เรื่องเด่น จงปล่อยวาง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย ธรรมวิวัฒน์, 30 มีนาคม 2018.

  1. ธรรมวิวัฒน์

    ธรรมวิวัฒน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2006
    โพสต์:
    26,417
    กระทู้เรื่องเด่น:
    82
    ค่าพลัง:
    +115,441
    Template-trendynews-21-800x500.jpg

    จงปล่อยวาง ทั้งโลกนี้และโลกหน้า ธรรมะสอนใจ จากพระไพศาล วิสาโล

    เขาเป็นคนใฝ่ธรรม ชอบเข้าวัดทำบุญ อีกทั้งยังเป็นตัวตั้งตัวตีพาเพื่อน ๆ ไปทอดผ้าป่าหรือทอดกฐินในถิ่นทุรกันดารเป็นประจำ แม้อายุจะมากแล้ว ก็ยังขยันชวนคนไปสร้างโบสถ์ สร้างวิหารอย่างไม่รู้จักเหนื่อย

    แต่แล้ววันหนึ่งเขาก็พบว่าตัวเองเป็นมะเร็ง…

    ร่างกายเขาทรุดหนักอย่างรวดเร็ว ไม่นานก็ต้องนอนติดเตียง เมื่อเข้าสู่ระยะสุดท้าย แม้สติจะเลือนราง แต่เขามีอาการกระสับกระส่ายอย่างเห็นได้ชัด ลูก ๆ อยากให้พ่อไปสงบ จึงเปิดเสียงสวดมนต์และคำบรรยายธรรมของครูบาอาจารย์หลายท่านให้ฟัง แต่ความกระสับกระส่ายของเขากลับไม่ได้ลดลงเลย ซึ่งเป็นที่น่าแปลกใจสำหรับลูก ๆ มาก เพราะเขาเป็นคนธรรมะธัมโม น่าจะสงบใจเมื่อได้ฟังเสียงเหล่านั้น

    เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้ ลูก ๆ ก็ไม่รู้จะทำอย่างไรขณะที่อาการของเขาแย่ลงเรื่อย ๆ เพื่อนสนิทของเขาก็มาเยี่ยม พอรู้ว่าเกิดอะไรขึ้น สิ่งแรกที่เพื่อนผู้นั้นทำก็คือพูดข้างหูเขาว่า “เรื่องโบสถ์หลังนั้นที่ยังสร้างไม่เสร็จ ไม่ต้องห่วงนะ พวกเราจะช่วยกันสร้างให้เสร็จ ขอให้วางใจ” พูดจบเขาก็สงบลงทันที ไม่มีอาการกระสับกระส่ายอีกเลย จนกระทั่งสิ้นลมภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น

    ก่อนที่จะป่วยหนัก เขามีความมุ่งมั่นที่จะสร้างโบสถ์หลังหนึ่งให้เสร็จ ถึงกับตั้งปณิธานว่า ถ้าโบสถ์ไม่เสร็จ…ก็ยังตายไม่ได้ แต่ความตายไม่เคยรอท่า ทั้งยังพร้อมจะจู่โจมได้ทุกเวลา ดังนั้น เมื่อรู้ว่าความตายกำลังย่างกรายเข้ามาในขณะที่ความปรารถนายังค้างคา เขาจึงพยายามต่อสู้ขัดขืนความตาย แต่ยิ่งต่อสู้ขัดขืนมากเท่าไรก็ยิ่งทุกข์ทรมานและยิ่งกระสับกระส่าย ต่อเมื่อเพื่อนสนิทมาพูดให้คลายกังวล เขาจึงพร้อมรับความตาย และนั่นคือสิ่งสำคัญที่ช่วยให้เขาจากไปอย่างสงบเมื่อวาระสุดท้ายมาถึง

    หากยังมีความห่วงกังวลหรือยึดติดถือมั่น การตายอย่างสงบย่อมเกิดขึ้นได้ยาก มิใช่แต่ความห่วงกังวลในทรัพย์สมบัติ ลูกหลาน และคนรักเท่านั้น ความห่วงภารกิจการงานที่ยังคั่งค้างก็ทำให้ตายอย่างทุรนทุรายได้ เมื่อถึงคราวจะต้องละจากโลกนี้ไปก็ควรปล่อยวางทุกสิ่ง ไม่เว้นแม้แต่งานบุญงานกุศลที่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะหากปล่อยวางไม่ได้ ใจจะดิ้นรนต่อสู้กับความตาย ซึ่งมีแต่จะลงเอยด้วยความพ่ายแพ้และทุกข์ทรมานถ้าไม่อยากให้ความห่วงงานการมารบกวนจิตใจเวลาใกล้ตาย เราควรขวนขวายทำกิจการงานต่าง ๆ ให้แล้วเสร็จขณะที่ยังมีเวลาและสุขภาพดี โดยเฉพาะหน้าที่ความรับผิดชอบที่สำคัญ ๆ

    การเจริญมรณสติเป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นให้เรากระตือรือร้น ทำกิจการงานเหล่านี้ ไม่ปล่อยเวลาให้ผ่านเลยไปโดยเปล่าประโยชน์ หรือมัวทำสิ่งอื่นที่ไม่สลักสำคัญ (แต่บังเอิญมีเส้นตายให้ต้องรีบทำ หาไม่ก็มีรสชาติที่ชวนให้หลงใหลจนลืมทำสิ่งที่ควรทำ)

    อย่างไรก็ตาม แม้ว่าเราจะพยายามสะสางหน้าที่การงานมิให้คั่งค้าง ก็มักมีบางอย่างบางเรื่องที่ยังทำไม่แล้วเสร็จก็มีเหตุให้ต้องหยุดกลางคัน เพราะโรคร้ายหรือความตายมาประชิดตัวเสียก่อน ถึงตอนนั้นก็ไม่มีอะไรจะดีไปกว่าการทำใจยอมรับความจริงและปล่อยวางการงานเหล่านั้น ไม่แบกหรือยึดไว้ให้เป็นเครื่องกังวลหรือสร้างความหนักอกหนักใจ

    เมื่อจะจากโลกนี้ไป ก็ควรไปอย่างเบาอย่างสบายไร้ภาระใด ๆ ดังนั้นจึงควรปล่อยวางให้หมด มิใช่แต่ปล่อยวางสิ่งที่เคยผูกพันในโลกนี้เท่านั้น แม้กระทั่งความอยากมีอยากเป็นในโลกหน้า ก็ต้องวางด้วยเช่นกัน ดังที่พระพุทธองค์ตรัสว่า เมื่อจะช่วยเหลือผู้ใกล้ตาย พึงแนะนำให้เขาละความห่วงใยในพ่อ แม่ บุตร ภรรยา กามคุณ 5 และสวรรค์ มีคนจำนวนไม่น้อยที่ปล่อยวางทรัพย์สมบัติ คนรักและงานการแล้ว แต่ยังปรารถนาที่จะไปเกิดในสวรรค์ ปัญหา ก็คือ ความอยากกับความห่วงกังวลนั้นมักจะมาด้วยกัน เหมือนสองด้านของเหรียญเดียวกัน เมื่ออยากไปสวรรค์มาก ก็ย่อมห่วงกังวลว่าจะไม่ได้ไปสวรรค์ ความห่วงกังวลนี้แหละที่ทำให้เป็นทุกข์ในเวลาใกล้ตาย

    แม่ชีท่านหนึ่งล้มป่วยด้วยโรคมะเร็ง มีความเจ็บปวดรุนแรงมาก ขอให้กัลยาณมิตรผู้หนึ่งไปเยี่ยมเพื่อช่วยชี้แนะวิธีบรรเทาความเจ็บปวด เมื่อกัลยาณมิตรผู้นั้นสอบถามและซักไซ้ไล่เลียงก็พบว่า สิ่งที่ทำให้แม่ชีท่านนั้นทุกข์มิได้มีแค่ความเจ็บปวดเพราะโรคมะเร็งเท่านั้น หากยังมีความกังวลว่าจะไม่ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นสูง แม่ชีศึกษาเรื่องสุคติภูมิจนหมายมั่นในสวรรค์ชั้นสูง แต่เป็นเพราะมีความอยากมาก จึงมีความห่วงกังวลตามมา มิใช่ห่วงว่าจะไม่ได้ไปเกิดในสวรรค์ชั้นสูงเท่านั้น แต่ยังห่วงกังวลว่าจะตายไม่สงบด้วย ซึ่งย่อมส่งผลให้ไปอบายภูมิ

    ความห่วงกังวลนี้เองที่ทำให้แม่ชีทุกข์ อาจจะยิ่งกว่าความเจ็บปวดจากก้อนมะเร็งเสียอีก อย่าว่าแต่ความอยากไปเกิดในสวรรค์เลย แม้กระทั่งความอยากตายให้สงบก็สามารถเป็นอุปสรรคต่อการตายอย่างสงบได้ ยิ่งรู้มากและอยากได้การตายที่สมบูรณ์แบบก็ยิ่งกลัวว่าจะไม่ได้ตายแบบนั้น ผลก็คือถูกความกลัวรังควานจนกระสับกระส่าย ดังนั้น เมื่อวาระสุดท้ายมาถึง จึงควรปล่อยวางแม้กระทั่งความอยากไปเกิดในสวรรค์หรืออยากตายอย่างสงบ

    ใช่หรือไม่ว่า ยิ่งอยากได้ กลับไม่ได้ แต่เมื่อไม่อยากได้กลับได้ 

    บทความเรื่อง ” ปล่อยวาง ” เขียนโดย พระไพศาล วิสาโล

    ที่มา : นิตยสาร Secret

    ขอบคุณภาพจาก คุณ Aaron Burden www.unsplash.com

    ที่มา http://goodlifeupdate.com/healthy-mind/81004.html
     

แชร์หน้านี้

Loading...