ติดตามสถานะการณ์

Clima Extremo 24

ตุรกี
ฝนกระหน่ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมที่กระทบอังการา ในวันที่ 9 มิถุนายน

 

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา
มุมมองจากมุมสูงแสดงความเสียหายอย่างรุนแรงหลังจากพายุรุนแรงที่โค่นเครนในอาคารอพาร์ตเมนต์ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 รายและบาดเจ็บ 6 รายดัลลัส, เท็กซัส บ่ายวันนี้ 9 มิถุนายน

 

แม่หมอสมัครเล่นตอนที่277 โดยฟองสนาน จามรจันทร์
ผลของมฤตยูจรในเมษกับผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎอย่างคุณอภิสิทธิ์

ภาพลัคนาสถิตราศีกรกฏกับเรื่องราวต่างๆของชีวิต
มฤตยูจรเดินอยู่ในราศีเมษระหว่าง6มีนาคม2559-8กรกฎาคม2565

ขณะวิ่งหาข่าวเกือบทุกพรรคการเมือง-ทำเนียบรัฐบาล-รัฐสภาตีคู่กับการเริ่มศึกษาโหราศาสตร์ด้วยตัวเองโดยใช้ดวงชะตาของทั้งน้องๆนักข่าว-นักการเมืองหลายคนเป็นดวงครูนั้นคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะนักการเมืองหนุ่มน้อยหน้าใสจากพรรคประชาธิปัตย์เป็นหนึ่งในแหล่งข่าวที่เอื้อเฟื้อต่อการเรียนของผู้เขียนอย่างน่าประทับใจ

ทั้งนี้เพราะแม้ท่านเป็นนักเรียนนอกจบจากมหาวิทยาลัยระดับโลก จะเชื่อหรือไม่เชื่อด้านโหราศาสตร์ก็ไม่รู้ แต่ท่านไม่เคยมีอาการเหนียมอายที่จะคุยกับโหรสมัครเล่นที่เพิ่งเริ่มต้นเรียน หรือไม่แม้แต่จะแสดงอาการดูถูกดูหมิ่นวิชาโหราศาสตร์ที่หลายคนตราหน้าว่างมงาย

ขณะนั้นด้วยความโดดเด่นทางการเมืองของท่านทำให้บรรดาโหรทั้งหลายมีทัศนะต่างๆนานาเกี่ยวกับดวงชะตาคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะที่ไม่ได้เกิดเมืองไทย รายละเอียดส่วนตัวคือเวลาเกิดที่จะใช้วางลัคนาก็ไม่ชัดเจนว่าสถิตราศีใดแน่ จำได้ว่ามีโหรบางท่านเคยทำนายด้วยซ้ำว่าชะตาเช่นนี้ระดับวาสนาไม่มีโอกาสเป็นถึงนายกรัฐมนตรี

จนเมื่อผู้เขียนขอรายละเอียดส่วนตัวของท่านที่เกิดประเทศอังกฤษ เมืองนิวคาสเซิลท่านก็บอก พร้อมคิดทอนเป็นเวลาที่ประเทศไทยให้เรียบร้อย และเมื่อผูกดวงชะตาแล้วลัคนาสถิตราศีกรกฎ ผู้เขียนบอกกับท่านอย่างมั่นใจว่าได้เป็นถึงนายกรัฐมนตรีแน่นอนเพราะพื้นฐานชะตาเดิมพระอาทิตย์-ดาวตัวแทนยศศักดิ์เป็นกาลกิณีวันเกิดแต่ได้มาตรฐานมหาจักรกุมลัคนา ตำราบอกขลังนักให้คุณเอกอุประกอบกับพระจันทร์ดาวประจำตัวได้ตำแหน่งอุจจ์-สูงส่งในภพลาภะขอบเขตของโชคลาภและความสำเร็จของชีวิต

และจำได้ว่าบอกกับท่านว่าจะเป็นนายกฯตอนระยะอายุย่าง44ก่อนเต็ม44ปี อันเป็นระยะหนึ่งปีที่ดาวเดชเป็นศรีจร-ตำราบอกเป็นระยะของคนที่หากมีเชื้อเจ้าจะได้สถาปนา หากเป็นคนธรรมดาจะได้เป็นพระยาพานทอง แม้ท่านจะรับฟังเพียงยิ้มๆแต่ในที่สุดก็เป็นไปตามนั้น

แม้จะลองวิชาไป และยุติการหาข่าวแล้วแต่ผู้เขียนยังจับตาดวงชะตานี้อย่างใกล้ชิดเพราะลีลาชีวิตน่าศึกษามาก จนมาสะดุ้งอีกครั้งเมื่อมฤตยูจร(0)ดวงเบ้อเร่อย้ายจากราศีมีนเข้ามาเดินในราศีเมษซึ่งเป็นขอบเขตของการงาน ยศฐาบรรดาศักดิ์ ตำแหน่ง งานปกครองทั้งหลายของผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลาย(เมษ-ภพที่สิบ-กัมมะหมายถึงการงาน)

ผู้เขียนจึงมั่นใจและส่งสัญญาณมาตลอดว่าระหว่างมีนาคม 2559-กรกฎาคม2565คุณอภิสิทธิ์ก็เหมือนผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลายที่หนีการเปลี่ยนเปลี่ยนใหญ่อันเหนือกว่าการปฎิรูป ถ้าจะให้ถูกโฉลกต้องปฏิวัติขึ้นไปในเรื่องตำแหน่ง หน้าที่การงานไม่พ้น จะทำงานหรือดำรงตำแหน่งเหมือนเดิมอีกไม่ได้แล้ว

ทั้งนี้เป็นเพราะมฤตยูนี้เป็นเจ้าของภัยอาเพศ บังคับถึงเหตุร้าย เหตุการณ์ไม่ทันนึกคิด การผลัดเปลี่ยนทันทีทันใดขนาดใหญ่แบบปฏิวัติ พลัดพราก เสียใจ การต้องเนรเทศ(ทั้งเนรเทศตนเองหรือถูกเนรเทศ) โชคไม่แน่นอน ฯลฯ โดยวิธีการรับมือคือถ้ามฤตยูจรเดินอยู่ในขอบเขตเรื่องอะไรในดวงชะตาก็ต้องกล้าชิงเปลี่ยนแปลงหรือปฎิวัติในเรื่องนั้นๆก่อน หากไม่เปลี่ยนจะถูกเปลี่ยน หรือหากฝืนได้ก็จะถูกทิ้งไว้ข้างหลังอย่างเจ็บปวด

อันที่จริงผู้เขียนซึ่งไกลจากวงการนักข่าวแล้วก็จับทางอยู่ห่างๆได้ว่าคุณอภิสิทธิ์เองก็พยายามจะเปลี่ยนแปลงหลายอย่างทั้งตัวเอง ในพรรค แต่คงไม่เพียงพอทัดทานเพราะพลังของการจะเปลี่ยนแปลงรุนแรงมาก ในลักษณะสุมพลังตามอาการของมฤตยูก่อนระเบิดใหญ่เริ่มจากโพลล์หลายสำนักชี้ว่าคะแนนความนิยมในตัวคุณอภิสิทธิ์ไม่โดดเด่นพอจะนำพรรคชนะเลือกตั้ง

และเค้าลางยังปรากฏคล้ายก่อนภูเขาไฟระเบิด-แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ในชีวิตคือการท้าทายตำแหน่งหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ของนายแพทย์วรงค์ เดชกิจวิกรมที่แม้คุณอภิสิทธิ์จะชนะแต่คะแนนของหมอวรงค์ก็สูงจนน่าแปลกใจ
และแล้วเมื่อสะสมพลังของมฤตยูได้ที่ครั้นวันเลือกตั้งอาทิตย์ที่ 24 มีนาคม 2562พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ต่อเป้าหมายได้สส.ต่ำกว่าร้อยคน-ที่กรุงเทพฯไม่ได้สส.เขตแม้แต่คนเดียว-ฐานที่มั่นภาคใต้ถูกเจาะ-ภาคเหนือได้สส.เขตคนเดียว

วันนั้นคุณอภิสิทธิ์ก็แสดงความรับผิดชอบลาออกจากตำแหน่งหัวหน้าพรรค และมฤตยูยังอาเพศต่อทำให้คุณอภิสิทธิ์ลาออกจากสส.เมื่อวันที่5มิถุนายน 2562ที่ผ่านมาเมื่อพรรคประชาธิปัตย์ลงมติด้วยเสียงข้างมากให้เข้าร่วมรัฐบาล
ต่อไปนี้คือการเริ่มหน้าใหม่ของชีวิตการงาน-ตำแหน่งของคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ อีกทั้งอย่าลืมว่ามฤตยูนั้นครูโหรแฉล้ม เลี่ยมเพ็ชรรัตน์ผู้ล่วงลับบอกว่าเป็นเรื่องของอาการชั่วเจ็ดที ดีเจ็ดหน โดยเฉพาะอย่างยิ่งตั้งแต่กรกฎาคม 2565 เป็นต้นไปมฤตยูจรจะเดินเข้าไปอยู่ในดินแดนของโชคลาภและความสำเร็จของชีวิตผู้ที่ราศีกรกฎ(ภพที่สิบเอ็ด-ลาภะ)ยาวนานเจ็ดปี

สำหรับผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎทั้งหลาย-หลายคนฉุนผู้เขียนว่าบอกแต่ให้เปลี่ยนแปลง-ปฏิวัติงานแล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าจะทำอย่างไร-ไปทางไหน-ทำไม่บอกมาให้หมด?

คำตอบคืองานเป็นเรื่องสำคัญชีวิตที่แต่ละคนต้องเลือกทางเอา แต่ขอให้สังเกตุคือเมื่อทำๆอะไรแบบเดิมๆไปแล้วรู้สึกอึดอัดไม่มีความสุขเหมือนมีพลังไร้สภาพกดดันขอให้กล้าชิงเปลี่ยนแปลงลองหาทางใหม่ที่ไม่เคยทำหรือทัน-ล้ำสมัยกว่าเดิม

ขอยกตัวอย่างที่หนึ่งที่เกิดกับผู้เขียนเองที่แม้ลัคนาไม่ได้สถิตราศีกรกฎ แต่ดาวตัวแทนการงานเจออิทธิพลของของมฤตยูอย่างจัง ผลคือ เมื่อปลายปี2560สถานการณ์พลิกผันทำให้มารับทำนายทายทักดวงชะตาแบบไม่คาดคิดไม่เคยฝันและไม่เคยอยู่ในหัวคิด โดยเหตุเริ่มต้นเกิดจากคุณแม่ท่านหนึ่งที่ลูกเจอคดีติดคุกได้หมายเลขโทรศัพท์ของผู้เขียนจากไหนก็ไม่รู้โทร.มาขอดูดวงชะตาชนิดยอมจ่ายไม่อั้นเป็นที่น่าเห็นใจมาก หลังจากนั้นเป็นต้นมาสถานการณ์ก็ยืดเยื้อยาวนานถึงวันนี้
ตัวอย่างที่สองคือผู้เขียนตัดสินใจคืนรายการวิทยุรายการสุดท้ายที่จัดยาวนานมาสิบห้าปีไปเมื่อสื้นปี2561เพราะจัดไปก็อึดอัดรู้สึกว่าไม่ใช่ แล้วหันมาจัดเรื่องโหรในยูทูปแทนแม้รายการวิทยุนั้นจะได้รับข้อเสนอที่ดีกว่าเดิม

แล้วขนาดเป็นโหรเองผู้เขียนยังนึกไม่ออกด้วยซ้ำว่าครั้นกรกฎาคม 2565เมื่อมฤตยูจรจากราศีเมษไปแล้วอาชีพการงานของตนเองจะเป็นอย่างไรทำได้เพียงเปลี่ยนแปลง ตอนนี้ก็เอาแสตมป์ที่สะสมไว้มาขายและลองตลาดดูดวงที่อเมริกามาแล้วหนึ่งครั้งขณะไปเที่ยว-ถือว่าโอเค.ใช้ได้
ฉะนั้นแม้อนาคตด้านการงานเราไม่รู้ แต่ไม่รู้ก็ต้องเดินไป จึงขอให้กำลังใจผู้ที่ลัคนาสถิตราศีกรกฎกล้าเปลี่ยนแปลงใหญ่เรื่องงาน ตำแหน่งหน้าที่ไปทำอะไรใหม่ๆ อย่างน้อยหากต้องทำงานเดิมๆอยู่ก็อาจปฏิวัติวิธีการ-เนื้องาน

หรือหากเริ่มอาชีพที่สอง-สามได้จะถูกโฉลกมากเพื่อรองรับเมื่อมฤตยูเข้าไปเดินอยู่ในภพลาภะหลังกรกฎาคม2565ไปแล้วคือมีรายได้พิเศษนั่นเอง

ชีวิตการงานเราลิขิตเองค่ะผู้ที่ลัคนาสถิตราศรีกรกฎทั้งหาล-รวมทั้งคุณอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ

ฟองสนาน จามรจันทร์
7มิถุนายน 2562

ดูดวงชะตาติดต่อคุณหนุ่ย0814002533

ขออภัยคิวยาว-พยายามจำกัดจำนวนในแต่ละวัน-เพราะดูหลายดวงจะเริ่มมั่ว-ไม่คุ้มเงินค่ะ

ขอบพระคุณ

 

Candy Bella


ความหมาย การยกขาของม้าของกษัตริย์ และม้า นักรบในอนุสาวรีย์ต่างประเทศ


- ถ้าม้ายกสองขาขึ้นบนอากาศ...แปลว่า คนนั้นตายในสงคราม


- ถ้าม้ายกขาข้างเดียว...แปลว่า เขาบาดเจ็บในสงครามและตายจากการบาดเจ็บนั้น


- ถ้าทั้งสี่ขาของม้าอยู่บนพื้น...แปลว่า เขาตายโดยธรรมชาติ ไม่เกี่ยวกับสงคราม


สำหรับธรรมเนียมนี้เป็นที่รู้กันดีในหมู่ของคนที่ก่อสร้างทางด้านประติมากรรมตะวันตก ที่เกี่ยวกับการสร้างอนุสาวรีย์


ส่วนในประเทศไทยที่มียกเว้นในเรื่องนี้คือ **พระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช ที่จังหวัดจันทบุรี** ที่ม้ายกขา ซึ่งอนุสาวรีย์นี้สร้างขึ้นตามความคิดที่ได้ตั้งไว้ และสร้างเพื่อให้ดูสง่างาม ไม่เกี่ยวกับธรรมเนียมใดทางด้านประติมากรรมที่ได้บอกไว้ในข้างต้นค่ะ


ที่มา google.com

 

ข่าวช่องวัน
อย่าด่าใครว่า "หมา" เพราะหมายังรู้จักทำประโยชน์มากกว่าคนบางคน #ข่าวช่องวัน

 

พยานคดีโกงบ้านเอื้ออาทรยันกลางศาล จ่าย'เสี่ยไก่'81ล้านบันทึกในบัญชีเป็นค่าใช้จ่ายต้องห้าม

 

กรมสุขภาพจิต ห่วงกลุ่มวัยรุ่นเยาวชน นักเรียน และนักศึกษา เสี่ยงมีภาวะซึมเศร้า และมีแนวโน้มการฆ่าตัวตายเพิ่มขึ้น เพียงช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้ มีผู้โทรเข้ามาใช้บริการ 40,635 ครั้ง เป็นกลุ่มเด็กและเยาวชนอายุ 11-25 ปี รวม 13,658 ครั้ง #ThaiPBSnews

 

Arne Nxt



อุณหภูมิกำลังจะสูงถึง 30 ° C ในพื้นที่ permafrost ไซบีเรียทั้งหมด ตลอดเวลา 2 สัปดาห์ข้างหน้า
เป็นประวัติการณ์เป็นเวลานานเช่นนี้ ในช่วงต้นฤดูร้อน

Temperatures are about to reach 30°C in the whole Siberian permafrost-area during the next 2 weeks.
Unprecedented for such a long period, this early in the summer.

 

Candy Bella

ฮั่วชวี่ปิ้ง ผู้พิทักษ์แห่งเส้นทางสายไหม

ต้นราชวงศ์ฮั่นตะวันตก ชาวซงหนูที่คุกคามจีนตั้งแต่ยุคจ้านกว๋อ ได้พิชิตเผ่าต่างๆทางด้านเหนือและตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ผนวกเป็นจักรวรรดิก่อนแผ่อิทธิพลควบคุมเส้นทางการค้าในเอเชียกลาง นำมาซึ่งความมั่งคั่งจนสามารถรวบรวมนักรบได้หลายแสน

เวลานั้น ซงหนูเข้ารุกรานดินแดนจีนหลายครั้ง จนบางช่วงราชสำนักต้องยอมส่งบรรณาการให้ เพื่อแลกกับสันติภาพ

มาถึงรัชสมัยของจักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ ก็บังเกิดแม่ทัพผู้เก่งกล้า นาม ฮั่วชวี่ปิ้ง นำทัพสยบชาวซงหนู จนนำไปสู่การเปิดเส้นทางการค้าสายตะวันตก ที่ถูกเรียกว่า เส้นทางสายไหม

ฮั่วชวี่ปิ้งเป็นชาวเมืองผิงหยาง มณฑลส่านซี เกิดปีที่ 140 ก่อน ค.ศ. มารดาชื่อ เว่ยซ่าวเอ๋อ เป็นลูกหญิงรับใช้ในจวนของเฉาโซ่วซึ่งมีบรรดาศักดิ์ผิงหยางโหวและเป็นสวามีขององค์หญิงหยางซิน พระพี่นางของฮั่นอู่ตี้

เว่ยซ่าวเอ๋อรักใคร่จนลอบได้เสียกับฮั่วจงหยู ที่ทำงานในจวน ทว่าฮั่วจงหยูรังเกียจที่นางฐานะต่ำต้อยจึงไม่อยากแต่งงานกับนาง ไม่นานเขาก็ขอลากลับไปบ้านเดิมและแต่งงานกับหญิงที่พ่อแม่หาให้ ในตอนนั้นซ่าวเอ๋อพบว่าตนตั้งครรภ์ นางรู้ว่า บุตรนอกสมรส ไม่อาจเรียกร้องความรับผิดชอบจากฝ่ายชายได้ แต่นางก็ตั้งใจเก็บลูกไว้ จนเมื่อครบกำหนด ซ่าวเอ๋อก็คลอดบุตรเป็นชาย และตั้งชื่อว่า ฮั่วชวี่ปิ้ง

เว่ยซ่าวเอ๋อเลี้ยงลูกโดยมีพี่น้องคอยช่วย ทว่าชวี่ปิ้ง อ่อนแอตั้งแต่เกิด อีกทั้งครอบครัวเว่ยก็ยากจน ทำให้ชีวิตสองแม่ลูกยากลำบาก

เว่ยจื่อฟู่ น้องสาวของนางเป็นนางรำในตำหนักส่วนพระองค์ขององค์หญิงหยางซิน ยามนั้น ฮั่นอู่ตี้ มีชันษาได้ยี่สิบเศษ เพิ่งครองราชย์ไม่นาน ทรงกำลังระหองระแหงกับจักรพรรดินีเฉินเจียว มเหสีที่นิสัยหึงหวงร้ายกาจ จึงมาเยี่ยมพระพี่นางที่ทรงสนิทสนมมาแต่เยาว์ เพื่อหลบความวุ่นวายและได้พบเว่ยจื่อฟู่

จักรพรรดิหนุ่มทรงถูกใจนางรำผู้นี้มาก จึงพาเว่ยจื่อฟู่พร้อมพี่น้องไปราชธานีฉางอัน และรับนางเป็นสนม

หนึ่งปีต่อมา เว่ยจื่อฟู่มีบุตรชาย ซึ่งเป็นโอรสองค์แรกของฮั่นอู่ตี้ พระองค์ตั้งชื่อว่า หลิวจู้ และเลื่อนจื่อฟู่เป็นพระสนมเอกชั้นสูงสุดรองแต่จักรพรรดินี ทำให้พระนางเฉินเจียวริษยานางมากขึ้น จึงส่งคนไปจับน้องชายเว่ยจื่อฟู่ ชื่อ เว่ยชิง ที่ทำงานในคอกม้าหลวงไปฆ่าทิ้ง แต่เว่ยชิงหนีรอดมาได้ ฮั่นอู่ตี้จึงตั้งเขาเป็นนายกองราชองครักษ์เป็นการปลอบขวัญ

แม้ไม่เอาผิดเรื่องเว่ยชิง แต่อู่ตี้ก็ไม่ไปหาเฉินเจียวอีก ทำให้พระนางทั้งแค้นทั้งเสียใจและมาลงกับเว่ยจื่อฟู่ โดยให้ทำคุณไสยฆ่านาง ทว่าความแตกจึงถูกปลดและเนรเทศจากฉางอันไปอยู่วังเดิมจนสิ้นพระชนม์ใน 20 ปีต่อมา ส่วนเว่ยจื่อฟู่นั้น หลังจักรพรรดิเนรเทศพระนางเฉินเจียวไปไม่นาน ก็แต่งตั้งให้จื่อฟู่เป็นฮองเฮาและให้องค์ชายหลิวจู้เป็นรัชทายาท

ฮั่นอู่ตี้ให้พี่สาวของจื่อฟู่ ชื่อ เว่ยจินหยูแต่งงานกับ กงซุนเฮ่อ ที่ปรึกษาของพระองค์ ส่วนเว่ยซ่าวเอ๋อนั้นได้แต่งกับขุนนางใหญ่ชื่อ เฉินจาง
สำหรับเว่ยชิงนั้น มีฝีมือในการขี่ม้ายิงธนูจึงรับราชการในกองทัพ ความที่คนอ่อนน้อมถ่อมตน ใฝ่ศึกษา ทำให้ฮั่นอู่ตี้ทรงโปรดเขามาก

เว่ยชิงสร้างผลงานในการศึกหลายครั้งและเลื่อนยศเรื่อยๆจนได้บรรดาศักดิ์ฉางผิงโหวทั้งดำรงตำแหน่งสมุหกลาโหมกับแม่ทัพใหญ่ และเมื่อองค์หญิงหยางซิน เป็นม่าย เว่ยชิงก็ได้แต่งงานกับนาง

เหตุการณ์เหล่านี้ ทำให้ครอบครัวเว่ยเลื่อนชั้นจากบ่าวยากไร้ กลายเป็นครอบครัวทรงอิทธิพลรองจากองค์จักรพรรดิ ทำให้ฮั่วชวี่ปิ้งได้เติบโตในฐานะคุณชายผู้มั่งคั่งและทรงอิทธิพล

ทว่าฮั่วชี่ปิ้งมิใช่ลูกท่านหลานเธอที่ใช้บารมีครอบครัว เสเพลไปวันๆ แต่เขาเฉลียวฉลาดและมีฝีมือในการต่อสู้ชนิดหาตัวจับยาก โดยเมื่ออายุ 16 ปี ฮั่วชี่ปิ้งได้เป็นทหารองครักษ์จนอายุ18 ปี ก็ได้เป็นนายกองและในปีที่ 123 ก่อน ค.ศ. อันเป็นปีที่รับตำแหน่ง เขาได้ตามเว่ยชิง ผู้เป็นน้า ไปทำศึกกับซงหนู ซึ่งเป็นการรบครั้งแรกของนายกองหนุ่ม

ศึกนี้ แม้ทัพเว่ยชิงจะสังหารข้าศึกถึง 10,000 คน ทว่ากองหน้า 3,000 คน ถูกกวาดล้างเกือบหมด ทัพของเว่ยชิงจึงไม่ได้บำเหน็จ ส่วนฮั่วชี่ปิ้งคุมทัพม้า 800 นาย เข้าไล่ล่าข้าศึก สังหารนักรบซงหนูเกือบสองพัน รวมทั้งตาของอีจื้อเสีย ผู้เป็นฉานอวี้ (ประมุขสูงสุด) ของซงหนู ทั้งจับเชลยได้อีกมาก ทำให้ฮั่นอู่ตี้พอพระทัยมาก จึงตั้งฮั่วชี่ปิ้งเป็น ก้วนจวินโหว (เจ้าพระยาชนะเลิศ) ศักดินา 2,500 ครัว

ปีที่ 121 ก่อน ค.ศ. ฮั่วชี่ปิ้งซึ่งอายุยี่สิบปีได้ทำศึกสองครั้ง ครั้งแรกในฤดูใบไม้ผลิ เขาคุมทหารม้าหนึ่งหมื่นทำศึกที่เหอซี บุกซีอวี้ (แดนตะวันตก) 5 แคว้น ได้ชัยชนะ สังหารเจ้าชายสองคนและนักรบ 8,900 คน ทั้งยังยึดได้เทวรูปมนุษย์ทองคำซึ่งเป็นสิ่งที่ชาวซงหนูเคารพบูชากลับมาด้วย ต่อมาในฤดูร้อนปีเดียวกัน ทัพซงหนูโจมตีด่านเอียนเหมิน ฮั่วชวี่ปิ้งนำหารม้าหนึ่งหมื่นจากหลงซี เข้าต่อต้านข้าศึกจนล่าถอย ก่อนรุกไล่ตามเป็นระยะทางกว่า 2,000ลี้ (1,000 กิโลเมตร) ถึงเขาฉีเหลียน จับเจ้าชายซงหนูได้ 12 คน พร้อมเชลยชนชั้นสูงจำนวนมากและสังหารนักรบไป 30,000 คน ผลงานครั้งนี้ ทำให้ฮั่นอู่ตี้พระราชทานศึกดินาให้ฮั่วชวี่ปิ้งเพิ่มเป็นหมื่นครัว

ความพ่ายแพ้ครั้งนี้ทำให้เกิดตึงเครียดในจักรวรรดิซงหนู เหล่าเจ้าชายต่างกล่าวโทษกัน ก่อนจะพากันสรุปว่า เป็นความผิดของหวุนเสียและซิวถู เจ้าชายผู้เป็นหัวหน้าซงหนูสองกลุ่มใหญ่แถบเหอซี ว่าประมาทข้าศึกจนเป็นเหตุให้พ่ายแพ้ทัพฮั่น

อีจืี้อเสียได้คาดโทษตายแก่ทั้งสอง หากซงหนูพ่ายศึกอีก ทำให้สองเจ้าชายทั้งโกรธทั้งกลัว ครั้นถึงฤดูใบไม้ร่วงของปีนั้น ทั้งสองจึงตัดสินใจนำนักรบสามหมื่นคนขอสวามิภักดิ์ต่อราชสำนักฮั่น

จักรพรรดิทรงมีบัญชาให้ฮั่วชี่ปิ้งนำทหารหนึ่งหมื่นไปรับการสวามิภักดิ์ ทว่าก่อนทัพฮั่นไปถึง ซิวถูเกิดเปลี่ยนใจ หวุนเสียจึงสังหารซิวถูและรวมนักรบของอีกฝ่ายมาเข้ากับตน ทว่านักรบของซิวถูได้ก่อจลาจลไม่ยอมสยบ ฮั่วชี่ปิ้งจึงนำทหารม้าห้าร้อยบุกเข้ากลางค่ายซงหนูและควบคุมพวกที่ก่อจลาจลเอาไว้ได้ทันทีิ ทำให้นักรบซงหนูทั้งสามหมื่นคนยอมสวามิภักดิ์ โดยไม่ต้องเสียเลือดเนื้อแต่อย่างใด

หวุนเสียและบริวารได้รับการปฏิบัติจากราชสำนักฮั่นเป็นอย่างดี โดยนอกจากแต่งตั้งให้หวุนเสียและเหล่าขุนพลมียศแล้ว ฮั่นอู่ตี้ยังประทานทรัพย์สินจำนวนมากให้เป็นรางวัลและส่งคนมาช่วยพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนให้ดีขึ้นด้วย ซึ่งเมื่อซงหนูกลุ่มอื่น เห็นเช่นนั้น จึงมาสวามิภักดิ์มากขึ้น จนต้าฮั่นสามารถเข้าถึงโอเอซิสตามเส้นทางการค้าและได้สร้างค่ายทหารพร้อมส่งประชาชนชาวจีนไปตั้งถิ่นฐาน

ทางด้านจักรวรรดิซงหนู ความพ่ายแพ้ต่อฮั่วชวี่ปิ้งติดกัน ทำให้ฉานอวี้ อีจื้อเสีย ย้ายที่มั่นขึ้นไปทางเหนือ ทว่าฮั่นอู่ตี้ก็ยังไม่เลิกล้มแผนการที่จะเผด็จศึกซงหนู

และในปีที่ 119 ก่อน ค.ศ. จักรพรรดิฮั่นอู่ตี้ก็ทรงทำศึกใหญ่กับซงหนู โดยระดมทหารม้าหนึ่งแสนกับทหารราบสองแสน แบ่งเป็นสองทัพเท่าๆกัน ให้เว่ยชิงกับฮั่วชี่ปิ้งคุมพลบุกแดนซงหนู โดยเว่ยชิงนำทัพสายตะวันตก ส่วนฮั่วชี่ปิ้งนำทัพสายตะวันออก

ฝ่ายอีจื้อเสียรวบรวมทหารม้าหนึ่งแสน ทหารราบหนึ่งแสนเพื่อตั้งรับการบุกของทัพฮั่น โดยสงครามใหญ่ระหว่างจักรวรรดิต้าฮั่นกับจักรวรรดิซงหนูครั้งนี้ ถูกเรียกว่า ยุทธการโม่เป่ย

กองทัพต้าฮั่นทั้งสองทัพต่างมีชัยเหนือข้าศึกและบุกเข้าแดนซงหนูเป็นระยะทางกว่าหนึ่งพันกิโลเมตร โดยเฉพาะทัพของฮั่วชี่ปิ้งที่สังหารข้าศึกได้หลายหมื่น จับเชลยระดับเจ้าชายที่เป็นหัวหน้าเผ่าได้ 3 คน แม่ทัพนายกอง 80 คน ได้เชลยทั้งนักรบและประชาชนอีก 50,000 คน สัตว์เลี้ยงหลายแสนตัว ขณะที่สูญเสียทหารฮั่นไปเพียงสองหมื่นเท่านั้น ส่วนทัพของเว่ยชิงเสียทหารไปสี่หมื่นเศษแต่ได้เชลยนักรบและประชาชนมาสองหมื่นคน

สงครามครั้งนี้ทำให้ชาวซงหนูไม่กล้ายกทัพรุกรานฮั่นตะวันตกอีก ทั้งยังเปิดยุคที่เรียกว่า สันติภาพจีน ด้วยการสร้างความปลอดภัยตลอดเส้นทางการค้าที่เชื่อมระหว่างจีนกับดินแดนทางตะวันตก หรือที่เรียกว่า เส้นทางสายไหม ทำให้จีนสามารถทำการค้ากับดินแดนทางตะวันตกได้เต็มที่ สินค้าจากจีนได้กระจายไปถึงจักรวรรดิโรมัน ถึงนำความมั่งคั่งมาสู่ต้าฮั่นเป็นอันมาก

ด้วยผลงานยิ่งใหญ่ ทำให้ฮั่วชี่ปิ้งเป็นที่โปรดปรานของฮั่นอู่ตี้เป็นอย่างมาก มีครั้งหนึ่ง จักรพรรดิเห็นว่า แม่ทัพหนุ่มยังไม่มีครอบครัวจึงจะพระราชทานคฤหาสน์พร้อมสาวงามชั้นสูงให้เป็นภรรยา ทว่าฮั่วชี่ปิ้งกลับปฏิเสธโดยกล่าวว่า "ซงหนูไม่สิ้น ไม่ขอถวิลมีครอบครัว" ซึ่งภายหลังคำพูดนี้ได้กลายเป็นวรรคทองที่นักรบจีนในสมัยหลังๆมักนำมาใช้กล่าวกัน

นอกจากมีความสามารถในการนำทัพและมีวรยุทธ์สูงแล้ว ฮั่วชี่ปิ้งยังรู้จักใช้จิตวิทยาเพื่อผูกใจไพร่พลด้วย โดยมีครั้งหนึ่ง ฮั่นอู่ตี้พระราชทานสุราชั้นเลิศหนึ่งไห ฮั่วชี่ปิ้งได้เรียกเหล่านายทัพไพร่พลทั้งหมดมาชุมนุมที่ริมลำธารแห่งหนึ่งและประกาศว่า "ฝ่าบาทพระราชทานสุราเป็นรางวัล และข้าขอให้ทุกท่านได้ร่วมดื่มสุรานี้ด้วยกัน” กล่าวจบก็เทสุรานั้นลงไปในลำธาร เพื่อให้เหล่าไพร่พลได้ร่วมดื่มน้ำในลำธารที่มีสุราพระราชทานผสมอยู่ ทำให้เหล่าไพร่พลเกิดความฮึกเหิมและลำธารนั้น ภายหลังถูกเรียกว่า จิ่วฉวน (ธารสุรา)

แม้เก่งกล้า แต่ฮั่วชวี่ปิ้งก็ไม่ใช่คนที่ดีพร้อม ซือหม่าเชียนได้บันทึกถึง นิสัยจอมทัพผู้นี้ว่า ไม่ค่อยใส่ใจความเป็นอยู่ของพลทหารและชอบบังคับไพร่พลแข่งชูจู้ แม้จะเหน็ดเหนื่อยเพียงใดก็ตาม (ชูจู้ เป็นกีฬา ที่สองฝ่าย แย่งกันเตะลูกบอลที่ทำจากไม้สาน เข้าประตูฝ่ายตรงข้าม ซึ่งจะเรียก ฟุตบอลจีนก็คงได้ ..ทั้งนี้ไม่มีบันทึกว่ามีนัดเตะกระฉับมิตร กับซงหนูบ้างหรือไม่)

นอกจากนี้ ฮั่วชวี่ปิ้งยังไม่ใช่คนถ่อมตน ผิดกับเว่ยชิง น้าของเขา ฮั่นอู่ตี้เคยแนะนำให้เขาศึกษาพิชัยสงครามซุนวูและอู๋ฉี่ ทว่าชวี่ปิ้งกลับทูลว่า ตนเข้าใจกลยุทธ์ต่างๆดี ไม่จำเป็นต้องเรียนอีก

แต่เหตุการณ์ที่เป็นรอยมลทินของฮั่วชวี่ปิ้งมากที่สุด คือกรณีของหลี่กั่น บุตรชายคนโตของแม่ทัพหลี่กว่างโดยหลังสงครามโม่เป่ย หลี่กว่างซึ่งอยู่ในทัพเว่ยชิงถูกสอบสวนด้วยข้อหาเดินทัพล่าช้าจนพลาดโอกาสทำลายข้าศึก หลี่กว่างน้อยใจ จึงฆ่าตัวตาย ทำให้หลี่กั่นโทษเว่ยชิงและด่าว่าอย่างรุนแรง แม้เว่ยชิงจะไม่ถือโทษ แต่เมื่อฮั่วชวี่ปิ้งรู้เรื่องก็โกรธมาก จึงยิงธนูสังหารหลี่กว่างในระหว่างล่าสัตว์ ฮั่นอู่ตี้แม้จะพิโรธแต่เห็นแก่ความชอบของเขา จึงไม่เอาผิดและให้ประกาศไปว่า หลี่กั่น ถูกกวางขวิดตาย

หลังสงครามโม่เป่ย ฮั่วชี่ปิ้งได้เลื่อนเป็น จิ้นกวานโหว มีศักดินา15,000 ครัว และรับตำแหน่งสมุหกลาโหมคู่กับเว่ยชิงผู้เป็นน้า ทว่าสองปีให้หลัง คือในปีที่ 117 ก่อน ค.ศ. เขาก็ล้มป่วยเนื่องจากโรคประจำตัวที่คุกคามมาแต่เด็ก ได้เกิดกำเริบ จนทำให้จอมทัพหนุ่มสิ้นชีวิตลงด้วยวัยเพียง 24 ปี ยังความเสียพระทัยให้ฮั่นอู่ตี้เป็นอันมาก พระองค์ให้สร้างสุสานของฮั่วชวี่ปิ้ง มีรูปร่างคล้ายเขาฉีเหลียนตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของเมืองเม่าหลิง ในมณฑลส่านซี

ฮั่วชวี่ปิ้งมีบุตรชายหนึ่งคน ชื่อ ฮั่วชาน ซึ่งรับสืบทอดบรรดาศักดิ์จิ้นกวานโหว แต่ก็เสียชีวิตในปีที่ 110 ก่อน ค.ศ.โดยไร้ทายาท นอกจากนี้ยังมีน้องชายต่างพ่อ ชื่อฮั่วกวง ภายหลังเป็นอัครมหาเสนาบดีในรัชกาลถัดมา

ปัจจุบันสุสานของฮั่วชวี่ปิ้งยังคงอยู่และได้รับการทำนุบำรุงอย่างดี เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้ระลึกถึงวีรกรรมของจอมทัพหนุ่มผู้พิทักษ์เส้นทางสายไหมผู้นี้

ที่มา : Komkid.com

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

อุณหภูมิในโอมาน # 10 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

พายุลูกเห็บโหดๆใน barsova เยอรมนี #10 มิถุนายน

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

เฮลิคอปเตอร์ชนเข้ากับอาคารในใจกลางแมนฮัตตัน # ในนิวยอร์กสหรัฐอเมริกา # 10 มิถุนายน

 

John Traczyk


การระบาดขนาดใหญ่ของเมฆอวกาศที่ตั้งค่าบันทึกไว้


คืนที่ผ่านมา (วันอาทิตย์ที่ 9 มิถุนายน) นักดูท้องฟ้าในเขตอ่าวซานฟรานซิสโก, แคลิฟอร์เนียได้เห็นปรากฏการณ์พิเศษของเมฆ noctilucent (NLCs) เหนือแสงของเมือง นี่เป็นหนึ่งในการพบเห็นเมฆชนิดนี้ที่ละติจูดที่ต่ำที่สุดเท่าที่เคยมีมาสำหรับ NLCs


เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการระบาดของน๊อตซิลลูนั่มเมฆ (NLCs) ขนาดใหญ่เกิดขึ้นเนื่องจากฝุ่นละอองของฝุ่นในอวกาศที่เรียกว่า "ควันไฟดาวตก" ถูกพบเห็นได้ในยุโรปและสหรัฐอเมริกา


NLCs เป็นเมฆที่สูงที่สุดในโลก เกิดจากฝุ่นอวกาศพวกมันลอยอยู่ที่ขอบอวกาศมากกว่า 80 กม. เหนือพื้นผิวโลก เมฆนั้นเย็นมากและเต็มไปด้วยผลึกน้ำแข็งขนาดเล็ก เมื่อพระอาทิตย์ตกกระทบคริสตัลพวกเขาจะเปล่งแสงสีน้ำเงิน


โดยปกติแล้ว NLC จะถูกกักขังอยู่ในบริเวณขั้วโลก แต่ปีนี้ผู้คนก็เห็นเมฆดังกล่าว ที่ละติจูดกลางเช่นกัน เมื่อวันที่ 8 และ 9 มิถุนายน เมฆปรากฏตัวในแคลิฟอร์เนีย, ยูทาห์, มินนิโซตา, วิสคอนซิน, วอชิงตัน, มอนแทนา, ไอโอวา, ออริกอน และเมน ระลอกคลื่นสีฟ้าไฟฟ้ายังปกคลุมส่วนมากของยุโรป


James Russell รายงานว่า "เมื่อมีเธนเข้าสู่ชั้นบรรยากาศมันจะถูกออกซิไดซ์โดยปฏิกิริยาที่ซับซ้อนเพื่อสร้างไอน้ำ จากนั้นไอน้ำพิเศษนี้จะพร้อมใช้งานเพื่อสร้างผลึกน้ำแข็งสำหรับ NLCs เขาเสริม" ถ้าแนวคิดนี้ ถูกต้องเมฆ noctilucent เป็นเหมือนนกขมิ้นในเหมืองถ่านหิน ... พวกมันอาจจะดูต่างดาว แต่พวกเขากำลังบอกเราบางสิ่งที่สำคัญมากเกี่ยวกับโลกของเรา "


หลักฐานเพิ่มเติมว่าแกนกลางของโลกยังคงร้อนขึ้น มันสร้างก๊าซมีเธนมากกว่าเท่านั้น แต่ยังมีอัตราการระเหย H20 เร็วขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศของเราคู่กับฝุ่นอวกาศที่เพิ่มขึ้นจากระบบ Nemesis ที่ใกล้เข้ามา และคุณมีสาเหตุที่อยู่เบื้องหลังการปรากฏตัวครั้งใหญ่ของการระบาดครั้งใหญ่ เมฆในปีนี้


นี่คือสิ่งที่พระอาทิตย์ขึ้นเหนือโปแลนด์ดูเหมือนในวันที่ 9 มิถุนายน


HUGE OUTBREAK OF RECORD-SETTING SPACE CLOUDS.


Last night (Sunday, June 9th) sky watchers in the San Francisco Bay Area of California witnessed an extraordinary display of noctilucent clouds (NLCs) above the city lights. This marks one of the lowest-latitude sightings ever of NLCs.


Over the weekend, a huge outbreak of noctilucent clouds (NLCs) occurred as tendrils of frosted space dust referred to as "meteor smoke" were sighted in Europe and the USA as far south as Oregon, Utah and California.


NLCs are Earth's highest clouds. Seeded by space dust, they float at the edge of space more than 80 km above the planet's surface. The clouds are very cold and filled with tiny ice crystals. When sunbeams hit those crystals, they glow electric-blue.


Normally, NLCs are confined to polar regions, but this year people are seeing them at middle latitudes, too. On June 8th and 9th the clouds appeared in California, Utah, Minnesota, Wisconsin, Washington, Montana, Iowa, Oregon and Maine. Electric-blue ripples also blanketed much of Europe.


James Russell reports, "When methane makes its way into the upper atmosphere, it is oxidized by a complex series of reactions to form water vapor. This extra water vapor is then available to grow ice crystals for NLCs. He adds, "If this idea is correct, noctilucent clouds are a sort of canary in a coal mine ... they might look alien, but they're telling us something very important about our own planet."


Further evidence that the core of the earth continues heating up. It's creating not only more methane gases, but faster evaporation rates of H20 into our atmosphere, couple that with increased space dust from the ever nearing Nemesis system and you've got the cause behind the premature appearance of the huge outbreak of these record setting space clouds this year.


This is what sunrise over Poland looked like on June 9th

 

Severe Weather Europe

พายุลูกเห็บรุนแรงในบาเยิร์นเยอรมนีในวันนี้วันที่ 10 มิถุนายน! รายงาน: @HGSchBernard / อากาศรุนแรงเยอรมนี

 

John Traczyk

เมฆอวกาศที่มากขึ้น

 

Steve Pucraw

อัปเดตข้อมูลลูกไฟรายเดือนและแผ่นดินไหว

 

Supercell สีม่วงในเท็กซัส 8 มิถุนายน 2019.

 

... "เทียนอันเหมิน : กับการแทรกแซงจาก OSF จากอเมริกา"


... 15 เมษายน- 4 มิถุนายน1989 เกิดเหตุการณ์ "เทียนอันเหมิน" ในจีน จากข้อมูล"น้ำแข็งลอยเหนือน้ำ" เราจะพบแค่ว่านักศึกษาผู้บริสุทธิ์ของจีนเรียกร้องประชาธิปไตย เลือกตั้งธิปไตยจากรัฐบาลพรรคเดียวคอมมิวนิสต์ จนถูกปราบปรามฆ่าตายอย่างโหดร้าย


... แลพระหว่างนั้น ช่วง 15 - 18 พฤษภาคม1989, ปีเดียวกันนั้น จะมีการประชุมสูงสุดระหว่าง" จีนกับโซเวียตรัสเซีย" โดยนัยยะคือ "การคืนดีกัน" ของทั้งสองชาติใหญ่ของค่ายคอมมิวนิสต์ ที่ช่วงปลาย "สงครามเย็น" มาทะเลาะกันเองเลยทำให้อเมริกาสบายตัวโล่งใจ ศัตรูทะเลาะกันเอง เช่นสมรภูมิในอินโดจีน โซเวียตรัสเซียหนุนเวียตนามทำสงครามกับเขมรแดงที่จีนหนุนหลัง จนคนตายในสงครามหลายล้านคน, อเมริกาพอใจที่ทั้งสองแตกแยกกัน และไม่ต้องการให้คืนดีกัน


... นอกจากจะส่งการทูตปิงปองไปในสมัยปี 1970 ที่เบิกทางให้นิกสันเยือนจีน ในปี1972 ที่จากจุดนั้นคือจุดที่ "จีนคบอเมริกาเพื่อถ่วงอำนาจรัสเซีย", ที่ตามมาด้วยปี 1979 อเมริกาเอาใจจีน บอกว่า"ไต้หวัน" เป็นของจีนใหญ่ ตามนโยบาย "จีนเดียว"


... และระหว่างที่ "อเมริกาคบจีน" เพื่อถ่วงดุลอำนาจโซเวียตรัสเซียนี่เอง ในปี1986, อเมริกาก็ได้ก่อตั้งองค์กรที่คล้ายกับOSF, หรือ Open society foundation ในจีนที่ต่อมามีจอร์จโซรอส เครือข่ายนายธนาคารวอลล์สตรีท, ดำเนินการกำกับดูแลเพื่อส่งเสริมการเลือกตั้งในจีน


... แต่รัฐบาลจีนได้ส่งตำรวจลับเข้ามาแทรกตัวอยู่ตลอด ในองค์กรนี้ เพราะรู้ว่าองค์นี้มีผลกระทบในการชี้นำและหลอกใช้นักศึกษาจีนที่อายุน้อย ( คนจีนเขาเรียนรู้จากประวัติศาสตร์สมัยกบฏไต้ผิง ที่ฝรั่งเศสยุให้คนจีนนับถือคริสต์เพื่อล้มระบบการปกครองและศาสนาเดิม จนประเทศวุ่นวาย อ่อนแอ, คนตายหลายสิบล้านคน )


... และเมื่อข่าวเรื่องการประชุม ระหว่างเติ้งเสี่ยวผิงชายชราอาวุโสของจีนวัย85 กับผู้นำหนุ่มใหญ่วัย58 อย่างกอร์บาชอฟ ของโซเวียตรัสเซีย ที่จะต้องการจบสงครามเย็นเสียทีแพร่ออกไป, อเมริกาไม่ต้องการให้ทั้งสองคืนดีกัน จนบังเอิญเกิดการ"ประท้วงเทียนอันเหมิน" เหมาะเจาะเหลือเกิน


... "ความจริงของก้อนน้ำแข็งใต้น้ำ" ที่ยังไม่ได้เปิดเผยความจริงอีกชุดให้คนทั้งโลกรู้ก็คือ ช่วงนั้น OSF, Open society foundation จาก"อเมริกา" แอบสนับสนุนทั้งทางการเงินและแนวคิดล้างสมองว่า"เลือกตั้งธิปไตย" คือพรจากสวรรค์ชั่นฟ้า เพื่อต้องการแทรกซึมและเปลี่ยนจีนจกับเหล่านักศึกษาคนอายุน้อยมาตั้งแต่ปี 1986 สามปีก่อนหน้านั้น


... แต่สุดท้ายการแทรกแซงผ่านเหตุการณ์เทียนอันเหมิน ไม่สำเร็จ นักศึกษาจีนนิยมเลือกตั้งตายฟรี แต่คนจ่ายตังค์มีชีวิตอยู่ครบในแดนไกลอเมริกา


... หลังจาก "เหตุการณ์เทียนอันเหมิน" ปี1989 รัฐบาลจีนก็ประกาศยกเลิกไม่ให้องค์กรนี้ มาดำเนินงานในประเทศจีนอีกต่อไป ( เหมือนในปี2018 ฮังการี่ประเทศดินแดนเกิดของจอร์จโซรอสก็ประกาศไล่องค์กรในออกจากประเทศไปแล้ว )


(... องค์กร OSF นี้เกี่ยวข้องกับนักการเมืองรุ่นอายุน้อยหลายคนของไทยโดยเฉพาะผ่านสายเวป "ประชาไท" ที่รวมทั้งนักการเมืองหญิงสาวคนดังตอนนี้ด้วย... )


.


.https://www.opensocietyfoundations.org/who-we-are/our-history?#1986-supporting-democracy-in-china

 

Rodolfo Martin Brenes Salvatierra

#เยอรมนี ลูกเห็บ กับพายุฝนฟ้าคะนองที่รุนแรง ในมิวนิก, unwetter, บาวาเรีย #10 มิถุนายน

 

Visudhi Punya

ถนนในเมือง franklin
รัฐ north carolina สหรัฐอเมริกา
เมื่อวานนี้น้ำท่วมจนถนนพังเสียหาย
รถราแล่นผ่านไม่ได้