หลวงปู่ดู่ กับ หลวงปู่เทสก์

หลวงปู่ดู่ กับ หลวงปู่เทสก์


หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี พระอริยอาจารย์สายอาจารย์มั่น ผู้ที่ผู้คนทั่วไปเคารพนับถือ เนื่องไปถึงพระมหากษัตริย์และพระราชวงศ์ ทุกคนปรารถนาไปกราบท่านเพื่อความเป็นสิริมงคล ปฏิปทาที่งดงามทั้งภายนอก และภายใน ถูกกล่าวขาน อาจารย์ศุภรัตน์ ตั้งใจว่าขอให้ได้ไปกราบท่านสักครั้งหนึ่งก็ถือเป็นบุญ

เพื่อนของอาจารย์ทำงานที่อุดรธานีเมื่อมีโอกาสไปเยี่ยมเลยขอให้ช่วยพาไปที่วัดหินหมากเป้ง หนองคาย
เพื่อนก็ดีใจพาไปตามคำขอ เมื่อไปถึงวัดเวลาบ่าย3-4โมงหลวงไม่ได้อยู่ตรงที่ท่านรับแขก
เพื่อนบอกว่าคงไม่ได้พบแล้ว อาจารย์บอกว่ารอสักครู่แล้วเดินไปคุกเข่าหน้ารูปภาพของท่าน
นึกถึงครูบาอาจารย์ อธิษฐานกับรูปท่านว่า ขอมากราบนมัสการไม่ได้มารบกวนอัไรถ้าท่านจะกรุณาขอให้ได้พบ
นั่งอยู่ครู่หนึ่งมีพระเดินมาบอกว่าให้รอตรงนี้เดี๋ยวหลวงปู่จะออกมาพบ
อาจารย์เรียนท่านว่า "ไม่เป็นไรหรอกครับ ฝนกำลังตก พวกผมไปหาท่านก็ได้ ขอกราบท่านเท่านั้นแล้วก็จะกลับ"

พระท่านบอกว่าไม่ได้หรอกโยม เพราะหลวงปู่สั่งไว้เช่นนี้

พวกเรานั่งรอสักพักหนึ่ง ท่านเดินถือไม้เท้าออกมา มีสง่าราศีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส
ซึ่งยังติดตาตรึงใจจนถึงทุกวันนี้ พอท่านนั่งลง ท่านก็ซักถามมาจากไหน
และปรารภธรรมให้ฟังสักครู่หนึ่งอาจารย์ก็ลากลับ

พอตั้งจิตจะกราบท่าน หลวงปู่ท่านนั่งเข้าสมาธิกระแสเยือกเย็น และสว่างไสวมาก
ออกมาจากท่าน เพื่อนอาจารย์ถามว่าคุยอะไรกับท่าน อาจารย์บอกว่าเปล่า ตั้งจิตขอบารมีจากท่าน

เมื่อมาถึงอยุธยาไปกราบนมัสการหลวงปู่ดู่
เล่าให้ท่านฟังพอดีมีลูกศิษย์ท่านเป็นนายแพทย์อยู่โรงพยาบาลอยุธยา ถามว่า
" อาจารย์ไปหนองคาย เจอหลวงปู่เทสก์ไหม ท่านเป็นยังไงดีไหม"

หลวงปู่ดู่รีบตอบขึ้น " ท่านเป็นพระอรหันต์ดีอยู่แล้ว ไปหาท่านเหล่านี้ต้องกราบพระให้ได้ทั้ง นอกและใน
หลวงปู่เทสก์ นิพพาน มีการพระราชทานเพลิง โดยในหลวง อาจารย์ไม่ได้ไป นึกถึงท่านในความเมตตา คุณธรรม เราขอนั่งปฏิบัติบูชาท่านอยู่ทางนี้

คิดว่าถ้ามีบุญขอให้ได้พระธาตุท่านด้วยเถิด เป็นเพราะกระแสของความตั้งใจดีทำให้ท่านสงเคราะห์ก็ได้

อาจารย์พบคุณหญิง นงเยาว์ ชัยเสรี อดีตอธิการบดี ธรรมศาสตร์ ท่านไปในงานพระราชทานเพลิงหลวงปู่เทสก์
เสร็จแล้วท่านบอกว่าไปกราบร่างหลวงปู่ชอบ ที่เลย
จิตมีความรู้สึกว่าหลวงปู่เทสก์ให้กลับไปที่วัดจะให้พระธาตุ
พอกลับมาถึงปรากฎว่าตอนเผาเกิดไฟปะทุขึ้น
พระธาตุกระจัดกระจายไปทั่วบริเวณ คุณหญิงไปได้บนกอหญ้าจำนวนหนึ่ง
และได้มอบให้อาจารย์ศุภรัตน์ไว้สักการะบูชา
ซึ่งวันที่ได้รับก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นพระธาตุตั้งแต่วันนั้น
ปัจจุบันมีสันฐานกลม และคงจะเปลี่ยนไปในเร็ววันนี้ อย่างแน่นอน


หลวงปู่ดู่ บอกว่า กราบพระนอกคือ กริยาอาการกราบไหว้ กราบพระในคือการทำจิตภาวนาตามที่ท่านสอนเพื่อให้ได้รับกระแส ของพระมาไว้ในจิต ท่านบอกว่าจะได้กำไรไม่ขาดทุน ไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์หรือพระพุทธรูปก็ได้


หมายเหตุ อาจารย์ ในที่นี้คือ อ.ศุภรัตน์ แสงจันทร์



https://www.facebook.com/photo.php?fbid=615933948590572&set=gm.1175424265898526&type=3&theater

 

<iframe width="560" height="315" src="https://www.youtube.com/embed/UUolqrGdlms?&autoplay=&rel=0" frameborder="0" allowfullscreen></iframe>

 

" ธรรมดาเข้าตีข้าศึก เขาต้องตีปีกซ้าย ปีกขวา ตัดทาง
ลำเลียงอาวุธและอาหารเสียก่อน
ทำลายทีละเล็กทีละน้อย ยังเหลือแต่กองทัพใหญ่
จึงค่อยบุกเข้าตีทีเดียว
อันนี้มัจจุราชมาผจญก็เหมือนกัน แขนหัก แข้งขา
ขาดไป ตายไป เป็นชิ้นส่วนเสียก่อน
บางทีเจ็บหัว ปวดท้อง บางที ลำไส้อักเสบ
โรคภัยไข้เจ็บ สารพัดทุกอย่าง
จะต้องทรมานทรกรรม นั่งนอน อยู่กับที่ ไม่สามารถพลิกตัวได้
แต่ใจยังไม่ทันแตกดับ เป็นการทรมานอย่างแสนสาหัส
เพราะว่าเราไม่ได้เปลี่ยนอิริยาบถ
ถึงแม้จะเคยทำความพากเพียรภาวนามามาก
เท่าไรก็ตามเถิด
พอถึงตรงนั้นแล้ว มันยากที่สุดที่จะดำรงสติให้อยู่
ในตัวของเราได้

ที่ท่านว่ามรณสติให้ระลึกถึงความตาย คือให้ตั้งสติไว้ตรงนั้นเอง


แท้ที่จริงความตายนั้นไม่เท่าไรหรอก
ก่อนที่จะตายนั่นซีมันสำคัญ
จะตั้งสติรักษาจิตด้วยอาการอย่างไรให้มันคงที่
จะไม่ให้หวั่นไหว ตรงนั้นมันสำคัญที่สุด "



โอวาทธรรม
หลวงปู่เทสก์ เทสรังสี