ออทิสติก ผู้มีจิตที่ปรุงแต่งน้อยเนื่องจากปัญหากายภาพทางสมอง

คณะนักวิจัยแห่งมหาวิทยาลัยจอห์นฮ็อบกิ้นส์ สหรัฐอเมริกาได้เผยแพร่ผลวิจัยเกี่ยวกับสิ่งที่เป็นสาเหตุของโรคออทิสติกว่า เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติในสมองของเด็ก ทำให้เด็กคนนั้นมีข้อจำกัดในการสื่อสาร หรือตอบสนองกับผู้คนหรือสิ่งรอบตัว <?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
คำว่า

 

ทุกอย่าง ไม่มีคำว่าผิดปกติ

คำว่าจิตผิดปกติ คือ ผู้ที่มีความทุกข์

ถ้ามีความสุข นั้นไม่เรียกว่า ผิดปกติ

 

สรุปว่า ลูกของคุณขวัญ ไม่ได้เป็น ออทิสติคแล้ว
ปัจจุบัน อายุ 3 ขวบ แต่ไม่ยอมพูด พูดแต่ภาษาต่างดาว
ขอถามว่า
1. คุณขวัญ อายุเท่าไหร่คะ
2.ใครเลี้ยงลูกให้เอาตั้งแต่คลอดถึงปัจจุบัน
3. แล้วเวลาอยู่กับลูกเคยพูดคุยกะเค้ามากไหม
4.ในครอบครัวมีใครพูดช้าบ้าง

เพราะถ้าเด็ก 3 ขวบน่าจะพูดได้มากกว่า 5 คำ และต้องสามารถเล่าเรื่องราวได้ประมาณ 3 นาที นะคะ
คุณแม่ลองกระตุ้นเค้าดูนะคะ เล่านิทาน ร้องเพลง เสียงคุณแม่คือเสียงสวรรค์คะ และพฤติกรรมที่คุณแม่แสดงจะเป็นตัวอย่างที่เค้าจะเลียนแบบคะ

มีอะไรเกี่ยวกับเรื่องเจ้าตัวเล็ก ก็ปรึกษาได้คะ

 

ตอบคุณเด็กชายพชร
1.มีลูกตอนอายุ 38 ค่ะ หมอว่ามีอาการออทิสติกบ้าง แต่น้อยถ้ายอมสบตานานกว่านี้ แล้วเลิกพูด ต่างดาว ก็จะปกติแล้วค่ะ
2.ตอนเด็กตั้งแต่เกิด - 1.2 ขวบ จ้างพี่เลี้ยงค่ะ สงสัยดูทีวีกะพี่เลี้ยงเยอะ แม่ต้องไปทำงานข้างนอกค่ะ พ่อก็ทำงาน
3.เวลาอยู่กับลูกพูดน้อย ทั้งพ่อและแม่พูดน้อย มีกัน 3 คนพ่อแม่ลูก แต่เล่นกะลูกเยอะ เค้าจะไม่ค่อยอยู่ในโลกส่วนตัว ตรงนี้ยังดีหน่อย เล่นสมมุติได้
4.สามีตอนเด็กก็พูดช้า และปัจจุบันสามีไม่ชอบสังคมมากๆ

ตอนนี้ 3.8 ขวบพูดได้เป็นคำๆ ยังพูดเป็นประโยคไม่ได้ จะพูดตามคำสุดท้าย ถ้าพูดยาวๆจะเป็นต่างดาว ตอนนี้ดีขึ้นมากแล้วค่ะ เรียกแม่ได้แล้ว ตอนนี้จะพยายามพูดกับลูกให้เยอะๆ ตอน 3 ขวบ พูดไปเค้าไม่ตอบสนองเลย แต่ตอนนี้จะตอบเยอะ ถึงจะพูดคำเดียวก็ดีค่ะ แต่ตอนนี้เริ่มเลียนแบบเราทุกอย่างเลยค่ะ ทั้งสีหน้า การแสดงอารมณ์ เหมือนเค้าเก็บข้อมูลสร้างตัวตนอยู่อย่างนั้นเลยค่ะ ดูเหมือนจิตเค้ารู้จักอารมณ์หลายแบบมากขึ้น จะพยายามไม่ให้เค้าดูทีวี ละครน้ำเน่าทั้งหลาย กลัวเค้าจะเลียนแบบ
ขอบคุณมากค่ะ

ตอบคุณสันโดษ
จิตของคนที่มีอาการ ออทิสติก น่าจะปกติค่ะ แต่ตัวสมองและระบบประสาท การรับรู้ผัสสะ ของเค้าต่างจากคนปกติ ทำให้จิตของเค้ายังคงความบริสุทธิของจิตเดิมไว้ได้มาก เค้าไม่มีความทุกข์กันค่ะ มีแต่พ่อแม่ของเค้าที่ทุกข์ ส่วนใหญ่พวกเค้าก็ไม่เข้าใจพ่อแม่ว่าทำไมต้องมาร้องไห้เพราะเค้าไม่ได้เป็นอะไร(เฉพาะพวกที่มีศักยภาพสูงนะคะ ถ้าเป็นอีกพวกที่สมองผิดปกติมาก มีอาการชักร่วมด้วยจะเป็นอีกแบบ แต่ทั้ง2แบบ เค้ามีความสุขค่ะ ไม่รู้จักทุกข์เหมือนเรา ไม่รู้ว่าทำไมบางคนถึงต้องฆ่าตัวตาย)

 

แต่ผมว่านะครับ ทุกข์กับสุข มันไม่ต่างกันซักนิดเลย
ทุกข์หรือสุข มันไม่ต่างกันหรอก ถ้ารู้จักตรงกลางของมัน
ที่เหลือคิดเอาเอง

 

Page 1 V---------------------------------------------------------------------------------------



Page 2 V---------------------------------------------------------------------------------------

 

Page 3 V---------------------------------------------------------------------------------------



Page 4 V---------------------------------------------------------------------------------------

 

มีอีกทฤษฏีกล่าวเอาไว้ว่า
เมื่อได้สิ่งหนึ่งก็จะต้องสูญเสียอีกสิ่ง
บางทีความสามารถเหนือมนุษย์ของพวกเรา
อาจจะเป็นสิ่งทดแทนความสามารถอื่นที่ไม่มีก็ได้ครับ

 

ถ้าคุณขวํญอยากปรึกษาคุณหมอ แนะนำคุณหมอชนิกาคะ ท่านเชี่ยวชาญเรื่องเด็กทางด้านนี้คะ แต่แนนไม่ทราบว่าคุณหมออยู่โรงพยาบาลไหนนะคะ

 

ขอบคุณค่ะ ตอนนี้ลูกชายหาคุณหมอทวีศักดิ์ ที่แฮปปี้โฮมคลีนิคอยู่ค่ะ คุณหมอให้ฝึกพูดอยู่ค่ะ

 

อัลเลน สไนเดอร์(Allan Snyder) เชื่อว่าในตัวคนเราทุกคนนี้อาจจะมีความสามารถแบบซาวังซุกซ่อนอยู่แล้ว (ฝรั่งเล่นคำโดยเรียกว่า "A Little Rain Man in Us All"

ถ้าเราไม่ใช้วิธีกระแทกศรีษะ แต่ใช้วิธีฝึกจิต แบบที่พระพุทธเจ้าสอน เราอาจจะดึงความสามารถแบบซาวังออกมาได้ และ อาจทำได้ดีกว่าคนที่เป็นออทิสติกก็ได้นะ ทำได้ในสถานะที่สมบูรณ์ทั้งด้านร่างกายและจิตใจ

ถ้าเราตั้งสมมุติฐานว่า บุคคลที่มีอาการ ออทิสติก คือผู้ที่มีจิตปกติ เป็นจิตเดิมที่ผ่องใส ยังไม่มีกิเลสมาครอบครองให้เกิดความเศร้าหมอง และมีระบบประสาทการรับรู้การตอบสนองที่ไม่ต่อเนื่องไม่ปรุงแต่งความคิด ทำให้จิตเดิมยังคงสภาพเดิมแท้ตั้งแต่แรกเกิดไว้ได้มาก ไม่มีทุกข์ทางใจ ไม่ฟุ้งสร้านเหมือนคนปกติทั่วไปที่ชอบปรุงแต่งจิตไปยึดถือสิ่งต่างๆ
fficeffice" /><O> </O>
จากสมมุติฐานนี้เป็นไปได้ไหมที่ออทิสติก ร้อย 10 มีความสามรถพิเศษระดับอัฉริยะ เป็นผลจากจิตเดิมแท้ที่ผ่องใส มีประสิทธิภาพมากแสดงให้เห็นในรูปแบบความสามรถพิเศษ

 

โรงพยาบาลยุวประสาท ที่สมุทรปราการดูแลเรื่องนี้โดยตรงครับ
"ในผู้คนที่เราพบซึ่งบางคนอาจไม่สามารถดูแลตัวเองได้นั้น อาจมาที่นี่เพื่อสอนเราให้รู้ซึ้งถึงความหมายของคำว่า เมตตา ความรักและการให้"
จากหนังสือ"อำนาจแห่งเจตนารมณ์(THE POWER OF INTENTION)"แปลโดย สุวิชา สำนักพิมพ์ต้นไม้ เป็นหนังสือที่ดีมาก อยากแนะนำให้อ่านครับ

 

ก็มนุษย์นี่ครับ ^^

 

แทบจะใช้กรรมเก่าอย่างเดียวเลย ในชาตินี้
ต้องรอให้กรรมนั้น ๆ หมด ถึงมีโอกาสในการทำเพื่อการหลุดพ้น
น่าสงสาร

 

แปลกแต่จริงค่ะ ไม่สร้างกรรมใหม่ ทั้งดีและชั่ว มีโลกส่วนตัวของเขา