ช่องเขาขาด-หุบไฟนรก สุดยอดพิพิธภัณฑ์โลก

<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px">ช่องเขาขาด-หุบไฟนรก สุดยอดพิพิธภัณฑ์โลก

​

</TD></TR><TR><TD style="PADDING-RIGHT: 0px; PADDING-LEFT: 0px; PADDING-BOTTOM: 5px; PADDING-TOP: 5px">

​

เอ่ยชื่อ"ช่องเขาขาด" คุณอาจนึกถึงช่องเขาที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ อย่างช่องเขาดงพญาเย็นที่รู้จักกันในชื่อ "ปากช่อง" ที่โคราชแต่มันแตกต่างโดยสิ้นเชิงกับ "ช่องเขาขาด" ที่ อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี

เพราะช่องเขานี้เกิดจากกองทัพจักรพรรดิญี่ปุ่นใช้ปากกระบอกปืน บีบบังคับเชลยศึกสัมพันธมิตรและกุลีหลายหมื่นคน ขุดเจาะช่องเขาหินเพื่อสร้างทางรถไฟไปพม่าในเวลาอันเร่งรีบ การทำงานหนักอย่างหฤโหดทั้งกลางวันและกลางคืน ทำให้มีคนล้มตายนับหมื่น จนบรรดาเชลยศึกขนานนามช่องเขานี้อย่างสาสมว่า "ช่องไฟนรก" (Hell Fire Pass)
เพราะตะเกียงน้ำมันและกองไฟจากไม้ฟืนที่ส่องสว่างให้เชลยศึกและแรงงานโหมกระหน่ำทำงานยามราตรีนั้น มันไม่ต่างอะไรกับ "ไฟนรกโลกันตร์" ขุมนรกที่ใครตกลงไปแล้ว ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด...นั่นแหละ ​

​

นานหลายปีที่ผมไม่ได้สัญจรสู่กาญจนบุรีเพราะ "สะพานข้ามแม่น้ำแคว" นั้นคุ้นตา ชินใจ จนไม่ค่อยตื่นเต้นเสียแล้ว แต่การหวนคืนสู่ลุ่มน้ำแควอีกครั้งเมื่อช่วงเข้าพรรษา ทำให้ผมต้องตื่นตะลึงกับเสี้ยวประวัติศาสตร์สมัยสงครามโลกครั้งที่ 2 ณ ช่องเขาขาด ซึ่งวันนี้ มีสถานะเป็นทั้ง "อนุสรณ์สถาน" อุทิศแด่ผู้พลีชีพในช่องเขามรณะ และเป็น "พิพิธภัณฑ์" อันทรงคุณค่า
ตัวพิพิธภัณฑ์เป็นอาคารเล็กๆที่ดูผิวเผินอาจไม่น่าสนใจ ทว่าสำคัญยิ่งในฐานะจุดตั้งต้นการเดินเท้าสู่ช่องเขาขาด-หุบไฟนรกซึ่งปัจจุบันมีการถากถางช่องทางรถไฟที่เคยรกเรื้อด้วยกอไผ่และวัชพืช จนมีสภาพใกล้เคียงช่องเขาขาดเมื่อ 65 ปีก่อน เส้นทางเดินเท้าแม้จะมีการปรับแต่ง แต่ก็ให้มีสภาพใกล้เคียงของเดิม คือเป็นทางเดินโรยด้วยก้อนหิน ทำให้เกิดเสียงดังทุกย่างก้าวที่เท้าบดทับลงไป มันเป็นเสียงที่เคยบดขยี้หัวใจเชลยศึกและกุลีแห่งช่องเขาขาด นานกว่า 3 ปีที่มีชีวิตเหมือนตกอยู่ในนรกขุมที่ลึกที่สุด ​

​

ท่ามกลางงานขุดเจาะหินแข็งแสนสาหัสพวกเชลยศึกและกุลีพักแออัดในกระท่อมหลังคามุงจาก มีเพียงข้าวกับผักและปลาแห้งยาไส้ จนเป็นโรคขาดสารอาหาร เหน็บชา ผิวหนังเน่าเปื่อย แล้วยังมีเชื้อไข้มาลาเรีย บิด อหิวาตกโรค คอยโจมตีไม่ขาดสาย ขาดแคลนยา เสื้อผ้า รองเท้าแล้วยังถูกทหารญี่ปุ่นโบยตีด้วยแส้ถ้าทำงานช้า จนมีเชลยศึกซึ่งส่วนใหญ่เป็นทหารออสเตรเลียล้มตายกว่า 12,000 คน และกุลีชาวอินเดีย พม่า มลายู ตายไปถึงกว่า 70,000 คน สังเวยชีวิตเพื่อทำทางรถไฟให้ญี่ปุ่นขยายอำนาจและอิทธิพลไปจนถึงอินเดีย ตามแผนการสร้าง "วงไพบูลย์แห่งเอเชียบูรพา" ซึ่งแน่นอนว่าโดยมีญี่ปุ่นเป็นพี่ใหญ่
ทั้งนี้พิพิธภัณฑ์ช่องเขาขาด ตั้งอยู่ในพื้นที่กองกำลังทหารพัฒนา อ.ไทรโยค ห่างจากตัวเมืองกาญจนบุรีไปตามทางหลวง 323 ราว 77 กม. เปิดให้ชมฟรีทุกวันเวลา 09.00-16.00 น. สถานที่พักใกล้เคียง เช่น หินตกริเวอร์แคมป์, รีโซเทล แก่งละว้า, จังเกิลราฟท์ โทร.0-2642-5497​

​

</TD></TR></TBODY></TABLE>​

www.TTTonline.net

 

บุษเคยไปพักที่นี่แหล่ะ

Thai English ​

<CENTER> Home Rooms & Rate Facilities Promotion Gallery Location & Map Contact us </CENTER>

<!-- background:url(images/bg01.gif) --><CENTER></CENTER>

<CENTER>: : รูปห้องพักแต่ละประเภท : :</CENTER>
<!---->
อาคารโรงแรม S (river view)
<!---->
อาคารโรงแรม F (garden view)
<!---->
อาคารโรงแรม P (garden view)
<!---->
บังกะโล A
<!---->
บังกะโล B
<!---->
บังกะโล C
<!---->
บังกะโล D (4 paxs)
<!---->
บังกะโลปีกไม้
<!---->
แพพัก (2 paxs)
<!---->
แพพักรวม (8 paxs)

<CENTER></CENTER>


<CENTER>แพพัก (2 ท่าน)</CENTER>

<CENTER></CENTER>


เดือนฉายรีสอร์ท มีแพพักตั้งอยู่บนแม่น้ำแควใหญ่ มีทั้งหมด 6 หลัง หลังละ 5-6 ห้อง ทั้งหมด 31 ห้อง แพพักของรีสอร์ทจะมีความโดดเด่นสวยงาม เหมือนห้องพักในโรงแรม บรรยากาศดี วิวสวย มีระเบียงทุกห้องสำหรับชมธรรมชาติของลำน้ำแควใหญ่ ห้องพักบนแพเหมาะสำหรับ 2 ท่าน
สิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพัก;
- แอร์
- ที.วี.
- ตู้เย็นและมินิบาร์
- ห้องอาบน้ำและน้ำอุ่น
- โทรศัพท์สายตรง

​

 

ต้องนอนแพ คับ ถึง จะได้ บรรยากาศ

 

ค่ะนอนแพ น้ำใสมาก ๆ เห็นพื้นทรายใต้น้ำเลยค่ะ

 

อยากไปจัง!!!

 

แพนี้ล่ะค่ะสวยมาก หาโอกาสไปพักนะคะ คุณAdd

 

โห เห็นทรายใต้น้ำเลยหรอ
อยากอยู่นานๆจัง

 

อยากไปบ้างจัง