บ้านเรือนไทย

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย เก่ง พุทธสาวก 13, 11 กรกฎาคม 2017.

  1. เก่ง พุทธสาวก 13

    เก่ง พุทธสาวก 13 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    17
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +56
    ไอ้บอม เพื่อนของผมมันเคยเล่าให้ผมฟังว่า ในสมัยที่มันยังเรียนมัธยมอยู่นั้น ช่วงปิดเทอมใหญ่ทุกครั้งในแต่ละปีมันมักจะกลับไปเยี่ยมบ้านที่จังหวัดอ่างทองอยู่เสมอ และปีนั้นก็เช่นกัน บ้านที่อ่างทองของไอ้บอมนั้นเป็นเรือนไม้สักตามแบบบ้านทรงไทยในยุคสมัยก่อน บรรยากาศยามช่วงกลางวันนั้นสุดจะร่มรื่นและเงียบสงบไปด้วยสวนต้นไม้ที่ปลูกไว้รอบๆตัวบ้าน ซึ่งไม่มีบ้านเรือนใดตั้งอยู่ใกล้ๆเลย จะมีอยู่ใกล้กันหน่อยก็คือบ้านทางฝั่งตรงข้ามคลองฟากทางโน้นที่กว้างพอสมควรและจำต้องพายเรือข้ามคลองไป นี่คือช่วงกลางวันแต่ถ้าเป็นช่วงกลางคืนล่ะก็โคตรจะน่ากลัวเอามากๆครับ บรรยากาศแบบเดียวกันกับละครผีไทยย้อนยุคอย่างใดอย่างนั้นเลยทีเดียว ผมเองเคยไปนอนค้างที่บ้านไอ้บอมหลังนั้นครั้งหนึ่งในสมัยเรียนอยู่ม.2 และนั่นเป็นครั้งแรกและเป็นครั้งสุดท้ายที่ผมปฏิญาณจะไม่กลับไปอีกเด็ดขาด คือนอนไปขนหัวลุกไปความรู้สึกมันเหมือนผมไม่ได้กำลังนอนอยู่ตัวคนเดียวในห้อง ผมเลยต้องไปขอร้องให้ไอ้บอมมันมานอนด้วย เข้าเรื่องเลยดีกว่า วันนั้นไอ้บอมมันเดินทางมาถึงบ้านเรือนไทยหลังนี้มันก็เข้าไปกราบไหว้ยายของมันและขึ้นไปกราบหิ้งบรรพบุรุษที่ตั้งเป็นห้องๆหนึ่งแยกเอาไว้ชัดเจนโดยเป็นห้องพระด้วย ไอ้บอมมันบอกมันก็ลงเล่นน้ำคลองไปตามปกติทุกครั้งที่กลับมา เสมือนกลายเป็นธรรมเนียมของมันไปแล้วที่เมื่อมาถึงจะต้องมาโดดเล่นน้ำคลองที่ข้างบ้าน หลังจากนั้นมันก็กินข้าวกับครอบครัวช่วงค่ำๆแล้วก็เข้าห้องของมันและนอนเปิดเพลงในโทรศัพท์ฟังไปเพลินๆ มันบอกช่วงที่กำลังฟังเพลงอยู่นั้นหูของมันไปได้ยินเสียงเหมือนคนกำลังพูดคุยกันอยู่ในห้องของมันแต่ว่าเป็นเสียงที่แว่วมาและจับศัพท์จับประโยคที่พูดกันไม่ได้ ซึ่งไอ้บอมมันก็ไม่ได้ใส่ใจอะไรนึกว่าหูฝาดไป เวลาล่วงผ่านไปจนดึก ในระหว่างที่ไอ้บอมมันกำลังหลับอยู่นั้นมันบอกมันรู้สึกเหมือนกับว่ามีใครมาเดินไปเดินมาอยู่ในห้องของมันเพราะเสียงพื้นไม้นั้นดังเอี้ยดอ๊าดๆ ไปมาเป็นจังหวะตามการย่างเดิน ไม่ใช่เสียงไม้ลั่นเองแน่ๆ ไอ้บอมมันเลยงัวเงียตื่นขึ้นมาดูแต่ก็ว่างเปล่าไม่มีใคร มันเลยล้มตัวนอนต่อ แต่สักพักหนึ่งคราวนี้เป็นเสียงหน้าต่างบานไม้บานเก่าๆในห้องที่อ้าเปิดออกเองช้าๆดัง แอ๊ดดด... ไอ้บอมมันเริ่มแปลกใจแล้ว คราวนี้มันค่อยๆลืมตาขึ้นมาดูอีกรอบ มันบอกว่ามันกลัวจนแทบจะหยุดหายใจไปเสียให้ได้ เพราะภาพที่มันเห็นคือ ร่างของผู้หญิงตัวเล็กๆแต่ดำทะมึนสวมห่มสไบสีเขียวนุ่งโจงกระเบนสีแดงกำลังนั่งก้มหน้านิ่งๆอยู่บนขอบบานหน้าต่าง มันบอกมันเห็นผู้หญิงคนนั้นได้ชัดเจนเพราะแสงพระจันทร์จากข้างนอกได้ส่องเข้ามาในห้องนี้เต็มๆ ไอ้บอมมันเลยรีบดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมโปงโดยทันที ในใจก็ได้แต่สวดมนต์ถูกๆผิดๆเพราะกลัวจนรนรานไปหมดแล้ว ในตอนนั้นเองเสียงพื้นไม้ในห้องก็ได้ดังเอี๊ยดอ๊าดขึ้นมาอีกครั้ง แต่คราวนี้มันดังเข้ามาทางเตียงที่ไอ้บอมมันนอนอยู่ ดังเข้ามาเรื่อยๆ จนมาเงียบอยู่ที่หัวเตียงไอ้บอม ไอ้บอมมันรู้ในทันทีว่าที่หัวเตียงมันในตอนนี้ได้มีใครบางคนกำลังหยุดยืนอยู่โดยที่มันทำได้แค่เพียงภาวนาให้อย่าได้ทำอะไรต่อไปอีกเลย ในขณะที่ไอ้บอมมันนอนตัวสั่นอยู่นั้น ก็เหมือนกับว่ามีมือเล็กๆข้างหนึ่งมาลูบไล้ไปมาช้าๆที่หัวของไอ้บอมที่กำลังนอนคลุมโปงอยู่ ไอ้บอมมันบอกว่าตอนนั้นมันสติหลุดแล้วมันไม่สนใจอะไรอีกแล้วมันรีบกระโดดลุกออกจากเตียงวิ่งออกจากห้องไปหาพ่อกับแม่ที่นอนอยู่ห้องข้างๆอย่างไม่คิดชีวิต จนพ่อกับแม่มันตกใจตื่นและถามมันว่าเป็นอะไรไป ไอ้บอมมันไม่ยอมเล่าให้ฟังในเวลานั้นได้แต่คะยั้นคะยอขอร้องนอนด้วย พ่อกับแม่มันก็ดูงงๆแต่ก็อนุญาตให้ไอ้บอมมานอนด้วย ไอ้บอมมันเล่าต่อว่าในขณะที่มันนอนอยู่นั้นมันได้แต่ข่มตาให้หลับเพราะยังกลัวอยู่แต่หูของมันก็ยังได้ยินเสียงเดินไปมาอยู่หน้าห้อง ไอ้บอมมันไม่รู้จะทำอย่างไรแล้วมันจึงนึกถึงบรรพบุรุษให้ช่วยมาปกป้องมันด้วย พอนึกอธิษฐานเสร็จ เสียงเดินที่หน้าห้องก็เงียบไป ไอ้บอมมันจึงนอนหลับได้ลง ตื่นมาตอนเช้ามันจึงเล่าเรื่องที่มันเจอให้พ่อกับแม่และยายฟัง พอยายฟังจบยายก็หัวเราะขึ้นมาและได้บอกไอ้บอมว่าผู้หญิงในชุดไทยที่ไอ้บอมเจอนั้นเป็นผีบรรพบุรุษโดยท่านเคยมาเข้าฝันยายครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้วก็บอกว่าเป็นบรรพบุรุษต้นตระกูลของยายและบ้านหลังนี้นั้นก็คือบ้านของเธอกับคุณหลวงที่เป็นสามีของเธอ และได้ตกทอดสืบต่อกันมาหลายรุ่นจนมาถึงรุ่นของยายในปัจจุบัน โดยเธอนั้นบอกกับยายเพียงว่าเธอมีชื่อว่า "ทิพย์" และบอกว่าไม่ต้องกลัวอะไรเธอ เธอคอยวนเวียนเฝ้าดูแลเรือนหลังนี้มายาวนานมากแล้วและจะคอยปกป้องคุ้มครองดูแลลูกหลานทุกๆคนให้ปลอดภัย ยายบอกว่าที่ไอ้บอมเจอนั้นท่านเขาคงมาหาเพราะเป็นห่วงและเอ็นดูจึงได้มายืนลูบหัว ส่วนไอ้บอมเองนับแต่วันนั้นที่มันเจอมันก็ไม่คิดจะกลับไปนอนคนเดียวที่ห้องนั้นอีกเลย ซึ่งไอ้บอมมันเล่าเพิ่มอีกว่าเมื่อก่อนสมัยมันยังไม่เกิดนั้น เคยมีโจรจะแอบปีนหน้าต่างขึ้นมาขโมยของในห้องที่ไอ้บอมมันเข้าไปนอน แต่ว่าโจรมันเหมือนเห็นอะไรสักอย่างแล้วตกใจตกลงมาจากหน้าต่างลงพื้นขาหักร้องโอดโอยลั่นบ้านจนยายกับตาตื่นขึ้นมาแล้วจับตัวมันส่งตำรวจไปได้ โดยโจรมันสารภาพกับยายและตาต่อหน้าตำรวจว่าตอนที่มันกำลังปีนจะเข้าทางหน้าต่างอยู่นั้นมันเห็นมีผู้หญิงชุดไทยโบราณคนหนึ่งหน้าตาน่ากลัวสยดสยองกำลังค่อยๆคลานเข้ามาหา ไอ้บอมมันนึกในใจนี่ยังดีที่เธอมาหามันอีกแบบถ้าเธอเข้ามาหามันเมื่อคืนแบบเดียวกันกับที่โจรมันเคยเจอเอาไว้ล่ะก็ไอ้บอมมันบอกมันคงจะกลัวจนหัวใจวายตายคาเตียงไปแล้วแน่ๆ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กรกฎาคม 2017
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถ้าลูบศรีษะคือเอ็นดูนะแห๋มๆ
    แต่เล่นมาแบบไม่ปรึกษาใครเลย
    และอายุประมานนั้นใครเจอก็กลัวหละครับ
    อ่านแล้วยังสยองแทน
    กรณีแบบนี้จะเป็นสีออกดำด้าน
    หรือก็ดำด้านปนเขียวดำๆเล็กน้อย
    บอกได้ว่าเสียชีวิตมานาน
    ปกติสีผิวแบบนี้จะเข้าถึงตัวเราได้

    ปล กรณีที่เข้าถึงตัวเราได้อย่างนั้น
    ไม่ว่าเราจะทำอย่างไรก็ไม่เป็นผล
    มีสิทธิ์เป็นบรรพบรุษเราเองครับ
    หลักสังเกตุอีกอย่างนะครับ
    ถ้ามาอยู่บนเตียง หรือนั่งบนเตียง
    จะมีความรู้สึกว่ามีน้ำหนักเหมือน
    คนนั่งจริงๆครับ

    กรณีรู้สึกมีน้ำหนักเข้าถึงตัวเราได้
    ยังรวมประเภทที่เจาะจงมาให้เราอุทิศส่วนกุศล
    ให้ด้วยนะครับแต่กรณีนี้มักจะมาเป็นกลุ่มครับ
    อย่าตกใจให้ตั้งสติและอุทิศส่วนกุศลให้ไปครับ



    หรือไม่ก็เจ้ากรรมของเรากรณีวิบาก
    ส่งผลกับเรา พวกนี้จะมาทาง
    ด้านเท้าซ้ายเยื้องไปด้านล่าง
    กรณีนี้จะไม่รู้สึกถึงน้ำหนัก เราต้องเร่งทำบุญ
    สร้างความดีเอาไว้
    แต่ถ้ามีน้ำหนักและทำไม่ดีกับเราเช่นลวนลาม
    จะเป็นพวกนิสัยไม่ดีครับ
    กรณีนี้ขอบารมีพระช่วยได้ครับ

    หรืออีกกรณีคือจิตปรุงแต่งไปเอง
    หมายถึงเก็บเรื่องที่เคยฝันมาแล้ว
    และเรื่องที่คิดลึกๆไปเอง
    แล้วมามโนปนกันเป็นตุเป็นตะ
    สังเกตุง่ายๆว่าสภาพแวดล้อมจะมืดๆครับ
    แก้ได้คือ อย่าไปคิดและ เลิกมโนซะ
     
  3. เก่ง พุทธสาวก 13

    เก่ง พุทธสาวก 13 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    17
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +56
    บ้านทั่วไปเจอแบบนี้ก็กลัวจนขี้หดแล้ว นี่เจอในบ้านทรงไทย ถ้าเป็นผมเจอด้วยตัวเองนี่คงจะขี้ราดไปแล้วครับบอกตรงๆ 555
     
  4. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +919
    ไม่เกี่ยวกับว่า เป็นบ้านทรงไทยเรือนไม้ หรือ บ้านปูน หรอกครับ มันเกี่ยวที่ว่า มีแล้วเราดันเห็นเข้าอะครับ ของผมนี่..บ้านปูนแบบสมัยปัจจุบันเลยอะครับ(แต่ก็ไม่ใหม่สุดๆอะนะ ประมาณ 20 กว่าปีแล้ว) ยังเจอเลยอะครับ ผมเจอ อย่างต่ำ 3 อะครับ...(แต่คนที่ 4 นี่อาจจะเป็นเทวดาประจำตัว) ที่เจออะนะ มี ที่เป็นผู้หญิง ก็ ชุดไทย 1, ชุดนอนหลวมๆ อีก 1 , ส่วนอีก 1 ตน เป็นผู้ชาย ใส่กางเกงวอห์มออกกำลังกกายอะนะ แต่ไม่ใส่เสื้อ วนเวียนให้เห็นอยู่ในห้องนอนของผม ก็แค่นี้เองอะนะ ^_^
     
  5. เก่ง พุทธสาวก 13

    เก่ง พุทธสาวก 13 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    17
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +56
    เป็นผมคงขี้ราดตั้งแต่เห็นนางสไบแล้วครับ คือคิดว่ามันคงจะหลอนกว่าผีสมัยใหม่เยอะอยู่ ผีในชุดไทยคือแบบมันมีความน่าเกรงขามแฝงมาด้วย
     
  6. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +919
    ตอนเด็กๆ ผมยอมรับเลยนะว่า มีความรู้สึกกลัวบ้าน... กลัวมากๆ กลัวจนไม่กล้านอนคนเดียว ต้องนอนกับพ่อหรือรอให้พ่อนอน แล้วถึงหลับตา ช่วงรอพ่อมานอน ก็ส่วนใหญ่จะเปิดไฟแล้วนอนเล่นบางทีก็เผลอหลับไปจริงๆ แต่มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่เคยจำได้ตอนเด็กๆอะนะ เคยนอนหลับไปได้ไม่นานประมาณ 1 นาทีเองมั้ง ก็มีความรู้สึกว่าเหมือนมีใครดึงผ้าห่มของผม ให้ค่อยๆ เลื่อนลงต่ำจากขาไปอะนะ แต่พอลืมตาผงกหัวดูก็ปรากฏว่า ผ้าห่มมันเลื่อนลงไปจากตำแหน่งเดิม จริงๆแต่มันหยุดเลื่อนในทันทีที่ลืมตามอง แล้วผมก็นึกในใจปลอบตัวเองว่า "สงสัยคงเป็นเพราะว่าชายผ้าห่มอีกด้าน มันถ่วง และทำให้ดึงเลื่อนลงไปเองมั้ง" แต่พอมาตอนโตขึ้นคือ ประมาณ 6-7 ปี ที่ผ่านมาถึงปัจจุบัน ...ผมก็ได้เห็นของจริง กับตาตัวเอง ตอนแรกเลยก็รู้สึกกลัวนะ(ใครไม่กลัวบ้างล่ะ) แต่ก็แปลกที่ความกลัวนั้นมันผสมผสานกับความน่าอัศจรรย์น่าทึ่ง(Amazing) ไปด้วยในตัวอะ จนทำให้ความรู้สึกกลัวของผมนั้นจาก ควรที่จะ 100% กลับกลายเป็นว่า ประมาณ 20-30% แค่นั้นอะ นอกนั้นคือความตื่นตะลึ่งและทึ่งทั้งหมด ว่า นี่เหรอ คือสิ่งที่เค้าเรียกว่า "ผี" ทำไมถึงสามารถรวบรวมพลังงานในอากาศที่ตนมีทั้งหมด แสดงออกมาเป็น ตัวเป็นตน เป็นชุดเสื้อผ้ารูปร่างลักษณะเฉพาะ แบบนั้นๆ ของแต่ละคน ออกมาได้ มันน่าทึ่ง มากๆอะนะ แล้วปัจจุบันผมก็ยังอุทิศส่วนบุญกศลให้พวกเค้าอยู่เรื่อยๆอะนะ เผื่อช่วยเหลือให้พวกเค้าไม่มากก็น้อย ก็หวังว่าพวกเค้าจะดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่อะนะ (เฉพาะพวกที่มีทุกข์) แต่ผมเองก็ไม่นึกเหมือนกันว่าจะมาถึงจุดนี้ได้ ที่ว่าไม่ค่อยกลัวผีแล้วอะนะ(ซึ่งตอนเด็กๆ เคยกลัวมาก) มันก็เป็นสิ่งที่แปลกมาสำหรับตัวผมเอง มันเป็นไปโดยอัตโนมัติเองอะ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร แต่ในจิตใจผมเป็นแบบนั้นไปเองแล้วล่ะนะ
     
  7. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ถ้าสมัยยุคต้นรัชกาล
    ช่วงนั้นยังใส่สไปกันอยู่ครับ
    อาจไม่ใช่นางไม้ อาจจะสถิตย์ที่ใด
    ที่หนึ่งหรือไม่ก็ในวัตถุชิ้นใดชิ้นหนึ่งได้
    แต่ถ้านางไม้ คือ จะเห็นเดินออก
    มาจากต้นไม้ได้เห็นๆ และผิวจะดูเหมือนคน

    และถ้าชุดขาวหลวมๆ
    เป็นไปได้ว่าจะเป็นยุคก่อนรัตนโกสินได้ครับ

    ส่วนถ้าเราเข้าใจว่า ผีก็คือดวงจิตที่ไม่มีกายเหมือนเรา
    ก็จะทำให้กลัวน้อยลงได้
    และถ้าอุทิศส่วนกุศลให้เรื่อยๆ
    ความเข้าใจทางนามธรรมต่างๆเราจะดีขึ้นเอง
    ได้เห็นอะไรๆมากมาย แต่ว่ามันจะกลัวน้อยลง
    ถ้าเราฝึกเดินปัญญาไปเรื่อยๆ
    เราจะพบว่า ถ้าเรายังเห็นได้แสดงว่ายังมีสัญญา
    ความจำได้ในจิตเราอยู่
    และต่อไปถ้าปลงได้
    แม้เห็นได้ด้วยตาเปล่า
    เราก็จะรู้ว่า ยังเป็นการปรุงแต่งอยู่
    และยึดอะไรไม่ได้ครับ

    ส่วนเทวดาประจำตัวมีหลายท่าน
    และสามารถเปลี่ยนแปลงได้
    แต่ว่า มีโอกาสเห็นได้ยากหน่อยครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...