สงสัยเรื่องผีปอบ

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย ปูเป้2255, 11 ตุลาคม 2016.

  1. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    คือวันก่อนเป้นั่งสมาธิอยู่ค่ะ แล้วเห็นหน้าแม่ของเพื่อนเป้ เพื่อนที่โดนทำคุณไสยใส่น่ะค่ะ เห็นหน้าแม่เขา แล้วเห็นผู้หญิงแก่ซ้อนอยู่ในร่างแม่เพื่อนค่ะ ผู้หญิงแก่คนนั้นผมยาวประบ่า หัวฟู มีผมสีขาวสยายทั้งหัว หน้าตาน่ากัว มีเขี้ยว เลือดเต็มปาก มองตอบกลับมาด้วยแววตาสงสัย แล้วเป้ก็ได้ยินเสียงจากข้างๆกายว่า ปอบ คือเป้ไม่เข้าใจเลยค่ะ แม่เพื่อนเป้เป็นผีปอบหรอคะ เป้งงมากเลยค่ะ แต่แม่เพื่อนเป้ตอนเป้บอกว่าลูกเขาโดนของ เขานิ่งมากค่ะ ไม่ตอบไม่พูดอะไรเลย คือเป้สงสัยน่ะค่ะ
    อีกคำถามนึงนะคะ ถ้าเราปรับภพภูมิช่วยผีปอบ หรือ ภูมิจำพวกอสูร ให้เขาหลุดจากอำนาจของอวิชชา ที่ครอบงำเขาอยู่ ให้เขามีภพภุมิที่สูงขึ้น ได้หรือไม่คะ รบกวนพี่ๆช่วยตอบเป้หน่อยนะคะ ขอบพระคุณมากค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 ตุลาคม 2016
  2. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ช่วยนะช่วยได้ แต่ให้คุณ เป้ ลองอ่านดูก่อนประกอบการพิจารณาครับ
    อันดับแรกการที่เราไปรู้ ไปเห็น เป็นการรู้เฉพาะบุคคล
    เรื่องแบบนี้หากเกิดขึ้นก็ไม่ต้องไปสนใจอะไรมากนะครับ...

    ต่อมาลักษณะที่เราเรียกว่า ปอบ ทางกิริยาด้านนามธรรมก็คือ การที่มีอีกจิตวิญญาณ
    เข้ามาสู่ร่างกายใดร่างกายหนึ่งในขณะที่ร่างกายนั้นๆยังมีชีวิตอยู่
    และก็เข้ามาทำให้ธาตุในร่างกายของผู้ที่ถูกสิงสู่ เกิดความบกพร่อง
    เป็นสาเหตุให้เกิดโรคต่างๆตามมา ในกรณีของผู้ที่ถูกสิงสู่มานาน
    จะเกิดผลเสียถึงในระดับเม็ดเลือดครับ....
    และปอบนั้นส่วนตัวถือว่าเป็นภูมิอสูรกายประเภทหนึ่ง

    การที่เราจะช่วยเหลือนั้นทำได้ แต่ฝากให้ คุณ เป้ ไปพิจารณาว่า
    เป็นกรณีแบบไหนนะครับ จะเรียงลำดับให้ตามความสำคัญ
    ที่เหลือที่ว่าอ่านเล่นๆแล้วกันครับ...
    ๑.ไปรับขันธ์มาเอง หรือ ถูกหลอกให้ไปรับขันธ์ ทั้งสองกรณีนี้
    ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆก็ตาม กรณีนี้รวมทั้งไม่ยอมรับหรือรู้ตัวว่า
    ไม่ดีแล้วต่อมา ถูกกลั้นแกล้งด้วย
    ๒.รับขันธ์สืบทอดต่อเนื่องกันมาเป็นมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ
    ๓.มีศัตรู พอคาดคะเนได้ว่า มีคนเกลียดคนชังและจ้างหมอธรรม ตำหนักทรงมากลั่นแกล้ง
    ๔.คิดไปเอง(เคยเจอชาวสวนใช้สารเคมี ต่อเนื่องมากไปแล้วตาเริ่มไม่ดี
    เข้าใจว่า ตัวเองโดนกลั่นแกล้งก็มี เพราะฉนั้นให้พิจารณาสภาพแวดล้อมร่วมด้วยครับ)

    ถ้าเป็นกรณีที่ ๒ ต้องแก้ด้วยร่างทรงเหมือนกันเท่านั้น ย้ำว่าร่างทรงเท่านั้น
    และให้ไปทำพิธีตัดขันธ์ซะ ห้ามผู้มีความสามารถพิเศษ ห้ามพระ ห้ามนักปฏิบัติธรรม
    ไม่งั้นเค้าจะทำให้ร่างนั้นเสียชีวิตด้วย

    กรณีที่ ๔ รับประทานยา พักผ่อน งดพฤติกรรมในชีวิตประจำวันที่ส่งผลต่อร่างกาย
    และเจริญสติ....

    กรณีที่ ๑ ให้ยกเลิกขันธ์ซะ หรือไปรับยันต์เกราะเพชร หรือไปหาพระสงฆ์ให้ท่าน
    ทำพิธีให้ รวมๆก็คือ บริเวณศรีษะ หรืออาบน้ำมนต์อะไรก็แล้วแต่
    บางครั้งนอกจากแก้ที่ตัวบุคคลแล้ว ยังต้องแก้ไขบริเวณรอบๆทีอยู่อาศัยร่วมด้วย
    เคยเจอกรณี ที่แถวบ้านมีปอบ แล้วปอบ ชอบคนนั้น เพราะร่างเดิมใกล้ใช้ไม่ได้แล้ว
    คือใกล้ตายอย่างนี้ก็มี ต้องแก้บริเวณรอบบ้านหรือรอบที่อยู่อาศัยร่วมด้วยครับ..

    และกรณี ที่ ๑ และ ๓ เราอุทิศส่วนกุศลได้ แต่ต้องเป็นแบบให้แล้วก็แล้วไป
    ไม่หวังผลอะไร และไม่ต้องตามผล ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นอย่างไร
    ไม่เห็นจะส่งผลถึงเราได้ทันที เพราะปกติภูมิระดับนี้ จะไม่ค่อยรับบุญ
    ดังนั้นหน้าที่เราก็คือ ให้ไปเรื่อยๆ และก็ให้ไปเรื่อยๆ ถ้ากรณีโดนกลั่นแกล้ง
    ให้ให้ไปและก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกันซะ
    ทำไปเรื่อยๆ จนกว่า ผลบุญจะมากพอจนเข้ารับไปและไปตามวิถีของเค้าเอง
    ซึ่งไม่สามารถกำหนดได้ว่า จะต้องใช้เวลาเท่าไร เพราะมีปัจจัยและตัวแปร
    หลายอย่าง แต่ให้เราทำของเราไปอย่างเดียวพอ เมื่อไรถ้าเราไม่คิดเรื่องนี้เลย
    และคนที่เราช่วยเป็นปกติ เมื่อนั้นคือว่า ไม่มีอะไรแล้ว และไม่ต้องไปย้อน
    คิดอะไรมันขึ้นมาอีกครับ

    อีกกรณีหนึ่ง คือ ดึงวิญญานบอปออกจากร่างกายนั้น และทำการตัดสายใย
    วิญญานนั่นซะ แล้วก็ปิดร่างกายด้วยวิชาพิเศษเฉพาะ และให้บุคคลนั้นไป
    ฝึกเจริญสติให้มากๆ เพื่อสร้างภูมิต้านทานให้ตนเอง

    อีกกรณีหนึ่ง คือ ใช้สมุนไพรในการรักษา ร่วมกับการฝึกอาปาฯร่วมด้วย
    ซึ่งวิธีนี้ จะเป็นวิธีที่คลอบคลุมที่สุดกว่าทุกวิธีที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น
    ปัญหาคือ บุคคลที่โดนบอปเข้าแล้วจะทำได้ยากครับ
    ปล.ประมาณที่เล่าให้ฟังนี้หละครับ

    และกรณีที่ใช้วัตถุมงคลรักษาแก้ไม่ขาดเพราะว่า
    เป็นวิบากกรรมร่วมกัน คือ ยังคิด ยังระลึก ยังนึกถึง
    ยังปรุงแต่งได้อย่างใดอย่างหนึ่งอยู่นั่นหละครับ (^_^)
     
  3. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอบคุณพี่nopphakan มากๆนะคะ เป้ได้ความรู้หลายอย่างมากเลยค่ะ ขอบคุณสำหรับแนะนำที่มีประโยชน์นะคะ ตัวเป้จะทำตามที่พี่แนะมาคือ
    และกรณี ที่ ๑ และ ๓ เราอุทิศส่วนกุศลได้ แต่ต้องเป็นแบบให้แล้วก็แล้วไป
    ไม่หวังผลอะไร และไม่ต้องตามผล ไม่ต้องสนใจว่าจะเป็นอย่างไร
    ไม่เห็นจะส่งผลถึงเราได้ทันที เพราะปกติภูมิระดับนี้ จะไม่ค่อยรับบุญ
    ดังนั้นหน้าที่เราก็คือ ให้ไปเรื่อยๆ และก็ให้ไปเรื่อยๆ ถ้ากรณีโดนกลั่นแกล้ง
    ให้ให้ไปและก็อโหสิกรรมซึ่งกันและกันซะ
    ทำไปเรื่อยๆ จนกว่า ผลบุญจะมากพอจนเข้ารับไปและไปตามวิถีของเค้าเอง
    ซึ่งไม่สามารถกำหนดได้ว่า จะต้องใช้เวลาเท่าไร เพราะมีปัจจัยและตัวแปร
    หลายอย่าง แต่ให้เราทำของเราไปอย่างเดียวพอ เมื่อไรถ้าเราไม่คิดเรื่องนี้เลย
    และคนที่เราช่วยเป็นปกติ เมื่อนั้นคือว่า ไม่มีอะไรแล้ว และไม่ต้องไปย้อน
    คิดอะไรมันขึ้นมาอีกครับ

    ขอบคุณมากๆนะคะ เป้จะเอาไปทำตามนี้ค่ะ ^^
     
  4. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เวลาอุทิศส่วนกุศล พยายามรอให้จิตใจเรามันเบาๆก่อนนะครับ
    คือถ้า เอามือจับตรงลิ้นปี่อยู่ แล้วมันยังเหมือนมีอะไรเคลื่อนไหวอยู่
    ภายใน น้อง เป้ อย่าพึ่งรีบอุทิศส่วนกุศลนะครับ เพราะใจมันยังไม่เบาพอ
    ถ้ามันเหมือนมีอะไรหมุนๆมากๆ ให้กำหนดคำว่า อโหสิออกจากกลางลิ้นปี่
    เราก่อน ลากเสียงสิยาวๆ ประมาณ ๓ ถึง ๔ ครั้ง
    แล้วจับกลางลิ้นปี่ดูใหม่ว่า นิ่งหรือยัง ถ้านิ่งแล้ว ให้กำหนด
    บุญที่เราจะอุทิศส่วนกุศลทั้งหมดให้ออกจากกลางลิ้นปี่เรา
    ออกไปยังเป้าหมาย อย่าลืมขอคุณพระรัตนตรัยก่อนอุทิศนะครับ
    พออุทิศเสร็จแล้ว ก็ให้ลืมไปเลย..
    ถ้าเป็นไปได้ แรกๆจะพูดก่อนก็ได้
    ถ้าเริ่มชำนาญ และไม่สดวกในเรื่อง ของสถานที่
    ก็ให้คิดเอา โดยที่ลิ้นกับปากไม่ต้องขยับนะครับ
    ตรงนี้เป็นทริคในการดึงจิตให้มีความเป็นทิพย์ได้ชั่วคราว
    จะทำให้เกิดผลได้ดีกว่า
    ปล ลองดูเน้อ. . (^_^)
     
  5. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอบคุณมากๆเลยนะคะพี่ nopphakan มีประโยชน์กับเป้มากค่ะ ตอนนี้เป้ท่องขึ้นใจแล้วค่ะที่พี่แนะนำมาวันก่อน เป้หัดทำทุกวันเลยค่ะ เป้จะเอาคำแนะนำจากพี่ไปฝึกให้พัฒนาขึ้นกว่าเดิมนะคะ ขอบคุณมากๆค่ะ อนุโมทนาสาธุค่ะ ^^
     
  6. Just another day

    Just another day เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 เมษายน 2011
    โพสต์:
    50
    ค่าพลัง:
    +236
    ขออนุญาตตอบจากประสบการณ์ อาจจะไม่ช่วยอะไรได้มากแต่พอเป็นข้อมูลในการช่วยเหลือผู้อื่นได้นะคะ
    เราเคยโดนคนทำของใส่ แล้ววันนึงได้พบครูบาอาจารย์ช่วย มีอยู่วันนึงเพื่อนผู้ชายที่รู้จักเขาเป็นคนที่ถือศีลชอบสวดมนต์ เขามาจับหัวแล้วบอกเราว่าไปบอกอาจารย์นะเขาเห็นอะไรซ้อนอยู่ที่หน้าเรา ให้อาจารย์เอาออกซะ

    ท่านก็บอกว่าท่านรู้แต่ตอนนั้นเราหนักมากท่านแก้ไขทีละอย่างแต่อันนี้คิดว่ายังควบคุมได้
    แต่ท่านก็เอาออกให้ ตอนที่ท่านทำพิธีเราต้องอยู่แต่ในห้องนอนหลายชม. แล้วท่านบอกคาถาให้ทำน้ำมนต์ พอท่านทำเสร็จก็ให้เอาน้ำมนต์อาบ

    อาจารย์บอกว่าแค่ปล่อยเขาออกจากเรา เขาโดนบังคับ มาครอบเราไว้ เราจะขี้โมโห ควบคุมตัวเองไม่ได้ ปวดหัวบ่อยๆ ท่านบอกปล่อยเขาไปส่วนจะไปไหนเรื่องของเขา แต่ไม่ฆ่าเขาเพราะเท่ากับฆ่าคนหนึ่งคน

    ไม่รู้ว่าพอจะช่วยอะไรไหมคะ เท่าที่ทราบคือต้องให้คนที่มีวิชามาช่วยหนะค่ะ
     
  7. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    กดอ้างอิงไม่ขึ้นนะค่ะ ตอบคุณ just another day ค่ะ

    เคสเพื่อนแม่เป้นี้ เป้แค่สงสัยน่ะค่ะ แต่ไม่คิดว่าจะเข้าไปยุ่งนะคะ แค่จะอุทิศบุญให้เฉยๆตามที่พี่ nopphakan แนะนำมาน่ะค่ะ เพราะตอนนี้เป้ต้องช่วยแก้เรื่องเพื่อนก่อนน่ะค่ะ เพราะดูแล้วเพื่อนข่อนข้างจะหนักเลยทีเดียวค่ะ แม่เขาเหมือนปกติค่ะ แต่เพื่อนเป้นี่มันไม่ปกติแล้วค่ะ พี่ในกลุ่มมาเล่าให้ฟัง ล่าสุดเจอตัวมัน เพื่อนเป้หน้าตอบมาก หน้าคล้ำมาก แล้วก็ทำเหมือนไม่รู้จักพี่เขาเลยค่ะ หลบสายตาพี่เขาค่ะ ถามก็ไม่ตอบ หนีเฉยเลย พี่เขาบอกงี้ค่ะ แต่ตอนนี้ที่เป้ทำได้คือวิธีที่พี่ nopphakan แนะนำมาน่ะค่ะ ยังไม่รู้จะทำไงได้ นอกจากวิธีนี้ค่ะ

    ขอบคุณมากนะคะ ที่ร่วมมาแชร์ประสบการณ์กันนะคะ ได้ความรู้เพิ่มค่ะ แต่เคสของเพื่อนเป้ เป้เข้าไม่ถึงตัวเค้าเลยค่ะ เป้คงทำได้เพียงตามที่พี่nopphakan แนะนำมาเท่านั้นน่ะค่ะ เพราะเพื่อนเป้ระวังตัวมากค่ะ ไม่ให้เพื่อนคนไหนที่รู้ว่าเขาโดนของเข้าใกล้เขาเลยสักคนค่ะ เค้าเลิกคบกะเพื่อนที่หวังดีกะเขาหมดค่ะ ไปคบกะอีกกลุ่มนึงที่ต่อต้านและไม่เชื่อเรื่องไสยศาตร์ค่ะไม่เชื่อบาปบุญด้วยค่ะ ตอนนี้เป้และเพื่อนๆทุกคนในกลุ่มโดนลอยแพหมดค่ะ เพื่อนคนอื่นในกลุ่มเครียดมากค่ะ พยายามหลอกล่อเขาออกมา แต่ไม่ได้ผลค่ะ เขารู้ทันตลอดและยิ่งระวังตัวหนักขึ้นอีกค่ะ คือเป้และเพื่อนๆในกลุ่มรุ้ตัวคนทำของใส่เพื่อนเป้ด้วยค่ะ เป็นเมียของเพื่อนในกลุ่มที่ต่อต้านเรื่องทางนี้นั่นล่ะค่ะ ผัวเขาไม่เชื่อเรื่องแนวนี้ค่ะต่อต้านด้วยซ้ำ แต่เมียเขาแอบเล่นของต่ำทางนี้ค่ะ พวกเรารู้ว่าพ่อผญคนนี้ฝักใฝ่ทางดำอยู่น่ะค่ะ คือพวกเราในกลุ่มพอรุ้จักผญคนนี้อยู่ค่ะ แต่พอรู้เบื้องลึกของเธอมานานแล้ว เธอพยายามจะมาตีสนิทเป้และเพื่อนๆในกลุ่มค่ะ แต่พวกเราไม่ค่อยอยากยุ่งกะเธอค่ะ เพราะทราบประวัติเธอมาพอสังเขป เธอทำงานเป็นเด็กเชียร์เบียค่ะ พวกเราพอรู้ว่าเธอชอบเพื่อนเป้ที่ถูกทำของคนนี้น่ะค่ะ แต่เพื่อนเป้โลกสวยค่ะ เขามองคนอื่นดีหมด เขาคิดว่าไม่เป็นไรค่ะเมียเพื่อน คงไม่มีอะไร เป้กะเพื่อนเตือนแล้ว เขาก็ไม่ฟังค่ะ คือผญคนนี้พยายามทำตัวเองให้น่าสงสารค่ะ มาร้องไห้กับเพื่อนเป้บ่อยๆว่าทะเลาะกะสามี ซึ่งสามีเป็นเพื่อนสนิทกะเพื่อนเป้ แต่เป้และเพื่อนๆในกลุ่มไม่สนิทกะสามีเขา แค่เคยเรียนโรงเรียนเดียวกันสมัยม.ต้นค่ะ กลายเป็นว่าเพื่อนเป้คนที่ถูกของคนนี้ เขาสงสารผญคนนี้ แต่เขาก็เคยมาเล่าให้เพื่อนในกลุ่มฟัง ซึ่งพวกเราก็เตือนค่ะ ว่าผญคนนี้ที่พอรู้มา เขาชอบยุ่งเกี่ยวกะทางดำค่ะ แต่เพื่อนเป้บอกไม่มีอะไรค่ะ บอกพวกเราคิดมาก และอีกอย่าง จริงๆเพื่อนเป้คนนี้ที่ถูกของก็มีแฟนอยู่แล้วนะคะ แฟนเขานิสัยดีค่ะ แล้วเพื่อนเป้รักแฟนมากค่ะ เป้และเพื่อนๆในกลุ่มรู้จักนิสัยเพื่อนเป้ดี มันไม่เคยนอกใจแฟนค่ะ แล้วผู้หญิงคนนี้ มันบอกเสมอว่า ไม่ใช่เสปคมันค่ะมันแอนตี้ผู้หญิงกลางคืน วันๆมันพูดถึงแต่แฟนของมันให้พวกเราฟังค่ะ เป้และเพื่อนยังแซวอยุ่บ่อยๆเลยเพื่อนในกลุ่มรู้กันหมด พอโดนของ กลายเป็นเขาเกลียดแฟนเขาไปเลยค่ะ เกลียดแฟนไม่เท่าไหร่ เลิกคบพวกเป้ด้วยนี่สิ แล้วตอนนี้พวกเราก็พอรู้ด้วยว่าเพื่อนเป้แอบไปมีเพศสัมพันธ์กะผู้หญิงคนนี้แบบลับๆแล้วด้วยค่ะ โดยที่ผัวเขาไม่รู้ แต่พวกเรารู้ค่ะ เพราะเราก็อยุ่ในกลุ่มเพื่อนด้วยกันทั้งนั้น เขามาพูดกันอยุ่ค่ะ แต่ผัวผญไม่รู้เรื่องนี้นะคะ แล้วที่เป้รับไม่ได้อย่างหนักเลยคะล่าสุดผญคนนี้มันโพสในเฟสมันบอกเป็นนัยๆว่าพวกมึงขวางกูไม่สำเร็จ เขาโพสว่า"ผู้ชายหุ่นแซ่บๆสำหรับกูคือนิพพานกูบอกได้คำเดียว" แบบพอเป้ฟังนะ ขึ้นเลย โอ้ยอยากจะถีบแม่งให้กะเด็นจริงๆ เลวไม่พอ ยังจะมาหมิ่นศาสนาอีก เอานิพพานมาเล่น คือมันรู้ค่ะว่าพวกกลุ่มเป้น่ะสนใจธรรมะ แล้วเชื่อในเรื่องนิพพานกัน เป้กับเพื่อนๆศรัทธาในธรรมมะค่ะ แต่ก็ไม่ได้เคร่งอะไรมากค่ะ บางคนเคร่ง บางคนแค่เคารพเฉยๆ แต่รวมๆแล้วเหมือนๆกันคือมีศรัทธา เชื่อในพระนิพพานเหมือนกัน แต่พวกเราก็ไม่ได้เคร่งมากนะคะ ก็ทำได้เท่าที่ทำกัน มันเลยพูดเพื่อเหยียบศรัทธาพวกเราน่ะค่ะ แบบเลวหาที่ติจริงๆ ไม่รุ้จะว่ายังไงดี แล้วตอนนี้แฟนของเพื่อนเป้เขาก็รู้เรื่องนี้แล้ว ว่าเพื่อนเป้ไปนอนกะผญคนนั้น แต่เขาทำไรไม่ได้ค่ะ ได้แต่ร้องไห้ มาปรึกษาเป้ เป้ก็สงสารมากค่ะ เราก็รักเพื่อนด้วย เพื่อนทุกคนในกลุ่มก็รักเพื่อนคนนี้มากค่ะ เพราะเขาเป็นคนดีและซื่อค่ะ พวกเราพยายามหาทางช่วยอยู่ค่ะ

    และล่าสุดนี้ พระอาจารย์ท่านบอกว่าท่านจะช่วยสวดเสริมดวงให้เป้แล้วเพื่อนๆ เราไปหาพระอาจารย์ค่ะ ท่านก็สวดให้ประมานสิบนาทีได้ค่ะ เป็นคาถาชินบัญชรกับคาถาพาหุงมหากาฬ ท่านบอกให้กลับมาดูว่าผู้หญิงคนที่ทำเป็นยังไง แต่ที่ท่านสวด เหมือนสวดป้องกันให้น่ะค่ะ พอเป้กลับบ้านมาไปเปิดเฟส เพื่อนๆในกลุ่มพูด บอกโห ผญคนที่ทำของใส่อ่ะ หน้าดำปี๋เลยค่ะ มันลงรูปล่าสุด หน้านี้ เหมือนศพเลยค่ะ น่ากลัวมาก แววตาไม่มีเลย ก็เลยโทรไปถามพระอาจารย์ ท่านบอกท่านสวดป้องกันปกติ แต่ของมันวิ่งกลับมาหาคนสั่งทำนั้นล่ะ ตอนนี้เพื่อนเป้ ยังไม่หายเลยค่ะเป้และเพื่อนในกลุ่มไม่เจอหน้ามันเลยค่ะ มันหลบหน้าพวกเรา แต่ผญคนที่ทำ หน้าก้อดำขึ้นทุกวันค่ะ ยังกะศพอ่ะค่ะ น่ากัวมาก แต่ผญคนนี้ก็ไม่มีวี่แววจะสำนึกอะไรค่ะ ยังคงโพสในเฟสแนวสะใจประมานว่า ว่ากูสวยและเก่ง อยากได้อะไรก็ต้องได้ บางทีเป้กะเพื่อนๆอยากจะไปบอกผัวเขาเหลือเกินว่าเมียมันทำเลวอะไรไว้ แต่เป้และเพื่อน ห่วงเพื่อนเป้มากกว่า ถ้าผัวมันรุ้ ผัวมันฆ่าเพื่อนเป้แน่ เราเลยหุบปากและช่วยปิดกัน โคตรอึดอัดเลยค่ะ และถึงตอนนี้ พระอาจารย์บอกให้อโหสิให้เขา เป้และเพื่อนก็ทำตามนะคะ ตอนนี้ก็หาวิธีช่วยเพื่อนอย่างเดียวค่ะ

    ยังไงก็ขอบคุณนะคะที่ร่วมแชร์ประสบการณ์กันค่ะ ^^
     
  8. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010

    เล่าให้ฟังเล่นๆอ่านพอให้แค่รู้ๆไว้เป็นพอ
    ปกติถ้ากรณีโดนของเข้าตัว ทั่วๆไปคือจะปวดศรีษะ
    บางทีมันปวดมากแบบว่าเหมือนปวดมาจากข้างในกระโหลก
    ไม่ใช่แบบปวดข้างนอกที่ทานยาแล้วอาการจะดีขึ้นเหมือนทั่วไป
    ตามมาด้วยอารมย์แปรปรวณหรือขี้หงุดหงิดนั่นหละครับ
    และก็ตามมาด้วยการเป็นคนสองบุคลิก และตามมาด้วย
    การควบคุมตัวเองไม่ได้ในบางครั้ง การควบคุมตัวเองไม่ได้
    และสองบุคลิกนี้มักจะเป็นช่วงวันโกนวันพระร่วมด้วย
    แต่ถ้าเดิมเคยเป็นคนที่พอมีสัมผัสมาบ้าง แล้วโดนกระทำ
    อาการที่เห็นได้ชัดก็คือ จะเป็นคนที่หลงตัวเองได้อย่างคาดไม่ถึง
    รับฟังความคิดเห็นอื่นๆได้ยาก ไม่ค่อยฟังใคร
    หลงตัวเองนี้ก็คือลึกๆจะคิดว่าตนเป็นผู้วิเศษ
    หรือบุคคลสำคัญอย่างใดอย่างหนึ่งและยึดติดกับ
    สัมผัสสิ่งที่ตนเห็นเสมือนเป็นเรื่องจริงในชีวิตประจำวัน
    แม้ว่า ความสามารถในการทำได้และกำลังจิตจะต่ำ
    ตลอดจนไม่สามารถรู้ได้ถึงเหตุในการทำอะไรต่างๆได้
    คือสอนและแนะนำในสิ่งที่ตนคิดว่าตนรู้ไม่ได้ก็ตาม
    แต่ก็จะหลงตัวเองได้อย่างไม่น่าเชื่อ และไม่ว่าจะแบบทั่วไป
    หรือแบบที่พอมีสัมผัสมาบ้าง
    หากปล่อยไว้นานกว่านี้อีก ก็จะป่วยภายใน แบบเรื้อรัง
    คือรักษายังไงก็ไม่หายซักทีไม่ว่าจะด้วยวิธีการใดๆ
    และถ้านานกว่านานกว่านี้อีกก็ถึงจะเป็นระดับเข้าในระดับกระแสเลือด
    ถ้าพ้นจากระดับกระแสเลือดแล้วไม่มีการรักษาหรือได้รับ
    การช่วยเหลือก็รอเวลาหรือเตรียมตัวเสียชีวิตได้เลย
    ยกเว้นว่าจะใช้สมาธิบวกกับสมุนไพรก็มีโอกาสที่
    พอหายได้แต่ก็อย่างว่า ยากหน่อย
    เพราะเค้าไม่ค่อยยอมรับฟังอะไรง่าย
    และจะมีความมั่นใจในตัวเองสูงเป็นทุนนั่นเองครับ

    ส่วนการสังเกตุภายนอก ถ้าไม่สังเกตุจะดูได้ยากหน่อย
    แต่ถ้าสังเกตุจะพบว่า ผิวพรรณจะดูแบบแห้งๆหน่อยหนึ่ง
    เวลาพูดคุยตาจะดูลอยๆเล็กน้อย และเวลาพูดคุยจะคล้ายๆ
    เหมือนๆมีอีกหน้าซ้อนๆทับอยู่เวลาพูดคุย และที่สำคัญ
    ตาจะดูเหมือนตกลงมาเล็กน้อย ที่เล่ามาบางทีแม้ว่า
    จะคุยกันหรืออยู่ใกล้ๆกันก็ดูแทบไม่ออกก็มีนะครับ...

    ส่วนกรณีรักษาก็มีหลายวิธี แต่โดยมากถ้าเป็นพระสงฆ์
    ท่านมักจะใช้วิธีการที่นิ่มนวลหน่อย คือ ถ้ารักษาเฉพาะ
    ก็จะมีการสวดมนต์ ทำพิธีแล้วจบด้วยการอาบน้ำมนต์
    และก็มีการเป่าปิดหรือเขียนยันต์ปิดที่กระโหลกศรีษะเรา
    วิธีการนี้คล้ายว่า ใช้พุทธคุณในการนำดวงวิญญานออกนั่นเอง

    ส่วนวิธีการดึงออกแล้วตัดสายใยก็มี แล้วเขียนยันต์ปิด
    แต่ที่เหมือนกันก็คือ เมื่อวิญญานออกแล้ว ผู้ที่นำออกก็คือจะไม่เกี่ยวแระ
    ปล่อยให้เป็นเรื่องของครูบาร์อาจารย์และดวงวิญญานจะเป็น
    อย่างไรก็ปล่อยไปตามวิบากของดวงจิตนั้นๆ
    หรือในวงการของผู้ที่มีความสามารถทำได้
    จะเรียกว่า การไม่ทำให้ภาคส่วนภพภูมิ
    ได้รับการกระทบกระเทือนนั่นเองครับ(^_^)


    ยกเว้นว่า ในกรณีที่เป็นสายดำแบบมีเจตนาจ้องทำร้ายทำลายชีวิต
    ร่วมด้วย พวกนี้อาจจะมีการย้อนกลับคืนสู่ผู้กระทำได้...
    ที่ย้อนไม่ใช่เพราะผู้ที่ถอนได้แล้วส่งคืนนะครับ
    คือย้อนคืนจากวิบากที่ซ่อนมากับคาถาที่ผู้ไม่หวังดี
    เป็นผู้กระทำมาตั้งแต่แรกนั่นเอง

    แต่ถ้าเป็นกรณีร่างทรง หมายถึงแบบที่เจ้าตัวยอมเอง
    และเป็นดวงวิญญานในระดับที่ไม่สูง นานเข้าให้สังเกตุดู
    ที่ข้อมือหรือข้อเท้ากลุ่มคนเหล่านี้จะบวมทุกคนและที่เหมือนกัน
    อีกอย่างก็คือจะเป็นโรคร้ายแรง เนื่องจากธาตุพร่องมานาน
    จากการยอมให้เข้ามาของเจ้าตัวนั่นเองครับ

    แต่สิ่งที่ไม่ควรลืม คือการฝึกเจริญสติสร้างสมาธิสะสมหลังจากที่
    รักษาหายแล้วนะครับ
    เพราะการที่เราไม่นึก ไม่คิด ไม่ปรุง ไม่สน
    ก็เป็นเสมือนการแก้วิบากตรงนี้ได้นั่นเองในระดับหนึ่ง
    และกำลังสติและสมาธิสะสม และเคารพพระรัตนตรัย
    รวมทั้งความสม่ำเสมอของศีลที่มี จะเสมือนเป็นภูมิต้านทาน
    ให้ตัวเองได้เป็นอย่างดีแบบอัตโนมัติ
    เข้าทำนอง ''ตนแลเป็นที่พึ่งแห่งตน'' (^_^)

    ส่วนวิธีการแก้ ก็ตามที่เคยเล่าให้ฟังไปแล้วใน #2
    ก็ขึ้นอยู่กับรูปแบบและวิธีที่ได้รับ
    ความสามารถในการดึงและตัดสายใยวิญญานได้นั้น
    มีข้อดีตรงที่ เราไม่ต้องใช้วิธีการเฉพาะในการแก้
    วิชาสายดำเฉพาะทางได้นั่นเอง แต่บางกรณี
    ก็ต้องแก้ให้ตรงจุด ซึ่งแล้วแต่กรณีไป
    ปล ประมาณนี้...(^_^)
    การเป็นผู้กระทำไม่ใช่ทางพุทธศาสนา
    เป็นรูปแบบวิถีของอสูรกายบางกลุ่มครับ
    ซึ่งพวกนี้มักเป็นเหลือบอาศัยหากินอยู่ร่วม
    กับพุทธศาสนามานานคือชอบเอามาอ้างร่วมด้วยนั้นหละ
    และมีมานานแล้ว
    และการที่ถูกกระทำนั้น ก็คือการพยายาม
    ดึงภูมิจิตเราให้ไปทางด้านอสูรกายนั้นเองครับ
    ไม่เหมือนผีท้องถิ่น ผีโบราณนะครับ เค้าไม่เอาพุทธอยู่แล้ว
    และมีมาก่อนจะมีพุทธศาสนา
    และยอมรับสืบทอดกันมาเป็นวัฒนธรรมของเค้าครับ

     
  9. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    ขอบคุณพี่ nopphakan มากเลยนะคะ ที่มาให้ความรู้เป้และคนอ่านท่านอื่น เป็นประโยชน์มากค่ะ พี่พูดถูกเลยค่ะ ล่าสุดพี่ในกลุ่มที่นับถือกัน แกชื่อพี่วุด มาหาเป้ที่ห้องกลางดึก ประมานสามทุ่ม ตอนแรกเป้ก้อไม่รุ้ว่าพี่วุดมีเรื่องไร แกไม่โทรมาก่อน แต่ตอนที่แกเข้ามาในห้อง เดินคอตกมา หน้าบอกบุญไม่รับ นั่งกุมขมับเลยค่ะ พอถามไปถามมา ก็เป็นเรื่องไอซีนี่ล่ะค่ะ แกบอกว่า พอรู้อยู่ว่าเพื่อนๆในกลุ่มพูดกันว่าไอซีมันโดนของแรง ตอนแรกแกไม่เชื่อนะ บอกตรงๆ แกบอกเมื่อวานแกเจอไอซี แกบอกว่า มันเปลี่ยนไปมาก ดูเหมือนพวกอีโก้สูง พูดจาเลื่อนลอย ตามองต่ำตลอด หน้าคล้ำตอบ เดินวนไปมาทั้งวัน พอพี่แกถามว่ามึงเป็นอะไรเดินทั้งวัน มันตวาดใส่พี่แกมา ว่าเรื่องของผม ซึ่งพี่แกมองแล้ว แกบอกมันไม่ใช่ไอซีเลย แถมพุดจาอะไรเสือกมีหลักการ แต่ฟังแล้วขัดๆหูไงชอบกล พี่แกบอก แต่มันดูยังไง ก็ไม่ใช่ไอซีอยุ่ดี มันนั่งเหม่อทั้งวัน แล้วเมื่อวานพี่แกก็ชวนมันมาหาพวกเป้ กลายเป็นว่ามันออกแนวร้อนรน บอกผมเลิกคบพวกมันแล้ว พี่แกถามเรื่องไรมึงถึงเลิกคบเพื่อน พวกมันดีกะมึงจะตาย มันบอกเรื่องของผมอย่ามายุ่ง พี่วุดแกหน้าหงายเลย เพราะไอซีมันปกติจะเคารพพี่วุดมาก จะไม่กล้าพุดจาแบบนี้ใส่แก คือตอนนี้พี่วุดบอก มันหลบหน้าพี่วุดไปเลย ไม่มาหาแกที่บ้านอีก แกโทรไปไม่รับสาย พี่วุดมาถามเป้ว่าจะเอาไงดี ตอนแรกกูไม่เชื่อเลยว่ามันโดนของ เพราะพี่แกไม่ค่อยเชื่อไสยศาตร์ แต่แกบอกว่า พอแกเจอมัน แกเชื่อสนิทใจเลยว่าโดนจริงๆ แกบอกมันไม่ใช่ไอซีคนเดิมเลย คือพี่วุดแกจะรักไอซีมากค่ะ แกสนิทกันมาก เเกบอกว่า จากเด็กนิสัยดีมีน้ำใจ กลายเป็นเด็กเหี้ยไปเลย แกเครียดมาก พี่ก้องเพื่อนพี่วุดอีกคน ประกาศเลยว่าห้ามไอซีเข้าบ้านแก ไม่รู้มันไปทำเรื่องไว้ พี่วุดแกไม่ยอมเล่าค่ะ เล่าแค่ว่า มันไปทำเรื่องไว้ที่บ้านกู จนไอ้ก้องไม่ให้มันเข้าบ้านละนะ แต่แกไม่ยอมเล่าว่าเรื่องไร ตอนนี้เพื่อนทุกคนในกลุ่มแตกเป็นสองฝั่งล่ะ กลุ่มนึงรู้ว่ามันโดนของ พยายามจะหาทางช่วย เป้ก็บอกให้ช่วยๆสวดมนต์ให้มันตามที่พี่nopphakanแนะมา บางคนรู้ว่ามันโดนของ แต่รับนิสัยพฤติกรรมมันไม่ได้ กลายเป็นแอนตี้ไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันหลบหน้าเพื่อนทุกคน ไปอยุ่กะอีกกลุ่มที่เป็นกลุ่มของแฟนของผู้หญิงที่ทำของใส่มัน ไปอยุ่แต่บ้านผญคนนั้น ซึ่งเพื่อนๆเป้ กะเป้ ไม่ค่อยถุกกับกะกลุ่มนั้น แค่รู้จักกันเพราะเคยเรียนโรงเรียนเดียวกันตอนม.ต้นเท่านั้นค่ะ แล้วพี่พูดถุกเลยค่ะ เมื่อก่อนมันรักพระสัมมาเป็นจิตใจ มันต่อต้านอวิชชา ตอนนี้ในเฟสมัน มันเรียกแทนตัวเองว่าข้า อย่ามายุ่งกะข้า ที่เป้ตกใจคือ มันพิมม์ในเฟสว่า อย่ามาดูถูกอาคมกู จำไว้!! แบบนี้ค่ะ คือ เป้และเพื่อน งงมาก แล้วมันเขียน ตำแหน่งที่มันอยุ่ คือ โลกทิพย์ ซึ่งเป้ หนักขึ้นอีกค่ะ แล้วล่าสุดมันโพสอีก เป้อ่านแล้ว งงๆ มันประกาศตัวเป็นจอมขมังเวทย์ค่ะ แล้วพูดแบบนี้ เป้ไม่เข้าใจความหมาย พี่nopphakanพอทราบไหมคะ มันพูดว่างี้ค่ะ

    #พอตั้งแต่ฝึกวิชาวัชรธาตุแย้ว ..อยากกินแต่น้ำผึ้งจิง ..ทั้งที่เมื่อก่อนไม่เคยกินไม่เคยชอบ ..แปลกดีเนอะต้องเป็นของป่าแท้ด้วยน่ะ ..สู้ๆ ..ต้องเป็นหนึ่งเดียวกับธาตุกายสิทธิ์ ..จิตต้องเป็นเอกภาพก่อน ..ถึงจะประสานร่างได้สมบูรณ์แบบ^^

    กราบขอบพระคุณท่านอาจารย์พญาสมิงเหล็กด้วย ..ที่อบรมสั่งสอนลูกมาตลอด ..ลูกมีวันนี้ได้ก็เพราะได้ท่านช่วยไว้ ..ลูกจะตั้งจัยร่ำเรียนวิชา ..ให้สมปรารถนาที่ท่านหวังไว้^^

    เอิ่มมม เป้ งงค่ะ ไม่เข้าใจ เพื่อนเป้มันไม่เคยสนใจไสยศาตร์ ออกแนวแอนตี้ มันจะแทนตัวว่า ซี นี่มันแทนตัวเองว่าข้า ตำแหน่งที่มันอยุ่ มันเขียนว่า โลกทิพย์ เป้มึนเลยค่ะพี่ เจอแบบนี้ ( -_-" )
     
  10. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    อ่อยังมีอีกค่ะ เป้เกือบลืมไปค่ะ ช่วงที่ซีมันหายไปจากพวกเป้ มีวันนึงไอเต้เพื่อนในกลุ่มคนนี้เขามีสัมผัสค่ะ เป็นคนชอบเจอผีเห็นผีบ่อยๆ เป็นคนขี้กลัวผีมาก มันมาเล่าให้ในกลุ่มฟังว่า กูเห็นไอซี ก็เห็นมันแวบเดียว มันมาร้องไห้อยู่ที่หลังบ้านกู มันบอกว่า ช่วยกูด้วย แล้วหายไปเลย ตอนแรก เป้คิดว่า ไอห่ามึงเมาป่าว มึงคงคิดมากไปเอง พอหลังจากนั้นสามวันได้ค่ะ เจน น้องในกลุ่มอีกคนมาบอกเป้ พี่เป้ๆ หนูเห็นพี่ซี หนูกำลังจะนอน หนูได้ยินเสียงร้องไห้ บอกช่วยพี่ด้วย เจนตกใจมาก เห็นแค่แวบเดียว ตรงกันกะที่ไอเต้เห็นคือ ไม่ใส่เสื้อค่ะ
     
  11. The eyes

    The eyes เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    968
    กระทู้เรื่องเด่น:
    3
    ค่าพลัง:
    +2,638
    ฟังดูหนักกว่าคนแถวบ้านอีกนะคะ ^_^ สู้ๆค่ะ

    ส่วนรายนั้นที่ว่า จะเรียกว่าป้าสะใภ้ก็ได้ค่ะ เป็นภรรยาของลุง(ไม่สนิทกันเท่าไหร่) ซึ่งได้เลิกกับภรรยาเก่า (น่าเสียดายมากค่ะ ตอนอยู่กับภรรยาเก่าช่วยกันทำร้านอาหารชายทะเล จนหลายคนเรียกเสี่ยเลยด้วยซ้ำ อีกทั้งร้านนั้นก็ได้ลงหนังสือพิมพ์ เชลชวนชิมก็การันตรีความอร่อย เรียกได้ว่าใครมาหาดนี้ต้องรู้จักชื่อร้านนี้เลยค่ะ ) แต่เมื่อเลิกกับภรรยาโดยไม่เอาอะไรติดตัวมาเลย และต่อมาได้พบภรรยาใหม่ ลุงก็มีนิสัยเปลี่ยนไป จากเดิมไม่ชอบเข้าทรงองค์เจ้า กลับกลายเป็นว่า ที่บ้านลุงมีหิ้งบูชา กุมาร พ่อปู่ ลฯล
    วันๆไม่ทำอะไร ป้า....จะนั่งสวดมนต์ขอเลข แทงหวย บางครั้งก็ไปหาอาจารย์ของป้าบ้าง แม่ดิฉันเคยไปเป็นเพื่อนสองครั้ง ดีแต่ว่าครั้งแรกดิฉันโทรไปหาตอนแม่อยู่ที่นั่นพอดี จึงบอกเล่าและเตือนว่าสิ่งใดไม่ควรรับรึทำ
    แม่เล่าว่าในบางครั้งป้าจะพูดคุยด้วยเสียงเด็ก คล้ายๆกุมารสิงร่างค่ะ และแม่ยังว่า ป้าจ้างให้แม่ไปตักน้ำใต้ท้องเรือมาให้ เอาแมวไปปล่อยบ้าง มำโน่นนี้นั่นบ้าง ผลสรุปสุดท้ายเมื่อเรื่องถึงที่สุด แม่ก็มานั่งหวนคิดได้ว่า สงสัยลุงจะโดนทำของจากป้านี่ละค่ะ เพราะตั่งแต่ได้ภรรยาคนนี้ ชีวิตมีแต่ทรุดลงๆ จากที่เคยเป็นหลักเป็นฐาน เป็นผู้นำ กลับกลายเป็นคนกลัวภรรยา ภรรยาว่าไงป้าว่าตาม สุดท้ายต้องหนีไปอยู่ที่ไหนก็ไม่รู้ค่ะ
    มันเป็นอะไรที่แปลกมากค่ะ ขนาดดิฉันบอกแม่ เตือนแม่เกี่ยวกับเรื่องเข้าทรงองค์เจ้า แต่แม่ดิฉันก็ยังว่าป้า....ดีอย่างงั้นอย่างงี้ มีหลายครั้งที่มาเกี่ยกล่อมดิฉันเพื่อให้ลงทุนต่างๆนานา ดีแต่ว่าเมื่อดิฉันประมวลคำพูดแล้ว เห็นว่ามันขัดความเป็นจริง จึงไม่สนใจที่จะไปร่วมทุนกับป้าไม่เช่นนั้นคงจะเดือดร้อนกว่าที่เป็นอยู่นี้อีกค่ะ สติการพิจารณาก็เป็นสิ่งสำคัญในเบื้องต้นเหมือนกันนะคะ
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    จะเล่าอะไรให้ฟังนะ...
    นิสัยที่เค้าแสดงออกคือเป็นปกติอย่างนั่นหละครับ
    เรื่องธรรมดา มีมานานแล้ว อยู่คู่พุทธศาสนานี่หละ
    แต่ก็จะดูไฮโซกว่า ร่างทรง หรือ การสืบเชื้อหน่อย
    เพราะสืบเชื้อหรือร่างทรงจะปฏิเสธพุทธศาสนาเลย
    แต่พวกนี้มักจะเอาพุทธศาสนามาอ้างแต่
    พฤติกรรมทางจิต ทางกายจะตรงกันข้ามกัน
    ใน กทม ก็ยังมีแบบนี้นะ จะบอกให้

    และกิริยาที่จะพูดแบบนั้นเลย ประมาณว่าตรูนี่หละเก่ง
    อะไรทำนองนี้หละ นอกจากบุคคลิกที่เปลี่ยนไป
    และทำอะไรก็ตามสังเกตุได้ จะเป็นไปเพื่อตัวเองล้วนๆ
    คือเพื่อยกพัฒนาตัวเองไม่ว่าทางด้านใดด้านหนึ่ง
    และที่สำคัญก็คือ จะไม่สนใจเรื่องการเจริญสติ
    เรื่องเดินปัญญา และก็จะเริ่มห่างไกลพุทธศาสนา
    เรื่อย เอาไปเอามา ก็จะเริ่มเก่งกว่า เทพโน้นนี่นั่นหละ
    เอาไปเอามา ตีตัวเสมอพระพุทธเลยก็มี
    และมักจะเข้าใจ ตัวเองจะมีกายวัชระหรือกายทิพย์พิเศษ
    อะไรที่ไม่มีอาวุธใดๆมาทำลายด้วยนั่นหละ ซึ่ง
    กายวัชระนั้นจริงๆเป็นทางสายมหายานนะ
    ที่ท่านเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อเป็นกายที่เหมือนเป็น
    มาตราฐานที่เวลาปรากฏที่ไหนก็ตาม
    คนจะเข้าใจได้เหมือนกันหมด ซึ่งก็มีอยู่
    แต่พวกที่บำเพ็ญสายอสูรกาย มักจะเอามาหลอกหล่อ
    เพื่อให้หลงเข้าไปในแนวทางของเค้า
    สังเกตุได้ พวกนี้จะบ้าอิทธิฤิทธิ์ ฝึกอะไรก็เน้นฤิทธิ์เพิ่มฤิทธิ์
    อะไรของเค้านั่นหละ ซึ่งปัจจุบันก็ยังมีอยู่
    ในกลุ่มบุคคลที่มีวิบากทางด้านนี้
    แต่ถ้า บุคคลทั่วไปเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยแล้ว
    นอกจากจะบุคคลิกเปลี่ยน ความสามารถที่มี
    แบบรับรู้ภายในดีมากๆ แต่ว่าพวกนี้จะขาดอย่างหนึ่ง
    ก็คือเรื่องกำลังจิต(เป็นเหตุที่เค้ามักเอามาอ้างเวลาไป
    ที่ไหน แล้วเจอพระพุทธต่างๆ เจอเทพต่างๆระดับที่
    เรารู้ว่าสูง เค้ามักจะอ้างว่าเป็นสิ่งไม่ดี เป็นมารนั่นหละ
    จริงๆคือ เค้าไม่มีกำลังจิตต้านทานไง)
    และพวกนี้มักจะเป็นโรคที่รักษายังไงก็ไม่หายขาดซักที
    พูดง่ายๆว่าโรคเรื้อรังนั่นหละ แต่ละโรคที่เป็นเนี่ย
    เป็นสาเหตุให้เสียชีวิตได้ทั้งนั้น


    และสิ่งที่บุคคลเหล่านี้จะพลาดก็คือ อยากได้อะไรแบบทางลัด
    อยากมีอะไรพิเศษๆแบบที่ไม่ต้องฝึกอะไรยุ่งยาก
    ที่สำคัญก็คือ ยังไม่เคยฝึกสติฝึกเดินปัญญามาก่อน
    ยิ่งจะเสร็จง่าย เพราะว่าจะถูกควบคุมจากกระแสภายนอกได้
    จนรู้สึกว่า นั่นเป็นเรา มีอารมย์ความรู้สึกไปทุกเรื่อง
    เสมือนเป็นจริงเป็นจัง
    วิธีการหลอกหล่อมีหลายแบบ เช่นให้ฟังเพลงแล้วให้เคลิ้มๆ
    หรือหลอกว่า เราเป็นระดับโน้นนี่นั้น แล้วเอาเราไปฝึก ซักพัก
    หลอกให้ยกขันธ์ ดังนั้นจึงเป็นการหลอกหล่อที่ง่ายมากสำหรับ
    คนอยากมีอะไรพิเศษๆแบบง่ายๆ ยิ่งหลอกว่าเคยเป็นระดับสูงๆ
    มาด้วย มีหน้าที่โน้นนี่นั้นด้วย ยิ่งหลอกง่ายเข้าไปอีก...

    ที่นี้เมื่อจิตยังไม่เคยคลายตัว หรือไม่มีกำลังสติเพียงพอ
    ที่จะรับรู้เข้าใจนามธรรมอะไรได้ เมื่อหลงเข้าไปแล้ว
    ก็จะนึกว่า ที่มาแหย่จากภายนอกกลายเป็นตัวเราเอง
    จนลืมไปว่า โลกแห่งความเป็นจริง เราก็ยังเป็นมนุษย์
    แต่จะเอาภายนอกที่ยึดเข้ามาแทนตัวตน สร้างเป็นอีก
    ตนขึ้นมาอย่างที่เราได้ยินเค้าพูดๆมานั่นหละ ส่วนจะเป็น
    อะไรก็สุดแล้วแต่ กิเลสลึกๆที่พาไป ใครหลงตัวเองมากหน่อย
    ก็จะเป็นพระพุทธองค์ใดองค์หนึ่ง น้อยหน่อยก็จะเป็นเทพโน้นนั่นนี่
    หรือพระโพธิสัตว์องค์โน้นนั่นนี่ เอาเป็นอะไรก็ตาม
    มีแต่ระดับเท่ห์ๆ ไม่มีธรรมดา

    แต่เชื่อไหมว่า เจอกระแสพระพุทธเสร็จทุกราย
    หรือเจอคนมีกำลังจิตหน่อยรับรองไม่รอด
    แต่ก็จะพูดประหนึ่งว่า ตนเองเก่งกว่า เหนือกว่า
    ดีกว่า ประเสริฐกว่า แต่พฤติกรรมที่แสดงออก
    จะตรงกันข้ามกัน และมักจะมาด้วยการอ้างโน้นนี่นั้น
    ประกอบกับการยกตนเองร่วมด้วย

    เรื่องนี้พอคุยได้สนุก พอมีประสบการณ์ตรง
    กลับบุคคลลักษณะนี้มาบ้าง ๓ ถึง ๔ คน
    เมื่อซักประมาณ ๓ ปีก่อน
    ถ้าปอบเข้าเนี่ย ล่าสุดไม่กี่สัปดาห์
    จังหวะไปเจอพระสงฆ์มีชื่อท่านหนึ่งพอดีๆ
    ปล. พอขำๆเน้อ(^_^)
     
  13. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    ตอบพี่ dawlong เหลือเชื่อมากเลยค่ะที่ปัจจุบันเรื่องแบบนี้มีอยู่จำนวนมาก ฟังแล้วรู้สึกเกิดเวทนาเลยค่ะพี่ สงสารคนที่โดนจริงๆค่ะ ขอบคุณที่ร่วมแชร์ประสบการณ์นะคะ ^^
     
  14. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    ตอบพี่ nopphakan จริงๆค่ะพี่ พี่พูดมาถูกเลยค่ะ มันมีทุกอย่างยกเว้นสติ ไอซีเนี่ย มันไม่เคยฝึกสติ มันจิตอ่อนมากค่ะ เวลามันทะเลาะกะแฟนมัน มันจะอยู่ๆร้องไห้โฮออกมา จนเพื่อนๆต้องเขาไปกล่อมให้ใจเย็น มีอยุ่หนนึงพี่วุดต้องเข้าไปบอกมันว่าซีใจเย็นๆ มีสติหน่อย เวลามันเสียใจ ไม่ค่อยมีสติ มันมีนิสัยขี้หึงมาก แล้วแฟนมันมีผู้ชายมาชอบเยอะ แต่เเฟนมันเขาไม่เล่นด้วยนะค่ะ เท่าที่เป้และเพื่อนเห็น พี่เขาคือแฟนซีวางตัวดีค่ะ แต่ไอซีมันขี้หึงไปเองค่ะ พี่เขาไม่ได้เล่นด้วยกับผู้ชาย ตรงข้ามพี่เขาเรียบร้อยดูเป็นคุณหนู ไม่ใช่ผู้หญิงเที่ยวเลยค่ะ เป้ก็เหมือนมีลางสังหรณ์ก่อนจะเกิดเรื่องนี้ เป้บอกซีว่ามึงไปสติให้มากๆนะซี มึงเป็นแบบนี้ เด๋วมึงจะแย่เอาได้ แต่ปกติซีมันไม่มีอะไรนะคะ คือมีแค่เวลาเสียใจ ไม่มีสติแค่นั้น แต่เวลาปกติมันก็ดีอยู่ค่ะ ชอบอ่านธรรมมะ คุยธรรมมะ มันชอบนั่งกรรมฐาน แต่ไม่เคยฝึกสติค่ะ มันบอกเป้ว่ามันไม่ชอบสวดมนต์ แต่มันชอบนั่งสมาธิอย่างเดียว คือเป้ก็บอกมันว่า กูว่ามึงควรฝึกสติก่อนนะ เพราะมึงชอบสติแตกเวลางอนแฟนมึงน่ะ กูสงสารพี่เขา มึงชอบไปงี่เง่าใส่พี่เขา พี่เขาก็อดทนกะมึงมากนะ ประมานนี้ค่ะ

    เป้มีคำถามอย่างนึงค่ะพี่ เป้มีความรู้สึกว่า ที่เป็นซีตอนนี้ ไม่ใช่ซี แต่เป้รู้สึกว่าซีโดนกดไว้ในร่าง นี่เป้ไม่รู้ทำไมถึงรู้สึกงี้ค่ะพี่ เป้ก็สับสนค่ะบอกตรงๆ แต่มันรู้สึกแบบนี้จริงๆค่ะ งงเหมือนกันค่ะ^^
     
  15. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    ความรู้สึกอย่างงั้นเรื่องปกติไม่มีไรหรอก
    มันเป็นการรับรู้ได้ปกติของจิต..
    ส่วนทางนั้นก็ต้องให้เวลาอีกซักพัก
    อย่างน้อยก็ต้องรับวิบากอะไรบ้าง
    อีกซักพัก เค้าก็จะเริ่มสำนึก
    อโหสิอะไรได้ของเค้าเองนั้นหละ
    เพียงแต่คนนั้นถ้าเค้าจะทำ
    ให้เค้า ย้ายจุดจากกลางลิ้นปี่
    มาเป็นที่ท้ายทอยแทน..(^_^)
     
  16. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    555 เป้ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ พี่nopphakan ย้ายจุดจากลิ้นปี่ มาเป็นท้ายทอยแทนคืออะไรหรอคะ ทางนั้นที่จะเริ่มสำนึกและอโหสิ ทางนั้นคือใครหรอคะ คือ เพื่อนเป้หรอคะ ไอ้ซีอ่ะหรอคะ แฮ่ๆ ไม่เข้าใจอ่ะค่ะ
     
  17. sathu-sathu

    sathu-sathu เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2014
    โพสต์:
    267
    ค่าพลัง:
    +443
    พูดถึงเรื่อง ผีปอ.. แม่โทรมาเล่าเมื่อวานว่า ป้าโดนผีปอ.. เข้า
    เรื่องของเรื่องผีมันนั่งมาท้ายกะบะ รถพี่คนนึง แต่พี่เค้าจะขับรถไปหาหลวงพ่อในวัด
    ผีเห็นจะเข้าวัด... เลยกระโดดลงท้ายกะบะ ประจวบเหมาะกะป้ายืนอยู่ ..ป้าล้มทั้งยืนค่ะ

    ก็เลยพาป้าไปหาหลวงพ่อ.. ผีที่สิงป้าอยู่ก็ร้องไห้เล่าว่า "ไปอยู่หมู่บ้าน.... (เป็นหมู่บ้านติดกัน) นานแล้ว
    รอไปอยู่คนกับชื่อ.... แต่เค้าไม่ให้อยู่ อยู่ตรงไหนก็ไม่ได้
    ก็เลยวนเวียนอยู่หมู่บ้านนั้น จนกระโดด ขึ้นท้ายกะบะรถคันนี้ พอเห็นรถจะเข้าวัดก็เลยกระโดดลงรถ มาเข้าป้าพอดี
    :boo:

    หลังจากที่หลวงพ่อ ท่านทำพิํธีไล่ออก ป้าก็รู้สึกตัว งง ว่ามาทำอะไรกันที่วัด :boo:
     
  18. ปูเป้2255

    ปูเป้2255 Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กันยายน 2016
    โพสต์:
    41
    ค่าพลัง:
    +35
    น่ากลัวนะคะแบบนี้ ทั้งน่าสงสารผี กะ คุณป้า แล้วก็น่ากลัวด้วย
     
  19. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,430
    ค่าพลัง:
    +35,010
    เค้า = ไอ้ซี
     
  20. น้ำเกลี้ยง

    น้ำเกลี้ยง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 กุมภาพันธ์ 2014
    โพสต์:
    211
    ค่าพลัง:
    +505
    มาให้กำลังใจ คุณ ปูเป้2555 เห็นตั้งแต่ทู้เพื่อนแระที่งานเข้า ไป เล่นกับเด็กเชียร์เบียสายดำ แนวๆนี้เคยอ่านเจอในบอร์ด มักจะพบเห็นบ่อยๆกับ กรณี ฝ่ายนึงไม่สนใจเรื่องไสยศาสตร์จิตวิญญาณ มักจะไม่ระวังและ ถูก อีกฝ่าย​ ทำของ ใส่โดยวิธีต่างๆ ส่วนพอเราเจริญสติภาวนา เราก็จะเป็นคนเห็นสิ่งต่างๆ และช่วยเหลือคืนอื่นซึ่งดีครับ และคงจะได้เจออีกเรื่อยๆ เพราะของพวกนี้ มันดึงดูดกัน :D ขอให้โชคดีครับ (มีไรติดต่อ ป๋า nop โลด อิอิ)

    ปล คุณ sathu-sathu เจอ ป้อบมาหลังรถกระบะนี่ไปไม่ถูกเลยนะ อ่ะ --' ต้องติดป้ายป่าวว่า ห้าม ปอบขึ้น ?
     

แชร์หน้านี้

Loading...