ร่วมทำบุญบูชา ตะกรุดพ่อสมหวังบรรจุธาตุพระปัจเจก(ขอทรัพย์พระปัจเจก) พ่ออาจารย์พล

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย คุรุปาละ, 12 ตุลาคม 2014.

  1. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    เรื่องการจอง

    วันนี้ผมไล่ตอบ PM แล้วก็แจ้งสอบถามหลายๆท่านที่ค้างไว้แบบไม่ได้แจ้งกำหนดโอน ก็รบกวนตอบกันซักหน่อยนะครับ ขอแค่ตอบ ดีกว่าอ่านแล้วเงียบไปแล้วมาจองของใหม่เวลาทักไปก็นิ่งแบบนี้มันดูแย่มากๆเลย เพราะกระทู้นี้ผมค่อนข้างให้อิสระจะติดเดือนสองเดือนผมก็ไม่ได้ว่า เราเอาที่สบายใจ และเรียนให้ทราบว่าไม่ได้เป็นการทวง แต่ถ้าระยะมันยาวแบบจองข้ามปีต่อไปก็จะไม่ให้มีแล้วเพราะสงสารคนอื่นที่เขาไม่ได้สิทธิ์เพราะคนที่จองกั๊กไว้แบบนี้ ซึ่งก็มีอยู่สามคนเพราะเขาอาจจะลืมเเจ้งก็ไม่ได้ว่ากันเพราะเราต้องการทำให้เป็นระบบ แต่คนที่ถามแล้วนิ่งและก็เห็นว่าเขาดูกระทู้อยู่ก็คือคนที่ตั้งใจไม่ตอบนั่นเเหละผมก็พิจารณาลดความน่าเชื่อถือเป็นคนๆไป ถ้าจองแล้วแจ้งว่าโอนช่วงไหนผมจะไม่ทักไป ขอแค่แจ้งวันเวลา เพราะเราให้สิทธิ์ท่าน เราก็ต้องมีกติกา

    ที่ต้องมานั่งไล่ถามเป็นระบบขึ้นแบบนี้เพราะช่วงนี้เพิ่งพ้นสิ้นปี ก็เลยค่อนข้างวุ่นวาย เพราะบางคนถามว่ากำลังจะโอนแต่มันเป็นของเก่าๆที่จองกันไว้นานมากๆจนเราลืมไปแล้ว บางคนเราก็เก็บให้ บางคนก็ต้องขอโทษจริงๆเพราะลืมและมันนานเกินไปก็เลยไม่มีของให้เค้าทั้งๆที่จองไว้ บางรายต้องไปนั่งหาสองสามวันก็ไม่เจอ พอทบๆหลายๆคนก็ยอมรับครับว่าผมเบลอ ของบางอย่างต้องไปเมตตาพ่ออาจารย์ท่านเอาของที่ท่านใช้เองส่งไปให้ก็มี

    ดังนั้นต่อไปถ้าใครจองแล้วจะติดไว้ก็รบกวนแจ้งวันเวลาโอนด้วย ถ้ามาชนิดแบบจองไปเรื่อยทักไปไม่ตอบแต่ถามเรากลับจังเลย แบบนี้ผมขอยกยอดเป็นโมฆะนะครับ ต่อไปคนที่มาแนวหยิ่งคือทักมาจองแต่ถามไม่ตอบกลับผมจะไม่นับยอดให้แล้วก็ไม่เสียเวลากับคนประเภทนี้ด้วย จะได้ดำเนินกระทู้กันได้แบบสบายใจ ไม่ต้องมีคนนี้กั๊กได้ทำไมผมกั๊กไม่ได้ ขอนานหน่อยได้มั๊ย ซึ่งถ้าแจ้งเวลาล่วงหน้าไว้โอเค แต่ถ้าจองเล่นๆไม่มีความพร้อมผมจะข้ามไป เพื่อตัดปัญหาแบบวันดีคืนดีทักมาแล้วของไม่มีหากันให้ทั่วก็ไม่เจอแล้วก็ต้องมานั่งย้อนกระทู้ชนิดหนึ่งปีหรือครึ่งปีไม่รู้ข้อมูลไปตกอยู่ตรงไหนเพื่อหารายละเอียดการจองเขา
    ต่อไปก็จองกันไว้แล้วแจ้งวันเวลาที่จะโอนนะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 มกราคม 2019
  2. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ทำอย่างไรถึงได้เกิดในยุคพระศรีอาริย์

    มีชาวพุทธไม่น้อยที่ต้องการจะได้พบพระศรีอาริย์ และเกิดทันใน ยุคพระศรีอาริย์ วันนี้ซีเคร็ตนำเกร็ดความรู้วิธีการทำให้ได้เกิดใน ยุคพระศรีอาริย์ มาฝาก

    พระศรีอาริย์ ชื่อนี้บางคนอาจคุ้น ๆ เพราะครอบครัวมีพูดถึงชื่อนี้กันบ้าง บางคนอาจไม่คุ้น หรือเพิ่งเคยได้ยินก็ครั้งนี้ ท่านเป็นใคร เป็นพระสงฆ์หรือเปล่า ไม่ใช่เลยท่านเป็นพระอนาคตพุทธเจ้า หรือพระพุทธเจ้าในอนาคต ต่อจากพระพุทธเจ้าของเรา (พระสมณโคดมพุทธเจ้า)

    สังคมไทยมีความเชื่อเรื่องพระศรีอาริย์ หรือในคัมภีร์พระพุทธศาสนาเรียกท่านว่า “พระเมตไตรยะ” เด่น ๆ จะเป็นเรื่องยุคพระศรีอาริย์ ในด้านปรัชญาจะเทียบกับทรรศนะเรื่องยูโทเปีย หรือนครรัฐในอุดมคติ

    พระศรีอาริย์คือพระพุทธเจ้าพระองค์ต่อไป ความหวังของชาวพุทธที่จะได้พบพระศรีอาริย์ แล้วได้รับการสั่งสอนให้ได้ไปสู่พระนิพพานนั้น กลายเป็นความปรารถนาของชาวพุทธมาหลายยุคสมัย

    มีหลายคัมภีร์กล่าวถึงวิธีที่ทำให้ได้เกิดในยุคพระศรีอาริย์ไว้หลายคัมภีร์ เช่น คัมภีร์มาลัยสูตร คัมภีร์อมตรสธารา และคัมภีร์ไตรภูมิโลกวินิจฉยกถา ซึ่งวรรณกรรมพระพุทธศาสนาสมัยรัชกาลที่ 1

    คัมภีร์มาลัยสูตร หรือนิทานพระมาลัยที่คนไทยรู้จัก เล่าถึงเหตุการณ์พระมาลัยนมัสการพระจุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ แล้วได้พบพระศรีอาริย์ พระองค์ตรัสแก่พระมาลัยว่า หากจะเกิดในยุคของเรา เพียงฟังเทศน์เรื่องเวสสันดรชาดก (มหาชาติ) ให้จบทั้ง 13 กัณฑ์ภายในวันเดียว และบูชาชาดกนี้ด้วยประทีป ฉัตร ธง ดอกบัว ดอกไม้ต่าง ๆ อย่างละพัน พระมาลัยก็นำความจากพระศรีอาริย์มาแจ้งแก่มวลมนุษย์ ประเพณีการเทศน์มหาชาติจึงเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ชาวพุทธนิยมทำ เพราะหวังอานิสงส์ช่วยให้เกิดในยุคพระศรีอาริย์

    คัมภีร์อมตรธารา หรืออรรถกถาอนาคตวงศ์ กล่าวถึงลักษณะของบุคคลที่ได้เกิดในยุคพระศรีอาริย์ถึง 13 ข้อว่า

    • เป็นคนถือศีล 5
    • เป็นคนถือศีล 8
    • เป็นคนที่บวชในพระพุทธศาสนาและสนับสนุนพระสงฆ์
    • เป็นคนที่สร้างวัด เจดีย์ และปลูกต้นโพธิ์
    • เป็นคนที่ปลูกต้นไม้ให้วัดร่มรื่น ให้พระสงฆ์และพุทธศาสนิกชนได้อาศัยร่มเงา
    • สร้างสะพานและสาธารณทานแก่ชนทั้งหลาย
    • สร้างถนน ปรับหนทางให้ชนทั้งหลายเดินทางไปไหนมาไหนได้สะดวก
    • ขุดสร้างบ่อน้ำเพื่อเป็นแหล่งน้ำแก่คนทั้งหลาย
    • สร้างศาลา และโรงธรรม นิมนต์พระมาเทศนาสั่งสอน
    • เคารพพระรัตนตรัย บูชาพระสงฆ์ด้วยเครื่องสักการะบูชา
    • เป็นคนกตัญญูรู้คุณบุพการี
    • เป็นคนที่เคารพยำเกรงต่อผู้ใหญ่
    • เป็นคนศรัทธาในพระรัตนตรัย และอนุโมทนาในการทำความดีของผู้อื่น
    คัมภีร์ไตรภูมิโลกวินิจฉยกถา กล่าวว่า หากต้องการที่จะไปเกิดในยุคนั้นจริง ๆ ต้องบำเพ็ญบุญกิริยาวัตถุ 10 คือ ให้ทาน รักษาศีล เจริญภาวนา ยำเกรงถึงอำนาจพระรัตนตรัย ยอมให้พระสงฆ์ใช้สอย อุทิศบุญให้แก่ผู้อื่น อนุโมทนาบุญในการทำความดีของผู้อื่น ฟังธรรม แสดงธรรมเป็นทาน และมีสัมมาทิฏฐิ (เข้าใจความจริงอย่างถูกต้อง)

    สังเกตจากวิธีที่ทำให้เกิดในยุคพระศรีอาริย์ในคัมภีร์อมตรธาราแล้ว จะเห็นว่ามีหลายข้อคล้ายกับหลักธรรมวัตตบท 7 ในนิทานมฆมานพ หรือธรรมะของพระอินทร์ ธรรมที่ทำให้เกิดเป็นพระอินทร์ และปฏิบัติตามหลักธรรมบุญกิริยาวัตถุ 10 แต่อย่างไรก็ตาม วิธีที่ทำให้เกิดในยุคพระศรีอาริย์มีทั้งรูปแบบของประเพณีและพิธีกรรม คือ เทศน์มหาชาติ และการปฏิบัติตามคำสอนของวัตตบท 7 และบุญกิริยาวัตถุ 10


    762-20050311203031.jpg
     
  3. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีคนถามหารายการขุนแผนกันเข้ามา แต่ยังไม่มีออกนะครับ จะมีเป็นรายการของสมเด็จพระศรีอาริย์ที่ค่อนข้างจะมีอะไรพิเศษๆโดยเฉพาะของสำคัญซึ่งพ่ออาจารย์เรียกว่าเจ้ามารน้อย รายการนี้เดี๋ยวเอาไว้พูดคุยกัน ติดตามดีๆ เพราะช่วงก่อนๆมีคนรอพ่ออาจารย์ท่านออกพระศรีกันมาก รับรองว่าแค่เห็นก็ชอบแน่นอน
     
  4. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีข้อความมาเล่าประสบการณ์ ก็เลยนำมาเล่าต่อ

    พี่ท่านนี้เค้าว่าลืมเล่า พอดีคนรู้จักคนนึงเป็นคนนิสัยดี น่ารัก แต่ชอบแกล้งโดยการเดินชนไหล่ ในกรณีที่เค้าเป็นฝ่ายมองเห็นพี่ก่อน(ประมาณว่าอีกฝ่ายไม่รู้ตัวก็จะแกล้งเดินเข้ามาชนเป็นประจำ)

    เมื่อไม่นานพี่เขาก็พบคนๆนี้โดยบังเอิญ และเค้าก็แกล้งเดินชนไหล่ พี่เค้ายังไม่ทันสังเกตุคงคิดว่าตัวเองไปเดินชนจึงเอ่ยปากขอโทษ พอมองหน้าคนชน อ้าว คนรู้จัก ก็ดีใจคุยกันพอสมควร

    ไม่กี่วันหลังจากนั้นคนที่ตั้งใจเดินชนก็ประสบอุบัติเหตุรถชนกระดูกไหปลาร้าหักต้องเอาลวดขึงเชื่อมต่อ พอทราบข่าวพี่เค้าคิดถึงเหตุที่เค้าชอบมาเดินชนไหล่ทันที

    พี่เค้าเลยสอบถามครูบาอาจารย์ท่านว่าแปดสิบคือกรรมที่เค้าแกล้งพี่เสมอ อีกยี่สิบคือวิบากกรรมตนเอง และหมู่คณะที่ติดตามพี่เค้าไม่พอใจที่ตัวพี่เค้าที่ต้องเป็นฝ่ายเอ่ยปากขอโทษตอนโดนชนทั้งๆที่ไม่ได้ผิดเลยจัดแรงไปหน่อย(พี่คนนี้เขามักพูดคุยและติดต่อกับเรื่องเหนือธรรมชาติได้) พี่เค้าว่าวันนั้นเค้าพกไปพอสมควรทั้งพี่จักร พี่สิงห์ราช และพยนต์ขุนโจร คงเป็นสักองค์ที่ไปจัดการตามสมควร ครูท่านว่าหนักมือไปหน่อยแต่หมู่คณะ(สิ่งศักดิ์สิทธิ์ในเครื่องมงคลของพ่ออาจารย์)ท่านไม่ชอบตรงที่เจ้าของไม่ผิดแต่ต้องไปเอ่ยวาจาขอโทษ


    **ในกรณีนี้สังเกตุจากของที่พี่เค้าใช้พกวันนั้นจะไม่ใช่พระของพ่ออาจารย์ แต่จะเป็นพวกเครื่องรางแนวมีตัวตนที่ให้คุณให้โทษและคุ้มครองรักษาตัวเองได้ ซึ่งแน่นอนว่าเราบอกไปหลายครั้ง สิ่งเหล่านี้เพราะเขามีความคิด มีการตัดสินใจเป็นของตัวเขาเอง ถ้าเขาเห็นว่าใครมักรังแกเราบ่อยๆหรือทำร้ายเราทางใดทางหนึ่งโดยที่เราไม่ผิด เขาก็จะปกป้อง นี่ก็เป็นรูปธรรมอย่างหนึ่งของเครื่องรางพ่ออาจารย์ท่านที่ผมย้ำเสมอว่าแรง ซึ่งตรงนี้ต่างจากพระหรือองค์เทพที่พ่ออาจารย์ท่านสร้างไว้เพราะส่วนมากจะวางเฉยในญาณอุเบกขาเช่นนั้น ดังนั้นใครจะเลือกใช้อะไรก็เอาตามที่จริตตนชอบได้เลย ถ้าชอบแนวแรงๆก็เครื่องราง ถ้าเย็นๆสายบารมีก็เลือกพระ
     
  5. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่เมธี EW 2343 6794 2 TH

    พี่วิศณุกร EW 2343 6795 6 TH
     
  6. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    "เราจะทำให้เต็มที่เหมือนที่เราเคยเห็น" เป็นวลีสั้นๆที่พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจทำ ตั้งใจแกะแม่พิมพ์เพื่อสร้างสมเด็จพระศรีอาริย์รุ่นนี้ ซึ่งสำหรับผมถือว่าสวยมากเพราะเป็นปางสีหบรรลือ คือกระทำการบรรลือสีหนาทแบบเต็มยศบนบัลลังค์ก็ว่าได้

    โดยสมเด็จพระศรีนี้พ่ออาจารย์ท่านทำเก็บไว้และค่อนข้างแอบหรือหวงเนื่องจากมวลสารพิเศษที่ฝังด้านหลังนั้นท่านว่าตัวท่านไม่เคยเห็นผงที่ศักดิ์สิทธิ์ได้แบบนี้มาก่อน(ผงอะไร) ...ซึ่งสมเด็จพระศรีท่านให้ไว้ และผงนี้ยังมีวิธีใช้ให้ได้สมปรารถนาในเวลาที่ตัวเรามีเหตุการณ์ต้องการความช่วยเหลืออีกด้วย ผงนี้ใช้ได้ทั้งในแง่ชีวิตจริง(การขอ) ใช้ในการฝึกกรรมฐาน สะสมพลังจิต...เข้าพบพุทธนิมิตของสมเด็จพระศรีอาริย์ล้วนแต่ใช้ได้ทั้งสิ้นพ่ออาจารย์ท่านว่าแบบนั้น เช่นนี้จึงบอกได้ว่าสมบารมีพระศรีท่านจริงๆ

    เรียกว่าสวยทั้งพิมพ์ทรงและพร้อมทั้งมวลสารพิเศษ ใครที่ถามๆให้ท่านออกพระศรีมาแบบเป็นทางการซักครั้งที่เราบอกให้รอๆก่อนนั่นแหละ ก็เพราะพ่ออาจารย์ท่านว่าเมื่อจะทำแล้วก็ต้องทำให้เต็มพระบารมีขององค์บรมโพธิสัตว์ท่าน จะทำเล่นๆแค่บอกกล่าวให้พ้นไปนั้นไม่ได้ พระศรีนี่สำคัญนักเธอดูเอาไว้หนาพระศรีรุ่นนี้ไม่พอมือคนที่เค้ารอกันหรอก ที่เรารู้ก็เพราะเราเห็นกระจ่างชัดว่าแต่ละคนเค้าปรารถนากันชัดเจนและเป็นคู่บารมีในสายของเขา คนที่เป็นบริวารสมเด็จพระศรีท่านมีเป็นแสนนั่นแหละ


    ** พรุ่งนี้รอดูกันนะครับ ผมว่าสวยอ่ะถ้าเน้นเรื่องพิมพ์ทรงกับมวลสาร อีกอย่างก็คือของที่ท่านฝัง หลายอย่างเป็นของที่แรงแบบแปลกๆมีคุณพิศดารอยู่ในตัวเองทั้งนั้น

    762-20050311203031.jpg
     
  7. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรี{อาริย์}สัมฤทธิ์(ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา)
    ด้วยคติชนนั้นล้วนมุ่งหวังที่จะได้ไปเกิดทันในยุคพระศรีอาริย์ ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นเวลาที่ทุกสิ่งจะบริบูรณ์พร้อมมูลทั้งความสุข ความสมหวัง จะเห็นว่าเวลานับพันปีที่ผ่านมานั้นแม้ตามศิลาจารึกและถาวรวัตถุต่างๆก็มักจะปรากฏคำอธิษฐานซึ่งเต็มไปด้วยการตั้งความปรารถนาจะได้ไปเกิดในยุคของพระศรีอาริย์ ซึ่งสมเด็จพระศรีอาริยเมตตรัยบรมโพธิสัตว์นั้นพ่ออาจารย์ท่านว่าพระองค์ก็ได้บำเพ็ญบารมีอยู่และยังมีกิจที่ต้องทำกับมนุษย์อีกหลายประการ พูดง่ายๆจิตของพระองค์ท่านก็ไปๆกลับๆระหว่างมนุษย์โลกกับเทวโลกนั่นแหละ เป็นความผูกพันธ์ที่ยังตัดกันไม่ขาด ทิ้งกันไม่ได้หากมีคนตั้งใจปรารถนาจะเกิดทันยุคของท่านนี่ก็เท่ากับเป็นบริวารของท่าน เป็นคนของท่าน คนเหล่านี้ท่านจะไม่ทิ้งเด็ดขาด

    ทำไมต้องสร้างพระศรี..พ่ออาจารย์ท่านว่าเสด็จพระใหญ่(องค์ปฐม)ท่านบอกให้ทำ เรียกว่ามีบัญชาหรือต้องการให้ทำนั่นก็ได้ ซึ่งทีแรกพ่ออาจารย์ท่านก็คิดว่าสมเด็จพระศรีนั้นเวลาท่านทำพิธีต่างๆท่านก็ออกนามเชิญพระองค์อยู่เสมอแล้ว แต่เสด็จพระใหญ่ท่านบอกว่าเท่านั้นยังไม่พอจึงให้พ่ออาจารย์ท่านสร้างรูปพระศรีซึ่งเรียกว่าพระศรีสัมฤทธิ์ขึ้น ด้วยเหตุผลที่ว่า เพราะคนจำนวนมากที่มีบารมียังไม่เข้มข้นเรียกว่ายังสร้างบารมีกันมาไม่เต็ม ทั้งสมเด็จพระศรีท่านก็มีบริวารอยู่มากไม่ว่าจะเป็นคนที่คอยติดตามท่านมาแต่ก่อน คนที่ปรารถนาจะเกิดให้ทันในยุคของท่าน คนทั้งหลายที่อ้างนามท่านเวลาทำการกุศลต่างๆ ด้วยคนเหล่านี้ปัจจุบันก็เอากำเนิดเกิดขึ้นมานับล้านนับแสน และสมเด็จพระศรีท่านก็ถือเสมือนเป็นคนของท่านและตั้งใจจะช่วยกันไปให้ถึงที่สุด พ่ออาจารย์ท่านว่าพอตั้งจิตจะทำแล้วก็มานึกอยู่ว่า เอ..จะทำอย่างไรหนอ จะเอาอะไรไปทำรูปท่านหนอ นึกได้เท่านั้นเสด็จพระใหญ่ก็พาท่านไปที่ปราสาทเลย เมื่อไปถึงก็พาเข้าไปในห้องโถงอันโอ่อ่าได้พบกับเทวดาองค์หนึ่งนั่งอยู่บนแท่นสูงมีหน้าตาสดสวยใส่เครื่องประดับแพรวพราวและมีรัศมีสว่างมากเป็นพิเศษ พ่อครูท่านว่าพอเข้ามาท่านก็ทักเราเฉยเลยว่าเจอกันอีกแล้วและหนนี้เสด็จพระใหญ่ท่านพามาท่านจึงรีบลงมารับ และพูดกับเราว่าไม่ต้องกังวลไปหนาก็ทำฉันแบบที่เป็นฉัน แบบที่เธอเห็นนั่นก็พอส่วนเรื่องจะเอาอะไรไปทำเดี๋ยวฉันจะให้คนเอาลงไปให้ พ่ออาจารย์ท่านจึงพูดกับสมเด็จพระศรีว่าทำขึ้นมาแล้วก็หวังจะให้ท่านลงมาช่วยมนุษย์ ซึ่งท่านก็บอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงไปเพราะในกาลข้างหน้ามนุษย์จะได้รับความเดือดร้อนจากภัยต่างๆมากมายบรรดามี แต่ก็ให้จำเอาไว้อย่างหนึ่งว่า "คนของฉัน ฉันไม่ทิ้ง"

    พ่ออาจารย์ท่านว่าสมเด็จพระศรีอาริย์นั้น ท่านสถิตย์อยู่ในสวรรค์ชั้นดุสิตอันเป็นที่ประทับของพระโพธิสัตว์ทั้งหลายและว่าที่พระอัครสาวก หลายๆคนพอพูดถึงสวรรค์ชั้นนี้ก็จะคิดเหมือนกันอยู่อย่างหนึ่งคือเป็นที่อยู่ของเทพที่ได้ชื่อว่าเป็นโพธิสัตว์ แต่ความจริงนอกจากจะเป็นที่อยู่ของเหล่าพระบรมโพธิสัตว์ที่จะตรัสรู้เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในอนาคตจำนวนมากแล้ว แม้เหล่าเทพบุตรที่สร้างบารมีปรารถนาเป็นพระสาวกเพื่อตามเสด็จพระบรมโพธิสัตว์ลงมาตรัสรู้ในอนาคตก็อยู่ร่วมกันที่ชั้นดุสิตนี่ ดังนั้นจึงไม่แปลกที่ใครๆก็ปรารถนาจะอยู่ชั้นดุสิตแม้ เทพ พรหม ที่มีกำลังบุญมากมายพอทีจะไปบังเกิดในสวรรค์ชั้นใดก็ได้ตามปรารถนาก็ยังมาเลือกสวรรค์ชั้นนี้ พ่ออาจารย์ท่านว่านอกจากจะได้อยู่กับพระอนาคตวงศ์อันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานใหญ่แล้ว สวรรค์ชั้นนี้ยังมีอะไรที่พิเศษอยู่มาก กล่าวคือเหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์นั้นแม้ประสงค์จะสร้างบารมีธรรมในโลกมนุษย์แล้วเพียงทำสมาธิอธิษฐานจิตก็จะดับวูบลงมาสู่ภูมิมนุษย์ได้ทันที ไม่ต้องรอให้จุติเพราะความโกรธ เพราะหมดบุญ หมดอายุขัยเฉกเช่นสวรรค์ชั้นอื่น นอกจากนี้เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ยังเป็นพวกพ้องเป็นกัลยาณมิตรที่เอื้อเฟื้อต่อกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าเหมือนเอาคนที่มีลักษณะนิสัยใกล้เคียงกันมารวมกันไว้ในที่เดียว แต่ละคนท่านก็คิดถึงแต่พระนิพพาน คิดถึงแต่การฝึกตัวเอง เช่นนี้จึงไม่วุ่นวายและไม่มีเทพที่ดำรงค์ตัวอยู่อย่างประมาทเช่นสวรรค์ชั้นอื่น ทั้งเมื่อเถิงวันพระ สันดุสิตเทวราชก็จะเชิญเหล่าพระอนาคตวงศ์ผู้เป็นใหญ่ทั้งสิบอันมีสมเด็จพระศรีเป็นประธานให้รับนิมนต์นั่งแสดงธรรมเพื่อความเบิกบานในอรรถในธรรมนั้นจะพลันเกิดมีแก่เหล่าเทพแห่งดุสิตสวรรค์ทั้งหลาย

    ด้วยเหตุนั้นพระศรีท่านจึงมีบริวารมาก มีพวกพ้อง มีกำลัง มีบารมีมาก เพราะใครก็อยากเป็นคณะของพระศรี เป็นเทพในสังกัดของพระศรีเช่นนั้น เมื่อมีดำริจะสร้างและองค์พระศรีท่านอนุญาติแล้วพ่ออาจารย์ท่านจึงแกะบล๊อคแม่พิมพ์เป็นซุ้มปราสาทและมีสมเด็จท่านทรงเครื่องเต็มยศนั่งสำแดงบารมีอยู่บนรัตนบัลลังค์เช่นนั้นตามที่ท่านเห็น พร้อมกันนี้พ่ออาจารย์ท่านยังได้รวบรวมมวลสารศักดิ์สิทธิ์ต่างๆเช่นผงไม้ตะเคียนตกน้ำมันบนภูลังกา ว่านเสน่ห์จันทร์ทั้งห้า ดินเจ็ดโป่ง ดินขุยปู ว่านมหาลาภ เปลือกเหียง ว่านกุมารทอง รากผักหวาน ว่านเพชรน้อย ว่านเพชรหลวง ว่านนมนางว่านทอง ว่านเงินไหลมา ผงเครือเถาหลง ว่านขุนแผนสะกดทัพ เครือร้อยปลา เครือเขาหลงตัวผู้ตัวเมีย ข้าวก้นบาตรหลวงปู่ขาว ดอกรักซ้อน ดอกกาหลง กาฝากมะยม ผงไพรปลุกเสก ผงตระไคร่เสมาเจ็ดวัด พ่ออาจารย์ท่านเอาว่านต่างๆมาเขียนเป็นผงสำคัญซึ่งเรียกว่าผงยันต์พันคาถา
    - ผงยันต์พันคาถา ผงนี้เกิดจากการเขียนคาถาพันบท เขียนยันต์พันรูป ซึ่งจะมีอานุภาพดุจฝอยท่วมหลังช้างที่เรียกว่าอธิธฐานใช้ได้ทุกด้าน เสมือนเรามีทรัพย์สินมากมายหลายประการปรารถนาสิ่งใดก็นำไปใช้แลกเปลี่ยนได้ไม่รู้หมด พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้เราทำมาเป็นปีและต้องใช้ความอุตสาหะมาก ให้คิดเอาเองว่าลำพังยันต์หนึ่งนั้นยังมีอุปเท่ห์ใช้ได้นับสิบนับร้อย เช่นนั้นยันต์พัน คาถาพัน ยิ่งไม่ต้องพุดถึง เอาว่าที่นำมาใช้เป็นมวลสารก็เพื่อเห็นแก่ประโยชน์ต่างๆที่จะเกิดขึ้นในชีวิตประจำวันของคนบูชา ทั้งยังเป็นคติของสมเด็จพระศรีอาริย์ที่ใครจะเกิดในยุคท่านก็ให้ฟังเทศนามหาเวสสันดรชาดกในวันเดียวจบทั้งพันพระคาถา เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงทำผงคาถาพันขึ้นเสมือนใครมีไว้ก็เกิดทันท่านและได้อยู่กับท่านเป็นคณะของท่านนั่นเอง
    เมื่อได้ผงยันต์พันคาถาแล้ว พ่ออาจารย์ท่านท่านได้เขียนผงยันต์ธงพระฉิมเรียกทรัพย์ ผงมนต์มหาลาภ ผงคาถาเรียกทรัพย์ ผงคาถาเงินแสน ผงคาถาเงินล้าน ผงยันต์มหาโสฬสสะระตะใส่ลงไปอีกด้วย ท่านว่าเอาผงทั้งหมดมาคลุกกับน้ำมันตานีที่ต้องพลีปลีกล้วยตานีมาเคี่ยวกับว่านเจ็ดชนิดในโบสถ์เจ็ดโบสถ์ตอนเที่ยงคืน พ่ออาจารย์ว่าท่านทำเก็บไว้นานก็เพิ่งได้นำมาใช้เพราะสมัยนี้จะไปขออนุญาตินั่งเคี่ยวน้ำมันในโบส์ตอนเที่ยงคืนพระท่านก็จะมองเราไม่ดีไปเสียอีกท่านจึงไม่ทำน้ำมันตัวนี้แล้ว ท่านว่าน้ำมันนี้แรงนะเพราะตอนเคี่ยวเราต้องใช้เตโชกสิณไม่ใช่ใช้ไฟเคี่ยว ต้องเคี่ยวไปเรื่อยๆจนน้ำมันเดือดขึ้นฟองนั่นจึงถือว่าสำเร็จ ท่านว่าน้ำมันนี้โดยรวมจะดีทางเมตตามหานิยม แต่ที่แน่ๆทางเสี่ยงโชคลาภลอยก็ได้ไม่หยอกเหมือนกัน

    เมื่อได้ผงกดพิมพ์แล้ว พ่ออาจารย์ท่านจึงนำของกายสิทธิ์ต่างๆฝังลงไปด้วยอีกคำรบหนึ่ง ท่านว่าพระศรีรุ่นนี้เราจะทำไว้ให้ช่วยคนได้มากที่สุด เพราะปกติวิสัยของพระบรมโพธิสัตว์แล้วท่านจะสงเคราะห์คนไม่เลือกที่รักมักที่ชัง และเพื่อสร้างบารมีท่านย่อมเสียสละได้แม้ชีวิต เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงนำของมงคลต่างๆที่รวบรวมไว้ตามบัญชาพระศรีมามาฝังไว้ดังนี้
    - ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา ผงนี้ท่านว่าได้มาตามสัญญาของสมเด็จพระศรีท่านที่ว่า"ส่วนเรื่องจะเอาอะไรไปทำเดี๋ยวฉันจะให้คนเอาลงไปให้ " พ่ออาจารย์ท่านว่าเราเองก็ยังงงๆและไม่เข้าใจเหมือนกัน เพราะวันนั้นเราเดินทางไปทำบุญวัดพระศรี..ก็เจอตาปะขาวแปลกๆเอาถุงใส่ผงมายื่นให้ใส่มือ บอกกับเราว่าพระศรีท่านให้ผมรอเอาของให้อาจารย์ พอเราก้มหน้าลงพิจารณาผงครู่หนึ่งเท่านั้นปะขาวท่านก็ไม่อยู่เสียแล้ว พ่ออาจารย์ท่านว่าผงนี้ก็แปลกสมกับเป็นผงของเทวดาจริงๆ เพราะเราจับดูแล้วก็เห็นองค์พระมาปรากฏในนิมิตเวลาทำกรรมฐาน พวกเธอรู้มั๊ยว่าองค์พระที่อยู่ในผงนี่ศักดิ์สิทธิ์มาก เพราะไม่ว่าจะขอพร ขอความช่วยเหลืออะไร ท่านก็จะประทานพรให้สมความปรารถนา สมกับเหตุการณ์ที่ขอทุกครั้ง ท่านว่าดูแล้วมันก็แปลกดีเพราะว่าทุกสิ่งนั้นทันใจ ทันความคิด และได้สมดั่งปรารถนา เราเองก็ไม่รู้ว่าผงอะไรเพราะไม่เคยเจอผงแบบนี้เลยจึงถามพระศรีท่าน ท่านก็บอกชื่อมาว่าแบบนี้ๆผงนี้ต่อไปจะได้ช่วยคนของผม พ่ออาจารย์ท่านว่าเราพิจารณาเห็นว่าผงนี้มีคุณวิเศษ เห็นว่าดี เร็ว และแรงจริงๆ อธิษฐานขอได้ครบ สมใจนึก ท่านจึงเอาบรรจุไว้ในขวดฝังลงไปเลย ท่านว่าเฉพาะผงนี้ไม่ต้องผสมอะไรใช้ได้ทั้งอย่างนี้เลย ถ้าคนมีวาสนาเขาจะได้ไปอธิษฐาน ขอเพียงหลับตาให้เห็นองค์พระแค่นั้นขอได้หมดเลย ท่านว่าสมเด็จพระศรีท่านจะช่วยคนของท่านให้นำพาตัวเองให้อยู่รอดไปได้ท่ามกลางสภาวะสังคมและเศรษฐกิจในปัจจุบัน
    - หุ่นเทพน้อย(เจ้ามารน้อย) พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศรีท่านให้เราเอาไม้มะเขือบ้ามาแกะหุ่นเทพน้อย ท่านว่าเป็นบริวารของท่านให้เราใส่ลงไปด้วย เพราะสมเด็จพระศรีนั้นเวลาใครขออะไรท่านจะช่วยได้เต็มที่แต่ก็ไม่เกินวาระกรรมของเขา เช่นนี้ท่านจึงให้ใส่หุ่นเทพน้อยเอาไว้ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็แกะแต่ไม่มีปัญญาเสก เพราะหุ่นเทพน้อยนี้ต้องเชิญพระศรีท่านมาทำมากำกับบริวารของท่านเองเรามีหน้าที่ทำและดูอย่างเดียว พ่ออาจารย์ท่านว่าพระศรีท่านให้เอาหุ่นนี้แช่น้ำมนต์ในขันสัมฤทธิ์ท่านจะทำให้เพราะท่านถือว่าน้ำเป็นบ่อเกิด เป็นปัจจัยแห่งชีวิต สิ่งมีชีวิตจะขาดน้ำไม่ได้เหมือนท่านจะหนุนธาตุน้ำนำหน้า และหุ่นนี้ก็นับว่าแปลกเพราะพระศรีท่านตั้งใช้ให้ลงไปช่วยคน เอาว่าเรื่องอะไรที่มันไม่ใคร่จะงาม สองแง่สองง่าม ดูไม่อยู่ในหลักในธรรมเท่าไหร่ เรื่องแบบนี้อย่าไปขอพระศรีท่านแต่ให้บอกกับเทพน้อยแทนรับรองว่าได้เรื่อง พ่ออาจารย์ท่านว่าแสบไม่ใช่เล่นไม่อย่างนั้นพระศรีท่านกับคณะเทพบนดุสิตคงไม่เรียกว่าเจ้ามารน้อย(เพราะความแสบ) พระศรีท่านว่ามารไม่มีบารมีไม่เกิดและอำนาจเทวปุตมารก็เป็นตัวทดสอบความมั่นคงของจิตมนุษย์ เช่นนี้ท่านจึงให้เทพน้อยมาร่วมสร้างบารมีไปพร้อมกัน พ่ออาจารย์ท่านว่าหุ่นเทพน้อยนี่อาถรรพ์แรงใช้อะไรเขาก็สู้ไม่ถอย สู้จนตาย ตอนพระศรีท่านเชิญท่านทำของท่านเสร็จเราเห็นเป็นรัศมีสีเขียวจับที่ตัวหุ่น เอาว่าสิ่งเหล่านี้เป็นปัจจัตตังแต่จงรู้ไว้ว่าหุ่นนี่มีชีวิตเวลาเดือดร้อนอะไรหรือต้องการอะไรขอให้บอกกล่าวให้เทพน้อยช่วย เขาจะช่วยเธอได้ ท่านว่าก่อนเอามาฝังนี่สมัยพระศรีท่านลงให้ใหม่ๆเราเคยลองให้คนตกงานเขายืมใช้ก็ยังได้งานทำไวทันตาเห็น
    - ตะกรุดพระโพธิสัตว์ค้าสำเภา เป็นวิชาที่ใช้ในด้านโชคลาภ มหาลาภ เรียกทรัพย์ เรียกเงินทอง ทำมาค้าขึ้น ค้าขายร่ำรวย ดูดทรัพย์ ข้าวของ เงินทอง ไหลมาเทมา ด้วยวิชาการปลุกเสกสร้างตะกรุดให้คนใช้บังเกิดโชคลาภ ใช้แล้วมีโชคลาภ มีเงินมีทองเพิ่มทรัพย์รับเงินและทองไหลมาเทมา จะมีแต่ความสุข ความเจริญ เจริญด้วยลาภ ยศ ทรัพย์สินเงินทองข้าวของเนืองนองพ่ออาจารย์ท่านเสกมนต์เรียกทรัพย์กำกับไว้หมื่นจบ ท่านว่าเสกจนเสกไม่เข้าจนเชื่อมั่นได้ว่าเป็นของศักดิ์สิทธิ์ขลังและแรงมากเรื่องมหาลาภเรียกทรัพย์ได้ผลดีจริง ซ้ำยังเป็นวิชาสายโพธิสัตว์ที่เหมาะกับการฝังไว้กับพระศรีเพื่อให้คนนำไปใช้สร้างบารมี
    - เหล็กไหลฤาษีองคต พ่ออาจารย์ท่านว่าเป็นของสิริมงคลบันดาลลาภผลสูงสุด ทั้งเป็นเมตตามหานิยมคนชื่นชมชอบใจด้วยเป็นสิริมงคล คนเคารพนับถือ เทวดาชื่นชม พรหมก็สรรเสริญ ท่านว่าพกไปจะพบความสำเร็จในการดำเนินชิวิต และยังแก้รวมถึงป้องกันยาพิษยาสั่งอีกคาถาอาคม การเสกของลองวิชา อีกทั้งป้องกันอุบัติเหตุจะเปลี่ยนหนักให้กลายเป็นเบา จะให้ผู้บูชาเป็นผู้โชคดีตลอดไปแม้คนในครอบครัวที่อยู่ในรัศมีขององค์เหล็กก็จะเป็นผู้ประสบเฉพาะสิ่งที่ดีเลิศในการดำเนินชีวิตประจำวัน

    พอสำเร็จเป็นองค์พระ พ่ออาจารย์ท่านว่าเราก็ยังไม่ได้เสกอยู่ดีเพราะทั้งหมดนี้ต้องเชิญสมเด็จพระศรีท่านทำของท่านเป็นรูปนิมิตของท่าน ให้ท่านนิรมาณกายของท่านมาสถิตย์รูป ท่านว่าเราจะได้ทำก็เพียงดั้นเมฆซึ่งสมเด็จท่านบอกให้เราทำและท่านจะช่วย พ่ออาจารย์ท่านว่าวิชานี้คือการยกเมฆบังรัศมีดวงอาทิตย์ระหว่างประกอบพิธี แต่โบราณนั้นเชื่อว่าการดั้นเมฆเชื่อว่าจะดับทุกข์ คลายเหตุการณ์ที่เดือดร้อนทั้งปวงให้กับผู้บูชาได้ ทั้งยังยกชีวิต ยกจิตใจ ยกดวงชะตาคนใช้ไม่ให้ตกต่ำ ไม่ให้ล้ม ให้เป็นสุขอยู่ตลอดเวลา ท่านว่าเป็นความเมตตาของพระศรีท่าน นี่ถ้าใครมาถามฉันว่าพระนี่ดียังไง ฉันคงตอบเขาว่าตาบอดรึเปล่าถึงไม่รู้ เพราะพระศรีท่านทำให้ทุกอย่าง ตรงนี้ก็สุดแล้วแต่วาสนาเขาเท่านั้น

    คาถาบูชา (นะโมสามจบ)
    ธุระนะสิ ธุรินะสะ กะระ นะโมพุทธายะ การะไมตรีเมตตัง จิตติธะนัง ชีวิตจุติ อุอะยุยะ นะมะสัจเจ นะเมสัจจะ วะภะนะโม โหติ


    * พ่ออาจารย์ว่าพระศรีนี้ฉันทำได้แปดองค์ และจะเก็บไว้ใช้เององค์หนึ่ง รวมกับพระศรีท่านไปนิมิตบอกให้พระที่มาเอาไปอีกสององค์ จึงมีให้บูชาทั้งหมดห้าองค์ พ่ออาจารย์ท่านว่าถ้ารู้ว่าตัวเองรอพระศรี เป็นคนของพระศรีก็มาเอาไป รับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้ร่วมสมทบทุนสร้างห้องน้ำในวัดที่ขาดแคลนต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา สมเด็จพระศรี{อาริย์}สัมฤทธิ์(ผงพุทธทันใจมหาสมปรารถนา) บูชา 4,000 บาท

    50598017-1981814658593988-1651164915265699840-n.jpg 49348724-462082584323432-3975526208552042496-n.jpg
    49802064-521188058388898-950118079512182784-n.jpg
     
  8. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS

    พี่ชัยวัฒน์ EW 2344 2665 4 TH

    พี่สุรวุฒิ EW 2344 2666 8 TH

    พี่ศิระ EW 2344 2667 1 TH
     
  9. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    วิธีแก้ปัญหามลพิษทางอากาศของเมืองใหญ่ทั่วโลก

    ปัญหามลพิษทางอากาศกำลังเป็นภัยคุกคามผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่รวมทั้งกรุงเทพฯ ซึ่งมีกิจกรรมที่ก่อให้เกิดมลพิษที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพมากมาย ด้วยเหตุนี้เมืองต่าง ๆ ทั่วโลกจึงพยายามหาทางออกในการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศที่กำลังคุกคามสุขภาพของชาวเมือง

    เมืองผู้ดีก็เจออากาศสกปรก

    ที่อังกฤษ รัฐบาลเพิ่งประกาศยุทธศาสตร์อากาศสะอาด (Clean Air Strategy) วานนี้ (14 ม.ค. 2561) ให้คำมั่นว่าจะกำหนดเป้าหมายใหม่ที่ชัดเจนเพื่อลดฝุ่นละอองขนาดเล็กไม่เกิน 2.5 ไมครอน หรือ พีเอ็ม 2.5 ที่ปัจจุบันเมืองกว่า 40 แห่งในสหราชอาณาจักร มีค่าพีเอ็ม 2.5 ในระดับเดียวกับที่องค์การอนามัยโลก (WHO) กำหนด หรือสูงกว่า

    รัฐบาลอังกฤษตั้งเป้าว่าจะเป็น "แกนนำโลก" ในการควบคุมพีเอ็ม 2.5 อย่างไรก็ดี ไม่ได้ให้รายละเอียดที่ชัดเจนหรือลำดับแผนงานที่จะทำให้บรรลุเป้าหมายที่กำหนดไว้ว่าภายในปี 2030 เมืองต่าง ๆ ทั่วอังกฤษจะมีค่าพีเอ็ม 2.5 ต่ำกว่าที่ดับเบิลยูทีโอกำหนดดังนั้นกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมหลายแห่งจึงไม่มั่นใจและไม่เชื่อว่ายุทธศาสตร์อากาศสะอาดจะเป็นทางออกสำหรับการแก้ปัญหามลพิษในเมือง

    อังกฤษจะบรรลุเป้าหมายได้อย่างไร ?

    กิจกรรมสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งที่ทำให้เกิดฝุ่นละอองขนาดเล็กคือการเผาเชื้อเพลิงทั้งไม้และถ่านหินทั้งกลางแจ้งและที่ใช้ในครัวเรือน นอกจากนี้การทำเกษตรยังเป็นอีกปัญหาหลัก เนื่องจากการระเหยของก๊าซแอมโมเนียที่เกิดจากการใช้ปุ๋ยเพิ่มมากขึ้น ก๊าซชนิดนี้ทำปฏิกิริยากับสารเคมีชนิดอื่นในชั้นบรรยากาศและก่อให้เกิดอนุภาคมลพิษที่ถูกลมพัดพาไปยังบริเวณที่มีประชากรอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นได้

    ดังนั้นรัฐบาลอังกฤษจะห้ามขายเชื้อเพลิงที่ก่อให้เกิดมลพิษสำหรับใช้ในครัวเรือน และตั้งแต่ปี 2022 เป็นต้นไป เตาหุงหาอาหารที่ใช้จะเป็นประเภทที่ไม่ก่อเกิดมลพิษ นอกจากนี้รัฐบาลยังอยู่ระหว่างปรึกษาหารือว่าจะค่อย ๆ เลิกขายเชื้อเพลิงถ่านหินที่ใช้ในบ้านและจำกัดการขายไม้เปียก ที่ถูกนำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงด้วย

    สำหรับเกษตรกรนั้น รัฐบาลจะออกมาตรการกำหนดให้ใช้วิธีทำเกษตรที่ส่งผลให้มีการปลดปล่อยก๊าซแอมโมเนียน้อยลง โดยรัฐบาลจะช่วยเหลือในการลงทุนในเทคโนโลยีที่จะจำกัดการปลดปล่อยก๊าซแอมโมเนียได้


    เกาหลีใต้ ให้บริการขนส่งมวลชนฟรีและเทคโนโลยี

    เมื่อต้นปี 2017 ทางการเกาหลีใต้ใช้มาตรการฉุกเฉินแก้ปัญหามลพิษในกรุงโซล ด้วยการจัดให้บริการขนส่งมวลชนฟรีในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อช่วยลดปริมาณการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล

    ปัญหามลพิษทางอากาศของกรุงโซลเชื่อว่าเป็นผลมาจากการใช้ถ่านหินและน้ำมันดีเซล ประกอบกับการได้รับหมอกควันจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างจีน

    นอกจากมาตรการดังกล่าวแล้ว ทางการเกาหลีใต้ยังใช้วิธีแก้ปัญหามลพิษทางอากาศอื่น ๆ เช่น การจำกัดการใช้รถยนต์รุ่นเก่า การจำกัดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคลของลูกจ้างรัฐ การปิดลานจอดรถตามหน่วยงานรัฐ 360 แห่ง และการลดการก่อสร้างของโครงการที่ได้รับงบประมาณจากภาครัฐ

    นอกจากนี้ เมื่อปี 2018 กระทรวงสิ่งแวดล้อมเกาหลีใต้ได้ประกาศใช้โครงการนำร่อง โดยใช้โดรนติดกล้องบินตรวจตราพื้นที่แถบชานกรุงโซล เพื่อตรวจสอบว่าโรงงานอุตสาหกรรมต่าง ๆ ไม่ได้ลักลอบปล่อยควันเสียที่มาของฝุ่นละอองขนาดเล็กและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ซึ่งเจ้าหน้าที่กระทรวงฯ เชื่อว่ามาตรการนี้จะช่วยให้ตรวจพบผู้ลักลอบปล่อยควันเสียได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพกว่าการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ภาคพื้นดิน

    มาตรการแก้ปัญหามลพิษทางอากาศในยุโรป
    กรุงมาดริด

    เมื่อปลายปี 2018 ทางการสเปนเริ่มใช้มาตรการจำกัดรถยนต์ที่จะวิ่งเข้าไปในเขตควบคุมคุณภาพอากาศย่านใจกลางกรุงมาดริด ซึ่งทางการหวังว่าจะช่วยลดมลพิษทางอากาศได้ถึง 40% ช่วยลดมลพิษทางเสียง และกระตุ้นให้ผู้คนใช้รถจักรยาน และระบบขนส่งสาธารณะมากขึ้น

    มาตรการนี้ ผู้ใช้รถจะต้องนำรถไปตรวจวัดการปล่อยไอเสีย ซึ่งรถยนต์รุ่นเก่าที่ก่อมลพิษมากที่สุดจะถูกห้ามขับเข้าไปในเขตควบคุมที่อยู่ใจกลางกรุงมาดริด ขณะที่รถยนต์ไฮบริดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมจะได้รับอนุญาตให้สัญจรได้อย่างเสรี เป็นต้น

    กรุงปารีส

    ทางการห้ามรถที่ผลิตก่อนปี 1997 ขับเข้าไปในย่านใจกลางเมืองช่วงวันจันทร์-ศุกร์ ระหว่างเวลา 08.00-20.00 รวมทั้งห้ามรถยนต์ดีเซลทั้งหมดที่ขึ้นทะเบียนก่อนปี 2001 ขับเข้าพื้นที่ดังกล่าว

    นอกจากนี้ ทางการฝรั่งเศสยังใช้กลยุทธ์เพื่อห้ามรถรุ่นเก่าและรถดีเซลขับเข้าย่านใจกลางเมืองหลวงอย่างสิ้นเชิง ขณะเดียวกันก็ใช้มาตรการอุดหนุนให้ประชาชนเดินทางด้วยวิธีอื่นที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และวางแผนให้ย่านใจกลางเมืองเป็นเขตถนนคนเดิน

    กรุงสตอกโฮล์ม

    ทางการสวีเดนใช้มาตรการเรียกเก็บค่าธรรมเนียมรถที่ขับรถเข้าไปในพื้นที่การจราจรหนาแน่นย่านใจกลางเมืองหลวง รวมทั้งจัดจุดให้ประชาชนจอดรถส่วนบุคคลในย่านชานเมืองแล้วขึ้นรถโดยสารเข้าเมืองแทน

    นอกจากนี้ทางการยังใช้แผนการคมนาคมในเขตเมือง Urban Mobility Strategy โดยเพิ่มการลงทุนในระบบรถโดยสารประจำทาง รถราง และรถไฟใต้ดิน

    ภัยของฝุ่นละอองพิษ

    แคเธอรีน เบเซลล์ บรรณารักษ์ที่เกษียณแล้วชาวอังกฤษเป็นอีกคนที่เป็นโรคหอบหืด รวมถึงอาการที่เรียกว่า โรคหลอดลมพอง (Bronchiectasis)

    โรคหลอดลมพอง หรือที่บางครั้งเรียกว่า โรคมองคร่อ คืออาการที่หลอดลมภายในปอดขยายตัวถาวรอย่างผิดปกติ ทำให้เกิดการสั่งสมของมูกมากขึ้น ทำให้ปอดเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
    "คนเราไม่ได้รับอากาศสกปรกตลอดเวลา แต่มันก็มีอยู่" เธอกล่าว

    "มันน่าผิดหวังมาก ฉันเหนื่อยง่ายมาก หน้าอกมันบีบรัด หายใจยาก มันทำให้คุณต้องหยุดทำทุกอย่างที่คุณอยากทำ"

    "คุณเห็นประกาศเตือน และประกาศมันก็บอกว่าวันนี้อากาศเป็นพิษมาก คุณจำเป็นต้องอยู่ให้ห่างมลพิษ มันทำให้ฉันโกรธ เพราะทำเราเราต้องอยู่แต่ในบ้าน"

    "เราจำเป็นต้องทำอะไรบางอย่างกับมลพิษทางอากาศ เพื่อให้ผู้คนใช้ชีวิตได้ตามปกติ"


    5 วิธีหลีกเลี่ยงมลพิษทางอากาศ
    • หลีกเลี่ยงการเดินทางในถนนที่มีการจราจรคับคั่ง เพราะระดับความเข้มข้นของมลพิษมักพบอยู่โดยรอบพื้นที่เหล่านี้
    • ใช้ถนนที่ไม่ใช่เส้นหลัก เพราะมีรถสัญจรน้อยกว่าจึงทำให้มีมลพิษน้อยกว่า
    • หลีกเลี่ยงแหล่งกระจุกตัวของอากาศเป็นพิษ ซึ่งหมายถึงบริเวณที่รถจอดนิ่งโดยที่ติดเครื่องยนต์ไว้ โดยเฉพาะบริเวณรถติด หรือจุดที่รถจอดติดไฟแดง ส่งผลให้บริเวณนี้มีมลพิษทางอากาศหนาแน่น ดังนั้นหากต้องรอข้ามถนนในแถบนี้ จึงควรกดสัญญาณไฟคนข้าม แล้วถอยให้ห่างจากถนนจนกว่าสัญญาณไฟให้ข้ามถนนจะปรากฏขึ้น
    • เมื่อเดินขึ้นเขา ให้เลือกเดินฝั่งที่รถวิ่งลงเขา เพื่อหลีกเลี่ยงการรับควันจากท่อไอเสียในปริมาณมาก
    • หน้ากากกันฝุ่นละอองแบบธรรมดาไม่สามารถป้องกันฝุ่นละอองเป็นพิษได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในขณะที่หน้ากากป้องกันมลพิษแบบเต็มประสิทธิภาพก็มักเทอะทะไม่สะดวกในการใช้งาน นักวิทยาศาสตร์จึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงถนนที่มีการจราจรคับคั่งแทน
    *** เรื่องฝุ่นนี่กำลังมาแรงและช่วงนี้คนก็ตื่นตัวกันมาก เป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในระยะยาว ตอนนี้หลีกเลี่ยงการเดินทางในพื้นที่แออัดได้ก็ดีกว่านะครับ
     
  10. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์ครับ

    วันนี้ส่งของให้นะ ใครจะฝากคำถามอะไรก็ PM กันไว้ครับ
     
  11. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่งEMS
    พี่สุทธิธรรม EW 2343 9166 3 TH

    พี่ภิญโญ EW 2343 9167 7 TH

    พี่ภาคภูมิ EW 2343 9168 5 TH

    พี่วัชรพันธ์ EW 2343 9169 4 TH

    พี่วิชัย EW 2343 9170 3 TH

    พี่นันทวัฒน์ EW 2343 9171 7 TH

    พี่พรเทพ EW 2343 9172 5 TH
     
  12. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ทำไมต้องพระปิดตา พระปิดตาคืออะไร..

    พระปิดตาความจริงไม่มีชื่อนี้ แต่มักนิยมเรียกกันมานานจนชินปาก "พระปิดตา"ลักษณะขององค์พระท่านเป็นการยกพระหัตถ์ ปิดพระพักตร์ มิใช่ยกพระหัตถ์ปิดพระเนตร(ตา) แต่ปิดรวม ตา หู จมูก ปาก และดวงหน้าซึ่งนับเป็นส่วนหนึ่งของกาย ส่วนใจเป็นนามก็ปิดโดยสมมุติ นับเป็นอาการสำรวมอายตนะ 6 ประการ

    โดยหลักๆพระปิดตาจะมีทั้งหมด 3 ประเภท

    1.พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งยองความหมายเดิมคือพระโพธิสัตว์เจ้าในพระครรภ์ เรียกว่าพระมหาอุด หรือเป็นพระปิดทวารทั้งเก้าเต็มภาค ไม่มีคำเรียกอย่างอื่น

    2.พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิยกหัตถ์ปิดทวารทั้งเก้า ความหมายเดิมคือพระเจ้าเข้านิโรธ ควรใช้ศัพท์เรียกว่า “ภควัม”ไม่มีคำว่าพระนำหน้าและไม่มีคำบดีหรือปติตามหลัง จะเรียกภควันต์ก็ไม่ได้ เพราะคำศัพท์หมายถึงพระอิศวรหรือนามแห่งพระพุทธเจ้า ภควัม ตามความหมายของพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตสถานหมายความถึงพระปิดทวารทั้งเก้าปิดตาคว่ำพระพักตร์ จนมีคำพังเพยว่า”หน้าคว่ำเป็นภควัมเจียวนะ”หมายถึงสาวแสนงอน มองไปหลายตลบ ก็ไม่พบพระปิดตาหน้าคว่ำคำราชบัณฑิตหมายถึง ผู้แปลบาลีท่านจะเป็นนักพระเครื่องด้วยหรือเปล่าก็ไม่ทราบ

    3. พระปิดตา ชนิดปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่น เป็นพระเมตตามหานิยมและลาภผล เรียกว่า “พระควัมปติ”พระปิดตาทั้ง๓ชนิดมีทั้งฝ่ายบู้ ฝ่ายบุ๋น

    ความหมายมิได้คล้ายคลึงกันเลย ยังมีบุคคลบางท่านเข้าใจผิดคิดว่าเป็นประเภทเดียวกัน จำต้องสังคายนาให้เห็นชัดสักครั้ง เพราะมิผู้นิยม"พระปิดตา"กันมาก ทั้งนี้จะขอหยิบยกอธิบายเฉพาะพระปิดตา ที่ท่านนั่งขัดสมาธิยกมือทั้งสองข้างปิดหน้า ซึ่งเป็นพระที่อุดมทั้งลาภผลและมหานิยมแก่ผู้บูชาสักการะ อันมีประวัติที่มาตามแต่โบราณดังนี้....

    พระปิดตานั่งขัดสมาธิ ยกหัตถ์ทั้งสองขึ้นปิดพระพักตร์ เว้นส่วนอื่นเป็นองค์สมมุติ ของพระอรหันตเจ้าพระองค์หนึ่ง อิทธิคุณเน้นหนักไปในทางนิ่มนวล เมตตามหานิยม เสน่ห์ ลาภผล แคล้วคลาด การจัดสร้างเนื้อหาก็แตกต่างกัน ความมุ่งหมายของการสร้าง เป็นไปได้ทั้ง บุคคลาธิษฐาน และธรรมาธิษฐาน นิยมเรียกกันว่า “พระควัมปติ”

    พระควัมปติ หมายถึงพระอรหันต์รูปใดในตำนานพุทธสาวกกล่าวว่า ท่านคือพระควัมปติเป็นพระสาวกรุ่นแรกๆ ของพระพุทธองค์ ก่อนอุปสมบทดำรงฐานะอยู่ในขั้นเศรษฐีมีทรัพย์ ระดับเดียวกันกับ ยสมานพ(อ่านยะสะ) เป็นเพื่อนเกลอรักใคร่ชอบพอกันมาก ครั้งเกิดธรรมาพิสมัย จึงพร้อมใจกันอุปสมบทในสำนักของพระบรมศาสดา ภายหลังต่อมาได้บรรลุอรหันต์ทั้งสองรูปท่านพระควัมปติทรงเป็นเอตะทัคคะ 1 ในพระอรหันต์ผู้ทรงเอตะทัคคะ 80รูปในด้านอินทรีย์สังวร ท่านบรรลุซึ่งเตวิชโชหรือวิชชาสาม เชี่ยวชาญในอิทธิวิธี เชียวชาญทางวิปัสสนากรรมฐาน เคยใช้ฤทธิ์ห้ามกระแสน้ำในลำน้ำสรภู ซึ่งไหลเชี่ยวให้หยุดไหลได้ อาการที่สำรวมทั้งภายนอกภายในโดยเคร่งครัดสม่ำเสมอนี้ ทำให้เทพยดาแลมนุษย์พากันเคารพสรรเสริญ ต่อมาได้พากันสร้างรูปของท่านเพื่อสักการบูชาลักษณะการยกพระหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์จัดเป็นธรรมาธิษฐาน มิใช่บุคคลาธิษฐาน เพราะการสำรวมอายะตนะ ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ไม่จำเป็นต้องปิดหน้า"พระปิดตา" แต่เป็นการแสดงความหมายให้ทราบเท่านั้น

    ตำนานพระปิดตา อีกตำนานหนึ่งกล่าวว่า "พระปิดตา"ชนิดนี้คือพระมหากัจจายน์เถระเจ้า ปางอธิษฐานเนรมิตกาย ความเดิมมีว่าท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าท่านนี้ เป็นเอตะทัคคะในการขยายความย่อให้พิสดาร และเป็นผู้วางหลักสูตรพระบาลีมูลกัจจายน์ คือการสอนพระบาลีไวยากรณ์ในสมัยก่อน เกิดในวรรณะพราหมณ์ในสกุลกาญจนโคตร ประกอบผิวพรรณวรรณะอาการแห่งลีลารวมทั้งวรกายละม้ายคล้ายองค์พระบรมศาสดาเจ้า หากดำเนินมาแต่ไกล ผู้คนมักจะจำผิดพากันคิดว่าพระพุทธองค์เสด็จและแม้แต่เทพยดาก็พากันหลงผิด ลีลาสง่างามยิ่งนัก เป็นที่เสน่หานิยมชมชอบของเทพยดาแลมนุษย์ชายหญิงทั้งหลาย และพากันถวายฉายาว่า “ควัมปติ” แปลว่าผู้มีวรกายแลละม้ายคล้ายพระศาสดา (ได้ค้นศัพท์ในพจนานุกรมแล้วไม่มีปรากฏ) ในกาลครั้งหนึ่งโสไรยเศรษฐีบุตรพ่อค้าวานิช ได้คุมกองคาราวานไปค้ายังเมืองไกล บังเอิญประจวบเหมาะได้พบเจอกับท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าก็คิดรำพึงอยู่ภายในไจว่า ภรรยาเรานะนับว่ามีความงามเป็นเลิศ ยังมิอาจเทียบเท่ากับสมณะท่านนี้ หากเราได้ภรรยาเช่นนี้จะปลื้มใจสักเพียงใด พอความนึกคิด สะดุดหยุดลง โสไรยเศรษฐีบุตรพลันกลับกายร่างเป็นเพศหญิงในทันทีทันใด บังเกิดความละอายยิ่งนัก หลบหน้าหลบตาไม่ยอมพบประผู้คน ทั้งไม่ยอมกลับไปยังสถานที่อยู่เดิม ทอดทิ้งบุตรภรรยาและบิดามารดาให้รอคอยด้วยความกระวนกระวายใจ สุดท้ายหมดเนื้อหมดตัว ไปได้สามีแลได้บุตร 2 คน รวมกับบุตรที่มีอยู่เดิม 2 คน เป็น 4 คน ยิ่งฟุ้งซ่านใหญ่กาลเวลาผ่านมาหลายปี จนกระทั้งอยู่มาวันหนึ่งนางก็ได้เห็นท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้า ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ นางจึงจัดภัตตาหารพร้อมด้วยขันใส่ข้าวสุก ไปคอยดักใส่บาตร และกราบบอกความเป็นไปให้ทราบ อ้อนวอนให้ท่านพระมหากัจจายนะเจ้าจงโปรดช่วยเหลือ ท่านมหากัจจายนะเถระเจ้าจึงนัดพบหลังจากเสร็จจากการบิณฑบาตและกระทำภัตตกิจเรียบร้อยแล้ว ท่านกล่าวว่านึกไม่ถึงและไม่มีเจตนาแต่ประการใดเพียงแต่มีข้อแม้ว่าหากท่านช่วยอธิษฐานกลับเพศให้ได้ดังเดิมแล้ว โสไรยเศรษฐีบุตร ต้องอุปสมบทเป็นพระภิกษุในบวรพุทธศาสนาโสไรยเศรษฐีบุตรจึงตกลงรับคำ และกลับเพศให้สมปรารถนาท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าทรงเป็นอุปัชฌาย์อุปสมบทให้โดยเรียบร้อย ภายหลังต่อมาพระโสไรยได้บรรลุอรหัตผล

    ท่านพระมหากัจจายนะเถระเจ้าจึงทรงรำพึงว่า อันความสวยความงามในรูปกายของท่านทำให้เทพยดาแลผู้คนพากันไหลหลงเป็นของมีโทษ เรียกว่ากามวิตก เป็นหนทางแห่งการมัวหมองเราควรจะแปรเปลี่ยนสรีระเสียใหม่ให้สิ้นซึ่งความสง่างาม รำพึงดังนั้นแล้วท่านก็ทรุดองค์ลงนั่งคู่บัลลังก์ยกหัตถ์ขึ้นปิดพระพักตร์ อธิษฐานเนรมิตวรกาย ให้มีรูปร่างอ้วนเตี้ยม้อต้อมีอุทรอันพลุ้ยสิ้นซึ่งความสง่างาม

    296fdde1cd55120c40233d6fb1e12327-d25vj52.jpg
     
  13. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ฝากคำถาม PM กันไว้นะครับ
     
  14. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีคนสอบถามว่าพระปิดตารุ่นเก่าๆของพ่ออาจารย์ยังเหลือมั๊ย อันนี้รายการพระปิดตาที่เคยออกให้บูชาทั้งเนื้อผงลงรัก ทั้งเนื้อผงวิเศษ หรือแบบไม้แกะก็หมดเกลี้ยงไปนานแล้วนะครับ
     
  15. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    พ่ออาจารย์ท่านให้เอาพระปิดตาสูตรโบราณที่เรียกว่าปิดตาตั้งตัวมหาเสน่ห์ออกมาให้บูชากัน ซึ่งอะไรที่เป็นอาถรรพ์ของการตั้งตัว... รายการนี้นับว่าน่าสนใจจริง เพราะพ่ออาจารย์ท่านเน้นย้ำว่า "แค่ตั้งตัวได้อย่างเดียวยังไม่พอ สมัยนี้ต้องไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใคร ไม่ตกที่นั่งลำบาก ด้วยถึงจะอยู่ได้ " พระปิดตาท่านออกมาแต่ละทีมักจะมีประสบการณ์ให้ได้พูดถึงกันข้ามปี หนนี้ใครรอสายพระปิดตาก็ห้ามพลาดกันนะ ติดตามดีๆ
     
  16. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    อรุณสวัสดิ์นะครับ

    เดี๋ยววันนี้มาติดตามพูดคุยกันเรื่องพระปิดตามหาเสน่ห์กันนะ แอบบอกว่าท่านทำย้อนยุคพิมพ์ของหลวงปู่แก้วเลย ถึงขนาดที่ว่าท่านรับรองว่าใช้แทนกันได้เพราะเชิญหลวงปู่แก้วมาทำให้ที่เป็นสุดของพุทธคุณตำนานสาวสามหมู่บ้านกินน้ำบ่อเดียวกัน และสุดๆกว่านั้นคือท่านใช้ผงล้วนๆชนิดที่ว่าเนื้อพระจะนวลๆอมชมพูดูมีมนต์ขลังทีเดียว นอกจากนั้นกะซิบกันเลยว่ารายการฝังหลังไม่ธรรมดาสมกับวลีที่ว่า"แค่ตั้งตัวได้อย่างเดียวยังไม่พอ สมัยนี้ต้องไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใคร ไม่ตกที่นั่งลำบาก ด้วยถึงจะอยู่ได้ " รู้อย่างนี้แล้วก็บอกกันได้แค่ว่ารายการนี้ห้ามพลาดเพราะของมีน้อย และท่านว่าให้ออกราคาไม่สูงมากพอให้คนเขาได้เอาไปใช้
     
  17. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    แจ้งการส่ง EMS


    พี่กฤตยชญ์ EW 2343 7378 9 TH
     
  18. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเจ้าน้ำทองมหาเสน่ห์,ตั้งตัว(ลืมตาอ้าปาก)

    เธอเอ๋ย...อย่าได้สนเท่ห์ในพระภควัมปิดตาที่เราสร้างไว้เลย พ่ออาจารย์ท่านว่าคนในสมัยก่อนนั้น ถ้าเขาอยากจะตั้งตัวหรืออยากจะจีบสาวก็ดี เขาจะหาพระปิดตาที่สร้างขึ้นจากผงดีๆไว้ใช้กันซักองค์ ท่านว่าแค่นี้ก็เหลือกินแล้วไม่ต้องไปแสวงหาขุนแผนจากที่ไหนเลย ที่ผ่านๆมาด้วยเหตุว่าผู้ใดบูชาพระปิดตาที่พ่ออาจารย์ท่านเพียรเมตตาลบผง เชิญครูและตั้งใจปลุกเสกอย่างแท้จริงนั้นมักพบเจอแต่ความเจริญก้าวหน้าพวยพุ่งมุ่งตรงเข้ามาหาตลอด เรียกว่าไม่มีสิ่งใดจะมาหยุดสวัสดิมงคลและลาภผลที่จะมีเข้ามาแก่ผู้ที่มีพระปิดตาของท่านบูชาได้

    ท่านว่าท่านมีผงวิเศษอยู่ชนิดหนึ่งที่ลบถมปลุกเสกเอาไว้ยาวนานแล้ว ท่านเรียกรวมๆของท่านว่า"ผงลืมตาอ้าปาก" ด้วยท่านปรารถนาจะเก็บไว้ทำพระตระกูลเจ้าสัวหากแต่ครูสมเด็จท่านกลับแนะนำให้ใช้ทำพระปิดตาจะดีกว่า พ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำพระปิดตายอดผงตำรับโบราณที่ท่านตั้งใจสร้างไว้เพื่อช่วยคนที่ตกยากให้หายลำบาก คนที่มีหนี้ให้หายเป็นหนี้ คนที่ล้มเหลวให้ลืมตาอ้าปากมีกินมีใช้อย่างไม่รู้ตัว ท่านว่าเรื่องอดอยากปากแห้งหมดแรงทำมาหากินนั้นเป็นไม่มี ทั้งผงนี้อยู่ที่ไหนยังจะทำให้เกิดโชคดี ให้มีทรัพย์ทวีเพิ่มพูนว่องไว ให้หาเงินง่ายได้อย่างใจหวัง ท่านว่าตั้งใจอธิษฐานให้ดีๆผงนี้แรงจริงๆสมัยก่อนเราเอามากดกระพิมพ์สามเหลี่ยมองค์เล็กจิ๋วแจกคนไปมาก คนที่บูชาพระที่ทำจากผงลืมตาอ้าปากนี้เขาว่ามีประสบการณ์กันหนักมากบ้างก็ถูกหวยรวยเป็นแสนๆ บ้างขายที่ได้เงินเป็นสิบๆล้าน บางรายถึงขนาดกิจการแทบล้มละลายแต่พอได้พระจิ๋วนี้ไปบูชาหนี้ที่มีเป็นจำนวนหลายล้านกลับหมดได้ในเวลาเพียงไม่นาน เช่นนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงเรียกว่าผงลืมตาอ้าปาก และท่านค่อนข้างจะหวงผงวิเศษชุดนี้มาก ท่านว่าพระผงชุดนี้ไม่ว่าเธอจะหยิบจับกระทำกิจการอันใดขอให้บอกออกปากอธิษฐาน แล้วเธอก็จะได้สมหวังดังตั้งใจในเวลาเพียงไม่นาน เธอจะไปประสบพบเจอแต่ทรัพย์สินเงินตราอันมากมายเหลือล้นท่วมท้นล้นตัวเป็นเจ้าสัวมีเงินทองกองเต็มบ้าน ไม่เชื่อก็ลองดู..แล้วจะรู้ว่าว่าหาเงินหาทองมันได้ไม่ยากเลย

    พ่ออาจารย์ท่านนำผงวิเศษตระกูลต่างๆที่ท่านเก็บรวบรวมไว้มาผสมกับผงลืมตาอ้าปาก ซึ่งผงแต่ละชนิดได้ชื่อว่ามีคุณแรงด้วยกันทั้งสิ้น ได้แก่
    - ผงหมื่นหอม เป็นแท่งผงแท้ๆของหลวงพ่อแก้ว วัดเครือวัลย์ ท่านตั้งใจว่าหากจะทำพระปิดตาพิมพ์ของหลวงพ่อแก้วแล้วก็ต้องเสกให้ใช้แทนกันได้ เช่นนี้ท่านจึงนำผงหลวงพ่อแก้วที่เก้บไว้มาใช้เป็นมวลสาร พ่ออาจารย์ท่านว่าแท่งผงของท่านนั้นผ่านไปร้อยปีมาแล้วก็ยังหอม ผงหลวงพ่อแก้วได้เชื่อว่าเป็นผงอิทธิเจที่มีกำลังมากเช่นนั้นเราจึงเรียกว่าผงหมื่นหอมมีอานุภาพทางทำให้คนรักคนหลง ดังนั้นคนที่มีพระปิดตาหลวงพ่อแก้วหรือพระที่อาจารย์ยุคต่อมาใช้ผงหลวงพ่อแก้วทำขึ้นจึงห้ามขูดผงใส่น้ำใส่อาหารให้ผู้หญิงกินด้วยว่าจะทำหใ้เกิดปัญหาตามมา
    - ผงปัถมัง นิยมใช้ทางแคล้วคลาด กำบังล่องหน ป้องกันภูตผีปีศาจและคุณไสย
    - ผงอิทธิเจ นิยมใช้ทางเมตตามหานิยม เป็นมหาเสน่ห์อย่างสูงแบบเชื่อขนมกินได้ ทั้งยังรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ด้วยผงนี้หากปรารถนาหญิงใดชายใดท่านว่าจะได้ดังหวัง ใส่น้ำให้กิน ใส่อาหารให้กินจะเกิดความหลงใหลได้ปลื้ม
    - ผงมหาราช คือที่สุดหรือยอดสุดเป็นยอดแห่งผง มีอานุภาพด้านเมตตามหานิยม เป็นเสน่ห์อย่างสูง ใช้ได้ทั้งป้องกันและถอนคุณไสยและแคล้วคลาด การค้าขาย และเข้าหาผู้ใหญ่
    - ผงล้มลุก,สะดุ้งกลับ ท่านว่าล้มแล้วต้องลุกได้จะไม่หยุดอยู่กับที่ ทั้งผงสะดุ้งกลับยังช่วยให้เรื่องร้ายกลับกลายเป็นเรื่องดี ต่อไปอะไรที่ร้ายๆผ่านเข้ามาต้องเปลี่ยนเป็นเรื่องดีให้ทั้งหมด
    - ผงค่ายกลเศรษฐี หรือจะเรียกว่ายันต์ค่ายกลหนูตกถังข้าวสารก็ได้ วิชานี้ท่านว่าถ้าสายหลวงปู่ทิมจะเรียกว่ายันต์โบกสาวคือโบกผู้หญิงที่มีนิสัยดีให้เข้ามาหา เด่นด้านเมตตามหานิยม แต่พ่ออาจารย์ท่านทำเป็นวิชาค่ายกลอุปมาว่าเทวดาจำแลงกายออกมาเป็นพญาหนูขมวดหางชักเป็นยอดยันต์นะเศรษฐี เดินค่ายกลเลขยันต์ลบถมผงจนลอดกระดานชนวน ท่านว่าผงนี้ดีทางเจริญงอกงามเป็นเศรษฐีมั่งมีทรัพย์ ต้องเสกจนมีหนูตัวเป็นๆตกลงไปในผงจริงๆจึงจะใช้ได้ พ่ออาจารย์ท่านว่าก็อย่างที่รู้กันคือหนูตกถังข้าวสารนั้น มันอิ่ม มันสบาย มันบริบูรณ์ไปหมด ชีวิตมีแต่ความสุขแบบไม่ต้องออกแรงไปหาอะไรเลยเช่นนั้นแหละ ผงนี้จึงเป็นทั้งผงเมตตาอย่างเอกและเก่งทางโภคทรัพย์แบบหาตัวจับยาก
    - ไม้ไก่กุก เป็นไม้ที่ได้ชื่อว่าเป็นไม้มหาเสน่ห์ซึ่งมีแรงครูสูงและหาได้ยากนำมาเป็นมวลสารพิเศษด้วยท่านว่าจะขาดไม่ได้ ไม้ไก่กุกนั้นเกิดจากไก่แจ้ตัวผู้คาบกิ่งไม้วิเศษนี้ร้อง กุ๊ก กุ๊ก เรียกตัวเมียให้มาหาพร้อมทั้งโยนกิ่งไม้ให้ตัวเมียคาบอมน้ำลายต่อ ก่อนที่จะผสมพันธ์ได้ลูกไก่ป็นฝูง โบราณกาลจึงนิยมเอาไม้ไก่กุกที่ขึ้นชื่อว่าป็นไม้เรียกสาวหายาก ท่านจึงนำผงไม้ไก่กุกนี้มาผสมสร้างพระปิดตา ให้เป็นเลิศทางมหาเสน่ห์ มหานิยม เรียกคน เรียกเงิน เรียกลูกค้าชนิดคุมทั้งฝูง ทั้งยังหากินเก่งเลี้ยงได้ทั้งฝูง อุปมาว่าไก่ตัวผู้นั้นหากินเดินไปที่ไหน คุ้ยเขี่ยอะไรก็ได้ข้าวของเงินทองนับไม่ถ้วน
    - ว่านเศรษฐีกอบทรัพย์ เป็นว่านที่เลี้ยงไว้เพื่ออำนวยโชควาสนาบารมี เรียกเงินทองให้ไหลมาเทมาไม่ขาดสาย ส่วนใหญ่ผู้ปลูกว่านนี้จะเป็นเศรษฐีมีเงินกันแทบทุกคน ทั้งเป็นว่านทางเมตตามหานิยมมีแต่คนนิยมชมชอบนับหน้าถือตา ทำให้ผู้คนไปมาหาสู่อยู่เสมอ พอใบของว่านขอดเมื่อใดก็จะเรียกคนเข้าบ้านเรียกธนสารสมบัติเข้าเรือน ทำให้ขายของดี ธุรกิจการงานจะประสบความสำเร็จดี ยิ่งถ้าว่านออกดอกจะยิ่งมีโชคลาภยิ่งขึ้น ดังนั้นพ่ออาจารย์จึงตั้งใจใช้ว่านชนิดนี้ทำพระปิดตาโดยเฉพาะ
    ท่านได้นำผงวิเศษทั้งหลายอันได้แก่ผงพุทธคุณ,ผงตรีนิสิงเห,ผงพระเจ้าสิบหกพระองค์,ผงวิเศษด้านมหาเมตตามหานิยม,ผงมหามิตร มาผสมกับเกษรว่านร้อยแปด,กาฝากมงคล,ว่านยาวิเศษ,ไคลโบสถ์,ไคลเสมาโบราณสถาน,ผงกะลาตาเดียว,ผงคัมภีร์ใบลาน,ผงแร่บางไผ่,ผงแร่เกาะล้าน,ผงดินกากยายักษ์,ผงทำพระหลวงพ่อกวย


    ท่านแกะแม่พิมพ์พระควัมปติกำลังปิดตาทรงหลวงพ่อแก้วพิมพ์ใหญ่งดงามอลังการ ให้นูน อวบ อ้วน อุดมสมบูรณ์ แผ่กระแสเมตตาไปทั่วสารทิศ ท่านว่าผงเหล่านี้ที่นำมากด นำมาทำพระปิดตานั้นส่วนใหญ่จะเน้นผงที่ให้คุณทางมหาเสน่ห์หนึ่ง,ผูกมิตรหนึ่ง,เมตตาหนึ่ง,มหานิยมหนึ่ง เอาว่าต่อให้คนที่เกลียดกันไม่อาจเข้ากันได้ ไม่มีทางญาติดีกันเลยชนิดตายก็ไม่ต้องเผาผีกัน ไม่ถูกกันดั่งศรศิลป์ไม่กินกันอยู่รวมกันไม่ได้ ก็ยังญาติดีเป็นมิตรกันได้ ท่านว่านี่อานุภาพพระปิดตานั้นดีทางเมตตามหานิยมถึงขนาดนี้ขนาดคนที่ไม่ถูกกันยังอยู่ด้วยกันได้แล้วคนที่เกลียดเราล่ะจะไม่ยิ่งรักเมตตาเราหรือ นอกจากใช้ทางผูกมิตรไมตรีมีเมตตาไปรอบตัวแล้วยังใช้ทางเจรจาพาที ให้คุณทางโชคลาภ เงินทอง การทำมาหากินให้มีความสุขเกษมเปรมปรีดากว่าคนทั้งหลาย อายุยืนไม่เจ็บไม่ไข้เป็นสารพัดกัน ดุจมีกำแพงแก้ว 7 ชั้นกางกั้นไว้

    พระปิดตาลืมตาอ้าปากนี้ พ่ออาจารย์ท่านเน้นทำให้นำไปใช้งานได้จริง ท่านจึงฝังของวิเศษไว้สองชนิดได้แก่
    - องคตยศยง(องคตยกฐานะ) องคตผู้ไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใคร ไม่ตกที่นั่งลำบาก พ่ออาจารย์ท่านตั้งใจสร้างองคตนี้มาฝังพระปิดตาโดยเฉพาะท่านว่าสำหรับคนที่ไม่มีจุดยืน ยังขาดจุดหมายในชีวิต ด้วยองคตนั้นเคยเป็นตัวแทนพระรามไปเจรจาความกับทศกัณฐ์ ซึ่งทศกัณฐ์นั้นนั่งอยู่บนบัลลังค์ที่สูงส่ง ใครไปอยู่ตรงหน้าก็จะรู้สึกได้ถึงความไม่เท่าเทียม รู้สึกเสมือนเป็นผู้มีอำนาจด้อยกว่าทศกัณฑ์ เรียกว่าถูกสะกดข่มอย่างสมบูรณ์ แต่องคตก็กลับม้วนหางใช้นั่งต่างบัลลังค์จนความสูงเสมอกันกับทศกัณฐ์นั่นเอง พ่ออาจารย์ท่านจึงสร้างองคตม้วนหางขึ้นเป็นอาถรรพ์อย่างเอกและนับว่ามีคุณวิเศษอยู่มาก ท่านว่าคนใช้จะเป็นผู้ไม่ตกต่ำ ไม่ตกเป็นรองใครชีวิตจะมิได้ตกไปสู่ที่ต่ำเลย ดุจมีองคตยกขนดหางอุ้มชูไว้ แม้ชีวิตที่ต่ำมาแต่เดิมก็ต้องพุ่งไปสู่ที่สูง แม้คนที่อยู่สูงก็จะต่ำลงมิได้ ทั้งใครที่ได้รับความไม่เท่าเทียมกัน หรือมีความรู้สึกว่าตนเองด้อยกว่าผู้อื่น ไม่มีโอกาสเท่าคนอื่นเขา ท่านว่าคนเหล่านี้จะใช้องคตได้แรงนัก เอาว่าดีดตัวกันจนตั้งตัวไม่ทันนั่นเลยทั้งนี้องคตยังมีพุทธคุณยังโดดเด่นในทางอำนาจดลใจให้ผู้ใช้มีความกล้าหาญไม่ตกเป็นเบี้ยล่างและไม่ตกเป็นรองใคร และยังถือว่าเป็นหนึ่งในครูลิงที่ใช้ได้ทางเมตตาอย่างแรง หรือจะใช้ทางเจรจาความก็เป็นเลิศด้วยเป็นหนึ่งในสามสัญลักษณ์ของมหาปราบจักรวาล พ่ออาจารย์ท่านใช้ผงยันต์หัวใจองคตมาผสมกับผงไม้ด้ามตาลปัตรกดพิมพ์เป็นรูปองคตยกฐานะขึ้นมาก้วยตาลปัตรนั้นเมื่อจะใช้ต้องตั้งขึ้นให้ตรงจับให้มั่นคง คือมีพุทธคุณทำชีวิตให้เที่ยงตรงมั่นคง และเมื่อหยิบมาใช้ก็จะตั้งอยู่หน้าคนทั่วไปเสมอสิ่งนี้แสดงถึงอำนาจ ตบะ เดชะ ที่ไม่มีใครลบเลือน หรือบังกลบได้ อีกทั้งคำว่าตาลปัตรคือกลับตาลปัตรหมายถึงกลับร้ายให้กลายเป็นดี กลับไม่มีให้ร่ำรวย ทั้งยังกลับดวงแย่ แก้ดวงตก ยกดวงชง ทั้งองคตยังเป็นยอดขุนศึกมีกำลังอย่างน่าประหลาด อาศัยว่ามีเกียรติยศสูงสุดได้ทรมานลากทศกัณฐ์ยักษ์ที่เป็นเจ้ายึดครองสามโลกเล่นในวัยเด็กจึงถือว่าองคตนั้นมีฤทธิ์มากเพราได้ลองกำลังกับทศกัณฐ์เป็นประจำ เช่นนั้นผู้ที่ใช้องคตของพ่ออาจารย์ท่าน จึงแน่นอนว่านอกจากจะค้ำชูดวงชะตาชีวิตตนเองไม่ให้ตกต่ำแล้ว ยังต้องไม่ตกเป็นรองหรือต่ำกว่าใครอีกด้วย
    - ตะกรุดเจ้าน้ำทอง ท่านว่าวิชานี้เป็นวิชาการลงตะกรุดโภคทรัพย์ตำรับมอญ พูดง่ายๆคือเมื่อลงแล้วจงต้องเสกจนนิมิตเห็นเป็นสายน้ำมีแสงสีทองทอจับตาจึงจะสำเร็จ เป็นตะกรุดที่ดีทางโชคลาภอภิมงคลขนาดนั้นจึงเรียกว่าตะกรุดเจ้าน้ำทอง ท่านว่าฝังไว้ด้วยจะช่วยหนุนผงลืมตาอ้าปากอีกชั้นหนึ่ง แม้เป็นตะกรุดดอกเล็กแต่ก็แรงด้านพุทธคุณเป็นอย่างมาก ท่านว่าไปไหนมาไหนไม่อดอยาก เป็นเมตตามหานิยมและโชคลาค้าขาย เอาไปใช้เถอะ..ดี ท่านว่าตะกรุดนี้เสกให้สำเร็จยาก กว่าจะทำให้มาใช้นั้นไม่ง่าย ท่านฝังไว้กับพระปิดตาก็ตั้งใจเอาไว้ให้ใช้ตั้งตัว จะได้เป็นพญาเศรษฐีและลืมตาอ้าปากได้ในเวลาไม่ช้าไม่นานนับจากนี้ไป

    พระปิดตานี้เมื่อทำและเสกเสร็จแล้ว ท่านทดลองให้เจ้าอาวาสระดับพระสังฆาธิการในจังหวัดบุรีรีมย์นำไปใช้อาราธนาดู แต่มีข้อแม้ว่าต้องห้อยเดี่ยวๆเพราะท่านอยากจะดูพุทธคุณให้ชัดเจน ท่านว่าแม้วัดจะสร้างวิหารใช้เงินตั้งสิบล้านแต่เงินที่ได้จากการบริจาคทานการกุศลก็ไหลมาเทมาอย่างไม่น่าเชื่อ จนพระคุณเจ้าท่านเรียกว่าพระปิดตาเงินล้านและตั้งใจอาราธนาติดตัวไม่ขาดขอคุณพระช่วยเหลือจนสร้างวัดได้สวยงาม พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตานี้ดีทุกด้านจะขอให้มีเงินไหลมาเงินก็ไหลมาล้นหลาม ช่วยหาเงินให้เราได้มาก ต่อไปจะหายาก ยิ่งในวาระบ้านเมืองหากินลำบากขึ้นเช่นนี้ ใครมีพระปิดตารุ่นนี้ก็นับได้ว่าอยู่สบายกว่าเขา ให้ใช้บารมีองค์พระอุ้มดวงไม่ให้ตกต่ำ มีโชค มีลาภนับล้านกันทุกรูปทุกนาม นอกจากนี้องค์พระยังแรงทางด้านเมตตาอย่างมาก ท่านว่าใช้อมไว้ในปากเวลาทำงานเกี่ยวกับการพูดคุยลูกค้าที่หินจริงๆก็ได้ ใช้ลูบหน้าลูบตาบรรเทาโรคภัยเวรกรรมเวลาไม่สบายก็ได้ แต่ที่ห้ามจริงๆเลยก็คือการขูดผงให้ผู้หญิงกิน อันนี้เด็ดขาดเพราะครูแรงเดี๋ยวจะเป็นบ้าเป็นบอไม่รู้ตัว

    พ่ออาจารย์ท่านว่าพระปิดตานี้กว่าจะเสกสำเร็จได้ ต้องเสกแบบใจเย็นๆเท่านั้น ท่านว่านอกจากจะเชิญหลวงพ่อแก้วและเชิญคุณพระมหากัจจายนะตลอดจนพระภควัมปติมาทำให้แล้ว เราเองก็เสกคาถาเงินล้านของหลวงพ่อปานใส่ไปเรื่อยๆ ตามด้วยคาถาเศรษฐีเจ็ดหาบท่านว่าสูตรนี้มีคนรู้น้อยหาคนทำได้จริงยาก โบราณจารย์ท่านว่าเสกคาถานี้ปลุกพระใครได้ไปจะร่ำรวยทรัพย์สินเงินตราอย่างไม่มีที่สิ้นสุด ใครที่ไม่เคยมีโชคก็จะโชคดี ใครที่เคยเป็นหนี้ท่วมท้นพ้นหัวก็จะปลดหนี้จนหมดออกจากตัวได้เพียงไม่นาน ผู้ที่มีไว้บูชาจักไม่อดอยากหรือยากจนแต่อย่างใด ท่านว่าเสกจนพระมหากัจจายนะท่านบอกกับเราว่า"พอแล้วๆ พระปิดตารุ่นนี้คนที่เขาใช้หากว่าจะเอาดีทางโลกนั้นเอาว่าจนไม่เป็น มีแต่รวยกับรวยอยู่แค่สองทางนี้ไม่มีทางอื่นเป็นคติให้เลือกอีกแล้ว" พ่ออาจารย์ท่านว่ารุ่นนี้มีครบเลยสำหรับคนที่คิดจะตั้งตัวหรือเอาไปใช้ให้ชีวิตตัวเองลืมตาอ้าปากได้พุทธคุณพระปิดตานี้มีดีครบทุกทางจะส่งผลสำเร็จโดยพลัน

    คาถาบูชา
    พะ เห วา รา นะมะการานุภาเวนะ กันตะยาราม สัพเพอุปัททะเว (ใช้เรียกองคตบ่อยๆท่านว่าตั้งตัวได้ ฟื้นตัวไว ยกตนสำเร็จได้โดยเร็ว)

    * พระปิดตานี้พ่ออาจารย์ท่านเน้นผงและมวลสารพิเศษทำให้สร้างได้จำนวนไม่มาก ผู้ใดจะบูชารับจองเฉพาะทาง PM เท่านั้น รายได้สมทบทุนซื้อเครื่องเขียนและอุปกรณ์การเรียนให้กับชาวเขาและเด็กยากไร้ต่อไป

    ร่วมทำบุญบูชา พระปิดตาเจ้าน้ำทองมหาเสน่ห์,ตั้งตัว(ลืมตาอ้าปาก) บูชา 2,500 บาท

    50874054-2312781805599960-428368463166177280-n.jpg 50047023-424701211605624-6212793691153629184-n.jpg
    50881548-294992734539045-4380192177435705344-n.jpg
    1403712227.jpg
     
  19. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    มีคนถามว่าพระปิดตาใช้ทางเสน่ห์โดยตรงได้มั๊ย อันนี้ก็ได้นะ แต่อย่าถึงขั้นต้องไปขูดผงให้ใครกิน ถ้าแบบนั้นเวรกรรมรับกันเอง เอาแค่ห้อยอาราธนาปกติก็พอ
     
  20. คุรุปาละ

    คุรุปาละ เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    6,100
    ค่าพลัง:
    +16,525
    ลิง

    เครื่องรางในรูปแบบลิงนี้ก็มีออกกันหลายสำนัก วันนี้ก็จะมายกตัวอย่างกันเรื่องลิงแกะกับกลเม็ดเคล็ดลับเล็กน้อย ซึ่งก่อนจะเข้าเรื่องก็ขอวกไปพูดถึงองคตนิดนึงเพราะเป็นตระกูลลิงอาคมเหมือนกัน อันนี้ที่มีคนถามว่าทำไมพ่ออาจารย์ต้องทำเป็นองคตด้วย ตอบได้ดังๆเลยว่าเพราะองคตนั้นแม้เข้าสู่ช่วงน่าสิ่วน่าขวานที่สุ่มเสียงกับการสูญเสียเกียรติยศมากที่สุด ก็สามารถยกตนกลับขึ้นมามีเกียรติสูงสุดได้(โดยไม่ต้องรอหรือขอให้ใครช่วย) ดังนั้นพ่ออาจารย์ท่านจึงตั้งใจทำองคตให้เราใช้เพราะอยากจะให้เรายกตัวเองขึ้นไปในจุดที่สมควรได้ทั้งยังให้คาถาองคตใช้ในการอาราธนาพระปิดตา เพราะอยากจะให้คนใช้ปลุกองคตนั่นเอง จะท่องตามกำลังวันก็ได้ ให้ดูว่าตัวเองเกิดวันอะไรก็เรียกไปกี่จบเช่นนั้น สายครูลิงนี่รับรองเลยว่าแรงและครึกโครมมากๆ

    ทีนี้ก็ขอยกบทความกรณีลิงแกะมาให้อ่านกันต่อ

    เครื่องรางที่นับได้ว่า มีอานุภาพเป็นที่ประจักษ์มาตั้งแต่สมัยโบราณนั่นก็คือ “ลิงแกะ” ซึ่งลิงแกะที่ได้รับการยอมรับนับถือและนิยมอย่างมาก สำหรับผู้ที่ชื่นชอบสะสมเครื่องราง ได้แก่ “ลิงแกะ ของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว จ.ฉะเชิงเทรา”, “หนุมานแกะ หลวงพ่อสุ่น วัดศาลากุน จ.นนทบุรี” ทว่าถ้าจะเจาะจงเฉพาะเครื่องรางลิงแกะนั้น ก็คงต้องยกให้ ตำรับของหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว เพราะทรงอานุภาพเป็นอย่างมาก และมีอุปเทห์ในการใช้ที่ได้ผล

    ในสมัยก่อนนั้น การสร้างลิงแกะ ถ้าจะให้ดี ให้เกิดความเป็นมงคลมาก จะต้องทำมาจากรากต้นรักหรือรากพุดซ้อนซึ่งเป็นต้นไม้ที่มีความเป็นมงคล เพราะต้นพุดซ้อน จะมีความหมายที่มีนัยยะถึงความสำเร็จและการนำโชคให้เข้ามา หรือต้นรักก็มีความเป็นมงคลในชื่อของมันอยู่แล้ว ฉะนั้น ต้นไม้มงคลเหล่านี้ในสมัยโบราณถือกันว่ามีเทวดารักษาอยู่ โบราณจารย์จึงถือเคล็ดความเป็นมงคลนำมาสร้างเป็นเครื่องราง โดยแกะสลักเป็นรูปต่างๆ เช่น ลิงแกะ หรือหนุมานแกะ จากนั้นก็ลงอักขระเลขยันต์หรือคาถาอาคม โดยขณะที่ปลุกเสกนั้นจะต้องมีสมาธิจิตที่แน่วแน่ไม่หวั่นไหว หากปรารถนาอยากให้เครื่องรางที่สร้างขึ้นมีอานุภาพทางด้านใด ก็อธิษฐานจิต กำกับคาถาให้เป็นเช่นนั้น

    สำหรับอุปเท่ห์ในการใช้ ลิงแกะ ตามตำรับของหลวงพ่อดิ่ง ก็คือ หากปรารถนาจะใช้ลิงแกะให้ประสบผลสำเร็จในสิ่งที่ทำคราใด ย่อมต้องใช้คาถาหนุมานควบคู่กันไปทุกครั้ง โดยตั้งจิตให้เป็นสมาธิ แล้วเพ่งไปที่เครื่องรางลิงแกะ จากนั้นจึงท่องคาถาหนุมานกำกับ แต่มีเคล็ดอยู่ว่า ให้สวดท่องตามกำลังวัน เช่น หากต้องการใช้ลิงแกะให้เกิดผลในวันเสาร์ ก็ให้สวดคาถาหนุมานนี้ในวันเสาร์ โดยทำการสวดทั้งหมด 10 จบ , หากเป็นวันอาทิตย์ก็ให้สวด 6 จบเป็นต้น แล้วจะได้ผลตามที่ต้องการ เนื่องจากการสวดคาถาตามกำลังวัน เป็นการสวดซ้ำๆหลายๆรอบนั้นจะทำให้ผู้สวดมีจิตที่เป็นสมาธิมากขึ้น เมื่อมีสมาธิมากก็จะก่อให้เกิดพลังอำนาจแห่งพระคาถานั้นมากตามไปด้วย

    นอกจากนี้ยังมีอุปเท่ห์ในการใช้ลิงแกะในลักษณะอื่นๆอีกด้วย ซึ่งการที่จะใช้เครื่องรางลิงแกะได้ผล ประการสำคัญ ขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธา การมีสมาธิจิตที่แน่วแน่ กอปรกับบุญกุศลของผู้ที่ครอบครองเครื่องรางนั้นๆจะต้องพร้อม คือเป็นคนชอบทำบุญทำทานเสมอๆ แล้วจะเห็นผลของการใช้เครื่องรางที่เร็ว เปรียบได้กับเรามีต้นทุนอยู่อยู่แล้ว เครื่องรางจึงช่วยหนุนให้ประสบความสำเร็จได้โดยง่าย

    วัสดุต่างๆที่ใช้สร้างลิงแกะขึ้นมาหลายรุ่นด้วยกัน ส่วนใหญ่จะมาจากต้นขนุน โดยถือเคล็ดของชื่อต้นขนุนอันเป็นมงคล ที่จะทำให้ผู้อื่นสนับสนุน หรือ หนุนดวงชะตา หนุนหน้าที่การงาน หรือถ้าใครที่ทำการค้าการขาย ธุรกิจต่างๆ ก็จะได้รับการอุดหนุนจากลูกค้าเป็นอย่างดี ทำให้การค้าขายเจริญรุ่งเรือง ค้ำชูอุดหนุนให้ไม่ตกต่ำ ผู้ศรัทธาที่ได้นำ ลิงแกะ หรือ พญาวานร ไปบูชาต่างเกิดประสบการณ์มากมายโดยเฉพาะด้านเมตตามหานิยม ค้าขายคล่อง เนื่องจากลักษณะของลิงหรือพญาวานร ที่มีอุปนิสัยไม่อยู่นิ่ง มีความคล่องแคล่ว จึงทำให้ค้าขายคล่อง การงานคล่อง การงานคล่อง


    94d7e9860b86a0b9f577f0add1366171.jpg
     

แชร์หน้านี้

Loading...