แบ่งปันถึง 10 เมษายนนี้ {พระปิดตานะมิ หลวงปู่สี ฉันทสิริ วัดเขาถ้ำบุญนาค}

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย siriphan2009, 24 มีนาคม 2016.

  1. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    พระคาถาที่หลวงปู่ให้ไว้กับศิษย์ใกล้ชิดท่านหนึ่ง


    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    จัดส่งให้แล้วนะครับ
    แจ้งเลขไปรษณีย์ EP722978150TH
     
  3. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    หลวงพ่อพระราชพรหมยานวัดท่าซุงช่วยจัดงานพระศพหลวงปู่สี

    ถอดข้อความส่วนหนึ่งมาจากหนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป (อยากอ่านเต็ม ๆ ซื้อได้ที่วัดท่าซุงและซอยสายลมครับ)

    เมื่อประมาณปี พ.ศ. ๒๕๒๐ ข้าพเจ้าได้เข้าเรียนเสนาธิการทหารอากาศ แต่ในวันหยุดก็ได้เดินทางกลับบ้านที่กองบิน ๔ ตาคลี นครสวรรค์ ทุกครั้งและก็ได้ไปแวะเยี่ยมหลวงปู่สี ที่กำลังอาพาธหนักอยู่เสมอ ๆ ในบางครั้งที่เจอคุณหมอโอ๊ต ซึ่งเป็นนายแพทย์ของกองบิน ๔ (ชื่อจริงข้าพเจ้าต้องขออภัยที่จำไม่ได้เพราะเรียกกันแต่หมอโอ๊ตจนติดปาก) มาคอยให้การเยียวยารักษาอยู่ และด้วยเหตุนี้จึงได้รู้และเห็นกับตาว่า คราวใดก็ตามหากหลวงปู่สีไม่ยอมให้หมอฉีดยาแต่หมอจะฉีดให้ได้ เข็มฉีดยาก็จะต้องหักทุกครั้งไปเป็นที่น่าอัศจรรย์ยิ่ง หมอโอ๊ตเองก็หนักใจเพราะไม่สามารถรักษาได้ตามกระบวนการแพทย์ และครั้งเมื่อหลวงปู่สีมีอาการหนักมาก ท่านเจ้าอาวาสก็คลานเข้าไปสอบถามว่า “ หากหลวงปู่สีมรณภาพ จะให้ทางวัดจัดพิธีศพของหลวงปู่สีอย่างไร” ซึ่งหลวงปู่สีก็ได้ตอบให้ทุกคนในที่นั้นได้ยินกันอย่างทั่วถึงว่า”หากข้ามรณ ภาพเมื่อใด ท่านฤๅษีลิงดำจะมาเป็นผู้จัดการศพของข้าเอง ขอทุกคนอย่าได้เป็นห่วง”

    ต่อจากนั้นมาอีกไม่กี่วัน ข้าพเจ้าก็ได้รับทราบจาก พ.อ.อ. สัมฤทธิ์ กลั่นดี ว่าหลวงปู่สีได้มรณภาพ เมื่อเวลาประมาณตีสามและหลวงพ่อก็ได้มาถึงวัดเมื่อเวลาประมาณตีห้า โดยมิได้รับการติดต่อจากผู้ใดทั้งสิ้น (ข้าพเจ้าต้องขออภัยอีกครั้ง ที่จำวันมรณภาพของหลวงปู่สีไม่ได้) และเมื่อหลวงพ่อมาถึงวัด ก็ได้สั่งการและอำนวยการให้เก็บศพหลวงปู่สีไว้ในโลงแก้ว ในสภาพเสมือนหนึ่งหลวงปู่สีนอนหลับสนิทมาจนตราบเท่าทุกวันนี้ และที่น่าอัศจรรย์ยิ่งคือร่างของหลวงปู่สีไม่เน่าเปื่อย อีกทั้งเล็บมือเล็บเท้าและผมก็งอกยาวออกมาเช่นบุคคลธรรมดาที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งทางวัดก็จะต้องเปิดโลงแก้วทุก ๆ ๑๕ วันเพื่อปลงผมและตัดเล็บมือและเท้าให้หลวงปู่สีตลอดมา
    เรื่อง ที่ข้าพเจ้าได้เล่ามานี้จะเห็นได้ว่าทั้งหลวงปู่สีและหลวงพ่อจะต้องได้ญาณ และติดต่อกันได้ทางจิตมาโดยตลอด ซึ่งในทันทีที่หลวงปู่สีสิ้นลม หลวงพ่อก็รับทราบและเดินทางมาจัดการได้ในทันที
     
  4. phumiput

    phumiput เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    5,741
    ค่าพลัง:
    +16,580
    คาถาของหลวงปู่สี แบบสั้นก็มีนะครับคือ อุอาอานะเมตตาสังฆัง
     
  5. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ขอบคุณนะครับ ที่มาบอกอีกหนึ่งคาถาที่ให้ระลึกถึงหลวงปู่ครับ
     
  6. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    หลวงพ่อฤาษีลิงดำนัดพบหลวงปู่สีทางจิต

    ถอดข้อความส่วนหนึ่งมาจากหนังสือ สู่แสงธรรม โดย พล.อ.ต. มนูญ ชมภูทีป (อยากอ่านเต็ม ๆ ซื้อได้ที่วัดท่าซุงและซอยสายลมครับ)
    เมื่อประมาณ พ.ศ. ๒๕๑๔ ในวันหนึ่งหลวงพ่อได้มาแสดงธรรมะออกอากาศที่สถานีวิทยุกระจายเสียง ๐๔ ตาคลี จ.นครสวรรค์ เหมือนเช่นเคย และหลังจากที่หลวงพ่อได้แสดงธรรมะออกอากาศเสร็จก็ได้มานั่งพักผ่อนสนทนากับ ข้าพเจ้าและพ.อ.อ. กริช บำรุงพงษ์ ที่ห้องรับแขก ข้าพเจ้าจึงได้ฉวยโอกาสเล่าถึงอภินิหารและความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สีให้ หลวงพ่อฟัง พอสรุปใจความสั้น ๆ ได้ดังนี้

    “ มีพ่อค้าชาวตาคลี กลุ่มหนึ่งได้ไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวนที่ วัดดอยแม่ปั๋ง จังหวัดเชียงใหม่ และเมื่อหลวงปู่แหวนทราบว่าเป็นพ่อค้ามาจากตาคลี ก็หัวเราะพูดว่า” ท่านมีอาจารย์อยู่องค์หนึ่งอายุมากแล้วชื่อหลวงปู่สี ขณะนี้อยู่ที่ตาคลีค้นหาให้ดี เพราะท่านเก่งมากดังนั้นเมื่อผู้คนนั้นกลับมา ก็พยายามติดตามค้นหาในที่สุดก็ได้พบว่าหลวงปู่สี พำนักอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค มีอายุชราภาพมากแล้วถึง ๑๒๑ ปี อภินิหารหลวงปู่สี ขณะนั้นเป็นที่ร่ำลือกันมากคือ ไม่มีใครถ่ายรูปหลวงปู่สีติด หากไม่ขออนุญาตท่านเสียก่อน และชานหมากของหลวงปู่สีหากผู้ใดได้ไว้แล้วพกติดตัวไปก็จะเป็นสิริมงคล และป้องกันอันตรายต่าง ๆ ได้

    ข้าพเจ้าได้เล่าให้หลวงพ่อฟังต่อไปว่า “ กิตติศัพท์ของหลวงปู่สีดังกล่าว เมื่อได้รับฟังมาผมก็มิได้สนใจนักจนกระทั่งวันหนึ่งผมได้ยินเสียงปืนดังขึ้น ที่ป่าหลังกองร้อยทหารสารวัตร(ในขณะนั้นข้าพเจ้าเป็นผู้บังคับกองร้อยทหาร สารวัตร และเป็นนายทหารรักษาความปลอดภัยกองบิน ๔ ด้วย) ผมจึงชวนเรือโทสังวร สมหวัง รองผู้บังคับกองร้อย และเรืออากาศ ครรชิต บัวอำไพ นายทหารสารวัตรซึ่งได้นั่งปรึกษางานอยู่กับผมลงไปดู ก็เป็นจ่าอากาศสารวัตร ๒ คน คนหนึ่งกำลังถือปืนตั้งท่าจะยิงไก่นัดต่อไป อีกคนหนึ่งยืนดู จึงตะโกนสั่งให้หยุดยิงและสอบถามว่าทำไมจึงขัดคำสั่งผู้บังคับกองร้อยฯ (ข้าพเจ้าได้เคยสั่งให้ยิงปืนได้เฉพาะในสถานที่ที่จัดไว้ให้ยิง และยิงได้เฉพาะวัน, เวลาที่ทางกองร้อยฯกำหนด) ซึ่งทั้งสองคนก็ยอมรับผิด และอธิบายสาเหตุให้ฟังว่าจ่าประสิทธิ์ไปได้ชานหมากจากหลวงปู่สีมาเล่าให้จ่า ชิตฟังถึงอภินิหารต่าง ๆ จ่าชิตได้ฟังก็ไม่เชื่อก็เกิดการพนันกันขึ้น โดยจ่าประสิทธิ์ไปขอซื้อไก่ในกองบิน๔ มาแล้วให้จ่าชิตยิง หากจ่าชิตยิงไก่ตาย จ่าชิตก็ได้ไก่ไปแต่ถ้าหากจ่าชิตยิงไก่ไม่ตายก็ต้องจ่ายเงินให้จ่าประสิทธิ์ แล้วให้จ่าประสิทธิ์เอาไก่ไป การยิงสัญญากันไว้ว่าจะยิง ๖ นัด ขณะนี้จ่าชิตยิงไปแล้ว ๓ นัด ยังไม่ถูกไก่ และยังมีสิทธิ์ยิงได้อีก ๓ นัด ผมจึงให้เรืออากาศโท สังวร และเรืออากาศตรีครรชิต ซึ่งเป็นมือปืน P.P.C.เหรียญเงินทั้งสองคน ยิงไก่คนละนัดก็ไม่ถูกอีก ผมจึงให้คนโทรศัพท์ไปเรียกพ.อ.อ. ชลอ ผาสุกมือปืนP.P.C. เหรียญทองมายิงในนัดสุดท้ายซึ่งก็ไม่ถูกไก่อีก (ในตอนนั้น พ.อ.อ. ชลอ ผาสุก โมโหมากขอให้เอาเหรียญบาทไปตั้งที่ตอไม้ทั้ง ๓ เหรียญ ก็ยิงถูกเหรียญกระเด็นไปทั้ง ๓ เหรียญแต่ยิงไก่ตัวใหญ่โต ซึ่งมัดติดกับต้นไม้ไม่ถูก) ผมจึงให้จ่าประสิทธิ์พาไปหาหลวงปู่สีในวันนั้น และพอไปกราบหลวงปู่สี หลวงปู่ก็กล่าวตำหนิว่าพวกผมทำให้ท่านเจ็บปากไปหมด เพราะชานหมากไปผูกติดกับคอไก่ท่านก็จะต้องคุ้มครองให้ไก่และเมื่อเอาปืนไป ยิงไก่ ลูกปืนมันไม่ถูกไก่แต่วันมาถูกปากท่านทุกนัด ผมและพรรคพวกที่ไปจึงต้องกราบขอขมาหลวงปู่ ซึ่งหลวงปู่ท่านก็เมตตา มอบชานหมากมาให้แต่ขอสัจจะว่า อย่าได้นำชานหมากของท่านไปทดลองที่ไหนอีก”
    หลวงพ่อได้นั่งฟังข้าพเจ้า เล่าถึงหลวงปู่สีด้วยความสงบ พอข้าพเจ้าเล่าจบหลวงพ่อก็พูดว่า “คุณมนูญ ฉันบอกหลวงปู่สีเมื่อตะกี้นี้แล้วว่า ฉันจะไปหาหลวงปู่ดีใจมาก จะคอยต้อนรับอยู่ที่กุฏิ ไปเราไปกันได้เลย”
    ข้าพเจ้าและพ.อ.อ. กริช ได้ฟังก็งงมาก เพราะหลวงพ่อก็นั่งอยู่เฉย ๆ ไม่ได้ลุกไปโทรศัพท์ และโทรศัพท์ที่กุฏิหลวงปู่สีก็ไม่มี หลวงพ่อจะบอกกับหลวงปู่สีได้อย่างไร แต่เมื่อเป็นเจตจำนงของหลวงพ่อเช่นนั้น ข้าพเจ้าก็จำต้องขับรถพาหลวงพ่อไป

    เมื่อไปถึงกุฏิหลวงปู่สี(ตั้งอยู่หน้าถ้ำวัดเขาบุญนาค) ข้าพเจ้าก็ยิ่งฉงนสนเท่ห์ใจเป็นอย่างยิ่ง เพราะหลวงปู่สีซึ่งตามปกติท่าจะนุ่งสบงอยู่ตัวเดียว บัดนี้ท่านแต่งชุดใหญ่ครบเยี่ยงพระภิกษุสงฆ์ที่พร้อมจะเข้าพิธีในโบสถ์ มีเสื่ออย่างดีปูได้เรียบร้อยพร้อมด้วยชุดน้ำชา และ หมากพลู อีกทั้งมีพระภิกษุสงฆ์ในวัดอีก ๒-๓ รูป รวมทั้งเจ้าอาวาสมานั่งคอยต้อนรับหลวงพ่ออยู่กันพร้อมหน้า
    ในขณะที่หลวงพ่อนั่งคุยกับหลวงปู่สี ข้าพเจ้าก็ได้แอบไปสอบถามท่านมหาองค์หนึ่ง ซึ่งใกล้ชิดกับหลวงปู่สีว่า “หลวง ปู่สีทราบได้อย่างไรว่า หลวงพ่อจะมา” ท่านมหาองค์นั้นก็ตอบว่า “อาตมาก็ไม่ทราบเห็นหลวงปู่นอนจำวัดอยู่ตามปกติ จู่ ๆ ก็ลุกพรวดพราดขึ้นมาแล้วสั่งให้อาตมาคุมกวาดลานวัดและเช็ดกุฏิแล้วให้เตรียม น้ำชา หมากพลูโดยเร่งด่วน ท่านบอกว่า ประเดี๋ยวจะมีพระผู้ใหญ่ระดับสูงมากมาหา พร้อมกันนั้นหลวงปู่ก็เข้าไปนุ่งห่มจีวรใหม่เอี่ยม รอหลวงพ่อดังที่โยมเห็นนี้แหละ

    เรื่องที่ข้าพเจ้าและพรรคพวกได้ประสบในครั้งนี้ไม่มีผู้ใดจะพิสูจน์หรือหาเหตุผลใด ๆ ได้เลย นอกจากจะคิดกันไปว่า หลวงพ่อได้นัดพบกับหลวงปู่สีทางจิตเท่านั้น หรือท่านผู้อ่านจะเข้าใจว่าอย่างไร
     
  7. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    อานุภาพของวัตถุมงคลหลวงปู่สี

    การเสกวัตถุมงคลของหลวงปู่สี

    เวลาที่มีคนขอวัตถุมงคล หรือ ขอให้ท่านเสกของอะไรให้ ท่านมักจะตอบว่า "ของขลังไม่มี หนังสือไม่เคยเรียน เสกไม่เป็น บ่รู้จักหรอก" อยู่เป็นประจำ มีอยู่คราหนึ่ง นายเรียน นุ่มดี ผู้บัญชาการเรือนจำประจำจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ต้องการมากราบหลวงปปู่สี และขอให้ท่านเสกของให้ เพื่อที่จะนำไปสร้างพระ ได้มาหาข้าพเจ้า เพื่อให้ช่วยพามาวัดเขาถ้ำบุญนาค เมื่อข้าพเจ้าาพามาพบหลวงปู่สีแล้ว หลังจากท่กราบท่านเรียนร้อย นายเรียน นุ่มดี ก็แจ้งวัตถุประสงค์ให้หลวงปู่สีท่านทราบทันที หลวงปู่ตอบว่า "เสกไม่เป็น ของขลังไม่รู้จัก ไม่เคยเรียนหนังสือ" และนั่งเฉยไม่ยอมเสกให้ ข้าพเจ้าและพระรักษ์(พระที่คอยรับใช้หลวงปู่) ต้องช่วยกันขอร้องเป็นเวลานาน โดยบอกว่าหลวงปู่เสกให้เขาหน่อยเถอะ เขาอุตส่าห์มากันไกล ๆ หลวงปู่จึงบอกว่า "ส่งลังมาใกล้ ๆ จะเสกให้ พอยื่นลังมาอยู่ข้าง ๆ ท่าน ท่านก็ก้มลงเป่าทันทีโดยไม่ต้องมีการบริกรรมคาถาใด ๆ เพียงครั้งเดียวเท่านั้น แล้วบอกว่าเสร็จแล้วรับกลับไปได้ นายเรียน นุ่มดีและผู้ติดตามมาด้วยถึงกับหน้าเสีย แต่จำเป็นต้องรับกล่องนั้นกลับไปแบบเสียมิได้ ภายหลังจากนายเรียน นุ่มดี กลับไปอยุธยาไปได้ 2-3 วัน นายเรียน นุ่มดีก็กลับมาหา หลวงปู่สีใหม่อีกครั้ง แต่ในคราวนี้ นายเรียน นุ่มดี ได้มาขออนุญาตหลวงปู่สร้าง เหรียญรุ่น"จตุรพิธพรชัย" และเหรียญรุ่น"พรหมวิหารธรรม"

    นายเรียน นุ่มดี ได้เล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า เมื่อคราที่แล้วเห็นหลวงปู่เสกของในกล่องให้แบบไม่ค่อยจะเต็มใจ เล่นเป่าให้แค่ครั้งเดียว จึงไม่ค่อยศรัทธา ครั้นเมื่อถึงอยุธยาแล้วก็ให้ลูกน้องจัดการยิงทันที แต่ยิงยังไงก็ยิงไม่ถูกลังกระดาษ(หมายเหตุ ผงพุทธคุณในกล่องกระดาษนี้ ได้นำมาสร้างชุดพระเนื้อผงพิธีจตุรพิธพรชัย) จึงได้มีความนับถือหลวงปู่สีเป็นอย่างยิ่ง พร้อมกับได้นำเรื่องนี้ไปเล่าให้หลวงปู่ดู่ แห่งวัดสะแก จ.อยุธยา ท่านฟัง หลวงปู่ดู่ท่านจึงให้นายเรียน นุ่มดี มาขออนุญาตหลวงปู่สี สร้างเหรียญขึ้นอีก 2 รุ่น เหตุการณ์แบบนี้ก็คล้ายๆ เฉกเช่นกับเมื่อครั้งที่ นายแพทย์ วิเชียร ตระกูลสิน และจอ. นริศ ไชยมงคล ครั้งที่สร้างเหรียญขวัญถุงรุ่นแรกขึ้น ได้นำเหรียญขวัญถุงทั้งหมดใส่ถาด เพื่อให้หลวงปู่ทำการเสกให้ นั่งรอกันอยู่ตั้งนานหลวงปู่สีท่านก็ไม่ยอมเสกให้สักที จนผู้สร้างได้ขอร้องให้ท่านเสกให้เพราะจะได้นำลงไปจำหน่ายให้บูชา หลวงปู่สีท่านจึงใช้มือลงไปคนๆ เหรียญในถาด 3 รอบ แล้วก้มลงเป่า 3 ครั้ง แล้วบอกกับผู้สร้างว่าเสร็จแล้วเอาไปได้ ผู้จัดสร้างถึงกับนิ่งอึ้งกันหมด แต่ปรากฏว่า เหรียญขวัญถุงรุ่นนี้กลับปรากฏอภินิหารมากมาย คนถูกยิงด้วยลูกซองเต็มอกแต่ไม่เข้า รถชนกระเด็นไปเป็นวาไม่ปรากฏว่ามีอาการแต่อย่างใดให้ระคายผิว

    ถ้าจะพูดถึงวัตถุมงคลของหลวงปู่สี อันดับต้นที่คนนึกถึงคือ ชานหมาก ของหลวงปู่สี นั่นเป็นเพราะยุคแรกที่ท่านมาอยู่วัดเขาถ้ำบุญนาคนั้น ตอนนั้นท่านไม่อนุญาตให้สร้างวัตถุมงคลใด ๆ ใครมาขอของดีท่านก็จะให้แต่ชานหมาก ดังนั้นชานหมากถือเป็นวัตถุมงคลอันดับต้น ๆ ที่มีคนอยากได้มากที่สุด และก็ดูยากที่สุดด้วยครับ

    เรื่องอานุภาพชานหมาก (มีอยู่หลายเรื่องเลยครับ)
    เรื่องมีอยู่ว่า มีชาวไร่ทำอาชีพปลูกข้าวโพดอยู่ท่านหนึ่ง ได้รับแจกชานหมากจากหลวงปู่สี ต่อมมาชาวไร่ผู้นั้นเกิดทำชานหมากของหลวงปู่สีหายในขณะที่ทำการเก็บหักข้าวโพดกับพวกอยู่ในไร่ พอทราบว่าชานหมากที่พกประจำติดตัวหาย ก็ออกค้นหาเท่าไหร่ก็ไม่พบเพราะดงข้าวโพดนั้นกว้างใหญ่ไพศาล แต่เนื่องด้วยจิตที่มีศรัทธามั่นคงต่อหลวงปู่สีด้วยความจริงใจ พอตกกลางคืนก็ฝันว่าหลวงปู่สีมาเข้าฝันบอกว่า หากอยากได้ชานหมากคืนก็ให้เผาไร่ข้าวโพดที่หักเก็บฝักแล้วเสีย แล้วเจ้าก็จะพบชานหมากของข้าที่เจ้าทำหายในไร่ พอตอนรุ่งเช้า ชาวไร่คนนั้นก็ทำการจุดไฟเผาไร่ข้าวโพดที่ตนได้ทำการหักฝักหมดแล้วทันที ไฟได้ลุกไหม้ต้นข้าวโพดในไร่อย่างรวดเร็ว และเมื่อต้นข้าวโพดถูกไฟไหม้หมดราบเรียบ มองในไร่จึงเห็นได้ชัดว่ายังมีต้นข้าวโพดอีก ๒-๓ ต้นยังยืนอยู่ตามปกติ ไฟไม่ไหม้เป็นที่น่าอัศจรรย์ในยิ่งนัก เพราะ ข้าวโพดสองสามต้นยังยืนอยู่ได้อย่างไร ใบและกิ่งก้านที่แห้งไฟไม่สามารถเผาผลาญได้ จึงเดินตรงเข้าดู ก็พบชานหมากขอหลวงปู่สีที่ตนทำตกหายอยู่ที่พื้นดินในระหว่างต้นข้าวโพด ที่ไม่ยอมไหม้ไฟสองสามต้นนั้น ก็ดีใจมากทรุดตัวลงกับพื้นเก็บชานหมากขึ้นมาแล้วยกมือไหว้ระลึกนึกถึงหลวงปู่ที่มาเข้าฝันตนทำให้ได้ของรักของหวงกลับคืนมาได้ ต่อจากนั้นก็นำไปเลี่ยมแขวนไว้กับคอตราบเท่าทุกวันนี้

    ส่วนอีกราย เป็นสตรีวัยกลางคนอยู่ที่สมุทรปราการ ได้ชานหมากของหลวงปู่สี เก็บใส่กระเป๋าสตางค์ไว้ อยู่มาวันหนึ่งระหว่างเดินทางกลับบ้านตอนพลบค่ำ ในระหว่างที่เดินอยู่ในซอยเปลี่ยว ตนมีความรู้สึกว่ามีคนเดินตามหลังมา ๓ คน ตนจึงเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นเพื่อหนีให้ห่างจากชายสามคนที่เดินตามมานั้น แต่ก็ได้ยินเสียงเท้าของผู้ตามมานั้นอย่างกระชั้นชิด ตนจึงได้วิ่งหนีด้วยความกลัว แต่คนทั้งสามก็ยังวิ่งตามมาอีกอย่างไม่ลดละจนในที่สุดตนรู้สึกเหนื่อยจึงหยุดวิ่งทันทีแล้วหันหน้าไปดูชายทั้งสามที่วิ่งตามมานั้นหยุดชะงักเช่นกัน เมื่อเห็นหน้าตนหันมาดูด้วยอาการหวาดกลัวและร้องเสียงดังพร้อมกันแล้วคนร้ายทั้งสามต่างวิ่งโกยกลับหลังหนีไปอย่างอัศจรรย์ ทั้งที่ความจริงแล้วใบหน้าของสตรีวัยกลางคนผู้นั้นจัดว่าเป็นหญิงที่มีความงามเลยทีเดียว เป็นไปไม่ได้ที่คนร้ายทั้งสามจะตื่นกลัวตกใจจนวิ่งหนีจากไปเช่นนี้

    ในเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของชานหมากของหลวงปู่นั้นยังมีอีกมาก ลูกศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่ล้วนมีไว้ประจำติดตัวทุกคน ท่านจะห่อด้วยเศษจีวรของท่านและสั่งห้ามไม่ให้แกะออกเป็นอันขาด และห้ามลองด้วย
     
  8. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ผ้าจีวรศักดิ์สิทธิ์

    ชาวตาคลีศิษย์หลวงปู่คนหนึ่งกล่าวขึ้นว่า “ แม้แต่เศษจีวรเก่า ๆ ของหลวงปู่สียังช่วยให้ข้ารอดตาย “ ครับคนที่กล่าวคำนี้เป็นชาวบ้านในอำเภอตาคลี ได้ไปทำงานที่เสี่ยงอันตราย คือ อาชีพเก็บเศษทองแดงปลอกกระสุนปืน ในสนามซ้อมรบที่จังหวัดสระบุรี ในวันที่จะเกิดเหตุ ได้เข้าไปหาเศษทองเหลืองทองแดงเพลิน ไม่ได้ยินเสียงประกาศให้รีบออกจากเขตซ้อมยิง ทางฝ่ายเจ้าหน้าที่ประชาสัมพันธ์ของสนาม ได้ให้สัญญาซ้อมยิงได้ ก่อนหน้านั้นเพียงเสี้ยววินาทีเดียวที่จะได้ยินเสียงกระสุนปืนดังขึ้นน เขามีความรู้สึกว่าเหมือนมีใครมาผลักให้เขาล้มตัวลงนอนกับพื้นอย่างแรง ขณะที่ร่างของเขาล้มลงก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นจนแสบแก้วหู จนเสียงปืนสงบลง เขาจึงทราบว่าหากเขาไม่ล้มลงตัวเขาเองจะต้องเป็นเป้ากระสุนอย่างแน่นอน พอเหตุการณ์อันน่าขนพองสยองเกล้าผ่านพ้นไป เขาจึงหันไปดูรอบ ๆ บริเวณนั้นก็ไม่ปรากฏผู้ใดที่มาผลักเขาให้ล้มลงในบริเวณ ณ ที่แห่งนั้น ในขณะนั้นมีเขาอยู่เพียงคนเดียว ทำให้เขานึกถึงหลวงปู่สีที่เคยเข้าไปกราบและขอเศษผ้าจีวรเก่า ๆ ที่วางอยู่ข้างตัวท่านมา ๑ ชิ้น ขนาดเท่าครึ่งฝ่ามือ ตั้งแต่นั้นมาเขาก็นำพกติดตัวไว้เป็นประจำ เวลาจะไปไหนมาไหนเขาจะหยิบขึ้นมายกบูชาขึ้นเหนือหัวก่อนที่จะใส่กระเป๋าติดตัวออกจากบ้าน สุดท้ายก่อนจากกันวันนั้นชาวบ้านตาคลีผู้นั้นยังกล่าวส่งท้ายว่า “ ผมรอดตายหลายครั้งแล้วครับก็ด้วยอานุภาพของเศษจีวรเก่า ๆ ของหลวงปู่สี”


    รถทับไก่

    ปกติหลวงปู่นั้นท่านเป็นผู้มีเมตตาต่อสัตว์มาก ท่านมักจะให้ข้าวให้น้ำแก่สัตว์ทั้งหลายกินอยู่เสมอ บางคราวท่านเห็นว่ามันจะไปได้รับอันตราย ท่านคว้าเอาผ้าเช็ดน้ำหมากของท่านมาผูกคอ สวมคอมันบ้าง ทั้งสุนัข แมว ไก่ ซึ่งสัตว์เลี้ยงของท่านนั้น ได้ถูกผู้ใจบาปหยาบช้าคิดทำร้ายนับครั้งไม่ถ้วน แต่ก็ไม่เคยมีตัวใดได้รับอันตราย ไม่ว่าจากอาวุธชนิดใด มีดปืน ระเบิด ยิงออกบ้าง ไม่ออกบ้าง สุดแต่วิบากของสัตว์เหล่านั้นในเวลานั้น ซึ่งมีอยู่วันหนึ่ง มีนายทหารท่านหนึ่งขับรถของตนเดินทางไปเพื่อกราบหลวงปู่ท่านครั้นเมื่อไปถึง ได้เห็นหลวงปู่นั่งยอง ๆ อยู่ในกุฏิ เปลือยกายท่อนบน กุฏิของท่านมีแต่สุนัข แมว แถมเป็นโรคเรื้อนด้วย ก็เกิดความรังเกียจ ไม่เลื่อมใส ก็เลยไม่ยอมเข้าไปกราบ เดินมาขึ้นรถกลับแต่ในขณะนั้นมีไก่ซึ่งหลวงปู่เลี้ยงไว้ได้เดินเข้าไปอยู่ใต้ท้องรถพอดี นายทหารผู้นั้นไม่เห็นจึงขับรถออกไปทำให้ล้อรถทับไก่เต็มที่ ผู้คนที่อยู่ในวัดต่างร้องขึ้นด้วยความตกใจ ทำให้นายทหารผู้นั้นต้องหยุดรถลงมาดูคิดว่าคงเละแน่ แต่ผลกลับปรากฏว่าไก่ตัวนั้นไม่เป็นอะไรเลย หลังจากถูกทับแล้วมันขยับปีกมาสักชั่วอึดใจแล้วก็เดินจากไป คุ้ยเขี่ยหาอาหารกินของมันตามปกติ เท่านั้นแหละนายทหารผู้นั้นถึงกับตะลึงงัน รีบถอยรถกลับไปกราบนัสการหลวงปู่ทันที พร้อมทั้งขอของดีไว้ใช้ติดตัว ทราบว่าได้ไปหลายอย่างทีเดียว


    ไก่กับระเบิด

    ภายหลังนายทหารผู้นั้นกลับไป ได้มีผู้ใต้บังคับบัญชาหลายคนเดินทางมากรายหลวงปู่อีก เพื่อขอเครื่องมงคล ในระยะนั้นหลวงปู่ยังไม่อนุญาตให้สร้างเครื่องมงคล ท่านจึงคายชานหมากให้ไปกันทุกคน มีทหารผู้หนึ่งซึ่งได้ชานหมากไปด้วย ก็คิดลองดีว่าจะแน่สักแค่ไหน เลยเอาไปแขวนคอไก่ พอไก่เดินออกไปได้ระยะพอสมควร ก็สั่งเพื่อน ๆ หมอบ พร้อมทั้งโยนระเบิดสังหารเข้าใส่ไก่ตัวนั้นทันที ตูม! เสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว ไก่มันตกใจก็บินขึ้นและตัวมันก็เจอระเบิดเข้าเต็มที่ ขนหลุดปลิวว่อนไปหมด แต่พอมันหล่นลงพื้นก็มีอาการซวนเซเล็กน้อย ชั่วครู่ก็ออกหากินได้ต่อไป ไม่เป็นอะไรเลย ไม่มีแม้แต่บาดแผล นายทหารผู้เป็นนายได้ทราบเรื่องก็มีความเชื่อมั่นในองค์หลวงปู่ยิ่งขึ้น แต่ก็โกรธมากเช่นกันที่ผู้ใต้บังคับบัญชาไปทำการทดลองในลักษณะนั้นน ผลที่สุดก็สั่งกักบริเวณทหารผู้นั้นไปเสีย 15 วัน

     
  9. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    อานุภาพชานหมาก(ต่อ)

    คุณ ณัฐพันธ์ เหลืองบำรุงรักษ์ ถ่ายทอดประสบการณ์ประสบในสมัยที่หลวงปู่สีท่านยังมีชีวิตอยู่(จากหนังสือ ประวัติหลวงปู่สี ฉันทสิริ ฉบับที่สมบูรณ์ที่สุด ปกแข็ง)

    หลวงปู่สีให้ชานหมากของวิเศษ
    ในราวปี 2513 ข้าพเจ้าได้ทราบจากเพื่อนว่า มีพระเป็นหลวงปู่แก่ ๆ มาอยู่ที่วัดเขาถ้ำบุญนาค ข้าพเจ้าจึงชวนเพื่อน ๆ ไปหา จุดประสงค์ที่มาหามิใช่ที่จะต้องการเครื่องรางของขลังแต่ประการใด แต่เพราะต้องการจะมาหาเลขเด็ด เพราะเพื่อนบอกว่าท่านบอกหวยได้แม่นยำมาก ในวันแรกที่มาหาท่านก็ไม่ได้แจกอะไรให้ แต่บอกใบ้หวยให้ ซึ่งหวยก็ออกตามที่ท่านบอก นับตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าก็จะไปหาหลวงปู่เป็นประจำ อยู่มาวันหนึ่งข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่มีอารมณ์ดี ข้าพเจ้าจึงถามหลวงปู่ว่ามีของดีอะไรบ้าง ผมอยากได้เอาไว้ป้องกันตัว หลวงปู่ท่านขณะนั้นกำลังกินหมากอยู่ก็คายชานหมากออกมาใส่ผ้าเหลืองที่ท่าน ใช้เป็นผ้าขี้ริ้ว แล้วผูกส่งให้ข้าพเจ้าพร้อมทั้งบอกว่า " ห้ามแก้ออกนะ หากใครเขาอยากยิงมึง มึงก็แหกตูดให้มันยิงเลย สามวันสามคืนก็ยิงไม่ถูกดอก" ข้าพเจ้ารับมาแบบไม่ค่อยเชื่อถือเมื่อกลับถึงบ้าน แล้วก็นั่งคุยกับเพื่อน ๆ ถึงเรื่องนี้ ขณะนั้นมีพ่อค้าวัวและควาย เป็นชาวปาทานอยู่ในตาคลีนนั่งฟังอยู่ด้วย ซึ่งเขาก็บอกว่าเขาอยากลองยิงดู ข้าพเจ้ามอบชานหมากของหลวงปู่ให้เขาไป เขานำไปคล้องคอไก่แล้วยิงปืนรีวอลเวอร์ขนาด 0.38 ระยะห่างประมาณ 1วาเศษเท่านั้น เขายิงหมดไปหกนัดไม่เคยถูกไก่เลย สักนัดเดียว ทั้ง ๆ ที่เขาเป็นคนที่ยิงปืนได้แม่นยำคนหนึ่ง นับตั้งแต่นั้นมาข้าพเจ้าจึงเชื่อถือในชานหมากของหลวงปู่

    หลังจากที่ชาวปาทานยิงไก่ได้ประมาณสัก 1 อาทิตย์ ได้มีนายทหารอากาศกองบิน ๔ ตาคลี ชื่อ เรืออากาศโท ครรชิต บัวอำไพ ( ปัจจุบันยศนาวาอากาศเอก ) ได้มาคุยกับข้าพเจ้าเรื่องชานหมากของหลวงปู่ ในลักษณะที่ท่านไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ที่จะยิงไม่ถูก ข้าพเจ้าาจึงมอบชานหมากที่มีอยู่ให้ไป 1 ก้อนเพื่อให้ไปทดลอง เที่ยงวันรุ่งขึ้นเรืออากาศโทครรชิต ได้มาหาข้าพเจ้าที่บ้านพร้อมกับเพื่อนนายทหารอากาศอีก 5-6คน โดยขอให้ข้าพเจ้าช่วยพาไปวัดหน่อยต้องการจะได้ชานหมากอีก พร้อมทั้งเล่าให้ฟังว่า เมื่อได้รับชานหมากไปจากข้าพเจ้าแล้วจึงได้นำไปทดลอง โดยนำไปคล้องคอเป็ดแล้วยิง แต่ยิงเท่าไหร่าก็ยิงไม่ถูก ใช้ปืนถึง 4 กระบอก และคนยิงก็เป็นมือปืนของกองบินทั้งนั้น ครั้นนำเป็ดออก เอาก้อนหินไปวางแทน ยิงก้อนหินกระเด็นเลย แต่ยิงเป็ดยิงเท่าไหร่ก็ไม่ถูกเป็นที่มหัศจรรย์ใจมากจึงพาเพื่อนทหารที่อยู่ ในเหตุการณ์ มาหาข้าพเจ้า เพื่อให้ช่วยพาไปพบหลวงปู่ซึ่งข้าพเจ้าก็พาไปพบและก็ได้ชานหมากกันมาทุกคน ส่วนก้อนที่นำไปทดลองยิงเป็ดนั้น เรืออากาศโทครรชิตได้นำไปเลี่ยมทองคล้องคออยู่จนทุกวันนี้ หลังจากนั้นมาทหารอากาศกองบิน 4 ตาคลี ต่างก็หลั่งไหลมาฝากตัว ทำให้หลวงปู่เป็นที่รู้จักกันทั่วไปและใคร ๆ ก็อยากได้ชานหมากและวัตถุมงคลของหลวงปู่ ทำให้หลวงปู่ต้องเคี้ยวหมากแจกทั้งวัน


    อานุภาพผ้าเช็ดน้ำหมาก

    หลวงปู่นั้นไม่ว่าท่านจะหยิบจะจับอะไรล้วนแล้วแต่กลับกลายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ไปทั้งสิ้น แม้แต่ผ้าที่ท่านใช้เช็ดปาก เช็ดน้ำหมากก็ตามที ท่านมักฉีกเอาไปผูกคอสุนัขบ้าง แมวบ้าง ด้วยความเมตตาที่มันถูกรังแกบ่อย ๆ
    ครั้งหนึ่งมีสุนัขบ้านใกล้ ๆ วัดหลงเข้ามาคลุกคลีกับท่าน ท่านจึงเอาผ้าเช็ดน้ำหมากฉีกผูกคอมันไปต่อมาสุนัขตัวนั้นไปรบกวนสัตว์อื่นเช่น เป็ด ไก่ จนกระทั่งเจ้าของสัตว์ปีกเหล่านั้นเหลือจะทน จึงได้ใช้ปืนลูกซองยิงมัน แต่ปรากฏว่าด้วยอานุภาพผ้าเช็ดน้ำหมากยิงถูกแต่ไม่เข้า สุนัขตัวนั้นวิ่งกลับไปยังบ้านเจ้าของ ของมัน ผู้เห็นเหตุการณ์นำเรื่องนี้ไปบอกเล่าให้เจ้าของบ้านฟัง ก็เลยเกิดการถอดผ้าผืนนั้นเก็บไว้บูชาเสียเอง
    ภายหลังเมื่อสุนัขตัวนั้นเข้าไปในวัดอีก หลวงปู่ท่านก็ได้เมตตาผูกให้มันใหม่ และจากเหตุนี้เองทำให้ผ้าเช็ดน้ำหมากของหลวงปู่เป็นที่ต้องการของชาวบ้านหลาย ๆ คน จึงมีเหตุให้ผ้าเช็ดน้ำหมากของท่านอันตรธานไปบ่อย ๆ แต่ใช่ว่าหลวงปู่จะหลงลืม เปล่าเลย ท่านจำของท่านได้ว่าท่านมีของท่านกี่ผืน จนกระทั่งท่านบ่นว่า เอาไปทำไมกัน แต่ก็ห้ามศรัทธาของชาวบ้านไม่ได้ หลวงปุ่ท่านเป็นผู้มีเมตตาธรรมมสูงอยู่แล้ว ท่านก็เลยปล่อยเลยตามเลย ต่อมาอย่าว่าแต่ผ้าเช็ดน้ำหมากหลวงปู่ แม้แต่ผ้าเช็ดกุฏิหลวงปู่ ก็มีผู้ศรัทธาหลวงปู่นำเก็บไปไว้บูชา และต่างถือว่าล้วนเป็นของศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น
     
  10. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ปฐมบทความศักดิ์สิทธิ์จีวรห่อชานหมากหลวงปู่สี

    จีวรห่อชานหมากของหลวงปู่ ซึ่งถือว่าเป็นวัตถุมงคล หรือปฐมบทแห่งความศักดิ์สิทธิ์จนกระทั่งเป็นที่รู้จักกันจนถึงปัจจุบันนี้ จีวรห่อชานหมากของหลวงปู่นี้มีหลายลักษณะครับ ทั้งเล็กและใหญ่ อีกทั้งหายากครับ ประสบการณ์เป็นที่เลื่องลือกันมากมาย โดยเฉพาะเรื่องยิงไม่ออก ส่วนด้านลาภ ด้านเมตตามหานิยมไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน เรียกว่าครอบจักรวาลก็ได้ครับ
    จีวรห่อชานหมากของหลวงปู่ ทำไมเป็นที่ต้องการของอีกหลายคนและทำให้ท่านดังมาจนถึงปัจจุบันนี้สาเหตุปฐม บทของชานหมากของท่านที่ศักดิ์สิทธิ์นี้มีอยู่ว่า
    มีอยู่วันหนึ่งในยุคที่อำเภอตาคลี มีพระอาจารย์อีกองค์หนึ่งซึ่งกำลังมีชื่อเสียงมาก มีผู้ไปกราบท่านเพื่อขอของดีกันมากมายไม่เว้นแต่ละวัน นั่นก็คือ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากวัดเขาถ้ำบุญนาค ซึ่งมีคณะลูกศิษย์ของหลวงปู่คณะหนึ่ง ได้มากราบหลวงปู่หลักจากไปกราบหลวงพ่อพรหมมาแล้ว ก็มาตั้งกลุ่มสนทนาในวัดจากเสียงที่ค่อย ๆ ก็เริ่มดังขึ้น ซึ่งเรื่องที่กำลังพูดกันนั้นก็คือเรื่องความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล ของหลวงพ่อพรหม และพระอาจารย์อื่น ๆ อีกหลายรูป มีลูกศิษย์คนหนึ่งได้รับราชการอยู่ที่กองบินตาคลีได้อยู่ในวงสนทนานั้นด้วย หลวงปู่ท่านได้ยินก็รำคาญที่ส่งเสียงดังไม่เกรงใจกัน ท่านก็ออกมาบอกกับคณะนั้นว่า “ ไอ้ที่พวกเจ้าพูดถึงกันอยู่นั่นนะ สู้ชานหมากข้าไม่ได้ “ พอพูดเสร็จหลวงปู่ก็คายชานหมากแล้วฉีกชายจีวรเก่าๆ ที่ทำเป็นผ้าเช็ดมือมาห่อแล้วผูกโยนไปให้ลูกศิษย์คำหนึ่ง ลูกศิษย์ที่รับราชการอยู่กองบินตาคลีจึงได้ลองยิงด้วยปืนพก 11 มม. ปรากฏว่ายิงไม่ออก แต่พอยกปืนแล้วยิงขึ้นฟ้าก็ยิงออกลองทำอย่างนี้อยู่สามครั้งจึงแน่ใจ ตั้งแต่นั้นมาหัวบันไดที่กุฏิท่านอยู่ไม่แห้งครับ เพราะมีผู้มารอชานหมากจากท่าน จนชนิดที่ว่า เคี้ยวหมากไม่ทันแจก กระโถนของท่านสะอาดทุกวันเนื่องจากมีคนเอาผ้าไปซับน้ำหมากของท่าน จนภายหลังทางวัดได้นำน้ำหมากและชานหมากของท่านไปผสมกับผงวิเศษของท่านทำเป็น พระเครื่องมาให้บูชากัน


    ธูปศักดิ์สิทธิ์

    อิทธิปาฏิหารย์และความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่สี เป็นที่เลื่องลือไม่เฉพาะแต่เมื่อครั้งที่หลวงปู่ท่านยังไม่มรณภาพเท่านั้น แม้แต่ท่านจะมรณภาพไปแล้วก็ตาม แต่ความศักดิ์สิทธิ์ อิทธิฤทธิ์ความมหัศจรรย์ต่างๆ ของท่านก็ยังเป็นที่เลื่องลือกล่าวขานไม่สิ้นสุดแม้ว่าท่านจะมรณภาพไปนานแล้วก็ตาม ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ก็ยังไปกราบไหว้ร่างของหลวงปู่ ที่ทางวัดได้ลงไว้ในโลงแก้วตลอดมาอย่างไม่ขาด ความศรัทธาขงลูกศิษย์หลวงปู่ เมื่อกราบแล้วก็เอาตลับมาบรรจุขี้ธูปในกระถางธูปหน้าแท่นบูชานำกลับบ้านไปด้วย อยู่มาวันหนึ่งลูกศิษย์หลวงปู่ได้นำขี้ธูปไปใส่ตลับเลี่ยมสวมคอไว้ด้วยความมั่นคงต่อหลวงปู่ ปรากฏ่าขี้ธูปของหลวงปู่เกิดปาฏิหารย์มีอานุภาพในเรื่องโชคลาภ เมตตามหานิยม และแคล้วคลาดจากอันตรายเป็นเยี่ยม
    ในหมู่ลูกศิษย์ลูกหาของหลวงปู่ ต่างกล่าวกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ของทุกอย่างของหลวงปู่ ไม่ว่าจะเป็นอะไรเช่น น้ำล้างเท้า ผ้าเช็ดพื้น ผ้าเช็ดปาก น้ำหมาก ชานหมาก ล้วนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น แม้กระทั่งอุจจาระ ปัสสาวะของหลวงปู่ล้วนศักดิ์สิทธิ์ทั้งสิ้น


    สมดังวาจา

    เมื่อปี 2519 ทางวัดโพธิ์ทอง อำเภอตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งตั้งอยู่ข้างโรงปูนซีเมนต์ของบริษัทชลประทานซีเมนต์ ต้องการหารายได้จำนวนหนึ่งเพื่อก่อสร้างถาวรวัตถุภายในวัด จึงพร้อมใจกันมาขอบารมีหลวงปู่เพื่อขออนุญาตหล่อรูปเหมือนขนาด 3 นิ้วของท่านขึ้นจะได้เป็นกราบไหว้บูชาของญาติโยมต่อไป ขณะที่บรรดาลูกศิษย์พากันมาถึงวัดของท่าน ก็ปรากฏว่าหลวงปู่อาพาธอยู่ที่โรงพยาบาล พวกเขาจึงได้พากันขออนุญาตกับทางเจ้าอาวาสคือ ท่านพระครูนิวัฐปริยัติคุณ และคณะกรรมการวัด ต่อมาข่าววิทยุท้องถิ่นก็ได้เสนอข่าวว่าวัดโพธิ์ทองจะทำการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่สีขนาด 3 นิ้วเพื่อออกให้ประชาชนบูชา พระภิกษุรักษ์ ซึ่งเป็นพระอุปัฏฐากหลวงปู่ที่โรงพยาบาลเล่าว่า “ หลวงปู่ท่านถึงกับลุกขึ้นจากเตียงทันทีเมื่อท่านได้ยินข่าวจากวิทยุ” แล้วถามขึ้นว่า “ใครเอารูปข้าไปหล่อ” พระภิกษุรักษ์ก็ตอบท่านไปว่า “วัดโพธิ์ทองครับหลวงปู่ มาขอกับเจ้าอาวาสแล้ว” หลวงปู่บอกไปว่า “ มันไม่เคารพข้า หล่อรูปข้าไปถ้าไม่เอามาให้ข้าก็จำหน่ายไม่ออก” การหล่อรูปหลวงปู่คราวนั้นทั้งหมดประมาณ 1000 องค์ ทางวัดโพธิ์ทองนำไปออกให้บูชา ปรากฏว่าไม่มีใครเช่าบูชากันเลย มีเพียงแจกให้ผู้ที่มาช่วยเหลือในงานวัดไปเพียง 8 องค์เท่านั้น ในที่สุดทางวัดโพธิ์ทองต้องนำมามมอบให้หลวงปู่ 800 องค์ เก็บไว้ที่วัดโพธิ์ทอง 192 องค์ ปรากฏว่าส่วนที่มาถวายหลวงปู่สีมีญาติโยมมาเช่าบูชากันไปเกือบหมดแล้ว แต่ที่วัดโพธิ์ทองกลับไม่มีคนไปบูชา นับว่าวาจาของท่านศักดิ์สิทธิ์จริง ๆ
     
  11. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ประสบการณ์อันเลื่องลือของเหรียญพญานาคปี 18

    เหรียญรุ่นนี้ได้สร้างประสบการณ์มามากมายแม้แต่ระเบิดที่ใช้ในการระเบิดภูเขาก็ทำอันตรายไม่ได้ เรื่องมีอยู่ว่า ปี 18 ทางโรงปูนซีเมนต์ตาคลี จังหวัดนครสวรรค์ ได้ขออนุญาตหลวงปู่สีจัดสร้างเหรียญหลังพญานาค ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของโรงปูนซีเมนต์ เหรียญรุ่นนี้สร้างขึ้นมาจำนวนไม่มากนัก แจกเฉพาะเจ้าหน้าที่และพนักงานที่ร่วมทำบุญสมทบทุนในการสร้างถนนเข้าวัด สร้างศาลา พนักงานโรงปูนซีเมนต์ตาคลีทุกคน เมื่อได้รับเหรียญจากหลวงปู่ต่างก็นำมาแขวนคอติดตัวกันไว้ด้วยความศรัทธา รัก หวงแหนอย่างสุดชีวิต ต่อมาพนักงานโรงปูน กลุ่มหนึ่งเกิดเผลอเข้าไปในเขตระเบิดหินซึ่งเป็นอันตราย ฉับพลันนั้นก็ได้ยินเสียงระเบิดขึ้นอย่างสนั่นหวั่นไหว เศษหิน ก้อนหิน ปลิวกระจาย พร้อมกับร่างของกลุ่มพนักงานที่เผลอล่วงเข้าเขตระเบิด พอสิ้นเสียงระเบิดก็ปรากฏว่า หลายคนมีลักษณะเหมือนกันคือ ผมเผ้ายุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดกระรุ่งกะริ่ง เนื้อตัวมอมแมม แต่ทุกคนที่ถูกระเบิดต่างก็แปลกใจที่นอกจากร่างกายถลอกเขียวช้ำ เสื้อผ้าขาดวิ่น ตามตัวไม่ปรากฏบาดแผลใด ๆ เลย ปกติดแล้วถ้าเกิดเหตุการณ์ดังนี้จะต้องได้ยินเสียงร้องครวญคราง บางรายก็ถึงกับพิการ หรือไม่ก็ตาย แต่ปรากฏการณ์ในครั้งนี้ไม่มีใครเป็นอะไรมาก ด้วยทุกคนมีเหรียญรุ่นพญานาค ปี 18 ที่ได้รับมาจากหลวงปู่สี ห้อยคอไว้ทุกคน นอกจากนี้ยังมีเหตุการณ์อันน่ามหัศจรรย์เกิดขึ้นอีกมากมายจากปืน มีด รถมอเตอร์ไซค์คว่ำ รถยนต์ชนกัน ล้วนแคล้วคลาดปลอดภัย


    เผาไม่ไหม้

    ที่อำเภอตาคลี ได้มีเด็กคนหนึ่งที่พ่อแม่นับถือ หลวงปู่สี มากเป็นพิเศษ จึงได้นำเหรียญรูปเหมือนของท่านมาให้ห้อยคอ ซึ่งต่อมาเด็กคนนี้เป็นหัดแล้วเกิดตายลง พ่อแม่จึงจัดการเผาศพเด็ก ปรากฏว่าหมดถ่านไป สองกระสอบ ก็ยังไม่มีทีท่าว่าศพจะไหม้ จึงได้ลองเขี่ยดูตามตัวพบเหรียญรูปเหมือนหลวงปู่ผูกเชือกร่มห้อยคอเด็กอยู่ จึงได้แกะออกดูด้วยความแปลกใจ เพราะแม้แต่เชือกร่มที่ห้อยเหรียญยังไม่ละลาย พอเอาเหรียญออก เติมถ่านใส่ไปอีกเพียงสองกระสอบ ศพเด็กก็มอดไหม้เป็นจุลไป

     
  12. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ประสบการณ์อภินิหารเหรียญปี 19(หน้าแก่)

    ในเรื่องความศรัทธาในหลวงปู่สี พนักงานและเจ้าหน้าที่รุ่นเก่าของบริษัทไทยอเมริกันเท็กซ์ไทล์จำกัด ที่ตั้งอยู่ในอำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี เกิดขึ้นมากมายหลายเรื่องด้วยกัน เช่น คนงานแผนกโรงซ่อม ชื่อ นายวิง ไวยสุนีย์ ในช่วงที่บริษัทหยุดงานนายวิงได้เดินทางกลับบ้านที่สระบุรี ต่อมามีเรื่องกับพวกวัยรุ่นในหมู่บ้านเกิดการต่อสู้กันขึ้นสักพักก็เลิกลา กันไป ต่างคนต่างแยกกันไป
    ส่วนนายวิง ได้เดินทางจะไปขึ้นรถ หนึ่งในกลุ่มที่มีเรื่องทะเลาะวิวาทกันนั้น ได้สะกดตามนายวิงที่ท่ารถ และได้ชักปืนขึ้นมาหมายจะยิงนายวิง ในขณะที่ทุกคนตกตะลึงกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและอย่างที่ไม่มีใครคาดว่าอะไร จะเกิดขึ้น ก็ได้ยินเสียงปืนสับไกดังขึ้น “ แชะ แชะ แชะ “ เสียงปืนดังขึ้นถึง 3 ครั้ง แต่ปรากฏว่ากระสุนด้านทั้งสามนัด เสียงคนในที่เกิดเหตุ เห็นเหตุการณ์ร้องดังขึ้น นายวิงจึงหันไปตามเสียงปืนดัง
    เมื่อเห็นเป็นคู่อริของตนยืนถือปืนจ้องมายังตน ในฉับพลันนั้นนายวิงจึงชักมีดสั้นออกจากเอวแทงสวนไปที่ราวนมของวัยรุ่นที่ สะกดตามมายิงตน พอชักมีดออกจากใต้ราวนมของวัยรุ่นร่างสูงใหญ่คนนั้น สักอึดใจร่างอันสูงใหญ่ของวัยรุ่นมือปืนก็ค่อยทรุดลงขาดใจตายทันที ปรากฏว่ามีดที่นายวิงแทงสวนออกนั้นเผอิญแม่นยำอย่างจับวาง ตรงเข้าตัดขั้วหัวใจของวัยรุ่นผู้นั้น

    ต่อจากนั้นพอหายตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นายวิงก็เข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ และทำการต่อสู้คดีที่ฆ่าวัยรุ่นมือปืนตายต่อมาคดีที่นายวิงต่อสู้ได้รับความ เป็นธรรมจากผู้พิพากษา และเจ้าหน้าที่ที่นายวิงทำไปเพราะเป็นการป้องกันตัว ด้วยถูกคนร้ายลอบทำร้ายตนด้วยอาวุธปืนก่อนแต่ด้วยอำนาจบารมี ฤทธิ์อำนาจของหลวงปู่สี ที่ทำให้ปืนคนร้ายด้านไม่สามารถ กระทำตามความปราถนาของคนร้ายนั้น
    พระเครื่องที่ติดตัวนายวิงนั้นมีแต่เหรียญหน้าแก่ปี 19 เท่านั้นที่ติดตัวเพียงเหรียญเดียว ซึ่งได้บูชามาจากวัดเขาถ้ำบุญนาคเท่านั้น


    ประสบการณ์อภินิหารเหรียญสองอาจารย์ปี 19

    เรื่องนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นปี 49 ซึ่งลงในหนังสือพิมพ์เดือนเมษายน(ไม่แน่ใจลงในหนังสือพิมพ์ไหน ระหว่าง ไทยรัฐ กับ บ้านเมือง ซึ่งผมจะหาหลักฐานมายืนยันอีกครั้งนึง) เรื่องมีอยู่ว่า มีวัยรุ่นซึ่งเป็นคนนครสวรรค์ได้ขี่มอเตอร์ไซค์แล้วถูกคู่อริขี่รถมอเตอร์ ไซค์ใช้ปืนไล่ยิง ซึ่งเจ้าตัวได้ถูกลูกกระสุนเจาะเข้าที่ลำตัวสองนัดแต่ไม่เข้า ซึ่งเจ้าตัวได้ห้อยเหรียญสองอาจารย์ ปี19 ของหลวงปู่สีเพียงเหรียญเดียวเท่านั้น

    ปล. ข่าวที่ลงจะเป็นคอลัมเล็กด้านหลังไม่ใช่ลงหน้าหนึ่งครับ
     
  13. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    แขวนพระหลวงปู่ เผาไม่ไหม้
    มีรายหนึ่งเป็นเด็กกรุงเทพฯ บ้านอยู่แถวเขตยานนาวา เด็กเสียชีวิตเนื่องจากจมน้ำตายทางพ่อแม่ของเด็กได้จัดการเผาศพตามประเพณี ปรากฏว่าเผาศพไม่ไหม้ คนเผาปิดเตาเผาในเมรุถึง 2 ครั้งก็ยังไม่ไหม้ คนเผาจึงลองสำรวจดูตามร่างกายเด็กพบว่า เด็กแขวนพระเหรียญอยู่ที่ตัว จึงได้นำเหรียญออกจากคอเด็ก ปรากฏว่าเผาได้จนเป็นเถ้าถ่าน เหรียญที่เด็กคนนี้คล้องแขวนไว้ คือเหรียญรุ่นแรกปี 14 ด้วยบุญของเด็กไม่สามารถต้านกฏของกรรมได้ แต่เหรียญหลวงปู่สีนี้มีฤทธิ์คุ้มครองตัวเด็กไม่ให้ไหม้ได้


    แขวนพระหลวงปู่ ถูกมีดฟันไม่เข้า
    ได้รับข้อมูลนี้มาจากคุณนันท์ธิ ผู้จัดการร้าน singer ในตาคลีผู้เป็นบิดาของคุณป๋อง ตาคลี (เซียนพระสายหลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ) เล่าให้ฟังว่า สมัยก่อนตอนที่ลูกชายยังเรียนหนังสืออยู่ ปวช.สาขาช่างกล ที่กรุงเทพ ตนได้ให้เหรียญของหลวงปู่สีแก่ลูกชายไว้แขวนป้องกันตัว มีอยู่วันหนึ่งคุณป๋องได้นั่งรถเมล์ไปเรียนในเวลาตามปกติ ขณะยืนอยู่บนรถเมล์บริเวณกลางคันของรถ ได้มีนักศึกษาต่างสถาบันขึ้นรถมาทางด้านหลังพร้อมถือมีดดาบยาวประมาณศอกเดิน ตรงเข้ามาที่ด้านหลังคุณป๋อง แล้วง้างดาบฟันที่ด้านหลังอย่างแรง ด้วยความแรงและความคมของคมดาบทำให้เป้สะพายหนังสือยืนส์อย่างหนาและเสื้อ ช็อปขาดจนคมมีดกินเข้าไปถึงเนื้อแผ่นหลัง แต่สัญชาตญาณเหนืออื่นใดคุณป๋องวิ่งหนีเอาชีวิตรอดได้ทันจึงไม่โดนฟันซ้ำอีก พอหายตกใจและปลอดภัยแล้วก็นึกได้ว่าถูกฟันเข้าที่ด้านหลังอย่างแรง ใจก็นึกไปว่าคงต้องมีบาดแผลลึกฉกรร และเลือดออกมากเป็นแน่ แต่พอหันหลังก้มไปดูตรงบริเวณที่ถูกฟัน ปรากฏว่า ไม่มีเลือดออกและแผลเป็นเส้นแดงคล้ายถูกแมวข่วนเท่านั้น เหรียญที่คุณป๋อง ตาคลี คล้องแขวนไว้ในเวลานั้น คือเหรียญขวัญถุง มั่งมี ศรีสุข ปี 2519


    แขวนพระหลวงปู่ เมตตามหานิยม
    มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายตรวจสอบของนำเข้า ของกรมศุลกากรท่านหนึ่ง เล่าให้ฟังว่า มีอยู่วันหนึ่งขณะที่นั่งทำงานอยู่นั้นได้มีเอกสารด่วนพิเศษส่งมาถึง พร้อมทั้งมีคำสั่งแจ้งว่า " ให้ทำการย้ายงานในตำแหน่ง" เพื่อไปทำในที่ที่ไกล เหนื่อยยและลำบากกว่างานที่ทำในปัจจุบันมาก ด้วยคำสั่งนี้เป็นนโยบายลงมาแล้วไม่สามารถแก้ไขได้ จำเป็นต้องทำโดยหลีกเลี่ยงไม่ได้ จึงมีความกังวลในใจเพราะไม่อยากย้ายหน้าที่การงานที่ทำอยู่ จิตได้นึกอธิษฐานขอบารมีหลวงปู่สีให้ช่วยและผลก็เป็นตามคำอธิษฐาน ช่วงบ่ายมีเอกสารด่วนมาอีกฉบับส่งมาถึงเจ้าหน้าที่ท่านนี้ พร้อมระบุในเอกสารว่า " ขอยกเลิกการโยกย้ายตำแหน่งให้ทำงานตามปกติ" นับว่าเป็นเรื่องอัศจรรย์อีกเรื่องหนึ่งเจ้าหน้าที่ท่านนี้พบในประสบการณ์ สอบถามถึงวัตถุมงคลของหลวงปู่ที่แขวนในเวลานั้นคือ พระสมเด็จพิมพ์ฐานติ่ง ปี 2514
     
  14. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ประสบการณ์อภินิหารเหรียญอายุยืนครึ่งองค์ปี 17

    ตะลึง..! เหรียญหลวงปู่สีก่ออภินิหารปืน 11 มม. ยิงไม่เข้า

    เรื่องนี้ต้องขอขอบคุณ คุณ เด็กบางแค มากครับ ที่แจ้งข่าว และต้องขอบคุณ คุณ พรหลวงปู่สี แห่งเว็บ ยูอะมูเล็ต และเจ้าของเรื่องครับ

    ปีเสือดุจริง..ศิษย์หลวงปู่สีโดนยิง 6 นัด 11 มม. ไม่เป็นไร.อายุยืนสมชื่อ..หยุดกระสุนอีกครั้ง เกิดเหตุการณ์ ประมาณ ตี 1 กว่าๆ วันที่ 3 มกราคม 2553 นายประเดิม ฅรุทหอมและแฟนสาว ได้ถูกวัยรุ่นเขม่นและก็ตามยิง ด้วยปืน 11 มม.นายประเดิม เล่าว่าถูกไล่ยิง ประมาณ 5- 6 นัด แต่โดนรถแค่นัดเดียว แคล้วคลาดสุดๆ เพราะในรถนั้นมีกันถึง 3 คน แฟนสาวเป็นผู้ขับรถ(เสื้อตัวที่โดนยิง รูโบ๋เลย ลูกกระสุนฝังไม่มิดหัวหมอเขี่ยออก)คดี นี้อยู่ที่ สถานีตำรวจ อำเภอ ตาคลี และตามจับผู้ยิงอยู่ และเหรียญรุ่นนี้ ตำรวจตาคลีตามเก็บอยู่ ประสบการณ์ประจักษ์นัก เหรียญหลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค รุ่นอายุยืนครึ่งองค์ ช่วยรอดตายปีเสือ


    ประสบการณ์อภินิหารพระชุดวัดโพธิ์ปี 17

    พระปิดตาข้าวมัดต้ม บางท่านเรียกว่า ปิดตาคลุกฝุ่น หรือ ปิดตานะปัดตลอด สาเหตุที่ชื่อนี้เพราะมีเด็กวัดได้รับพระปิดตารุ่นนี้ไปคนละองค์ วันหนึ่งเกิดการทะเลาะวิวาทกันขึ้น ชกตีกันล้มลุกคลุกคลานฝุ่นตลบไปหมด และอีกเรื่อง มีการแข่งขันฟุตบอลปรากฏว่า ป้องกันประตูได้ทุกรูปแบบ เพราะผู้รักษาประตุได้อมพระปิตารุ่นนี้ไว้ในปาก รุ่นนี้หนักไปในทางแคล้วคลาดเป็นเลิศ
    ส่วนรุ่นอื่น ๆ เช่นพระปิดตาใบโพธิ์นะมิประสบการณ์ที่ร่ำลือกันมากคือเมตตามหานิยมและเป็็นมหาลาภอีกด้วย หรือพระปิดตาหลังอะนะอะก็เช่นกัน
    พระชุดนี้ต้องยอมรับว่าเด่นในทุก ๆ ด้าน ไม่ว่าแคล้วคลาด เมตตา โชคลาภ ค้าขาย แม้กระทั่งด้านคงกระพันชาตรี มีเรื่องมาเล่ากันตลอด
     
  15. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    ถึง 10 เม.ย. นี้นะครับ
     
  16. siriphan2009

    siriphan2009 เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    2,237
    ค่าพลัง:
    +17,735
    แบ่งปันพรุ่งนี้วันสุดท้ายแล้วนะครับ 10 เม.ย.
     
  17. มหานิยม

    มหานิยม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    223
    ค่าพลัง:
    +175
    ยังมีให้บูชามั้ยครับ
     
  18. ryuma9

    ryuma9 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2017
    โพสต์:
    1,274
    ค่าพลัง:
    +1,179
    ถ้ายังมีพระขอจอง5องค์นะครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...