร้อง มีแต่เสียงโอดครวญ ความเจ็บปวด ครองเมือง การครั้งนี้ กว่าจะสิ้นสุด ไม่มีใครล่วงรู้ ความไม่แน่นอน เที่ยงที่สุด ทุกชีวิต กว่าจะผ่านพ้น เหตุการณ์ สุดแสนลำบาก นอกจาก ผู้คนจำนวนหนึ่งหยั่งรู้ เตรียมรับสถานการณ์ ผู้คนเหล่านั้น มีโอกาส เป็นผู้อยู่รอด ชาวโลก กว่าครึ่งโลก ที่ล้มหายตายจาก ล้วนแล้วแต่ กรรม ฟ้าจะใสอีกครั้ง เมื่อฤดูฝนร่วงหล่น ละลายสิ่งต่างๆ ฝนจะชุ่มโชก สิ่งที่ร้ายจะกลายเป็นดี แต่ก็ต้องใช้เวลา พลิกฟื้นขึ้นมาใหม่ ช่วยกันทำนุบำรุงรักษาทุกประเทศต้องพัฒนา เหมือนยุคเก่าย้อนมา แต่เจริญรุ่งเรือง กลายเป็นโลกยุคใหม่ วิทยาศาสตร์ล้ำหน้า ชาวประชาหน้าใส คนที่เหลือจากเหตุการณ์ มีความคิดเปลี่ยนไป ไม่มีแล้วความคิดเก่าๆ ทุกอย่างเปลี่ยนไป แม้แต่ความคิดของคน เปลี่ยนแปลงไปหมด ลดทิฐิ จิตใจดี มีเมตตาช่วยเหลือเกื้อกูลกัน การแก่งแย่งชิงดี แทบสิ้นไป มนุษย์ จิตใจร้ายยังมีอยู่ ความเมตตาค้ำจุนโลก ทุกข์สร่างโศก
    ผู้มีเมตตาธรรมปรากฏ เพื่อนมนุษย์ช่วยเหลือกัน บำรุงรักษา ผู้มีจิตเมตตา เปิดโฉมหน้า แต่ไม่ปรากฏตัว ได้ยินแต่ข่าว ร่ำลือไปทั่ว เพื่อนมนุษย์ ทั่วโลก ต่างยินดีชื่นชม เหมือนพระเจ้ามาโปรด คนทั่วโลก ต้องการหมอรักษา หาหมอ ไม่ได้ โรคที่ระบาด ไม่มีในตำรา และไม่มียา แก้โรคที่ระบาด ความตาย มาเยือน ชีวิตมนุษย์ ได้สำนึก กว่าจะรู้ตัว เกือบจะรู้ตัว เกือบจะตาย ผู้ที่ตายไม่ได้รู้ตัว สำนึกในบาป
    คนที่เหลือ ล้วนคิดได้ ความตาย ผ่านพ้นไป ผู้มีบุญ ช่วยเหลือผู้อื่น ไม่กลัวเหนื่อย ไร้การแบ่งชั้น ทุกคนเสมอภาค ความดี ความพยายาม ผู้สร้างโลก ไม่ปล่อยให้ มนุษย์ ทุกข์ทรมานสู้กับความตาย นิมิตรหมายใหม่ ประกอบกรรมดี ละเว้นความชั่ว รักษาความดี อยู่ในศีลธรรม ตั้งมั่นในการปฏิบัติ อย่าเห็นแก่ตัว ทางสายกลาง ช่วยเหลือผู้อื่น จงมองตนเอง อย่ามัวรอเวลา ความว่าง (สุญญตา) จิตตั้งมั่น ปล่อยใจวาง จิตเป็นหนึ่ง มีสติ คนที่สามารถทำได้เช่นนี้ ทางสายใหม่ คือการหลุดพ้น ผู้ที่ทำได้ ไม่ต้องมาเกิด ตามวัฎจักร ทางสายนี้มีมานาน ตั้งแต่ดึกดำบรรพ์ ผู้ที่รู้ และเข้าใจ พยายามศึกษา ผิดบ้างถูกบ้าง เพื่อหาทางหลุดพ้น จากกิเลส พระเจ้าเบื้องบน เฝ้ามองดู ใครทำอะไร ไม่รอดพ้นสายตา การกระทำ ทุกสิ่งทุกอย่าง อยู่ในสายตา มีการบันทึก ผู้ที่รอดตาย ต้องมีจิตใจเข้มแข็ง อดทนต่อสถานการณ์ ไม่ใช่ง่าย สิ่งที่เลวร้าย มนุษย์ ต้องอดทนให้ได้ กาลเวลาผ่านไป ผลที่ได้รับต่างทุกข์ถ้วนหน้า จิตใจสำคัญที่สุด เมื่อเวลานั้นมาถึง สภาวะคับขัน ผู้เข้มแข็ง จะรอดพ้น ความอดอยาก ความพลัดพราก คืบคลานเข้ามาความลำเค็ญ ผู้คนโอดครวญ ชีวิตทุกผู้ทุกนาม รอความหวัง อย่างสิ้นหวัง แต่ก็รอ สภาวะเช่นนั้น ใครทนได้ ยอดคน ชีวิตมืดมน ยิ่งกว่าความมืด หนทาง มองไม่เห็น สิ่งลี้ลับ เริ่มปรากฏ ผู้คนแตกตื่น ได้ยินเรื่องราว อันมหัศจรรย์ ความมหัศจรรย์นั้น ไม่เคยปรากฏ ตั้งแต่สมัยพุทธกาล มาสู่ยุคปัจจุบัน มนุษย์จะได้พบ สิ่งมหัศจรรย์ ในยุคนี้ ผู้ซึ่งไม่เคยได้พบเห็น ความมหัศจรรย์ จะมีโอกาส ได้เห็น
    จากหลวงปู่เทพโลกอุดร แจ้งไว้แก่ หลวงปู่ภารตะฤๅษี (บัวขาว)
    ขอยกกลอน สอนใจ ในยามยาก ช่วงลำบาก ไว้เป็น อุทาหรณ์
    โลกทั้งโลก กำลัง จะสั่นคลอน เพื่อสะท้อน ผลกรรม คนทำมาจากวันนี้ ต่อไป ภายภาคหน้า ในไม่ช้า วิบากกรรม วิ่งเข้าหา
    ให้โหยหวน คร่ำครวญ แสนเวทนา คนทั่วหล้า ต่างล้มหาย ตายเป็นเบือ หากไม่เชื่อ ให้เผ้าดู จะรู้สึก ต้องสะอึก เมื่อไม่มี สิ่งใดเหลือทุกวันนี้ มีใช้ อย่างเหลือเฟือ จะไม่เหลือ ให้ใช้ ในบัดดลคนหลายคน วกวน เพื่อเสพสุข ไม่เคยทุกข์ ร้อนใจ ให้ขัดสน
    เฝ้าเอาเปรียบ เบียดเบียน หมู่ผู้คน ไม่เคยสน เวรกรรม มันมีจริงไม่ว่าใคร ใดใด ในโลกนี้ ชั่วหรือดี ทุกเยาว์วัย ชายหรือหญิง สัจธรรม เท่านั้น คือความจริง ทุกสรรพสิ่ง หนีไม่พ้น ผลของกรรม
    คนคิดดี ทำดี ย่อมมีสุข พ้นกองทุกข์ ชีวี ไม่แปรผัน พาพ้นทุกข์ สิ้นวิบัติ ในฉับพลัน บุญเท่านั้น ที่หนุนนำ คนทำดี ผิดกับคน ที่ทำผิด และทำพลาด ต้องถึงฆาต บาปกรรม ซ้ำเป็นผี ครั้งอยู่ดี มีสุข ไม่ใฝ่ดี พอจะม้วย ชีวี แล้วใฝ่บุญ กุศลหนุน บุญใด ไหนจะช่วย มีแต่ซวย เท่านั้น ที่เกื้อหนุน
    เกิดเป็นคน ไม่เคยคิด ตอบแทนคุณ จะเอาบุญ ที่ไหน มานำพา อีกไม่นาน ก็ถึง กึ่งพุทธะ เป็นจังหวะ รอยต่อ ศาสนาสิ่งทุกสิ่ง ย้อนกลับ สู่เวลา ทรัพย์ไร้ค่า คนยึดจิต อภิญญา ถิ่นกาขาว ยาวนาน จะผันผ่าน พระศรีอารย์ อริยะเมตไตร เข้ามาหา ศรีวิไล ใฝ่ธรรม ทุกเวลา เทวดา ปกป้อง ตลอดกาล อยากอยู่ดี มีสุข ถึงยุคนั้น ต้องช่วยกัน สร้างกรรมดี ไว้สืบสาน
    ภัยวิบัติ โลกสลาย อีกไม่นาน สิ้นคนพาล เหลือคนดี ไม่กี่คน คำยืนยัน ปู่ฤๅษี ภารตะ ให้สละ อย่ายึดมั่น อย่าสับสน ให้รู้ไว้ ภัยจะถึง ทุกตัวตน ให้ทุกคน หลบลี้ หนีออกมา การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ จะบังเกิด จำไว้เถิด จะสิ้นยุค กลุ่มเศรษฐี
    ที่คดโกง ฉกฉวย จนได้ดี จะสิ้นที หมดท่า พาตรอมตรม บาปและกรรม ตามซ้ำ ไม่ย่อหย่อน กินหรือนอน เดินนั่ง ช่างขื่นขม
    ถึงรวยทรัพย์ เคยยิ่งใหญ่ ยิ่งระทม ก็จะล้ม จมดิ้น สิ้นกันไป จากสี่เก้า เข้าถึง ปีหกสอง ฟ้าจะร้อง คำราม สุดหวั่นไหว ธรณี จะโกรธ เป็นพื้นไฟ พระพรายไซร้ จะถามโถม โจมดีเรา พระคงคา จะไหลบ่า หุ้มเปลือกโลก ดาวนอกโลก พุ่งชน คนอับเฉา ให้รีบลุก และตื่น เถิดพวกเรา รีบเดินหน้า ถึงธรรม ค้ำชีวา ภาคกลางหนึ่ง ใต้หนึ่ง พึงจำไว้ จมอยู่ใต้ คงคา แน่นักหนา ผืนแผ่นดิน คลุมด้วยน้ำ สุดลูกตา ชาวประชา ไร้แผ่นดิน สิ้นชีพวาย
    เหนืออีสาน ตอนล่าง ต่างรันทด แผ่นดินลด หดหู่ ไม่รู้หาย เหลือก็น้อย คนบุญ ที่รอดตาย นอกนั้นไซร้ ไร้ชีวิต วิบัติภัย บนท้องฟ้า มืดมน ฝนห่าใหญ่ ห่อหุ้มไว้ เจ็ดราตรี อรุณฉาย สัตว์เล็กใหญ่ ดับดิ้น แทบวอดวาย ที่ไม่ตาย กลายมีพิษ ปลิดชีพกัน พายุลม สลาตัน นับว่าร้าย ก็ไม่ว่าย ต้องแพ้ ลมกรรมหันต์ ฝนที่ไหน พัดที่ใด ตายฉับพลัน ไม่มีควัน มีแต่พิษ ชีวิตวอดวาย พลังจากนั้น คนที่เหลือ จะแปรเปลี่ยน บำเพ็ญเพียร ภาวนา ไม่ขาดสาย ทุกข์และโศก โลกมนุษย์ จะผ่อนคลาย ศรีอริยะเมตไตร จะบรรเจิด เกิดขึ้นพลัน
    สร้างมนุษย์ สร้างโลก ให้ผุดผ่อง ตามครรลอง ศรีวิไล ให้เฉิดฉันท์
    สิ้นทุกข์โศก โรคภัย ไม่โรมรัน จิตเท่านั้น ที่วัดใจ ให้อยู่ยืน
    ทรัพย์เงินทอง ก่ายกอง เต็มไปหมด ช่างรันทด ไม่มีค่า เท่าผ้าผืน
    สิ่งที่หา และใฝ่ ทุกวันคืน ที่ยั่งยืน คือจิต ผ่องอำไพ อาศัยกรรม ทำดี ช่วยชูค้ำ ให้ได้นำ สู่อภิญญา น่าสดใส ทั้งอิ่มเอิบ อิ่มกาย อิ่มจิตใจ พระยาธรรม นั่นไซร้ คือกฎเกณฑ์ หากไม่เชื่อ สิ่งที่กล่าว ชาวโลกเอย จำไว้เลย นี่คือแท้ แน่นักหนา เฝ้าติดตาม การเปลี่ยนแปลง ทุกเวลา จะรู้ว่า เริ่มตั้งเค้า เข้าสู่กาล พายุโหม น้ำท่วม แผ่นดินไหว โลกทั้งใบ ไม่แน่น ไร้แก่นสาร
    ธาตุดินน้ำ ลมไฟ ถูกรุกราน จากวิญญาณ กาลอดีต กรีดทำลาย คนทั่วโลก จะพบ ภัยพิบัติ สารพัด ปัญหา ให้แก้ไข ทั้งเรื่องโลก เรื่องคน จนวุ่นวาย แก้อย่างไร ก็ไร้ค่า พาล้มครืนเป็นด้วยเหตุ อาเพศ โลกใบนี้ ถูกย่ำยี จากมนุษย์ สุดทนฝืน
    มุ่งทำลาย ล้างผลาญ ทุกค่ำคืน ไม่อาจฝืน ขืนปล่อยไว้ ใจโลกตรม

    ใช่แบบนี้หรือเปล่าเจ้าของกระทู้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2019
  6. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
  7. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    AAGbpbz.jpg

    ภาพ จิกยิ้ม จาวลักทิ!

    ผู้ใช้ ส้นสูงฝาดเด็ก หากไม่ยอม
    คิดบวกส่งพลังปรับสมดุล ( เด็ก
    อาจจะ ปวดคลี่ระหว่าง พิธี สับ
    สิทธิ ก้ล่าย ข่าวมะล่ายบอกข้อ
    เคล็ดจี )
     
  8. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เพราะจิตใจยังไม่แกร่งดุจหินผา...พอถูกกระทบมันย่อมไหวหวั่นสั่นไหว

    วัดคนวัดที่ใจตนนี้แหละ...สร้างวัดก็สร้างที่ใจตนนี้แหละ สร้างพระก็สร้างที่ใจตนนี้แหละ..

    มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เบื้องบนคอยช่วยมากมายแต่กลับมาเสียท่าเพราะอารมณ์ใจตน..
     
  9. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ต้นไม้มีตาแต่ต้นไม้ไม่เคยมองใครเป็นศรัตรู...มากกว่านั้นคือให้ที่พักพิงอาศัยอย่างร่มเย็นกับทุกชีวิตเท่าเทียมเสมอภาคกัน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 สิงหาคม 2019
  10. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ฯลฯ = ไปพร้อมกันทีละมากๆ(ร่มโพธิ์,ร่มไซ)

    ฯ = ไปคนเดียว(ทำตนดังเช่นต้นไม้)

    ***จะไปยานไหนก็เปี่ยมด้วยเมตตาเหมือนๆกัน***



     
  11. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ค้นคว้าอยู่ในธาตุสี่ ขันธ์ห้า วางธาตุสี่ ขันธ์ห้านี้ได้แล้วละก็ภาวนาสงบดี ครั้นเวทนาดับลง สัญญาดับลง วิญญาณดับลง รูปธรรมส่วนสมมุติเป็นดิน เป็นน้ำ เป็นไฟ เป็นลม วางได้แล้วมันก็สบาย จิตก็สงบลง..

    โอวาทธรรม...
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
     
  12. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ขึ้นซื่อว่าสังขาร..มันกะมีแต่กองทุกข์ฮั่นล่ะ สิใกล้สิไกลสิหยาบสิละเอียดปานใด๋กะซ่าง กะมีแต่กองทุกข์ทอนั่นล่ะ ขั่นมันยังมีสุขทอเม็ดงาขาลิ้นอยู่พระอรหันต์กะติดอยู่

    นี่มันบ่มี..พระอรหันต์เพิ่นจั่งพากันเข้าสู่พระนิพพานแหม๋..เว่าจั่งซั่น..

    โอวาทธรรม..
    หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
     
  13. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ถ้าว่าตามหลักปริยัติธรรมแล้วมันมากมายแต่ก็เอาของเก่านี้แหละ กลับไปกลับมาเล่นของเก่าอยู่นี้แหละ กลับไปกลับมา ไม่มีที่สิ้นสุดต้องเอาให้แจ้ง รู้รอบสังขารเมื่อรู้รอบสังขารทั้งหลายแล้ว จึงดับต้นเหตุมันได้รู้เท่าสังขาร สังขารทั้งหลายดับไปหมดใจมันจึงสงบลงไปรู้ธรรมเป็นนะก็ว่าเป็นธรรมก็ได้ เป็นนะโม ก็ว่า..

    โอวาทธรรม..
    หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
     
  14. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ท่านกล่องไม้ขีดไฟ...แวะมาพูดคุยทักทายกันบ้างนะ..


     
  15. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ธรรม-ชาติเป็นที่รู้จักกันดี

    คิดอยากจะปฎิบัติหรืออยากจะทำอะไร ครูบาอาจารย์
    ในอดีตต่างๆ ท่านจะไม่ขอเข้ามายุ่งเกี่ยวอีกต่อไปแล้วค่ะ..

    เพราะมันจบแล้ว...
    +++ ตรงนี้เป็น "ความจริง"

    จิตท่านยังมีความเป็นอสรพิษอยู่เลย...อย่าเที่ยวไปสอนไปแนะนำใครเลยเอาตัวเองให้รอดก่อนเถอะ...จิตท่านยังเข้าไม่ถึงโลกุตระธรรมเลย

    เราเคยบอกแล้ว..คนอื่นเรียกท่านอาจารย์ธรรม-ชาติ..แต่สำหรับเราไม่ใช่เลย ฝึกได้แค่นิดหน่อยแล้วไปหาความรู้ภายนอกมาประกอบมันก็จะออกแนวๆอย่างท่านนี่แหละหนา..

     
  16. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    เสียดายปัญญาที่ท่านมี...ใช้ไม่เป็นไม่ถูกทาง..เอาตำรามาเป็นครูมาเป็นความรู้ตน..
     
  17. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    หาอะไรเล่นก่อน...เดี๋ยวห้องเงียบเกิน5555555
     
  18. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    [​IMG]

    #จักรยานขนาน
     
  19. เล่าปัง

    เล่าปัง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    4,787
    ค่าพลัง:
    +7,918
    images?q=tbn%3AANd9GcRz8pAsK8P1Fl8RUegsOCa7TVUkdYcrjKNxuppqVMtIvj_v8BjR.jpg

    มหาหามะขีด
     
  20. ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ

    ผู้ไม่มีตัวตนรู้เราสงบ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 พฤศจิกายน 2018
    โพสต์:
    6,005
    ค่าพลัง:
    +8,391
    ใครเป็นคนปั่นหรอ..
     

แชร์หน้านี้

Loading...