เหตุที่ทำให้ พระพุทธเจ้าทรงพระนามว่า “ตถาคต” พระตถาคต คือคำแทนชื่อที่พระพุทธองค์ทรงเรียกพระองค์เอง แปลว่าผู้เสด็จมาและไปอย่างนั้น อันมีความหมายเชิงลึกซึ้งคือ ผู้ที่ไม่ยึดมั่นในสิ่งใดในโลกนี้ ภิกษุทั้งหลาย โลกเป็นสภาพที่ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้ว ตถาคตจึงเป็นผู้ถอนตนจากโลกได้แล้ว. เหตุให้เกิดโลก เป็นสภาพที่ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้ว ตถาคตจึงละเหตุให้เกิดโลกได้แล้ว. ความดับไม่เหลือของโลกเป็นสภาพที่ตถาคตรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ตถาคตจึงทำให้แจ้งความดับไม่เหลือของโลกได้แล้ว. ทางให้ถึงความดับไม่เหลือของโลก เป็นสิ่งที่ตถาคตรู้พร้อมเฉพาะแล้ว ตถาคตจึงทำให้เกิดมีขึ้นได้แล้ว ซึ่งทางให้ถึงความดับไม่เหลือของโลกนั้น. ภิกษุทั้งหลาย อายตนะอันใด ที่พวกมนุษยโลก พร้อมทั้งเทวโลก มาร, พรหม, ที่หมู่สัตว์พร้อม ทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ได้เห็นได้ฟัง ได้ดม-ลิ้ม-สัมผัส ได้รู้แจ้ง ได้บรรลุ ได้แสวงหา ได้เที่ยวผูกพันติดตามโดยน้ำใจ, อายตนะนั้น ตถาคตได้รู้พร้อมเฉพาะแล้วทั้งสิ้น เพราะเหตุนั้น เราจึงได้นามว่า “ตถาคต”. ภิกษุทั้งหลาย ในราตรีใด ตถาคตได้ตรัสรู้ และในราตรีใด ตถาคตปรินิพพาน, ในระหว่างนั้น ตถาคตได้กล่าวสอบ พร่ำสอน แสดงออกซึ่งคำใด, คำนั้นทั้งหมด ย่อมมีโดยประการเดียวกันทั้งสิ้น ไม่แปลกกันโดยประการอื่น, เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต”. ภิกษุทั้งหลาย ในโลก พร้อมทั้งเทวโลก มาร, พรหม, ในหมู่สัตว์พร้อมทั้งสมณพราหมณ์ พร้อมทั้งเทวดาและมนุษย์ ตถาคตเป็นผู้เป็นยิ่ง ไม่มีใครครอบงำ เป็นผู้เห็นสิ่งทั้งปวงโดยเด็ดขาด เป็นผู้มีอำนาจสูงสุด (โดยธรรม) แต่ผู้เดียว, เพราะเหตุนั้น จึงได้นามว่า “ตถาคต” พุทธวจนะในพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ************* ธ.ธรรมรักษ์
ในทุกสภาวะของพระองค์ เป้นหนึ่งและไม่มีผู้ใดจะเปรียบได้ ทั้งในอดีต ปัจจุบัน อนาคต ตลอดพุทธันดร..นี่คือ ตถาคต สาธุ สาธุ สาธุ