นิทานสนุก..พระเครื่องและเครื่องราง (แหวนปฐพีไร้พ่าย)

ปิดฉากอย่างงดงาม ท่านกล่าวว่า "ใครคิดว่าตะกรุดนี้ธรรมดาคิดผิดแล้ว ใครพลาดต้องเสียใจด้วย"

เดี๋ยวจะบอกว่า เด็ดดวงอย่างไร ใบ้แค่ แทนฟ้าสะท้าน ปราบพิภพได้เลย...

หลวงตันยังขอไว้ 1 ดอกให้ลูกหลาน

 

หลวงตัน เป็นฆรวาสที่สนิทกับครูบาข่ายตั้งแต่ยังเด็ก อายุอ่อนกว่าครูบาข่าย 1 ปี เล่นกันมาแต่เด็ก

เป็นฆรวาสที่เป็นที่นับถือแก่บรรดาเสือทั้งหมด เรียกว่าวันปีใหม่ทุกคนต้องมาดำหัวคารวะ

ภูติผีปีศาจ ที่ไหนอาถรรพ์ ต้นไม้ไหนอาถรรพ์มาตามขอหลวงตันช่วยปราบ ปราบสิ้นทุกที่ทั้งดอย

ร่ำเรียนวิชาสายฆราวาสมาจนเจนจบ เรียกว่าขอให้หลวงบุญเสกซ้ำยังไม่ยอมเสกซ้ำ ด้วยว่าหลวงตันเป็นระดับอาจารย์เสกไปแล้ว

ดังจะเห็นการเสกปราบพิภพฟ้าสะท้านหรือทุกรุ่นจะให้หลวงตันเสกปิด...

รุ่นนี้หลวงตันกล่าวว่า เสกจนเต็มที่จนเข็นรถมาตามที่ปรึกษาที่วัดให้มารับกลับแต่ไม่พบ

.....

ด้านกระแสพลัง ความแตกต่างจากรุ่นก่อน ๆ ดังนี้....

1.รุ่นนี้หลวงตันเจตนาให้คนได้ไปนำไปต่อเติมเสริมสร้างบารมียึดมั่นในพระศาสนา

2.กระแสพลัง ท่านกล่าวว่า "เป็นพลังหมุนวนขึ้นสูงแล้วมาจรดกลับมาที่ตรงกลางที่เดิม"

ต่างจากปราบพิภพ ฟ้าสะท้านที่ 2 ชุดนั้นพลังพุ่งสูงขึ้นแบบออกผลด้านปราบอย่างชัดเจน

โดยจะแก้ปัญหาในผู้ใช้ปราบพิภพและฟ้าสะท้านคือ ใช้แล้วเกิดอาการหงุดหงิด

3. หลวงตันกล่าวว่า "ลงพลังครบทุกด้านจนเต็มแล้วสุดท้ายก็ต้องมาลงกลับมาที่ด้านปราบเช่นเดิม"

สรุป สุดยอดต่างจากทุกรุ่น และใช้แทนปราบพิภพ ฟ้าสะท้านได้เลย อานุภาพสูสีกันในความแรง

ปราบได้ 10 ทิศไปสอยหัวหน้าเซลได้เลย

 

ในวงการผู้ฝึกจิต หากเป็นตะก่อนมุ่งแต่หาพระ แต่พอคลุกคลีมาก ๆ ได้ทราบว่า ฆราวาสที่เก่ง ๆ มีมากที่พระเองยังมาฝากตัวเป็นศิษย์เรียนวิชา

จึงมี หลักการว่า บุคคล 4 ประเภทที่ไม่ควรประมาท

1.งูพิษตัวน้อย
2.กองไฟกองเล็ก
3. เชื้อพระวงศ์
4. ฆรวาสผู้ปฏิบัติธรรม

มีฆราวาสหลายท่านที่เก่งกาจเรียกว่าเป็นระดับตำนาน แน่นอน การปฏิบัติธรรมไม่จำกัดว่าต้องบวช เป็นฆรวาสก็สำเร็จระดับสูงได้

ยิ่งมาเสกของยิ่งขึ้น เพราะท่านเข้าใจโลก ลงให้เต็มที่ไม่มีข้อห้าม

 

ในภาพ จะนำไปใส่ด้านหลังเหรียญพระพิฆเนศที่ อ.อ่างจะสร้าง

วิชามหาระงับ ตามประสบการณ์ที่พบ ได้สอบถามผู้รู้มาด้วยตนเองจึงยืดยาว ซึ่งผมเคยเล่าไปบ้างแล้วในภาคตะกรุด...

 

สมัยก่อน ๆ ก็หาตะกรุดมหาระงับ เพราะเห็นอานุภาพตามเล่าลือกันมานานว่าระงับเหตุ เภทภัย ระดับเรื่องวุ่นวาย เดือดร้อนทุกชนิด ยิ่งขึ้นโรงขึ้นศาลยิ่งเห็นผล อย่างที่เรียกว่า สูญความ...

ในภาคกลางเรารู้กันว่า ต้นกำเนิดจากวัดประดู่ทรงธรรม ที่ดังๆ ก็จากสายหลวงพ่อเทียม

ผมเคยไปหาหลวงปู่กอง วัดสระมณฑล ก็ได้พบผู้ดูแลท่าน ไม่แน่ใจว่าเป็นญาติหลวงปู่กองไหม ก็ได้เล่าว่า หลวงปู่กอง ศึกษากับหลวงพ่อเทียม และเคยจารตะกรุดมหาระงับให้บุคคลสำคัญไป ซึ่งเกิดผลจริงๆ ไม่ขอลงรายละเอียดมากเพราะนานมาก ๆ แล้วหลายสิบปีได้

ต่อมา ผมก็เช่ามาบ้างจากสำนักดัง ๆ ที่จารมือเช่นกัน ผลจับพลังโดยระดับทั่วไป ก็บอกระงับจริง ๆ แต่ไปใช้แล้วไม่เกิดผลชัดเจน จนงงมาก จนผมได้พบระดับปรมาจารย์ครูบาอาจารย์ระดับสูงตรวจ ท่านตอบว่า "อักขระไม่ครบ" หนาวเลย ให้พวกไปแล้ว

ต่อมาได้พบที่ให้บูชาที่ พระที่ผมรู้จักพาไปหาว่าสืบทอดมา มีการพอกผงครบถ้วน ท่านก็เล่าว่า วิชานี้เมื่อถ่ายทอดไป ก็จะโดนอั้น หรือ หมกเม็ดวิชาจึงสูญหายความครบถ้วนไป กันศิษย์ล้างครู (แบบหัวหน้าเซล)

ครูบาอาจารย์ท่านหนึ่งเล่าว่า "วิชามหาระงับนี้ เวลาใช้รบทัพจับศึก สามารถเดินฝ่าไปจับตัวแม่ทัพนายกองอีกฝ่ายได้เลย หรือขึ้นรบปล้นบ้านสามารถทำให้บ้านนั้นหลับทั้งบ้านได้ หรือเสกข้าวสารซัดหลังคาบ้านใด หลับทั้งบ้าน"

หากให้สุดยอดจริง ก็มีอีกที่ ที่สืบทอดมาจนครบถ้วนเพราะไม่ทิ้งช่วงถ่ายทอดมาก และจะสอนกันเฉพาะคนใกล้ชิดลูกหลานถึงจะไม่มีการหมกเม็ด กันศิษย์ล้างครู

เมื่อผมได้ทราบว่าท่านใดสืบทอดครบถ้วนแต่ก็ขี้เกียดไปแย่งกับเขาครับ เพราะฟังว่าท่านจารที ป่วยที ให้บูชาดอกละ เกือบหมื่น จึงขี้เกียดไปแย่ง

แต่ก็ได้มาอีกที่ ที่ดี ได้ผลจริงๆ ทำน้ำมนต์อาบบ่อย

ในภาพ เป็นตำราของปู่ฤาษีวาโย ผู้ถ่ายทอดวิชาพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4 ให้ครูบาข่าย จึงไม่ต้องสงสัยในอานุภาพ... และไม่มีเหมือนใครไม่มีใครเหมือน ไม่ต้องอ้างพระดัง...

 

วันนี้ถ้าไม่ติดอะไรจะจัดส่งตะกรุดให้ทุกท่านที่ร่วมบุญครับ การสร้างโรงครัวยังต้องใช้งบประมาณอีกมาก สามารถร่วมบุญได้เรื่อย ๆ ตามแต่จิตศรัทธาครับ

เก็บตกการปลุกเสก....

การปลุกเสกรอบนี้ แน่นอนมีของส่วนตัวเล็กน้อยได้ฝากเสกด้วย ซึ่งที่ปรึกษาบอกก็เก็บใส่ถุงรวมกัน เพราะขันครูอยู่ที่หลวงตันเสกเลย กลัวมีคนเห็นจะหยิบไป พูดง่ายๆ กลัวกระจัดกระจายตกหล่นสูญหาย

ปรากฎว่าพอตอนไปรับ หลวงตันได้แยกออกมาแล้ว คือจัดหมวดหมู่ให้เลย และได้บอกกระแสพลังในแต่ละอย่าง ดังเช่น

1.หลวงปู่ทวดที่เป็นรูปประจำตัวผม ซึ่งหลายท่านก็ได้ไปบูชามา ซึ่งตามบอกชุดนี้ชนวนแรงมหาศาล ที่ปรึกษาก็ได้รับไป ผมถวายให้ ได้ฝากเสกด้วย หลวงตัน บอกว่า "ไม่ต้องมาเสกเลยยังได้แรงมากพอแล้ว"

2. วัตถุมงคลอื่น ๆ ท่านก็จำแนกกระแสพลัง และการเสกมาให้เลย คือ แยกเสกแตกต่างกันตามแต่ละอย่าง นับเป็นความรู้ใหม่ต่างจากการเสกมั่วข้ามชาติจริง ๆ ไม่ผิดหวังกับท่านปรมาจารย์แห่งยุคท่านนี้


นับว่าสมเป็นปรมาจารย์จริง ๆ บางอย่างเสกเพิ่มยากยังไงท่านก็อธิบายให้ฟังชัดเจน

 

ทางวัดจัดส่งตะกรุดให้แล้วครับ พรุ่งนี้ QC คงได้รับจะได้รอสัมผัสกระแสพลังแบบพิสดารยามว่าง 555

เครื่องราง ตะกรุดระดับตำนานสร้างแบบใด เสกแบบใดทุกท่านคงทราบ

ที่เขาจัดอยู่ในชุดเครื่องรางสะท้านแผ่นดิน สร้างแบบใด เสกแบบใด

หวังหว่าอานิสงส์การสร้างโรงครัวนี้ ส่งผลให้การเสกด้วยจิตศรัทธาอยากร่วมกุศลนี้โดยหลวงตัน 99 ปี ศิษย์น้องครูบาข่าย ที่ปรึกษายกย่องว่าท่านก็เป็น 1 ในปฐพีเช่นกัน จะส่งผลให้ทุกท่านชนะมาร ชนะศัตรูมีลาภไม่ขาดสายนะครับ...

รอฟังการวิเคราะห์กระแสพลังได้ครับ... ไม่พรุ่งนี้ก็มะรืนคงได้อ่านกัน

จากนั้นผมจะรอฟังรออ่านประสบการณ์ของทุกท่านครับ....

 

ตะกรุด 9 ขึ้น 9 ปัดมีประสบการณ์แล้วนะครับ วันนี้ที่ปรึกษามอบให้ศิษย์ เขานำไปใช้คุยเรื่องสอบเขตที่ดิน วัดที่ปักเขตใหม่ เขาเล่าว่าเจอคนที่รุกเข้ามาในเขต ซึ่งโดยปกติคนนี้คุยยาก ปรากฎว่ายอมโดยง่าย นับเป็นเรื่องแปลกมาก เพราะปกติเรื่องที่ดินรู้กันว่าปวดหัวมาก และคนที่รุกที่ปกติก็คุยยาก

สรุปว่า นำไปใช้เจรจากับพวกคุยยาก คุยไม่รู้เรื่องได้ผลดีมาก ๆ ท่านใดได้ไปแล้วลองนำไปใช้ดูครับ แล้วมาเล่าประสบการณ์ให้ฟังด้วยนะครับ

 

ความรู้อีกด้าน...อาถรรพ์ที่ดิน ที่อยู่อาศัย...

โดยปกติเรื่องแบบนี้ เรามักนึกถึง พวกบ้านผีสิง หรือสถานที่อาถรรพ์ ซึ่งนั่นก็ใช่แต่มีเรื่องปลีกย่อยอีกหลายประเด็น...

การดูที่ดูบ้าน มักมีหลายองค์ประกอบ และเป็นความรู้เฉพาะทางเลย ผมจะเล่าตามที่ครูบาอาจารย์สอนมา และตามประสบการณ์จริง และจากการได้ซื้อบ้านไว้ ตจว.ให้แม่อยู่ ซึ่งมีในองค์ความรู้แห่งวิชาสายหลวงปู่โน

โดยเอาแบบขั้นต้นไม่นับเรื่องไสยศาสตร์ ผีสาง ก็มักดูกันจาก ฮวงจุ้ย ซึ่งตะก่อนผมไม่ค่อยสนใจนัก เพราะถือว่าสัมผัสสิ่งลี้ลับได้ก็จบ หรือมีพระบูชาดี ๆ ก็พอ แต่.... ๆ ๆ ๆ ๆ มันไม่ใช่แบบนั้นเลย 55

เพราะการมีพระเครื่องรางดี จะคุ้มได้แค่เฉพาะคนหรืออาจได้ตามรัศมี แต่หากที่ดิน บ้านมีอาถรรพ์อื่น ก็ส่งผลอยู่ดี เหมือนเราใส่เกราะคุ้มกัน ก็ต้องมีถอดเกราะ และหากผู้เล่นในทางนี้จะรู้ว่า ตัวเรานะละคือสิ่งสำคัญ มันมีปัจจัยหลายอย่างเช่น

- หากเราป่วยไข้ ธาตุไม่สมบูรณ์ หรือเจอวันเดือนดับเข้าพลังอำนาจแห่งของขลังจะลดลงทันที สถานที่หรือผีสางนางไม้ที่สถิตแถวนั้นจะส่งผลต่อเราทันที

- สมัยก่อนผมเห็นมีกะตา พวกพระเยอะ สักยันต์เพียบ โดนหามมาหาหลวงปู่ประหยัดเพื่อรักษา มีคนนึง สมมติชื่อเปียก ห้อยเหรียญพระดังเต็มคอ มีเหรียญพระดังที่ไอ้หัวหน้าเซลแมนอ้างชื่อหากินด้วย พอถาม อ้าวทำไมโดน ก็ตอบแบบไว้หน้าว่า "โดนตอนถอดพระอาบน้ำ 555" เออคงใช่ ใครจะห้อยพระเต็มคออาบน้ำใช่ไหม ยิ่งเลี่ยมสแตนเลสอีก น้ำเข้าพระยุ่งเลย 55

...แต่หากไม่ไว้หน้ามัน บอกความลับอย่างนึงว่า ห้อยพระไรก็เถอะทวารเปิดมันก็เสร็จ...แต่ไม่บอกหรอกครับ เพราะเดียวไอ้หัวหน้าเซลมาอ่านได้วิธีเอาตัวรอดอีก ปล่อยให้มันนอนสะดุ้งผวาต่อไปดีแล้ว....



โดยสรุป วิชาความรู้ฮวงจุ้ยนับว่ามีพลังงานจริง แต่เป็นพลังงานจากฟ้า ดิน ประสานกันแบบ QC บอกละครับ มาอาศัยตัวเราอีกที ดังเช่น หากมีร้านค้า หน้าร้านตรงข้ามเสาไฟฟ้าหรือหม้อแปลงแรงสูง ผมก็เห็นกะตา มักขายไม่ดี เจ๊ง เปลี่ยนเจ้าของบ่อย

หรือตรงที่ผมอาศัย มีสะพานข้ามผ่านหน้า ก็ผิดหลักฮวงจุ้ยอีก เปิดร้านค้าอะไรมักเจ๊ง อยู่ไม่นาน เรียกว่า จะกินข้าวทีต้องเดินซะไกล ไปเลยรัศมีสะพานข้ามแยก ถึงหาร้านค้าได้ ตรงทางลงของสะพานรถวิ่ง หลักฮวงจุ้ยก็บอก เป็นจุดพลังปะทะ อยู่ไม่ดี ร้านก็เจ๊งบ่อย (ทุกวันนี้หาข้าวกินทีต้องไปกินห้าง ตลาดไกล ๆ เลย)

 

จบเรื่อง ฮวงจุ้ยเพราะเดี๋ยวผิดวัตถุประสงค์ จะกลายเป็นกระทู้ฮวงจุ้ยไป 55 มาว่ากันเรื่องสิ่งลี้ลับแห่งที่ดิน

เรื่องภูติผีปีศาจ เป็นนามธรรม เราก็มักพิสูจน์กันไม่ได้ แน่นอน หากแค่ผีสิงเพราะมีคนตาย มักแก้ง่ายเช่นหาพระบูชาแรง ๆ หรือท้าวเวสสุวรรณ ผีก็คงหนีหาย (หากปลุกเสกมาดีนะครับ หากเสกด้านเมตตา ผีชอบอีก ดังจะเห็นในวัดพระประธานเต็มวัด แต่ดันมีผีแฮะ)

อาถรรพ์จากวัตถุก็สำคัญ ดังเช่น หากใกล้บ่อน้ำ หรือมีบ่อน้ำเก่า ก็จะมีผีสิงอาถรรพ์ หรือเป็นคลองเก่าที่น้ำแห้งแล้วถมดินทับ ในวงการรู้กัน บ่อน้ำร้างหากถมดินทับผิด ๆ แล้วไปอยู่ละยุ่งเลย มีผีสิง หรืออาถรรพ์เพียบ

เรื่องนี้ผมเคยถามหลวงปู่ประหยัด ว่าเหตุใดจึงไม่ดี ท่านบอก "บ่อน้ำร้างหรือสระน้ำผีเยอะ เพราะสมัยเป็นคนมักเป็นชุมชนคนอยู่มาก พอตายไปจิตวิญญาณยึดติด จึงมีผีเยอะ"

การแก้ อย่าคิดว่านำพระบูชาดี ๆ ไปบูชาแล้วผีจะหายนะครับ ไม่ใช่เลย ๆ ๆ หรือคิดว่าดีทำได้ ก็แล้วแต่ เพราะเรามองไม่เห็น อาจไม่มีรึว่า แก้ได้ก็ตอบไม่ได้ต้องลองอยู่อาศัยไปครับ 55

 

หลายท่านคงได้รับตะกรุด 9 ขึ้น 9 ปัดวันนี้ ดอกใหญ่คุ้มค่ามาก

ที่ปรึกษาได้แถม ส้มป่อยไปให้ด้วย เป็นส้มป่อยที่เข้าพิธีเสกพลิกฟ้ามาแล้วนะครับ

ส้มป่อยเป็นไม้มงคลทางเหนือครับ นิยมนำแช่น้ำเป็นน้ำมนต์

สรุป ส้มป่อยนี้ นำแช่น้ำ อาบ ปะพรมล้างหน้าได้ครับ แช่น้ำซัก 5 นาที 10 นาทีก็ได้แล้ว ยกออกเก็บบูชาได้ นำกลับมาใช้ได้อีกหลายรอบ

ถ้าแห้งจนไม่ใช้แล้ว แกะเม็ดปลูกได้ครับ 55 เป็นไม้มงคล

 

ครบรอบ 2 ปีแห่งการสร้างมีดหมอ กริชรุ่นอภินิหารปราบไตรจักร

ซึ่งตามเล่าตั้งแต่สมัยหลวงปู่ประหยัดเป็นฆราวาสแล้ว ท่านได้เดินทางไปอุตรดิตถ์เพื่อสั่งตีดาบเหล็กน้ำพี้ประจำตัวของท่านเอง 2 เล่ม ไว้ใช้รักษาคุณไสย

ซึ่ง ต่อมาก็พยายามหาชนวนมวลสาร สังขวานรมาตีรวมกับเหล็กน้ำพี้ แต่ช่างตีมีดดาบบอกว่า เหล็กคนละชนิดรวมกันไม่ได้ คือน้ำพี้จะไม่รวมกับเหล็กอื่น

ผมเองก็เคยซื้อเหล็กน้ำพี้แท้ๆ 1 กก. ก็หลายพัน (ปัจจุบันแพงมาก) บอกให้ผสมกับเหล็กสังขวานรเก่า ๆ ช่างก็บอกทำไม่ได้จริง ๆ

ก็สงสัย แล้วขุนแผนตีดาบฟ้าฟื้นได้ไงหว่า

เอาเหล็กยอดเจดีย์มหาธาตุ ยอดปราสาททวารามาประสม
เหล็กขนันผีพลายตายทั้งกลม เหล็กตรึงโลงตรึงปั้นลมสลักเพชร
หอกสัมฤทธิ์กฤชทองแดงพระแสงหัก เหล็กปฏักสลักประตูตะปูเห็ด
พร้อมเหล็กเบญจพรรณกัลเม็ด เหล็กบ้านพร้อมเสร็จทุกสิ่งแท้
เอาเหล็กไหลพร้อมเสร็จหล่อบ่อพระแสง เหล็กกำแพงเหล็กน้ำพี้ทั้งเหล็กแร่

ที่มา


จึงเป็นปัญหาที่ขบคิดมายาวนาน จนสามารถหาผู้ตีผสานได้ โดยมีสูตรผสมซึ่งถือว่าเป็น Know-how เลย

 

เมื่อได้ประชุมกับพรรคพวก โดยมีเสี่ย ว.ที่ยังมีชีวิตอยู่ตอนนั้น (ปัจจุบันหายสาบสูญ55)

แน่นอน ผมเองกะหลายคนได้เช่าหามีดหมอมามาก โดยความเชื่อว่ากันผี รักษาคุณไสย

เสาะแสวงหาจนเจอมีดหมอดังๆ (ไม่กล้าเอาของเก่ากลัวปลอมและแพงไป)

ซึ่งในวงการคงทราบว่ามีดหมอดัง ๆ สำนักดังคือที่ใด ราคาแพงมาก มีด 3 นิ้วยังหลายพัน ถ้าหลัก ๆ 7 นิ้วเป็นหมื่น แต่เขาบอกชนวนเขาดี

พอตัดใจเช่ามา พอถึงเวลาสถานการณ์จริงเอาทำน้ำมนต์ แก้ปัญหาตัวเองกลับไม่สำเร็จ สุดท้ายผมต้องขอหลวงปู่ประหยัดรักษาจนได้ งง มาก ทำไมมีดเราขลังไม่พอ (ขลังแต่ใช้จริงอีกเรื่อง)

จนพบสาเหตุ ...

1. ชนวนมีจริง แต่พอไปค้นหาการสร้างชนวนนิดเดียวแต่ตีมาไม่มีจบสิ้น อ้าว กรรม.....

2. การปลุกเสกแม้ดี แต่นั่นละครับ เราไม่ขอวิจารณ์

จึงเป็นต้นกำเนิดแห่งการสร้างเอง แต่อย่างที่บอกใช้ทุนมหาศาล ชุดที่เคยสร้างไป หากคำนวณกำไรขาดทุน ขาดทุนยับ 55

 

จบเรื่องรวมชนวนสำเร็จ ต่อเรื่องการเสกเครียดกันอีก จวบจนที่ปรึกษาได้ให้ความรู้ และเสาะหาพระในป่า (ป่าจริง ๆ เดินทางครึ่งวันตรงข้ามกะหัวหน้าเซลแมนคุยโว)

คือต้องหาผู้เสกตรงสาย ท่านบอกให้ดีเสกเดี่ยวไปเลย หากครูบาข่ายยังอยู่นะได้เลย

ปัจจุบันครูบาทองละสังขารไปแล้ว ปีกว่า ผมจำได้เพราะผมขึ้นไปตอนท่านละสังขารพอดี แต่ไม่ทันได้ไปร่วมเผาเพราะผม นอน โรงพยาบาลอยู่ตามเคยเล่าเรื่องดวงชะตาไป

ถามที่ปรึกษามีอีกไหมที่เสกมีดหมอได้ ท่านบอก "ไม่มีอีกแล้ว" (ที่ท่านรู้จักนะครับ)

 

ชนวนหลักสำคัญคือเหล็กก้านท่อ ยอดฉัตรพระธาตุเก่าแก่นับพันปี (อาจบูรณะมาเป็นระยะ ๆ ) ใบฉัตร เจ้าของนำมาหลอมสร้างปู่ฤาษีบูชาส่วนตัว เหล็กก้านยอดฉัตรเลยเสร็จเราเลย

ซึ่งเหล็กก้านยอดฉัตรรุ่นนั้นยังเหลือตกค้างมาอยู่และได้นำมาผสานเก็บไว้ รอการสร้างใหม่อีก...

ชนวนสำคัญไหม...

1. จริง ๆ เหล็กสังขวานรเก่าโดยปกติหากที่มาดี (ที่มาดีนะครับ) ก็ใช้ไล่ผีได้แล้ว ดังพรรคพวกที่ปรึกษามีสังขวานรเก่าแก่หลายร้อยปี เป็นของประจำกายที่ไม่ยอมเอาไปตีมีด นำมาใช้ไล่ผีสำเร็จทุกงาน

2. ตามตำราสร้างมีด เทพอาวุธที่ปรึกษาบอกมีหลายชนิดมาผสาน เหมือนสร้างพระผงละครับ ต้องเอาหลายอย่างจัดหมวดหมู่ รวมผสานเสกสำเร็จจะดีที่สุด พลังคงตัว

อย่าเอามามั่วไม่มีที่มาชัดเจน ไม่ขลังไม่ว่า กลัวมีปัญหาอีกเช่นขโมยมา อาถรรพ์ติดมาแน่

 

กำเนิด ส้มป่อยพลิกฟ้า

ผู้บูชาตะกรุด 9 ขึ้น 9 ปัดจะได้รับส้มป่อยไปแล้ว ส้มป่อยนี้ไม่ธรรมดาเพราะเป็นส้มป่อยเขาเสกพร้อมพิธีพลิกฟ้า

ทางเหนือจะนำแช่น้ำ ปะพรมเป็นน้ำมนต์รึอาบ ถือเป็นไม้มงคล ซึ่งที่มาของสิ่งนี้คือ ตำนานทรพี ทรพา

นิทานจากพรหมจักร ชาดก ชาดกล้านนาเรื่อง "อุสสาบารส" กล่าวถึง เรื่องของส้มป่อยว่า ครั้งหนึ่ง มีควายชื่อทรพี คิดอยากเอาชนะพ่อ จึง ท้าชนทรพาผู้พ่อ ทั้งสอง ต่อสู้กันจนเวลาล่วงเลย ฝ่ายทรพีเพลี่ยงพล้ำถูก ทรพาไล่ขวิดจนถอยร่น ไปไกล ขณะนั้นเองทรพี ได้ถอยไปชนต้นส้มป่อยที่กำลังออกฝักอยู่ ด้วยกำลังที่ชน อย่างแรงทำให้ฝักส้มป่อยหล่นลงมาถูกหัวทรพี ทันใดนั้น กำลังที่เคยอ่อนล้าหมดแรง เกิดฮึกเหิมเพิ่มขึ้น ได้ทีทรพี จึงถาโถมเข้าชนทรพาอย่างเมามัน ผู้เป็นพ่อเสียที หมด แรงถอยไปชนต้นมะขามป้อม ลูกมะขามป้อมหล่นถูกหัว เรี่ยวแรงที่อ่อนล้ายิ่งหมดไป จึงถูกทรพี ผู้เป็นลูกฆ่าตาย ในที่สุด เรื่องนี้อาจเป็นต้นเหตุหนึ่งของความเชื่อในอนุภาพ ของน้ำส้มป่อย
ในวรรณกรรมชาดกเรื่อง "ปุณณนาคกุมาร" ตอนที่ ปุณณนาคกุมารเข้ากราบทูลพระบิดาเพื่อขออนุญาตทิ้ง สภาวะอันเป็นนาคให้กลายเป็นมนุษย์ พระบิดาทรงอนุญาต และได้ประทานขันทองคำให้ ๑ ใบ แล้วให้หาส้มป่อยให้ได้ฝัก ที่มี ๗ ข้อ จำนวน ๗ ฝัก เอาแช่ในขันที่มีน้ำจาก ๗ แม่น้ำ และ ๗ บ่อ นำไปที่ฝั่งแม่น้ำใหญ่ เสกคาถา ๗ บท จำนวน ๗ คาบ ถอดคราบออก และอาบน้ำมนต์พร้อมสระเกล้าดำหัว จากนั้นเอาคราบนาคนั้นใส่ในขันทองคำไหลลงน้ำเสียจึงจะ เป็นคนโดยสมบูรณ์ การใช้ส้มป่อยที่ปรากฏในเรื่องนี้ ก็แสดง ให้เห็นถึงความเชื่อในคุณสมบัติของส้มป่อยอีกเรื่องหนึ่ง

ที่มา

https://www.m-culture.go.th/young/ewt_news.php?nid=215&filename=index

ผู้ติดตามการปลุกเสกสายผมมา คงจะเห็นหลังการปลุกเสกจะมีการนำน้ำมนต์แช่ส้มป่อย ปะพรมวัตถุมงคล จึงถือว่าสำเร็จ นั่นละครับสำคัญตรงนี้


และในบรรดาส้มป่อยที่ดีที่สุดต้องเป็น ส้มป่อยเดือน 5 (ทางเหนือ)

คือจะเป็นฝักงาม ตามที่ส่งไป เรียกว่า ปีนึง ได้แค่ครั้งเดียว ต้องสั่งกันเลยครับ... หากเป็นเดือนอื่น จะฝักเล็ก ด้านอานุภาพเขาว่า จะน้อยกว่าส้มป่อยเดือน 5 (คล้ายๆ น้ำผึ้งเดือน 5 ) แต่เป็นเดือน 5 ทางเหนือนี่สิ การนับเดือนจะต่างกัน และต้องมาผ่านกรรมวิธีรักษาอีกที

คุ้มค่ามากครับ แช่น้ำอาบ ล้างหน้าเลย ฝักเก็บไว้ได้ ใช้ได้อีกหลายครั้ง หากไม่ใช่แล้ว แกะเม็ดปลูกเลย 55

 

อำนาจแห่งวิชาสายปราบ.....

การสร้างตะกรุดแต่ละรุ่นที่เป็นสายปราบ ผมเคยสงสัยแล้วอาศัยอำนาจจากสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด

เพราะตามครูบาอาจารย์สายอริยเจ้าอย่างหลวงปู่เหิรบอกมา แน่นอน พระรัตนตรัยยิ่งอำนาจพุทธคุณ แน่นอนไม่เคยปราบทำร้ายใคร มีแต่ใช้เมตตาจิต

แม้พญามารมารังควานในบทพาหุง ซึ่งกล่าวไว้ พญามารก็แพ้ด้วยอำนาจพุทธบารมี จากแม่พระธรณีบีบมวยผมเกิดสายน้ำพัดพาพญามารไป ซึ่งกล่าวในบทพาหุงบทแรก...

ในภาพ คือตำราของปู่ฤาษีวาโย ผู้ให้กำเนิดตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4 ที่เป็นตำนานไปแล้ว


หลังจากแปลออกมา ที่ปรึกษาได้ขยายความให้ฟัง กล่าวถึงตำนาน อาฬวกยักษ์

ซึ่งกล่าวในบทพาหุง บทที่ 2 นั่นเองดังนี้

มาราติเรกะมะภิยุชฌิตะสัพพะรัตติง
โฆรัมปะนาฬะวะกะมักขะมะถัทธะยักขัง
ขันตีสุทันตะวิธินา ชิตะวา มุนินโท
ตันเตชะสา ภะวะตุ เต* ชะยะมังคะลานิ



อาฬะวะกะยักษ์ผู้มีจิตกระด้าง ปราศจากความยับยั้ง
มีฤทธิ์ใหญ่ยิ่งกว่าพระยามาร เข้ามาประทุษร้ายอยู่ตลอดรุ่ง
องค์พระจอมมุนีก็เอาชนะได้ ด้วยขันติบารมี
ด้วยเดชะอันนี้ ขอชัยมงคลจงมีแก่เรา

ที่มา
https://trang82.wordpress.com/2010/09/04/พุทธประวัติ-ตอน-โปรดอาฬว/

ในสายมหาปราบสร้างเทพอาวุธ หรือมีดหมอเป็นต้น ก็ได้กล่าวถึง อาฬวกยักษ์ ในบทคาถามีดหมอ ด้วย

สักกัสสะวชิราวุธธัง เวสสุวัณนะสะคะธาวุธธัง อาฬาวะกะสะธุสาวุธธัง ยะมะสะนัยนาวุธธัง นารายยะสะจักกะราวุธธัง ปัญจะอาวุทธานัง เอเตสังอานุภาเวนะ ปัญจะอาวุธธานัง ภัคคะภัคขา วิจุณนัง วิจุณาโลมังมาเมนะ พุทธะสันติ คัจฉะอะมุมหิ โอกาเสติฐาหิ"

ซึ่งพระคาถานี้รวมอาวุธห้าประการที่ถือว่ามีอิทธิฤทธิ์ คือ


1)...วชิราวุธอาวุธประจำกายพระอินทร์ที่ปราบมารร้ายและอสูร
2)...ไม้เท้ากระบองที่ยันกายขององค์ท้าวเวสสุวรรณ อันเป็นเจ้าแห่งภูตผีทั้งหลายไม่ว่าจะเป็นผีอะไรต้องเกรงกลัวท่านท้าวเวสสุวรรณทั้งนั้น
3)...ผ้าแดง ของอาฬาวะกะยักษ์ ที่พ่ายแพ้แก่บารมีของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ผ้าแดงนี้เป็นอาวุธที่ร้ายแรงตามที่โบราณกล่าวว่าถ้าผ้าผืนนี้ตกลงบนพื้นพิภพแห่งใดจะไหม้เป็นจุณและปลูกอะไรไม่ขึ้นจนตลอดกาล
4)...นัยเนตร ของท่านพญายมราช ที่เพ่งแล้วภูตผีทั้งหลายจะมอดไหม้ไปเป็นจุลมหาจุล
5)...กงจักร ของพระนารายณ์ ตามลัทธิพราหมณ์ถือว่ากงจักรของพระนารายณ์นี้ปราบได้ทั้งสวรรค์ อสูร และใต้บาดาล มีอิทธิฤทธิ์มากมายเหลือคณานับ

ที่มา
http://xn--72cfrlg1fdg1ffr8b6cwc4f5b5e.com/?name=blog&file=readblog&id=22

 

ตำราของปู่ฤาษีวาโย ได้กล่าวถึงที่มาของ อาฬวกยักษ์ ว่า...

โดยลงโทษจากท้าวเวสสุวรรณให้ไปสงบจิตใจบำเพ็ญภาวนาในเขตต้นไม้แห่งหนึ่ง จนกว่าจะได้พบพระพุทธเจ้าจึงจะพ้นการลงโทษนี้

ซึ่งในบทพาหุงบทที่ 2 ได้เล่าไว้ว่า พระพุทธเจ้าทรงโปรดตอบปัญหาและแสดงธรรมจนอาฬวกยักษ์ บรรลุเป็นพระอริยบุคคล จากนั้นก็พ้นจากการลงโทษนี้ ....

ประเด็นสำคัญในธรรมล้านนามีการขยายเพิ่มเติม ซึ่งที่ปรึกษากล่าวว่า ธรรมล้านนาจะถอดจากพระไตรปิฎกมาขยายความและสอดแทรกสรรพวิชาโดยปรมาจารย์โบราณซึ่ง ถอดซ่อนกลไว้ ยกตัวอย่างที่เกี่ยวข้องในตำราปู่ฤาษีวาโยดังนี้..

"ก่อนอาฬวกยักษ์จะทูลลาพระพุทธเจ้า ก็ได้มอบ มนต์สำคัญหรือครูบาอาจารย์ใช้คำว่า รหัส หรือคาถาไว้ หากเวลาจำเป็นสามารถดึงพลังหรือใช้อำนาจอาฬวกยักษ์ได้"

มนต์สำคัญนี้เองก็คือคาถา ซึ่งแน่นอนไม่ได้นำมาใช้ด้านเมตตาแน่ แต่มาใช้ด้านปราบครับ... และนำมาใช้ในการเสกตะกรุดพญาจักรวรรติราชปราบพิภพทั้ง 4