ร่วมทำบุญบูชา สำเร็จชุมนุมมหาคุณบารมีเก้าชั้นแต่งอโหสิกรรม(ถอนกรรมเผ่าพันธุ์บาปบรรพชน) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ชัยวัฒน์ ED 8362 7817 2 TH
     
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    มีสอบถามเรื่องเหล็กไหลกันเข้ามา เดี๋ยวจะยกมาพูดคุยกันวันพรุ่งนี้นะครับ
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    หากกล่าวถึงเรื่องเหล็กไหล แน่นอนว่าหลายๆคนคงคุ้นหูหรือบางคนอาจจะรู้จักกันดีอยู่แล้ว ซึ่งแน่นอนว่าเหล็กไหลนั้นมีทั้งของแท้และของทำเทียมที่ตั้งใจจะอุปโลกขึ้นมา เราจะกล่าวกันเฉพาะของเเท้ซึ่งแน่นอนว่าเขามีฤทธิ์มีคุณวิเศษในตัวเองอย่างถึงที่สุด เรียกว่าแม้ไม่ต้องเสกก็เป็นกายสิทธิ์มีดีในตัวหากแต่ถ้าได้เสกก็ยิ่งแล้วใหญ่ แต่การเสกเหล็กไหลนั้นจริงๆแล้วต่างจากการเสกพระ วันนี้ก็เลยจะยกเรื่องเหล็กไหลแบบปลุกเสกมาพูดคุยกัน ติดตามกันดีๆนะครับ
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    เหล็กไหลนั้นของแท้ๆแม้ไม่เสกก็ยังเป็นของดี แต่หากเสกจนรู้นามองค์เทพที่รักษาจะยิ่งดีและง่ายต่อการใช้งานขึ้นไปอีก ตั้งแต่เกริ่นไว้ช่วงเช้าก็มีคนไลน์มาสอบถามพูดคุยกันเยอะมาก ก็กะว่าเดี๋ยวจะยกมาพูดคุยทีเดียวเลยในกระทู้นะครับ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    เหล็กไหล

    เหล็กไหล เชื่อกันว่าเป็นธาตุศักดิ์สิทธิ์ชนิดหนึ่งตามความเชื่อในฝั่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งในประเทศมาเลเซียมีชื่อเรียกว่า บีอซีรีเละ มีอยู่ด้วยกันหลายชนิด โดยชนิดที่เป็นทีความนิยมหามาสะสมกันอย่างแพร่หลายมากที่สุดจะฝังตัวอยู่ในถ้ำ มีสีดำคล้ายนิล สามารถลนไฟให้ยืดออกได้ มีความเชื่อเพิ่มเติมกันอีกว่า การจะนำเอาเหล็กไหลไปใช้นั้นจะต้องใช้น้ำผึ้งชโลมก้อนเหล็กไหล จากนั้นใช้ไฟลนเพื่อให้เหล็กไหลยืดตัวออกมากินน้ำผึงพร้อมกับเล่นไฟไปด้วย ลนไฟเหล็กไฟลเอาไว้จนกระทั่งมีขนาดบางเท่าเส้นด้ายถึงจะตัดให้ขาดออกจากกันได้

    การเดินทางไปนำตัดเหล็กไหลออกมานั้น ว่าก็ว่าคนธรรมดาไม่สามารถทำได้ เนื่องจากมีเทพเจ้า เจ้าป่าเจ้าเขา พญานาค หรือยักษ์คอยปกปักรักษาอยู่ และพร้อมจะเข้าทำร้านผู้ที่เข้าไปเอาได้ทุกเมื่อ หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนดี มีบุญ หรือมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้ามากพอ อีกทั้ง ตัวเหล็กไหลก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่จะเข้าไปตัดได้ด้วย จากเรื่องเล่าที่ว่า เคยมีคนเดินทางเข้าไปตัดเหล็กไหลโดยเอามือไปสัมผัสกับเหล็กไหลโดยตรง จากนั้นเกิดอาการคล้ายกับถูกฟ้าผ่า หรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเข้า เป็นเรื่องที่ใครก็ยังไม่สามารถหาคำตอบได้ว่าจริง หรือเท็จอย่างไร

    อานุภาพของเหล็กไหล
    ใครต่อใครต่างก็บอกว่าอานุภาพมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ส่วนใหญ่มักจะฝังเอาไว้ตามตัวผู้ที่ครอบครอง ไม่มีอะไรสามารถทำร้ายบุคคลนั้นได้ ไม่ว่าจะเป็นมีด ปืน ระเบิด หรือแม้กระทั่งดินปืนทุกชนิดก็ไม่สามารถจถดติดได้ในบริเวณที่มีเหล็กไหลอยู่ อีกทั้งตามความเชื่อโบราณยังได้กล่าวอีกว่า เหล็กไหล สามารถแบ่งออกได้เป็นสามระดับ ดังนี้
    • ระดับแรก เหล็กไหล มีลักษณะแวววาว ส่วนที่ถูกไฟลนสามารถยืดได้ นับว่าเป็นส่วนที่มีอิทธิฤทธิ์มากที่สุด อาทิ เหล็กไหลปีกแมลงทับหรือเหล็กไหลโกฐปี เหล็กไหลเงินยวงหรือเหล็กไหลชีปะขาว เหล็กไหลเพชรดำ เหล็กไหลท้องปลาไหล
    • ระดับสอง รังเหล็กไหล มีลักษณะแวววาวรองจากตัวเหล็กไหล ไม่สามารถลนไฟให้ยืดออกได้ เป็นส่วนที่ห่อหุ่มตัวเหล็กไหลเอาไว้ เป็นฐานรองเหล็กไหลที่แข็งและแน่นคอยยึดติดกับผนังถ้ำ อาทิ โคตรเหล็กไหล แร่เกาะล้าน แร่เม็ดมะขาม เหล็กไหลทรหด
    • ระดับสาม ขี้เหล็กไหล มีลักษณะคล้ายกับน้ำตาเทียน มีสีดำด้าน แข็ง แต่สามารถทุบให้แตกได้ง่าย เกิดจากการที่เหล็กไหลเคลื่อนผ่านทางนั้นแล้วเกิดเป็นขี้เหล็กไหล ไม่มีฤทธิ์ใดๆ
    ในทางวิทยาศาสตร์อาจกล่าวได้ว่า เหล็กไหล คือ โลหะ หรือวัสดุอื่นใดที่มีจุดหลอมเหลวต่ำ เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น อุกกาบาตจากนอกโลก ซิลิเกตจากใต้โลก และวัตถุที่มนุษย์สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้ เช่น ปรอท แกลเลียม โดยสามารถหลอมเหลวได้ในอุณหภูมิห้อง หรืออาจะเป็นโลหะผสมอื่นๆ สีสันของเหล็กไหลมีลักษณะเป็นสีรุ้งเมื่อตกกระทบกับแสงแดด หรือแสงไฟ เกิดจากการแทรกสอดในฟิล์มบาง (Thin-Film Interference) ที่เป็นการแทรกสอดของแสงที่สะท้อนออกมาจากเนื้อวัตถุ

    พิธีการตัดเหล็กไหล
    เป็นพิธีกรรมที่สืบทอดกันมาตั้งแต่โบราณกาล ซึ่งอุปกรณ์ที่ใช้จะมีความแตกต่างกันไปตามบุรพาจารย์ผู้มีวิชาความรู้เป็นผู้กำหนดเฉพาะส่วนสำคัญในการตัดเหล็กไหล ผู้ที่สามารถทำพิธีตัดเหล็กไหลได้จะต้องเป็นผู้ที่มีคุณธรรม ประพฤติตนดี ผฏิบัติรักษาศีลได้อย่างมั่นคง ไม่มีจิตใจที่ละโมบ ต้องมีการขออนุญาตจากเทพผู้ดูแลรักษาเสียก่อน เมื่อได้รับอนุญาตแล้วจึงค่อยทำพิธีตัดเอา มิฉะนั้นหากเราฝ่าฝืนด้วยกำลังหมายแย่งชิงเอาโดยพละการ มีความถือดีในพระเวทย์ ก็อาจทำให้มีเพทภัยถึงแก่ชีวิต หรือเกิดความขัดแย้งในหมู่คณะถึงขั้นที่ว่าวิบัติได้ด้วยฤทธิ์ของเทพผู้รักษาเหล็กไหลนั่นเอง

    การบูชาเหล็กไหลด้วยคาถาอาคม
    การบูชาเหล็กไหลโดยตามความเชื่อแล้วก็จะมีการบูชาด้วยการใช้คาถาอาคม ซึ่งเหล็กไหลจะมีความศักดิ์สิทธิ์ มีอิทธิฤทธิ์ปาฏิหารย์ได้ก็ต่อเมื่อผู้ที่บูชามีความเชื่อ มีความเคารพศรัทธาต่อพลังธาตุกายสิทธิ์ และต่อครูบาอาจารย์ที่ได้ทำการถ่ายทอดพระคาถาอาคมนั้นๆ นับได้ว่าใครที่ได้ครอบครองเหล็กไหลถือเป็นความโชคดี เหนือสิ่งอื่นใด ความสำเร็จในชีวิตจะเกิดขึ้นได้ เราต้องเป็นผู้สร้างเอง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ไม่สามารถสร้างให้ได้ แต่จะเป็นเครื่องช่วยนำทางให้พบแต่ความโชคดี แคล้วคลาด ปลอดภัย สิ่งที่สำคัญเราพึงระลึกอยู่เสมอว่า คนทุกคนล้วนแต่อยู่ภายใต้กฎแห่งกรรม มีกรรมเป็นเผ่าพันธุ์ มีกรรมเป็นที่ตั้ง ขอให้เราจงยอมรับกรรมนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมดี หรือไม่ดีก็ตาม ให้มีสติอยู่เสมอจะได้ไม่เสียสมดุลของชีวิต

    การบูชาธรรมธาตุเหล็กไหล ( ตั้ง นะโม 3 จบ )
    “ พุทโธเมนาโถ ธัมโมเมนาโถ สังโฆเมนาโถ สะกะพะจะ บูชา จะ มหาบูชาท่านผู้ดูแลรักษา ธาตุอันศักดิ์สิทธิ์ อันทรงฤทธิ์อานุภาพนี้ อิสะวาสุ อิติปิโส ภะคะวา เหล็กไหลเจริญมา เจริญยิ่ง เจริญดีสิ่งดี ๆ ทั้งหลาย หลั่งไหลเข้ามาสู่แก่ตัวข้าพเจ้า ชื่อ ......... นามสกุล .........สัมมะ สัมมา สัมมา สัมมะ นะมะอะอุ นะมะพะทะ นะโมพุทธายะ
    ตอนกล่าวคาถา “ นะ มะ อะ อุ ” กำหนดจิตรับพลังเหล็กไหลเข้าไปที่ นะ (หน้าผาก) , มะ (หน้าอก) , อะ (แผ่นหลัง) และ อุ (หน้าท้อง ที่จุดสะดือ)


    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่กีรติศักดิ์ ED 8362 9128 4 TH

    พี่พรเทพ ED 8362 9129 8 TH
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ใครที่ชอบเหล็กไหลขั้นสูงที่ระบุนามองค์เทพ อันสถิตย์เฉพาะองค์เหล็กแต่ละองค์เพื่อจะได้บูชากันให้ได้เกิดผลสูงสุด เดี๋ยวพรุ่งนี้ติดตามกันดีๆ รายการนี้แค่องค์เหล็กก็คุ้มแล้ว
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ร่วมทำบุญบูชา พระสูญทุกข์สามก้าวเหยียบสวรรค์พยุงโผนโจนข้ามวัฏสงสาร (ฝังองค์เหล็กอิศโรภาส)

    พระพิมพ์นี้พ่ออาจารย์ท่านมักเรียกติดปากว่า พระก้าวหน้าหรือพระก้าวไกล และมักจะบอกคนใกล้ชิดถึงความสำคัญของพระพิมพ์ว่า...."สามก้าวเปลี่ยนชีวิต"

    เมื่อใดที่มนุษย์หยุดการพัฒนาทั้งทางด้านสติปัญญา,ความคิดและศีลธรรมก็ย่อมเป็นเหตุให้พระสัทธรรมค่อยๆเลือนหายไปจากโลก พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ท่านเมตตาตรงนี้ ท่านว่าฉันจะช่วยเองนะ เช่นนั้นจึงเป็นบ่อเกิดของพระพิมพ์สำคัญที่พ่ออาจารย์ท่านจะเรียกว่าพระก้าวไกล..หรือสามก้าวเปลี่ยนชีวิตที่จะใช้สูญทุกข์ภัยให้คนมีโอกาสได้กลับตัวตั้งมั่นอยู่ในคุณพระรัตนตรัยและข้อธรรมทั้งหลาย สำหรับพิมพ์พระนั้นเสด็จพระใหญ่ท่านว่าจะสร้างอย่างไรให้ไปเรียนเอากับขรัวโตท่าน พ่ออาจารย์ท่านก็ต้องขอเมตตาครูสมเด็จจริงๆเพราะท่านว่าพระพิมพ์แบบนี้มีอาถรรพ์ มีพุทธอภินิหาริย์มากไม่ใช่จะทำได้ง่ายๆ โดยครูสมเด็จท่านได้บอกพุทธลักษณะพระพิมพ์ให้พ่ออาจารย์ท่านไปแกะบล๊อกแม่พิมพ์มา เป็นลักษณะพระที่จะใช้เพื่อหวังพุทธคุณอย่างอุกฤษฎ์สืบต่อไปเท่านั้น

    ที่มาแห่งพระพิมพ์นั้นพ่ออาจารย์ท่านเรียกว่าสามก้าวย่างเหยียบสวรรค์ดุจดั่งท่านได้อุปมาว่าแม้คนเราต่อให้เป็นเจ้าเป็นกษัตริย์พยายามกระทำทุกสิ่งสิ้นเปลืองไปอย่างมากเพื่อให้ได้ขึ้นสวรรค์ทั้งเป็นนั้นก็ยังทำไม่ได้เรียกว่าแม้ลงทุนทั้งชีวิตก็ยังไม่เกิดผลอะไร แต่ในขณะเดียวกันสมเด็จพระบรมศาสดานั้นท่านย่างพระบาทเพียงสามก้าวก็ขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้ ดั่งที่พ่อาอจารย์ท่านเล่าเอาไว้ว่า... " ในปางนั้น องค์สมเด็จพระบรมศาสดาทรงมีดำริถึงพระพุทธเจ้าทั้งหลายในกาลก่อนๆที่ผ่านมา เมื่อกระทำยมกปาฏิหาริย์เสร็จแล้วในพุทธประเพณีที่มีมานั้นพระพุทธเจ้าทั้งหลายท่านได้เสด็จไปจำพรรษาอยู่แห่งใดหลังกระทำปาฎิหาริย์ ด้วยพระอตีตังสญาณทำให้ทรงทราบเหตุการณ์ในอดีตได้ทันทีว่าหลังจากเสร็จยมกปาฏิหาริย์แล้วพระพุทธเจ้าทั้งหลายย่อมเสด็จไปจำพรรษาบนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อหวังประโยชน์เทศนาโปรดพุทธมารดาและเหล่าเทพพรหมทั้งหลาย พอทรงระลึกอดีตกาลที่เป็นพุทธประเพณีนั้นได้ก็ทรงเสด็จลุกจากรัตนบัลลังค์อันตั้งอยู่เหนือยอดคันธพฤกษา แล้วสมเด็จพระโพธิญาณบรมศาสดาก็ได้ย่างก้าวพระบาทดำเนินออกไป ในขณะนั้นเองมหาคิรีทั้งสามอันเป็นหลักจักรวาลก็ได้โน้มยอดทอดตัวลงโดยฉับพลันรับพระบาทของพระตถาคตเจ้า ได้แก่จอมเขายุคนธร,จอมเขาอิสินธร และจอมเขาพระสุเมรุ ทั้งสามต่างน้อมยอดรองรับฝ่าละอองธุลีพระบาทสมเด็จพระบรมศาสดาจารย์เจ้าเป็นที่น่าอัศจรรย์และกล่าวขวัญในปาฏิหาริย์ " พ่ออาจารย์ท่านว่าทั้งมนุษย์และเทพพรหมล้วนเห็นกันหมด แม้เทพพรหมยังตกตะลึงเพราะการทำปาฏิหาริย์เช่นนี้ของพระพุทธองค์นั้นเกินไปกว่าที่เทวานุภาพใดๆจะทำได้ สมเด็จพระบรมศาสดานั้นท่านเสด็จพระดำเนิน คือย่างพระบาทไปสามก้าวท่านก็ก้าวล่วงเข้าสู่แดนดาวดึงส์สวรรค์อันสถิตอยู่เหนือยอดเขาพระสุเมรุนั้น เรียกได้ว่าย่างพระบาทสามก้าวเท่านั้นจากโลกมนุษย์ก็ถึงดาวดึงส์สวรรค์ ด้วยจอมเขาทั้งสามที่โน้มยอดมารองรับพระบาทแต่ละลูกนั้นก็พ้นโลกไปแล้ว พ่ออาจารย์ว่าท่านเหยียบก้าวแรกที่จอมเขายุคนธรนี่ก็เท่ากับว่าขึ้นมาถึงขอบเขาพระสุเมรุอันเป็นที่สถิตของพระอาทิตย์และพระจันทร์แล้ว พอก้าวที่สองลงที่อิสินธรก็เข้าเขตเทวดาแล้ว พ่อก้าวที่สามเท่านั้นท่านก็ก้าวข้ามสัตตบริภัณรวมไปถึงมหาสีทันดรและมหาทวีปทั้งสี่ล่วงขึ้นยอดพระสุเมรุเสด็จบนไพชยนต์ปราสาทเข้าประทับในบัณฑุกัมพลศิลาอาสน์ใต้ต้นปาริชาติอันเป็นธงชัยแดนดาวดึงส์ทันที

    เช่นนั้นพระพิมพ์สำคัญนี้ท่านจึงเรียกว่าสามก้าวเหยียบสวรรค์หรือพระก้าวไกลที่หวังพุทธคุณให้ผู้อาราธนาใช้ได้ก้าวออกไปสั้นๆแต่ไปถึงจุดหมายได้ไว ได้ไกลกว่าคนที่ต้องใช้แรงใช้ความพยายามทั้งชีวิต พ่ออาจารย์ท่านว่าพระพิมพ์นี้มีอาถรรพ์มากที่สุด ครูสมเด็จท่านย้ำมาเองเลยว่าเมื่อแกะแม่พิมพ์ต้องทำในลักษณะย่างก้าวพระบาท ให้พระเหยียบลงบนยอดเขาทั้งสามลูกอันเปรียบได้กับเส้นชัยของชีวิตเป็นจุดหมายปลายทางของใครหลายๆคนที่ยังไม่หวังพระนิพพานในชาตินี้ ที่ต้องก้าวขึ้นไปให้ถึง ก้าวไปให้ถึงทิพย์สมบัติแลสวรรค์สมบัติทั้งปวง พระพิมพ์นี้จะเป็นดั่งแสงสว่างเปิดทางนำชัยชนะ นำความสำเร็จ นำความสุข นำความเจริญมาให้ จะได้พบกับแสงสว่างในกิจที่ทำที่ดำรงค์อยู่ ทั้งการทำมาหากิน ราชการ การค้า...ทุกกิจอาชีพ ต้องสำเร็จ ต้องสมหวัง ต้องมีชัยชนะทุกคราวไป คิดทำสิ่งใดก็ออกผลงอกงาม การทำมาหากินได้โชคลาภเงินทอง มีความสุข ชีวิตมีทางออกตลอดเวลา

    เมื่อความทุกข์สิ้นสูญเวลาใด เวลานั้นย่อมได้ชื่อว่าชีวิตประสบชัยชนะอย่างยิ่ง พระพิมพ์นี้เมื่อทำเสร็จแล้วองค์ปฐมท่านจึงเรียกว่าพระสูญทุกข์ ด้วยพุทธานุภาพนั้นจะได้ช่วยพยุงชีวิตที่ยังคลอนแคลนเอาแน่เอานอนไม่ได้ให้มั่นคงต่อไปในพระศาสนา ให้ชีวิตที่แรงครูท่านช่วยพยุงเอาไว้ไม่ไหลไม่ตกหายไปก่อนจะถึงฟากฝั่ง ทั้งยังขับให้โผนโจนทะยานก้าวหน้าในทุกๆด้านอย่างรวดเร็ว พ่ออาจารย์ท่านว่าอาถรรพ์ของพระพิมพ์นี้ก็คือความก้าวหน้าที่ไม่ใช่ค่อยๆก้าวด้วยกำลังด้วยความพยายามทั้งชีวิต ถ้าจะต้องก้าวหน้าแบบเต่าคลานเช่นนั้นท่านว่าอย่าเอาไปใช้เลย พระพิมพ์นี้ท่านทำไว้เพื่อคนที่หวังจะก้าวหน้าในทุกกิจที่ได้กระทำอยู่ จะต้องก้าวไปประหนึ่งว่าแรงครูท่านพยุงให้เราโผนโจนทะยานขึ้นสู่ความสำเร็จ เพื่อชัยชนะ เพื่อเป็นที่หนึ่งได้อย่างฉับพลัน พ่ออาจารย์ท่านอุปมาไว้ว่า "คนเดินไปกับคนเหาะไปใครจะถึงก่อนกันก็ให้ไตร่ตรองเอาเอง " นอกจากนั้นยังจะผ่อนแรงผ่อนกำลังให้เราไปถึงโดยง่ายดั่งเมื่อครั้งพระศาสดาจารย์ท่านกระทำปาฏิหาริย์ให้ยอดเขาทั้งสามอันเป็นที่ตั้งแห่งแดนสวรรค์โน้มยอดมารองรับฝ่าพระบาท ดุจว่าจะโน้มเอาเส้นชัยของชีวิตเขามาหาเรา เอาความสำเร็จมาประเคนให้เรา ซึ่งตัวเรานั้นต้องลำบากเพียงย่างเท้าก้าวออกไปรับแค่นั้น พ่ออาจารย์ท่านว่านี่เป็นอาถรรพ์ที่องค์ปฐมกับครูสมเด็จท่านย้ำและกำชับไว้หลายหน ว่าพระพิมพ์สำคัญนี้จะเป็นดั่งไพ่ตายที่นำเราให้ข้ามพ้นอุปสรรค ท่านว่าถ้ามั่นในพุทธคุณหมั่นสร้างบารมีไปพร้อมๆกับอาราธนาองค์พระนี่ย่อมก้าวข้ามได้หมดทั้งสิ้นในโลกนีั ไม่ว่าจะมีปัญหาในกิจจานุกิจใด ไม่ว่าอุปสรรคนั้นจะยิ่งใหญ่ปานมหานทีสีทันดรที่เต็มไปด้วยอันตรายนานัปการก็ย่อมข้ามได้ทั้งสิ้น แม้จะข้ามพ้นวัฎสงสาร ข้ามไปหาพระนิพพานนั้นก็ยังทำได้หากบารมีเราถึงพร้อม เพราะเช่นนั้นจึงต้องรีบสร้างบารมีกันเอาไว้เพื่อองค์พระท่านจะได้แผ่พุทธานุภาพให้แสงสว่างชี้ทิศ นำทาง นำชัยชนะ นำความสำเร็จ นำเธอก้าวพ้นปัจจัยอันฉุดรั้ง เหนี่ยวกาย พันธนาการรึงรัดจิตวิญญาณทั้งหลายให้พ้นออกไป

    ท่านได้รวบรวมผงวิเศษเริ่มแต่ผงยันต์ยันต์ดวงประสูติ ดวงตรัสรู้,ผงยันต์ไจยะเบงชรพิศดาร,ผงยันต์ไจยะเบงชรตัวย่อ,ผงยันต์ฟ้าฟีก,ผงยันต์ดวงเศรษฐี,ผงพระโพธิสัตว์เป็นพ่อค้า,ผงเศรษฐีนายสำเภา,ผงดวงวิชาโคตรเศรษฐี,ผงเศรษฐีบารมีพระเจ้าสิบชาติ,ผงก้าวหน้า,ผงวิชาสูตรมหาเศรษฐีพุทธกาลทั้งเก้า,ผงยันต์จักรพรรดิ์,ผงยันต์ครูสิทธิลาภ,ผงยันต์หยุดทุกข์,ผงดับภัย,ผงพระเจ้าข้ามโลก,ผงพระเจ้าโปรดโลก,ผงพระเจ้าโปรดสัตว์,ผงพระเจ้าเปลื้องทุกข์,ผงพระเจ้ายกสัตว์ข้ามสงสาร,ผงยันต์ดวงตำรับเสด็จพระใหญ่ทั้งร้อยแปดดวง...นำมาผสมเข้ากับผงพุทธคุณทั้งห้า,ผงเกสรมงคลทั้งเก้า,ผงพระศรีมหาโพธิ์ชี้ทิศตะวันออก,ผงดอกรักซ้อน,ผงเสน่ห์จันทร์มหาโพธิ์,เสน่ห์จันทร์ขาว,เสน่ห์จันทร์แดง,เสน่ห์จันทร์เขียว,เสน่ห์จันทร์หอม,ผงเสน่ห์จันทร์ทอง,ผงหิ่งหายผี,ผงไม้กาหลงรากรักซ้อน,ผงไม้กาหลงรากมะยม,ไม้ยอตายพราย,ผงยาสัก,ผงครูสมเด็จ,ผงหลวงพ่อแก้ววัดเครือวัลย์,ผงรังต่อหัวเสือ,ผงรังแตน,ผงรังผึ้งขวางตะวัน,ผงไม้คูณตายพราย,ผงพรายตานี,ผงพรายตะเคียน,ผงกาฝากรัก,ผงกาฝากมะยม,ผงกาฝากขนุน,ดินเจ็ดนครเก้าบุรี,ดินขุยปู,ดินจอมปลวก,ข้าวก้นบาตรหินพระฤาษี,ชานหมากหินพระฤๅษี,เพชรหน้าทั่ง...สมเด็จองค์ปฐมท่านให้ผสมผงและกดพิมพ์องค์พระในฤกษ์ฤกษ์สี่ขุมคลังซึ่งทุกสี่ปีจะมีเพียงหนึ่งครั้ง จะได้เปิดขุมคลังทั้งสี่ส่งผลให้ผู้ครอบครองประสบความสำเร็จทางโชคลาภการเงินร่ำรวยเพราะขุมทรัพย์ที่ถูกปิดไว้จะถูกเปิดออกชีวิตจะอุดมไปด้วยโภคทรัพย์นานาประการมีความสุขดียิ่งขึ้นมากกว่าแต่ก่อน ### พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นเคล็ดขององค์ปฐมท่านดุจว่าขุมทรัพย์ทั้งสี่ทวีปเปิดรอเราอยู่แล้วอาศัยพระก้าวไกลนี้นำพาชีวิตเราย่างก้าวออกไปเพียงก้าวสั้นๆก็จะชนเข้ากับขุมทรัพย์และความสำเร็จประดามี

    องค์เหล็กไหลยอดฟ้าอิศโรภาส
    เมื่อกล่าวถึงเหล็กไหลนั้นย่อมจะต้องมุ่งเป้าไปที่ธาตุกายสิทธิ์ของพระเป็นเจ้า ด้วยเป็นของศักดิ์สิทธิ์ซึ่งคนธรรมดาไม่สามารถหาพบหรือนำมาไว้ในครอบครองได้เนื่องจากมีพรหม,เทพเจ้า,เจ้าป่า,เจ้าเขา,พญานาคหรือยักษ์คอยปกปักรักษาอยู่ และพร้อมจะเข้าทำร้ายผู้ที่เข้าไปรุกรานเพื่อหวังครอบครองธาตุกายสิทธิ์ด้วยกิเลสตัณหาอยู่ทุกเมื่อ หากคนผู้นั้นไม่ใช่คนดี มีบุญหรือมีวิชาอาคมที่แกร่งกล้ามากพอย่อมไม่สามารถเอาเหล็กไหลได้ อีกทั้งตัวเหล็กไหลก็มีฤทธิ์ขัดขืนคนที่จะเข้าไปตัดได้ด้วย ดั่งที่รู้กันว่าเคยมีคนเดินทางเข้าไปตัดเหล็กไหลโดยเอามือไปสัมผัสกับเหล็กไหลโดยตรงจากนั้นเกิดอาการคล้ายกับถูกฟ้าผ่าหรือถูกไฟฟ้าแรงสูงดูดเข้าหากเขาไม่ยินยอมและเราไปฝ่าฝืนด้วยกำลังหมายแย่งชิงเอาโดยพละการ มีความถือดีในพระเวทย์ก็อาจทำให้มีเพทภัยถึงแก่ชีวิตหรือเกิดความขัดแย้งในหมู่คณะถึงขั้นที่ว่าวิบัติได้ด้วยฤทธิ์ของเทพผู้รักษาเหล็กไหลนั่นเอง แต่คุณของเหล็กไหลนั้นก็ได้ชื่อว่ามีอิทธิฤทธฺ์สูงยิ่งนักผู้ที่ครอบครององค์เหล็กไว้ย่อมไม่มีอะไรที่จะสามารถทำร้ายบุคคลนั้นได้ นับได้ว่าใครที่ได้ครอบครองเหล็กไหลก็ถือเป็นความโชคดี เหนือสิ่งอื่นใดความสำเร็จในชีวิตก็จะพลันเกิดขึ้นโดยเทวานุภาพขององค์เหล็กไหลนั้นหนุนนำไปให้พบแต่ความเจริญงอกงาม พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาจะช่วยนำทางชีวิตให้พบแต่ความโชคดี ทั้งยังแคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายทั้งปวง
    องค์เหล็กไหลนั้นมีอานุภาพสูงแม้ไม่ได้รับการปลุกเสกใดๆก็มีความเป็นกายสิทธิ์คือสำเร็จในตัวและมีฤทธิ์ในตัว พ่ออาจารย์ท่านว่าหากได้บารมีองค์มหาเทพ(ครูพระสยม)มาชุบธาตุเสริมกำลังลงไปอีก องค์เหล็กนั้นย่อมมีฤทธิ์อย่างอุกฤษฎ์เป็นที่สุดสมกับนามธาตุกายสิทธิ์แห่งพระเป็นเจ้าอย่างแท้จริง เช่นนั้นองค์เหล็กไหลชุดนี้พ่ออาจารย์ท่านจึงได้ขอเมตตาครูพระสยมท่านทำให้เพื่อให้มีฤทธานุภาพอย่างถึงที่สุด
    กอปรกับองค์เหล็กนั้นมีสัณฐานดุจดั่งศิวลึงค์อันเนื่องมาจากพ่ออาจารย์ท่านตั้งใจจะขอบารมีครูบาอาจารย์ให้ปรากฏรูปออกมาโปรดเหล่าศิษย์ที่ยังเวียนว่ายเสวยทุกขเวทนาทั้งหลาย ด้วยศิวลึงค์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งพระผู้สร้างหรือการให้กำเนิดมีอานุภาพถึงขนาดว่าสามารถกระทำสิ่งสมมติให้เป็นความจริงขึ้นมาได้ ด้วยเชื่อถือกันว่าครูพระสยมนั้นคือเทพเจ้าแห่งการสร้างสรรค์และให้กำเนิดชีวิต ทั้งศิวลึงค์ยังเป็นตัวแทนครูพระสยม มีอานุภาพดลบันดาลปาฏิหาริย์และอำนวยพรแก่ผู้ครอบครองได้ แม้ผู้ใดได้อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นย่อมพิทักษ์รักษาชีวิตมิให้ต้องอันตรายทั้งปวง ทั้งยังเป็นเครื่องหมายแห่งอำนาจแลความสำเร็จซึ่งเป็นดั่งเกียรติยศสามารถนำพาความเจริญมาสู่ตัวเองตลอดจนครอบครัวและบริวารนับพันนับหมื่นได้อย่างน่าอัศจรรย์ ผู้ที่อาราธนาองค์ศิวลึงค์นั้นจะมีอำนาจมากเป็นที่เกรงขามแก่ชนทั่วไป แม้กระทำการแข่งขันหรือกระทำการค้าทำกิจใดๆที่มีคู่แข่งเราก็จะมีอำนาจอยู่เหนือผู้อื่นเสมอ เรียกว่าทำอะไรก็ได้กำไรมหาศาล นอกจากนั้นยังอาราธนาขอต่ออายุคนที่ใกล้สิ้นใจให้พอมีสติเอ่ยวาจาสั่งเสียได้ อาราธนารักษาโรคหรือความเจ็บไข้ที่มองไม่เห็นไม่รู้สาเหตุให้บรรเทาสูญหายได้ ทั้งป้องกันภูติผีปีศาจและไสยศาสตร์ทุกชนิดไม่ว่าจะสูงหรือต่ำ สามารถบันดาลให้พ้นจากความยากจน เมื่อสิ้นธาตุดับขันธ์ไปย่อมได้อยู่ในคณะของครูพระสยมไม่ตกลงสู่อบายภูมิ
    เมื่อองค์เหล็กไหลเกิดขึ้นในรูปศิวลึงค์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าเช่นนี้ย่อมเป็นกฤติยาคมแฝด เป็นไปโดยความประสงคร์และแรงครูอย่างแท้จริง ด้วยครูท่านตั้งใจจะประทานรูปศิวลึงค์นี้ให้แก่ผู้ที่มีวาสนาผูกพันธ์กันมาได้รับไปสักการะบูชาแทนตัวพระองค์ เป็นสัญลักษณ์แทนมหาเทพแทนตัวมหาเทวะทั้งหลาย เป็นสิ่งที่จะนำมาซึ่งความสุขและความสำเร็จอย่างงดงาม พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้าใครมีตาในแจ่มใสให้ลองดูกันได้เลย องค์ศิวลึงค์เห็นเล็กๆอยู่เพียงนี้ท่านมีดวงตามหาศาลถึงหนึ่งพันดวงปรากฏโดยรอบ เป็นดวงตาของครูพระสยมที่จะสอดส่องการมองเห็นออกไปในทุกทิศทาง เป็นดวงตาที่เกิดจากน้ำพระทัยและกำลังวิญญาณของพระองค์ท่านที่ได้มาสถิตย์เพื่อคุ้มครองและอำนวยพรให้กับผู้ที่ได้สักการะ ผู้ใดมีไว้บูชาย่อมถือว่าเป็นวาสนาและบุญลาภของบุคคลนั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าศิวลึงค์นี้มีสร้างขึ้นด้วยสิ่งของหลายชนิด แต่หากเป็นศิวลึงค์ธรรมชาติจะมีฤทธิ์มากเป็นที่สุด ยิ่งเป็นศิวลึงค์ที่เกิดจากธาตุกายสิทธิ์ด้วยแล้ว ท่านว่าย่อมมีพลังเหนือธรรมชาติ ใครจะได้ใครจะพบก็ให้เป็นเรื่องของวาสนาแล้วกัน

    *** เมื่อเหล็กไหลปรากฏรูปในสัญลักษณ์องค์ศิวลึงค์ เช่นนั้นผู้บูชาก็ให้ออกนาม ศิวะๆๆเรื่อยไป เพียงระลึกถึงครูพระสยมท่านก็ใช้ได้เป็นที่สุดเพราะท่านกลั่นธาตุปรากฏรูปออกมาเพื่อพวกเราแล้ว เราก็รู้ชื่อรู้นามองค์มหาเทพที่พิทักษ์รักษาองค์เหล็กแล้ว เพียงเราออกนามท่านขอแค่เอาไปขอเรื่องที่ดีเป็นมงคลอะไรๆที่เหลือมันก็ดีทั้งสิ้น

    นอกจากเหล็กไหลแล้ว องค์พระยังฝัง"ตะกรุดต่อวาสนา"ซึ่งเสด็จพระใหญ่ท่านให้สงวนวิธีสร้างเอาไว้ทุกอย่าง พ่ออาจารย์ท่านว่าแค่พระยันต์ด้านในก็ไม่มีภาษาใดๆที่มนุษย์ยุคไหนจะเข้าใจได้แล้วเพราะเป็นอักขระวิธีปฐมภูมิแรกเริ่มสังสารวัฎ แม้มีตะกรุดอยู่ที่ใดหรือกับบุคคลใดย่อมเจริญด้วยความรุ่งโรจน์ไม่หม่นหมองสืบไป ไม่รู้จักคำว่าตกต่ำอับจน แม้จะมีอุปสรรคหรือผู้คิดร้ายเบียดเบียนก็สามารถเอาชนะผ่านไปได้อย่างง่ายดาย เหมือนคนที่ไร้สิ้นซึ่งวาสนาแล้วก็ได้ต่อวาสนาออกไปให้ชนะ ให้สำเร็จ ให้เป็นคนเต็มคน..เหนือคน เจริญเติบโตงอกงาม

    พระนี้ท่านกำชับให้เอาไว้เร่งเอา..เอาความสำเร็จ เอาชัยชนะ เอาทุกอย่างที่อยากเอา ให้ก้าวไปถึงความดีงามความสำเร็จโดยผ่อนแรงเราให้น้อยที่สุด ให้มีชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเดิมด้วยพุทธานุภาพ ทั้งดับล้างความชั่วแลอวิชชาให้หมดไป เปิดเส้นทางของตัวเองให้เราสร้างสรรค์ชีวิตเราได้ด้วยตนเอง สร้างสิ่งที่เป็นประโยชน์เป็นมงคลแก่ชีวิตตนเองออกมาเรื่อยๆ ด้วยพระพุทธานุภาพนั้นจะได้รักษาให้ปราศจากเภทภัยใดๆมารบกวนกล้ำกราย เพราะเช่นนั้นจงทำชีวิตให้ดี เดินอยู่ในทางสว่างอย่าได้กลัวสิ่งใดๆเลย คนที่รอคอยโอกาส คอยจังหวะ หรือรอให้ชีวิตเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วท่านว่าก็สมควรแก่เวลาแล้ว ฉากและนาฎลีลาที่ชีวิตเราจะดำเนินและเกิดขึ้นมาใหม่นั้นย่อมอยู่ในจุดที่สูงขึ้นเรื่อยไปไม่ต่ำลงอีก

    พ่ออาจารย์ท่านว่ากฤติยาคมแฝดอย่างแท้จริงขององค์พระรุ่นนี้คือท่านตั้งใจจะรวมกำลังขององค์พระศาสดาและมหาเทพเข้าด้วยกันเพื่อประโยชน์ในการเกื้อกูลชีวิตผู้อาราธนาโดยตรง ให้ถือเป็นที่สุดแห่งธาตุ,แห่งธรรม..แห่งกำลังอย่างแท้จริง ท่านว่าเรื่องที่ดีงามก็ให้พระสนอง แม้เรื่องทางโลกที่พระไม่ยุ่งก็ให้องค์มหาเทพท่านสนอง ให้สองกำลังคอยหมุนเวียนเกื้อกูลซึ่งกันและกันคอยช่วยเหลือตัวเราอยู่เช่นนี้ เพื่อให้เราก้าวไปได้ไกลขึ้น ก้าวไปได้ไวขึ้น มีชีวิตที่สมบูรณ์ก่อนจะถึงกาลถึงเวลา ทั้งได้ใช้ชีวิตนั้นให้คุ้มกับที่เกิดมา

    คาถาบูชา
    สัมปะติจฉามิ (คาถาเร่งลาภให้ได้เร็วขึ้น ท่านให้ท่องแค่นี้ ท่านว่าทุกสิ่งที่จะได้แก่ชีวิตเราล้วนเป็นลาภทั้งสิ้นอยากได้อะไรก็นึกเอา เร่งเอา ให้หมั่นท่องแล้วจะได้เอาลาภผลต่างๆทั้งหลายเร็วทันใจ)

    *** พระสูญทุกข์พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้ทั้งหมดหกองค์ รวมกับท่านได้เลี่ยมใส่อาราธนาเองด้วยจึงมีให้บูชาทั้งหมดห้าองค์เท่านั้น รับจองเฉพาะทาง PM ผู้บูชานั้นให้แจ้งชื่อนามสกุลตลอดจนสิ่งที่ติดขัดไว้ด้วย ท่านจะบอกกล่าวองค์เหล็กไหลให้สงเคราะห์เป็นกรณีพิเศษ รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างวิหารทานสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระสูญทุกข์สามก้าวเหยียบสวรรค์พยุงโผนโจนข้ามวัฏสงสาร (ฝังองค์เหล็กอิศโรภาส) บูชา 4,000 บาท

    66838578-2575986182462442-2720293364569210880-n.jpg 66577176-2499079203649373-3119959965750525952-n.jpg
    64885994-359202688098883-1379958552524750848-n.jpg
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    พระรุ่นนี้ผมจองไว้องค์นึงเหมือนกัน เพราะไม่บ่อยหรือแทบจะไม่มีเลยที่พ่ออาจารย์ท่านจะเอาองค์เหล็กออกมาให้ใครบูชาง่ายๆ ท่านว่าของเหล่านี้เป็นของที่มีบุญสัมพันธ์ มีวาสนากับคนบางคนโดยเฉพาะ หากไม่ใช่เจ้าของก็ดลใจให้พลาดไปเอง
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    วันนี้กินเจทำบุญทั้งวันเดี๋ยวจะมาทยอยตอบ PM ให้นะครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    เมื่อวานก็มีมาเล่าว่าได้ออกต่างจังหวักและแคล้วคลาดอุบัติเหตุมาอย่างน่าใจหายเพราะพึ่งบารมีเครื่องมงคลตอนนึกอะไรไม่ออกแล้วจริงๆ ช่วงนี้ใครจะขับรถจะไปไหนก็ระวังตัวกันนะครับ ค่อยๆขับอย่าทำความเร็วสูงมาก คุณพระคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์นั้นถ้าไม่ต้องพึ่งก็จะดีที่สุด ที่พูดเช่นนี้เเพราะอยากให้พึ่งสติของตัวเองค่อยๆไปขับกันแบบระมัดระวังเรื่องหวาดเสียวและเหตุการณ์สูญเสียจะได้ไม่เกิดขึ้น
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ที่แจ้งโอนไว้พรุ่งนี้ส่งให้นะครับ
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    สร้างพลังใจยามท้อแท้

    คนเราทุกวันนี้มีปัญหามากมายรุมเร้าชีวิต ไม่ว่าจะเรื่องงาน ครอบครัว หรือสภาพสังคม บางปัญหาทำให้เราทุกข์ใจ กลุ้มใจ เครียด วิตกกังวล บางปัญหาทำให้ท้อแท้ เศร้า เสียใจ หดหู่ สิ้นหวัง หมดหวัง อยากทำร้ายตัวเอง หรืออยากฆ่าตัวตาย ยิ่งมาโดนภาวะวิกฤตเศรษฐกิจซ้ำเข้าไปอีก ตกงาน รายได้ลดลง รายจ่ายเพิ่มขึ้น สินค้าของกินของใช้แพงขึ้น หนี้สินผ่อนไม่ได้ จะถูกยึดหรือถูกยึดไปแล้ว ฯลฯ อย่างนี้มันก็ต้องท้อกันบ้างล่ะ..ไม่ใช่เทวดานี่ครับ

    บทพิสูจน์ความท้อ

    ที่น่าแปลกก็คือ บางคนท้อแล้วไม่ไม่รู้สึกตัวว่ากำลังท้อแท้อยู่หรือเปล่า รู้แต่ว่ามันหงุดหงิดไม่มีความสุข ถ้าคุณพ่อคุณแม่ทั้งหลายกำลังข้องใจตัวเองอยู่ ลองดูครับว่าเรามีอาการต่อไปนี้บ้างหรือเปล่า

    ....อยู่ไม่เป็นสุข รู้สึกไม่สบายใจ ขี้หงุดหงิด

    ....ชอบตำหนิลงโทษตัวเอง

    ....เวลาดูตลกคาเฟ่เคยขำกลิ้ง ตอนนี้ชักตลกไม่ออก

    ....ชอบตำหนิลงโทษตัวเอง

    ....รู้สึกอันตัวเรานี้ช่างไร้ค่า ไร้ความหมาย

    ....กินไม่ได้ นอนไม่หลับหรือไม่อีกทีก็กินแหลก หลับอุตุทั้งวัน

    ....ไม่มีสมาธิ อ่านหนังสือแค่หน้าเดียวก็ทำไม่ด้าย

    ....กะอีแค่จะไปซื้อทิชชูม้วนเดียว ตัดสินใจไม่ได้ คิดแล้วคิดอีก คิดเป็นวัน

    ....ไม่มีเรี่ยวมีแรง แค่ลุกไปแปรงฟันก็หมดพลังแล้ว

    ....ไม่กินข้าว ไม่อาบน้ำ น้ำหนักลด

    ....คิดอยากฆ่าตัวตาย (ไอ๊หยา!)

    ถ้าลองกากบาทดูแล้ว ได้แค่ 3 คะแนนก็พอไปไหว แต่ถ้าเกินห้าขึ้นไป และส่งผลถึงกับทำให้เราใช้ชีวิตส่วนตัว กิจวัตรประจำวันขาดตกบกพร่อง มานั่งลงตรงนี้ จับเข่าคุยกันหน่อย เราต้องช่วยกันแล้วล่ะว่าจะฝ่าความท้อไปได้อย่างไร

    ตัวเองสำคัญที่สุด

    สาเหตุของอาการท้อแท้นั้นจะมาจากสาเหตุภายในและภายนอก ซึ่งบางสาเหตุเราก็แก้ได้ บางสาเหตุก็แก้ไม่ได้ เพราะต้องขึ้นอยู่กับบุคลลหรือสถานการ์อื่นๆ ด้วย แต่เหตุที่เราแก้ได้แน่ๆ ได้แก่ สิ่งที่ต้องการการลงมือแก้ปัญหาด้วยตัวเราเอง และอาจต้องการการแก้ปัญหาด้วยวิธีใหม่ การปรับเปลี่ยนความคาดหวัง หรือนิสัยตัวเราเอง การสร้างพลังใจด้วยตัวของเราเอง การทำกิจกรรมต่างๆ เพื่อดึงตัวเองออกจากบรรยากาศแห่งความท้อแท้ เป็นต้น

    เราจะต้องรู้ว่าในที่สุดแล้ว เราคือเจ้าของปัญหา เราจะต้องลุกขึ้นยืนบนขาของเราเอง คนอื่นอาจจะช่วยประคองหรือช่วยชี้ทางได้ แต่เราต้องเดินเอง เพราะหากเราไม่รู้ว่าเราต้องยืนบนขาตัวเอง ก้าวท้าวออกด้วยตัวเอง เราจะไม่ลุก ไม่สร้างพลังเสียที นั่นแหละครับ แม้จะมีเชือกห้อยลงมาให้เราในหุบเหวแห่งความท้อแท้ เราก็จะไม่ไปจับเชือกและปีนขึ้นไป ยังคงนอนจมอยู่กับอารมณ์เศร้าที่ก้นเหวนั่นเอง

    สู่ยอดเขาแห่งความเข้มแข็งด้วยตัวเอง

    * มองอุปสรรคขวากหนามต่างๆ เป็นเครื่องมือในการพัฒนาตัวเราตลอดเวลา รู้สึกเป็นธรรมดาที่เจออุปสรรค รู้สึกสนุกที่เจอเหตุการณ์ยากในชีวิต เพราะทำให้เราแข็งแกร่งขึ้นทุกที เรียนรู้ให้ฉลาดขึ้นทุกๆ ครั้ง บางครั้งเราอาจล้มบ้าง แต่ไม่อาจทำให้เราหยุดลงได้ เพราะเรายังมีเป้าหมายใหญ่คือ การขึ้นไปสู่จุดที่เรารู้สึกว่าเราได้ชัยชนะ นั่นคือชนะความอ่อนแอในตัวเรา เป็นชัยชนะที่เราภาคภูมิใจได้อย่างเต็มเปี่ยม

    * ไม่เปรียบเทียบกับคนอื่น เพราะจะทำให้ท้อแท้ได้ง่ายๆ เมื่อพบว่าตัวเราไม่ดีเท่าเขา แต่หากมองการชนะตัวเราเองเป็นความสำเร็จ นั่นแหละคือความสำเร็จที่แท้จริง

    * ไม่มองคนอื่นเป็นศัตรู เพราะเราจะเสียเวลามาคอยต่อกรกับคนที่คิดว่าเป็นศัตรูโดยไม่จำเป็น ในที่สุดก็บาดเจ็บทั้งคู่ ไปไม่ถึงจุดหมายทั้งสองฝ่าย เราควรจะแก้ปัญหาอย่างเหมาะสม พยายามหลีกเลี่ยงดีกว่าการไปต่อสู้ให้เจ็บเนื้อเจ็บตัวและเสียเวลา

    * จะต้องเกิดกำลังใจ พลังใจ ความสุข ความอิ่มใจ ความพอใจในทุกก้าวย่างที่เดินไป เพราะหากไปรอกำลังใจเกิดขึ้นเมื่อเราถึงจุดหมายแล้วเท่านั้น เราจะรู้สึกว่าไกลเหลือเกิน จะท้อแท้ขึ้นมาอีกได้

    * ต้องตระหนักว่า ความสำเร็จไม่ได้อยู่ที่ก้าวสุดท้ายที่ขึ้นถึงยอดเขา เพราะก้าวสุดท้ายจะเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้าไม่มีก้าวแรกๆ และความคล่องแคล่ว ว่องไว ความแข็งแกร่งของก้าวหลังๆ ก็มาจากประสบการณ์ความล้มเหลว และการต่อสู้ของก้าวแรกๆ การหกล้มก็ทำให้เรียนรู้ว่าจะลุกอย่างไร เพื่อไม่ให้ล้มอีก หากได้สร้างพลังใจสะสมได้ในทุกๆ ก้าวเราย่อมจะพ้นจากหุบเหวแห่งความท้อแท้แน่นอน

    สร้างพลังใจยามท้อแท้

    * พยายามมองให้เห็นภาพที่ตัวเองลุกขึ้นมาอย่างเข้มแข็ง

    * ทำร่างกายให้แข็งแรง กระฉับกระเฉง เพราะยามท้อแท้เรามักจะหมดแรง ทำอะไรช้าไปหมด ยิ่งช้าก็ยิ่งไม่อยากทำ บางครั้งการหลอกตัวเองเป็นกระฉับกระเฉง ช่วยทำให้จิตใจสดชื่นขึ้นได้ รวมถึงการออกกำลังกาย การทำกายบริหาร ยืดเส้นยืดสายกล้ามเนื้อที่เครียด หรือการบีบนวดตนเอง (ไม่ใช่ไปบริการหมอนวดนะครับ เพราะเสียเงินทองแล้วจะเครียดกันใหญ่)

    * พยายามมองสิ่งต่างๆ ให้เห็นทั้งแง่ลบและบวก เพราะหากเห็นแต่แง่ลบของคนอื่นจะทำให้รู้สึกหงุดหงิด เห็นแง่ลบของตนเองจะทำให้รู้สึกท้อแท้ จึงควรมองแต่แง่บวก แม้ผู้อื่นและตัวเราเองจะมีสิ่งบกพร่อง แต่ก็มีสิ่งดีๆ อยู่ ไม่น้อยเช่นกัน

    * มีอารมณ์ขัน โดยคิดอะไรในแง่ตลกเสียบ้าง

    * พยายามฝึกปัญญาของเราให้มาก เรียนรู้สิ่งต่างๆ ให้มากขึ้นเรื่อยๆ อย่าหยุดเรียนรู้ อย่าคิดว่าตนเองเก่งแล้ว ถูกทุกอย่าง เพราะถ้าคิดเช่นนั้นเราจะหยุดพัฒนาตนเอง มองทุกอย่างให้เห็นความเป็นจริง มองให้เห็นเหตุปัจจัย เงื่อนไขของเรื่องราวทุกอย่าง เมื่อเราเข้าใจก็จะแก้ไขได้ถูกต้อง

    อยากจะฝากส่งท้ายไว้ว่า เราจะมองเห็นแสงสว่างได้นั้นต้องออกแรงยกเปลือกตาของเราเองนะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่วุฒิชัย ED 8363 1302 0 TH

    พี่เมธี ED 8363 1303 3 TH

    พี่ศิระ ED 8363 1304 7 TH

    พี่สุทธิธรรม ED 8363 1305 5 TH

    พี่ณธพรหม ED 8363 1306 4 TH

    พี่กฤตยชญ์ ED 8363 1307 8 TH
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ช่วงนี้มีปรึกษาเรื่องเก็บเงินไม่อยู่กันเยอะ เห็นวันนี้ทองขึ้นราคาคนที่เก็งกำไรไว้ก็ถามๆบอกๆว่าขายออกกันหลายคนได้กำไรกันถ้วนหน้าเลย วันนี้ใครจะฝากคำถามก็ PM ไว้นะครับ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS
    พี่ศิระ ED 8363 1443 6 TH

    พี่กีรติศักดิ์ ED 8363 1444 0 TH
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวมาติดตามพูดคุยกันเรื่องของที่มีพลังพิเศษบางอย่างที่ใช้ในการคุมขังได้...แม้กระทั่งเทพเจ้า พอดีมีคนนิมิตเห็นแล้วพี่ท่านนี้ก็สอบถามเข้ามาก็เลยเห็นเป็นจังหวะที่จะได้ยกมาพูดกัน แรกเราก็จะงงว่าเอ๊ะเทพทำผิดอะไรต้องไปขังเขาทำไม เอาจริงๆแล้วกลับกลายเป็นว่าสามารถทำอะไรได้มากกว่านั้นเยอะ
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธาพันธ์ ED 8363 2428 8 TH
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้เดี๋ยวจะเกริ่นถึงเครื่องรางบางอย่าง ที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างเอาไว้เพื่อจุดประสงค์ใหญ่นั่นก็คือเอาไว้ใช้ขัดเกลาตัวเองเพิ่มความสามารถในทุกด้านที่ขาดหายไป
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    8,117
    ค่าพลัง:
    +16,626
    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยอดชีวิตลิขิตขัดเกลาวาสนามหาโพธิ์เจดีย์ขังมารหลิงหลง(พุทธศาสตรา)

    " ให้เอาไว้ใช้ขัดเกลาตัวเองเพิ่มความสามารถในทุกด้านที่ขาดหายไป "


    องค์เจดีย์นั้นโดยปกติก็เป็นสถานที่สำคัญอันบุคคลเคารพนับถือและกระทำสักการะบูชามาทุกยุคทุกสมัย นอกจากนั้นยังมีธรรมเจดีย์ที่ใช้จารึกพระธรรมคำสอนในองค์พระศาสดาด้วย สืบเนื่องจากทรงมีพุทธดำรัสก่อนพุทธปรินิพพานว่า พระธรรมวินัยจักเป็นศาสดาแทนพระองค์จึงเกิดมีการคิดจารึกพระธรรมลงบนวัตถุในองค์เจดีย์แล้วนำมาบูชาแทนพระธรรม ด้วยสถานที่อันมีพระเจดีย์ต่างๆประดิษฐานตั้งอยู่นั้นจะเป็นสัญลักษณ์บ่งบอกความเจริญในพระพุทธศาสนา ยิ่งพื้นที่หรือภูมิภาคใดปรากฏมีพระเจดีย์อยู่มากก็แสดงว่ามีความเจริญและเข้าถึงศรัทธาแห่งมหาชนทุกหมู่เหล่ามากเป็นเงาตามตัวแล้ว พระเจดีย์ยังช่วยสร้างพลังแห่งความสุข ความสงบอันนำมาซึ่งสันติ ทั้งยังขจัดและสลายอารมณ์ร้ายทั้งหลายซึ่งเกิดจากความโกรธหรือความริษยาใดๆก็ดีให้จิตใจผ่องใสเบิกบาน

    เสด็จพระใหญ่นั้นท่านให้พ่ออาจารย์สร้างพระเจดีย์หรือที่ท่านเรียกว่า "มงคลยอดชีวิตลิขิตขัดเกลาวาสนามหาโพธิ์เจดีย์ขังมารหลิงหลง" เอาไว้เป็นการเฉพาะด้วยศาสตร์ลี้ลับ ท่านว่าเจดีย์นี้คือตัวแทนขององค์ธรรมราชอันจะประดิษฐานอยู่ภายในเปรียบดั่งเสาหลักอันเป็นแกนของมหาจักรวาล ซึ่งเป็นที่อาศัยของพลังงานและสิงสถิตย์ของทวยเทพทั้งหลาย มหาโพธิเจดีย์นี้เป็นรูปย่อของสัดส่วนจักรวาลซึ่งจะใช้ในการแผ่ขยายพลังงาน โดยอาศัยการสร้างพลังงานซึ่งดึงกระแสขึ้นมาจากพื้นโลก(ปฐพี)และอากาศ(นภา)ให้มาบรรจบกันในพระเจดีย์ที่เป็นดั่งแกนกลางเสาหลักแห่งจักรวาลหรือจะเรียกว่าเป็นดั่งจุดศูนย์รวมพลังงานก็ได้ มหาโพธิ์เจดีย์นั้นเมื่อตั้งบูชาอยู่ที่ใดก็เป็นดั่งศูนย์รวมพลังงานแห่งพุทธะ,โพธิสัตว์แลเทวะทั้งหลาย ยู่ในที่ใดก็เป็นสิริมงคลแก่สถานที่นั้นองค์โพธิ์เจดีย์นั้นย่อมสามารถแผ่พลังงานสร้างสรรค์ค้ำจุนสถานที่ซึ่งเราเลือกจะตั้งไว้ได้ แม้อยู่ติดตัวใครก็เป็นวาสนาของบุคคลนั้นด้วยองค์โพธิ์เจดีย์จะช่วยให้บุคคลผู้ปรารถนาความสงบในจิตใจ หรือบุคคลที่เจ็บป่วย ชีวิตขาดบางสิ่งบางอย่างเกื้อหนุน ชีวิตไม่ประสบความสำเร็จ ท่านว่าองค์เจดีย์นั้นจะเติมเต็มสิ่งที่เรียกว่าพลังงานชีวิตเพื่อฟื้นฟูและเยียวยาเราทุกสิ่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานทางใจหรือสิ่งที่จำเป็นต้องแสดงออกทางกายภาพก็ดี พ่ออาจารย์ท่านว่าปกติเครื่องมงคลนั้นจะใช้ส่งเสริมกำลังใจ แต่ในบางกรณีกำลังใจอย่างเดียวมันก็ไม่พอ มันต้องแก้ที่กายภาพด้วยจึงจะได้รู้ได้เห็น นั่นคือการเปลี่ยนแปลงที่มากกว่าคำว่าสัมผัสได้ด้วยใจหากแต่เป็นรู้สึกได้ทั้งกายทั้งใจเขาจะฟื้นฟูเยียวยาชีวิตเราขึ้นมาเช่นนั้น

    เสด็จพระใหญ่ท่านกำหนดรูปแบบและกำหนดพระยันต์บังคับที่พ่ออาจารย์ท่านจะใช้หุงธาตุกายสิทธิ์และเทหล่อหลอมออกมา ด้วยองค์เจดีย์นี้พ่ออาจารย์ท่านสร้างตามศาสตร์สมเด็จองค์ปฐม ด้วยตั้งใจจะให้เอาไว้ใช้ขัดเกลาตัวเองเพิ่มความสามารถในทุกด้านที่ขาดหายไป จะช่วยนำโชคให้แก่ผู้ที่กำลังพยายามใช้ความเพียรเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์,ใช้แรง,ใช้ความคิด,ใช้การกระทำนำความสำเร็จมาสู่ตนเอง จะช่วยนำโชค นำชื่อเสียง นำความก้าวหน้าในกิจที่ทำอยู่มาให้เป็นขั้นเป็นระบบ พ่ออาจารย์ท่านว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเขาขัดเกลาเราให้เราเป็นยอดเป็นตัวตนที่สูงส่งที่สุด ฟื้นฟูและเติมเต็มสิ่งที่ขาดหายในตัวเรา ท่านว่าจะให้มานั่งบอกเป็นข้อๆมันก็ทำไม่ได้ นั่นก็เพราะสิ่งที่ขาดของคนแต่ละคนนั้นไม่เท่ากัน ทั้งยังไม่ใช่เรื่องเดียวกัน ชื่อเสียงแต่ละด้านก็ไม่เหมือนกัน ความสำเร็จก็แตกต่างกัน แต่ให้เข้าใจโดยรวมไว้ว่ามันคือการพัฒนา การฟื้นฟูและเยียวยาให้เราเป็นคนที่ประสบความสำเร็จเต็มคนเช่นนั้น นอกจากจะฟื้นฟูเราแบบเร่งด่วนแล้วองค์เจดีย์นั้นยังขจัดพลังชั่วร้ายทั้งในตัวเราและพลังมารที่อยู่รอบตัวของเราด้วย ให้อารมณ์เราเสถียรปราศจากความโกรธความริษยา ให้เรามีสุขภาพที่ดี มีกายและใจที่เกื้อหนุนนำมาซึ่งความสำเร็จในสิ่งที่คิดจะทำ เขาช่วยได้แม้กระทั่งแก้ไขอาการเจ็บป่วยหรือขับไล่วิญญาณร้ายทั้งหลาย ฟื้นฟูกลั่นกรองร่างกายเราเปิดใช้งานโชคในตัวของเราเพื่อนำมาซึ่งโชคลาภบรรดามี พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่ท่านตั้งใจจะให้เครื่องมงคลนี้เป็นขวัญกำลังใจแก่คนที่ไร้วาสนา ท่านว่า"ต่อไปพวกเขาจะได้ออกแบบชีวิตได้ด้วยตัวเขาเอง"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์มหาเจดีย์นั้นเป็นยอดเป็นสิ่งที่สูงเปรียบดั่งยอดเขาพระสุเมรุคือสูงที่สุดในจักรวาล คนที่ถือครองย่อมต้องเป็นยอดคน เป็นยอดกว่าใครทั้งหลายในทุกๆเรื่อง ด้วยเป็นพุทธศาสตราชนิดที่มีญาณมีความรู้สึกและจิตสำนึกเป็นของตัวเองเมื่อเราได้อาราธนา เขาจะสะท้อนลักษณะและสังเคราะห์ตัวของเรา เขาจะโฟกัสความคิดความต้องการของเรา ช่วยจัดระเบียบความคิดให้เราเพ่งเล็งเฉพาะกิจที่เราจะทำไม่วอกแวกหรือออกนอกลู่นอกทางมีอันเป็นไปต่างๆก่อนจะประสบความสำเร็จ พ่ออาจารย์ท่านว่าเขาและเราจะจดจ่ออยู่กับความตั้งใจที่เราจะทำอะไรๆจนเสร็จไปเป็นเรื่องๆ เรียกว่าบังคับจิตใจเราให้จดจ่อกับงานกับสิ่งที่เป็นประโยชน์กับชีวิตขจัดสิ่งที่จะมารบกวนรอบตัวเรา หรือรบกวนระหว่างเราตั้งใจและออกแรงพุ่งเข้าสู่เส้นชัยชีวิตออกไป พ่ออาจารย์ท่านว่าชีวิตคนนั้นถ้าลองจะทำอะไรแล้วมีสิ่งรบกวนเยอะๆก็จะประวิงเวลาให้ช้าลง บางคนเลวร้ายหน่อยก็ต้องเก็บพักยกเลิกไปเลยก็มี นั่นคือสิ่งรบกวนนั้นนำเราออกจากความตั้งใจหรือบั่นทอนกำลังใจเราไปหมดแล้ว องค์เจดีย์ที่เป็นญาณศาสตรานี้เพื่อจะทำให้เราพุ่งเป้าเข้าสู่ความสำเร็จได้เขาก็ต้องจัดระเบียบกับสิ่งที่คอยรบกวนเราได้ เพราะสิ่งรบกวนทั้งหลายนั้นมักจะนำมาซึ่งความสูญเสีย ทำให้เกิดเรื่องเสียหายเสียเงินเสียทองเสียอวัยวะหรือแม้แต่เสียชีวิต เป็นอุบัติเหตุที่จะชะลอเราให้หยุดการพัฒนาตนเอง นอกจากนั้นองค์เจดีย์ยังขัดเกลาฟื้นฟูภูมิปัญญาของเราด้วย จะเห็นได้ว่าเมื่ออาราธนานั้นจิตใจจะปลอดโปร่งความคิดแจ่มใสหรือสมองจะแล่นแต่เหนือไปกว่านั้นคือเขาพัฒนาภูมิปัญญาของเราให้สมบูรณ์แบบที่สุด ให้เราเห็นในมุมมองในโลกทัศน์ที่เราไม่เคยเห็น ให้ความคิดอ่านเราเฉียบแหลมมากขึ้น ให้เห็นตามจริงในสัจธรรมและสิ่งที่ควรจะเป็นแบบนั้นจริงๆ ไม่ใช่เรานึกคิดนึกฝันไปเอง

    นอกจากนั้นเจดีย์นี้ยังได้ชื่อว่าเจดีย์ขังมารเพราะสามารถใช้กักขังวิญญาณภูติผีปีศาจหรือขังได้แม้แต่เทพเจ้า ท่านว่าองค์เจดีย์นั้นแต่ละชั้นจะมีสิ่งศักดิ์สิทธิ์สถิตย์อยู่ทุกชั้นนับตั้งแต่มังกรทองตลอดจนเทพและโพธิสัตว์ทั้งหลายคอยควบคุมองค์เจดีย์ทั้งเจ็ดชั้นอยู่ทุกๆชั้น พ่ออาจารย์ท่านว่าเจดีย์นี้มีพลังน่าอัศจรรย์เพราะว่าสามารถใช้กักขังจิตวิญญาณศัตรูได้ ท่านว่าถ้ามีใครมาให้ร้ายหรือใส่ร้ายเราเป็นคู่แข่งที่เราเอาชนะไม่ได้ก็ให้อธิษฐานใช้เจดีย์ครอบเขาไว้ จะได้คุมขังวาสนาของเขาเอาไว้ก่อนเพื่อให้เราไม่ได้รับอันตรายหรือให้เราเอาชัยเขาเช่นนี้ก็ได้ แต่ถ้าหากใช้เป็นจริงๆแล้วเจดีย์ขังมารนี้เสด็จพระใหญ่ท่านทำให้เป็นพุทธศาสตราระดับสูงจริงๆ เพราะว่านอกจากขังแล้วยังใช้ทรมานขัดเกลาด้วยเพลิงประลัยกัลป์ก็ยังได้ ท่านว่าแต่ละชั้นก็มีทั้งไฟกรดน้ำกรดและโทษทัณฑ์ต่างๆมากมาย แต่พ่ออาจารย์ท่านว่าเฉพาะคนตาดีเท่านั้นถึงจะเห็น และท่านก็ไม่ได้ตั้งใจสร้างเพื่อเอาไว้ให้ใช้ทำร้ายใคร ท่านตั้งใจจะให้ใช้เพื่อทำชีวิตให้เจริญเท่านั้น ให้ใช้คุ้มครองพลังด้านลบ ยกตัวเราพ้นจากความทุกข์ทรมาน ให้คุ้มครองให้พ้นจากโรคจากการเจ็บไข้ได้ป่วย ให้คุ้มครองในกิจที่เราทำ ในการลงทุนที่ชีวิตเรามีความเสี่ยงต่อการล้มเหลว กระตุ้นให้มีผู้เกื้อกูลมีคนสนับสนุน กระตุ้นโชค กระตุ้นการตื่นรู้ เพื่อจะเปลี่ยนเราให้มีความสำเร็จอันยิ่งใหญ่เหนือนคนทั้งแผ่นดิน

    พ่ออาจารย์ท่านเปรียบองค์เจดีย์นั้นเป็นสัญลักษณ์แห่งความเจริญรุ่งเรือง เมื่อไปปรากฏเกื้อกูลแก่ชีวิตใคร ชีวิตเขาต้องตกอยู่ภายใต้ความเจริญรุ่งเรืองนี้ ด้วยพระพุทธานุภาพดุจชีวิตเขาได้อยู่ใกล้พระบรมศาสดาในกาลทุกเมื่อ ไม่ว่าจะเจริญรุ่งเรืองในลาภยศทรัพย์สินศฤงคารและจตุปัจจัยจะเลื่อนขั้นเลื่อนตำแหน่งเลื่อนระดับความสำเร็จของชีวิตตัวเองให้สูงขึ้นไปเรื่อยๆไม่หยุดนิ่ง มีสติปัญญาที่เปิดกว้าง มีไหวพริบปฏิภาณ ง่ายต่อการศึกษาและเรียนรู้สิ่งใหม่ๆให้เข้าใจอย่างถ่องแท้ องค์ความรู้ที่ติดขัดที่ไม่เป็นระเบียบและยังไม่เข้าใจตลอดจนสิ่งที่หาสาเหตุไม่ได้หาความสำเร็จไม่เจอจะค่อยๆเปิดโล่งเผยให้เราได้รู้ได้เห็น พ่ออาจารย์ท่านว่าองค์เจดีย์นี้เป็นของสูงถ้าจะตั้งบูชาก็ให้ใส่พานวางไว้ในจุดที่สูงที่สุด ยิ่งสูงเท่าไหร่ชีวิตเราก็สูงขึ้นมากตามไปด้วยเช่นนั้น แต่หากจะอาราธนาไว้กับตัวแล้วก็ให้ใส่คอบูชาเอาไว้ห้ามพกต่ำเขาจะได้ขัดเกลาศักยภาพในตัวเราให้เด่นชัดขึ้นไปเรื่อยๆ เอาว่าอย่าไว้ต่ำยิ่งสูงเท่าไหร่ก้ยิ่งดีแก่ตนเองมากขึ้นเท่านั้น จะทำให้ชีวิตเจริญขึ้น หน้าที่การงานก้าวหน้าและก้าวไปได้ไกลมากขึ้นกว่าที่เราคิดหรือมองเห็นได้ ท่านว่าเจดีย์นี้จะหนุนให้เราโตไปเรื่อยๆ..โตแล้วก็ยังโตต่อไปได้อีกเป็นลำดับขั้น ไม่ใช่หยุดที่คำว่าโตขึ้นเท่านั้น

    พ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่าการที่จะสร้างเครื่องมงคลออกมาเป็นรูปเจดีย์นั้นแน่นอนว่าเคื่องมงคลนั้นต้องเป็นสิ่งที่สูงมากๆ แม้อาราธนาก็ให้ไว้ในที่สูง แม้วางก็ให้วางใส่พานไว้ในที่สูงเช่นนั้นเพราะถือว่าเป็นของสูง ท่านว่าถ้าได้อาราธนาติดตัวเขาจึงความโดดเด่นในตัวเราออกมาเพื่อให้ส่งผลดีต่ออาชีพการงานทั้งนั้น ทั้งยังขจัดปัดเป่าสิ่งเลวร้ายออกไปพร้อมกันด้วยการเดินปราณของตัวเขาเอง คนที่ชีวิตลำบาก ### ท่านว่าเขาจะรู้สึกตัวได้ว่าเขาลำบาก ใช้ชีวิตยากกว่าคนอื่นที่ทำอะไรง่ายๆก็ได้ผลดีแล้ว นั่นคือชีวิตเขาขาดพลังหนุนส่ง พลังชีวิตของเขาไม่เพียงพอกับวาสนาหรือสิ่งที่เขากำลังทำอยู่ เพราะเขาต้องการพลังงานที่เยอะกว่าคนอื่นองค์เจดีย์นั้นก็จะเสริมธาตุปรับพลังให้เขาได้ใช้พลังงานที่สมควรแก่กิจที่ทำไม่ขาดไม่เกิน แม้เราจะมองไม่เห็น แต่เราจะรู้สึกได้ว่าเขาส่งผ่านพลังงานเข้ามาในตัวของเราตลอดเวลา ยิ่งผู้ที่ต้องแข่งขันหรือมีลูกน้องให้ควบคุม ท่านว่าพูดง่ายๆคือต้องทำงานอยู่กับคนหมู่มากเขาก็จะล้างอาถรรพ์ต่างๆในชีวิตให้ แม้ใส่พานตั้งไว้ในสถานที่ใด หากเป็นสถานที่ที่มีพลังงานกดดันผู้อยู่อาศัยหรือข่มเราไว้ไม่ให้เราเจริญรุ่งเรืององค์เจดีย์ท่านก็จะล้างอาถรรพ์ทั้งหลายเหล่านี้ พ่ออาจารย์ท่านว่าหากเอามาแช่น้ำอาราธนาปลดปล่อยตัวเองก็ดีหรือที่อยู่อาศัยที่ต้องอาถรรพ์ต่างๆก็ดีท่านว่าใช้ขับล้างได้ทั้งหมด ชีวิตและสถานที่นั้นจะถูกเติมเต็มให้สมบูรณ์ด้วยพลังงานนำไปสู่ความเจริญรุ่งเรืองต่อไป ท่านว่าใช้ได้หมดเหมือนห้อยพระแต่มีข้อห้ามอย่างเดียวคือห้ามหาย ท่านว่าองค์เจดีย์นี้มีอานุภาพมากต่อให้ทำหักครึ่งไปแล้วก็ยังใส่พานอาราธนาใช้ได้เหมือนเดิม

    ด้านหลัง องค์พระเจดีย์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าโดยปกติแล้วย่อมเป็นที่ประดิษฐานพระบรมธาตุทั้งหลาย เสด็จพระใหญ่ท่านจึงให้พ่ออาจารย์ท่านนำพระธาตุเสด็จหรือพระธาตุที่มีอิทธิฤทธิ์อันจะจรไปได้ในอากาศที่ท่านทำการอัญเชิญมาบูชาไว้ อันเป็นพระธาตุของพระพุทธองค์และองค์อรหันต์ทั้งหลายที่พ่ออาจารย์ท่านบูชาไว้นับได้ร้อยแปดองค์ ท่านให้ขออนุญาตินำองค์พระธาตุนั้นมาพลีทำผงผสมเข้ากับผงจักรพรรดิ์และผงพุทธคุณทุกสูตร ปั้นเป็นเม็ดเพื่ออุดไว้หลังพระเจดีย์ ดุจว่าพระเจดีย์นี้ได้ประดิษฐานไว้แล้วซึ่งพระมหาธาตุทั้งหลายมีพลังพระพุทธคุณที่ได้อาราธนาบรรจุไว้เต็มกำลังพุทธภูมิแล้วอันชนจะได้กระทำสักการบูชาสาธุการเพื่อเป็นสิริมงคลชีวิตสืบต่อไป

    มหาโพธิ์เจดีย์นั้นมีพลังที่จะใช้แก้เคล็ดยามชีวิตเราจนมุมมได้เสมอ
    ##วิธีบูชา
    ท่านให้เอาเส้นผมของตัวเองติดไว้กับพระเจดีย์ เพื่อองค์เจดีย์นั้นจะได้สื่อเข้ากับปราณของเราและขังพลังงานตลอดจนสิ่งเลวร้ายทั้งหลายที่ก่อให้เกิดผลด้านลบกับชีวิตเราหรือเล่นตลกกับเราอยู่ไม่ว่าจะเกิดด้วยอานุภาพของเทวดาหรือเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณและภูติผีอสูรกายใดๆก็ดีก็จะพ่ายแพ้หนีหายพ้นร่างเราไปทั้งสิ้น(ท่านว่านี่ถ้าไม่หนีย่อมโดนขังอย่างเดียวเลยนะ) ถ้าจะแก้อาถรรพ์สถานที่อยู่โดยถาวรณ์ก็ให้นำดินในสถานที่นั้นมาปั้นเป็นเม็ดกลมๆเล็กๆแล้วเอาพระเจดีย์ทับไว้ก็ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าจะลบพลังร้ายทั้งหลายในบริเวณนั้นทั้งดูดกลืนมาขังไว้ในองค์พระเจดีย์ พ่อาจารย์ท่านว่าพระเจดีย์นี้ใช้ข่มอิทธิพลลบทั้งหลายได้หมดทั้งสิ้นไม่ว่าจะของมนุษย์,ภูติผี,เทพ,พรหม,หรือแม้แต่อิทธิพลจากดวงดาว อให้เป็นเรื่องที่จะนำเคราะห์ร้ายมาให้เราเขาจะข่มและดูดกลืนไว้เพราะเขาเป็นญาณวัตถุที่จะแล่นไปกระทำสิ่งต่างๆได้ด้วยตัวเองไม่ใช่ว่าต้องรอเราอาราธนาอย่างเดียว

    คาถาบูชา
    วันทามิ ภันเต เจติยัง สัพพัง สัพพัตถะ ฐาเน สุปะติฏฐิตัง สารีริกะธาตุ มะหาโพธิง พุทธะรูปัง สะกะลัง สะทาฯ

    *** องค์พระเจดีย์นี้พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นพุทธศาสตรา เป็นของคู่กายเฉพาะตน ##ท่านว่าถ้าจะให้ดีควรบูชาไว้เป็นคู่องค์หนึ่งติดกายองค์หนึ่งนั้นใส่พานไว้ในบ้านหรือที่ดินที่ทำงานของตน(ในกรณีที่มีอาถรรพ์ทั้งการดำเนินชีวิตและสถานที่อยู่อาศัย) หากจะพิจารณาใช้เฉพาะตนหรือใช้บูชาเฉพาะในสถานที่ ท่านว่าก็ทำได้ให้พิจารณาเอาว่าชีวิตนั้นมีปัญหาแท้จริงที่ตรงไหนชีวิตของตนหรือสถานที่อยู่อาศัย รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น พ่ออาจารย์ท่านให้แจ้งชื่อนามสกุลความประสงค์และเรื่องติดขัดทั้งหลายไว้ด้วยท่านจะได้บอกกล่าวเหล่าเทพและพุทธะ,โพธิสัตว์ในองค์พระเจดีย์นั้นเป็นการสมควรเฉพาะเจาะจง รายได้ร่วมสมทบทุนการศึกษาเด็กไร้โอกาสและขาดแคลนทุนทรัพย์เล่าเรียนสืบต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา มงคลยอดชีวิตลิขิตขัดเกลาวาสนามหาโพธิ์เจดีย์ขังมารหลิงหลง(พุทธศาสตรา) บูชา 2,500 บาท

    67401928-1316484791851721-9184774067708755968-n.jpg 67095750-431650564087151-5120001505352482816-n.jpg
    67413535-344655196436274-2721691080071315456-n.jpg





     

แชร์หน้านี้

Loading...