เรื่องราวหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย สวนพลู, 18 สิงหาคม 2010.

  1. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    พระขรรค์ วัดโคกหม้อ

    พระขรรค์ หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ จ.ลพบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    เหรียญโสฬส หลังเรียบ พร้อมจาร หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ จ.ลพบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__1220637.jpg
      S__1220637.jpg
      ขนาดไฟล์:
      383.7 KB
      เปิดดู:
      409
    • S__1220638.jpg
      S__1220638.jpg
      ขนาดไฟล์:
      350.3 KB
      เปิดดู:
      280
  3. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    รูปหล่อหลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ รุ่นเศรษฐีเงินล้น เนื้อเงิน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__1179698.jpg
      S__1179698.jpg
      ขนาดไฟล์:
      267 KB
      เปิดดู:
      188
    • S__1179699.jpg
      S__1179699.jpg
      ขนาดไฟล์:
      242.1 KB
      เปิดดู:
      209
  4. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    ล็อคเก๊ต หลวงพ่อพิเชฐ, หลวงปู่จัน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__1179701.jpg
      S__1179701.jpg
      ขนาดไฟล์:
      306.1 KB
      เปิดดู:
      254
    • S__1179702.jpg
      S__1179702.jpg
      ขนาดไฟล์:
      419.9 KB
      เปิดดู:
      230
  5. pardy

    pardy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,084
    ค่าพลัง:
    +2,703
    เหรียญแรงครูเนื้อตะกั่วหลังเรียบ จารมือ --- รุ่นนี้เป็นรุ่นที่ประสบการณ์เยอะมาก และเป็นรุ่นหลักๆ ของทางวัด ... พบเจอที่ไหน ถ้าสู้ราคาไหว แนะนำให้เก็บครับ...

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • IMG_6699.JPG
      IMG_6699.JPG
      ขนาดไฟล์:
      415.2 KB
      เปิดดู:
      3,654
  6. pardy

    pardy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,084
    ค่าพลัง:
    +2,703
    เหรียญแรงครูเนื้อตะกั่วหลังยันต์

    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 19jun16.JPG
      19jun16.JPG
      ขนาดไฟล์:
      923.5 KB
      เปิดดู:
      3,772
  7. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    เหรียญแรงครู หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

    เหรียญแรงครู หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ ที่ลูกศิษย์หลวงพ่อทุกคนต่างบูชาเพื่ออารธนาให้ช่วยคุ้มครองรักษาตัวกันทุกคน
    ผมเอง ในชุดที่บูชาประจำ ก็ต้องมีเหรียญนี้ด้วยเสมอๆครับ

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__1908738.jpg
      S__1908738.jpg
      ขนาดไฟล์:
      267.3 KB
      เปิดดู:
      339
  8. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    ได้ยินเสียงคนบ่น แว่วๆ เลยกลับมาคับ
     
  9. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    ดีใจที่เจ้าของกระทู้กลับมาเขียนเรื่องราวและเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยให้ฟังอีกครั้งแล้วนะครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • 25-1.JPG
      25-1.JPG
      ขนาดไฟล์:
      388.4 KB
      เปิดดู:
      221
  10. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    หนุมานหลวงพ่อพิเชฐ

    วัตถุมงคงที่เป็นหนุมาน ทั้งรุ่นหนุมานถวายทรัพย์, กะลาแกะหนุมานเชิญธง ที่หลวงพ่อพิเชฐ ได้จัดสร้างขึ้นมานั้น เปี่ยมไปด้วยพุทธคุณและความเข้มขลังตามสรรพวิชาที่หลวงพ่อได้ร่ำเรียนมาครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    23 มิถุนายน 2559

    วันนี้ที่วัดมีงานมุทิตาจิตคล้ายวันเกิดหลวงพ่อด้วยครับ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • S__1368070.jpg
      S__1368070.jpg
      ขนาดไฟล์:
      111.7 KB
      เปิดดู:
      174
  12. Dek_watpa

    Dek_watpa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    2,608
    ค่าพลัง:
    +4,517
    บรรยากาศในงานมุทิตาจิต หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ

    ภาพบรรยากาศในงานมุทิตาจิต หลวงพ่อพิเชฐ วัดโคกหม้อ 23 มิถุนายน 2559
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 1
    สถานะเดิม
    เดิมชื่อ พิเชฐ นามสกุล วัฒนจัทร์ เกิดเมื่อ วันศุกร์ที่ 23 มิถุนายน 2504 ปีฉลู ที่จังหวัด นครสวรรค์ บนเรือนแพ ตรงที่แม่น้ำ 4 สาย คือ ปิง วัง ยม น่าน ไหลมาบรรจบกัน เขาเรียกแพแควใหญ่ พื้นเพเดิม พ่อแม่ปู่ย่าตายาย เป็นคน ตำบลโพธิ์เก้าต้น อ.เมือง จ.ลพบุรี มีพี่น้องทั้งหมด 12 คน ผู้หญิง 4 ผู้ชาย 8 ถึงแก่กรรมไป 2 โดยท่านเป็นคนสุดท้องในบรรดาพี่น้องทั้งหมด
    การศึกษาในวัยเด็ก
    อาตมาเริ่มเรียนหนังสือที่โรงเรียนวัดป่าตะแบก อ.เมือง ด้วยความยากจน ก็ต้องทำงานเลี้ยงตัวเอง ต้องตื่นแต่เช้ามืด เพราะทางบ้านมีเชื้อสายจีนและประกอบอาชีพค้าขาย ขายพวกผัก กับข้าว ตื่นแต่เช้ามืดไปตลาด ช่วยทางบ้านจึงทำให้ไปโรงเรียนสาย พอจบชั้นประถมปีที่7 สมัยก่อนตั้งความหวังไว้ว่า จะต้องสอบเข้าโรงเรียนประจำจังหวัดนครสวรรค์ ซึ่งเป็นโรงเรียนชายล้วนให้ได้ เมื่อสอยเข้าได้แล้วก็เรียนต่อชั้น ม.ศ.1 เรียนจนจบ ม.ศ.3 ตอนนั้นพ่อแม่ก็แก่มากแล้ว ทำงานไม่ไหว พี่น้องก็แยกกันไปทำมาหากิน แต่ครอบครัวของอาตมาอาศัยอยู่ที่เรือนแพ ซึ่งมักมีปัญหาก็คือเวลาน้ำขึ้นน้ำลง ต้องไปถอยแพเข้าออก ก็เลยคิดว่าจะขึ้นมาอยู่บนบก จึงอพยพจากนครสวรรค์ไปอยู่จังหวัดกำแพงเพชร และได้เข้าเรียนต่อชั้น ม.ศ.4 จนจบ ก็เข้ามาหาที่เรียนต่อในกรุงเทพฯ เพียงคนเดียว เพราะมีคนเคยบอกว่าถ้าเรียนที่กรุงเทพฯ จะทำให้เรียนเก่ง แต่ความเป็นจริงแล้วต่างจังหวัดก็ไม่ได้น้อยหน้ากรุงเทพหรอก เพียงแต่ขาดอุปกรณ์ ขาดหนังสือ ขาดแหล่งค้นคว้าแหล่งเรียนรู้ที่ดี ความเชื่อมั่นอยู่ที่คน พอเข้าไปเรียนในกรุงเทพ ก็มีปัญหาตามมาคือ ตัวเราเรียนไม่เก่งเพราะมัวยุ่งกับงาน แต่ตอนเรียนที่กำแพงเพชร อาตมาก็โตมาท่ามกลางพี่น้องที่ชอบหนังสือพระ ในบ้านมีแต่หนังสือพระเครื่อง หนังสือโลกทิพย์ หนังสือโลกทิพย์นี่อ่านประจำ เพราะชอบอ่านประวัติครูบาอาจารย์ และชอบศึกษาเกี่ยวกับคาถาอาคม และพวกยันต์ต่างๆ จึงทำให้ซึมซับมาตั้งแต่เด็กๆ สมัยเรียนที่กำแพงเพชรไปเรียนสายเป็นประจำ ไปเรียนไม่ค่อยทันหรอกต้องแอบไปหลบในห้องน้ำ สมัยก่อนครูฝ่ายปกครองดุ ไม้เรียวนี่ยาว แอบกัน 10 กว่าคน กับพวกเพื่อนๆ ครูฝ่ายปกครองก็เรียกให้ออกมาหมดเลย อาตมากลัวโดนตี ก็เลยไม่ยอมออกไป แต่ด้วยความเชื่อมั่นแล้วนึกถึงคุณครูบาอาจารย์................จบ ตอน1

    บทเพิ่มเติม ...... หากมองดูจุดที่หลวงพ่อเกิด บนน้ำ บนแพ แม่น้ำทั้งสี่สายไหลมารวมกัน ก็เปรียบเหมือน ศิษย์หลวงพ่อ จากทั่วสารทิศ ไหลมารวมกัยที่วัด มาจากทั่วทิศจริงๆ พาความร่มเย็นในใจสู่พวกเรา เป็นศูนย์รวมจิตใจของพวกเรา แต่ในเมื่อหลวงพ่อเป็นลูกแม่น้ำ ท่านก็มีกรรมติดตัวเหมือนกัน โดยล่าสุด ผมได้คุยกับหลวงพ่อและแอบแซวหลวงพ่อว่า เหลือผ่าตรงไหนอีกครับหลวงพ่อ ท่านกล่าวว่า เรามันกรรมมหนัก ทำเขาไว้เยอะ ข้ามันลูกแม่น้ำ ทำปลา จับปลา มาไม่รู้จักเท่าไร ผ่าแค่นี้ยังน้อยไป คนเราต้องยอมรับความเป็นจริงนะ ทำเขาไว้มากเหลือเกิน ไม่ทำก็ไม่มีกิน ทั้งตกเบ็ด ผ่าท้อง กับปลานี่ทำมาสารพัด เดี๋ยวก็มีอีกแหละ(เข้าโรงพยาบาล) แค่นี้ยังไม่พอหรอก นี่แหละกรรม ที่มันสนองตอบแทนข้า คนเรามีกรรมเป็นของตัวเองกันทุกคน

    จบตอน ขอบคุณที่ติดตามครับ
     
  14. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 2

    ด้วความเชื่อมั่นในคาถาอาคมของตัวเอง และพระเครื่องที่ห้อยอยู่เต็มคอ นอกนั้นในกระเป๋ายังมีผ้ายันต์อีก จึงร่ายคาถาแล้วนึกถึงคุณครูบาอาจารย์ให้ช่วยบังตาครูด้วยเถอะ จากนั้นก็เดินเข้าไปในห้อง พวกเพื่อนๆ โดนครูตีกันหมด ยกเว้นอาตมาคนเดียวที่รอดมาได้ทุกครั้ง ตอนนั้นจึงทำให้เชื่อมั่นในคาถาอาคมของตัวเองเป็นอย่างมาก
    #ใฝ่ฝันอยากทำงานสนามบิน
    พอเรียนจบแล้วก็เข้ามาเรียนในกรุงเทพฯ เมื่อได้ที่เรียนแล้วก็ค่อยๆเรียนไป แต่ใจมันรักเครื่องบิน ไปยืนมองที่สนามบินดอนเมือง ยืนเกาะลูกกรงมองเครื่องบิน ชอบภาษาอังกฤษ อยากจะทำงานเป็นไกด์เกี่ยวกับการท่องเที่ยวอะไรพวกนั้น ทุกๆวันต้องไปยืนมองเครื่องบินและใฝ่ฝันว่าจะต้องเข้าทำงานสนามบินให้ได้ ตอนนั้นเรียนจบ ปวส. จบแล้วก็ไปสมัครเรียนต่อด้านเทคนิคการบิน อยู่ 2 ปี จบมาก็ไปสมัครทำงานในสนามบิน ก็ได้ทำงานสมใจอยาก แต่เขาให้ไปเป็นผู้ช่วยช่าง เป็นลูกมือช่าง ซึ่งมันไม่ตรงกับที่เราถนัด แต่ก็อยู่ไปเรื่อยๆเพราะเงินเดือนดี ตัวเองก็ยังครองโสดอยู่ไม่มีพันธะใดๆ ทางครอบครัว
    #เกิดความเบื่อหน่ายต่อทางโลก
    ทีนี้ด้วยความที่เราชอบอ่านหนังสือธรรมะ อย่างที่เล่าให้ฟังว่าหนังสือโลกทิพย์นี่อ่านประจำชอบอ่านประวัติพระปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ทีนี้มีอยู่วันนึง เปิดหนังสือโลกทิพย์ดู เจอรูปพระแบกกลดออกธุดงค์ ความรู้สึกมันหยุดชะงักแล้วเกิดประกายความคิดที่ว่า พระธุดงค์นี่ดีเนอะ ท่านแบกกลดไปไหนมาไหน ไม่ต้องมีบ้าน ค่ำไหนก็นอนนั่น ฝนตกฟ้าร้อง ก็ไม่ต้องมาตากมาเก็บเสื้อผ้า อิสระดี พอเห็นภาพพระธุดงค์แบกกลดในหนังสือโลกทิพย์ ก็เกิดความเบื่อหน่ายเอาดื้อๆ มองสิ่งที่ทำอยู่ในตอนนั้นว่าไม่ดีเสียแล้ว ก็กลับมาถามตัวเองว่า เราทำงานกินเงินเดือนไปทำไม ตัวคนเดียว พอทำงานเดี๋ยวก็มีเมีย มีครอบครัว แล้วก็ตองเก็บเงินซื้อบ้าน แล้วก็ต้องมีลูก เลี้ยงลูก แล้วก็แก่ แก่แล้วก็ตาย แค่นั้นหรือ ชีวิต พระท่านทำไมมีชีวิตอิสระหล่ะ ไม่ต้องมีบ้าน ไม่ต้องมีภาระอะไร เที่ยวไปได้ทั่วทุกที่ เอาธรรมะไปเผยแพร่ไม่ดีกว่าเหรอ ก็คิดอย่างนั้น เพราะมันเกิดความเบื่อหน่าย อย่างรุนแรงเลย เบื่ออย่างมาก จนงงตัวเอง ไม่เอาแล้ว อยากบวช หรือมันถึงเวลาหรือไงก็ไม่รู้ ก็ลาออกจากงานสนามบิน ............จบตอน

    บทเพิ่มเติม
    หลวงพ่อท่านขลังตั้งแต่ยังเด็กๆ ด้วยความเชื่อมั่น และศรัทธาในครูบาอาจารย์ มันเป็นส่วนผสมบวกกันอย่างลงตัว คือ สมาธิที่ตั้งมั่นเชื่อมั่นเต็มเปี่ยมบวกกับแรงครู จึงทำให้เกิดผลดั่งเวทย์มนต์คาถากำกับไว้ แต่สิ่งนึงที่อยากจะให้หลวงพ่อท่านทำอีกครั้ง นั่นคือ วัวธนู ที่ พี่แจ๊ค เห็นกับตา ว่าไก่วัด เข้าไปในกุฏิ ตอนหลวงพ่อท่านไม่อยู่ในกุฏิ ท่านอยู่นอกชาน ไก่ก็เข้าไปจิกรื้อห้ิงพระ ถูกวัวธนูของหลวงพ่อ ขวิด บนออกจากกุฏิ แล้วไส้ไหล มีรอยถูกขวิด หลวงพ่อจึงรีบเข้าไปช่วยชีวิตไก่ เรื่องนี้เคยนำกลับไปถามหลวงพ่อว่า จริงมั๊ย หลวงพ่อท่านว่าจริง แต่ไม่อยากทำแล้ว วัวธนู ถ้าข้าทำมันขึ้น(ขลัง) เพราะข้าเกิดปีวัว มันเป็นเคล็ด พอทำแล้วมันดุ เกรงจะเป็นภัยต่อสัตว์หรือคน บวกกับถ้าจะให้ขลังก็ต้องเล้ียงให้ถูกหลัก ถูกวิธี จึงจะมีผล เรียนมาก็ไม่ใช่ง่ายด้วย

    นี่แหละครับความขลังของหลวงพ่อ เมื่อไรที่หลวงพ่อทำวัวธนู กระผม ไม่พลาดแน่ๆ แต่ไม่รู้เมื่อไรหลวงพ่อจะยอมสร้างซักที
     
  15. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 3
    ตอนนั้นสมัยเมื่อ 30 กว่าปีที่แล้ว เงินเดือนก็ถือว่าเยอะนะ ได้ 8,000 บาท เขาหาว่าเราบ้า เงินเดือนดีๆ และเข้ายาก กลับลาออก มีแต่คนเขาอยากเข้า พี่น้องก็บอกว่า ไปบวชตอนนี้แล้วใครจะใส่บาตร เศรษฐกิจไม่ดี อาตมาก็ไม่ฟัง ก็เลยบอกว่า เอาอย่างนี้ละกัน ขอบวชสักพรรษานึง ก่อนหน้านั้นเคยลางานไปบวชตามประเพณีบ้างแล้ว แต่บวชไม่นาน เพียง 15 วัน เท่านั้น แต่ครั้งนี้มันอยากบวชอย่างรุนแรง ก็ไปลาออกดื้อๆ เลย มีเงินที่เก็บสะสมได้ประมาณ 7,000 บาท ก็ขึ้นไปนครสวรรค์บ้านเกิดเลย ไปขอบวชกับเจ้าอาวาสวัดเขื่อนแดง(ศรีสุวรรณ) ในสมัยรัชกาลที่5 ที่นี่เคยเป็นแดนประหาร โดยมีประวัติปรากฏอยู่ อาตมาเห็นว่าวัดนี้เงียบสงบดี จึงเข้าไปกราบเรียนกับเจ้าอาวาสว่าอยากบวช แต่มีเงินน้อย ทั้งตัวมีอยู่เพียง 7,000 บาท เท่านั้น และขอบูชาผ้าไตรกับท่านขอร้องให้ท่านช่วยจัดให้ด้วยพร้อมถวายปัจจัยสำหรับใส่ซองถวายพระ ซึ่งหลวงพ่อเจ้าอาวาสท่านก็ไม่ได้ว่าอะไร เสร็จแล้วก็โกนหัวเข้าโบสถ์บวชแบบง่ายๆเลย
    พอบวชเข้าไปพรรษาแรก อาตมายังเป็นพระใหม่อยู่ พอไปรู้ไปเห็นอะไรเกี่ยวกับพระเข้า ก็มานึกทบทวน ว่า โอ้.... มันไม่ใช่อย่างที่เราคิด พระมาจากร้อยพ่อพันแม่ ต่างอาชีพ ต่างการศึกษา ต่างความรู้ มาอยู่รวมกันแล้วปัญหามันก็เกิด แต่ละวันไม่ได้ทำอะไรกัน พระบวชใหม่ก็ต้องมานั่งล้างชาม วันโกนวันพระ นั่งล้างชามกองพะเนินบนศาลาพระรูปอื่นทีาบวชก่อนเขาก็ไม่มาช่วย ตีระฆังทำวัตรแต่เช้ามืด เมื่อไปรู้ไปเห็นอะไรแล้ว ก็เกิดความเบื่อหน่ายอีก ตอนนั้นอาตมาเป็นพระผู้น้อย บวชใหม่ว่าอะไรเขาไม่ได้ เราไม่มีอำนาจ ไปแก้คนอื่นเขาไม่ได้ ต้องแก้ที่ตัวเราเอง คิดว่าไม่มีใครทำถูกใจคนได้หมด สุดท้ายจึงตัดสินใจว่า เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เมื่อแก้ที่คนอื่นไม่ได้ ก็แก้ที่ตัวเราละกัน เราเพียงมาอาศัยที่เขาอยู่ สิ่งแวดล้อมเป็นแบบนี้ เมื่อเราไม่ชอบเราก็ต้องไปจากที่นี่ ก็คิดจะออกธุดงค์
    ก่อนออกธุดงค์ก็ศึกษาอ่านหนังสือรวดเลย ทั้งนักธรรมชั้นตรี โท เอก อ่านหลักการธุดงค์ทั้ง 13 ข้อ เพราะเรามีพื้นฐานอยู่บ้างแล้วในด้านธรรมะ ด้านคาถาอาคมเราก็พอมีอยู่ เพราะได้ศึกษามาตั้งแต่เป็นวัยรุ่น เมื่อคิดได้ดังนั้น ครั้นออกพรรษา ก็เข้าไปกราบลา ท่านเจ้าอาวาสว่าขอลาไปธุดงค์ ท่านก็งง เพราะเพิ่งบวชได้เพียงพรรษาเดียว เท่านั้น ยังเป็นพระใหม่อยู่
    หลังจากนั้น ก็เข้าไปในโบสถ์จุดธูปบอกกล่าวต่อองค์พระประธาน ขอยึดไตรสรณะคมน์ คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นที่พึ่งอาศัย และขอถวายชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ..........จบตอนจ้า

    บทเพิ่มเติม
    หลายๆครั้งที่คุยกับหลวงพ่อ ท่านมักจะกล่าวว่า อย่าทิ้ง กรรมฐาน และให้แก้ไขที่ตัวเอง อะไรที่ไม่ถูกใจขัดหูขัดตา เราก็ถอยออกมา จะได้ไม่ไปเห็นมัน แล้วจะได้สบายใจเพราะไม่ได้เอาใจไปรับมัน ท่านสมาชิกก็อย่าได้ทิ้งกรรมฐาน และอ่านหนังสือธรรมะ กันบ้างนะครับ จริงอยู่ที่หลวงพ่อท่านทำวัตถุมงคลออกมาหลายแบบ แต่อีกมุมท่านคอยสอนศิษย์ใกล้ชิด ให้วางๆลงบ้าง ให้เบื่อบ้าง อย่าไปเห่อตามเขา ท่านกล่าวบ่อยมากว่า ที่บ้านแก แขวนกันหมดมั๊ยนั่น เต็มเลย แขวนอะไรก็เอาให้มันแน่วแน่ อย่าเปลี่ยนบ่อย เพราะว่าการจะมีประสบการณ์หรือเห็นผล มันไม่ได้ใช้เวลาอาทิตย์สองอาทิตย์ คนโบราณเขาแขวนพวงเดิมๆตลอด แกเห็นมั๊ย
    ตอนหน้าบทเพิ่มเติมจะมาให้ความรู้แบบเป็นความลับลวงพรางของพลังแห่งสีสัน

    ขอบพระคุณท่านสมาชิกที่ติดตามอ่านคับ
     
  16. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 4

    เมื่อกราบพระประธานเสร็จแล้วก็ออกธุดงค์แบกกลดเดินจากจังหวัดนครสวรรค์ไปเรื่อยๆ ตอนนั้นอาตมาใจร้อนไปนิดนึง คือเดินเร็วไปหน่อย ใหม่ๆ วันนึงเดินได้ตั้ง 25 ก.ม. โอ้โห เหนื่อย ยังหนุ่มยังแน่น ใจร้อนเดินเร็วตั้ง 25 ก.ม. แรกๆก็ดีอยู่หรอก แต่พอหลายวันเข้ามันก็เมื่อยล้าเพราะต้องเดินตากแดด จนผิวหนังไหม้เกรียม โดยตั้งใจว่าจะไป จ.เชียงใหม่ ขณะที่เดินธุดงค์ก็ปวารณาจะไม่จับปัจจัยและฉันมื้อเดียว แต่อนุโลมว่าถ้ารถจอดรับก็ขึ้น เขาส่งแค่ไหน ก็ไปแค่นั้น

    #เข้าใจในจุดประสงค์จริิงๆของการเดินธุดงค์
    ทีนี้ถึงเวลาปักกลดมันเหนื่อย มันล้า บางทีเดินนี่หลอนเลย คล้ายๆเดินอยู่ในทะเลทราย คอแห้งผาก พอยามค่ำคืนเราปักกลด สวดมนต์ เจริญสมาธิแล้วก็จำวัตร มันก็เกิดความรู้สึกว่าหดหู่ วังเวง เหงา นึกสงสารตัวเอง สมเพชว่าเรามีกรรมอะไร เหมือนถูกทอดทิ้งนะ มันเดียวดายมองออกนอกกลดไปมีแต่ฟ้า มองข้างๆมีแต่ป่า เหมือนนอนกลางดินกินกลางทราย มันทำให้ทั้งเหนื่อยทั้งล้า เกิดความทุกข์ พอเกิดความทุกข์จิตมันก็คิดไปเห็นกุฏิที่วัด ว่าเรานอนอยู่วัดยังมีกุฏิ มีพัดลม มีหมอน เมื่อแสนสบายแล้วเรามาลำบากทำไม
    คิดไปคิดมาอยู่อย่างนี้ ปรากฏว่ามันเกิดความเข้าใจในธรรมะเกิดขึ้น ว่า....โอ้หนอ จุดประสงค์ของการเดินธุดงค์จริงๆพระพุทธเจ้าท่านให้เห็นตัวทุกข์ ถ้าเรามัวแต่อยู่ในวัด เราจะเกิดความเคยชิน และติดอยู่ในความสุขสบาย และอาจจะดำเนินชีวิตด้วยความประมาท เมื่อเป็นเช่นนั้นแล้วเราจะไม่รู้เลยว่าความทุกข์มันเป็นอย่างไร
    พอออกเดินธุดงค์ก็พบกับความทุกข์ยาก ลำบาก ต้องนอนบนพื้นดินกลางป่าเขาลำเนาไพรมันทำให้เกิดความเปรียบเทียบกับสถานที่ที่เราเคยอยู่มาก่อน และเข้าใจในสัจจะธรรมว่าพระพุทธเจ้าต่องการให้เราเห็นตัวทุกข์ อยู่ในวัดมันสุขสบาย แต่อยู่ข้างนอกมันทุกข์ยากลำบาก ฉันอาหารคาว-หวาน รวมกันในบาตรเพียงมื้อเดียว ไม่จับปัจจัย ไม่มีสมบัติพัสถานอะไรทั้งสิ้น ทำให้ได้รับประสบการณ์หลายอย่าง มีโยมบางคนมาขอหวยบ้าง เราก็พยายามบ่ายเบี่ยงและบอกเขาไปว่าไม่มีหรอกหวย เขาบอก ว่า มี พระธุดงค์มาทีไรก็ให้ถูกทุกที ก็จะเจอแบบนี้ จึงออกธุดงค์ไปเรื่อยๆ บางที่เขาบอกว่าท่านตรงนี้ปักกลดไม่ได้หรอก ผีดุ ไม่มีใครอยู่ได้หรอก นิมนต์ท่านไปทางอื่นเถอะ
    อาตมาบอกว่า ไม่เป็นไรหรอกโยม อยู่ได้ ทีนี้เวลาปักกลด.....จบตอน

    บทเพิ่มเติม
    สำหรับท่านที่คิดจะเปิดธุรกิจเป็นของตัวเอง และคิดทำโลโก้ ป้ายร้าน ลองพิจรณาดูครับ
    ความลับลวงพรางแห่งสีที่ว่า คือ สีแดง(ส้ม แสด) ขาว เขียว 3 สีนี้ เป็นสีแห่งการค้า มักจะถูกนำไปเป็นสีของโลโก้ ป้ายร้าน หากท่านสมาชิกไม่เชื่อ ให้ท่านสังเกตุ โลโก้สินค้ารอบตัวท่าน ป้ายร้านค้าดังๆ แม้กระทั่งห้างสรรพสินค้า แบรนด์ชั้นนำตามโฆษณาในทีวี ให้สังเกตุดูเรื่อยๆ เพราะนอกจากคุณภาพของสินค้าแล้ว ยังมีการคิดค้นโลโก้โดยการใช้หลักการของสีด้วย แบรนด์ดังๆ ที่ขายดี อยู่รอดได้ มักจะมีอย่างน้อย 2 สี ในโลโก้ ดังที่กล่าวมา พิสูจน์ได้ด้วยตาของท่านเอง และหากจะทำป้ายร้านค้า คุณชายปุณ แนะนำให้เอาสามสีนี้มาใช้นะขอรับ ใครไม่ชอบอ่านบทความยาวๆก็ถือว่าพลาดไปครับ

    ขอบพระคุณที่ติดตามขอรับ
     
  17. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 5

    ก็ต้องใช้วิธีการแผ่เมตตาเอา ไม่ไปสวดมนต์หรือคาถาอะไรขับไล่เขา เพราะถือว่าเราไม่ได้มาเบียดเบียนใคร เมื่อเจริญจิตแผ่เมตตาให้เขา ก็สงบดีไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายอะไรเกิดขึ้น พอธุดงค์ผ่านไปถึงเขื่อนภูมิพล ซึ่งเคยได้ยินคนเขาพูดกันว่าเขื่อนภูมิพลเป็นเกาะ คิเอยากจะไปหาที่เงียบๆเพื่อนั่งสมาธิ จึงนั่งเรือเข้าไป เรือเขาก็พาไปปล่อยเกาะ ไกลเหมือนกันนะ มีบ้านคนอยู่เพียง 8หลัง ยุงตัวเบ้อเร่อ ถ้าโดนมันกัด ก็เป็นไข้มาลาเรียเลย อีกอย่าง ถิ่นนั้นมันเข้าไปลึกและมีอาถรรพ์ ขืนอยู่ต้องเป็นไข้มาลาเรียแน่ๆ เพราะยุงตัวใหญ่มาก จึงมานั่งทบทวนว่ามันคงตึงเกินไป ต้องผ่อน จึงจำใจถอยออกมาตั้งต้นใหม่
    ทีนี้พระที่ท่านมาส่งท่านมีเรือหางยาว ใช้เครื่องยนต์ลำเล็กๆ ต้องออกมากันตั้งแต่เช้ามืด เพราะถ้า 6 โมงฟ้าสางแล้วมันจะมีลมภูเขา ลมมันแรง เรือมีสิทธิ์พลิกคว่ำได้ และอาจจะอันตรายถึงชีวิตเนื่องจากเขื่อนมันกว้าง และไม่มีสิ่งอื่นให้ยึดเกาะ นอกจากเกาะพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์เท่านั้น นั่งเรือไปก็ภาวนาไปด้วย เอาไตรสรณคมน์เป็นที่พึ่ง "พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ธัมมัง สะระณัง คัจฉามิ สังฆัง สะระณัง คัจฉามิ " ภาวนาไปตลอดทาง เพื่อให้จิตนิ่งและไม่เกิดความกลัว ตอนนั่งเรือเป็นชั่วโมงกว่าจะถึงฝั่ง จะเป็นด้วยเดชะบุญหรืออะไรก็ไม่รู้ ที่ทำให้รอดพ้นจากพายุช่องลมนั้นมาได้อย่างปลอดภัย
    พอกลับขึ้นฝั่งก็ไปอยู่ที่ถ้ำตับเตา จ.เชียงใหม่ เพราะเคยอ่านเจอในหนังสือโลกทิพย์ถึงกิตติศัพท์ของท่านพระอาจารย์บุญช่วย ทำให้เกิดความศรัทธาเลื่อมใสในวัตรของท่าน จึงเดินธุดงค์ไปที่ถ้ำตับเตา แล้วพำนักปฏิบัติธรรมที่นั่น ซึ่งมีความสงบเงียบ แต่หนาวจนเสียดกระดูก ก็ได้ฝึกจิตอยู่ตามลำพังรูปเดียว ฉันมื้อเดียวฝึกอย่างหนักจนจิตเริ่มแก่กล้าขึ้นตามลำดับ
    อาตมาพักอยู่ที่ถ้ำตับเตาได้ประมาณ 2-3 เดือน จึงออกธุดงค์มาอยู่ที่เขามอ จ.กาญจนบุรี ซึ่งเป็นเนินเขาเตี้ยๆ ยังไม่เจริญ พอไปถึงก็ไปขอพักกับเจ้าอาวาสซึ่งขณะนั้นท่านกำลังป่วยอยู่พอดี
    พอได้เข้าพักปฏิบัติธรรมอยู่ที่เขามอ ก็ปรากฏว่า จิตสัมผัสได้ว่าที่ตรงนี้ดีมาก ...จบตอน

    บทเพิ่มเติม
    วันนี้มาคุยเรื่อง วัตถุมงคลสายเมตตามหาเสน่ห์ หรือเรียกสั้นๆ ว่า สายหื่น ตรงนี้ควรเรียนรู้ครับ ไม่ใช่แอนต้ี หรือต่อต้าน ทำความเข้าใจกับมันก่อน ก่อนจะตัดสินด้วยใจตัวเอง วัตถุมงคลประเภทนี้จะออกไปทางรูปลักษณ์ที่ไม่พึงปราถนา เช่น ปลัดขิก ม้าเสพนาง งั่ง เป๋อ มอญแทงกริช เพชรพยาทร ช้างผสมโขลง ฯลฯ สิ่งพวกนี้คือศาสตร์ ที่ตกทอดมา เป็นภูมิปัญญาของคนโบราณ คนทั่วไปมักจะมองไปทางชู้สาว แต่แท้จริงแล้ว ของพวกนี้ใช้ในการทำมาหากิน ค้าขาย ดีมาก เช่น ผ้ายันต์ม้าเสพนาง ของครูบาวัง วัดบ้านเด่น ถ้าของแท้ๆ หลักพันไม่ได้แตะครับ หลักหลายหมื่น นู้นหละ คนที่เขารู้เคล็ดลับพวกนี้ เขาเอามาใช้ในทางค้าขาย ร่ำรวยกันหลายราย คนที่แอนตี้ ต่อต้าน ก็มองว่ามันเป็นรูปลักษณ์ของการแสดงทางด้านเพศ แต่ไม่สนใจข้อดีของมันเลย การที่เราเองเป็นคนมีเสน่ห์ มันเป็นการเปิดทางการค้าเบื้องต้น การเจรจาต่างๆ ของพวกนี้เสกได้จริงเมื่อไร มันจะแรงมาก สะดวกต่อการงาน เข้าหาเจ้านายสบาย พวกงั่ง เป๋อ นี่ถึงขนาดหยุดลูกปืนได้เลย แต่คนชอบไปดูถูก อันนี้ผมไม่ได้พูดเองนะครับ หลวงพ่อเคยกล่าวให้ฟัง ซึ่งแต่ก่อนผมก็ไม่เอาเหมือนกัน เพราะรูปลักษณ์ แต่เมื่อฟังหลวงพ่อมา ก็ลองเปลี่ยนมุมมองดู เราแค่เอาส่วนดีมันมาใช้ประโยชน์ ส่วนไม่ดีเราก็ยับยั้งชั่งใจตัวเอง ง่ายๆ ครับ การใช้วัตถุมงคล เราเองก็ต้องเรียนรู้ ว่า เขาสร้างมาจากอะไร มีพุทธคุณอย่างไร เราจะได้มั่นใจในสิ่งนั้น เราไม่มีสิทธิ์ตัดสินความเชื่อคนอื่นจากความคิดของเรา ถ้าไม่ตรงกับเราแสดงว่าไม่ดี อันนี้ขอให้คิดเสียใหม่ครับ หากท่านไม่ชอบจริงๆกับเรื่องพวกนี้ ก็มองผ่านไป ไม่ต้องไปตามด่าเขาครับ จิตตัวเองจะตกลงไปอีก
    ตอนหน้ามาคุยเรื่องอาถรรพ์ของป่ากันครับ

    ขอบเตียงที่ติดตามครับ
     
  18. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 6

    เทพเทวามีสัมมาทิฏฐิดีมาก ถ้าพูดตามหลักฮวงจุ้ยเป็นท้องมังกร ถูกจริตมาก รับรองว่าอยู่แล้วเจริญแน่นอนเพราะสัมผัสได้หลายอย่าง ต่อมาก็ได้ช่วยท่านเจ้าอาวาสท่านช่วยหาเงินค่าน้ำค่าไฟให้กับทางวัด โดยการแกะพิมพ์พระแล้วมานั่งกดด้วยมือตัวเอง พอเสร็จแล้วก็นำมาปลุกเสกเพื่อเอาไว้ให้ญาติโยมบูชา
    ในวัดนี้มีศาลเก่าๆ แล้วมีเทพจีนที่เขาเรียกว่าฮกลกซิ่วแกะด้วยไม้ แต่แตกแล้วนะ เขาคงเอามาทิ้งไว้ที่วัด และมีใครไม่รู้มาทำศาลหลังเล็กๆไว้ให้ เราก็ไปยืนเพ่งจิตมองดู ก็สื่อกัน คล้ายสัมผัสได้ว่าท่านอยากได้ศาลสีแดง เราก็คิดเองว่า ได้ อยากได้สีแดงเดี๋ยวจะทำให้ ก็เลยวานโยมไปซื้อสีแดงมา เมื่อได้สีแดงมาแล้วก็จัดการล้างศาล และองค์ท่านลงแฟ๊บ ขัดอยางดี แล้วปล่อยให้แห้ง จากนั้นทาสีแดงให้
    #เชื่อไหม.....?
    พอทำตรงนั้นเสร็จปุ๊บ ท่านแสดงว่าท่านช่วยเราอย่างปาฏิหารย์ ท่านไปตามคนมาจากไหนไม่รู้ ให้มาหา คนที่มีทุกข์นะ มาจากจ.ราชบุรี นครปฐม มีอยู่คนหนึ่งทำกิจการโรงงานรองเท้าอยู่กรุงเทพ แต่กิจการไม่ค่อยดี จึงทำให้เขามีความทุกใจ เลยเข้ามาหาเจ้าอาวาสแล้วกราบเรียนท่านว่าเป็นทุกข์ กิจการกำลังย่ำแย่ จะล่มจมหมดแล้ว ไปสะเดาะเคราะห์หลายที่ก็ไม่ดีขึ้น ไปบวชเพิ่งสึกมา ก็ไม่ดีขึ้น
    ท่านเจ้าอาวาสก็ชี้มาที่อาตมาแล้วบอกว่า ไปหาพระอาจารย์รูปนั้น ให้ท่านช่วย
    เขาก็เข้ามาหาแล้วบอกว่า "ผมกลุ้มใจเหลือเกิน รับมรดกตกทอดจากตระกูลที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับรองเท้า แต่ไม่มีออเดอร์เข้ามาเลย จะเลิกก็เสียดาย เพราะทำกันมาตั้งแต่บรรพบุรุษ สงสารลูกน้องอีกหลายชีวิีต้องมาตกงานไม่มีกินไม่มีใช้ คิดไม่ตก ใครเขาว่าครูบาอาจารย์รูปไหนดี ก็ไปขอให้ท่านช่วยสะเดาะเคราะห์ก็ไม่ดีขึ้น ไปบวชก็ไม่ดีขึ้น แต่มีอะไรมาดลใจก็ไม่รู้ถึงอยากจะมาที่นี่"
    อาตมาก็เลยบอกเขาไปว่า "ถ้าอย่างนั้น ก็ต้องลองดู"
    เมื่ออาตมาพูดเช่นนั้น เขาก็ไปหยิบรองเท้ามาคู่นึงแล้วกล่าวว่า "หลวงพ่อช่วยเสกรองเท้าให้หน่อย มันจะได้ขายดี"
    เราก็ตกใจ"เอ้า....โยม จะให้เสกยังไงหละ..รองเท้า"
    เขาบอกว่ามันเป็นแบบเป็นบล๊อคพิมพ์รองเท้า ไอ้เราก็อึ้ง! จะเสกยังไงวะ...รองเท้า แต่ก็ไม่อยากทำให้เขาเสียกำลังใจ เพราะเห็นความมุ่งมั่นของเขา จึงคิดว่า เสกก็เสก แต่ไม่กล้าใช้สายสิญจ์ เพราะเห็นว่าเป็นหุ่นรองเท้า ก็เลยเอาเชือกบล๊อกแก้วพันรองเท้าแล้วเสกอธิฐานจิตเข้าไป ครั้นเสกเสร็จแล้วเขาก็นิมนต์ให้ไปเจิมรถปิ๊กอัพป้ายแดง พอเจิมเสร็จแฟนเขาก็บอกว่า หลวงพ่อ อีก 2 วัน รถจะโดนยึดแล้ว
    อาตมาก็บอกว่า 2 วันโน่นถึงจะถูกยึด เวลายังพอมี ไม่แน่หรอก อาจไม่ถูกยึดก็ได้ ยังมีเวลาหายใจอยู่ ก็ต้องลองดูก่อน ก็เจิมให้เขา กำหนดจิตอธิฐานว่าขอให้เขาไม่ถูกยึดรถและขอให้มีเงินผ่อนค่างวดรถ พอเจิมและทำอะไรเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็พากันกลับ
    ผ่านไปอาทิตย์กว่าๆ เขาโทรกลับมาหาเจ้าอาวาส ถามว่าอาจารย์องค์นั้นยังอยู่ไหม ท่านก็บอกว่ายังอยู่ เขาจึงบอกว่าอย่าเพิ่งไปไหนนะครับ เดี๋ยวผมจะเอาของมาถวายท่าน ตอนนี้ผมยังไม่ว่างเลย ยอดออเดอร์รองเท้าสั่งเข้ามาเป็นพันคู่เลย รถก็ไม่ถูกยึด
    เขาพากันดีใจ ซื้อของมาถวายเต็มไปหมดและเล่าให้ฟังว่า หลังจากกลับไปแล้ว ปรากฏว่ามีใบสั่งทำรองเท้าเข้ามาเป็นพันคู่เลย
    อาตมาจึงบอกเขาว่า "ดีแล้วหละโยม ดีใจด้วยที่ประสบความสำเร็จ"
    เท่านั้นแหละ ข่าวกระจายออกไป คนนั้นก็มาหา คนนี้ก็มาหา อาตมายังนึกขำอยู่
    มีอยู่คนนึงแกประกอบอาชีพขายเนื้อหมู เอาเนื้อหมูกิโลนึงมาให้เสก
    อาตมาจึงพูดว่า "อ้าว...จะเสกยังไงหละโยม นี่มันเนื้อหมู"
    เขาก็ย้อนเราอีกว่า "ทำไมทีรองเท้า หลวงพ่อเสกได้หล่ะ เจ้านั้นหลวงพ่อยังช่วยเขาได้เลย"

    จบตอน

    บทเพิ่มเติม
    เรื่องนี้คือเรื่องจริงที่เกี่ยวกับอาถรรพ์ของป่า ที่เกิดขึ้นเมื่อหลังปีใหม่ที่ผ่านมา คนที่ไม่เคยเชื่อเรื่องลี้ลับ กลับมาเชื่อ เพราะได้เกิดขึ้นกับตัวเพื่อนของเขาเอง เรื่องเล่าจากพี่ชายผมเอง คือตอนแรกจะทำภาพพระวิษณุกรรมแจกกันโดยไม่ต้องปลุกเสก แต่พอเกิดเรื่องนี้ขึ้น ถึงกับเดินสายเอาไปเสก 3 วัดเลย โดยบอกว่า เสกซักหน่อยละกัน เพื่อความสบายใจ รวมไปถึงเด็กช่างที่เป็นอิสลามยังเชื่อเรื่องพวกนี้
    เนื่องจากมีเพื่อนในกลุ่มเด็กช่าง ได้ไปบวชที่ จ.ชัยภูมิ โดยหลังวัดจะมีป่า ที่เชื่อมต่อกับป่าใหญ่เป็นภูเขา เป็นป่าโปร่งๆ หน้าแล้งต้นไม้ไม่ได้ใหญ่โต ส่วนใหญ่เป็นต้นเตี้ยๆ ใบแห้งๆ สีน้ำตาล หญ้าขึ้นไม่เกินเข่า ระยะมองเห็นจะไกลหน่อย ไม่ทึบ เมื่อเพิ่งบวชเป็นพระใหม่บวชได้ไม่กี่วัน หลวงพี่พระเก่า ชวนพระใหม่ขึ้นไปนั่งสมาธิปฏิบัติธรรมตอนดึก ในป่าหลังวัด ซึ่งเป็นภูเขาเล็กๆ เมื่อขึ้นไปนั่งพร้อมแบกกลดกันขึ้นไปสองรูป พระใหม่ก็เกิดหิวน้ำขึ้น จึงถือบาตรเพื่อจะนำไปตักน้ำ พร้อมกับเทียนพรรษา 1 เล่ม เพื่อใช้เป็นไฟส่องสว่างในการเดินไปลำธาร..........จบแระ
     
  19. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    #ความจากหนังสือโลกลี้ลับ 7

    พอเขาพูดอย่างนั้น อาตมาก็คิดในใจว่า เดี๋ยวเขาจะหาว่าเราลำเอียง ว่าเห็นเขาจนหรือยังไง ถึงรังเกียจและไม่ยอมช่วย จึงตัดสินใจว่าเสกก็เสกเดี๋ยวจะหาว่าเราเลือกคนรวยคนจน พอเสกเสร็จก็มานั่งคิดอีกว่า เราเสกแล้วขลังก็เฉพาะหมูชิ้นนี้ ใช่ไหม เนื้อหมูมันอยู่ได้ไม่นานก็ต้องเน่า จึงบอกกะบเขาไปว่า "โยม...ถ้าเสกชิ้นนี้มันก็ขลังเฉพาะชิ้นนี้ ชิ้นอื่นไม่ได้ขลังด้วยนะ เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน โยมเอาเนื้อหมูชิ้นนี้ถวายเข้าโรงครัวของวัดไปเลย เพื่อให้แม่ครัวเขาทำอาหารถวายพระ"
    เขาเลยพูดว่า "เออ....จริงๆ แหละหลวงพ่อ"
    อาตมาจึงบอกเขาว่า "เอาอย่างนี้นะ โยมลองเอาวัตถุมงคลของอาตมาไปใช้ดู"
    เขาบอกว่า "ดีเหมือนกันหลวงพ่อ"
    อีกเจ้าก็เสกใบสั่งน้ำพริก ก็ปรากฏว่า ขายดีอีก จึงทำให้เกิดเสียงล่ำลือไปแบบปากต่อปาก
    มีโยมคนหนึ่งท่าทางคล้ายคนเมานิดๆ บอกว่า "ผมขายต้นไม้อยู่ที่สวนจตุจักร กรุงเทพฯ จากเมื่อก่อนที่เคยขายได้ แต่ตอนนี่ขายไม่ได้เลยทำให้รายได้ตกต่ำจนเป็นหนี้เป็นสิน ผมได้ยินกิตติศัพท์ของหลวงพ่อ จึงมาที่นี่ ถ้าหลวงพ่อแน่จริง หลวงพ่อต้องช่วยผมได้"
    อาตมาเลยบอกว่า "แกนี่น้ออออ......มานี่ มาอาบน่ำมนต์ไล่ความเมาเสียก่อน"
    อาตมาจึงอาบน้ำมนต์ให้เขาแล้วก็ทำพิธีบังสุกุลเป็น บังสุกุลตายให้ เสร็จแล้วก็ให้ปลัดขิกไปอันนึงแล้วบอกเขาให้เอาไปจิ้มที่ต้นไม้ที่จะขายและอธิษฐานขอให้ขายดิบขายดี
    อาทิตย์ต่อมา เขาก็กลับมาอีก ถือของมาเต็มเลย พอมาถึงก็บอกว่า "โอ้โห....หลวงพ่อ ! กลับไป ผมขายต้นไม้ได้วันละ 7,000 บาท ดีใจมากๆเลย"
    ทีนี้ อาตมาก็รู้สึกเอะใจว่าทำไมมันขลังขนาดนี้ เราคงไม่เก่งถึงขนาดนั้นหรอกมั้ง ทุกรายที่ช่วยเขา สำเร็จหมด เจ้าที่เจ้าทางคงมีส่วนช่วยเราเป็นแน่ เพราะท่านรู้ว่าเราช่วยคนด้วยความบริสุทธิ์ใจ จริงๆไม่ได้หวังสิ่งตอบแทนใดๆ ก็เกิดความผูกพันธ์ และอยากอยู่ที่นั่น แต่อยู่ไม่ได้ เพราะไม่ใช่ที่ของเรา ต้องกลับมาเยี่ยมโยมแม่ ซึ่งชราภาพมากแล้ว ที่จังหวัดกำแพงเพชร โดยพักอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งแถวนอกเมือง เพราะเงียบสงบดี และอยู่ใกล้โยมแม่อีกด้วย

    "มีสิ่งดลใจให้มาอยู่วัดโคกหม้อ"
    จบตอนฮะ

    บทเพิ่มเติม
    เมื่อถือบาตร กับเทียน เดินลงไปที่ลำธาร พอเดินไปถึงจึงก้มลงตักน้ำ "เอาคำถามมาถามตอนนี้เลยละกัน ถามว่า ทำไมหลวงพ่อไม่อยู่บนเกาะกลางเขื่อนภูมิพลต่อ" แจกรูปถ่าย 2 ท่านแรกที่ตอบถูก ท่านละหนึ่งคำตอบ ต่อเลยนะ เมื่อตักน้ำเสร็จพระใหม่ก็หันกลับมาจะเดินไปที่กลด ปรากฏว่า ทางเดินมันหายไป และมีหมอกปกคลุมหมด พยายามเดินกลับไปทางเดิม แต่เดินยังไงๆ ก็กลับมาที่เดิม เดินกี่รอบก็วนอยู่ที่เดิม แต่ก็ไปเจอกระท่อมเก่าๆ ข้างในดูเรียบร้อย จึงพักอยู่ที่นั่น / ส่วนญาติโยมและเพื่อนๆภายนอก ก็พยายามตามหากัน โดยพระพี่เลี้ยง ถูกล่าวหาว่า เป็นผู้ที่ฆ่าพระใหม่แล้วนำศพไปซ่อน ร้อนกันถึง เจ้าหน้าที่ป่าไม้ และท้องถิ่น พยายามตามหา ส่งเฮลิคอปเตอร์ออกตามหา แล้วนำแผนที่มากาง บอกว่า บริเวณโซนนี้ มีพระหายไปหลายรูปแล้ว กากบาทเป็นสามเหลี่ยมให้ดู ส่วนชาวบ้านก็บอกว่า ช่วงนี้เมืองลับแลเปิด เขาจัดงาน ก็สุดแต่จะคาดเดา และสภาพป่า ก็ไม่ใช่ป่าดิบ มองได้ไกลมาก ทุกภาคส่วนพยามตามหากันทุกวัน โดยย่างเข้าวันที่ 7 ทุกคนรู้สึกท้อแท้ จึงมีไฟส่องทางในยามมืดมิดมาถึง อยู่ๆ มีพระพรรษาสูงรูปนึง ไม่ทราบว่า ท่านมาจากไหน และมีคณะพระลูกศิษย์ติดตามเป็นสิบ มาบอกกับญาติพระใหม่ ที่วัด ท่านมาบอกว่า........รอบที่แล้วกับคำถามว่า หลวงพ่อท่านแนะนำให้ใช้คาถาของหลวงพ่ออะไร คำตอบคือ หลวงพ่อ โอภาสี พระผู้เผากิเลส แห่งอาศรมบางมด
     
  20. สวนพลู

    สวนพลู เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    6,596
    ค่าพลัง:
    +18,651
    มีถามกันมาเยอะ ว่า พระขรรค์ศาสตราเทพตรึงไตรภพ ใช้ยังไง มีข้อห้ามอะไรบ้าง จึงเขียนขึ้นมาเพื่อความรู้ หลวงปู่สังข์ วัดป่าอาจารย์ตื้อ ท่านเอ่ยปากชมพระขรรค์ที่จัดสร้างกันครั้งนี้บ่อยๆ ตอนเอาไปปลุกเสก จากคำบอกเล่าของคณะใจหล่อที่นำไปให้ท่านเสกให้ ท่านกล่าวใจความประมาณนี้ พระขรรค์นี่ ดั่งหอกโมกขศักดิ์ ศักสิทธิ์มาก ขนาดถ้าผีบอปเข้า แค่เอาไปจี้ไม่ต้องว่า(คาถา) ก็หลุด ชี้ลงดิน ผีสางที่อาศัยอยู่บริเวณนั้นก็อยู่ไม่ได้ เย็นเฉียบเลยหละพระขรรค์นี้

    มาว่ากันที่ข้อห้ามก่อน เพราะผมเห็นว่า มีความสำคัญต่อทุกท่านมากกว่า วิธีใช้ มีข้อเดียวแบบรวมๆครับ คือ "ห้ามทำเป็นเล่น"
    เช่นเอามาตวัด ฉวัดเฉวียนเล่น เพราะอาจทำให้ผีสางเทวดาแถบนั้นได้รับทุกขเวทนาอันเกิดจากการกระทำของเรา ยังบาปให้เกิดอีก
    ห้ามชี้มั่วซั่วส่งเดช เช่น ใช้ชี้แล้วด่าแช่งใคร อาจทำให้ เกิดจริง หรือ เป็นบ้าเสียสติ แม้กระทั่งตัวผู้ที่ครอบครองก็อาจโดนย้อน ไปเลยก็ได้ ยังก่อบาปกรรมให้ตัวท่านเอง หรือ ชี้ไปยัง ศาลพระภูมิ ศาลเพียงตา หรือ สิ่งเคารพของท้องที่นั้นๆ หลวงพ่อท่านกล่าวว่า เป็นที่รวมมหาศาสตราเทพไว้ อานุภาพสูง ถ้าชี้ไป ท่านที่สถิตอยู่จะแสบตา หรืออาจจะมีแย่กว่านั้น เพราะพระขรรค์เป็นของสูง

    ส่วนวิธีใช้ ท่านว่า ให้ใช้ยามที่ต้องการจะใช้จริงๆ ถ้าไม่พกพาก็ควรวางไว้บนพาน บนหิ้ง ยามจะใช้ก็คือ เช่น ใช้ไล่ผี หลวงพ่อแนะนำว่า อย่าไปเข้าข้างหน้า ให้เข้าไปข้างหลัง ป้องกันการดิ้นและเราอาจถูกบาทาผีได้ กำหนดใจกำหนดจิตอธิฐานขอบารมีเอาหากท่านไม่ได้มีคาถาอะไร
    หรือใช้ถอนคุณไสย์ก็ใช้การ ลูบตามที่มีอาการบนลงล่างไล่ออกไปปลายทาง เช่นจากไหล่สู่ปลายมือ แล้วว่าคาถา เอาตามที่ท่านเรียนมาหรือที่ถนัด ถ้าไม่มีคาถา ก็ใช้วิธีกำหนดจิตแบบเดิม

    พระขรรค์รุ่นนี้ มีทั้งมวลสาร และพลังพุทธคุณ ที่เต็มเปี่ยมไหลเวียนไม่สิ้นสุด ฉะนั้นแล้ว ไม่ต้องกลัวเสื่อม

    ท่านสามารถทิ้งคำถามที่เกี่ยวกับพระขรรค์ ไว้ได้เลย ส่วนเรื่องเก็บตก วันงานไหว้ครู จะมาทยอยเขียนให้อ่านกันครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...