รบกวนขอวิธีที่จะทำให้โลภะและราคะเบาบางโดยไม่ต้องปลงอสุภะ

พี่ศรีมีปณิธานว่าจะรื้อขนสัตว์อันเป็นพันธกิจที่
ตั้งใจจะปฏิบัติให้ถึงที่สุด เพื่อสร้างสมบารมี
ท่านจึงมีคำตอบให้แก่ทุกคนที่ติดขัด อย่างไม่รู้เบื่อหน่าย

 

รอบนี้หนูว่า หนูเล็งอรหัตตผลไปเลยดีกว่า จะได้จบคอร์ส ไม่เอาละอนาคามี ดีมั้ย?

 

ลุงไม่เลี้ยงแมวอ่านโพสต์ของพี่ศรีบ่อยอยู่ฮะ
ไม่เคยเจอโพสต์ใดที่ให้ความรู้สึกว่าแปร
ปรวนหรือขวัดแขว่งจนทำให้ไม่อยากติดตาม
แม้ว่าจะเป็นการโพสต์ตอบโต้ต่างๆ ก็สมควรแก่เหตุเสมอ

 

บางทีการพูดอะไรตรงๆ ก้อดีกว่าการหลอกด่าคนอื่นรึเปล่าคะ? ดิฉันไม่รู้นะว่าผู้ชายแบบไหนเป็นยังไง เพราะดิฉันเองก้อไม่ใช่สาวกที่ดีอะไรมากมาย

 

ถ้าใครติดตามงานของครูอ้อย หรือมีความรู้ด้านจิตวิทยาพอสมควร จะเข้าใจคำว่า ความขัดแย้งภายใน .. การที่คนเราจะตัดสินใจทำอะไรสักอย่างโดยเฉพาะเป้าหมายสำคัญ ขึ้นอยู่กับว่าภายในจิตใจของเราตกลงกันได้รึยัง เช่น อยากหลุดพ้น แต่ใจลึกๆอยากมีสามี มันไม่ไปด้วยกันอยู่แล้ว เราต้องใช้เวลาในการคุยกับตัวเองให้จบว่า ควรจัดการกับความขัดแย้งอย่างไร

จขกท.เทียบคุณศรีไม่ได้หรอกค่ะ คุณกล้วยแมว เพราะจขกท.ยังโลเลอยู่มาก

 

แนะนำว่า

การเลือกเฟ้น ธรรม
หมวดคำสอนวิธีทำในการหลุดพ้น

หากจะเลือกเป็นอันดับแรก
ควรเลือกเฟ้นจากพระสงฆ์ ผู้สอนจากพระไตรปิฏก
และเป็นพระสงฆ์ผู้มุ่งปฏิบัติจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นสายไหนที่ท่านแนะนำตรงกับ

ธรรมเหล่าใดเป็นไป
๑. เพื่อความคลายหายติด
๒. เพื่อความไม่ประกอบทุกข์
๓. เพื่อความไม่พอกพูนกิเลส
๔. เพื่อความมักน้อย
๕. เพื่อความสันโดษ
๖. เพื่อความสงัด
๗. เพื่อการประกอบความเพียร
๘. เพื่อความเลี้ยงง่าย,
ธรรมเหล่านี้พึงรู้ว่า เป็นธรรม เป็นวินัย เป็นสัตถุศาสน์

เราจะได้ หลักการ ที่ถูกต้อง
เหลืออย่างเดียว ลงมือทำ

 

คงต้องฟังลพ.พุธเยอะๆแล้ว มีคืนนึงคิดไม่ตกคิดไม่หยุด ก้อทำตามลพ.บอกในยูทูบ ใช้ปัญญาอบรมสมาธิจนเกิดปิติ ตั้งแต่ตี1ถึงประมาณตี3

 

แสดงว่าคุณนวลปราง เคยมีแฟนเป็นจิตวิญญาณหรือไง...งง

เมื่อคิดถึงผลสุดท้ายแล้ว ทุกคนก็ต้องตายเหมือนกันหมด
ถึงมีแฟนเป็นมนุษย์ วันหนึ่งก็ต้องตายเป็นวิญญาณอยู่ดี
ฉะนั้นเพื่อตัดปัญหา ก็ควรมีแฟนเป็นจิตวิญญาณเสียเลยทีเดียว
กินง่ายอยู่ง่าย ไม่มีปัญหาในการเลี้ยงดู
แค่เครื่องเซ่น กับน้ำแดงหนึ่งขวดก็ใช้ได้

 

ปัจจุบันนี้คบกับเจ้าที่อยู่ค่ะ เป็นความรักต้องห้าม

 

วิญญาณที่ยังมีกิเลสและมารักกับมนุษย์ก็คงไม่ต่างกับมนุษย์
เมื่อยามรักก็คงจะดี แต่เมื่อยามเกิดความหึงหวง ก็คงไม่ต่างอะไรกับปีศาจร้าย
หากวันหนึ่ง เราเกิดไปรักคนอื่น หรือสิ้นรักเขา ก็จะกลายเป็นวิญญาณ
ที่ติดตามมาหึงหวง แสดงความเป็นเจ้าเข้าเจ้าของเรา คล้ายกับเรื่องราว
ของแม่นากกับพ่อมาก หากความหึงหวงมันมีมากๆขึ้น หากเห็นว่าปล่อยให้
เป็นมนุษย์ต่อไปก็อาจหนีไปมีคนอื่นได้ ก็อาจจะเอาวิญญาณไปอยู่ด้วยซะเลย
(ไม่ทราบเคยอ่านนิยายเพชรพระอุมาตอน จิตรางคณางค์ไหม ความรักของ
วิญญาณไอ้ผีดิบมันตรัย กับ เจ้าหญิงจิตรางคณางค์)

 

ถึงยังมีความปรารถนาการมีคู่ครองหรือคนรู้ใจ ก็ยังเจริญสติและภาวนาได้ อย่าถึงแก่ไม่ยอมเจริญสติ ได้ชื่อว่า ขาดสติแล้ว ทางโลกก็พัง ทางนิพพานก็ห่างไกล นะครับ จะเสียหายไม่ได้สักทางหนึ่ง แต่หากเจริญสติตามกำลังที่มีอยู่ ความสำเร็จทางโลกก็มี ทางนิพพานก็ใกล้เข้ามาได้

การอกหักและยังทำใจไม่ได้ ก็เหมือนกองขยะในจิต เป็นสิ่งที่เป็นปมด้อยและเปิดโอกาสให้วิบากกรรมบางอย่างมาให้ผลแก่เราได้ แต่หากทำกรรมฐานภาวนาเสีย สละทิ้งไปจากใจเสีย ไม่อาลัยในอดีต ไม่พะวงอนาคต อยู่กับปัจจุบัน ก็ได้ชื่อว่า เจริญสติแล้ว

จิตที่ดีและเป็นกุศลย่อมนำสุข ความเจริญมาให้ เมื่อทราบว่าความอาลัยอาวรณ์เศร้าหมอง พะว้าพะวง เป็นอกุศลแก่จิต ก็พึ่งละทิ้งจากใจเสีย

พึงทำจิตให้มีพลังกุศล ถ้าจะให้ผลเห็นทันตา สละความลังเล เข้าวัดถือศีล ๘ มีจิตมุ่งมัั่นทำกรรมฐานตลอดทั้งกลางวันและกลางคืน ถ้าถือได้สัก ๗ วัน จะยิ่งดี บุญราศีจะจับดวงหน้า หากอธิษฐานจิตก็จะได้คู่ครองหรือคนใกล้ชิดที่มีบุญบารมี แต่หากปล่อยจิตให้ถูกนิวรณ์ครอบงำ อุปกิเลสครอบงำมาก จิตขาดประกาย ดวงหน้าก็ปราศจากราศี หากมีวิบากกรรมให้ผล คนคู่ครองหรือคนรู้ใจก็ได้แค่คนพาล คนบาป เท่านั้น ดังนั้น ทำกรรมปัจจุบัน ปิดทางวิบากกรรมเก่า ให้เป็นอโหสิกรรมไปเสีย

ดังเรื่องที่เล่าในพระไตรปิฎก มีสตรีทาสนางหนึ่งถวายผ้าอาบน้ำฝน ด้วยจิตใจที่มีปัญญาเพราะเห็นโทษภัยแห่งสังสารวัฏ และการไม่ทำกุศลมาในกาลก่อน นางมีกำลังใจเต็มถวายผ้าอาบน้ำฝน นางอธิษฐานขอให้อย่าได้ยากจนและให้ถึงนิพพาน (ชะรอยไปถวายกับพระอริยะเจ้าที่ออกจากสมาบัติ) ภายใน ๗ วัน นางทาสีได้สามีเป็นพระราชา และผลบุญนั้นจะเป็นปัจจัยให้ถึงนิพพานในภายหน้า(ภายหลังก็น่าจะได้นิพพาน) ก็ถ้านางไม่ทำกุศล มีความแน่วแน่ในนิพพาน นางก็จักไม่ได้สามีเป็นพระราชา ก็จักยากจนอยู่อย่างนั้น

แต่ถ้าไม่ว่างไปถือศีลอุโบสถ ก็ปฏิบัติตน ด้วยการภาวนากับปัจจุบัน ถือเนกขัมมะโดยเข้าอารมณ์ปฐมฌาณ ทรงอารมณ์จิตอย่างนั้นก็ได้ พยายามทรงอารมณ์อย่างนั้นตลอดทั้งวัน ถ้าทรงตัวได้สัก ๗ วัน ก็ค่อยอธิษฐานเอา แล้วก็ทำไปเรืื่่อย ๆ แต่อยากให้ทำที่วัด เพราะตารางกรรมฐานที่วัดบังคับตัวเราได้ดีกว่าเราจะบังคับตัวเองในขณะนี้(เพราะท่านบอกว่า โลเล)

เอาแค่นี้ก่อนครับ เอาแค่สงบระงับนิวรณ์และอุปกิเลสก่อน เพราะถ้าต้องการให้กิเลสเบาบางอย่างที่ต้องการตามหัวข้อกระทู้ ต้องภาวนามากกว่านี้ ต้องได้ระดับพระโสดาปัตติมรรค ต้องมุ่งมั่นพระนิพพานแบบตายเป็นตายในชาตินี้กันแล้วครับ ต้องแสดงความมุ่งมั่นมากกว่านี้ครับ

เท่าที่ทราบว่า เคยได้ฟังมาว่าญาติโยมที่ไปถือศีลอุโบสถทุกวันพระ หรือที่อยู่วัดเป็นประจำ สามวันบ้าง ห้าวันบ้าง เจ็ดวันบ้าง บ่อยๆ เฉียดระดับพระโสดาปัตติมรรคกันมาก พระท่านต้องคอยตักเตือนให้ไม่ประมาท เพื่อจะได้ไม่เสื่อมถอยจากพระโสดาปัตติมรรค จะได้ไปถึงพระโสดาบันเสียที

ปล. ไม่ต้องโลเล ให้เด็ดขาดในพระนิพพานไปเลย เพราะยังไง เท่าที่อ่านตามพระไตรปิฎกมา ขนาดตั้งใจขอนิพพานกันแต่กว่าจะนิพพานจริงนี้เป็นเวลานานโขอยู่แล้ว

 

แต่ว่า ตราบใดที่ยังคบเจ้าที่อยู่ ตราบนั้นท่านคงไม่มีคู่ครองเป็นมนุษย์ล่ะครับ

เคยมีพระท่านแถวบางระจันท่านมาสอนกรรมฐานที่ทำงาน ท่านเคยบอกแก่ญาติโยมที่มีปัญหาไม่มีคู่ครองเพราะมีวิญญาณ(ผี เทวดา) ตามติดอยู่ ท่านบอกว่าท่านจะสอนและบอกวิธีแก้ได้ ที่ฟังๆ ก็แนวว่าให้อธิษฐานให้สละกันและกันเสีย

คงต้องทำบุญกุศลใหญ่อุทิศกุศลให้ แล้วขมาลาโทษกัน แล้วขอถอนคำอธิษฐานครับ

แต่ถ้า ท่านนวลปราง ทำได้ถึงปฐมฌาณท่านสามารถตัดเองได้

 

ผมจะเล่าอะไรบางอย่าง
ผมได้สนทนาธรรมกับพระป่า
แล้วท่านสรุป ถ้าจบกิจแล้ว
มีเมียได้สักสิบคนอาตมาจะขอมีสักสิบคน
อันนี้ เล่าธรรมภายในระหว่างหลวงตามหาบัว
กับเราท่านเมตตาเรามาก ท่านแสดงเป็นนัยยะ
ว่าถ้าพระอรหันต์มีเมียได้ หลวงตาก็จะเอาเหมือนกัน
แต่ยุคสมัยที่หลวงตาภาวนาพระอรหันต์มีเมียไม่ได้
แล้วท่านก็ชื่นชมว่าของเราง่ายกว่าหลวงตามาก
ข้อความสื่อสารทางโทรจิต
อีเคสหนึ่งขอพรหลวงปู่เทศก์ ต่อมาคุณแม่ได้ชักชวนไปหาหลวงพ่อฤาษีลิงขาว ได้พบหลวงพ่อฤาษีลิงขาว
ไปขอพรท่านว่าตัวเองจะเอ็นติดไหม
หลวงพ่อฤาษีลิงขาว ท่านก็ย้ำว่าเอ็งเอ็นติด
ปรากฏเอ็นติดจริง ๆ ติดเทคนิคการแพทย์ แต่เรื่องที่จะไปจริง ๆคือ อาสามีไปติดผู้หญิง แล้วให้หลวงพ่อฤาษีลิงขาวเรียกสามีกลับมา ท่านก็เรียกมาได้จริงเท่านั้นวันที่ท่านถามว่าจะให้กลับมาภายในกี่วัน ท่านก็ทำได้
และท่านก็เป็นพระมีเมีย แต่ก็ไม่รู้คุณธรรมระดับไหม เพราะผมยังน้อยอยู่ ชาวบ้านเค้าก็รู้กันทั้งหมู่บ้านว่า
ท่านเป็นพระมีเมีย ท่านช่วยวัดที่ยากจนสร้างเมนเผาศพหาเตาเผาศพผม ได้ใกล้ชิดพูดคุยถามท่านลึกๆแล้วหลวงพ่อฤาษีลิงขาวเป็นพระที่ใจดี
ชอบช่วยชาวบ้านเวลาใครมีความทุกข์ก็มาหาท่าน
ท่านก็เมตตาเป็นคนคนไป มีผู้หญิงคนที่มาถามท่าน
หลวงพ่อหนูจะสอบติดพยาบาลไหมคะ ท่านก็ว่าติด
แต่ให้ช่วยจับผ้าจีวรกางออกให้หลวงพ่อก่อนผมกับ
แม่หญิงก็จับชายจีวรคนละข้างให้กางออก แล้วหลวง
พ่อฤาษีลิงขาวท่าน ก็พูดด้วยเสียงที่ดังฟังชัดเจน
เอ็งสองคนติดทั้งสองคน ถ้าเอ็งสองคนสอบไม่ติด
ให้เอ็งสองคนเอามีดมาฟันคอหลวงพ่อได้เลย ผมก็ก้มลงกราบลาท่านด้วยความเลื่อมใสศรัทธารักในองค์ท่านหลวงปู่ฤาษีลิงขาว

 

หากรรมฐานสักข้อที่พอทำได้ มันก็เบาบางลงเอง

 

แปลว่าคุณธรรมขั้นสูง ไม่ได้ขึ้นต่อการมีเมีย หรือไม่มีเมีย
แต่ถ้าจะมีต้องมีหลังจากบรรลุธรรมขั้นสูงสุดไปแล้ว
เข้าใจอย่างนี้ถูกไหมฮะ

 

แสดงว่ากรณีของหนูก็ต้องมีนัยยะเหมือนกัน เพราะในความฝันมักเป็นลางว่า ให้หนูร่วมบุญกับเจ้าที่ ให้คบกันไปด้วยและปฏิบัติธรรมไปด้วย หนูยังมีน้องๆกุมารที่มาช่วยหนูด้วย คือ หนูต้องปฏิบัติเพื่อละกิเลส แต่ในใจลึกๆอยากมีสามีกับลูกมาก พวกเค้าเลยมาช่วยกันทำให้หนูไปต่อได้ อันนี้ความคิดหนูนะ คุณพ่อก็บอกว่าน้องกุมารที่ลงมาอยู่ด้วย ไม่ใช่สัมภเวสี คือหนูคิดนะ ว่าถ้าหนูจบกิจคนเดียวหนูก็ทำได้ แต่หนูอยากมีครอบครัวไปกับหนูด้วย ไม่รู้สินะ มันทำให้ชีวิตมีความหมายมากขึ้น มากกว่าจบกิจคนเดียว แต่แปลกมากที่หนูไม่เจอเนื้อคู่เลย แต่ครูบาอาจารย์ที่หนูรู้จักทั้งพระป่าและพระบ้าน ท่านเก่งๆทั้งนั้น คือพร้อมช่วยสั่งสอนหนูเต็มที่ เหมือนกับว่าโชคชะตาต้องการให้เรามาทางนี้ ไม่ใช่แค่มีครอบครัวแล้วอยู่แบบโลกๆ ขนาดงาน หนูยังหางานตรงใจไม่ได้เลย เพราะชอบอิสระ ปัจจุบันขายข้าวแกงกับแม่ ก็ขี้เกียจบ้างเหมือนกัน คือเป็นคนไม่ชอบอยู่นิ่ง ไม่ชอบซ้ำซากจำเจ เคยมีคนมองว่าหนูทำอะไรก็ไม่ได้ เพราะมาสูง คุณพ่อแท้ๆของหนูมีองค์รักษาเยอะมาก และมักลงมาเพื่อตักเตือนสั่งสอนหนูโดยเฉพาะเลย

 

มันมีแต่นัยยะของกิเลสอ้างล้วนๆ
กิเลสอ้างมันจะปลิ้นปล้อน กะร่อน ตอแหลเก่งมาก
ปลาไหลไม่เป็นสอง
อะไรที่พูดแล้วจะเข้าทางแอบอ้าง กิเลสมันทำได้หมด

พิจารณาให้ดี อยู่กับปัจจุบัน

สติ เท่านั้นจะรักษาได้

อะไรที่มันผิดแปลกแหวกแนว ในทางคำสอนพระพุทธเจ้า
หากหวังความก้าวหน้า ช่วยเหลือผู้ที่เกี่ยวข้องได้จริง
ต้อนโยนทิ้งให้หมด ไม่งั้นแล้ว

เจตนาที่ตั้งไว้ มันจะเป็นเพียงพูดหล่อๆไปวันๆ

ตายเปล่าอีกละ

 

ต้องมีศรัทธาที่แท้จริง จะยกมากี่คำพูดก็ไม่ช้วยอะไรหรอก ศรัทธายิ่งแรง กำลังใจที่จะทำยิ่งเยอะตาม ศรัทธาอ่อนพลังใจก็ไม่มี ใจไม่แข็งฝ่าพันกิเลสก็ยากศรัทธานี้แหละคือพลัง บางคนถึงขนาดยอมทิ้งทุกอย่างเพราะศรัทธาอย่างเดียว

 

ก้อมีเหตุผลนะ ยิ่งศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา ยิ่งดีมาก เราว่านะ

 

ฟันธง นี่แหละท่านจะเป็นการนำมวลมนุษยชาติ
เข้าสู่ยุคทอง