เรื่องเล่าพระยาธรรมิกราชในยุคใหม่ที่จะมาถึง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย OoIwIoO, 5 มกราคม 2017.

  1. OoIwIoO

    OoIwIoO สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2017
    โพสต์:
    2
    ค่าพลัง:
    +6
    ***โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน***
    ผมได้รวบรวมมาเก็บไว้อ่าน และแบ่งปัน

    ?temp_hash=29d67da1afb1ff3d0425d9b71aedbd3b.jpg
    อ้างอิงจาก คุณ xxxxxxxxx วันที่ 27/01/10
    หัวข้อ องค์พระศรีอริยเมตไตรยต้องบุรพกรรม

    เรื่องราวของพระศรีอาริย์ ท่านอาจารย์xxกล่าวว่า

    ".... พระพุทธเจ้าองค์ต่อไป ไม่ใช่พระศรีอาริยเมตตรัย คำๆนี้ เป็นคำกล่าวสรรเสริญมหาโพธิสัตว์ที่จะนำความเจริญมาสู่สามโลกด้วยธรรม ศิริ แปลว่า เจริญรุ่งเรือง อาริยะ หรือ อารยะ คือ ประเพณี หรือแบบแผนของชาวอริยะ หรือ อริยะประเพณี เมตตรัย นี้มาจากคำของพรหมวิหารสี่ คือ เมตตา กรุณา มุทิตา เป็นคำเก่าโบราณตั้งสมัยชาวสุเมเรียน ชาวบาบิโลนใช้สืบต่อกันมา

    รวมความแล้ว ศรีอาริยะเมตตรัย คือผู้ที่ประกอบด้วยเมตตาจิต กรุณาจิต มุทิตาจิตอันไม่มีประมาณนำซึ่งความเจริญมาสู่แก่สรรพสัตว์คืออริยะประเพณี มาบอกกล่าวอีกครั้ง

    คำๆนี้บ่งบอกสภาวะธรรม คุณธรรมของโพธิสัตว์ที่จะมา ไม่ใช่ชื่อของใคร แต่ก็มีโพธิสัตว์ชื่อนี้นะ ศิริอาริยะเมตตัยโพธิสัตว์ก็มี สิริอาระยะโพธิสัตว์ก็มี แต่สององค์นี้ยังอีกไกลกว่าจะได้ตรัสรู้

    พระยาธรรมิกราชดูได้ไม่ยาก ใครได้ครอบครองแก้วจักรพรรดิ์อันมาจากนภากาศ จากธรรมธาตุอีกจักรวาลหนึ่ง อันเป็นจักรวาลที่จะมอบรัตนะเจ็ดอย่างให้กับพระยาธรรมิกราชผู้นั้น และเป็นพระยาธรรมิกราชคนสุดท้ายที่จะมาบังเกิดอีก นานแสนนาน ตลอดจนถึงสรรพสัตว์รูปนามสุดท้ายหลุดพ้นวัฏฏสงสาร

    ใครครอบครองแก้วนี้ คนนั้นแหละคือพระยาธรรมิกราช และตอนนี้ แก้วจักรพรรดิ์ได้อยู่ที่โลกมนุษย์แล้ว ใครมีตาในก็หาดูเอา

    เรื่องราวของพระยาธรรมิกราชหยั่งรู้ได้ยาก แม้มหาโพธิสัตว์ที่มีญาณแก่กล้ายังไม่สามารถเข้าถึงได้เลย เพราะท่านมาทำหน้าที่หลายอย่าง หมุนธรรมจักรใหม่ เปลี่ยนแปลงระบบจักรวาลใหม่ ระบบของสามภพใหม่ แม้พระอินทร์ต้องให้ท่านให้พรเท่านั้นจึงจะทำหน้าดังเดิมได้ ไม่ใช่พระอินทร์ให้พรท่าน ดังที่หลายๆคนเข้าใจ

    บารมีธรรมของท่านยิ่งใหญ่ไม่มีประมาณ เอาบารมีธรรมพระพุทธเจ้าทุกๆพระองค์มารวมกันตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและต่อไปในอนาคตก็ไม่มีใครเสมอได้ ด้วยเหตุที่ท่านบำเพ็ญบารมีมาไม่ต่ำกว่าล้าน ล้าน ล้าน ล้านๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆอสงไขยหลายแสนมหากัปป์ ยาวนานมาก เป็นผู้สร้างสิ่งมหัศจรรย์ในโลกมนุษย์ไว้ให้ชม เที่ยวกันหลายอย่าง

    ไม่ว่าจะเป็นปิรามิดต่างๆที่อียิปต์ สฟิงส์ ถ้ำอชันต้า ถ้ำเอลโลร่า บุโรพุทโธ กำแพงเมืองจีน ผู้ให้กำเนิดภาษามนุษย์ ปฏิทินโหราศาสตร์ในสมัยชาวแอนตรากติก้า บาบิโลน สุเมเรียน เป็นนักปราชญ์ชื่อดังในกรีก โรมันคือเพลโต

    เป็นปราชญ์ในจีนคือขงจื้อ และในธิเบตคือท่านมิลาเรปะ พระเจ้าอโศกมหาราช

    ผู้สร้างนครวัด นครธม ปราสาทเขาพนมรุ้ง พระพุทธชินราช พระแก้วมรกต พระศักดิ์สิทธิ์ต่างๆในเมืองไทยให้เราได้กราบไหว้บูชา เป็นกษัตริย์ในยุคต่างๆ ในสมัยอาณาจักรน่านเจ้า อาณาจักรฟูนัน นครจัมปาศรี พ่อขุนรามคำแหง พระยาลิไท พระนารายณ์มหาราช

    หนึ่งในทหารเอกสี่คนของพระเจ้าตากสิน เป็นพระสหายของรัชกาลที่ ๕ ในทวีปยุโรปคือ ไกเซอร์วิลเฮมของเยอรมัน และเป็นผู้ปราบกลียุคในสามโลกมาตลอดเวลาตั้งแต่ได้รับพุทธพยากรณ์อสงไขยนับไม่ถ้วน

    ใครได้พบได้รู้ได้คุยกับท่านพระยาธรรมิกราชถือว่าเป็นบุญอันประเสริฐ ในโลกทิพย์ตอนนี้ได้พากันสร้างรูปเหมือนท่านเป้นที่กราบไหว้สักการะทุกภพภูมิ ยกเว้นในโลกมนุษย์ผู้มีจิตหยาบยังไม่ทราบว่าท่านเป็นใคร

    เชื่อ ไม่ เชื่อ ให้พากันพิจารณาเอา ไม่ได้บังคับ สิ่งที่เรารู้ ไม่เหมือนคนอื่น และสิ่งที่รู้เป็นจริงเสมอในสภาวะธรรมจริงๆ....."



    ขออ้างอิงจากที่คุณxxxxxxxxxเคยได้บอกในกระทู้ไว้ ว่า คำว่าเมตไตร อาจไม่ใช่
    ชื่อของพระพุทธเจ้าก็ได้แต่เป็นคุณธรรมของท่านที่จะได้มาเป็นพระจักรพรรดิในยุคนี้

    ซึ่งพระรามโพธิสัตว์เจ้าในอดีตชาติท่านเคยเกิดเป็นพระเจ้าอโศกมหาราชมาก่อนซึ่งค่อนข้าง
    ตรงกับที่ทางคุณxxxxxxxxxบอกไว้ แต่ ไม่ได้บอกว่าทางคุณxxxxxxxxxบอกว่าเป็นพระรามโพธิสัตว์นะ แต่ เป็นความรู้ที่ได้มาจากสภาวะธรรมเฉยๆ ซึ่งอาจจะไม่เหมือนใครเท่านั้นเอง

    บทความต่อไปนี้ เป็นของอีกท่านจากเฟสบุ๊คต้องขออภัยที่จำไม่ได้ว่าของใคร
    แต่อ่านดูแล้วรู้สึกน่าสนใจ จึงนำมารวมกันไว้

    ?temp_hash=29d67da1afb1ff3d0425d9b71aedbd3b.jpg

    กายไร้ทิพย์ จิตไร้รูป : คือ..พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระศรีอริยะเมตไตย
    ที่มีการรวมจิตทั้งหมด 18 ดวงจิต
    (1)พระสัมมาสัมพุทธเจ้า 28 พระองค์ นับเป็น 1
    (2)มหาเทพสุริยะ(องค์อัมรินทร์)
    (3)พระตรีมูระติ
    (4)พระศิวะ
    (5)พระนารายณ์
    (6)พระวิษณุ
    (7)พระสารีบุตร
    (8)พระโมคคัลลานะ
    (9)พระอาฬารดาบส
    (10)พระอุทกดาบส
    (11)พระอัญญาโกณฑัญญา
    ..และอีก 7 จนครบ 18 ดวงจิต อยู่ในการร่างเนื้อ
    กึ่งมนุษย์-กึ่งมหาเทพ ในร่างเดียวกัน

    เข้าสู่ยุค มหาเทพสุริยะ หรือยุคพระศรีอริยะเมตไตย

    #สิ่งมีชีวิตยุคพระศรีอริยะเมตไตย
    เมื่อคืน 11/10/59 คุยกับเสียงลึกลับ ตั้งคำถามเกี่ยวกับ
    (1)อุตตระกุรุทวีป
    (2)อัปปะระโคยานทวีป
    (3)ปุพพะวิเคหะทวีป และ
    (4)ชมพูทวีป..ซึ่งคือ โลกมนุษย์นั่นเอง
    มันคือ มิติภพคล้ายๆโลกมนุษย์ แต่อยู่กันคนละมิติ
    ทั้งรูปร่าง-หน้าตา สีผิว ที่เป็นเอกลักษณ์แต่ทวีป (ไม่เหมือนกันเลย)
    เทคโนโลยี่ ชีวิตความเป็นอยู่ เหตุผลอะไร จึงได้ไปเกิดในทวีปนั้นๆ
    สรุป โลกมนุษย์ ด้อยพัฒนาที่สุด..
    .
    ในยุคพระศรีอริยะเมตไตย จะเกิดเผ่าพันธ์มนุษย์ชมพูทวีปใหม่
    ที่แตกต่างจากมนุษย์ปัจจุบันอย่างสิ้นเชิง
    (1)ใกล้เคียงคำบอกเล่า ตามคำทำนายของนอสตรา ดรามุส
    และหมอดูตาบอด ที่เคยทำนายไว้
    (2)สรีระร่างกาย ต่างจากมนุษย์ชาติปัจจุบัน อย่างสิ้นเชิง
    เป็นกึ่งมนุษย์-กึ่งเทวดา สรีระร่างกายจะเปลี่ยนแปลง ทุกช่วงอายุ 60 ปี
    มีหลายเผ่าพันธ์...ยกตัวอย่าง
    60 ปีแรก ร่างกายคล้ายมนุษย์ปัจจุบัน
    60 ปีที่ 2..ร่างกายเดิมแต่สูงใหญ่ขึ้น กล้ามเนื้อบึกบึน แข็งแรงขึ้น
    60 ปีที่ 3..มีเกร็ดเพชรขึ้นตามผิวหนัง
    60 ปีที่ 4..มีปีกงอกที่กลางหลัง เมื่อต้องการบิน หายไปเมื่ออยู่ที่พื้น
    60 ปีที่ 5..มีเหงือกที่หู เวลาลงน้ำ เท้า 2 ข้างรวมตัวกันกลายเป็นคลีบเหมือนปลา
    ดำน้ำได้เหมือนเงือก แต่เวลาขึ้นจากน้ำ จะกลายเป็นขาเหมือนเดิม
    60 ปีที่ 6..ทั้งร่างเปลี่ยนตัวเป็นสีเขียว มีฤทธิ์มากขึ้น
    60 ปีที่ 7..มีแสงออกจากลำตัว เคลื่อนย้ายวัตถุได้ด้วย พลังงานจิต
    60 ปีที่ 8..สีตัวเปลี่ยนเป็นสีทอง และมีแสงออกมา หายตัวได้
    หมดอายุขัย ประมาณ 480-500 ปี ร่างหายไปเอง ไม่ต้องเผา
    (3)ร่างเริ่มแรกจะเป็นกายเนื้อ ชีวเคมีเหมือนคนในปัจจุบัน
    แต่เมื่ออายุมากขึ้น ร่างจะค่อยๆเปลี่ยนเป็นทิพย์ มากยิ่งขึ้น แล้วสลาย
    ความเป็นกายเนื้อ ค่อยๆน้อยลงจนหมดไป จนร่างสุดท้าย จะคือร่างส่ง
    ให้ไปเกิดในมิติภพภูมิต่างๆ ตามบุญบารมี..จนสุดท้ายชั้นนิพพาน
    (4)มีรถยนต์ เครื่องบิน เหมือนปัจจุบัน แต่รูปร่างเปลี่ยนไป ใช้พลังงานจิต
    ในการขับเคลื่อน
    (5)สัตว์ต่างๆในปัจจุบัน จะเหมือนกันในยุคพระศรีฯ แต่ไม่มีสัตว์กินเนื้อ
    (6)กลุ่มจิตบาป จิตต่ำ จะจัดให้ไปเกิด คนละมิติกับมนุษย์ยุคพระศรีฯ
    หรือเป็นสัตว์ใน มิติภพยุคพระศรีฯ
    (7)อาหาร-การแพทย์-ที่พัก ต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง
    (8)การปกครอง-การบริหาร คล้ายมนุษย์ปัจจุบัน แต่มีเมตตาต่อกันมากขึ้น
    (9)มนุษย์ทุกคนจะได้รับการเชื่อม อนุตโรญาน เพื่อให้ระลึกชาติได้ เพื่อให้รู้ตัว
    ถึงสาเหตุของการเกิด ในยุคพระศรีฯ จะได้ไม่กล้าทำบาป รู้อดีตชาติของตัวเอง
    ที่ส่งมาเกิดในชาติปัจจุบัน และเชื่อมสัญญานกับมิติต่างๆได้ แต่ยังไปไม่ได้
    ยกเว้น ผู้คุมกฎไตรลักษณ์ หรือ ผู้ที่มีบารมีสูงมาก จึงจะไปได้ แต่จะเข้าได้
    เฉพาะมิติที่ตัวเองมีบารมีเท่าเทียม หรือ ต่ำกว่า และเรียนรู้ถึงวิธี ที่จะเพิ่มบารมี
    ให้สูงขึ้น จนสุดท้ายเข้าแดนนิพพานได้ต่อไป
    .
    ตั้งแต่ ปี 2559 จนถึงยุคพระศรีฯ จะเริ่มล้าง จิตบาป-จิตหยาบ-จิตชั่ว
    ให้หมดไป แล้วหมดสิทธิกลับมาเกิดเป็นมนุษย์ (มีกลไกพิเศษ ควบคุมตรงนี้ได้)
    ทะยอยล้างด้วยภัยธรรมชาติ แต่เบื้องหลังมีพลังงานจิตควบคุม
    แฝงจิตมนุษย์..ให้ตายเร็วขึ้น ทั้งตายเอง และโดนฆ่า(เหล่ายมฑูต..ทำงาน)
    .
    ใครต้องการไปเกิดในยุคพระศรีฯ...ง่ายมาก
    (1)ยิ้มง่าย
    (2)ศีล 5 บริสุทธิ์
    (3)เสียสละ คิดดี พูดดี ทำดี
    (4)เมตตา ใจดี ช่วยเหลือ พลอยยินดีไปกับเขา และ นิ่งให้เป็น
    (5)ส่วนการฝึกทางจิต สติ สมาธิ เรื่อยๆค่อยๆฝึกไป ไม่เน้นให้เคร่ง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2018
  2. SegaMegaHyperSuperCyberNeptune

    SegaMegaHyperSuperCyberNeptune "โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านกระทู้ผม"

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2011
    โพสต์:
    4,087
    ค่าพลัง:
    +3,394
    ครบสูตรเลยถ้าปล่อยพลังได้นี่ ดรากอนบอล เลย
     
  3. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    จินตนาการสูงล้ำ
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ต้มยำรวมมิตรครับ
     
  5. gratrypa

    gratrypa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 กันยายน 2011
    โพสต์:
    1,283
    ค่าพลัง:
    +1,505
    .
    เขียน ๑๐.๓๗

    จะถูกซักครึ่งนึงไม๊เนี่ย น้ำแยะไปนะ เนอะ


    กระต่ายป่า ข้างวัด / ค้างคาวแห่งแสง


    ปล.เพิ่งรู้วันนี้เองอ่ะ ว่าเวบอยู่ตรงเนี้ย
    เข้าเวบเก่าทุกวัน ไม่เห็นมีบอกเลย
    เพิ่งมีบอกตะกี้ ว่าเวบอยู่ที่ไหน
    .
     
  6. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เรื่องชื่อ ของพระพุทธเจ้า ที่อาจจะไม่ใช่ชื่อจริงนั้น ไม่แปลก เนื่องจากพระพุทธเจ้าอาจมีได้หลายชื่อ ยกตัวอย่างเช่น พระพุทธเจ้านามว่า โคตมะ
    โคตมะ ไม่ใช่ชื่อจริง แต่เป็นการเรียกตามโคตร ชื่อจริงคือ สิทธัตถะ
    สารีบุตร โมคคัลลาน์ ก็ไม่ใช่ชื่อจริง
    ชื่อจริงของพระสารีบุตร คือ อุปติสสะ ชื่อจริงของพระโมคคัลลาน์ คือ โกลิตะ
    การเรียกพระอุปติสสะ ว่าสารีบุตร เนื่องจากมารดาท่านมีชื่อว่า นางสารี
    ส่วนพระโกลิตะ เนื่องจากมารดาท่านชื่อว่า นางโมคคัลลี เขาก็เลยเรียกท่านว่า โมคคัลลาน์

    พระสารีบุตร แปลว่า พระลูกยายสารี
    การเรียกแบบนี้จะว่าเรียกเหมือนดูถูกท่านก็ไม่ผิด

    เหมือนอย่างคน ชื่อว่า สมชาย มีแม่ชื่อ นางแจ๋ว
    ต่อมา สมชาย ได้บวชเป็นพระ
    แทนที่ชาวบ้่าน จะเรียกท่านว่า พระสมชาย ตามชื่อ กลับพากันเรียกท่านว่า พระลูกยายแจ๋ว
    การที่ไม่เรียกชื่อจริง แต่กลับไปเรียกว่า พระลูกยายแจ๋ว
    อาจเป็นไปได้ว่า ไม่รู้ชื่อของท่าน รู้แต่ว่ามีแม่ชื่อแจ๋ว ก็เลย เรียกว่า พระลูกยายแจ๋ว
    หรืออาจจะเป็นการรู้แล้ว แต่สะเพร่า หรือเรียกอย่างมักง่าย โดยไม่ให้เกียรติกัน หรือเรียกตามๆกันไป เห็นคนอื่นเรียกก็เลยเรียกตาม ก็เป็นได้

    ดังนี้ เราจะเห็นได้ว่า การเรียกแบบดูถูกกันนั้น มีมาแล้วตั้งแต่ครั้งพุทธกาล
    ในพระสูตร มีอยู่หลายแห่ง ที่พระพุทธองค์เรียกนามท่านว่า สารีบุตร
    แต่ก็มีบางแห่ง ที่พุทธองค์เรียกท่านว่า อุปติสสะ
    และเรียกพระโมคคัลลาน์ว่า โกลิตะ
    ดังนั้น การเรียกพระอุปติสสะ ว่าสารีบุตร อาจจะไม่ใช่การยกย่องท่านก็เป็นได้
     
  7. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    อ้างอิงจาก=วรณิ

    ปล.วัว...อิอิ การเรียก ใคร ว่า เป็น บุตรของใคร...เป็นการเรียกเพื่อให้เกียรติและยกย่องชมเชย ในบิดามารดา โคตรของเขา เหล่านั้นว่า เพราะมีบิดามารดาโคตรเหง้าดี จึงได้มีบุตรอันประเสริฐเช่นนี้ออกมาได้
    นั่นเอง

    ปล .แมว...บิดามารดา คือ กรรมเป็นเผ่าพันธุ์...นั่นคือ บุตรที่มาเกิดกับบิดามารดาสถานที่เกิดจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับกรรมที่ส่งผลของตัวลูกเองที่มาเกิด เพื่อเริ่มต้นเรียนรุ้ ชีวิต....ตามกรรมของตน..ชืมิชิมิ

    ก๊ากๆๆๆ ถ้างั้น คุณวรณิ ก็กรุณาบอกชื่อบิดามารดาของคุณ วรณิมาด้วยก็แล้วกัน
    เกล้ากระผมจะได้เรียกชื่อท่านตามชื่อบิดามารดา เพื่อเป็นการยกย่องให้เกียรติท่าน
    ในฐานะที่มีลูกชายดีเลิศประเสริฐศรี กั๊กๆๆๆๆ


     
  8. บุคคลทั่วฺไป

    บุคคลทั่วฺไป เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤศจิกายน 2015
    โพสต์:
    2,159
    ค่าพลัง:
    +1,231
    เหอะๆๆๆ จะพูดแบบนั้นมันก็ไม่ถูก ในเมื่อผมถือว่าการที่มาเรียกชื่อบิดามารดากัน
    ถือเป็นเรื่องไม่ให้เกียรติกัน แล้วเรื่องอะไรผมต้องประกาศชื่อแซ่บิดามารดาผมด้วย
    แต่คุณ วรณิมีความเห็นว่า การที่เอาชื่อบิดามารดามาเรียกเป็นชื่อบุตร
    เป็นการให้เกียรติยกย่อง คุณวรณิ ก็สมควรจะบอกชื่อบิดามารดาออกมา จึงจะถูกต้อง
     
  9. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,425
    ค่าพลัง:
    +35,040
    ส่วนตัวปัจจุบันนี้
    มองว่าบ้านเราเค้าถือเรื่อง
    การเอาชื่อบิดามารดามาพูดถึงกันตรงๆครับ
    หรือเอามาล้อเลียนกันครับ
    เพราะเราถือว่า บิดารมารดา เราถือว่ายกไว้ในที่สูง
    ถ้าเรียกชื่อเล่นก่อน แล้วบอกว่าเป็นลูกใครพอได้
    แต่ถ้าอยู่ดีๆมาเรียก โดยเอาชื่อบิดามารดานำมาก่อน
    คงมีเคืองถึงขั้นบานปลายได้ครับ
    ส่วนในหนังฝรั่งเห็นบอกว่า ข้าชื่อนี้ เป็นบุตรของโน้นนั่นนี้
    หรือแม้แต่การเรียกชื่อท่านต่างๆที่มีชื่อมารดาร่วมด้วย
    ส่วนตัวมองว่า เป็นวัฒนธรรมขนบธรรมประเพณี
    ตามยุคตามสมัยที่พอจะทำให้ทราบว่า
    เป็นลูกเต้าเหล่ากอใครมากกว่าครับ
    เพราะว่าเค้าไม่ได้นามสกุลนี้ครับหมายถึงยุคนั้นนะครับ
    ก็เหมือนบ้านเรายุคที่เริ่มมีการตั้งชื่อ
    ก็เอาชื่อที่เรียกง่ายๆไว้ก่อน และก็ตามด้วยนามสกุล
    เพื่อที่จะบอกเกี่ยวกับวงค์ษาขนาญาติไงครับ
    แล้วค่อยพัฒนาให้ออกมามี
    ความหมายในทางที่ดี
    เหมือนในปัจจุบันนั่นหละครับ
    ส่วนชื่อก็ยังใช้สื่อแทนนามแฝง
    ผู้ที่เคารพหรือสื่ออะไรดีๆนั่นหละครับ

    จะเรียกทั้งทีก็สื่อความหมายดีๆ
    คงมีน้อยมากที่จะตั้งชื่อให้ออกในทางไม่ดีครับ
    เช่น นายสัตว์บก นายสัตว์น้ำ นายไส้เดือน
    นายจรเข้น้อย นางหนูตะเภานางป่วงศรี
    นางยักษ์ปักษา นางเสือดาว ๕๕๕
    พอขำๆเด้อ
    ปล.ชื่อแค่สมมุติครับ
    ไม่ได้หมายความว่า
    เราจะเป็นเหมือนชื่อครับ
     
  10. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    สวัสดีคะ ดิฉันชื่อ น.ส.เกรซ มงคลสินคะ เป็นผู้หญิงผิวขาวอายุ 31ปี เพิ่งรับรู้ว่าตัวเองคือใครคะมาทำหน้าที่อะไรในกึ่งพุทธกาลนี้คะ ขอโทดด้วยนะคะญานดิฉันเพิ่งกลับคืนมาแค่ 2ปีเองคะ พระพุทธเจ้าโคตมะท่านบอกว่าถ้าทำไม่สำเร็จ
    "ธรรมจักร ก็ไม่เคลื่อนคะ" นั้นคืนหน้าที่ที่ดิฉันลงมาทำหน้านี้เพื่อให้ ธรรมจักรเคลื่อน ศาสนาพุทธเราจะเป็นศาสนา1เดียวเท่านั้น คือ พุทธศาสนาคะ
     
  11. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    มีหน้าที่ อะไรเอ่ย?

    หุหุ
     
  12. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    ธรรมจักรต้องเคลื่อนคะ ดิฉันจะทำทุกอย่างเพื่อพระพุทธศานาคะ ไม่งั้นลูกหลานเราจะออกจากสังสารวัฏไปนิพพานไม่ได้คะ ธรรมจักรต้องเคลื่อนคนออกไปให้มากที่สุดคะ สาธุ 063-7615018
    ทำหน้าที่ปฏิรูป สังคายนาพระไตรปิฎก คำสั่งสอน, หลักการปฏิบัติ ที่เป็นความจริงจากพระพุทธเจ้าโคตม มาทำให้มันเป็นความจริง
    ต้องทำการล้างพระทุศีล สื่งที่เป็นการทำลายศาสนาที่ทำให้ศาสนาของพระศาสดาโคดมได้ยืดอายุ ยาวออกไปอีกเพิ่มไปอีก2500ปี เป็นคนที่อาสาทำหน้าที่นี้ดั่งเคยทำมาแล้วในอดีตชาติ ได้ส่งคณะสมณะทูตออกไป9สายเผยแพร่คำสอนของพระพุทธเจ้า ทำนุบำรุงศาสานาชีไพร่ ให้อยู่ยืดเพิ่มไปอีก2500ปี จนครบปี 5000
     
  13. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    ต้องทำเพราะเล็งญานอนาคตังสญานร่วมกับโคตมะพุทธเจ้าว่ามันเป้นกลียุคที่เสื่อมมาก ผิดแปลกไปเยอะมากในความจิงที่ทรงสั่งสอนเอาไว้ ถ้าไม่ทำการปฏิรูปสังคายนาใหม่ ศาสนาพุทธของเราจะบิดเบือนไม่ใช่ของจริงคือ ทางออกจากความทุกข์ เมื่อไม่ใช่ของจิง การปฏิบัติที่จะไปนิพพานก็จะไม่มีอีกต่อไป เมื่อเสื่อมมากจนถึงกาลอวสานโลกมนุษย์จะไม่เจออมรตธรรมอีกเลย จะต้องชะล้างโลกที่มืดบอดลง เราจึงอาสามาทำหน้าที่นี้เพื่อให้ทุกคนได้ทำบุญแจกทาน สอนในสิ่งที่เป็นจริงจากโอษฐ์พระบรมศาสดา ยืดออกไปให้ได้มากที่สุด ทำนุบำรุงให้มากที่สุด ดั่งเช่นอดีตที่เคยทำ เราคือ พระเจ้าอโศกมหาราช กลับมาเกิดใหม่เป้นผู้หญิง อายุ31ปีตอนนี้ มันรุชัดแล้วว่ามีหน้าที่อะไร
     
  14. Fallenz

    Fallenz ○~พบแล้ว เจอแล้ว เสวนาแล้ว ที่เหลือแล้วแต่วาสนา~●

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 มีนาคม 2017
    โพสต์:
    555
    ค่าพลัง:
    +733
    ซับซ้อนเนอะ

    หุหุ
     
  15. TheKunKeng

    TheKunKeng เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2015
    โพสต์:
    301
    ค่าพลัง:
    +919
    แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่า ที่...เจ้าของกระทู้ พูดมาทั้งหมดนี้ คือ "เรื่องจริง" 0...0
     
  16. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    ถ้าสมัยก่อนเราเกิดเป็นกษัตริย์เหมือนแต่ก่อนก้อคงดีสินะ แต่ชาตินี้เราจนมาก เป็นผู้หญิง ยากที่ใครจะเชื่อ แต่คนที่มีญานหยั่งรู้ทุกคนจะต้องตอบว่า จริงที่เราคุยกับพระพุทธเจ้า เพราะถามมาแล้ว3ท่าน
     
  17. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** เปลี่ยนแปลงยุค ****

    เลิกสาบานแต่ปาก
    ให้ถือสัจจะ ปฏิบัติจริง

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  18. หนุมาน ผู้นำสาร

    หนุมาน ผู้นำสาร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 กรกฎาคม 2006
    โพสต์:
    13,696
    ค่าพลัง:
    +51,932
    *** ตัวกระทำไม่ตาย ****

    ศีล เป็นของพราหมณ์
    สัจจะ เป็นของพุทธ

    - " หนุมาน ผู้นำสาร "
     
  19. Grace Mongkhonsin

    Grace Mongkhonsin สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2019
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +22
    จะร่วมกับเรามั้ยละ ร่วมกันปกป้องพระพุทธศาสนาสังคายนาพระไตรปิฎก กำจัดมารนอกศาสนาเจ้าลัทธิต่างๆเพื่อเคลื่อน ธรรมจักรที่เป็นความจริงจากโอษฐ์พระพุทธเจ้าแท้จริงเท่านั้น มิเช่นนั้น ผู้คนจะหาทางออกจากทุกข์ไม่ได้ นิพพานก้อไม่มีอีก พุทธศาสานาจะหายสาปสูญไป ถ้าเราเกิดเป็นชายมียศเหมือนในอดีตคงจะดี ที่เราได้รับอาญาสิทธิ์หนึ่งเดียวจากพระเจ้าตากสินให้ทำการกุดหัวผู้คิดคดทรยศเป้นกบฎต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ทำการตัดหัวมันได้ทันที แต่เราชาตินี้เกิดเป็นหญิงครบ500ชาติพอดี และพระสหายเก่าอย่างพระเจ้าตากสินท่านก้อยังเป็นรุกขเทวดาไม่มีกายเนื้อเช่นเรา พระองค์ทรงกรรแสงกับเราพากันร้องไห้เศร้าใจนัก แค้นมากที่เห้นพวกยักษ์มารเจ้าลัทธิกอบโกยเงินเข้าสำนักตนแล้วหลอก ว่าเป็นเรา ทั้งๆที่พวกเราเหล่าหน่อพุทธางกูรทุกพระองค์ เสียสละได้แม้กระทั่งเลือดเนื้อ และชีวิตเพื่อบำเพ็ญบารมีอย่างอุกริฏเพื่อจะได้ตรัสรู้เป็น
    พระพุทธเจ้าในอนาคตเพื่อให้เหล่าเวไนยสัตว์ออก
    จากสังสารวัฏไปนิพพานกันให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ สัตว์โลกย่อมเป้นไปตามกรรม ผู้ใดทำกรรมใดไว้ย่อมได้รับผลแห่งกรรม ไม่ว่าจะเป้นกรรมดีหรือไม่ดี เกลียดตัวเองนักที่ชาตินี้เป้นคนจนเป้นสตรีไม่มียศใดๆเหมือนอดีตที่ผ่านมา
     
  20. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    ทุกอย่างเป็นกรรม...
    การรักษาพระพุทธศาสนาาคือการปฎิบัติเพื่อได้มรรคได้ผล...
    เพื่อให้ผลกระจายไปในวงกว้างที่สุด..เพื่อดำรง
    ซึ้ง..พระพุทธศาสนา
    ทุกอย่างเกิดมาคู่กัน
    มารไม่มีบารมีไม่เกิด
    อยู่สูงถึงเห็นต่ำ..เป็นกฎธรรมดาของโลก
    เพราะการเดินต่อต้องมีแรง้หวี่ยง
    ไม่มีเขาไม่มีเรา
    หากเรามี..มรรคมีผล
    ทุกอย่าง
    ล้วนเพื่อนเกิดแก่เจ็บตาย
    ด้วยกันทั้งหมดทั้งสิ้นคะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...