ใครเคยรับขันธ์บ้างครับ

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย punchalearn, 10 เมษายน 2008.

  1. punchalearn

    punchalearn สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +0
    ใครเคยรับขันธ์บ้างครับช่วยเล่าให้ฟังบ้างครับ รับแล้วเป็นงัย
     
  2. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    เคยรับจ้า รับแล้วก็หลงว่าตัวเราเป็นเทพวิเศษกว่าคนอื่น ใครๆก็ต้องกราบไหว้ สุดท้ายก็โง่ แล้วก็ขาดสติ ความเป็นมนุษย์ก็น้อยลง คิดว่าเป็นคนครึ่งเทพ
     
  3. 1redstar

    1redstar เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    619
    ค่าพลัง:
    +1,366
    ซินแส บอกว่าตัวของฉันมีขันธ์ครบอยู่แล้ว
    และไม่ต้องรับขันธ์
     
  4. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    รับแล้ว เกิดมานะ ถือตัวถือตน จิตใจร้อนรนกระวนกระวาย
    เพราะมองเห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นผิดเป็นชอบ
    เพ่งโทษผู้อื่น มีความเห็นแก่ตัว ยกตนข่มท่าน ฯลฯ

    ทั้งนี้ เหตุเกิดเพราะจิตของเรามันอ่อนแอ มันโง่เขลา
    ศึกษาไม่ถ่องแท้ในพระธรรมคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
    เราโง่เอง ผิดเอง มืดบอดเพราะตัวเองจริง ๆ
    ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับการรับขันธ์หรือไม่รับขันธ์หรอกค่ะ
    เพราะเราไม่มีสติ ไม่มีปัญญาในการพิจารณาดีชั่วเอง

    เทพ พรหมที่รักษา ท่านก็มาคอยเตือน ค่อยช่วยเหลืออย่างลับ ๆ
    (อันนี้ขอเพิ่มเติมค่ะ) แต่เพราะความอวดดื้อถือดี ทำให้โง่เขลา
    สมน้ำหน้าตัวเองมากมาย

    แต่ยังโชคดี ที่วันนี้ เข้าใจตัวเองชัดขึ้น เริ่มมองตัวเองมากขึ้น
    เริ่มเห็นสภาวะธรรมบางอย่างที่เคยเห็นผิดไป และคิดแก้ไข
    โชคดีที่ยังพอมีโอกาสได้ปรับปรุงตัวเอง ตราบใดที่ยังมีลมหายใจ

    ขออนุโมทนาในบุญกุศลของทุก ๆ ท่านที่มีสัมมาทิฎฐิ สาธุ ๆ ๆ
    ขอให้ทุกท่านเป็นผู้มีสัมมาทิฎฐิในทุก ๆ เมื่อเทอญ

    (มิจฉาทิฎฐิ ไม่ดีเลย ทำให้เกิดทุกข์ เกิดความร้อนรนกระวนกระวาย คับข้องใจ
    กิเสลมารเข้ามาสิงใจ ยังไม่รู้สึกตัว กว่าจะรู้ดีรู้ชั่วก็เกือบสายไป เหลือเวลากลับตัวกลับใจ แต่ช่างน้อยเกินไปเสียดายจริง ๆ)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2008
  5. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    บุคคลที่เป็น "สายสัญญา" มีสัญญากันมาก่อนเกิด เมื่อถึงเวลา
    เทพพรหมก็จะมาช่วยในการบำเพ็ญบารมีทำนุบำรุงศาสนาตามสัญญา
    โดยการให้ปฏิบัติธรรม ช่วยงานพระพุทธศาสนา เป็นสำคัญ


    แต่ปัญหาเกิดขึ้นคือ เทพพรหมไม่บรรลุธรรม ทำให้ไปทำเรื่องนอกเรื่อง
    เช่น ใช้ฤทธิ์รักษาคน ให้หวย ฯลฯ ซึ่งไม่ได้ช่วยพุทธเลย แต่บางองค์
    ที่เข้าใจก็จะทำงานได้ถูกต้องไม่ผิดพลาด แตกต่างกันไป ดังนั้น เมื่อ
    มีการรับญาณบารมีองค์เทพแล้ว ต่อไปต้องบำเพ็ญบารมี หากไม่ทำจะ
    ย่ำแย่ ชีวิตวิบัตในภายหลังนะคะ โดยท่านจะช่วยเรื่องอาชีพ เงิน ให้ดีขึ้น
    จะได้บำเพ็ญบารมีได้สะดวกค่ะ ปัญหาที่รบเร้าในชีวิตก็จะลดลงได้ช่วงหนึ่ง


    เมื่อถึงเวลา พระแม่องค์ธรรม ผู้อยู่ข้างพระพุทธเจ้า คู่พระทัยของพระกวนอิม
    ก็จะลงมา เพื่อเก็บญาณเทพพรหมกลับคืน เพื่อให้โลกมนุษย์กลับคืนสู่ปกติ
    ไม่มีเรื่องนอกลู่นอกทาง บางคนหลงตัวเองว่ามีฤทธิ์ แม่องค์ธรรมก็ดึงดูดฤทธิ์
    กลับคืนหมดจนสิ้นฤทธิ์ แล้วต้องปฏิบัติจิตใหม่ ตรงทางพุทธศาสนาเท่านั้นค่ะ


    แม่องค์ธรรม จะเลือกร่างที่บำเพ็ญได้เหมาะสม ท่านก็จะอาศัยร่างนั้น ไม่มีการ
    ทรง หรือจะทรงก็ได้ แล้วแต่กรณี แล้วผ่านญาณบารมีของท่านลงมา เก็บและ
    ดึงดูดญาณเทพพรหมกลับหมด จากนั้น ก็ล้างให้สะอาดเพื่อเริ่มต้นใหม่ค่ะ เมื่อ
    เทพพรหมถูกเก็บคืนสวรรค์แล้ว จะบำเพ็ญโดยปกติ ไม่เข้าทรงอีก คือ การจุติมา
    เกิดปฏิบัติเพื่อนิพพานเท่านั้น ไม่เป็นอื่น ในยามที่โลกได้รับการสะสางโดยพระ
    ศรีอาร์ฯ ซึ่งอวตารลงมาแล้วค่ะ


    นี่คือ งานหนึ่งของ "อนุตรธรรม" นะคะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2008
  6. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    พระโอวาทพระแม่องค์ธรรม


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 เมษายน 2008
  7. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    ด้วยพระมหากรุณาธิคุณเบื้องบน พระแม่องค์ธรรม พระศรีอาริยเมตตรัย สรรพพุทธะ พระบรรพจารย์
    ท่านเหล่าเฉียนเหยิน เฉียนเหยิน อาวุโสและพี่น้องญาติธรรมทุกท่าน

    ผู้น้อยรู้สึกดีใจที่อาวุโสสงสัยในเรื่องของสายธรรม สายทอง เพราะว่า การก้าวเดินในวิถีอนุตตรธรรม
    จะต้องเข้าใจสิ่งเหล่านี้ให้ชัดเจน ดั่งคำที่ว่า รู้สิ่งใดควรรู้ให้แท้จริง เพื่อความสว่างไสวชัดเจน
    ในการบำเพ็ญธรรม ปฏิบัติธรรม ผู้น้อยขอกราบเรียนว่า

    ก่อนเกิดฟ้าเกิดดิน เราทุกคนเป้นหนึ่งเดียว กับองค์ธรรมพระมารดา มีสุข ไร้ทุกข์
    เป็นหนึ่งเดียวกับมหาธรรม ที่ก่อเกิดฟ้าเกิดดิน ควบคุมบัญชาทุกสรรพสิ่งในโลกนี้ อนุตตรธรรม
    เป้นวิถีที่เกิดขึ้นเพื่อนำพาพุทธบุตรคนเดิมกลับคืนสู่พระนิพพาน โดยการสืบทอดและการเผยแพร่อยู่ภายใต้
    พระบัญชาสวรรค์ ของพระแม่องค์ธรรม อนุตตรธรรมเริ่มเผยแพร่ในโลกตั้งแต่โลกเกิด
    เมื่อพุทธบุตรคนเดิมลุ่มหลงในกิเลสจึงต้องมีหนทางกลับคืน คือวิถีอนุตตรธรรม
    แต่การเผยแพร่ในสมัยแรกๆไม่เปิดเผย สู่สามัญชน ถ่ายทอดรุ่นต่อรุ่น คนต่อคน ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ช่วง
    ดังนี้

    ช่วงที่ 1 ถ่ายทอดในวงของกษัตริย์ (ยุคเขียว)
    คือ พระอริยะ กษัติย์ฝู่ซี พระบรรพจารย์องค์ที่ 1จนถึงองค์ที่ 18
    อยู่ในประเทศจีน คนที่ได้รับการถ่ายทอดวิถีอนุตตรธรรมจึงเป็นกษัตริย์เท่านั้น อย่างที่เราทราบกันดีว่า
    ฮ่องเต้คือ โอรสของสวรรค์
    ก็เป็นผู้ได้รับโองการสวรรค์เพียงผู้เดียวในสมัยนั้น

    ช่วงที่ 2 ถ่ายทอดในวงนักบวช นักปราชญ์ (ยุคแดง)
    คือ เริ่มนับตั้งแต่ พระศรีศากยมุนีพระพุทธเจ้าเป็นองค์ที่
    1ในช่วงนั้นถ่ายทอดอนุตตรธรรมหนทางกลับพระนิพพานพร้อมทั้งโองการสวรรค์ให้กับพระมหากัสสปะ
    เป็นพระบรรพจารย์ สืบต่อเรื่อยมา จนถึง รุ่นที่ 28 พระโพธิธรรม (ปรมาจารย์ตั๊กม้อ)

    ช่วงที่ 3 ถ่ายทอดในวงสามัญชน ( ยุคขาว)
    คือ เริ่มจากพระโพธิธรรม เป็นองค์ที่ 1ของรุ่นนี้ จนถึงรุ่นที่ 6 ท่านเหว่ยหลาง
    บาตรและจีวรพระแม่องค์ธรรมกำหนดให้อนุตตรธรรมลงสู่สามัญชน นับแต่บรรพจารย์องค์ที่ 7
    เป็นต้นไปนับว่ายุคแดงหมดลงในยุคของท่านเหว่ยหลาง
    แม้ว่าอนุตตรธรรมจะลงสู่สามัญชนแต่ก็ยังไม่สามารถช่วยเหลือได้อย่างทั่วถึง ยังถ่ายทอดเฉพาะผู้บำเพ็ญดี
    ยังเป็นรุ่นต่อรุ่น หนึ่งคนต่อหนึ่งคน ในช่วงบรรพจารย์องค์ที่ 7 ถึง 16 (ไม่ห่มจีวร โกนผม อุ้มบาตร)
    บำเพ็ญเรียบง่ายแบบสามัญชน การถ่ายทอดและเผยแพร่ยังอยู่ในวงจำกัด
    ซึ่งเป็นไปตามพระประสงค์ของธรรมพระมารดา จนถึงพระบรรพจารย์ องค์ที่ 17 พระนามว่า ปรมาจารย์จินกง ( จินกง
    จู่ซือ) ซึ่งเป็นพระภาคหนึ่งของพระศรีอาริยเมตตรัย ( เป็นแค่พระภาคหนึ่งมิใช่องค์เต็ม )
    ได้รับพระบัญชาสวรรค์จากพระแม่องค์ธรรม ทำการเปิดงานโปรดกู้สามภพ ให้วิถีอนุตตรธรรมสู่ครัวเรือน
    ทุกครอบครัว ได้รับธรรมะเป็นครอบครัวพระศรีอาริย์ กลับพระนิพพาน จนถึงพระอาจารย์ชาย
    พระอาจารย์หญิงรับพระบัญชาคู่กัน เป็นพระบรรพจารย์องค์ที่ 18
    ***จุดสำคัญอยู่ตรงนี้ เมื่อพระอาจารย์ชายบรรลุธรรมกลับคืน โองการสวรรค์ถูกส่งมอบให้พระอาจารย์หญิง
    หลังจากที่พระอารจย์หญิงบรรลุธรรมกลับคืน ได้มอบพระบัญชาสวรรค์ให้กับท่านหวังเหล่าเฉียนเหยิน
    ซื่งเป็นศิษย์ที่ติดตามและคอยดูแลพระอาจารย์หญิง และเป็นศิษย์น้องของท่านหันหล่าเฉียนเฉียนเหยิน
    และยังมีเหล่าเฉียนเหยินอีกหลายท่านในช่วงนั้น
    พระบัญชาสวรรค์ถูกดูแลโดยอาจารย์ใหญ่หวังซึ่งในช่วงนั้นพระอาจารย์หญิงต้องการติดตามหาพระศรีอาริยเมตตรัย
    ว่ามาเกิดที่ใด แต่จนชั่วชีวิตท่านก้ไม่รู้ว่าเป็นใคร รู้แต่เพียงว่ามาเกิดที่ไต้หวัน ทางตอนเหนือ
    แต่พระอาจารย์หญิงก็ยังหาไม่พบจึงมอบงานนี้ให้อาจารย์ใหญ่หวังตามหาพระศรีอาริยเมตตรัยเพื่อส่งมอบพระบัญช
    าสวรรค์ ให้พระองค์ ทำงานเก็บรวมสามภพ ซึ่งทุกท่านจะเห็นได้ว่ามีการเปิดงานโปรดกู้สามภพ
    ในปรมาจารย์จินกง องค์ที่ 17 สุดท้ายมีการเก็บรวมโดยพุทธะองค์สุดท้ายคือพระศรีอาริยเมตตรัย
    และเข้าสู่ฐานสวรรค์สมบูรณ์ พระแม่องค์ธรรมบัญชาพระอริยะ พุทธะ โพธิสัตว์ เกิดกายเป็นมนุษย์
    ช่วยงานเก้บบรวมครั้งนี้ และเปิดงานประชุมหลงหว๋าฮุ๋ย คัดเลือก 3,600 อริยะ 48,000 ปราชญ์เมธี
    รับตำแหน่งอุบลบัลลังก์ กำหนดมหามรรคผลอันยิ่งใหญ่
    ผู้ที่เข้าใจความสำคัญลำค่าแห่งโอกาสวาระนี้ได้ช่วยงานเก็บรวมทำตามเจตนา ปณิธาน บารมี ส่งถึง บรรพชน 7
    ชั้น ลูกหลาน 9 ชั่วคน มีความสุขตลอดไป

    ดังนั้น อนุตตรธรรม ไม่มีคำว่าสายไหนเป็นสายไหน พระแม่องค์ธรรมมีพระบัญชาให้บรรพจารย์ องค์ที่ 1ถึง
    องค์ที่ 64 สืบทอดพงศาธรรมจนคบสมบูรณ์ จนปัจจุบันนี้ พระศีอาริยะเมตตรัย เกิดกาย ณ โลกมนุษย์
    พุทธะทั้ง 10 ทิศ พร้อมใจช่วยงานเก็บรวมอย่างยิ่งใหญ่ ฉะนั้น ตอนนี้
    อนุตตรธรรมอยู่ในช่วงเผยแพร่อย่างเต็มที่ เก็บรวมผู้มีบุญ วาสนา ได้เข้าสู่พระนิพพาน
    หรือเรียกอนุตตรธรรมช่วงนี้ว่า ยุคแห่งฐานสวรรค์ เพราะพระแม่องค์ธรรมต้องการสอบคัดเลือก 3,600 อริยะ
    48,000 ปราชญ์เมธี จึงมีการปรับฐานสวรรค์ ให้พุทธะทั้งหลายเกิดกายเป็นมนุษย์ ฝึกฝนบำเพ็ญ นับตั้งแต่ 0
    เป็นต้นไป ดังนั้น ตอนนี้ ยุคพระศรีอาริยเมตตรัย ยังไม่มีพระพุทธะ ประจำยุค ก็รออาวุโสทุกท่าน
    ผู้บำเพ็ญดี มาช่วยพระศรีอาริยเมตตรัยเก็บรวมสามภพกัน ซึ่งผู้น้อยก็ช่วยอยู่ มีความสุขมาก
    ได้กราบพระบาทของพระองค์จริงๆ บารมีพระองค์เต็มเปี่ยมมากสมกับเป็นพระพุทธเจ้าองค์ที่ 10 เลยทีเดียว
    ผู้น้อยได้รับความเมตตาจากพระแม่องค์ธรรมให้ได้ฉุดช่วยบรรพชน ในขณะนี้ถึง 18 ท่านแล้ว
    และครอบครัวของผู้น้อยก็ปฏิบัติธรรม ถือศีลกินเจ ในอนุตตรธรรมทั้งครอบครัว
    สัมผัสได้ถึงพระบารมีของพระศรีอาริยเมตตรัยและผู้น้อยได้เข้าร่วมช่วยงานทั้งโปรดคน โปรดวิญญาณ
    และโปรดเทพเทวา หรือที่เรียกว่าโปรดกู้สามภพ กับตาของผู้น้อยเอง มันเป็นประสบการณ์ที่ยิ่งใหญ่มาก
    พระแม่องค์ธรรมในตอนนี้ต้องการให้ลูกๆทุกคนได้รู้ว่า พระศรีอาริยเมตตรัย พระพุทธเจ้าองค์ที่ 10
    ลงมาอุบติแล้วในโลก
    และผู้น้อยก็เป็นศิษย์ฟาอีฉงเต๋อที่ได้ไปร่วมงานนี้ซึ่งตอนนี้ก็แบ่งเวลาว่างจากการเรียนไปช่วยงานฐานสวรร
    ค์อยู่ อาวุโสอยากรู้ไหมว่าฐานสวรรค์คืออะไร อยู่ที่ไหน เดิมทีในช่วงยุคพระอาจารย์ชายพระอาจารย์หญิง
    ฐานสวรรค์อยู่ที่พระนิพพานโดยมีพระศรีอาริยเมตตรัยปกครองฐานสวรรค์อยู่
    รับมอบพระบัญชาสวรรค์คุมงานธรรมในช่วงยุคนั้น คือ พระอาจารย์ชายจะทำอะไรต้องขอพระศรีอาริย์
    พระศรีอาริย์ขอพระแม่องค์ธรรม เป็นขั้นเป็นตอนไปอย่างนี้ เช่น การแต่งตั้งอาจารย์ถ่ายทอดเบิกธรรม
    การไปบุกเบิกแพร่ธรรม ณ ประเทศต่างๆ หลังจากที่พระอาจารย์ชาย พระอาจารย์หญิงกลับคืน
    ฐานสวรรค์ก็ถูกยกลงมาอยู่ ณ เมืองมนุษย์ เพราะว่าพระศรีอาริยเมตตรัยมาเกิดแล้ว พร้อมพุทธะทั้ง 10
    ทิศก็คุกเข่าต่อพระแม่องค์ธรรม ตั้งปณิธานมาช่วยงานเก็นบรวม
     
  8. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,696
    จริงๆแล้วเราไม่ได้รับนะครับ แต่เป็นการให้ครับ
    ให้กับพวกภูติผีหรือเทพที่ต้องการขันธ์ของเรามาบำเพ็ญหรือมีจุดหมายบางอย่าง
     
  9. น้องหน่อยน่ารัก

    น้องหน่อยน่ารัก เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,976
    ค่าพลัง:
    +4,975
    [​IMG]



    กลางประธาน - พระอมิตตาพุทธเจ้า
    ฝ่ายซ้าย - พระมหาสถามปราปตโพธิสัตว์ หรือ ไต้ซีจี้ผ่อสัก
    (พระแม่องค์ธรรม)


    ฝ่ายขวา - พระโพธิสัตว์กวนอิม
     
  10. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    อันนี้ เห็นด้วย ไม่คัดค้านค่ะ เพราะก็ทราบมาว่า การที่เทพ/ภูตผี ให้เรารับขันธ์ เพื่อให้เราสละขันธ์ 5 ของเราให้แก่เขา ให้เขาได้ครอบครอง เพื่อจุดหมายบางอย่าง

    อันนี้ ก็สุดแล้วแต่ละบุคคล ว่าจะเจอของจริง หรือ ของปลอม ก็ต้องใช้สติในการพิจารณาให้เกิดปัญญา ถ้าเราหลงผิดแล้วท่านช่วยให้เราเห็นความผิดนั้น ก็คงเป็นของจริง แต่จุดมุ่งหมายของท่านก็คือ เพื่อมาสร้างบารมี เพราะท่านเองก็มีทั้งกรรมดี กรรมชั่วเช่นกัน ก็ต้องได้รับผลแห่งกรรมนั้น การมาสร้างบารมีร่วมกับมนุษย์ ก็ทำให้ท่านได้บารมี ยืดอายุของความเป็นเทพออกไป กฎแห่งกรรมก็เบาบางลง จากที่หมดบารมีแล้ว อาจดิ่งลงนรก ก็อาจเบาลง คือมาเกิดชดใช้กรรมในเมืองมนุษย์

    แต่ถ้าเจอของปลอม จุดมุ่งหมายก็เพื่อการได้รับของเซ่นไหว้ การมีคนมากราบไหว้ การมัวเมาในอบายมุข ซึ่งสุดแล้วแต่ภูตผีนั้น ๆ

    เป็นเรื่องละเอียดอ่อนมาก ดังนั้น จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องใช้ปัญญาในการพิจารณาสิ่งต่าง ๆ รอบตัว

    ^_^
     
  11. Jerusale

    Jerusale เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2005
    โพสต์:
    183
    ค่าพลัง:
    +172
    - สงกรานต์นี้เตรียมตัวรับ ขัน ( ขันน้ำ ) ด้วยนะครับ อิอิ
     
  12. เด็กชายพชร

    เด็กชายพชร Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    150
    ค่าพลัง:
    +98
    เคยแต่ได้ยินคะ
    แต่ได้ยินมาในทางไม่ดี เป็นส่วนใหญ่
    คนที่รับขันธ์ ส่วนใหญ่จะเป็นคนที่เจ็บป่วยบ่อย ไม่ค่อยมีความมั่นใจ ไม่มีสติ(สตังค์) คิดว่าตัวเองไม่มีที่พึ่ง(ทางกาย-และใจ) ทำอะไรก็ลังเลไปหมด

    แล้วจะถูกคนอื่นยุ ว่า ท่านนี้ดี ท่านนี้เก่ง ตัวคุณจะหายจากโรค ถ้ารับขันธ์
    ตัวคุณจะดีขึ้นถ้ารับขันธ์.....สุดท้ายก็ยอมรับขันธ์ แล้วเป็นงัย มีใครที่ดีขึ้นจากการ ไร้สติ บ้างไหม มีใครที่หายจากโรค จากการไม่รักษาอาการป่วยทางใจได้ไหม
    บางคนอยู่ดี ๆ พอมีคนมาทักหน่อยว่า รับเถอะ รับเถอะ เพราะคุณเคยเป็นนั่น เป็นนี่มาก่อน ก็ดันไปใจอ่อนเชื่อเค้าโหม้ด รับมาอีกขันธ์
    คราวนี้ก็สนุกหละ ไม่เป็นตัวของตัวเอง
    วันไหนถ้าทำไม่ดี ก็โทษว่า ไม่ใช่ตัวตนเองที่ทำ โทษไปเรื่อยคะ
    วันไหนที่ (คิดว่าตนเองทำดี) ก็มั่ว ไป มั้ง ตามน้ำ

    อันนี้เป็นความคิดส่วนตัว ทั้งหมดคะ อาจขัดแย้งกับความรุ้สึกของบางท่าน บางคน ก็เป็นได้
     
  13. นายฉิม

    นายฉิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    2,105
    ค่าพลัง:
    +2,696
    จริงๆแล้วก็เคยได้ยินมาที่ว่า มีโรครักษาไม่หายหรือทำอะไรก็ไม่ค่อยสำเร็จในชีวิต แต่ทางออกที่จะไปรับขันธ์นั้นก็ไม่ถูกต้องนะครับในความคิดของผม เพราะสิ่งที่เราประสบก็คือกรรมของเราที่เราควรพบเจอ จะเบาบางก็เมื่อเราแก้กรรมอย่างถูกวิธีให้เจ้าของกรรมเขารับทราบและอนุโมทนา ไม่ใช่หลบหนีโดยการไปรับขันธ์ ยกร่างให้คนอื่นนำไปใช้และใช้บารมีของเขามาปกปักษ์รักษาเรา ซึ่งมันก็ช่วยได้แค่ช่วงเวลาหนึ่งเพียงเท่านั้น กรรมก็ต้องกลับมาลงที่เราเหมือนเดิมถ้าเจ้าของกรรมเขายังไม่เห็นว่าเราสำนึกในกรรมที่เราเคยก่อครับ
     
  14. จิตต์ปภัสสร

    จิตต์ปภัสสร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มกราคม 2007
    โพสต์:
    670
    ค่าพลัง:
    +4,545
    คำถามแนวนี้มีเยอะในกระทู้ ลองเสริซ์หากระทู้เก่า หรือหากระทู้ที่คุณ

    ขันธ์เคยตอบไว้ก็ได้นะจ๊ะ (คุณขันธ์เตรียมตัวนะมีคนจะมารับขันธ์อีก

    แล้วจ้า) (kiss)
     
  15. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ผมไม่เคยรับขันธ์ เพราะขันธ์ทั้ง 5 ผมมีพร้อมอยุ่แล้ว แถมยังอยากจะสลัดมันออกไปเสียด้วยครับ
    รับขันธ์ตามที่คุณสนใจนี้ มันคือ การเอาบุคคล ซึ่งบุคคลนี้อาจจะเป็น ผี เป็นเทพ เป็นเจ้าอะไรก็ตามแต่จะรับมา เข้ามามาสถิตย์อยุ่กับเรา กลายเป็นแบกภาระเพิ่มอีก ทั้งๆ ที่ขันธ์ 5 ของเราก็เป็นเรื่องที่หนักมากพออยุ่แล้ว
    ทีนี้ เวลารับมาแล้ว แทนที่เราจะสุขสบาย เป็นอิสระ เราก็อาจจะต้องอยุ่ใต้ อาณัตผู้อื่น ขัดขวางต่อการปฏิบัติธรรม ในพระพุทธศาสนานั้นถือว่า พระรูปใดกระทำการทรงเจ้า ถือว่า อาบัติผิดพระวินัย
    ถ้าเป็นเรื่องที่ดีแล้ว พระพุทธองค์จะห้ามหรือ

    ท่านสอนให้เราสลัดขันธ์ 5 วางลง เรายังจะไปถือขันธ์ของคนอื่นอีก แบบนี้ยิ่งจะทำให้ชีวิตเราแย่ลงไป

    ทางที่ถูกผมแนะนำนะ หากทุกข์ใจ ประสบกับเรื่องไม่ดี กังวล ให้เราทำบุญอุทิศส่วนกุศล ให้เจ้ากรรมนายเวร บรรพบุรุษของเราทั้งหลาย เจ้าที่เจ้าทาง และเจริญกรรมฐานด้วยการสวดมนต์ก่อนนอน ระลึกถึงแต่ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เราก็จะปลอดภัยจาก สิ่งไม่ดีทั้งหลาย

    เชื่อผมเถิด อย่าไปเอาเจ้าเอาผีมาเกี่ยวข้องเลย มันไม่สะอาด
     
  16. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    คนเราเวลามีเรื่องทุกข์ใจ ก็หาที่พึ่งเป็นธรรมดาถ้ามีเพื่อนดีก็ปรึกษาเพื่อน หรือ พ่อแม่ แต่บางเรื่องอาจบอกใครไม่ได้หรือหมดทางพึ่งแล้วก็จะหันไปหาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพราะเข้าใจง่ายเข้าถึงง่ายที่ไหนก็มี และความรู้สึกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ท่านให้พร ใจคนก็เลยมุ่งไปทางนั้น คนที่ยอมรับขันธ์ใจนึงคิดว่าเราได้ช่วยเหลือคนอื่น เพราะถ้าเราเป็นคนธรรมดาคงช่วยใครไม่ได้ ทุกข์ของคนส่วนใหญ่ก็เรื่อง เงินทอง ความรัก งานและ โรคภัย สิ่งเหล่านี้คือ โลภ โกรธ หลง พระท่านให้ไม่ได้คนถึงไม่เข้าหาพระ แต่คงลืมคิดไปว่าสิ่งที่หากันได้เท่าไหรก็ไม่พอ ลองถามตัวเองว่า เงินได้แล้วพอไหม ความรักยิ่งมากยิ่งดีใช้ไหม ชื่อเสียงยศก็ยิ่งสูงสูงที่สุดยิ่งดี ร่างกายก็ให้แข็งแรงอย่าป่วยเลย คนเราไม่ยอมรับความจริงหลอกใจมันรับไม่ได้ ของที่กล่าวมาทั้งหมดมีสภาพเสื่อมแต่เราไม่อยากให้เสื่อม ก็ดิ้นรนไปเรื่อย ธรรมมะสอนให้ไปรู้ไปเห็นความจริง แต่ใจคนถ้ามีทางเลือกสุขกับทุกข์ก็ไปหาสุขก่อน เพราะเรามองไม่เห็นความจริง แต่ให้รู้ไว้ว่าทุกคนต้องพอเจอ ถ้าเราไม่ปล่อยวางความทุกข์ก็ต้องมาเยื่อน เราถึงต้องเรียนรู้ความจริงเพราะเมื่อมันปรากฏใจจะจะยอมรับได้
     
  17. YUT_KOP

    YUT_KOP เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มกราคม 2008
    โพสต์:
    458
    ค่าพลัง:
    +1,033
    หลวงพ่อพุธ ทรงบอกอย่างชัดเจนว่า แม้นกระทั้งการทำ
    กรรมฐาน ก็ห้ามไปขึ้นครู กรรมฐาน
    การไปขึ้น ครูกรรมฐาน ก็ เหมือนกับเราไปยอมให้ วิญญาณอื่นๆมาใช้ตัวเรา
    มาข่มเราได้ ให้สิ่งอื่นๆมาข่มเรา ถ้าเป็นสิ่งดี ก็ดีไป (ถ้าเค้ามาช่วยข่มจิตเราตอนกรรมฐาน แล้วก็ปล่อยเราไปนะ) ถ้าทำไม่ดีจะหลงและ กลายเป็น ทาสของ ผี เหล่านั้นไปได้
    ทางที่ดี อย่าไปขึ้น ครูใดๆเลย
    มี พระพุทธโคดม บรมครู อยู่แล้ว แค่นี้ก็ยิ่งใหญ่พอแล้ว
    ให้คิดว่าเรามี เพียง พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เป็น สมณะที่พึ่ง อันสูงสุด สรณะอื่นเราไม่ ถือเอา
    ปล.ไม่รู้ใช้เรียกว่า การรับ ขันธ์ หรือ ปล่าวนะ แต่คิดว่า คล้ายๆกัน เลยเอามาบอก ^^
     
  18. momogo

    momogo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    570
    ค่าพลัง:
    +1,158
    อันนี้ ก็จริงค่ะ เป็นตัวของตัวเองดีที่สุด

    บางคนรับแล้ว จิตเสื่อมถอย มีมานะทิฏฐิ ก็ไม่ดี
    กิเลสเล่นงานแล้ว ก็ไม่ดี ไม่ควรรับเลย

    บางคนรับแล้ว ใช้ธรรมะประกอบ
    ไม่ได้ถอดออก แต่ก็ไม่ได้ยึดถือมากมาย
    ยังคงเดินตามรอยทางพระพุทธเจ้าท่านเทศน์สอนไว้
    มีพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง เป็นที่สุด
    (ตอนนี้ momogo เป็นแบบนี้)

    อาจจะไม่ใช่ทางที่ถูก อาจจะเป็นทางที่ผิด

    แต่ประสบการณ์ที่ผ่านมา ไม่เคยได้รับความเดือดร้อน
    เพราะสิ่งที่ไปรับ แต่เดือดร้อน เพราะความถือตัวตน
    ความเป็นมิจฉาทิฎฐิของตัวเอง เพราะความไม่มีสติ
    โทษใครไม่ได้ และไม่ขอโทษใคร
    นอกจากตัวเราเอง... ผิดที่เป็นตัวฉัน
     
  19. สิกขิม

    สิกขิม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2005
    โพสต์:
    1,310
    ค่าพลัง:
    +6,034
    หลายท่านมีคำตอบที่ดียิ่งแล้ว ในเชิงให้สติฉุกคิด


    ขันธ์ อันเจ้าตำหนักอ้างว่าให้รับเถิด ถึงเวลาแล้ว หาไม่เช่นนั้น ชีวิตจะวิบัติลงทุกทาง


    แท้จริงแล้ว มนุษย์ทั้งหลายล้วนมีขันธ์แห่งตนดำรงอยู่ ดังบทสังเวคปริกิตตนปาฐะ ดังนี้


    ว่าโดยย่อ อุปาทานขันธ์ทั้ง 5 เป็นตัวทุกข์ ได้แก่สิ่งเหล่านี้คือ


    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือรูป


    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือเวทนา


    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือสัญญา


    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือสังขาร


    ขันธ์ อันเป็นที่ตั้งแห่งความยึดมั่นคือวิญญาณ


    ฉะนั้น ขันธ์จากตำหนักใด ให้ระวัง จะมิได้ทั้งเทพ พรหม


    หากแต่เป็นสัมภเวสีอสุรกาย ที่มีจุดมุ่งหมายในอามิสและเครื่องเซ่น


    บ้างก็ครอบงำให้ร่างลงทรง เข้ารกเข้าพงเสียสติวิปลาสไป


    ระลึกเถิด จิตที่มีความเป็นพุทธะ ย่อม ตื่น รู้ และเบิกบาน


    จิตที่มีความเป็นไสยะ ย่อม โมหะ โทสะ โลภะ
     
  20. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    เห็นพูดกันเรื่องเข้าทรงทีไร
    เป็นได้เจอคุณสิกขิมออกมาชี้แนะความเห็นผิด
    ให้เกิดสัมมาทิฎฐิลบสีลัพรตปรามาสทุกที
    อนุโมทนาครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 10 เมษายน 2008

แชร์หน้านี้

Loading...