เมื่อพระยามัจจุราชมาทวงชีวิตข้าพเจ้า

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย tjs, 14 มิถุนายน 2013.

  1. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ===============

    ขออนุโมทนาครับ สาธุ ปัจจัยได้นำไปทำบุญสังฆทาน ไหว้พระปิดทอง ปล่อยปลาและทำบุญโลงศพครับ อนุโมทนาร่วมกันครับ
     
  2. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เล่าสู่กันฟัง

    มีสหายธรรม ถามว่า อภิญญาของจิต เกิดได้อย่างไร

    จึงได้อธิบายตอบไปว่า อภิญญาของจิตเกิดได้ต้องทำพื้นฐานสามส่วนให้ถึงพร้อมหรือดีพร้อมให้ได้ก่อนนั่นคือ
    1 ศีลสะอาด
    2 สมาธิสะอาด
    3 จิตสะอาด

    อธิบายได้ว่า
    ศีลสะอาดได้คือรักษาศีลต้องไม่ขาด ศีลต้องบริบูรณ์ เป็นรากฐานและมีกำลังประคองกายใจ ศีลที่ว่ามีศีล5เป็นพื้นฐาน แต่ต้องมีศีลอุโบสถ ประกอบด้วยจะดีมาก ยิ่งเป็นศีล277 ของพระได้จะดีมากเพราะจะมีกำลังมาก

    สมาธิสะอาดหมายถึง กายและจิตต้องตั้งมั่นในสติและสมาธิ สมาธิจะสะอาดได้คือต้องตั้งอยู่ในองค์ฌาณ ฌาณที่ว่าต้องเป็นฌาณสี่ขึ้นไปเท่านั้น ถ้าต่ำกว่าฌาณสี่นั้น สะอาดแต่ไม่เพียงพอคือกำลังไม่พอ กำลังไม่พอเพราะยังไม่มั่นคงยังมีนิวรณ์ยังมีอกุศลปรุงแต่งในบางเวลา ฌาณสี่นี่สะอาดดีแล้วเป็นสภาวะที่เข้าถึงสังขารุเปกขาณาณ เพื่อเป็นกำลังส่งให้จิตสะอาด

    จิตสะอาด จะสะอาดได้ด้วยวิปัสสนา คือสะอาดด้วยธรรมที่จิตชำระเข้าถึง สะอาดคือจิตว่างจากอุปกิเลสทั้งปวง สะอาดด้วยจิตไม่รับเอากุศลและอกุศล แต่เป็นอรหันจิตว่างจากกิเลส จึงมีความสะอาด

    เมื่อเธอทำสามส่วนนี้ได้บริบูรณ์ ย่อมนำไปสู่อิทธิอภิญญาวิธี ที่ตั้งจิตอธิฐาน กำลังหรือพลังจิตในเวลานั้นย่อมแสดงกำลังของจิตออกมาให้ปรากฏได้ แต่จะมากน้อยหรืออภิญญาแบบไหน ก็ขึ้นอยู่ที่การฝึกฝนและทำให้เป็นวสีได้มากน้อยแค่ไหน ง จึงอยู่ที่เธอต้องฝึกฝนอย่างหมั่นเพียรของเธอ

    แต่สิ่งสำคัญสูงสุดคือ ทำไปเพื่ออะไร ในทางปฏิบัติ นั้นขอให้ทำไปเพื่อการชำระกิเลสของตน เป็นหลัก และทำไปเพื่อประโยชน์อันดีงามเพื่อสงเคราะห์ตนเองและผู้อื่น ไม่ใช่ทำไปเพื่อพอกพูนกิเลสของตน หรือเบียดเบียนผู้อื่น อันเป็นอกุศลกรรมครับ สาธุ ....
    hqdefault.jpg
     
  3. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    อุเบกขา คือธรรมข้อใหญ่ ข้อสำคัญ เพราะเหตุใด

    เพราะพรหมวิหารธรรมก็ดี ธรรมฝ่ายกรรมฐานก็ดี หรือธรรมฝ่ายวิปัสสนา ก็ดี ล้วนอาศัยอุเบกขาฌาณ และอุเบกขาญาณ เป็นเสาหลักเสาเอกให้จิตยึดเกาะ ดำรงตั้งมั่นไว้

    อุเบกขา แปลย่นย่อ คือ อุ คือความที่จิตเป็นหนึ่งเดียว
    ส่วน คำว่า เบกขา หรือ เปกขา แปลย่อๆคือ ความปล่อยวางในธรรมารมณ์ทั้งปวงลง ไม่เอาจิตเข้าไปยึดถือ จิตมีความเป็นกลาง
    อุเบกขาจึงแปลรวมๆสั้นๆว่า ความที่จิตที่รวมลงเป็นหนึ่งเดียวด้วยอาศัยการปล่อยวางในธรรมารมณ์ทั้งปวงลง

    ในการปฏิบัติแบ่งอุเบกขาออกเป็นสามแบบคือ

    1 อุเบกขาในพรหมวิหารธรรม คือจิตดำรงตั้งมั่นด้วยความเป็นกลาง ไม่แส่ส่ายไปข้างใดข้างหนึ่ง จิตมีความเป็นกลางไม่รับเอาส่วนใดๆมาเป็นอารมณ์ มีเมตตาธรรมเป็นเครื่องค้ำชูอุเบกขาไว้ เป็นกุศลจิตที่ไม่รับเอาอกุศลมาแปดเปื้อนจิต จิตดำรงตั้งมั่นในความดีขั้นพิเศษเพราะความเป็นกลางปล่อยวางได้ทั้งกุศลและอกุศลที่ปรุงแต่งจิต มีสติเป็นเครื่องประคองอุเบกขาธรรมเอาไว้

    2 อุเบกขา ในสมาธิกรรมฐานหรือสมาธิที่เข้าสู่รูปฌาณและอรูปฌาณวิถี ถึงแล้วซึ่งรูปาวัจรและอรูปาวัจระภูมิจิต คือความตั้งมั่นของจิต ที่เป็นกลางจาก นิวรณ์5 เป็นกลางคือไม่รับเอา ไม่เข้าไปปรุงแต่ง เป็นสภาวะที่จิตสลัดออกจากความปรุงแต่งของสมาธิ ทั้งหยาบ ปานกลางและละเอียด แม้ปิติ สุข ทุกข์ จิตก็สลัดออก ทำให้จิตเสวยด้วยเอกอุแห่งธรรมารมณ์ของสมาธิ ตั้งอยู่ในฌาณ4 ว่างเปล่าสะอาดสดใสตั้งอยู่กลางใจกลางของสมาธิ

    3อุบกขา ในสมาธิวิปัสนา หรือเรียกว่า สังขารุเปกขาญาณ เป็นญาณวิปัสนาสมาธิที่จิตเสวยปัญญาญาณ ละปล่อยวางในรูปนาม สลัดออกจากความปรุงแต่งทั้งหยาบ ปานกลางและละเอียด เป็นจิตที่ว่างเปล่าเป็นกลางโดยธรรม จำแนกรู้แจ้งในความปรุงแต่งแห่งรูปนาม ทำลายสิ้นสังขารที่ปรุงแต่งจิต จิตจึงก้าวพ้นสภาวะแห่งปุถุชน ขึ้นสู่อริยะบุคคล อุเบกขาญาณข้อนี้ ผู้ใดชำระกระทำได้มาก ย่อมทำลายสิ้นกามภพรูปาวัจระภูมิ สำเร็จเป็นพระอานาคามี และมีที่สุดคือก้าวสูงขึ้นสู่ อาสวักขยะญาณ ทำลายสิ้นอุปกิเลส น้อยใหญ่ทั้งปวง จิตสะอาดบริสุทธิ์เป็นอรหันตจิตได้ในที่สุด

    นอกจากนี้ในฝ่ายโลกียะอิญญาก็ล้วนต้องอาศัยอุเบกขาจิตเป็นพื้นฐานสำคัญแห่งการกระทำซึ่ง อภิญญาอิทธิฤทธิ์วิธีเช่นกัน

    อุเบกขาจิต ย่อมอาศัยอุเบกขาธรรม ท่านผู้ฝึกอบรมจิต ไม่ควรมองข้าม และอุเบกขาธรรม นี้เองเป็นหัวใจสำคัญมากสำหรับนักปฏิบัติ ขอให้หมั่นฝึกฝนอบรมจิต ยกจิตให้ถึงซึ่งความเป็นอุเบกขาจิต ให้สูงยิ่งๆขึ้นไปด้วยครับ สาธุ
    64.jpg
     
  4. ทอนเงิน

    ทอนเงิน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    549
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +707
    หายไปไหนครับอาจารย์ก้องช่วงนี้เห็นนานๆมาทีครับงานยุ่งหรอครับ
     
  5. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ========

    ใช่ครับ งานทางโลกก็เป็นแบบนี้ครับ
    ได้แต่ตั้งปราถนาไว้ว่าเมื่อไหร่จะได้หลุดจากงานทางโลกมาสู่ทางธรรม คงต้องรอเวลา ครับ แต่ในขณะเดียวกันเราก็ต้องขนขวายเตรียมพร้อมด้วยตนเองให้มากที่สุดเช่นกันครับ
     
  6. aun aun

    aun aun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณก้อง มีเรื่องรบกวนจะสอบถามทางข้อความส่วนตัว ยังได้อยู่มั๊ยคะ ขอบคุณค่ะ
     
  7. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ตอบให้แล้วครับ
     
  8. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ความสูงส่งของคนเรา คือสูงส่งด้วยจิตที่สูงด้วยความดี สูงด้วยคุณธรรม ผู้ยิ่งใหญ่ ย่อมมีชีวิตเป้นอยุ่อย่างเล็กๆ แต่มีความคิดจิตใจที่ยิ่งใหญ่คือการเสียสละเพื่อผุ้อืน ความเห้นแก่ตัวมีน้อยหรือไม่มี ชีวิตที่มีอยุ่คือย่อมมีอยุ่เพื่อผู้อื่นเสมอ
     
  9. aun aun

    aun aun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณก้องคะ ขอรบกวนสอบถามทาง PM นะคะ ขอบคุณค่ะ
     
  10. aun aun

    aun aun สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    3
    ค่าพลัง:
    +4
    ขอบคุณมากค่ะ คุณก้อง อ่านข้อความแล้ว คลายความทุกข์ใจไปมากเลยค่ะ ขอผลบุญกุศลที่คุณก้องช่วยตอบปัญหาให้คลายความทุกข์นี้ ส่งผลให้คุณก้องเจริญในทางโลกและทางธรรมนะคะ และถ้ามีงานบุญสร้างพระ รบกวนช่วยแจ้งดิฉันด้วยนะคะ
     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    รู้ผล ย่อมรู้ถึงเหตุ
    รู้เหตุ ย่อมรู้ถึงผล

    กรรมและวิบากกรรม ย่อมเวียนว่ายตามให้ผล
    ผลที่ได้รับกลับกลายเป็นเหตุ ให้เกิดผลใหม่ในภายหน้า

    สรรพสัตว์ล้วนเกิดดับแล้วเหลือคนานับ

    สรรพสัตว์รอบกายอาจหมายคือคนรักและเครือญาติ ที่มิอาจล่วงรู้ได้
    สรรพสัตว์ที่เวียนว่ายล้วนมีเครื่องหมายคือกรรมปักรั้งไว้ให้พบเจอเพื่อใช้คืนแห่งห้วงกรรมที่กระทำไว้ต่อกัน

    สุขหรือทุกข์ มิอาจรู้ได้แค่ภายนอกที่ฉาบทา ผู้มีปัญญาพึงแยกแยะรู้แจ้งถึงเหตุภายในแห่งทุกข์สุขที่ปรากฏเห็นเป็นธรรมดา

    แยกจิตออกจากมายาปรุ่งแต่ง ปล่อยวางนอกในให้เป็น จิตย่อมสงบนิ่งใสสว่างกลางใจตน ย่อมหลุดพ้นจากความทุกข์ เพราะสว่างแจ้งแล้วปรากฏสุขบรมสุข ด้วยสติปัญญาถึงพร้อมในปัจจุบัน

    อริยะมรร8 พระศาสดาชี้ทางให้แล้ว อย่าละเลยปล่อยทิ้งคว้าง สัมมาทั้ง8อ้างถึงซึ่งคุณธรรมล้ำเลิศสว่างใส น้อมนำสู่จิตพิศดูย่อมรู้แจ้งทั้งนอกใน ฝึกฝนอบรมจิตตนให้มีจิตขาวสะอาดบริสุทธิ์สืบไป
     
  12. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    เมื่อคืนวาน วันที่ 31 มกราคม 2561ฝันแต่เชื่อมั่นว่าเป็นนิมิตรของจริง

    ในความฝันจำได้แม่นยำว่า ผมได้เข้าไปทำบุญวัดแห่งหนึ่งศาลาใหญ่และยาวมาก มีคนไปเข้าแถวเรียงหน้ากระดาน มีหลวงพ่อท่านหนึ่ง ทะยอยพรหมน้ำมนต์ให้ทุกๆคนที่ไปรอ พร้อมด้วยท่านได้แจกเงินให้กับญาติโยมทุกคน แต่ละคนได้มากน้อยไม่เท่ากัน

    ชั่วอึดใจเดียวท่านก็ใกล้เข้ามา จนถึงผม ผมจึงก้มลงกราบท่าน เห็นท่านชัดเจน ท่านคือ หลวงพ่อฤาษีลิงดำ ท่านราศรีงดงามมาก กายเหลืองสว่าง ปากท่านแดงด้วยรอยน้ำหมาก ผมกล่าวสักการะท่าน และกล่าวขึ้นว่า

    ขออนุโมทนาในมหาบุญบารมีที่หลวงพ่อได้สร้างสั่งสม ชาติสุดท้ายของหลวงพ่อได้จบสิ้นแล้ว ท่านสะอาดหมดจดถึงแล้วซึ่งพระอรหันต์ ท่านได้ทำหน้าที่อันยิ่งใหญ่ยากที่ผู้ใดที่กระทำได้เช่นท่าน ท่านได้สืบทอดพระศาสนาด้วยหลักคำสอนมากมายเป็นธรรมทานสร้างไว้ให้ลูกหลานชนรุ่นหลังได้เจริญรอยตาม ลูกขอกราบอนุโมทนาสาธุ สาธุ สาธุ

    อันตัวลูกคือยังอีกไกล เพราะปราถนาตั้งไว้แล้วคือโพธิสัตว์ ลูกยังต้องวนเวียนในวัฏฏะไปอีกนานสั่งสมไปเรื่อยๆแต่ก็จะไม่ย้อท้อครับ

    หลวงพ่อท่านยิ้มไม่กล่าวอะไรและท่านได้พรหมน้ำมนต์ให้ และท่านให้ผมแบมือท่านให้เงินกระผม ใส่ในมือผม เป็นเงิน3บาท
    คือมีเหรียญ1บาท จำนวน3เหรียญ

    ผมก็นึกสงสัย ท่านทำไมให้เงินผมน้อยจัง เหมือนท่านรู้ความนึกคิด ท่านสื่อจิตให้ทราบว่า จงตั้งมั่นในสามอย่างเ้ป็นสรณะ คือ พระพุทธเจ้า 1 พระธรรม1 และพระสงฆ์1 นี่คือหัวใจหลักที่ลูกต้องทำให้ได้ ก็เลยทำให้เข้าใจว่า แท้จริงแล้ว สรณะสูงสุดคือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นั้นเอง ไม่มีสรณะอื่นใดสำคัญไปกว่า

    นี่คือปรัชญาแห่งธรรมนิมิตรที่ได้จากหลวงพ่อ ที่เราพึงน้อมเอาจิตเราอยู่กับพระรัตนตรัยให้ตลอดเวลาทุกลมหายใจเข้าออกให้ได้มากที่สุดนั่นเองครั
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. ทาสความดี

    ทาสความดี สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 กันยายน 2007
    โพสต์:
    63
    ค่าพลัง:
    +25
    เคยฝันเหมือนกันค่ะ...ตอนนั้นเห็นคนเยอะแยะ ยืนเรียงรายรอให้หลวงปู่ฤาษีรดน้ำมนต์ให้ หนูก็เป็นคนนึง เห็นสภาพตัวเองเหมือนคนบ้า ผมเผ้ารกรุงรังปิดหน้าปิดตา แล้วพอถึงเรา หลวงปู่ท่านก็เอาไม้พรมนำมนต์ฟาดที่หัวอย่างแรง 3 ที พร้อมกับเทน้ำมนต์ให้อาบกลางหัวเลยค่ะ...รู้สึกคิดถึงหลวงปู่มาก อย่างน้อยรู้สึกว่าเราเองก็ยังอยู่ในสายตาหลวงปู่เหมือนกันค่ะ หนูเกิดไม่ทันตอนที่หลวงปู่ยังมีชีวิตอยู่ เพราะตอนที่ท่านละสังขาร หนูก็เพิ่งจะ 5 ขวบ แต่มีความรู้สึกรักและผูกพันกับท่านมาก เคยไปกราบศพท่านที่วิหารแก้ว อยู่ดีๆก็ร้องไห้แบบหยุดไม่อยู่ จนต้องเอามือหุบปาก เดินออกไปร้องไห้ต่อที่ห้องน้ำ....ฝันเห็นหลวงปู่ทีไร มีความสุขทุกที
     
  14. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ======
    ขออนุโมทนาครับ สาธุ
    คุณเป็นศิษย์ดื้อ ค่อยๆชำระ ค่อยๆฝึกอบรมจิตตนไป ความดีก็มีเยอะแต่กรรมไม่ดีก็เยอะ มาชาตินี้หมั่นปฏิบัติธรรม แล้วจะพ้นกรรม จะยกจิตสูงได้ครับ ขอให้มีความตั้งใจ พยายามและมีขันติธรรมนะครับ ให้เดินตามพระพุทธองค์และหลวงพ่อนะครับ จะสำเร็จครับ
     
  15. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ในวาระมาฆะบูชา ที่จะเวียนมาถึงใน วันที่1 มีนาคม พศ 2561นี้

    ขออธิบายธรรม ว่าด้วยแก่นแท้หรือหลักคำสอนที่สำคัญของพระพุทธเจ้า อันมีเหมือนกันคือเริ่มต้นจาก

    1 อริยะสัจสี่ คือความสัจจริงสี่ประการของกงล้อแห่งทุกข์และการดับสิ้นแห่งทุกข์

    2 อริยะมรรค คือ กงล้อแห่งนิโรธ คือวิธีปฏฺิบัติเพื่อดับสมุทัย อันนำไปสู่ที่สุดคือการดับทุกข์ ที่ทุกข์ดับสนิทไม่เหลือเชื้อ

    3 ไตรสิกขา คือ ปริยัติ ปฏิบัติ ปฏิเวธ หมายถึงการจำแนก เครื่องที่ทำให้เข้าถึงปัญญา กล่าวคือ ปริยัติให้สติปัญญาอย่างหนึ่ง ปฏิบัติก็ให้สติปัญญาอย่างหนึ่ง ปฏิเวธก็ให้สติปัญญาอย่างหนึ่ง สูงสุดแห่งสติปัญญาในธรรมคือละปล่อยวางรู้ วางปัญญาที่มีทั้งหมดย่อมเข้าถึงความหลุดพ้นทุกข์อันบริสุทธิื

    4 ศีล สมาธิ ปัญญา คือ เครื่องสลัดซึ่งกรรมชั่ว มีที่ไปคือชำระจิตสู่ความหลุดพ้นทุกข์อันบริสุทธิื

    5 ทาน ศีล ภาวนา คือ เครื่องชำระจิตจากอกุศลจิต ยกจิตให้สูงด้วยวิปัสสนา มีที่สุดคือจิตที่ขาวรอบบริสุทธิื

    6 สามัญญลักษณ์ คือ ความรู้แจ้งใน อนิจจัง ทุกขขัง อนัตตา คือมะอะอุ หัวใจของพระศาสดาและพระอรหันต์ มีที่สุดคือพระนิพพาน คือความหลุดพ้นทุกข์

    7 สังโยชน์ คือเครื่องสลัดออก ยังให้เกิดความรู้แจ้งในสัจจะความจริง ของกายใจ อันเป็นเครื่องที่ยืนยันหรือแสดงให้รู้ถึงความสะอาดบริสุทธิ์ของจิต ที่มีความก้าวหน้าในทางธรรมมากน้อยเพียงใด

    8 การทำความดี ละเว้นความชั่ว ชำระจิตให้ขาวสะอาดบริสุุทธิ์ คือ เครื่องหล่อหลอมจิต อย่างสั้นย่อ กระชับ อันเป็นไปเพื่อความเจริญงอกงามในความดี เบื้องต้น ท่ามกลาง และบั้นปลายคือชำระจิตให้ขาวรอบบริสุทธิ์ ถึงซึ่งฝั่งพระนิพพานหลุดพ้นทุกข์

    และอื่นๆอีกมากมายคือใบไม้ในป่าใหญ่ แม้เพียงหนึ่งกำมือ แต่ก็คือสิ่งเดียวกัน นั้นคือ พระพุทธองค์ทรงสอนหมู่สัตว์ให้ เข้าใจ รู้แจ้งในกงล้อวัฏฏะแห่งทุกข์ และทรงสอนนานาวิธีเพื่อการดับทุกข์

    ดังนั้น ไม่ว่าจะยุคสมัยใด หลังพุทธกาล ทราวดี ล้านนา
    สุโขทัย อยุธยา ธนบุรี กรุงเทพ หรืออนาคตกาล แก่นแท้แห่งพระอนุตระธรรมจึงมีประมาณนี้เท่านั้นเอง แต่มีรายละเอียดและปลีกย่อยมากมาย ขอให้เราทุกท่านไม่ประมาทในธรรม เดินทางสายกลาง เพื่อการดับทุกข์ นำสุขมาสู่กายใจ สู่ชีวิตของตนสืบไป เพื่อความเจริญทั้งทางโลกและทางธรรม ให้ยิ่งๆขึ้นไปครับ สาธุ
    NjpUs24nCQKx5e1D7RqZbxJuAFgCvQ1U4nw7bDcgaXj.jpg
     
  16. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    พระพุทธองค์คือผู้เป็นเลิศด้วยสติปัญญาอันเป็นเลิศสูงสุดที่ผู้ใดอื่นก็มิอาจเทียบเท่าพระพุทธองค์

    พระญาณบารมีที่ทรงสั่งสมและเผยแผ่เป็นธรรมทาน ให้เราได้ศึกษาปฏิบัติเพื่อความเข้าถึง นั้น
    ควรอย่างยิ่งที่เราจะศึกษาเรียนรู้ นำไปปฏิบัติ เพื่อความรู้แจ้งด้วยสติปัญญาของตน

    1.โคตระภูญาณ ญาณเพื่อความก้าวพ้นปุถุชน คือยกจิตสู่พระโสดาบัน อริยะบุคคล ที่จะไม่ถอยกลับลงไปอีก

    2สังขารุปเบกขาญาณ ญาณข้อนี้ถ้าแปลตามพระไตรปิฏกหมายความเพียงแค่การชำระจิตให้สะอาดเป็นกลาง แต่พระอริยะผู้มีสติปัญญามาก ย่อมอาศัยวิปัสสนาญาณเป็นเครื่องชำระจึงให้ผลที่จิตได้ชำระอาสวะอย่างหยาบและปานกลางลงได้่ย่อม ยกจิตของตนสู่วิปัสสนาญาณที่ทำลายสิ้นในกายหยาบ และนามธรรมอย่างหยาบและปานกลาง ยกจิตสู่ความเป็นพระสกิทาคามี และพระอนาคามี อริยะบุคคล ได้ และจะไม่ถอยต่ำลง

    3 อาสวักขยญาณ ญาณเครื่องกำจัดอาสวะกิเลส ยกจิตสู่อริยะบุคคลเป็นอรหันตจิต หลุดพ้นทุกข์

    ในอาสวักขยญาณ หรือญาณแห่งพระอรหันต์ มีจำแนกอีกหลากหลายประเภทขึ้นอยู่กับว่าจะใช้เกณฑ์อะไรในการจำแนก
    แต่ที่สุดแล้วคือรวมกันเป็นสิ่งเดียวคือความว่างเปล่าหมดสิ้นในอัตตา ทำลายรูปนามอาสวกิเลสได้หมดสิ้นไม่หลงเหลือเชื้อใดๆอีก ต่อไป

    ดังนั้นจึงควรใช้เวลาที่เรามีชีวิตเหลืออยู่ฝึกฝนอบรมความรู้ค่อยๆทำไปตามกำลัง ตามความสามารถ ของตน

    อย่าปล่อยให้โลกียะสภาวะพัดพาเราไปจนจมไปกับมัน หากรู้ดีว่ากำลังใจยังไม่ดีไม่มั่นคงพอ พระพุทธองค์ท่านให้กำแพงแก้วไว้แล้ว คือการรักษาศีล จะศีล5,8,10,227ก้ตามกำลัง ค่อยๆพัตนาตนต่อไป ถ้าหากชีวิตเรานี้ไม่มีกรอบที่ดีงาม มันก็ยากเหลือเกินที่จะก้าวข้ามไปสู่ความดีอย่างอริยะบุคคลท่านเข้าถึง แล้วชีวิตเราในชาตินี้จะมีค่าอะไร แล้วชาติหน้าก็จะไปหวังอะไร มีที่ไปคือทุกขคติเท่านั้น ฉนั้นจึงไม่ควรประมาทครับ สาธุ
     
  17. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้บอกบุญ ประชาสัมพันธ์งานบุญครับ

    ขอเชิญเจ้าของกระทู้ และสมาชิกที่ติดตามกระทู้ทุกท่าน ร่วมทำบุญสร้างวิหารแก้ว 2 ชั้น และสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ ณ วัดนาเดื่อ บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร

    โดยร่วมทำบุญ กองบุญละ 20 บาท
    1 ท่าน จะทำกี่กองบุญก็ได้
    โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 021 - 8 - 78604 - 9
    ชื่อบัญชี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย(หลวงพ่ออึ่ง) เจ้าอาวาสวัดนาเดื่อ
    เบอร์มือถือ 090-9635669

    โดยให้ส่งหลักฐานการทำบุญ และส่งรายชื่อมาที่ Facebook ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง

    https://www.facebook.com/profile.php?id=100014474581651&fref=hovercard&hc_location=chat

    ท่านที่ส่งรายชื่อมาแล้ว ทางทีมงาน ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง จะนำรายชื่อของท่านไปพิมพ์ลงในสมุดปกสีทอง ด้วยกระดาษสีทอง ซึ่งสมุดบุญปกสีทองนี้ จะนำไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐมฯ หน้าตัก 10 เมตร และทุกครั้งที่วัดมีพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ ทางวัดนาเดื่อจะนำ สมุดบุญ ที่มีชื่อ - นามสกุล ของท่านมาเข้าในพิธีด้วยทุกครั้ง

    บุญที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น ในบัญชีบุญบาปในโลกทิพย์ หรือโลกวิญญาณนั้น เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกบัญชีหนึ่งแยกต่างหาก ซึ่งก็คือ บัญชีสมุดสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม และเขาจะบันทึกรายชื่อผู้ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ไว้ในบัญชีสมุดสีทอง

    เหตุก็เพราะว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ให้ความเคารพ และการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น พระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ย่อมมาร่วมอนุโมทนา

    หรือในคราวใด ที่มีการอันเชิญพระพุทธเจ้าองค์ปฐมให้เสด็จ พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ย่อมเสด็จตามมา และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมย่อมเป็นประธานทุกครั้ง

    การสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ นี้ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ยังไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อน ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก และทางวัดยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก

    ขอรบกวนเจ้าของกระทู้และผู้ติดตามกระทู้ทุกท่าน ช่วยแชร์กระจายข่าวงานบุญนี้ต่อไปยังสาธุชนพุทธบริษัททั้ง 4 ให้ทราบโดยทั่วหน้ากัน

    สาธุ ขออนุโมทนา

    ผู้เขียนโพสนี้โดย Sirius Galaxy

    หรือ Facebook คิดดี พูดดี ทำดี ปรารถนาพุทธภูมิ
     
  18. Sirius Galaxy

    Sirius Galaxy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 ธันวาคม 2010
    โพสต์:
    1,132
    ค่าพลัง:
    +2,559
    ขออนุญาตเจ้าของกระทู้บอกบุญ ประชาสัมพันธ์งานบุญครับ

    ขอเชิญเจ้าของกระทู้ และสมาชิกที่ติดตามกระทู้ทุกท่าน ร่วมทำบุญสร้างวิหารแก้ว 2 ชั้น และสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ ณ วัดนาเดื่อ บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร

    โดยร่วมทำบุญ กองบุญละ 20 บาท
    1 ท่าน จะทำกี่กองบุญก็ได้
    หรือ 1 ท่าน จะส่งรายชื่อมากี่คนก็ได้ ตามจำนวนบุญ
    ส่งรายชื่อญาติพี่น้อง พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ลุง ป้า น้า อา ลูก หลาน เหลน โหลน สัตว์เลี้ยง เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายคุณ เทพ เทวดา อินทร์ พรหม มาร ยักษ์ นาค ครุฑ สัตว์นรก เปรต อสูรกาย ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วทั้งหลาย

    โอนเข้าบัญชี ธนาคารกสิกรไทย เลขที่ 021 - 8 - 78604 – 9
    ชื่อบัญชี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย(หลวงพ่ออึ่ง) เจ้าอาวาสวัดนาเดื่อ
    เบอร์มือถือ 090-9635669

    โดยให้ส่งหลักฐานการทำบุญ และส่งรายชื่อมาที่ Facebook ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง

    https://www.facebook.com/profile.php?id=100014474581651&fref=hovercard&hc_location=chat

    ท่านที่ส่งรายชื่อมาแล้ว ทางทีมงาน ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร เล้ง จะนำรายชื่อของท่านไปพิมพ์ลงในสมุดปกสีทอง ด้วยกระดาษสีทอง ซึ่งสมุดบุญปกสีทองนี้ จะนำไปเก็บไว้ที่ห้องใต้ฐานสมเด็จองค์ปฐมฯ หน้าตัก 10 เมตร และทุกครั้งที่วัดมีพิธีสวดสะเดาะเคราะห์ ทางวัดนาเดื่อจะนำ สมุดบุญปกสีทอง ที่มีชื่อ - นามสกุล ของท่านมาเข้าในพิธีด้วยทุกครั้ง

    บุญที่สร้างสมเด็จองค์ปฐมนั้น ในบัญชีบุญบาปในโลกทิพย์ หรือโลกวิญญาณนั้น เขาจะเปลี่ยนเป็นอีกบัญชีหนึ่งแยกต่างหาก ซึ่งก็คือ บัญชีสมุดสีทอง เป็นทองคำล้วนทั้งเล่ม และเขาจะบันทึกรายชื่อผู้ทำบุญสร้างสมเด็จองค์ปฐม ไว้ในบัญชีสมุดสีทอง

    เหตุก็เพราะว่าเป็นพระพุทธเจ้าพระองค์แรก หรือพระพุทธเจ้าองค์ปฐม ที่พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ให้ความเคารพ และการสร้างพระพุทธเจ้าองค์ปฐมนั้น พระพุทธเจ้าองค์อื่นๆ ย่อมมาร่วมอนุโมทนา

    หรือในคราวใด ที่มีการอันเชิญพระพุทธเจ้าองค์ปฐมให้เสด็จ พระพุทธเจ้าพระองค์อื่นๆ ย่อมเสด็จตามมา และพระพุทธเจ้าองค์ปฐมย่อมเป็นประธานทุกครั้ง

    การสร้างสมเด็จองค์ปฐมฯ หล่อด้วยโลหะ ขนาดหน้าตัก 10 เมตร สูง 15 เมตร ปิดทอง ประดับเพชร ยอดพระเกศทองคำ นี้ ถือเป็นงานที่ยิ่งใหญ่มาก ยังไม่เคยมีที่ใดทำมาก่อน ต้องใช้ปัจจัยจำนวนมาก และทางวัดยังขาดปัจจัยอีกจำนวนมาก

    วัดนาเดื่อ และบ้านนาเดื่อ นี้ มีความสัมพันธ์เกี่ยวเนื่องกับ หลวงพ่อหนุน สุวิชโย (พระครูวิชัยสารคุณ)

    คือ หลวงพ่อหนุน เกิดที่บ้านนาเดื่อ ตำบลนาแก้ว อำเภอโพนนาแก้ว จังหวัดสกลนคร และเคยเป็นเจ้าอาวาสที่วัดนาเดื่อ แห่งนี้ และหลวงพ่อหนุนเคยเรียนกรรมฐานกับหลวงพ่อฤษีลิงดำ (พระราชพรหมยาน) วัดท่าซุง ถือได้ว่าเป็นลูกศิษย์ของหลวงพ่อฤษีฯ อีกองค์หนึ่งที่มีคุณวิเศษ

    ปัจจุบันวัดนาเดื่อ มี พระพลัฏฐ์ ฐิตกรณีโย (หลวงพ่ออึ่ง) เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อหนุน สุวิชโย

    ขอรบกวนเจ้าของกระทู้และผู้ติดตามกระทู้ทุกท่าน ช่วยแชร์กระจายข่าวงานบุญนี้ต่อไปยังสาธุชนพุทธบริษัททั้ง 4 ให้ทราบโดยทั่วหน้ากัน

    สาธุ ขออนุโมทนา

    ผู้เขียนโพสนี้โดย Sirius Galaxy
    หรือ Facebook คิดดี พูดดี ทำดี ปรารถนาพุทธภูมิ
    ชื่อนามสกุลจริง นายศุภชัย รังสิยานนท์
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ขออนุโมทนาครับ
     
  20. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,364
    ชะตากรรมเป็นผู้กำหนดหนทางและเส้นทางแห่งชีวิต

    สติปัญญาเป็นเครื่องมือฝ่าฟันอุปสรรคให้ก้าวล่วงพ้นไป

    จิตเป็นนายใหญ่กุมกำลังก้าวข้ามวิบากกรรม และเป็นผู้นำสติปัญญาเลือกสรรพ์สรรพวิธี

    ต่อสู้กับความไม่ดี ทำลายล้างอวิชา ก้าวล่วงสู่ความดี แม้ทุกข์ก็จะไม่มีทุกข์ แต่จะผ่านเปลือกตมอันสกปรกไปสู่ความขาวสะอาดทั้งใจกาย

    จงอย่าท้อถอยและยอมแพ้ ขอให้มีขันติและความเพียรเป็นรากฐาน มีสติปัญญาเป็นอาวุธ มีจิตใจเป็นนายใหญ่ที่เข้มแข็ง แล้วทุกข์ต่างๆย่อมคลี่คลายผ่านพ้นไปในที่สุดครับ สาธุ
     

แชร์หน้านี้

Loading...