*วัตถุมงคล เริ่มหน้า66*พระกรุ,ลป.สรวง เทวดาเล่นดิน,ลพ.ฤาษี,ลพ.หวล และอื่นๆ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Pitiphat, 25 มีนาคม 2018.

  1. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่398 เหรียญพลาสติก หลวงพ่อโอภาสี หลังยันต์สวัสดิกะ อาศรมบางมด พ.ศ.2495 สีขาว มุก นิยมสุดหายาก
    หลวงพ่อโอภาสี เดิมท่านเกิดที่อำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราช ได้บรรพชาและอุปสมบถศึกษาเปรียญธรรมจนได้เป็น"พระมหาชวน" สอบพระเปรียญธรรมได้ 7 ประโยค สังกัดวัดบวรนิเวศฯ กทม. หลังจากท่านเดินทางไปพบหลวงพ่อกบ วัดถ้ำเขาสาลิกาที่เจริญเตโชกสิน ท่านบังเกิดเลื่อมใสได้ฝึกเตโชกสินตามแบบอย่างหลวงพ่อกบ ท่านกล่าวว่า"มหาชวน"ตายแล้วเหลือแต่"โอภาสี"ผู้บูชาไฟเป็นการเจริญกัมมฐาน ท่านสร้างพระไว้หลายรุ่นปัจจุบันทุกรุ่นที่ท่านสร้างได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก ในปีพ.ศ. 2495 คณะผู้ใกล้ชิดได้สร้างเหรียญพลาสติกรุ่นนี้ออกมา มี 2 พิมพ์คือ พระโอภาสีหลังยันต์ "สวัสดิกะ" และพระโอภาสีหลังยันต์ "เสมา" เป็นพระโอภาสี เนื้อพลาสติกสร้างจากประเทศญี่ปุ่น มีที่มาและประวัติการสร้างที่ชัดเจน โดยพระส่วนใหญ่จะแจกจ่ายในระหว่างที่ท่านเดินทางมาเยี่ยมบ้านโยมมารดาที่อำเภอปากพนัง พระจะมีหลายสีครับ เช่น ขาว มุก เขียว เหลือง ส้ม ฟ้า ใส สีขาวนั้นเป็นที่นิยมสุด ปัจจุบันพระสวยหาได้ยากแล้วครับ จัดเป็นเหรียญที่มีประสบการณ์มากเหรียญหนึ่งของท่านครับ
    ***สร้างทันหลวงพ่อโอภาสีน่าจะอยู่ระหว่างปี พ.ศ.2495-2498 และท่านปลุกเสกเดี่ยวเป็นเวลานานพอสมควร ดังนั้นพุทธคุณ ความขลัง ไม่ธรรมดาแน่นอน

    ปิดครับ

    IMG_20180909_212328.jpg
    IMG_20180909_212311.jpg IMG_20180909_212241.jpg IMG_20180909_212256.jpg IMG_20180909_212402.jpg IMG_20180909_212511.jpg


     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 12 กันยายน 2018
  2. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่399 ลูกอม ชานหมากห่อจีวร หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค
    ที่มาของชานหมากหลวงปู่สี มีที่มาจากหลวงพ่อพรหม วัดช่องแคครับ แน่นอนก่อนที่หลวงปู่สี ท่านจะมาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค หลวงพ่อพรหมท่านก็ดังมาก ทั่งในจังหวัดนครสวรรค์ ตลอดจนจังหวัดอื่นๆด้วย ดั่งนั้นในอ.ตาคลี ก็พูดกันแต่เรื่องของหลวงพ่อพรหม ตลอดจนลูกศิษย์ของหลวงปู่สี ก็คุยกันแต่เรื่องความศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลของหลวงพ่อพรหม....พอคุยกันเสียงดัง จนหลวงปู่สี ท่านรำคาญ แล้วท่านก็พูดว่า”ไอ้ที่พวกเจ้าพูดถึงกันอยู่นั้นนะ สู้ชานหมากข้าไม่ได้” พอพูดเสร็จหลวงปู่ท่านก็คายชานหมากออกจากปากท่าน แล้วฉีกจีวรเก่าๆ ห่อแล้วผูก โยนไปให้ลูกศิษย์กลุ่มนั้น ปรากฏว่าในกลุ่มลูกศิษย์ มีนายทหารท่านหนึ่ง เพื่อความอยากลองและสงสัยว่าจะจริงอย่างที่หลวงปู่ท่านบอกไหม จึงได้นำไปทดลองยิง ปรากฏว่ายิงไม่ออก เท่านั้นหละครับ จึงทำไมชาวบ้านอ.ตาคลี รู้จักพระรูปหนี่งที่ชราภาพมากแล้ว นามว่า “หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค แล้วด้วยประสบการณ์ต่างๆๆมากมายทั่งเอาชานหมากไปผูกไก่ ยิงยังไงก็ยิงไม่โดย หรือหลวงปู่ท่านเอาจีวร ไปผูกคอไก่ รถทับก็ยังไม่เป็นไร........ จนมีชาวบ้านมาขอท่านมากเหลือเกิน หลวงปู่ท่านจึงบ่นว่า”เพราะปากเราแท้ๆ จึงต้องทำให้เราลำบาก เมื่อก่อนไม่มีใครรู้ ก็ไม่มีใครมารบกวน”
    คุณ danaitorn ปิดครับ

    IMG_20180909_213357.jpg IMG_20180909_213347.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กันยายน 2018
  3. ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร

    ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +14
  4. ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร

    ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +14
     
  5. ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร

    ประสิทธิ์ ชนะโชคชัยพร สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มิถุนายน 2017
    โพสต์:
    40
    ค่าพลัง:
    +14
     
  6. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจอง 397 ครับ
     
  7. danaitorn

    danaitorn Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กันยายน 2015
    โพสต์:
    331
    ค่าพลัง:
    +251
    ขอบูชา 399
     
  8. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  9. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่400 ผ้ายันต์เมตตามหานิยมตำหรับล้านนา สร้างตามตำราของ พระครูมงคลรังษี (หลวงปู่ครูบาก๋ง) วัดศรีมงคล อ.ท่าวังผา จ.น่าน
    ผ้ายันต์เมตตามหานิยม - ม้าชมนาง - พญาควายเขาคำ - จิ้งจกสองหาง - ทิพพญาธร - แม่นางกวัก - หนูกินน้ำนมแมว เป็นตำหรับยัต์ของล้านนาที่เก่าแก่สืบทอดมาแต่โบราณ ท่านได้กล่าวไว้ว่าอานุภาพมากมาย เด่นทางเมตตามหานิยมอย่างเอกอุ เป็นมงคลโชคลาภทุกประการ
    ครูบาก๋ง อดีตเจ้าอาวาสวัดศรีมงคล จ.น่าน ท่านเชี่ยวชาญวิชาทางล้านนาอย่างรู้ลึกรู้จริง แม้ท่านจะมรณภาพไปนานแล้ว (ไม่เน่า) แต่ตำหรับตำราของท่านยังอยู่ท่านเจ้าอาวาสรูปปัจจุบันได้สืบตำราต่อและได้จัดสร้างผ้ายันต์ตามแบบฉบับท่านสืบมาจนถึงปัจจุบัน
    ปิดครับ

    IMG_20180911_220752.jpg
    Untitled-1.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2019
  10. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่401 ใช้ได้ดีทีเดียว!! ปลัดขิกไม้เขยตาย "หลวงปู่เมฆ" ไม่เหมือนใคร ไม้อาถรรพ์มีดีในตัว กันเขี้ยว กันงู และแคล้วคลาด... ยุคต้นใช้มือแกะครับ
    ปลัดขิกหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน จ.ปทุมธานี สภาพสวยสมบูรณ์ พุทธคุณเยี่ยมมีประสบการณ์ดีมากมาย ทำจากไม้เขยตายยุคแรกของท่าน สภาพพอใช้ พุทธคุณสัตว์มีพิษ กันเขี้ยวงา สุดยอดครับท่าน ปลัดขิกหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน ยาวประมาณ 5.5 ซ.ม.
    ปลัดขิกมีพุทธคุณด้านไหนบ้าง แล้วแต่คาถาที่ลงไว้ในปลัดขิกครับ...
    ....ทางด้านเมตตามหานิยม ค้าขายก็มี...เช่นปลัดจิ้งจกคู่ ปลัดกวางเหลียวหลัง ของหลวงปู่เปิ่น วัดบางพระ
    ...ทางด้านคงกระพัน แคล้วคลาดก็มี... เช่นของหลวงปู่อี๋ วัดสัตหีบ หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก
    ...ทางด้านกันงูกันเขี้ยวงา สารพัดก็มี ครับ...เช่นของหลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน ปทุมธานี
    ...แล้วแต่พระอาจารย์ อาจารย์ ผู้ที่สร้างขึ้น จะปลุกเสกไว้ครับ...
    "ปลัดขิก" เครื่องรางศิลปะอีโรติก
    ความเชื่อ ความกลัว และเพศ เป็นสัญชาตญาณพื้นฐานของมนุษย์ จากสัญชาตญาณสามสิ่งนี้ทำให้ท่อนไม้ที่ดูแสนจะธรรมดาท่อนหนึ่ง เมื่อผ่านการแกะ เหลา ขัดเกลา สร้างส่วนโค้งเว้า ด้วยอารมณ์และแรงขับตามธรรมชาติ ให้เป็นรูปลักษณ์ของอวัยวะเพศชาย แล้วไม้ธรรมดานี้เมื่อได้ผ่านกระบวนการปลุกเสก ลงคาถาอาคม อักขระเลขยันต์จากเกจิอาจารย์ชื่อดัง ท่อนไม้นี้จึงไม่ธรรมดาอีกต่อไป เพราะมันคือ "ปลัดขิก"
    ปลัดขิกถือเป็นหนึ่งในเครื่องรางของขลังที่คนไทยมีติดตัวไว้ จนมีการท่องไล่เลียง "ของดี" หรือของสุดยอดของเครื่องรางที่คู่ควรสะสมไว้ว่า "ปลัดขิกหลวงพ่อเหลือ เสือหลวงพ่อป่าน หนุมานหลวงพ่อสุ่น วัวปั้นหุ่นวัดศรีษะทอง เบี้ยแก้กันของวัดนายโรง ตะกรุดทองหลวงปู่เอี่ยมวัดสะพานสูง"
    ตามเรื่องเล่าที่สืบต่อกันมา สำหรับปลัดขิกในประเทศไทยแล้ว ไม่แน่ว่ามีความเป็นมาตั้งแต่สมัยใดแน่ แต่ต่างจากการนับถือศิวลึงค์ของชาวฮินดู เพราะปลัดขิกของคนไทยถูกสร้างและปลุกเสกจากผู้ที่มีวิชาความรู้ทางด้านอาคม และชาวไทยสมัยโบราณนิยมห้อยปลัดขิกไว้ที่เอวหรือคอของเด็ก แทบจะทุกคน
    ที่ผ่านมาในยุคสมัยหนึ่งเด็กผู้ชายไทยมักมีปลัดขิกผูกติดตัวไว้เป็นเครื่องรางของขลัง เพื่อป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ตามความเชื่อที่ผู้ใหญ่บอกไว้อย่างนั้นและก็มีบางส่วนโดยเฉพาะคนทำมาค้าขายก็เชื่อว่า ปลัดขิกช่วยให้เกิดการซื้อง่าย ขายคล่องของขายดีมีกำไร
    ผมเอง พ่อแม่ผูกปลัดขิกใส่เอวให้ จนกระทั่งทุกวันนี้ยังคงมีเครื่องรางนี้ติดตัวอยู่เลย
    " แต่เดิมปลัดขิกมีรูปแบบเป็นเพียงลักษณะของอวัยวะเพศชาย ต่อมาก็มีการแกะสลักลวดลายเพิ่มรายละเอียดเข้าไปมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปลิง หรือรูปผู้หญิงนอนเปลือยกายในเชิงอีโรติกบนตัวปลัดขิก แต่ละรายละเอียดที่เพิ่มเติมเข้าไปมักมีความหมายในเชิงความเชื่อ เช่น รูปลิง มีคุณด้านความแคล่วคล่อง ทำให้แคล้วคลาดจากภัยอันตราย หรือรูปหญิงเปลือยกายให้ความมีเสน่ห์ เป็นที่รักแก่ผู้อื่น
    มนต์เสน่ห์เหล่านี้ทำให้ตัวปลัดขิกเปลี่ยนแปลงไปจากแค่เครื่องรางของขลังที่เด็กผู้ชายชาวไทยใช้เพื่อป้องกันงูเงี้ยวเขี้ยวขอ ไปสู่งานศิลปะราคาแพง และเป็นที่สนใจสะสมของชาวต่างชาติ
    ปัจจุบันนี้ปลัดขิกกลายเป็นเครื่องรางที่สำคัญของคนทำการค้า"
    สำหรับไม้ที่นำมาแกะสลักเป็นปลัดขิก จะต้องเป็นไม้ที่มีชื่อมงคล เช่น ไม้รัก เพื่อให้คนรัก, ไม้สัก หมายถึงศักดิ์ศรี, ไม้มะขาม เพื่อให้ผู้คนเกรงขาม, ไม้มะยมเพื่อให้คนพกได้รับความนิยม ชมชอบ แต่จะไม่ใช้ไม้โพธิ์เด็ดขาดเนื่องจากเป็นต้นไม้ของพระพุทธเจ้า
    ปลัดขิกส่วนมากจะเน้นๆไปทางเมตตามหาเสน่ห์ซื้อง่ายขายคล่อง แม่ค้าพ่อค้าชอบพกกันมาก นอกจากนี้ยังดีทางคงกระพัน กันเขี้ยวงาสัตว์มีพิษกัดต่อย
    ปลัดขิก หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน ถนนนิมิตใหม่ ปทุมธานี ปลัดขิก กันเขี้ยวงา เมตตามหานิยม
    ปลัดขิกไม้เขยตาย สภาพสมบูรณ์ เก่าเก็บ สวย กันเขี้ยวงา เมตตาค้าขาย
    หลวงปู่เมฆ วัดลำกระดาน เป็นเกจิอาจารย์ที่เสกปลัดได้ไม่ธรรมดา กันเขี้ยว งา กันงู สัตว์มีพิษต่างๆ เมตา ค้าขาย ทำจากไม้เขยตาย เป็นเอกลักษณ์ของหลวงปู่เมฆ สภาพสวยเดิมๆ เหมาะสำหรับร้านค้าขายเอาไว้ในกล่องใส่เงิน หรือ เหมาะสำหรับพกพาเพราะตัวเล็ก

    ปิดครับ
    IMG_20180911_221050.jpg
    IMG_20180911_221059.jpg IMG_20180911_221110.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กรกฎาคม 2019
  11. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่402 หุ่นพยนต์ หลวงปู่ครูบาคำเป็ง ฐิตปัญโญ อาศรมสุขาวดีวราราม ต.ท่าขุนราม อ.เมือง จ.กำแพงเพชร ยาว3นิ้วกว้าง2นิ้วครึ่ง
    หุ่นพยนต์สร้างจากหวายมงคลพันด้ายสายสิญมงคล พุทธคุณ เหมะาสำหรับพกติดตัว เป็นกำบังภัย คุ้มครองตัว
    หุ่นพยนต์ ถ้าพูดถึงหุ่นพยนต์ สำนักที่มีชื่อเสียงที่สุดจะต้องบอกสายอยุธยา คือของอาจารย์ลอยหรือที่เรียกหมอลอย และหุ่นพยนต์ในสายนี้ก็ได้วิชาจากลูกศิษย์สายตรงของหมอลอย โดยบอกกล่าวให้ดวงวิญญาณของหมอลอยทราบ เป็นว่าได้ผนวนวิชาหุ่นพยนต์ของหมอลอยกับวิชาของหลวงปู่ครูบาคำเป็งไว้ด้วยกัน มีคนตรวจสอบแล้วมีตัวตนจริง มีจิตวิญญาณจริง ใช้งานได้จริง คุ้มครองได้ เฝ้าบ้านได้ ช่วยเหลือได้ ค้าขายช่วยได้ อีกมากมาย

    และที่เห็นเหมือนของเล่นหน้าตาน่ารักและมีหลายรูปแบบ ไม่เป็นรูปลักษณ์แบบหุ่นพยนต์ทั่วๆไปจะได้ลดความกลัวเอาไปใช้และคนอื่นไม่รู้ว่านี่คือหุ่นพยนต์ นำติดตัวไปเหมือนของเล่นแขวงสวยงาม นำติดตัวได้ทุกเพศวัย และในทุกตัวหุ่นจะมีตะกรุดหนึ่งดอกเป็นตะกรุดเจ้าปัญญาเสริมปัญญาให้หุ่นและผู้ครอบครองได้ผ่านการปลุกเสกเรียกดวงจิตเป็นเวลายาวนานและได้ทศสอบในการใช้ดูมีผู้เห็นและสำผัสได้ และดวงจิตที่ใส่ในหุ่นนี้เป็นดวงจิตของเทวดา ไม่มีทางทูตผี ไม่เป็นอันตรายแก่เจ้าของให้คุณไม่มีโทษ หุ่นพยนต์มีประสบการณ์ต่างๆนานาเช่นเปิดทีวีเอง เล่นของเล่น เฝ้าเงิน เคยเรียกลูกน้องไปเอากระเป๋าเงินอยู่ที่รถ ลูกน้องเห็นคนอยู่ที่รถไม่กล้าไปเอากระเป๋า มาบอกและอีกเหตุการหนึ่ง คนงานขโมยเงินจับได้แต่ไม่ได้บอกว่าเป็นใคร ตกกลางคืนนอนคนงานนอนอยู่เหมือนมีคนมาเหยืยบอกเขาบอกกลัวมาก แล้วเอาเงินมาคืนละอายลาออกไปในที่สุด

    ปิดครับ

    IMG_20180911_221120.jpg IMG_20180911_221130.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 พฤศจิกายน 2018
  12. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่403 เหรียญหลวงปู่ไปล่ รูปไข่ รุ่น2 เนื้อสัมฤทธิ์ ปี2539
    ***ประวัติหลวงพ่อไปล่ ฉนุทสโร หลวงพ่อไปล่ ท่านเป็นชาวบางขุนเทียน เกิดในรัชกาลที่ 4 เมื่อพุทธศักราช 2403 ในสกุลทองเหลือ พื้นเพเป็นชาวบ้านตำบลบางบอนใต้ เขตบางขุนเทียน เป็นบุตรของนายเหลือและนางทอง มีพี่น้องร่วมบิดา-มารดาเดียวกัน 5 คน ในเยาว์วัยได้เรียนหนังสือไทยและหนังสือขอมกับอาจารย์ทัด วัดสิงห์ เมื่อเป็นฆราวาสท่านเป็นคนมีร่างกายแข็งแรง มีจิตใจกล้าหาญ เป็นคนกว้างขวาง มีสมัครพรรคพวกมาก ซึ่งในยุคนั้นบ้านบางบอนเป็นดินแดนของนักเลงหัวไม้ เวลามีงานวัดยกพวกตีกันเป็นประจำ นายไปล่จึงนับว่าเป็นลูกพี่ของคนในหมู่บ้านนั้น ท่านอุปสมบท ณ พัทธสีมา วัดกำแพง เมื่อพุทธศักราช 2426 อายุ 23 ปี อาจารย์ทัด วัดสิงห์ เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อพ่วง วัดกก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และหลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ มีนามฉายาว่า “ฉันทสโร” หลวงพ่อไปล่เมื่อวัยหนุ่ม ท่านมีความสนใจในทางวิชาอาคม โดยได้เดินทางไปเป็นศิษย์ของพระอาจารย์ที่มีชื่อเสียงหลายท่าน เช่น เรียนทางคงกระพันชาตรีกับพระอาจารย์คง เรียนวิชาผูกหุ่นพยนต์กับหลวงพ่อหรุ่น วัดบางปลา เรียนทางเมตตามหานิยมกับหลวงพ่อพ่วง วัดกก เรียนทางสักยันต์คงกระพันกับหลวงพ่อดิษฐ์ วัดกำแพง ท่านสามารถสวดปาติโมกข์ได้ตั้งแต่บวชได้พรรษาที่สอง ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ในเขตบางขุนเทียน และเป็นผู้ที่ได้รับความเคารพนับถือของผู้คนในละแวกบางขุนเทียนเป็นอย่างมาก จนถึงมรณะภาพเมื่อพุทธศักราช 2489 (จากการสอบถามจากพระครูเกษมธรรมาภินันท์ เจ้าอาวาสวัดกำแพงองค์ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 8 ก.ค.50) *เหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง ได้สร้างเหรียญหล่อโบราณซึ่งวงการนิยมแบ่งออกได้เป็น 4 แบบ คือ 1. เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ มี 2 แบบ 1.1 เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ เนื้อฝาบาตรหรือเนื้อทองเหลือง พิมพ์มาตรฐาน 1.2 เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ เนื้อสัมฤทธิ์ พิมพ์ชาวบ้าน รูปลักษณ์เหรียญ ด้านหน้า เป็นรูปพระสงฆ์ (ไม่มีเกศ) นั่งขัดสมาธิราบบนฐานชั้นเดียว รูปเหรียญเป็นเหรียญหล่อทรงจอบ มีเส้นโค้งนูนโดยรอบเหรียญ 2 เส้น ให้รายละเอียดบนใบหน้า เช่น หู ตา จมูก ปาก ชัดพอประมาณ ครองจีวรเห็นรัดประคดชัดเจน ด้านบนเหรียญมีหูหล่อในตัวซึ่งทำทีละอัน ขนาดจึงไม่เท่ากัน ด้านหลัง มีอักษรไทย นูนสูง เขียนว่า “ที่ระฤก ๒๔๗๘“ เนื้อ ทองเหลือง (ฝาบาตร) สัมฤทธิ์ เนื้อขันลงหิน 2. เหรียญหล่อ พิมพ์รูปไข่ มี 2 เนื้อ คือ 2.1 เหรียญหล่อรูปไข่ เนื้อสัมฤทธิ์ 2.2 เหรียญหล่อรูปไข่ เนื้อทองเหลืองหรือเนื้อฝาบาตร รูปลักษณ์เหรียญ ด้านหน้า เป็นรูปพระสงฆ์ (ไม่มีเกศ) นั่งขัดสมาธิราบบนฐานเขียงคล้ายกับเหรียญจอบใหญ่ เห็นหน้าสังฆาฏิและรัดปะคดชัดเจน รูปทรงเหรียญเป็นรูปไข่ มีหู หล่อในตัวด้านบน ด้านหลัง มีอักษรไทย เขียนว่า “ที่ระฤก ๒๔๗๘“ 3. เหรียญหล่อ ทรงเสมา เนื้อสัมฤทธิ์ (มีพบน้อยมาก) รูปลักษณ์เหรียญ ด้านหน้า เป็นรูปพระสงฆ์ (หลวงพ่อไปล่) อยู่ในกรอบรูปเสมา มีห่วงหล่อในตัวด้านบน ด้านหลัง มีแบบหลังเรียบ และแบบหลังมีอักษรไทย (ดูภาพประกอบ) เนื้อ สัมฤทธิ์ (แบบเหรียญรูปไข่) 4. เหรียญหล่อทรงห้าเหลี่ยม รูปพระพุทธ เนื้อสัมฤทธิ์ (รุ่นล้างป่าช้า) รูปลักษณ์เหรียญ ด้านหน้า มีรูปพระพุทธประทับนั่ง ปางมารวิชัย บนฐานบัวสองชั้น อยู่ในซุ้มเรือนแก้ว มีหูหล่อในตัว ด้านหลัง มีอักษรขอม แปลเป็นภาษาไทยว่า “สุคโต” และมีตัว “อุ” ด้านบน เหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ และเหรียญหล่อรูปไข่ สร้างในปีเดียวกันคือในปีพุทธศักราช 2478 ในวาระที่ท่านอายุครบ 75 ปี แม้การสร้างอยู่ในปีเดียวกัน แต่เล่ากันว่ามีการหล่อหลายวาระ ตามความต้องการของลูกศิษย์ที่มาให้ช่างหล่อให้ เล่ากันว่าช่างหล่อเป็นน้องชายแท้ ๆ ของหลวงพ่อ หากมีลูกศิษย์นำเนื้อโลหะอะไรมาให้หล่อ ช่างก็จะหล่อให้ตามความประสงค์ และหลวงพ่อจะปลุกเสกให้เป็นคราว ๆ ไป (ข้อมูลนี้ได้มาจาก คุณบัณฑิต กรกนก) ส่วนเหรียญหล่อทรงเสมาและเหรียญหล่อรูป 5 เหลี่ยม ไม่แน่ชัดว่าสร้างในปีใด การแจกเหรียญนั้นบางท่านเล่าว่าเหรียญหล่อพิมพ์จอบใหญ่ท่านไว้แจกผู้ชาย เหรียญหล่อรูปไข่ไว้แจกสตรี ส่วนเหรียญทรงเสมาเนื้อสัมฤทธิ์สำหรับแจกเด็ก เหรียญ 5 เหลี่ยม เนื้อสัมฤทธิ์ (รุ่นล้างป่าช้า) กล่าวกันว่าสร้างในวาระที่ท่านปฏิสังขรณ์ป่าช้าวัดกำแพง ซึ่งชำรุดเสียหายจากภาวะน้ำท่วม คงจะมอบให้กับผู้มาช่วยซ่อมแซมบูรณะป่าช้า อย่างไรก็ดี ตามที่ได้สอบถามจากคนที่ทันยุคหลวงพ่อไปล่ ไม่เคยสร้างวัตถุมงคลเพื่อแลกกับปัจจัยในการสร้างถาวรวัตถุ ส่วนใหญ่เป็นการให้เปล่า ๆ จำนวนเหรียญที่สร้างรวมกันมีจำนวนไม่มากนัก น่าจะอยู่ในจำนวนหลักร้อย ไม่ถึงพันเหรียญ พระพุทธคุณ ผู้เขียนเคยได้ฟังมาจากนักเล่นพระรุ่นเก่าคือ คุณสมควร คุณาบุตร (ปัจจุบันเสียชีวิตไปแล้ว) เล่าว่าตอนเป็นเด็กเคยพบกับหลวงพ่อไปล่ ในตอนนั้นไปช้อนปลากัดแถววัดกำแพง มีพระภิกษุรูปหนึ่งเดินเข้ามาถามว่า “ทำอะไร?” ท่านจึงตอบว่า “กำลังช้อนปลากัด” พระภิกษุองค์นั้นได้พูดว่า “ปลากัดที่นี่หนังเหนียว” คุณสมควรมาทราบในภายหลังว่าพระภิกษุองค์นั้นคือหลวงพ่อไปล่ สมภารวัดกำแพงในขณะนั้น ยังมีเรื่องอีกเรื่องหนึ่ง จากคุณเป็งย้ง ตลาดพลู ได้เล่าว่า มีพ่อค้าปลาคนหนึ่งมาจากบางบอน (ชื่อนายประเสริฐ) นำปลามาขายเป็นประจำทุกอาทิตย์ ตัว “นายเสริฐ” ใส่สายสร้อยทองเส้นใหญ่ เห็นได้สะดุดตา เมื่อมาเป็นประจำ ผู้คนจึงจำได้และรู้วัน-เวลาที่มา วันหนึ่งมีคนร้ายสองคนมาดักจี้ด้วยปืน แกไม่ยอมถอดสร้อยให้และขัดขืน คนร้ายได้ยิงออกมาสองนัดแต่ยิงไม่ออก แกจึงเอามีดสำหรับทำปลาจะเข้าไปฟัน คนร้ายเห็นท่าไม่ดี รีบหนีข้ามคลองไป เรื่องนี้มีชาวตลาดพลูรู้เห็นกันอยู่มาก ปรากฏว่าพระที่อยู่ในสายสร้อยก็คือเหรียญหล่อหลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง พระพุทธคุณของเหรียญหล่อของหลวงพ่อไปล่ท่านจึงขึ้นชื่อในเรื่องมหาอุดคงกระพันชาตรี และเมตตามหานิยม เป็นที่นิยมของผู้คนในย่านบางบอน บางขุนเทียน มีเรื่องเล่าขานกันอยู่มาก ว่ากันว่าหากคนวัดกำแพงมีเหรียญวัดหนังแล้ว ถ้าใครมีเหรียญหลวงพ่อไปล่ไปขอแลกเขาจะยอมแลกทันที ที่เป็นความนิยมของเหรียญหลวงพ่อไปล่ซึ่งมีมาตั้งแต่โบราณ

    *คาถาบูชา อุอากะสะ อากะสะอุ กะสะอุอา สะอุอากะ

    ปิดครับ

    IMG_20180911_221150.jpg
    IMG_20180911_221140.jpg IMG_20180911_221206.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2019
  13. สกล06

    สกล06 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 กรกฎาคม 2018
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +76
    จองรายการทึ่ 402
     
  14. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รับทราบการจองครับ
     
  15. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่404 พระผงสมเด็จแหวกม่าน เนื้อผงพุทธคุณ มีเกสา หลวงพ่อตัด วัดชายนา จ.เพชรบุรี ขนาด 1.4*1.8 ซ.ม. ยุคต้น
    ปิดครับ

    IMG_20180912_220738.jpg IMG_20180912_220727.jpg
    unnamed (6).jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 22 ตุลาคม 2018
  16. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่405 สมเด็จคะแนน หลวงปู่นาค วัดระฆัง ขนาด 1.5*2.3 ซ.ม. เนื้อจัดแน่นด้วยผงพุทธคุณ
    ปิดครับ

    IMG_20180912_220715.jpg IMG_20180912_220659.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2018
  17. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    สวัสดีครับ ขอสรุปรายการที่ยังอยู่ครับ (ต่อ)
    หน้า24
    รายการที่259 ท้าวกุเวรเวสสุวรรณ. ปางเสวยสุข ปี2519แช่น้ำมนต์ หลวงปู่สรวง เทวดาเล่นดิน
    รายการที่262พระขุนแผนมหาเสน่ห์ พิมพ์อุ้มไก่พรายกุมาร เนื้อดินเเดง ปราสาทขอมพันปี เทพเจ้าแห่งโชคลาภ หลวงปู่สรวง บ้านละลม จ.ศรีษะเกษ เทวดาเล่นดิน ปี 19
    รายการที่263 พระพิมพ์สังกัจจายน์ ท่านพระครูสุพจน์ โชติปาโล ( พระครูพุทธมนต์วราจารย์ ) พระวัดสุทัศน์ ปี 2484
    รายการที่264 พระนางกำแพงกลีบบัว กำแพงเพชร
    หน้า25
    รายการที่265 สมเด็จหินพระธาตุ เขาสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์
    รายการที่266 สมเด็จวัดโพธิ์เกียบ พิมพ์6ชั้น
    รายการที่267 พระพุทธชินราช เนื้อดิน เจาคุณโพธิ์ วัดชัยพฤกษ์มาลา
    รายการที่268 ปลัดขิกไม้กาฝาก 3 นิ้ว ครูบาคำเป็ง อาศรมสุขาวดี จ.กำแพงเพชร
    รายการที่269 ภาพถ่ายกรอบกระจกเก่า ขนาด 7*10 นิ้ว หลวงพ่อพรหม และวัดช่องแค
    รายการที่ 271พระสมเด็จหลวงปู่ลำภู พิมพ์ใหญ่ วัดใหม่อมตรส เนื้อผงใบลาน
    รายการที่273 รูปถ่ายหลวงพ่อกวย 1 นิ้ว ออกวัดซับลำใยโดยพระอาจารย์ตั้ว(ศิษย์เอกของหลวงพ่อกวย)
    รายการที่274 พระสิวลีหลังพระแม่ธรณีบีบมวยผม หลวงปู่หมุน ออกวัดซับลำใย ปี ๔๓
    รายการที่275 หลวงปู่หมุน วัดบ้านจาน พิมพ์หลวงปู่ทวด หลังพระพิฆเนศ ปางอิทธิฤทธิ์ ปี 2543 เนื้อแร่ผสม ว่านมงคล
     
  18. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่406 พระสมเด็จอรหัง พิมพ์เล็ก มีประภามณฑล ( หลังเรียบ ) กรุวัดมหาธาตุ สร้างโดยสมเด็จพระสังฆราชสุก ( ไก่เถื่อน )
    วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหาร กทม. มีพระสมเด็จที่สังคมผู้นิยมพระเครื่องให้ความนิยม คือพระสมเด็จอรหัง และเชื่อกันว่าเป็นพระที่สมเด็จพระสังฆราช (สุก ญาณสังวร) เป็นผู้สร้างไว้ มูลค่าสูงและก็หายากในปัจจุบันครับ
    วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ราชวรมหาวิหารเป็นวัดเก่าแก่ สร้างมาตั้งแต่ในสมัยอยุธยา ชื่อ วัดสลัก ต่อเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชทรงสถาปนากรุงรัตนโกสินทร์ เป็นราชธานี

    สมเด็จพระอนุชาธิราช กรมพระราชวังบวรสถานมงคล ทรงให้บูรณปฏิสังขรณ์วัดสลักในปีพ.ศ.2326 จากนั้นทรงเปลี่ยนชื่อวัดจากวัดสลักเป็น "วัดนิพพานาราม" ต่อมาเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ใช้วัดนิพพานารามเป็นสถานที่ทำสังคายนา

    ในปีพ.ศ.2331 ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดพระศรีสรรเพชญ" และในปีพ.ศ.2346 ทรงพระราชทานนามใหม่ว่า "วัดพระศรีรัตนมหาธาตุ" ตามชื่อวัดในกรุงศรีอยุธยาซึ่งเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราช ในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอม เกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ พระราชทานทรัพย์ส่วนพระองค์ในการบูรณะวัดมหาธาตุฯ และพระราชทานนามวัดใหม่ว่า "วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์" ในปีพ.ศ.2439

    อย่างไรก็ตามชาวบ้านทั่วไปก็มักจะเรียกกันติดปากว่า "วัดมหาธาตุ" ที่วัดนี้อย่างที่ทราบกันว่าเป็นที่ประทับของสมเด็จพระสังฆราชแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ สมเด็จพระสังฆราชญาณสังวร (สุก ไก่เถื่อน) ก็เคยย้ายจากวัดราชสิทธิ์ (วัดพลับ) มาประทับอยู่ที่วัดแห่งนี้ ครั้งเมื่อได้รับพระราชทานสถาปนาขึ้นเป็นสมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ และจากคำบอกเล่าสืบต่อกันมาว่า สมเด็จฯ ได้สร้างพระเครื่องเนื้อผงไว้เป็นที่แจกจ่ายและบรรจุไว้

    พระสมเด็จที่สมเด็จพระสังฆราช (สุก) สร้างไว้ เป็นพระรูปทรงสี่เหลี่ยม เนื้อผงพุทธคุณ ด้านหลังมักจะพบว่ามีจารอักขระเป็นอักษรขอมคำว่า "อรหัง" มีอีกแบบเป็นลักษณะตราประทับ คำว่า อรหังเช่นกัน จึงเป็นที่มาของคำเรียกพระชนิดนี้ว่า "พระสมเด็จอรหัง" พระที่พบมีอยู่หลายพิมพ์ เช่น พระสมเด็จอรหัง พิมพ์ 3 ชั้น หรือพิมพ์สังฆาฏิ พระสมเด็จอรหังพิมพ์เกตุอุ หรือเกตุเปลวเพลิง พระพิมพ์ฐานคู่ พระพิมพ์เล็ก แบบมีประภามณฑล และพระพิมพ์เล็กไม่มีประภามณฑล พระที่พบที่วัดมหาธาตุจะเป็นพระเนื้อผงออกสีขาว ขาวอมเหลือง และขาวอมเขียวก้านมะลิ


    พระแบบพระสมเด็จอรหังยังพบอีกครั้งที่กรุเจดีย์วัดสร้อยทอง แต่พระที่พบส่วนใหญ่จะเป็นเนื้อแดง มีเนื้อสีขาวบ้างแต่น้อย และเนื้อพระที่พบก็จะเป็นประเภทเนื้อหยาบทั้งเนื้อแดงและเนื้อขาว ส่วนพิมพ์ของพระจะเหมือนกัน ยกเว้นพระพิมพ์เล็กไม่พบในกรุวัดสร้อยทอง
    ปิดครับ

    IMG_20180915_120124.jpg
    IMG_20180915_120136.jpg IMG_20180915_120153.jpg IMG_20180915_120338.jpg IMG_20180915_120242.jpg IMG_20180915_115958.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 มีนาคม 2019
  19. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่407 ขุนแผน หลังปิดตา จินดามณี องค์ครูฝังตะกรุด หลวงพ่อเขียว วัดระเว จ.นครราชสีมา
    “หลวงพ่อเขียว” ท่านมีนามเต็มๆ ว่า “หลวงพ่อเขียว อินทโชโต” ซึ่งบางคนก็เรียกท่านว่า “หลวงปู่เขียว” ส่วนบางคนก็เรียกท่านว่า “หลวงพ่อเขียว” ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ “สายเสน่ห์” ที่หาตัวจับได้ยากยิ่งในปัจจุบันนี้ เพราะท่านเก่งมากในเรื่องการลง “นะ หน้าทอง มหาเสน่ห์” ท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อใหญ่ วัดระเว ซึ่งหลวงพ่อใหญ่นี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ จอมขมังเวทย์ แห่งเมืองโคราชในอดีต ซึ่งท่านเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหมา แห่งวัดระเว เจ้าตำนานของพระปิดตามหาเสน่ห์ และเมตตามหานิยม “พระปิดตาคลุกรัก พิมพ์หูกระต่าย” อันเลื่องชื่อระบือนาม อีกทีหนึ่ง ซึ่งหลวงพ่อหมานี้ ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์ร่วมสมัยกับ “หลวงพ่อแก้ว” แห่งวัดเครือวัลย์ เจ้าของฉายา “ผู้หยุดรถไฟ” ผู้โด่งดังในอดีต

    พระองค์นี้ (ซึ่งบางคนก็จะเรียกติดปากว่า "ขุนแผน" แต่จริงๆ แล้วเป็น "พระ" ไม่ใช่ ่"ขุนแผน" อย่างที่เข้าใจกัน แต่เนื่องจากพุทธคุณได้เน้นหนักไปในทางด้านมหาเสน่ห์ขั้นสูง มหานิยม มหาเมตตา มหาหลง และทางมหาโชค มหาลาภขั้นสูง บางคนเลยเรียกเหมารวมๆ ไปว่า "ขุนแผน") โดยเป็นพระพิมพ์ปางมารวิชัย ในวุ้มเรือนแก้วอันมีความหมายแฝงเป็นนัยยะที่สำคัญถึง การมีอำนาจบารมีเด่นเหนือผู้อื่น การเจริญก้าวหน้าในหน้าที่การงาน การหนุนดวง การเสริมดวง และการเรียกโชคเรียกลาภเข้ามาหาตัว ตลอดจนยังเป็นมหาเสน่ห์ต่อเพศตรงข้ามอีกด้วย

    ส่วนในเรื่องเนื้อหามวลสารของขุนแผนนี้ เนื้อหามวลสารนั้นจัดมากๆๆๆ และแรงมากๆๆๆ กล่าวคือ ได้จัดสร้างขึ้นด้วย “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ มากมายหลายชนิด หลายประเภทด้วยกัน อาทิเช่น จัดสร้างขึ้นด้วย “ผงวิเศษที่ได้มาจากเขียนยันต์ และลบยันต์ จำนวนอย่างละ 108ครั้ง” ซึ่งได้แก่ –ผงพุทธคุณ –ผงธรรมคุณ –ผงสังฆคุณ –ผงปถมัง –ผงมหาราช –ผงอิทธิเจ –ผงตรีนิสิงเห –ผงยอดพระคาถาอิติโสรัตนมาลา ผงอันได้มาจาก “มหาว่าน” ทางด้านต่างๆ อันได้แก่ -ผงว่านอาถรรพ์ 108ชนิด -ผงว่านทางด้านคงกะพัน 108ชนิด -ผงว่านทางด้านเมตตา 108ชนิด -ผงว่านทางด้านกามคุณต่างๆ และ -ผงว่านทางด้านเรียกโชค เรียกลาภต่างๆ อีกอย่างละ 108ชนิด เช่น ว่านมหาเศรษฐี ว่านเรียกทรัพย์ ว่านดูดทรัพย์ เป็นต้น ผงอันได้มาจาก “มหาว่านทางด้านเสน่ห์” ต่างๆ อันได้แก่ - ว่านสาลิกาลิ้นทอง 18แฉก – ว่านสาวรุมล้อมรัก – ว่านการะเวกหลงรัง - ว่านร่านสวาท - ว่านเสน่ห์เดือนเสน่ห์ปี - ว่านอุดมสตรี – ว่านพญาขุนแผนออกศึก – ว่านหลงไม่รู้ลืม - ว่าน 80แม่หม้ายตีกันเอง – ว่านยั่วเสน่ห์ - ว่านกระทืบใจนาง – ว่านกลืนหัวใจสาว – ว่านขุนแผนเคียงนาง – ว่านนางพ่าย – ว่านห้าแสนนางพัลวัน - ว่านมหาหลง 600ชนิด - ว่านโคตรดอกทอง 28ชนิด – ว่านนางล้อมเมือง – ว่านเจ้าครองเมือง - ว่านนะหน้าสังข์ทอง ฯลฯ เป็นต้น และนำ “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ ดังกล่าวข้างต้น มากดพิมพ์เป็น “ขุนแผน” ขึ้น โดยมี “น้ำมันระเว” ซึ่งจัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ สูตรตำรับของ หลวงพ่อเขียว โดยเฉพาะ ไม่สามารถเปิดเผยได้ เป็นตัวประสาน

    จากการเรียนถาม “หลวงพ่อเขียว” ท่านได้เมตตาเล่าให้ฟังว่า “ขุนแผน” รุ่นนี้ของท่านนั้น ท่านได้ตั้งใจจัดสร้างขึ้นมาเป็นพิเศษ และอย่างเข้มขลังโดยเฉพาะ ด้วย “ผงมวลสารวิเศษ” ต่างๆ มากมาย หลายชนิด หลายประเภท และท่านได้เมตตาปลุกเสกเดี่ยว แบบอัดยัดประจุ “อำนาจพลังจิต” (ด้านเสน่ห์) เข้าไปเป็นพิเศษเป็นการเฉพาะ

    และท่านยังเล่าให้ฟังต่อไปว่า วิชา “ขุนแผนวัดระเว” เป็นวิชาของโบราณาจารย์ที่ตกทอดสืบกันมานานแล้ว ซึ่งได้บันทึกไว้ใน “คัมภีร์” ใบลานเก่าแก่ เป็นวิชาหาผู้ที่ทำได้ยากมาก เพราะเป็นวิชาโบราณ มีขั้นตอนในการทำที่ยุ่งยากมากๆๆๆ

    เคยมีคนถามท่านว่า ถ้าผู้ชายใช้ “ขุนแผน” ของท่านแล้วจะเป็นอย่างไร ท่านตอบเพียงว่า “ก็มีเมียเยอะ น่ะสิ ขอให้เลี้ยงดูกันให้ดีๆๆ จัดสรรปันส่วนเงินทองให้เท่าๆ กันน่ะ จะได้ไม่มีปัญหาตามมาภายหลัง แล้วจะมาโทษฉันทีหลังไม่ได้น่ะ ฉันเตือนแล้วน่ะ!!!” (ส่วนผู้หญิงใช้ ท่านบอกว่า ใช้แล้ว ผัวจะเยอะ ก็จะมีหนุ่มน้อย หนุ่มใหญ่ มาจีบติดพันเยอะมาก) โดยท่านบอกว่า “ขุนแผน” ของท่านนั้นแรงมากๆๆๆ ปลุกเสกให้เน้นหนักไปทางด้านมหาเสน่ห์ และด้านเรียกโชคลาภเงินทอง ทำมาค้าขาย โดยเฉพาะ เพราะเรื่องเสน่ห์ และเงินทองนั้น ท่านบอกว่า ต้องใช้ “วิชาสายวัดระเว” เท่านั้น ถึงจะเร็ว และแรง เห็นผลแบบทันตา เพราะวิชาของท่านนั้นแรงมากจริงๆๆ ประสบการณ์สูงมากจริงๆๆ

    พระองค์นี้มีประสบการณ์สูงมาก จึงเหมาะมากสำหรับผู้ที่อยากให้ตำแหน่งหน้าที่การงานเจริญเติบโตก้าวหน้า ควรมีไว้บูชาพกพาติดตัวไว้เป็นอย่างเนืองนิจ ทั้งผู้ที่นิยม และศรัทธา รวมไปถึงผู้นำ นักการเมือง นักการปกครอง ผู้บังคับบัญชา หรือ นักบริหารทุกระดับชั้น ข้าราชการทุกตำแหน่ง ทุกประเภทไม่ว่าชั้นผู้ใหญ่ ชั้นผู้น้อย นายทหารทุกเหล่าทัพ (โดยเฉพาะผู้ปฏิบัติภารกิจอยู่ใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้) ตำรวจ ครูบาอาจารย์ นักพูด นักขาย (ที่ต้องหายอดลูกค้า) นักเดินทางรอบโลก นักเจรจา ดารา นักร้อง นักแสดง เด็กเสี่ย ผู้ที่ต้องปฏิสัมพันธ์กับผู้อื่นทุกประเภท นักกีฬาทุกประเภท นักทำมาหากินทุกอาชีพ มนุษย์เงินเดือน ผู้ที่ต้องเดินทางไปต่างประเทศบ่อยๆ ผู้ที่ต้องแข่งขันกับผู้อื่น ไม่ว่าทั้งโดยตรง หรือโดยอ้อม ผู้มีอิทธิพล ผู้ที่มีศัตรูมากคอยจ้องคิดจะทำร้ายเราอยู่เสมอๆๆๆ พ่อค้า แม่ค้า ประชาชนทั่วไป ก็ไม่ควรพลาดเช่นกัน ควรมีไว้บูชาเป็นอย่างยิ่ง

    พุทธคุณแรงเกินราคา คุ้มค่ามากๆๆๆ กับความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้าม การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย ฯลฯ เป็นต้น เมื่อเทียบกับเงินเพียงน้อยนิดที่ท่านเสียไปแต่ก็ยังสามารถหาใหม่ได้ แต่ความปลอดภัยในชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สิน การมีชื่อเสียง ตำแหน่งที่สูงขึ้น การมีโชคลาภขั้นสูง มหาเสน่ห์ มหานิยมที่รุนแรงต่อเพศตรงข้าม การชนะเหนือคู่แข่งขันทั้งหลาย นี้สิครับที่หาได้ยากยิ่งกว่า โอกาสมาถึงแล้วน่ะครับ อย่าปล่อยให้หลุดมือไปน่ะครับ เสียดายแทนและยังเป็นการเพิ่มคุณภาพชีวิตให้สูงขึ้นมากกว่าเดิมที่เคยเป็น อยู่ด้วย

    ปิดครับ

    IMG_20180915_120525.jpg
    IMG_20180915_120514.jpg IMG_20180915_120459.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 เมษายน 2019
  20. Pitiphat

    Pitiphat 51 สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    5,412
    ค่าพลัง:
    +88
    รายการที่408 สร้อยประคำเนื้อผงเหล็กน้ำพี้ รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี ขนาดเล็ก 24 นิ้ว สีดำ พวงประคำ รุ่นเสาร์ 5 มหาเศรษฐี หลวงปู่หมุน ฐิตสีโล อายุ 105 ปี
    พิธีปลุกเสกยิ่งใหญ่ ออกวัดป่าหนองหล่ม (วัดสร้างเอง) ปี 2543 มีพิธีพุทธาภิเษกทั้งหมด 5 ครั้งดังนี้
    1. ทำพิธีวัดป่าหนองหล่ม สระแก้ว เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2543
    2. ทำพิธีพุทธาภิเษกที่อุโบสถ วัดสุทัศน์ 16 มีนาคม 2543 โดยมีหลวงปู่ลมัย หลวงพ่อเพี้ยน ร่วมปลุกเสกด้วย
    3. พิธีเสาร์ 5 ณ.วัดป่าหนองหล่ม วันที่ 8 เมษายน 2543 หลวงปู่หมุน เป็นประธานในพิธี ร่วมกับ หลวงปู่ถอง อายุ 102 ปี,หลวงปู่ลมัย อายุ 101 ปี หลวงพ่ออิน ศิษย์เอกหลวงพ่อเอีย หลวงปู่สรวง นักบุญแห่งบ้านสายลม บุรีรัมย์ มาอธิษฐานจิตตั้งกสิณไฟ ปลุกเสกในเวลาตี 3 กว่าด้วย
    4. ที่วัดซับลำไย ในวันที่ 9 เมษายน 2543 ทำพิธีพุทธาภิเษก โดยหลวงปู่หมุน อธิษฐานปลุกเสกตั้งธาตุ หนุนธาตุ ชักยันต์ ครอบมณฑลพิธีอย่างตั้งใจ
    5. ณ วัดสุทัศน์ ในวันอาทิตย์ที่ 6 เมษายน 2543

    ผู้ใดได้ครอบครงมีไว้จักเป็นเมตตา มหานิยม คงกระพันแคล้วคลาด กันของและสิ่งอัปมงคล ค้าขายดีมีโชคลาภ แล้วแต่จะอาราธนาใช้ครับ ของดีมีจำนวนน้อย หายากแล้วครับ พุทธคุณเหลือล้น ติดบ้านติดรถติดตัว ดีมากครับ

    ปิดครับ(ม)

    IMG_20180915_115744.jpg
    IMG_20180915_115606.jpg IMG_20180915_115700.jpg IMG_20180915_115631.jpg get_auc3_img (9).jpg U19624426366072993951322151.jpg 1472395897_Gall_e65176094cc415f6a1d2646d54a8afa2.jpg
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 ธันวาคม 2019

แชร์หน้านี้

Loading...