คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย jedsada tumnum, 5 สิงหาคม 2016.

  1. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    อารัมภบท
    ธรรม หมายถึง สภาวะของความเป็นปกติ
    ธรรมนั้นไร้ขาว ไร้ดำ ไร้รูป ไร้นาม ดั่งพระพุทธพจน์ที่ว่า

    "บุคคลผู้หาเรา(ตถาคต) ด้วยรูปและเสียง​
    บุคคลๆนั้นมิอาจเห็นเราได้ ด้วยประการนี้"​

    ธรรมนั้น จึงไร้สภาวะต่างๆ ไม่มีตัวตน ไม่มีอัตตา มีเพียงความว่างเปล่า
    อันพระศากยมุนีพุทธเจ้านั้นทรงใช้เวลาตลอดพระชนมชีพตั้งแต่พระองค์ตรัสรู้พระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญของ "ธรรม" ไว้ว่า

    ""ธรรมนี้ เป็นเลิศ ทำให้พ้นทุกข์ได้""​

    บัดนี้เวลาผ่านไป 2559 ปี หลังจากที่พระองค์ทรงดับขันธปรินิพพาน
    แต่ถึงพระสรีระของพระองค์จะแตกดับไป
    แต่พระสัทธรรมของพระองค์ยังคงอยู่กาลนาน

    แต่เหตุใดหนา พระสัทธรรมแห่งพระองค์ยังอยู่กาลนาน
    แต่สรรพสัตว์ยังหลงมัวเมาในอวิชชา ลุ่มหลงในกิเลส ตัณหา
    อันเป็นเหตุให้สรรพสัตว์มิอาจหลุดพ้นวงจรแห่งทุกข์ได้ทั้งสิ้น

    เมื่อวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม ปีพุทธศักราช 2559 ปีนักษัตร ปีวอก
    เวลา 12.00 น.

    พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ ทั้ง 4 พระองค์
    (พระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร พระโพธิสัตว์กษิติครรภ์
    พระโพธิสัตว์มัญชุศรี พระโพธิสัตว์สมัตรภัทร)
    ได้ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณ เล่งเห็นความทุกข์ของสรรพชีวิตในสังสารวัฏ

    เพราะทรงเห็นว่า
    """สรรพสัตว์ในโลก วนเวียนในวงจรแห่งทุกข์ไม่จบไม่สิ้น
    เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือทุกข์ ไม่รู้ว่าอะไรคือวงจรของทุกข์
    เพราะไม่รู้ว่าอะไรคือเหตุของทุกข์ จึงถูกอวิชชาและกิเลสครอบงำจิตใจ
    จากเดิมที่ปกติก็แปรเปลี่ยน จิตแห่งพระพุทธะก็แปรผันเป็นจิตที่มีแต่กิเลส
    สรรพสัตว์ควรรับรู้พระธรรม อันจะทำให้รู้จักการขัดเกลาจิตที่สกปรก
    ให้สะอาดดั่งเดิม และเข้าสู่พุทธภาวะ
    เมื่อนั้นสรรพสัตว์จะได้หลุดพ้นเสียที"""

    ด้วยเหตุนี้พระองค์ทั้ง4จึงได้เมตตาร่วมกันประทานพระโอวาทคำสั่งสอน ผ่านทางทิพยญาณ (สื่อสารทางจิต) แล้วทรงมีรับสั่งให้เผยแพร่พระธรรมฉบับนี้ ออกไป เพื่อประโยชน์สุขของสรรพชีวิต โดยพระธรรมสูตรนี้ จักมีชื่อว่า

    คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี อันหมายถึง ความรู้ว่าด้วยเรื่องทางเดินแห่งความเป็นจริงของปัญญาอันประเสริฐ

    อันจะสอนเรื่อง ธรรมอันบริสุทธิ์ อันมีลักษณะที่ชื่อว่า ศุนยตา และเรื่องของอริยสัจ ตถาคตครรภ์ พุทธจิต

    ซึ่งพระคัมภีร์นี้ เป็นพระคัมภีร์ที่เกิดขึ้น จากความเชื่อ และ ความศรัทธา ซึ่งหากขัดกับทัศนคติ หลักความคิดของบุคคลใด กระผมขอความอภัยมา ณ โอกาสนี้
     
  2. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    พระธรรมสูตรชุด 1 พระโอวาทประทานโดย พระมัญชุศรี
    คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี
    เรื่อง ปรับความเข้าใจ

    อริยปัญญาธรรมวิถี คือ วิถีหรือหนทางแห่งปัญญาอันประเสริฐ อันคือ

    ""วิธีที่ทำให้จิตปราศจากภาวะของอวิชชา (ความไม่รู้ อันนำ ทุกข์มาให้) เพื่อพ้นทุกข์
    และเมื่อจิตปราศจากอวิชชา ความสงบบริบูรณ์ของปัญญาที่มีมากมายก็จะเกิดขึ้น ตอนนั้นจิตของท่านก็จะอิสระจากทุกข์"""

    แล้วอะไรคือวิธี??? พระผู้มีพระภาคทรงตรัสเรียกว่า ""มหาธรรม""
    ลักษณะของมหาธรรม คือ ความเป็นปกติของสิ่งนั้นๆ ซึ่งทำให้จิตไพบูลย์ในปัญญา

    เมื่อสหัสโลกธาตุนี้เกิดขึ้น
    ก็บังเกิดนักปราชญ์ บัณฑิต และผู้มีความรู้ในศาสตร์มากมาย
    ซึ่งก็ล้วนแต่เป็นผู้มีปัญญาอันประเสริฐ
    แต่เหตุไฉน คนเหล่านี้ จึงมีผู้บรรลุ ถึงความเป็นอริยะน้อยนัก

    เพราะศาสตร์ต่างๆในโลก ก็ล้วนเป็นมายา(แท้จริงคือธรรมชนิดนึง)ปรุงแต่งขึ้น
    มีเพียงสัจภาวะ ของมหาธรรม เท่านั้น ที่จักนำพาให้คนทั้งหลายบรรลุ

    เรื่อง มหาธรรมวิถี

    มหาธรรมวิถี หมายถึง หนทางของธรรมคือความปกติที่แท้จริง อันเกิดปัญญา
    อันคือ พุทธจิต หรือ ตถาคตครรภ์

    แต่แท้จริงจิต เป็นเพียงสิ่งหนึ่งๆ ซึ่งถูกอุปโลก ให้มีตัวตนขึ้น
    โดยสภาวะของจิตที่ถูกปรุงแต่งนี้ ให้สถานะว่า มีตัวตน เป็นตัวตน

    ซึ่งพุทธจิต ในที่นี้ ก็มีได้หมายถึง ตัวตนหรือวิญญาณของผู้รู้
    แต่หมายถึง สภาวะความเป็นปกติแท้จริงของผู้รู้ ซึ่งปรากฎในทุกคน

    ตถาคตครรภ์ (เมล็ดพันธุ์ของผู้รู้) หรือ พุทธจิต (สภาวะความปกติของผู้รู้)
    ล้วนแต่เป็นเครื่องหมายยืนยันว่า

    "เดิมแท้ทุกคนสามารถเข้าถึงภาวะของผู้รู้ หรือ ความประเสริฐของปัญญาได้
    แต่เพราะถูกอวิชชา (ความไม่รู้) ครอบงำ ทำให้หลงเพลิดเพลินไปในวงจรกิเลส
    จนก่อเกิดวงจรของทุกข์อันไม่จบสิ้น ซึ่งพระผู้มีพระภาคเจ้าผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธพระตถาคตเจ้าทุกๆพระองค์ ล้วนแสดงให้สรรพสัตว์เข้าถึงทั้งสิ้น โดยให้สรรพสัตว์รู้ทุกข์
    ละวงจรที่ถูกครอบงำ นำไปสู่พุทธจิต ตถาคตครรภ์ในตนเอง"

    ดังนั้น มหาธรรมวิถีที่แท้จริง คือ การนำตนไปสู่จิตที่สงบจากกิเลส แล้วจึงนำไปสู่ปัญญาอันไพศาล ด้วยเหตุนี้ พระผู้มีพระภาคเจ้าจึงทรงตรัสว่า

    """มหาธรรมคือวิธีที่ทำให้จิตปราศจากภาวะของอวิชชา (ความไม่รู้ อันนำ ทุกข์มาให้) เพื่อพ้นทุกข์และเมื่อจิตปราศจากอวิชชา ความสงบบริบูรณ์ของปัญญาที่มีมากมายก็จะเกิดขึ้น ตอนนั้นจิตของท่านก็จะอิสระจากทุกข์"""

    จบ พระธรรมสูตร ชุด 1​
     
  3. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    พระธรรมสูตรชุด 2 พระโอวาทประทานโดย พระสมันตรภัทร
    คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี
    เรื่อง รู้...อริยสัจ

    อริยสัจ มันคือ หลักการคำสอนของพระผู้มีพระภาคเจ้า เรื่องของการออกจากทุกข์
    โดยมีหลักการคือ รู้ ละ ทำ ซึ่งหมายถึง รู้ในตัวทุกข์ รู้ในตัวเหตุแห่งทุกข์ รู้ในความดับทุกข์ รู้ในวิธีดับทุกข์
    ละในเหตุแห่งทุกข์
    ทำคือรู้ในตัวทุกข์ ทำคือรู้และละในตัวเหตุแห่งทุกข์ ทำคือรู้และทำตามความดับทุกข์
    ทำคือรู้และทำตามวิธีดับทุกข์

    ซึ่งปรัชญา หรือ หลักคำสอนทฤษฎีนี้ มีความถูกต้องชัดเจนทุกถ้อยคำ
    เพื่อให้พ้นทุกข์อย่างถาวร จะต้องกระทำตัวทุกข์นี้ให้สิ้นไป ด้วยการละเหตุ

    โดยตั้งแต่กระบวนการรู้ ต่อด้วยกระบวนการทำ และจบด้วยกระบวรการพิจารณาทบทวน
    หลักการที่ได้กล่าวมาข้างต้นเป็นเพียงการรู้ทางทฤษฎีอริยสัจ

    เรื่อง กระบวนการรู้...อริยสัจ

    เมื่อรู้ว่า เราต้องรู้ทุกข์ ต้องรู้เหตุของทุกข์ ต้องรู้ความดับทุกข์ ต้องรู้วิธีดับทุกข์
    จึงต้องใช้ปัญญาทบทวนความรู้ว่า
    อะไรคือทุกข์ อะไรคือเหตุแห่งทุกข์ อะไรคือความดับทุกข์ อะไรคือวิธีดับทุกข์

    เราก็จะได้รับรู้ว่า ทุกข์ในอริยสัจนี้ หมายถึงสภาวะของอารมณ์ต่างๆในโลก ที่เราไม่พอใจ ไม่ยินดี ซึ่งกล่าวได้ว่า อารมณ์ที่ไม่ชอบ(ทุกข์)คงอยู่ อารมณ์ที่ชอบ(สุข)ดับไป และอารมณ์เฉยๆก็จะต้องการสุขมา

    เมื่อรู้ดังนี้ ก็จะเห็นว่า เหตุแห่งทุกข์คือ การไขว่คว้าหาความสุข และพ้นจากทุกข์ อย่างไร้กระบวนการ วิธีการ อันเป็นความไม่รู้ไม่เห็นนี่เอง

    ดังนั้นกระบวนการรู้เรื่องความดับทุกข์ก็คือ การดับความโง่ ละวางความ ทะยานอยาก

    และเราก็จะรู้วิธีการว่า จะต้องเริ่มจากรู้ แล้วตั้งใจทำ

    เรื่อง ทำ...อริยสัจ

    เมื่อรู้ถึงตัวอริยสัจ รู้ตัวสาเหตุและการดับทุกข์ได้ ก็จะต้องตั้งปณิธาน ตั้งเป้าหมาย คือตั้งใจกระทำ ตามวิธีการดับทุกข์(อริยสัจตัวที่4) เพื่อเข้าถึง ตัวอริยสัจที่ชื่อว่าความดับทุกข์

    เรื่อง กระบวนการทำ...อริยสัจ

    เมื่อตั้งเป้าหมายการกระทำก็กระทำสิ่งนั้น จนบรรลุเป้าหมาย และในขณะทำก็จะต้องทบทวนพิจารณาปัญหาเรื่อยๆ เพราะวิธีที่ทำในปัจจุบัน แท้จริงอาจไม่ใช่ก็ได้อาจเป็นเพราะมีความคิดผิดจากครรลองครองทำ ทำนั้นกระบวนการทำ จึงต้องมีกระบวนการพิจารณาด้วย

    เรื่อง พิจารณา...อริยสัจ

    คือ การพิจารณาวิเคราะห์การกระทำตนเองทุกขณะ โดยมีความตั้งมั่นตั้งใจ (สมาธิ) ความรู้ตัวตลอด (สติ) และ ความพยายาม(ความเพียร) เพื่อจะได้รู้ว่าที่ตนทำใช้วิธีการดับทุกข์จึงหรือไม่หากไม่ ก็ต้องดำเนินการเรื่องการรู้ในตัวอริยสัจใหม่

    เรื่อง ทบทวน...อริยสัจ

    เมื่อแก้ปัญหาเสร็จแล้ว ก็พยายามอย่าให้ทุกข์หรือปัญหาใหม่เกิดขึ้น และทบทวนการแก้ไขว่าถูกต้องมั้ย ขาดหายสิ่งใดไป

    หากทุกคนปฏิบัติตามอริยสัจแล้ว ย่อมเข้าถึงความเป็นอริยะเป็นแน่แท้

    จบ พระธรรมสูตร ชุด 2​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 5 สิงหาคม 2016
  4. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    พระธรรมสูตรชุด 3 พระโอวาทประทานโดย พระอวโลกิเตศวร
    คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี
    เรื่อง วิถีสุข วิถีโพธิสัตว์ วิถีสันติภาพ

    พระอวโลกิเตศวรทรงมีพระเมตตากรุณา มีรับสั่งให้ปฏิบัติตามหลัก ปรัชญาปารมิตา
    คือ บำเพ็ญ ปัญญาบารมี ที่พระมัญชุศรีและพระสมันตรภัทรประทานไว้

    โดยเอาความรู้ด้วยเรื่องความไม่มีตัวตนเล็งเห็นว่า ตนเป็นผู้ยึดถือของหนักคือกิเลส เป็นตัวตน แม้แต่พระธรรมก็ยึดถือ จึงต้องทนทุกข์ในโลก

    ทุกคนจึงต้องดับทุกข์ด้วยอริยสัจ และเข้าใจภาวะของพุทธจิต ตถาคตครรภ์ สังคมจึงจะสงบสุข

    หากทุกคนทำแต่ความดีงาม มีคุณธรรม มโนธรรม และจริยธรรม

    สังคมครอบครัวจะมีความสุข
    เมื่อทุกครอบครัวมีความสุข
    สังคมบ้านเมืองก็จะมีความสุข
    เมื่อทุกประเทศทุกขอบเขตอาณาแคว้นมีความสุข
    สังคมโลกก็จะมีความสุข

    จากเดิมที่โลกมนุษย์ เต็มไปด้วยความชั่วร้าย ดั่งนรก
    จากยมโลก ก็จะเป็นโลกมนุษย์
    จากโลกมนุษย์ ก็จะเป็นเทวโลก
    จากเทวโลก ก็จะเป็นพรหมโลก
    จากพรหมโลก ก็จะเป็นดั่งพุทธเกษตร

    ดังนั้นเราขอกล่าวมหาปรัชญาปารมิตาจิตดังนี้

    “ท่านสารีบุตร รุปไม่ต่างจากความสูญ ความสูญไม่ต่างไปจากรูป

    รูปก็คือความสูญ ความสูญก็คือรูปนั้นเอง

    เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เป็นความสูญเช่นเดียวกัน ท่านสารีบุตร ธรรมทั้งปวงมีความสูญเป็นลักษณะไม่เกิด ไม่ดับ ไม่มัวหมอง ไม่ผ่องแผ้ว ไม่หย่อน ไม่เต็มอย่างนี้

    เพราะฉะนั้นแหละ ในความสูญจึงไม่มีรูป ไม่มีเวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่มีตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ (อายตนะภายใน ๖อย่าง) ไม่มีรูป เสียง กลิ่น รส สัมผัส และธรรมารมณ์

    (อายตนะภายนอก ๖อย่าง) ไม่มีวิญญาณ(ความรู้สึกรับรู้ได้) ในอายตนะภายในทั้ง ๖ด้วย (จักษุวิญญาณ โสตวิญญาณ ฆานวิญญาณ ชิวหาวิญญาณ กายวิญญาณ และมโนวิญญาณ) ไม่มีวิชา ไม่มีอวิชา ไม่มีความสิ้นไปแห่งวิชชาและอวิชชา จนถึงไม่มีความแก่ความตาย และไม่มีสิ้นไปแห่งความแก่ความตาย

    ไม่มีทุกข์ สมัทัย นิโรธ มรรค ไม่มีญาณ(ปัญญา) ไม่มีการบรรลุถึงซึ่งปัญญา และไม่มีอะไรที่ต้องบรรลุอยู่ต่อไป

    พระโพธิสัตต์ เมื่อได้ทรงบำเพ็ญปัญญาบารมีแล้ว เป็นผู้ถึงความเป็นผู้มีจิตที่เหลืออยู่ต่อไปแล้ว จึงเป็นผู้มีความเห็นถูกต้องชอบธรรม (สัมมาทิฐิ) และกระทำกิจทั้งปวงอย่างถูกต้องโดยเสมอ ในที่สุดก็บรรลุถึงพระนิพพาน บรรดาปวงพระพุทธเจ้าทุกๆองค์มีทั้งอดีตกาล ปัจจุบันกาล และอนาคตกาล ล้วนต่างได้เคยบำเพ็ญปัญญาบารมีมาด้วยกันแล้วทุกๆพระองค์ และเมื่อได้บำเพ็ญคุณธรรมนี้แล้วจึงได้ตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ

    ดังนั้นควรได้ทราบว่าปัญญาบารมีนี้เป็นมนต์ที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนต์ที่ไม่อาจมีมนต์บทใดมาเทียบเคียงได้ เป็นมนต์ที่สามารถขจัดทุกข์ภัยทั้งปวง และนำพาไปสู่แดนนิพพานได้แน่นอน จึงไม่ควรจะมีความกงขาใดๆต่อไปเลย

    ดังนั้นควรหมั่นสวดภาวนามนต์บทนี้ ด้วยเหตุนี้แล...จงไป ไป ไปยังฟากฝั่งโน้น ไปให้พ้นอย่างสิ้นเชิงไปสู่ความเป็นผู้รู้ไปสู่ความสงบสันติเบิกบานเกษมศานต์เถิด”

    จบ พระธรรมสูตร ชุด 3​
     
  5. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    พระธรรมสูตรชุด 4 พระโอวาทประทานโดย พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์
    คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี
    เรื่อง มรรคาพระพุทธา

    หนทางแห่งพระพุทธเจ้า คือ หนทางของการตื่นรู้
    ศากยมุนีพุทธะ พระบรมศาสดา ทรงบำเพ็ญทุกขกิริยา 6 ปี จึงจะสำเร็จพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เข้าใจถึง อริยสัจ ลุเข้าสู่ พุทธจิต แล้วยังทรงเมตตา บ่มเพาะ ตถาคตครรภ์ แก่ศานุศิษย์ ก่อบังเกิดพระพุทธสาวก พระพุทธสาวิกา อุบาสก อุบาสิกา พระโพธิสัตว์มหาสัตว์มากมาย พระเถรานุเถระมหาศาล

    พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณต่อสรรพชีวิต มิอาจคณานับได้ ดังคำว่า

    "แม่น้ำมหาสมุทรยังสามารถดื่มให้หมดได้ แต่พระคุณท่านมิอาจพรรณนาได้หมดสิ้น"​

    ทั้งทรงเป็นมหาบุรุษหาได้ยากในโลก ดั่งสุภาษิตที่ว่า

    """ทั่วพื้นมหาปฐพีนี้หนา มิอาจหาคนเยี่ยงพระองค์ได้"""​

    เหตุใดหนอท่านจึงได้สมญานามประการนี้ พระองค์ทรงสอนไว้ว่า

    """การตื้นรู้ เป็นหน้าที่ เป็นสิทธิของพวกท่าน
    เพราะมันคือ สุขและทุกข์ วงจรของพวกท่าน
    การฉุดช่วย เป็นสิ่งที่ควร เป็นสิ่งที่เราสรรเสริญแล้ว
    เพราะมันคือ แรงและคุณ อันมิอาจคณานับ"""​

    พระองค์กำลังบอกว่า การที่จะหลุดพ้นจากทุกข์ ยังไงทุกคนก็ต้องทำ เพราะทุกคนไม่อยากมีทุกข์ แต่การช่วยเหลือคนอื่นเป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่งกว่า
    เพราะเหตุนี้พระองค์จึงทรงได้รับการสรรเสริญอย่างมิมีประมาณ เพราะพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์

    สุดท้ายนี้ คัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี ได้จบลงอย่างสมบูรณ์ในเนื้อหาส่วนธรรมบรรยาย
    เราขอมอบพระธรรมบทสุดท้ายนี้ให้พวกเธอท่องจำ

    """อริยสัจนี้ นำให้พ้นทุกข์แล พุทธจิต ตถาคตครรภ์ก็สมบูรณ์อยู่แล้ว
    ท่านทั้งหลายทำดีละเว้นชั่ว เพื่อนำพาตนให้พ้นทุกข์ไซร้
    ก็ใช้ปัญญาอบรมจิตแล้ว เพื่อให้มหาธรรมบริบูรณ์
    ฉนี้นั้นท่านทั้งหลาย จงอบรมปัญญาบารมีและฉุดช่วยคน"""

    จบ พระธรรมสูตร ชุด 4​
     
  6. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    ประเด็นเพิ่มเติม
    ประทานพระโอวาทโดย พระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้ง 4

    เมื่อทรงประทานพระโอวาทจบ ในวันที่ เมื่อวันศุกร์ที่ 5 สิงหาคม ปีพุทธศักราช 2559 ปีนักษัตร ปีวอก
    เวลา 21.00 น.

    พระโพธิสัตว์มัญชุศรีทรงประทานพระโอวาท สรรเสริญพระคัมภีร์ไว้ว่า

    ท่านทั้งหลาย ชีวิตนี้มันมีช่วงเวลาสั้นนัก ท่านทั้งหลายวนเวียนในสังสารวัฏ
    อันเป็นทะเลทุกข์ มานานแสนนานแล้ว บัดนี้ท่านได้พบมันแล้ว
    ปัญญาที่เราได้บรรยายไป ล้วนเกิดจากจิตที่สงบจากกิเลส และ ความโง่
    จงบ่มเพาะปัญญาพุทธจิต ตามพระคัมภีร์ ด้วยเวลาอันสั้นในชีวิตนี้

    พระสมันตรภัทรโพธิสัตว์ ทรงประทานพระโอวาท

    ทุกๆคน ต่างล้วนตกลงสู่ห้วงของความทุกข์อันไร้ขอบเขต
    เพราะพวกท่านมัวยึดถือกิเลสตัณหา พุทธจิตและปัญญาจึงไม่เกิด
    เราได้ประทานคำสอนอริยสัจอันเป็นอรรถะ เพื่อท่านจะได้พ้น
    ท่านจงปฏิบัติตาม เพื่อประโยชน์สุขของท่าน

    พระอวโลกิเตศวรโพธิสัตว์ ทรงประทานพระโอวาท

    ทุกคนต่างต้องทำความดี ละเว้นความชั่ว ทำจิตให้สงบ
    เพื่อให้พ้นจากทุกข์ ความโง่เขลา และกิเลส
    ได้เข้าถึงความสุขอันนิจนิรันด์ และ พุทธจิตอันสว่าง
    ทุกครอบครัว ประชาชาติก็จะสงบสุข

    พระกษิติครรภ์โพธิสัตว์ ทรงประทานพระโอวาท

    หน้าที่ของพวกเรา คือ พ้นทุกข์ และ หาสุข อันคือพุทธจิต
    และสิ่งที่น่าสรรเสริญและพวกท่านควรทำจะคือสิ่งใดกัน
    มันก็คือ ความกรุณาต่อสรรพชีวิตอันไม่อาจประมาณ
    ด้วยการสั่งสอน และ อบรมมหาธรรมนาๆ

    จบ ประเด็นเพิ่มเติม​
     
  7. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    บทภาวนา

    นะโม รัตนะตระยายะ
    นะโม ศากะยะมุนี พุทธายะ
    นะโม อาริยะ อะวะโลกิเตศะวะรายะ โพธิสัตตะวายะ
    นะโม อาริยะ กะษิติครรภภายะ โพธิสัตตะวายะ

    ข้าพเจ้า .....(ชื่อ-นามสกุล)..... ขอกราบนมัสการพระรัตนตรัย คือ
    พระผู้มีพระภาคผู้อรหันตสัมมาสัมพุทธพระตถาคตเจ้า
    พระธรรม
    และพระสงฆ์
    ขอกราบนมัสการพระศากยมุนีศาสดาพระพุทธเจ้า
    ขอกราบนมัสการพระมหาโพธิสัตว์ทั้ง4
    ข้าพเจ้าจะขอประกาศมหาปณิธานบำเพ็ญตนในอริยสัจ เพื่อลุเข้าสู่ พุทธจิต บ่มเพาะตถาคตครรภ์ หวังปรารถนาพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ เพื่อโปรดสรรพชีวิตในตรีสหัสโลกธาตุทั้งหมดให้ลหลุดพ้นจากวงจรทุกข์ด้วยอริยสัจ โดยบ่มเพาะตถาคตครรภ์ ให้สรรพชีวิตเข้าสู่พุทธจิต อันทำให้จากโลกอันมีแต่ทุกคติ เป็นพุทธเกษตร อันเป็นจิตแห่งพระโพธิสัตว์ ข้าพเจ้าจะขอตั้งจิตมั่นว่า จะช่วยตนด้วยปัญญา จะฉุดผู้อื่นด้วยเมตตา​
     
  8. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    อานิสงส์ การอ่าน เผยแพร่พิมพ์พระคัมภีร์
    อานิสงส์ การพิมพ์พระคัมภีร์
    และอานิสงส์ การภาวนาบทสาธยายในพระคัมภีร์
    ประทานพระโอวาทโดยพระโพธิสัตว์ทั้ง4

    (คำพูดของเทพธรรมบาล)
    ท่านเอ๋ย เราคือเทพธรรมบาล คอยอภิบาลรักษาอารามสถานและพระพุทธศาสนาอยู่กาลนาน พระโพธิสัตว์ทั้ง4 ทรงมีรับสั่งให้ท่านรับฟังแล้วนำไปเผยแพร่ดังนี้

    เราคือ มหาโพธิสัตว์ บัดนี้สรรพชีวิตต่างมืดมลโกลาหลในจิตตัวเอง เพราะมืดมนอยู่ในกิเลสตัณหา พุทธจิต ตถาคตครรภ์ก็ถูกบดบังสิ้น ทุกข์ภัยเป็นดั่งพายุได้ปรกคลุมทั่วน่านฟ้า ภายใต้หล้าทะเลทุกข์ก็มิอาจหยุดหย่อน สรรพชีวิตต่างต้องทุกข์ทรมาณ บัดนี้ยากต่อการโปรด แต่โพธิสัตว์ทั้งหลายต่อก็ช่วยเหลือมิได้หยุดหย่อน

    บัดนี้ พระคัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถีได้ลงมาสู่โลกธาตุ อันเป็นคำสอนที่เรียบง่าย ศัพท์ไม่ยุ่งยาก แต่จะต้องใช้เวลาทำความเข้าใจ

    ท่านจงเผยแพร่พิมพ์พระสูตรแจกคัมภีร์นี้ สวดสาธยายบทภาวนาเถิด เพื่อยังจิตให้เกิดมหาปณิธาน ให้พุทธจิตเกิดขึ้น

    อันพระคัมภีร์นี้ก็เป็นดั่งเรือที่คอยรับสรรพชีวิตในทะเลทุกข์ และยังเป็นที่กันพายุฝนแห่งทุกข์ภัย

    พวกท่านธรรมบาล โพธิสัตว์ต่างๆจะช่วยกันอนุเคาะห์
    หากผู้ใดเผยแพร่พิมพ์พระคัมภีร์นี้เกิดภพใดชาติใดชะเกิดความสุขความเจริญ

    หากบำเพ็ญตามพระคัมภีร์แม้นเพียง 1 วัน ก็จะมีโพธิญาณเป็นเบื้องหน้า
    ท่านทั้งหลายหากสวดสาธยายตั้งปณิธานตลอดชีวิต ชาติหน้าย่อมเข้าสู่สุขาวดีโลกธาตุ

    พระโพธิสัตว์ทั้ง 4 ทรงรับสั่งมาดังนี้ (เทพธรรมบาลเสด็จกลับ)

    จบ การกล่าวอานิสงส์​
     
  9. jedsada tumnum

    jedsada tumnum สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2015
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +17
    กล่าวคำลาอาลัย

    ข้าพเจ้า เจษฎา ทุ่มนุ่ม บัดนี้ก็ได้กระทำตาม
    ความประสงค์ของพระโพธิสัตว์มหาสัตว์ทั้ง 4 พระองค์
    ผู้ทรงพระมหากรุณาธิคุณ ทรงด้วยมหาปณิธาน มหาปัญญา มหาเมตตา และมหาจริยา
    โดยการเผยแพร่พระคัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี
    เพื่อสืบสานงานปณิธานของพระองค์ โดยข้าพเจ้าเป็นผู้เรียบเรียง

    หากมีบุคคลใด มีทัศนคติเห็นแย้ง หรือ มีความไม่พอใจในพระคัมภีร์
    ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง และขอให้ทุกท่านใช้วิจารณญาณ

    เพราะพระคัมภีร์อริยปัญญาธรรมวิถี ธรรมสูตร 4 บทนี้ เป็นการถ่ายทอด
    จากจิต สู่ จิต ด้วยทิพยญาณ ดังนั้นต้องควรใช้วิจารณญาณ
    ในการรับชม

    อีกทั้งขอขอบคุณทุกท่านที่ได้มาอ่านพระคัมภีร์ขอให้ทุกท่าน มีแต่ความสุขกายสบายใจทั่วหน้านะครับ​
     

แชร์หน้านี้

Loading...