ธรรมหลังกึ่งกลางพุทธกาลเป็นต้นไป เป็นธรรมบัวบาน จะเปิดเผยครั้งแรกในยุคนี้นะ

เมื่อบัวบานจะทำการสิ่งใดก็ได้ผล
ดอกบัวบานกลางใจ..ธรรมบัวบานเจ้าเอ๋ย..
..ธรรมะที่แท้จริงต้องเหนือธรรมชาติ...
ถ้า.ธรรมะคือธรรมชาติ แสดงว่ายังไปไม่ไกลนัก.(เริ่มจะไปแต่ยังวนเวียนที่เดิมๆ)
ปล.ความเห็นส่วนตัว สำหรับวันนี้...

 

ลมปราณร้อนเย็นในร่างกาย ปกติโคจรอย่างไร?


ในร่างกายของเรามีลมปราณทั้งสายร้อนและเย็นอยู่แล้ว เป็นปกตินะฮะ มนุษย์ทุกคนมีลมปราณปกติอยู่เหมือนกัน ยกเว้นลมปราณพิเศษบางชนิด ที่จะมีเฉพาะบางคน บางคนก็ไม่มี ทีนี้ เรามาดูลมปราณอันเป็นพื้นฐานที่ทุกคนมีนะครับ คือ ลมปราณสายร้อนและเย็น ดังนี้

ลมปราณร้อน (เอี๊ยง)
จะอยู่ทางด้านหน้า มีทิศเคลื่อนจากบนลงล่าง คือ จากลมหายใจที่ปลายจมูก ลมกำเนิดไฟ เมื่อมีลม ไฟจึงเกิด ลมปราณสายร้อนจึงฝึกจากการหายใจ หรือลมหายใจ เข้าที่ปลายจมูก ลงไปเก็บไว้ที่ท้องน้อย (ตันเถียน) เมื่อจะใช้ก็ดึงออกมาจากจุดเก็บ ณ จักระนี้ครับ

ลมปราณเย็น (อิม)
จะอยู่ทางด้านหลัง มีทิศเคลื่อนจากล่างขึ้นบน คือ จากก้นกบเคลื่อนตามแกนกระดูกสันหลังไปสู่กระหม่อม เพื่อเปิดจักระที่เจ็ด หรืออาจเป็นพลังเย็นจากภายนอก เข้ามาทางจักระเปิด จักระใดก็ได้ แล้วเข้ามาเก็บไว้ใน "ไขกระดูก" วิธีเก็บลมปราณแบบนี้ เรียกว่า "เก้าอิม"

ทั้งนี้ สายลมปราณเย็น มีสองวิชาที่น่าสนใจ คือ วิชาเก้ามัจจุราช (ของเตียซำฮง) กับวิชาเก้าอิม ฝึกแล้วให้ผลต่างกัน เก้ามัจจุราช ได้มัจจุราชเป็นภูติคุ้มครอง แต่วิชาเก้าอิมจะได้เทพมังกรเป็นภูติคุ้มครอง (ซึ่งมีวิชาฝ่ามือพิชิตมังกรเป็นคู่ปรับครับ) เวลาฝึกเก้าอิมจะดูดซับพลังเย็นจากภายนอกมาเก็บไว้ แต่วิชาเก้ามัจจุราชจะใช้พลังเย็นจากภายใน คือ "จักระที่หนึ่ง" หรือ ก้นกบ เป็นพลังงูเย็น หรือ "กุณฑาริณีเย็น" ซึ่งค่อนข้างเหี้ยมโหดครับ

บางคนจะฝึกเคลื่อนลมปราณวนรอบตัวก็มี ซึ่งก็เป็นอีกวิธีหนึ่งครับ

 

การกำเนิดใหม่กับลมปราณเพศชาย


พลังหยาง เป็นพลังแห่งการก่อกำเนิด เพศชายจะถ่ายพลังนี้ไปสู่คู่รัก ขณะมีเพศสัมพันธ์กัน ทำให้เกิดบุตรขึ้นมาได้ ทว่า หากเราต้องการที่จะ "กำเนิดใหม่โดยไม่ผ่านครรภ์มารดา" เราจะต้องทำยังไง? เราก็จะต้อง "ดูดพลังหยางของผู้ชาย" เข้ามาสะสมไว้ในตัว ให้มากพอก่อนครับ วิธีดูดซับพลังจากเพศชาย อาจทำได้ด้วยการมี sex เพื่อรับพลังหยางแบบสตรีที่ได้รับจากบุรุษ คือ เราต้องเป็นฝ่ายรับครับ สำหรับสตรี หากจะฝึกวิชานี้ จะต้องเป็นหมัน แล้วดูดพลังหยางของเพศชายสะสมไว้ในร่างเพื่อการกำเนิดใหม่ ที่เรียกว่า "วิชาคณิกา"

พลังหยางหากมีมากเกินไป จะทำให้แก่เร็ว, หัวล้าน, ขนขึ้นเต็มไปหมด ฯลฯ วิธีเดียวคือ ต้องกำเนิดใหม่ เพื่อไม่ให้แก่เร็วครับ ดังนั้น เราจะมีช่วงที่ดูแก่เหมือนผู้เฒ่า จากนั้นเมื่อกำเนิดใหม่แล้วจะเหมือนเด็ก เรียกว่า "วิชาเฒ่าทารก" ซึ่งมีมานานแล้วไม่ได้มีแต่เฒ่าทารกในเรื่องมังกรหยกนะครับ ในการกำเนิดใหม่นั้น จะต้องผ่านการตายก่อน ซึ่งพลังที่ช่วยให้การตายภายในสมบูรณ์คือ "พลังหยิน" ดังนี้ เราจึงต้องฝึกพลังหยินก่อน เมืื่อตายภายในแล้ว ค่อยดูดพลังหยางเข้าไปเพื่อกำเนิดใหม่ครับ (หยินไปหยาง) สำหรับชาย ฝึกถึงขั้นเปิดจักระที่หก (ตาที่สาม) เพ่งรูปแล้วดูดพลังหยางได้โดยไม่ต้องมี sex

ซึ่งการฝึกทั้งหยินหยางคู่กันนี้ เป็นการฝึกแบบนักพรตเต๋าโบราณครับ

 

ระบบลมปราณ 2 ระบบ เคลื่อนในร่างกายอย่างไร?


ระบบตามแนวนอน (x)
เป็นการเคลื่อนโคจรของลมปราณตามแนวขวางหรือแนวแกนเอ็กซ์ ซึ่งจะเคลื่อนเป็นรูปวงกลม หมุนรอบแกนกลางร่างกาย ในแนวขวาง ตามจักระต่างๆ ทั้ง 7 จักระ ที่เรียกว่า "การหมุนจักระทั้ง 7" นั่นเอง

ระบบตามแนวตั้ง (y
เป็นการเคลื่อนโคจรของลมปราณตามแนวตั้งหรือแนวแกนวาย ซึ่งจะเคลื่อนในทิศ "ขึ้นและลง" คือ ขึ้นจากก้นกบไปสู่กระหม่อมและลงจากกระหม่อมไปสู่ก้นกบ (ด้านหน้าเคลื่อนลง, ด้านหลังเคลื่อนขึ้น)

ปกติ ลมปราณจากจักระที่ 1 (จักระเพศ) จะตื่นเฉพาะตอนมีอารมณ์เพศ พลังจึงจะออกมา ดังนั้น หลายท่านจึงมักฝึกดึงพลังออกมาในตอนมีอารมณ์เพศ แล้วกลับมาเก็บไว้ที่จักระที่สอง (ท้องน้อย) แทน เพราะจักระนี้ ดึงพลังออกมาง่ายกว่า ไม่ลึกเกินไป พอจะทำงานก็ดึงออกมาจากท้องน้อยได้เลยครับ นั่นคือ สาเหตุที่ทำไม บางคนโคจรพลังจักระเพศมาเก็บไว้ที่จักระท้องน้อยแทน

เวลาฝึกก็ต้องฝึกทีละระบบ ทีละจักระนะครับ ไม่งั้นมั่วแล้วแย่เลย

 

เขียน ๒๑.๕๑

แล้วการฝึกแบบนักพรตเต๋าอนาคตล่ะครับ
ท่านเคยรู้เห็นมาบ้างไม๊ มีใครทำได้ป่าว

๕๕๕


กระต่ายป่า อะไรดีหว่า / มั่วมาแล้ว ไม่แย่
.

 

เข้ามาในหัว นี่ ปกติครับ รับได้ จัดการได้
แต่พวกที่ มา ที่เท้านี่สิ...แปล๊บๆยังกะไฟช๊อต บางทีกำลังนอนเคลิ้มๆ ถึงกับสะดุ้ง
ผมก็ปล่อยให้พวกมันทำไปครับ มันส์ดีครับ...สนุกนะ ที่รู้ว่า มีพวกที่กำลังทุกข์อย่างร้ายแรง อยู่...อาจจะไช่ครับ ที่ผมเปิดทาง...ก็ผมต้อง เปิด เพิ่อให้ เขารู้ว่า...ผมเปิด

 

หยินหยาง...มันคือ รูปแบบ ความสมดุลย์...ของพลังงานในร่างกาย เพื่อให้เกิดปัญญาครับ อัพเลเวล....แต่ที่มั่วๆแบบท่านดอกไม้..มันเพี้ยนครับ

หยินตามธรรมชาติ หยินที่มาจากคนที่ยอมรับในตนเอง...เป็นสัมมาทิฐิ
หยางตามธรรมชาติ หยางที่มาจากการยอมรับตนเอง...เป็น.สัมมาทิฐิ

จึงแตกต่างจากพวก ทอมดี้ พวกรักร่วมเพศ.พวกนี้ เป็นหยินหยาง มิจฉาทิฐิครับ

ผล..ที่ได้ ดี จึง ต่างกันครับ..ได้ผลอยู่ แต่ผลมัน ...ผิดธรรมชาติครับ

 

หยินดี ผสมหยาง ไม่ดี...ผลคือหยินเป็นตัวนำ ผู้นำ..ไม่เกิดปัญญาดี ปัญญาที่ถูกต้อง
หยางดี ผสมหยินไม่ดี ผลคือหยางเป็นตัวนำ ผู้นำ ไม่เกิดปัญญาดั ปัญญาที่ถูกต้อง

ทำไม สามีภรรยาถึงต้องรวมใจเป็นหนึ่ง..ก็เพื่อ เอาพลังแห่งความรัก ความเข้าใจ มาเกื้อหนุนกัน...นำพากัน ส่งเสริมกัน เพื่อให้เกิดความสมดุลย์ แปลว่า เจนิญเติบโตไปพร้อมกัน เข้าใจกัน..พลังดีดี ก็จะ ทำให้เกิดความ สงบสุข และสะอาด แล้ว การพัฒนาด้านจิต วิญญาณ จึง..ก้าวหน้า..ไปพร้อมกันทั้งทางรูปธรรมและนามธรรม..เรียกว่า ยอมรับเป็นไปตามธรรมชาติ นั่นเอง

มันก็คือ...ปัญญาที่ ไหลลื่น ปราศจากปัญหา..(ตัวถ่วงความเจริญของจิตวิญญาณ)

มันเป็น ธรรม มะ ชาติ..ที่ควรจะเป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสมตามธรรมชาติที่ควรจะเป็น

 

เขียน ๒๒.๑๑


เอ..อ่านไปอ่านมา แล้วนึกออก ว่าเคยเจอเหมือนกันอ่ะ
ตอนไปงานเผาศพ ที่วัดนึง หน้าวัดมียักษ์ใหญ่สองตนเฝ้าอยู่
ว่างๆ ก็ส่งจิตกวาดดูไปรอบๆ มโนเอานะ ว่ากะลังทำเช่นนั้นอยู่จริง

ก็ไปเจออะไรไม่ทราบ สงสัยว่าจะถูกฝังไว้ใต้ดิน
ท่าทางจะเป็นตัวแสบ มากกกกก โจทย์แยะ
เลยนึกเอา ว่าแซะมันออกมาได้ด้วย
แต่ตอนขับรถขนพระกลับวัด
ก็มีจี๊ดและแปล๊บที่นิ้ว
นิ้วนางซ้ายที่เท้า
ยังนึกเลยว่า สงสัยตามมา
แต่ก็ช่างมัน อยากมาก็มา ไม่ว่า
มันคงอยู่แถวนั้นไม่ได้ โจทย์เพียบน่ะ
หลังจากนั้นก็มีจี๊ดแปล๊บ อยู่เป็นบางครั้ง
ก็สงสัยอยู่นะ จะสองปีแล้วมั้ง น่าจะไปได้แล้ว


กระต่ายป่า เก่งกล้าเกินคน / นิทานนะจ๊ะ นะจ๊ะ
.

 

ทุกเรื่อง ของธรรม มันคือ..ล้วนเป็นไปตามธรรมชาติ..ในตนในคนอื่น ในโลก

ธรรมของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า...ล้วน..เพื่อ เป็นไปตามธรรมชาติของตน ของคู่รักของตน ของครอบครัวของตน ของธรรมชาติ แห่งตน..

 

เคยให้ เพื่อนตรวจดู มันเป็นพวกที่มาจาก นรกขุมที่มืด ตัวเหมือนตัวหนอน ที่หางมีไฟฟ้า เมื่อโดนเราจะออกอาการ ช๊อต.. พวกนี้ต้อง แผ่พลังบุญให้เขาเปลี่ยน ภพภูมิไปเลยจะดีกว่า

แต่ บางทีความทุกข์ของคนอื่น ที่เหมือนตกนรกทั้งเป็น เขาก็มา ป๊าบๆที่ฝ่าเท้า นิ้วเท้า...มันก็แค่ ความทุกข์ของพวกเขา ที่เรารับรู้ ว่าเขาอยากให้ช่วย

แต่ก็อย่างว่า นั่นแหล่ะ เขาตกนรก..แต่ได้แต่ส่
สัญญาญมาบอกให้เรารู้..ตราบใดที่เขา ไม่มีสัมมาทิฐิ..เราก็เข้าไปหาช่อง ช่วยเหลือได้ยาก เพราะพวกเขาไม่พัก ที่จะว่างจากทุกข์เลย..กรำ

 

เรื่องหยินหยาง เพศหญิง เพศชาย...มันบ่งบอก ถึง สัมมาทิฐิ ในเบื่องต้น ว่า ตัวเราคือใคร เกิดมาเพื่อเล่นบทละคร บทใด...เกิดแต่กรรม..ถ้าหาก ไม่ยอมรับ ความจริงของตน..นั่นก็ เป็น มิตฉาทิฐิไปเลย....ใคร เห็นดีเห็นงามตามไปด้วย..ก็ รับกรรม จากการเห็นผิดเป็นชอบนั่นเอง

มันคือ กรร ม

 

เรื่องหยินหยาง ขอยกตัวอย่างเลยแล้วกัน...นายโดเรมอน

นายโดเรมอน รู้ว่า พลังของตนเองจะก้าวหน้าแบบหนังจีน ก็ด้วย การได้เสพผสมกับพลังของหญิงที่ดี(ที่ดี เน้นว่าพลีงความคิดของหญิงที่ดี มีปัญญาดี) เมื่อได้ผสมหยินหยางกับพลังหญิงดีมีปัญญา โดเรมอนคิดว่า พลังของตนก็จะอัพเกรด สูงขึ้น ปัญญาดีขึ้น...ที่คิดนี่ก็ถูกเลยล่ะ

แต่มันมีความถูกต้องของมันอยู่ ก็คือ พลัง ผู้หญิงที่จะมาอัพเกรดตนเองได้ มันต้องได้มาด้วยความถูกต้องชอบธรรม นั่นก็คือ ด้วยความรัก ความเข้าใจ และถูกต้องตามครรลองครองธรรม


จะไปลักขโมย แอบผสมพันธฺ หรือแค่ผสมพันธ์ มันไม่ได้หรอก.นี่คือสิ่งที่ต่างดาวโดเรมอน ไม่เข้าใจ..ในเรื่องราว

หรือถ้าชายใดแต่งงานมีเมีย ตอนแรกรักกัน ก็ผสมพลังกันดี แต่ถ้า อยู่ไป เกิดไม่เข้าใจกัน ไม่รักกัน...พลังมันก็ ไม่ดี ไม่เกิดประโยชน์ใดๆ เลย

นี่คือสิ่งที่เรียกว่า แพ้โลก นั่นเอง

 

อย่าว่าผมนะ ถ้าผมจะบอกว่า ธรรมะล้วนมาจากธรรมชาติทั้งนั้น
ไอ้ที่เหนือธรรมชาติตามที่คุณว่ามาน่ะ..มันเพ้อเจ้อครับ
คุณก็ไปไกลๆตามที่คุณ เข้าใจเลยนะครับ ขอให้คุณไปได้ไกลๆสมใจคุณครับ

 

คนเรา สามีภรรยา อยู่ด้วยกัน แรกเริ่มรักกัน แต่ร่วมกันไป ไม่ได้ตลอดรอดฝั่ง..นี่คือ แพ้โลกครับ....หยินหยาง ขาดกลาง ไม่ต่อเนื่อง....แปลว่า..พ่ายแพ้ ..ต่อ เส้นทาง

 

คนที่ครอบครับแตกแยก เลิกร้าง...มีใครบ้างล่ะ ที่จะไม่มีแผล...ในใจ
ตอนรักกัน คุณคือ คนดีที่สุดในโลก.(ชายก็ชมหญิง หญิงก็ชมชาย)..รักกันด้วยใจ
แต่พออยู่กันไป..มันก็ย่อม..กลับกลายเป็น ความธรรมดาไป หมดสิ้นซึ่งความสงสัยใคร่รู้ในกันและกัน...เมื่อต่างฝ่ายต่างธรรมดาเลยหมดความ..น่าสนใจ

มันเป็นเรื่อง แบบนี้ ทั้งนั้นแหล่ะ..มันเลย..เห็นความธรรมดา ไร้คุณค่า

 

เหนือธรรมชาติหมายถึงไม่ เกิดแก่เจ็บตาย มั้งครับ เพราะทุกจักรวาลหลุมดำยังอยู่ในธรรมชาติอยู่เลย

 

ก็ให้กำลังสมาธิไงครับ จะแผ่ด้วยเมตตา จะแผ่ด้วยความรักก็ได้แต่ต้องเกิดสมาธิ ต้องมีกำลังก่อนกำหนดส่งไปที่เขาตรงจุดที่มีปัญหาละครับ หรือถ้าสมาธิแข็งๆก็กำหนดรูปในจิตนาการก่อนให้เป็นปีกเราก็ได้แล้วก็เดินสมาธิไปจุดที่เราจินตนาการก็จะสร้างคอนให้เขาเกาะได้ครับ แต่เขาก็จะดูดพลังจากที่เราสร้างไปเรื่อยๆนะครับ แต่ถ้าเราเดินสติสมาธิตลอดมันก็จะคงสภาพแบบนั้นละครับ พอหายจากทุกข์นั้นก็สอนได้ครับพวกเขาเปลี่ยนภูมิไว แค่เข้าใจก็เปลี่ยนเลย ลองทำดูก็ได้ครับผม

 

ขนาดอรหันต์ ยังไม่เข้าใจความสมารถที่แท้จริงของพระพุทธเจ้าได้เลย แล้ว คนธรรมดาๆ มานั่ง วิเคราะห์ โน้นนี่ ผมว่า มันเหมือนคนบ้านะ .... สภาวะ นิพาน ทุกวันนี้ ยังเถียงกันว่า เป็น อัตตา หรือ อนัตตา ... ไอ้คนที่ ไม่บรรลุ มันก็พล่าม วิชาการ วิชาพุทธไปเรื่อยๆๆๆ มโนคิดไป เอง แล้ว มาพิมพ์ให้คนอื่น เชื่อตามที่ตัวเองคิด **บางคน ฝึกจิตได้แค่นิมิต ญาณระดับต้นๆ ก็เพ้อเจ้อคิดว่าตัวเอง ไปถึง แดน นิพานแล้ว **

 

จะฝึกคัมภีร์เทวดา อย่างแรกต้อง "สละเพศ"
ไม่ใช่ชาย ไม่ใช่หญิง และไม่ต้องตัดอวัยวะเพศ

ก็จะเข้าถึงสภาวะเหนือเพศ (มหาบุรุษเพศ) ได้นั่นเอง