ความคิดไม่ใช่จิต อย่าไปตามรู้ หรือรู้ตาม จะไม่มีเวลาตามทันเลยสักที เหมือนคนตามรอยโคไม่เห็นตัวมัน

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 27 มกราคม 2016.

  1. สังฆะ

    สังฆะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +35
    ทำสมาธิไปทำไม. เพื่อดูจิตรึ เพื่อแยกจิตรึ เข้าใจคำว่าการทำสมาธิด้วยจุดมุ่งหมายอะไรรึยัง. รึมันโก้หรูใครที่ปฏิบัติธรรมต้องทำสมาธิ แหมมันโก้หรู ใครๆก็พูด555555555
    เข้าใจและใช้ประโยชน์จากการทำสมาธิตั้งแต่เบื้องต้น. ท่ามกลางและเบื้องปลายรึยัง? รึทำสมาธิเพื่อแยกจิตจากกายมันแยกยังไงอะไรเรียกว่าแยก. เข้าใจนัยยะและความหมายที่ซ่อนอยู่ในประโยครึเปล่ารึท่องจำตามๆกันมา555555
    พ่อแม่ครูบาอาจารณ์ท่านถ่ายทอดธรรมมะผ่านสมมุติอักษร. ผู้มาทีหลังต้องเข้าใจนัยยะความหมายที่ซ่อนอยู่ในสมมุติอักษรนั้นมิใช่ว่าตามๆกันไป. ฉลากยานะมันแปะไว้ข้างขวดให้เราเข้าใจวิธีใช้ยา. ไม่ใช่เอาฉลากยามาแทะกินแล้วแปะๆๆไว้ มันก็โง่และตายห้าไปอีกชาติหนึ่งโดยไม่ได้อะไร55555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2016
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ว่างๆ ก็ฟังเทศน์พระสายหลวงปู่มั่น บ้างนะครับ จะได้รู้บ้าง ว่าการดูจิตของหลวงปู่ดูลย์ นั้น เป็นอย่างไร ^^

    แยกอย่างไร ทำสมาธิเป็นหรือไม่ ปฏิบัติให้ได้ เดี่ยวก็รู้เอง

    ครูบาอาจารย์ก็เทศน์สอนไว้ชัดเจน
     
  3. สังฆะ

    สังฆะ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    79
    ค่าพลัง:
    +35
    55555ทำๆไปเถอะเดียวก็รุ้เองงั้นก็เป็นพระพุทธเจ้าเองเลย5555555ทำเองรุ้เอง. ตายห้าเองโดยเปล่าประโยชน์55555
    ธรรมมะของพ่อแม่ครูบาอาจารณ์นะท่านสอนผ่านสมมุติอักษรมันมีนัยยะ. ความหมาย. ถ้าไม่รุ้ไม่เข้าใจก็อย่ามาตัดแปะๆ แล้วบอกทำเองรุ้เองนั้นมันคนโง่ ตนไม่มีธรรมมะอะไรเลยในการกล่าวธรรม. อธิบายธรรม. อะไรเรียกว่าทำสมาธิแล้วสมาธิใช้ประโยชน์อะไร. การแยกจิตดูจิตมันมีนัยยะความหมายว่าอย่างใด? นำมาใช้ประโยชน์อะไรในการวิปัชนา555555
    แม้แต่คำกล่าวที่ว่าทำเองรุ้เองก็มีกาลมีนัยยะของมัน. มันไม่ได้แปลตามตัวอักษรที่เข้าใจ5555
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 มีนาคม 2016
  4. มิลินท์

    มิลินท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 กุมภาพันธ์ 2016
    โพสต์:
    45
    ค่าพลัง:
    +25
    ให้อ่านต่อจากที่ขีดไว้ จาก"อย่าไปตามรู้ ....." ข้อความต่อจากนั้นคือให้เอาหลักผูกคล้อง. แสดงว่าให้มีสติรู้เท่าทันจับตัวมันให้ได้ค่ะ
     
  5. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    เอา ภาษาอังกฤษ สิ

    Observe

    กับ

    Learning

    คือ " อย่าไป เอาความรู้(Learning)จาก ความคิด / บ้าง "ยัด""ติ" ว่า " อย่าตามรู้ความคิด "

    *******************************************

    แต่ให้ สังเกต จิตไหลไปคิด แล้ว ระลึกรู้ เห็นกลุ่มความคิด เกิด ดับ
    ซึ่งนอกจาก จะไม่ใช่เรื่อง รู้แบบโลกๆ รู้แบบสามัญสำนึก อยู่แล้ว
    แถมยังเป็นการ พรากออกจากความคิดด้วย แต่ไม่ได้หยุดคิด อาศัย
    คิดแสดงสภาวะธรรมเกิดดับ ไตรลักษณ์ญาณสัมปยุตเมื่อไหร่ มัน
    จะแยกได้ว่า ความคิดเป็น สังขารขันธ์ ส่วนสิ่งที่ Obsere สังเกตุ
    ก็เป็น วิญญาณขันธ์ ทั้งคู่เป็นขันธ์ จึง มีเกิด มีดับ จิตผู้รู้ ไม่เที่ยง
    [ ยังเป็น ขั้นการฝึกแยกขันธ์เป็น5กอง เพื่อศึกษา ยังไม่ได้ขึ้นวิปัสสนา
    จนกว่า จะแยกได้ไม่ไปรวมกันอีก สันตติขาด จึงค่อยว่ากันต่อเรื่อง จิตสิกขา ปัญญาสิกขา ]


    ดังนั้น ไม่ใช่ ระลึกเพื่อไป จับความคิด แบบ ที่สอนแมวจับหนู นั่นไม่พอ
    ยังเป็นการ ยึดมั่นถือมั่นอยู่ ไม่มีการแยกธาตุ แยกขันธ์ มีแต่ อุปทาน
    ว่า จิตเที่ยง ทำลอยหน้าลอยตาดูความคิดบนสะพาน หัวลอยๆ หน้าลอยๆ
    สอนกรรมฐานยังเรียก หาทรัพย์คอสละ สองหมื่น ...ระยะหลัง ลดราคะ
    เหลือ พันห้า แต่ยังมุ่ง Place เป็น สถาณที่ ที่คาดว่า กลุ่มปัญญาชน จะ
    ไปแวะ ยอมจ่ายตังค์ เพราะ ดูดีมีสกุล เขียวGreen เวอร์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2016
  6. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    จิตตานุปัสนาสติ เป็นอย่างไร

    คือความเข้าไปตามดูตามรู้จิต

    ทำไมต้องรู้ทันจิต รู้ทันจิตหมายถึงอะไรหมายความว่าอย่างไร

    ขยายตรงนี้ย่อมหมายถึง การเข้าไปตามรู้ทันการทำงานของจิต เข้าไปตามรู้ธรรมชาติของจิต

    อะไรคือสิ่งที่เรียกว่าการทำงานของจิต หรือสภาพธรรมชาติของจิต

    เพราะการที่เราจะชำระจิตให้ขาวสะอาดรอบ ย่อมหมายถึงการที่เราต้องทราบ รู้ทัน ความเป็นจริงของจิต ของสิ่งที่เราจะชำระ

    ทีนี้การทำงานของจิตหรือสภาพธรรมชาติของจิต มันเป็นอย่างไร นี่คือสิ่งที่ต้องเข้าไปเรียนรู้ตามรู้ การจะชำระจิต หมายถึงการที่เราต้องรู้ว่าสภาพของจิตเป็นอย่างไร มีอะไรที่เราต้องเข้าไปรู้ทันถึงสิ่งที่ต้องชำระ สิ่งที่ต้องชำระของจิตคืออะไร เราเห็นมันหรือยัง
    ตามรู้ทันมันหรือยัง เราบอกว่าเราชำระจิต แท้จริงเรากำลังจะชำระอะไรในความเป็นจิต


    ท่านต้องตีโจยท์เหล่านี้ให้แตกกระจ่างชัด เมื่อนั้นท่านจะรู้ว่าท่านเดินมาถูกทางหรือไม่

    สิ่งที่ต้องชำระคือความปรุงแต่งจิต ความหลงไปยึดมั่นยึดถือของจิต ใช่หรือไม่

    แล้วความนึกคิด ละ คืออะไร มันก็คือสังขารปรุงแต่งจิต แต่มันปรุงแต่งแบบไป มันก็แล้วแต่ชนิดของความนึกคิดเหล่านั้น

    การรู้ทันความรู้สึก นึกคิด รู้ตาม รู้แจ้ง มีส่วนในการชำระจิตหรือไม่ ท่านคงทราบคำตอบดี เพราะ ก็ความนึกคิดมันไปปรุงแต่งจิต ถ้าตามไม่ทันรู้ไม่ทัน จิตท่านไหลไปกับมัน ก่อเกิดทุกข์ไม่ใช่หรือ ถ้าท่านตามรู้ไม่ทัน รู้ไม่จริง ก็อย่าไปหวังว่าท่านจะมีสติ มีปัญญา,ละปล่อยวางลงได้ ไม่มีทางครับ

    ดังนั้น การฝึกจิตตานุปัสสนาสติ จึงเป็นการฝึกจิตเพื่อให้เห็นสัจจธรรมของจิต ของตน เพื่อการเห็นความจริงในการชำระจิตตนว่า มันสกปรกแค่ไหนแบบไหน มันต้องชำระแบบไหนแค่ไหนอย่างไร ของใครก็ของมัน เพราะจิตแต่ละดวง มันมีสิ่งที่สกปรกที่ต้องชำระไม่เท่ากัน

    ดังนั้นมาถึงปลายทางแห่งจิต จิตพุทธะ จิตนิพพาน จิตประภัสสร จิตว่างในนิพพาน สามัญจิต จิตอรหันต์ แล้วแต่จะเรียก แต่มันก็หมายถึงสิ่งเดียวกัน คือความหลุดพ้นจากทุกข์ทั้งปวง ท่านต้องสั่งสมปฏิบัติภาคเพียร เมื่อนั้นท่านจะทราบคำตอบในใจของท่านได้เองครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2016
  7. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ให้ 0 เต็ม 10

    จิต มันเกิดดับ เข้าไปเห็น ตามความเป็นจริงได้ มันจะต้องไป ชำระ อะไร !? ไม่ต้อง [ เห็นได้ชัดๆ กิเลสขาดสะบั้น !!! ]

    แต่ ระหว่างที่ เข้าไปเห็นตามความเป็นจริงไม่ได้ ยังเดาสุ่ม ส่งสวด จิตประภัสสร
    จิตเดิมแท้ ชำระจิต แล้วกลับไปเป็น สภาพเดิม นั่นเขาเอาไว้
    หลอกเด็กให้ หัดเดิน แทนที่จะตายเปล่า ก็ ทำเป็น ละอกุศล ไปงั้นๆ
    จะได้ไม่ตายเปล่า พอมี กุศลไปเกิดใหม่ อีก สักอสงไขย

    พอครบ 1อสงไขย ก็อาจจะ เอ้อ .....สงสัยจะผิดทาง ละ จริงๆ จิตมันไม่เที่ยง
    ให้กำหนดรู้ นับหนึ่ง อริยสัจจ ....และอาจจะนับใหม่ อีก1อสงไขย


    แต่ถ้า ตัวเองไม่มี คุณธรรมใดรองรับ แล้วไป พยากรณ์คนั้น คนนี้ว่าเป็น สงฆ์
    เป็น สกิทาคามี กลับชาติมาเกิด .....คนรับพยากรณ์ กล่าว สาธุ (เชื่อตามนั้นด้วย )

    เอิ่ม จาก ที่ 0 เต็ม 10 ก็เอาไปเลย 299 เต็ม 299 แต่เป็น กระทะร้อน บุฟเฟ่ 299 ไม่อั้น



    ปล. ลิง ในพระไตรปิฏก มีการถกกันระหว่าง พรหมณ์ กับ พระพุทธองค์ เรื่อง ชำระอกุศลไป
    เรื่อยๆ 80 อสงไขย เน้นนะว่า 80 อสงไขย พราหณ์บอกว่า นิพพาน เอง !!

    พระพุทธองค์ตรัสว่า ชำระอะกุศลไปเรื่อยๆ ไปภาวนาต่อบนสวรรคิ์ ก็ปราศจาก มรรคผล เพราะ อยู่โดยประมาท ย่อมมีอุปทาน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 มีนาคม 2016
  8. ยศวดี

    ยศวดี ยายแก่แล้ว*_*

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 เมษายน 2010
    โพสต์:
    4,255
    กระทู้เรื่องเด่น:
    11
    ค่าพลัง:
    +5,796
    พี่หนูมีเพื่อนละ
    น้องนวลปรางค์เขาจะเป็นพระอนาคามีที่สวยที่สุด
    หนูว่าจะเป็นพระอนาคามีที่หล่อที่สุดละกันนะ
    ชอบบบบบบ
     
  9. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    555555 ก็ใจมันเรียกร้องอ่ะ หมั่นไส้ผู้ชายที่หักอกเราทุกคน ปล่อยวางไม่ลงจริงๆ ^_^
     
  10. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ================

    ไม่ต้องมาเล่นคำหรือสำนวน พูดกันแบบตรงๆภาษาง่ายๆเข้าใจง่ายๆ

    คนมีปัญญาย่อมเข้าใจโดยง่าย

    พระพุทธองค์หรือครูอาจารย์ ก็ใช้คำว่า ชำระ จิต

    จิตขาวรอบ ได้เพราะอาศัยการฝึกอบรมบ่มจิต ชำระจิต

    ภาษามันก็เป็นแบบนี้แหละ ชำระ ที่ผมเขียน ท่านคงไปตีความแบบมิจฉาทิฏฐิถึงได้ตีความแบบผิดๆ เพี้ยนๆแล้วมาตำหนิอย่างนั้นอย่างนี้

    นักปฏิบัติเขาฟังเขาก็เข้าใจได้แบบตรงไปตรงมา

    ชำระ แปลว่าอะไร มันมีส่วนเกี่ยวเนื่องอย่างไรกับ การภาวนา ก็แล้วแต่ท่านจะตีความตามภาษาคนที่ไม่เลือกฟังคนอื่น เพราะยึดมั่นในคำของตนในอัตตาของตน

    หลวงปู่มั่นท่านยังสอนให้ชำระจิต แต่ท่านนิวรณ์กลับมีมิจฉาทิฏฐิ ตีความว่า ชำระจิต มันไม่ใช่ทางแห่งการดับทุกข์ ไม่ใช่สิ่งที่จะขัดเกลาจิตให้สะอาดบริสุทธิ์

    ไม่ง่ายหรอกครับท่าน คนที่จะไปนิพพานแบบถาวร เป็น พระอรหันต์มีมากมายอย่างนั้นหรือ ที่ใครก็ทำได้

    แค่เห็นของท่านนิวรณืก็ไปนิพพานถาวร ไม่ต้องไปชำระอะไร มันสอนแบบนี้ผิดเพี้ยนไปมาก

    การชำระ มันชำระด้วยปัญญา อุปกิเลสอย่างละเอียดที่ฝังรากลึกแน่นหนามาหลายภพชาติ แค่เห็นมันก็เห็นยากแล้วยังไม่มีปัญญาอีก ก็อย่าหวังว่าจะหลุดพ้นทุกข์เป็นอรหันต์จิตได้

    ครูอาจารย์สอนให้คิดว่า การชำระจิต

    ชำระอะไร เหตุแห่งการชำระคืออะไร ชำระด้วยอะไร ชำระแล้วอะไรหมดไป ผลแห่งการชำระคืออะไรเป็นอย่างไร เป็นผลที่จะได้รับ

    ผมทิ้งท้ายให้ท่านคิดแค่นี้พอครับ สาธุ


     
  11. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ชำระ

    แก่นแห่ง แห่งการชำระคืออะไร

    แก่นแท้แห่งการชำระ ไม่ใช่เพียงการชำระอกุศลจิต อกุศลกรรมเท่านั้น
    แต่การชำระ แท้จริงย่อมหมายถึง การชำระความปรุงแต่งทั้งปวง ไม่เกี่ยวด้วย อกุศล หรือกุศล ไม่เกี่ยวด้วยทุกข์ด้วยสุข ไม่เกี่ยวด้วย รัก โลภ โกรธ หลง ไม่เกี่ยวด้วยรูป นาม สิ่งใดมีส่วนทำให้ จิต หรือไปปรุงแต่งจิต คือสิ่งที่ต้องชำระทั้งสิ้น


    อันความไม่เที่ยงของจิตมีสภาพเป็นธรรมดา ธรรมดาแล้วยังไงต่อ เราจะปล่อยวาง ความไม่เที่ยงเป็นทุกข์ เป็นธรรมดาเช่นนี้ได้อย่างไร

    ฟังดูเหมือนถามง่ายๆแต่ตอบยากเหลือเกิน นี่คือเหตุผลที่พระพุทธองค์จึงทรงพยายามอย่างหนักให้ปุถุชนได้รับรู้ในพระธรรมในหลักธรรมะ เพื่อจะได้มีดวงตาเห็นธรรม เข้าใจตั้งแต่อริยะสัจจสี่ ไปจนถึง หนทางแห่งการดับทุกข์ เพื่อความหลุดพ้นทุกข์

    ว่าไปบางท่านศึกษาธรรมะมามาก กลับยังแยกไม่ออกว่า หลุดพ้นทุกข์คืออะไร และทุกข์ที่ว่าคืออะไรมันมีความหมายกว้างแค่ไหน ครับ ก็ลองทบทวนสติปัญญาของเราเองดูบ้างครับ สาธุ
     
  12. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ท่านนิวรณ์เก่งปริยัติแหม่งๆค่ะ ไม่เก่งปฏิบัติ ดิฉันรักเจ้าที่จริง ไม่ถูกไม่ควรจริง แต่ก็จะร่วมบุญกันไปนิพพาน ยังไงดิฉันก็ยังสนใจคำสอนของพุทธศาสนาอยู่ .. ที่ไม่ใช่ภาษาวิบัติ
     
  13. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ภาษาไม่ได้วิบัติ

    ภาษาข้อความ มันก็แค่สิ่งสมมุติที่ถูกกำหนดขึ้นมาเพื่อใช้ในการสื่อสารระหว่างกัน เพื่อทำความเข้าใจต่อสิ่งที่จะถ่ายถอดถึงกัน

    ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ภาษา ปัญหาอยู่ที่ ความเชื่อความคิดความรู้ความเข้าใจความเห็นความเข้าถึงจิตที่แท้จริงของตนเองและผู้อื่น ว่าเป็นไปในทางที่ถูกต้องดีงาม หรือเป็นไปในทางที่มิชอบไม่งาม

    คือสิ่งหนึ่งในอริยะมรรค ที่ทุกคนต้องขัดเกลาฝึกฝนให้ดีงาม ครับ สาธุ
     
  14. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ปัญหา มันอยู่ ที่ มีคนกล่าวธรรมผิด แล้วเขาเข้ามา ทำลีลา สะกิด ให้ เอ๊ะ
    แล้วกลับมา ดริฟธรรมะ ไง


    ฮิววววววววววววววววววส์


    วนอยู่แค่นั้นแหละ เพราะ มัวแต่ ชำระจิต ตั้งจิตเที่ยง ไว้ก่อนแล้ว
    ชำระอีกแสนกัปปป ก็ ไม่มี สามัญผล อะไร


    ปล. ถ้าจะ เห็นว่า ผมพุดอะไร ค้านธรรม ลองตีลังกา ทบทวนหน่อยดีไหม
    ว่า ใครเขาจะโชว์โง้วได้โจ่งแจ้งแบบนั้น

    ผิดอย่างโจ่งแจ้งชนิด สนุกเลย โยนคลี่ใส่เลย ฮิวววววส์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2016
  15. นิวรณ์

    นิวรณ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2008
    โพสต์:
    9,051
    ค่าพลัง:
    +3,456
    ที่มา ดริฟ กลับไปทาง อริยสัจจ4

    สังเกตไหมว่า แท้จริง ไม่ใช่เพราะผม หลอก


    แต่เป็นเพราะ สกิทาคามีในพยากรณ์ของท่าน ต่างหากหละ ฮิวววววส์

    ประโยคนี้ ลองเอาไปถาม สกิทาคา แต่งตั้ง ของคุณดู เนาะ ว่า " หากเห็น จิตไม่เที่ยง เพราะว่าไม่เที่ยงจึงเห็น...... "
    ไม่มีหลอก ที่ สกิทาคา คนนั้นเขาจะตอบคุณไม่ได้ว่า "แล้วไงต่อ"

    เพราะถ้าเห็น อริยสัจจ มันไม่มีหลอก จะมาถามว่า แล้วไงต่อ มันปล่อยของมันไปแล้ว !!!

    เว้นแต่ เห็นอริยสัจจด้วยการ ด้น เด้า เดา เอา ตามภาษา ตรรกศาสตร์ พยักหน้าหงึกๆ
    มันก็จะ งง เอ้อ แล้วไงต่อ ซะงั้น

    จริงๆ สกิทาคาแต่งตั้ง ก็ คง งง เหมือนกันว่า แล้วไงต่อ แต่อาจจะดีกว่าหน่อยคือ
    อนุโลมได้มากกว่าด้วยศรัทธาที่ซื่อตรงมากกว่า แต่ลึกๆก็ยังคงมีอยู่ แล้วไงต่อ ไม่งั้น คงไม่กลับมาเกิด
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2016
  16. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
    จิตประภัสสร
    ยังไม่ได้หมายถึง สิ่งเดียวกัน คือ ความหลุดจากทุกข์ทั้งปวงพ้นนะครับ

    อย่าเข้าใจผิด



    ฉะนั้น เรียนปริยัติไว้หน่อยก็ดีครับ
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    =================

    ก็เพราะเรียนปฏิยัติมามาก จึงไม่สามารถสังเคราะห์ความเป็นจริง หรือความสัจจริงได้

    จิตประภัสสร ก็คือจิตมีสภาพนิพพาน เป็นสภาพว่างจากการปรุงแต่ง ซึ่งมันเกิดมีในตัวจิตของมันเองทุกดวงอันเป็นธรรมชาติของมันอย่างหนึ่ง มันเป็นสภาพที่ว่างสะอาดบริสุทธิ์ หลุดพ้นทุกข์ห่างไกลทุกข์ ปราศจากเครื่องปรุงแต่ง นั่นเอง จิตจึงมีสภาพที่เรียกว่าประภัสสร

    โดยสามารถกล่าวขยายความได้ว่า


    จิตปุถุชน ย่อมปรากฏจิตประภัสสรได้ชั่วครั้งชั่วคราว แต่ไม่สามารถประคองเอาไว้ได้

    จิตอรหันต์ คือจิตประภัสสรเป็นนิรันดร์ คือมีสภาพประภัสสรหรืออมฤต หรือประกายพฤต หรือว่าง หรือใสสะอาดบริสุทธิ์ ปราศจากเครื่องปรุงแต่ง ปราศจากทุกข์หลุดพ้นทุกข์เป็นนิรันดร์

    การปฏิบัติธรรมย่อมนำไปสู่ความรู้จริงในทุกมิติ ทุกแง่มุม สามารถวิเคราะห์สังเคราะห์ และรู้ธรรมชาติทั้งหมดของธรรมได้อย่างลึกแคบและกว้างอย่างไม่มีประมาณ ครับ สาธุ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 มีนาคม 2016
  18. บ้องแบ้ว

    บ้องแบ้ว นางฟ้าผู้น่ารัก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 พฤษภาคม 2010
    โพสต์:
    3,293
    กระทู้เรื่องเด่น:
    105
    ค่าพลัง:
    +5,301
    ดิฉันไม่เคยปฏิบัติถึงจิตประภัสสร แต่จิตประภัสสร ยังไม่ใช่นิพพานนะคะ เป็นสภาพของจิตที่อยู่ในฌานที่4
     
  19. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,654
    ค่าพลัง:
    +20,363
    ==============

    ประภัสสร มีกำลังมากกว่าที่คุณเข้าใจ มันสว่างไปทั่วทั้งโลกธาตุ ปัญหาคือ จิตของคุณที่ปฏิบัติอยู่นั้น ไปถึงหรือไม่ ให้ไปหาหนังสือสมเด็จโตอ่าน แล้วจะเข้าใจแล้วลองไปทำดู ความประภัสสร มันมีกำลังมากสว่างกว่าดวงอาทิตย์สว่างไปทั่วหมื่นโลกธาตุ สว่างไม่มีที่สิ้นสุด ครับ สาธุ
     
  20. ยอดคะน้า

    ยอดคะน้า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 มกราคม 2010
    โพสต์:
    947
    ค่าพลัง:
    +710
    เพราะขาดการเรียน เวลาเจออะไร ฮานาก้า มันจะกลายเป็นคลาดเคลื่อนไป


    เจอแสงสว่างในอัปนาสมาธิก็ว่าไปบรรลุธรรม

    บรรลุธรรมแล้ว ก็ยังกลับกลายมาเป็นโพธิสัตว์

    อันนี้อันตรายอยู่ครับ หากไม่ทำความเข้าใจให้ถูกต้อง จะกล่าวอะไร ก้จะกลับกลอก กลับไปกลับมา

    เหมือน คนที่เข้าใจไปผิดว่า
    คนโดนตัดขาขาดไปแล้ว
    แล้ว ขามันงอกขึ้นมาได้ใหม่ยังกะ ปิคโกโร่ตัวเขียว
    ความจริงสัจจธรรม ไม่ใช่การ์ตูน

    ยิ่งบอกว่า
    จิตพระอรหันต์คือจิตปภัสสร ยิ่งแล้วใหญ่ครับ

    สอบยังไงก็สอบตกครับแบบนี้
     

แชร์หน้านี้

Loading...