*เครื่องรางของขลัง/วัตถุมงคล...รายการละ 100 บ./พร้อมส่ง บูชา 3 รายการ แถม 1 รายการ...

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 4 มิถุนายน 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่501 พระนางพญา เหล็กน้ำพี้ อ.ประคอง รุ่นเจริญ ฆราวาสจอมขมังเวทย์
    คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
    ในเมืองไทยมีฆราวาสที่เชี่ยวชาญในเรื่องของคาถาอาคมอยู่หลายท่าน..สำหรับที่ยังคงมีชีวิตอยู่ในปัจจุบันนี้ชื่อของ...อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ก็เป็นอีกท่านหนึ่งที่มีการพูดถึงในปัจจุบัน..

    โดยเฉพาะในเรื่องของ “เข็มทองคนองฤทธิ์” และ “เสน่ห์มอญ”... ผมเชื่อว่าเพื่อนๆที่สนใจในศาสตร์เหล่านี้ต้องรู้จักกันดี.. ผมและเพื่อนๆร่วมอุดมคติเดียวกันได้มีโอกาสไปเยี่ยมอาจารย์ประคอง ที่บ้านพักของท่านแถวๆซอยตากสิน และก็ตามประสาของคนที่ชอบเรื่องเครื่องรางของขลังละครับ การสนทนาจึงไม่ได้ออกไปนอกบริบทในเรื่องนี้เลย....
    คำว่า”ไสยศาสตร์”หากเรามองกันอย่างหยาบๆ สามารถแบบออกได้เป็นสองอย่างคือ “ไสยขาวและไสยดำ” ....

    ไสยศาสตร์ดำคือวิชาที่ใช้ในการกระทำความชั่ว ผิดศีลธรรมและสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น...ส่วนไสยศาสตร์ขาวคือวิชาที่ใช้ในเรื่อ
    งที่ดี การกระทำความดี บรรเทาความเดือดร้อน..และที่สำคัญคือใช้ “กันและแก้” การกระทำจากไสยดำ..

    วิชา“ไสยศาสตร์” มักจะถูกมองจากสังคมปัจจุบันว่าเป็นเรื่องงมงายไร้สาระ ไม่มีความเป็นเหตุเป็นผล แต่หากเรามานั่งคิดให้ดีแล้วจะพบว่า “ความเชื่อ และ ความศรัทธา”..
    ในเรื่องไสยศาสตร์มีอยู่ในประเทศไทยมานานแล้ว เพื่อแต่ในปัจจุบันนี้ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์และวิชาการสมัยใหม่ ทำให้บทบาทของไสยศาสตร์ลดลงอย่างมาก แต่จะอย่างไรก็ตามไสยศาสตร์หรือวิชาว่าด้วยคาถาอาคมก็ยังคงมีบทบาทและคงไว้ซึ่งอิทธิพลต่อสังคมไทยเสมอมา..

    อาจารย์ประคอง รุ่นเจริญ ท่านเกิดวันเสาร์ที่ 7 แรม ๙ ค่ำ เดือนสิบ(ตุลาคม) ปีเถาะ พ.ศ.2482 มีภูมิลำเนาอยุ่ที่ฝั่งธนบุรี ย่าน ตากสิน ท่านได้ศึกษาชั้นปฐมที่วัดอินทรารามใต้ ตลาดพลู จากนั้นก็เรียนต่อชั้น ม.6 ที่โรงเรียนวัดชิโนรส และ จบการศึกษาครั้งสุดท้าย ที่ช่างกลพระนครเหนือ รุ่นที่ 1 พ.ศ.2500 ท่านเข้ารับราชการที่การท่าเรือแห่งประเทศไทย และ ลาออกมารับบำนาญเมื่อ พ.ศ.2538 เพื่อมาดูแลคุณแม่ซึ่งป่วยอยู่ จนมารดาของท่านสิ้น หลังจากนั้น ท่านจึงบวชเพื่ออุทิศบุญกุศลให้แก่มารดาท่าน

    ปัจจุบันท่านสึกเป็นฆราวาสแล้ว ปัจจุบันท่านมีอายุ ๗๑ ปี ท่านสนใจและชอบศึกษาในเรื่องของไสยเวทย์ เพราะเมื่อตอนเป็นเด็กท่านป่วยรักษาด้วยแพทย์แผนปัจจุบัน หลายแห่งก็ไม่หาย จนมารดาท่านพาไปรักษาโดยไสยเวทย์ อาการป่วยก็หายเป็นปกติท่านจึงสนใจศึกษาด้านคาถาอาคม ประกอบกับอุปนิสัยชอบการต่อสู้ จึงมักหาของดีและวิชาอาคมไว้คุ้มครองตัว จึงไม่แปลกที่ในวัยหนุ่มของท่าน ทุกครั้งที่มีเวลาว่างท่านจะออกแสวงหาครูบาอาจารย์..

    IMG_20181031_061101.jpg IMG_20181031_061052.jpg IMG_20181031_061042.jpg 0004(1).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 ตุลาคม 2018
  2. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
  3. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  4. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  5. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง รายการ 447, 497, 500, 501 ครับ
     
  6. MK2508

    MK2508 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2012
    โพสต์:
    2,921
    ค่าพลัง:
    +4,260
    จองบูชา 4รายการ
    .รายการที่472 , 479 , 480 , 488
     
  7. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    ยังอยู่มั้ยคะ จองค่ะ
     
  8. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    จองค่ะ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    อยู่ครับ
     
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบครับ
     
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองรายการที่479, 480, 488 ครับ...แต่รายการที่472 (คุณPasit_ok จองเมื่อวันเสาร์ 11.42น.ครับ) ...ผมมีอีก 1 องค์ ส่งรูปให้ดูทางPM ครับ
     
  12. พะลานหิน

    พะลานหิน สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 กันยายน 2018
    โพสต์:
    13
    ค่าพลัง:
    +27
    จองรายการ 113 ครับ
     
  13. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่502 พระสมเด็จพิมพ์พระประทาน ร่วมพุทธาภิเศก ณ พระวิหารพระพุทธชินราช จ.พิษณุโลก วันที่15 ก.ค. 2536 เนื้อผงสีขาว ขนาด กว้าง 1 นิ้ว ยาว 1.5 นิ้ว พร้อมกล่องเดิม
    ตำนานพระพุทธชินราช
    ตำนานการสร้างพระพุทธชินราชปรากฏหลักฐานทางโบราณคดีว่า พระมหาธรรมราชาที่ (พญาลิไทย) รัชกาลที่ 5 แห่งราชวงศ์พระรวง กรุงสุโขทัย โปรดให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1900 ตามพงศาวดารเหนือ ได้กล่าวเรื่องการสร้างพระพุทธชินราช พระพุทธชินสีห์ และพระศรีศาสดา เจือนิยายไว้ มีใจความว่า เมื่อพระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎกได้โปรดให้สร้าง เมืองพิษณุโลก เสร็จเรียบร้อยแล้วก็ตรัสให้สร้างวัดพระรัตนมหาธาตุ มีพระมหาธาตุ รูปปรางค์ สูง 8 วา และ พระวิหารทิศ กับระเบียงรอบพระมหาธาตุ ทั้ง 4 ทิศ โปรดให้ช่างชาวชะเลียง (สวรรคโลก) เชียงแสน และหริภุณชัย(ลำพูน) ร่วมมือกันสร้าง พระพุทธรูป หล่อด้วยทองสัมฤทธฺ์ 3 องค์ สำหรับประดิษฐานในพระวิหารทิศ ได้เริ่มทำพิธีเททองหล่อ ณ วันพฤหัสบดี ขึ้น 15 ค่ำ เดือน 4 ปีเถาะ สัปตศกจุลศักราช 317 (พ.ศ.1498) เมื่อกะเทาะหุ่นออกแล้ว ทองคงแล่น ติดเป็นองค์พระบริบูรณ์เพียง 2 องค์ คือ พระพุทธชินสีห์ กับพระศรีศาสดา ส่วนพระพุทธชิราชทองไม่แล่นติดเต็มพระองค์ ต้องทำพิธีหล่อต่อมาอีก 3 ครั้งก็ยังไม่สำเร็จ ครั้งหลังสุด พระเจ้าศรีธรรมไตรปิฎก ต้องตั้งสัษจาธิษฐาน แล้วทำพิธีเททองหล่อเมื่อ วันพฤหัสบดี ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 6 ปีมะเส็ง นพศกจุศักราช 319 (พ.ศ.1500) จึงสำเร็จเป็นองค์พระบริบูรณ์ในการหล่อครั้งหลังสุดนี้ปรากฏว่ามีปะขาวผู้หนึ่งจะมาแต่ใด ไม่มีใครทราบได้มาช่วยปั้นหุ่น และเททองหล่อพระด้วยเมื่อสร็จพิธีหล่อพระแล้ว ปะขาวก็ออกเดินทาง ไปทางเหนือเมืองพอถึงหมู่บ้านแห่งหนึ่งก็หายตัวไปไม่มีผู้ ใดพบเห็นอีก ดังนั้น จึงเข้าใจกันว่าปะขาว ผู้นั้นคือ เทวดา แปลงตัวมาช่วยหล่อพระพุทธชินราชจึงได้พุทธลักษณะงดงามยิ่งนัก เลยเป็นเหตุให้เกิด ความเลื่อมใสในพระพุทธรูปองค์นี้ยิ่งขึ้น ส่วนหมู่บ้านที่ปะขาวไปหายตัวนั้น ก็เลยได้นามในภายหลังว่า บ้านปะขาวหาย หรือตาผ้าขาวหาย มาจนทุกวันนี้(พระพุทธชินราช ในพระราชนิพนธ์ของ ร.5 พ.ศ.2460)

    ในแต่ละวัน มีผู้คนจากทั่วสารทิศเดินทางมากราบนมัสการขอพรจากพระพุทธชินราช ด้วยจิตที่เคารพเลื่อมใสและเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในบารมีของพระพุทธรูปคู่บ้านคู่เมืององค์นี้ว่า จะช่วยปัดเป่าทุกข์ภัยอันตรายต่าง ๆ และนำความสุขความเจริญ ความสำเร็จสมหวังให้บังเกิดแก่ผู้สักการะบูชา บางท่านมีทุกข์ร้อนเกี่ยวกับโรคภัยไข้เจ็บ กิจการค้าขาย ตำแหน่งหน้าที่การงาน การสอบคัดเลือก ฯลฯ ก็มากราบนมัสการขอบารมีพระพุทธชินราชท่านเป็นที่พึ่ง แม้บางท่านไม่สามารถจะเดินทางมานมัสการถึงที่วัดได้ด้วยตนเอง เพียงจุดธูปเทียนสำรวมจิตอธิษฐาน เคารพด้วยความบริสุทธิ์ใจ ก็สำเร็จสมดังปรารถนาได้เช่นกัน

    ท่านอาจารย์ทองทิว สุวรรณทัต นักหนังสือพิมพ์อาวุโส ได้เล่าประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของพระพุทธชินราชที่ท่านได้ประสบมาด้วยตนเองว่า เมื่อครั้งยังเยาว์วัย มีอายุไม่เกินสามขวบ ท่านได้ล้มป่วยหนักเป็นอัมพาตไปครึ่งตัว แม้ใครจะเอาเข็มปลายแหลมทิ่มแทงตามแขนขาก็ไม่รู้สึก บิดาของท่านได้ว่าจ้าง “ยายดำ” หมอนวดลือชื่อแถวปากคลองสานสมัยนั้นขึ้นไปพิษณุโลกเพื่อนวดแขนขาให้เลือดลมแล่น แต่ก็หาประโยชน์มิได้ เมื่อจนปัญญาด้วยประการทั้งปวง มารดาของท่านจึงจุดธูปสามดอก ปักไว้ที่ระเบียง บ่ายหน้าไปยังวัดใหญ่ (วัดพระศรีรัตนมหาธาตุนี้ ชาวเมืองพิษณุโลกเรียกว่า “วัดใหญ่”) ที่ประดิษฐานหลวงพ่อใหญ่ (พระพุทธชินราช) แล้วก้มลงกราบด้วยอาการเบญจางคประดิษฐ์สามครั้ง กล่าวคำถวายท่านให้เป็นลูกของหลวงพ่อใหญ่ ขอให้หลวงพ่อใหญ่ช่วยปัดเป่าโรคาพยาธิให้เสื่อมสลายหายไป นับแต่นั้นมา ท่านก็หายวันหายคืนจนกลับเป็นปรกติ มีอายุยืนจนย่างเข้าวัยชรา

    พระญาณสิทธาจารย์ หรือ หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร ศิษย์รุ่นอาวุโสของหลวงปู่มั่น ภูริทัตฺโต พระอาจารย์ใหญ่ฝ่ายวิปัสสนากรรมฐาน เป็นพระมหาเถราจารย์ที่มีศีลาจริยาวัตรงดงามอย่างเสมอต้นเสมอปลาย ท่านมีความผูกพันกับพระพุทธชินราชมาก ทุกครั้งที่ท่านเดินทางผ่านพิษณุโลก หากมีโอกาส จะแวะนมัสการพระพุทธชินราชเสมอ ๆ เมื่อครั้งที่หลวงปู่สิมยังเป็นพระหนุ่ม ครั้งหนึ่งท่่านเดินธุดงค์มาทางภาคเหนือและมีโอกาสแวะกราบนมัสการพระพุทธชินราช ท่านได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า "หากข้าพเจ้ามีบุญวาสนาพอสร้างพระพุทธชินราชได้ จะสร้างไปไว้ที่วัดบ้านเกิดสักองค์" อีกสี่สิบห้าปีต่อมา คำอธิษฐานของหลวงปู่ก็สัมฤทธิผล มีลูกศิษย์อยากสร้างพระพุทธรูปถวาย หลวงปู่จึงแนะนำให้สร้างพระพุทธชินราช และได้ตั้งจิตอธิษฐานว่า "องค์พระพุทธชินราชนี้ เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีบุญญาธิการสูง เมืองพิษณุโลกฝนฟ้าก็ตกต้องตามฤดูกาล เมื่อหล่อองค์จำลองเสร็จ จะอัญเชิญไปประดิษฐานที่บ้านบัว ขอให้มีอานุภาพความศักดิ์สิทธิ์ มีบุญญาธิการ ให้มีความอุดมสมบูรณ์ เท่าองค์จริงเทอญ"

    เมื่องานหล่อเสร็จเรียบร้อย พระพุทธชินราชองค์จำลองก็ได้ถูกอัญเชิญไปประดิษฐานที่วิหารวัดบ้านบัว อำเภอพรรณานิคม จังหวัดสกลนคร อันเป็นบ้านเกิดของหลวงปู่ เพื่อให้ญาติโยมได้สักการะบูชา หลวงปู่เคยปรารภให้ลูกศิษย์ฟังด้วยความปิติยินดีว่า "ในชีวิตของหลวงปู่ อยากสร้างพระพุทธชินราชสักองค์ ขณะนี้ก็ได้สร้างสมใจแล้ว สาธุ สาธุ สาธุ"

    เมื่อปี พ.ศ. 2535 ก่อนที่หลวงปู่สิมจะละสังขาร พระอาจารย์เชาวรัตน์ กมฺมสุทฺโธ ลูกศิษย์ของหลวงปู่ ซึ่งเป็นประธานสำนักสงฆ์เวฬุวันสันติวรญาณ ที่จังหวัดสกลนคร ได้ขึ้นมากราบหลวงปู่ที่ถ้ำผาปล่อง เมื่อตอนลากลับ หลวงปู่สั่งว่า "ท่านเชาว์ ปีนี้ฝนแล้ง ท่านกลับไปสกลนคร ไปกราบหลวงพ่อใหญ่ (พระพุทธชินราชองค์จำลองที่หลวงปู่สร้างไว้) แทนหลวงปู่ด้วยนะ ให้ฝนมาตกที่สกลนคร.."
    พระธรรมสิงหบุราจารย์ หรือหลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม วัดอัมพวัน จังหวัดสิงห์บุรี พูดถึงพระพุทธชินราชว่า เป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ มีเทวดารักษาอยู่ 10 องค์

    เกี่ยวกับเรื่องเทวดารักษาพระพุทธรูปนี้ พระพรหมคุณาภรณ์ (ประยุทธ์ ปยุตฺโต) ได้เคยอธิบายไว้ว่า พระพุทธรูปสำคัญและพระสถูปเจดีย์ศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายนั้น จะมีเทพเฝ้าหรือพิทักษ์รักษา เมื่อพระพุทธศาสนาเจริญแพร่หลาย เทวดาจำนวนมากก็มานับถือพระพุทธศาสนา หรือเป็นผู้นับถือพระพุทธศาสนาแล้วไปเกิดเป็นเทวดา เวลาเขาสร้างปูชนียสถานและพระพุทธรูปสำคัญ เทวดาผู้ใหญ่ที่เป็นชาวพุทธก็จะไปอยู่ โดยเฉพาะในสถานที่ประดิษฐานพระพุทธรูปสำคัญ ๆ เทวดาจะชอบเป็นธรรมดา เพราะจะได้ใกล้ชิดเฝ้าพระพุทธเจ้าอยู่เสมอ แล้วก็ทำหน้าที่ดูแลพิทักษ์รักษาไปด้วย

    ด้วยพระพุทธชินราชเป็นพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพสักการะของพระเจ้าแผ่นดินและพสกนิกรมาแต่โบราณ และด้วยพุทธลักษณะอันงดงามเป็นเอก การสร้างพระประธานในกาลต่อมา หรือการสร้างพระพุทธรูปเพื่อนำไปถวายตามวัดต่าง ๆ จึงนิยมสร้างตามพุทธลักษณะของพระพุทธชินราช นอกจากนี้ พระเครื่องของครูบาอาจารย์หลาย ๆ ท่าน ก็นิยมสร้างเป็นรูปพระพุทธชินราชเช่นกัน

    IMG_20181101_001646.jpg IMG_20181101_001636.jpg IMG_20181101_001844.jpg


     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่503 พระสมเด็จหลวงปู่แดง หลังยันต์ตะกร้อหลวงปู่สุด วัดกาหลง สมุทรสาคร พุทธคุณ ฉบับที่๔๕
    IMG_20181101_001628.jpg IMG_20181101_001619.jpg IMG_20181101_001853.jpg
     
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่504 พระเนื้อดินหลวงพ่อปานพิมพ์ขี่สัตว์(ครุฑ, หนุมาน, นก, เม่น) วัดบางนมโค รุ่นเสาร์๕ วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ จ.สมุทรสงคราม เข้าพิธีวัดท่าซุง พศ.2553
    มี 4 องค์ บูชาองค์ละ 100 บาท
    พระเนื้อดินหลวงพ่อปานขี่สัตว์ วัดบางนมโค รุ่นเสาร์๕
    วัดศาลพันท้ายนรสิงห์ หลวงตาชลอ วิมมโล
    วัตถุมงคลหลวงพ่อปาน ชุดนี้ ได้ผ่านการบวงสรวงพุทธาภิเษก และ


    อธิษฐานจิต โดยหลวงตาชลอ เจ้าอาวาส วัดศาลพันท้ายนรสิงห์มาก่อนหน้านี้แล้ว
    และได้ขออนุญาตินำเข้าพิธี พุทธาภิเษก ในพระอุโบสถวัดท่าซุง ในวันเสาร์ ๕ ขึ้น ๕ ค่ำ เดือน ๕ วันที่ ๒๐ มีนาคม ๕๓ อีกด้วย
    จัดเป็นพิมพ์นิยม ผงอุดด้านใน


    องค์ที่1 IMG_20181101_001339.jpg IMG_20181101_001330.jpg IMG_20181101_001322.jpg
    องค์ที่2 IMG_20181101_001357.jpg IMG_20181101_001348.jpg IMG_20181101_001407.jpg
    องค์ที่3 IMG_20181101_001433.jpg IMG_20181101_001424.jpg IMG_20181101_001415.jpg
    องค์ที่4 IMG_20181101_001304.jpg IMG_20181101_001253.jpg IMG_20181101_001313.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2019
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่505 พระผงหลวงพ่อโต พิมพ์ปรุหนัง วัดพนัญเชิงวรวิหาร อยุธยา เนื้อผงพุทธคุณ มี 2 องค์
    องค์ที่1 IMG_20181101_001722.jpg IMG_20181101_001713.jpg IMG_20181101_001910.jpg ปิดครับ
    องค์ที่2 IMG_20181101_001704.jpg IMG_20181101_001655.jpg IMG_20181101_001901.jpg คุณกันทิมา@บุญ ปิดครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 พฤษภาคม 2019
  18. กันทิมา@บุญ

    กันทิมา@บุญ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2018
    โพสต์:
    569
    ค่าพลัง:
    +401
    องค์ที่ 2
     
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง 459, 461, 468, 505(2) ครับ
     
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่506 พระผงรูปเหมือนลอยองค์ (สายศิษย์อาจารย์มั่น)พระญาณทีปาจารย์ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน ต.นาอ้อ อ.เมือง จ.เลย มี 4 องค์ บูชาองค์ละ 100บาท
    ประวัติ หลวงปู่ท่อน ญาณธโร วัดศรีอภัยวัน อำเภอเมือง จังหวัดเลย
    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร มีนามเดิมว่า ท่อน ประเสริฐพงศ์ เกิดเมื่อวันพฤหัสบดีที่ ๓ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๗๑ ณ บ้านหินขาว ต.สาวะถี อ.เมือง จ.ขอนแก่น บรรพชาอุปสมบทเมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน พ.ศ.๒๔๙๑ ณ วัดศรีจันทร์ (พระอารามหลวง) อ.เมือง จ.ขอนแก่น โดยมีพระเทพบัณฑิต (อินทร์ ถิรเสวี ป.ธ.๕) เมื่อครั้งดำรงสมณศักดิ์ที่ พระพิศาลสารคุณ วัดศรีจันทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์, พระครูคัมภีรนิเทศ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระมหาสุพจน์ อุตตโม เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สังกัดธรรมยุติกนิกาย
    ภายหลังอุปสมบทแล้ว ท่านได้เดินทางไปพำนักจำพรรษาอยู่กับหลวงปู่คำดี ปภาโส
    ณ วัดป่าชัยวัน โดยหลวงปู่คำดีเป็นอาจารย์กัมมัฏฐาน คอยสอนให้ทำภาวนา นั่งสมาธิกัมมัฏฐาน ในช่วงออกพรรษา ท่านได้เป็นหัวหน้าออกเดินธุดงค์เข้าป่าเป็นกิจวัตร ต่อมาในปี พ.ศ.๒๔๙๗ หลวงปู่คำดีนำคณะเข้าป่าและถ้ำต่างๆ ท่านได้ภาวนา ทำความเพียร ตลอดจนให้ศรัทธาญาติโยมมาฟังธรรมะ และในพรรษานี้เอง หลวงปู่ท่อนได้อยู่จำพรรษา ณ วัดถ้ำผาปู่นิมิตร อ.เมือง จ.เลยกับหลวงปู่คำดีด้วย
    ครั้งหนึ่งท่านได้มีโอกาสพบหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต บูรพาจารย์สายพระป่า และได้รับโอวาทอันทรงคุณค่าอย่างหาที่เปรียบมิได้จากหลวงปู่มั่นว่า “ให้เร่งทำความเพียร มิให้ประมาท ชีวิตนี้อยู่ได้ไม่นานก็ต้องตาย” หลังจากนั้น ท่านมีโอกาสได้ไปกราบเยี่ยมครูบาอาจารย์หลายท่าน อาทิ หลวงปู่ชอบ ฐานสโม, หลวงปู่หลุย จันทสาโร, หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี, หลวงพ่อมหาปิ่น ชลิโต เป็นต้น
    เมื่อปี พ.ศ.๒๕๐๐ คณะศรัทธาญาติโยม ได้นิมนต์ให้หลวงปู่ท่อนไปอยู่ที่ป่าช้านาโป่ง อ.เมือง
    จ.เลย ซึ่งต่อมาได้สร้างเป็น “วัดศรีอภัยวัน” โดยหลวงปู่ท่อนได้จำพรรษาที่วัดศรีอภัยวันเรื่อยมา จนกระทั่งในปี พ.ศ.๒๕๕๘ ท่านได้เมตตามาจำพรรษาที่ วัดป่ามณีกาญจน์ อ.บางกรวย จ.นนทบุรี ซึ่งนับเป็นโอกาสอันดียิ่ง ที่คณะศรัทธาทางกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีโอกาสได้ร่วมทำบุญกับท่าน รวมถึงได้รับโอวาทธรรมจากท่านอย่างใกล้ชิด
    หลวงปู่ท่อน ญาณธโร ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์ เป็นพระราชาคณะชั้นราช ในราชทินนามที่ “พระราชญาณวิสุทธิโสภณ” ในปี พ.ศ.๒๕๕๐ ปัจจุบัน ท่านสิริอายุ ๘๗ ปี พรรษา ๖๗ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดศรีอภัยวัน และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดเลย (ธรรมยุต) เป็นพระเถราจารย์ผู้ใหญ่สายวิปัสสนากัมมัฏฐาน ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ มีความเชี่ยวชาญด้านจิตตภาวนา การเทศนาธรรม และวิทยาคมอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะ

    องค์ที่1 IMG_20181102_060356.jpg IMG_20181102_060347.jpg
    องค์ที่2 IMG_20181102_060339.jpg IMG_20181102_060332.jpg
    องค์ที่3 IMG_20181102_060323.jpg IMG_20181102_060314.jpg
    องค์ที่4 IMG_20181102_060302.jpg IMG_20181102_060253.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 พฤศจิกายน 2019

แชร์หน้านี้

Loading...