ติดตามสถานะการณ์

Setiawan

รายงานชั่วคราวใน Solok
แผ่นดินไหวSolok, สุมาตราตะวันตก, 28 กุมภาพันธ์ 2019
M.5.6 ความลึก 10 กม
06:27:05 น เวลาประเทศไทย







Nagari Talunan, Sangir Balai Janggo
- บ้านเสียหาย 30 หลัง
- ผู้เยาว์บาดเจ็บ 1 ราย
Nagari Sungai Kunyit
อำเภอ Sangir, Balai Janggo
- บ้านเรือนเสียหาย 4 หลัง
- บ้านเสียหาย 6 หลัง
- 10 คนบาดเจ็บเล็กน้อย

Temporary report in Solok

Earthquake Solok, West Sumatra 28Feb2019
M.5.6 Depth 10Km
06:27:05 a.m

Nagari Talunan, Sangir Balai Janggo
- 30 moderately damaged houses
- 1 minor person injured

Nagari Sungai Kunyit
Sangir District, Balai Janggo
- 4 houses were severely damaged
- 6 moderately damaged houses
- 10 people were slightly injured

 

The MATTER

BRIEF: สนช.มีมติผ่าน พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์แล้ว! ให้อำนาจเจ้าหน้าที่ ค้นสถานที่-ยึดคอมฯ ได้หากเห็นว่ามี 'ภัยคุกคามระดับร้ายแรง'
.
ที่ประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) มีมติ 133-0 เห็นชอบให้ร่าง พ.ร.บ.ความมั่นคงไซเบอร์ ได้บังคับใช้เป็นกฎหมายอย่างเป็นทางการ
.
เนื้อหาสำคัญของร่างกฎหมายฉบับนี้ที่ถูกนำเข้าสู่การพิจารณา คือ การนิยามสิ่งที่เรียกว่า ‘ความมั่นคงไซเบอร์’ เอาไว้ว่า
.
“การกระทำหรือการดำเนินการใดๆ โดยมิชอบ โดยใช้คอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ หรือโปรแกรมไม่พึงประสงค์โดยมุ่งหมายให้เกิดการประทุษร้ายต่อระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลคอมพิวเตอร์ หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง และเป็นภยันตรายที่ใกล้จะถึงที่จะก่อให้เกิดความเสียหาย หรือส่งผลกระทบต่อการทำงานของคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้อง”
.
พร้อมกับกำหนดความร้ายแรงของภัยความมั่นคงไซเบอร์ไว้ 3 ระดับคือ ภัยระดับไม่ร้ายแรง ภัยระดับร้ายแรง และภัยระดับวิกฤติ
.
ประเด็นสำคัญที่หลายฝ่ายจับตากัน คือมาตรการรับมือในกรณีที่เกิดภัยระดับร้ายแรงนั้น ให้ คณะกรรมการกำกับดูแลด้านความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ (กกม.) ซึ่งมีรัฐมนตรีดิจิทัลฯ เป็นประธาน มีอำนาจสั่งการต่างๆ
.
ที่น่าสนใจคือในร่างมาตรา 64 กำหนดอำนาจเพื่อรับมือภัยร้ายแรง 5 ข้อคือ
.
1) เฝ้าระวังคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์ในช่วงเวลาใดเวลาหนึ่ง
.
2) ตรวจสอบคอมพิวเตอร์ หรือระบบคอมพิวเตอร์เพื่อหาข้อบกพร่อง
.
3) กำจัดข้อบกพร่อง หรือชุดคำสั่งไม่พึงประสงค์
.
4) รักษาสถานะข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ด้วยวิธีการใดๆ เพื่อดำเนินการทางนิติวิทยาศาสตร์ทางคอมพิวเตอร์
.
5) เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์หรือข้อมูลอื่นที่เกี่ยวข้องกับระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องเฉพาะเท่าที่จำเป็น (เฉพาะข้อ 5 นี้ต้องยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาเป็นกรณีฉุกเฉินเสียก่อน)
.
ส่วนในร่างมาตรา 65 กำหนดให้ กกม. มีอำนาจ 4 ข้อเพื่อรับมือและลดความเสี่ยงภัยคุกคามระดับร้ายแรง
.
1) ตรวจสอบสถานที่ มีหนังสือแจ้งเหตุอันสมควรไปยังเจ้าของสถานที่ หากมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่ามีคอมพิวเตอร์หรือระบบคอมพิวเตอร์ที่เกี่ยวข้องกับภัยคุกคามไซเบอร์ หรือได้รับผลกระทบจากภัยคุกคามไซเบอร์
.
2) เข้าถึงข้อมูลคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ ข้อมูลอื่นที่เกี่ยวกับระบบคอมพิวเตอร์ ทำสำเนา สกัดคัดกรองข้อมูลสารสนเทศหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์
.
3) ทดสอบการทำงานของคอมพิวเตอร์ที่มีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่่ยวหรือกระทบจากภัยคุกคามไซเบอร์
.
4) ยึดหรืออายัดคอมพิวเตอร์ ระบบคอมพิวเตอร์ หรืออุปกรณ์ใดๆ เฉพาะเท่าที่จำเป็นซึ่งมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเกี่ยวข้องกับภัยคุกคามทางไซเบอร์เพื่อตรวจสอบหรือวิเคราะห์ ไม่เกิน 30 วัน เมื่อครบกำหนดแล้วให้ส่งคืน
.
โดยในข้อ 2,3,4 นั้น ต้องยื่นคำร้องให้ศาลพิจารณาก่อน
.
ส่วนกรณีเกิดภัยคุกคามไซเบอร์ระดับ 'วิกฤติ' นั้น ให้สภาความมั่นคงแห่งชาติมีอำนาจในการจัดการปัญหา และสามารถดำเนินการสิ่งต่างๆ เท่าที่จำเป็นเพื่อป้องกันและเยียวยาความเสียหายไปก่อน แล้วจึงแจงศาลในภายหลัง
.
.
อ้างอิงจาก

http://library.senate.go.th/document/mSubject/Ext84/84726_0001.PDF?fbclid=IwAR1Seub0sE0yNLyRTaXY-ljL3irtB5eDjP2gCj1ZvanbRZOvCOXx-3aWJ-s

https://ilaw.or.th/node/5173

https://prachatai.com/journal/2019/02/81141

#Brief #พรบไซเบอร์ #TheMATTER

 

หัวหน้ากลุ่มกบฏโมโร ในฟิลิปปินส์ รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งเขตปกครองตนเองของชาวมุสลิม


Al-Hajj Murad Ebrahim นายกรัฐมนตรีมุสลิมในเขตปกครองตนเองคนแรกของฟิลิบปินส์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากประธานาธิบดี ดูเตเตอร์ของฟิลิบปินส์
จากการลงประชามติครั้งประวัติศาสตร์เมื่อวันที่ 21 มกราคมและ 6 กุมภาพันธ์ในมินดาเนาทางใต้ของฟิลิปปินส์เพื่อเอกราชของชาวมุสลิมโมโร

นอกจากนี้ยังมีการประกาศในระหว่างพิธีซึ่งจัดขึ้นในเขตปกครองตนเองบางซาโมโรในเมืองหลวงของโคตาบาโตของชาวมินดาเนา (BARMM) ซึ่งสมาชิกบางส่วนของแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) ได้รับตำแหน่งต่างฯจากการแต่งตั้งของกระทรวงต่างๆรวมถึงการศึกษา, การเงินและงบประมาณ และสาธารณสุข

.นายมูราด อิบราฮิม ผู้นำกลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยอิสลามโมโร (MILF) ที่ต่อสู้เรียกร้องเอกราชจากฟิลิปปินส์มาอย่างยาวนานกว่าครึ่งศตวรรษ ขึ้นดำรงตำแหน่งผู้นำ ‘เขตปกครองตนเองบังซาโมโร’ ที่จัดตั้งขึ้นหลังจากที่บรรลุข้อตกลงแรกเริ่มกับรัฐบาล และเสียงประชามติส่วนใหญ่เมื่อช่วงต้นปี 2019 ที่ผ่านมา สนับสนุนให้จัดตั้งเขตปกครองดังกล่าวขึ้น




โดยเขตปกครองตนเองบังซาโมโรครอบคลุม 5 จังหวัดบนเกาะมินดาเนาที่ตั้งอยู่ทางใต้ของฟิลิปปินส์ ซึ่งประชากรส่วนใหญ่บนเกาะนับถือศาสนาอิสลามแตกต่างจากพื้นที่อื่นที่นับถือศาสนาคริสต์ โดยนายอิบราฮิมจะเป็นผู้นำทีมบริหารในช่วงการเปลี่ยนผ่านนี้ ก่อนที่จะมีการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่ในช่วงปี 2022 ประกอบไปด้วยสมาชิก 80 คน เป็นสมาชิกของ MILF 41 คน อีก 39 คนเป็นสมาชิกที่ได้รับการสรรหาจากประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต

ภายใต้ข้อตกลงสันติภาพ กลุ่มกบฏยินยอมที่จะล้มเลิกเป้าหมายที่จะแบ่งแยกดินแดนจากฟิลิปปินส์ โดยแลกกับการจัดตั้งเขตปกครองตนเองที่มีสิทธิมีเสียงในการตัดสินใจมากยิ่งขึ้น โดยสมาชิกกลุ่มกบฏและกลุ่มติดอาวุธนี้จะค่อยๆ ปรับตัวและกลับเข้าสู่วงจรการใช้ชีวิตปกติแทนการรบราฆ่าฟันและใช้ความรุนแรง ซึ่งปัญหาที่ชาวมุสลิมส่วนใหญ่เกือบ 4 ล้านคนในเขตปกครองต้องเผชิญคือปัญหาความยากจน

ตลอด 5 ทศวรรษที่ผ่านมา ความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนคร่าชีวิตผู้คนชาวฟิลิปปินส์ไปไม่น้อยกว่า 120,000 คน การเพิ่มอำนาจและให้สิทธิในการจัดตั้งเขตปกครองตนเองเป็นกุญแจสำคัญของการบรรลุข้อตกลงสันติภาพในครั้งนี้ ในขณะที่กลุ่มแนวร่วมปลดปล่อยแห่งชาติโมโร (MNLF) ที่ไม่เห็นด้วยกับแนวทางดังกล่าวก็ยังคงเคลื่อนไหวและออกปฏิบัติการใช้ความรุนแรงอยู่จนถึงปัจจุบัน

http://news.muslimthaipost.com/news...-p3H1kaIzO31GYJSpx63_2tV3-dFPXqFEy9bSuRTovRzM

 

China Xinhua News

กระแสดี! ที่พัก 'แคปซูล' จากท่อซีเมนต์ขนาดยักษ์ นอนสบายกลางทะเลทรายอิสราเอล
.
ที่พักฟาร์มสเตย์รูปแบบแหวกแนวที่สร้างจากท่อซีเมนต์ขนาดใหญ่เรียงต่อกันแห่งนี้ ตั้งอยู่ที่ทะเลทรายเนเกฟ (Israeli Negev desert) ประเทศอิสราเอล มีจำนวนทั้งหมด 10 ห้อง สามารถรองรับแขกได้ 20 คน
.
ครอบครัวนาฮีมอฟ (Nahimov) ผู้เป็นเจ้าของที่พักแห่งนี้ระบุว่า พวกเขาอยากจะให้นักท่องเที่ยวที่มีงบน้อยสามารถเข้าถึงทะเลทรายที่สวยงามแห่งนี้ได้ โดยได้รับความสะดวกสบายในห้องนอนที่สร้างด้วยวัสดุชั้นดี ไม่ต้องนอนกางเตนท์
.
ที่พักแคปซูลเช่นนี้กำลังเป็นกระแสมาแรงในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวทั่วโลก โดยคาดว่ามูลค่าตลาดที่พักแคปซูลจะแตะ 226 ล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2022

 

Clima Extremo 24

สหรัฐอเมริกา

หลุมยุบในพาวเวลล์ รัฐเทนเนสซี กว้างประมาณ 25 ฟุต และลึก 60 ฟุต ซึ่งก่อตัวขึ้นกลางถนนยังคงขยายตัว

 

Clima Extremo 24

JERUSALEM

หลังจากฝนตกหนักทำให้ดินถล่มและกำแพงตกลงมาในกรุงเยรูซาเล็ม

 

Clima Extremo 24
OREGON

แผ่นดินถล่มทำให้เกิดการพังทลายของถนน และสร้างรอยแตกขนาดใหญ่บนทางหลวงหมายเลข 101 ทางตอนเหนือของบรูกกิ้ง ทำให้เกิดการปิดถนนซึ่งยังคงจมอยู่

 

Clima Extremo 24

โอเรกอน

ภาพที่ถูกจับผ่านโดรน จากความรุนแรงของรอยแตกขนาดใหญ่ที่เกิดขึ้นหลังจากการถล่มและการพังทลายของทางหลวงหมายเลข 101 ทางเหนือของ Brookings

 

Clima Extremo 24

อินโดนีเซีย

ถล่มทลายครั้งใหญ่ในเหมืองทองที่ถูกฝัง ในอินโดนีเซีย 26 ก.พ. ผู้เสียชีวิต 13 คนบาดเจ็บ 19 คน และผู้ถูกฝังหลายคน

 

Clima Extremo 24

มหาสมุทรแปซิฟิก

รายงานพายุดีเปรสชันเขตร้อนใหม่ในแปซิฟิกใต้ ใกล้กับฟิจิ ผ่านดาวเทียม ไต้ฝุ่นวูติพ ในแปซิฟิกเหนือและสิ่งที่เหลืออยู่ของพายุไซโคลนโอมา

 

จีนร้อง “อินเดีย-ปากีฯ” อย่าเพิ่มความตึงเครียดไปมากกว่านี้
เผยแพร่: 28 ก.พ. 2562 11:46 ปรับปรุง: 28 ก.พ. 2562 11:47 โดย: ผู้จัดการออนไลน์


เอเอฟพี – รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของจีนเรียกร้องให้ปากีสถานและอินเดียหลีกเลี่ยงการเพิ่มความตึงเครียด และแสดง “ความกังวลลึกซึ้ง” ต่อรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของปากีสถานเกี่ยวกับวิกฤตแคชเมียร์ท่ามกลางความกลัวว่า การสู้รบทางอากาศอาจพัฒนากลายเป็นความขัดแย้งเต็มรูปแบบ

ความคิดเห็นของ หวัง อี้ ออกมาในขณะที่ ชาห์ เมห์มูด กูเรชี โทรศัพท์หาเขาเมื่อวานนี้ (27) เพื่อรายงานสถานการณ์ล่าสุดในความตึงเครียดนี้ กระทรวงการต่างประเทศของจีน ระบุในวันนี้ (28)

หวังบอกกับกูเรชีว่า เขาหวังว่าสองเพื่อนบ้านผู้ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์จะ “ใช้ความยับยั้งชั่งใจและทำตามคำมั่นสัญญาที่จะป้องกันไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลายอย่างจริงจัง” ถ้อยแถลงของกระทรวงฯ ระบุ

ความตึงเครียดระหว่างสองศัตรูทางประวัติศาสตร์รุนแรงมากขึ้นอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่มีประกาศว่า พวกเขาได้ยิงเครื่องบินขับไล่ของอีกฝ่ายตกเมื่อวานนี้ (27)

ถึงแม้ว่าทั้งสองฝ่ายจะพยายามไม่ให้ความสำคัญกับความเสี่ยงเกิดสงคราม แต่การสู้รบทางอากาศเหนือพื้นที่พิพาทและถูกแบ่งแยกในแคชเมียร์กำลังเพิ่มความเสี่ยงในภาวะตึงเครียดที่มีชนวนมาจากเหตุระเบิดฆ่าตัวตายที่แคชเมียร์ฝั่งอินเดียในเดือนนี้




นิวเดลีประกาศว่าจะตอบโต้กลับหลังจากกลุ่มติดอาวุธในปากีสถาน จาอิช อี โมฮัมเหม็ด (เจอีเอ็ม) อ้างความรับผิดชอบต่อการโจมตีดังกล่าว ซึ่งคร่าชีวิตทหารหลายสิบคนในแคชเมียร์ฝั่งอินเดีย

เมื่อวันอังคาร (26) อินเดีย ระบุว่า กองทัพอากาศได้ทำการโจมตีค่ายของกลุ่มติดอาวุธเจอีเอ็มภายในปากีสถาน การโจมตีครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 1971 ครั้งล่าสุดที่พวกเขาเคยเข้าโจมตีอาณาเขตในแคชเมียร์

ปักกิ่ง หนึ่งในพันธมิตรใกล้ชิดที่สุดของปากีสถาน ทุ่มเงินหลายหมื่นล้านดอลลาร์เข้าสู่ประเทศนี้ในฐานะส่วนหนึ่งของโครงการโครงสร้างพื้นฐานขนาดใหญ่ที่ต้องการเชื่อมต่อมณฑลซินเจียงทางตะวันตกของจีนกับเมืองท่ากวาดาร์ในบาโลจิสถานติดทะเลอาหรับ

เมื่อวานนี้ (27) อังกฤษ ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ ร้องขอให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติลงชื่อ มาซูด อัซฮาร์ ผู้นำกลุ่มเจอีเอ็มในบัญชีดำก่อการ้ายของยูเอ็น ซึ่งจะทำให้เขาถูกห้ามเดินทางทั่วโลกและถูกอายัดทรัพย์สิน ความเคลื่อนไหวที่คาดว่าจีนน่าจะคัดค้าน

จีนขัดขวางความพยายามบังคับใช้การคว่ำบาตรต่อผู้นำของเจอีเอ็มในปี 2016 และ 2017 ตัวกลุ่มเจอีเอ็มถูกเพิ่มลงในรายชื่อก่อการร้ายแล้วเมื่อปี 2001

https://mgronline.com/around/detail/9620000020630

 

Bank of Thailand Scholarship Students


(Feb 28) เปิดปมขัดแย้ง‘อินเดีย-ปากีสถาน’ : การเผชิญหน้ากันยังถือเป็นความท้าทายด้านนโยบายต่างประเทศครั้งใหญ่ครั้งแรกของนายกรัฐมนตรีอิมราน ข่าน ของปากีสถาน ที่รับตำแหน่งเมื่อปีก่อนและพยายามเจรจากับอินเดีย


ความสัมพันธ์ระหว่างสองเพื่อนบ้าน “อินเดีย-ปากีสถาน” ตึงเครียดขึ้นอีก หลังจากอินเดียโจมตีทางอากาศในดินแดนปากีสถาน และปากีสถานตอบโต้ด้วยการยิงเครื่องบินรบอินเดียตก 2 ลำในแคชเมียร์ พร้อมทั้งสั่งปิดน่านฟ้าทั้งประเทศ ขณะที่อินเดียสั่งปิดสนามบินทางเหนือจนสหรัฐต้องเตือนสองชาติที่ต่างก็มีนิวเคลียร์ด้วยกันทั้งคู่ขอให้อดทนอดกลั้น


ความตึงเครียดรอบใหม่ระหว่างอินเดียกับปากีสถานปะทุขึ้นตั้งแต่วันที่ 14 ก.พ. จากเหตุระเบิดพลีชีพในแคชเมียร์ ดินแดนแถบหิมาลัยที่ต่างฝ่ายต่างอ้างกรรมสิทธิ์ ระเบิดพลีชีพคร่าชีวิตทหารอินเดีย 40 นาย


รัฐบาลนิวเดลีประกาศตอบโต้ ด้วยการส่งเครื่องบินรบเข้าไปในน่านฟ้าปากีสถาน เมื่อวันอังคาร (26 ก.พ.) ถล่มค่ายกลุ่มจาอิช อี โมฮัมเหม็ด (เจ็ม) ที่อ้างว่าอยู่เบื้องหลังระเบิดแคชเมียร์


ซุสมา สวาราชรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย แจ้งกับรัฐมนตรีต่างประเทศจีนและรัสเซียว่า การชิงลงมือโจมตีก่อนโดยหวังผลจำกัดกระทำได้อย่างแม่นยำ จัดการกับโครงสร้างพื้นฐานของจาอิช อี โมฮัมเหม็ด เพื่อป้องกันไม่ให้มาโจมตีก่อการร้ายในอินเดียได้อีก


ด้านรัฐบาลอิสลามาบัด ที่ปฏิเสธว่าการโจมตีของอินเดียไม่ได้ทำให้เกิดความเสียหายใหญ่หรือมีผู้เสียชีวิต ก็ประกาศว่าจะเอาคืนแน่นอน ยิ่งทำให้หวั่นเกรงกันว่าจะเกิดการเผชิญหน้ากันในเอเชียใต้


ดินแดนแคชเมียร์เป็นชนวนให้สองชาติทำสงครามกันมาแล้ว 2 ครั้ง และสู้รบเล็กๆ น้อยๆ กันอีกนับไม่ถ้วน แต่น้อยครั้งมากที่ทหารบกหรือทหารอากาศจะข้ามเส้นแห่งการควบคุม (แอลโอซี) ที่มีทหารดูแลอย่างเข้มข้น ถือเป็นพรมแดนโดยพฤตินัยระหว่างสองคู่อริ


การสู้รบย้อนอดีตไปได้ถึงปี 2490 ที่เกิดสงครามขึ้นครั้งแรก หลังจากอนุทวีปนี้แยกเป็นอินเดียกับปากีสถานมหาราชาแห่งแคชเมียร์ยอมรับอินเดีย ขณะที่นักรบชนเผ่าจากปากีสถานเปิดการโจมตี ปี 2508 สองชาติทำสงครามกันครั้งที่ 2 เป็นเวลาสั้นๆ ก่อนประกาศสงบศึก ปี 2514 อินเดียกับปากีสถานทำสงครามกันอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่เรื่องแคชเมียร์ แต่เป็นเรื่องการปกครองปากีสถานตะวันออกของรัฐบาลอิสลามาบัดนิวเดลีสนับสนุนนักชาตินิยมเบงกอลที่ต้องการแยกประเทศเป็นบังกลาเทศ กองทัพอากาศอินเดียจึงช่วยโจมตีในปากีสถาน


ปี 2527 ทหารอินเดียยึดธารน้ำแข็งเซียเชน พื้นที่สูงไร้ผู้คนในเทือกเขาคาราโครัม ที่ปากีสถานอ้างกรรมสิทธิ์อยู่ด้วย ทั้งสองประเทศปะทะกันหลายครั้ง ถือเป็นการสู้รบบนพื้นที่สูงครั้งแรกก่อนลงนามหยุดยิงในปี 2546


ปี 2542 กลุ่มติดอาวุธที่ปากีสถานหนุนหลังข้ามพรมแดนแคชเมียร์เข้ามายึดป้อมทหารอินเดีย บนเทือกเขาคาร์จิล ทหารอินเดียผลักดันผู้บุกรุกถอยไปได้ สิ้นสุดความขัดแย้ง 10 สัปดาห์ที่ทั้งสองฝ่ายต้องสังเวย 1,000 ชีวิต


ก.ย.2559 อินเดียเปิดการโจมตีเฉียบขาด พุ่งเป้าแคชเมียร์ปากีสถาน ตอบโต้ที่ก่อนหน้านั้นไม่ถึง 2 สัปดาห์กลุ่มติดอาวุธเล่นงานค่ายทหารอินเดีย ทหารเสียชีวิต 19 นาย แต่ปากีสถานปฏิเสธว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต่อมาในเดือน พ.ย. ทหารอินเดียถูกกลุ่มติดอาวุธสังหารอีก 7 นาย


ปี 2559 กองกำลังกึ่งทหารอินเดียถูกโจมตีพลีชีพในเขตแคชเมียร์ของอินเดีย เสียชีวิตอย่างน้อย 40 นาย รัฐบาลนิวเดลีกล่าวหาว่าเป็นฝีมือของกลุ่มเจ็ม


สำหรับความขัดแย้งรอบใหม่"ไมค์ ปอมเปโอ"รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐคุยกับรัฐมนตรีต่างประเทศ 2 คู่กรณีแล้ว แถลงเรียกร้องให้ทั้งอินเดียและปากีสถานอดทนอดกลั้น หลีกเลี่ยงสถานการณ์บานปลายที่จะทำให้เกิดความเสียหายตามมา เช่นเดียวกับเสียงเรียกร้องจากจีนและสหภาพยุโรป


“หากผมเป็นวอชิงตัน ผมจะกระหน่ำโทรศัพท์และส่งสัญญาณว่าอยากให้สถานการณ์ลดความตึงเครียดลงเดี๋ยวนี้ ยอมเสี่ยงเล่นบทนี้จะได้ผลยิ่งใหญ่มาก”โมอีด ยูซุฟผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันสันติภาพในกรุงวอชิงตันให้ความเห็น


Source: กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/828228

 

Chalee Na Roied


ตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำล่วงหน้า แต่ไม่มีการส่งมอบทองคำกันจริงๆซึ่งเป็นตลาดยักษ์ใหญ่ คือ ตลาดนิวยอร์ก และลอนดอน อาจจะเรียกว่าเป็น Paper gold"ก็ว่าได้ ตั้งขึ้นก็เพื่อทุบราคาทองคำ เพื่อรักษามูลค่าเงินดอลลาร์ เพราะถ้าดอลลาร์อ่อนค่าลง ธนาคารกลางของแต่ละประเทศ จะหันไปเก็บทองคำเป็นเงินสำรองแทนสกุลเงินดอลลาร์

แต่การซื้อขายแลกเปลี่ยนทองคำที่เป็น Physical gold และมีการส่งมอบทองคำกันจริงๆนั้น เกิดขึ้นนานแล้วครับ ซึ่งบรรดาประเทศที่ ใช้ทองคำในการกำหนด อัตราแลกเปลี่ยนระหว่างกัน โดยไม่ใช้เงินดอลลาร์นั้น คือ รัสเซีย จีน อิหร่าน ตุรกี และเวเนซุเอลา ที่สหรัฐพยายามหาทางโค่นล้มในเวลานี้

ล่าสุดมีรายงานว่า รัฐบาลเวเนซุเอลา ขายทองคำสำรองอีก 8 ตัน เพื่อแลกกับความช่วยเหลือ ซึ่งไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทองคำจำนวนดังกล่าวนี้ เวเนซุเอลาขายให้กับชาติใด ไม่รวมทองคำสำรองจำนวน 23 ตันก่อนหน้านั้น และคาดว่าทองคำสำรองเหล่านี้ ปลายทางแต่ก็คงหนีไม่พ้น ประเทศพันธมิตรของเวเนซุเอลาที่กล่าวมา


https://www.reuters.com/article/us-...-gold-last-week-legislator-idUSKCN1QG2QG?il=0

 

ออสเตรเลียเผชิญฤดูร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ 28 ก.พ. 2019 11:57:07

ซิดนีย์ 28 ก.พ.- รัฐบาลออสเตรเลียแถลงวันนี้ว่า ออสเตรเลียเผชิญกับฤดูร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ตั้งแต่ช่วงเดือนธันวาคม-กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพยากรณ์อากาศระบุว่าช่วงฤดูใบไม้ร่วงจะยิ่งแล้งหนักขึ้น และร้อนขึ้นกว่าอุณหภูมิเฉลี่ยปกติ

ผู้อำนวยการสำนักอุตุนิยมวิทยาออสเตรเลียกล่าวว่า อุณหภุมิร้อนเดือดช่วงเดือนธันวาคม-มกราคมซึ่งแน่นอนว่าฤดูร้อนนี้นับว่าร้อนที่สุดเป็นประวัติการณ์ และคาดว่าสูงขึ้นเป็นครั้งแรกเฉลี่ยกว่า 2 องศาเซลเซียส ขณะที่ฝนตกในปริมาณน้อยกว่าปกติ และภัยแล้งรุนแรงยังยืดเยื้อ กระทบต่อพื้นที่การเกษตรสำคัญทางภาคกลางและภาคตะวันออกเฉียงใต้เป็นเวลาต่อเนื่องหลายเดือน ก่อนหน้านี้สำนักอุตุนิยมวิทยารายงานว่าเดือนมกราคมเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดเท่าที่เคยบันทึกมาในออสเตรเลีย ซึ่งหมายถึงอุณหภูมิเฉลี่ยทั่วประเทศสูงเกินกว่า 30 องศาเป็นครั้งแรก คลื่นความร้อนเมื่อมกราคมมีส่วนทำให้ปลาตายกว่า 1 ล้านตัวในแม่น้ำเมอร์เรย์-ดาร์ลิง ทางด้านไฟไหม้ป่าซึ่งมักเกิดขึ้นในช่วงฤดูร้อนออสเตรเลีย ลุกลามจากทางตะวันออกเฉียงใต้ไปถึงตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศเมื่อมกราคม .-สำนักข่าวไทย

https://www.tnamcot.com/view/HOqnIV9

 

ส่งออกม.ค.ทรุด หดตัวรอบ30ด. กัดฟันดันโต8% 23 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2562 เวลา 00:01 น.


“ส่งออก” ปีหมูประเดิมไม่สวย ม.ค.ติดลบ 5.65% ต่อเนื่อง 3 เดือน ทำขาดดุล 4,032 ล้านดอลลาร์ สูงสุดในรอบ 7 ปี ชี้เหตุสงครามการค้า-ค่าเงินบาทที่แข็งโป๊ก เตือนผู้ส่งออกอย่าคิดว่าบาทจะแข็งแค่ 31 บาท/ดอลลาร์

เมื่อวันศุกร์ น.ส.พิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ ได้แถลงตัวเลขการส่งออกเดือนมกราคม (ม.ค.) 2562 ว่ามีมูลค่า 1.89 หมื่นล้านดอลลาร์ ลดลง 5.65% เทียบกับ ม.ค.2561 ซึ่งเป็นการติดลบต่อเนื่อง 3 เดือน และติดลบครั้งแรกในรอบปีนี้ แต่ถ้าเทียบในรูปเงินบาทการส่งออกมีมูลค่า 6.16 แสนล้านบาท ลดลง 5.72% ส่วนนำเข้ามีมูลค่า 2.30 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 13.99% ทำให้เดือน ม.ค.ขาดดุลการค้าเดือน ม.ค.2562 มูลค่า 4,032.4 ล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการขาดดุลการค้าสูงสุดในรอบ 7 ปี นับตั้งแต่เดือน ม.ค.2556 ที่ไทยขาดดุลการค้า 5,916.2 ล้านดอลลาร์
น.ส.พิมพ์ชนกแถลงต่อว่า สาเหตุที่ทำให้การส่งออกเดือน ม.ค.ติดลบ มีสาเหตุสำคัญคือ ผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐอเมริกาและจีน ทำให้การส่งออกไทยในเดือน ม.ค.2562 สูญเสียรายได้ 240.5 ล้านดอลลาร์ แบ่งเป็นผลจากมาตรการทางตรงสหรัฐที่ใช้มาตรการภาษีกับสินค้าทั่วโลก โดยการส่งออกสินค้าไทยในกลุ่มที่สหรัฐใช้มาตรการภาษีมีการส่งออกไปสหรัฐ 64.2 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 8.25% หรือเป็นผลบวกต่อการส่งออกไทยในเดือนนี้ 4.92 ล้านดอลลาร์ เช่น โซลาร์เซลล์ ส่งออกเพิ่ม 24.2% เครื่องซักผ้าส่งออกเพิ่ม 6.6% เหล็ก ลด 2.7% อะลูมิเนียม เพิ่ม 46.1%
ขณะที่กลุ่มสินค้าไทยที่เป็นห่วงโซ่การผลิตของจีน แต่ได้รับผลกระทบจากการที่สินค้าจีนถูกสหรัฐใช้มาตรการภาษี พบว่าการส่งออกสินค้าไทยกลุ่มดังกล่าวไปจีนมีมูลค่า 1,877 ล้านดอลลาร์ ลดลง 17.3% ซึ่งเป็นผลลบต่อการส่งออกทำให้ไทยสูญเสียรายได้ 393.4 ล้านดอลลาร์ เช่น ยานพาหนะและส่วนประกอบลด 49.7% ของใช้ในบ้านและออฟฟิศลด 39.6% ส่วนประกอบคอมพิวเตอร์และแผงวงจรลด 22.3% เครื่องใช้ไฟฟ้าและส่วนประกอบลด 4.4% อาหารปรุงแต่งและเครื่องดื่มลด 40.6% เคมีภัณฑ์และเม็ดพลาสติกลด 7.1% และผลจากการส่งออกสินค้าไปทดแทนสินค้าจีนในตลาดสหรัฐ พบว่ามีมูลค่า 1,723 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 9.4% มีผลบวกต่อการส่งออก 148 ล้านดอลลาร์ เช่น เหล็กเพิ่ม 66.8% เคมีภัณฑ์ และเม็ดพลาสติกเพิ่ม 16.3%
นอกจากนี้ การส่งออกสินค้าไทยเดือน ม.ค.ยังได้รับผลกระทบจากค่าเงินบาทแข็งค่า ทำให้การส่งออกสินค้าเกษตรได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่มีคำสั่งซื้อชะลอตัวลง เนื่องจากราคาข้าวไทยสูงกว่าคู่แข่งขัน และกระทบต่อผู้ส่งออกที่ได้รายได้เมื่อแลกกลับมาเป็นเงินบาทลดลง ซึ่งเรื่องนี้เชื่อว่าธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จะดูแลอย่างใกล้ชิด แต่ในส่วนของผู้ส่งออกต้องทำประกันความเสี่ยง และอย่าคิดว่าเงินบาทจะหยุดแข็งค่าแค่ 31 บาท/ดอลลาร์ เพราะมีแนวโน้มที่เงินบาทจะแข็งค่าต่อเนื่องในอนาคตตามภาวะเศรษฐกิจไทยที่ดีขึ้น โดยเฉพาะหลังเลือกตั้ง และผู้ผลิตควรใช้โอกาสที่ค่าเงินบาทแข็งค่านำเข้าเครื่องจักรและวัตถุดิบเข้ามาลงทุน
“ส่วนผลกระทบอื่นๆ คือราคาน้ำมันดิบปรับตัวลดลง ทำให้สินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันมีมูลค่าลดลง ราคาทองคำลดลง ทำให้มูลค่าการส่งออกทองคำลดลง และการส่งออกรถยนต์ในเดือน ม.ค.ส่งออกได้น้อย 8 หมื่นคัน จากออเดอร์ที่สั่งเข้ามา 1 แสนตัน แต่เชื่อว่าการส่งออกรถยนต์จะกลับมาปกติภายใน 1-2 เดือน หลังจากที่ผู้ประกอบการปรับแผนการผลิต ขณะที่การขาดดุลการค้าในเดือนนี้ที่สูงมาก ส่วนหนึ่งมาจากการนำเข้าอาวุธยุทธปัจจัย มีมูลค่า 2,133 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 4,837.50% เนื่องจากมีการซ้อมรบระหว่างไทยและสหรัฐ และซ้อมรบไทยและญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองประเทศมีการนำเข้าอาวุธในการซ้อมรบเข้ามา ซึ่งถูกบันทึกในระบบของศุลกากร” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว
ทั้งนี้ การส่งออกปี 2562 หากจะโตได้ตามเป้าหมายที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดไว้ 8% มูลค่าส่งออกที่เหลือต้องได้เดือนละ 2.3 หมื่นล้านดอลลาร์ หากโต 5% การส่งออกต้องได้เดือนละ 2.23 หมื่นล้านดอลลาร์ และหากโต 3% การส่งออกต้องได้เดือนละ 2.19 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งแนวโน้มการส่งออกไตรมาส 1 ยังได้รับผลกระทบของสงครามการค้าและค่าเงินบาทแข็งค่า คาดว่าสถานการณ์ส่งออกจะกลับมาดีขึ้นประมาณไตรมาส 2 เป็นต้นไป
“ปัจจัยที่จะมีผลกระทบต่อการส่งออกไทยในช่วง 1-2 เดือนนี้ นอกจากสงครามการค้า ค่าเงินบาทแข็งค่า คือผลกระทบจากการที่ประเทศคู่แข่งของไทยทำเขตการค้าเสรี (เอฟทีเอ) กับประเทศต่างๆ เช่น เอฟทีเอเวียดนาม-สหภาพยุโรป (อียู) และการที่ไทยถูกญี่ปุ่นตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) วันที่ 1 เม.ย.2562 ซึ่งเป็นประเด็นที่มองข้ามไม่ได้” น.ส.พิมพ์ชนกกล่าว และว่า แนวโน้มการแข่งขันในภูมิภาคที่จะรุนแรงเพิ่มขึ้น หลังจากที่ประเทศเพื่อนบ้านเช่น กัมพูชาและเมียนมาถูกอียูตัดสิทธิพิเศษทางภาษีจะทำให้มีการแข่งขันกับไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสินค้าข้าวที่จะเข้ามาแข่งขันในตลาดจีน อีกทั้งจีนมีนโยบายความมั่นคงทางด้านอาหารที่ส่งเสริมการปลูกพืชในประเทศต่างๆ ก็จะกระทบกับไทยเช่นกัน โดยเฉพาะยางพาราที่ไทยควรต้องลดพื้นที่ปลูกอย่างจริงจัง เพราะแนวโน้มแข่งขันสูง
ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ได้รายงานถึงมูลค่าการส่งออกสินค้าของไทยในเดือน ม.ค.2562 อยู่ที่ 18,993.9 ล้านดอลลาร์ ติดลบ 5.65% ถือว่าหดตัวมากกว่าที่คาด และนับว่าเป็นการหดตัวสูงสุดในรอบ 30 เดือน (ตั้งแต่ ก.ค.2559) โดยมีหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนและอียู ผลกระทบสงครามการค้า และราคาน้ำมันดิบโลกที่อยู่ในระดับสูง
“ศูนย์วิจัยกสิกรไทยยังคงประมาณการอัตราการขยายตัวของการส่งออกสินค้าไทยในปี 2562 ไว้ที่ 4.5% โดยทิศทางการส่งออกสินค้าไทยในช่วงไตรมาสแรกจะหดตัวในช่วงติดลบ 4-8% หรือคิดเป็นมูลค่าเฉลี่ยต่อเดือนประมาณ 19,300-20,100 ล้านดอลลาร์” ศูนย์วิจัยกสิกรไทยระบุ.

https://www.thaipost.net/main/detail/29735

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ชาวพม่ารวมตัวกลางย่างกุ้งหนุนแก้รัฐธรรมนูญฉบับทหาร

.

ย่างกุ้ง 28 ก.พ.- ประชาชนชาวพม่าหลายพันคนรวมตัวกันในนครย่างกุ้งวานนี้ (27) เพื่อแสดงการสนับสนุนต่อการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ ท่ามกลางความตึงเครียดที่เพิ่มสูงขึ้นระหว่างพรรครัฐบาลและทหารเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญของประเทศที่ปกป้องบทบาทของกองทัพในการเมือง

.

ผู้ชุมนุมรวมตัวกันในย่านใจกลางเมืองย่างกุ้งเพื่อรับฟังการปราศรัยจากนักเคลื่อนไหวด้านประชาธิปไตยขณะที่นักร้องนำฝูงชนร้องตะโกน “หยุดพักเสีย เผด็จการทหาร” ในการชุมนุมที่เกิดขึ้นเป็นครั้งที่ 2 ในช่วงสัปดาห์

.

พรรคสันนิบาตแห่งชาติเพื่อประชาธิปไตย (NLD) ของนางอองซาน ซูจี เริ่มเสนอแก้ไขเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญในเดือน ม.ค.และผ่านมติรัฐสภาที่จะจัดตั้งคณะกรรมการเพื่อแนะนำการแก้ไข แม้สมาชิกรัฐสภาฝ่ายทหารจะคัดค้านก็ตาม

.

ข้อเสนอดังกล่าวนับเป็นความท้าทายใหญ่ที่สุดของซูจีที่มีต่ออำนาจทหารในรอบเกือบ 3 ปี และก่อให้เกิดการประท้วงในหมู่สมาชิกสภานิติบัญญัติฝ่ายทหาร ที่ยืนสงบนิ่งเป็นเวลาหลายนาทีเพื่อแสดงการคัดค้าน แต่ในท้ายที่สุดข้อเสนอดังกล่าวผ่านมติรับรองจากรัฐสภาที่พรรค NLD ครองเสียงส่วนใหญ่

.

“เรากำลังชุมนุมเพื่อสนับสนุนคณะกรรมการการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เราอยู่ฝั่งเดียวกับประชาชน” ยิน เถว หนึ่งในผู้จัดการชุมนุม กล่าว

.

ในการแถลงข่าวเมื่อวันเสาร์ (23) โฆษกกองทัพกล่าวหาว่าพรรค NLD กำลังใช้กระบวนการที่ไม่ถูกต้องในการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ที่ร่างขึ้นระหว่างการปกครองของทหาร

.

“การตั้งคณะกรรมการร่วมที่จะแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญ” พล.ต. ตุน ตุน นี

.

แต่อย่างไรก็ตาม พล.ต.ตุน ตุน นี กล่าวว่า สมาชิกรัฐสภาฝ่ายทหารจะมีส่วนร่วมในคณะกรรมการดังกล่าว

.

ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับปี 2551 ทหารได้รับการรับประกันที่นั่ง 1 ใน 4 ในรัฐสภา และการแก้ไขเปลี่ยนแปลงใดๆ จำต้องได้รับเสียงสนับสนุนมากกว่า 75% ของสมาชิก ซึ่งเป็นผลให้กองทัพมีสิทธิยับยั้ง

.

นอกจากนี้ รัฐธรรมนูญยังขัดขวางซูจี จากการเป็นประธานาธิบดี ด้วยกำหนดห้ามมิให้ผู้ที่ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีมีคู่สมรสหรือบุตรเป็นชาวต่างชาติ แต่ซูจีมีบุตรชาย 2 คน กับสามีชาวอังกฤษที่ล่วงลับไปแล้ว

.

รัฐธรรมนูญยังให้ทหารควบคุมกระทรวงต่างๆ ที่รับผิดชอบด้านความมั่นคง ที่รวมทั้งกระทรวงกลาโหม และกระทรวงมหาดไทย

.

อย่างไรก็ตาม พรรค NLD ไม่ได้กล่าวว่ามาตราใดของรัฐธรรมนูญที่พรรคต้องการจะปฏิรูป แต่ในช่วงที่ผ่านมา สมาชิกบางส่วนของพรรคได้เรียกร้องที่จะแก้ไขมาตรา 436 ที่ให้สิทธิยับยั้งแก่ทหารในการปฏิรูปรัฐธรรมนูญ

.

“เราต้องการที่จะแก้ไขทุกส่วนที่ขัดขวางการทำงานของรัฐบาลในปัจจุบัน” เต็ง ตุน ผู้ร่วมการชุมนุมอายุ 73 ปี ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนพร้อมกับภรรยา กล่าว.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

เจ้าหน้าที่โสมแดงทัวร์โรงงานไฮเทค ชมอ่าวฮาลองศึกษาความสำเร็จเวียดนาม

.

เวียดนาม 28 ก.พ.- ระหว่างที่ผู้นำเกาหลีเหนือเตรียมพบหารือกับผู้นำสหรัฐฯ ในกรุงฮานอยวานนี้ (27) เจ้าหน้าที่ระดับสูงของโสมแดงได้ออกเดินทางไปเยี่ยมชมโรงงานเทคโนโลยีขั้นสูงและสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังของเวียดนาม เพื่อมองหาหนทางที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ถูกคว่ำบาตรของพวกเขาด้วยการคัดลอกความสำเร็จของศัตรูเก่าของสหรัฐฯ อีกรายหนึ่ง

.

ขณะที่ทรัมป์พยายามโน้มน้าวคิม จองอึน ให้ก้าวไปสู่การปลดอาวุธนิวเคลียร์อย่างสมบูรณ์ ทรัมป์ได้เน้นย้ำถึงศักยภาพทางเศรษฐกิจและตัวอย่างที่เวียดนามนำเสนอ

.

เมื่อครั้งที่ผู้นำโสมแดงเยือนสิงคโปร์ในเดือนมิ.ย. เพื่อร่วมซัมมิตครั้งแรกกับทรัมป์ คิมประทับใจกับการพัฒนาและกล่าวว่าเขากระตือรือร้นที่จะเรียนรู้จากประสบการณ์ดังกล่าว แต่เวลานี้ เขาต้องการที่จะเรียนรู้จากเวียดนาม

.

กลุ่มผู้ช่วยด้านเศรษฐกิจและนโยบายต่างประเทศที่เดินทางมาเวียดนามพร้อมกับคิม ได้เดินทางออกจากกรุงฮานอยไปยังนครหายฟ่อง (Haiphong) เมืองท่าอุตสาหกรรมและอ่าวฮาลอง (Ha Long Bay) สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมของประเทศ

.

ที่นครหายฟ่อง คณะผู้แทนได้เดินทางไปเยี่ยมชมบริษัทวินฟาสต์ (Vinfast) บริษัทผู้ผลิตรถยนต์ บริษัทวินสมาร์ท (VinSmart) บริษัทผลิตสมาร์ทโฟน และบริษัทวินอีโค (VinEco) ผู้ผลิตจัดหาสินค้าเกษตรและอาหาร ซึ่งบริษัททั้งหมดนี้อยู่ในเครือบริษัทวินกรุ๊ป (Vingroup) ที่เป็นกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ที่สุดของเวียดนาม

.

นอกจากนั้น สมาชิกบางส่วนในคณะได้เดินทางไปล่องเรือในอ่าวฮาลอง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของประเทศ ตามการรายงานของสถานีโทรทัศน์ KBS ของเกาหลีใต้

.

เวียดนามที่ปกครองด้วยระบบสังคมนิยมเจริญเติบโตอย่างรวดเร็วนับตั้งแต่เริ่มปฏิรูปเศรษฐกิจโด่ยเหม่ยในปลายทศวรรษ 1980

.

“การปฏิรูปเศรษฐกิจโด่ยเหม่ยของเวียดนาม เป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับเกาหลีเหนือ ที่ต้องการรักษาระบบพรรคเดียว ในขณะเดียวกันก็ดำเนินการปฏิรูปเศรษฐกิจเพื่อการเติบโต” ผู้เชี่ยวชาญด้านเศรษฐกิจเกาหลีเหนือของธนาคาร IBK ในกรุงโซล กล่าว

.

ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่า ด้วยขนาด ประชากร การเป็นประเทศเกษตรกรรม และความต้องการเงินทุนต่างชาติ ทำให้เวียดนามเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับเกาหลีเหนือที่จะดำเนินรอยตามมากกว่าจีน

.

คณะเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือภายใต้การนำของ รี ซู ยอง รองประธานพรรคแรงงานเกาหลีและอดีตรัฐมนตรีต่างประเทศเกาหลีเหนือ ยังรวมถึงโอ ซู ยอง ผู้กำหนดนโยบายด้านเศรษฐกิจระดับสูงของเกาหลีเหนือ ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความหวังของผู้นำโสมแดงที่ต้องการจะเรียนรู้จากเวียดนาม

.

การเลือกโรงงานทั้ง 3 แห่งและแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในครั้งนี้ของคณะเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือ สะท้อนถึงการเรียกร้องของคิมในเรื่อง “เทคโนโลยีก้าวหน้า” และเศรษฐกิจที่พึ่งพาตนเองได้

.

บริษัทวินฟาสต์ เป็นบริษัทผู้ผลิตรถยนต์รายแรกของเวียดนาม ในขณะที่บริษัทวินสมาร์ท เปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นแรกที่ผลิตขึ้นภายในประเทศในชื่อวีสมาร์ทเมื่อปีก่อน

.

แม้ว่าเวียดนามจะมุ่งมองความสนใจใหม่ไปยังอุตสาหกรรมเทคโนโลยีขั้นสูง แต่เกษตรกรรมยังคงเป็นแหล่งส่งออกสำคัญของประเทศ และขับเคลื่อนการเติบโตทางเศรษฐกิจ ซึ่งบริษัทวินอีโคส่งเสริมการทำกสิกรรมอย่างยั่งยืน

.

ส่วนอ่าวฮาลอง สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนได้มากกว่า 12 ล้านคนเมื่อปีก่อน ตัวเลขที่คิม จองอึนได้แค่ฝันถึง

.

เกาหลีเหนือกำลังสร้างสถานที่ท่องเที่ยวในเมืองวอนซาน ทางชายฝั่งตะวันออก และเมืองซัมจิยอน ใกล้ภูเขาเพ็กตู

.

คิม อิล ซุง ปู่ของคิม จอง อึน เคยเดินทางเยือนอ่าวฮาลองในปี 2507 และเมื่อวันพุธ (27) สำนักข่าวยอนฮับของเกาหลีใต้รายงานว่า เจ้าหน้าที่เวียดนามได้มอบภาพถ่ายการเยือนให้คณะเจ้าหน้าที่เกาหลีเหนือเพื่อเป็นของขวัญสำหรับคิม จอง อึน.

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

เขมรอวดเรือใหม่เพิ่งได้จากญี่ปุ่น ศุลกากรฟิตจัดไล่จับบุหรี่เถื่อนในอ่าวไทย

.

กัมพูชา 28 ก.พ.- กรมใหญ่ศุลกากรและสรรพสามิตกัมพูชาสามารถจับยึดบุหรี่หนีภาษีได้กว่า 1,000 ห่อ ขณะเรือประมงกัมพูชาลำหนึ่งลักลอบขนเข้าในเขตน่านน้ำติดชายแดนเวียดนาม เป็นการออกปฏิบัติการเที่ยวแรกของเรือตรวจชายฝั่งลำใหม่ อันเป็นหนึ่งในสองลำที่ได้รับการช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่นเมื่อเร็วๆนี้

.

กรมใหญ่ศุลกากรฯ ออกแถงข่าวเรื่องนี้ช่วงข้ามวันที่ผ่านมา เหตุเกิดในน่านน้ำระหว่างเกาะสองเกาะ ชายฝั่ง จ.แก๊บ (Kep) ติดชายแดน จ.เกียนซยาง (Kiem Giang) ริมทะเลอ่าวไทยของเวียดนาม โดยจับยึดได้ทั้งหมด 1,129 ห่อ (Carton) หรือ กว่า 11,000 ซอง แต่ไม่ได้ให้รายละเอียดใดๆ เกี่ยวกับบุหรี่เถื่อนดังกล่าว รวมทั้งต้นทางที่เรือประมงลำดังกล่าวไปรับมาอีกด้วย

.

เจ้าหน้าที่ได้นำเรือหาปลาลำดังกล่าวเข้าฝั่ง เพื่อสอบสวนบุคคลที่เกี่ยวข้องและดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

.

เรือเร็วทั้งสองลำรวมอยู่ในแผนความร่วมมือช่วยเหลือจากรัฐบาลญี่ปุ่น ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของกัมพูชา ในรูปเงินกู้ผ่อนปรน ผ่านองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น หรือไจก้า พิธีรับมอบเรืออย่างเป็นทางการจัดขึ้นวันจันทร์ 25 ก.พ.ที่ผ่านมา

.

เรือได้ช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการปราบปรามการลักลอบขนสินค้าหนีภาษีเข้าประเทศ เป็นการเสริมสร้างความมั่นคงปลอดภัยชายฝั่งอีกด้วย กรมใหญ่ศุลกากรฯ ระบุ

.

ตามตัวเลขอย่างเป็นทางการนั้น ปี 2561 กรมใหญ่ศุลกากรฯ กัมพูชา สามารถจัดเก็บภาษีสินค้านำเข้า เป็นรายได้เข้ารัฐรวม 2,500 ล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 32% เทียบกับปี 2560 และ มากกว่าแผนการราว 121.4% ในนั้นเป็นรายได้จากการจัดเก็บภาษีศุลกากรเพียงอย่างเดียว เพิ่มขึ้น 18% ภาษีพิเศษ (สรรพสามิต) อื่นๆ เพิ่มขึ้น 42.4% และ ภาษีมูลค่าเพิ่ม 30.7%

.

สัปดาห์นี้รัฐบาลกัมพูชาโดยกระทรวงเศรษฐกิจและการเงิน ได้เซ็นสัญญารับความช่วยเหลือรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4,939 ล้านเยน หรือ 45.3 ล้านดอลลาร์ จากองค์การไจก้าในกรุงพนมเปญ โดยแบ่งเป็นเงินให้เปล่า 11.8 ล้านดอลลาร์ กับเงินกู้ผ่อนปรน 33.5 ล้านดอลลาร์

.

เงินช่วยเหลือให้เปล่าจะนำไปใช้ปรับปรุงระบบอิเล็กทรอนิกส์เกี่ยวกับการติดต่อสื่อสาร ของท่าเรือสีหนุวิลล์และท่าเรือพนมเปญให้ทันสมัย โดยยกระดับขึ้นเป็นระบบดิจิทัลทั้งหมด ให้สามารถรองรับเรือสมัยใหม่ที่แล่นเข้าออกท่าเรือทั้งสองแห่งได้ทุกชนิดและประเภท

.

เงินกู้จะนำไปใช้ในการก่อสร้างและซ่อมแซมระบบชลประทาน สนองนาข้าวกว่า 12,700 เฮกตาร์ (กว่า 79,000 ไร่) ใน 3 จังหวัด ทางทิศตะวันตกแม่น้ำโตนเลสาป ฉละโครงการขุดลอกคูคลองอีกจำนวนหนึ่ง จำนวนที่เหลือจะใช้ในโครงการพัฒนาการเกษตรเพื่อการท่องเที่ยว เพื่อช่วยยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชนในท้องถิ่น ให้ได้รับประโยชน์โดยตรงจากการท่องเที่ยวแห่งชาติ ที่เติบโตอย่างเข้มแข็ง

.

ตามตัวเลขของกระทรวงเศรษฐกิจฯ ปี 2561 ที่ผ่านมารัฐบาลญี่ปุ่นได้สนองเงินกู้แก่กัมพูชามาแล้ว 2 ครั้ง ในรูปของความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ หรือ โอดีเอ (Official Development Assistance) รวม 132.7 ล้านดอลลาร์ ในนั้นเป็นเงินช่วยเหลือให้เปล่า 14.91 ล้าน ซึ่งส่วนใหญ่จะนำไปใช้ในโครงการพัฒนาส่งเสริมพัฒนาศักยภาพและช่วยเหลือสตรีในกัมพูชา.

 

โฆษณาชวนเชื่อของ white helmet กลับมาอีกแล้ว

ภาพบีบหัวใจ สมรภูมิสงครามซีเรีย หนูน้อยโชกเลือดนอนข้างศพ รอดตายก็เหมือนไร้ชีวิต
28 ก.พ. 2562

เปิดภาพสุดสะเทือนใจในสมรภูมิสงครามซีเรีย หนูน้อยโชกเลือดนอนอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณของพี่สาว แม้รอดตายก็เหมือนไร้ซึ่งชีวิต ผลพวงจากการโจมตีทางอากาศ


ภาพจาก Anas AL-DYAB / AFP

วันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2562 เว็บไซต์เมโทร เผยภาพสุดทะเทือนใจจากสมรภูมิสงครามในประเทศซีเรีย ภายหลังจากกองกำลังของทางรัฐบาลโดยประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด สั่งปฏิบัติการโจมตีทางอากาศ ถล่มฐานที่มั่นของกลุ่มกบฏที่เชื่อมโยงกับกลุ่มอัลกออิดะห์ ในพื้นที่เมืองข่านชัยคุน แคว้นอิดลิบ เมื่อวันที่ 26 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา

มีการบันทึกภาพของเด็กหญิงชาวซีเรียในพื้นที่ดังกล่าว ระบุชื่อว่า อะซีล คาตรัน นอนอยู่ข้างร่างไร้วิญญาณของพี่สาว ท่ามกลางซากปรักหักพัง หนูน้อยใบหน้าโชกไปด้วยเลือด อยู่ในอาการช็อก แววตาล่องลอย แม้มีลมหายใจเหลือรอดแต่ก็เหมือนไร้ซึ่งชีวิต และนอกจากหนูน้อยรายดังกล่าวที่ได้สูญเสียพี่สาว ยังมีเด็กอีก 2 ราย ที่ถูกคร่าชีวิตด้วย

หนึ่งในภาพสุดสะเทือนใจที่ถูกบันทึกเอาไว้ได้ เผยให้เห็นพ่อผู้แสนเศร้า จับเท้าของลูกน้อยที่ไร้ลมหายใจขึ้นมาบรรจงจูบด้วยความรักสุดหัวใจ ในขณะที่เจ้าหน้าภัยกำลังอุ้มพาตัวออกมาจากซากอาคาร ส่วนอีกภาพเป็นภาพของพ่อนอนกอดร่างไร้วิญญาณของลูกสาว โดยมีเลือดไหลโชกออกมาจากมือ และใบหน้าเปื้อนเต็มไปด้วยเลือด


ภาพจาก Anas AL-DYAB / AFP

โดยรายงานจากทางกลุ่มปกป้องพลเรือนซีเรีย (Syria Civil Defence) หรือที่รู้จักกันในชื่อ กลุ่มหมวกกันน็อกขาว (White Helmets) เผยว่า จากเหตุการโจมตีครั้งนี้ เป็นผลให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 5 ราย เป็นเด็ก 3 ราย และผู้หญิงอีก 2 ราย และมีผู้ที่ได้รับบาดเจ็บอีกไม่ต่ำกว่า 8 ราย

ทั้งนี้ รายงานเผยว่ากองกำลังของรัฐบาลได้เปิดฉากโจมตีในพื้นที่ดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา เป็นผลให้ผู้คนหลายพันชีวิตต้องละทิ้งถิ่นอาศัย ลี้ภัยออกไปยังพื้นที่อื่น ๆ ของประเทศ ขณะที่เฉพาะวานนี้ (26 กุมภาพันธ์) ก็มีเหตุโจมตีทางอากาศเกิดขึ้นถึง 13 ครั้ง ในแคว้นอิดลิบและพื้นที่ตอนเหนือของเมืองฮะมาฮ์


ภาพจาก Anas AL-DYAB / AFP


ภาพจาก Anas AL-DYAB / AFP

***หมายเหตุ : อัปเดตข้อมูลล่าสุดเมื่อเวลา 10.41 น. วันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2562


https://hilight.kapook.com/view/184562

 

สำนักข่าวอาเซี่ยน

ซัมมิตคิม-ทรัมป์ ล่มกะทันหันแบบไร้ข้อตกลง ทรัมป์เผย คิมให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตร

.

ฮานอย 28 ก.พ.- การประชุมสุดยอด (ซัมมิต) ครั้งที่สองระหว่างนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐปิดฉากลงอย่างกะทันหัน ต่างฝ่ายต่างกลับโรงแรมที่พัก โดยไม่มีพิธีลงนามร่วมแต่อย่างใด

.

นางแซราห์ แซนเดอร์ โฆษกทำเนียบขาว แถลงว่า ซัมมิตยุติลงแล้วโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ แต่คณะของทั้งสองฝ่ายจะหาทางพบกันต่อไปในอนาคต

.

ก่อนหน้านี้นางแซนเดอร์บอกกับสื่อที่รอทำข่าวการรับประทานมื้อเที่ยงว่า การเจรจากำลังดำเนินอยู่ แต่ขอยกเลิกการรับประทานมื้อเที่ยง ประธานาธิบดีและคณะจะกลับมาที่โรงแรมสถานที่เจรจาอีกครั้งเพื่อแถลงข่าวในเวลา 14.00 น.ตามเวลากรุงฮานอย ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย เร็วกว่าที่กำหนดว่าจะแถลงในเวลา 16.00 น. นางแซนเดอร์ไม่ยอมตอบเรื่องพิธีการลงนามแถลงการณ์ร่วมของสองผู้นำที่เดิมกำหนดมีขึ้นในเวลา 14.00 น. ด้วยแม้ว่าถูกผู้สื่อข่าวถามซ้ำหลายครั้ง

.

วิล ริปลีย์ ผู้สื่อข่าวซีเอ็นเอ็น.ที่ไปรายงานข่าวซัมมิตที่ฮานอยทวีตว่า ดูเหมือนจะมีการเปลี่ยนแผนที่กรุงฮานอยระหว่างที่ประธานาธิบดีทรัมป์คุยเรื่องนิวเคลียร์กับนายคิม จองอึน และดูท่าไม่ค่อยดี การเจรจายุติลงอย่างกะทันหัน กำหนดตารางใหม่ดูเหมือนจะไม่มีการรับประทานมื้อเที่ยง ส่วนพิธีลงนามแถลงการณ์ร่วมก็ถูกเลื่อนให้เร็วขึ้น.

.

ทรัมป์เผยสาเหตุที่ซัมมิตล่ม

.

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐเผยสาเหตุที่ทำให้การประชุมสุดยอด (ซัมมิต) กับนายคิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือจบลงก่อนกำหนดโดยไม่มีข้อตกลงใด ๆ ว่า เป็นเรื่องของมาตรการคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ

.

ประธานาธิบดีทรัมป์แถลงข่าวเมื่อเวลาประมาณ 14.20 น.วันนี้ตามเวลากรุงฮานอย ตรงกับเวลาเดียวกันในไทย หลังจากโฆษกทำเนียบขาวแถลงก่อนเวลา 14.00 น.ว่าซัมมิตจบลงแล้ว ผู้นำสหรัฐกล่าวว่า มีช่วงเวลาที่บังเกิดผลอย่างแท้จริงระหว่างหารือกับผู้นำเกาหลีเหนือ แต่ไม่มีการลงนามใด ๆ จริง ๆ แล้วมีทางเลือกบางอย่างแต่ตัดสินใจว่าจะยังไม่เลือกในเวลานี้ บางครั้งก็จำเป็นต้องเดินออกจากที่เจรจา และครั้งนี้ก็คือหนึ่งในความจำเป็นนั้น

.

ผู้สื่อข่าวถามว่า สาเหตุที่ทำให้ซัมมิตล่มเป็นเพราะเกาหลีเหนือต้องการให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรหรือไม่ ทรัมป์ตอบว่าใช่ เกาหลีเหนือต้องการให้ยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทั้งหมดแต่สหรัฐทำแบบนั้นไม่ได้ นายคิมต้องการปลดนิวเคลียร์และทำในเรื่องไม่สำคัญเท่าที่สหรัฐต้องการ

.

อย่างไรก็ดี สหรัฐยังไม่ได้ยอมอ่อนข้อให้ และหวังว่าจะมีการหารือกันในอนาคต เพราะเกาหลีเหนือเป็นประเทศที่มีศักยภาพมหาศาลอย่างเหลือเชื่อ ผู้นำเกาหลีเหนือรับปากเขาแล้วว่าจะไม่ทดสอบนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธ

.

ด้านนายไมค์ พอมเพโอ รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐที่แถลงข่าวร่วมกับประธานาธิบดีกล่าวเสริมว่า ประธานคิมไม่ได้เตรียมตัวทำตามข้อเรียกร้องของสหรัฐ อย่างไรก็ดี เขายังคาดหวังในแง่ดีว่าจะสามารถบรรลุในสิ่งที่ประชาคมโลกต้องการ นั่นคือการปลดนิวเคลียร์เกาหลี เพื่อลดความเสี่ยงต่อชาวอเมริกันและชาวโลก

.

นายอากิระ คาวาซากิ กลุ่มรณรงค์ระหว่างประเทศเพื่อทำลายอาวุธนิวเคลียร์ หรือไอแคนน์ (ICAN) แสดงความเห็นกับซีเอ็นเอ็นว่า ไม่แปลกใจที่การเจรจาล่มลง เพราะทรัมป์ใช้เวลาส่วนใหญ่ในทำเนียบขาวฉีกสนธิสัญญานิวเคลียร์มากกว่าจะสร้างขึ้นมาใหม่ สิ่งที่จำเป็นต้องมีคือ แผนที่เกิดจากประชาคมโลกและสนธิสัญญาอย่างสนธิสัญญาห้ามอาวุธนิวเคลียร์ อย่างแท้จริง เพื่อให้เกาหลีเหนือสามารถเข้าร่วมได้ในทันที เพื่อเริ่มกระบวนการปลดนิวเคลียร์อย่างชอบธรรม

.

ด้านนายแวน แจ็คสัน ผู้แต่งหนังสือเรื่อง On the Brink: Trump, Kim, and the Threat of Nuclear War มองว่า สหรัฐควรรอจนกว่าการเจรจาระดับผู้แทนพิเศษของทั้งสองฝ่ายมีความคืบหน้าจึงจะจัดซัมมิต ซัมมิตใด ๆ ก็ตามจะต้องเชื่อมโยงกับการเจรจาที่แท้จริง ต่อให้ซัมมิตครั้งนี้สำเร็จตามมาตรฐานของรัฐบาล แต่ก็จะไม่สามารถแก้ปัญหานิวเคลียร์เกาหลีเหนือได้ เพราะเรื่องนี้ไม่เคยอยู่ในการเจรจาระดับคณะเจรจาตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา.

.

ชาวเกาหลีใต้ตามข่าวประชุมสุดยอดและชุมนุมให้สหรัฐถอนทหารออกไป

.

ที่กรุงโซล ประชาชนในเกาหลีใต้ติดตามฟังข่าวผลการประชุมสุดยอดครั้งที่สองระหว่างสหรัฐกับเกาหลีเหนือในวันนี้ ขณะที่มีการชุมนุมเรียกร้องให้สหรัฐถอนกำลังทหารออกจากเกาหลีใต้

.

ขณะเดียวกันกลุ่มผู้ชุมนุมต่อต้านสหรัฐจัดการประท้วงขึ้นในกรุงโซลวันพฤหัสบดี โดยเรียกร้องให้สหรัฐถอนกำลังทหารออกจากเกาหลีใต้เพื่อสันติภาพบนคาบสมุทรเกาหลี ผู้ประท้วงกล่าวว่า สหรัฐเป็นฝ่ายที่ไม่รักษาสัญญาที่ให้ไว้ในการประชุมสุดยอดครั้งแรกที่สิงคโปร์ ไม่ใช่เกาหลีเหนือที่ไม่รักษาสัญญา และขอให้ผู้นำทั้งสองดำเนินตามกระบวนการสร้างสันติภาพ.